Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม 5 การายงาน

เล่ม 5 การายงาน

Published by ดวงรัตน์ กวดกิจการ, 2022-08-15 15:02:07

Description: เล่ม 5 การายงาน

Search

Read the Text Version

คำนำ เอกสารประกอบการเรียน วิชา การงานอาชพี 5 (ง33101) เรื่อง สร้างสรรคโ์ ครงงานอาชีพ ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 เล่มน้ีจัดทำข้ึนโดยมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อใชเ้ ป็นส่ือประกอบการเรียนของผู้เรียน ตามหลักสูตร มธั ยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2551 ของกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยนำมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชี้วัด มา วิเคราะห์จัดทำคำอธิบายรายวิชา จุดประสงค์การเรียนรู้และขอบขา่ ยเนื้อหา เอกสารประกอบการเรียนเล่มนี้ ได้เรียงลำดับเนื้อหาไปตามลำดับขั้นตอนการเรียนรู้จากง่ายไปหายาก นำภาพมาประกอบให้ผู้เรียนเกิดความ สนใจ เข้าใจเนือ้ หาไดง้ ่ายขึ้น เพอื่ ใหเ้ หมาะสมกบั การเรยี นรู้ของผู้เรียน ในขณะเดียวกนั ยังสามารถนำความรู้ท่ี ได้รบั จากเอกสารประกอบการเรยี นเล่มน้ไี ปใชเ้ ปน็ แนวทางในการประกอบอาชีพต่อไปในอนาคต เอกสารประกอบการเรียน วิชา การงานอาชีพ5 (ง 33101) เรื่อง สร้างสรรค์โครงงานอาชีพ เล่มน้ี ประกอบด้วยเนอื้ หา จำนวน 5 เรอ่ื ง ดงั นี้ 1. สำรวจวิเคราะหพ์ ืชพรรณในทอ้ งถ่ิน 2. สืบเสาะแสวงหาข้อมูล 3. ปฏิบัติการทำโครงงานอาชพี 4. การจำหน่ายผลิตภณั ฑ์ 5. การรายงานโครงงานอาชพี ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิง่ ว่าเอกสารประกอบการเรียนฉบับนี้จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผูส้ นใจ ในการศึกษา ค้นคว้าเป็นอย่างดี ดวงรัตน์ กวดกจิ การ ครู โรงเรยี นสตรีพังงา

สารบญั หน้า 1 เรื่อง 2 คำชแี้ จงการใช้เอกสารประกอบการเรียน……………………………………………………………… 3 Flowchart การเรยี นรู้ดว้ ยเอกสารประกอบการเรยี น เรือ่ งโครงงานอาชีพ ………………. 4 การจัดชัน้ เรียน ………………………………………………………………………………………………… 4 มาตรฐานการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………. 5 ตัวชีว้ ัด ……………………………………………………………………………………………………………. 6 สาระการเรียน ………………………………………………………………………………………………….. 7 จุดประสงค์การเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………….. 12 ประเมินก่อนเรยี น …………………………………………………………………….………………………. 18 ใบความรทู้ ่ี 1 เรือ่ งการเขียนรายงานโครงงานอาชพี ……………………….…………….………. 22 ใบความรทู้ ่ี 2 เรื่องการจัดนิทรรศการโครงงานอาชพี ……………………….…………….………. 25 ใบความรูท้ ่ี 3 เรื่องการทำแผงโครงงานอาชีพ ………………………………...…………….………. 29 ใบความรู้ท่ี 4 เรอ่ื งการนำเสนอโครงงานอาชีพด้วยวาจา.………………...…………….………. 30 ใบกิจกรรมที่ 1 เร่อื งการเขยี นรายงานโครงงาน …………………………………….………….…… 31 ใบกิจกรรมท่ี 2 เรือ่ งการทำแผงโครงงานอาชพี …………………….……………….………….…… 32 ใบกิจกรรมที่ 3 เรื่องการทำแผ่นพบั …………………………………………………….………….…… 33 ใบกจิ กรรมท่ี 4 เร่ืองการนำเสนอโครงงาน ………………………………………….………….…… 36 ประเมนิ หลงั เรยี น……………………………………………..……………………………………………….. เอกสารอา้ งองิ …………………………………………………………………………………………………..

11 คำชี้แจงการใช้ เอกสารประกอบการเรยี น เอกสารประกอบการเรียน รายวิชาการงานอาชีพ (ง33101) เรื่อง สร้างสรรค์โครงงานอาชีพ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 จัดทำข้ึนเพื่อใชป้ ระกอบการเรยี นการสอน นักเรียนเป็นผูม้ บี ทบาททีส่ ำคัญ ฉะนน้ั นักเรียน ทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเครง่ ครัด จึงทำให้กระบวนการเรยี นรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนักเรียนปฏิบตั ิ ตามข้นั ตอน ดงั น้ี 1. นกั เรียนอ่านคำชแี้ จงให้เขา้ ใจ 2. นกั เรียนต้องมคี วามรบั ผดิ ชอบ ตรงต่อเวลาในการเรียน และการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ 3. ศกึ ษาเอกสารประกอบการเรียนแตล่ ะเรอ่ื งตามลำดบั ขัน้ ตอน 4. นักเรยี นสามารถปรกึ ษาหารอื และช่วยเหลือเพื่อนซึ่งกันและกันไดต้ ลอดเวลาที่ศกึ ษา และการทำ กจิ กรรม 5. ขณะเรยี นหรือทำกิจกรรมหากนักเรียนเม่ือยล้า ใหน้ กั เรียนหยดุ พักแล้วค่อยศกึ ษา หรือทำกิจกรรม ตา่ ง ๆ 6. นกั เรียนเลอื กกลุม่ ปฏิบัติกจิ กรรมด้วยความอสิ ระ กลุ่มละ 3-5 คน 7. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เตรียมวัสดอุ ุปกรณ์ตา่ งๆ กอ่ นปฏิบตั กิ จิ กรรมตามคำชี้แจง ดว้ ยตนเองให้พร้อม กอ่ นปฏิบัตกิ ิจกรรมทุกครง้ั 8. นกั เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมด้วยตนเอง ด้วยความตง้ั ใจ ระมัดระวงั และรอบคอบ 9. หลังปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ เสร็จแล้ว นักเรียนต้องทำความสะอาดเครื่องมืออุปกรณ์ ให้สะอาด เรียบรอ้ ยกอ่ นเก็บเขา้ ท่ที กุ ครั้ง 10. เมื่อนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมฝึกปฏิบัติเสร็จแล้ว ให้นักเรียนบันทึกผลการปฏิบัติงานตามลำดับ ข้ันตอน วเิ คราะหผ์ ลทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษา และเสนอปญั หาแนวทางการแก้ปญั หาทกุ ครง้ั

11. ให้นักเรียนประเมินคุณภาพผลงานของนักเรียนด้วยตนเองด้วยความถูกต้อง และยุติธรรม เม่ือ นักเรยี นประเมินตนเองเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี นนำผลงานของนักเรียนให้เพื่อน และครูร่วมประเมนิ นักเรยี นทุกคร้ัง 2 Flowchart การเรียนรู้เอกสารประกอบการเรียน ศึกษาบทบาท หน้าท่ีของครู และนักเรียน/ ตงั้ จุดประสงคก์ ารเรียนร้รู ว่ มกัน วิเคราะหผ์ เู้ รียนเป็นรายบคุ คล ออกแบบชน้ั เรียน ( Classroom Layout ) ประเมินก่อนเรียน ศึกษา เอกสารประกอบการเรียน เร่ือง สรา้ งสรรค์โครงงานอาชพี ปฏบิ ัติกิจกรรม ปรบั ปรุง/ สรปุ ผลการปฏิบตั งิ าน พฒั นา ประเมินคณุ ภาพผลงานโดยตัวนกั เรยี น เพือ่ น และครู

ไม่ผา่ น ประเมนิ หลงั 3 เรยี น ผ่าน สรปุ ผลการเรียน การจดั ชัน้ เรยี น การจัดกระบวนการเรียนรู้ มุ่งให้นักเรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ตามความแตกต่างของแต่ละ บุคคลนั้น การจัดชั้นเรียนเป็นสว่ นสำคญั อีกประการหนึ่ง ที่ทำให้กระบวนการเรยี นรู้บรรลุผลตามจุดประสงค์ ซ่ึงหลกั ในการจัดชั้นเรียน มดี ังน้ี 1. จัดชนั้ เรียนในห้องเรียนใหน้ กั เรยี นนั่งเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 3–5 คน 2. แต่ละกลมุ่ จะตอ้ งคละนักเรียน โดยใหม้ นี ักเรียนเกง่ 1-2 คน ปานกลาง 1-3 คน และออ่ น 1-2 คน เพื่อต้องการให้นักเรยี นมปี ฏิสมั พันธร์ ่วมปรึกษาหารือ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในกลุ่มที่นัง่ ในขณะเรียน หรอื ทำกจิ กรรม 3. การจัดกลมุ่ ใหน้ กั เรียนน่ังทุกกลุม่ ครูผู้สอนจะตอ้ งมองเห็นพฤติกรรมนกั เรยี นได้ทุกคน 4. การจดั ชั้นเรยี น ต้องมีแสงสวา่ งอยา่ งเพยี งพอ 5. การจัดชั้นเรียนต้องมีบรรยากาศที่ดี ไม่มีเสียงรบกวน ไม่อบอ้าวหรือร้อน รบกวนสมาธิของ นกั เรียน

4 มาตรฐานและตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการทักษะ กระบวนการแกป้ ญั หา ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลกั ษณะนิสัยใน การทำงาน มจี ิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม เพือ่ การดำรงชีวติ และครอบครัว ง 2.1 เขา้ ใจ มที กั ษะทจ่ี ำเป็น มปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้เทคโนโลยเี พื่อพัฒนาอาชีพ มีคณุ ธรรม และมเี จตคตทิ ีด่ ีต่ออาชีพ ตัวชวี้ ัด ง 1.1 ม.4-6/2 สร้างผลงานอยา่ งมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ และมที ักษะในการทำงานร่วมกนั ง 1.1 ม.4-6/3 มีทกั ษะการจดั การในการทำงาน ง 1.1 ม.4-6/4 มีทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.4-6/5 มที กั ษะในการแสวงหาความรเู้ พ่ือการดำรงชีวิต ง 1.1 ม.4-6/6 มีคณุ ธรรมและลักษณะนสิ ยั ในการทำงาน ง 2.1 ม.4-6/1 อภปิ รายแนวทางเข้าส่อู าชีพที่สนใจ ง 2.1 ม.4-6/3 มีประสบการณ์ในอาชพี ทถ่ี นัดและสนใจ ง 2.1 ม.4-6/4 มีคณุ ลกั ษณะทด่ี ีต่ออาชีพ

5 สาระการเรียนรู้ 1.การเขียนรายงานโครงงานอาชีพ 1.1 องค์ประกอบของการเขยี นรายงานโครงงานอาชพี 1.2 รูปแบบการเขียนอา้ งองิ และบรรณานุกรม 1.3 บรรณานกุ รม 1.4 หลกั การเขียนบรรณานุกรม 2. การจดั นทิ รรศการ 2.1. แผงแสดงผลงานโครงงาน 2.2. ความหมายของนทิ รรศการ 2.3. วตั ถปุ ระสงค์ของการจัดนิทรรศการ 2.4. ประโยชน์ของการจดั นิทรรศการ 2.5. ขน้ั ตอนและการดำเนนิ งานจัดนทิ รรศการโครงงานอาชพี 3. การรายงานโครงงานอาชพี ดว้ ยวาจา 3.1. ข้อควรคำนงึ ในการรายงานโครงงานอาชพี ด้วยวาจา 3.2. การวางแผนการรายงานโครงงานอาชีพดว้ ยวาจา 3.3. การฝึกการรายงานโครงงานอาชีพดว้ ยวาจา 3.4. การเตรียมส่ือประกอบการรายงานโครงงานอาชีพดว้ ยวาจา 3.5. แผ่นพบั

6 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกองคป์ ระกอบของการเขียนรายงานโครงงานอาชพี ได้ 2. อธบิ ายรปู แบบการเขยี นอา้ งอิงและบรรณานกุ รมได้ 3. รู้หลกั การเขยี นบรรณานุกรมได้ 4. เขยี นบรรณานกุ รมได้ 5. เขียนรายงานโครงงานอาชีพได้ 6. ปฏบิ ัตทิ ำแผงแสดงผลงานโครงงานอาชีพได้ 7. บอกความหมายของนทิ รรศการได้ 8. บอกวัตถปุ ระสงค์ของการจดั นทิ รรศการ ได้ 9. รู้ประโยชนข์ องการจัดนทิ รรศการ 10. อธิบายข้ันตอนการจดั นทิ รรศการ 11. จดั นิทรรศการโครงงานอาชีพได้ 12. รู้ขอ้ ควรคำนึงในการรายงานโครงงานอาชีพด้วยวาจา 13. วางแผนการนำเสนอโครงงานอาชีพด้วยวาจาได้ 14. นำเสนอโครงงานอาชพี ด้วยวาจาได้ 15. ทำแผ่นพับโครงงานอาชีพได้

7 ประเมินก่อนเรียน เรอ่ื งการเขียนรายงานโครงงานอาชีพ ให้นกั เรียนทำเคร่ืองหมาย หนา้ ข้อท่ีถกู ที่สดุ เพยี งขอ้ เดียว 1. การเขยี นรายงานโครงงานอาชพี ต้องมีองค์ประกอบใดบ้าง ก. สว่ นปกและส่วนหนา้ ส่วนเน้ือเรื่อง และภาคผนวก ข. สว่ นปกและสว่ นหนา้ ส่วนเนอ้ื เร่ือง สว่ นทา้ ย ค. บทที่1 บทท่ี 2 บทที่ 3 บทที่ 4 และบทที่ 5 ง. บทนำ สว่ นเนื้อเรอ่ื ง บรรณานกุ รม 2. การเขียนรายงานโครงงานอาชีพ “สว่ นที่ 1” ประกอบดว้ ยหัวข้อใดบ้าง ก. ชอื่ โครงงาน ช่ือผทู้ ำโครงงาน ชือ่ ครูทีป่ รกึ ษา คำนำ สารบญั บทคัดย่อ ข. บทที่1 บทที่ 2 บทที่ 3 บทที่ 4 และบทที่ 5 ค. ชือ่ โครงงาน คำนำ สารบัญ เรอ่ื ง สรปุ ง. คำนำ สารบัญ เร่ือง สรุป 3. สว่ นของ “บทนำ” ประกอบดว้ ยสง่ิ ใดบ้าง ก. ความสำคัญของโครงงาน วัตถุประสงค์ วิธกี ารดำเนินงาน ข. ความสำคัญของโครงงาน วัตถปุ ระสงค์ ประโยชน์ ค. ความเป็นมา วตั ถุประสงค์ เอกสารทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ง. ความเปน็ มา สมมุติฐาน เอกสารท่เี กยี่ วขอ้ ง 4. การเขยี น “ผลการดำเนินโครงงาน” ควรเขยี นในบททเ่ี ท่าไรของรายงานโครงงานอาชพี ก. บทท่ี 2 ข. บทท่ี 3

ค. บทที่ 4 ง. บทที่ 5 8 5. การเขียน “สรุปผลการดำเนนิ โครงงานอาชพี ” ควรเขียนอย่างไร ก. เขยี นอธิบายตรงกบั ประโยชน์ของการปฏิบัตงิ าน ข. เขียนสรปุ สน้ั ๆ ตรงตามขั้นตอนการปฏิบตั ิงาน ค. เขียนอธบิ ายตรงตามขัน้ ตอนการปฏิบัติงาน ง. เขียนสรุปสั้น ๆ ตรงตามวตั ถุประสงค์ 6. การเขยี น “ขอ้ เสนอแนะ” ควรเขยี นอย่างไร ก. เสนอแนะรูปแบบใหม่ในการทำโครงงานครงั้ ตอ่ ไป ข. เสนอแนะวิธีการปรบั ปรุงการทำโครงงานใหด้ ีขน้ึ ค. เสนอแนะปัญหาทย่ี งั ไมเ่ กดิ ข้นึ เพอื่ ปอ้ งกนั ไว้ ง. เสนอแนะแนวทางการทำโครงงานเร่อื งใหม่ 7. ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง ก. การเขยี นประโยชนท์ ไี่ ดจ้ ากโครงงานอาชีพให้เขยี นวา่ มปี ระโยชน์อยา่ งไร ดา้ นไหน เปน็ ขอ้ ๆ ข. การเขยี นขั้นตอนการดำเนนิ งานใหเ้ ขียนเปน็ ภาพรวมของการปฏิบตั งิ าน ค. การนำเสนอผลการทำโครงงานอาชพี ให้นำเสนอแบบตารางเท่านั้น ง. การเขยี นรายงานโครงงานอาชพี ไม่จำเป็นตอ้ งเขียนบรรณานุกรม 8. การเขยี นรายงานโครงงานอาชพี “ภาคผนวก” ควรใส่ส่ิงใดบา้ ง ก. ภาพการดำเนนิ งาน ข. เอกสารอ้างองิ ค. ขอ้ เสนอแนะ ง. ทกุ ข้อท่ีกล่าว 9. การเขียนรายงานโครงงานอาชีพ “การสมั ภาษณผ์ ู้เชยี่ วชาญ” จำเปน็ ตอ้ งอา้ งองิ หรอื ไมอ่ ย่างไร ก. ไม่จำเปน็ ต้องอ้างอิง เพราะเป็นบุคคลท่ีมีตวั ตน ข. จำเป็นต้องอา้ งอิง เพราะเป็นแหลง่ ขอ้ มลู ค. ไมจ่ ำเปน็ เพราะไมถ่ อื ว่าเป็นขอ้ มลู

ง. ผดิ ทุกข้อ 9 10.ทำไมต้องเขียนบรรณานุกรมหรอื เอกสารอ้างอิง ก. เพอ่ื แสดงถงึ การใหเ้ กยี รตเิ จ้าของเร่ือง ข. เปน็ ขอ้ เท็จจรงิ ท่สี ามารถตรวจสอบได้ ค. เพ่ือให้รายงานเชอ่ื ถอื ได้ ง. ถกู ทุกข้อ 11. ถ้าเปรียบเทยี บแผงแสดงผลงานโครงงานอาชพี เหมอื นกบั ส่งิ ใด ก. รายงานโครงงานอาชพี ข. ปา้ ยประชาสัมพนั ธ์ ค. ปา้ ยโปสเตอร์ ง. ป้ายนิเทศ 12. แผงแสดงผลงานโครงงานอาชีพท่ดี ีควรมีลกั ษระอย่างไร ก. มลี ักษณะ 2 แผน่ เป็นชุดเดยี วกัน พบั เกบ็ ได้ ข. มีลกั ษณะ 3 แผน่ เปน็ ชุดเดียวกัน พบั เก็บได้ ค. มลี กั ษณะ 4 แผน่ เปน็ ชุดเดียวกนั พบั เกบ็ ได้ ง. มีลักษณะ 5 แผ่น เป็นชุดเดยี วกัน พับเก็บได้ 13. “ปีกซ้าย” ของแผงแสดงผลงานโครงงานอาชีพ ควรประกอบด้วยเรื่องใด ก. วธิ กี ารทำ ผลท่ไี ด้จำการดำเนินงาน และสรปุ ผลการดำเนินงาน ข. ขน้ั ตอนการทำ เครือ่ งมอื และอปุ กรณ์ และวิธีการทำ ค. ชื่อโครงงาน ท่มี าของโครงงาน และจุดประสงค์ ง. ผลกงารดำเนนิ งาน ปญั หา อปุ สรรคทีพ่ บ 14. “ปีกขวา” ของแผงแสดงผลงานโครงงานอาชีพ ควรประกอบด้วยเรอ่ื งใด ก. วธิ กี ารทำ ผลทไ่ี ด้จำการดำเนินงาน และสรปุ ผลการดำเนนิ งาน ข. ขั้นตอนการทำ เคร่อื งมอื และอุปกรณ์ และวิธีการทำ ค. ช่อื โครงงาน ทีม่ าของโครงงาน และจุดประสงค์ ง. ผลการดำเนินงาน ปัญหา อปุ สรรคท่ีพบ 15. ขนาดของตวั อกั ษรในแผงแสดงผลงานโครงงานอาชพี ควรใชข้ นาดใดเหมาะสม ก. อ่านได้ในระยะ 1 เมตร ข. อ่านได้ในระยะ 2 เมตร ค. อ่านไดใ้ นระยะ 3 เมตร

ง. อา่ นได้ในระยะ 4 เมตร 16. การจดั แสดงแผงโครงงานอาชีพ ควรคำนึงถงึ ปจั จัยใดบ้าง ก. เหมาะสมกบั พืน้ ที่การจดั แสดง ข. ความปลอดภยั ของการจัดแสดง ค. ความถกู ต้องของการจัดแสดง 10 ง. ถกู ทุกขอ้ 17. ข้อใดไมใ่ ชป่ ระโยชนข์ องการจดั นิทรรศการแสดงผลงานโครงงานาอชีพ ก. ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความคดิ และรูจ้ ักการแกป้ ญั หา ข. ก่อใหเ้ กิดความเพลิดเพลิน บันเทงิ และผอ่ นคลาย ค. กอ่ ใหเ้ กดิ ความสนใจและเกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ ง. ทำให้เห็นภาพการทำโครงงานอาชพี อา่ นข้อความต้อไปนีแ้ ลง้ ตอบคำถามข้อท่ี 18 1. การจัดทำ 2. การเตรียมและการออกแบบ 3. ประชาสมั พันธ์ 4. วางแผน 5. ประเมินผล 6. สรุปผล 7. นำเสนอ 18. ขอ้ ใดเปน็ ขัน้ ตอนการจดั นิทรรศการโครงงานอาชีพ ก. 4-2-3-1-7-6-5 ข. 4-2-1-3-7-5-6 ค. 2-4-1-3-5-6-7 ง. 2-4-1-3-7-5-6 19.ขั้นการเตรียมการและการออกแบบ ในการจดั นทิ รรศการโครงงานอาชพี นกั เรยี นตอ้ งปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร ก. เขียนแผนการดำเนินงานการจดั นทิ รรศการโครงงานอาชพี ข. ทำการสาธิต อิบาย และตอบขอ้ ซักถามผู้ชม ค. เตรยี มผลิตภัณฑ์ ผลงานโครงงานอาชพี ง. เชิญชวนให้ผู้สนใจร่วมงาน 20. ขอ้ ใดสำคญั ทตี่ ้องมใี นการจัดนทิ รรศการแสดงผลงานโครงงานอาชพี

ก. คอมพวิ เตอร์ ข. ไมโครโฟน ค. ผลิตภัณฑ์ ง. แผ่นพับ 11 21. การจัดนทิ รรศการโครงงานอาชีพ “ผลิตภัณฑห์ รอื สินค้า” จำเป็นต้องนำมาจัดแสดงหรือไมอ่ ยา่ งไร ก. จำเป็นเพราะชว่ ยใหเ้ ห็นภาพและเข้าใจโครงงานอาชีพ ข. ไม่จำเปน็ เพราะสามารถอธบิ ายให้ผชู้ มเข้าใจได้ ค. ไมจ่ ำเปน็ เพราะเปน็ โครงงานไมไ่ ดจ้ ำหน่าย ง. จำเปน็ เพราะผชู้ มได้ซือ้ กลบั บา้ น 22. การจัดแสดงนิทรรศการโครงงานอาชีพ “ผลติ ภณั ฑห์ รอื สนิ ค้า” ควรจัดวางอย่างไร ก. วางรวมกนั ท้ังอปุ โภคและบริโภค เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสนใจของผู้ชม ข. พวกบรโิ ภคจดั วางด้านซา้ ย สว่ นพวกอุปโภคจัดวางดา้ นขวา ค. งานประดษิ ฐจ์ ัดวางด้านหลังคู่กับพวกบรโิ ภค ง. พวกบริโภคจดั วางรวมกับพวกอุปโภค 23. การรายงานโครงงานอาชพี ด้วยวาจา ควรปฏิบตั ติ นอย่างไร ก. การรายงานไม่ตอ้ งจำกดั เวลาแตต่ อ้ งรายงานให้ครบทกุ สว่ น ข. ถ้าตอบคำถามไม่ไดใ้ ห้นิง่ กม้ หนา้ เลก็ นอ้ ย ค. อา่ นรายงานใหผ้ ชู้ มฟังดว้ ยน้ำเสียงไพเราะ ง. ขณะรายงานให้สบสายตาผู้ชม 24. การรายงานโครงงานอาชีพด้วยวาจา “สว่ นเรมิ่ ตน้ ”ควรปฏิบตั ิตนอย่างไร ก. แนะนำชื่อโครงงาน ที่มาของโครงงาน ผลทไี่ ด้จากโครงงาน ข. แนะนำช่อื ตนเอง ช่อื โครงงาน จุดประสงคก์ ารทำโครงงาน ค. แนะนำช่ือตนเอง ช่ือโครงงาน ผลที่ได้จากโครงงาน ง. แนะนำโครงงาน ช่ือตนเอง ชอ่ื ผอู้ ำนวยการ 25. ก่อนการรายงานโครงงานอาชพี ดว้ ยวาจา ต้องเตรียมตัวอยา่ งไร ก. ฝึกพดู กอ่ นถงึ เวลารายงานจรงิ 5 นาที ข. พยายามพดู เลยี นเสยี งผูท้ ่มี ีช่ือเสยี ง ค. พูดชดั พดู เรว็ เพ่ือให้ทนั กับเวลา

ง. พดู เฉพาะประเดน็ สำคญั 12 ใบความรูท้ ่ี 1 เร่ือง การเขียนรายงานโครงงานอาชพี เมื่อดำเนินการทำโครงงานจนครบขั้นตอน ได้ข้อมูล ทำการวิเคราะห์ข้อมูลพร้อมทั้งแปลผลและ สรุปผลแล้วงานขั้นตอนต่อไปคือ การเขียนรายงานโครงงาน เป็นวิธีสื่อความหมายที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง ลักษณะการเขียนจะต้องใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย สั้น รัดกุม และสรุปได้ชัดเจนตรงไปตรงมา และครอบคลุม ประเด็นสำคัญของโครงงาน เพื่อให้คนอื่นๆ ได้เข้าใจถึงแนวความคิด วิธีการดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูล ต่างๆที่รวบรวมได้ผลท่ีได้ตลอดจนข้อสรุป ผลของการศึกษาตลอดจนประโยชนแ์ ละข้อเสนอแนะต่างๆ ที่ได้ จากโครงงาน แลว้ นำมาเขียนรายงานโครงงาน องค์ประกอบของการเขียนรายงานโครงงานอาชพี องคป์ ระกอบของการเขียนรายงานโครงงาน แบ่งกวา้ งๆ เป็น 3 สว่ น ดงั นี้ 1. สว่ นปกและส่วนต้น ส่วนปกและสว่ นต้น ประกอบดว้ ย 1.1. ช่อื โครงงาน 1.2. ชือ่ ผ้ทู ำโครงงาน ชั้น โรงเรยี น และวันเดือนปที ่จี ดั ทำ 1.3. ชอ่ื ทปี่ รกึ ษาโครงงาน 1.4. คำนำหรอื บทคัดย่อ คำอธบิ ายย่อๆถึงเหตจุ ูงใจในการทำโครงงาน ซึ่งนกั เรยี นตอ้ งทำโครงงาน เรียบร้อยแล้วจึงเขียนบทคัดย่อได้ วิธีเขียนคือ บอกชื่อโครงงานที่นักเรียนทำ บอกวัตถุประสงค์ในการทำ โครงงานนน้ั ๆ บอกวิธีการศึกษาทดลองต่างๆเฉพาะสว่ นท่ีเป็นสาระสำคญั บอกผลการศกึ ษาทดลอง โดยนำมา จากบทสรุปผลการศกึ ษา โดยท่ัวไปบทคดั ย่อมคี วามยาวไมเ่ กนิ คร่งึ หนา้ กระดาษหรอื 300-350 คำ

1.5. กิตติกรรมประกาศ (คำขอบคุณ) ในส่วนนี้ผู้ทำโครงงานจะเขียนกล่าวแสดงความขอบคุณ ผู้ที่ช่วยใหค้ วามช่วยเหลือทำให้โครงงานของนักเรยี นสำเร็จลุลว่ งไปด้วยดี อาจจะเป็นบุคคลหรือสถานท่ี เช่น ผู้ให้คำแนะนำในการทำโครงงาน ใหใ้ ชเ้ ครือ่ งมอื ใหใ้ ช้สถานท่ี ใหเ้ งินทนุ ในการทำโครงงาน และลงท้ายด้วย คำว่าคณะผู้จดั ทำ 1.6. คำนำ 1.7. สารบัญ 1.8. สารบญั ตาราง หรือภาพประกอบ (ถ้ามี) 13 2. สว่ นเน้อื เรอ่ื ง สว่ นเน้อื เร่อื ง ประกอบดว้ ย บทที่ 1 บทนำ ประกอบด้วย 2.1. ความเป็นมา ความสำคัญของโครงงาน บอกเหตุผล หรือเหตุจูงใจในการเลือกหวั ข้อโครงงาน 2.2. วัตถุประสงค์ของโครงงานคือจดุ หมายในการทำงานให้เขียนเป็นขอ้ ๆให้ชัดเจน 2.3. สมมติฐานของการศึกษาคน้ คว้า การเขียนสมมุติฐาน ให้เขียนเป็นประโยคบอกเล่า ที่มีตั้งแต่ ตัวแปรต้น และตัวแปรตาม ซึ่งสามารถแนะแนวทางในการวางแผนการทดลอง เพื่อตรวจสอบสมมุตฐิ านได้มี ความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ในการเขียนสมมุติฐานนั้น ผู้เขียนจะใช้วิธีให้นักเรียนคาดคะเนคำตอบของ ปัญหาที่เรายังไม่รู้คำตอบไว้ล่วงหน้า ก่อนทำการทดลอง โดยอาศัยการสังเกตความรู้ประสบการณ์เดิมของ นกั เรียนเป็นพ้นื ฐาน สมมุตฐิ านอาจจะถกู หรอื ผิดก็ได้ บทที่ 2 เอกสารทเ่ี ก่ียวข้อง เปน็ การเขียนอ้างองิ เนื้อหาต่างๆทเ่ี รานำมาเขียน เป็นการบอกแหล่งท่ีมา ของขอ้ มูลท่เี รานำมาเขียนไวใ้ นบทต่างๆทำให้ทราบว่านำขอ้ ความมาจากหนงั สือหรือสิ่งพมิ พ์ใด โดยเป็นข้อมูล ความรทู้ ่ีเก่ยี วข้องกับเนอื้ หาโครงงานทน่ี ักเรยี นปฏบิ ัติ บทที่ 3 การดำเนินงาน อาจเขียนเป็นตาราง แผนผังการดำเนินโครงงาน เพื่อให้การดำเนินงาน เปน็ ไปตามหวั ข้อเร่อื ง ตรงตามวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงาน และพิสจู น์คำตอบ (สมมติฐาน) ตามประเด็นที่กำหนด ประกอบดว้ ย สถานที่ วสั ดุอปุ กรณท์ ใ่ี ช้ทำโครงงาน วธิ ีการศกึ ษา มดี งั น้ี 1 อธบิ ายข้นั ตอนการดำเนนิ งานโดยละเอียด เชน่ ขน้ั ตอนท่ี 1 เป็นข้นั ตอนศกึ ษาอะไรนกั เรียนศึกษา หรือแบ่งกล่มุ ศกึ ษาอย่างไรและดผู ลจากอะไร โดยวธิ ไี หน อย่างไร เปน็ ต้น ถดั จากนน้ั ขั้นตอนท่ี 2 3 4 ทำ อย่างไรไปเร่ือย ๆ 2 เขียนวิธีการทดลอง โดยเรียงลำดับก่อนหลัง ใส่หมายเลขเป็นข้อๆ เขียนให้ได้ใจความ ต่อเนื่อง ชัดเจน กะทัดรัด อ่านแลว้ เขา้ ใจงา่ ย ไมว่ กวน 3 บอกวธิ กี ารหาขอ้ มูลว่าทำอยา่ งไร เชน่ นำมาเขียนในรปู ตาราง แผนภมู ิ กราฟ ฯลฯ

บทที่ 4 ผลการศึกษาค้นคว้า คือผลที่ได้จากการศึกษา เขียนตามวัตถุประสงค์ ควรจะเสนอใน รปู แบบตาราง กราฟ แผนภูมิ หรืออน่ื ๆให้ดูงา่ ย บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินโครงงานอาชีพ ให้เขียนผลการศึกษาอย่างสั้นๆ ให้ได้ใจความตรงตาม จุดประสงคข์ องการศึกษา ถ้ามกี ารต้ังสมมุตฐิ าน ควรระบุดว้ ยว่าขอ้ มูลทไ่ี ด้มา สนบั สนนุ หรือคัดค้านสมมตุ ฐิ าน ที่ต้ังไว้หรอื ยังสรปุ ไม่ได้ ข้อเสนอแนะ ควรเขียนในลักษณะเสนอแนะวธิ ีการปรบั ปรุงการทดลองใหด้ ีขึ้น ให้บอกว่าสามารถ นำความรทู้ ี่ไดจ้ ากการศึกษา ไปทำอะไรได้บา้ ง โดยเขียนข้อเสนอแนะเป็นข้อๆโดยเรยี งลำดับความสำคัญจาก 14 มากไปหานอ้ ย ประโยชน์ของโครงงาน ใหบ้ อกประโยชน์ที่ได้จากโครงงาน หรอื จากการศึกษาเร่ืองน้นั ๆว่ามีประโยชน์ อะไร ด้านไหน ใหเ้ ขยี นเป็นขอ้ ๆไป 3. ส่วนทา้ ย สว่ นท้าย ประกอบด้วย 3.1. บรรณานกุ รม หรือ เอกสารอ้างอิง หรอื เอกสารท่ใี ช้คน้ คว้าทีน่ ำมาใช้ประโยชน์ในการทำ โครงงานน้ี ซง่ึ มหี ลายประเภท เช่น หนงั สือ ตำรา บทความ หรือคอลัมน์ ซง่ึ จะมีวธิ กี ารเขยี นบรรณานุกรม ต่างกัน เช่น หนงั สอื ชอ่ื นามสกุล. ช่อื หนงั สือ. สถานท่ีพิมพ์ : สำนกั พิมพ์, ปที ่ีพมิ พ์ บทความในวารสาร ช่อื ผ้เู ขียน \"ชอ่ื บทความ,\" ช่อื วารสาร. ปีที่หรอื เล่มที่ : หน้า ;วนั เดอื น ปี. คอลัมน์จากหนงั สอื พมิ พ์ ชื่อผู้เขยี น \"ช่ือคอลมั น์ : ช่อื เรื่องในคอลมั น\"์ ช่ือหนังสือพิมพ.์ วนั เดือน ป.ี หน้า. 3.2. ภาคผนวก คอื สว่ นประกอบท่เี ขยี นเพ่มิ เตมิ ในตอนท้าย เพ่ือช่วยใหเ้ ห็นความสมบูรณ์ในข้อมูล เนื้อหา กระบวนการดำเนินงานและผลของการวิจัย อาจประกอบด้วยแบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ ผลการ วเิ คราะหข์ ้อมลู โดยใช้สถติ ิทเี่ กี่ยวขอ้ งอ่ืน นอกเหนอื จากสว่ นทจี่ ัดไว้ในเนอ้ื หา สำเนาเอกสารหายาก โปรแกรม คอมพิวเตอร์ที่ใช้ นอกจากนี้อาจมีรายละเอียดอื่น ๆ เช่น คำอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอน หรือวิธีทำภาพประกอบ การสร้างเครื่องมือหรืออุปกรณ์การทดลอง ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นหรือสร้างขึน้ ในโครงงานนั้น ๆ สำหรับกรณีมี ภาคผนวกหลายภาค ใหจ้ ดั เปน็ ภาคผนวก ก ภาคผนวก ข และภาคผนวก ค ตามลำดับ และให้ขึ้นหน้าใหม่เม่ือ ข้นึ ภาคผนวกใหม่ และพมิ พห์ น้าบอกตอนสำหรบั ภาคผนวกนนั้ ๆ ดว้ ย รปู แบบการเขยี นอ้างอิงและบรรณานุกรม การอ้างอิง หมายถึงการบอกถงึ แหล่งท่มี าของขอ้ ความท่ใี ช้อา้ งองิ ในเนื้อหาที่นำมาเขียนเรยี บเรียง

1. การอา้ งอิงแบบแทรกปนในเนอื้ หา ซ่งึ มี 2 ระบบ (สง่ ศรี ดศี รีแก้ว, 2534 : 78) คือ 1.1 ระบบนาม - ปี ( Author - date) ระบบนาม - ปี เป็นระบบทมี่ ีช่อื ผแู้ ต่ง, ปีที่พมิ พ์ และเลข หน้า ท่ีอา้ งอิงอย่ภู ายในวงเล็บ ดงั ตัวอยา่ ง (ช่ือผู้ แตง่ . ปีที่พิมพ์ : เลขหนา้ ทีอ่ ้างองิ ) 1.2 ระบบหมายเลข (Number System) เปน็ ระบบท่ีคล้ายคลึงกับระบบนาม - ปี แตร่ ะบบนจ้ี ะใช้ หมายเลขแทนช่อื ผู้แตง่ เอกสารอ้างองิ มีอยู่ 2 วิธี คอื 1. ให้หมายเลขตามลำดับของการอ้างอิง 2. ให้หมายเลขตามลำดับอักษรผู้แตง่ 15 บรรณานุกรม (Bibliography) บรรณานุกรม หมายถึง รายการของทรัพยากรสารสนเทศทั้งหมด ที่ผู้ทำรายงานได้ใช้ประกอบการ เขียนรายงาน รายชื่อหนังสือ เอกสารสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมทั้งโสตทัศนวัสดุ ตลอดจนการค้นคว้าจากระบบ อินเทอร์เน็ต รวมฐานข้อมูลทกุ ประเภทท่ีใชป้ ระกอบการคน้ คว้าเป็นหลกั ฐานอ้างองิ ในการเขยี นรายงาน ความสำคญั ของการรวบรวมบรรณานกุ รม ในการเขียนรายงานจากการค้นควา้ จะต้องมีการรวบรวมบรรณานุกรมไว้ตอนท้ายเลม่ เสมอ ดว้ ย เหตผุ ลดงั ต่อไปน้ี 1. เพื่อแสดงว่ารายงานนั้นเป็นรายงานที่มีเหตุผลและมีสาระ ไม่ใช่ผู้เรียบเรียงคิดเขียนขึ้นมา ลอย ๆ ตามความพอใจ 2. เพื่อแสดงว่าผูเ้ รียบเรียงรายงานเคารพสิทธิและความคิดเห็นของผู้แต่งหนงั สือ หรือสิ่งที่ผู้เรียบ เรยี งนำมาใชป้ ระกอบการเรียบเรียง 3. เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สนใจศึกษารายละเอียดข้อเท็จจริงของสิ่งพิมพ์ฯลฯ ที่ผู้เรียบเรียงนำมา ประกอบเป็นหลกั ฐานเพมิ่ เติมได้อีก 4. เพื่อเป็นแหล่งตรวจสอบหลักฐานดัง้ เดิมของข้อเท็จจริง ที่ผู้เขียนนำมาเป็นข้อเขียนในรายงาน น้นั ๆ ได้ หลกั การเขยี นบรรณานกุ รม 1. เขียนคำว่า บรรณานุกรม ไว้กลางหน้ากระดาษ หากเป็นบทนิพนธ์ภาษาอังกฤษให้ใช้คำ ว่า BIBLIOGRAPHY ซึ่งเปน็ ตวั พิมพ์ ใหญท่ ัง้ หมด

2. เมื่อเริ่มต้นเขียนให้ชดิ ขอบกระดาษที่เว้นไวป้ ระมาณ 1½ นิ้ว หากบรรทัดเดยี วไมจ่ บ บรรทดั ถดั ไปให้ยอ่ เข้ามา 7 ช่วงตัวอักษรจงึ พิมพอ์ กั ษรตวั ท่ี8 3. เมื่อรวบรวมแหลง่ สารนเิ ทศทอ่ี า้ งองิ ไว้ครบถ้วนท้งั หมดแลว้ ให้นำมาเรยี งลำดับตามตัวอักษรของ รายการแรก โดยเรยี งตามแบบพจนานกุ รมฉบับราชบัณฑติ ยสถาน ดังน้ี 3.1 เรยี งตามรูปพยัญชนะ สระที่ปรากฏ ไม่เรยี งตามเสยี งท่อี า่ น เช่น หยา่ เรยี งไว้ทพ่ี ยญั ชนะ ห และ อย่า เรยี งไวท้ ่ีพยัญชนะ อ 3.2 หากเปน็ พยญั ชนะตวั เดียวกนั ให้เรยี งลำดบั ทค่ี ำประกอบดว้ ยพยัญชนะล้วนเรียงไว้กอ่ นคำ ท่มี สี ระตดิ ตวั 16 3.3 พยญั ชนะทม่ี ีสระตดิ ตัว ให้เรียงลำดบั สระ 3.4 คำที่สะกดดว้ ยพยัญชนะเดยี วกันวรรณยกุ ต์ต่างกนั ให้ดูพยัญชนะตัวถัดไปไม่ต้องเรียงลำดับ ตามเสียงวรรณยกุ ต์ 3.5 ตัวเลข สัญลักษณ์ และคำย่อ หากเป็นตัวแรกของรายการของแหล่งสารนิเทศที่ใช้ในการ อ้างอิง ใหเ้ รียงไว้ตรงพยัญชนะ และตัวสะกดท่อี ่านเสียงออกมา การเขยี นบรรณานุกรมท่เี ปน็ ภาษาไทย ช่อื / ช่อื สกุล. / / ช่อื เรื่อง. / / คร้งั ท่พี มิ พ์. / / เมอื งที่พิมพ์ / : / ผรู้ บั ผดิ ชอบในการพมิ พ์, / / / / / / / / ปีทพ่ี ิมพ์. การเขียนบรรณานกุ รมที่เป็นภาษาองั กฤษ ช่ือสกุล. / ชื่อตน้ / ชอื่ กลาง (ถ้ามี). / / ชอ่ื เรื่อง. / / ครัง้ ทพ่ี ิมพ์. / / เมอื งทีพ่ ิมพ์ / : / ผู้รบั ผิดชอบ / / / / / / / ในการพมิ พ์, / ปีที่พมิ พ์. รปู แบบการเขยี น/พิมพบ์ รรณานกุ รมจากแหลง่ ข้อมลู อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกสป์ ระกอบดว้ ยฐานขอ้ มูลออนไลน์ ฐานขอ้ มูลซีดี-รอม และขอ้ มูลที่เข้าถงึ ได้จาก เครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ มรี ูปแบบการเขยี น ดังน้ี 1. ขอ้ มูลจากหนงั สอื หรอื ทเี่ ป็นเนอ้ื หา ช่อื ผแู้ ต่ง นามสกุล.//ชือ่ เรอื่ ง.//(ประเภทของส่อื ทเ่ี ข้าถงึ ).//แหลง่ ท่ีมาหรอื Available/:// / / / / / / / ชอื่ ของแหล่งท่มี า/ชอ่ื แหลง่ ย่อย./ปที สี่ บื คน้ .

1.1 ชือ่ ผแู้ ต่ง คอื ชือ่ ผู้แต่งท่เี ปน็ เจ้าของผลงาน หลักเกณฑ์การลงชอื่ ผู้แตง่ ใช้หลักเกณฑ์ เดยี วกับที่กล่าวมาแล้วในตอนต้น 1.2 ชือ่ เร่ือง คือ ชื่อของงานทผ่ี ู้เขียนรายงานหรอื ผู้วจิ ัยนำมาอ้าง กรณที ่ีในแหล่งขอ้ มูล ไมบ่ อกชอ่ื เรือ่ ง ผเู้ ขยี นรายงานหรอื ผูว้ จิ ยั อาจจะสรุปต้งั ชอื่ เรอ่ื งขน้ึ เอง แล้วเขยี นช่ือเรอ่ื งไว้ในวงเล็บ 1.3 คำบอกประเภทของส่ือทเี่ ข้าถงึ คือ คำที่บอกว่าสอื่ ท่ีสบื ค้นนำมาอา้ งอิงนน้ั เปน็ สอื่ อะไร ซ่ึงจะใช้ 2 คำ คือ “ออนไลน์” (Online) หรอื “ซีด-ี รอม” (CD-ROM) 1.4 แหลง่ ท่ีมา เปน็ วลีทลี่ งไวเ้ พื่อระบุวา่ หลงั ข้อความน้ันคอื แหล่งข้อมูลทีไ่ ดม้ า หลงั คำ วา่ แหลง่ ทม่ี าจะมีเครอื่ งหมายทวิภาค ดงั นี้ แหลง่ ท่ีมา ://… สำหรบั ภาษาอังกฤษใช้ Available ://… 17 1.5 ช่อื ของแหลง่ ทีม่ า/ชอ่ื แหลง่ ย่อย หมายถึง แหลง่ ที่จะได้ข้อมูลมา ให้ระบุรายละเอียดท่ี เพยี งพอแก่การท่จี ะเข้าถึงแหล่งข้อมลู ท่ีคน้ ได้ เช่น DIALOG, BRS, First Search หรอื ถ้าใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต ให้ ระบุวิธีทีใ่ ช้ในการคน้ หา เช่น โปรโตคอล (Telnet, FTP, WWW) ตลอดจน Directory และ File ตา่ งๆ แล้วแต่กรณี ตวั อยา่ งขอ้ มลู จากหนังสือหรอื ทีเ่ ปน็ เนือ้ หา ยามา้ ยาบา้ . (ออนไลน์). แหล่งท่ีมา : http://www.au.ac.th/Newabac/special/E/indrex.html. 2540. ฐานข้อมูล ซีดี – รอม ผูแ้ ตง่ . / / ชอ่ื เร่ือง. / / [ประเภทของส่ือ]. / / รายละเอยี ดทางการพมิ พ์(ถ้าม)ี . / / / / / / / / / เขา้ ถึงได้จาก / : /แหลง่ สารสนเทศ. ตัวอยา่ ง นพรตั น์ เพชรพงษ์. จำนวนวันนอนในโรงพยาบาลของผูป้ ่วยโรงพยาบาลพจิ ติ ร. [ซดี ี - รอม]. วทิ ยานพิ นธ์พยาบาลศาสตรม์ หาบัณฑิต. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลยั เชียงใหม,่ 2545. สาระสังเขปจาก : ฐานขอ้ มลู วทิ ยานิพนธ์ไทย แผ่นที่ 3, 2547. ตวั อยา่ งปก ชอื่ โครงงาน................................. ชื่อสมาชิก

18 ใบความรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง แผงแสดงผลงานโครงงานอาชีพ การนำเสนอโครงงานหรือการจัดแสดงผลงานเป็นงานขั้นสุดท้าย และมีความสำคัญเพราะเป็นการ แสดงผลิตผลของงาน เป็นการแสดงความคิด และความพยายามทั้งหมดที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเทลงไป เป็น วิธกี ารทจี่ ะทำให้ผอู้ นื่ ไดร้ ับรู้และเขา้ ใจถึงผลงานนั้นๆ การจัดแสดงผลงานถ้าทำไดไ้ ม่ดี กเ็ ท่ากับไมไ่ ด้แสดงความ ดี ความยอดเยี่ยมของผลงานการนำเสนอผลงานนั้นอาจทำได้หลายรปู แบบ เช่น แบบปากเปล่า หรือแสดงใน รูปแบบการจัดนิทรรศการ ซึ่งมีทั้งการจัดแสดงและการอธิบายด้วยคำพูด จัดทำเป็นสิ่งพิมพ์ การนำเสนอผ่าน ระบบคอมพิวเตอร์ หรือจัดแสดงโดยไม่มีการอธิบายประกอบ ไม่ว่าการแสดงผลงานจะอยู่ในรูปแบบใด นกั เรียนจะตอ้ งเตรียมการเพอ่ื นำเสนอเปน็ 3 สว่ นดงั นี้ 1. แผงแสดงผลงานโครงงานอาชพี 2. การจัดนิทรรศการโครงงานอาชพี 3. การรายงานโครงงานอาชีพดา้ ยวาจา แผงแสดงผลงานโครงงานอาชพี การจัดแผงโครงงานอาชีพเป็นส่วนหนึ่งของการจัดนิทรรศการโครงงานอาชีพ โดยทั่วไปจะนำเสนอ ข้อมูลลงในแผงจัดแสดงโครงงานอาชีพ ซึ่งมีการกำหนดขนาดไว้เป็นมาตรฐาน กำหนดให้มีจำนวน 3 แผ่น ตดิ กันเปน็ ชดุ เดยี วกัน คอื แผ่นกลางมีขนาดใหญท่ ่สี ุด ขนาดของแผงแสดงผลงานขนาดมาตรฐาน 60 เซนติเมตร X 120 เซนตเิ มตร และแผน่ ทเี่ ปน็ ปกี ติดอยู่ทั้ง 2 ขา้ ง สามารถพบั เกบ็ ได้ มีขนาดเทา่ กันคือ 60เซนติเมตร X 60 เซนตเิ มตร ซ่งึ ขนาดแผงแสดงผลงานขึ้นอย่กู ับสถานที่จัดแสดงสามารถปรับขนาดให้เหมาะกับสถานท่ีจัดแสดง

ปกติจะทำมาจากแผ่นไม้อดั หรือแผ่นฟอร์ไมกา ซึ่งมีขนาดเท่ากันและเป็นผลิตภณั ฑ์มาตรฐานที่นิยมใช้ในงาน ท่ัวไป ปัจจบุ นั นิยมใชแ้ ผน่ พลาสตกิ ลูกฟูก หรอื ท่ีเรยี กวา่ ฟิวเจอร์บอรด์ มีขนาดเทา่ กนั กับแผ่นไมอ้ ัด แตส่ ามารถ ตัดแต่งได้ง่ายดว้ ยมีดหรือคตั เตอร์ น้ำหนักเบา มีหลายสีให้เลือก และราคาไม่แพงจนเกินไป แต่มีข้อเสียคือ มี ความแข็งแรงทนทานนอ้ ย อาจหักพบั หรือรปู ทรงบดิ เบี่ยวไดง้ า่ ย 19 ภาพ แผงโครงงานอาชพี แผงโครงงานอาชีพ เปรยี บเสมือนรายงานโครงงานอาชพี 1 เลม่ ดังนนั้ จึงตอ้ งทำให้สมบรู ณ์ และจบใน ตัวเอง โดยปกติการอ่านรายงานจะเริ่มตั้งแต่ คำนำ สารบัญ บทท่ี 1 ไปจนถึงบทสุดท้าย บทสรุปและ ขอ้ เสนอแนะ การลงรายละเอยี ดการทำโครงงานก็เชน่ เดยี วกนั จะนำเสนอขอ้ มูลโดยเรมิ่ ต้งั แต่ดา้ นปีกซา้ ย ไล่ไป จนจบการนำเสนอในปกี ขวา ดงั น้ันข้อมูลทน่ี ำเสนอควรประกอบดว้ ยหวั ข้อ ดังน้ี แผน่ ปกี ซ้าย ควรประกอบดว้ ยหวั ข้อ 1. ชื่อโครงงาน ควรใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ สีสันสดใส มองเห็นได้ชัดเจน ที่ด้านบนสุด หากช่ือ โครงงานมีขนาดยาว ไมส่ ามารถบรรจุในแผ่นปกี ซา้ ยได้หมด อนุโลมใหน้ ำไปใสไ่ ว้ดา้ นบนสุดของแผ่นกลาง 2. ชือ่ ผทู้ ำโครงงาน ลงชอื่ ผ้ทู ำโครงงานทง้ั หมด อาจนำรูปถ่ายใบหน้าของผู้ทำโครงงาน ประกอบก็ ได้ 3. ชอ่ื ท่ปี รกึ ษาโครงงาน หากมหี ลายคนอาจพิจารณานำมา 2-3 คน 4. สถานศกึ ษา

5. ที่มาและความสำคญั ในการทำโครงงาน 6. จดุ ประสงค์การทำโครงงาน 20 แผน่ กลาง ควรประกอบดว้ ยหัวขอ้ 1. วธิ ีดำเนินงาน ควรแยกออกเปน็ 2 สว่ น ไดแ้ ก่ วัสดอุ ุปกรณ์ วธิ ดี ำเนนิ งาน ซ่งึ วธิ ดี ำเนนิ งานน้ี เปน็ ตามลักษณะโครงงานที่ทำ ในส่วนนี้ผู้ทำโครงงานต้องอธิบายขั้นตอนการดำเนินงานให้ละเอียด ชัดเจน และ ควร อธิบายแยกเป็นข้อๆ หากมีภาพถ่ายอธิบายวิธีการและขัน้ ตอนการดำเนินงาน ก็สามารถนำเสนอโดยการ แทรกลงในส่วนนี้กไ็ ด้ หรืออาจแยกนำเสนอเป็นกลุม่ เฉพาะรูปภาพ และคำอธิบายภาพไว้ด้านล่าง ก็ได้ ไม่มี รปู แบบตายตัวขนึ้ อยู่กบั วจิ ารณญาณของผทู้ ำโครงงาน ทั้งนีต้ ้องจัดใหเ้ หมาะสมและสวยงาม แผ่นปีกขวา ควรประกอบดว้ ยหวั ข้อ 1. ผลการทดลองหรือผลการดำเนนิ งาน 2. อภิปรายและสรุปผล 3. คำขอบคุณ หากนำเสนอในตอนตน้ ของรายงานเรยี กว่า กิตติกรรมประกาศ แต่หากนำเสนอใน ส่วนทา้ ยรายงานจะเรียกว่าคำขอบคุณ ทั้งน้ีให้เลือกนำเสนออย่างใดอยา่ งหนึ่ง ไมค่ วรนำเสนอพรอ้ มกันทั้ง 2 ส่วน หัวข้อตา่ งๆ ในการจดั แผงโครงงานที่ยกมาเปน็ ตวั อย่างน้ี เป็นเพียงแนวทางในการนำเสนอ ขอ้ มูลเท่าน้ัน ผทู้ ำโครงงานอาจเปล่ียนแปลงใหม้ ีความเหมาะสม ตามธรรมชาตโิ ครงงานของตัวเอง ท้ังนี้ต้องใหเ้ ริ่มตน้ จาก ดา้ นซ้ายของแผง และจบการนำเสนอในแผงดา้ นขวา 4. ข้อเสนอแนะ ในการทำแผงนำเสนอโครงงาน ขนาดของตวั อักษรควรให้อ่านไดใ้ นระยะ 2 เมตร มกี ารตกแต่งด้วยกระดาษสี หรือของตกแตง่ อื่นให้สวยงาม นา่ สนใจ แผงจดั แสดงโครงงานนี้ ปกตจิ ะนำเสนอโดยการวางบนโต๊ะทดลอง หรือโต๊ะยาวที่สามารถ วางและกาง แผงออกได้กวา้ งพอสมควร ให้ผเู้ ขา้ ชมไดเ้ หน็ รายละเอยี ดของขอ้ มลู ในแผงโครงงานไดอ้ ย่างชัดเจน โต๊ะที่ใช้วาง แผงโครงงานและจัดนิทรรศการนี้ ควรตกแตง่ ให้เรียบรอ้ ยสวยงาม เพื่อความเรยี บร้อยสวยงามของนิทรรศการ โดยปกติจะปผู ้าและจบั จีบรอบโต๊ะให้เรียบร้อย สวยงาม การนำเสนอขอ้ มลู การทำโครงงาน และจัดนทิ รรศการ ประกอบ ต้องนำเสนอให้ครบถว้ น สมบรู ณ์ ตั้งแต่ต้นจนจบ

ภาพ การจัดแผงโครงงานอาชีพ การนำเสนอข้อมูลการทำโครงงานทั้งหมด บรรจุลงในแผงโครงงานแผงเดียว ดังนั้นข้อมูลที่นำมาลงใน แผงโครงงาน จึงควรนำมาเฉพาะหัวข้อสำคัญ และน่าสนใจ ใช้ข้อความท่ีกะทัดรัด ชัดเจน เข้าใจง่าย การจัด 21 นทิ รรศการโครงงาน ขอ้ ควรคำนึงถงึ ในการทำแผงแสดงผลงาน มดี ังน้ี 1. ความปลอดภัยของการจัดแสดง 2. ความเหมาะสมกบั พ้ืนที่ที่จัดแสดง 3. คำอธิบายท่ีเขียนแสดงควรเน้นเฉพาะประเด็นสำคญั และส่ิงท่ีนา่ สนใจเท่าน้ัน โดยใช้ข้อความที่ กะทดั รัด ชดั เจน เขา้ ใจง่าย 4. ดึงดูดความสนใจ โดยใช้รูปแบบการแสดงที่น่าสนใจ ใช้สีที่สดใส แต่ไม่ควรใช้สีสะท้อนแสง เพราะอาจทำให้เกิดการแสบตา ระคายเคืองในการมอง เน้นจุดสำคัญ หรือใช้วัสดุท่ีเร้าความสนใจ ในการตกแตง่ 5. ใชต้ ารางและรูปภาพประกอบ โดยจดั วางให้เหมาะสม 6. สิง่ ที่แสดงทกุ อย่างตอ้ งถูกตอ้ ง ไมม่ ีการสะกดผิด หรอื อธิบายหลักการท่ีผดิ 7. ผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือผลงานที่ได้จากการปฏิบัติโครงงานต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สามารถ จำหน่ายได้

22 ใบความรูท้ ี่ 3 การจัดนทิ รรศการโครงงานอาชีพ ความหมายของนิทรรศการ นิทรรศการ หมายถึง การให้การศึกษาอย่างหนึ่งด้วยการแสดงงานให้ชม เป็นการจัดแสดงและนำ โสตทัศนวสั ดรุ วมถึงวัสดุตา่ ง ๆ ท่ใี หข้ ้อมูล ขา่ วสาร ทผี่ ูช้ มสามารถสัมผัส เรียนรู้ ทดลองใช้ หรือมกี จิ กรรมเสริม ประกอบ นิทรรศการเป็นสื่อในการให้การศึกษา ความรู้ความเข้าใจ เพื่อกระตุ้นความสนใจ ตอบสนองและ เปลีย่ นแปลงพฤติกรรมของผูช้ มใหบ้ รรลุส่เู ป้าหมายในเรื่องนัน้ ๆ วตั ถปุ ระสงคข์ องการจัดนิทรรศการโครงงานอาชพี สามารถกำหนดวตั ถปุ ระสงค์เป็นเป้าหมายไวก้ ว้าง ๆ ดงั น้ี 1. เพอ่ื แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ใหแ้ ก่ผูช้ ม โดยพยายามใหใ้ กลเ้ คยี งกับประสบการณ์ ตรงมากทส่ี ดุ 2. เพือ่ ใหผ้ ู้ดูสามารถรับร้รู ปู แบบและเรือ่ งราวหลาย ๆ สง่ิ พร้อมกนั ในเวลาเดียวกัน 3. เพ่อื สง่ เสริมการแสดงออกท่ีให้ความรคู้ วามเข้าใจแกผ่ ู้จัดและผู้ชม ซง่ึ นับเป็นการถา่ ยทอดและการ เรียนรูว้ ธิ ีหน่ึง 4. เพอื่ ให้ผู้ชมมองเห็นภาพและเกดิ ความเขา้ ใจในความคิดทีเ่ ปน็ นามธรรมไปสคู่ วามคดิ ท่เี ป็นรูปธรรม ประโยชนข์ องการจดั นทิ รรศการ

1. เพื่อเพิ่มความรู้ความสนใจให้แก่ผู้ชม นิทรรศการสามารถดึงความสนใจเฉพาะเรื่องได้เป็นอย่างดี และรวบรวมความคดิ ทเี่ ป็นนามธรรมนำไปสู่ความคิดท่ีเปน็ รูปธรรม 2. เพ่มิ พูนความรู้ในเรอ่ื งทจี่ ัดนิทรรศการ ช่วยให้มองเหน็ ภาพและเกดิ ความเข้าใจได้งา่ ยข้นึ 3. ช่วยกระตุ้นหรอื เร้าความสนใจ และเกดิ ความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นเรื่องทไ่ี ด้ดูจากนทิ รรศการ 4. ช่วยส่งเสริมการแสดงออก ก่อใหเ้ กดิ ความคิดสร้างสรรค์ และทำใหเ้ ข้าใจบทเรยี นมากยิ่งขนึ้ 23 5. สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ผู้รับรู้สามารถนำความรู้นั้น ๆ ไปใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ สังคม โดยช่วยพัฒนาผอู้ ่นื และสงั คมให้เจรญิ กา้ วหน้า 6. ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านความรู้ ความคิด และการแก้ปัญหา ช่วยให้เกิดทักษะ และความสามารถทางสตปิ ัญญา สง่ ผลให้เกิดการเปลีย่ นแปลงด้านทักษะและความชำนาญ สามารถทำสงิ่ ตา่ ง ๆ ได้อย่างคลอ่ งแคล่วและเหมาะสมกวา่ ผู้อืน่ และดา้ นเจตคติ เป็นผลให้บุคคลนั้นมีคา่ นยิ มสงู ขนึ้ มจี ิตใจ มีทัศนคติ ต่อส่ิงตา่ ง ๆ ดขี ึ้น 7. เพิ่มพนู ความรใู้ นเรือ่ งทจ่ี ัดนิทรรศการ ชว่ ยมองเห็นภาพและเกิดความเข้าใจไดง้ ่ายขน้ึ และสามารถ ดึงดูความสนใจเฉพาะเรื่องได้เปน็ อยา่ งดี ขั้นตอนและการดำเนินงานจดั นิทรรศการโครงงานอาชีพ การจดั นทิ รรศการมีขัน้ ตอน ดังนี้ ขั้นท่ี 1 ขน้ั วางแผน ขั้นวางแผนเป็นขั้นของการคิด ในการที่จะดำเนินการจัดนิทรรศการทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การหาชื่อเรื่อง ของนิทรรศการ การตั้งจุดมุ่งหมาย งบประมาณ สถานที่ ไปจนถึงขั้นสุดท้ายของการจัดนิทรรศการ คือ การ สรุปผล ซ่งึ ในขน้ั ของการวางแผนอาจจะเขียนในรูปของโครงการจดั นิทรรศการก็ได้ ขน้ั ที่ 2 ขนั้ เตรียมการและออกแบบ การเตรียมการและออกแบบ โดยเตรียมการตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์ ผลงาน วตั ถสุ ิง่ ของหรือเอกสารตา่ ง ๆ ท่ี จะนำออกแสดง จัดแบ่งประเภท หมวดหมู่ และความสำคัญตามลำดับ คำบรรยายของสิ่งต่าง ๆ ที่จัดแสดงได้ ครบแล้ว จะทำให้ทราบถึงขนาดของนิทรรศการที่จะจัดแสดง ต้องการใช้พื้นที่ที่จัดแสดงเท่าใด ต้องใช้แผง แสดงผลงาน โตะ๊ สำหรบั จัดแสดงจำนวนเท่าใด มีขนาดกว้างยาวแคไ่ หน จากนน้ั ก็นำขอ้ มูลดงั กล่าวมาจัดวาง ผังออกแบบ บนกระดาษรา่ งแบบ โดยคำนงึ ถึงความสำคัญว่าสง่ิ ใดท่ีต้องการเนน้ เปน็ จุดเด่นของเรือ่ ง สิ่งใดเป็น จุดรอง ในการออกแบบควรคำนึงถึงเส้นทางเดินของผู้ชมนิทรรศการด้วย โดยให้มีเนื้อที่กว้างพอที่ผู้ชมจะดู สง่ิ ของไดท้ ั่วถงึ ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ การจัดทำ

ข้ันน้ีตอ้ งใช้บคุ คลฝ่ายต่าง ๆ มาร่วมมอื กนั ปฏิบตั งิ าน ตามลักษณะงานท่ีตนเองถนดั และชำนาญ โดย เริ่มตั้งแต่การจัดทำแผงแสดงผลงาน การจัดโต๊ะวางผลิตภัณฑ์หรือผลงาน การเขียนตัวอักษร การจัดไฟ การ ประดับบรเิ วณนทิ รรศการ การจัดวางหรือ ตดิ ตง้ั แขวนวัตถุส่งิ ของท่จี ะจดั แสดง ในการจัดทำนนั้ อาจจะจัดทำที่ ใดที่หนึ่งให้เรียบร้อยก่อนแล้วจึงขนไปจัดแสดง หรือจะไปจัดทำในห้องที่ใช้จัดแสดงนิทรรศการก็ได้ ทั้งน้ี แล้วแตค่ วามสะดวกของผู้จัด 24 ขั้นท่ี 4 ข้ันการประชาสมั พันธ์ การประชาสัมพันธ์เป็นการโฆษณา เพื่อเชิญชวนหรือชักจูงหรือแจ้งข่าวสารต่าง ๆ ให้แก่ผู้สนใจ เพื่อให้ทราบข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับงานนิทรรศการ ในการประชาสัมพันธ์นั้นควรมีการประชาสัมพันธ์ล่วงหนา้ ก่อนวันงานประมาณอย่างน้อย 1 เดือน สำหรับสื่อที่จะใช้ในการประชาสัมพันธ์นั้น มีอยู่มากมาย เช่น การ ประชาสัมพันธ์ทางวทิ ยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แผ่นภาพโฆษณา เอกสาร สูจิบัตร ไปรษณียบัตร หรือส่งบัตร เชิญ ให้มาชมนทิ รรศการก็ได้ ซง่ึ ในการประชาสัมพันธ์ให้ได้ผลตามจุดมงุ่ หมายที่ต้งั ไว้ ผู้จัดควรเลือกใช้ส่ือและ วิธีการประชาสัมพันธห์ ลาย ๆ รปู แบบ ขัน้ ที่ 5 ขนั้ การนำเสนอ การนำเสนอคือการให้ประชาชนเขา้ ชมและเขา้ ร่วมกจิ กรรมต่าง ๆ ท่ีผจู้ ัดนิทรรศการจดั ทำขน้ึ ซึ่งใน ขน้ั ของการนำเสนอนี้ มีกจิ กรรมต่าง ๆ เช่น การสาธติ การอภปิ ราย การอธบิ าย ตอบคำถามของผูช้ ม เปน็ ต้น ขั้นที่ 6 ข้นั การประเมนิ ผล การประเมินผลหลังการจัดนิทรรศการ เพื่อให้ทราบว่านิทรรศการที่จัดขึ้นนั้น บรรลุตาม วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ มีข้อดีและข้อควรปรับปรุงอะไรบ้าง ทั้งนี้เพื่อจะได้นำไปใช้เป็นข้อมูลในการ พจิ ารณา ปรบั ปรงุ แก้ไขการจัดนทิ รรศการคร้ังตอ่ ไป ขัน้ ที่ 7 ขน้ั การสรุปผล หลังจากจัดนิทรรศการผ่านพ้นไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ ควรมีการประชุมคณะกรรมเพื่อทำการ ประเมนิ ผลการจัดนิทรรศการ วา่ ผลการจดั นทิ รรศการนน้ั เป็นอย่างไร มีปัญหาอปุ สรรค ขอ้ ดีและข้อเสียอยา่ งไร บ้าง มีสิ่งที่ควรจะปรับปรุงแก้ไขหรอื ข้อเสนอแนะอย่างไร นำมารวมสรุปเป็นผลของการจดั นิทรรศการ ซึ่งการ สรุปผลอาจทำในรูปของรายงานกไ็ ด้

25 ใบความรู้ท่ี 4 เรื่อง การนำเสนอโครงงานอาชีพดว้ ยวาจา ในการแสดงผลงานจะตอ้ งอธบิ าย หรอื รายงานปากเปลา่ หรอื ตอบคำถามตา่ งๆ ต่อผเู้ ข้าชมหรือต่อกรรมการ ตัดสินโครงงาน มขี ้อควรคำนึงตอ่ ไปนี้ ขอ้ ควรคำนงึ ในการรายงานโครงงานอาชพี ด้วยวาจา 1. ทำความเข้าใจเกยี่ วกบั เรอื่ งที่จะอธิบายเป็นอยา่ งดี 2. ความเหมาะสมของภาษาท่ีใช้กับระดบั ของผ้ฟู งั ชัดเจน เขา้ ใจง่าย 3. ควรรายงานอยา่ งตรงไปตรงมา ไม่วกวนออ้ มค้อม 4. หลกี เลี่ยงการอ่านรายงานใหผ้ ู้ชมฟงั แตอ่ าจจดหวั ข้อสำคญั ๆเพอ่ื การรายงานเปน็ ไปตามข้นั ตอน 5. อย่าพดู รายงานแบบทอ่ งจำรายงาน เพราะจะทำใหไ้ ม่น่าสนใจและไมเ่ ปน็ ธรรมชาติ 6. ขณะทรี่ ายงานนน้ั ควรมองผู้ฟัง ไมค่ วรก้มหนา้ หลบหนา้ หลบตา หรอื แสดงอาการเขนิ อาย 7. เตรยี มตวั ตอบคำถามเก่ียวกับเรื่องนัน้ ๆให้พรอ้ มที่สุด 8. เวลาตอบคำถามใหต้ อบตรงไปตรงมาในสง่ิ ท่ถี าม หากติดขัดในการอธบิ าย ควรยอมรบั โดยดี อย่ากลบ เกลือ่ นหรอื หลกี เลี่ยงเปน็ อย่างอ่นื 9. ควรรายงานใหเ้ สร็จในระยะเวลาท่กี ำหนด 10. ควรใช้สอื่ ประเภทโสตทัศนปู กรณ์ประกอบการรายงาน 11. หากติดขัดในการอธิบาย หรอื ไมส่ ามารถอธิบายได้ ควรยอมรบั โดยดี ไมค่ วรกลบเกลือ่ นหรือหาทางเลย้ี ง เปน็ อย่างอืน่ การวางแผนการรายงานโครงงานอาชีพด้วยวาจา

ผู้ทำโครงงานต้องวางแผนการพดู โดยวางโครงรา่ งของสงิ่ ทจ่ี ะพูด เพื่อใหร้ ลู้ ่วงหนา้ ถึงลำดบั ของสิง่ ที่ 26 จะพูด โดยแบง่ สว่ นท่จี ะพดู ออกเปน็ 3 สว่ น ส่วนเริ่มตน้ แนะนำตนเองช่อื อะไร บอกชอื่ โครงงานทีท่ ำ กลา่ วนำสนั้ ๆ ถึงสง่ิ ท่จี ะพดู ด้วยวิธีการ ที่ดึงดูดความสนใจของผู้ฟัง โชว์ภาพ ตั้งคำถามผู้ฟัง แสดงส่วนที่น่าสนใจของโปรแกรมที่พัฒนา ส่วนสาระสำคัญ แบ่งสาระสำคญั ทีจ่ ะพดู เปน็ ประเด็น ๆ เรียงลำดบั ประเด็นไว้แต่ละประเดน็ พูด นำด้วยประโยค 1 ประโยค พยายามเชอื่ มโยงส่งิ ทพี่ ูดในแตล่ ะประเด็นให้ใกลต้ ัวผ้ฟู งั สว่ นสรปุ บอกผลที่ได้จากการทำโครงงานอาชพี ประโยชน์ท่ไี ด้ เสนอแนวคดิ ในการพัฒนาหรือตอ่ ยอดโครงงาน จบลงด้วยสิง่ สรุปที่สรา้ งความประทับใจผฟู้ ังและทำใหผ้ ู้ฟงั จดจำไว้ได้ การฝกึ รายงานโครงงานอาชพี ดว้ ยวาจา การฝกึ พูดการนำเสนอโครงงานอาชพี ดว้ ยวาจา ควรปฏิบัติดังน้ี 1. ฝึกพดู กอ่ นวนั พดู จริง 2. จำประเด็นสำคัญที่จะพดู 3. ฝึกพดู ใหเ้ ปน็ ธรรมชาติ 4. ฝึกพูดใหช้ ดั เจน 5. รจู้ งั หวะเนน้ ไม่พดู เร็ว การเตรยี มส่อื ประกอบการรายงานโครงงานอาชีพดว้ ยวาจา ในการนำเสนอด้วยการพดู ผู้ทำโครงงานตอ้ งเตรียมสื่อท่ีจะช่วยให้ผู้ฟังสนใจฟงั และเข้าใจในสิ่งท่ี พดู ไดโ้ ดยงา่ ย แตส่ ือ่ ท่ใี ช้ไม่ควรสลับซบั ซ้อน ควรเป็นส่อื งา่ ยๆ ใชภ้ าพน่ิง หรอื ภาพเคล่อื นไหวสั้นๆ แสดงกราฟ โมเดล หรือสาธติ ประกอบได้ ทั้งนต้ี อ้ งคำนึงถงึ สถานท่ีที่จะนำเสนอด้วย เชน่ อุปกรณท์ ี่มใี ห้ แสงในหอ้ ง ขนาด ห้อง เปน็ ตน้ ลักษณะของสอ่ื ประกอบการรายงานโครงงานอาชพี ที่ดี ได้แก่ 1. มีตวั หนงั สือนอ้ ย มีเฉพาะประเด็นสำคัญ 2. ตวั หนังสอื มีขนาดโตพอทผี่ ู้ชมอา่ นได้ 3. ใช้ตวั อกั ษรสีเขม้ เช่น สีดำ สนี ำ้ เงินเขม้ 4. ออกแบบการนำเสนอให้เรียบงา่ ย 5. ไมพ่ ูดโดยการอา่ นจากสิง่ ทีเ่ ขยี น

27 แผ่นพบั โครงงานอาชพี การทำแผ่นพับ หรือท่ีนิยมเรยี กกนั ท่ัวไปวา่ โบชัวร์ เป็นเอกสารการนำเสนอรายละเอียด ในสิ่งที่ตอ้ งการ ใหผ้ ู้ชม ไดร้ ับรู้รายละเอียดการทำโครงงานอาชพี นอกเหนอื จากแผงโครงงาน ในการนำเสนอโครงงานอาชีพน้ัน แผ่นพับกม็ สี ่วนสำคัญที่จะอธิบายรายละเอียดการทำโครงงานให้ผู้ชมรับรู้ นอกเหนือจากการอธิบายปากเปล่า ของผู้ทำโครงงาน และหากมีผูส้ นใจต้องการนำรายละเอียดของการทำโครงงาน ไปศึกษาเพิ่มเติม ก็สามารถดูได้ จากแผน่ พบั ท่ีทำประกอบ สว่ นประกอบแผ่นพับ 1. ช่ือโครงงาน 2. ผจู้ ดั ทำ สถานศกึ ษา 3. ทมี่ าของโครงงาน 4. จุดประสงค์ 5. วธิ ีการและขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน 6. ผลการดำเนินงาน 7. สรุปผล 8. ขอ้ เสนอแนะ แผ่นพับนอกจากจะบอกรายละเอียดของโครงงานแล้ว ยังแสดงถึงความสามารถ ความชำนาญและ ความคิดสรา้ งสรรคข์ องผู้ทำโครงงานด้วย เพราะแผน่ พบั น้ีตอ้ งจดั ทำใหเ้ รยี บรอ้ ย สวยงาม ดึงดูดความสนใจของ ผ้พู บเหน็ ไมว่ ่าจะเป็นการออกแบบตัวอกั ษร ซ่ึงผ้ทู ำสามารถเลือกใชต้ ัวอกั ษร ชนดิ ใด รูปแบบใด ขนาดเท่าใดก็ ได้ที่เหมาะสม การเลือกสีตัวอกั ษร การเลือกสขี องพ้ืนหลงั ในการจดั ตลอดจนการใสร่ ูปภาพ ในแผ่นพับ ซึ่งผู้ทำ โครงงานต้องช่วยกัน ออกแบบ ตกแต่ง ให้เรียบร้อย สวยงาม ได้รายละเอียดของเน้ือหาครบถ้วน สมบูรณ์ ดังน้ัน ผูท้ ำโครงงานจงึ ต้องมีความรู้ ความชำนาญ ในการใชค้ อมพิวเตอรโ์ ปรแกรมต่างๆ ที่จำเปน็ ต้องใช้ในการ ทำแผน่ พับ ข้อมูลรายละเอียดที่จะนำมาจัดทำแผ่นพับ ก็คือข้อมูลที่นำเสนอในแผงโครงงานน้ันเอง อาจมีการ ปรับปรุงรายละเอียด โดยการปรับลด แก้ไข หรือเพ่ิมเติมให้เหมาะสม แต่รายละเอียดส่วนใหญ่ก็ ยังคง เหมือนเดิม สรุปง่ายๆ คือนำข้อมูลจากแผงโครงงานมาลงในแผ่นพบั น่ันเอง เพียงแต่วา่ ข้อมูลท่ีนำเสนอในแผง

โครงงาน เป็นข้อมูลที่นำเสนอด้านหน้าด้านเดยี ว แต่ข้อมูลที่นำเสนอในแผน่ พับ ต้อง นำเสนอท้ังด้านหน้าและ ดา้ นหลงั 28 กิจกรรมที่ 1 เรอ่ื ง การเขยี นรายงานโครงงานอาชพี ไม คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นเขยี นรายงานโครงงานอาชีพตามรูปแบบทก่ี ำหนด ส่วนที่ 1 สว่ นหน้า ประกอบดว้ ย ปก ประกอบด้วยช่ือโครงงานอาชพี ชือ่ ผจู้ ัดทำโครงงาน สถานศึกษา ของผ้จู ดั ทำโครงงาน ปีท่ีทำ โครงงาน ใช้กระดาษทม่ี คี วามหนาอยา่ งนอ้ ย 100 แกรม โดยใช้อกั ษร TH SarabanPsk ขนาด24 พอยด์ บทคัดย่อ เป็นส่วนที่สรุปย่อเรื่องราวทั้งหมดของโครงงานอาชีพสิ่งสำคัญที่ควรนำเสนอได้แก่ วัตถปุ ระสงคข์ องโครงงานอาชพี วิธีดำเนินการ และผลทไ่ี ดร้ ับ คำนำหรือ กิตติกรรมประกาศ เป็นการประกาศขอบคุณบุคคล และหน่วยงานที่ให้ความ อนุเคราะห์และสนับสนนุ ใหก้ ารดำเนินงานโครงงานอาชพี สำเรจ็ ได้ดว้ ยดี สารบญั โดยทว่ั ไปแบง่ เปน็ 3 ส่วนได้แก่ สารบญั เนือ้ เร่ือง สารบญั ตาราง และ สารบญั ภาพ ประกอบการกำหนดเลขหน้าสว่ นนีน้ ิยมใช้ระบบตัวอกั ษร คือ ก ข ค ส่วนที่ 2 สว่ นเนอ้ื เรอ่ื ง ประกอบด้วย บทท่ี 1 บทนำ ประกอบดว้ ย เหตุผลและความสำคัญ วัตถปุ ระสงค์ สมมุตฐิ าน ระยะเวลาในการ ทำโครงงาน นิยามศัพท์เฉพาะ และประโยชน์ทีค่ าดวา่ จะไดร้ บั บทท่ี 2 เอกสารที่เก่ยี วข้อง บทท่ี 3 ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน ประกอบดว้ ย ขั้นตอนการทำโครงงาน ปฏิทนิ ปฏิบตั ิโครงงาน ข้นั ตอนการปฏิบตั ิการทำชนิ้ งาน วสั ดุและอปุ กรณก์ ารทำโครงงาน สถานทดี่ ำเนินโครงงาน การคิดต้นทุน การจำหนา่ ย และสถานที่จำหน่าย บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งาน บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ ประกอบดว้ ย วตั ถุประสงค์ ผลการดำเนินโครงงาน อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สว่ นที่ 3 สว่ นทา้ ย ประกอบดว้ ย

บรรณานุกรม 29 ภาคผนวก ภาพประกอบ อ่ืน ๆ กิจกรรมท่ี 1 การทำแผงแสดงผลงานโครงงานอาชพี คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั วางแผนและปฏิบัติการทำแผงแสดงผลงานโครงงานอาชีพ ชอ่ื กลุ่ม............................................................................................................................................................. สมาชิก ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… กำหนดรูปแบบแผงแสดงผลงานโครงงานอาชีพ

30 กจิ กรรมที่ 2 การจัดนิทรรศการโครงงานอาชีพ คำชแ้ี จง ให้นักเรียนรว่ มกนั เตรียมและจดั นิทรรศการแสดงผลงานโครงงานอาชีพ ช่อื กล่มุ ............................................................................................................................................................. สมาชกิ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การวางแผนการจดั แสดงผลงานโครงงานอาชพี ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 31 กิจกรรมท่ี 3 การทำแผนพับเสนอโครงงานอาชพี คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี น ออกแบบพร้อมจดั ทำแผ่นพบั นำเสนอโครงงานอาชีพตามองคป์ ระกอบของแผน่ พับ ชอ่ื กลมุ่ ........................................................................................................................................................... สมาชกิ กล่มุ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ดา้ นหน้า ด้านหลงั

32 กิจกรรมท่ี 4 การนำเสนอโครงงานอาชีพด้วยวาจา คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นร่วมกันวางแผนและเตรยี มรายงานโครงงานอาชีพดว้ ยวาจา ชอื่ กลมุ่ ............................................................................................................................................................. สมาชิก ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การวางแผนการรายงานโครงงานอาชพี ด้วยวาจา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

33 ประเมินหลงั เรยี น เร่ืองการเขยี นรายงานโครงงานอาชีพ ให้นกั เรยี นทำเคร่ืองหมาย หนา้ ขอ้ ทถี่ ูกท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. การเขียนรายงานโครงงานอาชพี ตอ้ งมีองคป์ ระกอบใดบ้าง ก. สว่ นปกและสว่ นหนา้ สว่ นเนอื้ เร่อื ง และภาคผนวก ข. สว่ นปกและส่วนหน้า ส่วนเนอ้ื เร่ือง ส่วนท้าย ค. บทที่1 บทที่ 2 บทท่ี 3 บทท่ี 4 และบทท่ี 5 ง. บทนำ ส่วนเนื้อเรื่อง บรรณานกุ รม 2. การเขียนรายงานโครงงานอาชพี “สว่ นท่ี 1” ประกอบด้วยหัวขอ้ ใดบ้าง ก. ชอื่ โครงงาน ชอื่ ผทู้ ำโครงงาน ชื่อครทู ี่ปรึกษา คำนำ สารบญั บทคัดยอ่ ข. บทท่ี1 บทที่ 2 บทท่ี 3 บทที่ 4 และบทที่ 5 ค. ชอื่ โครงงาน คำนำ สารบญั เร่ือง สรุป ง. คำนำ สารบญั เรอ่ื ง สรุป 3. สว่ นของ “บทนำ” ประกอบดว้ ยส่งิ ใดบ้าง ก. ความสำคญั ของโครงงาน วัตถุประสงค์ วิธีการดำเนนิ งาน ข. ความสำคัญของโครงงาน วตั ถุประสงค์ ประโยชน์ ค. ความเปน็ มา วัตถุประสงค์ เอกสารท่ีเก่ียวข้อง ง. ความเป็นมา สมมุตฐิ าน เอกสารทีเ่ กย่ี วข้อง 4. การเขยี น “ผลการดำเนินโครงงาน” ควรเขียนในบททเ่ี ท่าไรของรายงานโครงงานอาชีพ ก. บทท่ี 2 ข. บทที่ 3 ค. บทท่ี 4 ง. บทที่ 5 5. การเขยี น “สรุปผลการดำเนนิ โครงงานอาชพี ” ควรเขียนอยา่ งไร

ก. เขยี นอธิบายตรงกับประโยชน์ของการปฏบิ ตั ิงาน 34 ข. เขยี นสรุปส้ัน ๆ ตรงตามข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน ค. เขียนอธบิ ายตรงตามขั้นตอนการปฏิบัตงิ าน ง. เขยี นสรุปส้นั ๆ ตรงตามวตั ถุประสงค์ 6. การเขียน “ขอ้ เสนอแนะ” ควรเขียนอย่างไร ก. เสนอแนะรปู แบบใหม่ในการทำโครงงานครัง้ ตอ่ ไป ข. เสนอแนะวธิ กี ารปรบั ปรุงการทำโครงงานให้ดีขึ้น ค. เสนอแนะปญั หาที่ยังไมเ่ กดิ ขน้ึ เพอื่ ปอ้ งกันไว้ ง. เสนอแนะแนวทางการทำโครงงานเร่ืองใหม่ 7. ข้อใดถกู ต้อง ก. การเขยี นประโยชน์ที่ได้จากโครงงานอาชพี ให้เขยี นวา่ มีประโยชน์อยา่ งไร ด้านไหน เปน็ ขอ้ ๆ ข. การเขียนขน้ั ตอนการดำเนินงานใหเ้ ขียนเปน็ ภาพรวมของการปฏิบัตงิ าน ค. การนำเสนอผลการทำโครงงานอาชพี ใหน้ ำเสนอแบบตารางเท่านน้ั ง. การเขียนรายงานโครงงานอาชีพไมจ่ ำเปน็ ต้องเขียนบรรณานุกรม 8. การเขยี นรายงานโครงงานอาชีพ “ภาคผนวก” ควรใส่สิง่ ใดบา้ ง ก. ภาพการดำเนนิ งาน ข. เอกสารอ้างองิ ค. ขอ้ เสนอแนะ ง. ทุกขอ้ ท่กี ล่าว 9. การเขียนรายงานโครงงานอาชพี “การสมั ภาษณ์ผเู้ ช่ียวชาญ” จำเป็นต้องอ้างองิ หรือไม่อย่างไร ก. ไมจ่ ำเป็นต้องอ้างอิง เพราะเปน็ บคุ คลทม่ี ีตัวตน ข. จำเปน็ ตอ้ งอ้างองิ เพราะเป็นแหลง่ ขอ้ มูล ค. ไม่จำเปน็ เพราะไม่ถอื วา่ เป็นข้อมลู ง. ผดิ ทุกข้อ 10.ทำไมต้องเขียนบรรณานุกรมหรือเอกสารอา้ งองิ ก. เพ่ือแสดงถงึ การให้เกียรติเจ้าของเรอ่ื ง ข. เป็นข้อเท็จจริงทีส่ ามารถตรวจสอบได้ ค. เพอ่ื ให้รายงานเชอ่ื ถือได้ ง. ถูกทุกข้อ

35 คำเฉลย การเขยี นรายงานโครงงานอาชีพ ขอ้ ท่ี 1 ข. ส่วนปกและสว่ นหนา้ ส่วนเน้ือเร่ือง สว่ นทา้ ย ขอ้ ที่ 2 ก. ช่ือโครงงาน ชือ่ ผทู้ ำโครงงาน ชอ่ื ครูที่ปรกึ ษา คำนำ สารบญั บทคดั ยอ่ ขอ้ ท่ี 3 ข. ความสำคัญของโครงงาน วัตถุประสงค์ ประโยชน์ ขอ้ ที่ 4 ค. บทที่ 4 ข้อท่ี 5 ง. เขียนสรปุ ส้ัน ๆ ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ ข้อท่ี 6 ข. เสนอแนะวิธกี ารปรับปรงุ การทำโครงงานให้ดขี ้นึ ข้อท่ี 7 ก. การเขยี นประโยชนท์ ่ีได้จากโครงงานอาชพี ให้เขียนวา่ มีประโยชน์อย่างไร ด้านไหน เป็นขอ้ ๆ ขอ้ ที่ 8 ก. ภาพการดำเนินงาน ขอ้ ท่ี 9 ข. จำเป็นตอ้ งอ้างองิ เพราะเปน็ แหล่งขอ้ มลู ขอ้ ที่ 10 ง. ถกู ทกุ ขอ้

36 เอกสารอา้ งอิง การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู (ออนไลน)์ จาก https://www.gotoknow.org/ เข้าถงึ ข้อมูลเมื่อวนั ท่ี 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564. สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน (ออนไลน)์ จาก https://www.trueplookpanya.com/ เข้าถึงข้อมูลเมอ่ื วนั ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564. บงกชษกรณ์ แชมสีม่วง เทคนิคการทำงานอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ (ออนไลน์) จาก https://bongkotsakorn.wordpress.com สบื คน้ ข้อมลู เมอ่ื วันท่ี 3 สงิ หาคม พ.ศ. 2564. ดารุณี ประพันธ์ ความรู้เกี่ยวกับโครงงาน (ออนไลน์) จาก http://www.jokedarune.com/ สืบค้นข้อมูล เม่ือวนั ท่ี 3 สิงหาคม พ.ศ. 2564. เติมศักด์ิ สุวรรณ การเขยี นรายงานโครงงาน (ออนไ์ ลน์) จาก https://sites.google.com สบื ค้นข้อมลู เมื่อ วันท่ี 28 กรกฎาคม พ.ศ.2564.