พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยหู่ วั พระราชประวตั ิ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระราชโอรส พระองคเ์ ดียวในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชสมภพ ณ พระที่น่ัง อัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เม่ือวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 ได้รับพระราชทานพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยา เธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลใหม่ ต้ังแต่วันท่ี 13 ตุลาคม 2559 ตามบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย (ฉบบั ช่ัวคราว) พระราชกรณยี กจิ ครั้งดารงตาแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในด้านการสาธารณสุข โปรดให้ สร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชขึ้น เพื่อให้การ รักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในถ่ินทุรกันดาร พระองค์ ทรงเป็นองค์นายกกิตติมศักด์ิของมูลนิธิโรงพยาบาล สมเดจ็ พระยุพราช เมือ่ วนั ที่ 11 สงิ หาคม พ.ศ. 2560 พระราชทานเงนิ จานวน 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากการจาหน่ายสมุดไดอารี่ภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ เพ่ือสมทบทุนสร้างอาคาร นวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหดิ ลทางการแพทย์ 01
สมเด็จพระนางเจา้ สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนพี ันปหี ลวง พระราชประวัติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราช ชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระนามเดิมว่า หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิ ติ ย า ก ร ซ่ึ ง พ ร ะ น า ม \" สิ ริ กิ ต์ิ \" ไ ด้ รั บ พ ร ะ ร า ช ท า น จ า ก พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอยู่หัว มีความหมายว่า \"ผู้เป็นศรี แห่งกิติยากร“ วันท่ี 5 ธันวาคม พ.ศ. 2499 อันเป็นปีที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราช ประสงค์จะผนวชเป็นพระภิกษุ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีเป็นผู้สาเร็จ ราชการแทนพระองคใ์ นระหวา่ งท่ีผนวชและทรงพระราชดาริว่า สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรม ราชินีได้ทรงดารงตาแหน่งผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ในระหว่างท่ีผนวชและ ไดปฏิบัติพระราช ภารกิจแทนพระองค์ด้วยพระปรีชา จึงทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนิ วี า่ สมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระราชกรณยี กจิ ปฏิบัติพระราชภารกิจมากมาย โดยเฉพาะอย่างในการส่งเสริม คณุ ภาพชีวิต อาชีพ และความเปน็ อย่ขู องบคุ คลผู้ยากไร้ และประชาชน ใน ชนบทห่างไกลในแผ่นดินไทยนี้โครงการที่มีสาขาขยายกว้างขวาง ไปทั่วประเทศโครงการหนึ่งก็คือ โครงการส่งเสรมิ ศิลปาชีพ ภายหลัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ก่อต้ัง เป็นรูปมูลนิธิ พระราชทานนาม ว่า \"มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษในพระบรม ราชินูปถัมภ์ และเม่ือ พ.ศ. 2528 ได้เปล่ียนช่ือ เป็น มูลนิธิ ส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระ นางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นการสง่ เสริมอาชีพและ อนุรักษ์ และส่งเสริมงานศิลปะ พ้ืนบ้านท่ีมีความงดงามหลายสาขา เช่น การปน้ั การทอ การจกั สาน เปน็ ต้น 02
พระบาทสมเดจ็ พระปินเกลา้ เจา้ อยูห่ วั พระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระป่ินเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อวันท่ี 4 กันยายน พ.ศ. 2351 ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 50 ของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระราชมารดา คือ สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี มีพระนามเดิมว่า เ จ้ า ฟ้ า จุ ฑ า ม ณี ห รื อ เ ป็ น ท่ี รู้ จั ก อ ย่ า ง ดี คื อ เ จ้ า ฟ้ า น้ อ ย พระองค์ทรงเป็นพระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ พระองค์ท่ี 2 ในรัชกาลของ พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ จ อ ม เ ก ล้ า เ จ้ า อ ยู่ หั ว รั ช ก า ล ท่ี 4 ทรงได้รับพระบวรราชาภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เมื่อวันอาทิตย์ท่ี 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2391 เมื่อทรงมีพระชนมพรรษาได้ 43 พรรษา พระราชกรณียกจิ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใฝ่พระราชหฤทัยในวิชาการด้านจักรกลมากเหตุ ท่ี พ ร ะ อ ง ค์ โ ป ร ด ก า ร ท ห า ร ท า ใ ห้ จึ ง ส น พ ร ะ ร า ช ห ฤ ทั ย เ กี่ ย ว กั บ อ า วุ ธ ยุ ท ธ ภั ณ ฑ์ เ ป็ น พิ เ ศ ษ เท่าที่ค้นพบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์นั้นมักจะ ทรงฉลองพระองค์เคร่ืองแบบทหาร และ เป็นเครื่องแบบทหารเรือด้วย แต่เป็นท่ีน่าเสียดายว่าไม่มีการบันทึกพระราชประวัติในส่วนท่ีทรง สร้างหรือวางแผนงานเกี่ยวกับกิจการทหารใดๆไว้บ้างเลยแม้ในพระราชพงศาวดา หรือใน จดหมายเหตุต่าง ๆ ก็ไม่มีการบันทึกผลงานพระราชประวัติในส่วนน้ีเลย แม้พระองค์เองก็ไม่โปรด การบันทกึ ไมม่ พี ระราชหัตถเลขา แตถ่ ึงกระน้นั ก็ยงั มงี านเด่นทีม่ หี ลกั ฐานทั้งของฝรง่ั และไทยกลา่ ว ไวแ้ ม้จะนอ้ ยนิดแต่กแ็ สดงใหเ้ หน็ ถึงการริเรมิ่ ท่ีลา้ หนา้ กวา่ ประเทศเพ่อื นบ้าน 03
กรมพระราชวงั บวรวิไชยชาญ พระราชประวตั ิ เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ใน “พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า เจ้าอยู่หัว” เม่ือแรกประสูติพระองค์มีพระอิสริยยศที่ \"หม่อมเจ้า\" โดย พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระนามว่า \"ยอร์ช วอชิงตัน \" ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระนามให้ใหมว่ ่า \"พระองคเ์ จ้ายอดยิ่งยศ บวรราโชรสรัตน ราชกุมาร\" และได้รับการสถาปนาเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมท่ีกรมหม่ืน บวรวิไชยชาญ เมื่อปี 2404 แลได้รับพระราชทานอุปราชาภิเษกเป็น “กรมพระราชวังบวรสถานมงคล” ในรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อปลายสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนท่ีจะสวรรคต 1 วัน ได้มีการประชุมพระญาติวงศ์และขุน นาง ที่ประชุมจึงตกลงท่ีจะแต่งตั้ง กรมหม่ืนบวรวิไชยชาญเป็น “กรมพระราชวังบวรสถานมงคล” ตามคาเสนอของพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทเวศรว์ ัชรนิ ทร์ พระราชกรณยี กจิ ก ร ม พ ร ะ ร า ช วั ง บ ว ร วิ ไ ช ย ช า ญ ท ร ง เ ป็ น เ จ้ า น า ย ท่ี มี ความสามารถหลายด้าน ด้านนาฏกรรม ทรงพระปรีชาเล่นหุ่นไทย หุ่นจีน เชิดหนัง และงิ้ว ด้านการช่างทรงชานาญเครื่องจักรกล ทรงต่อเรือกาป่ัน ทรงทาแผนท่ีแบบสากล ทรงสนพระทัยในแร่ธาตุ ถึ ง กั บ ท ร ง ส ร้ า ง โ ร ง ถ ลุ ง แ ร่ ไ ว้ ใ น พ ร ะ ร า ช วั ง บ ว ร ส ถ า น ม ง ค ล เ ม่ื อ พ.ศ. 2426 ทรงได้รับประกาศนียบัตรจากฝรั่งเศสในฐานะผู้เชี่ยวชาญ สาขาวิชาช่าง 04
สมเด็จพระศรีพชั รินทราบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี ันปหี ลวง พระราชประวตั ิ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าหญิงเสาวภาผ่อง ศรี เป็นพระราชธิดาลาดับที่ 66 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ซึ่งประสูติแต่สมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา พระ ร า ช ส ม ภ พ เ มื่ อ วั น ท่ี 1 ม ก ร า ค ม พุ ท ธ ศั ก ร า ช 2406 เมื่อมีพระชนมายุ 15 พรรษา ทรงดารงตาแหน่งพระอัครมเหสีใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั พระราชกรณยี กิจ ทรงสนพระทัยในการพัฒนาสตรี ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตั้งโรงเรียนสาหรับ เด็กหญิงแห่งท่ีทรงพระราชทานชื่อว่า “โรงเรียนสตรีบารุงวิชา” ในปี พ.ศ. 2447 ทรงเปิดโรงเรียน สาหรบั กุลธิดาของข้าราชสานักและบคุ คลชนั้ สูงคือ “โรงเรยี นสุนนั ทาลยั ” ใหก้ ารอบรมด้านการบา้ นการเรอื นกริ ิยามารยาท และวิชาการ ทง้ั ทรงจ่ายเงินเดอื นครแู ละคา่ ใช้สอย ต่าง ๆ สาหรับเป็นคา่ เล่าเรยี น แก่กุลบตุ รกลุ ธดิ าของข้าราชการใหญน่ ้อยและราษฎรอีกจานวนมาก ทรงบริจาคพระราชทรพั ย์สว่ นพระองค์ให้ตั้งโรงเรียน ทรงมีความห่วงใยความเจ็บไข้ได้ป่วยของราษฎร และทหาร โดยทรงสนับสนุนการก่อต้ังโรงพยาบาล ศิริราชเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทย และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ต้ังโรงเรียน แพทยผ์ ดงุ ครรภ์ขึ้นในโรงพยาบาลแหง่ น้ีสาหรบั เปน็ สถานศึกษาวชิ าพยาบาลและผดงุ ครรภ์ 05
พระวภิ าคภูวดล การทาแผนที่แบบตะวันตกในประเทศไทย เร่ิมตั้งแต่นายแมคคาร์ทีเข้ารับราชการ ไทย ได้ใช้ หลักมูลฐานขนาดมิติทรงวงรี เอเวอเรสต์ ในการสารวจทาแผนท่ีตลอดมา ช่ือทรงวงรี \"เอเวอเรสต์\" มาจากชื่อของนายพันเอกเอเวอเรสต์ นายทหารช่างชาวอังกฤษ ผู้เปน็ หัวหน้าสถาบันการแผนท่ีอินเดยี ในสมยั ทีอ่ ินเดยี ยังขึ้นกบั อังกฤษการทาแผนท่ี ซึง่ ไดจ้ ดั ทากอ่ นสถาปนาเปน็ กรมแผนท่ีเร่ิมแรกในตอนปลาย พ.ศ. ๒๔๒๔ เป็นการสารวจสาหรับวางแนวทางสายโทรเลขระหวา่ ง กรุงเทพฯ และมะละแหม่ง (Moulmein) ผา่ นระแหง (ตาก) ในการนี้ นายแมคคาร์ทไี ดท้ าการสารวจสามเหลีย่ มเลก็ โยงยดึ กบั สายสาม เหลี่ยมของอนิ เดียทย่ี อดเขาซง่ึ อยทู่ างตะวนั ตกของระแหงไว้ 3 แหง่ งานแผนทีท่ ี่ใช้ สารวจมีการวดั ทางดาราศาสตรแ์ ละการวางหมุด หลักฐานวงรอบ (traverse) 06
พ่อขุนศรอี ินทราทิตย์ พระราชประวัติ พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลท่ี ๑ แห่งราชวงศพ์ ระร่วงกรงุ สุโขทัย พระนามเดมิ คือพ่อขนุ บางกลางหาว มีมเหสีคอื นางเสอื ง มพี ระราชโอรส ๓ พระองค์ พระราชธิดา ๒ พระองค์ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์เม่ือครั้งยังเป็นพ่อขุน บางกลางหาวได้ร่วมมือกับพ่อขุนผาเมือง เจา้ เมอื งราดแหง่ ราชวงศศ์ รีนาวนาถุมรวมกาลงั พลกันกระทารฐั ประหารขอมสบาด โขลญลาพง โดยพ่อขุนบางกลางหาวตีเมืองศรีสัชนาลัยและเมืองบางขลงได้ และยกท้ังสองเมืองให้พ่อขุนผา เมือง ส่วนพ่อขุนผาเมืองตีเมืองสุโขทัยได้ก็ได้มอบเมือง สุโขทัยให้พ่อขุนบางกลางหาว พรอ้ มพระขรรค์ชัยศรีและพระนาม \"ศรีอนิ ทราทิตย์\" ซ่ึงได้นามาใช้เป็นพระนาม ภายหลังได้คลาย เป็นศรีอินทราทิตย์ การเข้ามาครองสุโขทัยของพระองค์ส่งผลให้ราชวงศ์พระร่วงเข้ามา มีอิทธิพลในเขตนครสุโขทัยเพิ่มมากขึ้นและได้แผ่ขยายดินแดนกว้างขวางมากออกไป 07
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: