10 นกั วิทยาศาสตร์โลก ที่สาคญั
1. เซอร์ไอแซก นิวตนั (Sir Isaac Newton แนน่ อนว่าในบรรดานกั วิทยาศาสตร์เก่ง ๆ จะขาด นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวองั กฤษอย่าง เซอร์ไอแซก นิวตนั ไมไ่ ด้ เดด็ ขาด โดย เซอร์ไอแซก นิวตนั เกิดเม่ือวนั ที่ 25 ธนั วาคม ค.ศ. 1642 (พ.ศ. 2185) และเสยี ชีวติ ลงขณะอายุ 46 ปี ในวนั ท่ี 20 มีนาคม ค.ศ. 1727 หรือ พ.ศ. 2270 (ตาม ปฏิทินจเู ลี่ยนของ จเู ลยี ส ซซี าร์) ซงึ่ เขาเป็นอจั ฉริยะท่ีเก่งรอบ ด้านทงั้ ในฐานะนกั ฟิสิกส์ นกั คณิตศาสตร์ นกั ดาราศาสตร์ นกั ปรัชญา นกั เลน่ แร่แปรธาตุ และนกั เทววิทยา โดยผลงานเดน่ ที่สดุ ของเขาที่คนรู้จกั กนั ดที ี่สดุ ก็คือ กฎการเคล่ือนท่ขี องนิว ตันและกฎแรงโน้มถ่วงสากล ที่เขาคิดขนึ ้ มาได้จากการสงั เกต ผลแอปเปิล้ ท่ีตกจากต้นนนั่ เอง
2. หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur) หลยุ ส์ ปาสเตอร์ เป็ นนกั เคมีและนกั จลุ ชีววิทยาชาวฝรั่งเศส เกิดเมื่อ วนั ท่ี 27 ธนั วาคม ค.ศ. 1822 (พ.ศ. 2365) และเสยี ชีวิตลงใน วยั 72 ปี เมอ่ื วนั ที่ 28 กนั ยายน ค.ศ. 1895 (พ.ศ. 2438) ซ่งึ เขาคนนีถ้ ือว่าเป็ นนักวทิ ยาศาสตร์ท่ชี ่วยชีวติ ผู้คนมากท่ีสุดคน หน่ึงเลยทีเดยี ว เพราะเป็ นผู้คิดค้นวิธีรักษาโรคต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคพิษสนุ ขั บ้าและโรคแอนแทร็คซ์ ยิ่งไปกว่านนั้ ยงั ชว่ ยทาให้เราสะดวกสบายมากขนึ ้ จากการคดิ ค้นวิธีพาสเจอร์ไรซ์ เพ่อื ฆ่าเชอื้ โรคและถนอมอาหารให้เก็บได้นานขนึ้ อีกด้วย
3.กาลเิ ลโอ กาลเิ ลอี (Galileo Galilei) นกั วทิ ยาศาสตร์ผ้ซู ง่ึ เป็นเจ้าของฉายา \"บดิ าแห่งวทิ ยาศาสตร์ยุค ใหม่\" คนนี ้เกิดท่ปี ระเทศอิตาลี เม่ือวนั ที่ 15 กมุ ภาพนั ธ์ ค.ศ. 1564 (พ.ศ. 2107) และมีชีวติ อยจู่ นอายุ 77 ปี จนกระทง่ั เสียชีวิตลงเมอื่ วนั ท่ี 8 มกราคม ค.ศ. 1642 (พ.ศ. 2185) โดยเขา เป็นผ้ทู ส่ี ร้างความเปลี่ยนแปลงให้กบั แนวคิดของวิทยาศาสตร์ยคุ ก่อน อย่างสนิ ้ เชิง ด้วยการยดึ มนั่ ในทฤษฎีของตวั เองวา่ ดาวเคราะห์เป็นฝ่ าย หมนุ รอบดวงอาทิตย์ ซงึ่ ขดั กบั ความเช่ือของชาวคริสต์ในสมยั กอ่ นท่ี สนบั สนนุ ทฤษฎีของอริสโตเติลทเี่ ชื่อวา่ พระอาทิตย์และดวงจนั ทร์เป็น ฝ่ ายหมนุ รอบโลก จนทาให้เขาถกู ห้ามไม่ให้สอนนกั เรียนของเขา เก่ียวกบั ทฤษฎีนีอ้ กี มฉิ ะนนั้ จะถกู จบั เผาทงั้ เป็น เขาจึงได้ประดิษฐ์ กล้องโทรทรรศน์ขนึ ้ มาด้วยตวั เองเพื่อศกึ ษาเพิ่มเตมิ และพิสจู น์ว่า ทฤษฎีของเขาเป็นความจริงในทสี่ ดุ
4. มารี กูรี (Marie Curie) มารี กรู ี เป็นนกั วทิ ยาศาสตร์ชาวโปแลนด์ เกิดเม่ือวนั ที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1867 (พ.ศ. 2410) และเสียชีวติ ลงเมอ่ื วนั ที่ 4 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1934 (พ.ศ. 2477) ในวยั 66 ปี ซง่ึ เรียกได้วา่ เธอเป็น ผ้หู ญิงเก่งแหง่ ยคุ คนหนึ่งเลยทเี ดียว เพราะในขณะที่ผ้หู ญิงส่วนใหญ่ ในยคุ สมยั ของเธอไมไ่ ด้รับการศกึ ษาหรือโอกาสเทา่ เทียมกบั ผ้ชู ายนกั เธอกลบั มงุ่ มน่ั ศกึ ษาค้นคว้าจนกระทงั่ ค้นพบรังสีเรเดยี มที่สามารถ ยบั ยงั้ การขยายตวั ของโรคมะเร็งได้ในท่ีสดุ จนเป็นผลให้เธอได้รับ รางวลั โนเบล ยิ่งไปกวา่ นนั้ นอกจากความเฉลยี วฉลาดของเธอแล้ว การอทุ ิศตวั ให้สงั คมของเธอกย็ งั ทาให้หลาย ๆ คนประทบั ใจอีกด้วย เพราะเธอเลือกทจ่ี ะไมจ่ ดสิทธิบตั รสิ่งทีเ่ ธอค้นพบซง่ึ จะทาให้เธอ กลายเป็นเศรษฐีได้สบาย ๆ แตก่ ลบั เลือกอทุ ิศตวั เพื่อสว่ นรวมและ ค้นคว้าตอ่ ไปจนกระทง่ั เสียชีวิตจากการใกล้ชิดรังสเี รเดียมมากเกินไป ในท่ีสดุ
5. อัลเบริ ์ต ไอสไตน์ (Albert Einstein) คงไม่มใี ครไมร่ ู้จกั นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวเยอรมนั เชือ้ สายยิวซงึ่ เกิดเมอ่ื วนั ที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1879 (พ.ศ. 2422) และเสียชีวิตลงเมื่อ วนั ท่ี 18 เมษายน ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) ในขณะที่มี อายุ 77 ปี คนนี ้ซง่ึ ถงึ แม้เขาจะเป็นหนง่ึ ในนกั วิทยาศาสตร์ทีค่ นทวั่ โลกรู้จกั กนั อย่างแพร่หลายในปัจจบุ นั แตท่ ี่จริงแล้วเขาเคยเป็ นเดก็ ท่ีมี ปัญหาเร่ืองการเรียนรู้มากอ่ น โดยเขาไม่สามารถพดู ได้จนกระทง่ั อายุ 3 ขวบ และอ่านหนงั สอื ออกเมื่อ 8 ขวบ จนไมม่ ใี ครคาดคดิ วา่ เขาจะกลายเป็นนกั วิทยาศาสตร์ท่ีประสบความสาเร็จได้มากขนาดท่ี คดิ ค้นสิ่งประดษิ ฐ์ตา่ ง ๆ รวมถงึ สร้างทฤษฎใี หม่ ๆ มากมาย โดยเฉพาะผลงานเดน่ เช่นทฤษฎีทฤษฎีสมั พทั ธภาพพิเศษท่ีอธิบายวา่ เราทกุ คนจะมองเห็นอตั ราความเร็วแสงได้ในระยะเท่ากนั และทฤษฎี สมั พทั ธภาพทวั่ ไปซงึ่ เป็นทฤษฎีท่ีอธิบายกฎแรงโน้มถว่ งในเชิง เรขาคณิต ซงึ่ ทาให้นกั วิชาการหลายคนจบั ตามองจนได้รับรางวลั โนเบลในทส่ี ดุ
6. ชาลส์ ดาร์วนิ (Charles Robert Darwin) ชาลส์ ดาร์วนิ เกิดเม่ือวนั ท่ี 12 กมุ ภาพนั ธ์ ค.ศ. 1809 (พ.ศ. 2352) และเสยี ชีวิตลงในวยั 73 ปี ในวนั ท่ี 19 เมษายน ค.ศ. 1882 (พ.ศ. 2425) ซงึ่ จนกระทง่ั ยคุ ปัจจบุ นั ทฤษฎีที่ นกั วทิ ยาศาสตร์ธรรมชาตคิ นนีค้ ิดค้นขนึ ้ กง็ ยงั เป็ นทีถ่ กเถียงกนั อยู่ เพราะมีทงั้ คนท่ียอมรับและโต้แย้งในเวลาเดียวกนั โดยดาร์วนิ ได้เขียน นงั สือเกี่ยวกบั ววิ ฒั นาการของสตั ว์ตา่ ง ๆ ขนึ ้ มา ซงึ่ อ้างวา่ สตั ว์ ทงั้ หลายจะปรับสภาพร่างกายเพ่ือให้เข้ากบั การใช้ชีวิตและ สภาพแวดล้อมทาให้มีลกั ษณะเปลยี่ นแปลงไปเร่ือย ๆ จนกลายเป็น วิวฒั นาการ ซ่งึ แม้ในปัจจุบันเขาจะได้รับยกย่องเป็ น นักวทิ ยาศาสตร์อัจฉริยะคนหน่ึง แต่อีกส่วนหน่ึงกย็ งั มีผู้ท่ี ปฏเิ สธแนวคิดของเขาเช่นกัน
7. โทมัส อัลวา เอดสิ ัน (Thomas Alva Edison) เชื่อเถอะว่าในบ้านของเราต้องมสี ่ิงประดิษฐ์ของ โทมสั อลั วา เอดสิ นั กนั ทกุ คนแน่นอน เพราะนกั วิทยาศาสตร์ชาวองั กฤษซงึ่ เกิดเม่ือ วนั ท่ี 11 กมุ ภาพนั ธ์ ค.ศ. 1847 (พ.ศ. 2390) และเสยี ชีวติ ใน วยั 84 ปี เม่ือวนั ท่ี 18 ตลุ าคม ค.ศ. 1931 (พ.ศ. 2474) คนนี้ เป็ นเจ้าของสิทธิบัตรส่งิ ประดษิ ฐ์มากมายท่เี ราใช้กันใน ชีวติ ประจาวันกว่า 1,000 ชนิ้ โดยเฉพาะการคดิ ค้นหลอดไฟท่ี เป็ นผลงานชนิ้ เอก แม้วา่ เขาจะมีปัญหาเร่ืองการเรียนรู้ทาให้อ่าน หนงั สือไม่ออกจนกระทงั่ อายุ 12 ปี และบกพร่องเร่ืองการฟังหลงั ประสบอบุ ตั เิ หตบุ นรถไฟกต็ าม
8. นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla) นิโคลา เทสลา เป็ นนกั วิทยาศาสตร์ชาวโครเอเชียสญั ชาติอเมริกนั ท่ี เกิดเม่ือวนั ท่ี 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1856 (พ.ศ. 2399) และ เสยี ชีวิตลงเมื่อวนั ที่ 7 มกราคม ค.ศ. 1943 (พ.ศ. 2486) ในขณะท่มี ีอายุ 86 ปี โดยมีฉายาว่า \"นักประดษิ ฐ์ ท่โี ลกลืม\" เพราะเป็นนกั ประดษิ ฐ์คนสาคญั แต่กลบั มีน้อยคนทร่ี ู้จกั หรือถกู รู้จกั ในฐานะนกั วิทยาศาสตร์เพีย้ นจากการท่เี ขามปี ัญหาในการ เข้าสงั คม มากกวา่ จะสนใจผลงานของเขาที่ยิ่งใหญ่ไมแ่ พ้คนอ่ืน ๆ ซ่งึ เขาเป็ นผู้ประดษิ ฐ์ขดลวดเทสลา หรือ Tesla coil ซ่งึ เป็ นหม้อ แปลงท่สี ามารถแรงดนั ไฟฟ้ าสูง แถมยังเป็ นผู้ค้นพบวิธีการ เปล่ียนสนามแม่เหลก็ เป็ นสนามไฟฟ้ า จงึ เป็ นท่มี าของหน่วยวัด สนามแม่เหล็กเทสลา อีกทงั้ ยงั เป็ นผู้ค้นพบวิธีการส่ือสารแบบ ไร้ สายอีกด้ วย
9. กูกลเิ อลโม มาร์โคนี (Guglielmo Marconi) นกั วิทยาศาสตร์ชาวอติ าลซี ง่ึ เกิดเม่ือวนั ที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1874 (พ.ศ. 2417) และเสียชีวิตลงในขณะอายุ 63 ปี เมอื่ วนั ที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1937 (พ.ศ. 2480) คนนี้ คอื คนท่ไี ด้ ช่อื ว่าเป็ นผู้ผลติ วทิ ยุคนแรกของโลกอย่างเป็ นทางการ ซง่ึ กกู ลิ เอลโม มาร์โคนี กไ็ ด้ฉายแววความฉลาดมาตงั้ แตเ่ ดก็ จากการสนใจ เร่ืองไฟฟ้ าอย่เู สมอ จนพอ่ ของเขาสนบั สนนุ ด้วยการจ้างครูพิเศษมา สอนเร่ืองไฟฟ้ าให้กบั เขาโดยเฉพาะ และจากความสาเร็จของ ผลงานชนิ้ สาคัญนีก้ ไ็ ด้เปล่ียนเขาให้กลายเป็ นเศรษฐีจากการ เปิ ดบริษัทวทิ ยุโทรเลขมาร์โคนีในท่สี ุด
10. อริสโตเตลิ (Aristotle) สดุ ท้ายนีค้ ือคนทไ่ี ด้สร้างความเปลย่ี นแปลงให้กบั โลกในยคุ สมยั เริ่มแรกของวิทยาศาสตร์อย่างนกั วทิ ยาศาตร์ชาวกรีกซงึ่ มชี ีวิตอยู่ ในชว่ ง 384 - 322 ปี กอ่ นคริสตศกั ราชอยา่ ง อริสโตเติล นนั่ เอง ซง่ึ เขาเป็นผ้เู ช่ียวชาญรอบด้านในหลายสาขา เช่น ดาราศาสตร์ ฟิ สิกส์ วรรณกรรม และชีววิทยา โดยไหวพริบของอริสโตเตลิ นนั้ ทาให้เขาได้ ช่ือวา่ เป็นศิษย์เอกของอจั ฉริยะอย่างเพลโต ตงั้ แตอ่ ย่ใู นวยั 18 ปี โดย ผลงานท่เี ด่นท่สี ุดของเขาเหน็ จะเป็ นด้านชีววิทยา ซ่งึ เขาเป็ นผู้ จาแนกประเภทของสัตว์ตามลักษณะออกเป็ น 2 ประเภท คือ พวกท่ีมีกระดกู สันหลังและพวกท่ไี ม่มีกระดูกสันหลัง ทาให้ผ้คู น นบั ถือความสามารถจนได้เป็นพระอาจารย์และพระสหายสนิทของ พระเจ้าอเลก็ ซานเดอร์มหาราช
แหลง่ อา่ งองิ : https://sites.google.com/site/sciencenuey/our-company
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: