ศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2565 มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น

ศิษย์เก่าดเี ดน่ ประจาปี 2565 มหาวทิ ยาลยั การจัดการและเทคโนโลยอี สี เทริ น์ ลาดับ ช่ือ-สกลุ อาชพี สังกัด 1 พันจ่าตรีพสิ ฐิ รกั พรม \"ศกึ ษาศาสตรดุษฎบี ัณฑิต\" ตาแหน่ง รองผู้อานวยการสานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา 2 ดร.มนตต์ รี ธนะคณุ สานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร สาขาวิชาการบรหิ ารการศกึ ษา 3 พ.ท.วทิ ยา ชยั จันทร์ 4 นายชมุ พล วรสทุ ธิ์ ตาแหนง่ ผูอ้ านวยการสานักการศึกษา \"คณะนิตศิ าสตร์\" สงั กัดสานกั การศึกษา เทศบาลนครอบุ ลราชธานี \"คณะรฐั ศาสตร\"์ 5 นางสุนิษา เขมปริยากร \"คณะบริหารธรุ กจิ \" ตาแหน่ง สสั ดี อาเภอชมุ พวง จ.นครราชสีมา 6 นางสขุ สันต์ ใจแกว้ สาขาวชิ าการจัดการ ตาแหนง่ หวั หน้าแผนกมเิ ตอร์ การไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าค 7 นางสาวรงุ้ ตะวัน สัมปชัญญานนท์ อาเภอเดชอุดม จงั หวดั อุบลราชธานี \"รฐั ศาสตรมหาบณั ฑติ \" 8 นายทรงวิทย์ กูฎโสม 9 นางวฒั นา ดาวเด้น ผู้อานวยการกลุ่มงานสง่ เสริมและพัฒนาทอ้ งถิ่น \"ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑิต\" 10 นายธรี ัตต์ แสนวเิ ศษ (นักส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นชานาญการพิเศษ) กรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถิน่ กระทรวงมหาดไทย สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา 11 นายสาธติ พฒั นภรณ์ \"หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพคร\"ู 12 พระครปู รยิ ัตปิ ัญญาโสภณ ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรียน โรงเรียนวัดไร่น้อย \"หลักสตู รประกาศนยี บตั รวิชาชพี คร\"ู 13 นายเอกมงคล อุปัญญ์ ตาแหน่ง ครู \"คณะศกึ ษาศาสตร์\" โรงเรียนอนบุ าลพิบูลมังสาหารวภิ าคยว์ ทิ ยากร \"คณะศลิ ปศาสตร\"์ ตาแหนง่ ครู โรงเรียนวดั ไร่นอ้ ย \"คณะการบญั ช\"ี ตาแหน่ง ครผู ้ชู ่วย โรงเรียนบ้านแข็งขยนั \"รฐั ศาสตรดุษฎบี ณั ฑิต\" ตาแหนง่ อาจารย์ \"คณะวทิ ยาศาสตร\"์ วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาโปลีเทคนคิ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ อาชพี อสิ ระ ด้านการบญั ชี อาจารย์ประจาหลักสูตรรฐั ประศาสนศาสตรมหาบัณฑติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตสุรินทร์ อาชพี อสิ ระ ดา้ น PROPERTY



แบบเสนอรายงานเพือ่ ขอรับรางวลั ผู้บริหารการศกึ ษาท่ีมผี ลงานดีเด่น ประจาปี ๒๕๖๕ (๑) คำนำหน้ำนำม .........พันจ่าตรี........... ชอื่ ...........พสิ ฐิ ............ ช่ือสกุล ...............รักพรม....... (๒) ตำแหนง่ รองผูอ้ านวยการสานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษา (๓) สถำนท่ที ำงำน สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษาศรีสะเกษ ยโสธร สงั กดั สำนกั งำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำมัธยมศกึ ษำศรสี ะเกษ ยโสธร (จงั หวัดศรีสะเกษ) หรอื สังกดั สำนกั บรหิ ำรงำนกำรศึกษำพเิ ศษ หรือ สังกัดสำนักงำนองคก์ ำรบริหำรส่วนจงั หวัด ....................................................... (๔) วนั / เดอื น / ปีเกดิ วันท่ี ๒๐ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๑๑ (๕) วันเรม่ิ รับรำชกำร .......วนั ที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๖.................................................. (๖) รวมเวลำรับรำชกำร ....๑๘.... ปี .......๘....... เดือน (นับถึงวนั ท่ี ๓๑ ธนั วำคม ๒๕๖๔) (๗) วุฒกิ ำรศึกษำสงู สดุ ปรญิ ญาเอก (ศึกษาศาสตรดุษฎีบณั ฑติ ) สาขา การบรหิ ารการศกึ ษา จำกสถำบนั กำรศกึ ษำ .......มหาวิทยาลัยการจดั การและเทคโนโลยีอสี เทริ น์ ..................... โดยมีผลกำรปฏบิ ัตงิ ำนสรปุ ได้ ดงั นี้ ๑ ผลงานการครองตน ๑.๑ การพ่งึ ตนเอง ขยนั หมน่ั เพียร และมีความรับผิดชอบ ขำ้ พเจ้ำปฏบิ ัตหิ น้ำที่ดว้ ยควำมซื่อสัตย์ สจุ รติ มคี วำมมุ่งม่นั ตง้ั ใจในกำรทำงำน ดว้ ยควำมอดทน ไม่เคยละท้งิ งำนและย่อท้อต่ออุปสรรคปญั หำต่ำง ๆ กล้ำท่ีจะตัดสนิ ใจและรบั ฟังควำมคิดเหน็ ของผูอ้ ่ืน มีควำม เช่ือม่ันในตนเอง สุขุม รอบครอบ มีจิตใจที่รำ่ เรงิ วำงตนได้เหมำะสมกับกำลเทศะ รับผิดชอบต่อหน้ำท่ที ีม่ ีต่อ ตนเอง ครอบครวั และผูอ้ ่ืน จนเป็นทยี่ อมรบั ของบุคคลโดยท่ัวไป พร้อมท่ีจะอุทศิ ตน เวลำ และแรงงำน ใหแ้ ก่ รำชกำรอย่ำงสม่ำเสมอเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยกำรใช้สติปัญญำ ควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติงำน ร่วมกบั ผู้อ่นื ดว้ ยควำมเอำใจใส่ ขำ้ พเจ้ำดำเนินชวี ิตด้วยหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยกำรใช้ทรพั ยส์ ินของทำงรำชกำร ให้เกิดประโยชน์และประหยัด ใชจ้ ่ำยเงนิ ตำมสมควรแกฐ่ ำนะ มกี ำรเกบ็ ออม สรำ้ งฐำนะของตนเองและครอบครวั ดแู ลทรพั ย์สนิ ของตนเองและสว่ นรวม นอกจำกนั้นก็ได้ร่วมบริจำคทรัพยส์ ินในงำนกุศลตำ่ ง ๆ ทสี่ มควรแก่ฐำนะ ด้วยควำมเต็มใจ ได้ส่งผลงำนเข้ำร่วมประเมินกิจกรรมผู้มีผลงำนดีเด่นต่อกำรพัฒนำกิจกรรมลูกเสือของ กระทรวงศึกษำธิกำร และได้ประกำศนียบัตรเพื่อแสดงว่ำ พันจ่ำตรีพิสิฐ รักพรม เป็นผู้มีผลงำนดีเด่นต่อกำร

พัฒนำกิจกรรมลกู เสือของกรพทรวงศกึ ษำธิกำร ประจำปี ๒๕๖๔ ประเภท ผู้ให้กำรสนับสนุน ทะเบียนเลขท่ี ส. ๐๔๙ / ๒๕๖๔ สำนกั งำนปลดั กระทรวงศึกษำธิกำร ขอมอบประกำศนยี บตั รเพื่อแสดงวำ่ พันจ่ำตรพี สิ ฐิ รกั พรม เปน็ ผู้มีผลงำน ดีเด่นต่อกำรพัฒนำกิจกรรมลูกเสือของกระทรวงศึกษำธิกำร ประจำปี ๒๕๖๔ ประเภท ผู้ให้กำรสนับสนุน ทะเบียนเลขท่ี ส. ๐๔๙ / ๒๕๖๔ ๑.๒ การประหยดั และเกบ็ ออม ข้ำพเจ้ำได้ดำรงชีวิตอย่ำงประหยัด มัธยัสถ์ อดออม ๙งมีผลต่อกำรดำรงชีวิต เป็นท่ีปรำกฏ ประพฤติปฏิบัติตนเปน็ แบบอย่ำงทีด่ ี ท้ังทำงกำย วำจำและจิตใจ ไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อควำมเจริญทำง กำย สตปิ ัญญำ จิตใจ อำรมณ์และสังคมตลอดจนผูเ้ ข้ำรบั บริกำร และให้บรกิ ำรด้วยควำมจริงใจและเสมอภำค โดยไมเ่ รยี กรบั หรือยอมรับผลประโยชน์จำกกำรใช้ตำแหน่งหน้ำทโี่ ดยมิชอบ ได้แก่ กำรให้บริกำรควำมชว่ ยเหลือ ใหค้ ำปรกึ ษำ รับฟงั ปญั หำ ควำมคิดเห็นจำกผรู้ ับบรกิ ำร และผ้ใู ตบ้ ังคับบญั ชำทุกระดบั ๑.๓ การรกั ษาระเบียบวนิ ยั และเคารพกฎหมาย ขำ้ พเจ้ำได้ปฏิบตั ิและแสดงถึงกำรรักษำระเบียบวนิ ยั และเคำรพกฎหมำย เป็นผรู้ ักษำและปฏบิ ัติ ตำมระเบยี บและกฎหมำยท่ไี ดม้ ีกำรบญั ญตั หิ รอื กำหนดไว้ ประพฤติและปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอย่ำงแก่บคุ คล โดยทว่ั ไป เชื่อฟัง และให้ควำมเคำรพต่อผบู้ ังคบั บัญชำ และเป็นผทู้ ่มี คี วำมตรงต่อเวลำ โดยประพฤติปฏบิ ัติตน ตำมจรรยำบรรณวชิ ำชพี อยำ่ งเคร่งครดั เปน็ แบบอย่ำงท่ดี ีแก่เพอื่ นรว่ มงำนในทกุ ดำ้ น กำรมวี นิ ัยในตนเอง ขำ้ พเจ้ำยอมรับและถือปฏบิ ตั ติ ำมกฎ กตกิ ำ มำรยำทขนบธรรมเนียมและ แบบอยำ่ งอันดีงำมของสงั คม ดำรงตนเปน็ ผมู้ ีวนิ ยั โดยรักษำและปฏบิ ัตติ ำมระเบยี บ กฎเกณฑ์ ข้อตกลงทกี่ ำหนด ไวเ้ ปน็ แนวทำงในกำรปฏบิ ตั แิ ละเป็นแบบอย่ำงใหบ้ ุคคลอนื่ ในกำรประพฤตปิ ฏิบัตติ นในกำรดำรงชีวติ อยรู่ ่วมกัน อยำ่ งรำบร่นื มคี วำมสขุ โดยอำศัยกำรฝกึ อบรมให้รจู้ กั กำรปฏบิ ัติตนเอง ร้จู กั กำรควบคมุ ตนเอง กำรปฏบิ ัติให้ อยู่ในระเบียบวนิ ยั ได้ปฏบิ ตั ติ นครอบคลุม ๓ ดำ้ น ได้แก่ ดำ้ นกำรเปน็ ผบู้ รหิ ำรท่ีมวี ินัยในตนเอง ดำ้ นกำรเปน็ ผ้บู รหิ ำรที่มีวินยั ทำงสงั คมหรือวนิ ัยในหมู่คณะ และด้ำนกำรเปน็ ผบู้ รหิ ำรทสี่ ่งเสริมระเบียบวนิ ัยภำยในองคก์ ร โดยกำรปฏบิ ัตดิ ังน้ี ๑. เคำรพในกฎหมำยต่ำง ๆ และท่สี ำคญั อย่ำงย่งิ คือไมเ่ คยกระทำผดิ กฎหมำย ๒. ปฏิบัตติ ำมกฎหมำยระเบียบของทำงรำชกำรที่กำหนดไว้ในทุกเร่อื ง โดยไม่เคย เพกิ เฉยแต่ใสใ่ จไมว่ ำ่ จะเป็นคำสง่ั ของผู้อำนวยกำรเขตพนื้ ทกี่ ำรศกึ ษำ ประกำศ กฎระเบียบกระทรวงตลอดจน หนว่ ยงำนอ่นื ๆ จนประสบผลสำเร็จด้วยดีในทุก ๆ เรอื่ ง ๓. มวี ินยั และควำมรบั ผิดชอบตอ่ โรงเรยี น โดยกำรประพฤติปฏบิ ัติตนตำม ขอ้ บังคบั กฎ ระเบียบอยำ่ งเคร่งครดั และเป็นแบบอย่ำงเพอ่ื นรว่ มงำน ๔. ปฏิบัติกจิ กรรมของหมู่คณะ ชุมชน และแนวทำงกำรปฏิบตั ิขององคก์ รอย่ำง

เต็มควำมสำมำรถ และร่วมมอื ในกำรแก้ไขปญั หำต่ำง ๆ ท่ีเกดิ ขน้ึ เพือ่ นำไปสู่ควำมสำเรจ็ ตำมวตั ถปุ ระสงค์ ๕. เปน็ ผมู้ ีวินัยและตรงต่อเวลำในกำรเขำ้ ร่วมประชมุ อบรม สมั มนำหรอื กำร ปฏบิ ตั ิหน้ำทรี่ ำชกำรทีร่ ว่ มกบั อืน่ เพ่อื เป็นแบบอยำ่ งแก่คณะครู นักเรยี น และผู้ปกครอง ๖. เปน็ ผมู้ วี นิ ัยในกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรมต่ำง ๆ ท้งั ภำยในและหน่วยงำน ภำยนอกองค์กร ๗. มคี วำมตรงต่อเวลำ มวี นิ ยั ในกำรปฏิบตั ิงำน โดยรกั ษำกำหนดเวลำในกำร ปฏบิ ตั งิ ำนใหแ้ ล้วเสรจ็ ทันเวลำทุกครั้ง ๘. มคี วำมซอ่ื สัตยต์ อ่ หนำ้ ทก่ี ำรงำน โดยไมค่ ำนงึ ถงึ ประโยชนส์ ่วนตวั ๙. อุทิศเวลำให้แกท่ ำงรำชกำร ทงั้ ในเวลำ และนอกเวลำรำชกำรรวมถงึ วนั หยดุ รำชกำร ในกำรปฏบิ ตั งิ ำนขององค์กรและปฏบิ ัติงำนของหน่วยงำนต้นสงั กดั เพ่อื ประโยชนส์ งู สดุ โดย ปฏิบัติงำนอยำ่ งไมค่ ำนงึ ถงึ เวลำรำชกำรเทำ่ นั้นแตจ่ ะยดึ ถงึ ควำมสำเรจ็ เปน็ ท่ีตง้ั ๑๐. เปน็ ผ้บู รหิ ำรกำรศึกษำ ทเี่ น้นระเบียบวนิ ยั ไดว้ ำงรูปแบบและนโยบำยของ กำรมีวินยั สกู่ ำรปฏบิ ัตโิ ดยเนน้ ตำมแนววถิ พี ุทธดำ้ นคณุ ธรรม จริยธรรมเรอื่ งระเบยี บวินยั และควำมรับผิดชอบ ๑.๔ การปฏบิ ัตติ ามคุณธรรมของศาสนา ขำ้ พเจำ้ ยึดม่ันในคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วำมศรทั ธำและปฏิบัติตนตำมหลกั ศำสนำ ขำ้ พเจำ้ เป้นผ้หู นงึ่ ทน่ี บั ถือศำสนำพทุ ธ และปฏิบตั ติ ำมหลักคำสอน คอื ปฏบิ ตั ิตนเปน็ คนดี ซ่ึงขำ้ พเจ้ำไดย้ ดึ ถือและ ปฏบิ ตั เิ ร่อื ยมำ และทำบญุ ตำมควำมเทศกำลซ่ึงขำ้ พเจำ้ ได้ปฏบิ ัติมำไมเ่ คยขำด และทีส่ ำคัญไดใ้ ชร้ ะบบคุณธรรม ในกำรบริหำรจัดกำรในสว่ นของงำน และมีควำมเมตตำตอ่ ผใู้ ต้บงั คบั บญั ชำอย่ำงสม่ำเสมอตลอดมำ สรำ้ งขวัญ และกำลงั ใจในกำรทำงำนให้แกบ่ คุ ลำกรอยำ่ งทัว่ ถึง จัดหำสวสั ดกิ ำรในด้ำนตำ่ ง ๆ ให้ได้อยำ่ งทวั่ ถึงจนได้รบั รำงวลั ครดู ีไม่มีอบำยมุข ประจำปี ๒๕๖๒ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พน้ื ฐำน ร่วมกบั สำนักงำน เครือขำ่ ยองค์กร งดเหล้ำ (สคล.) สำนกั งำนกองทนุ สนบั สนนุ กำรสรำ้ งเสรมิ สขุ ภำพ (สสส.) สำนักงำน เลขำธิกำรครุ ุสภำ รำงวัลครูดีไม่มีอบำยมุข ประจำปี ๒๕๖๒ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พน้ื ฐำน รว่ มกบั สำนักงำนเครือขำ่ ยองค์กร งดเหล้ำ (สคล.) สำนักงำนกองทุนสนับสนุนกำรสร้ำงเสรมิ สขุ ภำพ (สสส.) สำนักงำนเลขำธิกำรครุ ุสภำ ๑.๕ การมคี วามจงรกั ภักดตี ่อชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์ ข้ำพเจ้ำมีควำมจงรกั ภักดีต่อชำติ ศำสนำ และพระมหำกษัตริย์ โดยกำรเข้ำร่วมกิจกรรมและ กจิ กรรมที่สง่ เสรมิ ควำมจงรกั ภกั ดตี ่อชำติ ศำสนำ และพระมหำกษัตริยท์ ี่เนน้ กำรปกครองในระบอบประชำธิปไตย ที่มีพระมหำกษัตริย์เป็นประมุข ได้แก่ เข้ำร่วมกิจกรรมวันสำคัญทำงศำสนำ เช่น วันอำสำฬหบูชำ วัน

เขำ้ พรรษำ กจิ กรรมและกำรเขำ้ รว่ มวนั สำคัญของสถำบันพระมหำกษัตรยิ ์ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษำสมเด็จ พระวชริ เกลำ้ เจำ้ อยหู่ ัว วนั เฉลิมพระชนมพรรษำสมเด็จพระนำงเจำ้ ฯ พระบรมรำชนิ ี เปน็ ต้น ๒. ผลงานการครองคน ๒.๑ ความสามารถในการประสานสัมพันธ์ และสร้างความเข้าใจอันดีกับผู้บังคับบัญชา เพื่อนรว่ มงาน ผใู้ ตบ้ ังคบั บญั ชา และผู้ท่ีมาติดต่องาน ข้ำพเจ้ำปฏิบัติหนำ้ ที่ในกำรประสำนขำ้ พเจำ้ เปน็ ผปู้ ระสำนงำนและสร้ำงควำมเข้ำใจอนั ดีกบั เพื่อนร่วมงำน มีมนุษยสัมพันธ์มีอัธยำศัยที่ดี เป็นกันเองและสุภำพต่อทุกๆ คน ยอมรับฟังควำมคิดเห็นของผู้อ่ืน สำมำรถจูงใจให้เกิดกำรยอมรับควำมร่วมมือ กำรประสำนสัมพันธ์และสร้ำงควำมเข้ำใจอันดีกับผู้บังคับบัญชำ ชว่ ยเหลอื เพ่ือนรว่ มงำนใหเ้ กียรตแิ ละยกยอ่ งเพ่ือนร่วมงำน เป็นผู้มีมนุษย์สมั พันธด์ ี ยอมรบั ฟงั ควำมคิดเห็นของผอู้ น่ื มอี ำรมณ์รำ่ เรงิ แจม่ ใส่ มีทศั นคติทดี่ กี บั เพอ่ื นรว่ มงำนและบุคคลทว่ั ไป ให้ควำมร่วมมือชว่ ยเหลือ และใหบ้ ริการแก่ผู้ มาตดิ ต่องานราชการด้วยความเสมอภาค มีควำมสำนกึ และถอื เป็นหนำ้ ท่ีท่ีตอ้ งให้บริกำร ชว่ ยเหลอื แนะนำในสิ่ง ที่ดี ด้วยควำมเต็มใจ และเสมอภำคกับคนทุกระดับ เป็นผู้มีความเป็นธรรมท้ังต่อตนเองและต่อผู้อื่น เป็นผู้ ประพฤติและปฏิบตั ติ ำมหลกั เกณฑ์ กฎ ระเบียบ ตัดสิน วินิจฉัย หรือใช้วิธีกำรแก้ปญั หำโดยใช้เหตุผล เสริมสร้าง ความสามัคคีและร่วมกิจกรรมของหมู่คณะท้ังในและนอกหน่วยงาน และให้ควำมสำคัญ ยกย่องให้เกียรติแก่ ผู้ร่วมงำนทกุ คนอย่ำงดี ๒.๒ ความสามารถในการทางานเป็นกลุ่ม สามารถจูงใจให้เกิดความยอมรับและให้ความ ช่วยเหลอื ข้ำพเจ้ำได้กำหนดแนวทำงในกำรปฏิบัติงำน คือ กำรจัดทำแผนงำน กำรดำเนินงำน กำหนด เป้ำหมำยในกำรทำงำน กำกบั ติดตำม สนับสนนุ ใหบ้ คุ ลำกรได้ประสบควำมสำเรจ็ ในกำรทำงำนอยำ่ งเท่ำเทียมกนั โดยมกี ำรดำเนนิ กำรดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. จดั ระบบกำรติดตำมกำรทำงำนของกลมุ่ / ฝำ่ ยงำนต่ำง ๆ แบบกลั ยำณมิตร เพอ่ื ตดิ ตำมกำรปฏิบตั ิงำน แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ นำขอ้ ปัญหำอุปสรรคตำ่ ง ๆ มำดำเนนิ กำรแก้ไข และใหค้ ำปรกึ ษำ แก่บคุ ลำกรอย่ำงทันกำล ทนั เวลำ เพอื่ สง่ ผลให้กำรปฏิบตั งิ ำนเป็นไปอย่ำงมปี ระสิทธิภำพ ๒. กำรพัฒนำบุคลำกรเพือ่ เพิ่มประสิทธิภำพในกำรทำงำน เช่น จดั อบรม บุคลำกรในเร่ืองตำ่ ง ๆ เพ่อื เพ่ิมควำมรู้ควำมสำมำรถในเรอ่ื งนน้ั ๆ ใหแ้ กบ่ ุคลำกร ๓. จดั ระบบกำรบริกำรด้ำนข้อมลู สำรสนเทศ เพอื่ ให้กำรปฏิบตั งิ ำนเป็นไปอยำ่ งมี ประสิทธิภำพ และเปน็ กำรเพ่มิ ประสิทธภิ ำพในกำรทำงำน ๔. สนับสนนุ และพัฒนำให้บุคลำกรได้รับกำรเชดิ ชูเกยี รติ ยกย่องเป็นทยี่ อมรบั ของสงั คมและชมุ ชน ตลอดจนเป็นกำรสง่ เสรมิ ใหบ้ ุคลำกรได้เผยแพรผ่ ลงำนแกส่ ำธำรณชน ๕. นำหลักกำรบริหำรแบบมีส่วนร่วมมำใชเ้ ป็นฐำนในกำรพัฒนำสำนักงำนเขต

พน้ื ทีก่ ำรศกึ ษำมัธยมศึกษำศรีสะเกษ ยโสธร โดยกำรเปดิ โอกำสให้ทกุ คนทุกฝำ่ ยไดร้ ว่ มวำงแผน ร่วมคดิ รว่ มทำ และปฏบิ ัตงิ ำนรว่ มกนั อย่ำงเปน็ กลั ยำณมิตร โดยกำรแตง่ ต้งั คณะทำงำนในรปู แบบของคณะกรรมกำรดำเนนิ งำน ๒.๓ ให้บริการแก่ผมู้ าตดิ ตอ่ ราชการดว้ ยความเสมอภาค ขำ้ พเจำ้ ได้นำแนวพระรำชดำรัสของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยูห่ วั รชั กำลที่ ๙ ผ้เู ป็น “พระผู้ ทรงเปน็ ครูแหง่ แผน่ ดนิ ” มำเปน็ แบบอยำ่ งในกำรดำเนนิ ชวี ติ และหลักยึดในกำรทำงำน โดยยดึ ม่ันในพระรำชดำรัส ของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวท่ีว่ำ “ผู้ที่เป็นครูจะต้องถือเป็นหน้ำที่อันดับแรก ท่ีจะต้องให้กำรศึกษำ คือ สั่ง สอนอบรมอนุชนใหไ้ ด้ผลแท้จริง ทั้งในด้ำนวิชำควำมรู้ ท้ังในด้ำนจติ ใจ และควำมประพฤติ ทั้งต้องคิดว่ำงำนทแี่ ต่ ละคนกำลังทำอยู่นี้ คือ ควำมเป็นควำมตำยของประเทศ เพรำะอนุชนท่ีมีควำมรู้ควำมดีเท่ำนั้นที่จะรักษำชำติ บ้ำนเมืองไว้ได้” และข้ำพเจำ้ จึงมีควำมต้ังใจปฏิบัติหน้ำที่รำชกำร ตำมบทบำทและหน้ำทข่ี องข้ำรำชกำรครแู ละ บุคลำกรทำงกำรศึกษำอย่ำงเต็มกำลงั ควำมสำมำรถ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ท่ีเป็นไปตำมแบบธรรมเนยี ม ปฏิบัติ วัฒนธรรมและจำรีตประเพณีท่ีดีงำม มีควำมศรัทธำและยึดม่ันในอุดมกำรณ์แห่งวิชำชีพครูและวิชำชีพ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ข้ำพเจ้ำอุทิศเวลำให้กับงำนในหน้ำท่ีควำมรับผิดชอบ สำนึกในบทบำทหน้ำท่ีไม่เกี่ยงงำน ปฏบิ ตั งิ ำนพเิ ศษตำมทผ่ี ้บู ังคับบัญชำมอบหมำย กลำ้ รับผิดชอบ ไมท่ ิ้งงำน หรอื ภำระหน้ำทข่ี องตนเอง ติดตำมงำน ให้เสร็จทนั ตำมกำหนดเวลำ และเม่ือทำผิดแล้ว กย็ อมรบั ผดิ แลว้ นำมำเป็นบทเรียนเพอื่ แก้ไขและปรบั ปรงุ ตนเอง กลำ้ ตัดสนิ ใจโดยยดึ หลักควำมถูกต้องและยุติธรรม กล้ำรบั ผดิ ชอบต่อกำรตดั สินใจและคดิ เสมอว่ำ “ผูท้ ีม่ าติดต่อ ราชการคือบุคคลที่สาคัญที่สุด” ข้ำพเจ้ำเป็นผู้ใฝ่ศึกษำ หำควำมรู้ ต้ังใจเรียนจนสำเร็จกำรศึกษำปรญิ ญำเอก ศกึ ษำศำสตรดษุ ฎีบัณฑิต สำขำกำรบริหำรกำรศกึ ษำ ซงึ่ สนใจและเอำใจใสต่ อ่ กำรปฏิบตั ิงำน มีควำมรแู้ ละเข้ำใจใน หลักเกณฑ์ วิธีกำร กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และสำมำรถนำควำมรไู้ ปใช้ในกำรปฏิบตั ิงำนไดเ้ ปน็ อย่ำงดี มีปฏิภำณ ไหวพริบ สำมำรถแก้ปัญหำ มีควำมเต็มใจ จริงใจและท่มุ เท คิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ปรับปรุงพัฒนางาน โดยได้นา แนวทำงวิธีกำรใหม่ๆ มำใช้ในกำรปฏิบัติงำนให้มีประสทิ ธิภำพย่ิงข้ึน และสำมำรถทำงำนที่ยำก หรืองำนใหมใ่ ห้ สำเร็จเป็นผลดี มีความพากเพียร กระตือรือร้น ต้องกำรท่ีจะปฏิบัติงำนที่ได้รับมอบหมำยจนงำนประสบ ควำมสำเรจ็ ๒.๔ การเป็นผ้มู ีความเป็นธรรมทง้ั ต่อตนเองและตอ่ ผู้อ่ืน ข้ำพเจ้ำผู้ทปี่ ระพฤติปฏิบัติตนตำมมำตรฐำนทำงจริยธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ กำรปฏิบตั ิทีค่ วรกระทำ หรอื ไมค่ วรกระทำ ตลอดจนดำรงตนในกำรกระทำควำมดีและละเว้นควำมชัว่ เป็นหลักเกณฑป์ ระพฤติปฏิบัติอยำ่ งมี คุณธรรม ท้งั ๗ ขอ้ (๑) ยดึ ม่ันในสถำบันหลักของประเทศ อนั ไดแ้ ก่ ชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั ริย์ และกำรปกครอง ระบอบประชำธปิ ไตยอนั มีพระมหำกษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ โดยกำรส่งเสรมิ สนับสนนุ และพิทกั ษ์รักษำสถำบันหลกั ของประเทศ อันได้แก่กำรรักษำผลประโยชน์และช่ือเสียงของประเทศชำติ กำรปฏิบัติตนตำมหลักศำสนำ กำร เทิดทูนสถำบนั พระมหำกษตั ริย์ รวมท้ังไมต่ ่อต้ำนกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตยอันมพี ระมหำกษัตริย์ ทรง เป็นประมขุ ตัวอยำ่ งพฤติกรรม ได้แก่ ๑. มคี วำมภูมิใจในชำติ ผลประโยชนข์ องชำติเป็นสำคญั ๒. ไมแ่ สดงออกใน

ลักษณะกำรดูหมิ่น เหยียดหยำม หรือกำรทำลำยควำมมัน่ คงของชำติ ๓. ปฏิบัติตำมหลกั ศำสนำท่ตี นนับถือ และ เคำรพในควำมแตกตำ่ งของกำรนับถือศำสนำ ๔. แสดงออกถึงควำมเทดิ ทูนสถำบันพระมหำกษัตริย์ ๕. ปฏบิ ัติตำม รัฐธรรมนูญและกฎหมำย ๖. ไม่ต่อต้ำนกำรปกครองตำมระบอบประชำธิปไตย ๗. เป็นกลำงทำงกำรเมือง (๒) ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำนึกท่ีดีและรับผิดชอบต่อหน้ำที่ โดยปฏิบัติหน้ำท่ีอย่ำงตรง ไปตรงมำด้วยควำมถูกต้องตำม กฎหมำยและตำมทำนองคลองธรรม มีจิตสำนึกที่ถูกต้องในกำรปฏิบัติหน้ำที่ มีควำมสุจริตเป็นที่ต้ังและมีควำม พรอ้ มท่ีจะรับผดิ ชอบตอ่ ผลของกำรปฏิบัติ ตัวอย่ำงพฤติกรรม ไดแ้ ก่ ๑.ปฏิบัติหนำ้ ท่ดี ้วยควำมซ่ือสตั ยส์ จุ รติ โดยไม่ แสวงหำประโยชน์โดยมิชอบ ๒. ปฏิบัติหน้ำท่ีด้วยควำมรอบคอบ ถูกต้อง รวดเร็ว เต็มกำลังควำมสำมำรถ ๓. ปฏิบัติหนำ้ ท่ดี ้วยควำมรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม ส่ิงแวดล้อม และเปิดเผยข้อมูลขำ่ วสำรทถี่ ูกต้อง (๓) กล้ำตัดสนิ ใจและ กระทำในสง่ิ ท่ถี ูกต้องชอบธรรม โดยมีควำมกลำ้ ในกำรตัดสนิ ใจปฏิบัตหิ น้ำท่ีด้วยควำมถูกต้องชอบธรรม และกล้ำ แสดงควำมคดิ เห็นหรือคดั ค้ำนในสิ่งทไ่ี ม่ถูกต้อง รวมทง้ั ไมย่ อมทำในส่งิ ทีไ่ ม่เหมำะสมเพียงเพอื่ รกั ษำประโยชน์หรือ สถำนภำพของตนเอง ตวั อย่ำงพฤตกิ รรม ไดแ้ ก่ ๑. กลำ้ ยืนหยัดทำในสิ่งท่ีถูกตอ้ งชอบธรรม และกล้ำคัดคำ้ นในสง่ิ ท่ี ไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม ๒. เปิดเผยกำรทุจริตหรือรำยงำนกำรทุจริตประพฤติมิชอบต่อผู้บังคับบญั ชำ ๓. ให้ควำม ช่วยเหลือผู้ท่ีไม่ได้รับควำมเป็นธรรม ๔. ไม่หลีกเลี่ยงกฎหมำยเพ่ือเอ้ือประโยชน์ใหแ้ ก่ตนเองหรือผู้อน่ื (๔) คิดถึง ประโยชน์ส่วนรวมมำกกว่ำประโยชน์ส่วนตัว และมีจิตสำธำรณะ โดยปฏิบัติหน้ำที่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมอนั ได้แก่ประโยชน์ของประเทศชำติ และประชำชนเปน็ ที่ตั้ง มีควำมเสียสละ และมีจิตสำธำรณะในกำรปฏิบตั ิหน้ำท่ี เพ่ืออำนวย ประโยชน์สุขแก่ประชำชน รวมท้ังไม่กระทำกำรอันมีลักษณะเป็นกำรแสวงหำประโยชน์ทับซ้อน ตัวอย่ำงพฤติกรรม ๑. สำมำรถแยกเรื่องส่วนตัวออกจำกหน้ำท่กี ำรงำน ๒. มีจิตสำนึกใช้ทรัพย์สนิ บุคลำกร และ เวลำ ๓. ไม่แสดงพฤติกำรณ์อันเอื้อประโยชน์โดยมิชอบต่อตนเอง/พวกพ้อง ๔. ไม่ประกอบกิจกำรหรือเข้ำไป เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในกำรปฏิบัติหน้ำท่ีของตน ๕. มีจิตบริกำรปฏิบัติหน้ำที่โดยคำนึงถึงควำมผำสุกและ ประโยชน์สว่ นรวม (๕) มุ่งผลสัมฤทธ์ิของงำน โดยปฏิบัติหน้ำทโ่ี ดยคำนึงถึงเปำ้ หมำย ประโยชน์ และควำมคุ้มค่ำ กำรใช้ทรัพยำกรของหน่วยงำน ด้วยมุ่งถึงควำมเป็นเลิศของงำน ตัวอย่ำงพฤติกรรม ๑. ปฏิบัติงำนด้วยควำม รับผิดชอบ ๒. ใช้ทรัพยำกรอย่ำงคุ้มค่ำและประหยัด ๓. ให้บริกำรและอำนวยควำมสะดวก ๔. มุ่งพัฒนำตนเอง ตอ่ เนือ่ ง ๕. รักษำและพฒั นำมำตรฐำนกำรทำงำนท่ีดี ๖. รบั ฟงั ควำมคิดเห็นผรู้ ่วมงำนและผเู้ กีย่ วขอ้ ง ๗. เช่ือมนั่ ใน กำรทำงำนเป็นทมี (๖) ปฏบิ ตั ิหน้ำที่อยำ่ งเปน็ ธรรม ไม่เลือกปฏบิ ตั ิ โดยปฏบิ ตั หิ นำ้ ทด่ี ว้ ยควำมเท่ยี งธรรม ปรำศจำก อคตแิ ละไมเ่ ลอื กปฏบิ ัติ โดยไมเ่ ปน็ ธรรม ตัวอยำ่ งพฤตกิ รรม ๑. ปฏบิ ตั ิตอ่ ประชำชนด้วยควำมเที่ยงธรรม ๒. ปฏิบัติ หน้ำที่โดยปรำศจำกอคติ ไม่นำควำมรู้สึกส่วนตัว ได้แก่ ควำมรัก ควำมโกรธ ควำมกลัว ควำมหลง มำใช้ในกำร ตัดสินใจปฏิบัติหน้ำที่ในเร่ืองต่ำงๆ ๓. ไม่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุผลของควำมแตกตำ่ งในเร่อื ง เช้ือชำติ ศำสนำ เพศ อำยุ สภำพร่ำงกำย หรือสถำนะทำงเศรษฐกิจสงั คมและควำมเชอ่ื ทำงกำรเมือง (๗) ดำรงตนเปน็ แบบอยำ่ งท่ีดีและ รักษำภำพลักษณ์ของทำงรำชกำร โดยวำงตัวเป็นแบบอยำ่ งท่ีดีในกำรปฏิบตั หิ น้ำที่ ในกำรดำรงตนและกำรดำเนิน ชีวิต ด้วยกำรรักษำเกียรติศักด์ิของควำมเปน็ ข้ำรำชกำรและเจำ้ หน้ำท่ีของรัฐ ตัวอย่ำงพฤติกรรม ๒. ดำรงตนเป็น

ข้ำรำชกำรที่ ดีโดยน้อมนำหลักปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียง หลักคำสอนทำงศำสนำ จรรยำวิชำชีพมำใช้ดำเนินชีวติ และปฏิบัติหน้ำที่ ๒. ปฏิบัติตนเปน็ พลเมืองดี เคำรพต่อกฎหมำย และมีวินัย ๓. ไม่กระทำนำควำมเส่ือมเสียมำสู่ รำชกำร ๒.๕ การเสรมิ สร้างความสามคั คแี ละรว่ มกิจกรรมของหมูค่ ณะทั้งในและนอกหนว่ ยงาน ขำ้ พเจำ้ ไดเ้ สรมิ สร้ำงควำมสำมัคคี และร่วมกิจกรรม ของหมูค่ ณะโดยกำรยดึ หลกั ธรรมทำงพุทธ ศำสนำมำใช้ในกำรดำเนินงำน โดยมีควำมขยันหมั่นเพียร และความรบั ผิดชอบ วิริยะ อุตสำหะ ต้ังใจทำงำนใน หน้ำที่ มีควำมอดทน ประหยัดและเก็บออม รู้จกั ใช้จำ่ ย ตำมปรัชญำเศรษฐกิจพอเพยี ง และรู้จักใช้ทรพั ย์สินของ ทำงรำชกำรใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ละประหยดั รกั ษาระเบยี บวินัย และเคารพกฎหมาย โดยกำชับให้ผู้ใตบ้ งั คบั บัญชำ ได้ถือปฏิบัติอย่ำงเคร่งครดั ปฏิบัติตามหลักคุณธรรม ประพฤติปฏิบตั ติ น โดยละเว้นช่ัวและไม่ล่มุ หลงในอบำยมุข มีควำมเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ มีควำมเมตตำกรุณำ จิตใจ โอบอ้อมอำรี ซ่ือสัตย์สุจริตต่อตนเองและผู้อ่ืน รู้จัก เสียสละ ไม่อิจฉำริษยำไม่หลงผิด ไมท่ ำและไม่พดู อะไรที่ทำให้คนอ่นื เดอื ดร้อน มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ประชำธปิ ไตย และปฏบิ ตั ิตำมนโยบำยของทำงรำชกำร มีจติ ใจมั่นคง มีควำมอดทนไมย่ ่อท้อตอ่ ปัญหำอุปสรรค เป็นแบบอยำ่ งทีด่ ีแก่เพอื่ นรว่ มงำน มคี วำมรับผิดชอบต่อหนำ้ ทขี่ องตนเอง และครอบครัว ดูแลทุกข์สุขของบิดำมำรดำด้วยควำมกตัญญู ให้ควำมช่วยเหลือต่อญำติๆ พ่ีน้อง และให้ควำม ช่วยเหลือแก่ผู้อ่ืนท่ีเดือดร้อน ข้ำพเจ้ำเป็นผู้มวี ินัยในตนเอง มีควำมซื่อสตั ย์สจุ รติ มีควำมต้ังใจทำงำนและติดตำม งำนในหน้ำท่ีรับผิดชอบ เคำรพในสิทธิของผู้อื่น ปฏิบัติตนตำมระเบียบและกฎเกณฑ์ของสังคม รู้จักกำลเทศะ มี จิตใจดีงำม มองโลกในแง่ดี มีคุณธรรม รักควำมสงบสุข และมีควำมรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อสังคม ต่อครอบครัว และต่อประเทศชำติ มคี วำมรับผิดชอบโดยยอมรบั และถือปฏบิ ัติตำมกฎ กตกิ ำ มำรยำท ขนบธรรมเนียม และแบบ แผนอันดงี ำมของสงั คม ประพฤติปฏิบัติตนเป็นตัวอย่ำงที่ดีต่อเพอื่ นร่วมงำน ครูและลกู ศิษย์ เชื่อฟังและเคำรพต่อ ผู้บังคับบัญชำ ตรงต่อเวลำ มำปฏิบัติงำนแต่เช้ำทุกวัน ไม่เคยหนีหรือขำดรำชกำรและไม่เคยได้รับโทษทำงวินัย ปฏิบัติตนตำมระเบยี บและกฎหมำยที่กำหนด เคำรพกฎเกณฑแ์ ละสร้ำงสนั ติสุขในสังคมไทย เคำรพและให้เกยี รติ คนอนื่ ไม่เห็นแก่ตนเองและครอบครัวหรือเหน็ แก่ชมุ ชนของตนเทำ่ นั้น ฝึกให้ทุกคนทำดี พูดดี คิดดี มีเหตุ มีผล มี สติ มีควำมรอบคอบรู้จักบังคับควบคุมจิตใจพฤติกรรมต่ำงๆ ของตนเองได้อย่ำงดีท่ีสุด ข้ำพเจ้ำได้น้อมนำหลัก ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง เข้ำมำปฏิบัติใช้ในกำรดำรงชีวิตตลอดจนให้ครูผู้สอนทุกระดับชั้นบูรณำกำร สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรมทีด่ ีงำม มีวนิ ัยในตนเอง ส่งผลให้ผ้เู รียนมีควำมซ่อื สตั ย์ มีควำมสำมัคคี มสี มั มำคำรวะ มีมำรยำทตำมขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมของประเพณไี ทย สำมำรถในกำรใชภ้ ำษำในกำรสือ่ สำร และมีจนิ ตนำกำร และควำมคิดสรำ้ งสรรค์ ซงึ่ เป็นส่งิ ท่ผี เู้ รยี นสำมำรถนำควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจและบรู ณำกำรประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั เป็นกำรเพ่ิมพูนสมรรถนะตนเองมำกขึ้นบนพ้ืนฐำนคุณธรรมนำควำมรู้ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และควำม พอเพยี ง ตลอดจนกำรอยู่รว่ มกนั อย่ำงมีควำมสขุ ๓. ผลงานการครองงาน

๓.๑ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ข้ำพเจำ้ ได้ดำเนนิ กำรบรหิ ำรสำนกั งำนเขตพ้ืนทีก่ ำรศึกษำมัธยมศึกษำศรสี ะเกษ ยโสธร ภำยใต้ กำรกำกับของท่ำนผ้อู ำนวยกำรสำนักงำนเขตพื้นทกี่ ำรศึกษำมัธยมศึกษำศรีสะเกษ ยโสธร ดร.ชูชำติ แก้วนอก โดยกำรรพัฒนำวิธีกำรกำรปฏิบัติที่ดีเพ่ือส่งเสริมกิจกรรมในทุกด้ำนของสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำ ด้วย กระบวนกำรเทยี บเคียงสมรรถนะ (Benchmarking) ไดอ้ อกแบบกำรพัฒนำโดยมขี น้ั ตอนดังต่อไปน้ี ขั้นตอนท่ี ๑ กำรตดั สินใจในกำรทำงำน ขั้นตอนท่ี ๒ กำรพัฒนำวิธกี ำรปฏบิ ัตทิ ด่ี ีเพือ่ เปน็ กำรส่งเสริมคุณภำพ ข้ันตอนท่ี ๓ กำรตรวจสอบวิธีกำรปฏบิ ัติที่ดี ขน้ั ตอนท่ี ๔ นำผลมำปรับปรงุ แกไ้ ข ๓.๒ ความรคู้ วามสามารถ และความพึงพอใจในการปฏิบตั งิ าน ๑. กำรพัฒนำผลกำรปฏิบัตทิ เ่ี ปน็ เลศิ (Best Practice) ของข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำร ศึกษำ เพอ่ื เปน็ กำรพฒั นำและยกระดบั ควำมเป็นเลศิ ของสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำ ศรสี ะเกษ ยโสธร สรปุ ผลกำรประกวดรำงวลั หน่วยงำนและผมู้ ผี ลงำนดีเด่น ประสบผลสำเรจ็ เป็นท่ีประจักษ์ เพือ่ รับรำงวัลทรงคุณค่ำ (OBEC AWARDS) ระดับชำติ คร้ังท่ี ๑๐ ประจำปีกำรศึกษำ ๒๕๖๓ ของตัวแทน สำนักงำนเขตพน้ื ที่กำรศกึ ษำมัธยมศึกษำศรสี ะเกษ ยโสธร



















๒. นำแนวทำงในกำรประเมินโครงกำรมำใช้ในกำรรำยงำนโครงกำรของสำนักงำนเขตพ้ืนท่ี กำรศึกษำมัธยมศึกษำศรีสะเกษ ยโสธร โดยกำรจัดอบรมข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในสังกัด สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำศรีสะเกษ ยโสธร เพ่ือนำไปสู่กำรพัฒนำข้ำรำชกำรครูและบุคลำกร ทำงกำรศึกษำต่อไป ๓. พฒั นำงำนวิจยั ของขำ้ รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำโรงเรียน ในสังกดั สำนักงำนเขต พน้ื ทีก่ ำรศึกษำมัธยมศึกษำศรีสะเกษ ยโสธร ๔. ส่งเสริมให้ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำโรงเรียน ที่สังกัดสำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ มัธยมศกึ ษำศรสี ะเกษ ยโสธร ๕. พัฒนำระบบสำรสนเทศเพื่อกำรศึกษำของโรงเรียนในสังกัดสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำ มธั ยมศกึ ษำศรีสะเกษ ยโสธร ๖. นำระบบกำรประชำสมั พันธ์ เผยแพร่ข้อมูลข่ำวสำรเพ่ือเป็นกำรนำเสนอผลงำนท่ีเกี่ยวข้อง กับกิจกรรมของโรงเรียนในสงั กัดสำนักงำนเขตพนื้ ท่ีกำรศกึ ษำมัธยมศึกษำศรีสะเกษ ยโสธร รว่ มทัง้ ของสำนกั งำน เขตพนื้ ทกี่ ำรศึกษำมัธยมศึกษำศรสี ะเกษ ยโสธร ๓.๓ ความคิดรเิ ริมสร้างสรรค์และการปรบั ปรงุ งาน ๑. ข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำในสงั กัดสำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศกึ ษำมธั ยมศึกษำศรี สะเกษ ยโสธร ได้รบั กำรอบรม และกำรพฒั นำอย่ำงเหมำะสม มีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจและมกี ำรพัฒนำกิจกรรมท่ี เกี่ยวขอ้ งกับกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนตำมแนวทำงทช่ี ัดเจน ๒. กำรนำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงมำใช้ในกำรปฏิบัติของทุกโรงเรียน และใน สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำศรีสะเกษ ยโสธร ส่งผลให้กำรดำเนินกำรโครงกำร กิจกรรมต่ำง ๆ เปน็ ไปดว้ ยควำมถูกตอ้ ง เรียบร้อย ชัดเจน และตรวจสอบได้ ๓. นำหลักกำรบริหำรกำรมีส่วนร่วมมำใช้เป็นฐำนในกำรพัฒนำโรงเรียนในสังกัด และใน สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำศรีสะเกษ ยโสธร โดยกำรเปิดโอกำสให้ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกร ทำงกำรศึกษำทกุ คนไดร้ ว่ มวำงแผน รว่ มคดิ รว่ มทำ และปฏบิ ตั งิ ำนรว่ มกนั อยำ่ งเป็นกัลยำณมิตร ๓.๔ ความพากเพียรในการทางาน และมผี ลงานเปน็ ท่ีน่าพอใจ ข้ำพเจ้ำมีควำมอุตสำหะ ขยัน อดทน มุ่งมั่นและรับผดิ ชอบต่อกำรปฏิบัติงำนทุกอย่ำงที่ได้รับ มอบหมำยจำกผู้บังคับบญั ชำ หรือจำกหน่วยงำนต้นสังกัด ซ่ึงมีผลงำนที่ชัดเจนเป็นทีย่ อมรบั โดยยึดหลักกำร

ประหยัด คุ้มค่ำ มีประสิทธิภำพ จัดสรรทรัพยำกรทำงกำรศึกษำท่ีสำมำรถนำมำใช้ในกำรบริหำรจดั กำรเพอ่ื ให้ เกิดประสทิ ธภิ ำพและประสทิ ธิผล







๓.๕ การคานึงถงึ ผลประโยชนข์ องสว่ นรวมและประชาชน ข้ำพเจำ้ คดิ เสมอวำ่ กำรกำรเข้ำมำรบั รำชกำรในชวี ติ ของข้ำพเจำ้ คอื กำรรับใชป้ ระชำชน ประชำชนเป็นผทู้ ม่ี คี วำมสำคญั ทีส่ ดุ ดงั นัน้ ทุกสง่ิ ทุกอยำ่ งทข่ี ำ้ พเจ้ำทำลงไปผลประโยชน์ของประชำชนและ ส่วนรวมจงึ ถือว่ำเปน็ ส่วนทสี่ ำคัญและเป็นส่ิงท่ตี อ้ งดำเนินกำรใหส้ ำเรจ็ ๔. ผลงานการเขา้ รวมกจิ กรรมจิตอาสาเพือ่ การศกึ ษา ผลงานท่ี ๑ โครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดบั ดาวดวงท่ี ๓ ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ ผลการดาเนนิ งาน (ท้ังผลทางตรงและผลพลอยได)้ ๑. ผลทีเ่ กิดกบั นกั เรยี น มกี ำรพฒั นำตนเองตำมคุณธรรมอตั ลักษณ์โรงเรียนและกำรลงมอื ปฏบิ ัติ โครงงำนทำให้มีวนิ ัยดี พูดจำสภุ ำพ ส่งงำนตรงเวลำ ท้งิ ขยะตำมทจ่ี ดั เก็บ รกั ษำควำมสะอำด ชว่ ยเหลอื งำนของ โรงเรยี นดว้ ยควำมเตม็ ใจ รับประทำนอำหำรกลำงวนั หมดจำน ใช้ อปุ กรณก์ ำรเรยี นอยำ่ งประหยัด ปิดนำ้ ปดิ ไฟ ปิด พดั ลม เมอ่ื ไมใ่ ช้งำน มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคพ์ ฤติกรรมบ่งช้ีเชงิ บวกเพมิ่ ข้ึนรจู้ กั กำรทำงำนเป็นทมี โดยใช้ กระบวน กำรกลมุ่ กำรเปน็ ผู้นำผู้ตำมที่ดี มที กั ษะกำรคิดวิเครำะห์ กำรแก้ปญั หำ ๒. ผลที่เกิดกบั ครู กำรพฒั นำตนเองตำมคุณธรรมอตั ลกั ษณข์ องโรงเรียนและมีส่วนร่วมในพฒั นำงำน มำทำงำนและเข้ำสอนตรงเวลำ พูดจำสุภำพ เตรียมส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ ประกอบกำรสอน ส่งงำนตำมท่ีได้รับ มอบหมำยตำมกำหนด ชว่ ยเหลืองำนด้วยควำมเต็มใจ ใชอ้ ุปกรณ์อยำ่ งประหยัดตำมควำมจำเป็นปิดไฟ ปดิ น้ำ ปดิ พัดลม เมอื่ ไม่ใชง้ ำน ออกแบบกิจกรรมบูรณำกำรคุณธรรมเขำ้ กบั กิจกรรมกำรเรยี นรู้เปน็ แบบอยำ่ งท่ดี ี ๓. ผลท่เี กิดกับผบู้ รหิ ำร ผู้บรหิ ำรใหค้ วำมสำคัญต่อกำรพฒั นำโรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ. เป็นผู้นำในกำร ขับเคล่ือนและพัฒนำโรงเรียนคุณธรรม บริหำรงำนแบบมีส่วนร่วม มีควำมรับผิดชอบ ปฏิบัติหน้ำท่ีตรงเวลำ และ เต็มเวลำ นเิ ทศกำรเรยี นกำรสอนตำมกำหนด ใช้วัสดอุ ุปกรณ์อยำ่ งคุ้มค่ำ พูดจำสภุ ำพ เปน็ แบบอยำ่ งท่ดี ี ๔. ผลทเ่ี กิดขนึ้ กับโรงเรียน จำกกระบวนกำรพัฒนำโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. โดยใช้แนวคิดหลักกำรรูปแบบและวิธีกำรท่ี หลำกหลำยให้ทกุ คนไดล้ งมือปฏบิ ัติ เพือ่ ให้เกดิ กำรเปล่ียนแปลงพฤติกรรมเชิงบวกในโรงเรียน ทำใหเ้ กดิ องค์ควำมรู้ แนวปฏิบัตทิ ี่ดี บทเรยี นทใ่ี ชใ้ นกำรพฒั นำคุณธรรมอตั ลกั ษณข์ องโรงเรยี น ทำให้โรงเรยี นไดร้ ับยกยอ่ ง ๕. ผลท่ีเกดิ ขนึ้ กบั ครอบครัวนกั เรียน ผู้ปกครองเหน็ กำรเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของลกู มกี ำรพัฒนำตนเองด้ำนระเบียบวินัย มีควำม รับผิดชอบและมคี วำมพอเพยี ง ในกำรเรยี นกำรทำกำรบำ้ น กำรเข้ำนอน – ตน่ื นอนตรงเวลำ เพอ่ื มำให้ทันเขำ้ แถว

เคำรพธงชำตแิ ละมีกำรช่วยเหลอื งำนบ้ำนทำใหผ้ ูป้ กครองเห็นควำมสำคญั และเป็นแบบอย่ำงทดี่ ีใหค้ วำมร่วมมือใน กำรดูแลนักเรียนและกจิ กรรมของโรงเรยี นมำกข้ึน ๖. ผลที่เกิดข้ึนกับชุมชน ชุมชน/หนว่ ยงำนภำครัฐ ตระหนักและเหน็ ควำมสำคัญในกำรพัฒนำคุณธรรมให้นกั เรียน เปน็ เยำวชนทด่ี ีของสังคม เข้ำมำมสี ่วนร่วมสนบั สนุนโรงเรยี นในทกุ ดำ้ น ๗. องค์ควำมรู้ นวัตกรรมและบทเรียนทเี่ กดิ จำกกำรดำเนนิ งำน โรงเรยี นได้ดำเนนิ งำนตำมแผนปฏบิ ัติกำรประจำปี ๒๕๖๒ เกีย่ วกบั “โครงกำรโรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ.” โดยนำนวัตกรรมเพื่อผเู้ รยี นยคุ ใหม่ ๔.๐ เพอื่ ต่อยอดให้ผเู้ รยี นสำมำรถนำไปประกอบเปน็ อำชีพไดใ้ นอนำคต หรือส่งเสรมิ สนับสนุน ช่วยเหลือให้ผู้เรียนหำรำยได้ขึ้นในระหว่ำงเรยี น จึงได้เกิดแนวคิดจดั ทำโครงงำนวัตกรรม ของโรงเรียนขึ้น ได้แก่ โครงกำร ๑ โรงเรียน ๑ นวัตกรรม โดยให้คุณครู ๑ คน จะต้องมีโครงกำร ๑ ห้องเรียนต่อ ๑ โครงกำร/นักเรยี น ๑ หอ้ งเรียนต่อ ๑ โครงงำน ได้ประสบผลสำเร็จในกำรปฏบิ ัติ ความก้าวหน้าทีเ่ กดิ ขนึ้ จำกกำรดำเนินงำนตำมโครงกำรโรงเรียนคุณธรรม สพฐ.โดยควำมรว่ มมอื จำกทกุ ฝำ่ ย ทั้งผู้บรหิ ำร ครู นักเรยี น ผู้ปกครอง และชมุ ชน ตลอดจนมคี วำมประชุมคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพน้ื ฐำน ประชุมผปู้ กครองของ นกั เรียนว่ำ โรงเรยี นมีควำมตอ้ งกำรเขำ้ ร่วมโครงกำรดงั กล่ำว ซ่ึงจะกอ่ ให้เกิดผลดตี อ่ โรงเรยี นทำให้ทกุ กลมุ่ /ฝำ่ ยไดม้ ี ส่วนร่วมในกำรทำงำนทุกข้ันตอน มีกำรวำงแผนกำรดำเนินงำนโครงกำรโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. อย่ำงเปน็ ระบบ ผู้บริหำรให้ควำมสำคัญและเป็นผู้นำในกำรขับเคลื่อนพัฒนำโรงเรยี นคุณธรรม คณะครูได้มีกำรพฒั นำตนเองตำม คุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน และมีส่วนร่วมในพัฒนำงำน และนักเรียนก็มีกำรพฒั นำตนเองตำมคุณธรรมอัต ลักษณ์ของโรงเรยี นและกำรลงมือปฏิบัติโครงงำน ทำงำนเป็นทีมโดยใชก้ ระบวนกำรกลุ่ม ร้จู ักกำรเป็นผู้นำผู้ตำมทด่ี ี มคี วำมเสยี สละ มจี ิตอำสำ โดยโรงเรยี นมกี ำรปรับปรุงภมู ิทศั น์ และกำรพฒั นำบริเวณโรงเรียนให้มคี วำมสะอำด ร่ม รน่ื น่ำดู และน่ำอย่เู อ้ือตอ่ กำรเรียนรู้ของผ้เู รียน ผลงานท่ี ๒ โครงการเดก็ ดขี องแผ่นดิน มลู นิธิครดู ขี องแผ่นดนิ สภาพปัญหาก่อนเร่ิมดาเนินการ โรงเรียนน้ำคำวิทยำ ต้ังอยู่ตำบลน้ำคำ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีกำรอยู่อำศัยของประชำชนร่วมกันโดยรอบ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอำชีพเกษตรกรรม นกั เรยี นสว่ นใหญอ่ ำศัยอยกู่ บั ปู่ ยำ่ ตำ ยำย และญำตพิ น่ี อ้ ง เน่ืองจำกพ่อแมต่ ้องเดินทำงไปทำงำนที่ตำ่ งจงั หวดั เกดิ ปัญหำหย่ำรำ้ ง และกำรเรียนกำรสอนทิง้ ภำระใหก้ ับทำงโรงเรียน ทำใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมเส่ียง เชน่ ขำดวินยั ในตนเอง ขำดควำมรบั ผดิ ชอบ ไม่รู้จักหนำ้ ท่ีของตนเอง ไม่มคี วำมประหยดั อดออม ใช้จำ่ ยเงนิ ไปซือ้ ของที่ไม่มปี ระโยชน์ โดย โรงเรียนขำดกำรร่วมมือกับชุมชน นักเรียนเกียจคร้ำนทำงำนหนักไม่เป็น ไม่มีทักษะชีวิต ขำดจิตอำสำ และจิต สำธำรณะ

แรงบันดาลใจท่ีทา โรงเรียนนำ้ คำวทิ ยำ เขำ้ ร่วมโครงกำรครดู ขี องแผน่ ดิน และโครงกำรเด็กดขี อง แผ่นดิน ของมูลนิธิครูดีของแผ่นดิน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นมำ ซึ่งเด็กนกั เรยี นรนุ่ ใหม่ เติบโตมำพร้อมกับสิ่ง อำนวยควำมสะดวกมำกมำย แวดล้อมดว้ ยกำรเรียนรู้ และกำรดำเนนิ ชีวติ ในสังคมดิจิทัล กำรตดิ ต่อ สือ่ สำรไร้สำย และสื่อสมยั ใหม่ ซึ่งสิ่งต่ำงๆ เหล่ำนี้มคี ุณอนันต์ แต่ก็มีโทษมหนั ต์หำกใช้ไมถ่ ูกทิศทำง ซึ่งกำรดูแลเด็กยุคนี้ ต้องใช้ “ควำมรกั ” “ควำมเข้ำใจ” บนพ้ืนฐำนของควำม “หลำกหลำย” และ “แตกตำ่ ง” จะใช้กำรบังคับอย่ำงท่ีผ่ำนๆมำ มิได้อกี ต่อไป โครงกำร “เดก็ ดีของแผ่นดิน” โดยให้คุณครขู องโรงเรยี นน้ำคำวทิ ยำ ซ่ึงเป็นครดู ีของแผน่ ดินข้ัน พ้ืนฐำนได้สร้ำงเด็กดีของแผ่นดิน สำมำรถค้นพบควำมต้องกำรของตนเอง และสำมำรถพัฒนำตนเองตำมควำม ตอ้ งกำรนนั้ จนประสบควำมสำเร็จในโลกศตวรรษท่ี ๒๑ และเปน็ แบบอย่ำงทดี่ ีใหก้ บั เพอ่ื นๆ ไดอ้ ยำ่ งภำคภมู ใิ จโดย จะต้องมองตนเองกอ่ น ทั้งในเร่ืองพฤติกรรม (ศีล) ควำมคิด ควำมต้ังใจ (สมำธิ) และสติปัญญำ (ปัญญำ) ซ่ึงเปน็ หวั ใจสำคญั ในกำรพัฒนำทรพั ยำกรมนุษยใ์ หม้ คี ณุ ค่ำในทกุ ระดับชน้ั ซึ่งกำรจะพัฒนำตนเองไดอ้ ย่ำงย่ังยนื นน้ั โครงกำรมงุ่ เนน้ ไปท่ีกำรเปลยี่ นแปลงนิสัย ไมว่ ำ่ จะเปน็ กำร ละเลกิ นสิ ัยที่ไม่ดี หรอื สร้ำงนิสัยดๆี ใหเ้ กดิ ข้ึน หรือกำรทำจิตใจให้เขม้ แขง็ (ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส) โดยกำร ใช้ทฤษฎเี ปลี่ยนนสิ ัยใน ๒๑ วัน จำกนั้นขยำยผลสกู่ ำรมอี ำชีพ มงี ำนทำ ตำมพระบรมรำโชบำยดำ้ นกำร ศึกษำของ พระบำทสมเด็จพระวชิรเกล้ำเจำ้ อยู่หวั รวมถึงทักษะชีวิตในศตวรรษท่ี ๒๑ เช่น ควำมคิดสร้ำงสรรค์ กำรทำงำน เป็นทมี เป็นตน้ ไมใ่ ช่เรียนดี กิจกรรมเด่น คุณธรรมเลิศ แต่ไมส่ ำมำรถเล้ยี งชีพได้ ชว่ ยเหลือตัวเองไม่ได้ ชว่ ยเหลือ ผู้อน่ื ไม่ได้ หำกแต่ต้องดี เกง่ ประกอบสมั มำอำชพี ได้ นำมำซึ่งประสิทธภิ ำพและ ประสทิ ธิผลสงู สดุ นั่นคือ ควำมสุข และควำมสำเรจ็ ในชวี ิตท่ีแทจ้ รงิ นนั่ เอง รอบปที ่ีผ่ำนมำ โรงเรียนเขำ้ รว่ มโครงกำรครดู ีของแผน่ ดิน และนักเรยี นดีของแผ่นดนิ โรงเรียนมีกำร ปฏิบัตฝิ กึ นักเรยี นให้มีคณุ อัตลักษณค์ ุณธรรมเป้ำหมำยของโรงเรยี น ได้แก่ ควำมมีวินัย ควำมรบั ผิดชอบ และควำม พอเพยี ง สง่ ผลให้นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมกำรทำงำนเปน็ ทีม เสียสละ อดทน อดกล้ัน เปน็ ผนู้ ำผูต้ ำมที่ดี มสี มั มำคำรวะ นอบน้อม และจิตสำนึกสำธำรณะ ซึ่งได้ส่งผลให้ครูและผู้บริหำรได้รับเกียรติบัตรครูดีของแผ่นดินขั้นพ้นื ฐำน และ นักเรยี นได้รบั เกยี รตบิ ัตรเดก็ ดขี องแผ่นดนิ ระบุผลสาเร็จทป่ี รากฏอยา่ งเด่นชัดเป็นรูปธรรม นกั เรียนคนพบวำ ตนเองตองกำรแกไข หรือพฒั นำ นิสยั อะไร โดยมีคุณครเู ป็นผู้อำนวยกำรเรยี นรู ให นักเรียนไดค้ ้นพบตนเอง ครสู ำมำรถนำควำมรทู้ ี่ไดร้ บั นำมำปรับ ใช้สอนใหก้ บั นักเรยี น และนักเรยี นทรี่ ับควำมรู้จำกกำรอบรม และนักเรยี นท่ีผำ่ นกำรปฏิบัติคุณธรรม จริยธรรม มี กำรประพฤตติ นท้งั ในโรงเรยี นและภำยนอกโรงเรยี นทด่ี ีงำม จนไดร้ ับคำยกย่อง คำชมเชย จำกชุมชนและผูป้ กครอง และโรงเรียนไดร้ บั ควำมไวว้ ำงใจในกำรดแู ลบตุ รหลำน ๕. ผลงานอ่ืน ๆ ตามภารกิจของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร / หน่วยงาน

๑. เกียรติบัตรโรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ. ระดบั ดำวดวงท่ี ๒ ประจำปี ๒๕๖๑ ๒. เกียรติบัตรโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับดำวดวงท่ี ๓ ประจำปี ๒๕๖๒ ๓ เกียรติบตั รโรงเรียนดไี มม่ อี บำยมขุ ปี ๒๕๖๒

๔ เกียรตบิ ัตรโรงเรยี นดไี ม่มอี บำยมขุ ปี ๒๕๖๓

๕ เกียรตบิ ัตร นำเสนอนวตั กรรม สรำ้ งสรรค์คนดดี ้ำนกำรเรียนกำรสอนเพอื่ ส่งเสรมิ คณุ ธรรม “กำร เสรมิ สร้ำงควำมมีวนิ ัยในตนเองของนักเรียน” ๖ เกยี รตบิ ตั ร คุรชุ น คนคณุ ธรรม ปี ๒๕๖๑” ประเภทผลงำนนวัตกรรมสรำ้ งสรรค์คนดี สำยงำน บรหิ ำรสถำนศกึ ษำ ระดบั สำนกั งำนเขตพื้นทกี่ ำรศึกษำประถมศึกษำศรีสะเกษ เขต ๑

๗ เกยี รติบตั ร รำงวลั ทรงคณุ คำ่ สพฐ. (OBEC AWARDS) ครั้งที่ ๙ ๘ เกียรติบัตร “ผลงำนกำรผลิตนวัตกรรมสร้ำงสรรค์คนดี และ ๑๐,๐๐๐ คุรุชน คนคุณธรรม ปี ๒๕๖๒” ประเภทผลงำนนวัตกรรมสรำ้ งสรรคค์ นดี สำยงำนบริหำรสถำนศึกษำ ระดบั สำนกั งำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ ประถมศึกษำศรีสะเกษ เขต ๑ ๙ เกียรตบิ ัตร เปน็ ผู้ดำรงตนเปน็ แบบอย่ำงที่ดี ดำ้ นคุณธรรม จริยธรรม ปี ๒๕๖๓

๑๐ เกียรติบตั รครดู ไี ม่มอี บำยมขุ ปี ๒๕๖๒ ๑๑ เกียรติบตั รครูดไี มม่ ีอบำยมขุ ปี ๒๕๖๓

๑๒ ประกำศเกยี รติคณุ รำงวลั ครดู ขี องแผน่ ดินขัน้ พื้นฐำน ปี ๒๕๖๒ ๑๓ ประกำศเกียรติคณุ รำงวัลครูดีของแผ่นดินขน้ั พ้นื ฐำน ปี ๒๕๖๓

๑๔ ประกำศเกียรติคุณรำงวัลครดู ีของแผ่นดินช้ันที่ ๕ โครงกำรเครอื ข่ำยครดู ีของแผ่นดิน ปี ๒๕๖๓ ๑๕ ประกำศครดู ขี องแผน่ ดินข้นั พื้นฐำน จำกมลู นิธิครดู ีของแผ่นดนิ ประจำปี ๒๕๖๒



๑๖ ประกำศครดู ขี องแผน่ ดนิ ขั้นพ้นื ฐำน จำกมลู นธิ ิครดู ขี องแผน่ ดนิ ประจำปี ๒๕๖๓

๑๗ เกยี รตบิ ตั รรำงวลั ศกึ ษำนเิ ทศก์ดขี องแผน่ ดนิ ขั้นพ้นื ฐำน ปี ๒๕๖๓



๑๘ ประกำศผลกำรคดั เลือกผ้บู ังคบั บญั ชำลกู เสอื ดเี ด่น ๒๕๖๓

๑๙ ครผู สู้ อนไดร้ บั เกียรติบตั ร “ผลงำนกำรผลิตนวัตกรรมสร้ำง สรรค์คนดี และ ๑๐,๐๐๐ คุรุชน คน คณุ ธรรม ปี ๒๕๖๒ ประเภทผลงำน ๑๐,๐๐๐ ครุ ุชน คนคณุ ธรรม ระดับสำนักงำนเขตพื้นทก่ี ำรศึกษำ

๒๐ ครู และนกั เรียนไดร้ บั เกียรติบัตร นำเสนอนวัตกรรม สร้ำงสรรคค์ นดดี ำ้ นกำรเรยี นกำรสอนเพ่อื ส่งเสรมิ คุณธรรม “กำรเสริมสร้ำงควำมมวี ินยั ในตนเองของนกั เรยี น” ผลงำนวตั กรรม กจิ กรรมเวทีแลก เปลย่ี น เรยี นรนู้ วตั กรรมกำรสง่ เสรมิ คุณธรรมเยำวชนภำคตะวันออกเฉียงเหนอื ๒๑ เกียรติบัตรนกั เรยี นเขำ้ ร่วมโครงกำรเด็กดีของแผ่นดิน ขอรับรองวำ่ ขอ้ มูลทรี่ ำยงำนขำ้ งตน้ เปน็ ผลทีเ่ กิดจำกกำรที่ได้ปฏบิ ัตจิ ริง และเปน็ ควำมจรงิ ทกุ ประกำร พันจำ่ ตรีพสิ ิฐ รกั พรม ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยกำรสำนักงำนเขตพน้ื ท่กี ำรศึกษำมัธยมศึกษำศรีสะเกษ ยโสธร ๒๔ มถิ ุนำยน พ.ศ. ๒๕๖๕



ประกาศมหาวิทยาลยั การจดั การและเทคโนโลยอี สี เทิร์น เร่อื ง หลกั เกณฑ์และแนวทางการคดั เลอื กศษิ ยเ์ ก่าเดีเด่นประจาปกี ารศกึ ษา 2564 สืบเนอ่ื งจากมหาวิทยาลัยการจดั การและเทคโนโลยีอีสเทิร์น มีนโยบายในการส่งเสริมและสร้างขวัญ กาลังใจแก่ศิษย์ เก่าท่ีสร้างช่ือเสียง และทาคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษา สังคม และประเทศชาติ และศิษย์เก่าท่ีสร้างชื่อเสียง และ ทาคณุ ประโยชนใ์ หแ้ กม่ หาวิทยาลยั การจดั การและเทคโนโลยอี ีสเทริ ์น การพิจารณาคัดเลือกศิษย์เก่าดีเด่นข องมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยี อีสเทิร์น . โดยมีรายละเอยี ดในการพจิ ารณาคัดเลือก ดังต่อไปนี้ ก. ประเภทศษิ ย์เก่าดีเดน่ มี 5 ประเภท ดังนี้ 1.1 ศิษย์เกา่ ดีเดน่ ดา้ นความสาเร็จในอาชพี /หน้าทก่ี ารงาน 1.2 ศิษย์เก่าดีเดน่ ดา้ นผลงานเดน่ 1.3 ศษิ ย์เกา่ ดีเดน่ ด้านสรา้ งคุณประโยชนแ์ ก่สงั คมและสถาบนั 1.4 ศษิ ย์เก่าดีเด่นดา้ นการส่งเสริมคุณธรรมและจรยิ ธรรม 1.5 ศิษย์เกา่ ดีเดน่ ร่นุ ใหม่ ข. เกณฑก์ ารคัดเลอื กศษิ ยเ์ ก่าดีเด่น 1. เกณฑ์คณุ สมบัตเิ บ้ืองต้น 1.1 เคยศึกษาในมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทริ ์น 1.2 เป็นผปู้ ระพฤตดิ ี ดังน้ี 1.2.1 ด้านจริยธรรม คอื ตอ้ งมีความประพฤติส่วนตัวท่ีมีจริยธรรมและมีจริยธรรมในการประกอบอาชีพในสาขาของ ตนไม่ว่างานราชการหรอื เอกชน 1.2.2 ด้านคุณธรรม คือ ต้องมีธรรมอันเป็นคุณกับผู้คนไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา และ เพอื่ นร่วมงาน 1.2.3 ด้านธรรมาภบิ าล คอื ตอ้ งมีการทางานดว้ ยความสจุ ริตตรวจสอบได้ มีเหตุ มผี ล ไมใ่ ช้อารมณ์ส่วนตัว ไม่ใช้กิริยา ก้าวรา้ วกับผู้บังคบั บญั ชา ผู้ใตบ้ งั คบั บัญชา และเพือ่ นรว่ มงาน 1.3 ได้รบั การยอมรับเปน็ อย่างดจี ากสงั คมโดยรวม และผู้เก่ียวข้อง 2. เกณฑค์ ุณสมบตั เิ ฉพาะดา้ น 2.1 ด้านความสาเร็จในอาชีพ / หนา้ ที่การงาน -ความก้าวหนา้ ในอาชพี -การผลักดันนโยบายและแนวคิดท่เี กดิ ประโยชนต์ อ่ องค์กร และสว่ นรวมได้สาเร็จ

-การได้รับความไวว้ างใจ และยอมรบั ในองค์กร 2.2 ด้านผลงานเดน่ -สรา้ งหรือมสี ว่ นรว่ มในการสร้างงานนวตั กรรมทเ่ี ปน็ ทยี่ อมรับในวงกว้าง -ประดิษฐ์ คิดคน้ หรอื นาเสนอผลงานจนเปน็ ทป่ี ระจกั ษ์ - มคี วามโดดเดน่ ในอาชีพ เช่น นกั กฬี า นกั ดนตรี นักแสดง เปน็ ตน้ 2.3 ด้านสร้างคุณประโยชนแ์ กส่ ังคมและสถาบัน -อุทศิ ตน และทาคณุ ประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม ต่อคณะ และมหาวทิ ยาลัย -ประพฤตติ นเป็นแบบอยา่ งทดี่ แี ก่สงั คมมหาวิทยาลัย และสงั คมสว่ นรวม 2.4 ศิษยเ์ กา่ ดีเด่นดา้ นการส่งเสรมิ คุณธรรมและจรยิ ธรรม - ครองตนอยา่ งเหมาะสมมีความสุข และทาให้ผอู้ ่ืนมคี วามสุข -มีความซ่ือสตั ย์ สุจรติ และทาให้ผูอ้ นื่ มคี วามซอ่ื สัตย์ สจุ รติ -เปน็ ผบู้ าเพ็ญประโยชน์ให้สังคม -ดาเนนิ ชวี ิตตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง -เปน็ ทยี่ อมรับของสังคมเปน็ วงกว้าง 2.5 ศิษยเ์ ก่าดีเด่นร่นุ ใหม่ -อายุไม่เกนิ 35 ปี -มผี ลงาน อาชีพ หนา้ ที่การงาน ทาคุณประโยชน์แก่สถาบนั และสังคม และการยอมรับทางสังคมโดยภาพรวมเป็นที่ โดดเดน่ ค. วธิ ีการดาเนินการ 1. สมาคมศษิ ยเ์ ก่าสมั พันธ์มหาวทิ ยาลยั การจัดการและเทคโนโลย่ีอีสเทิร์น แจ้งหนังสือให้คณะ/หลักสูตร พิจารณา เสนอช่อื พรอ้ มผลงานศิษย์เก่า ตามแบบฟอร์มท่กี าหนด 2.ประชาสมั พันธก์ จิ กรรม เชญิ ชวนส่งรายช่ือและผลงานของศษิ ย์เกา่ ดีเด่นของ มหาวิทยาลัย ทางส่ือ เว็บไซต์ และส่ือ สงั คมออนไลน์ 3. การดาเนนิ การคดั เลอื ก 3.1 คณะ/หลกั สตู รสามารถสง่ รายชื่อศิษยเ์ กา่ ได้จาก 5 ประเภท (โดยเลือกประเภทใดประเภทหนึง่ ) คณะ/หลกั สูตร ละ 1 ท่านเท่านน้ั (ต้ังแต่ปกี ารศกึ ษาทผ่ี า่ นมาถึงปีการศึกษาปจั จบุ ัน) 3.2 ผู้ท่ีได้รับการคัดเลือกเป็นศิษย์เก่าดีเด่นของมหาวิทยาลัยกาหนดเข้ารับโล่เกียรติยศในวันไหว้ครู เป็นประจาทุกปี ซึ่งจะเร่ิมปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป ประวัติและผลงานจะนามาเผยแพร่และเชิดชูเกียรติทาง เวบ็ ไซต์ของมหาวทิ ยาลยั ต่อไป 3.3 . รายละเอียดเพ่ิมเติมหรือ downloadแบบฟอร์มได้ท่ี Facebook Fanpage : มหาวิทยาลัยการจัดการและ เทคโนโลยีอีสเทิร์น UMT หรือ line กิจการนักศึกษา หรือสอบถามข้อมูลได้ท่ี โทรศัพท์ 062-1512208 ดร. กาญจนา อปุ สาร

แบบเสนอชอ่ื ผสู้ มควรไดร้ บั การยกย่องเป็นศษิ ย์เกา่ ดเี ด่นประจาปี 2565 มหาวิทยาลยั การจดั การและเทคโนโลยีอีสเทริ น์ 1. ประวัตสิ ่วนตัว ชอ่ื – นามสกุล ดร.มนตต์ รี ธนะคณุ อายุ 59 ปี ภมู ิลาเนา อาเภอศรีเมอื งใหม่ จงั หวัดอุบลราชธานี สมรสกับนางละมลู ธนะคณุ รบั ราชการครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ โรงเรยี นปทมุ วิทยากร สานักงาน เขตพน้ื ที่การประถมศกึ ษาอุบลราชธานี เขต 1 มีบตุ ร 3 คน 1. นางสาวมนิ ตรา ธนะคณุ จบ ป.ตรี สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม ม.มหาสารคาม 2. นายพิษณุ ธนะคณุ จบ ป.ตรี สาขาวศิ วกรรมอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ม.ราชมงคลเทคโนโลยีอีสาน 3. นางสาวรัตนวลัย ธนะคุณ จบ ป.ตรี สาขาบรหิ ารธรุ กิจ ม.อบุ ลราชธานี กาลังศึกษา ป.โท ม.ราชธานี ทอี่ ยู่ปจั จุบนั บา้ นเลขท่ี 142 หมู่ 4 ตาบลปทมุ อาเภอเมือง จังหวดั อุบลราชธานี 34000 E-mail [email protected] โทรศัพทม์ ือถือ* (จาเปน็ ) 095-5352953 Line – ปจั จบุ นั รับราชการ ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสานักการศึกษา (นกั บรหิ ารงานการศกึ ษา ระดับสงู ) เทศบาลนครอบุ ลราชธานี อตั ราเงนิ เดือน 80,450 บาท เงินประจาตาแหน่ง 10,000 บาท เงินคา่ ตอบแทน 13,300 บาท รวม 103,750 บาท ประวตั กิ ารศึกษา (เฉพาะระดับอุดมศึกษา) คณุ วุฒิ สาขาวชิ า ปที เ่ี ข้าศึกษา ปที ี่สาเร็จ สถานศึกษา 1 ปริญญาตรี ปี 2560 การศึกษา 2 ปรญิ ญาตรี นิตศิ าสตร์ ปี 2528 2562 มหาวทิ ยาลัยการจัดการ 3 ปรญิ ญาโท เทคโนโลยอี ีสเทริ ์น 4 ปรญิ ญาเอก บริหาร 2529 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช การศึกษา การบริหาร ปี 2540 2542 มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง การศกึ ษา การบริหาร ปี 2553 2558 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั การศึกษา อบุ ลราชธานี

ประวัติการทางาน หนว่ ยงาน ระยะเวลา ตาแหนง่ (ปี พ.ศ.) 2524 1 ครู 1 ระดับ 1 โรงเรียนบ้านขวั แคน อ.ศรีเมอื งใหม่ 2526 จ.อุบลราชธานี 2527 2 ครู 2 ระดับ 2 โรงเรยี นบา้ นขวั คา อ.ศรีเมอื งใหม่ 2529 จ.อุบลราชธานี 2531 3 ครู 2 ระดบั 3 โรงเรียนบา้ นขวั คา อ.ศรเี มอื งใหม่ 2532 จ.อุบลราชธานี 2536 4 อาจารย์ 1 ระดบั 3 โรงเรยี นหนองเชอื ก อ.ศรีเมืองใหม่ 2537 จ.อบุ ลราชธานี 2539 5 ครใู หญ่โรงเรียนบา้ นคาเตย โรงเรียนบา้ นคาเตย อ.ตาลสุม 2543 จ.อุบลราชธานี 2545 6 อาจารยใ์ หญโ่ รงเรยี นบา้ นคา โรงเรียนบา้ นคาเตย อ.ตาลสุม 2546 เตย จ.อุบลราชธานี 2548 7 ผู้ชว่ ยหวั หน้าการประถมศึกษา จ.อบุ ลราชธานี 2549 2551 อาเภอกดุ ขา้ วปุ้น 8 ผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษา จ.อุบลราชธานี อาเภอเขือ่ งใน 9 ผ้ชู ่วยหวั หนา้ การประถมศกึ ษา จ.อุบลราชธานี อาเภอม่วงสามสบิ 10 ผู้ชว่ ยหวั หนา้ การประถมศึกษา จ.อบุ ลราชธานี อาเภอเมอื งวารนิ ชาราบ 11 หัวหน้าประถมการศึกษากิ่ง สานกั งานประถมการศกึ ษาก่งิ อาเภอ อาเภอนาตาล นาตาล จ.อบุ ลราชธานี 12 หัวหนา้ กลุม่ นโยบายและแผน สพท.อุบลราชธานี เขต 3 13 ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านหนอง อ.มว่ งสามสบิ จ.อุบลราชธานี ผา 14 ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านไรใ่ ต้ อ.เมอื งอุบลราชธานี จ.อบุ ลราชธานี 15 จนท.บรหิ ารการศกึ ษาขัน้ สพท.เขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาอุบลราชธานี พื้นฐานปฏบิ ัตหิ นา้ ที่รอง ผอ. เขต 1 อ.เมือง จ.อุบลราชธานี สพท.เขตพื้นทกี่ ารศึกษา อบุ ลราชธานี เขต 1

ตาแหนง่ หน่วยงาน ระยะเวลา 16 รองผู้อานวยการ (ปี พ.ศ.) 17 ผอู้ านวยการสานกั การศกึ ษา สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษา 2552 ประถมศึกษาอบุ ลราชธานี เขต 1 สานกั การศกึ ษา เทศบาลนคร 2558 – ปจั จุบัน อบุ ลราชธานี 2. ประเภทศษิ ยเ์ ก่าดเี ด่นทีเ่ สนอ (โปรดเสนอเพยี ง 1 ประเภท) *สามารถเพิ่มแถวรายการเอกสารหลักฐานได้ * โดยเรยี งลาดับตามนา้ หนกั ความหมายของหลักฐาน 2.1 ประเภทศษิ ยเกาดีเดนดาน (โปรดระบุ) ดานสรางคุณประโยชนแกสงั คมและสถาบนั ผูป้ ระสบความสาเร็จสงู ในหนาทีก่ ารงาน ปจั จุบนั ดารงตาแหนง่ ผ้อู านวยการสานกั การศึกษา เทศบาลนครอบุ ลราชธานี มีภาระหนา้ ที่รบั ผดิ ชอบ 1. กากบั ดแู ลและอานวยการในการบรหิ ารจดั การศึกษาของสถานศกึ ษาในสังกดั จานวน 8 แห่ง คอื 1. โรงเรียนเทศบาลบูรพาอุบล 2. โรงเรยี นเทศบาล 2 หนองบัว 3. โรงเรียนเทศบาล 3 สามัคควี ทิ ยาคาร 4. โรงเรยี นเทศบาล 4 อนบุ าลพระเจ้าใหญอ่ งคต์ ้อื 5. โรงเรียนเทศบาล 5 ชมุ ชนก้านเหลือง 6. ศนู ย์พฒั นาเด็กเลก็ วัดมหาวนาราม 7. ศูนย์พัฒนาเดก็ เลก็ วัดใตพ้ ระเจา้ ใหญ่องคต์ อ้ื 8. ศนู ย์พฒั นาเดก็ เล็กโรงเรยี นเทศบาล 3 สามัคคีวทิ ยาคาร มีนกั เรยี น จานวน 2,885 คน มพี นักงานครเู ทศบาลและบุคลากรทางการศกึ ษา จานวน 321 คน ผลงานท่ี ประสบความสาเรจ็ ของสถานศกึ ษาในสังกดั ภายใต้การกากับดแู ล 1. การบรหิ ารการศึกษา 1. โรงเรียนเทศบาลบูรพาอุบล ไดร้ บั รางวัล ดังน้ี - รางวลั โล่หโ์ รงเรียนพระราชทาน 3 ครง้ั ในรอบ 10 ปี (2554, 2559 และ2563) - รบั รางวลั ผบู้ ริหารโรงเรียนดเี ดน่ ระดบั ประเทศ (ดร.กรศิริ ม่งิ ไชย) - เปน็ ศูนยก์ ารเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง - รางวลั หอ้ งสมุดดเี ด่น ระดบั ประเทศ - รางวลั ชนะเลิศเจา้ บา้ นนอ้ ยทด่ี ี ระดบั ประเทศ - บริหารจดั การจนได้รบั การรับรองมาตรฐานการประเมินภายนอก จาก สมศ. รอบท่ี 3 และรอบท่ี 4 2. โรงเรยี นเทศบาล 2 หนองบวั ไดร้ บั รางวัล ดงั นี้ - รางวัลโรงเรียนพระราชทาน ปี พ.ศ.2557 - รางวลั นักเรยี นรางวัลพระราชทาน ปี พ.ศ. 2561