การสอนแบบอปุ นยั 1 1.การเตรียมตวั อย่าง ไสว ฟักขาว (2535 : 94-95) แนะนาวา่ ขนั้ เตรียม เป็นการเตรียมผ้เู รียนให้พร้อมที่จะเรียน โดยการทบทวนความรู้ เดิมให้พร้อมท่ีจะใช้ในการเชือ่ มโยงกบั ความรู้ใหม่ บอกจดุ ประสงค์และอธิบายจดุ ประสงค์ในการเรียนให้ผ้เู รียน เข้าใจอยา่ งแจม่ แจ้ง เสริมศรี ลกั ษณศริ ิ (2540 : 279) กลา่ ววา่ ขนั้ เตรียม เป็นการนาเข้าสบู่ ทเรียน เร้าความสนใจของผ้เู รียน ทบทวน ความรู้เดมิ เพอ่ื ให้สมั พนั ธ์กบั ความรู้ใหม่ อธิบายความมงุ่ หมายให้ผ้เู รียนเข้าใจ สุพนิ บญุ ชูวงศ์ (2544 : 64-65) กลา่ วถงึ ขนั้ ตอนของการสอนโดยใช้อปุ นยั วา่ ขนั้ เตรียม คือ การเตรียมตวั นกั เรียน เป็นการทบทวนความรู้เดมิ กาหนดจดุ มงุ่ หมาย และอธิบายความมงุ่ หมายให้นกั เรียนได้เข้าใจแจ่มแจ้ง อินทริ า บณุ ยาทร (2542 : 104) อธิบายถงึ ขนั้ เตรียมการของการสอนโดยใช้อปุ นยั ว่า การเตรียมตวั ผ้เู รียน โดยการ ทบทวนความรู้เดมิ และปพู ืน้ ฐานความรู้ใหม่หรือเชื่อมโยงประสบการณ์เดมิ กบั ประสบการณ์ใหม่พร้องทงั้ บอกจดุ ม่งุ หมายให้ผ้เู รียนเข้าใจ สรุป ขนั้ เตรียมนัน้ ผ้สู อนต้องกาหนดจดุ มงุ่ หมายในการสอนแกผ่ ้เู รียนให้ชดั แจ้ง เตรียมอปุ กรณ์สาหรับการเรียนการสอน ให้กบั ผ้เู รียน 2.ขัน้ สอน สุพนิ บญุ ชูวงศ์ (2544 : 64-65) กลา่ ววา่ ขนั้ สอนหรือขนั้ แสดง คือ การเสนอตวั อย่างหรือกรณีตา่ งๆ ให้นกั เรียนได้ พิจารณา เพ่อื ให้นกั เรียนสามารถเปรียบเทียบ สรุปกฎเกณฑ์ได้ การเสนอตวั อย่างควรเสนอหลายๆ ตวั อยา่ งให้มาก พอที่จะสรุปกฎเกณฑ์ได้ ไมค่ วรเสนอเพียงตวั อย่างเดียว เสริมศรี ลักษณศิริ (2540 : 279) กลา่ ววา่ ขนั้ สอน ผ้สู อนควรให้ตวั อยา่ งแก่ผ้เู รียนหลายๆ ตวั อย่างให้มากพอท่ี ผ้เู รียนจะสงั เกตพิจารณาและหาข้อสรุปได้ สาหรับวิชาที่ต้องการทดลอง เช่น วทิ ยาศาสตร์ ผ้สู อนอาจหาอปุ กรณ์การ ทดลองให้จานวนเพียงพอกบั ผ้เู รียนที่จะทดลองด้วยตนเอง หรือผ้สู อนทาการสาธิตซา้ หลายๆ ครัง้ จนผ้เู รียนสรุปได้ เอง สรุป ขนั้ สอน ผ้สู อนนาเสนอการสอนโดยการอธิบายเนือ้ หาสนั้ ๆ แต่ต้องยกตวั อย่างให้แก่ผ้เู รียนหลายๆ ตวั อย่างให้มาก พอทผี่ ้เู รียนจะสงั เกตพจิ ารณาและหาข้อสรุปได้ นายณฐั วฒุ ิ สดี า 60003126050 สาขา คอมพิวเตอร์ศกึ ษา
การสอนแบบอปุ นยั 2 3.ขัน้ เปรียบเทยี บหรือขนั้ วเิ คราะห์ สุพนิ บุญชูวงศ์ (2544 : 64-65) กลา่ ววา่ ขนั้ เปรียบเทียบและรวบรวม เป็นขนั้ หาองค์ประกอบรวม คอื การท่ี นกั เรียนได้มีโอกาสพจิ ารณาความคล้ายคลงึ กนั ขององค์ประกอบในตวั อยา่ งเพื่อเตรียมสรุปกฎเกณฑ์ ไมค่ วร รีบร้อน หรือเร่งเร้ าเด็กเกินไป อนิ ทริ า บณุ ยาทร (2542 : 104) กลา่ ววา่ ขนั้ วเิ คราะห์ คือ การเปรียบเทยี บและรวบรวม หาองค์ประกอบจากการ ทดลองจาก การสงั เกตจนพบความแตกตา่ ง และหาความสมั พนั ธ์ของรายละเอียดทีเ่ หมือนกนั จนสามารถนามาสรุป ได้ เสริมศรี ลกั ษณศริ ิ (2540 : 279) กลา่ ววา่ ขนั้ เปรียบเทียบ เม่ือผ้เู รียนได้พจิ ารณาจากตวั อยา่ งหลายๆ ตวั อย่าง หรือได้ลงมือทดลอง สงั เกต วิเคราะห์ด้วยตนเอง ผ้เู รียนก็สามารถเปรียบเทียบแยกแยะข้อแตกตา่ งหาองค์ประกอบ ร่วม และมองเหน็ ความสมั พนั ธ์ของรายละเอียดทเ่ี หมือนกนั ซงึ่ จะนาไปสกู่ ารสรุปในขนั้ ตอ่ ไป สรุป ขนั้ เปรียบเทยี บ ผ้เู รียนพจิ ารณาตวั อย่างหลายๆ ตวั อยา่ ง หรือได้ลงมือทดลอง สงั เกต วเิ คราะห์ด้วยตนเอง ผ้เู รียน กส็ ามารถเปรียบเทียบแยกแยะข้อแตกตา่ งหาองค์ประกอบร่วม และมองเหน็ ความสมั พนั ธ์ของรายละเอยี ดทีเ่ หมือน กนั 4.ขัน้ สรุป สริ ิวรรณ ศรีพหล และ พนั ทพิ า อุทยั สุข (2540 : 132) กลา่ วถงึ ขนั้ สรุป ในการสรุปนนั้ ควรให้ผ้เู รียนช่วยสรุปโดย ผ้สู อนพยายามหลีกเล่ียงการสรุป เสียเอง อนิ ทริ า บณุ ยาทร (2542 : 104) กลา่ ววา่ ขนั้ สรุป คอื การสรุปประเด็นสาคญั ต่างๆ จากการสงั เกตตวั อยา่ งจนเป็น หลกั การ หรือกฎเกณฑ์ด้วยตนเองได้ เสริมศรี ลักษณศริ ิ (2540 : 279) กลา่ ววา่ ขนั้ สรุป เป็นการสรุปองค์ประกอบร่วมจากตวั อย่างตา่ งๆ ทผี่ ้เู รียนได้ สงั เกตพิจารณาทดลอง พิสจู น์ แล้วมาสรุปเป็นกฎเกณฑ์ หลกั สตู ร สตู ร นยิ าม ทฤษฎีข้อเท็จจริงหรือข้อสรุปต่าง ๆ สรุป ขนั้ สรุป เป็นการสรุปองค์ประกอบร่วมจากตวั อยา่ งตา่ งๆ ทผ่ี ้เู รียนได้สงั เกตพจิ ารณา ทดลอง พิสจู น์ แล้วมาสรุปเป็น กฎเกณฑ์ หลกั สตู ร สตู ร นยิ าม ทฤษฎี ข้อเทจ็ จริงหรือข้อสรุปต่างๆ 5.ขัน้ นาไปใช้ ไสว ฟักขาว(2535 : 95) กลา่ ววา่ ขนั้ นาไปใช้ เป็นการทดสอบความเข้าใจของผ้เู รียนเกี่ยวกบั กฎเกณฑ์ นิยาม หลกั การ หรือสตู ร ท่ผี ้เู รียนสรุปได้วา่ สามารถนาไปใช้แก้ปัญหาได้หรือไม่ โดยการให้ผ้เู รียนทาแบบทดสอบหรือ แบบฝึกหดั นายณฐั วฒุ ิ สีดา 60003126050 สาขา คอมพิวเตอร์ศกึ ษา
การสอนแบบอปุ นยั 3 เสริมศรี ลักษณศิริ (2540 : 279) กลา่ ววา่ ขนั้ นาไปใช้ เป็นขนั้ ทดสอบผ้เู รียนเก่ียวกบั ความเข้าใจกฎเกณฑ์หรือ ข้อสรุปนนั้ ๆ วา่ สามารถทจ่ี ะนาไปใช้ในการทาแบบฝึกหดั หรือนาไปใช้ในการแก้ปัญหาได้หรือไม่ สุพนิ บุญชวู งศ์ (2544 : 64-65) ขนั้ นาไปใช้ คือ ขนั้ ทดลองความเข้าใจของนกั เรียนเก่ียวกบั กฎเกณฑ์หรือข้อสรุปท่ี ได้ทามาแล้ววา่ สามารถที่จะนาไปใช้ในปัญหาหรือแบบฝึกหดั อ่นื ๆ ได้หรือไม่ สรุป ขนั้ นาไปใช้ เป็นการทดสอบความเข้าใจของผ้เู รียนเก่ียวกบั กฎเกณฑ์ นิยาม หลกั การหรือสตู รท่ผี ้เู รียนสรุปได้วา่ สามารถนาไปใช้แก้ปัญหาได้หรือไม่ โดยการให้ผ้เู รียนทาแบบทดสอบหรือแบบฝึกหดั จดุ เด่นของวิธีสอนโดยใช้การอุปนัย 1. สง่ เสริมให้ผ้เู รียนพฒั นาการคดิ วิเคราะห์และการสงั เกต 2. ผ้เู รียนสามารถค้นพบด้วยตนเอง เข้าใจและจดจารายละเอียดของเนือ้ หาได้ดี 3. ผ้เู รียนมีการสรุป จดจาบทเรียนได้นาน 4. ผ้เู รียนได้เรียนรู้และกาหนดหลกั เกณฑ์ต่างๆ ด้วยความละเอยี ดรอบคอบ ข้อเสียของวธิ ีสอนโดยใช้การอุปนัย 1. ไม่เหมาะสาหรับวิชาทม่ี เี นือ้ หาเข้าใจได้ยาก เพราะผ้เู รียนอาจสรุปกฎเกณฑ์ด้วยตวั เองไม่ได้ 2. ใช้เวลาในการสอนมาก ทาให้ผ้เู รียนเกิดความเบื่อหนา่ ย 3. ครูต้องใช้เทคนิคการสอนอยา่ งดี การสอนจงึ จะสมั ฤทธ์ิผล 4. ไมเ่ หมาะสมทจี่ ะใช้สอนวชิ าท่ีมีคณุ ค่าทางสนุ ทรียภาพ สรุปโดยรวม วธิ ีสอนโดยใช้การอปุ นยั หมายถงึ การสอนท่ีผ้สู อนลงรายละเอยี ดปลกี ย่อยกอ่ นการนาไปสหู่ ลกั การ หรือทฤษฎี ผู้ สอนอาจนาเสนอโดยการยกตวั อยา่ งหรือเหตกุ ารณ์ให้ผ้เู รียนได้เกดิ ความคดิ วเิ คราะห์จากตวั อยา่ งทใ่ี ห้ไว้เพ่ือสรุปเป็นทฤษฎี ในภายหลงั ซง่ึ จดุ ม่งุ หมายในการสอนเพ่ือสง่ เสริมให้ผ้เู รียนเกิดทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ผ้เู รียนเกิดการค้นพบด้วยตวั เอง เข้าใจ ความหมายความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ตา่ งๆ โดยมอี งค์ประกอบสาคญั ของการสอน คือ ผ้สู อนและผ้เู รียน จะต้องมีตวั อยา่ งข้อม นายณฐั วฒุ ิ สดี า 60003126050 สาขา คอมพวิ เตอร์ศกึ ษา
การสอนแบบอปุ นยั 4 หรือเหตกุ ารณ์ต่างๆ มีการวิเคราะห์ตวั อย่างต่างๆ เพ่อื หาหลกั การร่วมกนั มีข้อสรุปที่เป็นหลกั การ และต้องมีผลการเรียนรู้ของ ผ้เู รียนเป็นสาคญั วธิ ีสอนโดยการใช้อปุ นยั มีขนั้ ตอนการสอน 5 ขนั้ ตอน คือ 1. ขนั้ เตรียม ผ้สู อนต้องกาหนดจดุ มงุ่ หมายในการสอนให้กบั ผ้เู รียน 2. ขนั้ สอน ผ้สู อนนาเสนอการสอนโดยการอธิบายเนือ้ หาสนั้ ๆ แตต่ ้องยกตวั อย่างให้แก่ผ้เู รียนหลายๆ ตวั อยา่ งให้มากพอที่ผู้ เรียนจะสงั เกตพจิ ารณาและหาข้อสรุปได้ 3. ขนั้ เปรียบเทียบ ผ้เู รียนพจิ ารณาตวั อยา่ งหลายๆ ตวั อยา่ ง หรือได้ลงมือทดลอง สงั เกต วิเคราะห์ด้วยตนเอง ผ้เู รียนก็ สามารถเปรียบเทยี บแยกแยะข้อแตกตา่ งหาองค์ประกอบร่วม และมองเหน็ ความสมั พนั ธ์ของรายละเอยี ดท่ีเหมอื นกนั 4. ขนั้ สรุป เป็นการสรุปองค์ประกอบร่วมจากตวั อยา่ งตา่ งๆ ท่ผี ้เู รียนได้สงั เกตพจิ ารณาทดลอง พสิ จู น์ แล้วมาสรุปเป็นกฎ เกณฑ์ หลกั สตู ร สตู ร นยิ าม ทฤษฎี ข้อเทจ็ จริงหรือข้อสรุปตา่ งๆ และสดุ ท้าย 5. ขนั้ นาไปใช้ เป็นการทดสอบความเข้าใจของผ้เู รียนเก่ียวกบั กฎเกณฑ์ นยิ าม หลกั การ หรือสตู ร ที่ผ้เู รียนสรุปได้วา่ สามารถ นาไปใช้แก้ปัญหาได้หรือไม่ โดยการให้ผ้เู รียนทาแบบทดสอบหรือแบบฝึกหดั ข้อดขี องวธิ ีสอนโดยการใช้อปุ นยั คือ ผ้เู รียนได้พฒั นาทกั ษะการคิดวเิ คราะห์และการสงั เกตซง่ึ จะค้นพบได้ด้วย ตนเอง และจะจดจาได้นาน สว่ นข้อจากดั ของการสอนวธิ ีนี ้ คอื ใช้ได้กบั บางวชิ าเทา่ นนั้ และไม่เหมาะสาหรับเนือ้ วชิ าท่ยี าก และครูต้องใช้ เทคนิคการสอนอย่างดี การสอนจงึ จะสมั ฤทธ์ิผลและมีประสิทธิภาพ นายณฐั วฒุ ิ สีดา 60003126050 สาขา คอมพิวเตอร์ศกึ ษา
การสอนแบบอปุ นยั นายณฐั วฒุ ิ สีดา 60003126050 สาขา คอมพิวเตอร์ศกึ ษา
การสอนแบบอปุ นยั วธิ ีสอนแบบอปุ นยั (INDUCTIVE MADHOD) ความหมาย จุดมุ่งหมาย การสอนทม่ี กี ารลงรายละเอยี ด สง่ เสริมให้ผ้เู รียนเกิดทกั ษะการคิด วเิ คราะห์ สามารถเข้าใจความหมาย ค้นพบ ปลกี ยอ่ ยกอ่ นการนาไปสหู่ ลกั ความสมั พนั ธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ ได้ด้วยตนเอง อกี ทงั้ ม่งุ ให้ผ้เู รียนกระตือรือร้นตอ่ การ การหรือทฤษฎี โดยอาจจะใช้ เรียนการรู้ด้วย กรณีตวั อย่างข้อมลู หรือเหตุ การณ์ต่างๆ มาใช้เพือ่ ให้ผ้เู รียน ขัน้ ตอน ได้ศกึ ษาวิเคราะห์จนสามารถ สรุปเป็นหลกั การของตนเองได้ 1. ขนั้ เตรียม อยา่ งถกู ต้อง 2. ขนั้ สอนหรือขนั้ แสดง 3. ขนั้ เปรียบเทียบและรวบรวม 4. ขนั้ สรุป 5. ขนั้ นาไปใช้ นายณฐั วฒุ ิ สดี า 60003126050 สาขา คอมพิวเตอร์ศกึ ษา
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: