หนว่ ยท่ี 1 ความหมายและความสาคัญของอาชพี ความหมายของอาชีพ อาชีพ (Occupation) ตามความหมายของบณั ฑิตยสถาน (2546 : 1362) กลา่ ววา่ อาชีพ (อาชวี -อาชวี ะ)การเลยี้ งชวี ิต การทามาหากนิ ในงานทท่ี าเป็นประจาเพื่อเลี้ยงชีพ สรุปแลว้ อาชีพ หมายถึง การทามาหากินในงานท่ีทาเปน็ ประจาเพอ่ื ให้เกดิ รายได้ สาหรบั การเลย้ี งชีวิตตนเองและครอบครวั ความสาคญั ของอาชีพ การทามาหากนิ เพื่อดารงชวี ติ ของมนุษย์มคี วามจาเป็นอยา่ งยิง่ ของทุกคน ดังนัน้ ความสาคัญของอาชพี มีหลายประการ คือ 1. พฒั นาคณุ ภาพชีวิตท่ีดีข้ึน พฒั นาคุณภาพชีวิตท่ีดีขึน้ เช่น มรี ายไดซ้ ้ือบา้ น ซ้ือรถยนต์ ซ้ือเส้ือผา้ ให่ม่ๆ ฯลฯ 2. จดุ เร่มิ ต้นในการพฒั นาความก้าวหนา้ ย่ิงขนึ้ จดุ เริม่ ตน้ ในการพฒั นาความกา้ วหนา้ ยงิ่ ขนึ้ เชน่ จากปลัดอาเภอ กา้ วข้ึนเป็นนายอาเภอ จากนายอาเภอกา้ วเปน็ ปลัดจงั หวดั จากปลดั จังหวัด ก้าวเป็นผวู้ ่าราชการจงั หวดั เปน็ ต้น 3. ฝึกตนเองให้มภี าวะการเป็นผนู้ า ฝกึ ตนเองใหม้ ีภาวะการเป็นผนู้ า โดยเฉพาะหากได้รับการเลือกข้ึนเปน็ ผูน้ าหน่วยงาน 4. สรา้ งความเจรญิ กา้ วหน้า สรา้ งความเจริญกา้ วหน้า ใหแ้ กป่ ระเทศชาติ เนื่องจากรายได้ของทกุ คนจะชว่ ยกนั เสียภาษีอากร และรัฐบาลนาเงนิ เหลา่ น้มี าพัฒนาประเทศชาติให้เจรญิ กา้ วหนา้ ตอ่ ไป รูปท1ี่ .1 ภาวะการเปน็ ผ้นู า ประเภทของอาชีพการประกอบอาชพี โดยทว่ั ไปสามารถแบง่ ประเภทออกได้ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. อาชีพขา้ ราชการ เปน็ อาชีพทีร่ ฐั บาลจ้างเพื่อให้ทาหนา้ ทีบ่ รกิ ารแก่ประชาชนทวั่ ไป เชน่ เกษตร ตาบลปลัด อบต. ครู พยาบาล หมอ ตารวจ ทหาร เปน็ ตน้ ซ่ึงไดร้ ับรายได้หรือตอบแทนเปน็ เงินเดอื น 2. อาชีพอิสระ บางครั้งเรียกวา่ อาชีพสว่ นตัว เป็นการประกอบอาชีพเป็นของตัวเอง ลงทนุ เอง เปน็ผู้ดาเนินการเอง และเปน็ นายตวั เอง ซง่ึ อาชพี อิสระแบง่ ไดเ้ ปน็ 3 อย่าง คือ 1.2.1 อาชีพการผลิต (Manufacturing) หมายถงึ การประกอบอาชพี ในการทาสินคา้ ข้ึนมาสาหรบัจาหนา่ ยให้แก่ผบู้ ริโภค 1.2.2 อาชพี การค้า (Trading) หมายถงึ การประกอบอาชีพซ้อื มาขายไป หรือเป็นคนกลางในการซ้ือขายสนิ คา้ 1.2.3 อาชีพบริการ(Service) หมายถงึ การประกอบอาชีพท่ีใหบ้ ริการลกู ค้า เชน่ ธนาคาร โรงแรมร้านตดั ผม เป็นต้น 3. อาชีพลกู จ้าง ไมไ่ ดเ้ ปน็ เจา้ ของกจิ การ ทางานโดยปฏิบตั ติ ามคาสั่ง และได้รบั ค่าตอบแทน คอื เงนิ เดอื น หรือรายได้ต่อวนั /สปั ดาห์
รูปท่ี 1.2 อาชีพร้านขายก๋วยเตยี๋ ว 2. ขายผลไม้รถเข็น 1. ทาเล : ยา่ นชมุ ชนท่ีมีคมนาคมสะดวก เช่น หน้าสานกั งานต่างๆ ตลาด หนา้ หมู่บา้ น และตามมหาวิทยาลยั หรือโรงเรยี นต่างๆ เป็นตน้ 2. เงนิ ลงทนุ : ครงั้ แรกประมาณ 6000 บาท 3. เงินลงทนุ ตอ่ วัน : ประมาณ 900 บาท 4. รายได้ : วนั ละ 300-400 บาท 5. อุปกรณ์ : รถเขน็ ราคาประมาณ 4500-5000 บาท กระจกส่เี หล่ียมแบ่งเปน็ ชอ่ งๆ มดี เขียงกระป๋อง ถาด 6. วิธที า : ผู้ขายจะต้องตืน่ แต่เชา้ เพื่อไปซ้ิอผลไม้มาเตรยี มจดั ใสร่ ถไวข้ าย (ซื้อทีต่ ลาดมหานาค) ผลไม้ทีเ่ ลอื กซ้ือตามฤดูกาล เชน่ แตงโม สับประรด ฝร่งั มันแกว ชมพู่ มะละกอ แคนตาลูป ฯลฯ เมื่อเตรียมผลไม้แล้วก็ทานา้ จิม่ มี 2 ชนดิ ชนิดที่ทาจากพริกปน่ ผสมเกลือ ป่นผสมน้าตาลทราย ซ่ึงออก 3 รส เค็ม หวาน เผ็ด (นดิ หนอ่ ย)และชนดิ ทาจาก น้าตาลป๊บี ผสมกบั พริกขห้ี นผู สมเกลือ ให้มี 3 รส เชน่ กัน 7. ขอ้ แนะนา : วิธีการห่ันผลไม้ขาย ก็สาคัญเช่นกัน ควรห่นั ใหน้ ่ารับประทาน อีกทงั ตู้ผลไม้ ควรสะอาด สวยงาม จะทาใหล้ ูกค้าอยากซอ้ื มากข้ึน รปู ท่ี 1.3 อาชีพขายผลไมร้ ถเข็น 3. บริษทั ซกั อบ รีด ด้วยสภาพสังคมท่ีเปลีย่ นไป ทาให้คนในเมืองต้องใชช้ วี ติ อย่างเรง่ รบี ในการทางานและการดาเนนิ ชวี ิต การจัดการกบั ธรุ ะส่วนตวั อย่างเร่ืองการซกั รีดผา้ อาจจะเป็นสิ่งทอ่ี ยนู่ อกเหนือบริษัทได้เพราะฉะนั้นร้านซัก อบ รดี จึงเกดิ ข้ึนมาเป็นจานวนมาก ซึ่งกเ็ ป็นธรุ กจิ ท่สี รา้ งรายไดอ้ ย่างเป็นกอบเป็นกาให้แก่ผปู้ ระกอบการอกี ด้วย 1. เงนิ ลงทนุ เงินลงทุนคร้ังแรกของธุรกิจซัก อบ รดี จะอย่ปู ระมาณ 20000 บาท ไม่รวมคา่ เช่ารา้ น 2. รายได้ รายได้ของผู้ประกอบการในแต่ละเดือน อยา่ งน้อยทส่ี ดุ อยู่ประมาณ 10000 บาท ซึง่ รายไดจ้ ะขึ้นอยูก่ บัลูกคา้ ซ่งึ ก็อยู่ที่ทาเลของการต้งั ร้านและฝมี ือในการซกั อบ รดี เป็นสาคัญ 3. วัสด/ุ อุปกรณ์
วัสดุและอุปกรณส์ าหรบั การประกอบธุรกจิ ประกอบไปด้วย 1. เครอ่ื งซักผ้าแบบถังเดยี่ ว 2. เคร่ืองอบแหง้ 3. เตารีด 4. ถุงพลาสตกิ สาหรับใส่ผ้านวม ผา้ หม่ และผา้ ปทู ี่นอน 5. โต๊ะรดี ผา้ 6. กะละมังซักผ้า 7. ผงซักฟอก 8. นา้ ยาปรับผ้านมุ่ 9. นา้ ยาซกั ผา้ ขาว 10. น้ายารีดผา้ เรยี บ 11. ไมแ้ ขวนเสื้อ 12. ราวแขวนเส้ือ 4. แหล่งจาหนา่ ยวสั ดอุ ุปกรณ์ รา้ นจาหน่ายเคร่ืองใช้ไฟฟ้าและห้างสรรพสินคา้ ท่ัวไป 5. วธิ ีดาเนนิ การ ในปัจจบุ ันการซักผ้าสามารถทาได้ ๒ วิธี คือ ซกั ด้วยมือและซักดว้ ยเคร่ืองซักผ้า โดยมีวิธกี ารซักที่แตกตา่ งกนั ดังน้ี 1)การซักผา้ ดว้ ยมือ เปน็ การซักผา้ ท่ีมมี าตั้งแตด่ ้งั เดมิ เปน็ วธิ ีซกั ผา้ ทีต่ ้องออกแรงขย้ีหรือแปรงผ้าที่ซักเหมาะสาหรับผ้าทตี่ ้องการดูแลเป็นพิเศษหรือผา้ ที่สกปรกมาก แต่วธิ นี ้ใี ชเ้ วลา แรงงานมากกวา่ ซักดว้ ยเคร่ืองซักผา้ซงึ่ ขอ้ ดีของการซักผา้ ด้วยมือ คอื สามารถทาความสะอาดเฉพาะสว่ นได้ดี เคร่ืองมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการซกั ผ้าโดยทั่วไปแล้วในการซักผา้ ดว้ ยมือจะใช้เครอ่ื งมืออุปกรณด์ ังน้ี1. ถงั หรอื อ่างสาหรับแช่และซักผ้าอย่างน้อย ๒ ใบ2. แปรงซักผ้า ใช้แปรงผา้ ในส่วนที่สกปรกมาก เชน่ ปกเสอ้ื ขอบแขน เป็นตน้3. กระดานแปรงผ้า ให้ใชค้ ู่กับแปรงสาหรบั รองผ้าขณะแปรงผ้า4. สารซกั ฟอก ได้แก่ ผงซักฟอก สบู่ และสารฟอกขาวใช้ซักผ้าโดยสารฟอกขาวจะใชใ้ นกรณีซกั ผ้าขาว หรือผ้าสกปรกท่ตี ้องการฟอกเฉพาะสว่ น5. สารแตง่ ผา้ ไดแ้ ก่ คราม แป้งลงผ้า เยลลี่ - คราม ใช้สาหรบั แตง่ สผี ้าขาวใหส้ ดใส ทาได้โดยนาครามละลายกับน้า และนาผา้ ที่ซักสะอาดแล้วไปแชแ่ ละขยาในน้าครามใหท้ วั่ บิดและนาไปตาก - แป้งลงผา้ ใชส้ าหรับลงผา้ ให้มีความคงรปู ใชไ้ ดท้ ้ังผ้าสีและผา้ ขาวโดยทว่ั ไปแล้วจะใช้กบั ผ้าฝ้าย ผ้าไหม โดยใชแ้ ปง้ มันสาปะหลังตม้ กบั น้า พอน้าแป้งสกุ จะมีลักษณะข้นใส และก่อนท่ีจะนาไปลงผ้าควรกรองน้าแปง้ ดว้ ยผา้ขาวบาง เพื่อนาเศษฝุ่นละอองและแป้งท่จี บั เป็นลูกออกจากนา้ แป้ง น้าแป้งไม่ควรให้ข้นมาก พอแป้งสุกใหน้ ามาผสมนา้ คนใหท้ วั่ แลว้ นาผ้าลงแช่ให้ทวั่ จึงบดิ และนาไปตาก - เยลลี่ลงผ้า ใชส้ าหรบั ตกแต่งผา้ ใหค้ งรูปเชน่ กนั มีขายอยู่ท่วั ไปลักษณะเป็นแผ่นบางเปน็ เสน้ วธิ ีการแต่งผา้ ให้นาไปตม้ ผสมกบั นา้ และกรองเช่นเดียวกับแป้งลงผา้ 2) การซกั ผา้ ด้วยเครือ่ งซักผ้า เครือ่ งซักผา้ ในมีอยู่หลายรปู แบบ เหมาะสาหรับผ้าท่ไี ม่พิถีพิถันในการซักหรือผา้ ที่ไม่สกปรกมาก แตถ่ ้าต้องการซกั ผ้าทส่ี กปรกมากด้วย ก่อนการใชเ้ คร่ืองซักผา้ ควรแปรงหรือขยผ้ี า้ ด้วยมือหรอื ทาดว้ ยน้ายาขจัดรอยเปื้อน เฉพาะส่วนท่สี กปรกมาก เช่น ปก ปลายแขน เป็นตน้ การใชเ้ ครื่องซักผ้าต้องหมัน่เช็ดทาความสะอาด และจะต้องปฏิบตั ิตามคาแนะนาอยา่ งเครง่ ครดั เพ่ือยดื อายุการใชง้ านของเสื้อผา้ ได้ยาวนาน
สาหรบั วิธกี ารในการซกั ผ้าควรปฏิบัติดังนี้1. ก่อนการซักผา้ ให้ตรวจดกู ระเปา๋ เส้ือ กระเป๋ากางเกงทุกตัวหากมวี ัตถสุ งิ่ ของตกค้างอยู่ใหเ้ อาออก2. กลบั เสื้อผ้าทุกตวั โดยเอาด้านในออกกอ่ นการซกั ผา้3. เพ่ือให้ผา้ สะอาดอย่างทัว่ ถึงควรทาความสะอาดด้วยมือ หรอื ผสมสารซักฟอกเฉพาะท่ีก่อนการซกั ด้วยเครอ่ื งเช่น ปกเส้ือ ขอบปลายแขนเสื้อ เป็นต้น4. นาผา้ ใสล่ งในเครอื่ งซักผา้ ตามขนาดละความจุ หรือน้าหนักทบ่ี อกรายละเอยี ดไว้5. นาสารซกั ฟอกและสารอื่น ๆ ใสใ่ นเครอ่ื งซกั ผา้ ตามข้อแนะนาของเคร่ืองซักผ้าแต่ละชนิด6. เพอ่ื ให้เส้ือผา้ สะอาดยงิ่ ขน้ึ ควรแช่ผ้าท้ิงไวป้ ระมาณ ๑๕-๒๐ นาที เชน่ เดยี วกันกับการซกั ด้วยมือ7. ต้ังรายการซักผา้ ตามคาแนะนาของเคร่ืองซักผ้า8. เม่ือซักเสร็จแลว้ ให้นาผา้ ออกจากเครื่องซักผา้ 3) การซักผา้ ขาว ในการซักผ้าขาวควรแยกซักจากผา้ สีเพราะการซักรวมกนั กับผ้าสจี ะทาใหผ้ ้าขาวสหี มองคลา้ หรือมสี ีด่างดาจากสขี องผ้าสไี ด้ ในการซักควรปฏิบัติดังนี้1. นาน้าเปลา่ หรอื น้าผสมผงซักฟอกอ่อน ๆใสก่ ะละมงั แชท่ ้ิงไว้ประมาณ๑๕-๒๐ นาที2. ศึกษาคุณสมบัติของผ้าก่อนซกั ผ้าบางชนิดผสมใยสังเคราะห์ เมอ่ื ถกู สารฟอกขาวจะเปล่ียนจากสีขาวเปน็ สีเหลืองหรอื สีนา้ ตาลอ่อน ผา้ บางชนดิ เม่อื ขย้แี รง ๆหรือถูไปมาแรง ๆเนื้อผา้ จะเสยี รูปทรงดังนัน้ ควรทดลองโดยใส่เศษผา้ หรือหากไมม่ ีกท็ ดลองโดยใชเ้ ส้ือผา้ สว่ นทม่ี องเหน็ ไม่ชัดเจนเมือ่ สวมใส่เชน่ ใตว้ งแขน สาบเสอ้ื ดา้ นใน เป็นต้น3. สาหรบั เสอื้ ผ้าที่สามารถแปรงได้ ให้ใช้แปรงเบา ๆ หลายครง้ั ในส่วนท่ีสกปรกมากให้ท่ัว ถา้ เป็นเสอ้ื เช้ิตผ้ชู ายควรใช้วธิ ีแปรง ถา้ ใช้วิธขี ยี้จะทาใหป้ กเสื้อเสียรูปทรง และในการแปรงผา้ ถ้าแปรงแรงมากจะทาใหผ้ ้าขาดง่ายและเสียรปู ทรง ส่วนผา้ ที่เน้อื บางให้ใช้วิธขี ยา ถา้ จาเป็นต้องขยจ้ี ะต้องขยี้ให้เบามือทสี่ ดุ4. เมื่อซักสะอาดโดยการซักใหห้ มดสารซกั ฟอกแล้ว จงึ ลงสารแต่งผา้ ตามต้องการและนาไปตากแดดโดยกลบั เอาด้านในออก 4) การซกั ผา้ สี ควรปฏบิ ัตดิ ังน้ี1. เพื่อป้องกนั สตี กและทาให้ผ้ามีสีสดใสขนึ้ ให้นาน้าเปลา่ ผสมเกลอื คนใหเ้ กลอื ละลาย และนาผา้ ลงแช่ประมาณ๑ ชวั่ โมงโดยใชน้ ้าประมาณ ๔ ลติ รต่อเกลอื ๑ ชอ้ นโต๊ะ2. นาผ้าไปแช่ในนา้ ผสมสารซักฟอกอ่อน ๆในกะละมัง แช่ท้ิงไว้ประมาณ ๑๕-๒๐ นาที3. ซักวธิ เี ดยี วกนั กับการซักผ้าขาว แต่ไม่ต้องลงคราม สว่ นการตกแต่งผ้าให้แขง็ ก็สามารถทาไดต้ ามตอ้ งการ รปู ท่ี 1.4 อาชพี ร้านซักรดี4. ขบั รถจักรยานยนตร์ ับจ้าง 1. เงนิ ลงทนุ : ประมาณ30000 บาท ข้นึ ไป (รวมค่ารถ) 2. รายได้ : 200 บาท ขน้ึ ไป/วนั (ขึน้ อยู่กับจานวนผู้ใชบ้ ริการ) 3. อปุ กรณ์ : รถจักรยานยนต์ เส้อื ควิ หมวกกนั น๊อค 4. วิธีดาเนินการ : เรม่ิ จากการซ้ือรถจกั รยานยนต์ ถ้ามีเงินลงทนุ น้อยก็หาซอื้ รถมือสอง หมวกกันน๊อคควรมี 2 ใบ สาหรบั ตวั เองและผโู้ ดยสาร บางแหง่ ตอ้ งมกี ารไปติดตอ่ ซ้ือเส้ือควิ จากผดู้ ูแลควิ ซึ่งราคาเสอ้ื แต่ละแหง่ ไม่เทา่ กัน หลังจากน้ันจึงมาเข้าคิวรับ-สง่ ผู้โดยสาร บางแห่งอาจเข้าคิวตามเวลาที่มาก่อน-หลงั หรือบางแหง่ เขา้ คิว
ตามหมายเลขเขา้ คิวตามหมายเลขทต่ี ิดเสือ้ คิว อาจมีการจา่ ยเงินเปน็ รายวันหรือรายเดือน ใหแ้ ก่ผู้ดคู วิ แล้วแตจ่ ะตกลงกัน เวลาในการใหบ้ ริการขน้ึ อยกู่ ับความขยันและจานวนผใู้ ชบ้ รกิ าร 5. ขอ้ แนะนา : 1. ผ้ทู ่จี ะประกอบอาชีพน้ีตอ้ งมีใบขับข่ี มีความชานาญ และมีมารยาทในการขี่รถจักรยานยนต์ ปฏิบัตติ ามกฎหมาย และรจู้ กั เสน้ ทางเป็นอย่างดี 2. เงินลงทนุ มากหรือน้อยข้ึนอยู่กบั สภาพรถและราคาเส้ือควิ ของแต่ล่ะแหง่ รูปที่ 1.5 อาชีพขบั รถจกั รยานยนต์รบั จา้ ง สรุปสาระสาคญั อาชพี หมายถงึ การทามาหากินในงานทท่ี าเป็นประจา เพอื่ ให้มีรายได้ความสาคัญของอาชีพ มีหลายประการ คือ1. พฒั นาคุณภาพชีวิต2. หนา้ ท่ีก้าวหน้า3. มภี าวะความเปน็ ผู้นา4. ประเทศชาติพัฒนา ประเภทของอาชีพ มี 3 ประการ คือ1. อาชพี รบั ราชการ2. อาชีพอิสระ3. อาชีพลกู จ้าง คุณสมบัติทจ่ี าเป็นของผู้ประกอบอาชีพ มี 2 ประการ ไดแ้ ก่ 1. คณุ สมบัตขิ องผปู้ ระกอบอาชีพรบั จา้ ง เชน่ มีไหวพริบ สติปัญญา มคี วามรู้ในการใช้อุปกรณ์มที ักษะการใช้คอมพวิ เตอร์ 2. คุณสมบัติของผ้ปู ระกอบอาชีพอิสระ เชน่ กล้าเสย่ี ง ประหยัด มีความคิดรเิ รม่ิ สุขภาพแขง็ แรง ขยนั หม่ันเพยี ร ซอ่ื สัตย์ มวี นิ ยั และความรบั ผดิ ชอบ เป็นตน้ ประโยชน์ของการประกอบอาชีพ คือ ทาใหม้ รี ายได้ต่อตนเอง ทาใหค้ รอบครวั มเี งนิ ใช้จ่าย และทาให้ประเทศชาติและสงั คมพัฒนากา้ วหนา้ อาชีพท่ีนา่ สนใจในยคุ ปจั จุบันมหี ลายอาชพี เช่น ขายกว๋ ยเตี๋ยว ขายผลไมร้ ถเขน็ ร้านบริการ ซกั อบรดีเปน็ ตน้ รูปท่ี 1.6 การประกอบอาชพี ต่างๆ
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: