แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชา สงั คมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ - การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพื่อน บ้านและการนับถือพระพุ ทธศาสนาของประเทศ เพื่อนบา้ นในปัจจุบนั ครูผสู้ อน กจิ กรรมการเรียนรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหน่ง ครู ขนั้ ที่ 1 ขนั้ ดงึ ความรู้เดิม เวลา 10 นาที โรงเรยี นหนองขามวิทยา ครตู ัง้ คาถามให้นักเรยี นตอบ หรอื เป็นการทาย สงั กดั องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั ชัยภมู ิ ปัญหา ตัวอยา่ งคาถาม เช่น ประเทศใดบา้ งในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ท่นี ับถือ แผนการจดั การเรยี นรู้ พระพุ ทธศาสนา รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วชิ า ส 22101 ขัน้ ที่ 2 ขั้นเติมความรู้ใหม่ เวลา 40 นาที หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน เรือ่ ง พระพุทธศาสนา เวลา 50 ชวั่ โมง คละกนั ตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ น ข้างเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และอ่อน แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เรียกกลมุ่ นี้วา่ กลมุ่ บ้าน ในกรณที นี่ กั เรียนในหอ้ ง เรอื่ งพระพุทธศาสนาเผยแผเ่ ข้าสปู่ ระเทศเพื่อนบ้าน มีจานวนมากอาจมีหลายกลุ่ม ใหส้ มาชกิ แต่ละคน เวลา 2 ช่วั โมง เลอื กหมายเลขประจาตัว 1-6 ตามลาดบั ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ขนั้ ที่ 3 ขั้นสรปุ เวลา 10 นาที มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ลักษณะของการนบั ถอื พระพุทธ มาตรฐาน ส 1..1 ศาสนา ในประเทศพมา่ อนิ โดนเี ซยี มาเลเซยี ตัวชี้วดั ท่ี สิงคโปร์ ลาว กมั พูชา และเวยี ดนาม ม.2/1 อธิบายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาหรือ สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ ศาสนาท่ตี นนับถอื สูป่ ระเทศเพ่ือนบ้าน หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน สงั คมศกึ ษา จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ K P A ใบงานเรอื่ ง แบบทดสอบก่อนเรียน 1. นกั เรียนสามารถอธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ การวดั และการประเมินผล ประเทศพมา่ อินโดนเี ซีย มาเลเซยี สงิ คโปร์ ลาว กัมพูชา เคร่อื งมอื ท่ีใช้ 1. หนังสือเรียน สังคมศกึ ษา และเวยี ดนามได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถอธบิ ายสภาพการนบั ถอื พระพุทธศาสนา ของประเทศเพื่อนบ้านในปัจจบุ ันได้ (P) 3. นักเรยี นให้ความสาคัญการเผยแพรพ่ ระพุทธศาสนาได้ (A) ลงช่ือ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหนง่ นักศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู ลงชอ่ื ................................. วธิ ีการวดั 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉัตรินยา หินประกอบ) 2. สงั เกตุพฤตกิ รรม ตาแหน่งผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ า สงั คมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ - การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสปู่ ระเทศเพื่อน บ้านและการนับถอื พระพุทธศาสนาของประเทศ เพ่ือนบา้ นในปัจจุบนั ครูผสู้ อน กจิ กรรมการเรียนรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขัน้ ที่ 1 ขนั้ ดึงความรเู้ ดิม เวลา 10 นาที โรงเรยี นหนองขามวิทยา ครูอธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจว่า พระพุทธศาสนา สงั กดั องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั ชัยภมู ิ ไดเ้ ผยแผ่ เข้ามาในดนิ แดนต่างๆ ในเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ ได้แก่ พม่า อนิ โดนเี ซีย มาเลเซีย แผนการจดั การเรยี นรู้ สงิ คโปร์ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม แต่ในบาง ประเทศมีอุปสรรคหลายประการทที่ าให้การเผยแผ่ รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วชิ า ส 22101 ขัน้ ที่ 2 ขัน้ เติมความร้ใู หม่ เวลา 40 นาที หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง พระพุทธศาสนา เวลา 50 ชวั่ โมง ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อน แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 ข้างเกง่ ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และออ่ น เรอื่ งพระพุทธศาสนาเผยแผเ่ ขา้ สู่ประเทศเพ่ือนบา้ น เรียกกลุม่ นวี้ า่ กลุ่มบา้ น ในกรณีท่นี ักเรียนในห้อง เวลา 2 ช่วั โมง มีจานวนมากอาจมีหลายกลมุ่ ใหส้ มาชกิ แตล่ ะคน ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 เลือกหมายเลขประจาตวั 1-6 ตามลาดับ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั ขนั้ ที่ 3 ข้นั สรุป เวลา 10 นาที มาตรฐาน ส 1..1 ครใู หน้ ักเรียนทกุ คนผลัดกนั สรปุ ความรู้เก่ียวกบั การ ตัวชี้วดั ที่ เผยแผ่พระพุทธศาสนาเขา้ สูป่ ระเทศเพ่ือนบ้าน แลว้ รว่ มกันเขียนแผนผงั ความคิด ม.2/1 อธิบายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาท่ตี นนับถอื สูป่ ระเทศเพ่ือนบ้าน ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ K P A หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน สงั คมศึกษา ใบงานเร่ือง แบบทดสอบก่อนเรยี น 1. นกั เรียนสามารถอธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ การวดั และการประเมินผล ประเทศพมา่ อินโดนเี ซีย มาเลเซยี สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา และเวยี ดนามได้ (K) เครอื่ งมือทใี่ ช้ 1. หนงั สือเรยี น สังคมศกึ ษา 2. นกั เรียนสามารถอธบิ ายสภาพการนบั ถือพระพุทธศาสนา ของประเทศเพื่อนบ้านในปัจจบุ ันได้ (P) 3. นักเรยี นให้ความสาคัญการเผยแพรพ่ ระพุทธศาสนาได้ (A) ลงช่ือ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหนง่ นักศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู ลงชอ่ื ................................. วิธีการวดั 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉัตรินยา หินประกอบ) 2. สังเกตพุ ฤติกรรม ตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชา สังคมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ - การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าส่ปู ระเทศเพื่อน บา้ นและการนบั ถอื พระพุทธศาสนาของประเทศ เพ่ือนบา้ นในปัจจบุ นั ครูผู้สอน กิจกรรมการเรยี นรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหน่ง ครู ขัน้ ที่ 1 ขัน้ ดึงความร้เู ดมิ เวลา 10 นาที โรงเรียนหนองขามวิทยา ครนู าภาพหรอื ตัวอยา่ งข่าวเกยี่ วกับกจิ กรรมทาง สงั กัดองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั ชัยภมู ิ พระพุทธศาสนาในประเทศลาว กัมพูชา พม่า สิงคโปร์ และเวียดนาม มาให้นกั เรียนดู แผนการจดั การเรียนรู้ หรอื เล่าใหน้ ักเรียนฟงั รายวิชา สงั คมศึกษา รหัสวิชา ส 22101 ขนั้ ที่ 2 ขัน้ เตมิ ความร้ใู หม่ เวลา 40 นาที หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ือง พระพุทธศาสนา เวลา 50 ชั่วโมง ครใู หน้ กั เรยี นกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจัดการเรยี น รู้ท่ี 1) ร่วมกันศกึ ษาความรเู้ ร่ือง แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 การนบั ถอื พระพุทธศาสนาของประเทศเพ่ือนบ้าน เร่ือง การนับถือพระพุทธศาสนาของประเทศ ในปัจจุบนั จากหนงั สอื เรียน เพื่อนบา้ น เวลา 1 ช่ัวโมง และหนังสอื คน้ ควา้ เพิ่มเตมิ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ขนั้ ที่ 3 ขนั้ สรปุ เวลา 10 นาที มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด ครูใหน้ กั เรยี นทุกคนผลัดกันสรปุ ความรูเ้ กีย่ วกบั การ มาตรฐาน ส 1..1 เผยแผ่พระพุ ทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ตัวช้วี ดั ที่ แลว้ รว่ มกนั เขยี นแผนผังความคดิ ม.2/1 อธบิ ายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาหรอื สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ ศาสนาทีต่ นนับถือสูป่ ระเทศเพื่อนบา้ น หนังสือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน สงั คมศกึ ษา จดุ ประสงค์การเรียนรู้ K P A ใบงานเร่อื ง แบบทดสอบก่อนเรียน 1. นักเรียนสามารถอธบิ ายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสู่ การวดั และการประเมนิ ผล ประเทศพมา่ อนิ โดนเี ซีย มาเลเซยี สงิ คโปร์ ลาว กัมพูชา เครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ 1. หนงั สอื เรียน สังคมศกึ ษา และเวยี ดนามได้ (K) 2. นักเรยี นสามารถอธิบายสภาพการนบั ถือพระพุทธศาสนา วธิ ีการวัด 1. ตรวจใบงาน ของประเทศเพ่ือนบา้ นในปัจจบุ นั ได้ (P) 2. สงั เกตุพฤติกรรม 3. นักเรยี นให้ความสาคัญการเผยแพรพ่ ระพุทธศาสนาได้ (A) ลงชือ่ ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหนง่ นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครู ลงช่ือ................................. (นางสาวฉัตรินยา หินประกอบ) ตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชา สังคมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ ครผู สู้ อน - การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเขา้ สปู่ ระเทศเพื่อน บา้ นและการนบั ถอื พระพุทธศาสนาของประเทศ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหน่ง ครู เพื่อนบา้ นในปัจจุบนั โรงเรียนหนองขามวิทยา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สงั กัดองคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั ชัยภูมิ ขนั้ ที่ 1 ขัน้ ดงึ ความรู้เดมิ เวลา 10 นาที แผนการจัดการเรยี นรู้ ครูนาภาพหรือตวั อย่างข่าวเกีย่ วกบั กจิ กรรมทาง พระพุทธศาสนาในประเทศลาว กมั พูชา พม่า รายวิชา สงั คมศึกษา รหสั วิชา ส 22101 สิงคโปร์ และเวียดนาม มาใหน้ กั เรียนดู หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 หรอื เลา่ ให้นักเรียนฟงั เรอ่ื ง พระพุทธศาสนา เวลา 50 ช่ัวโมง ขนั้ ที่ 2 ขนั้ เติมความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 ครูให้นกั เรียนกลุ่มเดมิ (จากแผนการจัดการเรยี น เร่อื ง การนบั ถือพระพุทธศาสนาของประเทศ ร้ทู ี่ 1) ร่วมกันศึกษาความรู้เรอื่ ง เพื่อนบา้ น เวลา 2 ชัว่ โมง การนับถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพ่ือนบา้ น ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 ในปัจจุบัน จากหนงั สอื เรียน และหนงั สอื คน้ ควา้ เพ่ิมเติม มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ส 1..1 ขัน้ ที่ 3 ข้ันสรุป เวลา 10 นาที ตัวชีว้ ัดที่ ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 ครูให้นักเรยี นทกุ คนผลดั กันสรุปความรู้เก่ียวกบั การ เผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเขา้ สู่ประเทศเพ่ือนบา้ น ม.2/2 วิเคราะหค์ วามสาคัญของพระพุทธศาสนาหรือ แลว้ รว่ มกนั เขียนแผนผงั ความคิด ศาสนาที่ตนนับถือ ท่ีช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดี สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ กบั ประเทศเพ่ือนบา้ น หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศึกษา จุดประสงค์การเรยี นรู้ K P A ใบงานเร่ือง แบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. นักเรียนสามารถอธิบายความสาคัญของพระพุทธศาสนา ได้(K) 2. นกั เรียนสามารถอธิบายสภาพการนบั ถอื พระพุทธศาสนา ของประเทศเพื่อนบา้ นในปัจจบุ นั ได้ (P) 3. นักเรียนให้ความสาคัญการเผยแพรพ่ ระพุทธศาสนาได้ (A) ลงชอ่ื ................................. การวดั และการประเมนิ ผล (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู เคร่อื งมือทใ่ี ช้ 1. หนังสอื เรยี น สงั คมศกึ ษา ลงช่ือ................................. วิธีการวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉัตรนิ ยา หินประกอบ) 2. สังเกตพุ ฤตกิ รรม ตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ า สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ - สรปุ และวิเคราะห์พุทธประวตั ิ ครผู ้สู อน กิจกรรมการเรยี นรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหน่ง ครู ขัน้ ที่ 1 ข้นั ดงึ ความรู้เดมิ เวลา 10 นาที ครูใหน้ กั เรียนผลดั กนั เลา่ ความรเู้ ดมิ ท่ีนกั เรียนเคย โรงเรยี นหนองขามวิทยา เรียน เรอื่ ง พุทธประวัติ และใหน้ ักเรยี นชว่ ยกัน สังกดั องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั ชยั ภูมิ เสนอขอ้ คิดท่ไี ดจ้ ากการศกึ ษาพุทธประวตั ิ แผนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 2 ข้นั เตมิ ความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที นักเรยี นกลุ่มผถู้ ามจะเป็นฝา่ ยเฉลยคาตอบ รายวชิ า สงั คมศกึ ษา รหัสวชิ า ส 22101 ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ถ้ากลมุ่ ใดตอบไม่ถูก หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หรือตอบยงั ไมค่ รบถ้วนตามคาถาม กลุ่มผู้ถามจะ เรอ่ื ง พระพุทธศาสนา เวลา 50 ช่วั โมง เป็นผู้เสริมให้ถูกต้องครบถ้วน แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 ขนั้ ที่ 3 ข้ันสรปุ เวลา 10 นาที เรือ่ ง พระสงฆ์ เวลา 2 ชวั่ โมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ครูใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั สรุปสาระสาคญั ของพระพุทธ ประวัติ มิตตวินทุกชาดก และราโชวาทชาดก มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั และข้อคดิ สาคัญท่ีไดจ้ ากการศึกษา มาตรฐาน ส 1..1 สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ ตัวชี้วดั ท่ี ม.2/5, ม.2/6, หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศกึ ษา ม.2/5 วิเคราะห์พุ ทธประวัติหรือประวัติศาสดาของ ใบงานเรอื่ ง แบบทดสอบก่อนเรียน ศาสนาท่ีตนนับถอื ตามทก่ี าหนด การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ K P A เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ 1. หนงั สอื เรยี น สงั คมศกึ ษา 1. นักเรียนวิเคราะหข์ อ้ คดิ จากพุทธประวตั ิ ตอนผจญมาร วิธีการวดั 1. ตรวจใบงาน การตรสั รู้ และการสงั่ สอนได้ (K) 2. สงั เกตุพฤตกิ รรม 2. นักเรยี นบอกแนวทางการนาข้อคิดจากพุทธประวตั ไิ ป ประยกุ ต์ปฏบิ ัติในการดาเนินชีวติ ได้ (P) 3. นกั เรียนวิเคราะห์ข้อคดิ ท่ไี ดจ้ ากมิตตวินทุกชาดกและ ราโชวาทชาดก และแนวทางการนาไปประยกุ ต์ใช้ ในการ ดาเนินชีวิตได้ (A) ลงชอื่ ................................. (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหนง่ นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครู ลงชือ่ ................................. (นางสาวฉัตรนิ ยา หนิ ประกอบ) ตาแหน่งผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
ครผู สู้ อน แผนการจดั การเรยี นรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู วชิ า สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) โรงเรียนหนองขามวิทยา สาระการเรียนรู้ สังกดั องคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั ชัยภมู ิ - การศกึ ษาประวตั พิ ุทธสาวก พุทธสาวกิ า แผนการจัดการเรียนรู้ ย่อมทาใหไ้ ดข้ ้อคิดและคุณธรรมอัน เป็นแบบอยา่ งในการนาไปประยุกต์ปฏิบตั ใิ นการ รายวิชา สงั คมศกึ ษา รหัสวิชา ส 22101 ดาเนินชวี ิตอยา่ งถกู ต้อง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 กจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง พระพุทธศาสนา เวลา 50 ชัว่ โมง ขนั้ ที่ 1 ขนั้ ดงึ ความรู้เดมิ เวลา 10 นาที แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 เร่อื ง ประวตั ิพุทธสาวก พุทธสาวิกา ครอู ธิบายให้นกั เรียนเข้าใจว่า พุทธสาวก เวลา 2 ชว่ั โมง พุทธสาวิกาเป็นผทู้ ม่ี บี ทบาทสาคญั ในการเผยแผ่ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 พระพุทธศาสนาแต่ละทา่ นลว้ นมคี ณุ ธรรมอันเป็น แบบอยา่ งท่พี ุทธศาสนิกชนทุกคนไดน้ าไปเป็น มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด แบบอย่าง และประยกุ ตป์ ฏิบตั ติ นอยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ส 1..1 ขนั้ ที่ 2 ขน้ั เติมความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที ตวั ชวี้ ัดที่ ม.2/6 ครูให้นักเรียนกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจัดการ ม.2/6 วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอย่างการ เรยี นรู้ท่ี 1) กลุม่ ละ 8 คน จับค่กู นั เป็น 4 คู่ ดา เ นิ น ชี วิต แ ล ะ ข้ อ คิ ด จ า ก ป ร ะ วัติ ส าว ก ช า ด ก แลว้ ให้นักเรยี นแตล่ ะครู่ ่วมกันศึกษาความรเู้ รื่อง เรื่องเล่า และศาสนกิ ชนตัวอย่างตามทีก่ าหนด ประวตั ิพุทธสาวก พุทธสาวกิ า จากหนงั สอื เรยี น หนงั สือคน้ ควา้ เพ่ิมเติม หอ้ งสมดุ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ K P A และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามหวั ข้อทีก่ าหนดให้ 1. นักเรยี นอธบิ ายประวัติของพระสารีบตุ ร พระโมคคลั ลานะ ขนั้ ที่ 3 ข้นั สรปุ เวลา 10 นาที นางขุชชุตตรา และพระเจ้าพิมพิสารได้ (K) 2. นักเรยี นวเิ คราะห์ขอ้ คิดจากการศึกษาประวตั พิ ระสารบี ตุ ร ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความรเู้ กย่ี วกับประวตั ิ พระโมคคัลลานะ นางขชุ ชตุ ตรา และพระเจา้ และคณุ ธรรมอนั เป็นแบบอยา่ งของพุทธสาวก พิมพิสารได้ (P) พุทธสาวกิ า 3. นักเรยี นนาหลกั คุณธรรมอนั เป็นแบบอย่างของพุทธสาวก พุทธสาวิกาไปประยกุ ต์ปฏิบตั ใิ นการดาเนินชวี ติ ได้ (A) สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ ลงชื่อ................................. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศึกษา (นางสาวนภิ าพร สาทา) ใบงานเรอ่ื ง แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ตาแหน่ง นักศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู การวัดและการประเมนิ ผล ลงชือ่ ................................. (นางสาวฉัตรินยา หินประกอบ) เครื่องมือทีใ่ ช้ 1. หนงั สือเรียน สงั คมศึกษา ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา วิธีการวัด 1. ตรวจใบงาน 2. สังเกตพุ ฤติกรรม
แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ า สังคมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ ครูผู้สอน - การศึกษาประวตั ขิ องศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง ยอ่ มทาใหไ้ ดข้ ้อคิดและคณุ ธรรมอนั เป็นแบบ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู อยา่ งในการนาไปปฏิบตั ิในการดาเนินชวี ติ อยา่ ง ถูกตอ้ ง โรงเรียนหนองขามวทิ ยา สงั กดั องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชัยภมู ิ กจิ กรรมการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ ขนั้ ที่ 1 ขนั้ ดงึ ความรเู้ ดมิ เวลา 10 นาที ครใู ห้นักเรียนผลัดกนั เลา่ การกระทาของนักเรยี นที่ รายวิชา สังคมศกึ ษา รหสั วชิ า ส 22101 ปฏิบัตติ นตามหลกั คณุ ธรรมอนั เป็นแบบอย่างของ พุทธสาวกพุทธสาวกิ าทนี่ ักเรยี นได้ศกึ ษาไป หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง พระพุทธศาสนา เวลา 50 ชั่วโมง ขนั้ ที่ 2 ขั้นเตมิ ความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะห์ขอ้ คดิ ทไี่ ด้จากการ เรื่อง พุทธศาสนิกชนตัวอย่าง ศกึ ษาความรเู้ รื่อง พุทธประวัติ ประวตั พิ ุทธสาวก เวลา 2 ชวั่ โมง พุทธสาวิกา ศาสนิกชนตวั อยา่ ง และชาดก ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 พรอ้ มกับแนวทางการนาหลกั คุณธรรมอนั เป็นแบบอยา่ งของทา่ นไปประยุกตป์ ฏิบตั ิ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด และผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั มาตรฐาน ส 1..1 ขัน้ ที่ 3 ขน้ั สรปุ เวลา 10 นาที ตัวชวี้ ัดที่ ม.2/6 ครูให้นกั เรยี นร่วมกนั สรุปขอ้ คดิ ทไี่ ด้จากการศกึ ษา ม.2/6 วิเคราะห์และประพฤติตนตามแบบอย่างการ พุทธประวัติ ประวัตพิ ุทธสาวก พุทธสาวิกา ดา เ นิ น ชี วิต แ ล ะ ข้ อ คิ ด จ า ก ป ร ะ วัติ ส าว ก ช า ด ก ศาสนิกชนตัวอยา่ ง และชาดก เร่ืองเลา่ และศาสนกิ ชนตัวอย่างตามที่กาหนด สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ K P A หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศึกษา 1. นกั เรยี นอธิบายอธบิ ายประวตั ิของพระมหาธรรมราชาลไิ ทย ใบงานเรือ่ ง แบบทดสอบก่อนเรยี น และสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณ-วโรรสได(้ K) การวัดและการประเมนิ ผล 2. นกั เรียนวิเคราะห์ข้อคิดทไี่ ดจ้ ากประวตั ิของพระมหาธรรม ราชาลิไทย และสมเดจ็ พระสมณเจ้า กรมพระยา-วชิรญารณวโร เครอื่ งมือทใ่ี ช้ 1. หนังสอื เรยี น สังคมศกึ ษา รสได้ (P) 3. นกั เรยี นนาหลักคณุ ธรรมนาหลกั คณุ ธรรมอนั เป็นแบบอยา่ ง จากการศึกษาศาสนิกชนตัวอยา่ งไปประยุกตป์ ฏบิ ตั ใิ นการดาเนิน ชวี ติ ได้ (A) ลงชือ่ ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหนง่ นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู ลงชอ่ื ................................. วธิ กี ารวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉตั รนิ ยา หนิ ประกอบ) 2. สังเกตุพฤติกรรม ตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ า สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ - พระรัตนตรยั มีความสาคัญตอ่ พุทธศาสนกิ ชน และชาวโลก ดังน้ันทุกคนจงึ ควรแสดงความ เคารพต่อพระรตั นตรยั อย่างเหมาะสม ครูผสู้ อน กจิ กรรมการเรียนรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขนั้ ที่ 1 ขน้ั ดึงความรูเ้ ดิม เวลา 10 นาที โรงเรียนหนองขามวิทยา ครูใหน้ ักเรยี นผลดั กนั เลา่ ความรสู้ ึกขณะสวดมนต์ สังกดั องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภูมิ บชู าพระรตั นตรยั ซง่ึ นกั เรียนอาจตอบไดห้ ลาก หลายตามความรสู้ กึ ของแต่ละคน เช่น แผนการจดั การเรยี นรู้ รูส้ กึ ว่า จิตใจแนว่ แนอ่ ยู่กบั การสวดมนต์ รายวชิ า สังคมศึกษา รหัสวชิ า ส 22101 ขัน้ ที่ 2 ขัน้ เติมความรูใ้ หม่ เวลา 40 นาที หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง พระสงฆ์ เวลา 50 ชวั่ โมง นักเรยี นรวมกลมุ่ กนั กลมุ่ ละ 8 คน ตามความ สมัครใจให้แตล่ ะกลุม่ ร่วมกันศึกษาความรเู้ รอ่ื ง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 ธรรมคุณ หรอื คณุ ของพระธรรม 6 ประการ ดงั น้ี เรื่อง พระรตั นตัรย 1.สวากขาโต ภควตา ธัมโม 2) สนั ทิฏฐโิ ก เวลา 2 ช่วั โมง 3) อกาลโิ ก 4) เอหปิ ัสสิโก ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2566 5) โอปนยิโก 6)ปัจจตั ตัง เวทติ พั โพ วิญญหู ิ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด ขัน้ ที่ 3 ขั้นสรุป เวลา 10 นาที มาตรฐาน ส 1..1 นักเรยี นชว่ ยกนั สรุปความสาคญั ของพระธรรมคุณ ตัวชี้วดั ที่ ครเู น้นย้าใหน้ ักเรียนปฏิบัตติ นตามหลกั คาสอนของ พระพุ ทธศาสนา ม.2/8 อธิบายธรรมคุณและข้อธรรมสาคัญในกรอบ อริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ ตามที่กาหนด เห็นคุณค่าและนาไปพัฒนาแก้ปัญหา จขอุดงชปมุ รชนะสแลงะสคงั คก์ มารเรียนรู้ K P A 1. นกั เรียนอธบิ ายความหมายและความสาคญั ของ สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ พระรัตนตรัยได้ (K) 2. นกั เรยี นปฏบิ ัตติ นตอ่ พระรตั นตรัยได้อย่าง หนงั สือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน สงั คมศึกษา เหมาะสม (P) ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 3. นักเรยี นเห็นความสาคญั ของพระรตั นตรยั (A) ลงชื่อ................................. การวัดและการประเมนิ ผล (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหน่ง นักศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู เครื่องมือทใี่ ช้ 1. หนงั สอื เรียน สังคมศกึ ษา ลงช่อื ................................. วิธีการวดั 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉตั รินยา หนิ ประกอบ) 2. สงั เกตุพฤตกิ รรม ตาแหน่งผ้อู านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชา สงั คมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ - ขนั ธ์ 5 (อายตนะ) เป็นธรรมที่ควรรู้ (ทกุ ข์) และนาไปประยกุ ต์ปฏิบตั ิในการดาเนนิ ชีวติ ครูผ้สู อน กิจกรรมการเรียนรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหน่ง ครู ขนั้ ที่ 1 ข้ันดึงความรเู้ ดมิ เวลา 10 นาที โรงเรียนหนองขามวทิ ยา ครนู าบทกลอนมาแจกใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนอา่ น สงั กัดองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั ชัยภูมิ ซ่งึ เป็นบทกลอนท่ีให้ขอ้ คิดเกี่ยวกับการทากรรมดี กรรมช่ัว 3 บท คอื แผนการจัดการเรยี นรู้ บุญกรรม ทาความดี ทาการใหญ่ รายวิชา สงั คมศึกษา รหัสวิชา ส 22101 ขัน้ ที่ 2 ขนั้ เตมิ ความร้ใู หม่ เวลา 40 นาที หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง พระสงฆ์ เวลา 50 ช่วั โมง ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า เหตุทที่ าใหเ้ กิดทุกข์ น้นั มีหลายประการ ซึ่งจัดอยู่ในหลักธรรมทคี่ วรละ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 9 เพ่ือไมใ่ หเ้ กิดทุกข์ ไดแ้ ก่ หลกั กรรม เรอ่ื ง ขันธ์ 5 (สมบตั ิ 4 และวิบตั ิ 4) แลว้ ครอู ธบิ ายเพิ่มเติม เวลา 2 ช่ัวโมง ถึงความหมายของหลกั กรรม ผลของกรรม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 ซึ่งมที ัง้ ผลชนั้ ในและผลชัน้ นอก มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั ขัน้ ที่ 3 ข้ันสรปุ เวลา 10 นาที มาตรฐาน ส 1..1 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ สาระสาคญั ของขนั ธ์ 5 ตวั ชวี้ ดั ท่ี เก่ียวกบั อายตนะ ม.2/8 อธิบายธรรมคุณและข้อธรรมสาคัญในกรอบ อริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ ตามที่กาหนด เห็นคุณค่าและนาไปพัฒนาแก้ปัญหา จขอดุ งชปมุ รชนะสแลงะสคังค์กมารเรยี นรู้ K P A 1. นกั เรยี นอธิบายความหมายและความสาคญั ของ สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ ขนั ธ์ 5 ได้ (K) 2. นักเรียนปฏบิ ัตติ นตามหลกั ขันธ์ 5 ไดอ้ ยา่ ง หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศึกษา เหมาะสม (P) ใบงาน แบบทดสอบก่อนเรยี น 3. นกั เรียนเห็นความสาคัญของขันธ์ 5 (A) การวัดและการประเมินผล ลงช่อื ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ 1. หนังสือเรยี น สงั คมศกึ ษา ตาแหนง่ นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ครู วธิ ีการวดั 1. ตรวจใบงาน ลงชื่อ................................. 2. สงั เกตุพฤตกิ รรม (นางสาวฉัตรินยา หินประกอบ) ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชา สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ ครผู สู้ อน - อธบิ ายความหมายและการกระทาตามหลกั สมบตั ิ 4 และวิบัติ 4 พรอ้ มกบั หลีกเลีย่ ง นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหน่ง ครู การปฏบิ ตั ไิ ด้ โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สังกัดองค์การบริหารส่วนจงั หวดั ชัยภูมิ ขนั้ ที่ 1 ขน้ั ดึงความรเู้ ดมิ เวลา 10 นาที แผนการจัดการเรียนรู้ ครนู าภาพของคนในวยั ต่างๆ และมอี ริ ยิ าบถหลาก รายวชิ า สังคมศกึ ษา รหสั วิชา ส 22101 หลาย มาใหน้ กั เรียนดู ตวั อยา่ งเช่น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 ภาพดาราสาว ภาพนกั กีฬาหนมุ่ เรอ่ื ง พระสงฆ์ เวลา 50 ชว่ั โมง ภาพเด็กชายและเดก็ หญงิ วัยประมาณ 2-3 ปี ภาพคนชราชาย-หญงิ ภาพผูป้ ว่ ย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี10 เรือ่ ง สมบัติ 4 และวบิ ัติ 4 ขนั้ ที่ 2 ข้ันเตมิ ความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที เวลา 2 ชว่ั โมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 ครูอธิบายให้นักเรยี นเขา้ ใจถึงองคป์ ระกอบของ ชีวติ มี 5 ประการ เรยี กวา่ ขันธ์ 5 คอื “รูป” มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด สว่ นที่เป็นร่างกาย “เวทนา” ได้แกค่ วามรู้สึก เช่น มองเห็นภาพดาราสาวสวย มองดแู ล้วรู้สกึ สบายใจ เรียกว่า สขุ เวทนา มาตรฐาน ส 1..1 ขัน้ ที่ 3 ข้ันสรปุ เวลา 10 นาที ตัวช้วี ดั ที่ ครใู ห้นกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายสรุปโดยหาเหตผุ ล ประกอบผลของการปฏบิ ตั ติ นตามสมบตั ิ 4 ม.2/8 อธิบายธรรมคุณและข้อธรรมสาคัญในกรอบ และวบิ ตั ิ 4 อริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ ตามที่กาหนด เห็นคุณค่าและนาไปพัฒนาแก้ปัญหา จขอุดงชปมุ รชนะสแลงะสคงั คก์ มารเรยี นรู้ K P A 1. นักเรียนอธิบายความหมายและความสาคญั ของ ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ สมบตั ิ 4 และวบิ ตั ิ 4ได้ (K) 2. นักเรยี นปฏบิ ัตติ นตามสมบัติ 4 และวบิ ัติ 4 หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศกึ ษา ได้อย่างเหมาะสม (P) ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน 3. นกั เรียนเหน็ ความสาคญั สมบัติ 4 และวบิ ตั ิ 4 (A) การวดั และการประเมนิ ผล ลงชอื่ ................................. เครื่องมอื ทใ่ี ช้ 1. หนงั สอื เรยี น สงั คมศึกษา (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหนง่ นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู ลงช่ือ................................. วิธีการวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉตั รินยา หนิ ประกอบ) 2. สงั เกตพุ ฤติกรรม ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชา สังคมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ ครผู ้สู อน - อกุศลกรรมบถ 10 และอบายมขุ 6 เป็นธรรม ทค่ี วรละ (สมุทัย) ซงึ่ บคุ คลควรหลกี เล่ยี ง นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู เพราะเป็นทางนาไปสู่ความทุกข์ โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา กจิ กรรมการเรียนรู้ สงั กัดองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชัยภูมิ ขนั้ ที่ 1 ขนั้ ดงึ ความรู้เดิม เวลา 10 นาที แผนการจัดการเรยี นรู้ ครนู าภาพบุคคลทกี่ ระทากรรมช่วั หรอื ประพฤตติ น รายวิชา สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส 22101 ไปสูท่ างแห่งความช่ัว มาใหน้ กั เรียนดู แลว้ ให้นกั หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละตอบคาถามวา่ เรื่อง พระสงฆ์ เวลา 50 ช่วั โมง ภาพดงั กล่าวมีสาเหตุจากอะไร และเกิด ผลเสียต่อตนเองและสงั คมอยา่ งไร แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 11 เรอ่ื ง อกุศลกรรบก 10 และอบายมุข 6 ขัน้ ที่ 2 ขัน้ เติมความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที เวลา 2 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ศกึ ษาความรเู้ ร่ือง อกศุ ลกรรมบถ 10 และอบายมขุ 6 จากหนังสอื เรียน มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั หนังสอื คน้ ควา้ เพิ่มเติม หอ้ งสมุด และแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ โดยวางแผนสืบค้นกัน เป็นคู่ คูล่ ะ 1 หวั ข้อ ตามความเหมาะสม มาตรฐาน ส 1..1 ขนั้ ที่ 3 ขน้ั สรปุ เวลา 10 นาที ตวั ชว้ี ดั ท่ี ครแู ละนักเรียนช่วยกนั สรปุ สาระสาคญั เก่ยี วกับ ม.2/8 อธิบายธรรมคุณและข้อธรรมสาคัญในกรอบ อกุศลกรรมบถ 10 และอบายมขุ 6 แลว้ ใหน้ ักเรยี น อริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ ชว่ ยกนั แสดงความคิดเหน็ ถงึ ตามท่ีกาหนด เห็นคุณค่าและนาไปพัฒนาแก้ปัญหา ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ จขอดุ งชปมุ รชนะสแลงะสคงั ค์กมารเรียนรู้ K P A หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน สงั คมศึกษา 1. นักเรยี นอธบิ ายความหมายและความสาคญั ของ ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน อกศุ ลกรรบก 10 และอบายมขุ 6ได้ (K) 2. นักเรียนปฏิบัตติ นตามอกุศลกรรบก 10 และ การวัดและการประเมินผล อบายมุข 6ไดอ้ ย่างเหมาะสม (P) 3. นกั เรียนเหน็ ความสาคญั อกศุ ลกรรบก 10 และ เคร่อื งมอื ท่ีใช้ 1. หนงั สอื เรยี น สังคมศึกษา อบายมุข 6 (A) ลงช่ือ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหนง่ นักศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู ลงช่ือ................................. วธิ ีการวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉัตรินยา หินประกอบ) 2. สังเกตพุ ฤตกิ รรม ตาแหน่งผู้อานวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชา สงั คมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ ครูผูส้ อน - การทบี่ คุ คลปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมบุพพนมิ ิต ของมัชฌิมาปฏปิ ทา ดรุณธรรม 6 นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหน่ง ครู กลุ จริ ัฏฐติ ธิ รรม 4 และกุศลกรรมบถ 10 ยอ่ มเป็นทางท่ีจะนาไปสคู่ วามดับทุกข์ โรงเรียนหนองขามวทิ ยา สงั กัดองคก์ ารบริหารส่วนจังหวดั ชยั ภูมิ กจิ กรรมการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 ขนั้ ดึงความรู้เดิม เวลา 10 นาที รายวชิ า สงั คมศกึ ษา รหัสวชิ า ส 22101 ครูนาตัวอย่างขา่ วหรอื เหตกุ ารณม์ าใหน้ ักเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 รว่ มกันวิเคราะห์ เชน่ เรื่อง พระสงฆ์ เวลา 50 ช่ัวโมง -การชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยหรอื ได้รับความเดือดร้อน -การแนะนาด้านการประกอบอาชพี ต่างๆ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 12 -การทากจิ กรรมของเยาวชนในทางทด่ี งี าม เร่อื ง อกุศลกรรบก 10 และอบายมุข 6 -- เวลา 2 ช่วั โมง ขัน้ ที่ 2 ขัน้ เตมิ ความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ศกึ ษาความรเู้ รือ่ ง อกศุ ลกรรมบถ 10 มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด และอบายมุข 6 จากหนังสอื เรยี น หนงั สือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมดุ และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ โดยวางแผนสืบคน้ กัน เป็นคู่ ค่ลู ะ 1 หัวข้อ ตามความเหมาะสม มาตรฐาน ส 1..1 ขัน้ ที่ 3 ขนั้ สรปุ เวลา 10 นาที ตวั ช้วี ดั ท่ี ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันสรปุ สาระสาคญั เก่ยี วกับ ม.2/8 อธิบายธรรมคุณและข้อธรรมสาคัญในกรอบ อกุศลกรรมบถ 10 และอบายมุข 6 แล้วใหน้ กั เรยี น อริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ ช่วยกนั แสดงความคดิ เห็นถงึ ตามที่กาหนด เห็นคุณค่าและนาไปพัฒนาแก้ปัญหา สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ จขอุดงชปุมรชนะสแลงะสคงั คก์ มารเรยี นรู้ K P A หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศึกษา 1. นักเรยี นอธิบายความหมายและความสาคญั ของ ใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน อกศุ ลกรรบก 10 และอบายมุข 6ได้ (K) 2. นักเรียนปฏิบัตติ นตามอกุศลกรรบก 10 และ การวดั และการประเมนิ ผล อบายมขุ 6ได้อยา่ งเหมาะสม (P) 3. นักเรยี นเหน็ ความสาคญั อกศุ ลกรรบก 10 และ เคร่อื งมือที่ใช้ 1. หนังสือเรยี น สังคมศึกษา อบายมุข 6 (A) ลงช่ือ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหนง่ นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู ลงช่ือ................................. วิธีการวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉัตรนิ ยา หินประกอบ) 2. สงั เกตพุ ฤตกิ รรม ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ า สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ - อกศุ ลกรรมบถ 10 และอบายมขุ 6 เป็นธรรม ท่คี วรละ (สมุทยั ) ซึง่ บคุ คลควรหลกี เลยี่ ง เพราะเป็นทางนาไปสู่ความทกุ ข์ ครูผ้สู อน กจิ กรรมการเรยี นรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขนั้ ที่ 1 ขัน้ ดงึ ความรูเ้ ดมิ เวลา 10 นาที โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา ครูนาภาพบุคคลทีก่ ระทากรรมชว่ั หรือประพฤตติ น สงั กดั องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั ชัยภมู ิ ไปสทู่ างแหง่ ความชัว่ มาให้นักเรียนดู แลว้ ใหน้ ัก เรยี นร่วมกนั วิเคราะหแ์ ละตอบคาถามวา่ แผนการจัดการเรียนรู้ ภาพดงั กลา่ วมสี าเหตุจากอะไร และเกดิ ผลเสยี ต่อตนเองและสังคมอยา่ งไร รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส 22101 ขัน้ ที่ 2 ขัน้ เตมิ ความรู้ใหม่ เวลา 40 นาที หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เร่ือง พระสงฆ์ เวลา 50 ช่ัวโมง ครูให้นกั เรียนกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ 1) จบั คกู่ นั เป็น 4 คู่ ใหแ้ ตล่ ะคู่รว่ มกันศึกษาความ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 13 รเู้ รื่อง หลกั ธรรมที่ควรเจรญิ จากหนังสอื เรยี น เรอื่ ง ดรณุ ธรรม 6 กลุ จิรฐั ฐิตธิ รรม 4 หนงั สือคน้ ควา้ เพ่ิมเตมิ หอ้ งสมดุ และแหลง่ ขอ้ มูล และกุศลธรรมบถ 10 เวลา 2 ชั่วโมง สารสนเทศ คู่ละ 1 หัวขอ้ ดังนี้ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 บพุ พนมิ ติ ของมัชฌมิ าปฏิปทา กุลจริ ฏั ฐิติธรรม 4 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด ขัน้ ที่ 3 ขั้นสรุป เวลา 10 นาที มาตรฐาน ส 1..1 ตวั ช้วี ัดที่ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ผลของการปฏบิ ตั ิตนตาม หลกั ธรรมทีค่ วรเจริญ และแนวทางการปฏิบัติ ม.2/8 อธิบายธรรมคุณและข้อธรรมสาคัญในกรอบ อริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ ตามท่ีกาหนด เห็นคุณค่าและนาไปพัฒนาแก้ปัญหา หนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศกึ ษา จขอุดงชปมุ รชนะสแลงะสคงั ค์กมารเรียนรู้ K P A ใบงาน แบบทดสอบก่อนเรยี น 1. นักเรียนอธบิ ายอธิบายความหมายของบพุ พนมิ ติ ของ การวัดและการประเมนิ ผล มัชฌิมาปฏิปทา และปฏิบัติได้อยา่ งถูกต้อง (K) 2. นักเรียนอธิบายความหมาย วิเคราะหก์ ารกระทาของ เคร่อื งมอื ที่ใช้ 1. หนังสอื เรียน สังคมศึกษา ดรณุ ธรรม 6 กลุ จิรัฏฐิติธรรม 4 (P) 3. นักเรยี นเห็นความสาคัญอธิบายความหมาย วิเคราะห์ วิธีการวดั 1. ตรวจใบงาน การกระทาของดรุณธรรม 6 กุลจิรฏั ฐิตธิ รรม 4 และ 2. สังเกตพุ ฤตกิ รรม อบายมขุ 6 (A) ลงช่อื ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหนง่ นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ลงชอื่ ................................. (นางสาวฉัตรินยา หินประกอบ) ตาแหน่งผู้อานวยการสถานศกึ ษา
ครูผ้สู อน แผนการจัดการเรยี นรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู วชิ า สังคมศกึ ษา (ส 22101 ) โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา สาระการเรียนรู้ สงั กัดองคก์ ารบริหารส่วนจังหวดั ชัยภูมิ - การทบ่ี คุ คลปฏิบตั ติ ามหลกั ธรรม สติปัฏฐาน 4 แผนการจดั การเรียนรู้ และมงคลในหวั ขอ้ ประพฤตธิ รรม เว้นจากความชว่ั เวน้ จากการดมื่ น้าเมา ย่อมเป็นทางทจ่ี ะนาไปสู่ รายวิชา สังคมศกึ ษา รหสั วชิ า ส 22101 ความดบั ทกุ ข์ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง พระธรรม เวลา 50 ชั่วโมง กิจกรรมการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 14 ขนั้ ที่ 1 ขนั้ ดึงความร้เู ดิม เวลา 10 นาที เรอื่ ง สตปิ ัฎฐาน 4 และมงคล 38 เวลา 2 ชวั่ โมง ครนู าภาพบุคคลท่กี ระทากรรมชว่ั หรอื ประพฤตติ น ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 ไปสทู่ างแหง่ ความชัว่ มาใหน้ กั เรยี นดู แล้วใหน้ ัก เรียนร่วมกันวิเคราะหแ์ ละตอบคาถามวา่ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด ภาพดงั กล่าวมสี าเหตุจากอะไร และเกิด ผลเสยี ต่อตนเองและสงั คมอยา่ งไร มาตรฐาน ส 1..1 ตัวช้วี ัดที่ ขัน้ ที่ 2 ขนั้ เตมิ ความรูใ้ หม่ เวลา 40 นาที ม.2/8 อธิบายธรรมคุณและข้อธรรมสาคัญในกรอบ ครูให้นกั เรียนกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ อริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ 1) จับค่กู นั เป็น 4 คู่ ใหแ้ ต่ละคูร่ ่วมกันศึกษาความ ตามที่กาหนด เห็นคุณค่าและนาไปพัฒนาแก้ปัญหา รูเ้ ร่อื ง หลักธรรมทค่ี วรเจริญ จากหนงั สือเรยี น หนงั สอื ค้นควา้ เพ่ิมเตมิ หอ้ งสมดุ และแหลง่ ข้อมลู จขอดุ งชปมุ รชนะสแลงะสคังคก์ มารเรียนรู้ K P A สารสนเทศ ค่ลู ะ 1 หวั ข้อ ดงั น้ี บพุ พนมิ ิตของมชั ฌิมาปฏิปทา 1. นกั เรยี นอธิบายอธบิ ายความหมายสติปัฎฐาน 4 และ กลุ จิรัฏฐิตธิ รรม 4 มงคล 38 (K) 2. นักเรยี นอธิบายความหมาย วิเคราะหก์ ารกระทาของ ขนั้ ที่ 3 ขนั้ สรุป เวลา 10 นาที สติปัฎฐาน 4 และมงคล 38 (P) 3. นักเรียนเหน็ ความสาคัญอธิบายความหมาย วเิ คราะห์ ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ผลของการปฏิบตั ิตนตาม สติปัฎฐาน 4 และมงคล 38 (A) หลักธรรมที่ควรเจรญิ และแนวทางการปฏบิ ตั ิ ลงช่ือ................................. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหนง่ นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครู หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศกึ ษา ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ลงชือ่ ................................. (นางสาวฉตั รนิ ยา หินประกอบ) การวัดและการประเมินผล ตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ 1. หนงั สือเรียน สังคมศึกษา วธิ ีการวดั 1. ตรวจใบงาน 2. สังเกตพุ ฤติกรรม
ครูผู้สอน แผนการจัดการเรยี นรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู วชิ า สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) โรงเรียนหนองขามวิทยา สาระการเรยี นรู้ สังกัดองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั ชัยภูมิ - พระไตรปิฎก เป็นคัมภรี ์ทบ่ี รรจหุ ลักธรรมคาสอน แผนการจดั การเรยี นรู้ ของพระพุทธเจ้า ซึ่งประกอบดว้ ย พระวนิ ัยปิฎกพระสุตตันตปิฎก รายวิชา สงั คมศึกษา รหัสวิชา ส 22101 และพระอภธิ รรมปิฎก หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรื่อง พระธรรม เวลา 50 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 15 ขัน้ ที่ 1 ข้ันดึงความรเู้ ดมิ เวลา 10 นาที เรื่อง พระไตรปิฏก เวลา 2 ชั่วโมง ครอู า่ นขอ้ ความในพระไตรปิฎกให้นกั เรียนฟงั ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ประมาณ 2-3 ข้อความ ซงึ่ มคี วามยาวตามความ เหมาะสม แลว้ ให้นักเรียนช่วยกนั วเิ คราะห์ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด ตามหวั ข้อตอ่ ไปน้ี 1) ความหมาย มาตรฐาน ส 1..1 2) ขอ้ คิดสาคญั ตวั ชีว้ ดั ท่ี ขัน้ ที่ 2 ข้ันเตมิ ความรู้ใหม่ เวลา 40 นาที ม. /7 อธิบายโครงสร้างและสาระโดยสังเขปของ พระไตรปิฎก หรอื คัมภรี ข์ องศาสนาท่ีตนนบั ถอื นักเรยี นแบง่ กลุม่ กล่มุ ละ 5-7 แลว้ ให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษาความรเู้ รอื่ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ K P A พระไตรปิฎก จากหนงั สอื เรียน หนงั สือคน้ ควา้ เพ่ิมเตมิ หอ้ งสมดุ 1. นกั เรียนอธิบายความหมายและความสาคัญของ และแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ พระไตรปิฎกได้ (K) ตามหัวข้อทกี่ าหนดให้ 2. นักเรียนอธิบายความหมาย วิเคราะหก์ ารกระทาของ สติปัฎฐาน 4 และมงคล 38 (P) ขัน้ ที่ 3 ขั้นสรุป เวลา 10 นาที 3. นกั เรยี นเห็นความสาคัญอธบิ ายความหมาย วเิ คราะห์ สติปัฎฐาน 4 และมงคล 38 (A) นกั เรยี นช่วยกันสรปุ ขอ้ คดิ ท่ไี ดจ้ ากการฟงั ขอ้ ความ ในพระไตรปิฎก และแนวทางการนาข้อคดิ ไปประยกุ ต์ ลงชือ่ ................................. ปฏิบัติ ในการดาเนนิ ชีวิต (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหนง่ นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ ลงชอ่ื ................................. หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศึกษา (นางสาวฉตั รนิ ยา หนิ ประกอบ) ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน ตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา การวัดและการประเมินผล เครื่องมือท่ีใช้ 1. หนังสือเรยี น สังคมศึกษา วธิ กี ารวัด 1. ตรวจใบงาน 2. สงั เกตุพฤตกิ รรม
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า สงั คมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ - พุทธศาสนสภุ าษิต เป็นข้อธรรมสาคญั ทม่ี ขี อ้ คดิ เตอื นใจบคุ คลให้นาไปเป็นหลักในการปฏิบตั ิตน ในการดาเนินชีวติ อยา่ งถกู ตอ้ ง ครผู ู้สอน กิจกรรมการเรยี นรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหน่ง ครู ขัน้ ที่ 1 ขน้ั ดึงความรู้เดิม เวลา 10 นาที โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา ครใู หน้ กั เรียนในห้องแบง่ ออกเป็น 2 ฝา่ ย สงั กดั องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั ชัยภูมิ แลว้ ให้แตล่ ะฝา่ ยเลือกตวั แทน มาฝา่ ยละ 7 คน เป็นตัวแทนในการแข่งขนั กันตอบปัญหาเกีย่ วกบั แผนการจัดการเรียนรู้ ความหมาย และตัวอย่างการกระทาตามแนวพุทธ ศาสนสุภาษิต ซ่งึ นักเรียนเคยมคี วามรมู้ าแลว้ รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วชิ า ส 22101 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ขัน้ ที่ 2 ข้นั เตมิ ความร้ใู หม่ เวลา 40 นาที เรอื่ ง หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลา 50 ชว่ั โมง ครูอธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั ความหมาย ความสาคญั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 16 และการกระทาตามพุทธศาสนสภุ าษิตต่อไปนี้ เร่อื ง พระไตรปิฏก ใหน้ กั เรยี นฟงั เวลา 2 ชว่ั โมง กมมฺ ุนา วตตฺ ตี โลโก : ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 สัตวโ์ ลกยอ่ มเป็นไปตามกรรม กลยฺ าณการี กลฺยาณ ปาปการี จ ปาปก มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด ขนั้ ที่ 3 ข้นั สรุป เวลา 10 นาที มาตรฐาน ส 1..1 ตัวชว้ี ัดที่ ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ผลท่ีได้จากการ ปฏบิ ตั ิตนตามพุทธศาสนสภุ าษติ ม. /7 อธิบายโครงสร้างและสาระโดยสังเขปของ พระไตรปิฎก หรือคัมภีร์ของศาสนาท่ตี นนับถอื จุดประสงค์การเรียนรู้ K P A 1. นักเรยี นอธิบายอธิบายความหมายและวเิ คราะหค์ วามสาคญั สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ ของพุทธศาสนสภุ าษิต กมฺมนุ า วตตฺ ตี โลโก ได้ (K) 2. นักเรยี นอธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมายและวเิ คราะห์ หนังสือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน สงั คมศกึ ษา ความสาคญั ของพุทธศาสนสุภาษติ กมฺมุนา วตฺตตี โลโก ได้ ใบงาน แบบทดสอบก่อนเรยี น (P) 3. นักเรียนเห็นความสาคัญวิเคราะห์ความสาคญั ของพุทธศาสน การวัดและการประเมินผล สภุ าษิต ปูชโก (A) เครอ่ื งมือท่ใี ช้ 1. หนังสือเรียน สงั คมศกึ ษา ลงชือ่ ................................. (นางสาวนภิ าพร สาทา) วิธีการวัด 1. ตรวจใบงาน ตาแหน่ง นักศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 2. สังเกตุพฤติกรรม ลงชื่อ................................. (นางสาวฉตั รินยา หนิ ประกอบ) ตาแหนง่ ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรียนรู้ วิชา สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ - ชาวพุทธทุกคนพึงปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมตอ่ พระสงฆ์ และเข้าร่วมพิธกี รรมทาง พระพุทธศาสนาอย่างถกู ต้อง ครูผูส้ อน กิจกรรมการเรยี นรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขนั้ ที่ 1 ขั้นดึงความรู้เดมิ เวลา 10 นาที โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา ครูนาภาพหรือภาพขา่ วกจิ กรรมตา่ งๆ ของชาวไทย สังกัดองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชัยภมู ิ มาเลา่ ให้นกั เรียนฟงั ตัวอยา่ งเช่น การเวียนเทยี บรอบพระอุโบสถ แผนการจัดการเรียนรู้ การแสดงตนเป็นพุ ทธมามกะ การชมุ นมุ กันฟงั ปาฐกถา รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วชิ า ส 22101 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 ขัน้ ที่ 2 ขั้นเติมความร้ใู หม่ เวลา 40 นาที เร่ือง หน้าทข่ี าวพุทธ เวลา 50 ชว่ั โมง นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ตามความสมคั รใจ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 18 ให้แต่ละกลุม่ รว่ มกนั ศกึ ษาความรูเ้ รอื่ ง เรอื่ ง หนา้ ท่ีชาวพุทธ หน้าท่ีชาวพุทธ จากหนังสอื เรยี น เวลา 2 ชวั่ โมง หนงั สอื คน้ คว้าเพ่ิมเตมิ ห้องสมุด ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบนั ทกึ ความรูท้ ีไ่ ดจ้ ากการศึกษาลง มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั ในแบบบนั ทึกการอ่าน มาตรฐาน ส 1..2 ขัน้ ที่ 3 ข้ันสรปุ เวลา 10 นาที ตัวชว้ี ดั ที่ นักเรียนและครชู ่วยกันสรปุ ประโยชนข์ องการ ม.2/1 ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อบุคคลต่างๆ ปฏิบตั ติ นตามหน้าที่ชาวพุทธ ตามหลกั ศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตามที่กาหนด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ K P A 1. นกั เรยี นอธิบายหนา้ ท่ขี องขาวพุทธได้ (K) สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 2. นักเรียนปฏิบตั ติ นตามหน้าทข่ี องขาวพุทธได้ (P) 3. นักเรยี นเหน็ ความสาคญั ของชาวพุทธได้ (A) หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศกึ ษา ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ลงชอ่ื ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) การวัดและการประเมนิ ผล ตาแหนง่ นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู เครอื่ งมอื ท่ใี ช้ 1. หนงั สือเรยี น สงั คมศึกษา ลงช่อื ................................. (นางสาวฉัตรนิ ยา หินประกอบ) วธิ กี ารวัด 1. ตรวจใบงาน ตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา 2. สงั เกตุพฤตกิ รรม
แผนการจดั การเรียนรู้ วิชา สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ - ชาวพุทธทุกคนพึงปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมตอ่ พระสงฆ์ และเข้าร่วมพิธกี รรมทาง พระพุทธศาสนาอย่างถกู ต้อง ครูผูส้ อน กิจกรรมการเรยี นรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขนั้ ที่ 1 ขั้นดึงความรู้เดมิ เวลา 10 นาที โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา ครูนาภาพหรือภาพขา่ วกจิ กรรมตา่ งๆ ของชาวไทย สังกัดองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชัยภมู ิ มาเลา่ ให้นกั เรียนฟงั ตัวอยา่ งเช่น การเวียนเทยี บรอบพระอุโบสถ แผนการจัดการเรียนรู้ การแสดงตนเป็นพุ ทธมามกะ การชมุ นมุ กันฟงั ปาฐกถา รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วิชา ส 22101 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 ขัน้ ที่ 2 ขั้นเติมความร้ใู หม่ เวลา 40 นาที เร่ือง หน้าทข่ี าวพุทธ เวลา 50 ชว่ั โมง นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ตามความสมคั รใจ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 17 ให้แต่ละกลุม่ รว่ มกนั ศกึ ษาความรูเ้ รอื่ ง เรอื่ ง หนา้ ทช่ี าวพุทธ หน้าท่ีชาวพุทธ จากหนังสอื เรยี น เวลา 2 ชวั่ โมง หนงั สอื คน้ คว้าเพ่ิมเตมิ ห้องสมุด ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบนั ทกึ ความรูท้ ีไ่ ดจ้ ากการศึกษาลง มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั ในแบบบนั ทึกการอ่าน มาตรฐาน ส 1..2 ขัน้ ที่ 3 ข้ันสรปุ เวลา 10 นาที ตัวชว้ี ดั ที่ นักเรียนและครชู ่วยกันสรปุ ประโยชนข์ องการ ม.2/1 ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อบุคคลต่างๆ ปฏิบตั ติ นตามหน้าที่ชาวพุทธ ตามหลกั ศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตามที่กาหนด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ K P A 1. นกั เรยี นอธิบายหนา้ ท่ขี องขาวพุทธได้ (K) สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 2. นักเรียนปฏิบตั ติ นตามหน้าทข่ี องขาวพุทธได้ (P) 3. นักเรยี นเหน็ ความสาคญั ของชาวพุทธได้ (A) หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศกึ ษา ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ลงชอ่ื ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) การวัดและการประเมนิ ผล ตาแหนง่ นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู เครอื่ งมอื ท่ใี ช้ 1. หนงั สือเรยี น สงั คมศึกษา ลงช่อื ................................. (นางสาวฉัตรนิ ยา หินประกอบ) วธิ กี ารวัด 1. ตรวจใบงาน ตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา 2. สงั เกตุพฤตกิ รรม
แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชา สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ - วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา มหี ลักธรรม คาสอนทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ศาสนิกชนทกุ คน ในการนาไปปฏิบัตติ นในการดาเนินชวี ิต ครูผูส้ อน กจิ กรรมการเรียนรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหน่ง ครู ขัน้ ที่ 1 ขั้นดงึ ความรูเ้ ดิม เวลา 10 นาที โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา ครใู ห้นกั เรียนเล่าประสบการณใ์ นการเขา้ รว่ ม สงั กัดองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชัยภมู ิ กิจกรรมวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา พรอ้ มอธบิ ายผลของการเข้ารว่ มกจิ กรรมดงั กลา่ ว แผนการจดั การเรยี นรู้ แล้วครอู ธิบายเพิ่มเติมใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจถึงความ สาคัญของวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา รายวิชา สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส 22101 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ขนั้ ที่ 2 ขนั้ เตมิ ความรู้ใหม่ เวลา 40 นาที เรอื่ ง วนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา เวลา 50 ชั่วโมง ครูใหน้ ักเรียนรวมกล่มุ กัน กลุ่มละ 8 คน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 19 ตามความสมคั รใจ แล้วใหแ้ ตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศกึ ษา เรอ่ื ง วนั สาคัญทางพระพุทธศาสนา ความรูเ้ ร่อื ง วันสาคัญทางพระพุทธศาสนา เวลา 2 ชว่ั โมง จากหนงั สือเรียน หนงั สือคน้ ควา้ เพิ่มเติม ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ห้องสมดุ และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ โดยแบง่ หนา้ ที่ใหส้ มาชิกในกล่มุ ศกึ ษา มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด คนละ 1 เรอ่ื ง แล้วบนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ด้จาก มาตรฐาน ส 1..2 ขนั้ ที่ 3 ข้นั สรุป เวลา 10 นาที ตวั ช้ีวดั ท่ี นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ วางแผนการปฏิบตั ิตนตามหลกั ม.2/4 อธิบายคาสอนท่ีเกี่ยวเนื่องกับวันสาคัญทาง ธรรมสาคัญในวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา ศาสนาและปฏิบัติตนได้ถูกตอ้ ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ K P A 1. นักเรียนอธิบายหลักธรรมสาคญั ท่เี กย่ี วเนอ่ื งกับวันสาคญั ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ ทางพระพุทธศาสนาได้ (K) หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศึกษา 2. นักเรยี นปฏบิ ตั ติ นตามอธบิ ายหลักธรรมสาคญั ท่ี ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน เกีย่ วเนื่องกบั วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนาได้ (P) การวดั และการประเมินผล 3. นักเรียนเห็นความสาคญั วนั สาคญั ทาง พระพุทธศาสนาได้ (A) เครอ่ื งมอื ที่ใช้ 1. หนงั สือเรียน สงั คมศึกษา ลงชอื่ ................................. วธิ ีการวดั 1. ตรวจใบงาน (นางสาวนภิ าพร สาทา) 2. สงั เกตพุ ฤติกรรม ตาแหน่ง นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพครู ลงชอ่ื ................................. (นางสาวฉตั รินยา หินประกอบ) ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชา สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ - วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา มหี ลักธรรม คาสอนทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ศาสนิกชนทกุ คน ในการนาไปปฏิบัตติ นในการดาเนินชวี ิต ครูผูส้ อน กจิ กรรมการเรียนรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหน่ง ครู ขัน้ ที่ 1 ขั้นดงึ ความรูเ้ ดิม เวลา 10 นาที โรงเรยี นหนองขามวิทยา ครใู ห้นกั เรียนเล่าประสบการณใ์ นการเขา้ รว่ ม สงั กัดองค์การบรหิ ารส่วนจังหวดั ชัยภมู ิ กิจกรรมวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา พรอ้ มอธบิ ายผลของการเข้ารว่ มกจิ กรรมดงั กลา่ ว แผนการจดั การเรยี นรู้ แล้วครอู ธิบายเพิ่มเติมใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจถึงความ สาคัญของวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา รายวิชา สงั คมศึกษา รหัสวชิ า ส 22101 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ขนั้ ที่ 2 ขนั้ เตมิ ความรู้ใหม่ เวลา 40 นาที เรอื่ ง วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา เวลา 50 ชั่วโมง ครูใหน้ ักเรียนรวมกล่มุ กัน กลุ่มละ 8 คน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 20 ตามความสมคั รใจ แล้วใหแ้ ตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศกึ ษา เรอ่ื ง วนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา ความรูเ้ ร่อื ง วันสาคัญทางพระพุทธศาสนา เวลา 2 ชว่ั โมง จากหนงั สือเรียน หนงั สือคน้ ควา้ เพิ่มเติม ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ห้องสมดุ และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ โดยแบง่ หนา้ ที่ใหส้ มาชิกในกล่มุ ศกึ ษา มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด คนละ 1 เรอ่ื ง แล้วบนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ด้จาก มาตรฐาน ส 1..2 ขนั้ ที่ 3 ข้นั สรุป เวลา 10 นาที ตวั ช้ีวดั ท่ี นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ วางแผนการปฏิบตั ิตนตามหลกั ม.2/4 อธิบายคาสอนที่เกี่ยวเนื่องกับวันสาคัญทาง ธรรมสาคัญในวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา ศาสนาและปฏิบัตติ นได้ถกู ต้อง จุดประสงค์การเรยี นรู้ K P A 1. นักเรียนอธิบายหลักธรรมสาคัญที่เกย่ี วเนอ่ื งกับวันสาคญั ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ ทางพระพุทธศาสนาได้ (K) หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศึกษา 2. นักเรยี นปฏบิ ัตติ นตามอธบิ ายหลักธรรมสาคญั ท่ี ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน เกีย่ วเนื่องกบั วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนาได้ (P) การวดั และการประเมินผล 3. นักเรียนเห็นความสาคญั วนั สาคญั ทาง พระพุทธศาสนาได้ (A) เครอ่ื งมอื ที่ใช้ 1. หนงั สือเรียน สงั คมศึกษา ลงชอื่ ................................. วธิ ีการวดั 1. ตรวจใบงาน (นางสาวนภิ าพร สาทา) 2. สงั เกตพุ ฤติกรรม ตาแหน่ง นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพครู ลงชอื่ ................................. (นางสาวฉตั รินยา หินประกอบ) ตาแหน่งผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
ครผู ู้สอน แผนการจัดการเรียนรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหน่ง ครู วชิ า สังคมศกึ ษา (ส 22101 ) โรงเรียนหนองขามวิทยา สาระการเรียนรู้ สงั กัดองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั ชยั ภมู ิ การสวดมนต์ แผเ่ มตตา บรหิ ารจติ และเจริญปัญญา แผนการจัดการเรียนรู้ ด้วยอานาปานสตจิ ะสง่ ผลต่อการพัฒนาจิต ซงึ่ จะเป็นพื้นฐานสาคญั อนั นาไปสกู่ ารคดิ เป็น รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวิชา ส 22101 และดาเนินชวี ิตอยา่ งถกู ต้อง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เรอ่ื ง การบรหิ ารจิต และเจริญปัญญา กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา 50 ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 21 ขัน้ ที่ 1 ข้ันดึงความรูเ้ ดิม เวลา 10 นาที เรอื่ ง การบริหารจิต - ครูนาภาพบคุ คลที่กาลงั ทากิจกรรมต่างๆ เวลา 2 ชั่วโมง มาให้นักเรยี นดู เช่น ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 ภาพบคุ คลท่กี าลงั ทางานในที่สูง เชน่ การก่อสรา้ งตึกสูงภาพการทางานเกีย่ วกับ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด เคร่ืองจักรกลที่เส่ียงอนั ตราย มาตรฐาน ส 2.1 ขัน้ ที่ 2 ข้นั เตมิ ความร้ใู หม่ เวลา 40 นาที ตัวชว้ี ดั ที่ ครูมอบหมายให้นกั เรยี นแต่ละคนทาสมาธใิ นเวลา ม.2/10 สวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิต และเจริญ ว่างหรอื กอ่ นนอนเป็นประจา เพ่ือให้เกิดความ ปัญญาด้วยอานาปานสติ หรือตามแนวทางของ ชานาญในการทาสมาธิ และเกิดผลดีต่อตวั นกั เรยี น ศาสนา ทตี่ นนบั ถือ แล้วบันทกึ การปฏิบัติลงในแบบบันทกึ การปฏบิ ตั ิตน ในการบริหารจิต จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ K P A ขนั้ ที่ 3 ข้ันสรุป เวลา 10 นาที 1. นักเรยี นสวดมนต์บูชาพระรตั นตรยั และแผ่เมตตาได้ นักเรยี นแต่ละกลุ่มวางแผนการปฏบิ ัติตนตามหลกั ถูกต้อง (K) ธรรมสาคัญในวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา 2. นักเรียนวิเคราะห์ประโยชน์ของการทาสมาธไิ ด้ (P) สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 3. นักเรียนฝึกสมาธดิ ้วยวิธอี านาปานสตไิ ด้ (A) หนังสือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศกึ ษา ลงชอ่ื ................................. ใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหน่ง นกั ศึกษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู การวดั และการประเมินผล ลงชอื่ ................................. เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ 1. หนังสอื เรียน สงั คมศึกษา (นางสาวฉัตรินยา หินประกอบ) ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา วิธีการวดั 1. ตรวจใบงาน 2. สังเกตุพฤติกรรม
ครผู ู้สอน แผนการจัดการเรยี นรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหน่ง ครู วชิ า สังคมศึกษา (ส 22101 ) โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา สาระการเรียนรู้ สงั กัดองค์การบริหารสว่ นจังหวดั ชัยภมู ิ การสวดมนต์ แผเ่ มตตา บริหารจิตและเจรญิ ปัญญา แผนการจดั การเรียนรู้ ด้วยอานาปานสติจะสง่ ผลตอ่ การพัฒนาจติ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสาคัญอนั นาไปสกู่ ารคิดเป็น รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วชิ า ส 22101 และดาเนนิ ชวี ติ อย่างถูกต้อง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอื่ ง การบรหิ ารจติ และเจริญปัญญา เวลา 50 ชั่วโมง ขัน้ ที่ 1 ขัน้ ดึงความรเู้ ดิม เวลา 10 นาที แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 22 1.ครนู าขา่ วบุคคลที่ทาสมาธอิ ยา่ งสม่าเสมอ เรือ่ ง การบริหารจิตในชีวิตประจาวนั แล้วเกิดผลดตี ่อการดาเนนิ ชวี ติ มาเลา่ ให้นกั เรียนฟงั เวลา 2 ชว่ั โมง นักเรยี นร่วมกันวเิ คราะหว์ ธิ กี ารปฏิบตั ิและ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ผลของการปฏบิ ตั ิ ทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ตนเองและผอู้ นื่ นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด ขัน้ ที่ 2 ข้ันเติมความรู้ใหม่ เวลา 40 นาที มาตรฐาน ส 2.1 ตวั ช้ีวัดท่ี ครูให้ตวั แทนนกั เรยี นท่ไี ดร้ บั การฝึกสมาธิอยา่ งถกู วธิ ีมาสาธติ การปฏบิ ตั ใิ นการทาสมาธิ ม.2/10 สวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิต และเจริญ ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ ถึงวิธีการปฏิบัตอิ ย่างถูกวธิ ี ปัญญาด้วยอานาปานสติ หรือตามแนวทางของ แล้วใหน้ ักเรยี นทกุ คนปฏิบัตติ าม ศาสนา ท่ตี นนบั ถือ ขนั้ ที่ 3 ขั้นสรุป เวลา 10 นาที จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ K P A นกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะหค์ ณุ คา่ ของการทาสมาธิ และแนวทางการปฏิบตั ิตนในการทาสมาธอิ ยา่ งถูกต้อง 1. นักเรยี นและเข้าใจวธิ ปี ฏบิ ตั แิ ละประโยชน์ของการบรหิ าร สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ จิตและเจรญิ ปัญญา (K) หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน สงั คมศึกษา 2. นักเรียนฝึกการบรหิ ารจติ และเจรญิ ปัญญาตามหลักสติ ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ปัฏฐานเน้นอานาปานสติ (P) การวดั และการประเมินผล 3. นักเรียนวิธีการบรหิ ารจติ และเจริญปัญญาไปใช้ ในชวี ิตประจาวนั (A) เครอื่ งมอื ที่ใช้ 1. หนงั สือเรยี น สังคมศึกษา ลงชื่อ................................. วิธกี ารวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวนิภาพร สาทา) 2. สังเกตุพฤตกิ รรม ตาแหนง่ นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ครู ลงชือ่ ................................. (นางสาวฉตั รนิ ยา หนิ ประกอบ) ตาแหน่งผู้อานวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชา สังคมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ การนาวธิ คี ิดแบบโยนโิ สมนสกิ ารด้วยการคิดแบบ อุบายปลกุ เร้าคุณธรรม และวิธคี ิดแบบอรรถธรรม สัมพันธ์ มคี วามสาคัญต่อการดาเนินชวี ิตทีถ่ ูกต้อง ครูผู้สอน กจิ กรรมการเรยี นรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขนั้ ที่ 1 ขัน้ ดึงความรู้เดมิ เวลา 10 นาที ครนู าขา่ ว หรือเหตุการณ์ของบคุ คลหรือกลมุ่ บคุ คลท่ี โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา แสดงว่า มกี ารกระทาสงิ่ ทีด่ มี าให้นักเรยี นดู เช่น สงั กดั องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั ชยั ภูมิ การปลูกปา่ การออกคา่ ยอาสาพัฒนาชุมชน หม่บู า้ นเศรษฐกจิ พอเพียง แผนการจดั การเรียนรู้ ชุมชนพัฒนาตัวอย่าง รายวิชา สงั คมศึกษา รหสั วิชา ส 22101 ขนั้ ที่ 2 ข้ันเติมความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 นักเรียนแบ่งออกเป็น 5 กลุม่ กลมุ่ ละเท่าๆ กัน เรื่อง การบรหิ ารจติ และเจริญปัญญา แลว้ ให้ แตล่ ะกลุ่มร่วมกันศึกษาความรูเ้ รอื่ ง เวลา 50 ช่ัวโมง วธิ ีคิดแบบอุบาย ปลุกเร้าคุณธรรม แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 23 และวิธคี ดิ แบบอรรถธรรมสมั พันธ์ จาก เร่ือง การเจริญปัญญา หนงั สือเรยี น ใบความรู้ เร่ือง เวลา 2 ช่วั โมง คดิ เป็นตามแนวพุทธธรรม ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 ขนั้ ที่ 3 ขั้นสรปุ เวลา 10 นาที มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ประสบการณ์ที่ได้รบั จาก มาตรฐาน ส 1.1 การนาวธิ คี ิดแบบอุบายปลกุ เรา้ คณุ ธรรม ตวั ชวี้ ดั ที่ และวิธีคดิ แบบอรรถธรรมสมั พันธไ์ ปประยกุ ต์ ใช้ในการดาเนินชวี ติ ม.2/9 เหน็ คณุ ค่าของการพัฒนาจิต เพื่อการเรียนรู้ และดาเนินชีวิตด้วยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการคือ วิธี ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ คิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม และวิธีคิดแบบอรรถ หนังสือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศึกษา จศธราดุ สรมนปาสทรัมี่ตะพนสันนธงับ์ ถคหือร์กือกาารรเพรัฒียนนาจริตู้ ตKามแPนวทAางของ ใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน 1. นักเรียนอธบิ ายวธิ ีการคิดแบบอบุ ายปลกุ เรา้ คณุ ธรรม การวดั และการประเมนิ ผล และวิธีคิดแบบอรรถธรรมสมั พันธไ์ ด้ (K) เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ 1. หนงั สือเรียน สังคมศกึ ษา 2. นกั เรียนวิเคราะหผ์ ลของการคิดแบบอบุ ายปลุกเร้า คณุ ธรรม และวิธคี ดิ แบบอรรถธรรมสัมพันธไ์ ด้ (P) 3. นกั เรียนพัฒนาการเรยี นร้ดู ว้ ยวิธคี ิดแบบโยนิโส มนสิการ (A) ลงชอื่ ................................. (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหนง่ นกั ศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครู ลงช่อื ................................. วธิ ีการวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉตั รนิ ยา หนิ ประกอบ) 2. สังเกตพุ ฤติกรรม ตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ า สังคมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ การปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ย่อมสง่ ผลดีต่อความสงบเรยี บรอ้ ยของสังคม และสง่ ผลตอ่ การอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ ครูผู้สอน กิจกรรมการเรียนรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขัน้ ที่ 1 ขน้ั ดงึ ความรู้เดิม เวลา 10 นาที โรงเรียนหนองขามวิทยา ครใู หน้ กั เรยี นรวมกลุ่มกนั กล่มุ ละ 4 คน สังกดั องคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั ชัยภมู ิ ตามความสมัครใจ แล้วใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มผลดั กนั เล่าเรื่องรอบวงในประเดน็ ต่อไปน้ี แผนการจดั การเรียนรู้ นักเรียนเคยปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมของพระ พุ ทธศาสนาในเร่ืองใด รายวิชา สงั คมศกึ ษา รหสั วิชา ส 22101 ขนั้ ที่ 2 ข้ันเตมิ ความร้ใู หม่ เวลา 40 นาที หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เร่ือง การปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรม ครูอธบิ ายเชอ่ื มโยงถึงความจาเป็นในการปฏบิ ตั ติ น เวลา 50 ชั่วโมง อย่างเหมาะสมในกระแสความเปลย่ี นแปลงของโลก แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 24 โดยใช้หลกั ธรรมเป็นหลักหรอื เป็นแนวทางในกา เรือ่ ง การปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรม รนาไปประยุกต์ใช้ เวลา 2 ชั่วโมง นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาความรู้เกย่ี วกับ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 หลักธรรมทเี่ ป็นหลกั ปฏิบตั ิอยา่ งเหมาะสมในกระแส การเปลี่ยนแปลงของโลก มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด ขัน้ ที่ 3 ข้ันสรปุ เวลา 10 นาที มาตรฐาน ส 1.1 ตัวชว้ี ดั ที่ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ แนวทางการปฏบิ ัตติ น ตามหลกั ธรรม ซึ่งจะสง่ ผลตอ่ การอยรู่ ว่ มกันอยา่ ง ม.2/11 วิเคราะหก์ ารปฏิบตั ิตนตามหลักธรรมทางศาสนา ปกติสุขในกระแสของการเปล่ยี นแปลงของโลก ท่ตี นนบั ถอื เพ่ือการดารงตนอย่างเหมาะสม ในกระแส ความเปลี่ยนแปลงของโลก และการอยู่ร่วมกันอย่าง ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ สันตสิ ขุ ศาสนาทตี่ นนับถือ หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศึกษา จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ K P A ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. นกั เรียนอธบิ ายหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา ท่มี ีผล การวัดและการประเมินผล ต่อการปฏิบตั ติ นของชาวพุทธอยา่ งเหมาะสมในกระแสความ เคร่อื งมือท่ีใช้ 1. หนงั สอื เรียน สังคมศึกษา เปล่ยี นแปลงได้ (K) 2. นักเรยี นวิเคราะห์หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา ที่มีผลต่อ การปฏบิ ัตติ นของชาวพุทธอย่างเหมาะสมในกระแสความ เปลย่ี นแปลงได้ (P) 3. นักเรียนสามารถนาหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา ไปใช้ ในชวี ิตประจาวันได้(A) ลงช่อื ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหน่ง นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครู ลงช่อื ................................. วิธีการวดั 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉัตรนิ ยา หินประกอบ) 2. สงั เกตพุ ฤติกรรม ตาแหนง่ ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรียนรู้ วิชา สังคมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ การปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ย่อมส่งผลดีต่อความสงบเรียบรอ้ ยของสังคม และสง่ ผลต่อการอยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ติสุข ครูผู้สอน กิจกรรมการเรยี นรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหน่ง ครู ขนั้ ที่ 1 ขนั้ ดึงความรเู้ ดิม เวลา 10 นาที โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา ครูนาข่าวสงั คมเก่ียวกบั การชว่ ยเหลือกัน สังกดั องคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั ชัยภมู ิ การมนี ้าใจต่อกัน และการทารนุ แรงต่อเดก็ และสตรี มาเล่าให้นักเรยี นฟงั แลว้ ให้นักเรยี นแสดงความ แผนการจดั การเรียนรู้ คดิ เหน็ ถงึ ผลดีหรอื ผลกระทบที่เกิดขน้ึ จากการกระทาของบุคคลในข่าว รายวิชา สังคมศึกษา รหสั วิชา ส 22101 ขนั้ ที่ 2 ขั้นเติมความรูใ้ หม่ เวลา 40 นาที หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 เรอื่ ง การปฏบิ ัติตนตามหลักธรรม นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาความรเู้ พ่ิมเตมิ เรื่อง เวลา 50 ช่วั โมง การปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 25 เพ่ือการอย่รู ่วมกันอย่างสนั ติสขุ จากหนงั สอื เรยี น เรื่อง การปฏิบัติตนอย่างสันตสิ ขุ หนงั สือคน้ ควา้ เพิ่มเติม ห้องสมดุ เวลา 2 ชัว่ โมง และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ โดยแบง่ หน้าท่กี นั ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 คนละ 1-2 หลักธรรม ตามความเหมาะสม มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด แล้วบนั ทกึ ความรู้ที่ได้จากการศึกษาลงในแบบบนั ทึกการอ่าน มาตรฐาน ส 1.1 ขัน้ ที่ 3 ขนั้ สรุป เวลา 10 นาที ตวั ช้ีวดั ท่ี ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ถงึ ประโยชนข์ องการ ม.2/11 วเิ คราะหก์ ารปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรมทางศาสนา ปฏบิ ตั ติ นอย่างเหมาะสมตามหลกั ธรรม ทตี่ นนับถือ เพ่ือการดารงตนอย่างเหมาะสม ในกระแส เพื่อการอยู่ร่วมกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ ความเปลี่ยนแปลงของโลก และการอยู่ร่วมกันอย่าง สันตสิ ุขศาสนาท่ีตนนบั ถือ สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ K P A หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน สงั คมศกึ ษา ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. นักเรยี นอธบิ ายหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ท่มี ีผล การวัดและการประเมินผล ต่อการปฏบิ ตั ติ นของชาวพุทธอยา่ งเหมาะสมในกระแสความ เปลย่ี นแปลงได้ (K) เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ 1. หนงั สอื เรียน สงั คมศกึ ษา 2. นกั เรยี นวเิ คราะห์หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ทมี่ ผี ลตอ่ การปฏิบตั ติ นของชาวพุทธอยา่ งเหมาะสมในกระแสความ เปล่ียนแปลงได้ (P) 3. นกั เรยี นสามารถนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ไปใช้ ในชวี ิตประจาวนั ได้(A) ลงช่อื ................................. (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู ลงช่อื ................................. วิธกี ารวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉัตรินยา หนิ ประกอบ) 2. สังเกตพุ ฤตกิ รรม ตาแหน่งผ้อู านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรียนรู้ วิชา สังคมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ ในสังคมประชาธิปไตย สมาชกิ ทุกคนพึงปฏบิ ัติตน ตามคุณลกั ษณะของพลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย ครผู ู้สอน กจิ กรรมการเรยี นรู้ นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหน่ง ครู ขนั้ ที่ 1 ข้นั ดงึ ความรเู้ ดมิ เวลา 10 นาที ครูนาภาพการกระทาของบคุ คลในกิจกรรมตา่ งๆ โรงเรียนหนองขามวิทยา มาใหน้ ักเรยี นวิเคราะหว์ า่ ภาพใดมกี ารกระทาท่ี สงั กัดองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภูมิ เหมาะสม ภาพใด มกี ารกระทาทไ่ี มเ่ หมาะสม พร้อมแสดงเหตุผลประกอบ แผนการจดั การเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 2 ขัน้ เตมิ ความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที รายวิชา สงั คมศึกษา รหัสวชิ า ส 22101 ครอู ธบิ ายพรอ้ มยกตวั อย่างเกย่ี วกบั ลกั ษณะสาคญั หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 9 ของสงั คมประชาธิปไตย และคณุ ลักษณะของพล เรือ่ ง หน้าทพี่ ลเมือง วัฒนธรรม และดารงชวี ติ เมืองดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย เวลา 50 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 25 ขัน้ ที่ 3 ขนั้ สรุป เวลา 10 นาที เร่ือง สงั คมประชาธิปไตย เวลา 2 ชว่ั โมง ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรปุ ความร้เู ก่ยี วกบั ลักษณะ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 สาคัญของสงั คมประชาธิปไตย และคณุ ลกั ษณะ พลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธปิ ไตย มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั มาตรฐาน ส 2.1 ตวั ชวี้ ัดท่ี ม.2/2 เห็น คุณค่าในก ารป ฏิบั ติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ หน้าท่ี ในฐานะพลเมืองดี ตามวิถปี ระชาธิปไตยสนั ติสุขศาสนาทตี่ นนบั ถือ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ K P A 1. นกั เรยี นอธบิ ายลกั ษณะสาคญั ของสงั คมประชาธิปไตยได้ สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ (K) หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน สงั คมศกึ ษา 2. นักเรียนวิเคราะห์คุณลักษณะพลเมอื งดตี ามวถิ ี ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน ประชาธิปไตยได้ (P) 3. นักเรยี นสามารถนาสาคัญของสังคมประชาธปิ ไตยได้(A) การวดั และการประเมินผล ลงชอ่ื ................................. เครอื่ งมือทใ่ี ช้ 1. หนังสือเรียน สังคมศกึ ษา (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหน่ง นกั ศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู วิธกี ารวดั 1. ตรวจใบงาน 2. สงั เกตพุ ฤติกรรม ลงชอื่ ................................. (นางสาวฉตั รินยา หินประกอบ) ตาแหน่งผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
ครผู สู้ อน แผนการจัดการเรียนรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหนง่ ครู วิชา สังคมศึกษา (ส 22101 ) โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา สาระการเรียนรู้ สงั กดั องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั ชัยภมู ิ พลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตยตอ้ งปฏบิ ตั ติ นตาม แผนการจดั การเรยี นรู้ สถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ หนา้ ทขี่ องประชาชนชาวไทย รายวิชา สังคมศึกษา รหัสวชิ า ส 22101 ซง่ึ สง่ ผลต่อการอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งปกตสิ ุข และการพัฒนาประเทศชาติใหเ้ จริญรุ่งเรอื ง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 9 เรอื่ ง หน้าทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม และดารงชวี ิต กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา 50 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 26 ขนั้ ที่ 1 ขั้นดงึ ความรเู้ ดิม เวลา 10 นาที เรื่อง สถานภาพ บทบาท สิทธิเสรภี าพ ครถู ามคาถามนกั เรียน เพ่ือเป็นการทบทวนความรู้ เวลา 2 ช่ัวโมง เดิมของนักเรียน ดังน้ี ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 สงั คมประชาธปิ ไตยมลี กั ษณะสาคญั อยา่ งไร พลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตยมีลักษณะอยา่ งไร มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั นักเรยี นปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธิปไตย มาตรฐาน ส 2.1 ขัน้ ที่ 2 ข้ันเตมิ ความรู้ใหม่ เวลา 40 นาที ตัวช้ีวัดที่ นกั เรยี นกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1) ม.2/2 เห็น คุณค่าในก ารป ฏิบั ติตนตามสถานภาพ ร่วมกันศึกษาความรเู้ ร่ือง สถานภาพ บทบาท สทิ ธิ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ ในฐานะพลเมืองดี เสรีภาพ หนา้ ท่ี ในฐานะพลเมืองดตี ามวถิ ี ตามวิถปี ระชาธิปไตยสนั ตสิ ขุ ศาสนาท่ตี นนับถอื ประชาธิปไตย จากหนังสอื เรียน หนังสือค้นควา้ เพ่ิมเตมิ หอ้ งสมดุ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ K P A ขนั้ ที่ 3 ขัน้ สรปุ เวลา 10 นาที นกั เรียนรว่ มกนั เสนอแนวคิดในการนาข้อมูลความรู้ ทีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษามาประยกุ ต์ใชใ้ นการปฏบิ ตั ติ นตาม วิถปี ระชาธปิ ไตย 1. นักเรียนอธบิ ายความสาคัญของสถานภาพ บทบาท สิทธิ สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ เสรภี าพ หนา้ ทขี่ องประชาชนชาวไทยได้ (K) หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศกึ ษา 2. นกั เรียนวเิ คราะหว์ ิเคราะหผ์ ลของการปฏิบตั ติ นเป็น ใบงาน แบบทดสอบก่อนเรยี น พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยได้ (P) การวดั และการประเมินผล 3. นักเรยี นสามารถนาการปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมอื งดีตามวิถี เครื่องมือที่ใช้ 1. หนังสือเรยี น สังคมศึกษา ประชาธปิ ไตยได้ (A) วธิ ีการวดั 1. ตรวจใบงาน ลงชื่อ................................. 2. สังเกตพุ ฤตกิ รรม (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหน่ง นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู ลงชอื่ ................................. (นางสาวฉตั รนิ ยา หนิ ประกอบ) ตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า สังคมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ การรว่ มมอื กนั เสนอแนวทางการส่งเสรมิ การปฏิบัติ ตนเป็นพลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตยเป็นหนา้ ท่ี ของทกุ คน ครผู ู้สอน กจิ กรรมการเรยี นรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขัน้ ที่ 1 ขน้ั ดงึ ความรู้เดิม เวลา 10 นาที ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกนั วิเคราะห์ข่าวเกย่ี วกบั การปฏิบตั ิ โรงเรียนหนองขามวทิ ยา ตนเป็นพลเมอื งดใี นสงั คมท่ีครูนามาเลา่ ใหน้ กั เรยี นฟงั สังกัดองค์การบรหิ ารส่วนจังหวดั ชัยภูมิ แลว้ ใหต้ อบคาถามตอ่ ไปน้ี บุคคลใดในขา่ วท่มี กี ารกระทาจดั วา่ เป็นพลเมอื งดี แผนการจดั การเรียนรู้ อธิบายเหตผุ ล รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วิชา ส 22101 ขนั้ ที่ 2 ข้นั เตมิ ความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 นกั เรยี นกล่มุ เดิม เรอ่ื ง หน้าท่พี ลเมอื ง วฒั นธรรม และดารงชวี ิต เวลา 50 ชว่ั โมง (จากแผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 1) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 28 ร่วมกันศกึ ษาความร้เู รื่อง แนวทางการส่งเสรมิ ให้ เรอ่ื ง แนวทางการสง่ เสรมิ ใหป้ ฏิบัติตน ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธิปไตย เป็นพลเมืองดตี ามวิถีประชาธปิ ไตย จากหนังสอื เรยี น หนงั สอื คน้ คว้าเพ่ิมเติม เวลา 2 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 หอ้ งสมดุ และแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด ขนั้ ที่ 3 ขั้นสรุป เวลา 10 นาที มาตรฐาน ส 2.1 นักเรยี นร่วมกนั สรปุ แนวทางการส่งเสรมิ ใหป้ ฏิบัติตน ตวั ชี้วดั ท่ี เป็นพลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย ม.2/2 เห็น คุณค่าในก ารป ฏิบั ติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ ในฐานะพลเมืองดี ตามวถิ ีประชาธิปไตยสนั ติสขุ ศาสนาทตี่ นนับถอื จดุ ประสงค์การเรียนรู้ K P A 1. นักเรยี นอธบิ ายความสาคญั ของสถานภาพ บทบาท สทิ ธิ สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ เสรภี าพ หน้าทีข่ องประชาชนชาวไทยได้ (K) หนงั สือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศึกษา 2. นักเรยี นวเิ คราะห์วิเคราะหผ์ ลของการปฏิบตั ิตนเป็น ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน พลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธปิ ไตยได้ (P) การวัดและการประเมนิ ผล 3. นกั เรียนสามารถนาการปฏบิ ัติตนเป็นพลเมอื งดตี ามวถิ ี เครื่องมอื ทีใ่ ช้ 1. หนงั สือเรียน สงั คมศกึ ษา ประชาธิปไตยได้ (A) วธิ กี ารวดั 1. ตรวจใบงาน ลงช่อื ................................. 2. สงั เกตุพฤตกิ รรม (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหน่ง นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครู ลงชอื่ ................................. (นางสาวฉัตรนิ ยา หินประกอบ) ตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ า สังคมศึกษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ การตรากฎหมายนนั้ จะตอ้ งปฏิบัตติ ามขัน้ ตอน ของกระบวนการตรากฎหมาย ครูผ้สู อน กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา 10 นาที นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขนั้ ที่ 1 ขั้นดึงความรู้เดมิ โรงเรยี นหนองขามวิทยา สังกัดองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั ชัยภูมิ แผนการจดั การเรยี นรู้ 1.ครูนาข่าวเก่ียวกบั การกระทาของบุคคลทมี่ ที ง้ั กระทาถกู กฎหมายและผิดกฎหมาย รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส 22101 มาให้นักเรยี นวเิ คราะห์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 10 2.นักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหภ์ าพขา่ ว เร่ือง กฎหมายกบั ตัวเรา เวลา 50 ช่ัวโมง ขัน้ ที่ 2 ขัน้ เติมความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 29 เรื่อง กระบวนการในการตรากฎหมาย ครูแบง่ นกั เรยี นออกเป็น 2-3 กลุม่ ใหญ่ ใหแ้ ต่ละ เวลา 2 ชว่ั โมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 กลุ่มสง่ ตวั แทนออกมากล่มุ ละ 5 คน ใหต้ ัวแทน แต่ละกลมุ่ แข่งขันกนั เขยี นความสาคญั ของกฎหมาย มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด บนกระดาน ในเวลา 5 นาที กลมุ่ ใดไดป้ ระเด็น สาคญั มากทส่ี ุดถือเป็นฝา่ ยชนะ มาตรฐาน ส 2.2 ตัวชว้ี ดั ที่ ขนั้ ที่ 3 ข้ันสรุป เวลา 10 นาที ม.2/1 อธบิ ายกระบวนการในการตรากฎหมาย นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรู้เกย่ี วกับกระบวนการใน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ K P A การตรากฎหมาย จากนน้ั ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ถึง การมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรากฎหมาย 1. นักเรยี นอธบิ ายกระบวนการในการตรากฎหมายได้ (K) สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 2. นักเรยี นวเิ คราะหก์ ารมสี ว่ นรว่ มของประชาชนใน หนงั สือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศึกษา กระบวนการตรากฎหมาย (P) ใบงาน แบบทดสอบก่อนเรยี น 3. นกั เรียนสามารถนาการปฏิบตั ิตนการตรากฎหมาย ได้ (A) ลงชอื่ ................................. การวัดและการประเมนิ ผล (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหน่ง นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู เครื่องมือที่ใช้ 1. หนังสือเรียน สงั คมศกึ ษา ลงชอ่ื ................................. วธิ ีการวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉตั รินยา หินประกอบ) 2. สังเกตพุ ฤตกิ รรม ตาแหน่งผ้อู านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชา สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรยี นรู้ การปฏิบตั ติ นตามกฎหมายท่ีเก่ยี วข้องกับชุมชน และประเทศชาติ ย่อมสง่ ผลตอ่ ความสงบเรยี บรอ้ ย และความม่ันคงของประเทศ ครูผู้สอน กจิ กรรมการเรียนรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขัน้ ที่ 1 ขน้ั ดงึ ความรู้เดิม เวลา 10 นาที โรงเรยี นหนองขามวทิ ยา ครนู าภาพมาให้นักเรยี นวเิ คราะห์ เช่น สงั กดั องค์การบริหารส่วนจังหวดั ชัยภมู ิ -ภาพคนไปเสียภาษีอากร -ภาพแรงงานชมุ นุมประทว้ งนายจา้ ง แผนการจัดการเรียนรู้ -ภาพคนรว่ มกันปลกู ปา่ -ภาพแรงงานเด็ก รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วิชา ส 22101 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 10 ว เรอื่ ง กฎหมายกับตัวเรา ขนั้ ที่ 2 ขน้ั เตมิ ความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที เวลา 50 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 30 กฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกับชุมชนและประเทศชาติ เรือ่ ง กฎหมายท่เี กีย่ วขอ้ งกับชมุ ชน จากหนงั สอื เรียน หนงั สอื ค้นควา้ เพ่ิมเตมิ หอ้ งสมดุ เวลา 2 ชวั่ โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นทีก่ าหนด ดังน้ี มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด 1) กฎหมายภาษอี ากร 2) กฎหมายแรงงาน มาตรฐาน ส 2.2 3) กฎหมายปกครอง ตวั ช้วี ดั ท่ี ขัน้ ที่ 3 ขนั้ สรุป เวลา 10 นาที ม.2/1 อธิบายและปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับตนเอง ครอบครวั ชุมชน และประเทศ นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรู้เกี่ยวกบั กระบวนการใน จุดประสงค์การเรียนรู้ K P A กกฎหมายทเี่ กีย่ วกับชมุ ชนจากน้นั ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติม ถึงการมีสว่ นรว่ มของประชาชนในการตรากฎหมาย 1. นกั เรยี นอธิบายกฎหมายเกี่ยวกับการอนุรกั ษธ์ รรมชาติ ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ (K) หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน สงั คมศึกษา 2. นักเรียนวิเคราะห์การกฎหมายเกีย่ วกบั การอนรุ กั ษ์ ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน ธรรมชาติ (P) การวดั และการประเมนิ ผล 3. นักเรยี นสามารถนาการปฏิบัติตนกฎหมายเกย่ี วกบั การ เครอ่ื งมือท่ใี ช้ 1. หนงั สือเรยี น สงั คมศกึ ษา อนรุ ักษธ์ รรมชาติ (A) ลงช่อื ................................. (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหน่ง นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู ลงชอ่ื ................................. วธิ ีการวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉัตรินยา หนิ ประกอบ) 2. สงั เกตพุ ฤติกรรม ตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชา สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ ครผู ู้สอน เหตุการณ์สาคัญทางการเมืองไทยทมี่ ีการเปลยี่ น แปลงอานาจการเมืองการปกครอง นางสาวนิภาพร สาทา ตาแหนง่ ครู ส่งผลกระทบต่อความม่นั คงของการปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตยของไทย โรงเรียนหนองขามวทิ ยา สังกดั องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภูมิ กิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ ขัน้ ที่ 1 ขัน้ ดึงความรู้เดิม เวลา 10 นาที รายวิชา สงั คมศกึ ษา รหสั วิชา ส 22101 ครูนาภาพเหตกุ ารณต์ ่างๆ มาใหน้ ักเรียนดู หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 11 แล้วให้นักเรยี นร่วมกนั วเิ คราะหแ์ ละแสดงความ เร่อื ง ขอ้ มูลข่าวสารทางการเมอื งการปกครอง คิดเห็นวา่ นักเรียนชอบภาพใด เวลา 50 ชว่ั โมง เพราะเหตใุ ดจึงชอบภาพนน้ั พร้อมแสดงเหตผุ ล แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 31 เร่ือง เหตุการณแ์ ละการเปลี่ยนแปลงระบอบ ขนั้ ที่ 2 ข้ันเติมความรใู้ หม่ เวลา 40 นาที ประชาธปิ ไตย เวลา 2 ช่วั โมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ครูอธบิ ายพรอ้ มกับใหน้ ักเรียนดวู ดี ิทศั นป์ ระกอบ คาบรรยาย เรือ่ ง มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั เหตกุ ารณแ์ ละการเปลี่ยนแปลงสาคญั ของระบอบ การเมืองการปกครองของไทย ในหวั ข้อตอ่ ไปนี้ มาตรฐาน ส 2.2 การเปลีย่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ตัวชีว้ ดั ท่ี วันมหาวปิ โยค 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เหตกุ ารณ์เดอื นพฤษภาคม พ.ศ. 2535 ม.2/2 วิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารทางการเมือง การ ปกครองที่มผี ลกระทบต่อสงั คมไทยสมัยปัจจุบนั ขนั้ ที่ 3 ข้ันสรปุ เวลา 10 นาที จุดประสงค์การเรียนรู้ K P A ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันสรปุ ความรู้เก่ียวกบั เหตกุ ารณ์ และการเปลีย่ นแปลงสาคัญของระบอบการเมือง การปกครองของไทย 1. นกั เรียนอธิบายเหตกุ ารณ์สาคญั ทีม่ ผี ลต่อการเมอื งการ สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ ปกครองไทยได้ (K) หนงั สือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน สังคมศกึ ษา 2. นกั เรยี นวเิ คราะเหตุการณส์ าคัญท่มี ผี ลตอ่ การเมืองการ ใบงาน แบบทดสอบกอ่ นเรียน ปกครองไทยได้ (P) การวดั และการประเมินผล 3. นักเรยี นให้สาคญั ที่มีผลต่อการเมอื งการปกครองไทย เครอื่ งมอื ท่ีใช้ 1. หนังสือเรยี น สังคมศึกษา ได้ (A) ลงชอ่ื ................................. (นางสาวนภิ าพร สาทา) ตาแหนง่ นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ครู ลงชื่อ................................. วธิ กี ารวัด 1. ตรวจใบงาน (นางสาวฉัตรินยา หนิ ประกอบ) 2. สงั เกตพุ ฤตกิ รรม ตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ า สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ สถาบนั ทางสงั คม เป็นองคป์ ระกอบของโครงสรา้ ง ทางสงั คม ซ่ึงแต่ละสถาบนั มคี วามสาคัญตอ่ วถิ ีการดาเนนิ ชวี ติ ของสมาชกิ ในสังคม ครผู สู้ อน กจิ กรรมการเรียนรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหน่ง ครู ขนั้ ที่ 1 ขน้ั ดึงความรู้เดิม เวลา 10 นาที โรงเรียนหนองขามวิทยา ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพกจิ กรรมทีเ่ กย่ี วกบั สถาบันทาง สงั กดั องค์การบริหารส่วนจงั หวดั ชยั ภมู ิ สงั คม แลว้ ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหภ์ าพ และตอบคาถามตอ่ ไปน้ี แผนการจดั การเรยี นรู้ กิจกรรมในภาพแตล่ ะภาพ มผี ลดอี ย่างไร กิจกรรมดังกลา่ วแสดงถึงบทบาทหนา้ ท่ีของสถาบนั รายวชิ า สงั คมศึกษา รหสั วชิ า ส 22101 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 12 ขนั้ ที่ 2 ขั้นเติมความรู้ใหม่ เวลา 40 นาที เรือ่ ง สถาบันทางสงั คม เวลา 50 ชั่วโมง ครูอธบิ ายความหมายและความสาคญั ของสถาบันทาง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 32 สงั คม สถาบันครอบครวั สถาบันการศกึ ษา เรื่อง ความหมาย ความสาคัญ สถาบันศาสนา สถาบนั เศรษฐกิจ และบทบาทของสถาบันกางสงั คม สถาบนั การเมอื งการปกครอง เวลา 2 ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 สถาบันนนั ทนาการ สถาบนั สื่อสารมวลชน มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด ขนั้ ที่ 3 ข้ันสรุป เวลา 10 นาที มาตรฐาน ส 2.1 ครใู ห้นักเรยี นนาข่าวทแ่ี สดงถงึ บทบาทสาคญั ของ ตวั ช้ีวดั ที่ สถาบันทางสังคมไทย มาวเิ คราะห์ ม.2/3 วิเคราะหบ์ ทบาท ความสาคัญ และความสัมพันธ์ ของสถาบันทางสงั คม จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ K P A 1. นกั เรียนอธบิ ายบทบาทและความสาคญั ของสถาบนั ทาง สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ สงั คมได้ (K) หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน สังคมศึกษา 2. นักเรียนวเิ คราะห์เหตุการณ์บทบาทและความสาคญั ของ ใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน สถาบนั ทางสงั คมได้ (P) การวดั และการประเมินผล 3. นกั เรียนใหส้ าคญั บทบาทและความสาคัญของสถาบนั ทาง เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ 1. หนังสอื เรียน สังคมศึกษา สงั คมได้ (A) วธิ กี ารวดั 1. ตรวจใบงาน ลงชอ่ื ................................. 2. สงั เกตพุ ฤตกิ รรม (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหน่ง นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ครู ลงช่อื ................................. (นางสาวฉตั รนิ ยา หนิ ประกอบ) ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา สงั คมศกึ ษา (ส 22101 ) สาระการเรียนรู้ สถาบันทางสงั คม เป็นองค์ประกอบของโครงสรา้ ง ทางสังคม ซ่งึ แต่ละสถาบนั มคี วามสาคัญต่อ วิถกี ารดาเนนิ ชวี ิตของสมาชกิ ในสงั คม ครผู สู้ อน กิจกรรมการเรยี นรู้ นางสาวนภิ าพร สาทา ตาแหนง่ ครู ขัน้ ที่ 1 ข้ันดงึ ความรูเ้ ดมิ เวลา 10 นาที โรงเรียนหนองขามวทิ ยา ครูให้นกั เรยี นช่วยกนั ยกตัวอยา่ งบทบาทหนา้ ทข่ี อง สังกดั องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั ชยั ภมู ิ สถาบันทางสังคมท่มี ีการกระทาทีแ่ สดงถึงความ รว่ มมือกนั พัฒนาคุณภาพชีวติ ของสมาชิกในสังคม แผนการจดั การเรยี นรู้ ขัน้ ที่ 2 ขั้นเติมความรู้ใหม่ เวลา 40 นาที รายวชิ า สังคมศกึ ษา รหัสวชิ า ส 22101 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 12 ครูอธิบายความหมายและความสาคญั ของสถาบนั ทาง เร่อื ง สถาบันทางสงั คม สังคม สถาบันครอบครัว สถาบนั การศึกษา เวลา 50 ชัว่ โมง สถาบันศาสนา สถาบนั เศรษฐกจิ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 33 สถาบนั การเมอื งการปกครอง เรื่อง ความสมั พันธข์ องสถาบันทางสงั คม สถาบันนนั ทนาการ สถาบนั ส่อื สารมวลชน และบทบาทของสถาบันกางสงั คม เวลา 2 ชัว่ โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ขัน้ ที่ 3 ข้นั สรุป เวลา 10 นาที มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั นักเรยี นรว่ มกันสรุปความรเู้ กี่ยวกับความสัมพันธ์ ของสถาบนั ทางสังคม มาตรฐาน ส 2.1 ตัวช้ีวัดที่ ม.2/3 วเิ คราะห์บทบาท ความสาคญั และความสัมพันธ์ ของสถาบนั ทางสังคม จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ K P A 1. นกั เรยี นอธบิ ายวเิ คราะหบ์ ทบาท ความสาคัญ และ สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ ความสมั พันธข์ องสถาบนั ทางสงั คมได้ (K) หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน สงั คมศึกษา 2. นกั เรียนวิเคราะห์บทบาท ความสาคัญ และความสมั พันธ์ ใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน ของสถาบนั ทางสงั คม (P) การวดั และการประเมนิ ผล 3. นักเรียนให้สาคญั บทบาทและความสาคญั ของสถาบัน เคร่อื งมือท่ใี ช้ 1. หนงั สอื เรยี น สงั คมศึกษา ทางสังคมได้ (A) วธิ ีการวดั 1. ตรวจใบงาน ลงชือ่ ................................. 2. สงั เกตพุ ฤตกิ รรม (นางสาวนิภาพร สาทา) ตาแหน่ง นักศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู ลงชื่อ................................. (นางสาวฉัตรินยา หินประกอบ) ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: