Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รำวงมาตรฐาน

รำวงมาตรฐาน

Published by Thiphawan Phungchoo, 2022-07-15 08:52:53

Description: รำวงมาตรฐาน

Search

Read the Text Version

ใบความรู้เรอ่ื ง รำวงมาตรฐาน รำวงมาตรฐาน ศิลปะแห่งการฟอ้ นรำทงี่ ดงาม พร้อมท้ังเป็นการละเลน่ พืน้ บ้านอย่างหน่งึ ที่บง่ บอกถงึ ความสนุกสนาน จากการฟ้อนรำกนั เปน็ คู่ ๆ เข้าจงั หวะหญงิ -ชาย เพลงที่เป็นท่รี จู้ ักในรำวงมาตรฐานก็เช่น เพลงงามแสงเดอื น เพลงรำมาซิมารำ ซ่ึงเชอื่ ว่าหลาย ๆ คนคงได้เรยี นผา่ นหผู า่ นตาในวชิ านาฏศลิ ปก์ ันมาบ้าง แน่นอน และในวนั น้ี กระปุกดอทคอม จะมาทบทวนความรู้ในเรอ่ื งรำวงมาตรฐาน และร่วมช่วยกนั อนรุ กั ษ์ไว้ เพือ่ ศลิ ปะการฟ้อนรำท่ีงดงามอ้อนชอ้ ยน้ีคงไวใ้ หล้ ูกหลานของเราสบื ไป ประวตั คิ วามเปน็ มาของรำวงมาตรฐาน \"รำวงมาตรฐาน\" เปน็ การแสดงท่ีมวี วิ ัฒนาการมาจาก \"รำโทน\" (กรมศิลปากร, 2550 : 136- 143) เปน็ การรำและการรอ้ งของชาวบา้ นซงึ่ มีผ้รู ำทงั้ ชายและหญิง รำกันเป็นคู่ ๆ รอบ ๆ ครกตำข้าวทว่ี าง คว่ำไว้ หรือไมก่ ร็ ำกนั เปน็ วงกลม โดยมโี ทนเป็นเครอ่ื งดนตรีประกอบจงั หวะ ลกั ษณะการรำและรอ้ งเป็นไปตาม ความถนัด ไม่มแี บบแผนกำหนดไว้ คงเป็นการรำและร้องง่าย ๆ มงุ่ เนน้ ทค่ี วามสนุกสนานรื่นเริงเปน็ สำคัญ เช่น เพลงช่อมาลี เพลงยวนยาเหล เพลงหลอ่ จรงิ นะดารา เพลงตามองตา เพลงใกล้เข้าไปอีกนิด เปน็ ต้น ดว้ ยเหตทุ ี่ การรำชนดิ นม้ี โี ทนเป็นเคร่ืองดนตรปี ระกอบจงั หวะ จึงเรยี กการแสดงชุดนีว้ ่า รำโทน ตอ่ มา เมอ่ื ปี พ.ศ.2487 ในสมยั จอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี รฐั บาลตระหนักถึง ความสำคญั ของการละเลน่ รน่ื เรงิ ประจำชาตแิ ละเห็นวา่ คนไทยนยิ มเล่นรำโทนกันอยา่ งแพร่หลาย ถา้ ปรับปรุง การเลน่ รำโทนใหเ้ ปน็ ระเบียบทงั้ เพลงร้อง ลีลาทา่ รำ และการแต่งกายจะทำให้การเลน่ รำโทนเป็นทนี่ ่านยิ ม มากยิง่ ขึ้น จงึ ไดม้ อบหมายให้กรมศลิ ปากรปรับปรุงรำโทนเสยี ใหม่ใหเ้ ป็นมาตรฐาน มีการแตง่ เน้อื ร้องทำนอง เพลง และนำทา่ รำจากเพลงแมบ่ ทมากำหนดเป็นท่ารำเฉพาะ แตล่ ะเพลงอย่างเปน็ แบบแผน ทงั้ น้ี การรำวงมาตรฐานประกอบด้วยเพลงทัง้ หมด 10 เพลง โดย กรมศลิ ปากรแตง่ เนอื้ ร้องจำนวน 4 เพลง ดังต่อไปนี้ 1. เพลงงามแสงเดอื น (Ngam Sang Duan) คำรอ้ ง : จม่ืนมานิตย์นเรศ (นายเฉลิม เศวตนันท)์ หัวหนา้ กองการสังคตี กรมศิลปากร (ประพันธใ์ น นามกรมศิลปากร) ทำนอง : อาจารยม์ นตรี ตราโมท ความหมายเพลง : ยามทแี่ สงจนั ทรส์ ่องมายังโลกทำใหโ้ ลกน้ี ดสู วยงาม ผู้คนท่มี าเลน่ รำวงยามที่แสง จนั ทรส์ อ่ งก็มคี วามงดงามด้วย การรำวงน้เี พื่อให้มีความสนุกสนาน มีความสามัคคกี ัน และละทง้ิ ความทุกข์ให้ หมดส้นิ ไป เน้อื เพลง: งามแสงเดือนมาเยือนส่องหลา้ งามใบหน้าเมือ่ อยูว่ งรำ (ซ้ำ) เราเลน่ กนั เพ่ือสนกุ เปลื้องทุกขว์ ายระกำ ขอให้เลน่ ฟ้อนรำ เพอ่ื สามัคคีเอย

ใช้ทา่ รำ สอดสร้อยมาลา 2. เพลงชาวไทย (Chaw Thai) คำรอ้ ง : จม่นื มานติ ยน์ เรศ (นายเฉลมิ เศวตนันท์) หวั หนา้ กองการสงั คตี กรมศลิ ปากร (ประพนั ธ์ใน นามกรมศลิ ปากร) ทำนอง : อาจารย์มนตรี ตราโมท ความหมายเพลง : หนา้ ทีท่ ่ชี าวไทยพงึ มตี ่อประเทศชาตนิ ้นั เป็นสิ่งทท่ี ุกคนควรกระทำ อย่าได้ละเลย ไปเสยี ในการที่เราได้มาเล่นรำวงกันอยา่ งสนุกสนาน ปราศจากทุกข์โศกท้ังปวงนีก้ เ็ พราะวา่ ประเทศไทยเรามี เอกราช ประชาชนมเี สรใี นการคิดจะทำสง่ิ ใด ๆ ดังนั้นเราจึงควรชว่ ยกันเชดิ ชูชาตไิ ทยใหเ้ จรญิ รงุ่ เรืองต่อไป เพ่อื ความสขุ ยิ่ง ๆ ข้ึนของไทยเราตลอดไป เน้อื เพลง : ชาวไทยเจา้ เอย๋ ขออย่าละเลยในการทำหนา้ ที่ การทเี่ ราไดเ้ ลน่ สนกุ เปลอื้ งทุกขส์ บายอยา่ งน้ี เพราะชาตเิ ราไดเ้ สรี มเี อกราชสมบูรณ์ เราจงึ ควรชว่ ยชชู าติ ให้เก่งกาจเจดิ จำรญู เพ่ือความสขุ เพิม่ พนู ของชาวไทยเราเอย ใช้ท่ารำ ชกั แป้งผดั หนา้

3. เพลงรำซมิ ารำ (Ram ma si ma ram) คำรอ้ ง : จมนื่ มานิตยน์ เรศ (นายเฉลมิ เศวตนันท)์ หัวหน้ากองการสงั คีต กรมศลิ ปากร (ประพันธ์ใน นามกรมศลิ ปากร) ทำนอง : อาจารย์มนตรี ตราโมท ความหมายเพลง : ขอพวกเรามาเลน่ รำวงกันให้สนุกสนานเถดิ ในยามว่างเชน่ น้ีจะได้คลายทกุ ข์ ถงึ เวลางานเราก็จะทำงานกันจริง ๆ เพ่อื จะได้ไม่ลำบาก และการรำก็จะรำอยา่ งมรี ะเบียบแบบแผน ตาม วฒั นธรรมไทยของเราแล้วจะดูงดงามยง่ิ เนอ้ื เพลง : รำมาซิมารำ เรงิ ระบำกันใหส้ นุก ยามงานเราทำงานกันจรงิ ๆ ไม่ละไม่ทิ้งจะเกดิ เข็ญขุก ถงึ ยามวา่ งเราจงึ รำเลน่ ตามเชงิ เชน่ เพอื่ ให้สรา่ งทุกข์ ตามเย่ียงอย่างตามยุค เลน่ สนกุ อย่างวัฒนธรรม เล่นอะไรใหม้ รี ะเบยี บ ให้งามให้เรยี บจงึ จะคมขำ มาซิมาเจา้ เอ๋ยมาฟ้อนรำ มาเล่นระบำของไทยเราเอย ใช้ทา่ รำ รำสา่ ย 4. เพลงคนื เดือนหงาย (Ken Dern Ngai) คำรอ้ ง : จมน่ื มานิตย์นเรศ (นายเฉลมิ เศวตนนั ท)์ หัวหน้ากองการสังคตี กรมศิลปากร (ประพนั ธใ์ น นามกรมศลิ ปากร) ทำนอง : อาจารย์มนตรี ตราโมท ความหมายเพลง : เวลากลางคนื เปน็ คนื เดือนหงาย มีลมพดั มาเย็นสบายใจ แต่ก็ยังไมส่ บายใจเทา่ กบั การท่ีได้ผูกมิตรกบั ผู้อืน่ และทร่ี ่มเย็นไปทัว่ ทกุ แห่งยิ่งกวา่ น้ำฝนท่ีโปรยลงมา ก็คือการท่ีประเทศไทยเป็น ประเทศท่ีเป็นเอกราช มีธงชาติไทยเปน็ เอกลักษณ์ ทำใหร้ ม่ เยน็ ทั่วไป

เนอื้ เพลง : เย็นพระพายโบกพร้ิวปลิวมา ยามกลางคืนเดือนหงาย เทา่ เย็นผูกมิตรไม่เบ่อื ระอา เยน็ ยิ่งนำ้ ฟา้ มาประพรมเอย เยน็ อะไรก็ไม่เย็นจติ เยน็ รม่ ธงไทยปกไปทว่ั หลา้ ใช้ท่ารำ สอดสร้อยมาลาแปลง โดย ท่านผู้หญงิ ละเอยี ด พบิ ูลย์สงครามแตง่ เนื้อรอ้ งเพิ่มอีก 6 เพลง ดงั น้ี 5. เพลงดวงจนั ทรว์ ันเพญ็ (Dong jan wan pen) คำร้อง : ทา่ นผูห้ ญงิ ละเอียด พิบูลสงครามทำนอง ทำนอง : อาจารย์มนตรี ตราโมท ความหมายเพลง : พระจันทรเ์ ต็มดวงที่ลอยอย่บู นทอ้ งฟา้ นั้นช่างดสู วยงาม เพราะเปน็ พระจนั ทร์ทรง กลด คอื มีแสงเลื่อมกระจายออกรอบดวงจนั ทร์ท้ังดวง แตถ่ ึงจะงามอยา่ งไรก็ยังไม่เท่าความงามของดวงหน้า หญงิ สาว ที่ดผู ุดผอ่ งมนี ำ้ มีนวล อีกทัง้ รปู ร่างก็ดสู มสว่ น กริ ิยาวาจาก็อ่อนหวานไพเราะ สมแล้วกบั ท่ีเปรียบว่า หญิงไทยนี้คอื ดอกไม้ เน้อื เพลง : ดวงจันทร์วันเพญ็ ลอยเด่นอยู่ในนภา ทรงกลดสดสี รัศมที อแสงงามตา แสงจนั ทร์อรา่ ม ฉายงามสอ่ งฟา้ ไม่งามเท่าหน้า นวลนอ้ งยองใย งามเอยแสงงาม งามจริงยอดหญิงชาติไทย งามวงพักตร์ยง่ิ ดวงจนั ทรา จรติ กริ ยิ านมิ่ นวลละไม วาจากังวาน ออ่ นหวานจับใจ รูปทรงสมส่วน ยว่ั ยวนหทัย สมเป็นดอกไม้ ขวัญใจชาติเอย ใช้ท่ารำ แขกเต้าเขา้ รังและผาลาเพียงไหล่

6. เพลง ดอกไม้ของชาติ (Dok mai kong chat) คำรอ้ ง : ท่านผ้หู ญงิ ละเอียด พิบลู สงคราม ทำนอง : อาจารย์มนตรี ตราโมท ความหมายเพลง : ผู้หญงิ ไทยเปรียบเสมอื นดอกไม้อนั เป็นเอกลักษณข์ องประเทศไทย การรา่ ยรำดว้ ย การแสดงออกอยา่ งอ่อนชอ้ ย งดงามตามรูปแบบความเป็นไทยแสดงใหเ้ หน็ ถึงความเจรญิ ทางด้านวัฒนธรรม ของคนไทย นอกจากผหู ญงิ จะดเี ด่นทางดา้ นความงามแล้วยังมีความอดทน สามารถทำงานบ้าน ช่วยเหลืองาน ผ้ชู ายหรอื แม้งานสำคัญ ๆ ระดบั ประเทศก็สามารถช่วยเหลือไดเ้ ปน็ อยา่ งดีไม่แพผ้ ้ชู าย เน้ือเพลง : (สรอ้ ย) ขวัญใจดอกไม้ของชาติ งามวิลาศนวยนาดร่ายรำ (ซำ้ ) เอวองค์อ่อนงาม ตามแบบนาฏศลิ ป์ ช้ีชาตไิ ทยเนาวถ์ นิ่ เจรญิ วฒั นธรรม (สร้อย) งามทุกสงิ่ สามารถ สรา้ งชาตชิ ่วยชาย ดำเนินตามนโยบาย สูท้ นเหนอ่ื ยยากตรากตรำ (สรอ้ ย) ใชท้ า่ รำ รำยั่ว 7. เพลงหญิงไทยใจงาม (Ying Thai Jai Ngam) คำร้อง : ทา่ นผูห้ ญงิ ละเอยี ด พบิ ูลสงคราม ทำนอง : ครเู ออื้ สนุ ทรสนาน ความหมายเพลง : ดวงจนั ทร์ที่ส่องแสงอยบู่ นท้องฟา้ มีความงดงามมาก และยิง่ ไดแ้ สงอันระยบิ ระยบั ของดวงดาวดว้ ยแล้ว ย่งิ ทำให้ดวงจันทรน์ น้ั งามเด่นยงิ่ ขึ้น เปรียบเหมือนกับดวงหนา้ ของหญงิ สาวทีม่ คี วาม งดงามอยแู่ ล้ว ถ้ามคี ุณความดีดว้ ย ก็จะทำให้หญิงนน้ั งามเป็นเลศิ ผ้หู ญิงไทยนเ้ี ป็นขวญั ใจของชาติ เป็นที่เชดิ หนา้ ชูตาของชาติ รปู ร่างก็งดงาม จิตใจก็กล้าหาญ ดงั ท่ีมีชื่อเสียงปรากฏอยู่ทวั่ ไป

เนอื้ เพลง : ดาวแวววาวระยบั เดอื นพราว สง่ ให้เดือนงามเดน่ โสภาเพยี งเดอื นเพญ็ แสงดาวประดบั เสรมิ ให้เด่นเลศิ งาม ดวงหนา้ หญงิ ไทยสง่ ศรีชาติ คุณความดีทีเ่ หน็ ใจกล้ากาจเรอื งนาม ขวัญใจ กอ้ งปรากฏทั่วคาม รูปงามพิลาศ ย่ิงเดอื นดาวพราวแพรว เกียรติยศ หญงิ ไทยใจงาม ใชท้ ่ารำ พรหมส่หี นา้ และยูงฟอ้ นหาง 8. เพลง ดวงจนั ทร์ขวัญฟา้ (Dong Jan Kwan Fa) คำรอ้ ง : ทา่ นผ้หู ญงิ ละเอยี ด พิบลู สงครามทำนอง ทำนอง : ครเู อ้ือ สุนทรสนาน ความหมายเพลง : ในเวลาค่ำคนื ท้องฟ้ามีดวงจนั ทรป์ ระจำอยู่ ในใจของชายก็มีหญิงอันเป็นสุดท่ีรกั ประจำอย่เู ชน่ กัน ส่ิงทเ่ี ทิดทูนยกยอ่ งไวก้ ็คือ ชาติไทยที่เปน็ เอกราช มีอิสระแกต่ นไมข่ นึ้ กับใคร และสง่ิ ที่แนบ สนิทอยู่ในใจของชายกค็ ือหญิงอนั เป็นสดุ ทร่ี ัก เน้อื เพลง : ดวงจนั ทรข์ วญั ฟ้า ชื่นชวี าขวญั พี่ จนั ทร์ประจำราตรี แต่ขวัญพี่ประจำใจ ที่เทดิ ทนู คอื ชาติ เอกราชอธปิ ไตย ถนอมแนบสนทิ ใน คอื ขวญั ใจพีเ่ อย ใช้ทา่ รำ ชา้ งประสานงาและจนั ทรท์ รงกลดแปลง

9. เพลงยอดชายใจหาญ (Yod Shy Jai Han) คำรอ้ ง : ทา่ นผู้หญิงละเอียด พบิ ลู สงครามทำนอง ทำนอง : ครเู อ้อื สนุ ทรสนาน ความหมายเพลง : ขอผกู มติ รไมตรีกบั ชายผู้กล้าหาญ และจะขอมีสว่ นในการทำประโยชน์ทำหน้าที่ ของชาวไทย แมจ้ ะลำบากยากแค้น ก็จะขอชว่ ยเหลือจนเต็มความสามารถ เนื้อเพลง : โอ้ยอดชายใจหาญ ขอสมานไมตรี น้องขอร่วมชีวี กอร์ปกรณีกจิ ชาติ แม้สดุ ยากลำเค็ญ ไม่ขอเวน้ เดินตาม น้องจักสู้พยายาม ทำเต็มความสามารถ ใชท้ ่ารำ ผู้หญิง ใชท้ า่ รำ ชะนีร่ายไม้ ผูช้ าย ใช้ทา่ รำ จอ่ เพลงิ กาฬ 10. เพลงบูชานกั รบ (Boo Cha Nak Rop) คำรอ้ ง : ท่านผู้หญิงละเอยี ด พิบลู สงครามทำนอง ทำนอง : ครเู ออื้ สุนทรสนาน ความหมายเพลง : นอ้ งรกั และบูชาพี่ เพราะมคี วามกลา้ หาญ เปน็ นกั สู้ท่เี ก่งกลา้ สามารถสมกบั เป็น ชายชาตินกั รบท่ีมคี วามมานะอดทน แม้วา่ จะยากเยน็ แสนเข็ญ พี่ก็ตอ่ สู้จนชื่อเสียงเล่ืองลือไปทั่ว นอกจากนี้ ยัง ขยันขันแข็งในงานทุกอย่าง อุตส่าห์สรา้ งหลกั ฐานให้มน่ั คง และพีย่ งั มคี วามรักในชาติบ้านเมืองย่ิงกวา่ ชีวติ ยอม สละไดแ้ ม้ชีวิตและเลอื ดเนื้อเพ่ือใหช้ าติไทยคงอยู่คู่โลกต่อไป เนื้อเพลง : นอ้ งรกั รักบูชาพ่ี ทีม่ ัน่ คงท่มี นั่ คงกล้าหาญ เปน็ นกั สเู้ ช่ยี วชาญ สมศกั ด์ชิ าตินกั รบ นอ้ งรักรักบชู าพ่ี ท่ีมานะท่ีมานะอดทน หนักแสนหนักพผี่ จญ เกยี รตพิ ่ีขจรจบ นอ้ งรกั รักบูชาพ่ี ทขี่ ยันทขี่ ยันกิจการ บากบัน่ สรา้ งหลกั ฐาน ทำทุกดา้ นทำทกุ ด้านครันครบ น้องรักรักบูชาพี่ ทีร่ กั ชาตทิ ีร่ กั ชาติย่ิงชวี ติ เลือดเน้อื พี่พลีอทุ ิศ ชาตยิ งอยู่ยงอยูค่ ่พู ิภพ

ใช้ทา่ รำ เท่ยี วแรก ผูห้ ญิง ใชท้ า่ รำ ขดั จางนาง ผ้ชู าย ใช้ทา่ รำ จนั ทรท์ รงกลด เทีย่ วสอง ผูห้ ญิง ใช้ท่ารำ ล่อแกว้ ผูช้ าย ใช้ทา่ รำ ขอแก้ว ทา่ รําวงมาตรฐาน ท่กี ำหนดไว้เป็นแบบแผนทัง้ 10 เพลง ดังน้ี เพลง ท่ารำชาย ทา่ รำหญิง เพลงงามแสงเดือน ทา่ สอดสรอ้ ยมาลา ทา่ สอดสร้อยมาลา เพลงชาวไทย ทา่ ชักแปง้ ผัดหน้า ทา่ ชักแปง้ ผัดหน้า เพลงรำมาซิมารำ ท่ารำสา่ ย ทา่ รำสา่ ย เพลงคืนเดือนหงาย ทา่ สอดสรอ้ ยมาลาแปลง ท่าสอดสรอ้ ยมาลาแปลง เพลงดวงจันทรว์ นั เพญ็ ท่าแขกเต้าเข้ารัง และทา่ ผาลาเพยี ง ทา่ แขกเตา้ เข้ารงั และท่าผาลาเพยี ง ไหล่ ไหล่ เพลงดอกไมข้ องชาติ ท่ารำยั่ว ทา่ รำยั่ว เพลงหญิงไทยใจงาม ท่าพรหมสี่หนา้ และท่ายูงฟ้อนหาง ท่าพรหมส่ีหน้า และทา่ ยูงฟ้อนหาง เพลงดวงจนั ทรข์ วัญฟ้า ทา่ ช้างประสานงา ชายทา่ จันทร์ทรง ทา่ ชา้ งประสานงา ชายท่าจนั ทรท์ รง เพลงยอดชายใจหาญ กลด กลด ทา่ ชะนรี ่ายไม้ ท่าจ่อเพลงิ กาล ทา่ ขัดจางนาง และทา่ ล่อแก้ว เพลงบชู านักรบ ท่าจนั ทร์ทรงกลด และทา่ ขอแก้ว ทั้งน้ี ผู้คดิ ประดษิ ฐ์ท่ารำประกอบเพลงรำวงทง้ั 10 เพลงน้นั คอื คณะอาจารย์ด้านนาฏศลิ ปข์ องกรม ศลิ ปากรได้ช่วยกันคิดประดิษฐ์ทา่ รำให้งดงามถูกต้องตามหลกั นาฏศลิ ปก์ ำหนดใหเ้ ปน็ แบบมาตรฐาน ผ้คู ดิ ประดิษฐท์ า่ รำของรำวงมาตรฐาน คอื หมอ่ มต่วน (นางศภุ ลกั ษณ์ ภัทรนาวกิ ) ครูมัลลี คงประภัศร์ ครลู มุล ยมะ คปุ ต์ และครูผนั โมรากุล ตอ่ มาได้มีการนำรำวงน้ีไปสลับกับวงลลี าศ ทำให้ชาวต่างประเทศร้จู กั รำวง เพ่ือให้ ประชาชนชาวไทยได้เล่นกันแพร่หลาย และมีแบบแผนอนั เดยี วกนั กรมศิลปากรจงึ เรียกว่า \"รำวงมาตรฐาน\"

การแต่งกายของรำวงมาตรฐาน แบบที่ 1 แบบชาวบา้ น ชาย น่งุ ผา้ โจงกระเบน สวมเสอ้ื คอพวงมาลยั เอวคาดผา้ ห้อยชายด้านหน้า หญิง นุ่งโจงกระเบน ห่มผ้าสไบอัดจีบ ปล่อยผม ประดับดอกไม้ทผี่ มด้านซ้าย คาดเขม็ ขัด ใส่ เครือ่ งประดับ แบบที่ 2 แบบรชั กาลท่ี 5 ชาย นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้อราชปะแตน ใสถ่ ุงเท้า รองเทา้ หญิง นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเส้อื ลกู ไม้ สไบพาดบ่าผูกเปน็ โบว์ทง้ิ ชายไว้ข้างลำตัว ใส่เครอื่ งประดบั มุก

แบบที่ 3 แบบสากลนิยม ชาย น่งุ กางเกง สวมสูท ผูกเนคไท หญงิ นงุ่ กระโปรงป้ายข้าง ยาวกลอมเท้า ใส่เส้ือคอกลม แขนกระบอก แบบท่ี 4 แบบราตรีสโมสร ชาย นงุ่ กางเกง สวมเสือ้ พระราชทาน เอวคาดผา้ ห้อยชายด้านหน้า หญิง นงุ่ กระโปรงยาวจบี หน้านาง ใสเ่ ส้อื จับเดรป มีชายผา้ ห้อยจากบ่าลงไปทางดา้ นหลงั เปดิ ไหล่ขวา ศรี ษะทำผมเกลา้ เป็นมวยสงู ใส่เกีย้ ว และเครือ่ งประดับ

ใบงานเรื่อง รำวงมาตรฐาน คำช้แี จง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ ท่มี าของรำวงมาตรฐาน รำวงมาตรฐาน ลักษณะวิธีการแสดงรำวงมาตรฐาน

ใบงานเรอ่ื ง รำวงมาตรฐาน คำชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้ การแตง่ กายของรำวงมาตรฐานมีกี่รูปแบบ รำวงมาตรฐาน เขียนช่อื เพลงรำวงมาตรฐาน 10 เพลง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook