หน่วยที่ 7ไฟฟ้ าในชีวติ ประจาวนั อ. นฤมล บุญส่งCreate by Krunan
สาระการเรียนรู้ ไฟฟ้ าและแหลง่ กาเนิดไฟฟ้ า กระแสไฟฟ้ า ความตา่ งศกั ย์ไฟฟ้ า ความต้านทานไฟฟ้ า ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งความตา่ งศกั ย์ไฟฟ้ า กระแสไฟฟ้ า และ ความต้านทานไฟฟ้ า ความปลอดภยั ในการใชแครื่องใช้ไฟฟ้ า
ไฟฟ้ าและแหล่งกาเนิดไฟฟ้ า “ประจไุ ฟฟ้ าเป็นสง่ิ ท่ีแฝงอยใู่ นวตั ถตุ า่ งๆ สามารถแสดงอานาจไฟฟ้ าได้ ประจไุ ฟฟ้ า มี 2 ชนิด คือ ประจไุ ฟฟ้ าบวก (+) และ ประจไุ ฟฟ้ าลบ (-)” ประจไุ ฟฟ้ าท่ีแฝงอยใู่ นวตั ถทุ ี่อยนู่ ่ิงๆ ไมเ่ คลอ่ื นท่ี เรียกวา่ “ไฟฟ้ าสถิต” และ หากมีการเคล่อื นท่ีหรือถ่ายเทเรียกวา่ “ไฟฟ้ ากระแส” และประจไุ ฟฟ้ าที่อยใู่ น ของเหลวหรือก๊าซ เรียกวา่ “ไอออน”
แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า เซลล์ไฟฟ้ าเคมี (Electrochemical cell) อปุ กรณ์เคมีท่ีเปลีย่ นแปลงพลงั งานเคมีเป็น พลงั งานไฟฟ้ าหรือพลงั งานไฟฟ้ าเป็นพลงั งานเคมีเซลล์อเิ ล็กโทรไลต์ เซลล์กัลวานิก
แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า เซลล์กัลวานิกเซลล์ปฐมภมู ิ (Primary Cell) เซลล์ทตุ ยิ ภมู ิ (Secondary Cell)
แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า ไดนาโม “อปุ กรณ์ที่เปล่ียนพลงั งานกลเป็นพลงั งานไฟฟ้ า” อาศยั หลกั การเหน่ียวนาของแมเ่ หลก็ ไฟฟ้ าโดยการ เคลอื่ นท่ีของขดลวดตดั กบั สนามแมเ่ หลก็ หรือ สนามแมเ่ หลก็ หมนุ ตดั กบั ขดลวดและเกิด กระแสไฟฟ้ าเหนี่ยวนาสามารถผลติ และจ่ายไฟ เข้าในวงจรได้
แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า เซลล์สุริยะ เซลล์ไฟฟ้ าท่ีสามารถแปลงรูปพลงั งาน จากแสงอาทิตย์ให้เป็นพลงั งานไฟฟ้ าได้ โดยตรง
แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า เซลล์สุริยะ กระแสไฟฟ้ าจะมากหรือน้อยขึน้ อย่กู บั ความเข้ มของแสงอาทิตย์ที่มากระทบ เซลล์ เซลล์สุริยะถูกนามาใช้ งานใน หลายด้านเชน่ ดาวเทียม ไฟฟ้ า ในอาคารบ้านเรือน
แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าจากส่งิ มีชีวติเป็นการเปลยี่ นพลงั งานความร้อนเป็นไฟฟ้ า เป็นแหลง่ กาเนิดไฟฟ้ าที่ประกอบด้วยโลหะ 2 ชนิด โลหะหนงึ่ พร้อมท่ีจะให้อเิ ลก็ ตรอนอสิ ระมากกวา่ อีกโลหะหนงึ่
กฏของโอมห์ (Ohm’s Law)“เมื่ออณุ หภมู คิ งท่ี อตั ราสว่ นระหวา่ งความตา่ งศกั ย์ไฟฟ้ ากบั กระแสไฟฟ้ าของตวั นาไฟฟ้ า จะมีคา่ คงท่ีเทา่ กบั ความต้านทานของตวั นาไฟฟ้ านนั้ ”������ = ������ หรือ ������ = ������������������
กระแสไฟฟ้ า กระแสไฟฟ้ า คือ การไหลของ อิเล็กตรอนภายในตัวนาไฟฟ้ า จากท่ีหนึ่งไปอีกท่ีหน่ึง เช่น ไหล จากแหล่งกาเนิดไฟฟ้ าไปสู่ เครื่องใช้ไฟฟ้ า
ความต้านทานไฟฟ้ า ความต้านทานไฟฟ้ า หมายถงึ สมบตั ิของลวดตวั นา ที่ยอ่ มมีการตอ่ ต้านการไหลของกระแส มีหน่วยเป็น โอห์ม ความตา้ นทานไฟฟ้ ามาก ความตา้ นทานไฟฟ้ านอ้ ย “ความตา้ นทานแปรผกผนั กบั พ้นื ที่หนา้ ตดั ”ตวั ตา้ นทาน ความตา้ นทานไฟฟ้ านอ้ ย ความตา้ นทานไฟฟ้ ามาก “ความตา้ นทานแปรผนั ตรงกบั ความยาวของเส้นลวด”
ความต่างศกั ย์ไฟฟ้ า “เครื่องมือสาเร็จรูปที่ใช้วดั ความตา่ งศกั ย์ไฟฟ้ าระหวา่ งจดุ 2 จดุ ในวงจรความต้านทานภายในโวลต์มิเตอร์มีค่าสงู มาก วิธีใช้ต้องตอ่ ขนานกบั วงจร “ หนว่ ยเป็น โวลต์ V สญั ลกั ษณ์ที่ใช้แทน การต่อแอมมิเตอร์เข้ากบั วงจร
ตวั อย่าง
แบบฝึ กหัด
กาลงั ไฟฟ้ าการคานวณกาลงั ไฟฟ้ า W = Ptพลงั งานไฟฟ้ า (จลู ) = กาลงั ไฟฟ้ า (วตั ต์) × เวลา (วนิ าที) กิโลวตั ต์ ชวั่ โมง
การคดิ เงนิ ค่าพลงั งานไฟฟ้ า วดั กาลงั ไฟฟ้ าเป็นกิโลวตั ต์ และคิดช่วงเวลาเป็นชวั่ โมง ดงั นนั้ พลงั งานไฟฟ้ าจงึ วดั ได้เป็นกิโลวตั ต์-ชวั่ โมง หรือเรียกวา่ หนว่ ย การไฟฟ้ าจะคิดเงินค่าไฟฟ้ าตามปริมาณพลังงานไฟฟ้ าท่ีใช้ในอัตรา ก้าวหน้า คือ เม่ือใช้พลงั งานไฟฟ้ ามากขึน้ ราคาต่อหน่วยจะมากขึน้ ด้วย โดยผ้ใู ช้ จะจ่ายเงินคา่ ไฟฟ้ าตามใบแจ้งหนีค้ า่ ไฟฟ้ า
การคดิ เงินค่าพลงั งานไฟฟ้ า อตั รารายเดือน : คา่ พลงั งานไฟฟ้ า
การคดิ เงนิ ค่าพลงั งานไฟฟ้ า การใช้พลงั งานไฟฟ้ าจะมากหรือน้อย ขึ ้น อ ยู่ กับ จ า น ว น แ ล ะ ช นิ ด ข อ ง เครื่องใช้ไฟฟ้ า และใช้เป็ นระยะเวลา เทา่ ใด การไฟฟ้ าจะคิดเงินคา่ พลงั งาน ไ ฟ ฟ้ า ที่ แ ต่ ล ะ บ้ า น ใ ช้ ไ ป โ ด ย ใ ช้ เคร่ืองวดั ติดไว้บนเสาไฟฟ้ าหน้าบ้าน ของผ้ใู ช้ไฟฟ้ า เรียกว่า มาตรกิโลวตั ต์ ชวั่ โมง
คานวณค่าไฟฟ้ า
ความปลอดภยั ในการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้ า อนั ตรายท่ีเกิดจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ า ไฟฟ้ าลดั วงจร ไฟฟ้ าลัดวงจร เกิดจากวงจรไฟฟ้ ามีความผิดปกติ เนื่องจากฉนวนห้มุ สายไฟชารุดทาให้กระแสไฟฟ้ าไมไ่ หลไปตามลวดตวั นาในสายไฟตามปกติ แตก่ ระแสไฟฟ้ าเกือบทงั้ หมดจะไหลผา่ นบริเวณจดุ ท่ีลวดตวั นาสมั ผสั กนั หรือ จดุ ท่ีเกิดวงจรลดั ทาให้พลงั งานไฟฟ้ าบริเวณดงั กลา่ วเปลี่ยนเป็นพลงั งาน ความร้ อน
สาเหตุทท่ี าไห้ไฟฟ้ าลดั วงจร 1.สายไฟท่ีใช้ในบ้านหมดอายุการใช้งาน ทาให้ฉนวนหุ้มเปลือย ขาดจนลวดตวั นาภายในสายไฟเกิดการสมั ผสั กนั 2. มีตวั นาไฟฟ้ าวางพาดบนสายไฟท่ีไม่มีฉนวนห้มุ หรือเป็ นสาย เปลือยทงั้ สองสายทาให้กระแสไฟฟ้ าเปลย่ี นแปลงเป็นพลงั งานความร้อน
สาเหตุทท่ี าไห้ไฟฟ้ าลดั วงจร 3. ส่วนประกอบภายใน อุปกรณ์เคร่ื องใช้ ไฟฟ้ าชารุ ด กระแสไฟฟ้ าเกิดความผดิ ปกติ 4. มีการต่อสายไฟเข้า กับเครื่ องใช้ ไฟฟ้ าไม่ถูกต้ อง สายไฟรวมทงั้ อปุ กรณ์ไฟฟ้ าอ่ืนๆ ท่ีต่อเข้ ากับเคร่ืองใช้ ไฟฟ้ าผิด ขนาด
การเกดิ อนั ตราย 1) เกิดความร้อนและประกายไฟ อาจเป็นเหตใุ ห้เกิดอคั คีภยั 2) ทาให้ อุปกรณ์ไฟฟ้ าหรือเคร่ืองใช้ ไฟฟ้ าชารุดเสียหาย หากเกิด กระแสไฟฟ้ าลดั วงจรภายในอุปกรณ์หรือเคร่ืองใช้ไฟฟ้ าอนั เน่ืองมาจากความร้ อน และประกายไฟ 3) ทาให้เสียพลงั งานไฟฟ้ าโดยเปลา่ ประโยชน์ 4) ทาให้แรงดนั ไฟฟ้ าตกและอาจทาให้เครื่องใช้ไฟฟ้ าเสยี หายได้
การป้ องกนั จากไฟฟ้ าลดั วงจร 1) เลือกใช้อปุ กรณ์ป้ องกนั ท่ีเหมาะสม 2) ตรวจสอบสายไฟฟ้ า อปุ กรณ์และเคร่ืองใช้ไฟฟ้ าเป็นประจา เม่ือ พบวา่ ชารุดควรรีบซอ่ มบารุง 3) ดแู ลรักษาและทาความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้ าเป็นประจา
ความปลอดภยั ในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ า อนั ตรายที่เกิดจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ า ไฟฟ้ ารั่ว เกิดจากการท่ีกระแสไฟฟ้ ารั่วไหลจากวงจรไฟฟ้ าไปท่ีผิวหรือโครงของ อปุ กรณ์ไฟฟ้ า เครื่องใช้ไฟฟ้ า หรือรั่วไปท่ีผิวหรือท่ีผนังของจุดติดตงั้ ระบบ ไฟฟ้ า ทาให้จดุ เหลา่ นนั้ มีไฟฟ้ าหรือแรงดนั ไฟฟ้ า ทาให้เกิดอนั ตราย
สาเหตุทท่ี าไห้ไฟฟ้ ารั่ว 1. ฉนวนที่ใช้ห่อหุ้ม ใช้พัน ใช้รอง หรือใช้คัน่ ส่วนท่ีมีแรงดันไฟฟ้ าเกิด ชารุด หรือเสอ่ื มสภาพ หรือคา่ ความเป็นฉนวนไมม่ ากพอ (คา่ ความต้านทานไฟฟ้ า ไมเ่ พียงพอ) ทาให้จดุ เหลา่ นนั้ มีไฟฟ้ าหรือแรงดนั ไฟฟ้ า จงึ เกิดไฟฟ้ าร่ัว 2. ส่วนที่มีแรงดนั ไฟฟ้ าไม่มีส่วนห่อห้มุ /ปกปิ ดไปอย่ใู กล้หรือสมั ผสั กบั ส่ือ ไฟฟ้ า
การเกดิ อนั ตราย 1. การจับต้องหรือสัมผัสส่วนที่มีกระแสไฟฟ้ าร่ัวจะทาให้ถูก กระแสไฟฟ้ าดดู อาจเป็นอนั ตรายถงึ ชีวิต 2. เกิดการสิน้ เปลืองไฟฟ้ า เน่ืองจากกระแสไฟฟ้ ารั่วจะพยายาม ไหลไปตามสงิ่ ที่เป็นสื่อไฟฟ้ าเพื่อลงดนิ
การตรวจสอบกระแสไฟฟ้ ารั่ว 1. หากเป็ นอปุ กรณ์หรือเคร่ืองใช้ไฟฟ้ า ให้ใช้ไขควงวดั ไฟแตะท่ีผวิ หรือโครง โลหะของอปุ กรณ์ ถ้าพบวา่ หลอดไฟที่ด้ามไขควงสวา่ งขนึ ้ แสดงวา่ เกิดไฟฟ้ าร่ัว 2. การตรวจสอบระบบไฟฟ้ าในบ้านรวมถึงสายไฟ ควรให้ช่างหรือผู้มี ความรู้ความชานาญเป็นผ้ตู รวจสอบกระแสไฟฟ้ าร่ัว
การป้ องกนั จากไฟฟ้ าร่ัว 1. หลีกเล่ียงการสัมผัสหรือจับต้องอุปกรณ์ไฟฟ้ า เคร่ืองใช้ไฟฟ้ า หรือ วงจรไฟฟ้ าในขณะที่ร่างกายเปี ยกชืน้ หรือยืนอยบู่ นที่เปี ยกแฉะ 2. ใช้ไขควงวดั ไฟตรวจสอบจดุ ที่สมั ผสั ก่อน เม่ือพบวา่ ไมม่ ีไฟร่ัวจงึ จบั ต้อง 3. ใช้วสั ดทุ ี่เป็นฉนวนไฟฟ้ าปพู ืน้ เช่น แผน่ ไม้แห้ง แผน่ ยาง แผน่ พลาสตกิ 4. ใช้ระบบวงจรไฟฟ้ าที่มีสายดิน
การใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าขณะนา้ ท่วม 1. หากเป็ นบ้านชัน้ เดียวให้ตดั กระแสไฟฟ้ าโดยยกสะพานไฟขึน้ ย้ายสวติ ช์ไฟและเคร่ืองใช้ไฟฟ้ าขนึ ้ ที่สงู หา่ งจากระดบั ที่นา้ ท่วมถงึ ไมค่ วรใช้ เคร่ืองใช้ไฟฟ้ า หากเป็ นบ้าน 2 ชนั้ ให้แยกวงจรไฟฟ้ าชนั้ บนและชนั้ ลา่ งของ บ้าน เพื่อปลดตดั กระแสไฟฟ้ าบริเวณชนั้ ลา่ ง และเคลือ่ นย้าย เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าไปอยใู่ นสถานที่ที่นา้ ทว่ มไมถ่ งึ
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ าขณะน้าท่วม 2. ห้ามใช้และสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้ าทุกชนิดในขณะท่ีตัวเปี ยกชืน้ ยืนบนพืน้ ท่ีชืน้ แฉะหรือตวั แช่อยใู่ นนา้ 3. ห้ามนาเคร่ืองใช้ไฟฟ้ าท่ีได้รับความเสียหายจากนา้ ท่วมมาใช้ งานเดด็ ขาด เพราะจะทาให้เกิดกระแสไฟฟ้ าร่ัวไหล
การปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นกรณไี ฟดูด การปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นกรณีถกู ไฟดดู ได้แก่ 1) เคลือ่ นย้ายผ้ปู ่ วยออกจากบริเวณทีถ่ กู ไฟดดู หรือไฟช็อตให้เร็วท่ีสดุ 2) หาทางตดั วงจรไฟฟ้ า 3) หากมีสายไฟพาดผา่ นตวั ผ้ปู ่ วยท่ีถกู ไฟฟ้ าดดู ต้องหาวสั ดทุ ี่เป็น ฉนวนไมน่ ากระแสไฟฟ้ า
การปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นกรณไี ฟดูด 4) กระแสไฟฟ้ าท่ีไหลผา่ นหวั ใจอาจทาให้คลนื่ หวั ใจหยดุ เต้นได้ สามารถตรวจการเต้นของหวั ใจโดยใช้นิว้ ชีแ้ ละนิว้ กลางทาบบริเวณ ข้างลาคอ เพอ่ื ตรวจดกู ารเต้นของชีพจรบริเวณลาคอ ถ้าหวั ใจหยดุ เต้น ต้องทาการนวดหวั ใจไปพร้อมๆ กบั การผายปอด 5) หลงั จากชว่ ยเหลอื ผ้ปู ่ วยออกมาได้แล้ว ให้นาสง่ โรงพยาบาลโดยเร็วท่ีสดุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: