38 การมีงานทาและรายได้ โครงสรา้ งของกาลังแรงงาน ปี 2560 จงั หวดั สระแก้วมีประชากรท่มี ีอายุ 15 ปขี ึ้นไปจ้านวน 478,683 คน เป็นผู้ทีอ่ ยู่ ในก้าลังแรงงาน 302,863 คน ประกอบด้วยผู้มีงานท้า 292,094 คน ผู้ว่างงาน 6,282 คน ผู้ท่ีรอฤดูกาล 4,486 คน ส่วนผทู้ ี่ไม่อยใู่ นก้าลังแรงงาน มี 175,820 คน แผนภาพที่ 1 การจาแนกประชากรตามสถานภาพแรงงานเฉลี่ย ปี 2560 ผมู้ อี ายุ 15 ปีข้ึนไป 478,683 คน ผ้ไู มอ่ ยู่ในกำลงั แรงงำน ผู้อยู่ในกำลงั แรงงำน 175,820 คน 302,863 คน ทำงำนบ้ำน ผ้มู ีงำนทำ 59,770 คน 292,094 คน เรียนหนังสอื ผูว้ ่ำงงำน 27,496 คน 6,282 คน อ่ืนๆ ผู้ทร่ี อฤดูกำล 88,555 คน 4,486 คน ที่มา: ส้านกั งานสถิตจิ งั หวดั สระแกว้ , 2561 ภาวะการมีงานทาของประชากร เมอื่ พิจารณาตามประเภทอตุ สาหกรรมหรือลักษณะของการประกอบกิจกรรมของผมู้ ีงานท้า ในเชิงเศรษฐกิจ พบว่า ผู้ท้างานส่วนใหญ่ท้างานนอกภาคเกษตรกรรมร้อยละ 64.7 (ชายร้อยละ 52.06 หญิง ร้อยละ 48.0) และท้างานในภาคเกษตรกรรมร้อยละ 35.30 (ชายร้อยละ 38.1 หญิงร้อยละ 31.4) โดยผู้ที่ ท้างานนอกภาคเกษตรกรรม ส่วนใหญ่ท้างานในสาขาการขายส่ง และการขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์และ รถจักรยานยนต์ร้อยละ 20.6 รองลงมาคือ สาขาการผลิต ร้อยละ 11.9 สาขาการก่อสร้าง ร้อยละ 7.0 สาขาท่ี พกั แรมและบริการด้านอาหาร ร้อยละ 5.9 สาขาการบริหารราชการ การปอ้ งกันประเทศ และการประกนั สังคมภาค บังคับ ร้อยละ 5.8 ท่ีเหลือกระจายอยู่ในอุตสาหกรรมอ่ืนๆ
39 แผนภูมิที่ 5 รอ้ ยละของผ้มู งี านทา จาแนกตามอุตสาหกรรมทสี่ าคัญเฉลยี่ ปี 2560 40 35 30 25 20 15 10 5 0 ทม่ี า: ส้านกั งานสถิตจิ ังหวัดสระแกว้ , 2561 สถานภาพการทางาน จากการสา้ รวจสถานภาพการทา้ งาน พบว่า ผู้มีงานท้าส่วนใหญ่ท้างานในฐานะลูกจ้างมาก ท่ีสุด ร้อยละ 43.7 (ลกู จา้ งเอกชนร้อยละ 31.0 และลูกจา้ งรฐั บาลรอ้ ยละ 12.7) รองลงมาทา้ งานส่วนตวั โดย ไม่มีลกู จ้าง ร้อยละ 36.0 ชว่ ยธุรกจิ ในครวั เรือนโดยไมไ่ ดร้ บั คา่ จา้ งร้อยละ 17.6 มสี ถานภาพเป็นนายจา้ ง รอ้ ยละ 2.7 และทา้ งานเป็นการรวมกลมุ่ รอ้ ยละ 0.1 แผนภูมทิ ี่ 6 รอ้ ยละของผู้มงี านทา จาแนกตามสถานภาพการทางานเฉลย่ี ปี 2560 17.6 31.0 36.0 43.7 12.7 2.7 นายจา้ ง ทางานสว่ นตัว ชว่ ยธุรกิจครัวเรือน ลกู จา้ งรฐั บาล ลกู จา้ งเอกชน ทม่ี า: สา้ นักงานสถติ จิ ังหวัดสระแกว้ , 2561
40 ภาวะการว่างงานของประชากร ปี 2560 จังหวัดสระแก้ว มีผู้ว่างงานเฉล่ีย จ้านวน 6,282 คน โดยเป็นชายจ้านวน 4,535 คน หญิงจ้านวน 1,747 คน เมื่อพิจารณาถึงอัตราการว่างงาน จังหวัดสระแก้วมีอัตราการว่างงานร้อยละ 2.1 โดยชายมีอัตราการว่างงานรอ้ ยละ 2.6 และหญงิ มอี ัตราการวา่ งงานรอ้ ยละ 1.3 ตารางท่ี 45 จานวนและอัตราการว่างงาน จาแนกตามเพศ หน่วย : คน เพศ ผู้อยู่ในกาลัง ผู้ว่างงาน อัตราการ แรงงาน ว่างงาน รวม 302,863 6,282 2.1 ชาย 174,423 4,535 2.6 หญิง 134,385 1,747 1.3 หมายเหตุ : อัตราการว่างงาน = ผู้ว่างงาน x 100 ผู้อยู่ในกา้ ลังแรงงาน ที่มา: สา้ นักงานสถิติจังหวัดสระแก้ว โครงการสระแกว้ เมืองแหง่ ความสขุ ภายใต้ 4 ดี วถิ ีพอเพียง (Sa Kaeo Happiness Model) โครงการสระแก้วเมืองแห่งความสุข ภายใต้ 4 ดี วิถีพอเพียง (Sa Kaeo Happiness Model) เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ ด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมท้างานยึด ประชาชนและพื้นท่ีเป็นเป้าหมายร่วมกัน เพ่ือให้ประชาชนเป็นคนดี สุขภาพดี รายได้ดีและส่ิงแวดล้อมดี บน ฐานปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียง เน้นการแก้ไขตามปัญหาตามบริบทของแต่ละพ้ืนท่ีเป็นหลัก เพ่ือน้าไปสู่ “ต้าบลแห่งความสุข ภายใต้ 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง” โดยมตี ้าบลต้นแบบอา้ เภอละ 1 ตา้ บล รวม 9 ตา้ บล ซงึ่ จาก การดา้ เนินงานมา 1 ปไี ดเ้ กดิ การขับเคล่ือนการด้าเนินงานในทุกระดับ ทุกภาคสว่ น มีผลงานเดน่ มากมาย อาทิ ต้าบลบ้านแก้ง อ้าเภอเมืองสระแก้ว ได้น้าธรรมนูญสุขภาพต้าบลมาเป็นมาตรการในการขับเคล่ือน , ต้าบลทับ พริก อ้าเภออรัญประเทศ ในเรื่องการบริหารจัดการต้าบลสุขภาวะ สุขภาพดีแบบองค์รวม ,ต้าบลห้วยโจด อ้าเภอวัฒนานคร เรื่องเกษตรอินทรีย์ ,ต้าบลวังทอง อ้าเภอวังสมบูรณ์ เร่ืองต้าบลปลอดถังขยะ ประปาภูเขา การปลูกผักปลอดสารพิษ การบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพต้าบล ,ต้าบลตาหลังใน อ้าเภอวังน้า เย็น เรื่อง หมู่บ้านสุขภาพดี วิถีชีวิตไทย ,ต้าบลพระเพลิง อ้าเภอเขาฉกรรจ์ เรื่องหมู่บ้านสุขภาพดี วิถีชีวิตไทย และการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพต้าบลและหมู่บ้านรักษาศีล 5 ,ต้าบลคลองไก่เถ่ือน อ้าเภอ คลองหาด เรื่องการสร้างรายได้จากการปลูก ผลิต และจ้าหน่ายสมุนไพร , ต้าบลหนองแวง อ้าเภอโคกสูงและ ต้าบลทัพไทย อ้าเภอตาพระยา เร่ืองถนนสายบุญเก้ือหนุนสังคมและหมู่บ้านรักษาศีล 5 การส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคตามกลุ่มวัยเพ่ือไม่ให้ป่วย ด้วยการออกก้าลังกายเป็นประจ้า ใช้ภูมิปัญญาไทยดูแลสุขภาพ ตนเอง ส้าหรับการพัฒนาสู่รายได้ดี โดยการท้าให้ครอบครัวมีความอบอุ่นเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางสังคม ท้าบัญชี ครัวเรือนและเก็บออม เพิ่มรายรับ ด้วยการใช้จ่ายอย่างประหยัดและพ่ึงตนเอง ลดรายจ่าย ด้วยการใช้ปุ๋ย อินทรีย์ ลด ละ เลิก การใช้ปุ๋ยและสารเคมีและใช้พลังงานทดแทน ส่วนในด้านส่ิงแวดล้อมดี โดยการท้าให้ บ้านเรือน ชุมชนและหน่วยงานมีความสะอาด ปลอดภัย มีพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ มีสวนสุขภาพและลานกีฬา ต้านยาเสพติด เพิ่มพ้ืนที่สีเขียวและป่าชุมชน มีตลาดนัดสุขภาพ ตลาดสดสุขภาพและร้านค้าสุขภาพ เป็นต้น และมีแนวทางในการขับเคล่ือน 4 ดีวิถีพอเพียง ด้านคนดี จะส่งเสริมให้ทุกหมู่บ้าน โรงเรียน หน่วยงานรักษา ศีล 5 และรณรงค์ให้มีกิจกรรมท่ีเอ้ือต่อการเป็นคนดี เช่น ถนนสายบุญ เก้ือหนุนสังคม ปฏิบัติธรรม งานบุญ ปลอดเหล้า งานเศร้าปลอดอบายมุข ลด ละ เลิก บุหร่ี สุรา ยาเสพติด ในการพัฒนาด้านสุขภาพดี โดยการ ด้าเนินงานโครงการสระแก้วเมืองแห่งความสุขภายใต้ 4 ดีวิถีพอเพียง ได้ก้าหนดทิศทางและเสริมสร้างกลไก
41 การบูรณาการความร่วมมือ ในการส่งเสริมศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เข้มแข็งไปสู่การ เปลย่ี นแปลงทุนมนุษยแ์ ละคณุ ภาพสังคมทด่ี ีกว่าเดิม บนฐานเศรษฐกิจแบบพอเพียงอย่างสมดุลเพ่ือน้าไปสู่การ มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสังคมคุณภาพ ซึ่งเป็นการท้างานแบบบูรณาการของทุกภาคส่วน โดยยึดประชาชนใน พืน้ ทีเ่ ปน็ เปา้ หมายรว่ มกันในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนเป็นคนดี สุขภาพดี รายไดด้ แี ละส่ิงแวดล้อมดี ปัจจัยแหง่ ความสาเร็จ ปัจจัยแห่งความส้าเร็จ ท่ีท้าให้การบริหารงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสระแก้ว เป็นไป อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและประสิทธผิ ล ๑) มีการบูรณาการภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาค ประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม-สื่อมวลชน และภาควิชาการ ๒) จัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีให้แก่ ส่วนราชการ/หน่วยงานได้มีโอกาส พบปะ แลกเปล่ียนความคิดเห็นกันอย่างสม่้าเสมอ เช่น กิจกรรมของชมรมดอกแก้ว การจัดกิจกรรม “สภา กาแฟ”กิจกรรมการแข่งขันกีฬาเช่ือมความสัมพันธ์และนันทนาการ รวมตลอดถึง การจัดกิจกรรมเพ่ือเช่ือม ความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีกับประเทศเพ่ือนบ้าน (กัมพูชา) ด้านจังหวัดบันเตียเมียนเจย จังหวัดพระ- ตะบอง อ้าเภอชายแดนอ่นื ๆ ทม่ี เี ขตตดิ ต่อกับพ้ืนทขี่ องจงั หวัดสระแกว้ ด้วย ๓) เน้นการส่ือสารแบบสองทาง (Two-way communication) เช่นการจัดรายการ“บอกกล่าว เล่าเรื่องเมืองสระแก้ว” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสระแก้ว ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ ที่มีช่วงเวลาเปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้แจ้งข้อมูล ร่วมแสดงความคิดเห็น หรือตอบค้าถามต่างๆ กับผู้ว่าราชการ จังหวดั สระแกว้ โดยตรงอย่างใกล้ชิด ๔) เน้นการแก้ไขปัญหาเชิงรุก เช่น การจัดกิจกรรม “หน่วยบ้าบัดทุกข์ บ้ารุงสุข สร้างรอยยิ้ม ให้แก่ประชาชน” ตามโครงการ “สระแก้วผูกใจประสาน ให้บริการประชาชน” เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการ/ หน่วยงานได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านและเข้าไปรับฟังปัญหาความเดือดร้อน เพ่ือหาแนวทางแก้ไขปัญหา ร่วมกัน รวมทั้งได้น้างานหรือบริการต่างๆ ไปบริการประชาชนในพ้ืนท่ี นอกจากนี้ ยังได้มีช่องทางเพ่ือให้ ประชาชนสามารถร้องเรียน/ร้องทุกข์ ผ่าน “ผู้ว่าฯ เล่าเรื่องเมืองสระแก้ว” ทาง www.sakaeo.go.th โดยให้ ส่วนราชการที่เกย่ี วขอ้ งเข้าไปตรวจสอบและตอบกระท้/ู แก้ไขปญั หาให้กบั ประชาชนได้อยา่ งรวดเร็ว และทนั ต่อ สถานการณ์ ๕) เน้นการทา้ งานเป็นทีม ภายใต้กรอบแนวคิดและคา่ นิยมสรา้ งสรรค์ของจังหวดั สระแก้ว ทวี่ า่ “ยดึ มั่นความดี มีศลี ธรรม ท้างานเป็นทีม ส่คู วามส้าเร็จ” 4. ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ทรัพยากรปา่ ไม้ จังหวดั สระแก้ว มเี น้ือทที่ ั้งหมด 4,496,962 ไร่ ปี 2559 พบว่ามีพนื้ ทีป่ ่าท้ังหมด 923,796.63 ไร่ (กรม ป่าไม้, 2561) โดยเป็นพ้ืนที่ป่าสงวน จ้านวน 11 แห่ง พื้นท่ีป่าอนุรักษ์ จ้านวน 3 แห่ง ปัญหาส้าคัญที่เก่ียวข้องกับ ทรัพยากรป่าไม้ คือ ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนถูกบุกรุก เนื่องจากความต้องการท่ีดินของประชาชน พ้ืนที่ป่าไม้มี สภาพเสอ่ื มโทรมเพมิ่ ข้นึ พนื้ ท่ีปา่ สงวนแหง่ ชาติ จานวน 11 แหง่ ไดแ้ ก่ (1) ปา่ สักทา่ ระพา ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี 203 (พ.ศ. 2507) ออกมาตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองและ สงวนป่า พุทธศักราช 2481 ลงวันท่ี 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2507 ก้าหนดให้ป่าสักท่าระพา ในท้องที่ต้าบลบ้านแก้ง อา้ เภอสระแก้ว จงั หวดั ปราจนี บรุ ี เปน็ ปา่ สงวนแหง่ ชาติ รวมเนือ้ ท่ปี ระมาณ 38.75 ไร่ เนอ่ื งจากมีไม้ยาง ไม้ตะเคยี น
42 ไม้ตะแบก ไม้สัก และไม้ชนิดอื่น ซ่ึงเป็นไม้ชนิดดีมีค่าข้ึนอยู่เป็นปริมาณมาก เน้ือท่ีมีลักษณะเหมาะสมและจ้าเป็นต้อง สงวนไวใ้ ห้เป็นป่าไม้โดยถาวรตลอดไป เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจและการครองชีพของประชาชน อันจะมีประโยชน์ มากยิง่ กว่าจะใชเ้ ปน็ ทด่ี นิ ในปา่ เพ่อื ประกอบกจิ การอย่างอนื่ (2) ปา่ เขาฉกรรจฝ์ ่งั เหนอื ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี 24 (พ.ศ. 2507) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ. 2507 ลงวันท่ี 15 ธันวาคม พ.ศ. 2507 ก้าหนดให้ป่าเขาฉกรรจ์ฝ่ังเหนือ ในท้องท่ีต้าบลท่าข้าม ต้าบลเมืองไผ่ ต้าบลหันทราย อ้าเภออรัญประเทศ ต้าบลโคกสูง อ้าเภอตาพระยา และต้าบลช่องกุ่ม ต้าบลหนองน้าใส ต้าบลโนนหมากเค็ง อ้าเภอวัฒนานคร จังหวัดปราจีนบุรี เป็นป่าสงวนแห่งชาติ รวมเน้ือที่ประมาณ 32,100 ไร่ เน่ืองจากมีไมเ้ ต็ง ไม้รงั ไมแ้ ดง ไม้มะค่า และไม้ชนิดอน่ื ซ่งึ มีค่าจา้ นวนมาก และมีของปา่ กับทรพั ยากรธรรมชาติอนื่ ดว้ ย (3) ป่าแก่งดนิ สอ ปา่ แกง่ ใหญ่ และป่าเขาสะโตน ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 239 (พ.ศ. 2510) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ. 2507 ลงวนั ท่ี 20 ตุลาคม พ.ศ. 2510 ได้กา้ หนดให้ป่าแก่งดินสอ ป่าแกง่ ใหญ่ และป่าเขาสะโตน ในท้องท่ีต้าบลทุ่งโพธ์ิ อ้าเภอกบินทร์บุรี ต้าบลบ้านแก้ง ต้าบลโคกป่ีฆ้อง ต้าบลท่าแยก อ้าเภอสระแก้ว และต้าบลหนองน้า ใส ต้าบลช่องกุ่ม อ้าเภอวัฒนานคร จังหวัดปราจีนบุรี เป็นป่าสงวนแหง่ ชาติ รวมเนื้อท่ีประมาณ 683,750 ไร่ เพ่ือรักษาสภาพป่าไม้ ของป่า และทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ เน่ืองจากป่าแห่งนี้มีไม้ยาง ไม้ตะเคียน ไม้เคี่ยม ไม้กระบาก และไม้ชนิดอื่น ซึ่งมีค่าจ้านวนมาก และมีของป่ากับทรัพยากรธรรมชาติอ่ืน ต่อมาในปี 2521 ได้มียกเลิกกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 239 ดงั กล่าว และไดอ้ อกกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 812 (พ.ศ.2521) ออกตามความในพระราชบัญญตั ปิ ่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ. 2507 ลงวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2521 ได้ยกเลิกประกาศกระทรวงเกษตร ฉบับที่ 239 แล้วได้ก้าหนดให้ ท้องท่ีต้าบลทุ่งโพธ์ิ กิ่งอ้าเภอนาดี อ้าเภอกบินทร์บุรี ต้าบลบ้านนา อ้าเภอกบินทร์บรุ ี ต้าบลบ้านแก้ง ต้าบลโคกป่ีฆอ้ ง ต้าบลท่าแยก อ้าเภอสระแก้ว และต้าบลหนองน้าใส ต้าบลช่องกุ่ม อ้าเภอวัฒนานคร จังหวัดปราจนี บุรี เป็นป่าสงวน แหง่ ชาติ เน่ืองจากตามมตคิ ณะรฐั มนตรีเม่ือวันที่ 22 กันยายน 2513 จงั หวัดปราจนี บรุ ีไดข้ อก้าหนดป่าเขาปลาก้าง ผนวกเข้ากับป่าสงวนแห่งชาติแปลงเดิม ซ่ึงรวมเน้ือที่ท้ังสองแล้ว จะมีเน้ือที่ทั้งหมดประมาณ 705,109 ไร่ เปน็ ปา่ สงวนแห่งชาติ (4) ป่าโคกสงู ตามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 259 (พ.ศ. 2510) ออกตามความในพระราชบัญญัตปิ ่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ลงวันท่ี 15 ธันวาคม 2510 ได้ก้าหนดให้ป่าโคกสูง ในท้องท่ีต้าบลหนองน้าใส ต้าบลช่องกุ่ม อ้าเภอวัฒนานคร และต้าบลตาพระยา ต้าบลโคกสูง อ้าเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี เป็นป่าสงวนแห่งชาติ รวมเนื้อที่ประมาณ 416,484 ไร่ เนอื่ งจากมีไมเ้ ตง็ และไม้อน่ื ๆ ซึง่ มคี า่ จ้านวนมาก และมีของปา่ กับทรัพยากรธรรมชาตอิ นื่ ด้วย (5) ปา่ ท่ากะบาก ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 330 (พ.ศ. 2511) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ. 2507 ลงวันท่ี 15 กรกฎาคม 2511 ได้ก้าหนดให้ป่าท่ากระบาก ในท้องที่ต้าบลท่าแยก ต้าบลท่าเกษม อ้าเภอสระแก้ว และต้าบลโนนหมากเค็ง ต้าบลหนองน้าใส ต้าบลช่องกุ่ม อ้าเภอวัฒนานคร จังหวัดปราจีนบุรี เป็นป่าสงวนแห่งชาติ รวมเนื้อท่ีประมาณ 425,000 ไร่ เนื่องจากมีไม้ยาง ไม้ตะเคียน ไม้เค่ียม ไม้พยุง และไม้ชนิดอ่ืน ซึ่งมีค่าจ้านวนมาก และมีของป่ากับทรัพยากรธรรมชาติอื่นด้วย ต่อมาในปี 2528 ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี 1,111 (พ.ศ. 2528) พบว่าพนื้ ทป่ี ่าสงวนแห่งชาติท่ากระบากเดิม มีแนวเขตไม่ถูกต้องและกรมปา่ ไม้มีความประสงคจ์ ะกันพ้ืนท่ี บางส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติดังกล่าว เพ่ือให้ราษฎรที่ได้เข้าครอบครองอาศัยอยู่ก่อนมีการก้าหนดให้เป็น ป่าสงวนแห่งชาตไิ ด้สทิ ธิในท่ีดนิ ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 นอกจากนี้ บริเวณป่าสงวนแหง่ ชาตนิ ี้ ยงั ครอบคลมุ พ้ืนท่ีบางส่วนของอุทยานแหง่ ชาติตามพระกฤษฎีกาก้าหนดบริเวณท่ดี ินป่าแกง่ ดนิ สอ ป่าแก่งใหญ่ ป่าเขาสะโตน และปา่ ท่ากระบาก ในท้องทตี่ า้ บลแกง่ ดนิ สอ อ้าเภอนาดี ต้าบลบา้ นแก้ง ตา้ บลท่าแยก ตา้ บลโคกปฆ่ี ้อง
43 อ้าเภอสระแก้ว และต้าบลหนองน้าใส ต้าบลช่องกุ่ม อ้าเภอวัฒนานคร จังหวัดปราจีนบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2525 จงึ ไดม้ ีการยกเลิกกฎกระทรวงฉบบั เดิม และไดก้ า้ หนดให้ป่าท่ากระบากในต้าบลช่องกุ่ม ต้าบลหนองน้าใส ต้าบลโนนหมากเคง็ อา้ เภอวฒั นานคร และตา้ บลท่าแยก ต้าบลทา่ เกษม อ้าเภอสระแก้ว จงั หวดั ปราจนี บรุ ี เปน็ ป่าสงวนแห่งชาติ รวมเนือ้ ท่ปี ระมาณ 281,930 ไร่ (6) ป่าหว้ ยไคร้ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 373 (พ.ศ. 2511) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวน แหง่ ชาติ พ.ศ. 2507 ลงวนั ที่ 4 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2511 ไดก้ ้าหนดให้ในท้องที่ต้าบลย่านรี ตา้ บลวงั ตะเคียน อ้าเภอกบินทร์บุรี และต้าบลเขาฉกรรจ์ อ้าเภอสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี เป็นป่าสงวนแห่งชาติ รวมเน้ือที่ประมาณ 466,300 ไร่ เนื่องจากป่าแห่งนี้มีไม้ยาง ไม้ตะเคียน ไม้ตะแบก ไม้มะค่า และไม้ชนิดอ่ืน ซ่ึงมีค่าจ้านวนมาก และมขี องปา่ กบั ทรพั ยากรธรรมชาติอนื่ ด้วย (7) ปา่ ตาพระยา ตามกฎกระทรวง ฉบับ 497 (พ.ศ. 2515) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวน แหง่ ชาติ พ.ศ. 2507 ลงวันท่ี 17 พฤศจกิ ายน 2515 ได้ก้าหนดให้ปา่ ตาพระยา ในทอ้ งทีต่ ้าบลช่องกุ่ม อ้าเภอวฒั นานคร และต้าบลทัพเสด็จ ต้าบลตาพระยา อ้าเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี เป็นป่าสงวนแห่งชาติ รวมเนื้อท่ีประมาณ 336,950 ไร่ เน่อื งจากป่าตาพระยามีไมเ้ ต็ง ไม้รัง ไม้แดง ไมต้ ะเคยี น ไม้มะค่า และไม้ชนดิ อนื่ ทม่ี ีคา่ จ้านวนมาก (8) ปา่ เขาฉกรรจ์ ป่าโนนสาวเอ้ ปา่ ปลายคลองหว้ ยไคร้ และปา่ พระสทงึ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 1,088 (พ.ศ. 2527) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ. 2507 ลงวนั ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 ก้าหนดให้ปา่ เขาฉกรรจ์ ป่าโนนสาวเอ้ ป่าปลายคลองหว้ ยไคร้ และปา่ พระสทงึ ในทอ้ งทีต่ า้ บลทา่ เกษม ตา้ บลสระแก้ว ต้าบลเขาฉกรรจ์ อ้าเภอสระแก้ว ตา้ บลท่าเกวียน ต้าบลวฒั นานคร ต้าบลผักขะ ต้าบลไทรเด่ียว ต้าบลซับมะกรูด ต้าบลคลองหาด ต้าบลไทยอุดม อ้าเภอวัฒนานคร ต้าบลเมืองไผ่ ต้าบลผ่าน ศึก อ้าเภออรัญประเทศ และต้าบลตาหลังใน ต้าบลวังน้าเย็น ต้าบลวังสมบูรณ์ ต้าบลวังใหม่ อ้าเภอวังน้าเย็น จังหวัด ปราจีนบุรี เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เน้ือท่ีประมาณ 1,072,500 ไร่ เนื่องจากมีไม้ยาง ไม้ตะเคียน ไม้ตะแบก ไม้มะค่า ไม้ชัน ไมเ้ คีย่ มแดง ไม้ประดู่ ไม้กนั เกรา และไม้ชนิดอ่นื ทมี่ ีค่าจา้ นวนมาก และมีของปา่ กับทรพั ยากรธรรมชาตอิ ืน่ ดว้ ย (9) ปา่ ท่าแยก ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี 1,114 (พ.ศ. 2528) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ. 2507 ลงวนั ที่ 7 สงิ หาคม พ.ศ. 2528 ก้าหนดให้ปา่ ท่าแยก ในทอ้ งทีต่ ้าบลโคกป่ีฆ้อง และตา้ บลท่าแยก อ้าเภอสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี เป็นป่าสงวนแห่งชาติ รวมเนื้อที่ประมาณ 37,031 ไร่ เน่ืองจากมีไม้ประดู่ ไม้เหยี ง ไม้พลวง ไม้เตง็ ไมร้ งั และไม้ชนดิ อน่ื ท่มี ีคา่ จ้านวนมาก และมีของป่ากบั ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ื่นด้วย (10) ป่าวัฒนานคร ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 1,130 (พ.ศ. 2528) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ.2507 ลงวันท่ี 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 ก้าหนดให้ป่าวัฒนานคร ในท้องท่ีต้าบลหนองน้าใส ต้าบลโนนหมากเค็ง และต้าบลวัฒนานคร อ้าเภอวัฒนานคร จังหวัดปราจีนบุรี รวมเนื้อท่ีประมาณ 81,937 ไร่ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เนื่องจากมีไม้เต็ง ไม้รัง ไม้เหียง ไม้พลวง และไม้ชนิดอื่นท่ีมีค่าจ้านวนมาก และมีของป่ากับ ทรัพยากรธรรมชาติอ่ืนด้วย (11) ป่าแควระบม และป่าสียัด ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 110 (พ.ศ. 2509) ออกตามความพระราชบัญญัติป่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ. 2507 ลงวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2509 ก้าหนดให้ป่าแควระบมและป่าสียัด ในท้องท่ีต้าบลวังเย็น อ้าเภอบางคล้า และต้าบลเกาะขนุน ต้าบลคู้ยายหมี ต้าบลท่าตะเกียบ ต้าบลท่ากระดาน อ้าเภอพนมสารคาม จงั หวัดฉะเชิงเทรา รวมเน้ือทปี่ ระมาณ 1,753,125 ไร่ เปน็ ปา่ สงวนแห่งชาติ เนื่องจากปา่ แห่งน้ี มีไม้ยาง ไมต้ ะเคียน
44 ไม้เค่ียม ไม้แดง ไม้พยุง ไม้เต็ง ไม้รัง และไม้ชนิดอ่ืน ๆ ท่ีมีค่าเป็นจ้านวนมาก และมีของป่ากับทรัพยากรธรรมชาติ อ่ืนด้วย พืน้ ทป่ี า่ อนรุ กั ษ์ จานวน 3 แห่ง ได้แก่ (1) อุทยานแห่งชาตปิ างสีดา อุทยานแห่งชาติปางสดี า มีพื้นที่ครอบคลุมอ้าเภอตาพระยา อ้าเภอวฒั นานคร อ้าเภอเมือง สระแกว้ จงั หวดั สระแก้ว และอ้าเภอนาดี จงั หวดั ปราจนี บุรี มีสภาพปา่ อุดมสมบรู ณ์ประกอบด้วยทรัพยากรท่ีส้าคัญ และมีคา่ มีสภาพธรรมชาติ และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติท่สี วยงาม มีเนื้อทปี่ ระมาณ 527,500 ไร่ หรือ 844 ตารางกโิ ลเมตร อทุ ยานแห่งชาติปางสดี าไดถ้ ูกจัดต้งั ขนึ้ เพอ่ื สนองพระราชด้าริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ตามโครงการพฒั นาพนื้ ท่ีราบเชิงเขาจังหวัดจันทบุรี – สระแกว้ โดยมพี ระราชกฤษฎีกา ก้าหนดบริเวณที่ดินป่าแก่งดินสอ ป่าแก่งใหญ่ ป่าเขาสะโดน และป่ากะบาก ในท้องท่ีต้าบลแก่งดินสอ อ้าเภอนาดี ต้าบลบ้านแก้ง ต้าบลท่าแยก ต้าบลโคกป่ีฆ้อง อ้าเภอสระแก้ว และต้าบลหนองน้าใส ต้าบลช่องกุ่ม อ้าเภอวัฒนานคร จังหวัดปราจีนบุรี ซ่ึงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 99 ตอนที่ 24 ลงวันท่ี 22 กุมภาพันธ์ 2525 เน้ือท่ีประมาณ 527,500 ไร่ ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ส้าคัญและมีค่า เช่น ป่าไม้ ของป่า และสัตว์ป่านานาชนิด รวมท้งั มสี ภาพแวดล้อมท่ีสวยงามหลายแห่ง จึงไดถ้ กู ก้าหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาตติ ามพระราชบัญญตั ิอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อมให้คงอยู่เช่นเดิม มิให้ถูกท้าลายหรือเปลี่ยนสภาพ เพื่อประโยชน์ในการพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน เพ่ือการศึกษาค้นคว้า และเพื่ออ้านวยประโยชน์อ่ืนแก่รัฐ และประชาชน สภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีพืชพรรณไม้หลายชนิด ประกอบด้วย ป่าดิบชื้น ป่าดบิ แล้ง ปา่ ดบิ เขา ปา่ ผสมผลดั ใบ ปา่ เต็งรงั และป่าทงุ่ หญ้า ซ่งึ เหมาะสมทจ่ี ะรักษาไว้เพื่อการศึกษาวิจัยในด้านป่า ไม้ สัตว์ป่า ด้านการท่องเที่ยว จุดเด่นท่ีน่าสนใจ ได้แก่ น้าตกปางสีดา น้าตาผาตะเคียน กลุ่มน้าตกแควมะค่า กลุ่ม น้าตกถ้าค้างคาว ภูเขาเจดีย์ แหล่งดูนกน้าอ่างเก็บน้าพระปรง แหล่งดูผีเส้ือ ปัจจุบันได้รวมผืนป่า 5 ผืนป่า ประกอบด้วย อทุ ยานแห่งชาติเขาใหญ่ ปางสีดา ทับลาน ตาพระยา และเขตรักษาพันธ์สุ ัตว์ป่าดงใหญ่ เนอ้ื ทีป่ ระมาณ 3.8 ล้านไร่ เรียกว่า “ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่” และได้ประกาศเป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ แห่งที่ 2 ของประเทศ ไทย” เมือ่ วนั ท่ี 14 กรกฎาคม 2548 ภาพที่ 4 อทุ ยานแหง่ ชาตปิ างสีดา และนา้ ตกปางสดี า (2) อุทยานแหง่ ชาติตาพระยา อุทยานแห่งชาติตาพระยา เป็นส่วนหนึ่งในเทือกเขาพนมดงรัก ตั้งอยู่ในแนวทิศ ตะวันออกไปทางทิศตะวันตก ระหว่างเส้นรุ้งที่ 14 องศา 5 ลิปดาเหนือ ถึง 14 องศา 22 ลิปดาเหนือ และเส้นแวงท่ี 102 องศา 30 ลปิ ดาตะวนั ออก ถึง 103 องศา 14 ลิปดาตะวันออก หรอื บรเิ วณของดา้ นทิศใตข้ องที่ราบสูงโคราช มี เน้ือท่ีทั้งสิ้นประมาณ 371,250 ไร่ หรือ 594 ตารางกิโลเมตร โดยครอบคลุมเน้ือท่ี 2 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว
45 และบุรีรัมย์ อย่หู า่ งจากกรุงเทพมหานครไปทางทศิ ตะวันออก ประมาณ 380 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดตอ่ กับประเทศ กมั พชู า อทุ ยานแหง่ ชาตติ าพระยาไดป้ ระกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎกี าก้าหนดบรเิ วณที่ดินป่าบ้าน กรวด แปลงที่ห้า และป่าดงใหญ่ ในท้องท่ีต้าบลบึงเจริญ ต้าบลจันทบเพชร ต้าบลสายตะกู ต้าบลหนองไม้งาม ต้าบล ปราสาท อ้าเภอบ้านกรวด ต้าบลโนนดินแดง ต้าบลล้านางรอง ก่ิงอ้าเภอโนนดินแดง อ้าเภอละหานทราย ต้าบล ส้าโรงใหม่ ต้าบลหนองแวง ต้าบลตาจง อ้าเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ และป่าตาพระยา ในท้องท่ีต้าบลทัพราช ต้าบลทัพไทย อ้าเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 113 ตอนท่ี 65 ก ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2539 เป็นอุทยานแห่งชาติ ล้าดับที่ 82 ซ่ึงมีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์เป็นป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และป่าเตง็ รัง ภาพท่ี 5 อุทยานแห่งชาติตาพระยา (3) เขตรักษาพันธุ์สตั วป์ า่ เขาอา่ งฤาไน เขตรักษาพันธ์ุสตั วป์ ่าเขาอ่างฤาไน เปน็ ส่วนหนงึ่ ของป่าสงวนแห่งชาตปิ ่าแควระบม-สียัด ซ่ึงอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ติดกับบริเวณรอยต่อของจังหวัดปราจีนบุรี (ปัจจุบันจังหวัดสระแก้ว) จังหวัดจันทบุรี จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรี ประกาศตามพระราชกฤษฎีกาก้าหนดให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เมื่อ พ.ศ. 2520 รวมเน้ือท่ี 67,562.5 ไร่ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มท่ี 94 ตอนท่ี 95 ลงวันท่ี 11 ตุลาคม 2520 มีหน่วยพิทักษ์ป่า 4 หน่วย ท้ังนี้ เพ่ืออนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าไม่ให้ถูกท้าลายเพิ่มขึ้นและหมดไป เพราะการเพ่ิมของพลเมืองท่ีต้องการพ้ืนที่เพ่ือท้ากิน และเก็งก้าไรเพ่ือผลประโยชน์ต่าง ๆ โดยไม่ค้านึงถึงผลเสียหาย ตอ่ สว่ นรวมที่รนุ แรงกว่าท้งั ทางตรงและทางอ้อม ดงั นน้ั เพื่อรกั ษาป่าทย่ี ังอุดมสมบรู ณ์ทง้ั ทรัพยากรปา่ ไม้และสัตว์ป่า และแหล่งต้นน้าลา้ ธารของรอยต่อ 5 จังหวัด โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตวป์ ่า ในพื้นที่รอยตอ่ 5 จังหวัด จึงได้ด้าเนินการให้รัฐบาลประกาศพระราชกฤษฎีกาขยายพ้ืนที่เขตรักษาพันธ์ุสตั ว์ป่าเขาอ่างฤาไน เพ่ิมอีก 5 แสนกว่าไร่ รวมเป็น 643,750 ไร่ เมื่อปี พ.ศ. 2535 โดยผนวกพ้ืนที่รอยต่อของจังหวัดสระแก้ว จังหวัดจันทบุรี จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรี บางส่วนเข้ามาร่วมอยู่ด้วยและพื้นท่ีดังกล่าวเดิมเป็นป่าสงวนแห่งชาติของจังหวัดน้ัน ๆ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเล่มท่ี 109 ตอนท่ี 126 ลงวันท่ี 30 ธันวาคม 2535 ปัจจุบนั สภาพป่าของเขตรักษาพันธุ์ สตั วป์ า่ เขาอ่างฤาไนในปจั จบุ ันเป็นป่าดบิ แล้งกว่าร้อยละ 90 ของพน้ื ท่ที ั้งหมด ทเี่ หลือเปน็ ปา่ เบญจพรรณ ปา่ เต็งรัง ทุ่งหญ้า และสวนปา่ ภาพท่ี 6 เขตรักษาพนั ธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน และฝูงกระทงิ ในพ้ืนท่ีเขาอ่างฤาไน
46 ปา่ ชุมชน ป่าชุมชน (Community Forest) เป็นวิถีปฏิบัติและเป็นการปรับตัวของการจัดการทรัพยากร ภายในชุมชนในการลดปญั หาความยากจนและความเหล่ือมลา้ ทางสังคมของคนในชุมชน จากการถกู แย่งชงิ ทรัพยากร เพ่ือการพัฒนาประเทศ และเป็นแนวทางหนง่ึ ในการรกั ษาพื้นท่ีปา่ และความสมบรู ณ์ของนิเวศปา่ ไม้ เพื่อให้ระบบนเิ วศ คงความสมดุล เนื่องจากป่าชุมชนเป็นกลไกที่ส้าคัญและเป็นช่องทางให้ชมุ ชนเข้ามามีสว่ นร่วมในการอนุรักษ์ จัดการ ฟื้นฟูให้ป่ามีความสมบูรณ์เพ่ิมขึน้ และมกี ารใชท้ รัพยากรและผลผลิตจากป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพอ่ื ความมั่นคง แห่งชีวติ ของคนในชุมชน จังหวัดสระแก้วมีป่าชุมชนท่ีขึ้นทะเบียนกับกรมป่าไม้ ต้ังแต่ปี 2543-2559 จ้านวน 83 แห่ง รวมเป็นเนื้อที่ทั้งส้ินประมาณ 15,138-0-87 ไร่-งาน-ตารางวา รวมท้ังมีป่าชุมชนต้นแบบที่ได้รับ รางวลั จากกรมปา่ ไม้จ้านวน 14 แหง่ คดกี ารกระทาผดิ เก่ยี วกบั ปา่ ไม้ จากข้อมูลของส้านักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระแก้ว ใน ระหวา่ งปี 2558 – 2560 พบว่ามสี ถติ กิ ารกระทา้ ความผิดเกย่ี วกับปา่ ไม้ ดังน้ี ตารางที่ 46 สถิตกิ ารกระทาความผิดเกยี่ วกบั ไมพ้ ะยูง ระหว่างปี 2558-2560 ปี จานวนคดี ผตู้ ้องหา ปรมิ าตร (คด)ี (คน) (ลูกบาศก์เมตร) 2558 64 144 32.762 2559 53 197 23.8082 2560 74 67 31.0000 ท่ีมา: สว่ นทรัพยากรธรรมชาติ ส้านักงานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มจังหวดั สระแก้ว, 2561 ตารางท่ี 47 สถติ กิ ารกระทาความผิดเกี่ยวกับไมส้ ัก ระหว่างปี 2558-2560 ปี จานวนคดี ผู้ต้องหา ปรมิ าตร (คด)ี (คน) (ลกู บาศกเ์ มตร) 2558 1 1 3.53 2559 0 - 0 2560 3 1 3.00 ทม่ี า: สว่ นทรพั ยากรธรรมชาติ สา้ นกั งานทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อมจังหวัดสระแก้ว, 2561 ตารางท่ี 48 สถติ ิการกระทาความผดิ เกี่ยวกบั ไม้กระยาเลย ระหวา่ งปี 2558-2560 ปี จานวนคดี ผ้ตู อ้ งหา ปริมาตร (คด)ี (คน) (ลูกบาศกเ์ มตร) 2558 17 12 206.028 2559 24 10 45.891 2560 26 15 61.00 ทีม่ า: สว่ นทรัพยากรธรรมชาติ สา้ นกั งานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มจังหวัดสระแก้ว, 2561
47 ตารางท่ี 49 สถติ กิ ารกระทาความผดิ เกยี่ วกับพ้นื ทปี่ ่าถูกบุกรกุ ระหวา่ งปี 2558-2560 ปี จานวนคดี ผู้ต้องหา พนื้ ทป่ี ่าทีถ่ ูกบกุ รุก (คด)ี (คน) (ไร่-งาน-วา) 2558 20 1 1067-4-5 2559 5 4 5-8-91 2560 11 5 97-4-336 ท่ีมา: สว่ นทรัพยากรธรรมชาต,ิ ส้านักงานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มจงั หวัดสระแก้ว, 2561 สัตวป์ ่า สตั วป์ ่าในพนื้ ทป่ี า่ สงวนและพน้ื ทอ่ี นรุ กั ษ์ จังหวดั สระแก้ว พบว่ามสี ัตว์ป่าท่ีส้าคัญ ไดแ้ ก่ จระเขน้ ้าจืด (Crocodylus Siamensis) ซง่ึ ถอื ว่า เป็นสัตว์ประเภทท่ีใกล้สูญพันธ์ุอย่างยิ่งตามท่ีหน่วยงานองค์การระหว่างประเทศเพื่อการสงวนทรัพยากรธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature and Natural Resources: IUCN) ได้ระบไุ ว้ ซึง่ สามารถพบได้ท่ี อุทยานแห่งชาติปางสีดา ส้าหรับการกระท้าความผิดเกี่ยวกับการลักลอบสัตว์ปา่ ในพ้ืนท่ีจังหวัดสระแก้ว พบว่า ในระหว่างปี 2558 – 2560 มีแนวโน้มการกระท้าความผิดลดลง โดยชนิดพันธุ์สัตว์ป่าท่ีพบว่ามีการลักลอบ กระท้าความผิด ได้แก่ ซากอเี หน็ ซากกระจง ซากไก่ป่า ไก่ฟา้ พญาลอ ซากลงิ ลม ชิ้นเนอื้ กวางป่า เปน็ ต้น (1) อทุ ยานแห่งชาติปางสดี า สัตว์ป่าท่ีสามารถพบในพื้นท่ีอุทยานแห่งชาติปางสีดา จากการศึกษาชนิดความชุก ชุม ตลอดจนชีววิทยาบางประการของสัตว์ป่าที่มีกระดูกสันหลัง พบว่าสามารถแบ่งได้เป็น 5 กลุ่มชนิด กล่าวคือ สัตวเ์ ล้ยี งลกู ด้วยนม นก สัตวเ์ ล้อื ยคลาน สัตว์สะเทินน้าสะเทินบก และปลาน้าจืด โดยในพื้นท่อี ุทยานฯ พบว่ามีสตั ว์ ปา่ 278 ชนดิ แบ่งเป็นสตั ว์เลย้ี งลูกดว้ ยนม 81 ชนิด จาก 58 สกุลใน 20 วงศ์ นก 143 ชนดิ จาก 107 สกลุ ใน 38 วงศ์จัดเป็นนกประจ้าถ่ิน (Resident bird) 131 ชนิด และนกอพยพย้ายถ่ิน (Winter visitor) จ้านวน 12 ชนิด สัตว์เล้ือยคลาน 19 ชนิด จาก 17 สกุลใน 5 วงศ์ สัตว์สะเทินน้าสะเทินบก 16 ชนิด จาก 7 สกุล ใน 3 วงศ์ และ ปลาน้าจืด 19 ชนิด จาก 17 สกุลใน 10 วงศ์ (กรมป่าไม้, 2543) และจากการส้ารวจในฤดูหนาวพบสัตว์ป่า ทั้งหมด 267 ชนิด ประกอบด้วยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 41 ชนิด นก 188 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 26 ชนิด และสัตว์ สะเทินน้าสะเทินบก 12 ชนิด โดยสัตว์ปา่ ทงั้ หมดจ้านวน 267 ชนดิ สว่ นใหญจ่ ดั เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง 224 ชนดิ สตั วป์ า่ ท่ี พบตามสถานภาพของส้านักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมและหน่วยงานองค์การระหว่าง ประเทศเพ่ือการสงวนทรัพยากรธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature and Natural Resources: IUCN) มีประเภทท่ีใกล้สูญพันธุ์อย่างย่ิง (Critically endangered) 1 ชนิด คือ จระเข้น้าจืด (Crocodylus Siamensis) ส่วนประเภทที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) 4 ชนิด ได้แก่ ช้างป่า (Elephas maximus) นกกระสานวล (Ardea cinerea) นกกระสาแดง (Ardea purpurea) และเต่าเหลอื ง (Indotestudo elongate) ส่วนประเภทท่ีแนวโน้มใกล้สูญพันธ์ุ จ้านวน 10 ชนิด ได้แก่ ลิงกัง (Mecaca nemestrina) ชะนีมือขาว (Hylobate lar) หมาใน (Cuon alpinus) หมีหมาหรือหมีคน (Ursus malayanus) หมีควาย (Ursus thibetanus) เสือดาว (Panthera pardus) กระทิงหรือเมย (Bos gaurus) เม่นใหญ่ (Hystrix brachyuran) ตะพาบน้า (Amyda cartilaginea) และเต่านา (Malayemys subtrijuga) ส้าหรับทรัพยากรสัตว์ป่าที่ส้ารวจพบในพื้นที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา เป็นสัตว์ที่สามารถพบได้ท่ัวไปในพื้นท่ีต่าง ๆ ของประเทศไทย ยกเว้นจระเข้น้าจดื ซ่ึงปัจจุบันพบว่ามีสถานภาพจดั อย่ใู น ประเภทสัตวป์ ่าใกล้สญู พนั ธอ์ุ ยา่ งย่ิง
48 (2) อุทยานแหง่ ชาตติ าพระยา สัตว์ป่าที่สามารถพบในพื้นทอี่ ุทยานแหง่ ชาตติ าพระยา ผลการส้ารวจข้อมูลพบวา่ มีสัตว์ป่า ท้ังหมด 327 ชนิด โดยมีสัตว์ป่าชนิดที่ชุกชุมมาก 14 ชนิด ประกอบด้วย สัตว์เล้ียงลูกด้วยนม 2 ชนิด นก 10 ชนิด สัตว์เล้อื ยคลาน 1 ชนิด และสตั วส์ ะเทินน้าสะเทินบก 1 ชนิด สตั วป์ า่ ทชี่ กุ ชมมาก เชน่ กระรอกหลากสี นกเขาใหญ่ จง้ิ จกหางแบน และกบหนอง เป็นต้น สตั ว์ปา่ ชนิดทช่ี ุกชมุ ปานกลาง จ้านวน 68 ชนิด ประกอบดว้ ย สตั ว์เล้ียงลกู ด้วยนม 8 ชนิด นก 48 ชนิด สัตว์เลอ้ื ยคลาน 7 ชนิด และสัตวส์ ะเทินนา้ สะเทนิ บก 5 ชนิด สตั วป์ ่าทีม่ คี วามชกุ ชมปานกลาง เช่น นกแขกเต้า ก้ิงก่าหัวแดง และอ่ึงน้าเต้า เป็นต้น สัตว์ป่าสวนใหญ่มีความชุกชุมน้อย มีจ้านวน 245 ชนิด ประกอบด้วย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 32 ชนิด นก 169 ชนิด สัตว์เล้ือยคลาน 29 ชนิด และสัตว์สะเทินน้าสะเทินบก 15 ชนดิ สตั ว์ป่าชนดิ ทมี่ คี วามชุกชมุ นอ้ ย เช่น ลิงกงั งูลายสาบคอแดง และปลาจ๋วิ ลายแตม้ (3) เขตรักษาพนั ธ์ุสัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน สัตว์ป่าที่สามารถพบในพ้ืนที่เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จากผลการส้ารวจและ รวบรวมสัตว์ป่าในพื้นท่ี สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) สัตว์เล้ียงลูกด้วยนม พบทั้งส้ิน 132 ชนิด เช่น กระแต บ่าง ค้างคาว ลิง ชะนีมงกุฎ กระต่าย กระรอก เม่น หมาใน หมี หมู ชะมด เสือ ช้าง กระจง กวาง เก้ง เลียงผา วัว และกระทิง เป็นต้น ส้าหรับช้างนั้น ปัจจุบันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมท่ีเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย 2) สัตว์ จ้าพวกนก หรอื สตั ว์ปีกพบทั้งส้ิน 395 ชนิด เชน่ นกยาง นกเปด็ น้า นกเงือก เหย่ียว ไก่ฟ้าพญาลอ ไกป่ า่ นกอ้ายง่ัว 3) สัตว์สะเทินน้าสะเทินบกท้ังส้ิน 32 ชนิด เช่น คางคก กบ เขียด ปาด อ่ึงอ่าง ฯลฯ และ 4) สัตว์เลื้อยคลานพบท้ังส้ิน 107 ชนดิ เช่น เต่า กง้ิ กา่ งู ต๊กุ แก แย้ และตะกวด เป็นตน้ คดเี กย่ี วกับสตั วป์ ่า จังหวัดสระแก้ว พบว่า จากข้อมูลสถิติการกระท้าความผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่า ในระหว่างปี 2558 – 2560 มีแนวโน้มการกระท้าความผิดทีเ่ พิ่มมากขนึ้ โดยในปี 2560 พบการกระท้าความผดิ 14 คดี สตั ว์ปา่ ทีพ่ บจากการกระทา้ ความผดิ ได้แก่ ซากหมปู า่ กวาง ลิงกัง หมาจง้ิ จอก และช้นิ เนือ้ กวางป่า ตารางท่ี 50 สถิติการกระทาผดิ เกี่ยวกบั สตั วป์ า่ ระหว่างปี 2558 - 2560 ปี คดี จานวนซาก ชนิดพนั ธ์ุสัตว์ 2558 3 17 ซากอีเห็น ซากกระจง ซากไกป่ ่า 2559 7 14 ซากกระจงเล็ก ไก่ฟ้าพญาลอ ซากอีเห็น ซากกระทิง ซากไก่ป่า ซาก ลิงลม ซากเก้ง 2560 14 12 ซากหมปู ่า กวาง ลงิ กัง และหมาจ้ิงจอก ชิ้นเน้ือกวางป่า ทีม่ า: สว่ นทรัพยากรธรรมชาติ ส้านกั งานทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวดั สระแกว้ , 2561
49 ทรัพยากรนา้ จังหวดั สระแกว้ มีอ่างเก็บน้า จา้ นวน 16 แหง่ และมีบ่อบาดาลทสี่ ามารถใชง้ านไดจ้ รงิ จา้ นวน 287 บ่อ แยกออกเป็น ประเภทเพ่ือใช้ในเชิงธรุ กิจ 118 แหง่ ประเภทเพื่อใช้ในการอุปโภค 93 แหง่ และประเภทเพ่ือใช้ในการเกษตร จา้ นวน 76 แห่ง (ส่วนทรพั ยากรน้า สา้ นกั งานทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมจงั หวัดสระแกว้ , 2561) ซึ่งปัจจบุ นั ไมเ่ พียงพอต่อการใชง้ าน (1) แหล่งน้าใต้ดินหรือน้าบาดาล: ในพ้ืนที่จังหวัดสระแก้วมีการขุดเจาะน้าบาดาลเพ่ือใช้ประโยชน์ กระจายอยู่ทัว่ ไปแต่มีปรมิ าณคุณภาพและความตน้ื ลกึ แตกตา่ งกนั ไป ตามสภาพธรณวี ทิ ยาและอทุ กวิทยา (2) แหล่งน้าธรรมชาติ: จังหวัดสระแก้ว มีแหล่งน้าท่ีส้าคัญ รวม 12 แห่ง ประกอบด้วย คลองพระปรง คลองพระสะทึง คลองตาหลังใน คลองไก่เถื่อน คลองวังจิก คลองล้าตะโพน คลองน้าใส ห้วยยาง ห้วยตะเคียน ห้วยพรมโหด หว้ ยไผ่ ห้วยโสมง และห้วยลา้ สะโพน (3) พ้นื ทีล่ ุ่มนา้ : จังหวัดสระแก้ว ครอบคลมุ 2 ลุ่มนา้ หลัก ๆ คือ - ลุ่มน้าปราจีนบุรี ประกอบด้วย 4 ลุ่มน้าสาขา ได้แก่ คลองพระสะทึง แม่น้าพระปรง แม่น้าหนุมาน และแม่น้าปราจนี บรุ ตี อนลา่ ง - ล่มุ น้าโตนเลสาบ ประกอบด้วย 2 ล่มุ น้าสาขา ได้แก่ โตนเลสาบตอนบนและหว้ ยพรมโหด ภาพท่ี 7 ลุ่มน้าจงั หวดั สระแก้ว ท่มี า : โครงการชลประทานสระแกว้ , 2561
50 ภาพท่ี 8 ลมุ่ น้าย่อยจังหวดั สระแกว้ ทีม่ า : โครงการชลประทานสระแกว้ , 2561 ตารางท่ี 51 ปริมาณน้ากกั เก็บแตล่ ะลมุ่ น้า ลุ่มน้า พนื้ ทลี่ ่มุ นา้ (ไร)่ ปริมาณ โครงการที่ ความจุ แหลง่ นา้ ความ ลุม่ น้าหลัก นา้ ท่า พฒั นาแลว้ (ลา้ น ลบ.ม.) ธรรมชาติ ต้องการน้า ลุ่มนา้ ปราจีน (ลา้ น ลบ.ม.) (ล้าน ลบ.ม.) พระปรง พระสะทึง 2,344,443.75 1,491.35 214 204.31 78.74 644.46 ลุ่มนา้ โตนเลสาบ หว้ ยสะโตน 1,104,150 640.51 79 125.14 39.93 266.65 ปราจีนบุรี หว้ ยตะเคียน 38.81 377.81 ปราจนี บรุ ี หว้ ยพรมโหด 1,240,293.75 850.84 135 79.17 92.84 426.27 หว้ ยนางาม 26.28 128.64 โตนเลสาบ คลองนา้ ใส 1,778,500 1,041.31 228 103.36 19.31 99.09 โตนเลสาบ 31.86 137.01 โตนเลสาบ รวม 531125 230.32 66 73.36 7.25 28.48 โตนเลสาบ 8.13 33.05 โตนเลสาบ 366,687.50 180.52 58 17.98 171.57 1,070.73 582,125 415.48 54 7 140,750 71.99 17 2.28 157,812.5 143 33 2.75 4,122,943.75 2,532.66 442 307.67 ทมี่ า : โครงการชลประทานสระแกว้ , 2561
51 ตารางที่ 52 จานวนอ่างเกบ็ น้า ความจุ ปรมิ าณนา้ และสภาพน้าในอ่าง ในพนื้ ที่จงั หวัดสระแกว้ อ่างเกบ็ นา้ ความจุ ปรมิ าณนา้ พื้นที่ผิว สภาพน้า/ หมายเหตุ (ลบ.ม.) (ลบ.ม.) ตร.กม. เกณฑน์ า้ ประมง, เกษตร (%) - อา่ งเก็บนา้ ท่ากะบาก 7,300,000 5,840,000 1.440 80.00 ประปา ประปา อ่างเกบ็ น้าคลองสามสิบ 5,775,000 428,7500 1.162 74.24 ประปา ประปา อ่างเก็บน้าช่องกลา่ บน 275,000 277,000 0.059 100.73 ประปา อ่างเก็บน้าชอ่ งกล่าล่าง 2,200,000 2,260,000 0.647 102.73 - - อา่ งเกบ็ น้าคลองทราย 176,000 160,100 0.050 90.97 - - อา่ งเก็บนา้ คลองเกลอื 5,500,000 4,742,100 1.146 86.22 ประปา, เกษตร - อ่างเก็บนา้ หว้ ยชัน 4,000,000 3,076,000 1.370 76.90 - - อา่ งเก็บนา้ เขารงั 3,720,000 2,220,000 1.106 59.68 - อ่างเก็บน้าหว้ ยยาง 60,000,000 8,650,000 4.505 14.42 อา่ งเกบ็ น้าห้วยตะเคยี น 10,000,000 1,361,640 0.900 13.62 อา่ งเกบ็ นา้ ห้วยเขาดิน 1,420,000 471,000 0.274 33.17 อ่างเก็บนา้ พระปรง 112,000,000 7,089,000 11.870 63.29 อ่างเก็บนา้ คลองส้มปอ่ ย 1,800,000 914,000 0.506 50.78 อ่างเก็บนา้ คลองพนั โป้ 270,000 291,000 0.842 107.78 อา่ งเกบ็ นา้ คลองตาด้วง 1,800,000 456,980 0.291 25.39 อา่ งเก็บน้าคลองพระสทึง 65,000,000 25,762,466 7.375 39.63 รวม 281,236,000 13,164,3786 33.54 46.81 ทม่ี า: โครงการชลประทานสระแกว้ (ข้อมลู ณ วนั ท่ี 21 สงิ หาคม 2561)
ตารางท่ี 53 ขอ้ มูลแหลง่ นา้ ราย น้าทา่ เฉล่ยี ความต้องการน้า (ลา้ น ลบ.ม.) ลา้ น ลบ.ม. พนื้ ที่ เกษตร อุปโภค อุตสาหกรรม รักษาระบบ รวม 2,532.66 นเิ วศ จังหวดั สระแก้ว 217.33 992.26 34.16 28.14 1,070. อ.คลองหาด 339.51 71.81 2.3 - 16.17 75. อ.อรัญประเทศ 409.72 156.48 5.24 1.19 166. อ.เมอื งสระแก้ว 273.23 148.34 6.68 3.04 1.78 177. อ.ตาพระยา 571.05 156.12 3.39 18.08 4.32 163. อ.วัฒนานคร 195.42 172.67 4.94 0.67 2.96 180. อ.เขาฉกรรจ์ 183.7 77.7 3.42 2.37 82. อ.วงั น้าเย็น 230.03 63.3 3.86 0.9 0.89 73. อ.วังสมบรู ณ์ 112.68 72.61 2.18 0.02 0.89 75. อ.โคกสูง 73.23 2.15 5.43 0.89 76. 0.89 - - ที่มา : โครงการชลประทานสระแกว้ , 2561
52 ยอาเภอจังหวัดสระแกว้ โครงการท่ีพฒั นาแล้ว ความ แหล่งนา้ ความ ตอ้ งการน้า ธรรมชาติ ตอ้ งการ จานวน ความสามารถ นา้ ใช้ ลา้ น ลบ.ม. ล้าน ลบ.ม. สทุ ธิ ล้าน ในการเก็บนา้ การ ลบ.ม. .73 482 343.4 309.06 761.67 171.57 590.1 70.17 13.33 56.84 .29 39 5.69 5.12 146.37 20.71 125.66 124.96 37.08 87.87 .54 63 22.41 20.17 86.18 18.21 67.98 86.03 38.79 47.24 .42 65 58.29 52.46 62.62 11.81 50.81 .14 91 85.51 76.96 54.67 10.93 43.74 60.25 13.69 46.56 .88 90 105.39 94.85 70.41 7.01 63.4 .03 36 21.56 19.4 .47 35 20.89 18.8 .69 27 17.15 15.44 .27 36 6.51 5.86 52
53 ขยะมลู ฝอย จังหวัดสระแก้ว มีแนวทางในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยตามแผนปฏิบัติการขยะมูลฝอยชุมชน “จงั หวัดสะอาด” ภายใต้กระทรวงมหาดไทย โดยในปี 2561 แบง่ กรอบการด้าเนินเป็น 3 ระยะ กลา่ วคอื ระยะต้นทาง: ด้าเนินการลดและการคัดแยกขยะ ณ แหล่งก้าเนิด มีเป้าหมายให้มีการน้าขยะมูล ฝอยชุมชนถูกน้ากลับมาใช้ประโยชน์ร้อยละ 30 และมีครัวเรือนเข้าร่วมเครือข่ายอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก ส่งเสริมการจัดการขยะมูลฝอย ร้อยละ 50 ส้าหรับผลการด้าเนินงาน ปัจจุบันจังหวัดสระแก้ว มีครัวเรือน 118,273 ครัวเรือน (กรมพัฒนาชุมชน, ข้อมูล ณ 30 กันยายน 2560) พบว่ามีจ้านวนครัวเรือนที่เข้าร่วม อาสาสมัครทอ้ งถ่ินรักษ์โลก 1,039 ครวั เรือน และจ้านวนยอดผู้สมัครอาสาสมัครท้องถ่ินรักษโ์ ลก ณ วันที่ 23 เมษายน 2561 จ้านวน 8,942 คน ส้าหรับจุดรวบรวมขยะอันตราย จังหวัดสระแก้ว มีหมู่บ้าน/ชุมชน จ้านวน 798 หมูบ่ า้ น/ชมุ ชน ปัจจบุ ันมกี ารก้าหนดจุดรวบรวมขยะอันตรายเรียบรอ้ ย 798 หมู่บา้ น/ชมุ ชน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 ระยะกลางทาง: การเก็บ/ขน มีการวางระบบและมีประสิทธิภาพ มีเป้าหมายให้องค์กรปกครอง สว่ นท้องถ่ิน มภี าชนะรวบรวมขยะมลู ฝอยแบบแยกประเภทในสวนสาธารณะและสถานท่ีท่องเทีย่ วทุกแห่ง รอ้ ย ละ 100 ส้าหรับผลการด้าเนินงาน ปัจจุบนั จังหวดั สระแก้วมีสวนสาธารณะ จา้ นวน 2 แห่ง มสี ถานทท่ี ่องเที่ยง จ้านวน 12 แห่ง รวมแล้วมภี าชนะรวบรวมขยะมูลฝอยแบบแยกประเภท จา้ นวน 14 แห่ง ระยะปลายทาง: การจัดการและก้าจัดขยะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีเป้าหมายให้ขยะมูลฝอย ชุมชนได้รับการกา้ จดั อย่างถูกต้อง ร้อยละ 40 และสถานท่ีก้าจัดขยะมลู ฝอยท่ีไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการได้รับ การปรับปรุง แก้ไข ขัด หรือบ้าบัดฟ้ืนฟู ร้อยละ 20 ส้าหรับผลการด้าเนินงาน ปัจจุบันตามมติคณะกรรมการ จัดการส่ิงปฏิกูลและมูลฝอย มอบให้อ้าเภอท่ีเป็นที่ต้ังของเจ้าภาพหลักกลุ่มคลัสเตอร์พิจารณาจัดส่งรายช่ือ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชนจ้านวนตามความจ้าเป็นและ เหมาะสม โดยมที ้องถน่ิ อา้ เภอเป็นเลขานกุ ารคณะอนุกรรมการ เพอื่ แตง่ ต้งั เปน็ คณะอนุกรรมการบริหารจัดการ ขยะมลู ฝอยตกคา้ ง (ขยะเกา่ ) องคป์ ระกอบของขยะมลู ฝอย จากการศึกษาองค์ประกอบขยะมูลฝอยชุมชนร่วมกันระหว่างหน่วยงานส้านักงาน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมจงั หวดั สระแกว้ และส้านกั งานส่ิงแวดล้อมภาคท่ี 13 (ชลบรุ ี) โดยใช้ข้อมูล จากเทศบาลเมืองอรัญญประเทศ เทศบาลต้าบลวัฒนานคร และเทศบาลต้าบลเขาฉกรรจ์ เพ่ือเป็นตัวแทน องค์ประกอบขยะมูลฝอยจังหวัดสระแก้ว พบว่า องค์ประกอบของขยะมูลฝอยชุมชน 5 อันดับแรก ประกอบด้วย เศษอาหาร/อนิ ทรยี ์สาร คิดเป็นรอ้ ยละ 49.20 พลาสติก คดิ เปน็ ร้อยละ 24.08 ไม้ คิดเปน็ ร้อย ละ 7.01 กระดาษ คิดเปน็ รอ้ ยละ 6.67 และแกว้ คิดเป็นร้อยละ 3.88 ตามลา้ ดับ
54 ผา้ , 3.54 หนงั , 2.28 กระเบ้อื ง หนิ , 0.63 อน่ื ๆ, 0.41 ขยะมลู ฝอย ไม้, 7.01 อันตราย, 0.29 โลหะ, 1.76 แก้ว, 3.88 ยาง, 0.52 เศษอาหาร/อินทรียส์ าร, 49.2 พลาสติก, 24.08 กระดาษ, 6.69 แผนภูมิที่ 7 ร้อยละของขยะมลู ฝอยในจงั หวัดสระแก้ว ท่ีมา : สา้ นกั งานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มจังหวัดสระแก้ว, 2561 ปรมิ าณขยะมูลฝอยท่ีเกิดข้ึนและการจดั การ ข้อมูลอัตราการเกิดขยะมูลฝอยจากการค้านวณประชากรและอัตราการเกิดจากกรมควบคุม มลพษิ ของจงั หวัดสระแกว้ ในปี 2560 จังหวดั สระแก้ว มขี ยะมูลฝอยเกิดท่ีจ้านวน 529 ตัน/วนั มีขยะมูลฝอย ที่ก้าจัดถูกต้องจ้านวน 43 ตัน/วัน ปริมาณขยะท่ีถูกน้ากลับมาใช้ประโยชน์จ้านวน 170 ตัน/วัน ปริมาณขยะ มูลฝอยที่ก้าจัดไม่ถูกต้องจ้านวน 316 ตัน/วัน และมีปริมาณขยะมูลฝอยตกค้างในสถานที่ก้าจัดจ้านวน 158,059 ตัน ตารางท่ี 54 ปริมาณขยะมลู ฝอยทเ่ี กิดขน้ึ และการจดั การ ปริมาณขยะ ปรมิ าณขยะ ปริมาณขยะมลู ปรมิ าณขยะมูล ปริมาณขยะมูล ปี มูลฝอยท่ี มูลฝอยท่ี ฝอยท่ถี กู นามาใช้ ฝอยทกี่ าจัดไม่ ฝอยตกค้างใน เกดิ ขนึ้ กาจัดถกู ตอ้ ง ประโยชน์ ถกู ตอ้ ง สถานทกี่ าจดั (ตนั /วัน) (ตนั /วนั ) (ตนั /วนั ) (ตัน/วนั ) (ตนั ) พ.ศ. 2558 537.28 45.00 134.15 358.12 120,109.00 พ.ศ. 2559 380.68 26.70 41.06 312.92 142,054.00 พ.ศ. 2560 529.00 43.00 170.00 316.00 158,059.00 ที่มา : ส้านกั งานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มจงั หวัดสระแกว้ , 2561 หมายเหตุ 1. ปี พ.ศ.2561 ข้อมูล ณ กรกฎาคม 2561 2. อา้ งองิ รายงานสถานการณข์ ยะมลู ฝอยชมุ ชนของประเทศไทย ปี พ.ศ.2558 – 2560 3. ปี พ.ศ.2559 ข้อมลู จากการส้ารวจ 4. ปี พ.ศ.2558, 2560, 2561 ขอ้ มูลอตั ราการเกดิ ขยะมูลฝอยจากการค้านวณประชากรและอตั ราการเกิดจากกรมควบคุมมลพษิ
55 แนวทางการจดั การขยะมลู ฝอยแบบรวมศูนยจ์ ังหวดั สระแก้ว จังหวัดสระแก้วได้มีการจัดกลุ่มการจัดการขยะแบบรวมศูนย์ (Cluster) โดยแบ่งกลุ่มการ จัดการขยะมูลฝอยตามความเหมาะสมและความสมัครใจของพ้ืนท่ีในการรับบริการ 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มวัฒนา นคร กลุม่ เมืองสระแกว้ กลมุ่ วังนา้ เยน็ เทศบาลเมอื งอรัญญประเทศ และองค์การบริหารสว่ นตา้ บลวังใหม่ ภาพท่ี 9 กล่มุ การจดั การขยะมลู ฝอย (Cluster) ตารางท่ี 55 กลมุ่ การจดั การขยะมลู ฝอย ลาดับ Cluster เจา้ ภาพหลัก จานวน อปท.เข้ารว่ ม รายละเอยี ด 1 กลุ่มวฒั นานคร ทต.วฒั นานคร 35 แห่ง -อ.วัฒนานคร 12 อปท. - ตั้งอยู่ หมู่ที่ 7 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ. 2 กลมุ่ เมืองสระแกว้ ทม.สระแกว้ -อ.เขาฉกรรจ์ 2 อปท. สระแกว้ เน้ือที่ 10 ไร่ -อ.อรญั ประเทศ 12 อปท. - กา้ จดั โดยวิธกี ารเทกองกลางแจง้ 3 กลมุ่ วังน้าเย็น ทม.วังน้าเย็น -อ.ตาพระยา 5 อปท. - มีแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าโดยใช้ขยะมูลฝอย -อ.โคกสูง 4 อปท. ชุมชนเป็นเช้อื เพลงิ - ระบบฝังกลบแบบถูกสุขาภิบาล ต้ังอยู่ ณ หมู่ท่ี 11 แหง่ 7 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เน้ือท่ี -อปท. ในเขต อ.เมืองสระแก้ว 295 ไร่ 16 แหง่ - ศนู ย์กา้ จดั ขยะมลู ฝอยแบบครบวงจร -อ.วงั น้าเยน็ 4 อปท. - ต้งั อยู่ บ.ทา่ แยก ต.ทา่ แยก อ.เมืองสระแก้ว -อ.เขาฉกรรจ์ 3 อปท. จ.สระแก้ว เนอื้ ท่ี 45 ไร่ -อ.คลองหาด 7 อปท. - มีปัญหาในการเดินระบบ ปัจจุบันก้าจัดโดย -อ.วังสมบูรณ์ 2 อปท. วิธีการเทกอง - อยรู่ ะหวา่ งท้าสัญญาให้เอกชนด้าเนนิ การ ศนู ยก์ า้ จดั ขยะมูลฝอยแบบครบวงจร - ตง้ั อยู่ ต.วงั น้าเยน็ อ.วงั นา้ เยน็ จ.สระแกว้ พนื้ ที่ 43 ไร่ - กา้ จดั โดยวิธีการฝงั กลบแบบถูกสขุ าภบิ าล
56 ลาดบั Cluster เจ้าภาพหลกั จานวน อปท.เขา้ รว่ ม รายละเอียด ด้าเนินการเพียงแหง่ เดียว 4 ทม.อรัญญประเทศ ทม.อรัญญประเทศ (Stand Alone) - ต้ังอยู่ท่ี กม.5 บ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ. อรญั ประเทศ จ.สระแก้ว พื้นที่ 10 ไร่ 5 อบต.วงั ใหม่ อบต.วงั ใหม่ ดา้ เนินการเพยี งแหง่ เดยี ว - ก้าจัดโดยวิธีการเทกองกลางแจ้ง (Stand Alone) - ตง้ั อยทู่ ่ี หมู่ที่ 6 ต.วังใหม่ อ.วังสมบรู ณ์ จ. สระแกว้ พ้ืนท่ี 5 ไร่ - กา้ จัดโดยวธิ ีการเทกองกลางแจ้ง ทม่ี า : ส้านกั งานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมจังหวัดสระแก้ว, 2561 การจดั การขยะมูลฝอยอันตรายชมุ ชน เม่ือปี 2560 จังหวัดสระแก้วได้มีการลงนามความร่วมมือ “สระแก้ว จังหวัดสะอาด” ระหว่างหน่วยงานราชการที่เก่ียวข้อง ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว ส้านักงานส่งเสริมการปกครองท้องถ่ินจังหวัด สระแก้ว ส้านักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ส้านักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว ส้านักงาน ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อมจังหวดั สระแก้ว ร่วมกับ บริษัท โปรเฟสช่นั แนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จ้ากัด (มหาชน) เพ่อื แสดงเจตนารมณร์ ว่ มกันในการส่งเสริมการจัดการขยะอนั ตรายชุมชนอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ตั้งแต่การคัดแยก รวบรวม และก้าจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ณ ห้องประชุมบูรพา ศาลากลางจังหวัด สระแกว้ ในปี 2561 จังหวัดสระแก้วมีเป้าหมายด้าเนินการให้มีจุดรวบรวมขยะมูลฝอยอันตราย ชุมชนทุกหมู่บ้าน/ชุมชน และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในพื้นท่ีรับผิดชอบจัดเก็บตามวัน เวลา ที่ก้าหนด เพื่อส่งก้าจัด บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี จ้ากัด (มหาชน) ตามที่ได้มีการลงนามความร่วมมือ “สระแก้ว จงั หวัดสะอาด” ท้ังน้ี จังหวัดสระแกว้ มีหมบู่ า้ น/ชุมชน จ้านวน 798 หมบู่ ้าน/ชุมชน ปจั จุบนั มีการ ก้าหนดจุดรวบรวมขยะอนั ตรายเรยี บรอ้ ย 798 หมูบ่ ้าน/ชุมชน คดิ เป็นร้อยละ 100 ปัจจุบันมี เทศบาลเมืองวังน้าเย็น เทศบาลต้าบลเขาฉกรรจ์ องค์การบริหารส่วนต้าบลทับ พริก องค์การบริหารส่วนต้าบลผักขะ และองค์การบริหารส่วนต้าบลโคกป่ีฆ้อง ได้จัดส่งขยะอันตรายชุมชนท่ี เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ หลอดไฟ แบตเตอรี่ ถ่านไฟฉาย และจอทีวีเก่า ให้บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จ้ากัด (มหาชน) เพื่อก้าจดั แล้ว จา้ นวนรวมทัง้ สน้ิ 4,808.60 กิโลกรมั ตารางท่ี 56 ปริมาณขยะมลู ฝอยอันตรายชุมชนทไ่ี ดร้ ับการกาจดั อยา่ งถูกวธิ ี ลาดบั อปท. หลอดไฟ แบตเตอรี่และ จอทีวเี กา่ ถ่านไฟฉาย (ก.ก) (ก.ก.) (ก.ก.) - 1 เทศบาลเมืองวงั น้าเย็น 221.5 61.5 - 8.0 - 2 เทศบาลต้าบลเขาฉกรรจ์ 112.6 4,100 - - 3 องค์การบรหิ ารสว่ นตา้ บลทบั พรกิ 20 - 4,100 62 4 องค์การบริหารส่วนต้าบลผกั ขะ 25 131.5 4,808.60 5 องค์การบรหิ ารส่วนตา้ บลโคกปีฆ่ ้อง 198 รวม 577.1 รวมทั้งสนิ้ ที่มา: สา้ นกั งานทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ มจงั หวัดสระแกว้ , 2561
ชายแดนเบื้องบูรพา ป่างามนา้ ตกสวย มากด้วยรอยอารยธรรมโบราณ ยา่ นการค้าไทย - กมั พชู า แผนพัฒนาจงั หวดั สระแก้ว (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔) สำนกั งำนจังหวัดสระแกว้ ชน้ั ๔ ศำลำกลำงจังหวดั สระแก้ว ถนนสุวรรณศร ตำบลทำ่ เกษม อำเภอเมอื งสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ๒๗๐๐๐ ๐ ๓๗๔๒ ๕๑๒๕ ๐ ๓๗๔๒ ๕๑๒๗ www.sakaeo.go.th
Search