21 บัตรความรู หนวยที่ 4 ตวั รับรู บทนํา ตวั รับรูหรอื ทเี่ รียกวา Sensor อยูใน ระบบปอ นขอ มูลเขา เครือ่ งยนต มคี วามสําคัญเปนอยางย่ิง เพือ่ ใหการทาํ งานเครือ่ งยนต เปน ไปอยางสมบูรณ หากเกิดตัวรับรู ตัวใดตัวหนึ่งท่ีมีความบกพรอง จะ สง ผลตอ การทาํ งานของเคร่ืองยนต ทําใหเ ครอ่ื งยนตท าํ งานไดไมเตม็ ประสิทธิภาพ หรือแมกระทั่งหยุด การทํางานไป การเรียนรูและการตรวจสอบวิเคราะหปญหาท่ีเกิดในระบบไดอยางถูกตองและแมนยํา เปนการสรางมาตรฐานในการซอมใหผูเรียนไดเกอดประสบการณจริงและนําไปใชในการประกอบ อาชพี ไดม ปี ระสทิ ธิภาพ มเี นอ้ื หาในการศกึ ษาดังนี้ 1. ตัวรับรูอ ณุ หภูมนิ า้ํ 2. ตวั รบั รวู ัดปรมิ าณออกซิเจน 3. ตวั รบั รตู าํ แหนงเพลาขอ เหวี่ยง และตวั รับรตู ําแหนง เพลาลกู เบีย้ ว 4. ตัวรับรกู ารนอ็ คของเครอื่ งยนต 5. วาลวควบคุมไอเสีย 6. วาลวควบคมุ น้าํ มนั ไทมม ง่ิ เพลาลกู เบีย้ ว 1 ตัวรบั รูอณุ หภมู ิน้ํา .(Engine Coolant Temp Sensor-ECT) ตัวรับรูอุณหภูมิน้ํา จะตรวจจับอุณหภูมินํ้าหลอเย็น โดยการเปล่ียนคาความตานทานของตัว รบั รูตามอณุ หภมู ิของน้ําหลอเย็น (เทอรมิสเตอร) อุณหภูมินํ้าหลอเย็นยิ่งสูงคาความตานทานจะยิ่งตํ่า แลวสงสัญญาณไปให ECM เพ่ือเพิ่มระยะเวลาในการฉีดน้ํามันเชื้อเพลิงในขณะท่ี เคร่ืองยนตมี อุณหภูมิตํ่าเพื่อใหสวนผสมหนาขึ้นทําใหเครื่องยนตติดงาย เมื่ออุณหภูมิน้ําหลอเย็นสูงประมาณ 75 องศาเซลเซียส ระยะเวลาในการฉีดนํ้ามันเช้ือเพลิงจะปรับเขาสูปกติ อีกทั้งใชควบคุมพัดลมระบาย ความรอ นหมอ นํ้า เม่อื อณุ หภมู ิของนํ้าหลอ เย็น สูงประมาณ 95 องศาเซลเซียส ECM จะทําการสั่งงาน ใหพัดลมไฟฟาระบายความรอนหมอนํ้า ตัวรับรูนี้จะติดตั้งไวบริเวณปากทางออกของนํ้าหลอเย็นท่ี ตวั เครอ่ื งยนต
22 ภาพที่ 4-2 ตัวรับรอู ณุ หภมู ินํา้ 1.1 วงจรไฟฟา ควบคุม ตวั รบั รอู ณุ หภูมินาํ้ การควบคุม มีสายไฟเขาเพียง 2 ข้ัว คือ E2 กับ THW โดยท่ี E2 คือกราวดของตัวรับรู สวน THW จะตอ ไปยงั ขว้ั THW ของ ECM ภาพที่ 4-3 โครงสรา งวงจรไฟฟา ควบคมุ ตวั รบั รอู ุณหภูมิน้าํ ท่มี า : คมู ือการซอมเครอื่ งยนตแ กส โซลีน บรษิ ัท โตโยตา จาํ กัด ตัวรับรอู ณุ หภมู นิ ้ําหลอ เยน็ เคร่อื งยนต (ECT) มีเทอรม สิ เตอรพรอ มความตานทานท่ีแตกตางกัน ไปตามอณุ หภูมิของน้ําหลอเย็นเครื่องยนต เมื่ออุณหภูมินํ้าหลอเย็นตํ่าความตานทานในเทอรมิสเตอร จะเพ่ิมข้ึน เม่ืออุณหภูมิสูงขึ้นความตานทานลดลง ความแปรผันของความตานทานเหลานี้สะทอน ออกมาในแรงดนั เอาตพุตจากตวั รับรEู CM ตรวจสอบแรงดนั ตวั รบั รูและใชค า นีเ้ พือ่ คํานวณ ECT
23 ภาพท่ี 4-4 วงจรควบคมุ ตวั รบั รอู ณุ หภมู ินาํ้ ท่มี า : คมู อื การซอมเครอ่ื งยนตแ กสโซลีน บริษัท โตโยตา จาํ กัด
24 ตารางที่ 4-1 ขัว้ ตอ ECM ท่ีมา : ปรชี า เจียงจันทร (2560) 2AZ-FE , Camry 2005 (ACV30) E6 (A) E7 (B) 1 - +B (B/R) 1 - TACH (B/O) 2 - +B (B/R) 2- 3 - BATT (B/Y) 3 - ELS3 (B/Y) 4 - IAC- (G/W) , Intake Air Control 4 - STP (G/W) Valve 5 - HT1C (L) 5 - CCV (L) , VSV Canister Close 6 - ODMS (G/O) Valve 7 - ODLP (O) 6 - IAC+ (G/B) , Intake Air Control 8 - SPD (V/W) Valve 9 - L (L/B) 7 - +BM (L/R) 10 - 2 (Y) 8 - MREL (B/W) 11 - R (R/B) 9 - IGSW (B/O) 12 10 13 - SIL (W) 11 14 - THWO (Y/G) 12 - STA (B/W) 15 - IMO (L/B)
25 ตารางที่ 4-1 (ตอ) E7 (B) E6 (A) 16 - IMI (R/L) 17 - TC (P/B) 13 14 - FANH (W/L) 18 15 - ELS1 (G) 19 - 3 (L/W) 20 16 - ST1- (R/B) 21 - D (W/L) 17 22 23 18 - VPA (L/Y) 24 - AC1 (Y/B) 25 - ACT (Y/R) 19 - VPA2 (W/R) 26 20 - EPA (LG/B) 27 - OX1C (B) 21 - EPA2 (LG) 28 22 - EC (W/B) 29 - 23 30 - W (G/R) 24 - 31 - 25 - FC (G/R) 32 - F/PS (L) , SRS System 26 - VCPA (R) 33 - CAN H (R) 27 - VCP2 (B/R) 34 - CAN L (W) 28 35 - WFSE (R) 29 - EOM (BR) 30 - NSW (B/Y) 31 - PTNK (P) , Vapor Pressure Sen.
26 ตารางท่ี 4-1 (ตอ ) E9 (D) E10 (E) 1 - #40 (W) 1 - HA1A (B/R) 2 - #30 (Y) 2 - HT1B (L) 3 - ME01 (W/B) 3 - E1 (BR) 4 - E03 (W/B) 4 - M- (W) 5 - #20 (R) 5 - M+ (B) 6 - #10 (L) 6 - E02 (W/B) 7 - E04 (W/B) 7 - E01 (W/B) 8 - S4 (L) 8 9 - DSL (Y) 9 10 - SL1- (P) 10 11 - SL1+ (R/B) 11 12 - SLT+ (Y/R) 12 - OC1- (Y) 13 - SLT- (Y/B) 13 - OC1+ (B/W) 14 - SL2+ (L/Y) 14 - IGT4 (L/Y) 15 - SL2- (L/R) 15 - IGT3 (LG/B) 16 - SL3+ (G/B) 16 - IGT2 (P) 17 - SL3- (G/R) 17 - IGT1 (R/W) 18 18 - VC (Y) 19 - SR (GR) 19 - VTA2 (B/R) 20 20 - VTA1 (LG) 21 21 - A1A+ (O)
ตารางท่ี 4-1 (ตอ) 27 E9 (D) E10 (E) 22 22 - IACA (G) , Intake Air Control 23 - PRG (B/R) , VSV Evap Valve 24 - THO1 (G) 23 - IGF1 (W/R) 25 24 - 26 - NC- (G) 25 - OX1B (BR) 27 - NT- (LG) 26 - G2+ (L) 28 - VG (R) 27 - NE+ (R) 29 - THA (L/B) 28 - E2 (BR) 30 - E2G (L/W) 29 - KNK1 (W) 31 - 30 - EKNK (B) 32 - PSST (R/W) 31 - A1A- (W) 33 32 - THW (G/Y) 34 - NC+ (R) 33 35 - NT+ (L) 34 - NE- (G)
28 ตารางท่ี 2-1 (ตอ) A/T Solenoid (2AZ-FE) 2. ตัวรับรูวดั ปรมิ าณออกซเิ จน (Oxygen Sensor หรอื Lambda Sensor) ตวั รบั รวู ัดปรมิ าณออกซิเจนในกา ซไอเสีย มรี ูปทรงคลายกับหัวเทียน ทําหนาท่ีตรวจวัดปริมาณ ออกซิเจนในกาซไอเสียแลวสง สญั ญาณกลบั ไปให ECM เพอ่ื ให ECM รูสภาวะอัตราสวนผสมนํ้ามันกับ อากาศ ( Air / Fuel Ratio ) วาหนาหรือบางเกินไปหรือไม เพื่อควบคุมอัตราสวนผสมระหวางอากาศ กับน้ํามันเชื้อเพลิงใหเหมาะสม ลดมลพิษทางอากาศ และทําใหแคตตาไลทติคคอนเวอรเตอร ทํา หนาทไ่ี ดส มบรู ณ ปจจบุ ัน ตวั รับรวู ัดปรมิ าณออกซเิ จนมี2ชนดิ คอื 2.1 O2 sensor 2.1.1 Narrowband Lambda sensor สามารถระบุไดวามีสารผสมสามชนิดในกาซไอเสีย เทาน้ัน ตรวจจับสวนผสมทั้ง หนา Rich, หรือ บาง Lean ไมสามารถใหขอมูลเกี่ยวกับความเขมขน หรือสวนผสมของไอเสียที่มีตอหนวยควบคุมเคร่ืองยนต (ECM) ในขณะท่ีสวนผสมบาง ปริมาณ ออกซเิ จนในไอเสยี จะมีมาก ตวั ออกซิเจนเซ็นเซอรจะสง แรงดันไฟฟาสูงไปให ECM ในขณะท่ีสวนผสม หนา ปริมาณออกซิเจนในกาซไอเสียจะมีคานอย ตัวออกซิเจนเซ็นเซอรจะสงแรงดันไฟฟาต่ําไปให ECM ตัวรับรูแบบนี้สรางแรงดันเอาตพุต DC ระหวาง 0.2V ถึง 0.8V โดยท่ีคาตํ่ากวาหมายถึง สวนผสมบางลงและคาที่สูงกวาหมายถึงสวนผสมที่หนาข้ึนจะถูกติดต้ังไวท่ีหลังแคตตาไลทติคคอน เวอรเ ตอร
29 2.1.2 Wideband Lambda sensor สามารถใหขอมูลเพิ่มเติมเก่ียวกับสวนผสมและ สามารถทําไดในเวลาจรงิ ตวั รับรูปริมาณออกซเิ จนนี้สามารถใหอัตราสวนอากาศตอเช้ือเพลิงท่ีแนนอน ที่ ในขณะท่ีสวนผสมบาง ปริมาณออกซิเจนในไอเสียจะมีมาก ตัวรับรู จะสงแรงดันไฟฟาตํ่าไปให ECM ในขณะทส่ี วนผสมหนา ปริมาณออกซิเจนในกาซไอเสียจะมีคานอย ตัวออกซิเจนเซ็นเซอรจะสง แรงดันไฟฟาสูงไปให ECM ตัวรับรูปริมาณออกซิเจนแบบนี้สรางแรงดันเอาตพุต ระหวาง 0.5V ถึง 4.5V และมีวงสัญญาณที่กวางกวาซ่ึงแรงดันไฟฟาต่ํากวาแสดงถึงอัตราสวนอากาศตอเชื้อเพลิงท่ีบาง ลงและแรงดันไฟฟาที่สูงกวาแสดงถึงอัตราสวนเชื้อเพลิงอากาศที่หนาข้ึน จะติดตั้งอยูหลัง แคต ตาไลทต ิคคอนเวอรเตอร ภาพท่ี 4-5 ตัวรับรูว ัดปรมิ าณออกซเิ จน ชนดิ O2 sensor
30 ภาพท่ี 4-6 คา แรงเคลื่อนวัดปริมาณออกซิเจนชนิด O2 sensor ท่มี า : https://www.discountconverter.com 2.2 Air fuel ratio sensor หรอื A/F sensor ดูคลายกบั Narrowband Lambda sensor แมว ามนั จะดูเหมอื นกัน แตมันก็ถกู สรางข้นึ แตกตางกันและมลี กั ษณะการทาํ งานท่ีแตกตางกนั เซน็ เซอร A / F เรียกอกี อยางวา เซ็นเซอรช ว งกวา งหรอื อตั ราสว นกวางเนอื่ งจากความสามารถในการ ตรวจจบั อตั ราสว นอากาศ / เช้ือเพลิงในชว งกวาง ขอดีของการใชเซน็ เซอร A / F คอื ECM สามารถ วัดการปลอยเชอื้ เพลงิ ไดอยางแมน ยํายิ่งขึ้น ในขณะท่สี ว นผสมบาง ปรมิ าณออกซเิ จนในไอเสยี จะมี มาก ตัวรบั รู จะสง แรงดนั ไฟฟาสูงไปให ECM ในขณะที่สว นผสมหนา ปริมาณออกซเิ จนในกา ซไอเสยี จะมีคา นอย ตวั ออกซิเจนเซ็นเซอรจ ะสง แรงดนั ไฟฟาต่ําไปให ECM ตวั รับรูปรมิ าณออกซิเจนแบบน้ี สรา งแรงดันเอาตพตุ ระหวา ง 2.4V ถึง 4.0V และมวี งสญั ญาณท่ีกวา งกวาซ่ึงแรงดนั ไฟฟาตาํ่ กวาแสดง ถงึ อตั ราสวนอากาศตอ เชื้อเพลิงทหี่ นาขึน้ และแรงดันไฟฟาทสี่ ูงกวา แสดงถึงอัตราสว นเช้ือเพลิงอากาศ ทบี่ างลง จะตดิ ตั้งอยูก อน แคตตาไลทตคิ คอนเวอรเตอร
31 ภาพท่ี 4-7 Air fuel ratio sensor ภาพที่ 4-8 คา แรงเคล่ือนวดั ปริมาณออกซเิ จนชนิด Air fuel ratio sensor ที่มา : https://www.discountconverter.com
32 ภาพท่ี 4-9 ตําแหนง ติดต้งั ตัวรบั รูป รมิ าณออกซเิ จน ทม่ี า : https://o2sensors.com.au ภาพท่ี 4-9 (ตอ )
33 ภาพท่ี 4-9 (ตอ ) ภาพที่ 4-9 (ตอ ) 2.3 วงจรไฟฟาควบคุมการทํางานของ ตวั รบั รูวัดปรมิ าณออกซิเจน ตัวรับรูวดั ปรมิ าณออกซิเจนมีการควบคมุ การทาํ งานของตวั รับรูวดั ปริมาณออกซิเจน มี 2 ตัว คอื ตัวกอน แคตตาไลทติคคอนเวอรเตอร เรยี กวา B1 S1 (BANK1 SENSOR1)และตวั หลัง แคต ตาไลทติคคอนเวอรเ ตอร เรียกวา B1 S2 (BANK1 SENSOR2) มี ข้วั สายไฟในการควบคุม ใชไ ฟ+
34 12Vมาจาก EFI relay มาเขาท่ี +B ของ ตวั รบั รวู ัดปริมาณออกซิเจนในขณะทีเ่ คร่ืองยนตเ ยน็ ECM จะปลอยสัญาณดานลบ เปน Duty ชดุ ทาํ ความรอ น ผานข้ัว HT1A,HT1B ในขณะทตี่ ัวรบั รูว ดั ปริมาณออกซเิ จนจะสงสญั ญาณทางไฟฟาเปน แรงเคล่ือนออกไฟ ยัง ECM ผานขว้ั OX1S,OX1B สว นขั้ว E2 ก็ตอลงกราวที่ ECM ภาพท่ี 4-10 โครงสรา งวงจรไฟฟา ควบคุม ตัวรับรูวัดปริมาณออกซเิ จน ท่ีมา : คมู ือการซอมเครื่องยนตแ กสโซลีน บริษทั โตโยตาจํากัด ภาพท่ี 4-10 (ตอ )
35 ภาพท่ี 4-11 วงจรไฟฟา ควบคมุ ตัวรับรวู ัดปรมิ าณออกซเิ จน ทีม่ า : คูมอื การซอมเคร่อื งยนตแกส โซลนี บรษิ ัท โตโยตาจํากัด
36 ภาพที่ 4-11 (ตอ)
37 ภาพที่ 4-11 (ตอ)
38 3. ตัวรบั รูมมุ มุมเพลาขอเหวย่ี ง และตัวรับรูมมุ เพลาตาํ แหนงเพลาลูกเบย้ี ว ตวั รับรมู ุมมุมเพลาขอเหว่ยี ง ทําหนา ท่ีสงสัญญาณ ตาํ แหนงของลูกสูบและเพลาขอเหวยี่ ง รวมทั้งความเรว็ รอบเคร่ืองยนต ไปให ECU เพื่อกําหนดปริมาณการฉีดนํา้ มันเชื้อเพลิง จังหวะเวลาใน การฉดี และควบคมุ การจุดระเบดิ (Ignition Power Distribution Control) มีดว ยกนั 3 แบบ (แตกตา งกนั ตามบริษัทผูผ ลติ ) คือ 3.1 G Signal และ NE Signal (ตดิ ต้งั อยใู นจานจา ย) เครื่องยนตที่ผลิตหลงั ป 2000 ยกเลิก การใชงาน ไทม่ิงโรเตอร ขดลวดกาํ เนดิ สญั ญาณ แมเหลก็ ถาวร ภาพที่ 4-12 สวนประกอบของชดุ กําเนิดสญั ญาณ G Signal และ NE Signal 3.2 G Signal ใชต รวจจับตาํ แหนง ของเพลาลูกเบยี้ ว สงไปให ECM ใชก าํ หนดจังหวะเวลา ฉีดน้ํามันเช้ือเพลิงและจุดระเบิด ภาพท่ี 4-13 G Signal ใชตรวจจับตาํ แหนงของเพลาราวล้ิน
39 3..3 NE Signal ใชต รวจจบั ตาํ แหนงเพลาขอเหวย่ี ง แลว สง ให ECM เพอื่ ใชก ําหนดเวลาใน การฉีดพื้นฐาน (Basic Injection Time) และควบคมุ การจุดระเบดิ ลวงหนาพื้นฐาน(Basic Ignition Advance Angle Control) ภาพท่ี 4-14 NE Signal ใชต รวจจบั ตาํ แหนงเพลาขอเหว่ียง 3.4 วงจรไฟฟา ควบคุมการทํางานของ ตวั รับรูมุมมุมเพลาขอเหวย่ี ง และตวั รับรูม มุ เพลาลกู เบ้ยี ว ตัวรบั รูตาํ แหนง เพลาขอเหวี่ยง (CKP) ประกอบดวยแผน ฟน CKP และขดลวด แผนฟนมี จาํ นวน 34 ฟน ตดิ ต้งั บนเพลาขอ เหว่ียง เมื่อแผน เฟองหมุน จะตดั กบั ขดลวดทีอ่ ยูในตัวรบั รู เกดิ สญั ญาณชีพจร 34 คร้ังตอ1รอบ เครือ่ งยนต ECMจะใชสัญญาณเหลา นี้คาํ นวณตาํ แหนงเพลาขอ เหว่ียงและรอบการหมุน ใชการคาํ นวณเวลาการฉดี เช้ือเพลิงและเวลาควบคุมการจุดระเบิด ตัวรบั รูต ําแหนง เพลาลกู เบี้ยว (CMP) ประกอบดวยแมเ หล็กและแกนเหลก็ ซึ่งหมุ ดว ยทองแดง ลวดและตดิ ตัง้ บนฝาสบู เม่ือเพลาลกู เบ้ยี วหมุนฟนแตละซ่ีบนเพลาลกู เบ้ยี วทงั้ สามซี่ผา นตวั รับรู สิง่ นี้ จะเปด ใชงานแมเหลก็ ภายในในเซ็นเซอรเ พือ่ สรา งแรงดนั ไฟฟา แรงดันไฟฟาทสี่ รางขึ้นในเซ็นเซอรทํา หนาท่ใี นฐานะสัญญาณอนุญาตให ECM คนหาตําแหนงเพลาลกู เบ้ียว สญั ญาณนีจ้ ะถกู ใชเพอ่ื ควบคมุ การจุดระเบดิ จังหวะการฉีดเช้อื เพลิงและระบบ ควบคมุ วาลวแปรผนั สายไฟที่ควบคุม ข้ัว NE- ของ ตวั รับรูต ําแหนง เพลาขอเหวย่ี งและตัวรบั รตู าํ แหนง เพลาลูกเบี้ยว ตอ รวมกันแลว เชอื่ มไปยัง ข้ัว NE-ของ ECM สว นข้วั G2+ของตัวรบั รตู ําแหนงเพลาลูกเบ้ียวตอไปยงั ข้วั G2+-ของ ECM ในขณะท่ีNE+ของตวั รบั รูตําแหนง เพลาขอเหวย่ี งตอ ไปยัง ขั้ว NE+ของ ECM
40 ภาพที่ 4-15 โครงสรา งวงจรตวั รบั รูตําแหนงเพลาขอเหวยี่ งและตวั ตวั รบั รูตาํ แหนง เพลาลกู เบีย้ ว
41 ภาพที่ 4-16 วงจรตัวรบั รูตําแหนงเพลาขอเหว่ยี งและตวั ตัวรบั รูตาํ แหนงเพลาลูกเบ้ยี ว ทีม่ า : คูมือการซอมเครอื่ งยนตแกส โซลนี บรษิ ัท โตโยตา จํากดั
42 4. ตวั รบั รูการนอ็ คของเครอื่ งยนต (Knock Sensor หรอื Detonation Sensor ) ตัวรับรูการนอ คหรืออาการเขกของเคร่ืองยนต ติดตั้งอยูทีเ่ สอ้ื สบู ทาํ หนาทีต่ รวจจับการ สั่นสะเทือนของเครอ่ื งยนตท ี่เกิดจากการนอก เนื่องจากสวนผสมบางเกนิ ไป (อากาศมากกวา น้ํามัน) หรอื ตัง้ องศาจุดระเบิดไมถูกตอง หรอื ใชน าํ้ มนั ออกเทน(Octane) ผดิ โดยอาศยั ผลึกแรท่ีความถ่ี เปลีย่ นไปตามแรงสัน่ สะเทือนของเครอ่ื งยนต แลวสง สัญญาณความถีน่ ้ีไปให ECU เพอื่ หนวงจังหวะ การจุดระเบดิ (สญั ญาณ KNK) ภาพท่ี 4-17 ตวั รบั รูก ารน็อคของเคร่ืองยนต ภาพที่ 4-17 (ตอ )
43 4.1 วงจรไฟฟาควบคุมการทํางานตวั รบั รูการน็อคของเครื่องยนต ตวั ตรวจจบั การนอ็ คมโี ครงสรา งที่สามารถตรวจจับการสั่นสะเทือนระหวา งประมาณ 6 kHz และ 15 kHz ต้งั อยขู างเสื้อสบู เครอ่ื งยนตเ พ่ือตรวจจับการน็อคของเครือ่ งยนต 16 ตัวรับรกู ารน็อค ของเคร่อื งยนต มอี งคประกอบ piezoelectric ซ่งึ สรางแรงดนั เมือ่ มันกลายเปนรปู ทรงแรงดันไฟฟา ถกู สรางขน้ึ เมื่อบล็อกเครือ่ งยนตส่นั เนื่องจากการกระแทก การเกดิ ขน้ึ ของเครื่องยนตส ามารถลด การน็อคไดโ ดยการชะลอการจุดระเบิด มีสายไฟควบคมุ อยู 2ขั้ว คือ ขั้ว KNK1 กบั EKNK ตอ จากตัวรบั รูก ารนอ็ คของเครอื่ งยนต ไปยงั ECM ภาพท่ี 4-18 โครงสรางวงจรไฟฟาควบคุมการทาํ งานตัวรับรกู ารนอ็ คของเครื่องยนต ท่ีมา : คมู อื การซอมเคร่อื งยนตแกส โซลนี บริษัท โตโยตาจาํ กัด
44 ภาพท่ี 4-17 วงจรไฟฟา ควบคมุ การทํางานตัวรับรกู ารน็อคของเครือ่ งยนต ทม่ี า : คูมอื การซอมเครอ่ื งยนตแกส โซลนี บรษิ ทั โตโยตา จาํ กัด
45 5 วาลวควบคุมไอเสีย (EGR หรอื Exhaust Gas Recirculation) คอื ระบบที่ใชใ นการดึงไอเสียจากทอ ไอเสยี กลบั มาหมุนเวยี น กลบั มาเผาไหมร วมกบั อากาศดี เพือ่ ใหม ีไอเสียท่ดี ีขึ้น ลดปริมาณแกส ไนโตรเจนออกไซด หลกั การทํางานก็คือ เม่ืออากาศในหอ งจุด ระเบดิ ถูกคายออกมา ECM จะทําหนา ท่ีตรวจจบั วา อากาศน้ันมคี า มลพิษเกินกวา ท่ีกาํ หนดหรือไม ถา เกนิ ประมาณ 5-15% ของอากาศชุดนั้นจะถูกวาลว EGR เปดรับ เพื่อนํากลับไปผสมกบั ไอดีทดี่ ูดมา จากภายนอก เขา ไปทาํ การเผาไหมในหองจุดระเบิดใหมอีกครงั้ ทําใหมลพิษที่เผาไมห มดในครัง้ แรก ถูกเผาไหมไ ปอีกครั้งจนสามารถปลอ ยออกสูส ิง่ แวดลอ มได ภาพท่ี 4-19 วาลว ควบคุมไอเสยี 5.1 วงจรไฟฟา ควบคุมการทํางานวาลวควบคมุ ไอเสีย มีการควบคุมการทาํ งานอยู 6 ขั้วคือ +B1,+B2 เปน ไฟ+12V เขา มารอที่ มอเตอรว าลวควบคมุ ไอเสีย สวน ขั้ว EGR1,EGR2,EGR3,EGR4 จะตอ เขา ที่ ECM เพ่อื รอรบั คําส่ังควบคุม การควบคมุ การหมนุ วนกา ซไอเสยี (EGR) ระบบน้ไี ดรับการ ออกแบบมาเพ่ือชว ยลดและควบคมุ การเกดิ NOx เนือ่ งจากการลดลงเล็กนอยของอุณหภมู ิสงู สดุ ใน หอ งเผาไหมข องเคร่ืองยนตแ ละเพ่ือใหป ระหยัดเช้อื เพลิงมากข้นึ ซง่ึ ไดจ ากการนําเอากาซเฉื่อยจาํ นวน เล็กนอ ยเขาไปในชองทางไอดี ECM จะสัง่ ใหช ดุ วาลว EGR และมอเตอรควบคุมลน้ิ เรงทํางานเพ่ือ ควบคุมปรมิ าณกา ซไอเสยี โดยการตรวจจับสภาวะการขบั เคลอ่ื นดวยเครื่องยนตและปริมาณการเปด วาลว EGR จริง ชุดวาลว EGR จะควบคมุ ปริมาณการไหลของกาซไอเสยี บางสว นโดยใหผ านทางชดุ ประกอบฝาสบู และยอนกลับกาซไปท่ที อรว มไอดี
46 ภาพที่ 4-20 วงจรไฟฟา ควบคมุ การทาํ งานวาลวควบคมุ ไอเสยี ท่มี า : คูม อื การซอมเคร่อื งยนตแกสโซลนี บรษิ ัท โตโยตา จํากัด 6. วาลวควบคุมนา้ํ มนั ไทมมง่ิ เพลาลกู เบ้ียว (Oil Control Valve) ชุดวาลวควบคมุ นา้ํ มนั ไทมม่งิ เพลาลกู เบย้ี ว หรือที่เรียกวา OCV ทํานา ที่ ควบคุมน้ํามันเคร่อื ง ใชส าํ หรบั เปล่ยี แปลงจังหวะ และการยกวาลว โดยการเปลีย่ นแปลงชองทางของแรงดันน้ํามนั เคร่ืองมี หลกั การทํางาน 2 ชว ง เมือ่ ขบั เคลอื่ นดว ยความเร็วรอบปกติถงึ ปานกลาง (ต่ํากวา 6,000 รอบ ตอนาท)ี ระบบ VVTL- i จะควบคมุ จังหวะการเปด-ปด วาลว ไอดแี บบอตั โนมัติ ตามความตองการของเคร่อื งยนต ซ่ึงควบคมุ ดวยระบบคอมพวิ เตอรอยางแมนยาํ สามารถถทําใหด ดู อากาศเขามาไดในปริมาณท่เี หมาะสม การเผา ไหมจงึ สมบรู ณแบบ มผี ลใหประหยัดนา้ํ มันเช้ือเพลิง และการตอบสนองทด่ี ี
47 เมือ่ ถึงชวงความเร็วรอบท่สี ูงมากกวา 6,000 รอบตอนาที (โดยทอ่ี ุณหภมู นิ ้ําหลอเยน็ สงู กวา 60 องศาเซียลเซยี ส) ระบบ VVTL-i จะเรม่ิ ทํางานดวยการควบคมุ ของกลไกชดุ ยกวาลว กลไกนีจ้ ะใช เซน็ เซอรส งสัญญาณไปยัง ECM ของเครื่องยนตเพ่ือไป ควบคมุ วาลว ควบคุมนํ้ามนั (Oil Control Valve) สําหรบั เปลยี่ แปลงจงั หวะ และการยกวาลว โดยการเปลยี่ นแปลงชอ งทางของแรงดนั ไฮดรอ ลคิ ดว ยเหตุน้กี ลไกจะเปล่ียนการทํางานของลูกเบ้ียวความเรว็ สูง โดยการยกวาลว ไอดี และไอเสยี เพิ่มขน้ึ ดังน้ี จํานวนของสวนผสมอากาศ น้าํ มนั เชอ้ื เพลิงและการคายไอเสียจะเพิ่มข้ึน ทําใหการเผา ไหมย ิงสมบูรณแ บบท่สี ุด ประหยดํ นา้ํ มันเชอ้ื เพลงิ เคร่ืองยนตมีแรงบิดสงู ข้ึน ตอบสนองความแรงได ทกุ อัตราเรง ทาํ งานราบเรียบ เงียบ ทนทาน และทส่ี าํ คญั ชวยลดปญหามลภาวะตอ สง่ิ แวดลอม ภาพที่ 4-21 วาลวควบคุมน้าํ มนั ไทมม ิง่ เพลาลกู เบ้ียว 6.1 วงจรไฟฟาควบคุมการทํางานของ วาลว ควบคมุ นาํ้ มนั ไทมม่งิ เพลาลูกเบย้ี ว ทาํ งานไดด วย การควบคุมสัญญาณทางไฟฟา ในลกั ษณะ duty cycle ผา น ขว้ั ควบคมุ OC1+และOC1-
48 ภาพท่ี 4-22 วงจรไฟฟา ควบคมุ วาลว ควบคมุ น้ํามันไทมม่งิ เพลาลกู เบี้ยว ท่มี า : คมู ือการซอมเครอื่ งยนตแกส โซลีน บรษิ ทั โตโยตา จาํ กัด
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: