ค่มู ือแผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 1
คมู่ ือแผนเผชญิ เหตุโรงเรียนบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 2 บทที่ 1 บทนา สถานการณโ์ รคโควิด 19 ท่ัวโลก รายงานสถานการณผ์ ู้ปุวยตดิ เช้ือยนื ยนั โรคโควิด 19 (COVID-19) ท่ัวโลก 218 ประเทศ ประจาวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 มีการแพร่ระบาดรุนแรงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเน่ืองแพร่กระจายไปยังหลายประเทศโดยเฉพาะใน สหรัฐอเมรกิ า อนิ เดีย ยุโรป รวมถึงเอเชีย เร่ิมมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ระลอก 3 ขยายวงกว้างมากขึ้น ปัจจุบัน มีผู้ปุวยติดเช้ือยืนยันสะสม จานวน 191,220,126 ราย เสียชีวิต 4,105,743 ราย อาการรุนแรง 80,545 ราย ประเทศท่มี ผี ู้ปวุ ยตดิ เชอื้ ยืนยนั สะสมมากท่ีสุด ไดแ้ ก่ อนั ดบั 1 สหรัฐอเมริกา พบผู้ติดเชือ้ 34,963,907 ราย เสียชวี ติ 624,746 ราย อันดบั 2 อินเดยี พบผู้ตดิ เชอ้ื 31,143,595 ราย เสยี ชวี ติ 414,141 ราย และอนั ดบั 3 บราซิล พบผูต้ ิดเช้ือ 19,376,574 ราย เสยี ชีวติ 542,262 ราย ส่วนประเทศไทย ลาดับท่ี 54 ของโลก พบผตู้ ิดเชื้อ 415,170 ราย เสยี ชวี ิต 3,422 ราย ทมี่ า : https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/situation/situation-no240-
คูม่ ือแผนเผชิญเหตโุ รงเรียนบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 3 รายงานสถานการณ์ผู้ปุวยติดเชื้อยืนยันโรคโควิด 19 (COVID-19) ประเทศในทวีปเอเชีย พบผู้ปุวยอย่าง ต่อเนื่อง ได้แก่ ประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ ปากีสถาน มาเลเซีย ญี่ปุน และประเทศไทย ตามลาดับ อนั ดับที่ 1 อินเดีย พบผตู้ ิดเช้อื 31,143,595 ราย เสยี ชีวิต 414,141 ราย อับดบั ท่ี 2 อนิ โดนีเซีย พบผตู้ ิดเชอื้ 2,877,476 ราย เสียชวี ิต 73,582 ราย อันดบั ท่ี 3 ฟลิ ิปปนิ ส์ พบผ้ตู ิดเชื้อ 1,507,755 ราย เสยี ชีวิต 26,714 ราย อันดับที่ 4 บงั กลาเทศ พบผ้ตู ดิ เช้อื 1,103,989 ราย เสียชวี ติ 17,894 ราย อนั ดับท่ี 5 ปากีสถาน พบผูต้ ดิ เช้อื 989,275 ราย เสยี ชวี ิต 22,781 ราย อนั ดบั ท่ี 6 มาเลเซีย พบผู้ตดิ เชอ้ื 916,561ราย เสียชีวิต 7,019 ราย อันดบั ท่ี 7 ญ่ีปุน พบผตู้ ดิ เช้ือ 838,432 ราย เสยี ชีวิต 15,040 ราย อันดบั ท่ี 8 ประเทศไทย พบผู้ติดเช้อื 415,170 ราย เสยี ชีวติ 3,422 ราย สถานการณโ์ รคโควดิ 19 ในประเทศไทย
คมู่ อื แผนเผชญิ เหตโุ รงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวิทยา ๓ 4 ประกาศจาก ศูนย์บริหารสถานการณโ์ ควดิ -19 (ศบค.) ถงึ สถานการณ์ โควิด-19 ในประเทศไทย ยอดผูต้ ดิ เช้อื COVID-19 ประจาวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 โดยมรี ายงานสถานการณ์ ดงั ตอ่ ไปนี้
ค่มู ือแผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 5
ค่มู ือแผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 6
คมู่ ือแผนเผชิญเหตโุ รงเรียนบรรหารแจ่มใสวทิ ยา ๓ 7 รายงานสถานการณผ์ ู้ปุวยตดิ เชอื้ ยืนยันโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 มีผู้ปุวย ตดิ เชือ้ ยืนยนั สะสม จานวน 386,307 ราย เสยี ชีวิต 3,328 ราย จังหวดั ทมี่ ผี ปู้ วุ ยตดิ เชอื้ ยืนยนั สะสมมากทส่ี ุด ไดแ้ ก่ อันดบั 1 กรุงเทพมหานคร พบผตู้ ดิ เชื้อ 2,134 ราย ยอดสะสม 114,923 ราย อันดบั 2 สมทุ รสาคร พบผู้ติดเชอ้ื 765 ราย ยอดสะสม 17,762 ราย อนั ดบั 3 ชลบุรี พบผูต้ ดิ เชือ้ 615 ราย ยอดสะสม 15,988 ราย อนั ดบั 4 สระบรุ ี พบผู้ตดิ เช้ือ 494 ราย ยอดสะสม 4,048 ราย อันดับ 5 ปทมุ ธานี พบผู้ตดิ เช้ือ 485 ราย ยอดสะสม 15,274 ราย อนั ดบั 6 พระนครศรีอยธุ ยา พบผูต้ ดิ เชอ้ื 484 ราย ยอดสะสม 4,954 ราย อันดับ 7 สมุทรปราการ พบผู้ตดิ เช้อื 483 ราย ยอดสะสม 27,703 ราย อันดบั 8 นนทบุรี พบผ้ตู ดิ เชื้อ 381 ราย ยอดสะสม 17,370 ราย อันดับ 9 ปตั ตานี พบผ้ตู ิดเชื้อ 296 ราย ยอดสะสม 5,985 ราย อันดบั 10 ตาก พบผู้ตดิ เชอื้ 267 ราย ยอดสะสม 2,346 ราย จังหวัดสพุ รรณบรุ ี พบผู้ติดเชื้อ 101 ราย ยอดรวม 2,052 ราย เสียชวี ติ 25 ราย
ค่มู ือแผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 8
ค่มู ือแผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 9
ค่มู ือแผนเผชญิ เหตุโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวทิ ยา ๓ 10
ค่มู ือแผนเผชญิ เหตุโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวทิ ยา ๓ 11
ค่มู ือแผนเผชญิ เหตุโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวทิ ยา ๓ 12
คมู่ อื แผนเผชิญเหตุโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวทิ ยา ๓ 13 สถานการณ์โรคโควิด 19 ในเด็ก วันที่ 1 ก.ค.64 ที่ผ่านมา มีการติดเชื้อโควิด-19 ภายใน ศูนย์พัฒนาเด็กศรีสุข อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น หรือท่ี เรียกกันว่าการระบาด คลัสเตอร์ฟันน้านม จ.ขอนแก่น ซึ่งมีเด็กจานวน 34 คน และครูอีก 8 คน และได้เข้ารักษาตัว โดยนักเรียน 11 คน และครู 2 คน เข้ารักษาตัวที่ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น ส่วนเด็กอีก 23 คน และครู 6 คน รักษาตัวทรี่ พ.ขอนแกน่ ซง่ึ ผลตรวจเบ้ืองตน้ ของศนู ย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ี่ 7 ขอนแก่น พบว่าเป็นเช้ือโควิดสายพันธุ์ อังกฤษ
ค่มู อื แผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 14 บทท่ี 2 มารู้จักโควดิ 2019 (COVID-19) ประวัตคิ วามเปน็ มาของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื โรคโควิด 19 (Coronavirus Disesse 2019 (COVID-19)) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ (2563, น.1) ได้กล่าวว่าโรคโควดิ คือ โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 (Coronavirus Disesse 2019 (COVID-19)) เป็นตระกูลของไวรัสที่ก่อให้อาการปุวย ต้ังแต่โรคไข้หวัด ธรรมดาไปจนถึง โรคท่ีมคี วามรุนแรมาก เชน่ โรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-COV) โรคระบบทางเดิน หายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-COV) เป็นสายพันธ์ุใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อนใน มนุษย์ ก่อให้เกิดอาการปุวยระบบ ทางเดนิ หายใจในคนและสามารถแพร่เชือ้ จากคนสู่คนได้ โดยเชื้อไวรัสนี้พบการระบาดคร้ังแรกในเมืองฮ่ัน มณฑลหูเปุย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงปลายปี 2019 หลังจกน้ันได้มีกร ระบาดไปทัว่ โลก องค์การอนามัยโลกจึงต้ังชื่อการติด เช้อื ไวรัสโคโรนาสายพันธใุ์ หม่นี้วา่ โรคโควดิ 19 ซ่ึงอาการทั่วไปของผ้ปู ุวย พบวา่ มีอาการระบบทางเดินหายใจ มีไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหน่ือย หอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก อาจทาให้เกิด ภาวะแทรกซอ้ น เช่น ปอดบวม ปอดอกั เสบ ไตวาย หรืออาจเสยี ชวี ิต โรคโควิด 19 การแพร่กระจายเชื้อพบว่าโรคชนิด นม้ี ีความเปน็ ไปได้ที่มีสตั วเ์ ป็นแหล่งรวมโรค ส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อผ่านละอองเสมหะ การไอ น้ามูก น้าลาย ปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนการแพร่กระจายเชื้อผ่านทางการพ้ืนผิวสัมผัสท่ีมีไวรัสแล้วมาสัมผัส ปาก จมูกและตา สามารถแพร่เช้ือผ่านทางเช้ือท่ีถูกขับถ่ายออกมากับอุจจาระเข้าสู่อีกคนหน่ึงโดยผ่านเข้าทางปาก (Feco-oral route) ไดด้ ้วย การรกั ษาพบว่ายงั ไม่มียาสาหรบั ปูองกันหรือรกั ษาโคโควิด 19 ผทู้ ี่ติดเชื้ออาจต้องได้รับการ รักษาแบบประคับประคองตามอาการ โดยอาการท่ีมีแตกต่างกัน บางคนรุนแรงไม่มากลักษณะเหมือนไข้หวัดท่ัวไป บางคนรุนแรงมาก ทาให้เกิดปอดอักเสบได้ ต้องสังเกตอาการใกล้ชิดร่วมกับการรักษาด้วยการประดับ ประคองอาการ จนกว่าจะพ้นอาการช่วงนั้นและยังไม่มียาตัวใดที่มีหลักฐานชัดเจนว่า รักษาโรคโควิด 19 ได้ โดยตรง กลุ่มเส่ียงโดย ตรงท่ีอาจสัมผสั กับเช้อื ได้แก่ ผู้ที่เพิ่งกลับจากพื้นที่เสี่ยง สัมผัสใกล้ชิดผู้ปุวยสงสัยติดเชื้อ กลุ่มเส่ียงที่ต้องระวัง หากติด เช้อื อาจมอี าการรุนแรง ไดแ้ กผ่ ้สู งู อายุ 70 ปีข้ึนไป ผู้ปุวยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ ภมู แิ พ้ เด็กเลก็ อายุตา่ กวา่ 5 ปี ศูนยก์ ารแพทย์กาญจนาภเิ ษก (2563) ได้กลา่ วถงึ วิธีปอู งกันการตดิ เช้ือไวรัสโคโรนาสายพันธใ์ุ หม่ ดงั น้ี 1. หลีกเลย่ี งการใกลช้ ดิ กบั ผู้ปุวยที่มีอาการไอ จาม น้ามูกไหล เหนือ่ ยหอบ เจ็บคอ 2. หลกี เลย่ี งการเดินทางไปในพนื้ ทเี่ สีย่ ง 3. สวมหน้ากากอนามยั ทุกครั้งเมอื่ อย่ใู นที่สาธารณะ
คู่มือแผนเผชิญเหตโุ รงเรียนบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 15 4. ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และอาจมีเช้ือโรคเกาะอยู่ รวมถึงส่ิงที่มีคนจับบ่อยคร้ัง เช่น ท่ีจับ บน BTS, MRT, Airport Link ท่ีเปดิ -ปดิ ประตูในรถ กลอนประตตู ่าง ๆ ก๊อกน้า ราวบันได ฯลฯ เมื่อจับ แล้วอย่า เอามือสัมผัสหน้า และข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า ฯลฯ ล้างมือให้สม่าเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอลเ์ จลอย่างนอ้ ย 20 วินาที ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไมต่ ่ากว่า 70% (ไมผ่ สมนา้ ) 5. งดจบั ตา จมูก ปาก ขณะท่ีไม่ไดล้ ้างมือ 6. หลกี เลย่ี งการใกลช้ ิด สมั ผสั สัตวต์ ่าง ๆ โดยที่ไมม่ ีการปอู งกนั 7. รับประทานอาหารสกุ สะอาด ไมท่ านอาหารท่ีทาจากสัตว์หายาก 8. สาหรบั บุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ท่ตี ้องดแู ลผ้ปู วุ ยที่ติดเชอื้ ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใุ หม่ หรอื โควิด-19 โดยตรง ควรใสห่ นา้ กากอนามัย หรือใสแ่ ว่นตานริ ภยั เพอ่ื ปูองกนั เชื้อในละอองฝอยจากเสมหะหรือ สารคัดหล่ังเขา้ ตา
คมู่ ือแผนเผชญิ เหตโุ รงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 16 ต้นกาเนดิ ไวรัส ต้นตอของไวรัส น่าจะมาจากการท่ีไวรสั จากสตั ว์ตัวกลางระบาดมาสู่คน ผ้ปู วุ ยรายแรกเทา่ ที่ทราบกนั เร่ิมมี อาการต้ังแตว่ ันที่ 1 ธนั วาคม และไมม่ คี วามเชื่อมโยงกับตลาดตอ้ งสงสยั ในเมอื งอู่ฮ่นั ประเทศจีน แต่ผู้ปวุ ยหลายราย อาจมมี าต้งั แตช่ ว่ งกลางเดือนพฤศจิกายนหรอื ก่อนหน้าน้นั มีการเกบ็ ตวั อย่างจากสง่ิ แวดลอ้ มในตลาดไปสง่ ตรวจและ พบเชื้อไวรัส และพบมากที่สดุ ในบริเวณท่ีค้าสัตวป์ ุาและสัตวเ์ ล้ียงในฟารม์ ตลาดอาจเป็นตน้ กาเนิดของไวรสั หรอื อาจมี บทบาทในการขยายวงของการระบาดในระยะเร่ิมแรก ไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 คอื อะไร ? ไวรัสโคโรนา (Coronavirus) เป็นไวรัสที่ถูกพบคร้ังแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่า มาจากท่ีใด แต่เป็นไวรัสท่ีสามารถติดเช้ือได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์น้ีแล้วท้ังหมด 6 สายพันธ์ุ ส่วนสายพันธุ์ท่ีกาลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนน้ี เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ท่ี 7 จึงถกู เรยี กวา่ เป็น “ไวรสั โคโรนาสายพันธ์ุใหม”่ และในภายหลังถูกตงั้ ช่อื อย่างเปน็ ทางการว่า “โควิด-19” (COVID-19) น่ันเอง อาการเม่ือติดเชอื้ ไวรสั โคโรนาสายพนั ธใุ์ หม่ หรือไวรัสโควดิ -19 ท่ีสงั เกตได้งา่ ย ๆ ดว้ ยตวั เอง ดังนี้ 1. มไี ข้ 2. เจบ็ คอ 3. ไอแห้ง ๆ 4. น้ามกู ไหล 5. หายใจเหนื่อยหอบ
คู่มือแผนเผชิญเหตุโรงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวิทยา ๓ 17 กล่มุ เสย่ี งติดเช้อื ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใุ หม่ หรอื โควิด-19 เดก็ เล็ก (แตอ่ าจไม่พบอาการรนุ แรงเท่าผู้สูงอาย)ุ ผู้สงู อายุ คนท่ีมีโรคประจาตัวอยู่แล้ว เชน่ โรคหวั ใจ เบาหวาน โรคปอดเร้ือรงั คนที่ภมู ิคุ้มกนั ผิดปกติ หรอื กินยากดภมู ติ ้านทานโรคอยู่ คนทมี่ นี ้าหนกั เกนิ มาตรฐานมาก (คนอ้วนมาก) ผู้ท่ีเดนิ ทางไปในประเทศเส่ียงติดเชื้อ เช่น จนี เกาหลีใต้ ญี่ปนุ ไต้หวนั ฮ่องกง มาเกา๊ สิงคโปร์ มาเลเซยี เวียดนาม อติ าลี อหิ ร่าน ฯลฯ ผทู้ ตี่ ้องทางาน หรือรักษาผ้ปู ุวย ติดเช้อื ไวรสั โคโรนาสายพนั ธใุ์ หม่ หรือโควิด-19 อย่างใกลช้ ดิ ผทู้ ่ีทาอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจานวนมาก เชน่ คนขบั แท็กซ่ี เจา้ หน้าทใ่ี นโรงพยาบาล ลกู เรอื สายการบนิ ต่าง ๆ เป็นต้น หากมีอาการโควิด 19 ควรทาอยา่ งไร ? หากมีอาการของโรคทีเ่ กดิ ข้ึนตาม 5 ขอ้ ดงั กล่าว ควรพบแพทย์เพื่อทาการตรวจอย่างละเอียด และเมื่อแพทย์ซักถาม ควรตอบตามความเปน็ จริง ไม่ปดิ บัง ไม่บดิ เบือนข้อมูลใด ๆ เพราะจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การวนิ จิ ฉยั โรคอยา่ งถูกตอ้ ง มากท่สี ุด หากเพ่งิ เดินทางกลับจากพืน้ ทเ่ี ส่ียง ควรกักตัวเองอยแู่ ต่ในบา้ น ไม่ออกไปข้างนอกเปน็ เวลา 14-27 วนั เพ่ือใหผ้ า่ น ชว่ งเชอื้ ฟักตัว (ให้แน่ใจจรงิ ๆ วา่ ไม่ติดเช้ือ)
คูม่ อื แผนเผชญิ เหตุโรงเรียนบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 18 การแพรเ่ ช้อื โรคโควดิ 19 น้ีโดยหลักแลว้ แพรจ่ ากคนส่คู นผ่านทางฝอยละอองจาก จมูกหรอื ปากซึ่งขับออกมา เมื่อผ้ปู วุ ย ไอหรือจาม เรารบั เชื้อไดจ้ ากการหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปจากผปู้ ุวย หรอื จากการเอามือไปจบั พ้ืนผิวทมี่ ี ฝอยละอองเหลา่ น้ันแลว้ มาจับตามใบหน้า ระยะเวลานับจากการติดเชื้อและการแสดงอาการ (ระยะฟักตัว) มีตง้ั แต่ 1-14 วนั และมคี า่ เฉล่ียอยู่ท่ี 5-6 วัน เกิน 97% ของผปู้ ุวยเริม่ มีอาการภายใน 14 วัน การเพิ่มจานวนของไวรสั เกิดข้นึ ในระบบทางเดนิ หายใจส่วนบนและในปอด มีงานวจิ ัยในช่วงแรกระบุว่า การเพิ่มจานวนของไวรัสได้ในระบบทางเดินอาหาร แตก่ ารติดต่อโดยระบบทางเดินอาหาร ยงั ไม่เป็นท่ยี นื ยัน ช่วงพีคของการแพรเ่ ชื้อน่าจะเกดิ ข้นึ ในช่วงแรกท่ีแสดงอาการและลดลงหลังจากนั้น การแพร่เชื้อก่อนแสดงอาการอาจเกิดข้ึน ได้อยา่ งไรกต็ าม หากไม่มอี าการไอ (กลไกหลักในการขับไวรสั ออกมา) อาจจากัดการแพร่เชื้อในช่วงน้นั เหตกุ ารณร์ ะบาดเป็นวงกวา้ ง เหตกุ ารณ์ระบาดเปน็ วงกว้างเกิดเม่ือ คนหน่ึงคนแพร่เช้ือไวรสั ไปสคู่ นกล่มุ ใหญ่ผิดปกติ สถานการณ์ทีจ่ ะ ทวีความรนุ แรงของการระบาดเปน็ วงกว้างรวมถึง การชมุ นุมขนาดใหญ่ ประชากรสูงอายุ ประชากรไร้ถนิ่ ฐาน การสมั ผสั โรคจากต่างประเทศ ความหนาแน่นของเขตเมือง ระบบสาธารณสุขไม่เข้มแข็งรฐั บาลขาดความโปรง่ ใส ส่ือขาดเสรภี าพ
ค่มู ือแผนเผชิญเหตุโรงเรียนบรรหารแจม่ ใสวิทยา ๓ 19 ลกั ษณะจาเพาะของโรค อตั ราการแพร่เช้ือและความรนุ แรง Basic Reproductive Rate(R0) คือ ค่าเฉล่ียทผ่ี ้ปู ุวย 1 คนจะแพร่เช้ือให้ผู้อนื่ ในกล่มุ ประชากรท่ี มีความไวต่อ การรบั เช้ือ คา่ R0 ของโรคโควดิ 19 อย่ทู ีป่ ระมาณ 2 และ 4 Clinical Onset Interval คือ ช่วงเวลาแสดงอาการในผู้ปวุ ยรายตอ่ ๆ กนั ในหว่ งโซ่ของการแพรร่ ะบาด ในงานวจิ ยั สว่ นใหญ่ เวลาเฉลี่ยอยทู่ ่ี 4 และ 5 วัน Case Fatality Ratio (CFR) หรอื อัตราการเสียชีวติ คือ สัดส่วนของผูป้ วุ ยท่ี ถึงแก่ชีวิต อัตราครา่ วๆของทั่วโลก อยู่ที่ 7% (ธันวาคม 2019 - พฤษภาคม 2020) กลมุ่ เส่ียง เส่ียงสูง เส่ยี งตา่ ความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงของโรคเพม่ิ ข้ึนตามอายุ และในผู้ งานวิจัย ระบุว่า เด็กและคนหนุม่ สาว ติดเช้อื ทม่ี ีโรคประจาตวั เช่น ความดันโลหติ สูง โรคเบาหวาน โรคหลอด และแพรเ่ ชอื้ ได้อย่างไรก็ตามเด็กมักจะไม่มี เลือดหัวใจ โรคระบบ ทางเดินหายใจเร้ือรังและโรคมะเร็ง อาการรนุ แรง ภูมคิ ุ้มกนั * ลดลงอย่างตอ่ เนื่อง ระยะสน้ั * ผู้ปวุ ยอาจยังแพร่เช้ือไดแ้ ม้มอี าการดขี นึ้ ส่ิงนี้มีนัยสาคัญต่อการควบคุมปูองกนั โรคในบริบท สถานพยาบาลและในการจาหนา่ ยผปู้ วุ ย ผู้ปวุ ยบางรายยงั คงตอ้ งแยกกักตัวเองต่อที่บ้านหลังจากไดร้ บั ระยะยาว การจาหนา่ ยแล้ว * ขณะนี้ยงั ไมห่ ลักฐานเพียงพอเกย่ี วกับประสทิ ธภิ าพหรือระยะเวลาของ ภูมคิ มุ้ กนั ท่ีสรา้ งจากสาร แอนตบิ อด้ี ทจี่ ะรับประกันความเที่ยงตรงของสิ่งทเ่ี รียกวา่ “พาสปอรต์ ภมู ิคุม้ กัน” หรอื “ใบรบั ประกันว่าไม่มคี วามเส่ียง” * มีขอ้ กังวลวา่ ผูค้ นอาจเขา้ ใจวา่ ตนเองมภี ูมคิ ุ้มกันต่อการตดิ เชื้อครงั้ ทส่ี อง และละเลยการปฏิบัติตาม คาแนะนาทางสุขภาพซึ่งอาจเปน็ การเพ่ิม ความเส่ียงใหเ้ กิดการระบาดต่อเนื่อง
คู่มือแผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 20 การตรวจรกั ษา ไมม่ ีการตรวจโควิด 19 ชนิดใดได้รับการขึ้นทะเบียน ยกเวน้ ภายใต้ขอ้ กาหนดการใช้ในสภาวะฉุกเฉนิ เทา่ นนั้ ทุกประเภทกาลงั อยู่ระหว่างการประเมิน วิธีปอ้ งกันการติดเชื้อไวรสั โคโรนาสายพันธใ์ุ หม่ 1. หลีกเล่ยี งการใกล้ชดิ กับผปู้ ุวยท่มี ีอาการไอ จาม นา้ มกู ไหล เหน่อื ยหอบ เจ็บคอ 2. หลีกเลีย่ งการเดนิ ทางไปในพ้นื ทีเ่ ส่ียง 3. สวมหนา้ กากอนามยั ทุกครง้ั เมื่ออยใู่ นทีส่ าธารณะ 4. ระมัดระวังการสัมผสั พน้ื ผวิ ท่ีไม่สะอาด และอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมถึงสง่ิ ที่มีคนจับบ่อยคร้ัง เช่น ท่ีจบั บน BTS, MRT, Airport Link ท่ีเปิด-ปิดประตใู นรถ กลอนประตูตา่ ง ๆ กอ๊ กนา้ ราวบนั ได ฯลฯ เมื่อจับแลว้ อยา่ เอามือสัมผสั หนา้ และขา้ วของเคร่ืองใชส้ ว่ นตัวตา่ ง ๆ เช่น โทรศพั ทม์ อื ถือ กระเป๋า ฯลฯ 5. ลา้ งมือใหส้ ม่าเสมอดว้ ยสบู่ หรอื แอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาที ความเขม้ ขน้ ของแอลกอฮอล์ไม่ตา่ กว่า 70% (ไม่ผสมน้า) 6. งดจับตา จมูก ปากขณะทไ่ี ม่ได้ล้างมือ 7. หลีกเลย่ี งการใกล้ชดิ สัมผสั สัตวต์ ่าง ๆ โดยทีไ่ มม่ กี ารปอู งกัน 8. รบั ประทานอาหารสกุ สะอาด ไม่ทานอาหารทที่ าจากสตั วห์ ายาก 9. สาหรบั บุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ทต่ี ้องดูแลผปู้ วุ ยท่ีติดเชอื้ ไวรัสโคโรนาสายพนั ธ์ใุ หม่ หรือโควิด-19 โดยตรง ควรใส่ หน้ากากอนามัย หรือใสแ่ วน่ ตานิรภยั เพอื่ ปอู งกนั เชือ้ ในละอองฝอยจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งเขา้ ตา บทท่ี 3
คมู่ อื แผนเผชญิ เหตโุ รงเรียนบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 21 เกณฑก์ ารพิจารณาความเสี่ยงและการเฝ้าระวังโรคโควดิ 19 วตั ถุประสงค์ 1. เพ่ือจัดระดับความรนุ แรงของการระบาดของโควดิ 19 2. เพ่ือนาไปใชใ้ นการกาหนดมาตรการ การปอู งกันควบคุมโรค ระดับประเทศ 3. เพื่อให้จงั หวดั นาไปปรบั ใช้ในระดับจังหวัด จากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 ท่ีกาลงั ดาเนินอยู่อย่างต่อเน่ือง จึงได้มีการกาหนดเกณฑ์การ พิจารณาระดับความรุนแรงการระบาด ความเสี่ยงและการเฝูาระวังโดยจาแนกเป็น 3 ระดับ กล่าวคือ ระดับประเทศ ระดบั ชมุ ชน และระดบั สถานศกึ ษา มีดังนี้ 1. เกณฑก์ ารพจิ ารณาระดบั ความรนุ แรงของการระบาดของโรคโควดิ 19 ระดบั ประเทศ การพิจารณาระดับความรุนแรงของการระบาดของโรคโควิด 19 ระดับประเทศ ควรคานึงถึงความสาคัญของ คณุ ลักษณะ 3 ประเดน็ ได้แก่ 1) จานวนผู้ติดเช้อื รายใหมส่ ะสมตอ่ สัปดาห์ 2) ลกั ษณะการกระจายของโรคตามจงั หวดั และเขตสขุ ภาพ 3) การกระจายของโรคตามลกั ษณะทางระบาดวทิ ยา แต่ละประเด็นมีการจาแนกระดับความรุนแรงของการระบาดของโรคโควิด 19 ตามลักษณะสีแบ่งเป็น 5 สี ได้แก่ สขี าว เขียว เหลอื ง ส้ม แดง มีรายละเอียดคุณลกั ษณะ ดงั นี้ สีขาว (ปลอดภัย มวี ัคซีน) หมายถึง ไม่มีผู้ติดเช้ือในประเทศมีผู้ติดเช้ือมาจากต่างประเทศ ผู้เดินทางมาจาก ตา่ งประเทศเขา้ สถานทีก่ กั กัน ผตู้ ิดเช้อื เข้ารกั ษาในโรงพยาบาลท่กี าหนด สีเขียว (ไม่รุนแรง ไม่มีวัคซีน) หมายถึง มีผู้ติดเชื้อในประเทศมีผู้ติดเช้ือมาจากต่างประเทศ ผู้เดินทางจาก ต่างประเทศเข้าสถานที่กักกนั ผ้ตู ิดเช้ือเขา้ รกั ษาในโรงพยาบาลท่ีกาหนด สีเหลือง (รุนแรงน้อย) หมายถึง จานวนผู้ติดเช้ือรายใหม่สะสมต่อสัปดาห์น้อยกว่า 300 ราย ต่อสัปดาห์ ลักษณะการกระจายของโรคตามจงั หวัดและเขตสภุ าพ ไมเ่ กนิ 1 จงั หวดั ต่อเขต และไม่เกิน 3 เขต การกระจายของโรค ตามลกั ษณะทางระบาดวิทยา ระบาดในวงจากัด มีไมเ่ กนิ 3 กลุ่มก้อน (Cluster) สีส้ม (รุนแรงปานกลาง) หมายถึง จานวนผู้ติดเช้ือรายใหม่สะสมต่อสัปดาห์ 300-900 ราย ต่อสัปดาห์ ลักษณะการกระจายของโรคตามจังหวัดและเขตสุขภาพ ไม่เกิน 1 จังหวัดต่อเขต จานวน 4 - 6 เขต หรือ มากกว่า 1 จังหวัดต่อเขต และไม่เกิน 3 เขต การกระจายของโรคตามลักษณะทางระบาดวิทยา ระบาดในวงจากัด มีมากกว่า 3 กลมุ่ กอ้ น (Cluster) และมีความเชื่อมโยงกนั
คู่มือแผนเผชิญเหตุโรงเรียนบรรหารแจม่ ใสวิทยา ๓ 22 สีแดง (รุนแรงมาก) หมายถึง จานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สะสมต่อสัปดาห์มากกว่า 900 ราย ต่อสัปดาห์ ลักษณะการกระจายของโรคตามจังหวัดและเขตสุขภาพไม่เกิน 1 จังหวัดต่อเขต และเกิน 6 เขต หรือมากกว่า 1 จังหวัดต่อเขต และเกิน 3 เขต การกระจายของโรคตามลักษณะทางระบาดวิทยา มีการระบาดในวงกว้าง หาสาเหตไุ มไ่ ด้ 2. เกณฑ์การพิจารณาความเสย่ี งและการเฝา้ ระวงั ระดับชมุ ชน จากสถานการณ์ความเสี่ยงตอ่ การแพรร่ ะบาดของโควิด 19 ในพืน้ ทีช่ มุ ชนจังหวดั ระยองกรณที หารลูกเรือ เครื่องบินทหาร ชาวอียิปต์ ขณะมาปฏิบัติภารกิจทางการทหารในพื้นท่ีจังหวัดระยองเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง อาเภอเมือง จังหวัดระยอง จากการตรวจคดั กรองโรคโควิด 19 จานวน 31 ราย พบติดเชื้อไวรัสโรคโควิด 19 จานวน 1 ราย เพศชาย อายุ 43 ปี ในทีมลูกเรือดังกล่าว ได้เดินทางไปห้างสรรพสินค้าใกล้โรงแรมจากเหตุการณ์ในช่วง ระยะเวลาระหว่างวันท่ี 6 - 11 กรกฎาคม 2563 สร้างความตระหนกและความแตกตื่นแก่ประชาชนทั่วท้ัง จังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม เกิดความหวาดระแวงต่อการติดเชื้อ ซึ่งนักท่องเท่ียว กลุ่มประชุมสัมมนา ยกเลิกการจองห้องพักในจังหวัดระยองเกือบทั้งหมด รวมถึงส่งผลกระทบ ด้านการศึกษาผู้ปกครองเกิดความกังวล ไม่มั่นใจในสถานการณ์ความเส่ียงที่มีต่อความปลอดภัยของนักเรียนท่ีเป็น บุตรหลานช่วงเปิดเทอม ทาให้สถานศึกษาในจังหวัดระยองปิดทาการเรียนการสอน 274 แห่ง กระทรวงสาธารณสุข
ค่มู อื แผนเผชิญเหตุโรงเรียนบรรหารแจม่ ใสวิทยา ๓ 23 จึงกาหนดเกณฑ์การพิจารณาความเสี่ยงและการเฝูาระวังในการประเมินความเส่ียงกรณีเกิดมีปัจจัยเสี่ยงของคนใน ครอบครัวในชุมชนหรือหมู่บ้านกับความเชื่อมโยงสถานศึกษาสาหรับในสถานศึกษาใช้เป็นมาตรการดาเนินการ ใหส้ อดคล้องตามสถานการณ์ จาแนกเปน็ 4 สี ไดแ้ ก่ แดง ส้ม เหลือง และเขยี วดงั นี้ สแี ดง หมายถึง กรณีมีปจั จัยเส่ียงมผี ปู้ วุ ยในชุมชนใน 7 วัน คนในครอบครัวสมั ผสั ใกลช้ ิดกับผู้ปุวย อาการของ คนในครอบครัวปุวยยืนยันโรคโควิด 19 ระดับความเสี่ยงสูงมาก มาตรการดาเนินการสาหรับนักเรียนต้องเรียนอยู่ท่ี บา้ น 28 วนั สว่ นสถานศึกษาถอื ปฏบิ ัตติ ามมาตรการสงู สดุ อยา่ งเคร่งครัด สีส้ม หมายถึง กรณีมีปัจจัยเสี่ยงมีผู้ปุวยในชุมชนใน 14 วัน คนในครอบครัวสัมผัสไม่ใกล้ชิดกับผู้ปุวย อาการ ของคนในครอบครัวรอยืนยันโรคโควิด 19 ระดับความเสี่ยงสูง มาตรการดาเนินการสาหรับนักเรียนต้องเรียนอยู่ที่ บา้ น 14 วัน สว่ นสถานศกึ ษาถือปฏบิ ัตติ ามมาตรการสงู สีเหลือง หมายถึง กรณีมีปัจจัยเส่ียงผู้ปุวยในชุมชนใน 28 วัน คนในครอบครัวไปในพื้นที่สถานท่ีเส่ียง หรือมี พฤตกิ รรมเสีย่ ง อาการของคนในครอบครวั ปุวยแตไ่ มเ่ ปน็ โรคโควิด 19 ระดับความเสี่ยงปานกลาง มาตรการดาเนินการ สาหรบั นกั เรยี นเรยี นอยู่ทบ่ี า้ น 7 วนั ส่วนสถานศึกษาถอื ปฏิบัติตามมาตรการพน้ื ฐาน สีเขียว หมายถึง กรณีไม่มีผู้ปุวยในชุมชน 28 วันข้ึนไป คนในครอบครัวไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงอาการของคนใน ครอบครัวปกติ ระดับความเสี่ยงต่า มาตรการดาเนินการสาหรับนักเรียนไปโรงเรียนได้ส่วนสถานศึกษาถือปฏิบัติตา ม มาตรการผ่อนคลาย 3. เกณฑ์การพิจารณากรอบการปฏิบัติตามตารางประสานสอดคล้องในการบริหาร สถานการณ์โควิด 19 ในสถานศึกษา
ค่มู อื แผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 24 การพิจารณากรอบการปฏิบัติตามตารางประสานสอดคล้องในการบริหารสถานการณ์โควิด 19 ในสถานศึกษา จาแนกเปน็ ระดับสี 5 ระดบั สไี ด้แก่ ขาว เขยี ว เหลือง ส้ม และแดง (สอดคล้องกับ เกณฑ์การพิจารณา ระดบั ความรุนแรงของการระบาดของโรคโควดิ 19 ระดับประเทศ) ซึ่งมีรายละเอียด กรอบการปฏิบัติตามระดับและ ระดบั การผอ่ นคลายกจิ การหรือกจิ กรรมท่ีสาคัญ มีดังนี้ ระดับการบรหิ ารสถานการณ์ : ระดบั ขาว กรอบการปฏบิ ตั ิ 1. สามารถเดนิ ทางขา้ มจงั หวดั ได้ 2. ให้จัดกิจกรรมรวมกลุ่มไดแ้ ตต่ อ้ งปฏบิ ัติตามมาตรการปอู งกนั โรคท่ีกาหนด 3. ให้ดาเนนิ กิจการหรือกจิ กรรมไดท้ กุ ประเภทตามปกตผิ ปู้ ระกอบการหรอื ผจู้ ดั กจิ กรรม ต้องมีการคดั กรอง ผ้ใู ช้บริการและตอ้ งปฏบิ ัตติ ามมาตรการหลกั ได้แก่ - ทาความสะอาดพน้ื ผวิ ท่มี ีการสมั ผัสบ่อย ๆ - การสวมหน้ากากของเจา้ หน้าที่ พนักงาน ผูใ้ ชบ้ ริการ ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม - ใหม้ ีจดุ บรกิ ารล้างมอื ดว้ ยสบู่หรอื แอลกอฮอลเ์ จลหรอื นา้ ยาฆา่ เช้ือโรค - ใหม้ ีการควบคุมจานวนผ้ใู ชบ้ ริการ มิให้แออดั ตัวอย่างระดับการผอ่ นคลายกจิ การ/กจิ กรรมท่สี าคัญ - โรงเรียนเปิดการเรยี นการสอนท่โี รงเรยี น 100% - สนามกฬี ากลางแจ้งเปิดใหม้ ีผชู้ มได้ 70% / 50% (5000) - สนามกีฬากลางในร่มเปดิ ใหม้ ผี ูช้ มได้ 50% / 25% (2000 / 1000) - ขนสง่ สาธารณะบรรทกุ ผู้โดยสารได้ 100% - โรงภาพยนตรเ์ ปิดให้มีผ้ชู มได้ 100% ระดับการบริหารสถานการณ์ : ระดับเขียว กรอบการปฏิบตั ิ ตามขอ้ กาหนดฉบบั ที่ 13
ค่มู ือแผนเผชิญเหตุโรงเรียนบรรหารแจม่ ใสวิทยา ๓ 25 1. ให้จดั กิจกรรมรวมกล่มุ ได้แต่ต้องปฏบิ ัตติ ามมาตรการปอู งกันโรคท่ีกาหนด 2. สามารถเดนิ ทางข้ามจังหวดั ได้ 3. ให้ดาเนนิ กิจการหรือกจิ กรรมได้ทกุ ประเภท แตผ่ ูป้ ระกอบการหรอื ผจู้ ดั กิจกรรม ตอ้ งมกี ารคดั กรอง ผ้ใู ชบ้ ริการ และต้องปฏิบตั ติ ามมาตรการหลัก ได้แก่ - ทาความสะอาดพ้นื ผิวทม่ี กี ารสมั ผสั บอ่ ย ๆ - การสวมหนา้ กากของเจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้ใชบ้ รกิ าร ผู้เข้าร่วมกิจกรรม - ให้มีจุดบรกิ ารลา้ งมอื ด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอลเ์ จลหรือนา้ ยาฆ่าเช้อื โรค - ให้มกี ารควบคุมจานวนผูใ้ ชบ้ รกิ าร มิใหแ้ ออดั - ลงทะเบยี นใชง้ าน “ไทยชนะ” และแอปพลเิ คชัน่ ทร่ี ฐั กาหนด * ผู้ว่าราชการจงั หวดั /กทม. สามารถกาหนดมาตรการเพิ่มเตมิ ได้ ตัวอยา่ งระดบั การผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมท่ีสาคัญ - โรงเรยี นเปิดการเรยี นการสอนท่โี รงเรยี น 100% - สนามกีฬากลางแจ้งเปิดให้มผี ชู้ มได้ 50% / 25% (3000/2000) - สนามกฬี ากลางในรม่ เปดิ ใหม้ ีผู้ชมได้ 25% / 15% (1000/500) - ขนส่งสาธารณะบรรทกุ ผู้โดยสารได้ 100% - โรงภาพยนตร์เปิดใหม้ ีผ้ชู มได้ 70% ศบค ที่ 8/2563 หรอื ตามทค่ี ณะกรรมการเฉพาะกจิ พิจารณาการผอ่ นคลายฯกาหนด ระดบั การบริหารสถานการณ์ : ระดับเหลอื ง กรอบการปฏบิ ัติ
คู่มอื แผนเผชิญเหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 26 ตามขอ้ กาหนดฉบบั ท่ี 9 1. สามารถเดนิ ทางข้ามจังหวัดได้ 2. ให้ดาเนินการหรือทากิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดาเนนิ ชวี ติ ตลอดจนด้านการออกกาลงั กาย หรือดแู ลสุขภาพหรอื สันทนาการได้แต่ ผปู้ ระกอบการ หรอื ผู้จัดกจิ กรรมต้องมีการคัดกรอง ผ้ใู ชบ้ ริการและตอ้ งปฏิบัติตามมาตรการหลัก - ทาความสะอาดพ้นื ผิวที่มกี ารสัมผัสบ่อย ๆ - การสวมหนา้ กากของเจ้าหนา้ ท่ี พนกั งาน ผใู้ ชบ้ ริการ ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรม - ใหม้ ีจุดบริการล้างมือดว้ ยสบู่หรอื แอลกอฮอลเ์ จลหรือนา้ ยาฆา่ เชือ้ โรค - ใหม้ กี ารเวน้ ระยะหา่ งอย่างนอ้ ย 1 เมตร - ใหม้ ีการควบคุมจานวนผูใ้ ชบ้ ริการ มใิ หแ้ ออดั - ลงทะเบยี นใช้งาน “ไทยชนะ” และแอปพลิเคชนั่ ทีร่ ัฐกาหนด * ผวู้ ่าราชการจงั หวัด/กทม. สามารถกาหนดมาตรการเพม่ิ เตมิ ได้ ตัวอยา่ งระดับการผอ่ นคลายกจิ การ/กจิ กรรมท่ีสาคัญ - โรงเรยี นเปิดการเรยี นการสอนทโ่ี รงเรียนได้แต่ถา้ มีความแออดั ใหจ้ ัดนักเรียนสลบั กนั เรยี น - สนามกฬี ากลางแจ้งเปิดให้มผี ู้ชมได้ 25% / 15% (3000/1000) - สนามกฬี ากลางในร่มเปดิ ไมใ่ ห้มีผู้ชมได้ - ขนสง่ สาธารณะทางอากาศและ BTS บรรทุกผโู้ ดยสารได้ 100% - รถขนสง่ สาธารณะบรรทกุ ผูโ้ ดยสารได้ 70% - โรงภาพยนตรเ์ ปดิ ใหม้ ผี ชู้ มได้ 50% - อื่นๆ ตามคาส่งั ศบค ท่ี 3/2563, 4/2563, 5/2563 และ 6/ 2563 หรือตามท่คี ณะกรรมการเฉพาะกจิ พิจารณาการผ่อนคลายฯ กาหนด ระดับการบรหิ ารสถานการณ์ : ระดับส้ม กรอบการปฏิบัติ
คู่มือแผนเผชิญเหตุโรงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 27 ตามข้อกาหนด ฉบับท่ี 6 1. จากดั การเดนิ ทางขา้ มจังหวดั ๒. ให้ดาเนินการหรือทากิจกรรมบางอย่างได้เฉพาะเพื่อเป็นการอานวยความสะดวกประชาชนในการทา กจิ กรรมดา้ นเศรษฐกิจและการดาเนนิ ชีวติ ตลอดจนดา้ นการออกกาลงั กายหรือดูแลสุขภาพหรือสันทนาการที่ไม่เสี่ยงต่อ การแพร่ระบาดและผู้ประกอบการ หรือผู้จัดกิจกรรมต้องมีการคัดกรองผู้ใช้บริการและต้องปฏิบัติตามมาตรการหลัก ไดแ้ ก่ - ทาความสะอาดพน้ื ผิวท่ีมีการสมั ผัสบอ่ ยๆ - การสวมหนา้ กากของเจา้ หนา้ ท่ี พนกั งาน ผ้ใู ช้บริการ ผูเ้ ข้าร่วมกิจกรรม - ใหม้ จี ดุ บรกิ ารล้างมือด้วยสบู่ หรอื แอลกอฮอลเ์ จลหรอื น้ายาฆา่ เชื้อโรค - ให้มกี ารเว้นระยะห่างอยา่ งนอ้ ย 1 เมตร - ให้มีการควบคมุ จานวนผใู้ ช้บริการ มใิ ห้แออัด - ลงทะเบียนใชง้ าน “ไทยชนะ” และแอปพลเิ คชน่ั ทร่ี ฐั กาหนด * ผู้วา่ ราชการจงั หวดั /กทม. สามารถกาหนดมาตรการเพ่ิมเตมิ ได้ ตัวอยา่ งระดบั การผอ่ นคลายกิจการ/กิจกรรมท่สี าคญั - สถานศึกษาจดั การเรียนการสอน ออนไลนแ์ ละ/หรือ ออนแอร์ - รา้ นอาหารจาหนา่ ยอาหารและเคร่อื งดืม่ ได้ (เวน้ เครอ่ื งดม่ื ทม่ี ีแอลกอฮอลใ์ นสถานที่ต่าง ๆ) - ปิด สถานบริการ ผับ บาร์ - ร้านค้าปลีก/ตลาดนัด/ตลาดสด เปิดไดแ้ ตต่ ้องปฏบิ ัตมิ าตรการท่กี าหนด - สนามกีฬา ลานกฬี า ประเภท กลางแจ้งและเปน็ กีฬาที่ ไมม่ กี ารปะทะกนั สวนสาธารณะ เปดิ ทาการได้ - อน่ื ๆตามคาสั่ง ศบค ท่ี 2/2563 หรือตามท่ีคณะกรรมการเฉพาะกจิ พจิ ารณาการผ่อนคลายฯ กาหนด ระดับการบริหารสถานการณ์ : ระดับแดง กรอบการปฏิบัติ
คู่มือแผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 28 ตามข้อกาหนดฉบับท่ี 1 - เน้นที่การหา้ มเขา้ พนื้ ที่เส่ยี งและการปิดสถานทเ่ี ส่ียงต่อการตดิ ตอ่ โรค - ปิดช่องทางเขา้ มาในราชอาณาจักร เวน้ บุคคลบางประเภท - หา้ มชุมนมุ ตามข้อกาหนดฉบบั ที่ 2 และ 3 - ห้ามบคุ คลใดทัว่ ราชอาณาจักรออกนอกเคหะสถาน เว้นบคุ คลท่ีมเี หตุจาเปน็ ตามข้อกาหนดฉบบั ท่ี 5 * ผูว้ า่ ราชการจังหวัด/กทม. สามารถกาหนดมาตรการเพิ่มเติมได้ ตัวอย่างระดับการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมทส่ี าคัญ - สถานศึกษาจัดการเรยี นการสอน ออนไลนแ์ ละ/หรือ ออนแอร์ - ห้ามการเดินทางข้ามจงั หวัด ยกเว้นขนสง่ สนิ คา้ - ปิดกิจการ/กิจกรรมต่าง ๆ ยกเว้นกิจการที่จาเป็นต่อการดารงชีวิต เช่น ธนาคาร โรงงาน สถานบริการ เชอื้ เพลงิ บริการสง่ สนิ ค้าและอาหารตามสัง่ หรอื ตามทีค่ ณะกรรมการเฉพาะกจิ พิจารณาการผอ่ นคลายฯ กาหนด
คู่มอื แผนเผชญิ เหตโุ รงเรยี นบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 29 บทท่ี 4 แนวปฏบิ ตั ิสาหรับสถานศกึ ษารองรับสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด ของโรคโควิด19 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลกและประเทศ ใกล้เคียง อาทิ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งประเทศไทยมีพ้ืนที่ชายแดนด้านเมียนมา กาลังเป็นพ้ืนท่ีวิกฤตที่สุด จานวนผู้ปุวย ติดเช้ือสะสมเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเน่ือง อาจเป็นภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด 19 ในเขตพ้ืนที่ของชุมชนและ สถานศึกษา อาจส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอน ดังนั้น สถานศึกษาควรมีแนวปฏิบัติในการจัดการเรียน การสอนตามตารางประสานสอดคล้อง ตามสถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ของสถานศึกษา จาแนกตามสถานศกึ ษาแต่ละประเภท มีดังน้ี 1. กลุ่มนักเรยี น - สถานศึกษาจัดการเรยี นการสอนตามปกติ (ครบคน ครบห้องครบช้ันเรียน) สีขาว-สเี ขียว - สถานศกึ ษาที่ตั้งอยู่ในพ้ืนทท่ี ีไ่ มพ่ บผ้ตู ิดเช้ือไม่น้อยกวา่ 90 วัน (พ้ืนทีส่ เี ขยี ว) ไดร้ บั การพจิ ารณาอนุญาตจากศูนย์ปฏบิ ตั กิ ารควบคุมโรคจังหวัดให้จดั การเรยี น การสอนได้ตามปกติ - โรงเรยี นมีมาตรการให้นกั เรียน ครู บุคลากรทางการศึกษาและเจา้ หนา้ ท่ีทกุ คน สวมหน้ากากผา้ หรอื หนา้ กากอนามยั มีอปุ กรณล์ า้ งมอื และลา้ งมอื บ่อย ๆ มกี ารทา ความสะอาดห้องเรยี น หอ้ งปฏบิ ตั ิการหรอื โรงฝกึ งาน และทาความสะอาด อุปกรณ์ ทใ่ี ช้ในการเรยี นการสอน การฝกึ ปฏบิ ัติ ก่อนและหลงั ใช้งานทกุ คร้งั ตามมาตรการ ของกระทรวงสาธารณสุข สเี หลอื ง-สสี ม้ - สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยมกี ารสลบั วนั เรยี นแต่ละชั้นเรยี น หรอื มีการแบง่ จานวนนักเรียนให้เหมาะสมกับการเว้นระยะห่างระหวา่ งกัน (Social distancing) - มีมาตรการใหน้ ักเรยี น ครู บุคลากรทางการศึกษา และเจา้ หนา้ ทที่ กุ คนสวมหน้ากากผ้า หรือหนา้ กากอนามยั มีอุปกรณล์ ้างมอื และล้างมอื บ่อยๆ - มีการทาความสะอาดห้องเรียน ห้องปฏิบตั ิการหรือโรงฝึกงาน และทาความสะอาด อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการเรยี นการสอน การฝึกปฏิบัติก่อนและหลังใช้งานทุกครั้ง สีแดง - สถานศึกษาจดั การเรียนการสอนแบบ Online หรือ On air
คู่มอื แผนเผชิญเหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวทิ ยา ๓ 30 บทท่ี 5 แผนเผชญิ เหตรุ องรับสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด ของโรคโควดิ 19 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มคลี่คลายเป็นไปในทางท่ีดีขึ้น แต่สถานการณ์ทั่วโลกและประเทศใกล้เคียงยังมีความรุนแรงอย่างต่อเน่ือง ในการเปิดภาคเรียนของสถานศึกษา ให้มีการเรียนการสอนตามปกติ 100% ดังน้ัน จึงควรกาหนดให้มีแผนเผชิญเหตุ รองรับสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคโควิด 19 ในสถานศึกษา เพ่ือเป็นการเตรียมการและเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ท่ีอาจจะเกิดขึ้น อันเปน็ แนวปฏบิ ัติตามมาตรการการปูองกันการแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 อย่างเคร่งครดั แนวปฏิบัติแผนเผชิญเหตรุ องรับสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานศกึ ษา แนวปฏิบตั แิ ผนเผชญิ เหตรุ องรับสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 ในสถานศึกษา มดี ังนี้ 1. การปอ้ งกนั เชอื้ โรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จากต่างประเทศ • มีครูต่างประเทศต้องรับการกักกนั ในสถานที่ทีร่ ัฐจดั ให้ (State quarantine) เป็นเวลา 14 วนั • มีนักเรียนนักศึกษาต่างประเทศ/ต่างด้าวท่ีพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ให้จัดการเรียนการสอน ตามปกติ สาหรับนักเรียนนักศึกษาท่ีไม่ได้พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยเม่ือเข้าประเทศไทยต้องรับการ กกั กันในสถานทท่ี รี่ ฐั จดั ให้ (State quarantine/Local quarantine) เปน็ เวลา 14 วัน 2. การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 ภายในประเทศ • มีศนู ยเ์ ฉพาะกิจการจดั การศกึ ษาทางไกลในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 • พัฒนาระบบสารสนเทศเพอ่ื การบรหิ ารในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 • เปดิ ศนู ยร์ บั ฟังความคิดเห็นเกย่ี วกับการจัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์ การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 • จัดทาแนวทางการจัดการเรยี นการสอนทางไกลในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 • จัดทาแพลตฟอร์มการเรียนร้ชู ดุ โปรแกรม และแพลตฟอร์มการเรยี นรู้ครบวงจร • จัดทาแนวทางการบรหิ ารจดั การสาหรบั โรงเรยี นเพื่อปูองกันและควบคุมการแพร่ ระบาดของโรคโควิด 19 • แผนการเตรียมการรองรับนกั เรยี นจากต่างประเทศ ที่กลับเข้ามาเรยี นในประเทศไทยของสถานศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 • แนวทางรบั มอื ตอบโต้ภาวะฉกุ เฉนิ กรณีการระบาดของโรคโควดิ 19 ในสถานศึกษา
ค่มู ือแผนเผชญิ เหตโุ รงเรียนบรรหารแจ่มใสวทิ ยา ๓ 31 3. การเฝา้ ระวงั และการสอบสวนโรค • คดั กรองนกั เรยี น ผ้บู ริหารครบู ุคลากรและผูเ้ ก่ียวข้อง มกี ารสวมหน้ากากการลา้ งมือการเวน้ ระยะหา่ ง การทาความสะอาด (หอ้ งเรยี น ห้องปฏบิ ัติการ โรงฝึกงาน อาคารเรยี น โรงอาหาร โรงนอน พน้ื ท่ี ส่วนกลาง) และลดความแออัด • มีแนวปฏบิ ัตสิ าหรับผูบ้ รหิ ารครูและบคุ ลากรในสถานศกึ ษาในการดาเนนิ การเกี่ยวกบั โรคโควดิ 19 เชน่ จัดทาแนวทางการบรหิ ารจดั การสาหรับโรงเรยี นเพื่อปอู งกนั และควบคมุ การแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 มาตรการคดั กรองสุขภาพด้านสาธารณสขุ การดาเนินการเม่ือมกี ลุ่มเสี่ยงหรือผปู้ ุวยยืนยันในสถานศกึ ษา • การปิดสถานศกึ ษาท่ีเกดิ การระบาดและควบคุมการระบาดใสถานศึกษา • รายงานการประเมินสถานการณ์ผลการดาเนินงาน ปัญหาอุปสรรคและให้ข้อเสนอแนะแก่ หน่วยงาน ต้นสังกัด และคณะกรรมการโรคตดิ ต่อระดบั จงั หวดั เพ่อื การตดั สินใจ 4. การสร้างความรว่ มมือจากทกุ ภาคส่วน • มศี ูนยป์ ระสานงานและตดิ ตามข้อมูลระหว่างสถานศึกษาและหน่วยงานตา่ งๆ • สถานศกึ ษาจับคู่โรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตาบลในความรว่ มมือ ปอู งกัน การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 • สถานศกึ ษาแต่งต้งั คณะกรรมการปูองกันการแพรร่ ะบาดของโรคโควิด19 ประกอบด้วยเจ้าหนา้ ท่ี สาธารณสขุ เจา้ หนา้ ทอ่ี งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ฝาุ ยปกครองคณะกรรมการสถานศึกษา แนวปฏบิ ตั สิ าหรบั สถานศกึ ษาในการเปิดภาคเรียนใหน้ กั เรยี นมาเรยี นในหอ้ งเรียน หรือ On site 100 % มีดงั นี้ 1. ใหม้ กี ารจัดการเรียนการสอนได้ปกติ On site 2. การจดั ห้องเรยี นสามารถจัดได้ตามจานวนนักเรียนปกตโิ ดยจดั ระยะห่างใหม้ ากที่สุดเท่าทีจ่ ะทาได้ 3. กรณีหอ้ งเรียนเปน็ หอ้ งแอร์ ให้เปดิ ประตู หนา้ ตา่ งชว่ งพกั เทีย่ ง หรือชว่ งท่ไี ม่มกี ารเรยี นการสอนในหอ้ งนัน้ 4. มาตรการเสรมิ ต้องเข้มขน้ ดงั น้ี - การคดั กรอง แยกผู้ปุวย สง่ รักษา - การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมอื บอ่ ย ๆ ลดการจับกลุม่ พดู คุยกันโดยไม่จาเป็น - ลดกิจกรรมรว่ มกันหลายหอ้ ง - กรณีมีการเดินเรียนให้ทาความสะอาดพ้ืนผิวโต๊ะ เก้าอี้หรืออุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน หลังจบการเรียน การสอนทกุ คาบ - ทุกหอ้ งเรียน ใหท้ าความสะอาดพื้นผวิ โต๊ะเกา้ อีห้ รืออปุ กรณ์ท่ีใชร้ ่วมกันทกุ สองชัว่ โมง
ค่มู ือแผนเผชญิ เหตโุ รงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 32 5. ให้มีการบันทึกการปุวยด้วยโรคทางเดินหายใจ การส่งต่อตรวจหาโควิด 19 และสรุปผลการตรวจทุกสัปดาห์ ส่งตน้ สังกัด กรณมี ีเดก็ ปุวยหรือขาดเรียนมากกวา่ ปกติ ใหป้ ระสานสานกั งานสาธารณสุขอาเภอ หรอื จงั หวัดในพ้ืนที่ 6. ให้มีการดาเนนิ การผอ่ นคลายมาตรการกากบั โดยคณะกรรมการสถานศกึ ษาและหนว่ ยงานสาธารณสุขในพ้ืนท่ี 7. การปรับมาตรการใหพ้ จิ ารณาตามสถานการณก์ ารระบาดและข้อมูลทมี่ ีอยูใ่ นขณะน้นั เป็นระยะๆ การกากบั ตดิ ตามและประเมินผล แนวทางการกากับติดตามและประเมินผลกาจัดการเรียนการสอนและการดาเนินการตามมาตรการ ปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID-19) ในสถานศึกษาแบบบูรณาการ กระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดให้มีการตรวจรายการและกากับติดตามประเมินผลการจัดการเรียนการสอน ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพ้ืนท่ัวประเทศ และรายงานผลการ ตรวจติดตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพ่อื เป็นขอ้ เสนอเชงิ นโยบายประกอบการวินิจฉยั สัง่ การของรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ และเป็น ข้อมูลในการขับเคล่ือนนโยบายการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยลงพ้ืนที่ติดตามผลการดาเนินงานตามนโยบายดังกล่าว รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลผ่าน ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือการตรวจติดตามนโยบายการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การตรวจติดตาม หลังเปิดภาคเรียนท่ี 1/2563 (1 กรกฎาคม 2563) กระทรวงศึกษาธิการและ กระทรวงสาธารณสุขได้มีการบูรณาการการทางานร่วมกัน โดยได้กาหนดแนวทางการกากับติดตามประเมินผล การจัดการเรียนการสอนและการดาเนินการตามมาตรการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) หลังเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 (ตั้งแต่วันท่ี 1 กรกฎาคม 2563) ตามแนวทางของศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) (ศบค.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็น ผู้อานวยการศูนย์ดังกล่าว ให้กระทรวงศึกษาธิการบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ดาเนินการกากับติดตาม ประเมินผล หลังเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 กระทรวงศึกษาธิการกับกระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดประชุมชี้แจงการ ขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพโรงเรียน และการกากับติดตามประเมินผลการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานศึกษาแบบบูรณาการ เม่อื วันที่ 29 มถิ ุนายน 2563 โดยมปี ลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานการประชุมที่ ประชุมได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขศึกษาธิการ ภาคและรองศึกษาธิการภาค ร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข ลงพ้ืนที่สถานศึกษาเพื่อกากับติดตามประเมินผล และมีการรายงานผลความคืบหน้าต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควดิ 19) (ศบค.) ดว้ ย สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย มีแนวโน้มคล่ีคลายเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ยังคงต้องเฝูาระวังอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ท่ัวโลกยังมีความรุนแรง เพิ่มมากข้ึน โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทั้งนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด 19) ได้แถลงข่าวเมื่อวันท่ี 10 สิงหาคม 2563 ไม่มีผู้ติดเช้ือภายในประเทศรวม 77 วัน
ค่มู ือแผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 33 กอปรกับ ศบค. ได้มีมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 และระยะ 6 ตามลาดับ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตปกติมากข้ึน กระทรวงศกึ ษาธิการใหส้ ถานศึกษาสามารถเปิดเรียนได้ร้อยละ 100 และยังไม่พบผู้ติดเชื้อในสถานศึกษา ดังนั้น จึงได้ จดั ทาแนวทางการตรวจติดตามประเมินผลการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานศึกษาแบบบูรณาการ ตามแผนผังการกากับติดตามประเมินผลร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ ดังนี้
ค่มู อื แผนเผชิญเหตุโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 34 กระทรวงศกึ ษาธกิ ารและกระทรวงสาธารณสุข ไดจ้ ัดทาแนวทางการกากับติดตามและประเมินผลการ จัดการเรียนการสอนและการดาเนินการตามมาตรการการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานศึกษาแบบบูรณาการหลังเปิดภาคเรียนท่ี 1/2563 ต้ังแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป เพ่ือให้หน่วยงานในสังกัดท่ีเกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานในพ้ืนที่ เช่น สานักงานศึกษาธิการภาค สานักงานศึกษาธิการ จังหวัด สถานศกึ ษา เป็นตน้ ได้ดาเนนิ การร่วมกนั โดยมกี ลไกการตรวจราชการและการกากบั ติดตามประเมินผล ดงั น้ี ฝา่ ยกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 1. ผู้ตรวจรายการกระทรวงศึกษาธิการ 2. ผเู้ ชย่ี วชาญ/ผ้ตู รวจราชการกรม 3. ศกึ ษาธกิ ารภาค 4. ศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด 5. คณะกรรมการศึกษาธิการจงั หวดั 6. เขตพืน้ ทกี่ ารศึกษา : สพป./สพม. ฝา่ ยกระทรวงสาธารณสุข 1. ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสขุ / สาธารณสขุ นิเทศ 2. นายแพทยส์ าธารณสขุ จังหวดั 3. ผู้แทนคณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวดั 4. ผู้อานวยการศนู ย์อนามัย ผ้อู านวยการสานักงานปอู งกนั ควบคุมโรค ผอู้ านวยการศนู ยส์ ุขภาพจติ 5. ผูพ้ ทิ ักษอ์ นามัยโรงเรยี น บทบาทหน้าที่ 1. ใหค้ าปรึกษา แนะนา การปอู งกันการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) 2. แลกเปล่ียน เรียนรู้ ปัญหาอุปสรรคการดาเนินงานของสถานศึกษา และเสนอแนวทางการดาเนินงาน ร่วมกันระหวา่ งกระทรวงศึกษาธกิ ารและกระทรวงสาธารณสขุ 3. สรุปประเด็นและข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการดาเนินงานปูองกัน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะเวลาดาเนนิ การ หลังเปิดภาคเรยี นท่ี 1 – 2 ปีการศึกษา 2563 หลังเปดิ ภาคเรยี น ปีการศึกษา 2564 การกากับติดตามและประเมินผล การกากับติดตามและประเมินผล ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยผตู้ รวจราชการ กระทรวงศึกษาธิการ และ ศกึ ษาธิการภาค รว่ มกับกระทรวงสาธารณสขุ มปี ระเดน็ ดังนี้ 1. ขอ้ มูลทวั่ ไปของสถานศึกษา (สงั กัด ประเภทการจดั การศึกษา ระดบั ท่เี ปิดสอน ขนาดสถานศกึ ษา) 2. การเปิดภาคเรยี น (กรณเี ปิดเรยี น on site) 3. รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ( Online)
คมู่ ือแผนเผชิญเหตโุ รงเรียนบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 35 4. การดาเนินการตามแผนเผชญิ เหตรุ องรบั การแพรร่ ะบาดโควิด 19 ของหน่วยงานต้นสังกัดหรือ ทางราชการกาหนด 5. การดาเนนิ งานตามมาตรการควบคุมและปอู งกนั การแพรร่ ะบาดของ โรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) 6. การเตรียมแผนรองรับกรณีพบครูหรือบุคลากรของสถานศกึ ษา มไี ข้และ/หรือ มีอาการของระบบ ทางเดนิ หายใจอย่างใดอย่างหน่งึ (กรมอนามยั ) 7. การปฏิบตั ิ เพ่ือผ่อนคลายมาตรการสกู่ ารจัดการเรียนการสอนตามปกติ 8. ปญั หา อุปสรรค ข้อจากดั ในการจดั การเรยี นการสอน และมาตรการปอู งกัน ในสถานการณ์การ แพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) 9. ขอ้ เสนอแนะ เครื่องมอื ท่ีใชต้ ดิ ตามประเมนิ ผล แบบติดตามประเมนิ ผลการจดั การเรยี นการสอนและการดาเนินการตามมาตรการการปูองกันการแพร่ระบาด ของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID -19) ระดบั สถานศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ภาคเรยี นท่ี 1/2563 (ฉบบั ที่ 3 เดอื นกันยายน 2563) ตามภาคผนวก ระบบการรายงานผล การรายงานผลการตดิ ตามประเมินผลการจัดการเรยี นการสอนและการดาเนินการตามมาตรการการปูองกันใน สถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) โดยการรวบรวมข้อมูลจากการลงพ้ืนท่ี ติดตาม (site Visit) ของคณะตรวจราชการ และกากับติดตามประเมินผลฯ ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวง สาธารณสขุ และการรายงานผลการดาเนินงานของสถานศกึ ษา โดยกรอกข้อมูลผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ การตรวจ ติดตาม จัดการเรียนการสอน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ซ่ึงพัฒนาระบบโดยศูนย์เทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสาร สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (www. covid.moe.go.th) หรือระบบ Thai Stop covid ผพู้ ิทกั ษอ์ นามัยโรงเรียน การเปิดภาคเรียนของสถานศึกษาในสภาวะท่ียังมีสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID -19) ควรต้องคานึงถึงความเป็นอยู่ของเด็กและคุณภาพชีวิตของเด็กท้ังด้านโภชนาการ ความปลอดภัย สุขอนามัยส่วนบุคคล สุขภาพกาย สุขภาพจิต จัดสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการมีสุขภาพดีของนักเรียน จงึ เห็นควรมีการสร้างผูพ้ ิทกั ษ์อนามยั โรงเรียน ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และกากับติดตามการปฏิบัติตามมาตรการ ของสถานศึกษา ตามนโยบาย ทางราชการที่กาหนด พร้อมรายงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข รับทราบ เพอื่ ให้วางแผนการช่วยเหลอื ตามสถานการณ์ อย่างทนั ทว่ งทีดงั น้นั จึงกาหนดให้มบี ทบาทหน้าท่ี ดังนี้
คมู่ ือแผนเผชญิ เหตโุ รงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 36 บทบาทหน้าท่ขี องผูพ้ ิทกั ษ์อนามยั โรงเรียน 1. เป็นผู้ให้คาปรึกษา แนะนา (Help Coach) การปูองกันการแพร่ระบาด ของโรคติดเช้ือไวรัส โคโรนา 2019 (COVID -19) ในสถาน การศกึ ษาและชุมชน 2. รวมทีมตรวจราชการระดับจังหวัด และการกากับ ติดตามประเมินผล การปูองกันการแพร่ระบาดของ โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ในสถานศกึ ษา 3. เป็นผู้ประเมินภายนอก ในการเฝูาระวังการปฏิบัติตาม คู่มือการปฏิบัติสาหรับสถานศึกษา ในการปูองกัน การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยสุ่มประเมินสถานศกึ ษา จานวน 3 แห่ง ต่อเดือน ตามแบบประเมินตนเองสาหรับ สถานศึกษาในการเตรียมความพร้อม หลังเปิดภาคเรียน และการประเมินตนเองของนักเรียนในการเตรียมความพร้อม หลังเปิดภาคเรียน ในการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) จานวน 10 คน ตอ่ โรงเรียน และบนั ทึกรายงานแบบออนไลน์ 4. เป็นผู้ประเมินภายนอกในการเฝูาระวังและปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในชุมชน โดยสุ่มประเมิน จานวน 3 แห่งต่อเดือน ตามแบบตรวจประเมิน เพ่ือการเฝูาระวังและการ ปูองกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ประเภทตลาด (1 แห่งต่อเดือน) และประเภทร้านอาหารหรือ เครื่องด่ืม หาบเร่ แผงลอย การเฝูาระวังและปูองกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (2 แห่งต่อเดือน) พร้อมสุ่ม ประชาชนที่มารับบรกิ ารฯ ข้างตน้ ให้ประเมินตนเองในการปูองกันการแพร่ระบาดของ โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) จานวน 10 คนตอ่ แห่ง และบนั ทกึ รายงานแบบออนไลน์ แนวทางปฏบิ ัตกิ ารปดิ หรือไมป่ ิดสถานศึกษากรณีเกิดโรค โควดิ 19 นิยาม ผู้ปวุ ยยืนยนั โรคโควิด 19 หมายถงึ ผู้ทม่ี ีผลตรวจทางห้องปฏิบตั กิ ารพบว่าติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ผู้สมั ผัสท่ีมีความเสี่ยงต่อการติดเชอื้ สงู (High risk Content) (ผู้สมั ผสั เส่ียงสงู ) หมายถงึ ผู้สมั ผสั ใกล้ชิดกบั ผปู้ ุวยยนื ยนั โรคโควิด 19 ตามลักษณะข้อใดขอ้ หน่ึง ดังน้ี ผทู้ ีเ่ รียนผู้อาศยั รว่ มห้องพัก หรอื ทางานในห้องเดียวกนั คลุกคลกี ัน ผสู้ มั ผสั ทม่ี กี ารพูดคุยกับผปู้ วุ ยในระยะ 1 เมตร นานกว่า 5 นาที หรือถกู ไอ จาม รด จากผปู้ วุ ยโควิด 19 โดยไม่มกี ารปูองกนั เช่น ไมส่ วมหน้ากากอนามยั หรือหนา้ กากผา้ ผูท้ อี่ ยใู่ นบริเวณทปี่ ดิ ไมม่ ีการถ่ายเทอากาศ เช่นในรถปรับอากาศ ในห้องปรบั อากาศ รวมกับผปู้ ุวยโรคโควดิ 19 และอยู่ หา่ งจากผู้ปวุ ยไมเ่ กนิ 1 เมตร นานกวา่ 15 นาที โดยไม่มกี ารปูองกนั เชน่ ไมส่ วมหน้ากากอนามัย หรอื หน้ากากผ้า ผูส้ มั ผสั ทมี่ คี วามเส่ียงต่อการติดเชอ้ื ต่า (Low risk content) (ผสู้ มั ผสั เสยี่ งต่า) หมายถงึ ทากจิ กรรมอ่ืน ๆ รว่ มกบั ผู้ปวุ ยโรคโควิด 19 แต่ไมเ่ ข้าเกณฑค์ วามเส่ยี งสูง ผใู้ กลช้ ิด - ผูใ้ กลช้ ิดกับผสู้ ัมผัสเสย่ี งสงู จัดเปน็ ผู้ทม่ี ีความเสยี่ งต่อการติดเชือ้ ต่า - ผูใ้ กลช้ ดิ กับผู้สมั ผสั เส่ยี งต่า จัดเปน็ ไม่มีความเสี่ยง (No risk)
ค่มู ือแผนเผชิญเหตโุ รงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 37 แนวทางปฏบิ ตั ิเม่ือพบผปู้ ว่ ยยืนยนั โรคโควดิ 19 ในสถานศกึ ษา ให้ปิดหอ้ งเรยี น/ ชน้ั เรยี น/ สถานศึกษา กรณพี บผู้ปุวยยนื ยนั โรคโควิด 19 1. เมื่อพบผู้ปุวยยืนยนั โรคโควิด 19 จานวน 1 รายขึน้ ไป ใหป้ ิดห้องเรียนเป็นเวลา 3 วนั เพื่อทาความสะอาด 2. เม่ือพบผปู้ ุวยยนื ยันโรคโควดิ 19 มากกว่า 1 หอ้ งเรยี น ให้ปดิ ชนั้ เรยี นเปน็ เวลา 3 วนั เพ่ือทาความสะอาด 3. ความจาเปน็ ต้องปิดสถานศกึ ษา ให้ขอความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวัด ไม่ตอ้ งปดิ ห้องเรียน/ ชั้นเรียน/ สถานศึกษา กรณที ่ไี ม่พบผู้ปุวยยืนยันโรคโควิด 19 ในสถานศึกษา โดยมีแนวทางดาเนินการดังนี้ 1. ผูส้ ัมผสั ทม่ี ีความเสี่ยงต่อการตดิ เชื้อสงู (High risk cintent) ในสถานศึกษา ดงั นี้ - ความเส่ียงต่อการติดเช้อื สงู (High risk cintent) ใหส้ งั เกตอาการทบ่ี ้านเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน พบอาการผิดปกติ ไปพบแพทยเ์ พ่อื ตรวจวนิ ิจฉยั ระหวา่ งรอผลใหก้ บั ตวั ท่ีบา้ น - สถานศกึ ษาดาเนนิ กิจกรรม ไดต้ ามปกตแิ ละสื่อสารใหผ้ ทู้ ี่เกย่ี วขอ้ งเขา้ ใจความเส่ียง และแนวทาง การดาเนนิ การในระยะต่อไป 2. ผูส้ มั ผสั ที่มคี วามเสี่ยงต่อการตดิ เช้ือต่า ( Low risk cintent) ให้สงั เกตอาการเปน็ เวลา 14 วนั ไมจ่ าเป็นต้องหยดุ เรียนและไม่จาเปน็ ตอ้ งปดิ สถานศึกษา (รักษาตามอาการหายปวุ ยแลว้ เรยี นตอ่ ได้) 3. ผู้ใกลช้ ิด - ผใู้ กลช้ ิดกับผู้สัมผัสเสย่ี งสูงจัดว่ามคี วามเสยี่ งตา่ ไม่จาเปน็ ต้องหยดุ เรยี นแต่ให้สังเกตอาการเป็นเวลา 14 วนั - ผู้ใกล้ชดิ กับผู้สมั ผสั เสียงต่าจัดวา่ ไมม่ ีความเสีย่ งไม่จาเปน็ ต้องหยดุ เรยี นแตใ่ ห้สังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน หมายเหตุ ทง้ั น้ใี นทกุ กรณี ขอให้ดาเนนิ การบนพน้ื ฐานของขอ้ มูลการสอบสวนทางระบาดวทิ ยาและสถานการณ์โรคในพนื้ ที่ แนวปฏบิ ตั ิสาหรับสถานศกึ ษาระหว่างเปิดภาคเรียน ผทู้ ่มี ไี ข้หรอื วัดอณุ หภูมริ า่ งกาย ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซยี สขน้ึ ไป รว่ มกับอาการทางเดินหายใจอย่างใด อยา่ งหนึ่ง อาทิ มนี า้ มูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนื่อยหอบ ไมไ่ ดก้ ลิ่น ไม่รู้รส และมปี ระวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ปุวยยืนยัน ในช่วง 14 วนั ก่อนมีอาการ ถอื วา่ เปน็ ผู้สัมผัสความเส่ียงหรือเปน็ กลมุ่ เส่ยี ง ต้องรบี แจ้งเจา้ หนา้ ที่สาธารณสุขดาเนนิ การตอ่ ไป หลักปฏิบัติในการปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19 ในสถานศึกษา 1) คดั กรอง (Screening) : ผูท้ เี่ ข้ามาในสถานศกึ ษาทกุ คน ต้องไดร้ ับการคดั กรองวดั อณุ หภมู ิรา่ งกาย 2) สวมหน้ากาก (Mask) : ทกุ คนต้องสวมหน้ากากผา้ หรือหนา้ กากอนามัย ตลอดเวลาทอ่ี ยู่ในสถานศกึ ษา 3) ล้างมือ(Hand Washing) : ลา้ งมอื บอ่ ย ๆ ดว้ ยสบู่และนา้ นานอย่างน้อย 20 วินาที หรอื ใช้เจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการสมั ผัสบรเิ วณจุดเส่ียง เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู เป็นต้น รวมท้ังไม่ใช้มือ สัมผสั ใบหน้า ตา ปาก จมกู โดยไมจ่ าเป็น 4) เว้นระยะหา่ ง : เว้นระยะห่างระหว่างบคุ คล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร รวมถึงการจดั เวน้ ระยะหา่ งของสถานที่ (Social Distancing)
คมู่ อื แผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวิทยา ๓ 38 5) ทาความสะอาด(Cleaning): เปดิ ประตู หน้าต่าง ใหอ้ ากาศถ่ายเท ทาความสะอาดห้องเรียน และบรเิ วณตา่ ง ๆ โดยเช็ดทาความสะอาดพ้ืนผิวสัมผัสของโต๊ะ เก้าอี้ และวัสดุอุปกรณ์ก่อนเข้าเรียน ช่วงพักเท่ียง และหลังเลิกเรียนทุกวัน รวมถึงจัดให้มีถังขยะมูลฝอยแบบมีฝาปิดและ รวบรวมขยะออกจากห้องเรยี น เพื่อนาไปกาจัดทุกวัน 6) ลดแออัด (Reducing) : ลดระยะเวลาการทากจิ กรรมให้สน้ั ลงเท่าท่ีจาเป็นหรือเหลอ่ื มเวลาทากิจกรรมและ หลีกเล่ียงการทากจิ กรรมรวมตวั กนั เป็นกลุม่ ลดแออดั เพื่อให้แนวปฏิบัติสาหรับสถานศึกษาในการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เกิดประโยชน์และ มีผลกระทบในทางทด่ี ีต่อบุคลากรที่เกย่ี วข้อง ได้แก่ ผ้บู รหิ าร เจ้าของสถานศกึ ษา ครู ผู้ดูแลนักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และแม่ครัว ผู้จาหน่ายอาหาร ผู้ปฏิบัติงานทาความสะอาด ดังนั้น จึงกาหนดให้มีแนวปฏิบัติบุคลากรของสถานศึกษา สาหรับใช้เปน็ แนวทางการปฏบิ ตั ิตนอยา่ งเครง่ ครดั มดี ังนี้ แนวปฏบิ ัตสิ าหรับผ้บู รหิ าร เจ้าของสถานศกึ ษา 1. ประกาศนโยบายและแนวปฏิบัตกิ ารปอู งกนั การแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 ในสถานศึกษา 2. จัดตั้งคณะทางานดาเนินการควบคุมดูแลและปูองกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ประกอบด้วย ครู นักเรยี น ผ้ปู กครอง เจ้าหน้าท่สี าธารณสขุ ทอ้ งถ่ิน ชุมชน และผู้เกย่ี วขอ้ ง พรอ้ มบทบาทหน้าที่ 3. ทบทวน ปรับปรุง ซ้อมปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินของสถานศึกษาในภาวะที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อ (Emergency operation for infectious disease outbreaks) 4. ส่ือสารประชาสัมพันธ์การปูองกันโรคโควิด 19 เกี่ยวกับนโยบาย มาตรการ แนวปฏิบัติ และการจัดการเรียน การสอนใหแ้ ก่ครู นกั เรยี น ผปู้ กครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ผ่านช่องทางส่ือที่เหมาะสมและติดตามข้อมูล ข่าวสารท่ีเก่ียวข้องกบั โรคโควิด 19 จากแหลง่ ขอ้ มลู ท่ีเชอื่ ถือได้ 5. สื่อสารทาความเขา้ ใจเพื่อลดการรังเกยี จและลดการตีตราทางสงั คม (Social stigma) 6. มมี าตรการคัดกรองสุขภาพทุกคน บริเวณทางเข้าไปในสถานศึกษา (Point of entry) ให้แก่ นักเรียน ครู บุคลากร และผู้มาติดต่อ และจัดให้มีพื้นที่แยก และอุปกรณ์ปูองกัน เช่น หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ อย่างเพียงพอ รวมถงึ เพ่มิ ชอ่ งทางการสื่อสารระหวา่ งครู นกั เรียน ผูป้ กครอง และเจ้าหนา้ ท่ีสาธารณสุข ในกรณีที่พบ นักเรียนกลุ่มเสยี่ งหรือสงสัย 7. ควรพิจารณาการจัดให้นักเรียนสามารถเข้าถึงการเรียนการสอนท่ีมีคุณภาพเหมาะสมตามบริบทอย่างต่อเน่ือง ตรวจสอบติดตาม กรณีนักเรียนขาดเรียน ลาปุวย การปิดสถานศึกษา การจัดให้มีการเรียนทางไกล ส่ือออนไลน์ การตดิ ต่อทางโทรศัพท์ Social media โดยตดิ ตามเป็นรายวันหรอื สัปดาห์ 8. กรณีพบนักเรียน ครู บุคลากร หรือผู้ปกครองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ปุวยยืนยันเข้ามาในสถานศึกษาให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ สาธารณสขุ ในพนื้ ท่ี เพื่อดาเนนิ การสอบสวนโรคและพิจารณาปิดสถานศกึ ษา ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ๙. ควบคุม กากับติดตาม และตรวจสอบการดาเนินงานตามมาตรการปูองกันการแพร่ระบาดของในสถานศึกษาอย่างเคร่งครัดและ ตอ่ เนือ่ ง
คูม่ อื แผนเผชญิ เหตโุ รงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 39 แนวปฏบิ ัตสิ าหรับครู ผูด้ แู ลนักเรยี น 1. ติดตามขอ้ มูลขา่ วสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค พื้นทเี่ ส่ยี ง คาแนะนาการปอู งกนั ตนเองและลดความเสย่ี ง จากการแพร่กระจายของเช้อื โรคโควดิ 19 จากแหลง่ ข้อมูลท่ีเชื่อถอื ได้ 2. สังเกตอาการปวุ ยของตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ มีนา้ มกู เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนือ่ ยหอบ ไม่ไดก้ ลน่ิ ไมร่ ้รู ส ใหห้ ยุดปฏิบัตงิ าน และรบี ไปพบแพทย์ทนั ที กรณมี คี นในครอบครัวปุวยดว้ ยโรคโควดิ 19 หรอื กลบั จากพน้ื ที่เสย่ี ง และอยใู่ นช่วงกักตัว ให้ปฏิบตั ติ ามคาแนะนาของเจ้าหน้าทีส่ าธารณสุขอยา่ งเคร่งครดั 3. แจ้งผูป้ กครองและนกั เรยี น ให้นาของใชส้ ว่ นตัวและอุปกรณ์ปูองกันมาใช้เปน็ ของตนเอง พร้อมใช้ เช่น ชอ้ น ส้อม แก้วนา้ แปรงสีฟัน ยาสฟี ัน ผ้าเชด็ หนา้ หนา้ กากผา้ หรอื หน้ากากอนามยั เปน็ ตน้ 4. สอ่ื สารความรคู้ าแนะนาหรือจดั หาส่อื ประชาสมั พันธ์ในการปูองกันและลดความเสย่ี งจากการแพร่กระจาย โรคโควิด 19 ใหแ้ กน่ กั เรยี น เช่น สอนวธิ กี ารล้างมือท่ีถูกต้อง การสวมหน้ากากผ้าหรอื หน้ากากอนามัยคาแนะนา การปฏบิ ตั ิตัว การเว้นระยะห่างทางสังคม การทาความสะอาด หลีกเลย่ี งการทากิจกรรมรว่ มกันจานวนมาก เพือ่ ลดความแออดั 5. ทาความสะอาดส่อื การเรียนการสอนหรอื อุปกรณ์ของใช้ร่วมที่เป็นจดุ สมั ผัสเสยี่ ง ทกุ ครัง้ หลังใชง้ าน 6. ควบคมุ ดแู ลการจัดทนี่ ่ังในหอ้ งเรียน ระหวา่ งโต๊ะเรยี น ที่น่ังในโรงอาหาร การจดั เวน้ ระยะหา่ ง ระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร หรอื เหล่อื มเวลาพักกินอาหารกลางวนั และกากบั ให้นักเรียน สวมหน้ากากผา้ หรือหนา้ กาก อนามัยตลอดเวลา และล้างมอื บอ่ ย ๆ 7. ตรวจสอบ กากับ ตดิ ตามการมาเรียนของนกั เรียนขาดเรียน ถกู กักตัว หรอื อยู่ในกลุม่ เสี่ยงต่อการติดโรคโควดิ 19 และรายงานต่อผบู้ ริหาร 8. ทาการตรวจคดั กรองสขุ ภาพทุกคนท่เี ขา้ มาในสถานศกึ ษาในตอนเชา้ ท้ังนักเรียน ครู บุคลากร และผูม้ าติดต่อโดยใช้ เครอื่ งวัดอุณหภูมริ ่างกาย พรอ้ มสังเกตอาการและสอบถามอาการของระบบทางเดนิ หายใจ เชน่ ไข้ ไอ มีน้ามกู เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนอ่ื ยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไมร่ ู้รส โดยติดสัญลักษณ์ สติ๊กเกอร์หรือตราปมั๊ แสดงให้เห็นชัดเจนวา่ ผา่ นการคดั กรองแลว้ ►กรณีพบนักเรียนหรือผู้มีอาการมีไข้ อุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเชียส ขึ้นไป ร่วมกับอาการระบบ ทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง จัดให้อยู่ในพ้ืนท่ีแยกส่วน ให้รีบแจ้งผู้ปกครองมารับและพาไปพบแพทย์ ให้หยุด พักท่ีบ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขเพื่อประเมินสถานการณ์และดาเนินการสอบสวน โรค และแจง้ ผบู้ รหิ ารเพื่อพิจารณาการปิดสถานศึกษาตามมาตรการแนวทางของกระทรวงสาธารณสขุ ►บันทึกผลการคัดกรองและสง่ ตอ่ ประวัติการปุวย ตามแบบบันทกึ การตรวจสขุ ภาพ ►จัดอุปกรณ์การล้างมือ พร้อมใช้งานอย่างเพียงพอ เช่น เจลแอลกอฮอล์วางไว้บริเวณทางเข้า สบู่ล้างมือบริเวณ อ่างลา้ งมือ 9. กรณคี รสู งั เกตพบนกั เรียนทมี่ ีปัญหาพฤติกรรม เช่น เด็กสมาธสิ ั้น เด็กทีม่ ีความวิตกกงั วลสูง อาจมีพฤติกรรมดูดนว้ิ หรือกัดเลบ็ ครสู ามารถติดตามอาการและนาเขา้ ข้อมลู ที่สงั เกตพบในฐานข้อมูล ด้านพฤตกิ รรมอารมณส์ งั คมของ
คมู่ ือแผนเผชิญเหตโุ รงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 40 นักเรยี น (หรือฐานข้อมลู HERO) เพ่อื ใหเ้ กิดการดแู ลช่วยเหลอื รว่ มกับผ้เู ช่ียวชาญด้านสขุ ภาพจิตตอ่ ไป 10. วธิ ีการปรบั พฤตกิ รรมสาหรบั นกั เรียนที่ไมร่ ว่ มมือปฏบิ ตั ติ ามมาตรการท่ีครกู าหนด ด้วยการแก้ปญั หาการเรียนรู้ ใหมใ่ หถ้ ูกต้อง น่ันคอื “สร้างพฤติกรรมที่พงึ ประสงค์” หรอื “ลดพฤตกิ รรมทไ่ี ม่พึงประสงค์” 11. ครูส่ือสารความรเู้ กยี่ วกับความเครยี ด ว่าเปน็ ปฏกิ ิริยาปกตทิ ่เี กดิ ขนึ้ ได้ในภาวะวิกฤติที่มีการแพรร่ ะบาดของ โรคโควิด 19 และนากระบวนการการจัดการความเครียด การฝึกสติให้กลมกลืนและเหมาะสมกับนักเรียน แตล่ ะวัย ร่วมกบั การฝกึ ทักษะชีวติ ที่เสริมสรา้ งความเข้มแข็งทางใจ (Resilience) ให้กับนักเรียน ได้แก่ ทักษะชีวิต ดา้ นอารมณ์ สงั คม และความคดิ เป็นตน้ 12. ครูสังเกตอารมณ์ความเครียดของตัวท่านเอง เนื่องจากภาระหน้าท่ีการดูแลนักเรียนจานวนมาก และกากับ ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามมาตรการปูองกันการตดิ โรคโควดิ 19 เป็นบทบาทสาคัญ อาจจะสร้างความเครียดวิตกกังวล ท้ังจาก การเฝูาระวงั นกั เรียน และการปูองกันตัวท่านเองจากการสัมผัสกับเชื้อโรค ดังน้ันเมื่อครูมีความเครียด จากสาเหตุ ตา่ ง ๆ มีขอ้ เสนอแนะ ดงั นี้ 1) ความสับสนมาตรการของสถานศึกษาท่ีไม่กระจ่างชัดเจน แนะนาให้สอบทานกับผู้บริหาร หรือเพ่ือน รว่ มงาน เพื่อใหเ้ ข้าใจบทบาทหน้าท่แี ละข้อปฏิบัติทต่ี รงกัน 2) ความวิตกกังวล กลัวการติดเชื้อในสถานศึกษา พูดคุยส่ือสารถึงความไม่สบายใจ ร้องขอสิ่งจาเป็นสาหรับ การเรียนการสอนที่เพียงพอต่อการปูองกันการติดโรคโควิด 19 เช่น สถานท่ีสื่อการสอนกระบวน การเรียนรู้ การส่งงานหรือตรวจการบ้าน เป็นต้น หากท่านเป็นกลุ่มเสี่ยง มีโรคประจาตัวสามารถ เขา้ สู่แนวทางดูแลบุคลากรของสถานศกึ ษา 3) จัดให้มีการจัดการความเครียด การฝึกสติ เป็นกิจวัตรก่อนเร่ิมการเรียนการสอนเพื่อลดความวิตกกังวล ตอ่ สถานการณท์ ี่ตึงเครียดนี้ แนวปฏบิ ัติสาหรบั นักเรียน 1. ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 พื้นท่ีเสี่ยง คาแนะนาการปูองกันตนเองและ ลดความเส่ียงจากการแพรก่ ระจายของโรคโควดิ 19 จากแหลง่ ข้อมลู ทเ่ี ชอ่ื ถือได้ 2. สังเกตอาการปุวยของตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหน่ือยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส รีบแจ้งครูหรือผู้ปกครองให้พาไปพบแพทย์ กรณีมีคนในครอบครัวปุวยด้วยโรคโควิด 19 หรือกลับจากพื้นท่ีเสี่ยง และอยใู่ นชว่ งกักตวั ใหป้ ฏิบัตติ ามคาแนะนาของเจา้ หน้าทีส่ าธารณสุขอย่างเครง่ ครดั 3. มีและใช้ของใช้ส่วนตัว ไม่ใช้ร่วมกับผู้อ่ืน เช่น ข้อน ส้อม แก้วน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าเช็ดหน้า หน้ากากผ้าหรือ หนา้ กากอนามัย และทาความสะอาดหรือเก็บใหเ้ รยี บรอ้ ย ทกุ ครั้งหลงั ใช้งาน 4. กรณีนกั เรยี นด่ืมน้าบรรจขุ วด ควรแยกเฉพาะตนเอง และทาเคร่ืองหมายหรือสัญลกั ษณ์เฉพาะไม่ให้ปะปนกบั ของคนอ่ืน 5. หม่ันล้างมือบ่อย ๆ ด้วยวิธีล้างมือ 7 ขั้นตอน อย่างน้อย 20 วินาที ก่อนกินอาหาร หลังใช้ส้วม หลีกเล่ียงใช้มือ สัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จาเป็น รวมถึงสร้างสุขนิสัยท่ีดีหลังเล่นกับเพื่อน เม่ือกลับมาถึงบ้านต้องรีบ อาบน้า สระผม และเปลีย่ นเสอื้ ผ้าใหม่ทนั ที
คู่มือแผนเผชญิ เหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวทิ ยา ๓ 41 6. เวน้ ระยะห่างระหว่างบุคคล อยา่ งนอ้ ย 1 - 2 เมตร ในการทากิจกรรมระหว่างเรียน ชว่ งพัก และหลงั เลิกเรยี น เช่น นั่งกินอาหาร เลน่ กบั เพ่อื น เขา้ แถวต่อควิ ระหวา่ งเดินทางอยู่บนรถ 7. สวมหนา้ กากผา้ หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาทอี่ ยู่ในสถานศกึ ษา 8. หลีกเล่ยี งการไปในสถานท่ีท่ีแออดั หรอื แหลง่ ชุมชนทเี่ สี่ยงต่อการติดโรคโควิด 19 9. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการกินอาหารปรุงสุก ร้อน สะอาด อาหารครบ 5 หมู่ และผัก ผลไม้ 5 สี เสริมสร้าง ภูมิคุ้มกัน ควรเสริมอาหารเช้าจากบ้าน หรือให้ผู้ปกครองจัดเตรียมอาหารกล่อง (Box set) กินที่โรงเรียนแทน รวมถงึ ออกกาลงั กาย อยา่ งน้อย 60 นาที ทุกวัน และนอนหลับอยา่ งเพียงพอ 9 - 11 ชั่วโมงตอ่ วนั 10. กรณีนักเรยี นขาดเรยี นหรอื ถกู กักตวั ควรติดตามความคืบหนา้ การเรียนอย่างสมา่ เสมอ ปรึกษาครู เชน่ การเรยี นการสอน สือ่ ออนไลน์ อา่ นหนงั สือ ทบทวนบทเรยี น และทาแบบฝกึ หดั ที่บา้ น 11. หลีกเลี่ยงการล้อเลียนความผดิ ปตหิ รอื อาการไมส่ บายของเพื่อน เนอื่ งจากอาจจะกอ่ ให้เกิดความหวาดกลัวมาก เกนิ ไปต่อการปวุ ยหรือการตดิ โรคโควิด 19 และเกดิ การแบง่ แยกกีดกันในหม่นู กั เรยี น บทบาทหน้าทข่ี องนกั เรยี นแกนนาดา้ นสขุ ภาพ นักเรียนที่มีจิตอาสา เป็นอาสาสมัครช่วยดูแลสุขภาพเพื่อนนักเรียนด้วยกันหรือดูแลรุ่นน้องด้วย เช่น สภานกั เรยี น เด็กไทยทาได้ อย.นอ้ ย. ยวุ อาสาสมัครสาธารณสขุ (ยวุ อสม.) 1. ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค พ้นื ทเ่ี ส่ียง คาแนะนาการปูองกันตนเองและลดความ เส่ยี งจากการแพร่กระจายของโรคโควดิ 19 จากแหลง่ ข้อมูลที่เช่ือถือได้ 2. ช่วยครูตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายของนักเรียนทุกคนที่มาเรียน ในตอนเช้า โดยมีครูดูแลให้คาแนะนา อยา่ งใกล้ชดิ เน้นการจดั เวน้ ระยะหา่ งระหว่างบคุ คล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร 3. ตรวจดูความเรียบร้อยของนักเรียนทุกคนที่มาเรียน ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยหากพบนักเรียน ไม่ได้สวม ใหแ้ จง้ ครู ผูร้ บั ผิดชอบ เพอื่ จัดหาหนา้ กากผา้ หรือหน้ากากอนามยั สารองให้ 4. เฝูาระวังสังเกตอาการของนักเรียน หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหน่ือยหอบไม่ได้กล่ิน ไมร่ ูร้ ส ให้รีบแจง้ ครูทันที 5. จัดกิจกรรมสื่อสารให้ความรู้คาแนะนาการปูองกันและลดความเส่ียงจากการแพร่กระจายโรค โควดิ 19 แก่เพื่อนนักเรยี น เช่น สอนวิธีการล้างมอื ทีถ่ กู ตอ้ ง การทาหน้ากากผ้า การสวมหน้ากาก การถอดหน้ากากผ้า กรณีเกบ็ ไวใ้ ชต้ ่อ การทาความสะอาดหนา้ กากผา้ การเว้นระยะหา่ งระหว่างบคุ คล จัดทาปูายแนะนาตา่ ง ๆ 6. ตรวจอปุ กรณข์ องใชส้ ่วนตัวของเพอื่ นนกั เรยี นและรุ่นนอ้ ง ใหพ้ รอ้ มใช้งาน เน้นไมใ่ ชร้ ่วมกบั ผู้อนื่ เช่น จาน ช้อน สอ้ ม แกว้ น้า แปรงสีฟัน ยาสีฟนั ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดมอื ของตนเอง 7. จดั เวรทาความสะอาดหอ้ งเรยี น หอ้ งเรยี นรว่ ม และบริเวณจุดสัมผัสเส่ยี งทุกวัน เช่น ลูกบิดประตู กลอน ประตู ราวบันได สนามเดก็ เล่น อปุ กรณ์กีฬา เครอื่ งดนตรี คอมพวิ เตอร์ 8. เปน็ แบบอย่างท่ีดีในการปฏิบตั ติ ัวเพ่ือปูองกันโรคโควิด 19 ด้วยการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยล้างมือบ่อย ๆ กนิ อาหารใช้จาน ช้อน ส้อม แกว้ น้าของตนเอง การเว้นระยะห่าง เปน็ ตน้ โดยถือปฏิบัติเปน็ สขุ นสิ ยั ประจาวนั อย่างสม่าเสมอ
คู่มือแผนเผชิญเหตุโรงเรียนบรรหารแจม่ ใสวิทยา ๓ 42 แนวปฏิบตั ิสาหรบั ผู้ปกครอง 1. ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 พ้ืนท่ีเส่ียง คาแนะนาการปูองกันตนเอง และลดความเส่ยี งจากการแพรก่ ระจายของโรค จากแหลง่ ขอ้ มูลท่เี ชื่อถอื ได้ 2. สงั เกตอาการปุวยของบตุ รหลาน หากมีอาการไข้ ไอ มนี ้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนอื่ ยหอบ ไมไ่ ด้กล่นิ ไม่รู้รส ให้รีบพาไปพบแพทย์ ควรแยกเด็กไม่ให้ไปเล่นกับคนอื่น ให้พักผ่อนอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ กรณีมีคนในครอบครัวปุวยด้วยโรคโควิด 19 หรือกลับจากพ้ืนท่ีเสี่ยง อยู่ในช่วงกักตัวให้ปฏิบัติตามคาแนะนา ของเจา้ หนา้ ทสี่ าธารณสุขอยา่ งเครง่ ครัด 3. จดั หาของใช้ส่วนตวั ให้บุตรหลานอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ทาความสะอาดทุกวัน เช่น หน้ากากผ้า ช้อน ส้อม แกว้ นา้ แปรงสฟี นั ยาสีฟนั ผา้ เช็ดหน้า ผา้ เช็ดตวั 4. จดั หาสบ่หู รอื เจลแอลกอฮอล์ และกากับดแู ลบตุ รหลานให้ล้างมือบอ่ ย ๆ ก่อนกินอาหาร หลังใช้ส้วม หลีกเลี่ยง การใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จาเป็น และสร้างสุขนิสัยที่ดี หลังเล่นกับเพื่อนและเม่ือกลับมาถึง บ้าน ควรอาบน้า สระผม และเปลย่ี นชุดเส้ือผา้ ใหมท่ ันที 5. ดูแลสุขภาพบุตรหลาน จัดเตรียมอาหารปรุงสุก ใหม่ ส่งเสริมให้กินอาหารร้อน สะอาด อาหารครบ 5 หมู่ และผัก ผลไม้ 5 สี และควรจัดอาหารกล่อง (Box set) ให้แก่นักเรียนในช่วงเช้าแทนการซื้อจากโรงเรียน (กรณีท่ีไม่ได้กินอาหารเช้าจากท่ีบ้าน) เพ่ือเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ออกกาลังกาย อย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน และนอนหลบั อยา่ งเพยี งพอ 8 - 10 ช่ัวโมงต่อวนั 6. หลีกเล่ียงการพาบุตรหลานไปในสถานเสี่ยงต่อ การติดโรคโควิด 19 สถานท่ีแออัดท่ีมีการรวมกันของคน จานวนมาก หากจาเปน็ ตอ้ งสวมหนา้ กากผา้ หรอื หนา้ กากอนามยั ล้างมือบอ่ ย ๆ ดว้ ยวธิ ีการ 7 ขนั้ ตอนดว้ ยสบู่ และนา้ นาน 20 วินาที หรอื ใช้เจลแอลกอฮอล์ 7. กรณมี กี ารจัดการเรียนการสอนทางไกล ออนไลน์ ผู้ปกครองควรให้ความร่วมมือกับครูในการดูแลจัดการเรียน การสอนแก่นกั เรยี น เช่น การส่งการบา้ น การรว่ มทากิจกรรม เปน็ ต้น แนวปฏบิ ัตสิ าหรบั แม่ครัว ผจู้ าหน่ายอาหาร และผปู้ ฏิบตั งิ านทาความสะอาด 1. ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาตของโรคโควิด 19 พ้ืนที่เส่ียง คาแนะนาการปูองกันตนเอง และลดความเสยี่ งจากการแพร่กระจายของโรค จากแหลง่ ข้อมูลท่ีเช่อื ถอื ได้ 2. สังเกตอาการปุวยของตนเอง หากมอี าการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส ให้หยุดปฏิบัติงานและรีบไปพบแพทย์ทันที กรณีมีคนในครอบครัวปุวยด้วยโรคโควิด 19 หรือกลับจากพื้นท่ี เสย่ี งและอย่ใู นชว่ งกกั ตวั ให้ปฏิบตั ิตามคาแนะนาของเจ้าหน้าทส่ี าธารณสขุ อย่างเคร่งครดั 3. ลา้ งมอื บ่อย ๆ ดว้ ยสบแู่ ละน้า ก่อน - หลังปรุงและประกอบอาหาร ขณะจาหน่ายอาหาร หลังสัมผัส ส่ิงสกปรก เมื่อจับเหรียญหรือธนบัตร หลังใช้ส้วม ควรล้างมือด้วยสบู่และน้าหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ และหลีกเล่ียง การใช้มือสมั ผสั ใบหน้า ตา ปาก จมกู โดยไมจ่ าเป็น
คูม่ อื แผนเผชญิ เหตโุ รงเรียนบรรหารแจม่ ใสวิทยา ๓ 43 4. ขณะปฏิบัติงานของผู้สัมผัสอาหาร ต้องสวมหมวกคลุมผม ผ้ากันเปื้อน ถุงมือ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากาก อนามยั และปฏบิ ัติตนตามสุขอนามยั สว่ นบคุ คลทีถ่ กู ตอ้ ง 5. ปกปดิ อาหาร ใส่ถงุ มือและใชท้ ่ีคบี หยบิ จบั อาหาร หา้ มใชม้ อื หยิบจับอาหารพร้อมกินโดยตรง และจัดให้แยกกิน ส่วนกรณรี ้านจาหนา่ ยอาหารสาเรจ็ รปู พรอ้ มกิน ไมค่ วรใช้มือสัมผสั ลงไปในถงุ บรรจุอาหารกอ่ นตักอาหาร 6. จัดเตรียมเมนูอาหารให้ครบ 5 หมู่ และผักผลไม้ 5 สี เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ปรุงสุกใหม่ ให้นักเรียนกิน ภายในเวลา 2 ช่ัวโมง หากเกินเวลาดังกล่าว ใหน้ าอาหารไปอนุ่ จนเดอื ด แล้วนามาเสิร์ฟใหม่ กรณีท่ีไม่สามารถ จดั เหลอื่ มเวลาสาหรบั เด็กในม้อื กลางวัน ใหเ้ ตรียมอาหารกล่องแทนและรบั ประทานทโ่ี ต๊ะเรยี น 7. จดั เตรยี มกระดาษสาหรบั สง่ั รายการอาหาร หรอื ชอ่ งทางสื่อสารอ่ืน ๆ เพ่อื ลดการพดู คยุ และสัมผสั 8. ผู้ปฏิบัติงานทาความสะอาด ผู้ปฏิบัติงานเก็บขนขยะ ต้องใส่อุปกรณ์ปูองกันตนเอง เช่น สวมหน้ากากผ้าหรือ หนา้ กากอนามยั สวมถงุ มือยาง ผา้ ยางกนั เป้ือน รองเทา้ พน้ื ยางห้มุ แข็ง 9. การเกบ็ ขยะ ควรใชป้ ากคีบด้ามยาวเกบ็ ขยะ ใสถ่ ุงขยะปิดปากถุงให้มิดชดิ และนาไปรวบรวมไว้ทพี่ ักขยะ 10.เม่ือปฏิบัติงานเสร็จทุกครั้ง ต้องล้างมือบ่อย 1 และเมื่อกลับมาถึงบ้าน ควรรีบอาบน้า สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า ใหมท่ นั ที คาแนะนาในการทาความสะอาด 1. จัดเตรียมอุปกรณ์ทาความสะอาดอย่างเพียงพอ ได้แก่ น้ายาทาความสะอาดหรือน้ายาฟอกขาวอุปกรณ์ การตวง ถุงขยะ ถังน้า ไม้ถูพ้ืน ผ้าเช็ดทาความสะอาด อุปกรณ์ปูองกันอันตรายส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับ การปฏบิ ตั งิ าน อาทิ ถงุ มอื หน้ากากผ้า เส้ือผ้าทจ่ี ะนามาเปล่ียนหลังทาความสะอาด 2. เลอื กใช้ผลติ ภณั ฑ์ทาความสะอาดพนื้ ผวิ ท่เี หมาะสม ก. กรณีสิ่งของอุปกรณ์เคร่ืองใช้ แนะนาให้ใช้แอลกอฮอล์ 709 หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5% ในการเช็ดทาความสะอาด ข. กรณีเป็นพ้ืนที่ขนาดใหญ่ เช่น พื้นห้อง แนะนาให้ใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีมีส่วนผสมของโซเดียม ไฮโปคลอไรท์ 0.1% (น้ายาซักผ้าขาว) หรือไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ 0.5% ค. ตรวจสอบคุณลักษณะของน้ายาทาความสะอาดบนฉลากข้างขวดผลิตภัณฑ์ วนั หมดอายุ รวมถึง พิจารณาการเลือกใชน้ า้ ยา ข้นึ อยกู่ บั ชนดิ พ้นื ผิววัสดุ เช่น โลหะ หนัง พลาสตกิ 3. เตรียมนา้ ยาทาความสะอาดเพือ่ ฆ่าเชอ้ื ขึ้นอยกู่ บั ชนิดและความเข้มข้นของสารทเ่ี ลอื กใช้ โดยแนะนาให้เลือกใช้ ผลติ ภัณฑฆ์ ่าเช้ือทมี่ สี ่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (รู้จักกันในชื่อ \"น้ายาฟอกขาว\") เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย โดยนามาผสมกบั น้า เพอ่ื ให้ได้ความเข้มขน้ 0.1% หรือ 1,000 สว่ นในลา้ นส่วน ดงั น้ี - กรณี ผลติ ภัณฑ์ มคี วามเขม้ ขน้ 2.54% ให้ผสม 40 มิลลิลติ ร (2.8 ช้อนโตะ๊ ) : น้า 1 ลิตร - กรณี ผลติ ภณั ฑ์ มีความเข้มขน้ 5.7% ให้ผสม 18 มิลลิลิตร (1.2 ช้อนโตะ๊ ) : นา้ 1 ลติ ร - กรณี ผลติ ภณั ฑ์ มีความเขม้ ขน้ 5% ใหผ้ สม 20 มลิ ลิลิตร (1.3 ชอ้ นโตะ๊ ) : น้า 1 ลิตร - กรณี ผลิตภณั ฑ์ มีความเข้มขน้ 6% ให้ผสม 17 มลิ ลลิ ิตร (1.1 ชอ้ นโตะ๊ ) : นา้ 1 ลิตร
คมู่ อื แผนเผชิญเหตุโรงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 44 หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อท่ีมีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยนามาผสมกับน้า เพ่ือให้ได้ความ เข้มขน้ 0.5% หรอื 5,000 สว่ นในล้านสว่ น ดังน้ี - กรณี ผลิตภัณฑ์ มคี วามเขม้ ขน้ 5% ใหผ้ สม 110 มิลลิลิตร (7.5 ชอ้ นโตะ๊ ) : นา้ 1 ลิตร - กรณี ผลิตภัณฑ์ มคี วามเขม้ ข้น 3% ให้ผสม 200 มลิ ลลิ ิตร (13.5 ชอ้ นโต๊ะ) : น้า 1 ลิตร 4. ส่ือสารให้ความรู้ข้ันตอนการทาความสะอาดท่ีถูกต้อง เหมาะสม รวมทั้งแนะนาสุขอนามัยในการดูแลตนเอง กับผูป้ ฏิบตั งิ าน - ล้างมอื ด้วยสบแู่ ละน้า กอ่ น - หลงั ทาความสะอาดทุกครง้ั - สวมอุปกรณ์ปอู งกันตวั เองทุกครงั้ เมอ่ื ตอ้ งทาความสะอาดและฆ่าเชื้อ - เปดิ ประตหู นา้ ต่าง ขณะทาความสะอาด เพื่อให้มีการระบายอากาศ - หากพื้นผิวสกปรก ควรทาความสะอาดเบ้ืองตันก่อน เช่น นาผ้าชุบน้าเช็ดบริเวณท่ีมีฝุนหรือ คราบสกปรก ก่อนที่จะใช้นา้ ยาทาความสะอาดเพ่ือฆ่าเชื้อ - ควรทาความสะอาดและฆ่าเชื้อทั่วท้ังบริเวณ ก่อน - หลัง ใช้งานทุกคร้ัง และเน้นบริเวณท่ีมีการ สมั ผสั หรือใชง้ านรว่ มกันบ่อย ๆ เช่น ลูกบิดประตู รีโมทคอนโทรล ปุมกดลิฟท์ ซ่ึงเป็นพื้นผิวขนาด เล็ก โดยนาผ้าสาหรับเช็ดทาความสะอาดซุบน้ายาฟอกขาวที่เตรียมไว้ตามข้อ 2 หรือใช้ แอลกอฮอล์ 70% หรือไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ 0.5% เชด็ ทาความสะอาดและฆา่ เชอ้ื - สาหรับพื้น ใช้ไม้ถูพื้นชุบด้วยน้ายาฆ่าเช้ือที่เตรียมไว้ตามข้อ 2 เร่ิมถูพื้นจากมุมหน่ึงไปยังอีกมุม หน่ึง ไมซ่ ้ารอยเดิม โดยเรมิ่ จากบริเวณท่สี กปรกน้อยไปมาก - การทาความสะอาดห้องน้า ห้องส้วม ด้วยน้ายาทาความสะอาดท่ัวไป พ้ืนห้องส้วมให้ฆ่าเช้ือโดย ราดน้ายาฟอกขาวท่ีเตรียมไว้ตามข้อ 2 ท้ิงไว้อย่างน้อย 10 นาที เช็ดเน้นบริเวณท่ีรองนั่งโถส้วม ฝาปิดโถส้วม ที่กดชักโครก สายชาระ ราวจับ ลูกบิดหรือกลอนประตู ที่แขวนกระดาษชาระ อา่ งล้างมอื ขันน้า ก๊อกน้า ท่ีวางสบู่ ผนงั ซอกประตู ด้วยผ้าชุบน้ายาฟอกขาวท่ีเตรียมไว้ตามข้อ 2 หรือใชแ้ อลกอฮอล์ 70% หรอื ไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ 0.5% - หลังทาความสะอาด ควรซักผ้าเช็ดทาความสะอาดและไม้ถูพื้น ด้วยน้าผสมผงซักฟอกหรือน้ายา ฆา่ เชอื้ แลว้ ซกั ด้วยนา้ สะอาดอกี ครั้ง และนาไปผ่งึ แดดให้แหง้ - ถอดถงุ มือแลว้ ล้างมือด้วยสบู่และนา้ หากเปน็ ไปไดค้ วรชาระลา้ งร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเร็ว หรือรบี กลบั บ้านอาบนา้ ให้สะอาดทันที - บรรจุภัณฑ์ใส่น้ายาทาความสะอาด ควรคัดแยกออกจากขยะท่ัวไป และทิ้งในถังขยะอันตราย ส่วนขยะอ่ืน ๆ เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือ รวบรวมและท้ิงขยะลงในถุงพลาสติกถุงขยะ ซอ้ นสองชั้น มัดปากถุงใหแ้ นน่ และนาไปทิ้งทนั ที โดยทิง้ รวมกบั ขยะท่วั ไป
คูม่ ือแผนเผชิญเหตโุ รงเรียนบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 45 5. ขอ้ ควรระวงั - สารที่ใชฆ้ า่ เชอื้ ส่วนใหญ่เป็นชนิดสารฟอกขาว อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง เนื้อเย่ืออ่อน ควรระวังไมใ่ หเ้ ขา้ ตาหรือสัมผสั โดยตรง - ไมค่ วรผสมน้ายาฟอกขาวกับสารทาความสะอาดอ่ืนท่ีมีส่วนผสมของแอมโมเนีย - หลีกเลี่ยงการใช้สเปรย์ฉีดพน่ เพอื่ ฆา่ เช้อื เนอื่ งจากอาจทาใหเ้ กิดการแพร่กระจายของเชอ้ื โรค - ไม่ควรนาถุงมือไปใช้ในการทากิจกรรมประเภทอ่ืน 1 ใช้เฉพาะการทาความสะอาดเท่านั้น เพือ่ ปอู งกนั การแพร่กระจายของเชื้อ - หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูก และปาก ขณะสวมถุงมือและระหว่างการทา ความสะอาด รายการนา้ ยาฆา่ เชอื้ ในการทาความสะอาดจาแนกตามลกั ษณะพ้นื ผิว ลกั ษณะพนื้ ผิว ชนดิ สารฆ่าเช้อื ความ ระยะเวลา วิธีการเตรยี ม เข้มขน้ ทีฆ่ า่ เช้อื -พ้ืนผิวทั่วไป พื้นผิวท่เี ปน็ โลหะ แอลกอฮอล์ ที่ฆา่ เช้อื 70% 10 นาที -สงิ่ ของ อุปกรณ์ พนื้ ที่ขนาดเลก็ (เอทานอล เช่น ลูกบิดประตู หรอื เอธิลแอลกอฮออล์) -พ้นื ผิวที่เป็นวัสดแุ ข็ง ไม่มีรูพรุน แอลกอฮอล์ 0.1% 10 นาที ผสม 1 ส่วน ต่อนา้ 49 สว่ น (เชน่ 1 ช้อนโตะ๊ ตอ่ น้า 1 ลติ ร เช่น พนื้ กระเบ้ือง เซรามิก สแตนเลส (เอทานอล กรณีผลิตภัณฑท์ ่ีใช้มคี วาม เข้มขน้ 6%) แต่ไมเ่ หมาะกับพื้นผวิ โลหะ หรือเอธิลแอลกอฮออล)์ 0.5% 1 นาที ผสม 1 สว่ นต่อนา้ 5 สว่ น -พืน้ ผิวทั่วไป (ไม่ใชโ่ ลหะหรอื ไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซต์ (เชน่ 13 ช้อนโต๊ะ ต่อน้า ผลิตภัณฑ์ที่มีการเคลือบสี) 1 ลติ ร กรณีผลิตภณั ฑ์ท่ใี ช้ มคี วามเข้มขน้ 3%) แนวปฏบิ ตั ิด้านอนามัยสงิ่ แวดลอ้ ม สถานศึกษาเป็นสถานท่ีท่ีมีคนอยู่รวมกันจานวนมาก ทั้งนักเรียน ครู ผู้ปกครอง บุคลากร ผู้มาติดต่อและ ผู้ประกอบการร้านค้า กรณีทีน่ ักเรยี นตอ้ งทากิจกรรมรว่ มกบั เพ่ือน ทาให้มีโอกาสใกล้ชิดกันมาก ทาให้เกิดความเสี่ยงต่อ การแพร่กระจายของเชอื้ โรคได้ง่าย จงึ ควรมีแนวปฏบิ ัตกิ ารจัดอาคารสถานที่ ดงั นี้
ค่มู ือแผนเผชิญเหตุโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ 46 1. ห้องเรียน หอ้ งเรยี นรวม เชน่ หอ้ งคอมพิวเตอร์ หอ้ งดนตรี 1) จัดโต๊ะ เก้าอี้ หรือท่ีน่ัง ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร ควรคานึงถึงสภาพบริบท และขนาดพ้ืนท่ี และจดั ทาสญั ลกั ษณ์แสดงจดุ ตาแหน่งชัดเจน กรณีห้องเรยี นไมเ่ พียงพอในการจัด เว้นระยะห่างระหว่าง บุคคลควรจัดให้มีการสลับวันเรียนแต่ละชั้นเรียน การแบ่งจานวนนักเรียน หรือการใช้พ้ืนที่ใช้สอยบริเวณสถานศึกษา ตามความเหมาะสมทัง้ นี้อาจพจิ ารณาวิธปี ฏิบตั ิอ่ืนตามบรบิ ทความเหมาะสม โดยยดึ หลกั Social distancing 2) จดั ใหม้ ีการเหล่ือมเวลาเรยี น การเรียนกลุ่มย่อย หรือวิธีปฏิบัติท่ีเหมาะสมตามบริบทสถานการณ์ และเน้นสวม หนา้ กากผา้ หรอื หน้ากากอนามัยขณะเรียนตลอดเวลา 3) จัดให้มีการระบายอากาศท่ีดี ให้อากาศถ่ายเท เช่น เปิดประตู หน้าต่าง หลีกเลี่ยงการใช้ เคร่ืองปรับอากาศ หากจาเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศ กาหนดเวลาเปิด - ปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดประตูหน้าต่าง ระบายอากาศ ทุก 1 ชั่วโมง และทาความสะอาดอยา่ งสม่าเสมอ 4) จดั ใหม้ เี จลแอลกอฮอลใ์ ช้ทาความสะอาดมอื สาหรบั นักเรียนและครู ใชป้ ระจาทกุ ห้องเรียนอยา่ งเพยี งพอ 5) ให้มีการทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ และจุดสัมผัสเส่ียง เช่น ลูกบิดประตู เคร่ืองเล่นของใช้ร่วมทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 คร้ัง เช้าก่อนเรียนและพักเท่ียง หรือกรณีมีการย้ายห้องเรียน ต้องทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ ก่อนและหลงั ใช้งานทกุ ครง้ั 2. ห้องสมดุ 1) จัดโตะ๊ เกา้ อ้ี หรอื ท่ีนง่ั ใหม้ กี ารเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร และจัดทาสัญลักษณ์แสดง จุดตาแหนง่ ชัดเจน 2) จัดให้มีการระบายอากาศท่ีดี ให้อากาศถ่ายเท เช่น เปิดประตู หน้าต่าง หากจาเป็นต้องใช้ เคร่ืองปรับอากาศ กาหนดเวลาเปิด - ปิดเคร่ืองปรับอากาศ เปิดประตู หน้าต่าง ระบายอากาศ ทุก 1 ช่ัวโมง และทาความสะอาดอย่าง สมา่ เสมอ 3) จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ใช้ทาความสะอาดมือสาหรับครู บรรณารักษ์ นักเรียน และผู้ใช้บริการ บริเวณทางเข้า ดา้ นหนา้ และภายในห้องสมดุ อย่างเพยี งพอ 4) ให้มีการทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอ้ี อุปกรณ์ และจุดสัมผัสเสี่ยง เช่น ลูกบิดประตู ช้ันว างหนังสือทุกวัน วันละ 2 ครั้ง อาทิ เชา้ กอ่ นใหบ้ ริการ พกั เท่ียง 5) การจากัดจานวนคนจากัดเวลาในการเข้าใช้บริการห้องสมุด และให้นักเรียนและผู้ใช้บริการทุกคน สวมหน้ากากผ้าหรอื หน้ากากอนามยั ขณะใชบ้ ริการห้องสมุดตลอดเวลา 3. ห้องประชุม หอประชุม 1) จัดให้มกี ารคัดกรองตรวจวัดอณุ หภูมริ ่างกายก่อนเขา้ หอ้ งประชุม หอประชมุ หากพบผูม้ ีอาการไข้ ไอ มีน้ามกู เจบ็ คอ หายใจสาบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กล่นิ ไม่รู้รส แจ้งงดรว่ มประชมุ และแนะนาให้ไปพบแพทย์ทนั ที 2) จัดโตะ๊ เก้าอี้ หรือท่นี ัง่ ให้มกี ารเวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล 1 - 2 เมตร และจัดทาสัญลกั ษณแ์ สดงจุดตาแหนง่ ชดั เจน 3) ผ้เู ขา้ ประชมุ ทุกคนสวมหน้ากากผ้าหรือหนา้ กากอนามัยขณะประชมุ ตลอดเวลา 4) จดั ให้มเี จลแอลกอฮอล์ใช้ทาความสะอาดมอื สาหรบั ผู้เข้าประชมุ บริเวณทางเข้าภายในอาคาร หอประชมุ บริเวณทางเข้าดา้ นหนา้ และด้านในของหอ้ งประชมุ อย่างเพียงพอและทัว่ ถงึ
คู่มอื แผนเผชญิ เหตุโรงเรียนบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 47 5) งดหรือหลกี เล่ียงการใหบ้ ริการอาหารและเคร่ืองดื่มภายในห้องประชมุ 6) ใหม้ ีการทาความสะอาดโต๊ะ เกา้ อี้ อุปกรณ์ และจุดสมั ผัสเสย่ี งรว่ ม เช่น ลกู บิดประตู รโี มท อปุ กรณ์สื่อ กอ่ นและหลังใช้หอ้ งประชมุ ทุกคร้งั 7) จดั ใหม้ กี ารระบายอากาศทีด่ ี ให้อากาศถา่ ยเท เชน่ เปดิ ประตู หนา้ ตา่ ง ก่อนและหลังใชห้ ้องประชมุ ทุกครั้ง หากจาเป็นต้องใช้เคร่ืองปรบั อากาศ กาหนดเวลาเปิด - ปดิ เคร่อื งปรบั อากาศ เปดิ ประตู หนา้ ต่าง ระบายอากาศ ทกุ 1 ช่วั โมง และทาความสะอาดอย่างสมา่ เสมอ 4. โรงยิม สนามกีฬา 1) จัดพืน้ ที่ทากจิ กรรมและเล่นกีฬา ลดความแออดั อาจจัดให้เลน่ กีฬาเป็นรอบ หรอื ให้มีการเว้นระยะหา่ งระหว่าง บคุ คลอยา่ งนอ้ ย 1 - 2 เมตร 2) จัดให้มีเจลแอลกอฮอลใ์ ช้ทาความสะอาดมือสาหรับนักกฬี าและผมู้ าใช้บริการ บริเวณทางเขา้ และ บรเิ วณด้าน ในอาคารอย่างเพยี งพอและทั่วถึง 3) ทาความสะอาดอุปกรณ์และเครอื่ งเลน่ แต่ละชนดิ กอ่ นหรือหลังเล่นทกุ วนั อย่างน้อยวันละ 1 คร้งั 4) จดั ให้มกี ารระบายอากาศ ให้อากาศถ่ายเท เชน่ เปดิ ประตู หน้าตา่ ง เปดิ พดั ลม 5) จากัดจานวนคน จานวนเวลา ในการเลน่ กฬี าหรอื กิจกรรมภายในอาคารโรงยิม หรอื สนามกีฬา 6) หลกี เลี่ยงการจดั กิจกรรมหรือเลน่ กฬี าประเภทแขง่ ขันเปน็ ทีม หรอื มีการปะทะกันอย่างรุนแรง เชน่ วอลเลยบ์ อล ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอล เป็นตน้ 5. หอ้ งสว้ ม 1) จัดเตรียมอุปกรณ์ทาความสะอาดอย่างเพียงพอ ได้แก่ น้ายาทาความสะอาดหรือน้ายาฟอกขาว อุปกรณ์ การตวง ถุงขยะ ถังน้า ไม้ถูพื้น คีบด้ามยาวสาหรับเก็บขยะ ผ้าเช็ดทาความสะอาด และอุปกรณ์ปูองกันอันตราย สว่ นบุคคลการปฏิบตั งิ าน เชน่ ถงุ มอื หน้ากากผา้ เส้อื ผา้ ทจ่ี ะนามาเปลยี่ นหลงั ทาความสะอาด 2) การทาความสะอาดห้องน้า ห้องส้วม อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ายาทาความสะอาดทั่วไป พื้นห้องส้วม ให้ฆ่าเชื้อโดยใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเช้ือที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (รู้จักกันในช่ือ \"น้ายาฟอกขาว\" โดยนามาผสม กับน้าเพ่ือให้ได้ความเข้มข้น 0.1% หรือ 1,000 ส่วนในล้านส่วน หรือผลิตภัณฑ์ฆ่าเช้ือท่ีมีส่วนผสมของไฮโดรเจน เปอรอ์ อกไซด์ โดยนามาผสมกับนา้ เพอ่ื ให้ได้ความเขม้ ขน้ 0.5% หรอื 5,000 ส่วน ในล้านส่วน ราดน้ายาฆ่าเชื้อ ท้ิงไว้ อย่างน้อย 10 นาที เน้นเช็ดบริเวณที่รองน่ังโถส้วม ฝาปิดโถส้วม ท่ีกดชักโครก สายชาระ ราวจับ ลูกบิดหรือ กลอนประตู ทแี่ ขวนกระดาษชาระ อ่างล้างมือ ขันน้า ก๊อกน้า ที่วางสบู่ ผนัง ซอกประตู ด้วยผ้าชุบน้ายาฟอกขาว หรือ ใช้แอลกอฮอล์ 70% หรอื ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5% 3) หลังทาความสะอาด ควรซักผ้าเช็ดทาความสะอาดและไม้ถูพ้ืน ด้วยน้าผสมผงซักฟอกหรือน้ายาฆ่าเชื้อแล้ว ซกั ด้วยน้าสะอาดอกี ครงั้ และนาไปผง่ึ แดดให้แห้ง
คูม่ ือแผนเผชญิ เหตโุ รงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวิทยา ๓ 48 6. หอ้ งพกั ครู 1) จัดโต๊ะ เก้าอ้ี หรือที่น่ัง ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร ควรคานึงถึงสภาพบริบท และขนาดพื้นท่ี อาจพิจารณาใช้ฉากก้ันบนโต๊ะเรียน และจัดทาสัญลักษณ์แสดงจุดตาแหน่งชัดเจน โดยถือปฏิบัติตาม หลัก Social distancing อย่างเครง่ ครัด 2) ใหค้ รูสวมหนา้ กากผา้ หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาทีอ่ ยู่ในสถานศึกษา 3) จัดให้มกี ารระบายอากาศท่ดี ี ใหอ้ ากาศถา่ ยเท เช่น เปิดประตู หน้าต่าง กรณีใช้เครื่องปรับอากาศ กาหนดเวลา เปิด - ปดิ เครื่องปรบั อากาศ ควรเปดิ ประตู หน้าต่างให้ระบายอากาศ และทาความสะอาดอย่างสมา่ เสมอ 4) ให้มีการทาความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ และจุดสัมผัสเสี่ยง เช่น ลูกบิดประตู โทรศัพท์ อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ เป็นตน้ เป็นประจาทุกวนั อย่างนอ้ ยวันละ 2 ครงั้ 5) จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ใช้ทาความสะอาดมือสาหรับครูและผู้มาติดต่อ บริเวณทางเข้าด้านหน้าประตู และภายในหอ้ งอยา่ งเพยี งพอและทัว่ ถึง 7. ห้องพยาบาล 1) จัดหาครหู รือเจา้ หนา้ ที่ เพ่อื ดูแลนกั เรียน ในกรณีท่มี ีนักเรียนปุวยมานอนพักรอผปู้ กครองมารับ 2) จดั ใหม้ พี นื้ ที่หรอื ห้องแยกอยา่ งชดั เจน ระหวา่ งนกั เรยี นปุวยจากอาการไขห้ วัด กับนกั เรียนปุวยจากสาเหตุอื่น ๆ เพ่ือปูองกนั การแพร่กระจายเชื้อโรค 3) ทาความสะอาดเตยี งและอปุ กรณข์ องใช้ทุกวัน 4) จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ใช้ทาความสะอาดมือ บริเวณทางเข้าหน้าประตูและภายในห้องพยาบาลอย่าง เพยี งพอ 8. โรงอาหาร การจัดบริการภายในโรงอาหาร การนั่งกินอาหารร่วมกันของผู้ใช้บริการ รวมถึงอาหาร ภาชนะ อุปกรณ์ ตู้กดน้าด่ืมระบบกรองน้าและผู้สัมผัสอาหาร อาจเป็นแหล่งแพร่กระจายเช้ือโรค จึงควรมีการดูแลเพ่ือลดและปูองกัน การแพรก่ ระจายเช้ือโรค ดงั นี้ 1) หน่วยงานทจ่ี ดั บริการโรงอาหาร กาหนดมาตรการการปฏิบัติใหส้ ถานทีส่ ะอาด ถูกสขุ ลักษณะ ดงั นี้ (1) จัดให้มีอ่างล้างมือ พร้อมสบู่ สาหรับให้บริการแก่ผู้เข้ามาใช้บริการโรงอาหาร บริเวณก่อนทางเข้า โรงอาหาร (2) ทกุ คนทจ่ี ะเขา้ มาในโรงอาหาร ต้องสวมหน้ากากผ้าหรอื หน้ากากอนามยั (3) จัดให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร ในพื้นท่ีต่าง ๆ เช่น ท่ีนั่งกินอาหาร จุดรับอาหาร จดุ ซือ้ อาหาร จุดรอกดน้าดืม่ จุดปฏิบตั ิงานร่วมกนั ของผูส้ มั ผสั อาหาร (4) จดั เหลอื่ มชว่ งเวลาซ้ือและกินอาหาร เพื่อลดความแออัดพน้ื ท่ภี ายในโรงอาหาร (5) ทาความสะอาดสถานที่ปรุง ประกอบอาหาร พื้นที่ตั้งตู้กดน้าดื่ม และพ้ืนท่ีบริเวณท่ีน่ังกินอาหาร ให้สะอาด ดว้ ยน้ายาทาความสะอาดหรือผงชักฟอก และจัดให้มีการฆ่าเชื้อด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (นา้ ยาฟอกขาว) ที่มีความเข้มข้น 1,000 ส่วนในล้านส่วน (ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 6% อัตราส่วน 1 ชอ้ นโต๊ะต่อนา้ 1 ลิตร)
คมู่ ือแผนเผชญิ เหตโุ รงเรยี นบรรหารแจม่ ใสวทิ ยา ๓ 49 (6) ทาความสะอาดโต๊ะและที่นั่งให้สะอาด สาหรับน่ังกินอาหาร ด้วยน้ายาทาความสะอาดหรือจัดให้มี การฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ 70% โดยหยดแอลกอฮอล์ลงบนผ้าสะอาดพอหมาด ๆ เช็ดไป ในทศิ ทางเดยี วกัน หลงั จากผู้ใชบ้ ริการทกุ คร้ัง (7) ทาความสะอาดภาชนะ อปุ กรณ์ และเครื่องใช้ให้สะอาด ดว้ ยน้ายาล้างจาน และให้มีการฆ่าเชื้อด้วย การแช่ในน้าร้อน 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 วินาที หรือแช่ด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ายาฟอกขาว) ท่ีมีความเข้มข้น 100 ส่วนในล้านส่วน (ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 6% อัตราส่วน ครึ่งชอ้ นชาต่อนา้ 1 ลิตร) 1 นาที แลว้ ล้างน้าใหส้ ะอาด และอบหรือผงึ่ ใหแ้ ห้ง กอ่ นนาไปใชใ้ ส่อาหาร (8) ทาความสะอาดตู้กดน้าด่ืม ภายในตู้ถังเย็น อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และเช็ดภายนอกตู้และ ก๊อกน้าดื่มให้สะอาดทุกวัน และฆ่าเชื้อด้วยการแช่โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ายาฟอกขาว) ท่ีมีความ เข้มข้น 100 ส่วนในล้านส่วน เป็นเวลา 30 นาที ทุกครั้งก่อนบรรจุน้าใหม่ ในกรณีท่ีมีเคร่ืองกรอง น้าควรทาความสะอาดดว้ ยการลา้ งย้อน (Backwash) ทุกสปั ดาห์ และเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลา กาหนดของผลติ ภัณฑ์ และตรวจเช็คความชารุดเสียหายของระบบไฟฟูาที่ใช้ สายดิน ตรวจเช็คไฟฟูา ร่วั ตามจดุ ต่าง ๆ โดยเฉพาะบรเิ วณกอ๊ กนา้ ท่ีถือเปน็ จดุ เสี่ยง เพอื่ ปอู งกันไฟฟูาดดู ขณะใช้งาน (9) จดั บริการอาหาร เนน้ ปูองกนั การปนเป้ือนของเช้ือโรค เช่น อาหารปรุงสาเร็จสกุ ใหม่ทุกครง้ั หลีกเล่ยี งการจาหน่ายอาหารเส่ียง เชน่ อาหารประเภทกะทิ หรอื อาหารปรุงขา้ มวนั การปกปิด อาหารปรงุ สาเรจ็ การใชภ้ าชนะท่เี หมาะสมกบั ประเภทอาหาร และจัดใหม้ ีภาชนะอปุ กรณ์สาหรับ การกินอาหารอยา่ งเพียงพอเปน็ รายบคุ คล เชน่ จาน ถาดหลมุ ชอ้ น ส้อม แก้วน้า เป็นต้น (10) ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ภายในโรงอาหาร เช่น การสวมหน้ากากที่ถูกวิธี ขั้นตอนการล้างมือท่ีถูก ต้องการเว้นระยะห่างระหว่างบคุ คล การเลือกอาหารปรุงสุกใหมส่ ะอาด เป็นต้น (11) กรณีมีการใช้บริการร้านอาหารจากภายนอก จัดส่งอาหารให้กับสถานศึกษา ควรให้ ครูหรือ ผู้รับผิดชอบ ตรวจประเมินระบบสุขาภิบาลอาหารของร้านอาหาร โดยกาหนดข้อตกลงการจัดส่ง อาหารปรุงสุกพร้อมกินภายใน 2 ช่ัวโมงหลังปรุงเสร็จ และมีการปกปิดอาหาร เพื่อปูองกัน การปนเป้อื นส่ิงสกปรกลงในอาหาร (12) พิจารณาทางเลือกให้ผู้ปกครองสามารถเตรียมอาหารกลางวัน (Lunch box) ให้นักเรียน มารับประทานเองเพ่อื ปูองกนั เชือ้ และลดการแพร่กระจายเชื้อ 2) ผ้สู มั ผัสอาหาร ตอ้ งดแู ลสขุ ลกั ษณะสว่ นบคุ คล มกี ารปอู งกนั ตนเองและปอู งกนั การแพรก่ ระจายเชือ้ โรค ดังนี้ (1) หากมีอาการปุวย ไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส ให้หยุด ปฏิบตั ิงานและแนะนาใหไ้ ปพบแพทยท์ ันที (2) ดูแลสุขลักษณะส่วนบุคคล มีการปูองกันตนเอง แต่งกายให้สะอาด สวมใส่ผ้ากันเปื้อนและอุปกรณ์ ปูองกนั การปนเป้ือนสู่อาหาร ในขณะปฏิบัตงิ าน (3) รักษาความสะอาดของมือ ด้วยการล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้า ก่อนปฏิบัติงาน และขณะเตรียม อาหารประกอบอาหาร และจาหนา่ ยอาหาร รวมถึงหลังจากการจบั เหรยี ญหรอื ธนบัตร หรือสัมผัส ส่ิงสกปรก อาจใช้เจลแอลกอฮอล์ทาความสะอาดมือร่วมด้วย หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมกู โดยไมจ่ าเปน็
คมู่ ือแผนเผชิญเหตุโรงเรยี นบรรหารแจ่มใสวทิ ยา ๓ 50 (4) สวมใสห่ น้ากากผา้ หรอื หน้ากากอนามัย ตลอดเวลาขณะปฏิบัติงาน (5) มีพฤติกรรมขณะปฏิบัติงานปูองกันการปนเป้ือนของเช้ือโรค เช่น ใช้อุปกรณ์ในการปรุงประกอบ อาหารเชน่ เขียง มีด การหยบิ จบั อาหาร แยกระหวา่ งอาหารสุก อาหารประเภทเนอ้ื สัตว์สด ผกั และ ผลไม้ และไมเ่ ตรียม ปรุง ประกอบอาหารบนพืน้ โดยตรง (6) จัดเมนูอาหารที่จาหน่าย โดยเน้นอาหารปรุงสุกด้วยความร้อน โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ปรุงให้สุกด้วย ความร้อนไม่น้อยกว่า 70 องศาเซลเซียส หลีกเสี่ยงการจาหน่ายอาหารบูดเสียง่าย เช่น อาหาร ประเภทกะทแิ ละอาหารทไี่ มผ่ ่านความร้อน เชน่ ซชู ิ เปน็ ตน้ (7) อาหารปรุงสาเร็จ จัดเก็บในภาชนะสะอาด มีการปกปิดอาหารจัดเก็บสูงจากพ้ืนไม่น้อยกว่า 60 เซนตเิ มตร กรณอี าหารปรุงสาเรจ็ รอการจาหน่าย ใหน้ ามาอนุ่ ทกุ 2 ชว่ั โมง (8) การใช้ภาชนะบรรจุอาหารแบบใช้คร้ังเดียวทิ้งต้องสะอาดมีคุณภาพเหมาะสมกับการบรรจุอาหาร ปรงุ สาเรจ็ และไม่ควรใชโ้ ฟมบรรจอุ าหาร (9) ระหว่างการปฏิบตั งิ าน ใหม้ ีการเวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล อยา่ งนอ้ ย 1 - 2 เมตร (10) ควรพจิ ารณาให้มรี ะบบชาระเงินออนไลนส์ าหรบั ผูบ้ ริโภค 3) ผทู้ เ่ี ขา้ มาใช้บรกิ ารโรงอาหาร ต้องดาเนนิ การปูองกันตนเอง และปูองกันการแพรก่ ระจายเช้ือโรค ดังนี้ (1) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้า หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทาความสะอาดมือทุกคร้ังก่อนเข้าไปใน โรงอาหารกอ่ นกินอาหารภายหลังซื้ออาหารหลังจากจับเหรียญหรือธนบัตรหลังจากสัมผัสส่ิงสกปรก หรือหลงั ออกจากห้องส้วม (2) ทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาท่ีอยู่ในโรงอาหารหรือเข้าไปในสถานที่ จาหน่ายอาหาร (3) เลอื กซอื้ อาหารปรุงสาเร็จสุกใหม่ หลกี เล่ียงการกินอาหารประเภทเนื้อสตั ว์ เคร่ืองในสัตว์ท่ีปรุงไม่สุก และตรวจสอบคุณภาพของอาหารทันที เช่น สภาพอาหาร กล่ิน ความสะอาดและความเหมาะสม ของภาชนะบรรจุ มีการปกปิดอาหารมดิ ชิด ไม่เลอะเทอะ ไมฉ่ ีกขาด เป็นต้น (4) ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร ในการซ้ืออาหาร ขณะรออาหาร น่งั กนิ อาหาร ขณะรอกดนา้ ดม่ื (5) พิจารณาเลือกใชร้ ะบบการชาระเงนิ แบบออนไลน์ 9. รถรบั - สง่ นกั เรยี น 1) ทาความสะอาดรถรับ – ส่งนกั เรียน และบรเิ วณจดุ สัมผสั เส่ยี ง เชน่ ราวจับ ทเี่ ปิดประตู เบาะนง่ั ทว่ี าง แ ข น ด้ ว ย น้ า ผ ส ม ผ ง ชั ก ฟ อ ก ห รื อ น้ า ย า ท า ค ว า ม ส ะ อ า ด ที่ มี ส่ ว น ผ ส ม ข อ ง โ ซ เ ดี ย ม ไ ฮ โ ป ค ล อ ไ ร ท์ (น้ายาฟอกผ้าขาว) และปฏิบัติตามคาแนะนาบนฉลากผลิตภัณฑ์ (เช่น ผสมโซเดียมไฮโปคลอไรท์ ความเข้มข้น 6% ปริมาณ 20 มิลลิลติ ร ต่อนา้ 1 ลติ ร) 2) นักเรียนที่ใช้บรกิ ารรถรบั – สง่ นกั เรียน ตอ้ งสวมหนา้ กากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาทีอ่ ย่บู นรถ ลดการพดู คุยกนั เลน่ หยอกลอ้ กนั รวมถงึ กาหนดจดุ รับ - สง่ นักเรยี นสาหรับผปู้ กครอง 3) การจดั ทน่ี ัง่ บนรถรับ – ส่งนกั เรียน ควรจดั ให้มีการเว้นระยะหา่ งระหว่างบคุ คล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร
Search