เติมน้าํ ใตดิน คมู อื ระดบั ต้นื กรมทรัพยากรนา้ํ บาดาล กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ ม สงิ หาคม 2562
กรมทรัพยากรน้ําบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม เปนหนวยงานที่มีภารกิจหลักในการบริหารจัดการและการอนุรักษและฟนฟูทรัพยากร นํ้าบาดาล ซ่ึงจากสภาพปญหาในปจจุบันมีการพัฒนานําน้ําบาดาลขึ้นมาเพื่อใชใน การเกษตรมากเกินสมดุล กอใหเกิดปญหาระดับนํ้าบาดาลลดลงอยางตอเนื่อง ประกอบ กับในชวงฤดูนํ้าหลาก นํ้าฝนไหลเติมลงสูชั้นใตดินไดนอยทําใหการคืนตัวของระดับ นํ้าบาดาลมีอัตราท่ีต่ํามาก เนื่องจากดินช้ันบนเปนดินเหนียว ดังนั้นการกักเก็บนํ้าฝนที่ ไหลหลากและเหลือลน โดยการผันนํ้าลงไปกักเก็บไวใตดินและสามารถเจาะบอน้ําบาดาล สูบนํ้ากลับมาใชในชวงฤดูแลง หรือยามขาดแคลนนํ้า จึงเปนการบรรเทาและแกปญหา การลดลงของระดบั นาํ้ บาดาลและปญ หาภยั แลง ไดใ นระยะยาว คูมือการเติมนํ้าใตดินระดับตื้นฉบับน้ี จัดทําขึ้นเพื่อใชเปนแนวทางในการกอสรา ง ระบบเติมนํ้าใตดินระดับตื้น โดยจะอธิบายถึงหลักการ ขั้นตอนการดําเนินงานตั้งแตการ คัดเลือกพ้ืนท่ีที่เหมาะสม แบบมาตรฐานและการกอสรางระบบเติมน้ําใตดินระดับตื้น การตดิ ตามและประเมนิ ผล ซ่งึ จะเปนประโยชนตอหนวยงานที่เก่ยี วของ องคกรปกครอง สวนทอ งถน่ิ และประชาชนทว่ั ไป อีกทง้ั ยงั เปนการเผยแพรอ งคค วามรูใ นการอนรุ ักษแ ละ จดั การทรพั ยากรนาํ้ บาดาลระดบั ตื้น ใหม ีใชอ ยา งยัง่ ยืนสืบไป สํานกั อนรุ ักษแ ละฟน ฟทู รัพยากรนํ้าบาดาล กรมทรัพยากรนา้ํ บาดาล สิงหาคม 2562 คูม ือเตมิ น้าํ ใตดนิ ระดบั ตน้ื
สารบญั หนา คาํ นาํ 1 1. บทนํา 2 2. การเตมิ น้ําใตด นิ 5 3. ขอควรระวงั 6 4. ขน้ั ตอนการเติมนํา้ ใตด นิ ระดบั ตืน้ 8 5. แบบระบบการเติมนำ้ และการกอ สรา งระบบเตมิ นำ้ ใตดินระดบั ต้ืน 17 6. การตดิ ตามและประเมนิ ผล 18 7. การบาํ รุงรกั ษา เอกสารอางอิง คูมือเติมนํา้ ใตด ินระดบั ตนื้
1. บทนํา การเติมน้ําใตดินในประเทศไทยไดเริ่มดําเนินการทดลองทํามาแลวมากกวา 30 ป โดยกรมทรัพยากรธรณี และกรมโยธาธิการ ซึ่งตอมาภารกิจดานการเติมน้ําใตดิน ไดถูกโอนมาใหกับกรมทรัพยากรนํ้าบาดาล โดยมีโครงการท่ีดําเนินการมาแลวกวา 10 โครงการทั่วประเทศท้ังในระดับต้ืนและระดับลึก อีกทั้งแนวคิดการเติมน้ําใตดินนี้ ไดเ รมิ่ ขยายไปสูภาคประชาสังคม เอกชนและองคกรปกครองสวนทอ งถ่ิน ซ่งึ กรมทรพั ยากร น้ําบาดาลไดพิจารณาแลววาควรเนนวิธีการเติมนํ้าใตดินระดับต้ืนเปนหลัก เน่ืองจาก มีความเหมาะสมกับประเทศไทยสําหรับสภาวการณปจจุบัน และเพื่อเปนโครงการ นํารอ งและเปนตนแบบในการกอสรา งและเผยแพรใ หกับหนว ยงานตา ง ๆ และประชาชน ที่สนใจสามารถนําไปประยุกตดําเนินการในพ้ืนที่ของตนเองได แตอยางไรก็ตามรูปแบบ และพ้ืนท่ีการเติมนํ้าที่เหมาะสมจะตองพิจารณาจากสภาพอุทกธรณีวิทยาของพ้ืนท่ี ดําเนินการ ระดับน้ําบาดาล อัตราการเติมน้ํา ความลึกและความหนาของช้ันนํ้าบาดาล รวมไปถงึ แหลง น้ําดบิ ทจ่ี ะนํามาเตมิ ดวย ในการนี้ กรมทรัพยากรนํ้าบาดาลจึงไดจัดทําคูมือเติมนํ้าใตดินระดับตื้น โดยมี วตั ถปุ ระสงคเ พือ่ เปนแนวทางในการปฏิบตั สิ าํ หรบั หนว ยงานตาง ๆ ท่เี กยี่ วขอ ง ตลอดจน เจาหนาท่ีของกรมทรัพยากรน้ําบาดาล และผูท่ีสนใจท่ัวไป นําไปใชในการดําเนินการ เติมน้ําใตดินระดับตื้นใหเปนมาตรฐานเดียวกัน ซ่ึงการเติมน้ําใตดินระดับต้ืนอยางถูกวิธี จะเปนการเพ่มิ แหลงกกั เกบ็ นาํ้ ตน ทุนสาํ หรับใชเ พอ่ื การอปุ โภคบรโิ ภค และการเกษตรให เปนไปอยางมีประสิทธิภาพ และปองกันการปนเปอนลงสูช้ันนํ้าใตดิน อีกทั้งยังเปน การแกไ ขปญการลดลงของระดับน้ําใตดนิ ในพ้นื ทว่ี ิกฤตอยา งยั่งยนื ตอ ไป คูมอื เติมนํา้ ใตด นิ ระดับตน้ื
2. การเตมิ นํ้าใตดิน การเตมิ น้ําใตดนิ คือ การเพ่ิมเตมิ ปริมาณนํ้า โดยการนํานา้ํ ท่เี หลือใชหรอื ชวงท่ีนาํ้ ทวมหลากเติมลงสูใตดินในพ้ืนท่ีที่มีความเหมาะสม หรือในพ้ืนที่ท่ีตองการ เปนการเก็บ สะสมนาํ้ ไวใช โดยฝากไวใ นใตด ิน เพ่อื ใหเ กดิ ความชุน ชนื้ ในดิน และสามารถนาํ กลับมาใช ในชวงเวลาทข่ี าดแคลน และเพื่อการอนุรักษส งิ่ แวดลอม และหากมกี ารเติมน้ําในปริมาณ มากจะเปนการแกไ ขปญหาการลดลงของระดบั นํา้ บาดาลจากการใชท่เี กนิ สมดุล 2.1 วัตถุประสงคของการเตมิ นํา้ ใตด ิน โดยท่ัวไปการเติมนํ้าใตดิน มีวัตถุประสงคหลักที่แตกตางกันไป ข้ึนอยูกับสภาพ พนื้ ที่ ดงั นี้ 1) ระดบั บา นเรอื นหรอื ชมุ ชน 1.1) แกไ ขปญหานํ้าทว มขงั 1.2) ตดั ยอดน้ําไมใ หไ หลลงสูน าํ้ ทา 1.3) เก็บนา้ํ ใหด ินมคี วามชุมชน้ื 1.4) เพิ่มเตมิ ปริมาณนา้ํ ใตด นิ 1.5) บรรเทาปญหาการขาดแคลนนาํ้ โดยการกักเกบ็ น้ําหลากในฤดูฝนใวใชในฤดู แลง 2) ระดบั พ้นื ท่ลี ุมนํา้ 2.1) ตดั ยอดน้าํ 2.2) เพิ่มเติมปริมาณนํ้า 2.3) บรรเทาปญ หาอุทกภยั โดยการลดปริมาณนํา้ หลากทจี่ ะระบายลงสูแมน้ํา สายหลกั 2.4) ลดการระเหยของนา้ํ ทกี่ ักเก็บไวใชใ นฤดตู าง ๆ โดยรวบรวมไปเก็บไวใตดนิ 2.5) รกั ษาสมดลุ ของการไหลของลํานาํ้ ในระบบนิเวศวิทยา 2.6) ฟน ฟแู ละยกระดบั นาํ้ ใตด ินใหสงู ขึ้น 2.7) ปอ งกันการรกุ ลํา้ ของน้ําเคม็ เขตชายฝงทะเลในพืน้ ทท่ี มี่ ปี ญหาน้าํ เคม็ 2.8) ปรบั ปรุงคณุ ภาพนา้ํ ในบางพนื้ ท่ี คูมอื เติมนาํ้ ใตด นิ ระดบั ตนื้
2.2 ประโยชนข องการเตมิ น้ํา 1) มีแหลงน้ําตน ทุนสาํ หรับใชเพื่อการอปุ โภคบริโภคและเกษตรกรรม 2) ลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เชน อุทกภัย และภัยแลง โดยการกักเก็บน้ํา ในฤดูน้าํ หลาก และบรู ณาการการใชนํา้ บาดาลรว มกับน้ําผิวดนิ ในฤดแู ลง 3) ลดคาใชจายในการทรุดบอ หรือการติดต้ังปมแบบจุมเพื่อสูบนํ้าในระดับลึกข้ึน ซง่ึ เสยี คาใชจา ยแพงมา 4) ลดผลกระทบตอ ส่งิ แวดลอมและระบบนเิ วศวิทยา 2.3 ปจจยั ในการคัดเลอื กพืน้ ทีเ่ ตมิ นํา้ 1) พ้นื ที่ท่มี กี ารใชน ํา้ ใตด นิ ระดบั ตน้ื เปนจํานวนมาก 2) ระดับน้าํ ใตด ินมกี ารลดลงมาก 3) ขาดแคลนนาํ้ ในชว งฤดูแลง และมนี ้าํ หลากในชวงฤดูฝน 4) ความลกึ ของช้ันนา้ํ ใตด ินตองไมล ึกเกนิ 15 เมตร และมคี ณุ สมบตั ิการซมึ ผานท่ีดี หลกี เลี่ยงพ้ืนทเ่ี ปนดินเหนยี ว 5) มีแหลงนา้ํ ดิบทส่ี ามารถใชเ ติมลงสชู น้ั น้าํ ใตดนิ 6) พ้ืนท่ีมีความเหมาะสม ไดรับความรวมมือจากประชาชน และหนวยงานใน ทอ งถนิ่ ในการจัดทํา และการบาํ รงุ รกั ษาในระยะยาว 2.4 แหลงน้ําสําหรับเติมลงสูชั้นนาํ้ บาดาล 1) น้ําฝน ประกอบดวยนํ้าที่ตกลงพื้นโดยตรง นํ้าฝนที่ไหลผานผิวดินและนํ้าฝนท่ี ไหลลนจากหลงั คา 2) น้าํ จากแหลง นา้ํ ผวิ ดิน เชน แมน ้ํา ลําคลอง อางเก็บนํ้า คมู อื เติมนาํ้ ใตด นิ ระดบั ตน้ื
2.5 การลดการอุดตนั ในช้นั น้ําบาดาลโดยการกรองน้าํ กอ นเติมลงสชู นั้ นาํ้ บาดาล การจัดทําระบบกรองน้ํากอนเติมลงสูชั้นนํ้าบาดาลเปนขั้นตอนที่สําคัญในการเติม นํ้าลงสชู ้นั นํ้าบาดาล เพื่อชวยกรองตะกอนขนาดเลก็ กอ นเติมเขา สชู นั้ นํา้ บาดาล วัสดุทใ่ี ช ในการกรองนํ้าจะเนนใชวัสดุที่มาจากธรรมชาติ อาทิเชน กรวด ทราย และถาน ในการ การจัดทําระบบกรองนํ้า เพื่อใหเกิดความถูกตองตามหลักวิชาการ เปนการรักษา สิ่งแวดลอ มและระบบนเิ วศ ซ่งึ ในการจัดทาํ ระบบกรองนํา้ กอ นเตมิ หากใช กรวด ทราย ท่ี มีขนาดเล็กเกินไปจะทําใหเกิดการอุดตันไดงาย และกรวด ทราย ที่มีขนาดใหญเกินไป จะทําใหป ระสทิ ธิภาพการกรองลดลง คูมอื เตมิ นํา้ ใตดนิ ระดบั ตนื้
3. ขอ ควรระวงั การกอสรางบอเติมน้ําผานบอวงโดยใชคนขุด ตองคํานึงถึงความปลอดภัย เชน ในระหวางกอสรางตองระวังการขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตได และเมื่อดําเนินการ เสรจ็ แลว ตองมีฝาปด ปากบอ ปอ งกนั คนหรือสัตวพลัดตกและการลกั ลอบทิ้งขยะลงไปในบอ น้ําท่ีใชเติมควรเปนน้ําจากแหลงนํ้าธรรมชาติท่ีสะอาด ตองมั่นใจวานํ้าที่ใชเติมน้ัน ไมมีการปนเปอน เน่ืองจากหากชั้นนํ้าใตดินเกิดการปนเปอนแลว กระบวนการบําบัด ฟน ฟูจะทาํ ไดยาก ตอ งใชเ ทคโนโลยแี ละมีตนทนุ สงู วัสดุกรองนํ้าควรเปนวสั ดจุ ากธรรมชาตทิ ี่หาไดใ นทอ งถนิ่ เพอ่ื เปน การประหยัด ความลึกของระบบเติมน้ําตอ งไมเกนิ 15 เมตร หากเกิน 15 เมตร จะตอ งทาํ การขอ อนญุ าตและปฏิบัติตาม พระราชบัญญตั ิน้าํ บาดาล หลีกเลี่ยงพ้ืนที่เสี่ยงตอการปนเปอน เชน โรงงานอุตสาหกรรม แหลงฝงกลบขยะ สวม แหลงปศุสัตว สารเคมเี กษตร ตอ งไมน าํ ขยะมูลฝอยเตมิ ลงในหลุมเตมิ นาํ้ ตอ งปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายและระเบยี บที่เกีย่ วขอ ง เชน 1) พระราชบญั ญตั ินํ้าบาดาล 2) พระราชบญั ญตั ิการขุดดนิ และถมดิน 3) กฎกระทรวงสาธารณสขุ วาดว ยการกาํ จดั ขยะมลู ฝอย คูม ือเติมนาํ้ ใตด นิ ระดับตน้ื
4. ขั้นตอนการเตมิ น้าํ ใตด นิ ระดับตน้ื 4.1 การศึกษารวบรวมขอมูลพื้นฐานของพื้นท่ี กอนดําเนินการเติมน้ําควรมีการศึกษาขอมูลตาง ๆ ในพ้ืนท่ีที่จะดําเนินการเติมนํ้า ควรมกี ารศึกษารวบรวมขอมูล ดังน้ี 1) ตรวจสอบสภาพความชนั ของพื้นทเ่ี พื่อดูทศิ ทางการไหลของแหลง นํา้ ทใ่ี ชเ ติม 2) ตรวจสอบสภาพดินบริเวณที่จะทําการเติมนํ้า โดยเลือกพ้ืนท่ีที่มีองคประกอบ หลกั เปนทรายหรือดนิ ปนทราย เพราะหากเปนดินเหนยี วประสิทธภิ าพการซึมจะตาํ่ 4.2 การคดั เลือกวิธเี ติมนํา้ ทีเ่ หมาะสม เลือกวิธีการเติมน้ําและนําแบบมาตรฐานการกอสรางระบบเติมน้ําใตดินไป ประยกุ ตใ ชใ หเ หมาะสมกบั พ้ืนที่ 4.3 การติดตามวัดระดบั น้ําและคุณภาพนา้ํ ใตด นิ หากมีการขยายผลเปนจํานวนมากในพื้นที่ใดพื้นท่ีหนึ่ง ควรจัดทําบอสังเกตการณ นาํ้ บาดาล (รูปท่ี 4-1) เพอ่ื ตดิ ตามวดั ระดบั นา้ํ และคุณภาพนา้ํ ในช้ันนา้ํ บาดาลที่มกี ารเตมิ นํ้า คมู อื เตมิ นาํ้ ใตดนิ ระดับตน้ื
รปู ที่ 4-1 แบบบอสังเกตการณน ํา้ บาดาล คูมือเตมิ นาํ้ ใตด นิ ระดบั ตน้ื
5. แบบระบบการเติมนํ้าและ การกอสรา งระบบติมนํ้าใตดนิ ระดบั ตื้น ปจจุบันในหลายพื้นที่ใหความสนใจในเร่ืองของการอนุรักษแหลงนํ้าใตดินกันเปน จํานวนมาก โดยเฉพาะการเติมน้ําลงสชู ้ันน้ําใตดิน อันเน่ืองมาจากหลายพื้นที่เกิดปญหา การขาดแคลนนํ้าในชวงฤดูแลง และปญหาการลดลงของระดับนํ้าใตดินในหลายพ้ืนท่ี สงผลกระทบตอประชาชนชนและเกษตรกรในหลายพื้นที่โดยตรง วิธีการอนุรักษและ ฟนฟูทรัพยากรนํ้าบาดาล อีกวิธีหนึ่ง คือ การเติมน้าํ ลงสชู ั้นนา้ํ ใตดิน ซ่ึงการเติมนาํ้ ใตดนิ มที ง้ั การเติมน้าํ ในชั้นน้ําใตด ินระดบั ลึก และชั้นน้าํ ใตด ินระดบั ต้นื มีตงั้ แตร ูปแบบการเติม น้ําทีเ่ รยี บงายไปจนถึงรูปแบบวิธีการทีซ่ ับซอน วิธีการเติมนํ้าท่ีเหมาะสําหรับประชาชนทั่วไป หรือหนวยงานสวนทองถ่ินสามารถ นําไปปรับใชและดําเนินการไดเองในพ้ืนท่ีของตน คือ วิธีการเติมน้ําในช้ันนํ้าใตดิน ระดับต้ืน เนื่องจากมีวิธีการกอสรางงาย ตนทุนต่ํา และไมซับซอน สวนการเติมน้ําใน ชั้นน้ําใตดินระดับลึก เน่ืองจากมีตนทุนสูง มีรูปแบบวิธีการท่ีซับซอน และตองอาศัยผูมี ความเชี่ยวชาญเฉพาะดานในการดําเนินงาน จึงไมแนะนําใหประชาชนท่ัวไปหรือ หนวยงานสวนทองถิ่นนําไปดําเนินการเอง ซ่ึงวิธีการเติมน้ําใตดินท่ีเหมาะสม จะขอกลา วถงึ วิธีการเติมนาํ้ 3 วธิ ี ดงั น้ี 5.1 ระบบเตมิ นาํ้ ฝนจากหลังคาลงใตดนิ เปนวิธีการรวบรวมน้าํ ฝนจากหลงั คาบานเรือน และอาคารทม่ี พี ้นื ทม่ี าก เชน วัด หรือ โรงเรียน โดยตอทอนําฝนท่ีรวบรวมจากหลังคาผานลงสูบอเติมนํ้า วิธีนี้ประชาชนทั่วไป สามารถทําไดงาย ทั้งนี้ น้ําฝนเปนน้ําท่ีสะอาดสามารถเติมผานบอนํ้าบาดาลได แตจ ะตอ งไมเกนิ 15 เมตร หากเกิน 15 เมตร จะตองปฏิบัติตามพระราชบัญญัติน้าํ บาดาล องคประกอบของระบบเติมนํ้าฝนผานหลังคาลงใตดิน ประกอบดวย บอเติมนํ้า และรางรินรวบรวมนํ้าฝนจากหลังคา (รูปท่ี 5-1) โดยรายละเอียดการกอสรางระบบ เตมิ น้าํ ใตด ินระดับต้นื ดว ยระบบนํา้ ฝนผา นบอ วงคอนกรีต มดี งั นี้ คมู ือเตมิ นํ้าใตด นิ ระดบั ตน้ื
รปู ที่ 5-1 แบบระบบเติมน้ําฝนจากหลงั คาลงบอ วงคอนกรีต คมู อื เติมน้ําใตดินระดับตน้ื
รปู ที่ 5-1 แบบระบบเตมิ นํา้ ฝนจากหลงั คาลงบอวงคอนกรตี (ตอ ) 5.1.1 การกอ สรางบอเตมิ นํ้า 1) จัดเตรียมมาตรฐานวงคอนกรีตขนาดเสนผานศูนยกลาง 0.8 - 1.2 เมตร ความสงู 0.5 เมตร ทเ่ี จาะรูโดยรอบวงคอนกรีต 2) ขุดบอวงขนาดเสนผานศูนยกลาง 0.8 - 1.2 เมตร ความลึกประมาณ 10 - 12 เมตร หรือจนถึงชั้นนํ้าใตดินระดับตื้น และลงวงคอนกรีตจนถึงความลึกท่ี กําหนด ซึ่งวิธีนี้สามารถเปลี่ยนรูปแบบบอเติมนํ้าเปนสระเติมน้ํา หรือรองน้ํา ขึ้นอยูกับ สภาพธรณีวิทยาและอุทกธรณีวิทยาของพ้ืนที่ดําเนินการ ท้ังนี้ ตองไมเกิน 15 เมตร หากเกนิ 15 เมตร จะตอ งขออนุญาตตาม พระราชบัญญัตินํา้ บาดาล 5.1.2 การกอสรางระบบรวบรวมนํา้ 1) ติดต้ังรางรินหรือทอรวบรวบน้ําฝนจากหลังคาบานเรือน อาคารตาง ๆ หรอื ใชร างรนิ เดิมท่มี สี ภาพใชง านใชไ ด 2) กอสรางระบบทอเช่ือมตอจากหลังคาสูบอเติมน้ําพรอมทั้งติดตั้งวาลว เปด-ปด คมู ือเติมน้ําใตด ินระดับตนื้
3) ติดต้ังมิเตอรว ัดปริมาณการเติมนํ้าบรเิ วณจดุ นาํ้ ไหลกอนเติมลงบอเตมิ น้ํา (หากตองการบนั ทึกคาปริมาณน้าํ ทีใ่ ชเติมลงสใู ตด ิน) 5.2 ระบบเติมน้ําผา นบอ วงคอนกรีต (ทีม่ ีระบบกรอง) เปนวิธีการรวบรวมน้ําฝนและนํ้าท่ีไหลหลาก ซึ่งมักมีความขุนใหไหลลงบอนํ้าตื้น โดยผานกรวดทรายกรองที่บรรจุในบอ วิธีน้ีเกษตรกรท่ีมีบอวงท่ีถูกทิ้งรางไมไดใชงาน แลว สามารถนาํ มาพัฒนาใหเปนเปน บอเตมิ นาํ้ ได องคประกอบของระบบเติมน้ําใตดินระดับต้ืนผานบอวงคอนกรีตประกอบดวย (1) บอเติมน้ํา (บอวงคอนกรีต) (2) ระบบกรองกรวดทรายระหวางบอวงนอกและบอวง ในดานบน และ (3) ทางระบายนาํ้ หรือทอ รวมนา้ํ เขา สบู อ เตมิ นํา้ (รูปท่ี 5-2) รปู ท่ี 5.2 แบบระบบเตมิ น้ําใตดนิ ระดับตืน้ ผานบอวงคอนกรตี คูมอื เตมิ นา้ํ ใตดนิ ระดบั ตนื้
5.2.1 ระบบรวบรวมน้ํา ระบบรวบรวมนํ้า มีวัตถุประสงคเพื่อรวบรวมนํ้าที่ไหลหลาก และทวมขัง หรือนาํ นํ้าทไ่ี หลลน จากแหลงนาํ้ ผวิ ดนิ เชน แมน าํ้ ลําคลอง อางเก็บนํา้ จะตองดาํ เนนิ การ ขุดรองหรือวางทอเพื่อรวมน้ําเขาสบู อ เติมนาํ้ และเพ่อื เปนการลดความขุน ของน้าํ จงึ ควร จัดทําบึงประดิษฐ หรือฝาย เพ่ือชะลอความเร็วของนํ้าทําใหน้ํามีเวลาตกตะกอนกอนที่ จะรวบรวมนา้ํ เขาสูบอเตมิ นํ้า เพื่อลดปญ หาการอดุ ตันของระบบกรอง ซ่งึ การดาํ เนนิ การ ขน้ึ อยกู ับความเหมาะสมของแตล ะสภาพพ้ืนท่ี 5.2.2 การกอ สรางบอเติมนํา้ 1) จัดเตรียมวงคอนกรีต ประกอบดวยวงนอกและวงใน ซึ่งมีขนาดเสน ผานศูนยกลาง 0.8 - 1.2 เมตร ความสูง 0.5 เมตร สําหรับบอเติมนํ้า และวงคอนกรีต ขนาดเสนผานศูนยกลาง 2.5 เมตร ความสูง 1 เมตร สําหรับจัดทําระบบกรองดานบน รอบ ๆ บอ เตมิ นํา้ ท้ังนอี้ าจปรับเปลยี่ นขนาดเสนผา ศูนยก ลางไดต ามความเหมาะสม 2) ขุดบอวงขนาดเสนผานศูนยกลาง 0.8 - 1.2 เมตร ความลึกประมาณ 12 - 15 เมตร หรือจนถึงชั้นนํ้าบาดาลระดับตื้น และลงวงคอนกรีตจนถึงความลึก ที่กําหนด ทั้งน้ี ตองไมเกิน 15 เมตร หากเกิน 15 เมตร จะตองขออนุญาตตาม พระราชบัญญัติน้าํ บาดาล 3) ขุดดินโดยรอบบอเติมนํ้า ขนาดเสนผานศูนยกลาง 2.5 เมตร ลึก 1.5 เมตร เพ่ือวางวงคอนกรีตรอบนอกครอบบอวงคอนกรีตขางใน ความสูง 2 เมตร พรอมวางทอ เซาะรอง พีวีซี ขนาด 150 มิลลิเมตร และเจาะทะลุบอเติมน้ํา ตง้ั ฉากกัน 4 ทศิ ทาง เพอื่ รวบรวมนํ้าเขาสูบอเติมนํ้า ทั้งนี้ควรฉาบปูนซีเมนตผิวเรียบบริเวณพ้ืนกอนเติมกรวดช้ัน แรก และเชอื่ มรอยตอระหวา งบอ วงคอนกรีตทอ่ี ยูในชว งระยะระบบกรองนาํ้ เพื่อปอ งกนั การร่วั ซึมของนา้ํ ในระบบกรองสูภายในบอ เตมิ น้ํา 5.2.3 ระบบกรองนํ้า วิธีการเติมนํ้าผานบอเติมนํ้า จะจัดทําระบบกรองโดยบรรจุกรวดขนาดตาง ๆ ระหวา งบอวงนอกและบอวงในดานบนรอบ ๆ บอ เติมน้ํา ดงั นี้ วัสดใุ นระบบกรอง เรยี งตามขนาด ดังนี้ 1) กรวดคละขนาด เบอร 4 – 6 (อยูลา งสดุ ) ความหนาประมาณ 0.5 เมตร 2) ถานไม ความหนาประมาณ 0.2 เมตร และปดทับดวยแผนใยสังเคราะห (Geotextile) คูม ือเตมิ น้าํ ใตดนิ ระดบั ตนื้
3) กรวดคัดขนาด เบอร 2 - 3 ความหนาประมาณ 0.5 เมตร และปดทับ ดว ยแผน ใยสงั เคราะห (Geotextile) 4) กรวดคดั ขนาด เบอร 1 (0.3 - 0.8 มิลลเิ มตร) ความหนาประมาณ 0.5 เมตร ท้ังนี้ วัสดุกรองนํ้าอาจใชหินกอสรางขนาด ¾” - 1” ท่ีหาไดงายในพื้นที่ หรือวัสดทุ ่คี ลา ยคลึงวัสดดุ ังกลาวอน่ื ๆ ทดแทน 5.3 ระบบเติมน้ําผานสระ เปนวิธีการเติมนํ้าโดยการขุดสระใหลึกถึงชั้นน้ําใตดินระดับต้ืน เพื่อเพ่ิมพื้นท่ีใน การซึมของน้ํา โดยสระน้ีทําหนาที่เหมือนแกมลิงที่จะชวยกักเก็บและชะลอนํ้าใหมีเวลา ซึมผานลงสูช้ันนํ้าใตดินในพื้นท่ีที่มีแหลงนํ้าดิบท่ีมีปริมาณน้ําและคุณภาพที่เหมาะสม ซึ่งนํ้าท่ีเติมผานระบบสระเติมน้ําจะลงไปกักเก็บไวในชั้นนํ้าใตดิน เปรียบเสมือนแกมลิง ใตดนิ ดว ยเชนกัน องคประกอบของระบบเติมนํ้าผานสระ ประกอบดวย 1) สระเติมนํ้า ทั้งน้ี ขนาด ของสระเติมน้าํ ขึ้นอยกู บั ความเหมาะสมของสภาพพื้นท่ี หรือใชบอ ทรายเกา ทมี่ ีอยแู ลวใน พ้นื ที่ โดยความลึกของสระตอ งไมเกนิ 15 เมตร 2) บอตกตะกอน และ 3) ทอ รวบรวมน้ําดิบ เขาสูสระเติมน้ํา โดยกรมทรัพยากรน้ําบาดาลไดดําเนินการออกแบบมาตรฐาน การกอ สรา งเปน 2 รูปแบบ ดังนี้ 5.3.1 การเตมิ นาํ้ ผา นสระเสรมิ ระบบแหลง นํา้ ในไรนา การกอสรางระบบเติมนํ้าผา นสระ (รูปที่ 5-3 และ 5-4) จะดําเนินการในพน้ื ที่ มีดนิ เหนียวชนั้ บนไมห นามาก หรือชั้นน้ําใตดินอยูไมลึก รูปแบบสระเติมนํ้าอา งอิงจากคูมือ การดําเนินงานโครงการแหลงนํ้าในไรนานอกเขตชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวง เกษตรและสหกรณ โดยดําเนินการขุดสระใหมีขนาดความกวาง ความยาว ความลึก ลาดดานขา ง ตามทกี่ าํ หนด ดงั นี้ 1) ลาดดานขาง การขุดดินจะตองมีความมั่นคงไมเกิดการลน่ื ไถลของลาดตล่ิง การกําหนดความลาดดานขางของดินขึ้นอยูกับชนิดของดินที่จะขุด โดยมีขอแนะนําดังนี้ ดนิ เหนียวมีลาดดา นขา ง 1 : 1 ดินรวนไมมากกวา 1 : 1.5 และดนิ ทรายไมมากกวา 1 : 2 2) ความลึกการขุดดินไมควรลึกกวา 3 เมตร ในแตละขั้น ถาลึกเกินตองทํา ชานพกั เพือ่ ความมัน่ คง คูมือเตมิ นํา้ ใตดินระดบั ตนื้
รปู ที่ 5-3 แบบเตมิ นํา้ ผานสระเสริมระบบแหลงนํา้ ในไรนา รปู ท่ี 5-4 ตัวอยา งแบบเตมิ นาํ้ ผา นสระเสรมิ ระบบแหลง นํา้ ในไรน า คมู อื เติมนํา้ ใตดนิ ระดับตนื้
5.3.2 การเติมน้าํ ผา นบอ เติมนาํ้ เสริมระบบแหลง นาํ้ ในไรนา การกอสรางระบบเติมนํ้า จะดําเนินการในพื้นท่ีมีดินเหนียวช้ันบนหนามาก หรือชั้นนํ้าใตดินอยูลึก (รูปที่ 5-5 และ 5-6) รูปแบบนี้จะเปนการนํานํ้าท่ีลนเกินความจุ ของสระเก็บนํ้าในชวงฤดูฝนหรือชวงฤดูนํ้าหลาก เติมลงสูช้ันน้ําใตดินระดับตื้นผานบอ เตมิ นา้ํ ดังนี้ 1) เจาะบอน้ําบาดาล ขนาด 6 น้ิว หรือบอวงคอนกรีตตามขอ 5.2.2 การกอสรางบอเติมนํ้า ตองมีความลึกไมเกิน 15 เมตร สําหรับใชเปนบอเติมน้ํา โดย กอสรางในสระหรือขางสระตามความเหมาะสมกบั สภาพพ้ืนท่ี 2) ขุดสระความกวาง ความยาว และความลึกของของสระข้ึนอยูกับความ เหมาะสมของพ้ืนท่ี โดยลาดดานขาง การขุดดินจะตองมีความมั่นคงไมเกิดการล่ืนไถล ของลาดตลิ่ง การกําหนดความลาดดานขางของดินขึ้นอยูกับชนิดของดินที่จะขุด โดยมี ขอแนะนําดังน้ี ดินเหนียวมีลาดดานขาง 1 : 1 ดินรวนไมมากกวา 1 : 1.5 และดินทราย ไมม ากกวา 1 : 2 3) ความลึกการขุดดินไมควรลึกกวา 3 เมตร ในแตละข้ัน ถาลึกเกินตองทํา ชานพกั เพือ่ ความม่ันคง รูปท่ี 5-5 แบบระบบเตมิ นํ้าผา นบอเตมิ นาํ้ เสรมิ ระบบแหลง น้ําในไรนา คูม ือเตมิ น้าํ ใตด ินระดบั ตนื้
รูปท่ี 5-6 ตวั อยางแบบระบบเติมนํ้าผานบอเติมนํา้ เสรมิ ระบบแหลง น้ําในไรน า วิธีการเติมน้ําผานสระ สวนใหญมีวัตถุประสงคเพ่ือรวบรวมนํ้าท่ีไหลหลาก และ ทวมขัง หรือนําน้ําที่ไหลลนจากแหลงน้ําผิวดิน เชน แมนํ้าลําคลอง อางเก็บนํ้า จะตอง ดําเนินการขุดรองหรือวางทอเพ่ือรวบน้ําเขาสูบอเติมน้ํา และเพื่อเปนการลดความขุน ของนํ้า จึงควรจัดทําบึงประดิษฐ หรือฝาย เพื่อชะลอความเร็วของนํ้าทําใหนํ้ามีเวลา ตกตะกอน กอนท่ีจะรวบรวบนํ้าเขาสูบอเติมนํ้า เพ่ือลดปญหาการอุดตันของระบบกรอง ซ่งึ การดาํ เนินการข้นึ อยูก บั ความเหมาะสมของแตละสภาพพื้นที่ คมู อื เตมิ นา้ํ ใตด ินระดบั ตนื้
6. การติดตามและประเมนิ ผล 6.1 การทดสอบระบบเติมน้ํา การทดสอบระบบเติมนํา้ จะทําใหท ราบถงึ ปริมาณและคณุ ภาพนํา้ ทส่ี ามารถเติมลง สูชั้นน้ําใตดิน และหาอัตราการเติมน้ําท่ีเหมาะสม เพ่ือใหการดําเนินการเติมนํ้า เกิดประสิทธิภาพ การทดสอบระบบเติมน้ําในชวงแรกจะมีอัตราการเติมท่ีมาก และ หลังจากผานไปชวงระยะหนึ่งอัตราการเติมน้ําจะลดลง อาจทําใหการประเมินอัตรา การเติมนํ้าและปริมาณน้ําที่เติมลงสูใตดินเกิดความคลาดเคล่ือน จึงจําเปนตอง ดําเนินการทดสอบการเติมน้ําอยางตอเนื่องในระยะยาวไมนอยกวา 72 ช่ัวโมง เพื่อให การตรวจวัดปริมาณนา้ํ และอตั ราการเติมน้ําทถี่ ูกตองแมนยาํ ใกลเ คยี งกับสภาพความเปน จรงิ มากทีส่ ดุ 6.2 การตดิ ตามระดบั น้ําและคุณภาพนํ้า ดําเนินการติดตามวัดระดับนํ้าบาดาลในบอสังเกตการณเปรียบเทียบในทุก ชวงฤดูกาลและในชวงที่มีการเติมน้ํา และจะตองเก็บตัวอยางน้ําซึ่งตองดําเนินการตาม หลักวิชาการ แลวสงวิเคราะหในหองปฏิบัติการ เพ่ือวิเคราะหลักษณะทางกายภาพ ไอออนหลัก ปุย สารกําจัดศัตรูพืช ท้ังคุณภาพนํ้าท่ีใชเติมและคุณภาพน้ําบาดาล เพื่อศึกษาผลท่ีเกดิ จากการเตมิ นํา้ คมู ือเติมนาํ้ ใตดนิ ระดับตน้ื
7. การบาํ รงุ รกั ษา การบํารุงรักษาระบบเติมนํ้า จะตองติดตามตรวจสอบสภาพการใชงานของระบบ อยูเสมอในแตละชวงเวลาของการเติมนํ้า ทั้งกอนเร่ิมเติมน้ํา และระหวางการเติมนํ้า การดําเนินเติมน้ําลงสูใตดิน ปจจัยที่มีผลตอประสิทธภิ าพของระบบการเติมนํ้ามากท่สี ดุ คือความขุน ซ่ึงจะทําใหเกิดการอุดตันในระบบกรองและทําใหประสิทธิภาพของระบบ การเตมิ นํ้าลดลง โดยการเติมนํ้าจะตอ งตรวจสอบสภาพของระบบตาง ๆ ดังนี้ 7.1 ระบบเติมนํ้าฝนจากหลังคาลงใตด นิ ระบบรวบรวมน้ําฝน ตองตรวจสอบสภาพการใชงาน ความสมบูรณของรางรินรับ นํ้าฝน การเช่ือมตอของทอรวบรวมน้ําฝน ใหอยูในสภาพพรอมใชงานและสะอาด เรียบรอ ย 7.2 ระบบเติมนํ้าผา นบอ เติมนํา้ 1) ระบบรวบรวมน้ํา ควรมีการขุดลอกรองนํ้าหรือทอเพื่อรวบน้ําเขาสูบอเติมน้ําให อยูในสภาพพรอมใชงาน และดูแลบริเวณรอบ ๆ บอเติมน้ําใหสะอาดอยูเสมอ ปลูกพืช เพ่อื ชวยดกั จับตะกอนและลดความขนุ ของนาํ้ เชน หญา กกสามเหลี่ยม ขา ว พทุ ธรกั ษา 2) ระบบกรอง ไดแก กรวดกรอง ควรหมั่นตรวจเช็คความหนาของตะกอนที่สะสม อุดตันในระบบกรองและดําเนินการขุดลอกตะกอนทิ้ง แลวเปลี่ยนหรือลางทําความ สะอาดแผนใยสังเคราะห (Geotextile) ท่ีปดทับอยูดานบนของระบบกรอง และหาก พบวามีตะกอนอุดตันลงไปถึงชั้นทรายกรองใหดําเนินการขุกลอกทรายกรองจนถึงระยะ ทม่ี ีตะกอนอดุ ตนั และเปลยี่ นช้นั ทรายกรองใหม 7.3 ระบบเติมนาํ้ ผา นสระ 1) ขุดลอกตะกอนท่ีสะสมอุดตันบริเวณกนสระ ใหอยูในสภาพพรอมใชงานอยูเสมอ ทง้ั ในสระเตมิ นํา้ และบอ ตกตะกอน 2) กรณีสระเก็บน้ําท่ีรวบรวมนํ้าสําหรับเติมผานบอบาดาล จะตองดําเนินการเปา ลางบอ เพือ่ ใหการเตมิ น้ํามปี ระสทิ ธิภาพ คูมือเตมิ น้ําใตดนิ ระดับตนื้
เอกสารอา งอิง กรมทรัพยากรนํ้าบาดาล. (2554). โครงการศึกษาทดลองการเติมนํ้าลงสูช้ันนํ้าใตดิน ผานระบบสระนํ้าพื้นท่ีลุมนํ้าภาคเหนือตอนลาง จังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย และ พิจติ ร: ศูนยวจิ ยั น้ําบาดาล คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแกน . กรมทรัพยากรนํ้าบาดาล. (2560). การศึกษาสํารวจและออกแบบโครงการเติมนํ้าลงสู ช้ันน้ําบาดาลเพื่อแกไขปญ หาภัยแลงและปญหาการลดระดับน้ําของชั้นนํ้าบาดาล 2 แหง: บริษัท เอส เอ็น ที คอนซัลแตนท จํากัด. กรมทรัพยากรน้ําบาดาล. (2560). โครงการศึกษาทดลองเติมนํ้าใตดินระดับต้ืนในพื้นที่ รับผดิ ชอบของสํานักทรพั ยากรนาํ้ บาดาล 12 เขต. กรมพัฒนาที่ดิน. (2558). คูมือการดําเนินงานโครงการแหลงน้ําในไรนานอกเขต ชลประทาน. กรมโยธาธิการ. (2545). การศึกษาสภาพความเหมาะสมดานธรณีวิทยาและอุทก ธรณวี ิทยาสําหรับการเตมิ นํ้าใตด ินและงานกอ สรา งระบบผันนาํ้ ฝนสูใ ตดิน. อรัญญา เฟองสวัสด์ิ. (2549). การศึกษาแนวทางการเติมน้ําบาดาลลงในช้ันนํ้าบาดาล แบบหนิ แข็ง: กรมทรัพยากรนํา้ บาดาล. คมู ือเตมิ นํ้าใตดินระดับตน้ื
แบบมาตรฐานระบบเติมนาํ้ ฝน จากหลงั คาลงบอวงคอนกรีต https://bit.ly/2KXoYyA คมู อื เตมิ นํา้ ใตด นิ ระดับตน้ื
แบบมาตรฐานระบบเติมนํ้า ผานบอ วงคอนกรีต (ทม่ี รี ะบบกรอง) http://bit.ly/2U3aal0 คมู อื เติมน้ําใตดินระดับตนื้
แบบมาตรฐานระบบเติมนา้ํ ผา นสระ http://bit.ly/2Nwt8iH คมู ือเตมิ น้ําใตด ินระดับตน้ื
คณะที่ปรึกษา นางสาวจงจติ ร นรี นาทเมธกี ุล อธิบดกี รมทรัพยากรนํา้ บาดาล นางอรนุช หลอ เพ็ญศรี รองอธิบดีกรมทรัพยากรนํา้ บาดาล นายกศุ ล โชตริ ตั น รองอธิบดกี รมทรัพยากรนํ้าบาดาล คณะผูจดั ทาํ นายบรรจง พรมจันทร ผูอ าํ นวยการสาํ นักอนุรักษแ ละฟนฟทู รพั ยากร นาํ้ บาดาล นายมณเฑียร จงจนิ ากูล ผูอํานวยการสํานักพัฒนานา้ํ บาดาล นายไฉน รินแกว รกั ษาราชการแทนผอู าํ นวยการสว นฟนฟู ทรัพยากรน้ําบาดาล นางสาวพรอษุ า อุดมศลิ ป นกั ธรณวี ทิ ยาชํานาญการพเิ ศษ นายสําเนาว อินทรส วุ รรณ นายชา งเครอ่ื งกลชาํ นาญงาน นางสาวสภุ าวดี พานทอง นางสาวพุธติ า ต้งั กจิ วนชิ กลุ วิศวกรชํานาญการ นางจรนิ ยา ฉิมพาลี วศิ วกรปฏิบัติการ นายภมู ิภัทร กลาหาญ นักธรณีวทิ ยาปฏบิ ตั ิการ นกั ธรณีวิทยา คมู อื เติมน้ําใตดนิ ระดบั ตน้ื
บันทกึ ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... คมู ือเติมนาํ้ ใตดินระดบั ตน้ื
บนั ทกึ ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... คมู อื เตมิ นํา้ ใตดินระดบั ตน้ื
บันทกึ ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... คมู ือเติมนาํ้ ใตดินระดบั ตน้ื
กรมทรพั ยากรนาํ้ บาดาล Call Center www.dgr.go.th เลขที่ 26/83 ซอยทา นผหู ญงิ พหล (ซอยงามวงศว าน 54) 1310 กด 4 Badan4Thai ถนนงามวงศว าน แขวงลาดยาว เขตจตุจกั ร กรงุ เทพฯ 10900
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: