Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เสียแล้วไม่กลับคืน

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เสียแล้วไม่กลับคืน

Published by TTL TimeTolove, 2021-08-03 03:05:18

Description: หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เสียแล้วไม่กลับคืน

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรูที่ ๑ กลมุ สาระการเรียนรูภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปท ่ี ๖ หนว ยการเรยี นรูที่ ๑๔ เรอ่ื ง เสยี แลว ไมกลับคนื เวลา ๘ ชว่ั โมง เร่ือง อา น เขียน คาํ ควรรคู คู วามหมาย เวลา ๑ ชว่ั โมง ..................................................................................... สาระสาํ คญั การอาน และการเขยี นคาํ ควรรคู ูความหมาย จะชวยใหการอานเร่ืองราวในบทเรียนเขาใจไดงาย และ สามารถพฒั นาทักษะทางภาษาไดดี มาตรฐานการเรยี นรู ท ๑.๑ ใชก ระบวนการอา นสรางความรูและความคิดเพ่ือนําไปตดั สินใจแกปญ หาในการดาํ เนินชวี ิตและมี นสิ ยั รักการอา น ตวั ชี้วัด ป.๖/๒ อธบิ ายความหมายของคํา ประโยคและขอความท่ีเปนโวหาร จุดประสงค ๑. นกั เรยี นอา นคาํ ศัพทยากไดถ กู ตอง ๒. นักเรยี นบอกความหมายของคาํ ในบทเรียนได ๓. นกั เรยี นใชคําไดถูกตอ งตามบริบท สมรรถนะสําคญั ของผเู รียน ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการแกปญ หา ๔. ความสามารถในการใชทักษะชวี ติ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค ๑. รกั ความเปน ไทย ๒. ใฝเรยี นรู ๓. มจี ิตสาธารณะ ๔. มีวนิ ัย ๕. อยูอ ยา งพอเพยี ง สาระการเรยี นรู - ความหมายของคํา - การใชคาํ

กระบวนการจดั การเรียนรู ๑. ครูใชบัตรคําชใู หนักเรียนดูและฝกอานเพ่ืออธบิ ายความหมายของคาํ วา “แกง จุดแตกหัก ยถากรรม ชงิ สกุ กอนหาม ด้อื ตาใส ปรารมภ ผับ โรคซึมเศรา ฯลฯ” ใหนักเรยี นแตละกลมุ ชวยกันอธิบายความหมายของ คาํ เหลาน้ี ๒. นกั เรียนทาํ แบบฝกทักษะ เรื่อง เขียนความหมายของคําท่ีกําหนดให จากคําท่ีกําหนดให จากน้ัน นําสงครู ครเู ฉลยและตรวจสอบความถกู ตอ ง ๓. นักเรยี นทาํ แบบฝก หัด รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษา ปท ี่ ๖ บอกความหมาย อธบิ ายและฝกใชคํา หนา ๑๓๔ ขอ ๒ จากน้ันนําสงครู ครูเฉลยและตรวจสอบความ ถูกตองครูเนน ใหน กั เรียนมคี วามขยนั หมนั่ เพยี ร ซื่อสัตย และตรงตอเวลา ๔. นกั เรียนทาํ แบบฝก หัด รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษา ปท่ี ๖เขยี นคําอา นและนาํ คํามาแตง ประโยค เสร็จแลวนําสงครูตรวจสอบความถูกตองและอานประโยคที่ตนเอง แตง ใหเ พอ่ื นฟง เพือ่ นๆ ชวยกันวิเคราะหค วามถูกตอ ง สือ่ / แหลง เรยี นรู ๑. บัตรคาํ ๒. หนังสอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปท่ี ๖ ๓. แบบฝกหดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวิต ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี ๖ การวัดผลและประเมินผล ๑) วิธีประเมิน - สังเกตพฤตกิ รรม - ตรวจแบบฝก หัด ๒) เครื่องมอื ประเมิน - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ทาํ แบบฝกหัด ๓) เกณฑการประเมนิ - นักเรยี นผา นเกณฑก ารสงั เกตพฤติกรรม รอ ยละ ๗๕ – ๘๐ - นกั เรยี นผา นเกณฑก ารทาํ แบบฝกหัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรียนรูท ่ี ๒ กลมุ สาระการเรยี นรภู าษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี ๖ หนวยการเรียนรูท ่ี ๑๔ เรอื่ ง เสียแลวไมก ลบั คืน เวลา ๘ ชว่ั โมง เร่อื ง การอานออกเสยี ง เวลา ๑ ชวั่ โมง ..................................................................................... สาระสําคัญ การอา นออกเสียง เปนการอา นใหผ อู นื่ ฟง ฉะน้ันผอู านจะตอ งแบงวรรคตอน เนนเสยี งหนกั เบา และออก เสียงใหถ กู ตอ งชดั เจน จึงจะส่อื ความหมายไดอยางมีประสทิ ธภิ าพ มาตรฐานการเรยี นรู ท ๑.๑ ใชก ระบวนการอา นสรางความรูและความคดิ เพื่อนําไปตดั สินใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ มีนสิ ยั รักการอา น ตวั ชว้ี ัด ป.๖/๑ อานออกเสียงบทรอ ยแกว และบทรอยกรองได จุดประสงค ๑. นกั เรียนอานออกเสียงเนื้อหาในบทเรยี นได ๒. นกั เรยี นจับใจความเรือ่ งทีอ่ านได ๓. นกั เรียนตอบคําถามเรอ่ื งทอี่ านได สมรรถนะสําคัญของผูเ รียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการแกปญ หา ๔. ความสามารถในการใชทักษะชวี ิต คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค ๑. รักความเปน ไทย ๒. ใฝเ รียนรู ๓. มีจติ สาธารณะ ๔. มวี ินัย ๕. อยอู ยา งพอเพียง สาระการเรียนรู - การอานออกเสยี ง - การจบั ใจความสาํ คัญ - การตอบคาํ ถาม

กระบวนการจดั การเรียนรู ๑. ครใู หน กั เรียนชวยกันบอกหลักเกณฑการอานออกเสียงที่ดี เชน อานคลอง อานถูกตอง ชัดเจน เวน วรรคตอนถูกตอง ใชนา้ํ เสียงสอดคลอ งกบั อารมณของตวั ละคร เปน ตน ๒. ครูสาธิตการอานที่ดีใหนักเรยี นฟง หรอื ใหน กั เรียนฟงจากเครอ่ื งบันทึกเสียงก็ได เพ่ือเปนแนวทางใน การอานของนกั เรยี น ๓. นักเรยี นอานออกเสียงเร่ือง “เสียแลวไมกลับคืน” ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี ๖ หนา ๒๑๔ – ๒๒๑ โดยอานตอกันคนละ ๑ ยอหนา ครู แนะนาํ แกไขวิธกี ารอานออกเสียงแลวรวมกันสนทนาถึงเน้ือหาใจความของเรื่อง ครูตั้งคําถามใหน กั เรยี นแขงขันกัน ตอบดงั นี้  เรอื่ ง “เสียแลว ไมกลบั คืน” เปน เรอ่ื งเกีย่ วกบั อะไร  พฤตกิ รรมใดที่แสดงวา เกย๊ี วใจแตก  การกระทาํ ของเกี๊ยว สอดคลองกบั สาํ นวนใด  เก๊ียวออ นแอเกนิ กวาจะลกุ ขนึ้ มาตอสูช วี ติ สดุ ทายเกยี๊ วปวยเปน โรคอะไร  นาํ้ ออยมนี สิ ัยอยา งไร  เหตทุ ่ีน้าํ ออยทําเปน หูทวนลม ไมใ สใจคาํ พูดของผูใหญในเรือ่ งของเก๊ียวเพราะอะไร  จดุ แตกหักของพอ แมน ้ําออ ยคืออะไร  คุณปาใหเ ดชทาํ สงิ่ ใดบา ง  เหตุการณใ ดทท่ี ําใหน ้ําออ ยและเดชทะเลาะกัน  จากเรอื่ งน้ีนกั เรยี นไดขอ คิดอะไรบาง ๔. นักเรียนชวยกันสรุปความรู เรอื่ งการอา นออกเสยี งและการตอบคาํ ถาม และขอ คิดทไ่ี ดจ ากบทอาน ๕. นกั เรียนทําแบบฝกหัด รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษา ปท ี่ ๖ หนา ๑๓๒ – ๑๓๓ เสร็จแลวนําสงครูเพ่ือตรวจสอบความถกู ตอง สื่อ / แหลง เรียนรู ๑. หนงั สอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชีวติ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ ๒. แบบฝกหดั รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชีวิต ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ ๖ การวัดผลและประเมนิ ผล ๑) วธิ ีประเมิน - สงั เกตพฤติกรรม - ตรวจแบบฝก หัด ๒) เครื่องมอื ประเมนิ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ทําแบบฝกหดั ๓) เกณฑก ารประเมิน - นกั เรียนผา นเกณฑก ารสังเกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐ - นกั เรียนผานเกณฑการทําแบบฝกหัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี ๓ กลุมสาระการเรยี นรูภ าษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี ๖ หนว ยการเรยี นรทู ี่ ๑๔ เรอ่ื ง เสยี แลว ไมกลบั คืน เวลา ๘ ชว่ั โมง เรือ่ ง การอา นคดิ วิเคราะห เวลา ๑ ชวั่ โมง ..................................................................................... สาระสําคัญ การวิเคราะหเร่ือง เปนการพิจารณาสว นตางๆของเรื่อง เชน ขอเท็จจริงและขอคิดเห็น สวนดีและสวน บกพรอ งของเนอื้ เร่ือง จุดประสงคของผูแ ตง ความเหมาะสมในการใชคํา ประโยค ขอความ ฯลฯ สรุปขอคิดท่ีได จากเร่อื ง สามารถนาํ ความรูทไี่ ดร บั ไปใชป ระโยชนในชวี ิตประจาํ วนั มาตรฐานการเรียนรู ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรา งความรูและความคิดเพ่อื นาํ ไปตัดสินใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ มนี ิสยั รกั การอา น ตัวชีว้ ัด ป.๖/๔ แยกขอ เทจ็ จรงิ และขอคดิ เหน็ จากเรอื่ งท่อี าน จดุ ประสงค ๑. นักเรียนตัง้ คําถาม – ตอบคําถามเร่อื งทอี่ า นได ๒. นักเรียนแยกขอ เทจ็ จริงและขอคิดเห็นจากเรื่องท่อี านได ๓. นักเรยี นสรปุ ขอ คดิ ที่ไดจ ากการอานได สมรรถนะสาํ คญั ของผูเ รยี น ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการแกปญหา ๔. ความสามารถในการใชทักษะชีวติ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค ๑. รักความเปนไทย ๒. ใฝเ รียนรู ๓. มจี ติ สาธารณะ ๔. มีวินยั ๕. อยูอยางพอเพยี ง สาระการเรียนรู - การต้ังคาํ ถามและตอบคาํ ถาม - การแยกขอเท็จจรงิ และขอ คิดเห็น

กระบวนการจัดการเรยี นรู ๑. ทบทวนความรูเดิมที่เรียนในชั่วโมงท่ีแลวดวยการใหนักเรียนนําแบบฝกทักษะมารวมกันเฉลยและ ตรวจสอบความถกู ตองอกี ครัง้ ๒. แบง นักเรียนออกเปนกลุม กลมุ ละ ๔ – ๕ คน ใหแตล ะกลมุ เลือกประธานกลมุ รองประธานกลุม และเลขานุการกลุม ครอู ธิบายบทบาทและหนาที่ของสมาชิกทุกคนในกลมุ ใหนกั เรียนทราบ ๓. ใหน ักเรยี นแตล ะกลุม อา นในใจเนอื้ หาบทเรียน จากหนังสอื ภาษาไทยชดุ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษา ปท ่ี ๖ เรือ่ ง “เสียแลว ไมกลับคืน” จากหนา ๒๑๔ ถึงหนา ๒๒๑ อีกคร้ัง จากนั้นใหแตละกลุมต้ังคําถามใหกลุม อื่นตอบ กลุมละ ๒ คําถาม ๔. ครตู ้ังคําถามตอไปนใ้ี หน กั เรียนแตล ะกลมุ ตอบ  ถา นักเรยี นมเี พอื่ นอยา งเก๊ียว นกั เรียนจะคบหรือไม เพราะเหตุใด  เรื่องราวของเกยี๊ ว ใหบ ทเรยี นแกลกู ผูห ญิงอยางไรบา ง  นาํ้ ออยเปน คนอยางไร ควรคบหรอื ไม เพราะเหตุใด  นาํ้ ออยได “บทเรยี นวเิ ศษสุดจากคณุ ปา ” หมายความวาอยา งไร  “การมีหนาตาดี มีมารยาท พูดจาไพเราะ” เปนคุณสมบัติท่ีเพียงพอสําหรับการเปนผูนํา ครอบครวั หรอื ไม เพราะเหตใุ ด ๕. ใหแตละกลมุ ชวยกันเขยี นคาํ ตอบลงในแผน กระดาษ จากน้ันสงตัวแทนออกมาอานคําตอบท่ีหนาช้ัน เรียน ครชู มเชยกลุมท่ตี อบไดดี ๖. รวมกันสนทนาถงึ เนื้อหาของเรื่อง “เสียแลวไมกลับคืน” ครูซักถามนักเรียนวานักเรียนไดอะไรบาง จากการอา นเร่ืองนี้ ๗. นักเรียนทาํ แบบฝกหดั รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ิต ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศึกษาป ท่ี ๖ หนา ๑๓๕ – ๑๓๖ ขอ ๒ – ๔ เสรจ็ แลว ครเู ฉลยและนําสงครตู รวจสอบความถกู ตอง ส่ือ / แหลง เรียนรู ๑. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๖ ๒. แบบฝกหดั รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวติ ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปที่ ๖ การวดั ผลและประเมินผล ๑) วิธปี ระเมิน - สังเกตพฤตกิ รรม - ตรวจแบบฝกหดั ๒) เครอื่ งมอื ประเมนิ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ทาํ แบบฝก หดั ๓) เกณฑก ารประเมิน - นกั เรียนผานเกณฑก ารสงั เกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐ - นักเรยี นผานเกณฑการทําแบบฝกหัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรยี นรูที่ ๔ กลุม สาระการเรยี นรูภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ หนวยการเรียนรูท ี่ ๑๔ เรอื่ ง เสียแลว ไมกลบั คืน เวลา ๘ ชัว่ โมง เรอ่ื ง การอานเสรมิ บทเรยี น เวลา ๑ ชั่วโมง ..................................................................................... สาระสําคญั การอานเสรมิ บทเรียน ทาํ ใหผ อู า นไดร ับความรู ความบนั เทงิ และขอ คิดจากการอาน และสามารถเลือก หนังสืออานไดตรงตามความตอ งการ นอกจากนีท้ ส่ี ําคญั คือสามารถนาํ ความรทู ไ่ี ดร ับจากการอานมาปรับใชให เปนประโยชนใ นชีวิตประจาํ วนั ได มาตรฐานการเรียนรู ท ๑.๑ ใชกระบวนการอา นสรา งความรแู ละความคิดเพื่อนําไปตดั สินใจแกปญหาในการดําเนินชีวิตและ มนี สิ ยั รักการอา น ตัวช้วี ดั ป.๖/๑ อา นออกเสยี งบทรอ ยแกวและบทรอ ยกรองไดถกู ตอ ง จุดประสงค ๑. นักเรียนอานและจับใจความสําคญั ของบทรอ ยกรองได ๒. นกั เรยี นคดิ วเิ คราะหสรุปบทรอยกรองท่อี าน สมรรถนะสาํ คัญของผูเรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการแกปญ หา ๔. ความสามารถในการใชทกั ษะชีวติ คุณลักษณะอนั พึงประสงค ๑. รกั ความเปน ไทย ๒. ใฝเรียนรู ๓. มจี ิตสาธารณะ ๔. มีวนิ ัย ๕. อยูอยา งพอเพียง สาระการเรยี นรู - การอานเสริม “รกั นวลสงวนงาม”

กระบวนการจดั การเรยี นรู ๑. ครูนําบทรอ ยกรอง “รักนวลสงวนงาม” ติดบนกระดานดาํ ใหนักเรยี นอา นออกเสียงพรอมกัน และ อานเปนทํานองเสนะ ๒. นักเรียนรว มกันอภิปราย ซกั ถามเนอ้ื หาสาระการเรยี นรู ครตู ้ังคําถามใหนักเรียนแตละกลุมชวยกัน คิดหาคาํ ตอบ ตวั อยา งเชน  รักนวลสงวนงาม คัดมาจากสภุ าษิตเรื่องใด  รกั นวลสงวนงาม แตง ดว ยคําประพันธป ระเภทใด  สาํ นวนวา “ชงิ สุกกอ นหาม” หมายความวา อยา งไร มที มี่ าจากอะไร  รหู นา ไมร ใู จ หมายความวา อยา งไร  ดอื้ ตาใส หมายถึงอะไร  บทรอ ยกรองน้สี อนใหผูหญิงปฏบิ ตั ิตนอยา งไร ๓. นักเรียนทุกคนเขียนคําถามและคําตอบลงในสมุด นักเรียนและครูชวยกันสรุปเน้ือหาสาระการ เรยี นรู สอ่ื / แหลง เรยี นรู ๑. หนงั สอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี ๖ ๒. แบบฝก หดั รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ทกั ษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี ๖ การวดั ผลและประเมนิ ผล ๑) วธิ ปี ระเมนิ - สงั เกตพฤติกรรม - ตรวจแบบฝกหัด ๒) เครื่องมอื ประเมิน - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ทําแบบฝก หัด ๓) เกณฑก ารประเมนิ - นกั เรียนผานเกณฑการสังเกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐ - นักเรยี นผานเกณฑก ารทาํ แบบฝกหดั รอยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรียนรทู ่ี ๕ กลุม สาระการเรยี นรูภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที่ ๖ หนว ยการเรียนรทู ่ี ๑๔ เร่อื ง เสยี แลวไมก ลับคนื เวลา ๘ ช่วั โมง เรอื่ ง การดู การฟง และการอานขาว เวลา ๑ ชวั่ โมง ..................................................................................... สาระสําคัญ การดู การฟง และการอา นขาว ทาํ ใหร ทู ันเหตกุ ารณรอบตวั และของโลก ชวี ติ ประจําวันของเราจะมีการ ดู การฟง อยเู ปนประจาํ ขาวทด่ี ตี อ งเปน ขาวจรงิ ตามเหตกุ ารณท ีเ่ กดิ ข้ึน และเปนขาวที่ตรงไปตรงมา ไมควรมี ความเห็นของผเู สนอขา ว หรือผูเขยี นขาว จนทําใหขาวบิดเบอื นจากความเปนจรงิ ดงั นน้ั เราจงึ ควรรูจกั แยกแยะ วิจารณ พิจารณาขาวที่ดู ฟง น้ันเพ่ือใหไดความรูและขอมูลขาวสารที่ถูกตอง และเปนประโยชนตอ ชีวิตประจาํ วนั มาตรฐานการเรยี นรู ท ๑.๑ ใชกระบวนการอา นสรา งความรแู ละความคิด เพื่อนําไปตัดสนิ ใจแกป ญ หาในการดาํ เนินชีวิตและ มีนิสัยรกั การอา น ตวั ชวี้ ดั ป.๖ /๔ แยกขอเทจ็ จริงและขอคดิ เห็นจากเรือ่ งทีอ่ าน จดุ ประสงค ๑. นักเรยี นบอกหลกั การฟง ดู อา น ขาวได ๒. นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั เรื่องทีด่ ู ฟง และขา วทอี่ า นได สมรรถนะสําคัญของผเู รียน ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแกป ญ หา ๔. ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ติ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค ๑. รักความเปน ไทย ๒. ใฝเรียนรู ๓. มจี ิตสาธารณะ ๔. มวี นิ ัย ๕. อยูอยา งพอเพยี ง

สาระการเรียนรู - การฟง การดู การอานขา ว - การวิเคราะหข าว กระบวนการจดั การเรยี นรู ๑. ครูนาํ ขาวทตี่ ดั จากหนา หนงั สือพิมพมาใหนักเรียนท่ีอานคลอง อานใหเพื่อนฟง แลวสนทนาแสดง ความคดิ เห็น  ขา วนีเ้ ปน ขา วประเภทใด  นาเชอ่ื ถอื หรอื ไม เพราะเหตุใด  สิ่งใดจะชว ยใหเ รารูทนั เหตกุ ารณร อบตัวและรอบโลก  ขาวทมี่ ีความเหน็ ของผูเสนอขา วหรือผเู ขียนขาว อาจทาํ ใหเกดิ อะไรขนึ้  นักเรียนคดิ วาจะสามารถวจิ ารณส ่งิ ท่ดี ู ท่ฟี ง และขาวท่อี านไดห รอื ไม  หลังจากดูขา ว หรอื ฟงขา ว หรอื อานขา วแลว นักเรียนควรปฏบิ ตั ิอยางไร  หลักการดู การฟง และการอา นขา วท่ดี คี วรเปน อยา งไร ๒. ใหแตละกลุม ชว ยกันตอบคาํ ถามขางบน สรุปแสดงความคดิ เห็นและสงตัวแทนรายงานหนา ช้ันเรียน ๓. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับ การดู การฟง และการอานขาวในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ หนา ๒๒๔ – ๒๒๕ ๔. นักเรยี นทําแบบฝกหดั รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษา ปที่ ๖ หนา ๑๓๘ – ๑๓๙ ขอ ๑ – ๒ สง ใหครตู รวจสอบความถกู ตอ ง ส่อื / แหลง เรยี นรู ๑. ขา วจากหนา หนังสือพมิ พ ๒. หนงั สอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ ๓. แบบฝกหัด รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพือ่ ชีวิต ทกั ษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปที่ ๖ การวดั ผลและประเมินผล ๑) วธิ ีประเมนิ - สังเกตพฤติกรรม - ตรวจแบบฝก หดั ๒) เคร่อื งมอื ประเมิน - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ทําแบบฝกหดั ๓) เกณฑก ารประเมิน - นักเรยี นผานเกณฑการสังเกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐ - นกั เรยี นผานเกณฑก ารทาํ แบบฝกหดั รอยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจัดการเรียนรูท ่ี ๖ กลุม สาระการเรียนรภู าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ หนวยการเรียนรูที่ ๑๔ เรอื่ ง เสยี แลว ไมกลบั คืน เวลา ๘ ชัว่ โมง เรอ่ื ง การสนทนาและการพูดโทรศัพท เวลา ๑ ช่ัวโมง .................................................................................... สาระสําคญั การสนทนากับบุคคลทั่วไป ควรเลือกใชถอยคําท่ีสุภาพ เพื่อใหผูฟงมีความรูสึกที่ดี และชวยใหการ สือ่ สารประสบความสําเร็จตามจุดประสงค การพูดติดตอ ทางโทรศพั ท ควรใชภาษาทีส่ ุภาพ พดู สน้ั ๆชัดเจน ไดค วามครบถวนตามที่ตองการ และไม ควรพดู โทรศพั ทนานเกนิ ไป ถา เรอื่ งท่ตี ิดตอ มีรายละเอยี ดมาก ควรจดบนั ทึกยอๆ ไวเพ่ือกันลืม มาตรฐานการเรยี นรู ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงและดูอยางมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู ความคิด และความรูสึกใน โอกาสตา งๆ อยางมวี ิจารณญาณและสรางสรรค ตวั ช้ีวดั ป.๖/๑ พูดแสดงความรูความเขา ใจจุดประสงคข องเร่ืองท่ฟี งและดู จุดประสงค ๑. นักเรยี นบอกหลกั การพูดสนทนาและพดู โทรศพั ทได ๒. นักเรยี นปฏบิ ตั ติ นในการสนทนาและพดู โทรศพั ทได สมรรถนะสาํ คญั ของผูเ รียน ๑. ความสามารถในการส่อื สาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแกป ญหา ๔. ความสามารถในการใชทักษะชวี ติ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค ๑. รักความเปน ไทย ๒. ใฝเรียนรู ๓. มจี ติ สาธารณะ ๔. มีวินัย ๕. อยูอ ยา งพอเพียง สาระการเรยี นรู - การสนทนาและการพูดโทรศัพท

กระบวนการจัดการเรียนรู ๑. ทบทวนเนื้อหาทีเ่ รยี นในชัว่ โมงท่แี ลว ดว ยการใหนักเรียนนําแบบฝกทักษะ มารวมกันตรวจสอบและ เฉลยอกี คร้งั ๒. แบงกลุมศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับการสนทนาและการพูดโทรศัพทในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ ๖ หนา ๒๒๕ – ๒๒๗ ครูสรุปแนะนําวิธีการพูด สนทนาและพดู โทรศัพท อภิปรายรวมกัน ๓. ครกู ําหนดสถานการณใ หนักเรยี นแตล ะกลมุ สงตัวแทนแสดงบทบาทสมมุติพูดโทรศัพทกันท่ีหนาช้ัน เรยี น รว มกนั ตัดสนิ กลุมท่แี สดงไดด ี ๔. นกั เรียนทําแบบฝก หัด รายวชิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษา ปท ี่ ๖ หนา ๑๔๐ ขอ ๓ นําสงครเู พือ่ ตรวจสอบความถกู ตอ ง สอ่ื / แหลง เรยี นรู ๑. สถานการณจ ําลอง ๒. หนงั สอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ ๓. แบบฝกหดั รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ทกั ษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ การวดั ผลและประเมนิ ผล ๑) วิธีประเมิน - สงั เกตพฤติกรรม - ตรวจแบบฝก หัด ๒) เคร่ืองมือประเมนิ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ทําแบบฝก หดั ๓) เกณฑการประเมิน - นกั เรยี นผานเกณฑการสงั เกตพฤติกรรม รอยละ ๗๕ – ๘๐ - นกั เรยี นผา นเกณฑก ารทําแบบฝก หดั รอยละ ๗๕ – ๘๐

แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๗ กลมุ สาระการเรียนรูภ าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ หนวยการเรียนรูที่ ๑๔ เรอ่ื ง เสียแลวไมกลบั คืน เวลา ๘ ช่ัวโมง เรอื่ ง การอา นกราฟและแผนภูมิ เวลา ๒ ชั่วโมง ..................................................................................... สาระสาํ คัญ กราฟ คือ เสนหรือภาพท่ีเขียนบอกจํานวนเวลา หรือระดับของสิ่งตางๆ ที่แสดงใหเห็นความ เปลี่ยนแปลง หรอื เปรียบเทยี บใหเหน็ อยางชัดเจน กราฟจะชวยทนุ เวลาในการอานความหมายและเน้ือหาสาระ ไดร วดเรว็ กวาการเขียนอธิบายเปน ตวั หนังสอื แผนภมู ิ คอื สงิ่ ที่ถายทอดเน้อื หาสาระ เร่อื งราวทีเ่ ปนภาพวาดหรือภาพเขียน คําอธิบาย สัญลักษณ สี ฯลฯ เพ่ือใหผอู านเขาใจรายละเอียดไดช ดั เจนเรว็ ขนึ้ และกระตุนใหเ กดิ ความเขา ใจ มาตรฐานการเรยี นรู ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพ่ือนําไปใชตัดสินใจแกปญหาในการดําเนินชีวิต และมนี ิสยั รักการอา น ตัวช้วี ดั ป.๖/๗ อธิบายความหมายของขอมลู จากการอา นแผนผงั แผนท่ี แผนภูมิ และกราฟ จุดประสงค ๑. นกั เรยี นบอกความหมายของกราฟได ๒. นกั เรยี นอา นกราฟและแผนภูมไิ ด สมรรถนะสาํ คัญของผูเรียน ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการแกปญ หา ๔. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต คุณลักษณะอนั พึงประสงค ๑. รักความเปน ไทย ๒. ใฝเ รียนรู ๓. มจี ิตสาธารณะ ๔. มีวินัย ๕. อยูอ ยางพอเพยี ง สาระการเรยี นรู - การอานกราฟและแผนภูมิ

กระบวนการจัดการเรยี นรู ๑. ทบทวนเนื้อหาทีเ่ รยี นในช่วั โมงทแี่ ลว ดว ยการใหนักเรียนนําแบบฝกทักษะ มารวมกันตรวจสอบและ เฉลยอีกคร้งั ๒. ครนู ําตวั อยางแผนภมู ิจํานวนนักเรียนปการศึกษา ๒๕๕๗ โรงเรียนอนุบาลกาญจนบุรี มาแสดงให นกั เรียนดู ใหนกั เรยี นแตล ะกลมุ ชว ยกันตอบคําถาม และเตรียมสง ตวั แทนอานคาํ ตอบของกลมุ ท่หี นาชนั้ เรยี น ๓. ใหน ักเรียนอา นหัวขอ “การอานกราฟและแผนภูมิ” ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปท่ี ๖ หนา ๒๒๗ – ๒๒๙ จากน้ันครูสรุปเน้ือหาพรอมทั้งแสดง ตวั อยางประกอบ ๔. นกั เรยี นทําแบบฝกหดั รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษา ปที่ ๖ หนา ๑๔๑ ขอ ๔ เสรจ็ แลวนาํ สง ครู ครูเฉลย นักเรยี นแลกเปลย่ี นกนั ตรวจสอบความถกู ตอ ง ๕. ใหนกั เรยี นเขียนกราฟและแผนภูมิ พรอมท้ังแสดงการอานใหถกู ตอ ง โดยกาํ หนดหวั ขอเอง นาํ สงให ครูตรวจสอบความถูกตอง ๖. นกั เรยี นและครูรว มกนั สรปุ ความเขาใจเกย่ี วกบั การอา นกราฟและแผนภมู ิ สอ่ื / แหลง เรยี นรู ๑. ตัวอยางแผนภูมิ ๒. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่อื ชวี ิต ภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ ๓. แบบฝกหัด รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชวี ิต ทกั ษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปที่ ๖ การวัดผลและประเมนิ ผล ๑) วธิ ปี ระเมนิ - สงั เกตพฤติกรรม - ตรวจแบบฝก หดั ๒) เครอ่ื งมือประเมนิ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ทําแบบฝก หดั ๓) เกณฑก ารประเมิน - นกั เรยี นผานเกณฑการสังเกตพฤตกิ รรม รอยละ ๗๕ – ๘๐ - นักเรียนผานเกณฑก ารทําแบบฝก หัด รอ ยละ ๗๕ – ๘๐


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook