FILE_1519102455

แบบทดสอบ ความสามารถด้านภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ปีการศกึ ษา 2555 สานกั ทดสอบทางการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน แบบทดสอบนเ้ี ปน็ เอกสารลับของทางราชการ ไม่อนุญาตให้ขีดเขยี นหรอื ทาเครือ่ งหมายใด ๆ ลงในแบบทดสอบและห้ามคดั ลอกเปดิ เผยหรือนาไปเผยแพร่ สงวนลิขสทิ ธิ์

คำช้แี จง แบบทดสอบควำมสำมำรถด้ำนภำษำ ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 3 แบบทดสอบฉบบั นีม้ ี 30 ขอ้ ให้เวลำทำแบบทดสอบ 50 นำที แบบทดสอบฉบับน้ีเปน็ แบบปรนัย 4 ตวั เลือก จำนวน 30 ขอ้ (ข้อ 1 - 30) ขอ้ ละ 1 คะแนน รวม 30 คะแนน แตล่ ะขอ้ มีคำตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดยี ว 0. อ่ำนข้อควำมแล้วตอบคำถำม โรคอ้วน เป็นโรคท่ีร่ำงกำยมีไขมันสะสมไว้ตำมส่วนต่ำงๆ มำกเกินไป ซึ่งอำจ เกิดจำกกำรตำมใจปำก กินมำกเกินควำมต้องกำรของร่ำงกำย อำหำรเหล่ำนั้นจะไป สะสมจนกลำยเป็นไขมัน พอกพูนตำมส่วนต่ำงๆ ของร่ำงกำย หรือเกิดจำกควำม ผิดปกตขิ องตอ่ มไร้ทอ่ ทำใหม้ ไี ขมันบริเวณต้นแขน ต้นขำ และหน้ำทอ้ ง ข้อใดหมำยถึง กินตำมใจปำก 1) กินจุ 2) กนิ เมื่อหิว 3) กนิ เม่ือได้เวลำ 4) กินเพรำะอยำกกิน วิธตี อบ ให้นกั เรียนเลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งที่สุดเพียงคำตอบเดียว โดยระบำย ทับตัวเลขท่ตี รงกับตัวเลือกทต่ี อ้ งกำรลงในกระดำษคำตอบ ถำ้ นกั เรียนคดิ ว่ำ ตวั เลือกท่ี 4) เปน็ คำตอบท่ถี กู ต้องที่สุด ใหร้ ะบำยในกระดำษคำตอบ ดังนี้ 0.     ******************************************

สทศ.สพฐ. อ่านขอ้ ความแลว้ ตอบคาถามข้อ 1-2 จอรปู ส่ีเหลี่ยม เต็มเปีย่ มความรู้ เดก็ เด็กชอบดู เรยี นรู้แสนสุข ท่องโลกเวบ็ ไซต์ ก้าวไกลล้ายคุ อยา่ เพียงสนกุ เกดิ ทุกขม์ ีภัย 1. ข้อความใดในบทรอ้ ยกรองนี้ ท่ีแสดงให้รู้ว่าเปน็ \"คอมพวิ เตอร\"์ 1) จอรูปสีเ่ หลยี่ ม 2) เต็มเปย่ี มความรู้ 3) ท่องโลกเว็บไซต์ 4) กา้ วไกลล้ายคุ 2. จากบทร้อยกรองนี้ ผ้เู ขยี นมีวตั ถุประสงค์อะไร 1) อธิบาย 2) ชี้แจง 3) ชักจูง 4) ตกั เตอื น 3. อ่านข้อความแลว้ ตอบคาถาม นอ้ งกนั เกบ็ กระเปา๋ สตางค์ของนอ้ งแกว้ ได้แลว้ ส่งคนื เขาจึงได้รบั คาชมเชย จากคณุ ครโู ดยประกาศหน้าเสาธง เพือ่ นๆ ก็แสดงความยินดี นอ้ งกันดใี จกลบั บ้าน ไปบอกพอ่ กบั แม่ การกระทาของนอ้ งกัน ตรงกับคุณธรรมข้อใด 1) ความมีวนิ ัย 2) ความซื่อสตั ย์ 3) ความเมตตา 4) ความเอือ้ เฟ้ือ ความสามารถดา้ นภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (หนา้ 1 จาก 13)

สทศ.สพฐ. 4. อา่ นข้อความแลว้ ตอบคาถาม เมอ่ื 40 ปกี อ่ น แพทยพ์ บวา่ เด็กไทยเป็นโรคขาดอาหาร แตป่ จั จุบนั ปัญหาของเดก็ ไทย คอื รบั ประทานอาหารมากเกนิ ไปจนน้าหนกั ตวั มาก อย่ใู นเกณฑท์ ี่เรียกว่าเปน็ โรคอ้วน เกิด จากการเล้ยี งดทู ่ีเข้าใจผิด คดิ ว่าเด็กอว้ นคอื เด็กมีสุขภาพดี ความจริงก็คือ เดก็ กลมุ่ นีจ้ ะมี ปญั หาสุขภาพ ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหติ สงู ระดบั ไขมนั ในเลือดผดิ ปกติ ข้อความใด ใชเ้ ตือนเพ่ือนๆ ให้ระวังโรคอ้วน ได้เหมาะสมที่สดุ 1) เด็กอ้วนจะไม่น่ารัก 2) เด็กอ้วนจะไมฉ่ ลาด 3) เด็กอ้วนจะเหนอ่ื ยง่าย 4) เด็กอ้วนจะเจ็บป่วยง่าย อ่านข้อความแลว้ ตอบคาถามขอ้ 5 - 6 ประสทิ ธภิ าพ กาจดั แมลง “ซอกซอน.......ทกุ ซอกทกุ มมุ ” ในห้อง เมื่อใช้ เอ-ควัน ที่ผา่ นการรบั รองจาก อย. 5. ขอ้ ใดมีความหมายใกล้เคยี งกบั คาว่า “ซอกซอน” 1) กระจายไปทุกที่ 2) กระจายเฉพาะท่ี 3) กระจายไปตามมุม 4) กระจายแบบชอนไช 6. สนิ ค้านีม้ จี ุดเด่นดา้ นใด 1) สนิ คา้ มีกลิน่ 2) สินค้าราคาสูง 3) สนิ ค้ามีขนาดเล็ก 4) สินคา้ ทีม่ ีคุณภาพ ความสามารถด้านภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (หนา้ 2 จาก 13)

สทศ.สพฐ. อ่านขอ้ ความแลว้ ตอบคาถาม ข้อ 7 - 8 ไปเท่ียวป่า มดกับเพ่อื นเดนิ ทางไปเท่ียวปา่ พบน้าตกแห่งหนึ่ง มดเห็นความงามของน้าตก ไหลลงมา เป็นสายม่านนา้ สะทอ้ นกับแสงอาทติ ยใ์ นยามเยน็ เป็นม่านน้าสรี ุ้งสวยงามยงิ่ นัก สายนา้ ตกลง กระทบก้อนหินขรุขระ ละอองน้ากระจายแสงเป็นประกายระยิบระยับ ความงามของน้าตกน้ี เปน็ ส่งิ มหศั จรรย์ที่ควรอนุรกั ษไ์ ว้เปน็ สมบัตขิ องชาติตลอดไป 7. ข้อใดอธบิ ายความหมายของคาทีข่ ีดเส้นใตไ้ ด้ถกู ตอ้ ง 1) สิ่งทไี่ มเ่ คยเหน็ มาก่อน 2) สิง่ ทนี่ า่ ต่ืนตาตืน่ ใจ 3) สง่ิ ทค่ี วรอนุรักษ์ 4) สิง่ ที่ไมม่ ตี ามธรรมชาติ 8. เพ่ือให้เพอ่ื นๆ เห็นความมหศั จรรยข์ องน้าตก มดนา่ จะกระทาส่ิงใด 1) เล่าความงามของนา้ ตกใหเ้ พอ่ื นๆ ฟงั 2) นาภาพถา่ ยน้าตกไปอวดเพ่อื นๆ 3) ชกั ชวนเพอ่ื นๆ ไปเท่ียวนา้ ตกอกี 4) เขียนบันทกึ ความงามของนา้ ตกให้เพือ่ น ๆ อา่ น ความสามารถด้านภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (หนา้ 3 จาก 13)

สทศ.สพฐ. อ่านขอ้ ความแลว้ ตอบคาถาม ขอ้ 9 - 10 “หาดทรายงาม ยามมอง แสงสีนวล สาดซัดทราย เสียงกตี ารฮ์ าวาย หาดทราย คร้นื เครง จนั ทรท์ อแสง ฮูลา ฮลู า ดงั จะเย้ายวนตา พิศวาสหาดสีทอง” 9. \"หาดสที อง\" มีความหมายสอดคลอ้ งกับข้อใดมากทีส่ ุด 1) หาดทรายทีม่ สี ขี าวสะอาดสวยงาม 2) หาดทรายทม่ี แี สงจันทร์สาดสอ่ ง 3) หาดทรายท่ีมเี สียงเพลงบรรเลงไพเราะ 4) หาดทรายที่มีคล่นื ซดั สาดสวยงาม 10. ข้อความน้ตี อ้ งการบอกอะไร 1) ความงามของธรรมชาติ 2) ความสขุ เมือ่ มาเท่ียวทะเล 3) ความไพเราะของเสียงเพลง 4) ความสะอาดของหาดทราย ความสามารถด้านภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 (หน้า 4 จาก 13)

สทศ.สพฐ. 11. อา่ นข้อความแล้วตอบคาถาม มีการคน้ พบวิธีการทาใหแ้ ปง้ ทไี่ ด้จากข้าวโพด มนั ฝรง่ั และพชื ชนิดอนื่ ๆ ใหเ้ ปน็ เส้นใยดว้ ยวิธกี ารป่ันน้าแป้งใหก้ ลายเป็นเส้นใยยาวได้สาเรจ็ นาเสน้ ใยไปผลติ เป็นผา้ พันแผล กระดาษชาระ กระดาษเชด็ ปาก ในกรณที น่ี าไปทาผ้าพนั แผลก็จะได้ผา้ พนั แผลท่แี ตกต่าง จากผ้าพันแผลท่ีมีตามทอ้ งตลาดท่วั ไป เน่ืองจากผ้าพันแผลน้ียอ่ ยสลายตวั ได้เป็นนา้ ตาล กลูโคส ซ่ึงร่างกายสามารถดดู ซมึ ไดอ้ ยา่ งปลอดภยั น่ันหมายถงึ ผปู้ ว่ ยจะไม่เจบ็ ตัวซา้ ตอน แกะผา้ พันแผลออกน่ันเอง การคน้ พบคร้ังน้ี จะสง่ ผลตอ่ อนาคตอย่างไร 1) อาหารประเภทแป้งจะขาดตลาด 2) แป้งข้าวโพดจะมีราคาสูงขึ้น 3) จะใช้ผ้าพันแผลแบบเดิมน้อยลง 4) เส้นใยจากฝ้ายไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป 12. อา่ นขอ้ ความแล้วตอบคาถาม “ม้าทจี่ ะใช้ในการแข่งขนั ตอ้ งเป็นม้าทฝ่ี ึกฝนมากบั นกั กฬี า เพราะนักกฬี ากับมา้ จะรูใ้ จ กนั เป็นอย่างดี ทาใหก้ ารบงั คบั ม้าเปน็ ไปอย่างราบร่ืน” คาทข่ี ดี เส้นใตห้ มายความวา่ อยา่ งไร 1) เอาใจ 2) ใส่ใจ 3) เห็นใจ 4) เข้าใจ ความสามารถดา้ นภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 (หน้า 5 จาก 13)

สทศ.สพฐ. อ่านขอ้ ความแล้วตอบคาถามข้อ 13 - 14 “เต่าตนุเปน็ เต่าทะเลชนิดหนง่ึ ที่อาศัยในทะเลแตจ่ ะขึ้นมาบนบกเพอ่ื วางไข่ เนื่องจาก มนษุ ยน์ าเนอื้ และไขม่ ากนิ และสิง่ ปลกู สรา้ งตามชายหาดเปน็ อุปสรรคทาให้เตา่ ตนุไมข่ ึ้นมา วางไขต่ ามฤดกู าล” 13. จากขอ้ ความข้างตน้ อกี 10 ปีขา้ งหน้าเต่าตนุจะมีแนวโน้มเปน็ อยา่ งไร 1) มจี านวนน้อยลง 2) มีจานวนเพมิ่ ขนึ้ 3) มจี านวนเทา่ เดิม 4) มีจานวนไมแ่ นน่ อน 14. จากขอ้ ความน้ี นักเรียนมวี ิธรี ักษาพนั ธ์ุเต่าตนุอย่างง่ายได้อยา่ งไร 1) ละเวน้ การกินไข่เตา่ ตนุ 2) ใช้เทคโนโลยผี สมเทยี มเตา่ ตนุ 3) แจ้งเจ้าหน้าท่ีรักษาชายหาดให้สะอาด 4) สร้างสิง่ ปลกู สร้างให้เตา่ วางไขบ่ ริเวณชายหาด 15. อ่านขอ้ ความแลว้ ตอบคาถาม “มนษุ ยเ์ ป็นทรัพยากรท่ีมีค่า เปน็ ท้งั ผสู้ ร้างและผทู้ าลาย จากการทาลาย ของมนุษยท์ าให้เกิดส่ิงแวดล้อมเปน็ พษิ และเกดิ ผลกระทบต่อการดารงชีวติ ” การกระทาของบุคคลใดสอดคล้องกับขอ้ ความขา้ งต้น 1) บญุ ตดั ตน้ ไมบ้ นภเู ขาเพื่อปลกู ข้าวโพด 2) บวิ ป่ันจักรยานไปโรงเรียนทุกวัน 3) เต้ ใช้วัสดรุ ีไซเคลิ เพ่ือชว่ ยลดขยะ 4) แกว้ ท้งิ เศษกระดาษลงถังขยะท่ีคัดแยก ความสามารถด้านภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (หนา้ 6 จาก 13)

สทศ.สพฐ. อา่ นขอ้ ความแลว้ ตอบคาถามข้อ 16 - 17 มดกับนกเขา มดตวั หนึ่งกระหายน้าจึงไต่ลงไปกนิ นา้ ทล่ี าธาร มดพลาดตกลงไปในลาธาร นกเขาตัวหนง่ึ เกาะอย่บู นก่ิงไมใ้ กล้ๆ น้ัน เห็นมดตะเกยี กตะกายอย่ใู นน้า นกเขาจงึ จิกใบไมท้ ิ้งลงไปในนา้ มดไดเ้ กาะใบไม้รอดชวี ติ ขณะน้ันมีนายพรานคนหน่ึงเตรยี มเหว่ยี งตาข่ายจะจับนกเขา มดเห็น จงึ รีบว่ิงเข้าไปกดั เทา้ นายพราน นายพรานต้องทิง้ ตาข่ายมาปดั มด นกเขารู้ตัวทนั ก็บินหนไี ป 16. ถ้านกเขาไมใ่ ห้ความชว่ ยเหลอื มด นา่ จะเกิดเหตุการณใ์ ดเป็นอันดบั แรก 1) มดจมนา้ ตาย 2) มดจะต้องชว่ ยตัวเอง 3) นายพรานไมถ่ ูกมดกัด 4) นกเขาถกู นายพรานจบั ไปได้ 17. การกระทาของมดสอดคลอ้ งกับคุณธรรมด้านใด 1) ความกตัญญรู ู้คุณ 2) ความมนี า้ ใจไมตรี 3) ความเมตตากรุณา 4) ความเออ้ื เฟื้อเผื่อแผ่ ความสามารถดา้ นภาษา ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 (หน้า 7 จาก 13)

สทศ.สพฐ. อา่ นข้อความแล้วตอบคาถามขอ้ 18 - 19 “งบู างชนดิ ดุรา้ ยมาก อยา่ งเช่น งูจงอาง ซง่ึ บางท้องถ่ินเรยี กวา่ “งบู อง” งูชนดิ นอ้ี อก หากนิ ตอนพระอาทติ ยใ์ กล้จะลับฟ้า มนั กนิ สัตว์จาพวกนก หนู กบ เขียด และแม้แต่กบั งูดว้ ยกัน มันกก็ นิ ได้ ย่ิงเวลามันออกไข่จะยงิ่ มีความดรุ า้ ยมากข้ึนดว้ ยความหวงไข่ หากคนเข้าใกล้มหี วงั โดน ฉกกดั เอา งูจงอางตัวโตประเปรยี ว และกลา้ สูก้ ับคน พวกเดนิ ปา่ จงึ กลัวงูชนดิ นีม้ าก” 18. จากขอ้ ความ ผูเ้ ขียนมวี ัตถุประสงค์อย่างไร 1) ใหค้ วามรูเ้ รื่องงูจงอาง 2) อธบิ ายลกั ษณะของงจู งอาง 3) บอกการดารงชีวติ ของงูจงอาง 4) เตือนใหร้ ะวังอนั ตรายจากงูจงอาง 19. เหตุใดนักเดนิ ปา่ จึงกลวั งูจงอางมาก 1) เพราะมันตัวโต 2) เพราะมันหวงไข่ 3) เพราะมนั ประเปรียว 4) เพราะมันกล้าสกู้ บั คน ความสามารถดา้ นภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 (หนา้ 8 จาก 13)

สทศ.สพฐ. อา่ นข้อความแล้วตอบคาถามข้อ 20 - 22 หนา้ ตาสมอง สว่ นของร่างกาย มอื ไม้แขนขา มที าหลากหลาย จมกู ตาสอง ต่างได้ชว่ ยกนั ลว้ นมีหน้าที่ มอื ซงึ่ แข่งขัน ทุกสว่ นรา่ งกาย สาคัญนอ้ ยกวา่ อย่มู าวนั หน่ึง ระวงิ เหนื่อยลา้ บอกขาสองนน้ั พานิ่งพักนาน ฉนั ทาทุกสง่ิ หยดุ พลนั ทางาน สว่ นเจา้ สองขา การงานหยุดลง ตา่ งถกเถียงกัน รา่ งกายรา้ วฉาน 20. เรื่องน้ขี าดคณุ ธรรมในดา้ นใด 1) ความมวี ินัย 2) ความสามัคคี 3) ความเสียสละ 4) ความซอื่ สัตย์ 21. คาว่า \"ร่างกายรา้ วฉาน\" จากบทร้อยกรองขา้ งต้น เปรียบไดก้ ับข้อใด 1) รถยนต์ท่ไี ม่ได้ล้าง 2) รถยนตท์ ีน่ ้ามันหมด 3) รถยนตท์ ย่ี างแตก 4) รถยนต์ที่ไมม่ คี นขบั 22. เรื่องนีใ้ ห้ข้อคิดทน่ี าไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันด้านใด 1) ขยันทางาน 2) ตั้งใจทางานตามหน้าท่ี 3) ความอดทนในการทางาน 4) ทางานตามคาสัง่ ความสามารถด้านภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 (หน้า 9 จาก 13)

สทศ.สพฐ. พจิ ารณาภาพแลว้ ตอบคาถามข้อ 23 - 24 23. จากภาพท่ีกาหนดให้ ต้องการบอกผบู้ รโิ ภคเรื่องใด 1) ราคา 2) รสชาติ 3) คณุ คา่ 4) ส่วนประกอบ 24. จากภาพ นักเรยี นจะเลอื กซื้อสินคา้ นีห้ รือไม่ เพราะเหตุใด 1) ซือ้ เพราะเป็นสูตรไมเ่ ตมิ นา้ ตาล 2) ซื้อ เพราะเช่ือว่าดตี ่อสุขภาพ 3) ไมซ่ ้อื เพราะคาโฆษณาเกินจริง 4) ไมซ่ อื้ เพราะราคาแพง ความสามารถดา้ นภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 (หน้า 10 จาก 13)

สทศ.สพฐ. อ่านขอ้ ความน้แี ล้วตอบคาถามขอ้ 25 - 26 “คณุ รู้หรอื ไม่วา่ มะเขอื เทศผลเลก็ ๆ สแี ดง อย่างนี้ แต่คุณค่าทางโภชนาการนน้ั ไม่ใช่เลก็ ๆ ตามขนาดของผลเลยนะคะ เพราะในมะเขอื เทศแตล่ ะผลนนั้ ลว้ นแต่ประกอบด้วย วติ ามินและแรธ่ าตมุ ากมาย นอกจากน้ีในมะเขอื เทศยังมสี ารชนิดหนึ่ง ซ่ึงถือเป็นเอกลักษณ์ แหง่ ความเป็นสแี ดงเลยก็ว่าได้ เจา้ สารชนิดน้ีเราเรยี กกันวา่ สารไลโคปิน นั่นเอง” 25. ข้อใดแสดงวา่ ก้อยนาความรจู้ ากเรอื่ งทอี่ า่ นไปใช้ประโยชน์ 1) ใชม้ ะเขอื เทศเปน็ ยารกั ษาโรค 2) ปลกู มะเขือเทศเอาไว้ขาย 3) ปั่นมะเขอื เทศเพ่ือใช้บารุงผวิ 4) นามะเขอื เทศมาใชป้ ระกอบอาหาร 26. ควรเลือกรบั ประทานผลไมช้ นดิ ใดเพ่อื ใหไ้ ด้สารไลโคปนิ 1) แคนตาลปู 2) สบั ปะรด 3) แตงโม 4) กลว้ ย ความสามารถด้านภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 (หนา้ 11 จาก 13)

สทศ.สพฐ. 27. พจิ ารณาภาพแล้วตอบคาถาม โรงเรียน วดั ตลาด สวนสนกุ สถานีตารวจ บา้ นของก้อย สญั ลักษณ์ คือ ทางกาลังซอ่ ม คือ ทางปกติ จากภาพ เสน้ ทางใดที่ก้อยเดนิ ทางไปโรงเรียนไดส้ ะดวกทีส่ ุด 1) ตลาด วัด โรงเรียน 2) สถานีตารวจ วัด โรงเรยี น 3) ตลาด สถานตี ารวจ โรงเรยี น 4) สถานีตารวจ สวนสนกุ โรงเรยี น 28. อ่านขอ้ ความแลว้ ตอบคาถาม “ผมจาได้ว่า ตอนทีผ่ มเปน็ เด็กนน้ั ผมคดิ ว่าผมกเ็ ปน็ เหมอื นเดก็ ๆ ส่วนใหญน่ ะครับ คอื ไมช่ อบทานผกั สกั เทา่ ไหร่ ซ่งึ ถ้าผกั ธรรมดาก็พอจะทาใจได้ แตถ่ า้ เปน็ ผกั ประเภทมะระ หรือผักโขม กแ็ ทบจะบอกลาแลว้ รอ้ งไหเ้ ลยทเี ดยี ว...... แตพ่ อวันและเวลาผา่ นไปทาใหผ้ มร้ถู งึ ความจรงิ ท่ไี มอ่ าจปฏิเสธได้เลยว่า อาหารจานผักน้ันมีประโยชน์มากกว่าทค่ี ดิ ไวเ้ สียอกี ” ผู้เขยี นต้องการบอกเร่อื งอะไร 1) เดก็ ไม่ชอบทานผัก 2) ผกั บางชนิดมีรสขม 3) ผักมีสารอาหารจาเปน็ ต่อรา่ งกาย 4) เม่ืออายมุ ากข้นึ จึงรูค้ ุณค่าของผกั ความสามารถดา้ นภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 (หน้า 12 จาก 13)

สทศ.สพฐ. อา่ นข้อความแลว้ ตอบคาถามขอ้ 29 -30 “ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดีที่ไม่มาก ไม่นอ้ ยเกินไป ไม่เบยี ดเบียนตนเองและผู้อ่ืน” 29. ข้อใดสอดคล้องกับคากลา่ วข้างตน้ 1) มมี ากใช้ใหห้ มด 2) มนี อ้ ยทนอดไม่ใช้ 3) ไม่มตี อ้ งหยิบยืมผู้อ่ืนมาใช้ 4) ใชบ้ า้ งเก็บบ้างทกุ อยา่ งต้องวางแผน 30. ขอ้ ใดใช้หลักความพอประมาณในการดาเนินชีวิต 1) เส้อื เกา่ ของพี่ยังดนี ้องใชต้ อ่ 2) ของลดราคาซ้ือหามาเกบ็ ไว้ 3) ของเก่าล้าสมัยอย่าทงิ้ แตน่ าไปบรจิ าค 4) อาหารกลางวันกินฟรีกนิ เตม็ ที่จะได้ไม่ต้องท้ิงขว้าง *************************** ความสามารถดา้ นภาษา ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 (หนา้ 13 จาก 13)