รหสั วิชา หลกั การตลาด นาย สหสั รรษ จนั ทรฮ์ ง เรือ่ ง บทบาทและหน้าที่การตลาด วิทยาลยั อาชีวศึกษาเพชรบรุ ี
สาระการเรยี นรู้ บทบาทการตลาด หน้าทก่ี ารตลาด
บทบาทการตลาด หน้าที่การตลาด หน้าท่ีการตลาดท่ีเกี่ยวข้องกบั สินค้า หน้าที่การตลาดท่ีเกี่ยวข้องกบั การกระจายสินค้า หน้าท่ีการตลาดท่ีเกี่ยวข้องกบั การอานวยความสะดวก
บทบาทการตลาด ในสมยั โบราณสนิ คา้ และบรกิ ารยงั ไมม่ หี ลากหลายสว่ นใหญจ่ ะเป็ น สนิ คา้ ทมี่ คี วามจาเป็ นตอ่ การดารงชวี ติ และปัจจยั สกี่ ารจะไดม้ าซงึ่ สนิ คา้ และบรกิ ารน้ัน แตล่ ะคนก็จะนา สนิ คา้ ของตน ไป แลกเปลยี่ นกนั ในลกั ษณะตา่ งกนั เชน่ ใชส้ นิ คา้ แลกสนิ คา้ หรอื ใช ้ สนิ คา้ แลกเงนิ การแลกเปลยี่ นนั้นจะกระทากนั ในสถานทใี่ ดทหี่ นึ่ง ทเี่ รยี กวา่ “ตลาด” ซงึ่ หมายถงึ สถานทที่ ี่ มกี ารซอื้ ขายแลกเปลยี่ น สนิ คา้ ระหวา่ งผูซ้ อื้ และผูข้ าย แตเ่ มอื่ สงั คมเจรญิ กา้ วหนา้ มากขนึ้ เกดิ การเพมิ่ ขนึ้ ของประชากรสง่ ผล ใหเ้ กดิ ความตอ้ งการในสนิ คา้ ประเภทตา่ งๆและ บรกิ ารเพมิ่ ขนึ้ ประกอบกบั ความกา้ วหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยแี ละระบบสอื่ สาร ในปัจจบุ นั ทที่ าใหก้ ารซอื้ ขาย ไม่จาเป็ นตอ้ งนาสนิ คา้ ไปแลกเปลยี่ นกนั ใหย้ ุ่งยาก เพราะสามารถ ซอื้ ขาย กนั ไดโ้ ดยการเจรจาตกลงกนั เอง หรอื ใชร้ ะบบสอื่ สาร ตดิ ตอ่ กนั ไดท้ กุ ประเภทไมว่ า่ จะเป็ น การแฟ็ กขอ้ ความซอื้ สนิ คา้ โทรศพั ท ์ โทรเลข จดหมาย ฯลฯ
3.1.1 บทบาทของการตลาดตอ่ สงั คม 1. การตลาดกอ่ ใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมในการดารงชวี ติ การทมี่ สี นิ คา้ หลากหลายเขา้ ไปตอบสนองความตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภคทาให ้ สภาพความเป็ นอยู่สุขสบายขนึ้ กว่าเดมิ ผูค้ นในสงั คมระดบั ต่างๆ ไดเ้ ปลยี่ น พฤตกิ รรมในการบรโิ ภคอาหาร การอย่อู าศยั การสมาคมอยา่ งมากมาย เชน่ การบรโิ ภคอาหาร เปลี่ยนไปนิยมซอื้ อาหารสาเร็จรูปหรอื รบั ประทานตาม รา้ นอาหารมากกว่าที่จะทาทานกนั เอง การอยู่อาศยั เปลีย่ นลกั ษณะที่อยู่ อาศยั จากบา้ นเดี่ยวเป็ นอาคารเรอื นแถวที่เรยี กว่า Townhouse การแต่ง กาย ในปัจจบุ นั การแตง่ กายไดร้ บั อทิ ธพิ ลมาจากตะวนั ตกเปลยี่ นไปซอื้ เสอื้ ผา้ สาเรจ็ รปู มากกวา่ การ สง่ั ตดั เย็บโดยเฉพาะ
2. ความสมั พนั ธท์ างครอบครวั มคี วามม่นั คงนอ้ ยลง สมาชกิ ในครอบครวั เปลยี่ นไปรบั ประทานอาหารนอก บา้ นกนั เพมิ่ ขนึ้ หรอื รบั ประทานอาหารในบา้ นตามเวลา สะดวกของแตล่ ะคนทาใหส้ มาชกิ ในครอบครวั มเี วลา พบปะพูดคยุ หรอื ทากจิ กรรมรว่ มกนั นอ้ ยลง เนื่องมาจากความจาเป็ นในการใชช้ วี ติ นอกบา้ นมมี าก ขนึ ้ 3. ความสมั พนั ธข์ องสงั คมชมุ ชนเปลยี่ นแปลงไป ในยุคก่อนๆ ทผี่ ลิตภณั ฑย์ งั ไม่สามารถหาซอื้ ไดส้ ะดวก กิจกรรมในการดารงชวี ิตประจาวันหลายเรอื่ งที่ตอ้ ง อาศยั เพือ่ นบา้ น สมาชกิ ของสงั คมชมุ ชนมาชว่ ยเหลอื จงึ เป็ นสงั คมทีต่ ่างตอบแทนดว้ ยความสมคั รใจ มีความ เสยี สละ เออื้ เฟ้ อ-เผอื่ แผ่ แบ่งปันกนั มคี วามรจู ้ กั คนุ ้ เคย ส นิ ท ส นม กัน ดีทุ ก ค ร ัว เ รือ น แ ต่ใ น ปั จ จุบัน สัง ค ม เปลี่ยนแปลงความสมั พนั ธ ์ การชว่ ยเหลือกนั ดว้ ยการ จ่ายค่าตอบแทนเป็ นค่าจา้ งความสมั พนั ธท์ างจิตใจ ได ้ ลดน้อยลงเรอื่ ยๆ สรา้ งความรูส้ ึกเห็นแก่ตวั มากขึน้ ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมของสงั คมใน เรอื่ งนีไ้ ดก้ อ่ ความเสยี หายตอ่ คณุ ภาพชวี ติ ของบุคคลใน สงั คม ความเกรงใจ ความเออื้ อาทรตอ่ กนั ลดนอ้ ยลง
3.1.2 บทบาทของการตลาดตอ่ เศรษฐกจิ 1. มกี ารเพมิ่ งานอาชพี ไดม้ ากขนึ้ เมอื่ การผลติ ขยายตวั เพมิ่ ขนึ้ เนื่องจากความตอ้ งการ ผลติ ภณั ฑต์ า่ งๆ มมี ากขนึ้ ผูผ้ ลติ จาหน่ายไดด้ ว้ ยกจิ กรรม ทางการตลาด จะเกดิ ความตอ้ งการแรงงานบคุ ลากรเขา้ ไป เพมิ่ ในภาคการผลติ โรงงานอตุ สาหกรรมตา่ งๆ เปิ ด กจิ การเพมิ่ ขนึ้ โรงงานเดมิ ขยายกจิ การ ตอ้ งการแรงงาน เพมิ่ และเกยี่ วเนื่องไปถงึ ธรุ กจิ ผลติ อนื่ ๆ ทเี่ กยี่ วเนื่องกนั ทงั้ แหลง่ วตั ถดุ บิ กจิ การผลติ อปุ กรณเ์ ครอื่ งมอื ตา่ งๆ ตอ่ เนื่อง ไปถงึ การขยายตวั ของตาแหน่งงานตา่ งๆ ในภาค การตลาดและธรุ กจิ อนื่ ๆ 2. ประชาชนมรี ายไดส้ งู ขนึ้ เมื่อมีงานอาชพี ใหม่ๆ ตาแหน่ งงานเพิ่มขึน้ อตั ราการ ว่างงานลดลง ประชาชนมีงานทา มีรายไดก้ นั ท่วั หน้า ย่อมมีกาลังซือ้ ที่จะไป จับจ่ายซือ้ สินคา้ บริการมา ตอบสนองความตอ้ งการผูค้ นไม่อดอยากการขยายตัว ดานการผลิต การทาธุรกิจต่างๆ ทาใหเ้ กิดควา ม ตอ้ งการดา้ นบุคลากรสูงจนตอ้ งแข่งขนั กนั ในการแย่ง บุคลากร ที่มีประสิทธิภาพ ตอ้ งจ่ายค่าจา้ งแรงงานใน อตั ราทสี่ งู ขนึ้ ๆเมอื่ ประชาชนมงี านทา มรี ายไดส้ งู ทาใหม้ ี อานาจจบั จ่ายไดเ้ พิ่มขึน้ และตดั สนิ ใจจ่ายง่าย รวดเร็ว ขึน้ ดว้ ยนาไปสู่ความตอ้ งการ สินคา้ บรกิ ารเพิ่มขึน้ กจิ การธุรกจิ จาหน่ายสนิ คา้ ไดด้ ี จะตอ้ งการขยายการ ผลติ เพมิ่ ขนึ้ ขยายการขาย จงึ ตอ้ งการกาลงั คนเพมิ่ มาก ขนึ้ ตอ้ งจ่าย ค่าจา้ งเพิ่มขนึ้ จะเป็ นผลต่อเนื่องเชน่ นีไ้ ป เรอื่ ยๆ
3. มกี ารหมุนเวยี นปัจจยั การผลติ กอ่ ใหเ้ กดิ การกระจายรายไดท้ ว่ั ถงึ การขยายตวั ในการผลติ ของกจิ การหนึ่ง จะกอ่ ใหเ้ กดิ ความตอ้ งการปัจจยั การผลติ เพมิ่ ขนึ้ ดงั น้ันผูผ้ ลติ ปัจจยั การผลติ ทเี่ กยี่ วเนื่อง ยอ่ มจะตอ้ งขยาย การผลติ ตามไปดว้ ยแตก่ จิ การผลติ จะเกดิ ปรากฏการณเ์ ชน่ นีไ้ ด ้ ยอ่ ม จะตอ้ งอาศยั ระบบการจดั จาหน่าย หรอื การตลาดทเี่ ขม้ แข็งสามารถทาให ้ ผลติ ภณั ฑท์ ผี่ ลติ ขนึ้ มาจาหน่ายออกไปสแู่ หลง่ ตา่ งๆ ไดร้ ฐั บาลปัจจบุ นั จงึ มุ่งเนน้ การสง่ เสรมิ งานดา้ นการตลาดมากทงั้ ตลาดในประเทศ และ ตา่ งประเทศ มกี ารสง่ เสรมิ การสง่ ออกเพอื่ นารายไดเ้ ขา้ ประเทศใหม้ ากขนึ้ และจะไดม้ าสรา้ งงานอาชพี ในประเทศไดเ้ พมิ่ ขนึ้ 4. การแขง่ ขนั ทางการตลาด ทาใหต้ น้ ทนุ ของสนิ คา้ และบรกิ ารเพมิ่ สงู ขนึ้ สงิ่ จงู ใจจากผลตอบแทนกาไรในการประกอบธรุ กจิ ตา่ งๆ ทาใหเ้ กดิ คแู่ ขง่ ขนั เพมิ่ ขนึ้ ในตลาดผลติ ภณั ฑห์ นึ่งๆ คแู่ ข่งขนั ตา่ งพยายามสรรหากจิ กรรมทาง การตลาดรูปแบบใหม่ๆ มาเรยี กรอ้ งความสนใจของลูกคา้ เพื่อใหผ้ ูบ้ รโิ ภค เกิดความพึงพอใจมากขึน้ ซงึ่ ผูผ้ ลิต ผูข้ าย จะพยายามผลกั ภาระไปสู่ ผูบ้ รโิ ภคปลายทาง ทาใหผ้ ูบ้ รโิ ภคตอ้ งจา่ ยค่าสนิ คา้ บรกิ ารตา่ งๆ ในราคาที่ สงู ขนึ้
หน้าท่ีการตลาด หนา้ ทที่ างการตลาด หมายถงึ กจิ กรรมทเี่ กดิ การเคลอื่ นยา้ ย สินคา้ หรอื ผลติ ภณั ฑข์ องบรษิ ทั ไปยงั ลูกคา้ หรอื ผูบ้ รโิ ภคเพื่อ ก่อใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงกรรมสทิ ธใิ ์ นสนิ คา้ หรอื ผลติ ภณั ฑ ์ เมื่อใดก็ตามที่การตลาดเป็ นระบบที่มีคุณภาพย่อมส่งผลให ้ ประชาชนสงั คมและชมุ ชนมคี ณุ ภาพไปดว้ ย หน้าทที่ างการตลาดแบง่ เป็ น 3 หน้าทหี่ ลกั 1. หนา้ ทกี่ ารตลาดทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั สนิ คา้ 2. หนา้ ทกี่ ารตลาดทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การ กระจายสนิ คา้ 3. หนา้ ทกี่ ารตลาดทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การ อานวยความสะดวก
หน้าทกี่ ารตลาดทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั สนิ คา้ 1. หนา้ ทกี่ ารจดั การเกยี่ วกบั สนิ คา้ และบรกิ าร คอื การดาเนินการเกยี่ วกบั การเปลยี่ นแปลงกรรมสทิ ธใิ ์ นสนิ คา้ และ บรกิ าร เพื่อใหเ้ กดิ ความพอใจและตรงกบั ความตอ้ งการของ ผูบ้ รโิ ภคหรอื ลูกคา้ มากที่สุด ซึง่ วิธีที่จะจัดการในเรอื่ งนี้มี ดงั ตอ่ ไปนี้ 1.1การพัฒนาและกาหนดมาตรฐานสินคา้ และบรกิ าร (Development and StandardGoods) หรอื ทเี่ รยี กวา่ “ดี เวลลอบเมนท ์ แอนด ์ แสตนดารด์ กูด๊ ” หนา้ ทีโ่ ดยตรงของ การตลาด คือ การจดั หาสินคา้ และบรกิ ารใหต้ รงกบั ควา ม ตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภค โดยการพฒั นาและกาหนดสินคา้ ให ้ ทนั สมยั กาหนดรายละเอยี ดของสนิ คา้ และบรกิ าร ไม่ว่าจะเป็ น คุณภาพ ปรมิ าณ ลกั ษณะ รูปรา่ งและมาตรฐานตามกาหนด ซงึ่ จะตอ้ งมีการศึกษาหาขอ้ มูล เพื่อกาหนดสินคา้ ที่จะผลิต ออกมาตอบสนองความตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภค 1.2 การขาย (Selling ) หรอื ทเี่ รยี กวา่ “เซลลล์ งิ่ ” หนา้ ที่ โดยตรงของการตลาด คอื การจดั ใหม้ กี ารถา่ ยโอน หรอื เปลยี่ นแปลงกรรมสทิ ธอิ ์ นั จาเป็ นตอ่ การหมุนเวยี นสนิ คา้ และ บรกิ าร ทาใหเ้ กดิ ความคลอ่ งตวั ดา้ นธรุ กจิ ทดี่ าเนินการอยู่ ซงึ่ อาจจะมเี จา้ หนา้ ทฝี่ ่ ายขายตดิ ตอ่ โดยตรง หรอื อาจจะมกี าร ประสานงานกนั ทางโทรศพั ทห์ รอื ระบบสารสนเทศตา่ ง ๆ 1.3 การซอื้ (Buying) หรอื ทเี่ รยี กวา่ “บายองิ้ ” กจิ กรรมใน สว่ นของการซอื้ ก็คอื การศกึ ษาขอ้ มูลเกยี่ วกบั สนิ คา้ ทตี่ อ้ งการ ซอื้ ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของลกู คา้ เป็ นหลกั โดยในการซอื้ สนิ คา้ น้ันจะตอ้ งศกึ ษาหาขอ้ มูลกอ่ นวา่ มคี ณุ ภาพหรอื มาตรฐานมากนอ้ ยเพยี งใด
หน้าทกี่ ารตลาดทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การกระจายสนิ คา้ 2. หนา้ ทเี่ กยี่ วกบั แจกจา่ ยสนิ คา้ และบรกิ ารสนิ คา้ ทผี่ ลติ ขนึ้ มาแลว้ จาเป็ นตอ้ งมีการจดั ส่งไปยงั ผูบ้ รโิ ภคซงึ่ การเคลื่อนยา้ ยสินคา้ ดงั กล่าวตอ้ งอาศยั กจิ กรรมตา่ ง ๆ ดงั ตอ่ ไปนี้ 2.1 การขนส่ง (Transportation) หรอื ทเี่ รยี กวา่ “ทรานสปอตเตชน่ั ” สนิ คา้ จะไป ถงึ มือผูบ้ รโิ ภคหรอื ลูกคา้ ทอี่ ยู่ห่างไกล ซงึ่ กระจายกนั ในแต่ละทอ้ งถนิ่ ได ้ จะตอ้ งอาศยั การ ขนส่ง โดยจะตอ้ งเลือกวิธีการใหเ้ หมาะสมกบั สภาพของสินคา้ ผลิตภัณฑ ์ ระยะเวลาและสภาพของทอ้ งถนิ่ รวมทงั้ ความเหมาะสมของคา่ ใชจ้ า่ ยในการขนส่ง เชน่ สนิ คา้ ทมี่ นี า้ หนักและปรมิ าณมาก ควรจะเลอื กการขนสง่ โดยทางรถยนต ์ 2.2 การเก็บรกั ษาสนิ คา้ (Storage) หรอื ทเี่ รยี กวา่ “สตอเรจ” เป็ นกจิ กรรมเพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการใหแ้ ก่ลูกคา้ ดว้ ยการเก็บรกั ษาสินคา้ ไว ้ เพื่อใหส้ ินคา้ มี คณุ คา่ คุณภาพดสี ม่าเสมอ หรอื รอโอกาสทเี่ หมาะสมในการจาหน่ายใหแ้ กล่ ูกคา้ ซงึ่ การเก็บรกั ษาสนิ คา้ ของตลาดนั้นเป็ นไปใน 2 ลกั ษณะ ดงั นี้ 1. คลงั สนิ คา้ เอกชน (Private Warehouse) เชน่ ทดี่ นิ บา้ น เป็ นตน้ 2. คลงั สนิ คา้ สาธารณะหรอื คลงั สนิ คา้ ใหเ้ ชา้ (Public Warehouse) เชน่ กรณี สนิ คา้ ราคาตกต่า หนา้ ทกี่ ารตลาด (ผูข้ าย) จะเก็บสนิ คา้ น้ัน ๆ ไวก้ อ่ นจนกวา่ สนิ คา้ จะ มรี าคาสงู ขนึ้ จงึ จะนาออกมาจาหน่าย
หน้าทกี่ ารตลาดทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การ อานวยความสะดวก 3. หนา้ ทกี่ ารบรกิ ารใหค้ วามสะดวก เพื่อใหธ้ ุรกิจต่าง ๆ สามารถดาเนิ นต่อไป ไดอ้ ย่างม่ันคง และ ถาวร การตลาดจึงตอ้ งใหก้ ารบรกิ ารและอานวยความสะดวกใหก้ บั ธรุ กจิ ต่าง ๆ ไดแ้ ก่ ดา้ นการเงนิ (Finance) การรบั ความเสยี่ ง (Risk Bearing) ขอ้ มูลดา้ นตลาด (Market Information) การใหบ้ รกิ าร ด ้า น ก า ร จัด ก า ร แ ล ะ ก า รใ ห ้ค า แ น ะ น า ป รึก ษ า (Management Services and Counseling)
ผูจ้ ดั ทา นาย สหสั รรษ จนั ทรฮ์ ง ปวส คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: