รายงานศึกษาค้นคว้า เรื่อง นวัตกรรมเทคโนโลยีการศึกษา เสนอ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาโรช สอาดเอี่ยม จัดทำโดย นางสาวเขมิกา เลาโซ้ง รหัสนักศึกษา 6410540131073 รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้า รหัส GE4005 ภาคเรียนที่ 1/2566 สาขาการสอนภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา
รายงานศึกษาค้นคว้า เรอ่ื ง นวตั กรรมเทคโนโลยกี ารศึกษา เสนอ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาโรช สอาดเอ่ยี ม จดั ทาโดย นางสาวเขมิกา เลาโซง้ รหัสนกั ศกึ ษา 6410540131073 รายงานน้ีเปน็ สว่ นหน่ึงของรายวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การศกึ ษาคน้ ควา้ รหัสวิชา GE4005 ภาคเรยี นที่ 1/2566 สาขาการสอนภาษาไทย คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตลา้ นนา
ก คำนำ รายงานเรอื่ ง นวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศกึ ษาเล่มนี้ เป็นสว่ นหน่ึงของรายวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพื่อการศึกษาค้นคว้า มีจุดประสงค์เพ่ือศึกษาหาความรู้เก่ียวกับนวัตกรรมเทคโนโลยีการศึกษา โดยได้ศึกษา ผ่านแหล่งความรู้ต่าง ๆ จากหนงั สือ หอ้ งสมุด รวมไปถงึ แหล่งความรู้จากเว็บไซตอ์ อนไลน์ เพ่อื ศึกษาให้เข้าใจ ในเน้ือหาของนวตั กรรมเทคโนโลยีทางการศึกษาโดยละเอยี ด เนื้อหาในรายงานเล่มนี้ ประกอบไปด้วยเนื้อหาของนวัตกรรมเทคโนโลยีการศึกษา ความหมายของ นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา ประเภทของนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศกึ ษา ววิ ัฒนาการของนวตั กรรม และเทคโนโลยีการศกึ ษา ประโยชน์ของนวตั กรรมและเทคโนโลยีการศึกษา การจัดทารายงานฉบับนี้สาเร็จตามวัตถุประสงค์ไปด้วยดี ทางคณะผู้จัดทาขอขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาโรช สะอาดเอี่ยม ท่ีท่านได้ให้คาแนะนาในการจัดทารายงานจนทาให้รายงานฉบับนี้ สมบรู ณใ์ นเรือ่ งของการศึกษาการทารายงาน การเรียบเรียงเน้ือหา การเขยี นบรรณานกุ รม และขอขอบคุณผู้ที่ มีส่วนเก่ียวข้องทุกฝ่ายท่ีสนับสนุน ช่วยเหลือตลอดมา ทางคณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าเน้ือหาในรายงาน ฉบับน้ีท่ีได้เรียบเรียงมาจะเป็นประโยชนต์ ่อผู้ท่ีสนใจและต้องการศึกษาค้นควา้ หากมีการผิดพลาดประการใด ทางผจู้ ัดทาขอกราบผ้รู ู้ชว่ ยแนะนาต่อไป เขมิกา เลาโซง้ 6 สงิ หาคม 2566
สำรบัญ ข เรือ่ ง หนำ้ คานา ก สารบญั ข สารบญั ภาพ ค ความหมายของนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา 1 ความสาคัญของนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศกึ ษา 3 ประเภทของนวตั กรรมและเทคโนโลยีการศกึ ษา 5 วิวัฒนาการของนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศกึ ษา 7 ประโยชนข์ องนวตั กรรมและเทคโนโลยีการศึกษา 12 บรรณานกุ รม ง
สำรบญั ภำพ ค ภาพท่ี 1 เทคโนโลยี หน้ำ ภาพที่ 2 โคมนิ อิ ุส ภาพที่ 3 ศาสตราจารย์ หลุยส์ เอลตัน 1 9 9
ภาพที่ 1 เทคโนโลยี ปัจจุบนั เทคโนโลยีตา่ ง ๆ ได้เขา้ มามบี ทบาทในการดาเนนิ ชีวิตและการทางานของทกุ คนในบริบทของ สถานศึกษา เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทต่อครูผู้สอนในการจัดการเรยี นรู้ให้แก่ผู้เรียนเปน็ อย่างย่งิ โดยเฉพาะ ในศตวรรษที่ 21 ซงึ่ เปน็ ชว่ งเวลาท่ีเทคโนโลยสี ารสนเทศการสอ่ื สารมีการเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ จงึ ส่งผลให้ ผู้สอนต้องมีการปรับเปล่ียนรูปแบบการสอนเพ่ือให้ทันกับการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึน ประกอบกับผู้เรียนใน ศตวรรษใหม่จะต้องมีทักษะทางด้านเทคโนโลยีที่ใช้ในการส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรแู้ ละการดารงชีวิตของ ตนเองเป็นอย่างดี ดังน้ันในการจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนผู้สอนจะต้องเป็นผู้ท่ีมีความเชี่ยวชาญในการนา เทคโนโลยีมาใช้ประกอบการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียน และการท่ีผู้สอนจะสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ผสู้ อนจงึ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับเทคโนโลยีและสามารถเป็นผู้สรา้ งเทคโนโลยีหรือนาเทคโนโลยีมาใช้ ในการจัดการเรยี นร้เู พอ่ื ใชเ้ ป็นสอ่ื ประกอบการสอนได้เป็นอยา่ งดี ความหมายของนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศกึ ษา ความหมายของนวตั กรรม นวัตกรรม (Innovation) หมายถงึ ความคดิ การปฏิบตั ิ หรือสิ่งประดิษฐใ์ หม่ ๆ ที่ยงั ไมเ่ คยมีใช้มากอ่ น หรอื เปน็ การพฒั นาดัดแปลงมาจากของเดิมท่ีมอี ยู่แล้วใหท้ ันสมัยและใช้ได้ผลดยี ง่ิ ขึ้น เมือ่ นานวัตกรรมมาใช้จะ ช่วยใหก้ ารทางานนัน้ ได้ผลดีมีประสทิ ธภิ าพและประสิทธิผลสูงกว่าเดมิ ทงั้ ยังชว่ ยประหยัดเวลาและแรงงานได้ ดว้ ย นวัตกรรม มีรากศัพท์มาจาก Innovate ในภาษาลาติน แปลว่า ทาส่ิงใหม่ขึ้นมา ความหมายของ นวัตกรรมในเชิงเศรษฐศาสตร์คือการนาแนวความคิดใหม่หรือการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่แล้วมาไว้ใน รปู แบบใหม่ให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรอื กิจการในส่ิงท่ีแตกตา่ งจากเงิน โดยอาศยั การเปลยี่ นแปลงตา่ ง ๆ ท่ี เกิดขึน้ รอบตัวเราให้กลายมาเปน็ โอกาส การถ่ายทอดไปสู่แนวความคิดใหม่ที่ทาใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ตนเองและ สงั คม ทอมัส ฮิวซ์ (Thomas Hughes) (Davies, A., 1996) ได้ให้ความหมายของ “นวัตกรรม\" ว่าเป็นการ นาวิธีการใหม่ ๆ มาปฏิบัติหลังจากได้ผ่านการทดลองหรือได้รับการพัฒนามาเป็นช้ัน ๆ แล้วเร่ิมตั้งแต่การ คิดค้น การพัฒนา ซ่ึงอาจจะเป็นไปในรูปของโครงการทดลองปฏิบัติก่อน แล้วจึงนาไปปฏิบัติจริง ซ่ึงมีความ แตกต่างไปจากการปฏบิ ตั เิ ดมิ ท่เี คยปฏบิ ัติมา
2 มอร์ตัน (Morton, J. A, 1971) ให้ความหมาย “นวัตกรรม” ว่าเป็นการทาให้ใหม่ขึ้นอีกคร้ัง (Renewal) ซ่งึ หมายถงึ การปรบั ปรงุ สิง่ เกา่ และพัฒนาศกั ยภาพของบุคลากร ตลอดจนหนว่ ยงานหรอื องค์การ นัน้ ๆ นวัตกรรม ไมใ่ ช่การขจดั หรอื ล้มล้างส่งิ เกา่ ใหห้ มดไป แต่เปน็ การปรบั ปรงุ เสริม แต่ง และพฒั นา จากความหมายของนวัตกรรมท่ีกล่าวมาขา้ งต้นสามารถสรุปได้ว่า นวัตกรรม หมายถึง ความคิด การ ปฏบิ ัตหิ รอื สง่ิ ประดิษฐ์ใหม่ ๆ ทีย่ งั ไมเ่ คยมีใช้มากอ่ น หรอื เป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมท่ีมีอยู่แล้วให้ ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งข้ึน เมื่อนานวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทางานน้ันได้ผลดีมีประสิทธิภาพและ ประสิทธผิ ลสงู กวา่ เดมิ ความหมายของนวัตกรรมการศกึ ษา นวัตกรรมทางการศกึ ษา (Educational Innovation) หมายถงึ การนาเอาสง่ิ ใหม่ซงึ่ อาจจะอยู่ในรูป ของความคดิ หรือการกระทา รวมท้งั สิ่งประดิษฐ์กต็ ามเข้ามาใช้ในระบบการศกึ ษา เพอ่ื มงุ่ หวังท่ีจะเปล่ยี นแปลง สงิ่ ทมี่ ีอยูเ่ ดมิ ให้ระบบการจัดการศกึ ษามีประสิทธิภาพยิ่งขึน้ ทาใหผ้ ู้เรยี นสามารถเกิดการเรยี นรไู้ ด้อย่างรวดเร็ว เกดิ แรงจูงใจในการเรยี น และชว่ ยใหป้ ระหยดั เวลาในการเรียน เชน่ การสอนโดยใชค้ อมพิวเตอร์ชว่ ยสอน การ ใช้วดี ทิ ัศนเ์ ชิงโตต้ อบ(Interactive Video) สอื่ หลายมติ ิ (Hypermedia) และอินเตอร์เน็ต เป็นต้น ความหมายของเทคโนโลยี เทคโนโลยี (Technology) มาจากภาษาลาตนิ ว่า Texere แปลวา่ การสาน (To weave) หรืออีกนัย หน่ึงมาจากคาว่า \"Technologia\" ซ่ึงมาจากภาษากรีก หมายถึง การทาอย่างมีระบบ ซึ่งได้มีผู้ให้นิยามต่าง ๆ ไวด้ งั นี้ คารเ์ ตอร์ วี กูด (Carter V.Good, 1973) ใหค้ วามหมายไว้ว่า เทคโนโลยี หมายถงึ การนาวทิ ยาศาสตร์ มาประยกุ ต์ใช้งานด้านตา่ งๆ เพื่อปรับปรงุ ระบบนัน้ ๆ เจมส์ ดี ฟินส์ (Jemes D.Finn, 1972) กล่าวว่า เทคโนโลยีมีความหมายลึกซึ้งไปกว่าประดิษฐ์กรรม เคร่อื งมอื เคร่ืองยนต์กลไกตา่ งๆ แตห่ มายถึง กระบวนการ แนวความคดิ แนวทาง หรอื วิธีการในการคิด ในการ ทาสง่ิ ใดส่ิงหน่งึ เอดการ์ เดล (Edgar Dale, 1969) ได้ให้ความหมายไว้วา่ เทคโนโลยี มิใช่เครื่องมือ เครื่องยนต์กลไก ตา่ ง ๆ แต่เป็นแผนงาน วธิ ีการทางานอย่างมรี ะบบท่ที าให้งานน้ันบรรลตุ ามแผนงานที่วางไว้ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมาย “เทคโนโลยี” ไว้ว่า เป็นวิทยาการที่ เกี่ยวกับศิลปะในการนาเอาวิทยาศาสตรป์ ระยกุ ต์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางปฏบิ ัตแิ ละอตุ สาหกรรม จากแนวคิดต่าง ๆ อาจกล่าวได้ว่า “เทคโนโลยี” หมายถึง การนาแนวคิด หลักการ เทคนิค วิธีการ กระบวนการ ตลอดจนผลิตผลทางวิทยาศาสตร์มาประยกุ ต์ใช้ในระบบงานต่าง ๆ เพือ่ ปรับปรุงระบบงานนน้ั ๆ ให้ดขี ้นึ และมีประสิทธภิ าพยิง่ ขึ้น
3 ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา สาหรับความหมายเทคโนโลยีการศึกษา (Educational Technology) มีนักการศึกษาได้ให้ ความหมายไว้หลายความหมาย สรปุ ได้ดังน้ี กิดานันท์ มลิทอง (2546 : 7) ได้ให้ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษาว่า เทคโนโลยีการศึกษาเป็น การประยุกต์เอาเทคนิค วิธีการ แนวความคิด วัสดุ อุปกรณ์ และสิ่งต่าง ๆ อันสืบเน่ืองมาจากเทคโนโลยีมาใช้ ในวงการศกึ ษา ไรเซอร์และอีลี (1997 : 63-64) ได้กล่าวว่า เทคโนโลยีการศึกษาเป็นคาที่ใช้กันท่ัวไปและมุ่งเน้นรวม คาอื่น ๆ เชน่ เทคโนโลยีการสอน เทคโนโลยกี ารเรียนรู้ และคาอืน่ ในทานองเดียวกันเข้าไวด้ ้วยกนั เทคโนโลยี การศึกษา หมายถึง การประยุกต์ทฤษฎีสู่การปฏิบัติในการออกแบบ การพัฒนา การใช้ การจัดการ และการ ประเมินผลของกระบวนการและทรัพยากรการเรียนรู้ ทั้งน้ีเพื่อเป็นการแก้ปัญหาและพัฒนาการศึกษาให้ เปน็ ไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและบรรลุเปา้ หมายทีต่ ั้งไว้ จากความหมายของนวัตกรรมและเทคโนโลยกี ารศึกษาท่ีกล่าวมาข้างตน้ สามารถสรุปได้ว่า นวัตกรรม และเทคโนโลยีการศึกษา คือ ส่ิงประดิษฐ์หรือแนวคิด วิธีการใหม่ ๆ หรือที่ได้รับการ พัฒนาเป็นรูปแบบของ ดิจทิ ลั ทีส่ ามารถจัดเกบ็ ข้อมูลและส่งข้อมูลให้ได้อย่างรวดเรว็ และการนาอปุ กรณ์เทคโนโลยมี าใช้ในการจัดการ เรยี นการสอนให้กบั ผู้เรียน โดยใช้ผูเ้ รียนเป็นหลักและสร้างสรรค์ส่อื การเรียนการสอนที่มีความหลากหลาย เพอื่ ตอบสนองต่อผเู้ รียนทมี่ คี วามหลากหลายและเข้ากับยคุ สมัยท่มี ีการววิ ฒั นาการในด้านของวทิ ยาการเทคโนโนยี ความสาคัญของนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศกึ ษา ความสาคญั ของนวตั กรรมการศึกษา นวัตกรรมทางการศกึ ษานนั้ เกดิ ขึน้ จากพฒั นาทางการการศกึ ษา การแก้ปญั หาทาง การศกึ ษา รวมถึง การเลือกแนวทางท่ีดีที่สุดท่ีเหมาะสมกับผู้เรียน ผู้สอน บทเรียน รวมไปถึงหลักสูตร โดยมีลักษณะยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนใหส้ อดคล้องกบั บริบทต่าง ๆ ท่ีเปล่ยี นแปลงไปเพอื่ ให้เกดิ ประสิทธภิ าพสูงสุดในทางการศกึ ษา โดย สาเหตุที่มีความจาเป็นท่ีต้องนานวัตกรรมเข้ามาใช้ในการศึกษาไทยในปัจจุบัน คือ การเปลี่ยนแปลงทางด้าน เทคโนโลยีในโลกศตวรรษท่ี 21 ท่ีการเรียนการสอนจึงต้องตอบสนองการเรียนการสอนแบบใหม่ ๆ รวมถึง พฤติกรรมการเรียนรูข้ องผู้เรียนของผู้เรยี นมีแนวโนม้ ในการเรยี นรดู้ ้วยตนเองมากขึน้ พฤติกรรมการเรียนร้ขู อง ผ้เู รยี นในปัจจบุ ันได้เปล่ยี นแปลงไปและมีการพง่ึ พาเทคโนโลยมี ากขึ้น เช่น การมบี ทเรยี นออนไลน์ต่าง ๆ เป็น จานวนมากรวมถึงสอ่ื ออนไลน์ต่าง ๆ ทีม่ ีอยูใ่ นปัจจบุ ันล้วนเปิดโอกาสให้ผูเ้ รียนได้เรยี นรู้ด้วยตนเองตาม ความ สนใจ ความถนัดและความตอ้ งการของผู้เรยี น ดังน้ัน จึงมีความจาเป็นที่จะต้องพฒั นารูปแบบการเรยี นร้ใู หม่ ๆ พัฒนาหลักสูตรทันสมัย รวมถึงการ พฒั นาสื่อการเรยี นรู้ต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความตอ้ งการของผเู้ รยี นในยุค ซึ่งกระบวนการพฒั นานวัตกรรมจะ เป็นเครอ่ื งมอื ชว่ ยในการพฒั นาการศึกษาใหม้ ีคณุ ภาพ และมปี ระสทิ ธภิ าพต่อไป
4 นอกจากนวัตกรรมการศึกษาจะมีความสาคัญท่ีเก่ียวโยงกับการเปล่ียนแปลงทางด้าน เทคโนโลยีที่มี อยู่ในปจั จบุ นั แลว้ ยังมีความสาคญั ในด้านการแก้ปัญหาทางการศึกษาต่าง ๆ รวมถงึ เพือ่ พฒั นาการเรียนรู้ของ ผู้เรียน ไดแ้ ก่ 1. เพอื่ นานวัตกรรมมาใช้แกป้ ัญหาในเรือ่ งการเรยี นการสอน 1.1 ปัญหาเรอื่ งวธิ ีการสอน โดยเฉพาะการสอนแบบ ครเู ป็นศนู ย์กลาง ครูเป็นผูถ้ า่ ยทอดองค์ ความรู้ไปสู่ผู้เรียน เช่น การสอนแบบบรรยายโดยหากครูสอนใช้วิธีการบรรยายเพียง อย่างเดียวก็จะไม่ สอดคลอ้ งกบั ความต้องการของผูเ้ รียน ซึ่งผู้เรียนน้นั ก็มีวธิ กี ารเรยี นรูท้ ่ีแตกต่างกัน ซงึ่ การสอนแบบบรรยายจะ ไม่ช่วยในการพัฒนาทักษะด้านการคิดการแกป้ ัญหาของผู้เรยี น รวมถึง ทาให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่าย ขาด ความสนใจแลว้ ยังเป็นการปิดก้ันความคิดของผ้เู รยี นให้อยู่ใน ขอบเขตจากดั 1.2 ปัญหาด้านเนื้อหาวิชา บางวิชาเนื้อหามาก และบางวิชามีเน้ือหาเป็นนามธรรมยากแก่ การเข้าใจจงึ จาเปน็ จะต้องนาเทคนิคการสอนและส่ือมาชว่ ยในการถา่ ยทอดองค์ความรู้ 1.3 ปัญหาเร่อื งอปุ กรณ์การสอน โดยบางเนอื้ หามีสื่อการสอนเปน็ จานวนนอ้ ย ไมเ่ พียงพอต่อ การนาไปใช้เพือ่ ทาให้ผ้เู รียนเกิดความรู้ความเข้าใจในเนือ้ หาวิชาไดง้ า่ ยขึ้น จงึ จาเป็นตอ้ งมกี ารพฒั นาคดิ ค้นหา เทคนคิ วิธีการสอนและผลติ ส่อื การสอนใหม่ ๆ เพื่อนามาใชท้ าให้การเรยี นการสอนบรรลเุ ปา้ หมายได้ 1.4 ข้อจากัดต่าง ๆ เชน่ ปญั หาครผู ้สู อนไมเ่ พียงพอ เชน่ ในรายวชิ าใหม่ ๆ ที่ขาดแคลนครูท่ี มีความเช่ียวชาญในสาขาน้ัน ๆ รวมถึงข้อจากัดของห้องเรียน จานวนนักเรียน และส่ิงอานวยความสะดวก อ่ืน ๆ ทาให้การจัดการเรียนการสอนจะต้องมีการปรับเปลยี่ นและนานวตั กรรม มาชว่ ยในการแกป้ ัญหาต่อไป 2. เพ่ือนานวตั กรรมไปใชใ้ นการพฒั นาการเรียนการสอน เปน็ การนานวตั กรรมการศกึ ษามาพฒั นาการ เรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่นการนาแนวคิด วิธีการ ส่ิงประดิษฐ์ เทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ใน การจัดการเรียนการสอน โดยศึกษาผลการใช้ ปัญหาที่เกิดขึ้น และปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งข้ึนรวมถึง เผยแพร่องค์ความรู้ซ่ึงอาจใช้กระบวนการวิจัยในการศึกษา เพื่อให้ครู อาจารย์อื่น ๆ ได้นาแนวความคิดไป ปรับปรุงใช้ หรือผลิตสื่อการสอนใหม่ ๆ เพื่อนามาใชใ้ นการพฒั นาการเรยี นการสอนตอ่ ไป ความสาคัญของเทคโนโลยีการศกึ ษา เทคโนโลยีการศึกษาเป็นสิ่งสาคัญย่ิงอย่างหนึ่งในการช่วยให้การแก้ปัญหาทางด้านการศึกษาสาเร็จ ลุล่วงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการบริหารการจัดการเรียนการสอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนาเทคโนโลยีที่ ทนั สมัยมาใช้เพอ่ื เพ่ิมประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลทางการเรียนแกผ่ เู้ รยี น สมบรู ณ์ สงวนญาติ (2534 : 20) ได้สรปุ วา่ เทคโนโลยีการศกึ ษามีความสาคญั ต่อการศึกษาดงั นี้ 1. ทาให้การเรียนการสอนการจัดการศึกษามีความหมายมากข้ึน ช่วยให้ผู้เรียนเรียนได้กว้างขวางขน้ึ เรียนได้เร็วขึน้ ได้เห็นหรือสมั ผสั กบั สิ่งทีเ่ รียนและทาให้ครูมเี วลาแกผ่ เู้ รยี นมากขน้ึ 2. สามารถเร่ืองความแตกต่างระหว่างบุคคลได้ เปน็ การเปิดทางให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ความสามารถของ เขา สนองความสนใจและความตอ้ งการของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี
5 3. สามารถทาให้การจัดการศึกษาตั้งอยู่บนรากฐานของวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นวิธีการหนง่ึ ที่ สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ทุกวงการ ทาให้การจัดการศึกษามีระบบมากข้ึนมีการทดลองค้นคว้าวิจัยพบ วิธีการใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทาให้การศกึ ษากา้ วหน้าและเหมาะกบั สภาพความเปลยี่ นแปลงของสังคม 4. ชว่ ยใหก้ ารจัดการศึกษามีพลังมากข้นึ ดว้ ยความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี เม่ือนามาใช้ในการสอนได้ อย่างเหมาะสมจะทาให้การจดั การศกึ ษามีพลงั มากข้ึน 5. สามารถทาใหก้ ารเรียนรอู้ ยู่แค่เออ้ื ม ทาให้ผู้เรียนได้มองเหน็ สภาพความเปน็ จรงิ เพราะสามารถนา สิ่งต่าง ๆ ในโลกมาสหู่ อ้ งเรยี นได้ ความสามารถเอาชนะข้อจากัดตา่ ง ๆ ท้งั ในด้านเวลาและสถานที่ 6. ทาใหเ้ กิดความเสมอภาคทางการศกึ ษา เพราะ ช่วยใหท้ ุกคนมโี อกาสที่จะจ่ายได้หลายรูปแบบ เช่น การศึกษาในระบบโรงเรียน นอกระบบโรงเรยี น การเรียนตามอัธยาศัย และการศึกษาพิเศษแก่คนพกิ าร เป็น ตน้ ประเภทของนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา ประเภทของนวัตกรรมการศกึ ษา พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้มีบทบัญญตั ิท่ีเกีย่ วข้องกับเทคโนโลยกี ารศึกษาและ นวัตกรรมการศึกษาไว้หลายมาตรา มาตราที่สาคัญ คือ มาตรา 67 รัฐต้องส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาการ ผลิตและการพัฒนาเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา รวมทั้งการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการใช้เทคโนโลยี เพ่ือการศึกษา เพื่อให้เกิดการใช้ท่ีคุ้มค่าและเหมาะสมกับกระบวนการเรียนรู้ของคนไทยและในมาตรา 22 “การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมี ความสาคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญท่ีสุด กระบวนการจัด การศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ” การดาเนินการปฏิรูป การศึกษาให้สาเร็จได้ตามท่ีระบุไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ดังกล่าว จาเป็นต้อง ทาการศกึ ษาวจิ ยั และพฒั นานวตั กรรมการศึกษาใหม่ ๆ ทจ่ี ะเขา้ มาช่วยแกไ้ ขปัญหาทางการศึกษาท้งั ในรูปแบบ ของการศึกษาวจิ ัย การทดลองและการประเมินผลนวตั กรรมหรือเทคโนโลยีทน่ี ามาใช้วา่ มคี วามเหมาะสมมาก น้อยเพยี งใด นวตั กรรมทนี่ ามาใช้ทงั้ ที่ผ่านมาแลว้ และท่ีจะมีในอนาคตมีหลายประเภทขึ้นอย่กู ับการประยุกต์ใช้ นวตั กรรมในด้านต่างๆ ในทนี่ ี้จะขอกล่าว คือ นวตั กรรม 5 ประเภท ดังนี้ 1. นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร เป็นการใช้วิธีการใหม่ๆ ในการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับ สภาพแวดล้อมในท้องถิ่นและตอบสนองความต้องการสอนบุคคลให้มากข้ึน เน่ืองจากหลักสูตรจะต้องมีการ เปล่ียนแปลงอยู่เสมอเพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และของโลก นอกจากนี้การพัฒนาหลกั สูตรยังมีความจาเปน็ ที่จะตอ้ งอยู่บนฐานของแนวคิดทฤษฎีและปรัชญา ทางการจัดการสัมมนาอีกด้วย การพัฒนาหลักสูตรตามหลักการและวิธีการดังกล่าวต้องอาศัยแนวคิดและ วิธีการใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมการศึกษาเข้ามาช่วยเหลือจัดการให้เป็นไปในทิศทางท่ีต้องการ นวัตกรรม ทางด้านหลักสูตรในประเทศไทย ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตรดังตอ่ ไปนี้
6 1.1 หลักสูตรบูรณาการ เป็นการบูรณาการส่วนประกอบของหลักสูตรเข้าด้วยกันทางด้าน วิทยาการในสาขาต่างๆ การศึกษาทางด้านจรยิ ธรรมและสังคม โดยมุ่งใหผ้ ู้เรียนเป็นคนดีสามารถใช้ประโยชน์ จากองค์ความรใู้ นสาขาตา่ งๆ ให้สอดคล้องกบั สภาพสังคมอยา่ งมจี ริยธรรม 1.2 หลักสูตรรายบุคคล เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรเพ่ือการศึกษาตามอัตภาพ เพื่อ ตอบสนองแนวความคิดในการจัดการศึกษารายบุคคล ซึ่งจะต้องออกแบบระบบเพอ่ื รองรับความก้าวหน้าของ เทคโนโลยีด้านต่างๆ 1.3 หลักสูตรกิจกรรมและประสบการณ์ เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้น กระบวนการในการจัด กิจกรรมและประสบการณ์ให้กับผู้เรียนเพอ่ื นาไปสู่ความสาเร็จ เช่น กิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมใน บทเรยี น ประสบการณ์การเรียนรูจ้ ากการสบื คน้ ดว้ ยตนเอง เป็นต้น 1.4 หลักสูตรท้องถิ่น เป็นการพัฒนาหลักสูตรที่ต้องการกระจายการบริหารจัดการออกสู่ ทอ้ งถิน่ เพ่ือใหส้ อดคล้องกับศิลปวฒั นธรรมสงิ่ แวดลอ้ มและความเป็นอยู่ของประชาชนท่ีมอี ยู่ในแต่ละท้องถ่ิน แทนทห่ี ลักสูตรในแบบเดมิ ทใี่ ช้วิธีการรวมศูนยก์ ารพัฒนาอย่ใู นส่วนกลาง 2. นวตั กรรมการเรยี นการสอน เปน็ การใชว้ ิธีระบบในการปรบั ปรุงและคิดค้นพฒั นาวธิ สี อนแบบใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองการเรียนรายบุคคล การสอนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การเรียนแบบมีส่วนร่วม การ เรียนรู้แบบแก้ปัญหา การพัฒนาวิธีสอนจาเป็นต้องอาศัยวิธีการและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาจัดการและ สนับสนนุ การเรียนการสอน ตวั อย่างนวัตกรรมทใี่ ช้ในการเรียนการสอน ไดแ้ ก่ การสอนแบบศูนยก์ ารเรียน การ ใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ การสอนแบบเรียนรู้ร่วมกัน และการเรียนผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์และ อินเทอรเ์ น็ต การวิจยั ในชน้ั เรียน ฯลฯ 3. นวตั กรรมสื่อการสอน เนื่องจากมคี วามก้าวหนา้ ของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครือข่าย และเทคโนโลยี โทรคมนาคม ทาให้นักการศกึ ษาพยายามนาศกั ยภาพของเทคโนโลยีเหล่าน้มี าใช้ในการผลิตส่ือ การเรียนการสอนใหม่ๆ จานวนมากมาย ท้ังการเรียนด้วยตนเองการเรียนเป็นกลุ่มและการเรียนแบบมวลชน ตลอดจนส่ือที่ใชเ้ พอื่ สนบั สนนุ การฝกึ อบรม ผ่านเครอื ข่ายคอมพิวเตอรต์ ัวอย่าง นวตั กรรมส่ือการสอน ได้แก่ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) มัลติมีเดีย (Multimedia) การประชุมทางไกล (Teleconference) ชุดการสอน (Instructional Module) และวีดที ัศน์แบบมีปฏสิ มั พันธ์ (Interactive Video) 4. นวัตกรรมทางด้านการประเมนิ ผล เป็นนวัตกรรมทใ่ี ช้เป็นเครอ่ื งมือเพ่ือการวดั ผลและประเมนิ ผลได้ อย่างมีประสิทธิภาพและทาได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการวิจัยทางการศึกษา การวิจัยสถาบัน ด้วยการ ประยุกต์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาสนับสนุนการวัดผล ประเมินผลของสถานศึกษา ครู อาจารย์ ตัวอย่าง นวตั กรรมทางด้านการประเมนิ ผล ได้แก่ การพฒั นาคลงั ข้อสอบ การลงทะเบียนผา่ นทางเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต การใช้บัตรสมาร์ทการ์ด เพ่ือการใช้บริการของสถาบันศึกษา การใช้คอมพิวเตอร์ในการตัด เกรด ฯลฯ 5.นวัตกรรมการบริหารจัดการ เป็นการใช้นวัตกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับการใช้สารสนเทศมาช่วยในการ บริหารจดั การ เพ่อื การ ตัดสินใจของผู้บรหิ ารการศึกษาให้มีความรวดเร็วทนั เหตุการณ์ ทนั ต่อการเปลี่ยนแปลง ของโลกนวัตกรรมการศึกษาที่นามาใช้ทางด้านการบริหารจะเก่ียวข้องกับระบบการจัดการฐานข้อมูลใน
7 หนว่ ยงานสถานศึกษา เช่น ฐานข้อมูล นักเรยี น นักศกึ ษา ฐานข้อมูล คณะอาจารยแ์ ละบคุ ลากร ในสถานศึกษา ดา้ นการเงนิ บัญชี พสั ดุ และครุภัณฑ์ ฐานข้อมูลเหลา่ นต้ี ้องการออกระบบทสี่ มบรู ณม์ ีความปลอดภยั ของข้อมูล สูง ประเภทของเทคโนโลยีการศกึ ษา 1. เครือ่ งมอื (Hardware) ซ่ึงเปน็ ผลผลติ ทเ่ี กิดจากการพัฒนาทางวทิ ยาศาสตร์ และอตุ สาหกรรม เปน็ เครื่องมือทจี่ ะนาเสนอเนื้อหาสาระ หรอื เปน็ เครอื่ งมือทชี่ ่วย ในการผลติ 2. วัสดุ (Software) เป็นส่วนทีเ่ ก็บสาระ เนือ้ หาไว้ในตัวของมันเอง อาจจะ นาเสนอโดยตัวของมนั เอง ก็ได้ หรอื นาเสนอผ่านเครื่องมอื ก็ได้ 3. วิธีการ เป็นเทคโนโลยีท่ีมีลักษณะเป็นนามธรรม ไม่เป็นวตั ถุ แต่เป็นลักษณะการเสนอ การกระทา อาจใชร้ วมกับเคร่อื งมอื หรือวัสดุ มักจะอยูใ่ นรูปของกิจกรรม วิวัฒนาการของนวัตกรรมเทคโนโลยีการศกึ ษา ววิ ฒั นาการของนวตั กรรมการศึกษา Education 1.0 คือ การจัดการศึกษาท่ีการสอนแบบครูเป็นผู้ให้นักเรียนเป็นผู้รับ เน้นการท่องจา ตาราและทาแบบฝึกหัดตามตารา ไม่ไดเ้ น้นกระบวนการเรียนรู้ตามความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน Education 2.0 คือ การจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยการจัดการเรียนการสอนที่ สอดคล้องกับความถนดั ความสนใจและแตกต่างระหว่างบคุ คล ปลูกฝังให้ผู้เรียนมจี ิตวิญญาณแห่งการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง จากแห่งเรียนรู้ภายในและภายนอกโรงเรียน ครูคือผู้สนับสนุน และเป็นแหลง่ เรียนรูข้ องผู้เรียน Education 3.0 คือ การจัดการศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ใหม่และสิ่งประดิษฐ์ใหม่โดย การใช้กระบวนการทางปัญญา (กระบวนการคิด) กระบวนการทางสังคม (กระบวนการกลุ่ม) และให้ผู้เรียน ปฏิสัมพันธ์และมีส่วนร่วมในการเรียน สามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ โดยครูมีบทบาทเป็นผู้อานวยความ สะดวกจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ให้ผ้เู รยี น Education 4.0 คือ การจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้เรียนที่เปลี่ยนไปการประยุกต์ ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นเคร่ืองกระตุ้นการเรียนรู้ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสร้างสรรค์นวัตกรรมและการวิจัยด้วย วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เพอ่ื เพ่มิ ขีดความสามารถและการแขง่ ขนั ของประเทศ เส้นทางสู่การศึกษาไทย 4.0 : เพื่อให้ก้าวไปสู่การศึกษาไทย 4.0 กระทรวงศึกษาธิการได้จัดส่งเสริม สนับสนุนโครงการสาคัญ ได้แก่ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ การยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษ พัฒนาและ ส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี และพัฒนานักวิจัยหลากหลาย สาขาการจัดการเรยี นการสอน
8 ววิ ฒั นาการของเทคโนโลยีการศกึ ษา ในการนาเสนอเรอื่ งราวเก่ียวกบั พฒั นาการของเทคโนโลยกี ารศกึ ษานั้น เพอื่ ใหเ้ กิดความชัดเจน จึงขอ นาเสนอเป็น 3 ประเด็น 1. พฒั นาการของเทคโนโลยีการศึกษาในต่างประเทศ การนาเทคโนโลยีมาใช้ในวงการศกึ ษา เริม่ มีมา ตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาล โดยนักเทคโนโลยีการศึกษากลุ่มแรกคือ กลุ่มโซฟิสต์ (The Elder Sophists) ได้ใช้ การสอนแบบบรรยายเพื่อสอนมวลชน แลงแคสเตอร์ (Lacaster) เป็นผ้รู ิเริ่มการจดั สภาพห้องเรียนและการใช้ ส่ือการสอนราคาย่อมเยา หรือหลักการและทฤษีของนักจิตวิทยาหลายท่านที่สามารถนามาใช้เทคโนโลยี การศึกษาไดเ้ ปน็ อย่างดี เช่น เฟรอเบล (Froebel) ผใู้ ช้จิตวิทยาในการสอนเดก็ และเปน็ ผู้ตงั้ โรงเรียนอนุบาลขึ้น เปน็ แห่งแรก ดิวอ้ี (Dewey) ผู้คิดทฤษฎีการวางเงื่อนไขในเชิงปฏิบตั ิ นกั เทคโนโลยีการศกึ ษา นักจติ วทิ ยา และ นักวทิ ยาศาสตร์ เหลา่ นีเ้ ปน็ ผ้นู าหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในเทคโนโลยกี ารศึกษาล้วนมีส่วนช่วย ในการพฒั นาเทคโนโลยีการศกึ ษาทั้งส้ิน เทคโนโลยีการศึกษาเร่ิมมีส่วนเก่ียวข้องกับการศึกษาตั้งแต่มีระบบการสอนเกิดข้ึนในโลก ในรูปของ โสตทัศนศึกษา ซ่ึงมีวิวัฒนาการโดยศึกษาตามแนวผู้นาทางการศึกษาของโลก มาตั้งแต่ประมาณ 500 ปีก่อน คริสตกาล ได้แก่ นักปราชญ์ชาวกรีก ช่ือ โซเครทิส (Socrattes) ได้สร้างแนวการสอนแบบสอบถาม โดยใช้ คาถามทีส่ ัมพนั ธ์กับประสบการณ์เดมิ ของผูเ้ รียน เช่ือว่าเมอ่ื ผเู้ รยี นตอบคาถาม ได้หมดการเรียนรูก้ ็จะเกดิ ขึ้น ในศตวรรษที่17 โคมินิอุส (Comenius) พระสังฆราชแห่งโบราเวีย เยอรมัน ได้เสนอแนวความคิด เกี่ยวกับวิธีสอนแบบใหม่ที่ใช้วิธีเลียนแบบธรรมชาติ การสอนต้องให้เหมาะสมกับวัยคานงึ ถึงความสนใจ และ ความสามารถของผู้เรียน สอนจากสงิ่ ที่ง่ายไปหายาก สอนในส่งิ ทเ่ี กิดประโยชน์ต่อชวี ิต ให้ผู้เรยี นได้ศึกษาจาก ของจริง ไม่ลงโทษผู้เรียน ห้องเรียนต้องมีบรรยากาศท่ีดี โคมินิอุสได้เขียนหนังสือ ชื่อ The Great Didactic (วิธสี อนอนั ยงิ่ ใหญ)่ เปน็ หนังสอื ที่แสดงการสอนทกุ ขน้ั ตอน นอกจากนโี้ คมินิอสุ ไดแ้ ต่งหนงั สอื ท่ีเป็นสื่อการสอนท่ีมชี อ่ื เสยี งมาก ช่อื The Orbis Pictus หรือโลก ในรูปภาพ เป็นหนังสือท่ีมีรปู ภาพระกอบอย่างสมบูรณ์เล่มแรกของโลก มีผู้แปลเป็นภาษาต่างประเทศหลาย ภาษาและนาแนวคิดของเขาไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการสอนในหลายประเทศ จึงได้รับการยกย่องว่า เป็นบิดาของวิชาเทคโนโลยี จากพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษา นับว่ามีกระบวนการเปล่ียนแปลงท่ีช้ามาก โดยเริ่มต้ังแต่ต้น คริสต์ศตวรรษท่ี19 เปน็ ตน้ มา และเร่ิมมีพัฒนาการเกิดขน้ึ อย่างจรงิ จังภายหลังจากสงครามโลกครง้ั ทีส่ องสนิ้ สุดลง สาหรับเร่ืองนี้ ศาสตราจารย์ หลุยส์ เอลตัน (Professor Lewi Elton) ได้กล่าวถึงภาพรวมในเร่ือง พฒั นาการของเทคโนโลยีการศึกษาว่า เทคโนโลยกี ารศกึ ษามีพฒั นาการทีส่ ามารถแบง่ เป็นขอบเขตกว้างๆ ได้ 3 เรื่องคือ การศึกษามวลชน (Mass Learning) การศึกษารายบุคคล (Individualized Learning) และ การศึกษาเป็นกลมุ่ (Group Learning) ซ่ึงพัฒนาการของเทคโนโลยีการศกึ ษามรี ายละเอียดในแต่ละขอบเขต ดงั นี้
9 ภาพท่ี 2 โคมินิอุส ภาพท่ี 3 ศาสตราจารย์ หลยุ ส์ เอลตัน 1.1 การศึกษามวลชน เริ่มมีขึ้นต้ังแต่ระยะหลังสงครามโลกคร้ังท่ีสองเป็นต้นมาพัฒนาการ ทางดา้ นสื่ออปุ กรณน์ าไปสู่ความคิดที่ว่าการให้การศึกษาอบรมแกม่ วลชนจานวนมากนนั้ สามารถทาได้โดยผ่าน สอื่ อุปกรณต์ ่าง ๆ เหล่านี้โดยไม่จาเปน็ ต้องมีการเพม่ิ จานวนครผู ้สู อน อยา่ งไรกต็ ามการสอนระบบนี้ จะใชไ้ ม่ได้ ผลดีมากนักในดา้ นคณุ ภาพและการสอนใหผ้ เู้ รยี นเกิดความชานาญในทักษะตา่ ง ๆ 1.2 การศกึ ษารายบุคคล เปน็ การนาเอาหลักการทฤษฎีจิตวิทยาด้านพฤติกรรมศาสตร์มาใช้ ใน ระยะเรม่ิ แรก คือ เป็นพัฒนาการของการสอนแบบโปรแกรม ส่ิงสาคัญท่ีก่อให้เกดิ การตอบสนองออกมา และ ตอ้ งมกี ารใหผ้ ลปอ้ นกลบั ทนั ทีเ่ พื่อใหก้ ารเสริมแรงแกผ่ ู้เรียน การใชส้ อ่ื การสอนของพฒั นาการในชว่ งระยะเวลา ของการศึกษารายบุคคลน้ีจะเนน้ ไปทางด้านวัสดุการเรียนการสอนโดยในระยะเร่ิมต้นของการใช้บทเรียนแบบ โปรแกรมได้มีการใช้เคร่ืองช่วยสอน (Teaching Machine) เป็นสื่อเพื่อบรรจุบทเรียน ในระยะต่อมาวัสดุ การศกึ ษาได้รับการพัฒนาขึ้นในรูปของการใช้ส่อื วัสดเุ หล่าน้ีในลักษณะของส่อื ประสม 1.3 การศึกษาเป็นกลุ่ม เกิดขึ้นเน่ืองจากพบว่าในการศึกษาดังกล่าวมีข้อจากัดหรือข้อบกพร่อง อยู่หลายประการ ท้ังนี้เพราะวา่ การเรยี นด้วยตนเองตามลาพงั นน้ั จะทาใหผ้ ู้เรียนไมม่ ีความสัมพนั ธ์กบั คนอืน่ ๆ ทาให้ขาดทักษะในการรวมกลุ่ม เช่น เม่ือมีการรวมกลุ่มอภิปราย หรือเมื่อมีการทางานร่วมกับผู้อ่ืนจะทาให้ เปน็ ไปด้วยความยากลาบาก ดงั นัน้ ทกั ษะการเรยี นเป็นกลุม่ จงึ ได้เข้ามามีบทบาทสาคัญในเทคโนโลยกี ารศึกษา โดยยึดหลักทฤษฎีพัฒนาการของนักจิตวิทยาด้านมนษุ ยสัมพันธ์ และการเรียนรู้ซ่ึงกันและกันในลักษณะของ กลุ่มย่อย โดยให้คนในกลุ่มมีปฏิสัมพันธ์กัน โดยไม่จาเป็นต้องอาศัยส่ือประเภทวัสดุหรืออุปกรณ์แต่อย่างใด เพียงแต่เน้นถึงการใช้เทคนคิ วธิ ีการต่างๆ เข้าช่วยในการเรียนการสอน เช่น การศึกษากรณีตัวอย่าง เกม และ การจาลองเป็นต้น นอกจากพัฒนาการต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังได้มีการค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาทางด้านวัสดุอุปกรณ์ และเทคนิควธิ กี ารสอนแบบต่างๆ เพมิ่ มากข้ึน เชน่ หอ้ งเรยี นแบบศนู ย์การเรยี นการศกึ ษาทางไกล ฯลฯ การนา คอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียนการสอนในรูปแบบของบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน นอกจากนี้วงการธรุ กิจ และอุตสาหกรรมยังมีบทบาทสาคัญในพัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษาเน่ืองจากองค์การธุรกิจและ อุตสาหกรรมมีการประดิษฐ์คิดค้นสื่อใหม่ๆ ขึ้นมาใช้ เช่น เส้นใยนาแสง ซีดีรอม และแผ่นวิดีทัศน์ การส่ง สัญญาณผ่านดาวเทียม เป็นต้น และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสามารถนามาดัดแปลงเพ่ือใช้ในวัตถุประสงค์ของ
10 การศกึ ษาไดเ้ ป็นอย่างดี สง่ิ เหลา่ นีน้ ับเปน็ พฒั นาการกา้ วไกลของเทคโนโลยกี ารศกึ ษา ท่สี ามารถประยกุ ต์ใช้ส่ิง ทป่ี ระดษิ ฐ์คดิ ค้นในยคุ สารสนเทศมาใช้ในวงการศึกษาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพและประสิทธิผลยงิ่ (กดิ านันท์ มลิ ทอง. 2540 : 11-16) 2. พฒั นาการของเทคโนโลยกี ารศกึ ษาในประเทศไทย ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยที างการศึกษาของ ประเทศไทย ได้รับอิทธิพลจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป เพราะนักการศึกษาของไทยได้ไปศึกษาในประเทศ เหล่าน้ี และได้นาเอาความรู้มาประยุกต์ใช้ บางคร้ังได้รับมาในรูปความช่วยเหลือจากต่างประเทศ โดย ให้ ผ้เู ช่ยี วชาญ วัสดุ อุปกรณ์ และเครือ่ งมอื ทาใหง้ านด้านโสตทศั นศกึ ษาของไทยเจริญเตบิ โตข้นึ เป็นลาดบั ดงั น้ี ตงั้ แต่ พ.ศ. 2483 ได้ก่อต้งั แผนกโสดทัศนศึกษาขน้ึ เปน็ ครั้งแรกในกองการศกึ ษาผู้ใหญ่ พ.ศ. 2490 ได้จัดตง้ั แผนกโสดทศั นศึกษาคะ่ ขนึ้ ทก่ี รมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ โดยสหรัฐอเมริกา ให้ความชว่ ยเหลือสนับสนุน วัสดุ อุปกรณ์ และเครือ่ งมอื พ.ศ. 2492 กระทรวงศึกษาธิการได้เริ่มงานวิทยุกระจายเสียงเพื่อผลิตรายการทางการศึกษาและใน พ.ศ. 2496 จัดต้ังสถานวี ทิ ยศุ ึกษาทีว่ ิทยาลยั เทคนิคกรงุ เทพ พ.ศ. 2497 วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยอินเดียน่า ส่ง ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยงานโสตทัศนะศึกษา เพ่ือบริการโสดทัศนูปกรณ์แก่อาจารย์และได้เปิดสอนวิชาเทคโนโลยี การศกึ ษาเปน็ คร้ังแรก พ.ศ. 2498 วิทยาลัยเทคนิคทุ่งมหาเมฆได้จัดตั้งศูนย์โสตทัศนศึกษา บริการวัสดุ อุปกรณ์ทางการ ศึกษาใหแ้ กค่ ณาจารย์ พ.ศ. 2500 คณะครศุ าสตรจ์ ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไดจ้ ัดตั้งศนู ย์โสต ทัศนศึกษาขึ้น เพ่ือให้บริการแก่คณาจารย์ในสถาบันและในปีเดียวกันนี้กระทรวงศึกษาธิการได้เริ่มงานวิทยุ โรงเรียน โดยส่งออกอากาศทางสถานีวิทยุศึกษาซง่ึ มีรัศมีกระจายเสียง 22 จังหวัดไปสู่โรงเรยี น 286 โรงเรยี น เปน็ โรงเรยี นประถมศกึ ษา 220 โรงเรียนและมธั ยมศึกษา 66 โรงเรียน พ.ศ. 2514 มหาวิทยาลัยรามคาแหงเปิดใช้โทรทัศน์วงจรปิดเพ่ือการเรียนการสอนอย่างแท้จริงเป็น แห่งแรกของประเทศไทย พ.ศ. 2521 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรกของประเทศไทยท่ีใช้ ระบบการเรียนการสอนเพ่ือเพ่ิมโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนของประเทศ สื่อที่ใช้มากที่สุด คือ วิทยุ โทรทัศน์ เทป เอกสารประกอบการเรียนทางไปรษณยี ์ ด้านการเผยแพร่ความรู้และงานทางด้านเทคโนโลยีการศึกษาปัจจุบันมีการสอนให้ความรู้ทางด้าน เทคโนโลยีการศึกษาท้ังในวิชาเอก วิชาโท เทคโนโลยีการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรี โท เอก ในหลายสถาบัน นอกจากโรงเรียนตา่ งๆ ไมว่ ่าจะเป็นระดับประถมศกึ ษา มัธยมศึกษา ได้จัดตัง้ โสตทัศนศกึ ษาข้ึน เพ่อื ใหบ้ ริการ แกน่ ักเรยี น (กดิ านันท์ มลิทอง. 2540 : 18-19) 3. แนวโน้มของเทคโนโลยีการส่ือสารในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ในปัจจุบันความก้าวหน้าทางด้าน การส่ือสาร โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญทาให้โลก “ไร้พรมแดน” คนในโลกมีการ ติดต่อส่ือสารกันอย่างรวดเร็ว และมีวิถีชีวิตเปล่ียนไปตาม “กระแสโลกาภิวัตน์” ความเจริญทางเทคโนโลยี
11 สารสนเทศแพรห่ ลายมากขน้ึ ทาให้มผี ลต่อการพฒั นาสภาพเศรษฐกิจ การเมือง สงั คม วัฒนธรรมของประเทศ ต่างๆ ในโลกด้วยในด้านการศึกษา ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ มีผลให้เกิดการพัฒนาการ ด้านการศึกษา ดงั น้ี 3.1 วงการศึกษาจะนาเคร่ืองมือ วัสดุ อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ มาใช้ในวงการศึกษามาก ข้ึน เพราะส่ือเครื่องมือเหล่าน้ีได้รับการพัฒนาให้มีขนาดเล็กลง เหมาะที่จะนามาใช้ ราคาก็ถูกลง แต่ ประสทิ ธิภาพสูงขึน้ 3.2 สอ่ื ต่างๆจะมีการใชป้ ระสมประสานกันในลกั ษณะสอ่ื ประสม 3.3 คอมพวิ เตอร์จะเข้าไปมบี ทบาทในสอื่ ทุกชนดิ 3.4 เครือข่ายคอมพวิ เตอร์จะเขา้ มามบี ทบาทต่อการศกึ ษา 3.5 เทคโนโลยกี ารศกึ ษาจะเข้ามามีบทบาทอย่างยง่ิ ในการจัดการศึกษา ทัง้ ในการจดั การศึกษา ในระบบโรงเรียน นอกระบบการศกึ ษาสาหรับผู้ดอ้ ยโอกาสทางการศกึ ษา และการศึกษาของประชาชนทั่วไป 3.6 บทบาทของครูจะเปล่ียนไป เป็นการจัดประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียนด้วยการนาเสนอโดยใช้ อุปกรณ์ท่ีทันสมัย บทบาทของครูจึงเป็นเสมือนที่ปรึกษาทาหน้าที่ช่วยแก้ปัญหาการเรียน การแนะนาเป็น ส่วนตัวจะมีมากขึน้ ครจู ะตอ้ งมีข้อมูลการสอนจากภายนอกให้มาก และจะมกี ารสอนผ่านคอมพิวเตอรม์ ากขึ้น (ยืน ภูว่ รวรรณ และสมชาย นาประเสริฐชัย. 2546 : 20-24) 3.7 มีการนานวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในวงการศึกษา เช่น นาระบบประชุมทางไกล เค้ามาใช้ใน การบริหารการศึกษา ในด้านการสอนจะมีการนาระบบไฮเปอร์เท็กซ์ ระบบอินเตอร์เน็ต การใช้ฐานข้อมูล เครือขา่ ยใยแมงมุม 3.8 มีการเปล่ียนแปลงในวิธีการเรียน คือ ผู้เรียนจะได้เรยี นเมื่อมีความต้องการเรียน เป็นการ เรียนรดู้ ว้ ยตนเองมากข้ึน เพราะมแี หลง่ การเรยี นรมู้ ากมาย และจะเป็นการเรียนรตู้ ลอดชวี ิต 3.9 สภาพการเรียนการสอนท่ีครูอธบิ ายอยู่หน้าชั้นเรียนจะหมดไป ครูอาจจะเป็นเพียงผู้กล่าว นาบทเรียนหรือแนะนา แหล่งท่ีให้การศึกษาเบ้ืองตน้ เท่านั้น หลังจากนั้นจะเป็นท่ีปรึกษาของนกั เรยี น สรุปวา่ การศกึ ษาในอนาคตจะเปลยี่ นแปลงดงั น้ี 1) จัดการศึกษาในระบบน้อยลง 2) คา่ ใชจ้ ่ายจะต้องถูกลง 3) สอนเร่ืองท่ีไม่เป็นประโยชนน์ อ้ ยลง 4) สอนเป็นรายบคุ คลมากขน้ึ 5) สอนในเร่ืองท่เี หน็ จรงิ เหน็ จังมากขึ้น 6) สอนเรื่องเกีย่ วกับมนษุ ยธรรมมากข้ึน 7) บทเรียนสนุกสนานมากขึ้น 8) เปน็ การเรยี นตลอดชีพ
12 ประโยชนข์ องนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศกึ ษา ประโยชน์ของนวัตกรรมการศึกษา 1. เพม่ิ ประสิทธภิ าพการเรยี นการสอน 2. สนับสนุนการเรยี นการสอน 3. เกดิ เครอื ข่ายความรู้ 4. เนน้ การเรยี นแบบผูเ้ รยี นเปน็ ศูนยก์ ลาง ตรงตามหัวใจของการปฏริ ูปการศกึ ษา 5. ช่วยใหผ้ ู้เรียนเรียนรไู้ ดเ้ รว็ ขน้ึ 6. สร้างบรรยากาศการเรยี นรู้สนุกสนาน 7. ช่วยลดเวลาในการสอน 8. เป็นเคร่ืองอานวยความสะดวกใหค้ รูสอนเนื้อหาให้นักเรียนเข้าใจงา่ ยขึ้น 9. เป็นเครื่องช่วยร่นเวลาการสอนให้สัน้ ลง 10. ชว่ ยใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจง่ายขน้ึ 11. ช่วยทาเรื่องท่เี ปน็ นามธรรมใหเ้ ปน็ รปู ธรรม 12. ชว่ ยทาเร่อื งยากให้เปน็ ง่าย 13. ช่วยกระตุ้น และเร้าความสนใจให้กับนักเรยี นมากข้นึ 14. ชว่ ยให้การเรียนเนอื้ หาง่ายขึ้น 15. นักเรียนประสบความสาเร็จจากการเรียนมากขนึ้ 16. ช่วยให้นกั เรียนไม่เบื่อในการเรียน 17. ช่วยให้นักเรียนมีทัศนคติท่ีดตี อ่ การเรยี น 18. เปน็ เครอ่ื งยนื ยันถึงการพฒั นาตนเองของครู 19. เปน็ เกราะกาบังตนเองของครูได้อย่างดี 20. เป็นตวั ชี้วดั ถึงคุณภาพของครไู ด้เปน็ อย่างดี
13 ประโยชน์ของเทคโนโลยีการศึกษา เมอ่ื กล่าวถงึ ประโยชน์ของเทคโนโลยกี ารศึกษา สามารถแบง่ ออกได้เปน็ ด้าน ๆ ดงั น้ี 1. ประโยชนส์ าหรบั ผ้เู รยี น ผู้เรยี นจะได้รับประโยชน์ดังนี้ - ทาใหผ้ ู้เรยี นมโี อกาสใช้ความสามารถของตนเองในการเรยี นรู้อยา่ งเตม็ ท่ี - ผูเ้ รยี นมีโอกาสตัดสนิ ใจในการเลอื กเรยี นตามช่องทางทเี่ หมาะกบั ความสามารถของตนเอง - ทาให้กระบวนการเรยี นรงู้ า่ ยขึ้น - ผู้เรียนมีอสิ ระในการเลือก - ผเู้ รยี นสามารถเรยี นรใู้ นทุกเวลา ทกุ สถานที่ - ทาให้การเรียนมปี ระสิทธิภาพมากข้ึน - ลดเวลาในการเรยี นรแู้ ละผูเ้ รียนสามารถเรยี นรไู้ ด้มากกว่าเดิมในเวลาเท่ากัน - ทาใหผ้ เู้ รียนสามารถเรยี นรู้ได้ท้งั ในแนวกวา้ งและแนวลึก - ช่วยให้ผูเ้ รยี นรู้จกั เสาะหาแหลง่ การเรยี นรู้ - ฝกึ ให้ผ้เู รยี น คิดเปน็ และสามารถแกป้ ัญหาดว้ ยตนเองได้ 2. ประโยชนส์ าหรบั ผู้สอน ผูส้ อนจะได้ประโยชนด์ ังนี้ - ทาใหป้ ระสทิ ธภิ าพของการสอนสูงข้ึน - ผู้สอนสามารถจัดกิจกรรมได้หลากหลาย - ทาให้ผู้สอนมีเวลามากข้ึน จงึ ใช้เวลาที่เหลอื ในการเตรยี มการสอนไดเ้ ต็มท่ี - ทาให้กระบวนการสอนง่ายข้นึ - ลดเวลาในการสอนน้อยลง - สามารถเพม่ิ เน้ือหาและจุดม่งุ หมายในการสอนมากขนึ้ - ผู้สอนไมต่ อ้ งใชเ้ วลาสอนท้ังหมดอยู่ในชน้ั เรยี นเพราะบทบาทสว่ นหนงึ่ ผ้เู รยี นทาเอง - ผู้สอนสามารถแก้ปัญหาความไม่ถนดั ของตนเองได้ - ผู้สอนสามารถสอนผเู้ รียนได้เนอื้ หาที่กวา้ งและลึกซึ้งกว่าเดิม - งา่ ยในการประเมนิ เพราะการใชเ้ ทคโนโลยี มุ่งให้ผูเ้ รียนประเมินตนเองดว้ ย 3. ประโยชนต์ ่อการจัดการศกึ ษา ในแง่ของการจดั การศกึ ษาจะไดร้ บั ประโยชน์ดงั น้ี - สามารถเปดิ โอกาสของการเรียนรูไ้ ด้อย่างแทจ้ รงิ - ทาให้ลดช่องวา่ งทางการศึกษาให้นอ้ ยลง - สามารถสรา้ งผู้เรียนที่มปี ระสิทธิภาพมากกวา่ เดิม - ทาให้การจดั การและการบรหิ ารเปน็ ระบบมากข้ึน - ทาใหล้ ดการใชง้ บประมาณและสามารถใชง้ บประมาณทม่ี อี ยู่ให้คุ้มค่า - สามารถแกป้ ญั หาทางการศึกษาได้หลายประการ
ง บรรณานกุ รม ชนนิ ทร์ ฐิตเิ พชรกลุ ทิพดุ า คดิ เลิศ และเอื้ออารี จันทร. (2565). เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ านวตั กรรม และเทคโนโลยีดิจทิ ัลเพือ่ การเรยี นรูอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์. (ม.ป.ท). ณีรนุช หม่นื แกว้ . (ม.ป.ป.). นวัตกรรมเทคโนโลยีดจิ ิทัลเพ่อื การเรียนร.ู้ (ม.ป.ท.). สดุ ารัตน์ ศรมี า. (2565). นวัตกรรมและเทคโนโลยดี จิ ทิ ัลเพ่อื การศึกษา. (ม.ป.ท). กติ ติ สีสัน. (2555). ประโยชน์ของเทคโนโลยกี ารศึกษา. สืบค้น 18 สิงหาคม 2566, จาก https://shorturl.asia/HwFXL จุฑามาศ พรมลารกั ษ์ ดาริกาพร ศรมี ะเริง และ สุจิตรา ธีระวานิชย.์ (2558). ความสาคัญของเทคโนโลยี การศกึ ษา. สืบค้น 18 สงิ หาคม 2566, จาก https://shorturl.asia/BxVm1 ชนาธิป แก้วบ้านดอน. (2557). นวัตกรรมทางการศกึ ษาท่ีสาคัญของไทยในปัจจุบัน. สืบคน้ 18 สงิ หาคม 2566, จาก https://www.gotoknow.org/posts/560469 สภุ าภรณ์ บวั อาไพ. (2554). ประเภทของเทคโนโลยที างการศึกษา. สืบค้น 18 สิงหาคม 2566, จาก https://shorturl.asia/AaLUe Ailin. (2559). นวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศกึ ษา. สืบคน้ 18 สิงหาคม 2566, จาก https://shorturl.asia/CyVdF
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: