เทคนิคการนาเสนองานอย่างมืออาชีพ ผศ.ดร.หนึง่ หทยั ขอผลกลาง
หวั ขอ้ ปัญหาการนาเสนอ เป้ าหมายในการพูด การเตรียมตวั ก่อนการพูด หลกั การพูด วินยั และพ้ นื ฐานการพูดที่ดี การพฒั นาทกั ษะการพูด
ลกั ษณะการนาเสนอ ผูส้ ่งสารมีหนา้ ที่หรือความรบั ผิดชอบที่จะ สอื่ สาร ผูฟ้ ังมตี ้งั แต่หนงึ่ คนข้ ึนไป เรือ่ งทีจ่ ะเสนอตอ้ งความรู้ ความคิดเห็น ทีม่ าจากการรวบรวมขอ้ มูลจากตวั ผูพ้ ูดเอง ไม่ใช่การอ่านจากตน้ ฉบบั หรืออ่านตามสือ่
จะไม่ถูกตอบโตเ้ ป็ นระยะ ๆ จากผูฟ้ ัง ผูพ้ ูดมี โอกาสพูดไดอ้ ย่างต่อเนอื่ ง การแลกเปลี่ยน ความเห็นหรือการซกั ถาม จะเกิดหลงั การพูด จบลงเท่าน้นั
ปัญหาของการนาเสนอ บุคลิกภาพและการปรบั ตวั เสยี ง จงั หวะ ลีลาในการพูด ภาษา เน้ อื หาสาระ
ปัญหาบุคลิกภาพและการปรบั ตวั กลวั จะแต่งกายไม่ถูกตอ้ งเหมาะสม ท่วงทีการเดินไม่เป็ นธรรมชาติ ไม่ค่อยกระตือรือรน้ เพราะกลวั และประหม่า ควบคมุ กิริยามารยาทและบรรยากาศไม่ได้ ขาดความเชื่อมนั่ ในตนเอง
หมดกาลงั ใจเมือ่ เห็นผูฟ้ ังหลบั หรือไม่สนใจ ออกท่าทางประกอบไม่ถูก มอื ไม่มีทีว่ าง ใจรอ้ น และโกรธเมือ่ ตอ้ งตอบคาถามทีไ่ ม่สบ อารมณ์ ไม่กลา้ สบสายตาผูฟ้ ัง (มองพ้ นื มองเพดาน )
ปัญหา เสยี ง จงั หวะ ลลี าในการพูด ดงั หรือค่อยเกนิ ไป เวน้ วรรคตอนไม่ถูกตอ้ งเหมาะสม พูดหว้ น กระดา้ งไป เสยี งสนั่ ตะกุกตะกกั การออกเสียง ร ล ควบกล้าไม่ชดั พูดภาษากลางไม่ชดั
ปัญหาภาษาทีใ่ ช้ คลุมเครือ เยนิ่ เยอ้ ไม่เกิดภาพพจน์ นา่ เบอื่ วกไปวนมา ซ้าซาก ไม่มีอารมณข์ นั
ปัญหาเน้ อื หาสาระ พูดไม่ตรงประเดน็ ขยายความไม่เป็ น ยกตวั อย่างประกอบไม่เป็ น คานวณเวลาไม่ถูกตอ้ ง ( เกริน่ มาก เน้ อื หานอ้ ย จบก่อน-หลงั เวลา) ไม่รูจ้ กั เชื่อมโยงประเดน็ เมอื่ เปลีย่ นหวั ขอ้
การเตรียมตวั ก่อนการพูด เรียนรูเ้ กีย่ วกบั ตนเอง สะสมความรู้ ( เรือ่ งทีจ่ ะพูด - ผูฟ้ ัง - คาคม สุภาษิต ) เรียนรูค้ วามตอ้ งการของคน กล่มุ คน รูจ้ กั ผูฟ้ ัง จานวนผูฟ้ ัง อายุ พ้ นื ฐานความรู้ เวลาทีก่ าหนดใหพ้ ูด สถานทีพ่ ูด ระบบสงั คม วฒั นธรรมของกลุ่มผูฟ้ ัง
การวิเคราะหผ์ ูฟ้ ัง ตอ้ งตระหนกั เสนอว่า ผูร้ บั สารเป็ นผูก้ าหนด สาร สิง่ ทีต่ อ้ งศึกษา องคป์ ระกอบทางกายภาพ องคป์ ระกอบทางจิตวิทยา องคป์ ระกอบอืน่ ๆ
องคป์ ระกอบทางกายภาพ เพศ อายุ จานวน การศึกษา
องคป์ ระกอบทางจิตวิทยา ความสนใจ ความคาดหวงั ทศั นคติ บุคลิกภาพ
องคป์ ระกอบอื่น ๆ สภาพแวดลอ้ ม บรรยากาศ สถานที่ ธรรมเนยี มปฎิบตั ิ
ธรรมชาติของผูฟ้ ัง เรือ่ งที่ผูฟ้ ังสนใจ คือเรือ่ งใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้าเรื่อง เดมิ เกยี่ วขอ้ งกบั ผลประโยชนข์ องผูฟ้ ัง ใกลช้ ิด เรือ่ งที่ตนเองผูกใจจา หรือฝังใจเป็ น พิเศษ ความสนใจของผูฟ้ ังเปลีย่ นไปมาอยู่เสมอ (ผูฟ้ ังจะมสี มาธิในการฟังประมาณ 20 นาที แรก)
ประเภทของการพูด พูดแบบกลอนสด พูดแบบท่องจา พูดแบบจดมาอ่าน พูดแบบจดแต่หวั ขอ้ เตรียมจากความ เขา้ ใจ
การวางแผนการนาเสนอ
ทาไมตอ้ งวางแผนการนาเสนอ เพอื่ เป็ นการเตรียมตวั ทีด่ ี เพอื่ ใหก้ ารพูดมีประสทิ ธิภาพ เพอื่ ใหเ้ กิดทกั ษะในการปรบั เปลีย่ นลีลา เน้ อื หาตามสถานการณแ์ ละความเหมาะสม เพอื่ ใหก้ ารพูดต่อเนอื่ ง เพอื่ ใหเ้ ป็ นไปตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการนาเสนอ
หลกั การนาเสนอที่ดี ตอ้ งมี เน้ อื หา + ลีลา เน้ อื หา = เรื่องทีจ่ ะพูด ลีลา = เทคนคิ วิธีการนาเสนอ
แนวทางการเตรียมเน้ อื หา การจดั เตรียมแผนการนาเสนอ เกริน่ นา ตวั เรือ่ ง สรปุ
การเกริ่นนา เพอื่ สรา้ งความสมั พนั ธท์ ีด่ กี บั ผูฟ้ ัง สรา้ งความ สนิทสนมคุน้ เคย สรา้ งความประทบั ใจ เคารพ เชื่อฟังและ ศรทั ธา สรา้ งบรรยากาศการสอื่ สารทีด่ ี แสดง มารยาทอนั ดีงาม
วิธีการเกริน่ นา ใชไ้ ดห้ ลายวิธีตามความเหมาะสมของ สถานการณ์ ผูฟ้ ังและสภาพแวดลอ้ ม เช่น ทาใหเ้ รือ่ งตืน่ เตน้ เรา้ ใจ สะเทือนใจ ช้ ีนาใหเ้ ห็นประโยชนข์ องการฟัง สรา้ งบรรยากาศทีด่ ีในการพูดและฟัง
ใชส้ ภุ าษิต คาคม วาทะบุคคลสาคญั ต้งั คาถามชวนใหค้ นฟังคิด ใหค้ าจากดั ความของเรือ่ งทีจ่ ะพูด ช้ ีแจงขอ้ เท็จจริงใหท้ ราบ ** การเกร่ินนา ตอ้ งสนั้ เขา้ ใจง่าย ไม่ จาเป็ นตอ้ งออกตัว หรือถ่อมตัว**
ตวั เรือ่ ง ตอ้ งเรียบเรียงอย่างเหมาะสม ไม่วกวน สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ และประเดน็ ที่ต้งั ไว้ มีการขยายความ อธิบายประกอบ อา้ ง เหตุการณ์ ตวั บุคคล สถานที่ สถติ ิ มกี ารโยงความ เชื่อมโยงเรือ่ งใหต้ ่อเนือ่ ง ไม่ หว้ น กระดา้ ง
บทสรุป ต้งั คาถามใหช้ วนคิด ฝากขอ้ คิด ขอ้ เตือนใจ จบดว้ ยการสรา้ งความประทบั ใจ -ความ รูส้ กึ สรปุ สาระสาคญั
ลลี าท่าทางในการพูด การแสดงออกของสหี นา้ ท่าทาง การใชส้ ายตา การสบตาผูฟ้ ัง การยนื การนงั่ การเคลือ่ นไหวของร่างกาย
การใชม้ ือประกอบท่าทาง การออกเสยี ง การเนน้ เสยี ง หนกั เบา การใชไ้ มโครโฟน
วินยั และพ้ นื ฐานในการพูดที่ดี พูดในสิง่ ที่เป็ นจริง มีสตั ย์ มธี รรม มี ประโยชน์ แมจ้ ะเป็ นความจริง แต่หากสรา้ งความไม่ พอใจ ไม่ก่อประโยชน์ กไ็ ม่ควรพูด อย่าพูดส่อเสยี ด ใหร้ า้ ย เพอ้ เจอ้ ไรส้ าระ
ระวงั คาผรุสวาท กระดา้ ง หว้ น คาหยาบ คิดก่อนพูด ควบคมุ ตนเองไม่ใหเ้ กดิ โทสะ ใชอ้ ารมณข์ นั เพอื่ ผ่อนคลายความเครียด
วิตกจริต สาเหตุ กลวั จะพูดไม่ดอี ยา่ งที่ผูฟ้ ังคาดหวงั กลวั จะทาอะไรนา่ อบั อายขายหนา้ กลวั จะพูดไม่ออก กลวั จะตอบคาถามผูฟ้ ังไม่ได้
ขาดความรูใ้ นเรื่องทีจ่ ะพูด ขาดประสบการณใ์ นการพูด ความไม่พรอ้ มทางกาย ใจ
วิธีระงบั ความตื่นเตน้ คิดว่าการนาเสนอคือ การพูดกบั เพอื่ นจานวนมาก อย่าคิดว่า กาลงั ไปกล่าวสนุ ทรพจนอ์ นั ยิง่ ใหญ่ ให้ คิดว่า กาลงั ไปเล่าเรื่องในทานองสนทนากบั ผูฟ้ ัง เตรียมขอ้ มูลใหพ้ รอ้ มท้งั สาระ ความนา่ สนใจ ซอ้ มใหเ้ กดิ ความคล่องแคล่ว
สูดลมหายใจเขา้ ปอดลึก ๆ หายใจยาวผ่อน คลายความเครียด ถา้ มอื สนั่ ใหก้ ามือแน่น ๆ แลว้ คลายออกพรอ้ มเหยยี ดน้ วิ สรา้ งสมั พนั ธภาพทีด่ แี ก่ผูฟ้ ังในเบ้ ืองตน้ จินตนาการผูฟ้ ังเป็ นสิง่ ของ หรือวตั ถุทีไ่ ม่น่า กลวั คิดว่า เราสามารถควบคุมตนเองได้
ตอบตนเองดว้ ยคาถามต่อไปน้ ี ทุกคนต่างเคยกงั วลมาแลว้ ท้งั ส้ นิ ความกงั วลมีประโยชน์ ทาใหส้ ารอะดรีนารีน ฉีดไปตามเสน้ เลอื ด ทาใหก้ ระฉบั กระเฉง ผูฟ้ ังไม่สงั เกตอาการประหม่าของเรา ผูฟ้ ังตอ้ งการใหเ้ ราประสบความสาเร็จในการพูด ทุก คนเอาใจช่วยเราท้งั ส้ นิ เราไดเ้ ตรียมตวั มาอย่างดี
ขอ้ คิดในการพฒั นาทางทกั ษะการนาเสนอ ผูพ้ ูดตอ้ งรูจ้ ริงในเรือ่ งทีพ่ ูด ตอ้ งหมนั่ แสวงหาความรูอ้ ยู่เสมอ ท้งั ในเรื่องที่ จะพูดและความรูร้ อบตวั ผูพ้ ูดตอ้ งจริงใจกบั ผูฟ้ ัง ผูพ้ ูดตอ้ งหมนั่ ปรบั ปรุงตนเองเสมอ ใน ดา้ น กริ ิยาท่าทาง น้าเสียง ถอ้ ยคา สานวน สุภาษิต
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: