สรรพคุณของน้ำใบเตยที่ดีต่อสุขภำพ จดั ทำโดย 1.นำงสำว จำรุภร วลั ลงั กำ เลขที่5 2.นำงสำว กญั ญำรัตน์ คำแสน เลขที่7 3.นำย บวรภคั ยะแสง เลขที่23 4.นำย ติณณภพ สมมโนนยั เลขที่24 5.นำย พีรดนย์ ไชยยะ เลขท่ี30 ช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่5หอ้ ง4 เสนอ ครูดำรงค์ คนั ทะเรศย์
คำนำ โครงงำนพัฒนำเว็บไซตเ์ รื่องสรรพคณุ ของนำใบเตยทีด่ ีตอ่ สุขภำพ จดั ทำขนึ ตำมกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนวชิ ำคอมพิวเตอร์ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วชิ ำกำรงำนอำชีพ และเทคโนโลยี ระดับชันมธั ยมศึกษำปที ี่ 5/4 โรงเรียนปวั จังหวดั น่ำน โดยมวี ตั ถุประสงค์ทจ่ี ะนำ ควำมรูใ้ นวชิ ำคอมพิวเตอร์ทไี่ ดร้ บั จำกกำรเรียนในระดบั มัธยมศกึ ษำตอนปลำยมำใชโ้ ดยบูรณำกำร ควำมรู้ท่ไี ดใ้ นวชิ ำคอมพิวเตอร์ จดั ทำโครงงำนพัฒนำเวบ็ ไซต์ตำมเรือ่ งสรรพคุณของนำใบเตยท่ดี ี ตอ่ สขุ ภำพ เพอ่ื เป็นกำรศึกษำค้นคว้ำ และเผยแพรเ่ รอื่ งสรรพคุณของนำใบเตยทดี่ ตี อ่ สุขภำพใน ลักษณะของโปรแกรมพฒั นำเวบ็ ไซต์ web editer หวงั เป็นอย่ำงย่ิง โครงงำนนีจะเป็นประโยชนใ์ นกำรท่จี ะทำให้ผู้ท่ศี กึ ษำในเร่ืองสรรพคณุ ของนำใบเตยทีด่ ตี อ่ สุขภำพ ทีค่ ณะผู้จดั ทำได้จัดขึน คณะผูจ้ ดั ทำ
บทที่1 บทนำ 1.ท่มี ำและควำมสำคัญของโครงงำน ปจั จุบนั เคร่ืองดื่มหลำกหลำยประเภทได้รบั ควำมนยิ มสงู มำกขนึ เชน่ นำผลไม้ นำอัดลมหลำกสี นำชำจนี ชำเขียว ทงั แตง่ แตม้ รสชำติ กลน่ิ และสีใหแ้ ปลกใหม่ ซงึ่ หำซือ ไดง้ ำ่ ยตำมรำ้ นสะดวกซอื และเด็กมักสนุกท่ีจะเลอื กหยิบไดต้ ำมควำมต้องกำร ขณะท่ี อิทธิพลจำกโฆษณำมผี ลกระตุน้ ใหเ้ ด็กอยำกรู้ อยำกลองชมิ มำกขนึ ซง่ึ อำจติดใจจน กลำยเป็นเครือ่ งดมื่ แทนนำเปลำ่ ทำใหเ้ ด็กเร่มิ ตดิ รสหวำน และกินบอ่ ยเปน็ ประจำจน กลำยเป็นเด็กอ้วนไดง้ ำ่ ย พอ่ แม่ หรอื ผ้ปู กครองคงไมส่ ำมำรถปิดกนั ไมใ่ ห้เด็กเลอื กดม่ื เคร่อื งดม่ื เหล่ำนไี ด้ แตค่ วรแนะนำใหเ้ ลอื กสรรสิ่งท่ีมีประโยชน์ และมคี ณุ คำ่ ทำง สำรอำหำรที่เหมำะสมกบั เดก็ เชน่ นมรสจืด เคร่อื งดม่ื จำกนำผลไม้สด หรือเคร่อื งดม่ื จำกพชื ผกั และสมุนไพรตำ่ งๆ เพรำะมีสำรอำหำรหลำยชนดิ ทงั วิตำมนิ เกลอื แร่ นอกจำกนีถำ้ มีกำรใส่นมเพอ่ื เพม่ิ รสชำติ จะไดร้ บั แคลเซยี มเพ่มิ มำกขึน ดังนัน เครือ่ งดืม่ ท่ที ำจำกผกั ผลไม้สำมำรถทำไดง้ ่ำย รำคำไมแ่ พงสำมำรถนำพืชผกั ที่ มีอยู่แถวบ้ำนนำมำทำเปน็ เครอ่ื งด่ืมมันยงั มปี ระโยชนส์ ำมำรถรักษำโรคไดใ้ นบำงตวั และ มีผลดีตอ่ สุขภำพรำ่ งกำยเรำเองไมม่ สี ำรเคมปี นเปือ้ น ปลอดภยั และสะอำดและเกบ็ ไวไ้ ด้ นำนกว่ำเครอ่ื งด่มื ทมี่ สี ำรสผี สมอำหำรผสมอยู่ 2.วัตถปุ ระสงคข์ องกำรทำโครงงำน -กำรใชใ้ บเตยมำทำเครอื่ งด่มื ที่ดตี อ่ สุขภำพ 3.สมมตฐิ ำนของกำรศกึ ษำ 1.นำทม่ี ำจำกใบเตยจะมปี ระโยนต์ ่อสภุ ำพ 4.ขอบเขตของกำรทำโครงงำน -พันธ์ของใบเตยทมี่ ีอยใู่ นทอ้ งถ่ิน
5.วิธีดำเนนิ กำร ในกำรจัดทำโครงงำนเครอื่ งดมื่ เพอ่ื สขุ ภำพผจู้ ัดทำมวี ัตถุประสงคเ์ พอ่ื พฒั นำและ เพ่ิมพนู ควำมรูแ้ ละประสบกำรณใ์ นกำรเรยี นรเู้ รอื่ งเคร่อื งด่มื เพอื่ สขุ ภำพ อกี ทังยงั สอดแทรกควำมรู้ในเรอ่ื งตำ่ งๆเก่ยี วกบั สขุ ภำพมำทำในรูปแบบโครงงำนนำมำใช้ในชวี ติ จริงได้และยังสำมำรถรกั ษำโรคภยั ไขเ้ จ็บไดอ้ กี ดว้ ย ข้ันตอนในกำรปฏิบัติวสั ดอุ ปุ กรณ์ในกำรทำ นำ้ ใบเตย สว่ นประสม อุปกรณ์ ใบเตยหอม หมอ้ เกลอื มดี นำตำลทรำย ทพั พี นำเปล่ำ เหยอื กแก้ว เครอื่ งปั่น วธิ กี ำรทำ 1. เทนำดม่ื สะอำดทีเ่ ตรยี มไวล้ งหม้อใชไ้ ฟปำนกลำง รอให้นำเดือด จงึ นำใบเตยที่ห่นั เตรยี มไว้ลงไป จำกนนั เคยี่ วไปเร่อื ยๆ จนสเี ขียวของใบเตยเรมิ่ ออก จำกนนั กรองใบเตย ออกจำกหม้อ 2. จำกนนั ใส่นำตำล (ถ้ำชอบหวำนก็เพ่ิมนำตำลอีกแลว้ แต่ควำมชอบคะ่ ) ตำมด้วย เกลอื ปน่ ท่ีเตรยี มไวล้ งไปในหม้อนำใบเตยคนให้ละลำย ลดไฟลงแลว้ ตม้ ต่อไปอกี 5 นำที แลว้ ปิดไฟยกลงจำกเตำทิงไวใ้ หเ้ ยน็ 3. ตักนำแข็งใสแ่ กว้ แลว้ ตักนำเตยหอมลงไป พรอ้ มเสริฟดื่มแกก้ ระหำย ชื่นใจหำยร้อน 6.ผลที่คำดวำ่ จะได้รบั คนทุกคนจะได้รบั สุขภำพทดี่ ี
7.แผนกำรกำหนดเวลำปฏบิ ตั งิ ำน วนั ที่20เตรยี มหำใบเตยและอปุ กรณ์ วันที่21ปฎิบตั ิตำมแผนที่ทำไวพ้ รอ้ มลงบรรจัภณั ฑ์ วนั ท่ี22นำแจกจ่ำยให้แก่สมำชิกในหอ้ ง
บทท่ี2 เอกสำรท่ีเกีย่ วข้อง ในกำรจดั ทำโครงงำนเรอื่ งสรรพคุณของนำใบเตยทด่ี ตี ่อสุขภำพคณะผจู้ ดั ทำ โรงงำนไดศ้ กึ ษำเอกสำรและจำกเว็บไซตต์ ่ำงทเ่ี กีย่ วข้องดังต่อไปนี 2.1 พันธ์ของใบเตย 2.2 กำรปลกู ใบเตยและกำรเก็บเกยี่ ว 2.3 สรรพคณุ ของนำใบเตย 2.1พันธข์ องใบเตย ใบเตยหอม ใบเตยหอม (Pandan Leaves) เปน็ สมนุ ไพรไทยที่มำแตโ่ บรำณ ท่เี ป็นที่ รู้จกั กันดี เป็นไม้ยนื ตน้ มีทรงพมุ่ ขนำดเลก็ ขึนเปน็ กอ ลำตน้ เปน็ เหง้ำอยูใ่ ตด้ นิ มี ข้อสนั ๆโผลจ่ ำกดนิ เลก็ นอ้ ย จะถกู หอ่ ห้มุ ไปดว้ ยกำบใบโดยรอบๆ มีสเี ขียว ใบเป็น ใบเด่ียว ออกเรยี งสลบั เวียนจนถึงปลำยยอด มลี กั ษณะยำวรี ใบเปน็ ทำงยำว มี เส้นกลำงชดั ขอบใบเรยี บ ใบแข็งเรียบเป็นมัน มีสีเขยี ว มีกล่ินหอม มีถน่ิ กำเนิด ในทวีปเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ และในประเทศอนิ เดีย มีปลกู หลำยประเทศทว่ั โลก ในประเทศไทยมีปลกู หลำยสำยพนั ธุ์ มปี ระโยชน์และสรรพคณุ ทำงยำหลำย อยำ่ ง ใช้ทำเครอ่ื งดมื่ ตำ่ งๆ และนำมำใชผ้ สมอำหำร แตง่ กลน่ิ เพมิ่ สอี ำหำรเมนู ตำ่ งๆ ไดห้ ลำยเมนู
เครอื่ งเทศสมนุ ไพร ใบเตยหอม : Pandan Leaves ใบเตยหอม : Fragrant pandan,Pandan Wangi,Pandanus Palm ชือ่ วทิ ยำศำสตร์ : Pandanus amaryllifolius Roxb. อยใู่ นวงศ์ : Pandanaceae ใบเตยหอม (Bai-Toei-hom) หรือเรยี กวำ่ เตยหอม เปน็ สมุนไพรไทยทมี่ ำแต่ โบรำณ เปน็ ไมย้ ืนต้น มที รงพมุ่ ขนำดเล็กขนึ เปน็ กอ ลำต้นเปน็ เหงำ้ อยใู่ ตด้ ิน มีข้อสนั ๆ โผลจ่ ำกดนิ เล็กนอ้ ย จะถกู หอ่ หุม้ ไปดว้ ยกำบใบโดยรอบๆ มสี ีเขียว ใบเป็นใบเดยี่ ว ออก เรยี งสลับเวยี นจนถงึ ปลำยยอด มลี ักษณะยำวรี ใบเป็นทำงยำว มีเส้นกลำงชดั ขอบใบ เรียบ ใบแข็งเรียบเปน็ มนั มสี เี ขยี ว มีกลิน่ หอม ใชท้ ำเครื่องดมื่ ตำ่ งๆ และนำมำใชผ้ สม อำหำร แตง่ กล่นิ เพมิ่ สอี ำหำรเมนูตำ่ งๆ ได้หลำยเมนู ในประเทศไทยมปี ลูกหลำยสำย พนั ธ์ุ ลำต้น เป็นไมย้ นื ต้นขนำดเล็ก มีทรงพุ่มขนำดเลก็ ขนึ เป็นกอ มลี ักษณะกลมๆ ลำต้นเปน็ เหงำ้ อยู่ใตด้ ิน มีข้อสนั ๆโผล่จำกดินเลก็ น้อย จะถูกหอ่ หุ้มไปดว้ ยกำบใบโดยรอบๆ มสี ี เขียว ใบ เปน็ ใบเดี่ยว ออกเรยี งสลับเวยี นจนถงึ ปลำยยอด มีลกั ษณะยำวรี ใบเป็นทำงยำว มี เสน้ กลำงชัด ขอบใบเรยี บ ใบแขง็ เรยี บเปน็ มนั มสี เี ขยี ว มกี ลนิ่ หอม รำก มีระบบรำกแก้ว แทงลกึ ลงดนิ มลี ักษณะกลมๆ มีรำกแขนง รำกฝอยเล็กๆ มีรำก ออกตำมลำขอ้ ของต้น มีสีนำตำล ดอก ออกเปน็ ช่อ มีดอกย่อยเล็กๆ ไมม่ ีกลบี ดอก ผล เปน็ ฝักเล็กๆ เตยหอมสว่ นมำกเป็นเตยตัวผู้ ไม่มีดอกและผล
2.2กำรปลูกทม่ี ีผลต่อทม่ี ผี ลตอ่ คุณค่ำของใบเตย กำรปลกู เตยหอมนันเรำจะต้องมีพืนทีจ่ ะเพำะปลูก ตอ้ งใกลน้ ำคอ่ นขำ้ งแฉะ มีนำ หมุนเวยี นตลอดปี มรี ม่ เงำรำไรใหต้ น้ เตยไมโ่ ดนแสงแดดโดยตรง หรอื ตำมรอ่ งสวน ตำม ชำยบอ่ นำ สว่ นกำรปลกู ในพืนนำมีกำรเตรยี มดินคล้ำยกับกำรทำนำแตท่ ำเพยี งครังเดียว ก่อน ปลกู เพ่ือให้พืนทเี่ รยี บ ระบบนำดแู ลง่ำย สว่ นทำงเดนิ เขำ้ เกบ็ เก่ยี วเตยหอมขึนอยู่ ตำมควำมสะดวกสบำยที่ผปู้ ลกู ตอ้ ง จดั กำรและวำงแผนเองตำมควำมเหมำะสมของพนื ท่ี ปลูกและขนำดพืนที่ ก่อนปลูกตอ้ งเปิดนำเข้ำแปลงประมำณ 1 ฝำ่ มือ หรือประมำณ 15 เซนตเิ มตร จำกนนั เตรียมต้นพนั ธุ์เตยหอมที่แข็งแรงที่มีรำกปักลงในแปลง โดยทำเหมอื น กำรดำนำ จำกนนั ดูแลระบบถำ่ ยเทนำดูแลไม่ให้ต้นที่ปกั ดำลอยขึนมำ ทงิ ไว้ 3 เดอื น จงึ เพิ่มปริมำณนำขึน หลังจำกปลกู 6 เดือน สำมำรถเก็บเกย่ี วได้ กำรเก็บเก่ยี วใช้มีดตัดยอด อยำ่ เสียดำยยอด กำรตดั ยอด 1 ยอด ทำให้เกิดยอดใหมม่ ำกมำย โดยเฉล่ียตดั ไป 1 ยอด จะไดย้ อดใหม่ 3-5 ยอด ทังนี กำรดแู ลบำรงุ รักษำตน้ เตยหอมนนั ก็ไมไ่ ด้ยงุ่ ยำกอะไรมำก เพียงแตเ่ กษตรกรจำเปน็ ตอ้ งเอำใจใสอ่ ยำ่ งสม่ำเสมอ มกี ำรปรบั พนื ทใ่ี หโ้ ล่ง ไมม่ ีวชั พืช ขึนปกคลุมต้นเตยหอม เพรำะจะทำให้ใบเตยหอม หรือต้นเจริญเตบิ โตชำ้ และใบไมส่ วย ควรจะใสป่ ยุ๋ หมกั ปยุ๋ คอก บำรงุ ตน้ และใบบ้ำง เพอ่ื ให้ต้นเตยหอม มคี วำมอดุ มสมบรู ณ์ สำหรบั ใบเตยหอม ทสี่ ่งขำยไปยงั ทอ้ งตลำด กส็ ำมำรถจะนำไปประกอบอำหำรคำว หวำน ไดต้ ำมควำมตอ้ งกำร นอกจำกนกี ็ยงั ไปประกอบร่วมกับดอกไม้ในกำรไหว้พระ ซ่งึ ในตลำดมีควำมต้องกำรใบเตยหอมเปน็ อย กำรขยำยพนั ธ์ุ ทำไดโ้ ดยวธิ ีกำรแยกเหงำ้ หรือหนอ่ แม้วำ่ เตยหอมจะสำมำรถทนตอ่ สภำพดนิ ท่ีชืน แฉะได้ดี แต่กไ็ มค่ วรปลกู ในบริเวณท่ีมีนำทว่ มขงั มำก
กำรเตรียมแปลงปลกู ไถพรวนดนิ ในพืนท่ีใช้ปลูกเตยหอม พรอ้ มกบั กำรกำจัดวัชพืชแล้วตำกดินทงิ ไว้ ประมำณ 5-10 วัน ตอ่ จำกนันใชป้ ุ๋ยคอกหว่ำนในอตั รำไรล่ ะ 2 ตัน และป๋ยุ ยูเรยี ไร่ละ 10 กก. และไถพรวนดนิ กลบใหเ้ รียบรอ้ ย กำรปลูก ฤดปู ลกู ท่ีเหมำะสมควรอยใู่ นช่วงของฤดฝู น เนอ่ื งจำกดินมคี วำมช่มุ ชนื ดแี ละทำให้ ตน้ เตยหอมตังตัวได้งำ่ ย ขดุ หลุมปลูกใหม้ คี วำมห่ำงระหว่ำงหลมุ และระหว่ำงแถว ประมำณ 30-50 ซม. แล้วจึงนำต้นพนั ธล์ุ งปลกู รดนำพอชุ่ม แต่ไม่จำเป็นต้องใหน้ ำ หลังจำกกำรปลูก หำกดินมคี วำมชืนมำกพออยู่แล้ว กำรใหน้ ำในครังตอ่ ๆ ไป จะขนึ อยู่ กบั ปรมิ ำณฝนทต่ี กและควำมชนื ของดนิ ซ่ึงโดยปกติท่วั ไปจะใหป้ ระมำณ 7-10 วัน/ครงั กำรใสป่ ยุ๋ ใหป้ ุย๋ สตู ร 24-12-12 โรยรอบโคนต้นในอตั รำไรล่ ะ 10 กก. หลังจำกท่ีปลูกมำได้ ประมำณ 2-3 เดอื นแลว้ หลังจำกปลูกไปได้ประมำณ 5-6 เดอื น จึงค่อยใหซ้ ำอกี ครัง กำรเกบ็ เกย่ี ว ใบเตยหอมจะใหผ้ ลผลติ จนสำมำรถเกบ็ เกย่ี วได้ หลงั จำกทป่ี ลูกไปได้ประมำณ 8 เดอื น วิธีเก็บเกี่ยวทีน่ ยิ มทำกนั มำกทส่ี ุดคอื กำรใช้มีดเลือกตดั เฉพำะตน้ ท่ีแกท่ ี่สดุ เนอื่ งจำกเม่อื เวลำผำ่ นไปประมำณ 4-5 เดือน ยอดเลก็ ๆ ทเี่ หลอื อยกู่ จ็ ะเตบิ โตใหเ้ ก็บ เกยี่ วไดอ้ ีกครงั สว่ นวธิ ีเกบ็ แบบตัดต้นออกทังหมด แล้วเหลอื ไวเ้ ฉพำะเหง้ำหรอื ต้นตอไว้ จะใช้เวลำในกำรเจรญิ เติบโตเปน็ หนอ่ ใหมค่ ่อนขำ้ งนำน และต้องมกี ำรดแู ลรักษำเอำใจ ใส่อยเู่ สมอ จึงเปน็ วิธที ่ีไม่ค่อยไดร้ ับควำมนยิ มมำกนกั สังเครำะห์ ใบเตยเปน็ พืชท่ีตอ้ งกำรนำมำกในกำรปลูกเป็นกำรขยำยพันธ์ด้วยไมอ่ ำศัยเพศ ดว้ ยกำร ปักชำ และกำรติดตำจะตอ้ งมรี ะบบกำรถ่ยเท่นำท่ดี ดี หลมุ ปลกู ให้มีควำมห่ำง
ระหว่ำงหลมุ และระหวำ่ งแถวประมำณ 30-50 ซม หำกปลกู ในฤดฝู นไม่จำเป็ฯต้องรดนำ บ่อย ประมำณ7ถึง10วนั กำรใส่ปยุ๋ สว่ นให้ป๋ยุ สูตร 24-12-12 โรยรอบโคนตน้ ในอตั รำไร่ ละ 10 กก. หลงั จำกท่ปี ลูกมำได้ประมำณ 2-3 เดอื นแล้ว หลงั จำกปลกู ไปไดป้ ระมำณ 5- 6 เดือน จึงคอ่ ยให้ซำอกี ครังใบเตยหอมจะให้ผลผลิตจนสำมำรถเก็บเกี่ยวได้ หลังจำกที่ ปลูกไปไดป้ ระมำณ 8 เดอื น วธิ ีเกบ็ เกย่ี วท่ีนิยมทำกนั มำกท่ีสุดคือ กำรใช้มีดเลอื กตัด เฉพำะต้นท่แี กท่ ีส่ ดุ เนอื่ งจำกเมอื่ เวลำผำ่ นไปประมำณ 4-5 เดือน ยอดเล็กๆ ทเ่ี หลอื อยู่ กจ็ ะเตบิ โตใหเ้ ก็บเก่ียวได้อกี ครัง ส่วนวธิ ีเก็บแบบตัดต้นออกทังหมด 2.3สรรพคณุ ของน้ำใบเตย เตยหอม เตยหอม (Pandan Leaves) หรือใบเตยทกี่ ล่ำวไปข้ำงตน้ ลักษณะลำตน้ เป็นกอ ขนำดเลก็ ต้นจะเติบโตจำกใต้ดินขึนมำ ใบเปน็ สเี ขยี วโดดเดน่ เรยี วยำว หำกเปน็ ใบออ่ น จะมีสเี ขยี วออ่ น แตใ่ บทแี่ กแ่ ลว้ กจ็ ะเร่ิมมีสเี ขยี วเขม้ จัดอยใู่ นกลมุ่ พืชใบเลยี งเดยี่ ว หำก ใชม้ อื สัมผสั ขอบใบจะมไี ขเคลอื บอยทู่ ี่ผวิ ทำใหใ้ บมีควำมมนั วำว และขอบใบเรยี บ เม่อื เจริญเติบโตขึน ตัวใบจะเวยี นกนั ยำวออกมำเปน็ เกลียวจนถึงปลำยยอดสดุ ตัวใบมคี วำมหอมแบบเฉพำะ ซ่งึ กลำยเป็นจุดดึงดูดทใี่ ครๆ ตำ่ งก็มองหำพืชสมุนไพรชนดิ นีมำประยกุ ตใ์ ชใ้ นหลำยๆ ด้ำน โดยเฉพำะกำรเสรมิ แตง่ กล่ินอำหำร และกำรใชส้ ีของ เตยหอมมำใช้สรำ้ งสรรคใ์ ห้เมนูมีชวี ติ ชวี ำมำกขนึ ส่วนกล่นิ ทอ่ี ยูใ่ นใบเตยหอมนนั เป็น นำมนั หอมระเหยท่ีเรยี กกันว่ำ \"Fragrant Screw Pine\" และสเี ขยี วทไี่ ด้กค็ ือคลอโรฟิลล์ ทอ่ี ยูใ่ นใบนั่นเอง คณุ คำ่ ทำงอำหำรของเตยหอม สว่ นประกอบของใบเตยหอม มสี ำรอำหำรสำคญั ทด่ี ีตอ่ สขุ ภำพ ประกอบด้วย วติ ำมินและเกลอื แรห่ ลำกหลำยชนิด หำกเทียบใน 100 กรัม ในเตยหอมจะประกอบไป ด้วย วิตำมนิ ซี 8 กรัม, เบต้ำแคโรทีน 3 ไมโครกรมั , วติ ำมนิ บสี อง 0.1 มลิ ลิกรมั , วติ ำมิน
บีสำมประมำณ 1-2 มลิ ลิกรัม, ฟอสฟอรัส 27 มลิ ลกิ รมั , แคลเซียม 123 มิลลกิ รมั , เหลก็ , 0.1 มิลลิกรัม นอกจำกนียังมีสว่ นประกอบด้ำนโภชนำกำร เทยี บใน 100 กรมั จะมี คำรโ์ บไฮเดรต 45 กรมั และโปรตีนอยทู่ ี่ประมำณ 2 กรัม พลงั งำนให้สงู ถึง 35 กโิ ล แคลอรเี ลยทเี ดียว ประโยชนข์ องเตยหอม เตยหอมสำมำรถนำไปใช้ประโยชนไ์ ดใ้ นเมนอู ำหำรหลำกหลำยประเภท ไม่ว่ำจะ เปน็ คำว หวำน หรอื เครอ่ื งด่มื นอกจำกนีควำมหอมที่มำจำกนำมนั หอมระเหย ยัง สำมำรถนำไปใชด้ ับกลน่ิ อันไมพ่ ึงประสงค์ต่ำงๆ ได้ โดยประโยชน์หลกั ทน่ี ำ่ สนใจ มี ดังตอ่ ไปนี 1. ใชส้ ำหรับสรำ้ งสรรคเ์ มนูอำหำรหวำน ถอื วำ่ เป็นควำมนยิ มหลกั ทีน่ ำเอำเตยหอมไปใช้เป็นส่วนประกอบ เพมิ่ รสชำติของหวำน ใหม้ คี วำมหอมตำมธรรมชำติ ทำใหข้ นมมคี วำมอรอ่ ยมำกขึน แถมดว้ ยคลอโรฟลิ ลท์ ค่ี นั ไดอ้ อกมำจำกใบ เป็นสเี ขยี วเขม้ นำมำปรุงแต่งเพมิ่ สสี ันใหเ้ มนูขนมดูน่ำกิน ปลอดภยั ดว้ ยสแี ละกลน่ิ ท่ีมำจำกธรรมชำตทิ ังหมด โดยทวั่ ไปท่ีมักนยิ มนำมำใชเ้ ป็นส่วนประกอบ จะพบในขนมตม้ , ขนมลอดชอ่ งนำกะทิ, ขนมถว้ ย, ขนมเปียกปูน และขนมชนั เป็นตน้ 2. ใชส้ ำหรับดบั กล่ินอำหำรคำว ส่วนใหญ่ของกำรนำมำใชเ้ ปน็ ส่วนประกอบของอำหำรคำวกเ็ พอ่ื ดับกลน่ิ เนือสตั ว์ อย่ำงเช่น เนอื ปลำ เนอื หมู และพวกเคร่ืองใน หรือมีกำรเพมิ่ รสชำติให้เนอื สตั ว์ดูนำ่ รับประทำนมำกยงิ่ ขึน เมนยู อดฮติ ทมี่ กั ถูกสรำ้ งสรรคโ์ ดยกำรนำเอำเตยหอมไปซอยเป็น ชนิ เลก็ ๆ แลว้ ปรงุ พรอ้ มกับวัตถุดิบอ่ืนๆ อยำ่ งเชน่ ไก่ทอดใบเตย, ข้ำวเหนยี วนึง่ ใบเตย, กำรทำเมนูปลำนึ่งหรอื ปลำยำ่ ง โดยยัดใบเตยหอมที่หอเป็นกำเขำ้ ไปในท้องปลำ เป็นต้น
3. ใช้สำหรับดบั กล่นิ ประโยชนใ์ นกำรใชน้ อกเหนอื จำกนำไปปรุงอำหำร ก็คอื กำรนำไปใชด้ ับกลิน่ ต่ำงๆ ภำยในบำ้ น และนำมันหอมระเหยของใบเตยหอมยังชว่ ยไลย่ งุ และแมลงสำบ กำร นำไปใชง้ ำนจะหน่ั เป็นชินเลก็ ๆ มดั ใส่ถุงตำขำ่ ยแขวนเอำไว้บริเวณใกลต้ ัวเพื่อปอ้ งกันยุง ไมใ่ หเ้ ขำ้ ใกล้ และกำรนำไปใส่ไวใ้ นตู้เสอื ผำ้ ตรู้ องเทำ้ ตเู้ ย็น หรือวำงไวใ้ นห้องเพื่อดบั กล่นิ อับ ทำให้รู้สกึ ผอ่ นคลำย 4. ใชป้ ระโยชนใ์ นดำ้ นประทนิ ผิว เรื่องควำมสวยควำมงำม เตยหอมกไ็ ม่แพ้ใคร เพรำะสำมำรถนำไปใช้ประโยชน์เพอื่ บำรุง ผิวหน้ำ ดว้ ยวธิ ลี ำ้ งทำควำมสะอำดเตยหอมใหส้ ะอำด แล้วนำห่ันและปนั่ ให้ละเอยี ด จะ ได้ออกมำเปน็ เนอื ครีมเตยหอมทมี่ ีควำมเหนียว ใช้มำรก์ ผิวหนำ้ ช่วยทำให้ผิวใส กำจดั แบคทีเรยี ท่เี ป็นตน้ เหตุของกำรเกิดสิว ลดควำมหมองคลำ ใหผ้ วิ เรยี บเนียนได้แบบ ปลอดภัย หำกใครมปี ัญหำผิวหนังลอก คนั สำมำรถนำเอำใบสดตำพอหยำบ พอก บริเวณทพ่ี บปญั หำผวิ เป็นประจำ จะชว่ ยบรรเทำอำกำรให้ดขี นึ ได้ กำรนำเตยหอมไปใชเ้ พอ่ื สขุ ภำพ 1.ใชล้ ดระดับนำตำลในเลือด ใบเตย เป็นพืชทปี่ รำศจำกนำตำล และกำรดม่ื ชำใบเตยสำมรถชว่ ยลดนำตำลในเลอื ดได้ เหมำะสำหรบั คนท่ีเป็นเบำหวำน สำมำรถนำไปชงด่ืมไดท้ กุ วัน โดยกอ่ นที่จะนำไปใช้ชง ให้นำใบเตยหอมหั่นเปน็ ชนิ ๆ แล้วตำกแดดจนแหง้ จำกนนั สำมำรถนำไปใชช้ งกับนำรอ้ น จิบเป็นชำ ดืม่ ต่อเนอื่ งประมำณ 1 เดอื น จะช่วยให้ระดบั นำตำลในเลอื ดดีขนึ ได้ 2. ชว่ ยบำรงุ หวั ใจ สรรพคณุ ใบเตย มสี ่วนชว่ ยบำรงุ หัวใจและเพม่ิ กำลังวังชำ เนอ่ื งจำกเปน็ พืชรสเยน็ ใช้ด่ืม นำสกัดแบบเข้มข้นจะทำใหร้ ู้สึกชุ่มชืน แก้กระหำย ทำใหห้ ัวใจเต้นปกติ ลดควำมเครยี ด และทำใหร้ ำ่ งกำยรู้สกึ ผอ่ นคลำย ด้วยกำรนำเอำใบสดไปคนั นำใหไ้ ด้ประมำณ 2 - 4
ชอ้ นโตะ๊ จำกนนั รบั ประทำนทนั ที หรอื ผสมนำอุ่นและนำผึงลงไปสกั เลก็ นอ้ ยเพอื่ เพมิ่ ควำมอรอ่ ยใหม้ ำกขึนได้ 3. ช่วยขบั ปัสสำวะ ต้นเตยหอมมสี รรพคณุ ช่วยกระตุ้นกำรบบี ตัวของกล้ำมเนอื กระเพำะปสั สำวะ เหมำะ สำหรับคนทม่ี ีปัญหำเรื่องกำรขับนำ เพยี งแค่ใช้สว่ นของต้นหรอื รำกมำต้มนำด่มื ก็ กลำยเปน็ สมนุ ไพรแบบง่ำยๆ ทีป่ ลอดภยั ชว่ ยขบั ปสั สำวะในผู้ปว่ ยทม่ี ีปญั หำได้ 4. บำรุงสมอง แกอ้ ำกำรอ่อนเพลยี เตยหอมมสี ำรทช่ี ่วยทำให้รสู้ ึกผอ่ นคลำย ชว่ ยแกอ้ ำกำรออ่ นเพลยี บำรงุ ประสำทและ สมอง ทำใหม้ ีชีวติ ชวี ำ สดใสหลงั จำกตื่นนอนตอนเช้ำ ไม่งวั เงยี หรอื รสู้ กึ ไมส่ ดช่นื ใน ระหว่ำงวัน ด้วยกำรดืม่ นำใบเตยเป็นประจำวันละ 1 - 2 แกว้ โดยใช้กำรคนั สดหรอื ชง เป็นชำท่ีได้จำกใบแหง้ ก็ให้ควำมร้สู ึกกระปรกี ระเปร่ำ สมองตน่ื ตัว เพ่มิ สมำธแิ ละบำรุง ระบบประสำทในกลุม่ ผสู้ งู อำยุไดด้ ว้ ย 5. ต้ำนอนุมลู อิสระ มงี ำนวิจัยทำกำรศกึ ษำคุณสมบตั กิ ำรตำ้ นกำรออกซิเดชั่นของสำรสกดั จำกใบเตยหอม พบวำ่ สำรสกัดใบเตยหอม มคี ณุ สมบตั ิเปน็ สำรต้ำนอนมุ ลู อิสระท่ที นควำมรอ้ นได้ จีงอำจ เปน็ ทำงเลอื กท่ีดีสำหรบั สำรต้ำนอนมุ ูลอสิ ระสงั เครำะหใ์ นอุตสำหกรรมอำหำร ขอ้ ควรระวงั ในกำรใช้เตยหอม เตยหอมไมเ่ หมำะสำหรบั กำรรับประทำนในกลมุ่ ผู้ป่วยทมี่ ภี ำวะไตเสื่อม โรคไต ไมว่ ่ำจะ เป็นโรคไตเรอื รังหรือโรคไตเฉยี บพลันกต็ ำม รวมไปถงึ กล่มุ ผู้ปวยโรคเบำหวำนที่มี ภำวะแทรกซอ้ นไปทไี่ ต หำกตอ้ งกำรใช้บรโิ ภคจำเปน็ ตอ้ งได้รับคำแนะนำและอยใู่ นควำม ควบคมุ ของแพทย์ เนอ่ื งจำกผปู้ ่วยทมี่ คี วำมผดิ ปกตขิ องไตต้องจำกัดปรมิ ำณนำทไ่ี ดร้ ับ กำรนำมำใช้ประโยชน์เพ่อื สขุ ภำพ ดว้ ยวธิ ีชงดม่ื อำจทำใหไ้ ด้รับนำมำกเกนิ ไปจนทำใหไ้ ต ทำงำนหนกั เกิดเปน็ อันตรำยรุนแรงตำมมำได้
ทงั หมดนี คือ ประโยชนท์ ่นี ่ำสนใจของเตยหอม พืชสมุนไพรธรรมชำติทอี่ ยคู่ คู่ รวั ไทยมำ ชำ้ นำน สำมำรถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ได้อยำ่ งหลำกหลำย ไมว่ ำ่ จะเปน็ เรือ่ งของกำรปรงุ อำหำร สรำ้ งสรรคร์ สชำติและสสี นั ใช้บำรงุ สุขภำพ ดแู ลผิวพรรณ เรอ่ื งควำมสวยควำม งำมกล็ ว้ นให้สรรพคุณเดน่ ท่นี ่ำสนใจทังสิน อยำ่ งไรกต็ ำมกำรใชป้ ระโยชน์จำกเตยหอม โดยเฉพำะกำรนำไปด้ำนกำรรกั ษำ ควรได้รับคำแนะนำจำกแพทย์ ใชร้ ักษำควบคู่ไปกับ แพทยแ์ ผนปัจจบุ ันด้วย เพือ่ ควำมปลอดภยั ลดควำมเสย่ี งดำ้ นอื่นๆ ท่อี ำจมผี ลกระทบ ต่อรำ่ งกำยที่อำจเกดิ ขนึ กับคนบำงกลมุ่ ได้ บทท3่ี วิธีดำเนินกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ ในกำรศกึ ษำครังนี ผูศ้ กึ ษำไดท้ ำกำรศกึ ษำ เรอ่ื งสรรพคณุ ของนำใบเตย ซึง่ มีวิธกี ำรดงั นี 1. ระเบยี บวิธีท่ีใช้ในกำรศึกษำ ในกำรศึกษำใช้รูปแบบกำรสำรวจ สบื ค้นขอ้ มูล จำกหนงั สอื อินเตอร์เน็ตและตอบ แบบสอบถำม 2. ประชำกร/กลมุ่ ตัวอยำ่ ง 2.1 กลมุ่ ตัวอย่ำง กลุ่มตัวอยำ่ งทีใ่ ชใ้ นกำรศึกษำครงั นไี ดแ้ กน่ ักเรยี นระดับชนั มธั ยมศกึ ษำปที ี่5โรงเรียนปัว ปีกำรศกึ ษำ 2562 จำนวน1หอ้ งเรยี น เป็นนกั เรยี นทงั สนิ 10คนไดม้ ำโดยสมุ่ อยำ่ งงำ่ ย เพอ่ื ตอบแบบสอบถำมทส่ี รำ้ งขนึ 2.2 ระยะเวลำท่ีใชใ้ นกำรศึกษำ ระยะเวลำท่ีใชใ้ นกำรศกึ ษำ ในปกี ำรศกึ ษำ 2562
3. วธิ ีดำเนินกำรศึกษำ ผ้ศู กึ ษำได้ดำเนินกำรตำมขนั ตอนดังนี 3.1 กำหนดเร่ืองทจ่ี ะศกึ ษำ โดยสมำชิกทงั 5คน ประชมุ รว่ มกนั และรว่ มกนั คิดและ วำงแผน วำ่ จะศึกษำเร่อื งใด ( สมำชิกกลมุ่ ทงั ..... คน ไดม้ ำโดยนำผลกำรเรยี นวชิ ำภำษำไทย พนื ฐำน มำจดั แบง่ กลุม่ เก่ง กลำง อ่อน) 3.2 สำรวจปญั หำทพ่ี บในโรงเรยี น ซึง่ มีทังปญั หำด้ำนผู้เรยี น ครูผสู้ อน อำคำร สถำนท่ี สง่ิ แวดลอ้ มในโรงเรียน ฯลฯ 3.3 เลอื กเรื่องทีจ่ ะศกึ ษำ โดยเลอื กเรอื่ งทส่ี มำชกิ มคี วำมสนใจมำกทีส่ ุด เพ่ือเป็นแรงจูงใจในกำรค้นหำคำตอบ 3.4 ศกึ ษำแนวคดิ ในกำรแก้ปัญหำ ( ในขอ้ นยี งั ไม่สำมำรถดำเนนิ กำรได้เนอื่ งจำก กำรเรียนรำยวิชำ IS1 เวลำมีจำกัด ผศู้ กึ ษำจงึ ทำได้เฉพำะกำรสำรวจควำมคดิ เห็นและ สร้ำงเครอื่ งมือ (แบบสอบถำม) ศกึ ษำเพยี งเพือ่ ใหม้ ีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ เรอ่ื งกระบวนกำรวจิ ัยเทำ่ นัน 3.5 ตงั ช่อื เรื่อง 3.6 สมำชกิ ทัง 5คนของกลุม่ พบครผู ้สู อนเพอื่ ปรกึ ษำ วำงแผนและรบั ฟงั ควำมคดิ เห็น ปรับปรงุ แก้ไข 3.7 เขยี นควำมสำคัญควำมเป็นมำของปญั หำ วตั ถุประสงค์ สมมตุ ฐิ ำน
ขอบเขตกำรวจิ ยั และประโยชนท์ คี่ ำดวำ่ จะไดร้ ับ โดยศึกษำขอ้ มลู จำกหนังสอื วทิ ยำนพิ นธแ์ ละสืบคน้ ขอ้ มูลจำกอินเตอรเ์ น็ต และจดบันทึกในโครงร่ำงรำยงำนเชงิ วชิ ำกำร (ตำมใบงำน) 3.8 สร้ำงเครอื่ งมอื ทเี่ ปน็ แบบสอบถำม จำนวน5ข้อ 3.9 นำเครอ่ื งมอื ทปี่ รบั ปรุงแลว้ ไปใชก้ บั กล่มุ ตวั อยำ่ ง 3.10 รวบรวมขอ้ มูล 3.11 วิเครำะหข์ ้อมูล 3.12 สรุปกำรศึกษำ 4. เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในกำรศึกษำ เครอ่ื งมือทใ่ี ชใ้ นกำรศึกษำครงั นี คอื แบบสอบถำม 1 ฉบบั ซง่ึ มีรำยละเอยี ดดงั นี 4.1 ออกแบบแบบสอบถำม เรอ่ื ง ออกแบบสอบถำมเรอื่ งสรรพคณุ ของนำใบเตยโดยขอคำแนะนำจำกครผู ู้สอนโดยเตรยี ม รำ่ งข้อคำถำม มีลกั ษณะเป็นข้อคำถำมจำนวน 5ขอ้ เป็นแบบมำตรำสว่ นประมำณ 5 ระดบั คือ 5 หมำยถงึ เหน็ ดว้ ยมำกท่ีสดุ 4 หมำยถึง เห็นด้วยมำก 3 หมำยถงึ เหน็ ด้วยปำนกลำง 2 หมำยถงึ เห็นดว้ ยนอ้ ย
1 หมำยถงึ เห็นดว้ ยนอ้ ยทสี่ ดุ กำรพิจำรณำคำ่ เฉลี่ย จะใช้เกณฑ์ดังนี ค่ำเฉลย่ี 4.51 – 5.00 หมำยถงึ เห็นด้วยมำกทส่ี ุด คำ่ เฉลี่ย 3.51 – 4.50 หมำยถึง เหน็ ด้วยมำก ค่ำเฉลยี่ 2.51 – 3.50 หมำยถงึ เหน็ ด้วยปำนกลำง ค่ำเฉลย่ี 1.51 – 2.50 หมำยถึง เห็นดว้ ยนอ้ ย คำ่ เฉลีย่ 1.00 – 1.50 หมำยถงึ เหน็ ดว้ ยนอ้ ยท่ีสดุ 4.2 สรำ้ งแบบสอบถำม เรอื่ งสรรพคณุ ของนำใบเตยโดยขอคำแนะนำ จำกที่ปรกึ ษำหรอื ผสู้ อน จำกนันนำมำปรับปรงุ แกไ้ ข แล้วนำไปตรวจสอบควำมเหมำะสม 4.3 นำแบบสอบถำมเรอื่ งสรรพคุณของนำใบเตยทแ่ี กไ้ ข ปรบั ปรงุ แล้วใหก้ ลมุ่ ตวั อย่ำงประเมนิ หลังจำกนนั นำผลท่ไี ดม้ ำหำคำ่ เฉล่ีย 5. กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู กำรศึกษำครังนีได้ดำเนนิ กำรโดยนำแบบสอบถำมทสี่ รำ้ งขนึ ใหน้ ักเรียนกลุ่มตวั อยำ่ งตอบ จำนวน10คน และเก็บรวบรวมข้อมลู จำกนักเรยี น ที่เปน็ กล่มุ ตัวอยำ่ ง โดยผศู้ ึกษำทงั 5 คนดำเนินกำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู ด้วยตนเอง 6. กำรวิเครำะห์ข้อมลู ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล ผศู้ กึ ษำไดว้ เิ ครำะห์ข้อมลู ดงั นี 6.1 นำแบบสอบถำมทงั หมดท่ีตอบโดยนกั เรยี นกลุ่มตัวอยำ่ ง มำหำคำ่ คะแนนรวม 6.2 นำผลรวมมำคดิ ค่ำรอ้ ยละและกำรหำคำ่ เฉลีย่
7. สถิติทใี่ ชใ้ นกำรศกึ ษำ สถิติทีใ่ ชใ้ นกำรศึกษำครงั นี คอื รอ้ ยละและกำรหำคำ่ เฉล่ยี
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: