สารสังเคราะห์และผลิตภัณฑ์ นิชานันท์ 19 (1)

จัดทำโดย นางสาว นิชานันท์ เทียนสี ปวส.1/3 เลขที่ 19 รหัส 64321120343

สารสังเคราะห์และผลิตภัณฑ์

จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของสารสังเคราะห์และผลิตภัณฑ์ได้ 2. บอกข้อดี ข้อด้อยและความแตกต่างของสาร สังเคราะห์แต่ละประเภทได้ 3. บอกวิธีการทดสอบสารสังเคราะห์แต่ละประเภทได้ 4. บอกประโยชน์และโทษที่เกิดจากสารสังเคราะห์แต่ ละประเภทได้ 5. สร้างและออกแบบการเรียนรู้ของตนเองได้

Synthetic substances สารสังเคราะห์ คือ สารที่มนุษยศ์ึกษาค้นคว้าวิจัยจากธรรมชาติจน คิดว่า รู้และเข้าใจในสิ่งนั้นอย่างถ่องแท้สามารถสังเคราะห์สร้างสาร นั้นขึ้นมาทดแทน

สารสังเคราะห์สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท สารสังเคราะห์ทางธรรมชาติ สารสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เป็นสารสังเคราะห์ที่เกิดขึ้นจาก เป็นสารที่ได้จากพืชและสัตว์ เช่น โปรตีนใน กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ร่างกายคนเรา แป้งและเซลลูโลสใน พลาสติก ยาง สังเคราะห์วัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิต ประจ าวัน

ความหมายของพอลิเมอร์ พอลิเมอร์ (Polymer) คือ สารประกอบที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ และมีมวลโมเลกุลมากประกอบ ด้วยหน่วยเล็ก ๆ ของสารที่อาจจะเหมือนกันหรือต่างกันมาเชื่อมต่อกันด้วย พันธะโควาเลนต์

ประเภทของพอลิเมอร์ แบ่งตามเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้ แบ่งตามการเกิดเป็นเกณฑ์ เป็น 2 ชนิด คือ - พอลิเมอร์ธรรมชาติ เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น โปรตีน แป้ง เซลลูโลส ไกโคเจน กรดนิวคลีอิก และยางธรรมชาติ (พอลีไอโซปรีน) - พอลิเมอร์สังเคราะห์ เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากการสังเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์ต่าง ๆ เช่น พลาสติก ไนลอน ดาครอน และลูไซต์ เป็นต้น

ประเภทของพอลิเมอร์ แบ่งตามเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้ แบ่งตามชนิดของมอนอเมอร์ที่เป็นองค์ประกอบ เป็น 2 ชนิด คือ - โฮมอลิเมอร์ (Homopolymer) เป็นพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยมอนอเมอร์ชนิดเดียวกัน เช่น แป้ง(ประกอบด้วยมอนอเมอร์ที่เป็นกลูโคสทั้งหมด) พอลิเอทิลีน PVC (ประกอบด้วยมอนอ เมอร์ที่เป็นเอทิลีนทั้งหมด) - เฮเทอโรพอลิเมอร์ (Heteropolymer) เป็นพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยมอนอเมอร์ต่างชนิดกัน เช่น โปรตีน (ประกอบด้วยมอนอเมอร์ที่เป็นกรดอะมิโนต่างชนิดกัน) พอลิเอสเทอร์ พอลิเอ ไมด์ เป็นต้น

สารสังเคราะห์ สารสังเคราะห์และวัสดุสังเคราะห์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ พลาสติก เส้นใย ยาง

ความหมายพลาสติก Plastic เป็นวัสดุในกลุ่มพอลิเมอร์ สังเคราะห์ขึ้นจากสารประกอบอินทรีย์ มีน้ำหนักโมเลกุลสูง สามารถ หลอมขึ้นรูปเป็นของแข็งรูปทรงต่างๆ ได้ง่าย มีการนำมาใช้งานหลากหลายรูปแบบ เช่น ถุง พลาสติก ขวดน้ำ ภาชนะ บรรจุภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ท่อประปา เป็นต้น

ประ เภท ของ พลาส 1.เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) เทอร์โมพลาสติก หรือที่เรียกกันว่าเรซิน เป็นพลาสติกที่ได้รับความนิยม ติก อย่างมากและใช้กันอย่างแพร่หลาย เทอร์โมพลาสติกถ้าหากได้รับความ ร้อนจะอ่อนตัว และเมื่อเย็นก็จะเกิดการแข็งตัว สามารถที่จะเปลี่ยนแปลง รูปได้ โดยพลาสติกรูปแบบนี้โครงสร้างโมเลกุลจะเป็นลักษณะโซ่ตรง

ประ เภท ของ พลาส 2.เทอร์โมเซตติ้ง (Thermosetting) เทอร์โมเซตติ้ง เป็นพลาสติกที่จะมีโครงสร้างเป็นร่างแห มีสมบัติพิเศษ ติก คือสามารถที่ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสามารถทนต่อ ปฏิกริยาทางเคมีได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเกิดรอยเปื้อนได้ยาก ทนความ ร้อนและทนความดัน เปลี่ยนแปลงรูปร่างไม่ได้ ไม่มีการอ่อนตัว

ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ ยาง Rubberคือวัสดุพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจนและคาร์บอน ยางเป็นวัสดุที่มีความ ยืดหยุ่นสูง ยางที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติจะมาจากของเหลวของพืชบางชนิด ยางธรรมชาติ ยางสังเคราะห์ (Natural Rubber) (Synthetic Rubber)

ยางธรรมชาติ Natural Rubber นั้นเป็นผลิตผลที่ได้จากต้นยางพารา (Hevea brasilensis) โดยการกรีดลำต้นและนำเอาของเหลวสี ขาวคล้ายน้ำนม เรียกว่า น้ำยางสดหรือน้ำยางดิบ

ยางสังเคราะห์ (Synthetic Rubber) เป็นผลิตภัณฑ์ที่สังเคราะห์ขึ้นเพื่อเลียนแบบยางธรรมชาติ ซึ่งจัดว่าเป็นอิลาสโทเมอร์ หรือวัสดุ ยืดหยุ่นสังเคราะห์ (artificial elastomer) ชนิดหนึ่งที่มีสมบัติพิเศษคือ สามารถเปลี่ยนรูปภายใต้ ความเค้นได้มากกว่าวัสดุชนิดอื่นและสามารถกลับคืนรูปได้เหมือนเดิมโดยไม่เกิดการเสียรูปอย่าง ถาวร

เส้นใย (Fiber) วัสดุอย่างหนึ่งจากธรรมชาติหรือที่มนุษย์ทำขึ้นมา ที่มีความยาวมากกว่าความกว้างมักใช้เส้นใย ในการผลิตด้วยเครื่องใจในวัสดุอื่น ๆ เส้นใยธรรมชาติ เส้นใยประดิษฐ์ (Natural Fiber) (Artificial Fiber)

เส้นใยธรรมชาติ (Natural Fiber) เป็นเส้นใยที่ได้จากพืชและสัตว์ จากพืชจะมีราคาถูกกว่าจากสัตว์และมีจำนวนมากกว่าด้วยและ นิยมใช้กันในบ้านเราเพราะว่าหาง่าย เช่น ฝ้าย ลินิน ป่าน ปอ

เส้นใยประดิษฐ์ (Artificial Fiber) เส้นใยที่เกิดจากการคิดค้นและพัฒนาของมนุษย์เพื่อใช้ทดแทนเส้นใยจากธรรมชาติและเพื่อ ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้าน อาทิ การทหาร การแพทย์ และอุตสาหกรรม

แหล่งข้อมูลอ้างอิง 1.http://www.oie.go.th/assets/portals/1/fileups/2/files/ArticlesAnal ysis/high_performance_fibers.pdf 2.https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8% B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81 3.https://www.mtec.or.th/post-knowledges/3977/ 4.http://korat.nfe.go.th/sci_t1/chap10/chap10_2.pdf

จบการนำเสนอแล้วจ้าา...