Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานเรื่อง การเมืองการปกครองในสมัยอยุธยา

โครงงานเรื่อง การเมืองการปกครองในสมัยอยุธยา

Published by วัลลภา ผดุงเวช, 2021-01-30 05:16:31

Description: โครงงานเรื่อง การเมืองการปกครองในสมัยอยุธยา

Search

Read the Text Version

เรอ่ื ง การเมืองการปกครองในสมยั อยุธยา ผจู้ ัดทำ นางสาวนภสั สาตร์สมบูรณ์ 62204040046 นางสาวนาตยา แยม้ วตั ร 62204040047 นางสาววลั ลภา ผดงุ เวช 62204040056 นางสาวศศธิ ร อนิ ทพันธ์ 62204040059 นางสาวสุญาณิกา แสงเดช 62204040064 เอกสารฉบบั น้เี ปน็ สว่ นหนงึ่ ของการศกึ ษาค้นคว้าประกอบการเรยี นรายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี สงั กดั สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563



เรื่อง การเมืองการปกครองในสมยั อยุธยา ผูจ้ ดั ทำ นางสาวนภสั สาตรส์ มบูรณ์ 62204040046 นางสาวนาตยา แย้มวตั ร 62204040047 นางสาววลั ลภา ผดุงเวช 62204040056 นางสาวศศธิ ร อินทพันธ์ 62204040059 นางสาวสญุ าณกิ า แสงเดช 62204040064 เอกสารฉบับน้เี ปน็ สว่ นหนง่ึ ของการศึกษาคน้ คว้าประกอบการเรยี นรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทย วิทยาลยั เทคนิคลพบุรี สังกดั สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563

(ก) ชื่อเรอ่ื ง : การเมอื งการปกครองในสมยั อยุธยา ผู้จัดทำ : นางสาวนภัส สาตรส์ มบูรณ์ นางสาวนาตยา แยม้ วัตร นางสาววลั ลภา ผดงุ เวช นางสาวศศิธร อินทพันธ์ นางสาวสุญาณกิ า แสงเดช ท่ีปรึกษา : ครศู ริ โิ สภา วิศิษฏ์วัฒนะ ปกี ารศึกษา : 2563 บทคดั ย่อ เรือ่ ง การเมอื งการปกครอง มจี ุดมงุ่ หมายเพื่อสามารถอธบิ ายพัฒนาการเมอื งการปกครองอาณาจักรอยธุ ยาได้ เพอื่ ใหม้ ีความรเู้ ข้าใจและสามารถวเิ คราะห์ความสัมพันธ์ของการเมอื งการปกครองอาณาจกั รอยธุ ยาได้ เพือ่ ให้เกดิ ความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และเห็นคุณค่าความสำคญั ของการศึกษาประวัตศิ าสตรข์ องไทยในสมยั อยุธยา ศึกษาคน้ คว้าขอ้ มูลจากหนังสือทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับการเมอื งการปกครองในสมยั อยุธยาและสือ่ ออนไลน์ จากการศึกษาพบวา่ การเมืองการปกครองในสมัยอยธุ ยา แบง่ ออกเป็น 2 แบบ คอื 1. แบบธรรมราชา กษตั รยิ ์ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมทาง พุทธศาสนา 2. แบบเทวราชา กษัตรยิ ์เป็นสมมตเิ ทพ รับอิทธิพลมาจากขอม สมัยสมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 ได้นำ รปู แบบการปกครองของสุโขทัยและเขมรมาปรบั ใช้ โดยแบ่งเป็น ราชธานี หัวเมอื งชนั้ ใน เมืองลกู หลวง หวั เมือง ชน้ั นอก เมืองประเทศราการปกครองสมยั พระบรมไตรโลกนาถทรงปฏิรปู ใหมเ่ ปน็ กรมเมอื ง คือ นครบาล กรมวงั เคอื ธรรมาธกิ รณ์ กรมคลงั เคือ โกษาธิบดี กรมนา คอื เกษตราธิบดี สมัยพระบรมไตรโลกนาถทรงแยกฝ่ายทหารและ พลเรอื นออกจากกนั โดยตั้งตำแหนง่ อัครมหาเสนาบดี 2 ตำแหน่ง คอื สมุหกลาโหม ดแู ลเกย่ี วกบั การทหาร สมุหนายก ดแู ลเกยี่ วกบั ขา้ ราชการพลเรือน และยงั ไดก้ ำหนดกำหมายขนึ้ คือ กฎหมายศักดินาทหารและพลเรือน กฎมนเทยี รบาล เป็นกฎหมายเกยี่ วกับประเพณใี น ราชสำนัก

(ข) กิตติกรรมประกาศ โครงงาน เร่อื ง การเมืองการปกครองในสมัยอยธุ ยา น้ันสำเรจ็ ขึน้ ไดโ้ ดยได้รับความ ชว่ ยเหลอื อย่างดยี ่งิ จากคณุ ครูศิริโสภา วิศิษฏ์วฒั นะ คุณครูทป่ี รกึ ษาโครงงาน ที่ได้ใหค้ ำ เสนอแนะ แนวคดิ และให้ความรู้ในการจดั ทำโครงงาน เรอ่ื ง การเมืองการปกครองในสมยั อยธุ ยา ตลอดจนการแกไ้ ขข้อบกพร่องตา่ งๆมาโดยตลอด จนโครงงานน้ีเสรจ็ สมบูรณ์ ผูศ้ กึ ษา จึงขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ขอขอบคุณครูศิรโิ สภา วิศษิ ฏ์วัฒนะ ทคี่ อยใหค้ วามช่วยเหลอื ดา้ นการรวบรวมข้อมลู ตา่ งๆในการจัดทำรูปเลม่ โครงงาน และขอบคณุ เพอ่ื นในกลุ่มทกุ คนทใ่ี ห้ความชว่ ยเหลือ ตลอดจนคำแนะนำทเ่ี ป็นประโยชนใ์ นการทำโครงงาน ท้ายสุดน้คี ณะผูจ้ ัดทำหวังเปน็ อย่างยิ่งวา่ โครงงาน เร่ือง การเมอื งการปกครองใน สมัยอยุธยา จะเปน็ ประโยชน์ต่อการศกึ ษาคน้ ควา้ และเป็นประโยชนต์ อ่ ผคู้ นท่ีสนใจในเรือ่ ง การเมอื งการปกครองในสมยั อยุธยา นางสาวนภัส สาตร์สมบูรณ์ นางสาวนาตยา แย้มวัตร นางสาววัลลภา ผดงุ เวช นางสาวศศิธร อนิ ทพนั ธ์ นางสาวสญุ าณิกา แสงเดช

(ค) สารบญั เร่ือง หนา้ บทคดั ยอ่ ค กิตติกรรมประกาศ ข สารบญั จ สารบัญตาราง ช สารบัญภาพ ซ บทท่ี 1 บทนำ 1 1.1 ความเปน็ มา 1.2 วัตถปุ ระสงค์ 1.3 ขอบเขต 1.4 ประโยชน์ท่ไี ดร้ บั บทที่ 2 ทฤษฎีท่เี กี่ยวขอ้ ง 2 2.1 การแบง่ ยุคสมยั การเมืองการปกครองในสมัยอยุธยา 2.2 รูปแบบการเมืองการปกครองในสมัยอยธุ ยา 2.3 การปกครองสมยั อยธุ ยาไดร้ ับอทิ ธพิ ลมาจากท่ีใด บทที่ 3 วิธดี ำเนนิ งาน 7 3.1 คดิ หวั ข้อโครงงานเพื่อนำเสนอครทู ่ีปรกึ ษาโครงงาน 3.2 ศกึ ษาและคน้ คว้าข้อมลู ที่เกี่ยวขอ้ งกบั เรื่อง การเมอื งการปกครองในสมยั อยุธยา 3.3 ประเมินความถกู ตอ้ งและความสำคัญของข้อมูล 3.4 ศึกษาข้อมูลที่รวบรวมมาได้ นำมาวเิ คราะหข์ อ้ มูล 3.5 นำเสนอข้อมลู เกี่ยวกบั การเมอื งการปกครองในสมยั อยธุ ยา บทท่ี 4 ผลการศึกษาคน้ ควา้ 8 4.1 การพัฒนาโครงงานการเมืองการปกครองในสมยั อยุธยา

สารบญั (ตอ่ ) (ง) บทที่ 5 สรปุ ผล อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ หน้า 5.1 สรปุ ผล 9 5.2 ปญั หาและอปุ สรรคในการศึกษาคน้ ควา้ 5.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา 10 บรรณานุกรม 11 ภาคผนวก 12 ประวัตผิ ู้ศึกษา

สารบญั ตาราง (ฉ) ตารางท่ี 3 แผนการปฏบิ ัตงิ าน หน้า 7

สารบญั ภาพ (ช) ภาพท่ี 2.1 หน้า ภาพท่ี 2.2 2 ภาพท่ี 2.3 5 6

1 บทท่ี 1 บทนำ 1.ความเปน็ มา ในปัจจุบันประเทศไทยไดม้ กี ารปกครองในรปู แบบของประชาธปิ ไตยเเต่ในอดตี นน้ั มกี ารปกครองที่ แตกตา่ งกนั ออกไป เพ่ือเป็นการศกึ ษาเกย่ี วกบั ประวตั ศิ าสตร์กลุ่มของดิฉันจงึ เกดิ ความสนใจในการเมืองการ ปกครองของในสมยั อยธุ ยาเเละได้นำมาศึกษาอย่างละเอียดให้เกดิ ความเขา้ ใจเเละเป็นเเนวทางศกึ ษาใหก้ บั ผู้อนื่ 2.วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เพอ่ื สามารถอธบิ ายพัฒนาการเมืองการปกครองอาณาจกั รอยธุ ยาได้เพ่ือใหม้ คี วามรเู้ ขา้ ใจ 2.2 เพื่อใหเ้ กดิ ความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.3 เพ่อื ให้เหน็ คุณค่าความสำคัญของการศกึ ษาประวัตศิ าสตรข์ องไทยในสมัยอยุธยา 2.4 เพือ่ ให้มคี วามรเู้ รือ่ งการเมอื งการปกครองในสมยั อยุธยา 3.ขอบเขต 3.1 สถานที่ วิทยาเทคนคิ ลพบุรี 3.2 ระยะเวลา ตั้งแต่ 7 มกราคม 2564 ถึง 31 มกราคม 2564 3.3 ตัวแปรหรือประชากรและกล่มุ ตัวอย่าง 3.1 ตวั แปรตน้ คือ ศึกษาคน้ ควา้ เก่ยี วกบั การเมอื งการปกครองในสมยั อยุธยา 3.2 ตวั แปรตาม คือ ผลท่ีได้จากการศกึ ษาเกีย่ วกบั การเมืองการปกครองในสมยั อยุธยา 3.3 ตวั แปรควบคมุ คือ ไดค้ วามรูเ้ ก่ยี วกบั การเมอื งการปกครองในสมัยอยธุ ยา 3.1 ประชากร คอื - 3.2 กลุ่มตัวอย่าง คือ – 4. ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับ 1.ไดม้ ีความรขู้ องการเมืองการปกครองในสมยั อยุธยา 2.ทำให้เกดิ รักชาติ ศาสนา และจงรักภักดตี ่อพระมหากษตั ริย์ 3.รู้ถงึ คุณคา่ ความสำคัญของประวัติศาสตรข์ องไทยในสมยั อยธุ ยา

2 บทท่ี 2 ทฤษฎที เี่ กี่ยวขอ้ ง ในการศกึ ษาเรอื่ ง การเมอื งการปกครองในสมัยอยุธยา ผู้จัดทำได้รวบรวมแนวคดิ ทฤษฎีและหลกั การ ทฤษฎที ี่เกีย่ วข้อง เอกสารที่เกย่ี วข้องดังตอ่ ไปน้ี 2.1 การแบ่งยุคสมยั การเมอื งการปกครองในสมยั อยธุ ยา ภาพท่ี 2.1 แบง่ ไดเ้ ป็น 3 สมัย ดังนี้ 1.สมยั อยุธยาตอนต้น (พ.ศ. 1893 – 1991) มลี ักษณะดังนี้ ในสมยั นเ้ี ปน็ สมยั ของการวางรากฐานอำนาจทางการเมอื งการปกครอง รวมทั้งเสริมสร้างความม่นั คงของอาณาจกั ร ซึง่ ยงั มอี าณา เขตไมก่ วา้ งขวางมากนกั พระเจา้ อู่ทองทรงวางรากฐานการปกครองไว้ ดงั นี้ 1.1 การปกครองสว่ นกลาง (ราชธาน)ี พระมหากษตั ริยแ์ บง่ การปกครองเปน็ 4 สว่ น เรียกวา่ จตสุ ดมภ์ ใหแ้ ตล่ ะส่วนมอี ำนาจหน้าที่ ดงั น้ี 1) กรมเวียง (กรมเมอื ง) มหี น้าทด่ี ูแลความสงบเรยี บร้อยของราษฎรทวั่ ราชอาณาจกั ร 2) กรมวัง มหี น้าที่จดั ระเบยี บ เก่ยี วกับราชสำนัก 3) กรมคลัง มหี น้าทจ่ี ดั เกบ็ ภาษอี ากร จดั หารายไดเ้ พื่อใช้ในการบำรุงราชอาณาจกั ร รับผิดชอบ ด้านการเงนิ และการต่างประเทศ 4) กรมนา มหี นา้ ทีด่ แู ลเกี่ยวกบั การทำมาหากินของราษฎร 1.2 การปกครองสว่ นภูมภิ าค เป็นการปกครองหวั เมอื งทอี่ ยู่นอกเขตราชธานี ซ่ึงมกี ารแบง่ เมอื ง เป็นระดบั ชนั้ โดยมีกรุงศรีอยุธยาเป็นศูนย์กลาง 1) เมอื งหนา้ ดา่ น (เมอื งลูกหลวง) เปน็ หัวเมืองที่อยู่รายรอบราชธานี และมีระยะทางไปมาถึงราชธานีไดภ้ ายใน 2 วนั มคี วามสำคญั ในการปอ้ งกนั ขา้ ศกึ ไม่ใหโ้ จมตีถงึ ราชธานีได้ง่าย พระมหากษตั รยิ จ์ ะทรงแต่งตัง้ ให้พระราชโอรสหรือเจ้านายชัน้ สงู ไปปกครองแทนพระองค์ เพอ่ื เปน็ การแบ่งเบาพระ ราชภาระดา้ นการปกครอง 2) หวั เมืองชน้ั ใน เปน็ หวั เมอื งทถี่ ดั จากเมืองหนา้ ด่านออกไปอกี เป็นเมอื งรายรอบตาม ระยะทางคมนาคม อยไู่ ม่ไกลจากราชธานี สามารถตดิ ต่อถงึ กนั ไดส้ ะดวก หวั เมืองช้นั ในท่ีสำคัญ มีดังน้ี ทศิ เหนือ เมอื งาพรหมบุรี อนิ ทร์บุรี สิงห์บุรี ทศิ ใต้ เมืองเพชรบรุ ี ทศิ ตะวนั ออก เมอื งปราจีนบรุ ี ทิศตะวนั ตก เมืองราชบรุ ี 3) หวั

3 เมอื งช้นั นอก (เมืองพระยามหานคร) เป็นหัวเมอื งทมี่ ีขนาดใหญ่อยหู่ ่างจากราชธานอี อกไปตามทิศทางต่าง ๆ หัวเมอื ง ชน้ั นอกจะเป็นเมืองท่ีคอยปกปอ้ งดูแลอาณาเขตดา้ นทต่ี ง้ั อยู่ มเี จ้าเมืองเป็นผูป้ กครองสืบทอดต่อ ๆ กันมา หวั เมือง ชั้นนอกที่สำคัญ มดี ังน้ี ทศิ เหนอื เมืองพิษณุโลก ทศิ ใต้ เมอื งไชยา เมืองนครศรีธรรมราช เมอื งพทั ลุง ทศิ ตะวนั ออก เมอื งนครราชสีมา เมอื งจนั ทบรุ ี ทศิ ตะวนั ตก เมืองตะนาวศรี เมอื งทวาย 4) หวั เมืองประเทศราช เปน็ เมอื งทอ่ี ยู่ ห่างไกลนอกพระราชอาณาเขต มกี ารปกครองอสิ ระแก่ตนเอง ชาวเมอื งเปน็ ชาวต่างประเทศ เจา้ นายพ้นื เมอื งมี สิทธข์ิ าดในการปกครองดินแดนของตน แตต่ อ้ งแสดงตนว่ายอมออ่ นน้อมหรือเป็นเมอื งประเทศราช โดยการสง่ เครอ่ื ง ราชบรรณาการมาถวายตามกำหนด 2. การปกครองสมัยอยธุ ยาตอนกลาง ( 1991-2231) มีลักษณะดังนี้ ช่วงเวลาตง้ั แต่สมยั สมเด็จ พระบรมไตรโลกนาถถงึ สมยั สมเด็จพระนารายณม์ หาราช (พ.ศ. 1991 – 2231) สมัยนี้เป็นสมยั ที่อาณาจักรอยุธยามี ความม่นั คงเป็นปึกแผน่ และเร่มิ เปน็ อาณาจักรทยี่ ิง่ ใหญ่ มอี ำนาจทางการเมืองการปกครองเจริญรงุ่ เรืองสงู สุด รวมท้งั มสี ภาพทางเศรษฐกจิ ทเี่ จริญรุ่งเรอื ง มีการติดต่อคา้ ขายกบั ตา่ งชาติ ในรชั สมัยของสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถไดม้ กี ารจดั ระเบียบการปกครองโดยรวมอำนาจไวท้ ี่ศนู ยก์ ลาง เพอ่ื ให้เหมาะสมกับสภาพของอาณาจกั รอยุธยาในขณะนน้ั ที่ขยายดนิ แดนกว้างออกไป มกี ารปฏริ ูปการปกครองข้นึ มา สาเหตทุ ที่ ำให้สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถปฏริ ปู การปกครองอาณาจักรอยธุ ยา มดี ังน้ี 1. จากการทอ่ี ยุธยาไดข้ ยายดนิ แดนออกไปกว้างขวาง และได้รวมเอาดินแดนของอาณาจักรสโุ ขทยั เขา้ มา เป็นสว่ นหนง่ึ ของอาณาจกั ร จงึ จำเป็นต้องขยายอำนาจการปกครองออกไปให้ควบคุมดินแดนทั้งหมดไว้ได้ 2. เกดิ ปัญหาเรือ่ งความมั่นคงของอาณาจักร จากการทเ่ี มอื งหนา้ ดา่ นมกี องกำลังป้องกันเมอื งจงึ มีอำนาจ มาก ทำใหเ้ กิดการชิงราชสมบัติอยู่บ่อยครงั้ 3. ทรงตอ้ งการปรบั ปรุงระเบยี บการปกครองทม่ี ีมาแตเ่ ดมิ เพื่อใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณใ์ นขณะนนั้ 2.1 การปกครองส่วนกลาง สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ ทรงจดั แบง่ ขุนนางและไพร่พลทั่วราชอาณาจักรใหม่ โดยแบง่ ออกเป็น 2 ฝา่ ย คือ ฝ่ายพลเรือน และฝา่ ยทหาร ในยามที่บ้านเมืองสงบสขุ หน้าทีข่ องฝ่ายพลเรอื นและฝ่ายทหารจะแยกจากกนั เพ่ือรบั ผิดชอบบริหาร บ้านเมอื งตามท่ไี ดร้ บั มอบหมายให้มีประสิทธภิ าพ แตเ่ มอ่ื ยามเกดิ สงคราม ทง้ั 2 ฝา่ ยจะตอ้ งรวมกำลังกัน เพ่อื ตอ่ สู้ ขา้ ศกึ ศัตรูและปอ้ งกันประเทศให้มน่ั คงปลอดภยั ฝา่ ยทหาร มสี มหุ พระกลาโหมเป็นหัวหนา้ บังคับบญั ชาดแู ลราชการฝ่ายทหารท่วั ราชอาณาจกั ร เพ่อื เตรียมไพร่พลและกำลังอาวธุ ไวใ้ หพ้ ร้อมเพรยี ง สามารถส้รู บในยามเกดิ สงครามได้ ฝ่ายพลเรือน มีสมุหนายกเป็นหวั หนา้ บังคับบญั ชาดูแลรับผิดชอบงานฝา่ ยพลเรอื นท่ัวราชอาณาจกั ร และคอยกำกับดแู ลการทำงานของเหลา่ เสนาบดจี ตุสดมภ์เดิม ซงึ่ สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถทรงเปล่ียนช่อื และ

4 ปรับปรงุ หนา้ ที่ของหนว่ ยงานท้ัง 4 ใหม่ โดยให้มหี นา้ ท่รี บั ผดิ ชอบบริหารราชการแผน่ ดนิ แตกตา่ งกนั ไปตามท่ีทรง มอบหมาย ดังนี้ กรมเวียง (นครบาล) มหี นา้ ท่ีดแู ลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และรกั ษาความสงบสุขของราษฎร กรมวัง (ธรรมาธิกรณ)์ มหี นา้ ท่ีดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกบั ราชสำนกั งานราชพิธี และพิพากษาคดคี วามของ ราษฎร กรมคลัง (โกษาธิบด)ี มหี น้าทดี่ ูแลรายรับรายจ่ายและเก็บรักษาพระราชทรัพย์ จดั เก็บอากร ค่าธรรมเนยี มต่าง ๆ ตดิ ตอ่ คา้ ขายกบั ต่างประเทศ กรมนา (เกษตราธกิ าร) มีหนา้ ทด่ี แู ลสง่ เสรมิ ให้ราษฎรทำไร่ ทำนา เกบ็ ข้าวข้ึนฉางหลวง เพอ่ื ใชเ้ ป็น เสบียงในยามศกึ สงครามหรือยามเกดิ ขา้ วยากหมากแพง 2.2 การปกครองส่วนภูมิภาค สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถทรงวางหลกั เกณฑ์ตา่ ง ๆ ในการปกครองส่วนภมู ิภาคใหม้ ีลกั ษณะแบบเดียวกัน กับส่วนกลาง และได้ยกเลิกเมอื งลูกหลวงหรือเมอื งหน้าดา่ นทั้ง 4 ทิศ โดยแบ่งเขตของการปกครองเป็น 3 เขต ดงั นี้ 1) หวั เมอื งชั้นใน ไดแ้ ก่ เมอื งท่ีอยู่ใกล้ราชธานี เช่น ราชบรุ ี เพชรบุรี ชัยนาถ นครสวรรค์ สพุ รรณบรุ ี ชลบรุ ี เป็นต้น เมอื งเหล่าน้มี ีฐานะเปน็ เมอื งจัตวา พระมหากษตั รยิ ์ทรงแต่งตั้งขนุ นางไปปกครอง ผปู้ กครองเมอื งเรียกวา่ ผ้รู ัง้ 2) หัวเมืองช้ันนอก ไดแ้ ก่ เมอื งทอ่ี ยหู่ ่างไกลจากราชธานีออกไป แบ่งเป็นเมอื งชน้ั เอก โท ตรี ตามขนาด และความสำคญั ของแต่ละเมือง ดังต่อไปน้ี - เมืองชัน้ เอก เป็นเมอื งใหญ่ มปี ระชาชนมาก เช่น พิษณุโลก นครศรธี รรมราช - เมืองชัน้ โท เปน็ เมืองท่สี ำคญั รองลงมา เช่น สโุ ขทัย กำแพงเพชร สวรรคโลก – เมอื งชน้ั ตรี เปน็ เมอื งที่ขนาดเลก็ เชน่ ไชยา ชมุ พร นครสวรรค์ 3) หวั เมืองประเทศราช ไดแ้ ก่ เมอื งขนึ้ ของกรงุ ศรีอยุธยา เชน่ ปัตตานี มะละกา เชียงกราน ทวาย ผู้ปกครองตอ้ งส่งเครอื่ งราชบรรณาการ ตน้ ไมเ้ งิน ต้นไมท้ อง มาถวายกษัตริยท์ ก่ี รุงศรอี ยุธยา โดยมีขอ้ กำหนด 3 ปีต่อ หนง่ึ ครงั้ 2.3 การปกครองสว่ นท้องถน่ิ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงแบ่งการปกครองส่วนท้องถน่ิ เปน็ หน่วยงานต่าง ๆ เพือ่ ให้การปกครอง ดแู ลได้ท่ัวถงึ มากขนึ้ โดยเร่ิมจากหมู่บ้านมผี ้ใู หญบ่ า้ นปกครองดแู ล ตำบลมกี ำนันดแู ล แขวงมีหม่ืนแขวงดแู ล และเมอื ง มเี จา้ เมอื งดแู ล 3. การปกครองสมยั อยธุ ยาตอนปลาย (ในช่วง 2231-2310) มีลกั ษณะดังนี้ ชว่ งเวลาตงั้ แต่สมยั สมเดจ็ พระเพทราชาถงึ สมยั สมเดจ็ พระทน่ี งั่ สรุ ยิ าศน์อมรนิ ทร์ หรอื พระเจ้าเอกทัศ (พ.ศ. 2231 – 2310) รูปแบบการปกครองในสมยั อยุธยาตอนปลาย ยังคงยึดรปู แบบการปกครองตามท่สี มเดจ็ พระ

5 บรมไตรโลกนาถทรงจดั ระเบยี บไว้ แต่มกี ารเปลี่ยนแปลงรปู แบบการปกครองบางสว่ นในสมัยสมเดจ็ พระเพทราชา ดังนี้ 1. ยกเลกิ การแยกความรับผดิ ชอบของอัครมหาเสนาบดดี า้ นงานพลเรอื น และดา้ นงานทหาร 2. ให้สมหุ พระกลาโหมรับผดิ ชอบท้งั ดา้ นทหารและพลเรอื น ปกครองหัวเมอื งฝา่ ยใตต้ ้ังแตเ่ พชรบุรลี งไป 3. ให้สมุหนายกรบั ผดิ ชอบท้ังด้านทหารและพลเรือน ปกครองหัวเมืองฝา่ ยเหนอื และดูแลจตุสดมภ์ใน สว่ นกลาง 4. ใหเ้ สนาบดีกรมคลังรับผิดชอบทัง้ ดา้ นทหารและพลเรือน ปกครองหวั เมอื งชายฝง่ั ตะวันออก และดแู ล เกี่ยวกับรายได้ของแผ่นดนิ และการติดตอ่ คา้ ขายกับตา่ งประเทศ 2.2 รปู แบบการเมืองการปกครองในสมัยอยธุ ยา ภาพท่ี 2.2 รูปแบบการปกครองสมัยอยธุ ยานนั้ แบง่ ได้ 3 ระยะตามลกั ษณะการปกครอง คอื การปกครองสมยั อยธุ ยาตอนตน้ อยธุ ยาตอนกลาง อยธุ ยาตอนปลาย การปกครองสมยั อยธุ ยาตอนต้น มลี ักษณะดงั น้ี การปกครองระยะนเ้ี ริม่ เม่ือ (พ.ศ.1893-1991 ) สมยั พระเจ้าอู่ทองถงึ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แบง่ การปกครองได้ 2 สว่ น คือ สว่ นท่ี 1 การปกครองส่วนกลาง การ ปกครองในเขตราชธานี และบริเวณโดยรอบราชธานีโดยได้ จัดรปู แบบการปกครองแบบเขมร จดั หน่วยการปกครองเปน็ 4 หน่วย แตล่ ะหน่วยมีเสนาบดีบริหารงาน ได้แก่ กรม เวยี ง (ดูแลในเขตเมอื งหลวง) กรมวงั (ดูแลพระราชสำนกั และพจิ ารณาคดี) กรมคลัง(ดูแลพระราชทรพั ย์) กรมนา (จดั เก็บภาษีและจดั หาเสบียงสำหรับกองทัพ) ส่วนท่ี 2 การปกครองสว่ นหวั เมอื ง แบง่ เปน็ 4 ระดับ คือ 1. เมอื งลูกหลวง หรอื เมืองหนา้ ดา่ น ตง้ั อย่รู อบราชธานี 4 ทิศ เชน่ ลพบรุ ี นครนายก พระประแดง สพุ รรณบุรี ใหโ้ อรสหรอื พระราชวงศช์ ้ันสูงไปปกครอง 2. หัวเมอื งชัน้ ใน อย่ถู ดั จากเมอื งลูกหลวงออกไป ได้แก่ พรหมบุรี สิงห์บุรี ปราจนี บุรี ฉะเชงิ เทรา ชลบรุ ี ตะนาวศรี ไชยา นครศรธี รรมราช ให้ขุนนางทกี่ ษัตริยแ์ ตง่ ตั้งไปปกครอง 3.หวั เมอื งชั้นนอก หรอื หวั เมอื งพระยามหานครคอื หัวเมอื งขนาดใหญห่ ่างจากราชธานร 4.เมอื งประเทศราช เปน็ เมืองท่ีปกครองตนเองเพราะอยไู่ กลทส่ี ดุ

6 2.3 การปกครองสมัยอยุธยาได้รับอทิ ธิพลมาจากที่ใด ภาพท่ี 2.3 ซึง่ ไทยได้รับอทิ ธิพลมาจากขอม และขอมก็ไดร้ ับอทิ ธิพลมาจากอินเดียอีกต่อหนึง่ กษัตริย์ในระบบ สมบูรณาญาสทิ ธิราช น้ัน ทรงมพี ระราชอำนาจเด็ดขาดและเต็มท่ี เมอื่ มีพระบรมราชโองการใดๆ ใครจะวิจารณ์หรอื โตแ้ ย้งไม่ได้ เพราะฐานะของกษัตรยิ ์ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเปรียบเสมอื นสมมติเทพ ไม่ใชอ่ ยใู่ นฐานะของพอ่ ดงั เช่นสมยั สโุ ขทัย การปกครองในระบบสมบรู ณาญาสิทธริ าช ถือว่า กษตั รยิ ์ทรงเป็นเจ้าของทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ ง ในพระราชอาณาจกั ร ไมว่ ่าจะเป็นแผ่นดิน หรือแม้กระทั่งชีวติ พระราชอำนาจของกษตั รยิ ์ในสมยั กรงุ ศรีอยธุ ยานน้ั มมี ากมาย แต่กม็ ีขอบเขต ภายใต้หลักธรรมของพระพุทธศาสนา

7 บทท่ี 3 วิธีการศกึ ษา กล่าวถงึ การดำเนนิ การโดยละเอียด 3.1 คิดหวั ขอ้ โครงงานเพ่อื นำเสนอครทู ่ีปรกึ ษาโครงงาน 3.2 ศกึ ษาและคน้ คว้าข้อมูลทเี่ กยี่ วขอ้ งกับเร่อื งทีส่ นใจ เรอื่ ง การเมืองการปกครองในสมยั อยุธยา 3.3 ประเมนิ ความถูกตอ้ งและความสำคัญของขอ้ มูล 3.4 ศึกษาข้อมลู ท่ีรวบรวมมาได้ นำมาวิเคราะหข์ ้อมลู 3.5 นำเสนอข้อมลู เกย่ี วกับการเมอื งการปกครองในสมยั อยุธยา ขนั้ ตอน / กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผดิ ชอบ 1.ขัน้ วางแผนเตรยี มการศึกษา 7- 8 มกราคม 2564 สมาชกิ ในกลมุ่ แนวทางจากทคี่ ุณครูกำหนด - เสนอความคดิ ของสมาชกิ 9 – 16 มกราคม 2564 สมาชิกในกลมุ่ - วางแผนและมอบหมายงาน 17 – 28 มกราคม 2564 สมาชิกในกลุ่ม 2.ขั้นดำเนินการศกึ ษาคน้ หาขอ้ มลู ตามแนวทางทก่ี ำหนด - รวบรวมขอ้ มลู 3.ขนั้ ตอนการสรุปและประเมินผล - นำขอ้ มลู ทง้ั หมด มาประเมิน ความถกู ตอ้ งของข้อมลู - วเิ คราะหข์ ้อมูล - นำเสนอข้อมลู ตารางท่ี 3 แผนการปฏิบัติงาน

8 บทท่ี4 ผลการศึกษาค้นควา้ การจดั ทำโครงงานประวัตศิ าสตร์เน้ือหาเก่ยี วกบั การเมอื งการปกครองในสมัยอยธุ ยา มวี ตั ถุประสงค์เพือ่ ต้องการศกึ ษาเรื่อง การเมอื งการปกครองในสมยั อยธุ ยา ทำใหร้ ูว้ ่าสมยั กอ่ นจนถึงสมัยปจั จุบนั มกี ารพฒั นามามายมาย และเพ่ือใหผ้ ู้จดั ทาํ โครงงานสามารถนํามาประยกุ ต์ใช้ใหเ้ ข้ากบั การเรียนรู้ของตนเองมากยงิ่ ขึน้ 4.1 การพัฒนาโครงงานการเมืองการปกครองในสมยั อยธุ ยา เพอ่ื เผยแพรค่ วามรู้เก่ียวกบั การเมอื งการปกครองในสมัยอยุธยา คณะผู้จดั ทำไดด้ ำเนนิ งานตาม ขั้นตอนการดำเนินงานทไ่ี ด้วางแผนไว้ และมีการนำเสนอข้อมลู ท่ชี ดั เจน นำเสนอในรปู แบบเป็นรูปเลม่ ของโครงงาน การเมอื งการปกครองในสมัยอยุธยา

9 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5.1 สรปุ ผลการทดลอง จากการทไ่ี ด้ศกึ ษาและทราบประวัตคิ วามเป็นมาของการเมอื งการปกครองในสมยั อยธุ ยา อยุธยามีการ แบ่งยุคสมัยเป็น 3 สมัย แล้วสมยั แรกไดม้ ีการปกครองแบบจตุสดมภ์ และได้มกี ารพัฒนาการเมอื งการ ปกครองตามยคุ สมัยตา่ งๆในสมัยอยธุ ยา 5.2 ปัญหาและอุปสรรคในการศึกษาคน้ คว้า - ขอ้ มูลที่ไดม้ าเป็นสว่ นหนง่ึ เท่านั้นไมค่ อ่ ยจะชัดเจนเท่าทีค่ วร จึงตอ้ งใชเ้ วลารวบรวมขอ้ มลู นาน - การบา้ นจากวิชาตา่ งๆ ที่ตอ้ งใช้เวลานานในการทำ ทำให้มีเวลาในการทำโครงงานนอ้ ยลง ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพฒั นา คณะผ้จู ดั การโครงการควรมกี ารประชุมวางแผนกันมากขึ้นเพือ่ แก้ไขปัญหาต่างๆ ทีเ่ กิดขนึ้ และคณะผู้จัดการ โครงการควรวางแผนในการประสานงานให้เป็นระบบ มกี ารแบ่งหนา้ ท่คี วามรับผดิ ชอบใหต้ รงตามหน้าที่ เพ่ือจะได้มี การทำหนา้ ท่ใี ห้มปี ระสทิ ธภิ าพมากย่งิ ข้นึ

10 บรรณานุกรม https://sites.google.com/site/koonkruancharee/rup-baeb-kar-pkkhrxng-smay-xyuthya https://sites.google.com/site/kunruxsasaechao/histrory-m-2/07-kar-pkkhrxng-smay-xyuthya https://sites.google.com/site/thailandhistory/kar-pkkhrxng

11 ภาคผนวก

12 ประวตั ิผจู้ ดั ทำ เรอ่ื ง การเมืองการปกครองในสมยั อยุธยา 1.นางสาวนภสั สาตร์สมบูรณ์ ประวัติส่วนตวั เกดิ วนั ท่ี 15 กันยายน 2546 อายุ 17 ปี ท่อี ยู่ 152/5 หมู่ 4 ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบรุ ่ี ประวตั ิการศกึ ษา ปี พ.ศ.2558 ช้ัน ป.6 ร.ร.โคกสำโรง ปี พ.ศ.2561 ช้นั ม.3 ร.ร. โคกสำโรง ปี พ.ศ.2563 ชัน้ ปวช.2/2 รหัสประจำตัว 62204040046 2.นางสาวนาตยา แย้มวัตร ประวัติสว่ นตัว เกดิ วนั ที่ 25 เมษายน 2547 อายุ 16 ปี ทีอ่ ยู่ 66/1 หมู่ 6 ต.โคกตมู อ.เมอื ง จ.ลพบุรี ประวตั กิ ารศึกษา ปี พ.ศ.2558 ชน้ั ป.6 ร.ร.บา้ นหว้ ยส้ม ปี พ.ศ.2561 ชนั้ ม.3 ร.ร.พระนารายณ์ ปี พ.ศ.2563 ช้ัน ปวช.2/2 รหสั ประจำตัว 62204040047 3.นางสาววลั ลภา ผดุงเวช ประวัติส่วนตวั เกิดวนั ที่ 3 กนั ยายน 2546 อายุ 17 ปี ทอ่ี ยู่ 4/3 หมู่ 6 ต.โคกตูม อ.เมอื ง จ.ลพบรุ ี ประวัติการศกึ ษา ปี พ.ศ.2558 ชน้ั ป.6 ร.ร.งามมศี รพี ฒั นา ปี พ.ศ.2561 ช้นั ม.3 ร.ร.พฒั นานคิ ม ปี พ.ศ.2563 ชัน้ ปวช.2/2 รหสั ประจำตวั 62204040056

13 4.นางสาวศศธิ ร อินทพันธ์ ประวัติส่วนตวั เกิดวันที่ 11 กรกฎาคม 2546 อายุ 17 ปี ทอ่ี ยู่ 84/1 หมู่ 1 ต.ดีลัง อ.พัฒนานคิ ม จ.ลพบุรี ประวัตกิ ารศกึ ษา ปี พ.ศ.2558 ชั้น ป.6 ร.รงามมศี รีพัฒนา ปี พ.ศ.2561 ช้ัน ม.3 ร.ร.พัฒนานิคม ปี พ.ศ.2563 ชนั้ ปวช.2/2 รหสั ประจำตัว 62204040059 5.นางสาวสุญาณิกา แสงเดช ประวตั สิ ่วนตัว เกดิ วันที่ 29 ตุลาคม 2546 อายุ 17 ปี ทอี่ ยู่ 47/5 หมู่ 4 ต.บา้ นชี อ.บา้ นหม่ี จ.ลพบรุ ี ประวัติการศกึ ษา ปพี .ศ.2558 ชนั้ ป.6 ร.รพระวรสาร ปีพ.ศ.2561 ชน้ั ม.3 ร.รพระวรสาร ปีพ.ศ.2563 ช้นั ปวช.2/2 รหัสประจำตัว 62204040064