Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Makha Bucha Day

Makha Bucha Day

Published by pimpisa.lek, 2019-02-13 00:08:22

Description: Makha Bucha Day

Search

Read the Text Version

\"มาฆะ\" เป็นชือของเดือน ๓ มาฆบชู านนั ยอ่ มาจากคาํ วา่ \"มาฆบุรณมี\" แปลวา่ การบชู าพระใน วนั เพญ็ เดือน ๓ วนั มาฆบชู าจึงตรงกบั วนั ขึน ๑๕ ค่า เดือน ๓ แต่ถา้ ปี ใดมีเดือน อธิกมาส คือมีเดือน ๘ สองครัง วนั มาฆบูชากจ็ ะเลือนไปเป็นวนั ขึน ๑๕ ค่า เดือน ๔ เป็นวนั สาํ คญั วนั หนึง ในวนั พทุ ธศาสนา คือวนั ทีมีการประชุมสงั ฆสนั นิบาตครังใหญ่ในพทุ ธศาสนา ทีเรียกวา่ \"จาตุรงคสนั นิบาต\" และเป็นวนั ที พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ไดท้ รงแสดงโอวาทปฎิโมกขแ์ ก่พระสงฆส์ าวกเป็นครังแรก ณ เวฬุวนั วหิ าร กรุง ราชคฤห์ เพอื ใหพ้ ระสงฆน์ าํ ไปประพฤติปฏิบตั ิ เพอื จะยงั พระพทุ ธศาสนาใหเ้ จริญรุ่งเรืองต่อไป

โอวาทปาฏิโมกข์ โอวาทปาฏิโมกข์ - หลกั คาํ สอนสาํ คญั ของพระพทุ ธศาสนา หรือคาํ สอนอนั เป็นหวั ใจของพระพทุ ธ ศาสนา ไดแ้ ก่ พระพทุ ธพจน์ ๓ คาถากึง ทีพระพทุ ธเจา้ ตรัสแก่พระอรหนั ต์ ๑,๒๕๐ รูป ผไู้ ปประชุมกนั โดยมิไดน้ ดั หมาย ณ พระเวฬุ วนาราม ในวนั เพญ็ เดือน ๓ ทีเราเรียกกนั วา่ วนั มาฆบชู า (ถรรถกถากล่าววา่ พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ นี แก่ทีประชุมสงฆต์ ลอดมา เป็นเวลา ๒๐ พรรษา ก่อนทีจะ โปรดใหส้ วดปาฏิโมกขอ์ ยา่ งปัจจุบนั นีแทนต่อมา)

คาถา โอวาทปาฏิโมกข์ สพฺพปาปสฺส อกรณกํ สุ ลสฺสูปสมฺปทา สจิตตฺ ปริโยทปนเํ อตํ พทุ ธาน สาสนฯํ ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกขฺ า นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พทุ ธฺ า น หิ ปพฺพชโิ ต ปรูปฆาตี สมโณ โหติ ปรํ วเิ หฐยนฺโตฯ อนูปวาโท อนูปฆาโต ปาติโมกเฺ ข จ สวํ โร มตตฺ ฺ ุตา จ ภตตฺ สฺมึ ปนฺต จฺ สยนาสนํ อธิจิตเฺ ต จ อาโยโค เอตํ พทุ ธฺ าน สาสนฯํ

คาํ แปล การไมท่ าํ ความชวั ทงั ปวง, การบาํ เพญ็ แตค่ วามดี, การทาํ จิตของตนใหผ้ อ่ งใส นีเป็นคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ ทงั หลาย ขนั ติ คือความอดกลนั เป็นตบะอยา่ งยงิ , พระพทุ ธเจา้ ทงั หลายกลา่ ววา่ นิพพาน เป็นบรมธรรม, ผทู้ าํ ร้ายคนอืนไมช่ อื วา่ เป็นบรรพชติ , ผเู้ บียดเบียนคนอืน ไมช่ อื วา่ เป็นสมณะ การไมก่ ลา่ วร้าย, การไมท่ าํ ร้าย, ความสาํ รวมในปาฏิโมกข,์ ความเป็นผรู้ ู้จกั ประมาณในอาหาร, ทีนงั นอนอนั สงัด, ความเพียรในอธิจิต นีเป็นคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ ทงั หลาย ทีเขา้ ใจกนั โดยทวั ไป และจาํ กนั ไดม้ าก กค็ ือ ความในคาถาแรกทีวา่ \"ไมท่ าํ ชวั ทาํ แตค่ วามดี ทาํ จิตใจใหผ้ อ่ งใส\"

คาํ วา่ \"จาตุรงคสนั นิบาต\" แยกศพั ทไ์ ดด้ งั นี คือ \"จาตุร\" แปลวา่ ๔ \"องค\"์ แปลวา่ สว่ น \"สนั นิบาต\" แปลวา่ ประชมุ ฉะนนั จาตุรงคสนั นิบาตจึงหมายความวา่ \"การประชมุ ดว้ ยองค์ ๔\" กลา่ วคือมีเหตุการณ์พเิ ศษทีเกดิ ขึนพร้อมกนั ในวนั นี คือ ๑. เป็นวนั ที พระสงฆส์ าวกของพระพทุ ธเจา้ จาํ นวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชมุ พร้อมกนั ทีเวฬุวนั วหิ ารในกรุงราชคฤห์ โดยมิไดน้ ดั หมาย ๒. พระภิกษุสงฆเ์ หลา่ นีลว้ นเป็น \"เอหิภิกขอุ ุปสมั ปทา\" คือเป็นผทู้ ีไดร้ ับการอุปสมบทโดยตรงจาก พระพทุ ธเจา้ ทงั สิน ๓. พระภิกษุสงฆท์ ุกองคท์ ีไดม้ าประชมุ ในครังนี ลว้ นแตเ่ป็นผไุ้ ดบ้ รรลุพระอรหนั ตแ์ ลว้ ทุก ๆองค์ ๔. เป็นวนั ทีพระจนั ทร์เตม็ ดวงกาํ ลงั เสวยมาฆฤกษ

การปฎิบตั ิตนสาํ หรับพทุ ธศาสนาในวนั นีกค็ ือ การทาํ บุญตกั บาตรในตอนเชา้ หรือไมก่ จ็ ดั หาอาหารคาวหวานไปทาํ บุญฟังเทศนท์ ีวดั ตอน บา่ ยฟังพระแสดงพระธรรมเทศนา ในตอนกลางคืน จะพากนั นาํ ดอกไม้ ธูปเทียน ไปทีวดั เพือชมุ นุมกนั ทาํ พธิ ีเวยี นเทียนรอบพระอุโบสถ พร้อมกบั พระภิกษุสงฆ์ โดยเจา้ อาวาสจะนาํ วา่ นะโม ๓ จบ จากนนั กลา่ วคาํ ถวายดอกไมธ้ ูปเทียน ทุกคนวา่ ตาม จบแลว้ เดินเวยี นขวา ตลอด เวลาใหร้ ะลึกถึง พระพทุ ธคณุ พระธรรมคณุ พระสงั ฆคณุ จนครบ ๓ รอบ แลว้ นาํ ดอกไม้ ธูปเทียนไปปักบูชาตามทีทางวดั เตรียมไวเ้ ป็นอนั เสร็จพิธี

กิจกรรมต่างๆ ทีควรปฏิบตั ิในวนั มาฆบชู า ๑. ทาํ บุญใสบ่ าตร

๒. ไปวดั เพือปฏิบตั ิธรรม และฟังพระธรรมเทศนา

๓. ไปเวยี นเทียนทีวดั

๔. ประดบั ธงชาติตามอาคารบา้ นเรือนและสถานทีราชการ

วนั มาฆบชู า พทุ ธศาสนิกชนชาวไทยนิยมทาํ บุญตกั บาตรในตอนเชา้ และตลอดวนั จะมีการบาํ เพญ็ บุญกศุ ลความดีอืน ๆ เชน่ ไปวดั รับ ศีล งดเวน้ การทาํ บาปทงั ปวง ถวายสงั ฆทาน ใหอ้ ิสระทาน (ปลอ่ ยนกปลอ่ ยปลา) ฟังพระธรรมเทศนา และไปเวยี นเทียนรอบโบสถใ์ นเวลา เยน็ โดยกอ่ นทาํ การเวยี นเทียนพทุ ธศาสนิกชนควรรว่ มกนั กลา่ วคาํ สวดมนตแ์ ละคาํ บูชาในวนั มาฆบูชา โดยปกติตามวดั ตา่ ง ๆ จะจดั ใหม้ ี การทาํ วตั รสวดมนตก์ อ่ นทาํ การเวยี นเทียน ซึงสว่ นใหญน่ ิยมทาํ การเวยี นเทียนอยา่ งเป็นทางการ (โดยมีพระภิกษุสงฆน์ าํ เวยี นเทียน) ในเวลา ประมาณ นาฬิกา โดยบทสวดมนตท์ ีพระสงฆน์ ิยมสวดในวนั มาฆบูชากอ่ นทาํ การเวยี นเทียนนิยมสวด (ทงั บาลีและคาํ แปล) ตามลาํ ดบั ดงั นี

.บทบูชาพระรัตนตรัย (บทสวดบาลีทีขึนตน้ ดว้ ย:อรหงั สมั มา ฯลฯ) .บทนมสั การนอบนอ้ มบูชาพระพทุ ธเจา้ (นะโม ฯลฯ ๓ จบ) .บทสรรเสริญพระพทุ ธคณุ (บทสวดบาลีทีขึนตน้ ดว้ ย:อิติปิ โส ฯลฯ) .บทสรรเสริญพระพทุ ธคณุ สวดทาํ นองสรภญั ญะ (บทสวดสรภญั ญะทีขึนตน้ ดว้ ย:องคใ์ ดพระสมั พทุ ธ ฯลฯ) .บทสรรเสริญพระธรรมคณุ (บทสวดบาลีทีขึนตน้ ดว้ ย:สวากขาโต ฯลฯ) .บทสรรเสริญพระธรรมคณุ สวดทาํ นองสรภญั ญะ (บทสวดสรภญั ญะทีขึนตน้ ดว้ ย:ธรรมมะคือ คณุ ากร ฯลฯ) .บทสรรเสริญพระสงั ฆคณุ (บทสวดบาลีทีขึนตน้ ดว้ ย:สุปฏิปันโน ฯลฯ) .บทสรรเสริญพระสงั ฆคณุ สวดทาํ นองสรภญั ญะ (บทสวดสรภญั ญะทีขึนตน้ ดว้ ย:สงฆใ์ ดสาวกศาสดา ฯลฯ) .บทสวดบูชาเนืองในวนั มาฆบชู า (บทสวดบาลีทีขึนตน้ ดว้ ย:อชั ชายงั ฯลฯ)

สถานทสี่ าํ คญั เน่อื งดว ยวันมาฆบูชา (พทุ ธสงั เวชนียสถาน)

วดั เวฬุวนั มหาวหิ าร \"วดั เวฬุวนั มหาวหิ าร\" เป็นอาราม (วดั ) แหง่ แรกในพระพทุ ธศาสนา ตงั อยใู่ กลเ้ ชงิ เขาเวภารบรรพต บนริมฝังแมน่ า้ สรัสวดีซึงมีตโป ธาราม (บอ่ นา้ ร้อนโบราณ) คนั อยรู่ ะหวา่ งกลาง นอกเขตกาํ แพงเมืองเกา่ ราชคฤห์ (อดีตเมืองหลวงของแควน้ มคธ) รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ในปัจจบุ นั (หรือแควน้ มคธในสมยั พทุ ธกาล)

จุดทีเกิดเหตุการณ์สาํ คญั ในวนั มาฆบูชา (ลานจาตุรงคสนั นิบาต) ถึงแมว้ า่ เหตุการณ์จาตุรงคสนั นิบาตจะเป็นเหตุการณ์สาํ คญั ยงิ ทีเกดิ ในบริเวณวดั เวฬุวนั มหาวหิ าร แตท่ วา่ ไมป่ รากฏรายละเอียดใน บนั ทึกของสมณทตู ชาวจีนและในพระไตรปิ ฎกแตอ่ ยา่ งใดวา่ เหตุการณ์ใหญน่ ีเกดิ ขึน ณ จดุ ใดของวดั เวฬุวนั รวมทงั จากการขดุ คน้ ทาง โบราณคดีกไ็ มป่ รากฏหลกั ฐานวา่ มีการทาํ เครืองหมาย (เสาหิน) หรือสถปู ระบุสถานทีประชมุ จาตุรงคสนั นิบาตไวแ้ ตอ่ ยา่ งใด (ตามปกติแลว้ บริเวณทีเกดิ เหตุการณ์สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา มกั จะพบสถูปโบราณหรือเสาหินพระเจา้ อโศกมหาราชสร้างหรือปักไวเ้ พือเป็น เครืองหมายสาํ คญั สาํ หรับผแู้ สวงบุญ) ทาํ ใหใ้ นปัจจบุ นั ไมส่ ามารถทราบโดยแนช่ ดั วา่ เหตุการณ์จาตุรงคสนั นิบาตเกดิ ขึนในจดุ ใดของวดั

ในปัจจบุ นั กองโบราณคดีอินเดียไดแ้ ตเ่พียงสนั นิษฐานวา่ \"เหตุการณ์ดงั กลา่ วเกดิ ในบริเวณลานดา้ นทิศตะวนั ตกของสระกลนั ทกนิวา ป\" (โดยสนั นิษฐานเอาจากเอกสารหลกั ฐานวา่ เหตุการณ์ดงั กลา่ วมีพระสงฆป์ ระชมุ กนั มากถึงสองพนั กวา่ รูป และเกดิ ในชว่ งทีพระพทุ ธองค์ พึงไดท้ รงรับถวายอารามแหง่ นี การประชมุ ครังนนั คงยงั ตอ้ งนงั ประชมุ กนั ตามลานในป่ าไผ่เนืองจากเสนาสนะหรือโรงธรรมสภาขนาด ใหญย่ งั คงไมไ่ ดส้ ร้างขึน และโดยเฉพาะอยา่ งยงิ ในปัจจบุ นั ลานดา้ นทิศตะวนั ตกของสระกลนั ทกนิวาป เป็นลานกวา้ งลานเดียวในบริเวณวดั ทีไมม่ ีโบราณสถานอืนตงั อย)ู่ โดยไดน้ าํ พระพทุ ธรูปยนื ปางประทานพรไปประดิษฐานไวบ้ ริเวณซมุ้ เลก็ ๆ กลางลาน และเรียกวา่ \"ลาน จาตุรงคสนั นิบาต\" ซึงในปัจจบุ นั กย็ งั ไมม่ ีขอ้ สรุปแนช่ ดั วา่ ลานจาตุรงคสนั นิบาตทีแทจ้ ริงอยใู่ นจดุ ใด และยงั คงมีชาวพทุ ธบางกลุม่ สร้างซมุ้ พระพทุ ธรูปไวใ้ นบริเวณอืนของวดั โดยเชอื วา่ จดุ ทีตนสร้างนนั เป็นลานจาตุรงคสนั นิบาตทีแทจ้ ริง แตพ่ ทุ ธศาสนิกชนชาวไทยสว่ นใหญก่ ็ เชอื ตามขอ้ สนั นิษฐานของกองโบราณคดีอินเดียดงั กลา่ ว โดยนิยมนบั ถือกนั วา่ ซมุ้ พระพทุ ธรูปกลางลานนีเป็นจดุ สกั การะของชาวไทยผมู้ า แสวงบุญจดุ สาํ คญั ใน แหง่ ของเมืองราชคฤห์ (อีกจดุ หนึงคือพระมลู คนั ธกฎุ ีบนยอดเขาคิชฌกฏู )

วนั สาํ คัญอนื่ ทเ่ี กย่ี วเนอื่ งกบั วนั มาฆบชู า วนั คลา้ ยวนั ปลงพระชนมายสุ งั ขาร นอกจากเหตุการณ์จาตุรงคสนั นิบาตในวนั เพญ็ เดือน ในพรรษาแรกของพระพทุ ธเจา้ แลว้ ในวนั เพญ็ เดือน แหง่ พรรษาสุดทา้ ย ของพระพทุ ธเจา้ (คราวทีทรงพระชนมายุ พรรษา) กไ็ ดเ้ กดิ เหตุการณ์สาํ คญั ขึนอีกเหตุการณ์หนึงคือ พระพทุ ธองคไ์ ดท้ รง ปลงพระ ชนมายสุ งั ขาร พระศาสดาเสดจ็ พกั ผอ่ นกลางวนั ณ ปาวาลเจดีย์ ทรงแสดงนิมิตโอภาสแกพ่ ระอานนทว์ า่ ผใู้ ดเจริญอิทธิบาท ประการ อาจมีอายยุ นื ไดถ้ ึงกปั แตพ่ ระอานนทม์ ิไดท้ ลู อาราธนา เมือพระอานนทอ์ อกไป มารจึงไดม้ าอาราธนาใหน้ ิพพาน พระองคท์ รงมี สติสมั ปชญั ญะ ปลงอายสุ งั ขาร ณ ปาวาลเจดียว์ า่ อีก เดือนจะเสดจ็ ปรินนิพพาน เกดิ เหตุแผน่ ดินไหว เมือพระอานนทท์ ราบ จึงกราบ ทลู อาราธนาใหท้ รงพระชนมช์ พี อยอู่ ีก แตพ่ ระศาสดาตรัสวา่ มิใชก่ าล เพราะไดท้ รงแสดงนิมิตแลว้ ถึง ครัง ทรงทาํ นายวา่ ในวนั เพญ็ เดือน ทีจะมาถึง พระองคจ์ ะเขา้ สูม่ หาปรินิพพาน จึงถือไดว้ า่ วนั มาฆบชู าเป็น วนั คลา้ ยวนั สาํ คญั ของพระพทุ ธศาสนาสองเหตุการณ์ สาํ คญั คือวนั ทีพระพทุ ธองคท์ รงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ และวนั ทีทรงทาํ การปลงพระชนมายสุ งั ขาร หมายเหตุ:โดยทวั ไปจะทราบแตเ่พียงวา่ วนั นีเป็นวนั ทีพระพทุ ธองคท์ รงแสดงโอวาทปาฏิโมกขเ์ ทา่ นนั

วันกตญั ูแหงชาติ (ประเทศไทย) ในปี พ.ศ. รัฐบาลไทยไดเ้ ลง็ เห็นถึงความสาํ คญั ของวนั มาฆบชู า (ทีอาจถือไดว้ า่ เป็นวนั แหง่ ความรักของพระพทุ ธศาสนา) โดย ถือวา่ เหตุการณ์สาํ คญั ทีเหลา่ พระสาวกทงั , รูป ไดก้ ลบั มาเขา้ เฝ้ าพระพทุ ธเจา้ ดว้ ยความรักในพระองคห์ ลงั จากไดอ้ อกไปเผยแพรพ่ ระ ศาสนาโดยมิไดน้ ดั หมายดงั กลา่ วเป็นสิงทีแสดงถึงความกตญั ูกตเวทีอนั บริสุทธิ และโดยเฉพาะอยา่ งยงิ ชว่ งเวลาในปฏิทินจนั ทรคติใน วนั เพญ็ เดือนสาม มกั จะตกใกลก้ บั ชว่ ง\"เทศกาลวาเลนไทน\"์ อนั เป็นเทศกาลวนั แหง่ ความรักของคริสตศ์ าสนา ซึงวยั รุน่ ไทยบางกลุม่ มกั ยดึ ถือคติคา่ นิยมวนั แหง่ ความรักในวนั วาเลนไทนผ์ ดิ ๆ โดยนิยมยดึ ถือกนั วา่ เป็นวนั แหง่ ความรักของคนหนุม่ สาว หรือแมก้ ระทงั ถือวา่ เป็น \"วนั เสียตวั แหง่ ชาติ\" ซึงสง่ ผลกระทบตอ่ คา่ นิยมทางจริยธรรมและศีลธรรมของวยั รุน่ ไทย รัฐบาลไทยในสมยั นนั จึงไดป้ ระกาศใหว้ นั มาฆบชู าเป็นวนั กตญั ูแหง่ ชาติ \"เพอื สง่ เสริมคา่ นิยมทีเหมาะสมแกว่ ยั รุน่ ไทย ใหห้ นั มาสนใจกบั ความรักอนั บริสุทธิทีไมห่ วงั สิงตอบแทน\" แทนทีจะไปมวั เมากบั ความรักใครช่ สู้ าวหรือเรืองฉาบฉวยทางเพศของหนุม่ สาว อนั จะกอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหาแกส่ งั คมตามมา

การผลกั ดนั ใหม้ ีวนั กตญั ูแหง่ ชาติมีมาตงั แต่พ.ศ. เคยมีการตงั กระทูถ้ ามในสภาผแู้ ทนราษฎรใหพ้ จิ ารณากาํ หนดใหม้ ีวนั กตญั ู แหง่ ชาติ แตถ่ ูกปฏิเสธจากผทู้ ีเกยี วขอ้ ง โดยอา้ งวา่ ในประเทศไทยมีวนั สาํ คญั แหง่ ชาติทีเกยี วกบั การแสดงความกตญั ูมากพอแลว้ ตอ่ มาใน ปี พ.ศ. นกั พดู ชอื ดงั หลายคน เชน่ ดร.ผาณิต กนั ตามระ นายสุรวงศ์ วฒั นกลุ ดร.อภิชาติ ดาํ ดี นายเฉลิมชยั จารุไพบลู ย์ ดร.โอภาส กจิ กาํ แหง และนายถาวร โชติชนื ไดร้ ว่ มกนั ทาํ หนงั สือถึงคณะมนตรีความมนั คงแหง่ ชาติขอใหส้ ง่ เสริมใหว้ นั มาฆบชู าเป็นวนั กตญั ูแหง่ ชาติ อีกวนั หนึงดว้ ย และไดร้ ับการตอบรับจากผเู้ กยี วขอ้ ง วนั กตญั ูแหง่ ชาตินี นอกจากเพอื แสดงออกถึงวนั แหง่ ความรักอนั บริสุทธิของชาวพทุ ธแลว้ ยงั เพือสง่ เสริมคา่ นิยมใหค้ นไทยยดึ ถือ ความกตญั ู โดยอาจมีการพดู คยุ สง่ บตั รอวยพร มอบของขวญั หรือชอ่ ดอกไมแ้ กผ่ มู้ ีพระคณุ เป็นการแสดงความระลึกถึงพระคณุ ดว้ ยความ หวงั ดีของผใู้ ห้ ไมว่ า่ จะเป็นสิงของ การแสดงออกซึงนา้ ใจหรือคาํ พดู กต็ าม

จดั ทาํ โดย นางสาวพิมพศิ า เลก็ คาํ ปวส. / เลขที


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook