Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นาย ธานิรท์ สายทอง

นาย ธานิรท์ สายทอง

Published by Guset User, 2022-01-27 07:28:56

Description: นาย ธานิรท์ สายทอง

Search

Read the Text Version

นาย ธานิรท์ สายทอง ปวส1/1 เลขที่ 3

ความสาคัญของพลังงานในการขนส่ง การขนสง่ เป็นขนั้ ตอนหน่งึ ของกระบวนการกระจายสนิ คา้ มาจากผูผ้ ลติ ไปสู้ ผบู้ รโิ ภค ดว้ ยวธิ ีการขนสง่ ทหี่ ลากหลายรูปแบบ เชน่ การขนสง่ ทางบก การขนสง่ ทาง เรอื การขนสง่ ทางอากาศ รูปแบบการขนสง่ ทหี่ ลากหลายเป็นทตี่ วั แทนหรอื บรษิ ัทที่ ใหบ้ รกิ ารตอ้ งค านงึ ถงึ ตน้ ทนุ คา่ ใชจ้ ่ายดา้ นเชอื้ เพลงิ ส าหรบั การด าเนนิ งานการจดั การ ดา้ นพลงั งานการขนสง่ ทดี่ ยี อ่ มท าใหต้ น้ ทนุ ในการกระจายสนิ คา้ ลดลงสง่ ผลตอ่ โอกาส ในการเขา้ ถงึ กลมุ่ ผบู้ รโิ ภคงา่ ยขึน้ พลงั งานกล พลงั งานกลในการขนสง่ สนิ คา้ เครอื่ งอปุ โภค บรโิ ภค ยารกั ษาโรค จากทหี่ น่งึ ไ

พลงั งานกล พลงั งานกลในการขนสง่ สนิ คา้ เครอ่ื ง อปุ โภค บรโิ ภค ยารกั ษาโรค จากท่ีหนง่ึ ไป ยงั อกี ท่ีหน่งึ โดยการเดนิ เทา้ เชน่ ปรมิ าณสนิ คา้ ท่ีบคุ คลสามารถน าตดิ ตวั ไปไดม้ คี วาม แตกตา่ งขนึ้ อยกู่ บั สภาพรา่ งกาย ของบคุ ลนนั้ มนษุ ย์ จงึ อาศยั พลงั งานกลจากสตั ว์ เช่น ชา้ ง มา้ ววั ควาย ลา ลอ่ เป็นตน้ น ามาใชท้ ดแทน พลงั งานจากมนษุ ย

เป็นพลงั งานธรรมชาตทิ ่ีมนษุ ยเ์ รยี นรูแ้ ละน ามาใช้ ประโยชนใ์ นยคุ การขยาย อาณานิคมเป็นการ เปล่ยี นแปลงรูปแบบการขนสง่ จากทางบกท่ีตอ้ งอาศยั พลงั งานกล จากมนษุ ยแ์ ละสตั ว์ เป็นการขนสง่ ทางน้ า โดยอาศยั พลงั งานลม

พลงั งานไอน้ าเขา้ มามีบทบาทส าคญั ในยคุ ปฏวิ ตั ิ อสุ าหกรรมของโลก โดยนกั ประดิษฐ์ ท่ีช่ือวา่ โทมสั นิว โคเมน เขาไดท้ าการสรา้ งเครอ่ื งจกั รไอน้ าเครอ่ื งแรก ของ โลกจากนนั้ เป็นตน้ มามนี กั ประดิษฐ์หลายท่านได้ พฒั นาปรบั ปรุงการท างานของ เครอ่ื งจกั รไอน้ า แตย่ งั คงไวซ้ ง่ึ แนวคดิ ของ นวิ โคเมน เช่น หวั รถจกั รไอน้ า เรอื กลไฟ เป็นตน้

พลงั งานจากฟอสซลิ จากยคุ ปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรมโลกมี การแสวงหาแหลง่ เช่ือเพลงิ ท่สี ามารถน ามาใชเ้ ป็น แหลง่ ก าเนดิ พลงั งานความรอ้ น เพ่อื ใชข้ บั เคล่ือน เครอ่ื งจกั รไอน้ า จนพบถา่ นหิน ซง่ึ เป็น เชือ้ เพลงิ ท่ี เกิดขนึ้ เองโดยธรรมชาติ ท าใหเ้ ปล่ยี นเป็นเชือ้ เพลงิ ชนั้ ดี ปัจจบุ นั เรายงั คงใช้ เชือ้ เพลงิ ประเภทนีอ้ ยู่ เช่น เครอ่ื งยนต์ 2 จงั หวะ เครอ่ื งยนต์ 4 จงั หวะ เครอ่ื งยนต์ 6 จงั หวะ เครอ่ื งยนตโ์ รตารวี นั เคลิ เป็นตน้

เครอ่ื งยนตส์ นั ดาปภายในเป็นเครอ่ื งยนตท์ ่ีเกิดการลกุ ไหมข้ องเชือ้ เพลงิ ภายใน หอ้ งเผาไหมเ้ ชือ้ เพลิงท่ีใชก้ บั เครอ่ื งยนตป์ ระเภทนีม้ ีหลายชนดิ เชน่ ก๊าช น้ ามนั น้ ามนั ก๊าดโซฮอล์ น้ ามนั ไบโอดเี ซล เป็นตน้ เราจ าเป็น ตอ้ งเรยี นรูเ้ พ่ือเลอื กใชใ้ ห้ ถกู ตอ้ งกบั ชนิดของ เครอ่ื งยนตแ์ ละลดอตั ราการสนิ้ เปลืองพลงั งานใหก้ บั ประเทศไทย

ปัจจบุ นั เช่ือเพลงิ ประเภทก๊าซไดร้ บั ความนยิ มเพ่ิมขนึ้ โดยเฉพาะภาคการขนสง่ ของ ไทยท่ีนิยมใชใ้ นการ ขนสง่ โดยรถยนตจ์ งึ ท าใหผ้ ปู้ ระกอบการพยายามลด คา่ ใชจ้ า่ ยของ เชือ้ เพลงิ ใหน้ อ้ ยลง ก๊าซท่ีนิยมใชก้ บั รถยนตใ์ นปัจจบุ นั มี 2 ชนิด คอื 1.ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas : NG) 2.ก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Petrolenm Gas :LPG)

1.ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas : NG) เป็น เชือ้ เพลงิ ฟอสซลิ ชนิดหนง่ึ ท่ีน ามาใชก้ บั เครอ่ื งยนต์ สนั ดาปภายใน คณุ สมบตั ิของก๊าซธรรมชาติ ไมม่ ีสี ไม่ มีกล่นิ และไมเ่ ป็นพษิ 2. ก๊าซธรรมชาตเิ หลว (Liquefied Petrolenm Gas :LPG) เป็นเชือ้ เพลงิ ฟอสซิลชนิด หนง่ึ ท่ีน ามา ใชส้ าหรบั เครอ่ื งยนตส์ นั ดาปภายใน คณุ สมบตั ิ ไม่มีสี ไม่มีกล่นิ ก๊าซชนิดนีน้ ยิ มบรรจใุ สถ่ งั ท่ีทนความดนั สงู มาใชเ้ ป็นเชือ้ เพลงิ ในครวั เรอื นและอตุ สาหกรรม ก๊าซ ก๊าซธรรมชาตกิ บั ผลกระทบท่ีมีตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม ท าให้ การเผาไหมท้ ่ีเกิดขนึ้ มีความสมบรู ณม์ ากกว่าการใช้ เชือ้ เพลงิ จากธรรมชาติ

ก๊าซธรรมชาติกบั ผลกระทบท่ีมีตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม ท าให้ การเผาไหมท้ ่ีเกิดขนึ้ มคี วามสมบรู ณม์ ากกว่าการใช้ เชือ้ เพลงิ จากน้ ามนั หรอื เชือ้ เพลงิ ฟอสซลิ ชนดิ อ่ืนๆ ปรมิ าณก๊าซพิษ ก๊าซเรอื นกระจก เขมา่ และฝ่นุ ละอองท่ี เกิด จากการเผาไหมม้ ีปรมิ าณนอ้ ยมาก

1. นา้ มนั เบนซนิ น้ ามนั เบนซนิ หรอื ก๊าซโซลนี (Gasoline) เป็นไฮโดรคารบ์ อนชนดิ หนง่ึ มีโครงรา่ ง เป็นแบบ วงแหวน ไดจ้ ากการกล่นั ปิโตรเลยี มดว้ ย วธิ ีการกล่นั ล าดบั สว่ นในหอกล่นั คณุ สมบตั ิท่ี เหมาะสมในการน ามาใชก้ บั เครอ่ื งยนตส์ นั ดาป เช่น แนฟธา เป็นต้

สาหรบั นา้ มนั เบนซลิ ท่ีมีจาหนา่ ยในประเทศไทย ปัจจบุ นั มี 2 ชนิด คอื 1.1 นา้ มนั เบนซนิ (PREMIUM MOTOR GASOLINE) มีคา่ ออกเทนนมั เบอร์ 95 สเี หลอื ง ออ่ น เหมาะสมกบั เครอ่ื งยนตด์ เี ซล ท่ีมีอตั ราสว่ นลงั อดั สงู กวา่ 8ตอ่ 1 ขนึ้ ไป รฐั บาลจะ งดการสงเสรมิ งดจาหนา่ ยนา้ มนั เบนซนิ ชนิด

1.2 น้ ามนั เบนซนิ ธรรมดา (REGULAR MOTOR GASOLINE) ใชก้ บั น้ ามนั เครอ่ื งยนต์ เบนซนิ ท่ีมีอตั ราสว่ นก าลงั อดั ต่ ากวา่ 8ตอ่ 1 ไดแ้ ก่ รถยนตน์ ่งั ขนาดเล็ก รถจกั รยานยนต์ รถไถเดนิ เครอ่ื ง ตดั หญา้ เครอ่ื งป่ันไฟฟา้ เป็นตน้

น้ ามนั ดีเซลหรอื น้ ามนั ใส (Distillate fuel) เป็น ไฮโดรคารบ์ อนชนิดหน่งึ มีโครงรา่ งเป็น แบบวงแหวน ไดจ้ ากการกล่นั ปิโตรเลียมดว้ ยวิธีการกล่นั ล าดบั สว่ น ในหอกล่นั เพ่ือ น ามาใชก้ บั เครอ่ื งยนตส์ นั ดาปภายใน ชนิดเครอ่ื งยนตด์ ีเซลโดยเฉพาะ เครอ่ื งยนตช์ นิดนีม้ ี แรงอดั สงู และสามารถจดุ ระเบดิ ไดเ้ อง ก าลงั ในการ ขบั เคล่อื นสงู เช่น รถยนต์ รถบรรทกุ เรอื ประมง เป็นตน้

น้ ามนั ดีเซลท่ีมีจ าหน่ายในประเทศไทย ปัจจบุ นั มี 2 ชนดิ คอื 1.น้ ามนั ดีเซลหมนุ เรว็ (High speed diesel oil : hsd) เป็นน้ ามนั ดเี ซลท่ีน ามาใชก้ บั เครอ่ื งจกั รกลท่ีมีรอบหมนุ เกิน 1000 รอบตอ่ นาที เครอ่ื งยนตป์ ระเภทนีจ้ าเป็นตอ้ งใช้ น้ ามนั ท่ีมีคา่ ซเี ท นสงู และมีการระเหยเรว็ ใชก้ บั เรอื เดินสมทุ รมกั เรยี กวา่ marine gas oi

2.น้ ามนั ดีเซลหมนุ ชา้ (Low speed diesel oil : lsd) เป็นน้ ามนั ดีเซลท่ีน ามาใชก้ บั เครอ่ื งจกั รกล หนกั ทกุ ชนดิ มีรอบหมนุ ประมาณ 500-1000 รอบตอ่ นาที เครอ่ื งยนต์ ประเภทนีไ้ มต่ อ้ งการน้ ามนั ดเี ซลท่ีมี คา่ ซเี ทนสงู มากนกั การระเหยตวั ชา้ กวา่ เป็นน้ ามนั ท่ี เกิดจากการผสมระหวา่ งน้ ามนั ดเี ซลหมนุ เรว็ และน้ ามนั เตา

นา้ มนั ก๊าซโซฮอลเ์ ป็นการน าน้ ามนั เบนซนิ มาผสมกบั เอทลิ แอลกอฮอลห์ รอื เอทานอลใน อตั ราสว่ น 9ตอ่ 1 หรอื 8ตอ่ 2 หรอื 1.5ตอ่ 8.5 สามารถน าไปใชก้ บั เครอ่ื งยนตเ์ บนซนิ และ เครอ่ื งยนตด์ เี ซลได้ เอทานอล ท่ีน ามาใชเ้ ป็นสว่ นผสมเกินจากการหมกั ผลผลิตท่ีได้ จาก การเกษตร เชน่ มนั ส าปะหลงั ออ้ ย ขา้ ว ขา้ วโพด เป็นตน้

นา้ มนั ไบโอดีเซล เป็นการน้ าพืชน้ ามนั หรอื น้ ามนั พืชท่ีผ่านการใชง้ านมาแลว้ น ามาผ่าน กระบวนการทาง เคมี ท่ีเรยี กวา่ ทรานเอสเทอรฟิ ิ เคช่นั (Transesterifcation) เป็นการเอา ไขมนั หรอื น้ ามนั มาท าปฏิกิรยิ ากบั แอลกอฮอล์ โดยมีกรดหรอื เบสเป็นตวั เรง่ ปฏิกิรยิ า จะได้ สารประกอบโมโนอลั คิลเิ อสเทอร(์ Mono- alkyl ester) และกลเี ซอรอ

ขั นตอนการผลติ ไบโอดีเซล 1.การเตรยี มน้ ามนั ก่อนท าปฏกิ ิรยิ า วตั ถดุ ิบท่ีใชใ้ นการผลติ เตรยี มใหเ้ หมาะสม ก่อนท า ปฏกิ ิรยิ า หากเป็นน้ ามนั ปาลม์ ดิบ จ าเป็น ตอ้ งผา่ นกระบวนการแยกยางเหนียว ลดกรดให้ มี ปรมิ าณต่ ากวา่ รอ้ ยละ 1 โดยน้ าหนกั น้ ามนั ท่ีใชแ้ ลว้ ท่ีถกู มากรองและขจดั นา้ ออก

2.การเตรยี มสารละลายเมทลิ แอลกอฮอล์ ในการท าปฏิกิรยิ าทรานเอสเทอรฟิ ิ เคช่นั (Transesterifcation) โดยการน าเอาไขมนั หรอื น้ ามนั มาท าปฏกิ ิรยิ ากบั เมทานอล โดยใช้ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) เป็นตวั เรง่ ปฏกิ ิรยิ า มี ความบรสิ ทุ ธิ์ 99% ก่อนการท า ปฏกิ ิรยิ า น า โซเดียมไฮดรอกไซด์ 2.5 ถงึ 5 สว่ นละลายเมทานอล 100 สว่ น หากกรด ไขมนั อิสระมีปราณสงู ตอ้ งใช้ โซดาไฟในสดั สว่ นท่ีสงู ขนึ้

3.การท าปฏกิ ิรยิ าน้ ามนั ท่ีถกู ขจดั น้ าแลว้ ถกู ท าใหม้ ี อณุ หภมู ิ จากนนั้ เตมิ สารละลาย แอลกอฮอลล์ งไปชา้ ๆ เติมใหห้ มดภายใน 10 นาที สดั สว่ นน้ ามนั ตอ่ สาร แอลกอฮอลโ์ ดย น้ าหนกั 5ตอ่ 1เป็นเวลา 15 นาที อตั ราการกวนปานกลาง 500 รอบ ตอ่ นาที อณุ หภมู ิ ในชว่ งนีล้ ดลงเหลือประมาณ 65 องศา เม่อื หยดุ กวน กลเี ซอรอล ซง่ึ มคี วามหนาแน่นสงู กวา่ 1.26 กรมั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook