แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นอำเภอเชียงคาน

47 ประวัติและควำมเปน็ มำภมู ิปัญญำท้องถิ่น กำรทำขนมขำ้ วนำงเล็ด สำนกั งำน กศน.จังหวดั เลย ปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลธำตุ กศน.อำเภอเชียงคำน ช่อื เจ้ำของภูมิปัญญำท้องถ่นิ นางบัวภา สอนพรม ข้อมูลกำรตดิ ต่อ บา้ นธาตุ หมทู่ ี่ 185/2 หมู่ท่ี 12 ตาบลธาตุ อาเภอเชียงคาน จงั หวดั เลย ประเภทภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่นิ ภูมิปญั ญาท้องถ่ินด้านโภชนาการ องคค์ วำมรใู้ นภมู ปิ ัญญำท้องถ่ิน - จุดเด่น เป็นภมู ิปญั ญาท้องถ่ินทน่ี าขา้ วเหนียวมาทอดทาเป็นขนม - มำตรฐำน/รำงวัลทไ่ี ด้รับ - - เนื้อหำสำระ นางบัวภา สอนพรม ได้ประกอบอาชีพการทาขนม ที่เรียกว่า ข้าวนางเล็ด ซึ่งเป็นภูมิ ปญั ญาทถี่ ูกถ่ายทอดมาจาก บิดา มารดา และได้ประกอบอาชีพนี้มาร่วม 20 ปี สร้างรายได้แก่ครอบครัว ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี - อ่ืนๆ ตำมควำมเหมำะสม มเี นือ้ หำสำระสอดคล้องกบั กำรศกึ ษำของ กศน.  กลุ่มการศึกษาเพ่ือพฒั นาทักษะชวี ติ  กลุ่มการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชมุ ชน  กล่มุ การศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ กลุ่มอาชพี เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์ อาชีพเฉพาะทาง พาณิชยกรรมและบริการ  กล่มุ การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน การประกอบอาชพี สาระการเรยี นรู้ ทักษะการเรยี นรู้ ความรูพ้ นื้ ฐาน ทกั ษะการดาเนินชีวิต การพัฒนาสงั คมและชุมชน ผู้บันทึก นางสาวปารย์ ฤทธ์ิทรงเมือง ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอรโ์ ทร 095-1685669 ผู้รบั รองขอ้ มูล (ผนู้ ำชมุ ชน) นายสเุ มท ทมุ สงคราม ตาแหน่ง กานันตาบลธาตุ เบอรโ์ ทร 081-0486810

48 ภำพประกอบ ภาพหน้าตรงเจ้าของภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน ภาพกจิ กรรมเด่นภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น ภาพเจ้าของดาเนนิ กจิ กรรมภูมิปญั ญาท้องถิ่น ภาพควิ อารโ์ ค้ดท่ีระบุพกิ ัด

49 แหล่งเรียนรู้ ตำบลนำซำ่ ว กศน.อำเภอเชียงคำน

50 ประวัตคิ วำมเปน็ มำแหลง่ เรยี นรู้ โคกหนองนำ 3 ข้ำวโคกหนองนำ สำนักงำน กศน.จงั หวดั เลย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลนำซำ่ ว กศน.อำเภอเชียงคำน จังหวัดเลย ชอื่ เจำ้ ของแหล่งเรียนรู้ นางวงเดือน ตางาม ข้อมูลกำรตดิ ตอ่ บ้านเลขที่ หมูท่ ่ี 9 บา้ นนาบอน ตาบลนาซา่ ว อาเภอเชียงคาน จงั หวดั เลย ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ แหลง่ เรยี นรู้ทางเศรษฐกิจพอเพยี งในท้องถ่ิน องคค์ วำมรใู้ นแหล่งเรยี นรู้ - จดุ เด่น เปน็ แหลง่ เรียนรูท้ ่ีขับเคล่อื นการพฒั นาพ้ืนทีต่ ้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวติ New Normal มหาดไทย เปิดตัวโครงการขบั เคล่อื นการพัฒนาพ้ืนท่ีต้นแบบการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต - มำตรฐำน/รำงวลั ท่ี - - เนื้อหำสำระ โคก หนอง นา โมเดล คือ การจัดการพ้ืนท่ีซึ่งเหมาะกับพื้นที่การเกษตร ซึ่งเป็น ผสมผสานเกษตรทฤษฎใี หม่ เขา้ กบั ภูมิปัญญาพื้นบา้ นทีอ่ ยู่อย่างสอดคลอ้ งกบั ธรรมชาตใิ นพ้นื ที่น้ันๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เป็นการที่ให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเองโดยมี มนุษยเ์ ปน็ ส่วนส่งเสริมให้มันสาเร็จเร็ว ข้ึน อย่างเป็นระบบ ซ่ึงโคก-หนอง-นา โมเดล ซึ่งเป็นแนวทางทาเกษตรอินทรีย์และการสร้างชีวิตที่ย่ังยืน 1. โคก พื้นท่ีสูง ดินท่ีขุดทาหนองน้านั้นให้นามาทาโคก บนโคกปลูก “ป่ำ 3 อย่ำง ประโยชน์ 4 อย่ำง” ตามแนวทางพระราชดาริ/ปลูกพืช ผัก สวนครัว เลี้ยงหมู เล้ียงไก่ เลี้ยงปลา ทาให้พออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น เป็นเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพ้ืนฐาน ก่อนเข้าสู่ขั้นก้าวหน้า คือ ทาบุญ ทาทาน เก็บรักษา ค้าขาย และเช่อื มโยงเป็นเครือข่าย/ปลกู ทอ่ี ยอู่ าศยั ใหส้ อดคล้องกบั สภาพภูมิประเทศ และภมู ิอากาศ 2. หนอง หนองน้าหรือแหล่งน้า ขุดหนองเพ่ือกักเก็บน้าไว้ใช้ยามหน้าแล้งหรือจาเป็น และเป็นท่ีรับ น้ายามน้าท่วม (หลุมขนมครก) /ขุด “คลองไส้ไก่” หรือคลองระบายน้ารอบพื้นที่ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยขุดให้คดเคี้ยวไปตามพ้ืนที่เพื่อให้น้ากระจายเต็มพ้ืนท่ีเพิ่มความชุ่มช้ืน ลดพลังงานในการรดน้าต้นไม้/ ทา ฝายทดน้า เพ่ือเก็บน้าเข้าไว้ในพ้ืนท่ีให้มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพื้นท่ีโดยรอบไม่มีการกักเก็บน้า น้าจะ หลากลงมายังหนองน้า และคลองไส้ไก่ ให้ทาฝายทดน้าเก็บไว้ใช้ยามหน้าแล้ง/พัฒนาแหล่งน้าในพ้ืนที่ ท้ัง การขดุ ลอก หนอง คู คลอง เพื่อกักเก็บน้าไว้ใช้ยามหนา้ แล้ง และเพ่มิ การระบายนา้ ยามนา้ หลาก 3. พ้ืนที่ นานั้นให้ปลูกข้าวอินทรีย์พ้ืนบ้าน โดยเริ่มจากการฟ้ืนฟูดิน ด้วยการทาเกษตรอินทรีย์ ยั่งยืนคืนชีวิตเล็กๆ หรือจุลินทรีย์กลับคืนแผ่นดินใช้การควบคุมปริมาณน้าในนาเพื่อคุมหญ้า ทาให้ปลอด สารเคมีได้ ปลอดภัยท้งั คนปลูก คนกิน/ยกคันนาใหม้ ีความสงู และกวา้ ง เพ่อื ใช้เป็นทร่ี ับน้า ยามน้าท่วม ปลกู พชื อาหารตามคนั นา - อ่นื ๆ ตำมควำมเหมำะสม -

51 มีเนอื้ หำสำระสอดคล้องกับกำรศึกษำของ กศน.  กลมุ่ การศึกษาเพื่อพัฒนาทกั ษะชวี ิต  กลุ่มการศึกษาเพ่ือพฒั นาสังคมและชมุ ชน  กลมุ่ การศึกษาเพ่ือพฒั นาอาชีพ กลุ่มอาชพี เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์ อาชพี เฉพาะทาง พาณชิ ยกรรมและบริการ  กล่มุ การศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน การประกอบอาชีพ สาระการเรียนรู้ ทักษะการเรียนรู้ ความร้พู ้นื ฐาน ทกั ษะการดาเนินชีวิต การพัฒนาสงั คมและชุมชน ผู้บันทกึ นางอรุณ สาลาสตุ า ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอรโ์ ทร 097-3193399 ผรู้ ับรองขอ้ มูล (ผู้นำชมุ ชน) นายบญุ พลิว้ ศรตี ือ้ ตาแหน่ง ผูใ้ หญบ่ ้าน หมู่ที่ 9 เบอรโ์ ทร 087-2152098

52 ภำพประกอบ ภาพหน้าตรงเจา้ ของแหล่งเรียนรู้ ภาพกจิ กรรมเด่นแหลง่ เรียนรู้ ภาพเจา้ ของดาเนินกจิ กรรมแหลง่ เรียนรู้ ภาพควิ อาร์โคด้ ที่ระบุพิกัด

53 ประวัติควำมเปน็ มำแหล่งเรียนรู้ โคกหนองนำ ผ้ใู หญณ่ รงค์ หิดกรวย สำนักงำน กศน.จังหวัดเลย ปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลนำซำ่ ว กศน.อำเภอเชยี งคำน จงั หวดั เลย ชอื่ เจำ้ ของแหล่งเรียนรู้ นายณรงค์ หดิ กรวย ข้อมลู กำรติดต่อ บา้ นเลขท่ี 154/1 หมูท่ ่ี 13 บา้ นศรีโพนแทน่ ตาบลนาซา่ ว อาเภอเชยี งคาน จังหวัดเลย ประเภทแหล่งเรียนรู้ แหลง่ เรียนรทู้ างเศรษฐกิจพอเพียงในทอ้ งถน่ิ องค์ควำมรใู้ นแหล่งเรียนรู้ - จุดเด่น โครงการขับเคลื่อนการพฒั นาพน้ื ทต่ี ้นแบบการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ New Normal มหาดไทย เปิดตวั โครงการขบั เคลื่อนการพัฒนาพ้นื ท่ีตน้ แบบการพัฒนาคณุ ภาพชีวิต - มำตรฐำน/รำงวลั ท่ี - - เนื้อหำสำระ โคก หนอง นา โมเดล คือ การจัดการพ้ืนท่ีซึ่งเหมาะกับพื้นท่ีการเกษตร ซึ่งเป็นผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ เข้ากับภมู ิปญั ญาพ้ืนบา้ นทอี่ ย่อู ย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพ้ืนที่น้นั ๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เปน็ การที่ใหธ้ รรมชาติจัดการตัวมันเองโดยมี มนุษย์เป็นส่วนส่งเสริมให้มันสาเร็จเร็ว ขึ้น อย่างเป็นระบบ ซึ่งโคก-หนอง-นา โมเดล ซ่ึงเป็นแนวทางทาเกษตรอินทรีย์และการสร้างชีวิตที่ย่ังยืน 1. โคก พื้นท่ีสูง ดินท่ีขุดทาหนองน้าน้ันให้นามาทาโคก บนโคกปลูก “ป่ำ 3 อย่ำง ประโยชน์ 4 อย่ำง” ตามแนวทางพระราชดาริ/ปลูกพืช ผัก สวนครัว เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ทาให้พออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น เป็นเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพ้ืนฐาน ก่อนเข้าสู่ข้ันก้าวหน้า คือ ทาบุญ ทาทาน เก็บรักษา ค้าขาย และ เชอื่ มโยงเป็นเครือขา่ ย/ปลูกท่อี ยู่อาศยั ใหส้ อดคลอ้ งกับสภาพภมู ปิ ระเทศ และภมู อิ ากาศ 2. หนอง หนองน้าหรือแหล่งน้า ขุดหนองเพ่ือกักเก็บน้าไว้ใช้ยามหน้าแล้งหรือจาเป็นและเป็นท่ีรับน้ายาม น้าท่วม (หลุมขนมครก)/ขุด “คลองไส้ไก่” หรือคลองระบายน้ารอบพ้ืนที่ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยขุดให้คด เค้ียวไปตามพ้ืนท่ีเพื่อให้น้ากระจายเต็มพ้ืนที่เพิ่มความชุ่มชื้น ลดพลังงานในการรดน้าต้นไม้/ทา ฝายทดน้า เพ่ือ เก็บน้าเข้าไว้ในพื้นที่ให้มากที่สุด โดยเฉพาะเม่ือพื้นท่ีโดยรอบไม่มีการกักเก็บน้า น้าจะหลากลงมายังหนองน้า และคลองไส้ไก่ ให้ทาฝายทดน้าเก็บไว้ใช้ยามหน้าแล้ง/พัฒนาแหล่งน้าในพื้นที่ ทั้งการขุดลอก หนอง คู คลอง เพอ่ื กักเกบ็ นา้ ไวใ้ ช้ยามหน้าแลง้ และเพ่ิมการระบายน้ายามน้าหลาก 3. นำ พ้ืนท่ีนาน้ันให้ปลูกข้าวอินทรีย์พ้ืนบ้าน โดยเร่ิมจากการฟ้ืนฟูดิน ด้วยการทาเกษตรอินทรีย์ย่ังยืน คืนชีวิตเล็กๆ หรือจุลินทรีย์กลับคืนแผ่นดินใช้การควบคุมปริมาณน้าในนาเพื่อคุมหญ้า ทาให้ปลอดสารเคมีได้ ปลอดภัยทั้งคนปลูก คนกิน/ยกคันนาให้มีความสูงและกว้าง เพื่อใช้เป็นท่ีรับน้ายามน้าท่วมปลูกพืชอาหารตาม คันนา - อืน่ ๆ ตำมควำมเหมำะสม -

54 มเี นอ้ื หำสำระสอดคล้องกบั กำรศึกษำของ กศน.  กลุ่มการศึกษาเพื่อพฒั นาทักษะชวี ติ  กลมุ่ การศึกษาเพ่ือพฒั นาสังคมและชุมชน  กล่มุ การศึกษาเพ่ือพฒั นาอาชีพ กลมุ่ อาชพี เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ความคดิ สรา้ งสรรค์ อาชพี เฉพาะทาง พาณิชยกรรมและบริการ  กล่มุ การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน การประกอบอาชพี สาระการเรยี นรู้ ทักษะการเรยี นรู้ ความร้พู น้ื ฐาน ทักษะการดาเนินชีวติ การพัฒนาสงั คมและชมุ ชน ผ้บู นั ทกึ นางสายพิณ ยอดสิงห์ ตาแหน่ง ครู ศรช. เบอร์โทร 080-0429645 ผูร้ ับรองขอ้ มูล (ผนู้ ำชุมชน) นายณรงค์ หดิ กรวย ตาแหนง่ ผู้ใหญ่บ้านหมทู่ ่ี 13 เบอรโ์ ทร 089-9076805

55 ภำพประกอบ ภาพหนา้ ตรงเจา้ ของแหลง่ เรียนรู้ ภาพกจิ กรรมเดน่ แหลง่ เรียนรู้ ภาพเจา้ ของดาเนินกจิ กรรมแหล่งเรยี นรู้ ภาพควิ อาร์โคด้ ที่ระบุพิกัด

56 ประวตั แิ ละควำมเป็นมำแหลง่ เรยี นรู้ ศนู ยเ์ รียนรูก้ ำรเพม่ิ ประสิทธิภำพกำรผลติ สินค้ำกำรเกษตร (ศพก.) บ้ำนโพน จงั หวดั เลย สำนักงำน กศน.จงั หวดั เลย ปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลนำซ่ำว กศน.อำเภอเชยี งคำน จังหวดั เลย ชือ่ เจำ้ ของแหล่งเรียนรู้ นายทาเนยี บ อารยศลิ ปธร ขอ้ มูลกำรติดตอ่ บา้ นเลขท่ี 41 หมู่ท่ี 3 บ้านโพน ตาบลนาซ่าว อาเภอเชยี งคาน จงั หวัดเลย ประเภทแหล่งเรยี นรู้ แหลง่ เรยี นรเู้ ศรษฐกจิ พอเพียงในทอ้ งถน่ิ องค์ควำมรู้ในแหล่งเรียนรู้ - จดุ เด่น 1. เปน็ ศนู ยก์ ลางผลิตเมล็ดพันธข์ า้ ว/แปลรปู ข้าวครบวงจร 2. เป็นศูนย์เรียนรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง ไรน่ าสวนผสม/แปลงใหญข่ า้ วต้นแบบของจังหวดั เลย 3. เป็นธนาคารเมล็ดพันธข์ ้าวชมุ ชนตาบลนาซา่ ว 4. เป็นธนาคารโคกระเบือตามแนวพระราชดาริ 5. เป็นแหล่งเรยี นรปู้ ระจาชมุ ชนเพอื่ ใหเ้ ขา้ ศึกษาดูงาน - มำตรฐำน/รำงวัลท่ี - ไดร้ ับรางวัลที่ 1 ประมงอาสาดเี ดน่ ระดบั จงั หวัด ปี 2543 - ได้รับรางวลั ที่ 1 ศูนย์สงเสริมและผลติ เมล็ดพันธุข์ ้าวชุมชนดีเด่นระดับเขต ปี 2557 - รบั รางวลั ท่ี 4 ศนู ยส์ งเสริมและผลติ เมล็ดพันธข์ุ ้าวชุมชนดเี ดน่ ระดัประเทศ ปี 2557 - ไดร้ ับรางวัลท่ี 1 ศูนย์สง่ เสรมิ และผลิตเมลด็ พันธข์ า้ วชุมชนดเี ดน่ ระดับเขต ปี 2558 - ได้รบั รางวลั ท่ี 1 ศนู ย์ส่งเสรมิ และผลิตเมลด็ พนั ธ์ข้าวชมุ ชนดเี ดน่ ระดบั จังหวดั ปี 2561 - ได้รับรางวลั ท่ี 1 ศูนย์ส่งเสริมและผลติ เมลด็ พันธ์ข้าวชมุ ชนดีเดน่ ระดบั เขต ปี 2561 - ได้รบั รางวลั ที่ 2 ศนู ย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธ์ข้าวชุมชนดีเดน่ ระดบั ประเทศ ปี 2561 - ได้รับรางวัลท่ี 1 ประเภท หนว่ ยงานภาคเี ครือข่ายภาคเอกชนดเี ดน่ ระดับจงั หวัด ของสานักงาน กศน.จงั หวัดเลย ประจาปี 2564 - เนอ้ื หำสำระ ศูนยเ์ รียนรกู้ ารเพิ่มประสทิ ธภิ าพการผลิตสินค้าเกษตร จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของคณะ รักษาความสงบแห่งชาติ ท่ีต้องการให้มีศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตรในระดับชุมชน ท่ีเป็น เคร่ืองมือช่วยแก้ไข ปัญหาในระดับชุมชน สร้างความรู้ ความ เข้าใจ กับเกษตรกรในพื้นที่ ให้ได้เรียนรู้จากผู้ร่วมอาชีพ เดียวกันที่ ประสบความสาเร็จ ช่วยเหลือและเรียนรู้จากกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรและชุ มน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้กาหนดให้จัดตั้งศูนย์ เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ต้นแบบ อาเภอละ 1 ศูนย์ จังหวัดสกลนครได้ดาเนินการจัดต้ังศูนย์เรียนรู้การ เพิ่มประสิทธิภาพการ ผลติ สินค้าเกษตร (ศพก.) ตน้ แบบ คัดเลือกโดยใชห้ ลกั การวเิ คราะห์ พน้ื ที่ – คน - สินค้า ตาม แนวทาง MRCF

57 ประกอบกับการวิเคราะห์ Zoning ร่วมกับ ความต้องการของเกษตรกร พัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่อง การ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรในพ้ืนที่ที่ สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทของชุมชนที่มีเกษตรกร ต้นแบบเป็นผบู้ ริหารจดั การศูนย์ รวมทง้ั มแี ปลงเรียนรอู้ าเภอละ 1 ศนู ย์ - อนื่ ๆ ตำมควำมเหมำะสม - มเี น้อื หำสำระสอดคล้องกบั กำรศกึ ษำของ กศน.  กลุ่มการศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาทักษะชวี ิต  กลุม่ การศึกษาเพอื่ พัฒนาสังคมและชุมชน  กลุ่มการศึกษาเพือ่ พฒั นาอาชีพ กลุ่มอาชีพ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์ อาชีพเฉพาะทาง พาณชิ ยกรรมและบริการ กลมุ่ การศึกษาขั้นพื้นฐาน สาระการเรียนรู้ ทักษะการเรยี นรู้ ความรพู้ นื้ ฐาน การประกอบอาชีพ ทกั ษะการดาเนนิ ชีวิต การพฒั นาสงั คมและชุมชน ผบู้ นั ทกึ นางอรุณ สาลาสตุ า ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล เบอรโ์ ทร 097-3193399 ผู้รบั รองขอ้ มูล (ผูน้ ำชุมชน) ตาแหนง่ ผ้ใู หญบ่ ้านหมทู่ ่ี 13 เบอรโ์ ทร 089-9076805

58 ภำพประกอบ ภาพหนา้ ตรงเจา้ ของแหล่งเรียนรู้ ภาพกจิ กรรมเด่นแหลง่ เรียนรู้ ภาพเจา้ ของดาเนินกจิ กรรมแหล่งเรยี นรู้ ภาพควิ อาร์โคด้ ที่ระบุพิกัด

59 ประวตั แิ ละควำมเป็นมำแหลง่ เรยี นรู้ ศูนย์เรียนรปู้ ระเพณีผีขนนำ้ บำ้ นนำซ่ำว สำนักงำน กศน.จงั หวัดเลย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลนำซ่ำว กศน.อำเภอเชยี งคำน จงั หวดั เลย ช่ือเจำ้ ของแหลง่ เรยี นรู้ นายประสิทธิ อองภา ข้อมูลกำรติดต่อ บา้ นเลขท่ี 21 หมทู่ ี่ 1 บา้ นนาซ่าว ตาบลนาซ่าว อาเภอเชียงคาน จังหวดั เลย ประเภทแหล่งเรยี นรู้ พิพธิ ภัณฑ์ องคค์ วำมร้ใู นแหล่งเรียนรู้ - จุดเด่น เป็นแหล่งเรียนรู้ในชุมชนท่ีรวบรวมประวัติความเป็นมาของประเพณีผีขนน้าบ้านนาซ่าวและ เปน็ แหล่งอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรม ท้องถิน่ ในชุมชน อีกทั้งยังเปน็ แหล่งรวบรวมอปุ กรณ์เคร่ืองใช้โบราณที่ชาวบ้านใน ชุมชนช่วยกันรวบรวมและบริจาค เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปศึกษาและเรียนรู้ในศูนย์เรียนรู้ประเพณีผีขนน้า บา้ นนาซ่าว - มำตรฐำน/รำงวลั ที่ไดร้ ับ อาเภอเชียงคานไดย้ กย่องใหเ้ ป็นแหล่งเรยี นรู้ในตาบลนาซา่ ว - เนอื้ หำสำระ เป็นแหล่งอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และอุปกรณเ์ ครอ่ื งใชโ้ บราณ - อ่ืนๆ ตำมควำมเหมำะสม - มเี นื้อหำสำระสอดคลอ้ งกบั กำรศกึ ษำของ กศน.  กลุ่มการศึกษาเพื่อพัฒนาทกั ษะชีวิต  กลมุ่ การศึกษาเพ่ือพัฒนาสงั คมและชมุ ชน  กลมุ่ การศึกษาเพื่อพฒั นาอาชีพ กลุม่ อาชพี เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ความคดิ สร้างสรรค์ อาชีพเฉพาะทาง พาณิชยกรรมและบริการ  กลุ่มการศึกษาขนั้ พื้นฐาน สาระการเรยี นรู้ ทักษะการเรยี นรู้ ความรู้พ้นื ฐาน การประกอบอาชพี ทกั ษะการดาเนินชีวติ การพฒั นาสังคมและชมุ ชน ผู้บนั ทกึ นางเรวดี สืบสาย ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอรโ์ ทร 091-8318909 ผู้รบั รองขอ้ มูล (ผ้นู ำชุมชน) นายประสทิ ธ อองภา ตาแหนง่ ผใู้ หญบ่ ้านหม่ทู ่ี 1 เบอร์โทร 086-2341635

60 ภำพประกอบ ภาพหนา้ ตรงเจา้ ของแหล่งเรียนรู้ ภาพกจิ กรรมเด่นแหลง่ เรียนรู้ ภาพเจา้ ของดาเนินกจิ กรรมแหล่งเรยี นรู้ ภาพควิ อารโ์ คด้ ที่ระบุพิกัด

61 ประวัตคิ วำมเป็นมำแหลง่ เรยี นรู้ ศูนย์เศรษฐกิจพอเพยี งบำ้ นนำซ่ำว สำนักงำน กศน.จังหวดั เลย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลนำซ่ำว กศน.อำเภอเชยี งคำน จงั หวดั เลย ชื่อเจำ้ ของแหล่งเรียนรู้ นายณรงค์ หดิ กรวย ข้อมูลกำรติดตอ่ บา้ นเลขที่ 154/1 หม่ทู ี่ 13 บา้ นศรีโพนแท่น ตาบลนาซา่ ว อาเภอเชยี งคาน จังหวัดเลย ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ แหลง่ เรียนรู้ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงในท้องถ่นิ องค์ควำมรใู้ นแหล่งเรียนรู้ - จดุ เดน่ - - มำตรฐำน/รำงวลั ท่ี - ไดร้ ับรางวัลที่ 2 ศูนย์ดีเดน่ พระราชทานปี 2559 ระดับประทศ - ได้รบั รางวลั ท่ี 3 ศนู ยด์ ีเด่นพระราชทานปี 2562 ระดับเขต - ได้รบั รางวลั ท่ี 4 ศูนยด์ เี ด่นพระราชทานปี 2563 ระดบั จังหวัด - เนื้อหำสำระ - - อน่ื ๆ ตำมควำมเหมำะสม - มเี นอื้ หำสำระสอดคล้องกับกำรศกึ ษำของ กศน.  กลุ่มการศึกษาเพื่อพัฒนาทกั ษะชีวิต  กลมุ่ การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชมุ ชน  กลุ่มการศึกษาเพื่อพฒั นาอาชีพ กลมุ่ อาชีพ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์ อาชีพเฉพาะทาง พาณชิ ยกรรมและบริการ  กลมุ่ การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน สาระการเรียนรู้ ทักษะการเรียนรู้ ความร้พู ้นื ฐาน การประกอบอาชีพ ทักษะการดาเนนิ ชีวติ การพัฒนาสังคมและชมุ ชน ผู้บันทกึ นางเรวดี สบื สาย ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอรโ์ ทร 091-8318909 ผู้รับรองขอ้ มลู (ผูน้ ำชุมชน) นายณรงค์ หดิ กรวย ตาแหน่ง ผู้ใหญบ่ า้ นหมทู่ ี่ 13 เบอรโ์ ทร 089-9076805

62 ภำพประกอบ ภาพหนา้ ตรงเจา้ ของแหลง่ เรียนรู้ ภาพกจิ กรรมเด่นแหลง่ เรยี นรู้ ภาพเจา้ ของดาเนินกจิ กรรมแหล่งเรียนรู้ ภาพคิวอารโ์ คด้ ท่ีระบุพกิ ดั

63 แหล่งเรียนรู้ ตำบลบุฮม กศน.อำเภอเชยี งคำน

64 ประวัตแิ ละควำมเปน็ มำแหลง่ เรียนรู้ศนู ย์เศรษฐกจิ พอเพียงบ้ำนผำแบน่ หมู่ที่ 6 สำนักงำน กศน.จังหวดั เลย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลบุฮม กศน.อำเภอเชยี งคำน ชอ่ื เจ้ำของแหลง่ เรียนรู้ นายสันติชยั แสงดี ขอ้ มูลกำรติดตอ่ หมู่ 6 บา้ นผาแบ่น ตาบลบุฮม อาเภอเชียงคาน จงั หวดั เลย โทรศพั ท์ 089-9377509 ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ แหล่งเรยี นรู้เศรษฐกิจพอเพียงในท้องถนิ่ องค์ควำมรูใ้ นแหล่งเรียนรู้ - จุดเด่น การเลี้ยงปลา – กบ กลุ่มพชื ผักสวนครัว แปลงสาธิตมะม่วงปลอดสารพิษ สวนผลไมผ้ สม - มำตรฐำน/รำงวลั ทีไ่ ด้รบั - - เนือ้ หำสำระ เป็นสวนเกษตรทฤษฏีใหม่ตามแนวทางพระราชดาริ - อ่ืนๆ ตำมควำมเหมำะสม มเี น้ือหำสำระสอดคล้องกับกำรศึกษำของ กศน.  กลมุ่ การศึกษาเพื่อพฒั นาทักษะชวี ติ  กลุม่ การศึกษาเพื่อพัฒนาสงั คมและชุมชน  กลมุ่ การศึกษาเพื่อพฒั นาอาชีพ กลมุ่ อาชีพ เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์ อาชีพเฉพาะทาง พาณชิ ยกรรมและบริการ  กลุม่ การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน สาระการเรยี นรู้ ทักษะการเรียนรู้ ความรู้พืน้ ฐาน การประกอบอาชพี ทกั ษะการดาเนินชีวิต การพัฒนาสงั คมและชมุ ชน ผู้บันทกึ นายเอนก จันตะพรมมา ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล เบอร์โทร 098-1728289 ผู้รับรองขอ้ มูล (ผู้นำชมุ ชน) นายสนั ติชยั แสงดี ตาแหนง่ กานัน เบอรโ์ ทร 089-9377509

65 ภำพประกอบ ภาพหน้าตรงเจา้ ของแหล่งเรียนรู้ ภาพกิจกรรมเด่นแหลง่ เรียนรู้ ภาพเจา้ ของดาเนนิ กจิ กรรมแหลง่ เรียนรู้ ภาพควิ อารโ์ คด้ ท่รี ะบพุ ิกัด

66 ประวตั แิ ละควำมเป็นมำแหลง่ เรยี นรู้ สวนฝร่งั อมั พิกำ สำนักงำน กศน.จงั หวดั เลย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลบุฮม กศน.อำเภอเชยี งคำน ช่ือเจ้ำของแหล่งเรียนรู้ นางสาวอมั พิกา สมิ ประเสริฐ ข้อมูลกำรตดิ ต่อ หมู่ 8 บ้านผาแบ่น ตาบลบฮุ ม อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โทรศัพท์ 064-4127808 ประเภทแหล่งเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพยี งในทอ้ งถิ่น องค์ควำมรู้ในแหล่งเรยี นรู้ - จุดเดน่ การปลูกฝรั่งพันธ์กุ ิมจู - มำตรฐำน/รำงวลั ทไี่ ด้รับ - - เนื้อหำสำระ ฝร่ังกิมจู มีถ่ินกาเนิดในอเมริกาใต้ สามารถปลูกได้ดีในประเทศที่ภูมิอากาศค่อนข้าง อบอุ่นไปถงึ พนื้ ทร่ี ้อนหรือก่ึงร้อน ผลของฝรัง่ จะมรี ูปทรงชะลูดด้านข้วั กน้ ผลบานออกเหมือนลูกแพรขนาด ผลไม่ใหญ่มาก เปลือกผลบาง ใจกลางผลมเี มลด็ ขนาดเลก็ จานวนมาก เป็นต้นไม้ทมี่ ีความทนทานต่อสภาพ อากาศท่ีแห้งแล้งได้ดี ให้ผลผลิตสม่าเสมอในท่ีมีแสงแดดส่องถึง ต้องการปริมาณน้าฝนปานกลาง หาก นาไปลูกในท่ีท่ีมีฝนตกชุกเกินไปอาจทาให้ผลผลิตน้อย สามารถปลูกได้ในดินทุกสภาพและทุกภาคของ ประเทศไทย เพียงแต่ว่าถ้าเป็นดินเหนียวควรต้องปรับสภาพแปลงให้ยกร่องสูง เพ่ือไม่ให้น้าขังหรือดินฉ่า เกินไป แต่หากปลูกในดนิ ท่ีมีธาตุอาหารเยอะ ร่วนซุย โปร่ง กจ็ ะยิ่งให้ผลผลติ ดีครับ การขยายพันธุ์ฝรั่งกิมจู ก็เหมือนฝร่ังทั่วๆ ไปครับ ท่ีสามารถทาได้หลายวิธี แต่ที่พวกเรานิยมกันสุดก็ คงหนีไม่พ้นการตอน เพราะได้ผลดีกว่าวิธีอ่ืนๆ ครับ แค่ใช้มีดคมๆ คว่ันก่ิงใต้ข้อเล็กน้อย โดยให้รอยคว่ัน ด้านล่างหา่ งจากรอยคว่นั ด้านบนเท่ากบั เสน้ ผา่ ศูนย์กลางของกิ่งครับ แล้วจึงลอกเปลือกไม้ออกแล้วขูดเย่ือ เจริญออกให้หมด แล้วห่อด้วยตุ้มตอนมัดเชือกให้แน่นหนาปล่อยไว้ 1 เดือน รอรากงอกจนเป็นสีน้าตาล แล้วจึงตดั ออกจากต้นตอครบั หลังจากนัน้ ใหท้ อนใบและก่งิ ออก ก่อนทจ่ี ะนาไปดดู น้าไว้ให้ชุ่มก่อนนาไปชา ในถุงเพาะชาต่อไป จอจนลาต้นตั้งตรงจึงนาไปลงแปลงปลูกพร้อมทาไม้หลักกันโยกประคองต้นไว้ด้วยนะ ครบั เคลด็ ลบั ในการดแู ลต้นฝร่ังกิมจูคือ ไม่ควรพรวนดินลึก เพราะจะทาให้รากขาดได้ และหลังจากท่ีปลูก ลงแปลงแล้วประมาณ 180 วัน เราจะหาไม้ไผ่ยาว 1 เมตรปักไว้เพ่ือยึดกิ่งที่ออกผล หรืออาจจะผูกข้ัวผล ฝร่ังกับไม้ปักไปเลยก็ได้ เพ่ือไม่ให้ผลฝร่ังที่มีน้าหนักมาก เป็นภาระให้แก่ลาต้นฝรั่งเองครับ และอย่าลืมตัด แต่งก่ิง เพื่อให้ต้นได้รับแสงแดดเต็มท่ี และเพ่ิมโอกาสในการแตกกิ่งอ่อนอีกด้วย โดยเราควรทาอย่าน้อยปี ละครัง้ เพื่อกระตุ้นให้ต้นไม้แตกตาดอกได้เพ่ิม และหากอยากเก็บเกี่ยวผลผลิตเร็วข้ึน ก็ควรหมั่นสลัดใบให้ ตน้ ไม้ และให้เลี้ยงผลฝรง่ั เพยี ง 2 ผลต่อก่งิ หากแตกผลมากกว่าน้ันใหป้ ลิดทิง้ เลยครับ

67 ปกตแิ ล้วฝรั่งกิมจูทข่ี ยายพันธโุ์ ดยการตอนกิง่ จะใหผ้ ลผลติ ภายใน 1 ปี โดยเราจะเร่มิ หอ่ ผลฝรั่งหลังจาก ดอกเริ่มบานแลว้ 4 สัปดาห์ แต่ควรพน่ สารกาจดั เชอื้ ราและแมลงก่อนทจ่ี ะทาการห่อ และรอเวลาประมาณ 5 เดือนเราจะเร่ิมเก็บเกี่ยวไปขายได้ สาหรับเพื่อนๆ เกษตรกรท่ีขายในตลาดบ้านเราก็เก็บขายได้เลยครับ แตห่ ากจะส่งออกก็ต้องล้างทาความสะอาด ใสต่ าข่ายโฟม ใสก่ ลอ่ งกระดาษ แล้วนาส่งต่อไปครับ - อ่นื ๆ ตำมควำมเหมำะสม มีเน้ือหำสำระสอดคล้องกบั กำรศกึ ษำของ กศน.  กลุ่มการศึกษาเพื่อพัฒนาทกั ษะชวี ติ  กลุ่มการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชมุ ชน  กล่มุ การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ กลมุ่ อาชพี เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การประกอบอาชีพ อาชพี เฉพาะทาง พาณิชยกรรมและบริการ  กลมุ่ การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน สาระการเรียนรู้ ทกั ษะการเรยี นรู้ ความรพู้ ้นื ฐาน ทักษะการดาเนินชีวติ การพัฒนาสังคมและชมุ ชน ผบู้ ันทกึ นายเอนก จนั ตะพรมมา ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอร์โทร 098-1728289 ผรู้ บั รองขอ้ มูล (ผนู้ ำชมุ ชน) นายธวัชชัย บุญเรอื ง ตาแหน่ง ผใู้ หญบ่ า้ นหม่ทู ี่ 8 เบอร์โทร 083-3452806

68 ภำพประกอบ ภาพหนา้ ตรงเจ้าของแหลง่ เรียนรู้ ภาพกิจกรรมเด่นแหลง่ เรยี นรู้ ภาพคิวอาร์โค้ดทีร่ ะบุพกิ ัด

69 ประวตั แิ ละควำมเปน็ มำแหล่งเรียนรู้สวนจักรพล สำนกั งำน กศน.จังหวดั เลย ปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลบุฮม กศน.อำเภอเชียงคำน ชอ่ื เจำ้ ของแหล่งเรยี นรู้ นายทรงพล พัฒนไชย ข้อมูลกำรตดิ ตอ่ 12 หมู่ 7 บ้านวฒั นาภิรมย์ ตาบลบุฮม อาเภอเชียงคาน จงั หวัดเลย โทรศพั ท์ 089-8980821 ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ แหลง่ เรยี นรู้เศรษฐกิจพอเพียงในทอ้ งถนิ่ องคค์ วำมรใู้ นแหล่งเรยี นรู้ - จุดเด่น สวนผลไมป้ ลอดสารเคมี และเลี้ยงสตั ว์ เช่น ไก่ชี แพะ ตามธรรมชาติ - มำตรฐำน/รำงวลั ที่ได้รับ - - เน้อื หำสำระ เปน็ สวนเกษตรทฤษฏีใหม่ ตามแนวทางพระราชดาริ - อนื่ ๆ ตำมควำมเหมำะสม มเี นอื้ หำสำระสอดคล้องกับกำรศกึ ษำของ กศน.  กลุ่มการศกึ ษาเพ่ือพฒั นาทักษะชีวติ  กลมุ่ การศึกษาเพอ่ื พัฒนาสงั คมและชมุ ชน  กลมุ่ การศกึ ษาเพอื่ พัฒนาอาชพี กล่มุ อาชพี เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์ อาชีพเฉพาะทาง พาณิชยกรรมและบริการ  กลมุ่ การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สาระการเรียนรู้ ทักษะการเรยี นรู้ ความร้พู ้ืนฐาน การประกอบอาชพี ทกั ษะการดาเนินชวี ติ การพฒั นาสงั คมและชมุ ชน ผบู้ นั ทกึ นายเอนก จันตะพรมมา ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล เบอรโ์ ทร 098-1728289 ผรู้ บั รองข้อมูล (ผูน้ ำชมุ ชน) นางสาวคาออย สมดี ตาแหน่ง ผ้ใู หญบ่ า้ น หมทู่ ี่ 7 เบอรโ์ ทร 089-2758660

70 ภำพประกอบ ภาพหนา้ ตรงเจา้ ของแหล่งเรยี นรู้ ภาพกิจกรรมเด่นแหลง่ เรียนรู้ ภาพเจ้าของดาเนินกจิ กรรมแหล่งเรยี นรู้ ภาพคิวอารโ์ คด้ ทร่ี ะบุพกิ ัด

71 ประวัติและควำมเปน็ มำแหลง่ เรยี นรู้ โบรำณวัตถุศวิ ลงึ ค์ สำนักงำน กศน.จังหวัดเลย ปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลบฮุ ม กศน.อำเภอเชยี งคำน ช่ือเจ้ำของแหล่งเรยี นรู้ นายประจักษ์ ทองศรี ข้อมูลกำรตดิ ตอ่ หมู่ 2 บ้านคกเลาเหนือ ตาบลบฮุ ม อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โทรศัพท์ 064-5645213 ประเภทแหล่งเรียนรู้ แหล่งเรยี นรเู้ กีย่ วกับความเช่ือและศาสนา/ประเพณแี ละพธิ ีกรรม/ศลิ ปวัฒนธรรม องคค์ วำมรูใ้ นแหล่งเรยี นรู้ - จดุ เด่น หนิ ที่เกิดจากธรรมชาติ มลี ักษณะคลา้ ยศิวลึงค์ ซงึ่ ได้นามาไว้ที่บริเวณวัด - เน้อื หำสำระ เชอื่ วา่ ศวิ ลงึ ค์ เป็นสง่ิ ศกั ดิส์ ิทธท์ิ ส่ี ามารถบันดาลปาฎิหารยิ อ์ วยพรให้แก่ผศู้ รัทธาประวตั ิศิวลงึ ค์ เม่ือปี พ.ศ. 2523 บรษิ ทั ไทยวฒั นร์ ับเหมาก่อสร้างทางขึ้นไปบนภูทอก ตัดจากถนนสายเชียงคาน-ปากชม ห่างจาก ตัวอาเภอเชียงคานประมาณ 4 กม. ขณะท่ีทางบริษัทตัดทางขึ้นไปตามไหล่ภูทอก ได้พบก้อนหินมีลักษณะคล้ายๆ ศิวลงึ ค์ จานวน 2 ก้อน ทางบรษิ ัทได้นาเอาหนิ กอ้ นที่ใหญค่ อื กอ้ นทีห่ นึ่ง ลงมาตั้งโชว์ไว้ท่ีริมทาง สามแยกท่ีตัดข้ึนภู ทอก ส่วนก้อนท่ีสอง ทางบริษัทได้นาลงมาไว้ท่ีริมทางขึ้นไปภูทอก ต่อมาพระคุณเจ้าพระปลัดคาพันธ์ พรหมจาโร ทา่ นมภี มู ิลาเนาอยบู่ ้านคกเลาเหนอื ทา่ นบวชเปน็ พระแลว้ เดินทางไปประจาอยู่ที่วัดกุนนทีรุทธาราม (วัดห้วยขวาง) กรงุ เทพฯ พระคุณทา่ นเดินทางมาจาก กรุงเทพฯ มาธุระที่วัดศรีสมสนุก เดินทางมาได้พบเห็นก้อนหินที่ทางบริษัท นามาตั้งโชวด์ งั กล่าว เม่ือท่านเดินทางมาถึงวัดศรีสมสนุกบ้านคกเลาเหนือ ท่านบอกให้ญาติโยมให้ไปทาการขอเอา ก้อนหินดังกล่าวจากทางบริษัทไทยวัฒน์ ญาติโยมจึงประชุมปรึกษาหารือกัน ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า มอบหมายให้ อาจารย์ สนุ ทร พรี ะสทุ ธินนั ท์ เป็นผ้พู าไปขอ ทั้งน้ี เพราะอาจารย์สุนทร เปน็ ผ้คู ุ้นเคยชอบพอกบั คณุ บัญชา วิเชียร ภาค ผูจ้ ดั การ บ.ไทยวฒั น์ ทราบเรอ่ื ง กร็ บั ปากตกลงยกใหม้ าทั้งสองก้อนทันทีโดยไม่คิดมูลค่าใดๆ ท้ังส้ิน วันต่อมา อาจารย์สุนทร พร้อมคณะ 3-4 คน ให้ นายสอง คนิง เป็นจ้า (จ้าวเข้าทรง) แต่งเครื่องบนบานศาลกล่าว ไปเชิญ เอามา โดยว่าจ้างรถบรรทุกฉายภาพยนตร์มาสง่ เอามาตัง้ ไว้ทห่ี นา้ วัดศรีสมสนุกดังปรากฏต่อสายตาของพวกเราอยู่ ในขณะน้ี

72 มีเนื้อหำสำระสอดคล้องกบั กำรศึกษำของ กศน.  กลุม่ การศึกษาเพ่ือพัฒนาทกั ษะชวี ิต  กลุ่มการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชมุ ชน  กลุม่ การศึกษาเพื่อพฒั นาอาชีพ กล่มุ อาชีพ เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ความคดิ สร้างสรรค์ อาชพี เฉพาะทาง พาณชิ ยกรรมและบริการ  กลุ่มการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน ความรูพ้ ื้นฐาน การประกอบอาชีพ สาระการเรียนรู้ทักษะการเรียนรู้ การพฒั นาสังคมและชมุ ชน ทกั ษะการดาเนินชวี ติ ผูบ้ ันทกึ นายเอนก จันตะพรมมา ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอร์โทร 098-1728289 ผู้รับรองขอ้ มูล (ผ้นู ำชุมชน) นายสุจิน เศษยาง ตาแหน่ง ผู้ใหญ่บา้ น หม่ทู ่ี 2 เบอรโ์ ทร 084-7438625

73 ภำพประกอบ ภาพหน้าตรงเจ้าของแหลง่ เรียนรู้ ภาพกิจกรรมเด่นแหล่งเรยี นรู้ ภาพเจ้าของดาเนนิ กจิ กรรมแหลง่ เรยี นรู้ ภาพคิวอารโ์ ค้ดทีร่ ะบุพิกัด

74 ประวตั ิและควำมเปน็ มำแหล่งเรยี นรู้ วัดพระบำทภคู วำยเงิน สำนกั งำน กศน.จังหวัดเลย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลบุฮม กศน.อำเภอเชยี งคำน ชอื่ เจ้ำของแหลง่ เรียนรู้ นางคาเฟือน บตุ รวิไล ข้อมูลกำรตดิ ต่อ หมู่ 6 บ้านผาแบน่ ตาบลบุฮม อาเภอเชียงคาน จังหวดั เลย โทรศพั ท์ 080-7393577 ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ วัด ศาสนสถาน องค์ควำมรู้ในแหล่งเรียนรู้ - จดุ เดน่ รอยพระพทุ ธบาทภคู วายเงนิ - เนื้อหำสำระ พระพุทธบาทภูควายเงิน อยู่ที่บ้านผาแบ่น ตาบลบุฮม พระพุทธบาทภูควายเงิน เป็นรอยพระพทุ ธบาทยาวประมาณ 120 เซนตเิ มตร กว้าง 65 เซนติเมตร ประดษิ ฐานบนหินลับมีด ได้รับ การขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2478 รอยพระพุทธบาทภูควายเงินเป็นท่ีเคารพสักการะของ ชาวบ้านในแถบน้ีมาก เม่ือครั้งท่ีการเดินทางมานมัสการยังลาบาก เช่ือกันว่าคนที่มีบุญวาสนาเท่าน้ันจึง จะเดนิ ทางมากราบไหวไ้ ด้ คนท่ีวาสนาไม่ถึงจะต้องมีเหตุให้มาไม่ได้ ท้ังที่ตั้งใจไว้อย่างเต็มท่ีก็ตาม บางคน กห็ ลงทาง ทกุ ปีในวนั ขน้ึ 15 ค่า เดือน 3 ทางวัดจะจัดงานสมโภชประจาปีถือเป็นงานสาคัญของชาวบ้าน ในแถบนี้ กำรเดินทำง ใช้เส้นทางสายเชียงคาน-ปากชม ระยะทาง 6 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านผาแบ่นมีทาง แยกเข้าบ้านอุมุง 3 กิโลเมตร จะถึงทางข้ึนเขาเป็นทางลูกรังระยะทาง 1 กิโลเมตร ตานานพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาทภคู วายเงนิ “วัดพระพุทธบำทภคู วำยเงนิ ” เป็นโบราณสถานเก่แก่ทางพระพุทธศาสนา ถือเป็นศาสนสถานที่ ศกั ดิ์สทิ ธิส์ าคัญ คบู่ า้ นค่เู มือง ของจังหวัดเลย ปางเมื่อพระพุทธเจา้ ไดเ้ สดจ็ โปรดเวไนยสตั ว์ โดยเบื้องนภา กาศ และทรงประทบั ลอยพระพทุ ธบาท ไว้บนภูเขาภูควายเงิน เพื่อให้เทวดา มวลหมู่มนุษย์ เวไนยสัตว์ไว้ สักการบูชา เป็นพุทธานุสติประพฤติธรรมให้เข้าถึงสุคติภพ และพระนิพพานเป็นท่ีสุด สถานท่ีแห่งน้ีจึง เรียกว่า “รอยพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน” รอยพระพุทธบาทมีขนาดกว้างประมาณ 65 เซนติเมตร ยาวประมาณ 120 เซนติเมตร กรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พทุ ธศกั ราช 2478 ตานานพ้ืนเมืองเล่าว่า มีพรานป่าช่ือว่าชีวพิน ได้ออกล่าสัตว์และได้พบพระพุทธเจ้า ญ บริเวณน้ี พรานป่าเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงขอออกบวชเป็นพระภิกษุ พระพุทธเจ้าได้ประทานเอหิภิกขุเป็นพระ ชีวพิน สืบต่อมาพระชีวพินได้ศึกษาพระธรรมวินัย ปฏิบัติกรรมฐานจนได้บรรลุธรรม พระชีวพินได้กราบ ทูลพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรด ญาติพี่น้อง และชาวบ้านที่บ้านอุมุง เมื่อพระพุทธเจ้าทรงบิณฑบาตโปรด สัตว์ได้พบชาวนาสองสามี ภรรยากาลังไถนาอยู่ ท้ังสองได้หยุดพักถวายอาหารแก่พระพุทธเจ้า พร้อม กราบทูลว่า ตนเองเป็นพี่ชายของพระชีวพิน ซ่ึงเป็นสาวกของพระองค์ และได้กราบทูลเล่าเหตุการณ์ท่ี

75 เกิดขึ้นในหมู่บ้านว่า เมื่อถึงวัน 7 ค่า 8 ค่า หรือ 14 ค่า 15 ค่า จะมีนางยักขิณีแปลงกายเป็นสาวสวยมา หรอกเอาชายหนุม่ บ้านอมุ งุ บ้านผาแบ่นและบ้านบุฮม ไปกินเสมอ ต่อมานางยักขิณีออกมาหาอาหาร ไม่พบคนในหมู่บ้าน เพราะชาวบ้านได้พากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าหมด นางยักขิณีจึงตามไปพบพระพุทธองค์ ในกาลน้ัน พระพุทธเจ้าได้ทรมานนางยักขิณีให้ละพยศ ให้เลิกฆ่าสัตว์และทรงแผ่เมตตาให้นางยักขิณี สาหรับนาง ยักขิณีนี้ชอบเครื่องทรงสีเขียว และมีผิวพรรณวรรณะในตนเองก็มีสีเขียว นางยักขิณีจึงได้นามว่า “นาง เขียาค้อม” ในการนี้ชาวบ้านและนางยักขิณี ได้กราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าทรงประทับรอยพระพุทธ บาทไว้บนภูเขาแหง่ นี้ พระพทุ ธเจ้าจึงทรงแสดงพระพุทธานุภาพประทับรอยพระพุทธบาทบนหิน บริเวณ ภูเขาภคู วายเงนิ เม่ือพระเจ้าเสด็จกลับแล้วชาวนาสองสามีภรรยาได้พบแร่ทองคาท่ีรอยไถในที่นาของตน จึงได้นาทองคานั้น แจกจ่ายให้ชาวบ้านอุมุง บ้านผาแบ่นและบ้านบุฮม ทุกหลังคา ชาวบ้านจึงต้ังช่ือ ชาวนาน้วี ่า “ทา่ นเศรษฐพี ่อนาอ่มุ ” ส่วนทม่ี าของคาวา่ “ควายเงิน” มีดงั นี้ เม่ือชาวนานาควายตัวนี้มาไถ ทานา ทาให้ขายข้าวได้ราคาดี และในนานั้นเกิดสินแร่ทองคา จนทาให้เจ้านาเกิดความร่ารวยเป็นเศรษฐี ขอ้ สันนิษฐานอีกประการหน่ึงกล่าวไว้ว่า สีผิวของควายเป็นสีเงินยวงมาต้ังแต่กาเนิดจึงเรียกควายตัวนี้ว่า “ควายเงิน” อีกสว่ นหน่งึ ควายตัวนี้เมือ่ ถึงเวลาพกั ก็ไปแชป่ รักในแอ่งควาย ซึง่ มแี รธ่ าตเุ งนิ อยู่ ตัวของควาย จึงเป็นสีแร่เงิน จึงเป็นที่มาของ คาว่า “ควายเงิน” ดังนั้น “ภูควายเงิน” จึงเป็นช่ือภูเขาที่อยู่อาศัยของ ควาย ตัวนี้และในทุกๆ ปี จึงเกิดเป็นประเพณีนมัสการรอยพระพุทธ วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน ในวัน เพญ็ เดือนสามและในวันเพญ็ เดอื นสข่ี องทุกปี สาหรับความเป็นมา นายขัตติยา ไชยเอีย และนายธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ เจ้าภาพได้มีจิตศรัทธา สร้าง พระมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทภูควายเงินน้ี จึงได้ปรึกษาหลวงปู่เย็น ฐานธัมโม เจ้าอาวาสวัดพระ พุทธบาทภูควายเงิน และขอให้ทางจังหวัดเลย โดยนายมานิตย์ มกรพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ทา หนังสือขออนุญาตกรมศิลปากรในการก่อสร้างพระมณฑปนี้ และได้ทราบออาราธนาสมเด็จพระญาณ สังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นองค์ประธานสร้างพระมณฑปครอบ รอยพระพุทธบาทภคู วายเงิน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชครูศิ วาจารย์ (พราหมณ์ ถาวร ภวังคนันท์) ได้ประกอบพิธีบวงสรวงและวางศิลาฤกษ์สร้างมณฑปนี้ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2553 เวลา 10.00-10.50 นาฬิกา ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง เป็นเงิน ทั้งสน้ิ 38,168,000.00 บาท (สามสบิ แปดล้านหนึง่ แสนหกหม่ืนแปดพนั บาทถ้วน)

76 มเี น้ือหำสำระสอดคล้องกับกำรศกึ ษำของ กศน.  กลมุ่ การศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต  กลมุ่ การศึกษาเพื่อพฒั นาสังคมและชุมชน  กลมุ่ การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาอาชพี กลมุ่ อาชพี เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์ อาชีพเฉพาะทาง พาณิชยกรรมและบริการ  กลมุ่ การศึกษาข้ันพื้นฐาน สาระการเรียนรู้ ทักษะการเรียนรู้ ความรพู้ ้นื ฐาน การประกอบอาชีพ ทักษะการดาเนนิ ชวี ติ การพัฒนาสังคมและชมุ ชน ผู้บนั ทกึ นายเอนก จันตะพรมมา ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอร์โทร 098-1728289 ผรู้ ับรองขอ้ มลู (ผนู้ ำชมุ ชน) นายสนั ติชยั แสงดี ตาแหน่ง กานนั เบอร์โทร 089-9377509

77 ภำพประกอบ ภาพหนา้ ตรงเจา้ ของแหลง่ เรียนรู้ ภาพกิจกรรมเด่นแหลง่ เรยี นรู้ ภาพคิวอาร์โคด้ ท่ีระบุพกิ ดั

78 แหล่งเรยี นรู้ ตำบลหำดทรำยขำว กศน.อำเภอเชยี งคำน

79 ประวัตแิ ละควำมเปน็ มำภมู ิปญั ญำท้องถ่นิ กำรจักสำนไมไ้ ผ่ สำนกั งำน กศน.จงั หวดั เลย ปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลหำดทรำยขำว กศน.อำเภอเชียงคำน ชอ่ื ภมู ิปัญญำท้องถิน่ นำยศกั ด์ิ ชชั ฎำ เป็นภูมิปญั ญำท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถน่ิ เกยี่ วกับประดษิ ฐก์ รรม ข้อมลู กำรติดต่อ บา้ นเลขที่ 8 หมู่ 1 ตาบลหาดทรายขาว อาเภอเชียงคาน จังหวดั เลย ประเภทภมู ิปัญญำท้องถิน่ ประเภทบุคคล องค์ควำมร้ใู นภมู ิปัญญำท้องถนิ่ - จุดเด่น การสร้างสรรค์งานจักสานไม้ไผ่ต้องใช้ท้ังภูมิปัญญาความประณีต ความละเอียดอ่อน และทักษะฝีมือเชิงช่าง ตั้งแต่การรู้จักคุณสมบัติของไม้ไผ่แต่ละชนิดท่ีมีความเหมาะสมกับการนามาใช้ ประโยชน์ในการจักสาน การเตรียมเส้นเพ่ือการสานที่เหมาะสมกับการสานผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด แต่ละ รปู แบบและที่สาคัญคือการสานขึ้นรูปจนสาเร็จเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานไม้ไผ่ท่ีนาไปประโยชน์ใช้สอย ตามที่ต้องการ งานหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ จึงยังคงเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านที่ยังคงมีการสืบทอดต่อกัน มา นับจากอดีตกาลจนถึงปจั จุบนั - มำตรฐำน การสร้างงานจักสานนอกจากต้องใช้ความประณีต พิถีพิถันในการสานแล้ว สิ่งสาคัญ อีกอย่างหนึ่งก็คือลวดลายของงานจักสานน้ัน ถือเป็นสิ่งสาคัญในการสร้างมูลค่าให้กับงานจักสานแต่ละ ชิ้น โดยลายสานท่ัวไป คือ ลายขัด และลายสอง เป็นลายเร่ิมแรกเมื่อผู้สานเริ่มหัดสานงาน จากนั้นจึงมี การพัฒนาลวดลายขน้ึ จากลายดงั้ เดิม เชน่ ลายลบน้า ลายดหี ลม่ เปน็ ตน้ - เน้ือหำสำระ งานจักสานไม้ไผ่ เกิดข้ึนโดยการใช้ไม้ไผ่นามาจัก ผ่า ฉีกให้เป็นเส้นบางๆ แล้วนามา ขัด สาน สอด ไขว้ ข้ึนโครงเป็นรูปทรงทาเป็นภาชนะ เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ จัดเป็นงานศิลปหัตถกรรม และหัตถกรรมพ้ืนบ้านที่มีความผูกพันและอยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมาอย่างยาวนาน แสดงได้ถึง วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาบรรพบุรุษ มกี ารสืบทอดกันมาแตโ่ บราณ มีอยู่ในทกุ ภาคของประเทศ ด้วยเป็นทั้งหัตถกรรมที่เป็นของใช้ในในครัวเรือนและชีวิตประจาวันจนถึงเป็นอาชีพที่เป็นแหล่ง รายไดอ้ ีกด้วยภูมิปัญญาในการทางานหตั ถกรรมจักสานไมไ้ ผ่ทวั่ ไปจะมีข้ันตอนและวิธีการผลิตของงานหัถ กรรมท่ีเหมอื น หรือแตกต่างกันไปตามรูปแบบ รูปทรง องค์ความรู้ภูมิปัญญาและทักษะฝีมือของช่างท่ีส่ัง สมมาแต่โดยปกตจิ ะมกี ระบวนการขน้ั ตอนในการทาที่คลา้ ยคลงึ กันในแถบทกุ ภาคในประเทศไทย การเตรียมวัตถุดิบเพ่ือการสานหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ก็ถือเป็นข้ันตอนท่ีต้องอาศัยความรู้หรือภูมิ ปัญญาในการเตรียมวัตถุดิบ เพื่อทาให้ได้วัตถุดิบมีคุณภาพ ไม่เป็นมอด ไม่ขึ้นรา ได้เส้นตอกที่มีขนาด สม่าเสมอตามท่ีต้องการ และมีสีสันสวยงามและมีลวดลายที่เหมาะสมกับช้ินงาน การเพิ่มเติมความ สวยงามและความคงทนใหก้ ับช้นิ งาน รวมทั้งการมคี ดิ ค้น พัฒนาหาเทคนคิ วธิ กี ารป้องกันมอดและแมลง ของผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานด้วยการรมควันท่ีสามารถทาให้เครื่องจักสานมีผิวแห้งสนิทไม่ข้ึนรา ไม้ไผ่ท่ี

80 นามาใช้ทางานจักสานนั้นจะนิยมนาไมไ้ ผ่ที่ได้มาแชล่ งน้าท้ิงไว้ 7 ถึง10 วันเพ่ือป้องกันแมลง และบางครั้ง ใชก้ รรมวธิ กี ารตากแหง้ เพ่ือชว่ ยสกัดนา้ มนั ไผอ่ อกเปน็ การสรา้ งความคงทน แข็งแรง และความสวยงามให้ ไม้ไผ่ยิ่งขน้ึ มีเนอ้ื หำสำระสอดคลอ้ งกบั กำรศึกษำของ กศน.  กลุ่มการศึกษาเพอื่ พัฒนาทักษะชวี ติ  กลุ่มการศึกษาเพื่อพฒั นาสังคมและชมุ ชน  กลุ่มการศกึ ษาเพ่อื พฒั นาอาชพี กลุ่มอาชพี เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์ อาชพี เฉพาะทาง พาณิชยกรรมและบริการ  กลมุ่ การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน สาระการเรยี นรู้ ทักษะการเรยี นรู้ ความรู้พน้ื ฐาน การประกอบอาชีพ ทักษะการดาเนินชวี ติ การพฒั นาสงั คมและชุมชน ผูบ้ นั ทึก นางนวรตั น์ นันทนา ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอร์โทร 093-4357998 ผู้รับรองขอ้ มลู นายสมบัติ แสงขาว ตาแหน่ง กานนั ตาบลหาดทรายขาว เบอรโ์ ทร 063-9172886

81 ภำพประกอบ ภาพหนา้ ตรงเจ้าของภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภาพกิจกรรมเด่นภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น ภาพเจา้ ของดาเนนิ กิจกรรมภูมิปญั ญาท้องถิ่น ภาพควิ อารโ์ ค้ดท่ีระบุพิกดั

82 ประวัติและควำมเป็นมำแหลง่ เรยี นรู้ แก่งสำระแพ สำนักงำน กศน.จังหวัดเลย ปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลหำดทรำยขำว กศน.อำเภอเชียงคำน ชื่อแหล่งเรียนรู้ แกง่ สาระแพ เป็นแหล่งเรียนรู้ ดา้ นการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม ข้อมูลกำรตดิ ตอ่ บ้านสาระแพ หมู่ 3 ตาบลหาดทรายขาว อาเภอเชยี งคาน จงั หวัดเลย ประเภทแหล่งเรยี นรู้ แหล่งเรียนรูท้ างธรรมชาติ องคค์ วำมรู้ในแหล่งเรียนรู้ - จุดเดน่ เปน็ แหลง่ ทอ่ งเที่ยวเชิงอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ในบริเวณแมน่ า้ เลยท่ี ไหลผ่านหมู่บา้ นสาระแพ เกิดขึน้ เองตามธรรมชาติ มีลกั ษณะเป็นแก่ง มีโขดหนิ ซึ่งทาให้มีความสวยงาม น้าใสน่าเลน่ และยงั มีวิถีการทามาหากนิ ในแหล่งนา้ ของชุมชนให้ได้เรยี นรู้ - มำตรฐำน การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เกี่ยวข้องกับธรรมชาติท่ียังดารงไว้ซ่ึงสภาพดังเดิมของระบบ นิเวศ (first hand ecosystem) และวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ทมี่ คี วามเปน็ เอกลกั ษณ์เฉพาะถ่นิ - เน้ือหำสำระ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศมีลักษณะที่สาคัญ คือ เป็นการท่องเที่ยวที่ดาเนินการภายใต้ ขีดจากัดความสามารถของธรรมชาติ และต้องตระหนักถึงการมีส่วนร่วม ของประชากร ชุมชน ขนบธรรมเนียม ประเพณี ท่ีมีต่อขบวนการท่องเที่ยว อีกท้ังต้องยอมรับให้ประชาชนทุกส่วนได้รับ ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการท่องเท่ียวอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน และต้องช้ีนาภายใต้ความ ปรารถนาของประชาชนทอ้ งถ่ินและชุมชนในพื้นท่ที ่องเท่ียวน้ันๆ เป็นการท่องเท่ียวท่ีก่อให้เกิดผลกระทบ ต่อระบบนิเวศน้อยหรือต่า หรือไม่มีผลกระทบต่อวิถีทางธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถ่ิน จนทาให้เกิด การเปลีย่ นแปลงไปในทางลบ เพราะฉะน้นั การปอ้ งกนั และควบคมุ ผลกระทบอันเกิดจากการท่องเที่ยว จึง เป็นหัวใจสาคัญของการบริหารจัดการ เช่น ไม่เน้นปริมาณนักท่องเท่ียว ไม่สนับสนุนให้มีการพัฒนาสิ่ง อานวยความสะดวกเกินความจาเป็น เน้นธรรมชาติและองค์ประกอบของธรรมชาติเป็นส่ิงดึงดูด เป็นต้น เป็นการท่องเท่ียวที่เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัส เรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติและองค์ประกอบ ธรรมชาติ (รวมทั้งศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของคนท้องถ่ิน) ตลอดจนผลกระทบของ มนุษย์ท่มี ีตอ่ ระบบนิเวศ เพ่อื ใหน้ ักท่องเท่ยี วมพี ฤตกิ รรมดา้ นสิ่งแวดล้อมในเชิงบวก

83 มีเน้ือหำสำระสอดคล้องกับกำรศึกษำของ กศน.  กลมุ่ การศกึ ษาเพอ่ื พัฒนาทักษะชีวิต  กลุ่มการศึกษาเพอ่ื พฒั นาสังคมและชุมชน  กลุม่ การศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชพี กลมุ่ อาชพี เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความคดิ สรา้ งสรรค์ อาชพี เฉพาะทาง พาณชิ ยกรรมและบริการ  กลมุ่ การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน สาระการเรียนรู้ ทักษะการเรียนรู้ ความรพู้ ้ืนฐาน การประกอบอาชีพ ทักษะการดาเนินชีวติ การพัฒนาสังคมและชุมชน ผบู้ นั ทกึ นางนวรตั น์ นนั ทนา ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอร์โทร 093-4357998 ผู้รบั รองขอ้ มลู นายสมบตั ิ แสงขาว ตาแหนง่ กานันตาบลหาดทรายขาว เบอรโ์ ทร 063-9172886

84 ภำพประกอบ ภาพหนา้ ตรงเจ้าของแหล่งเรียนรู้ ภาพกิจกรรมเดน่ แหลง่ เรยี นรู้ ภาพเจา้ ของดาเนนิ กิจกรรมแหลง่ เรียนรู้ ภาพควิ อาร์โค้ดท่ีระบุพกิ ัด

85 ประวตั ิและควำมเปน็ มำแหล่งเรียนรู้ วดั บัพพโตอรัญญำวำส สำนักงำน กศน.จังหวดั เลย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลหำดทรำยขำว กศน.อำเภอเชียงคำน ช่ือแหล่งเรยี นรู้ วัดบพั พโตอรัญญาวาส เป็นแหลง่ เรยี นรู้ ดา้ นศาสนาและวฒั นธรรม ข้อมูลกำรติดตอ่ บ้านหว้ ยสีดา หมู่ 4 ตาบลหาดทรายขาว อาเภอเชยี งคาน จงั หวดั เลย ประเภทแหลง่ เรียนรู้ แหลง่ เรยี นร้ศู าสนสถาน องค์ควำมรใู้ นแหล่งเรียนรู้ - จดุ เดน่ เป็นแหลง่ เรียนรู้ของชุมชน ในด้านศาสนาและวัฒนธรรม - มำตรฐำน เปน็ แหล่งเรียนรูใ้ หก้ บั ชุมชน ได้เรยี นรู้ด้านศาสนาและวัฒนธรรมของท้องถนิ่ เพื่อให้ ลกู หลานไดส้ บื ทอดต่อกันไป - เนอ้ื หำสำระ ต้งั แต่อดีตโบราณกาล คงไม่มใี ครปฏเิ สธวา่ \"วัด\" เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน เป็นศูนย์รวม ของสรรพสิ่ง หลากหลายกิจกรรมอยู่ที่วัด แม้แต่เร่ืองของการศึกษาเล่าเรียน จนเป็นที่มาของคาว่า บวชเรียน แต่ในปัจจุบันดูเหมือนว่า \"วัด\" กลับมีบทบาทต่อชุมชนลดน้อยลง เหลือเพียงแค่ภาพของการเป็นสถานที่จัด พิธีกรรมทางศาสนาเท่าน้ัน ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานศพ หรืองานในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา ส่วนภาพ ในบทบาทอ่ืนๆ ดูจะเลอื นรางและนกึ ยากข้ึนทุกที ในอดีต ชาวบ้านมีความใกล้ชิดกับพระและวัด ทาให้ได้มีโอกาสซึมซับหลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา และได้รับการอบรมส่ังสอนจากพระผู้ทรงศีล แต่ในสังคมปัจจุบัน ด้วยข้อจากัดหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการจราจรที่แออัด ช่วงเวลาที่ไม่เอื้ออานวย ฯลฯ ทาให้การเข้าวัดของคนไทย กลายเป็นเร่ืองยาก บางครงั้ การเขา้ วัดแต่ละครงั้ ตอ้ งมกี ารวางแผน ใชว่ ่านกึ อยากจะเข้าก็เดินเข้าไปได้ทันทีเหมือนก่อน แม้บางวัด พยายามรณรงค์ให้คนเข้าวัด ถึงกับมีการเปิดให้เข้าไปทากิจกรรมต่างๆ ในวัดช่วงเย็นหรือค่าหลังเลิกงาน แต่ คนส่วนหน่ึงก็ยังลาบากที่จะเข้าวัดอยู่ดี การเข้าใช้แหล่งเรียนรู้ภายในวัด จะได้ศึกษาหาความรู้ด้านหลักธรรม ต่างๆ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาได้จริง สามารถปฏิบัติและเรียนรู้ได้ด้วย ตนเอง ไม่วา่ จะเปน็ การไหวพ้ ระ การทาบุญธรรมทาน การฟังเทศน์ การทาจิตในให้สงบ

86 มีเนอ้ื หำสำระสอดคล้องกับกำรศึกษำของ กศน.  กลุ่มการศกึ ษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต  กล่มุ การศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชมุ ชน  กลุ่มการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ กลมุ่ อาชพี เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์ อาชีพเฉพาะทาง พาณิชยกรรมและบริการ  กลุ่มการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะการเรยี นรู้ ความรูพ้ ื้นฐาน การประกอบอาชพี ทักษะการดาเนนิ ชวี ิต การพฒั นาสงั คมและชุมชน ผู้บันทึก นางนวรัตน์ นันทนา ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล เบอร์โทร 093-4357998 ผูร้ บั รองข้อมูล นายสมบตั ิ แสงขาว ตาแหนง่ กานันตาบลหาดทรายขาว เบอร์โทร 063-9172886

87 ภำพประกอบ ภาพหน้าตรงเจา้ ของแหล่งเรียนรู้ ภาพกจิ กรรมเด่นแหล่งเรยี นรู้ ภาพเจ้าของดาเนินกิจกรรมแหลง่ เรียนรู้ ภาพคิวอาร์โคด้ ทรี่ ะบุพกิ ัด

88 ประวตั ิและควำมเป็นมำแหล่งเรยี นรู้ วัดธรรมำสำมคั คี สำนกั งำน กศน.จังหวดั เลย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลหำดทรำยขำว กศน.อำเภอเชยี งคำน ชอื่ แหลง่ เรยี นรู้ วดั ธรรมมำสำมัคคี เป็นแหลง่ เรยี นรู้ ด้านศาสนาและวัฒนธรรม ขอ้ มลู กำรติดตอ่ บ้านหาดทรายขาว หมู่ 1 ตาบลหาดทรายขาว อาเภอเชยี งคาน จงั หวดั เลย ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ วดั ศาสนสถาน องค์ควำมรใู้ นแหลง่ เรียนรู้ - จุดเดน่ เปน็ แหล่งเรียนรูข้ องชมุ ชน ในด้านศาสนาและวัฒนธรรม - มำตรฐำน เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชน ได้เรียนรู้ด้านศาสนาและวัฒนธรรมของท้องถิ่น เพ่ือให้ ลกู หลานไดส้ ืบทอดต่อกันไป - เนื้อหำสำระ ตั้งแต่อดีตโบราณกาล คงไม่มีใครปฏิเสธว่า \"วัด\" เป็นท่ีพึ่งของชาวบ้าน เป็นศูนย์รวม ของสรรพส่ิง หลากหลายกิจกรรมอยู่ท่ีวัด แม้แต่เรื่องของการศึกษาเล่าเรียน จนเป็นที่มาของคาว่า บวช เรียน แต่ในปัจจุบันดูเหมือนว่า \"วัด\" กลับมีบทบาทต่อชุมชนลดน้อยลง เหลือเพียงแค่ภาพของการเป็น สถานท่ีจัดพิธีกรรมทางศาสนาเท่าน้ัน ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานศพ หรืองานในวันสาคัญทาง พระพุทธศาสนา สว่ นภาพในบทบาทอ่นื ๆ ดูจะเลอื นรางและนกึ ยากขึ้นทกุ ที ในอดตี ชาวบ้านมีความใกล้ชิดกับพระและวัด ทาให้ได้มีโอกาสซึมซับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และได้รับการอบรมส่ังสอนจากพระผู้ทรงศีล แต่ในสังคมปัจจุบัน ด้วยข้อจากัดหลายประการ ไม่ว่าจะ เป็นการจราจรที่แออัด ช่วงเวลาที่ไม่เอื้ออานวย ฯลฯ ทาให้การเข้าวัดของคนไทย กลายเป็นเร่ืองยาก บางคร้ังการเข้าวัดแต่ละครั้ง ต้องมีการวางแผน ใช่ว่านึกอยากจะเข้าก็เดินเข้าไปได้ทันทีเหมือนก่อน แม้ บางวัดพยายามรณรงค์ให้คนเข้าวัด ถึงกับมีการเปิดให้เข้าไปทากิจกรรมต่างๆ ในวัดช่วงเย็นหรือค่าหลัง เลกิ งาน แตค่ นสว่ นหนงึ่ ก็ยังลาบากที่จะเขา้ วดั อยดู่ ี การเขา้ ใช้แหลง่ เรยี นรู้ภายในวดั จะได้ศึกษาหาความรู้ด้านหลักธรรมต่างๆ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ ในการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาได้จริง สามารถปฏิบัติและเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการไหว้ พระ การทาบญุ ธรรมทาน การฟังเทศน์ การทาจติ ในใหส้ งบ

89 มีเน้ือหำสำระสอดคล้องกับกำรศกึ ษำของ กศน.  กลุม่ การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาทกั ษะชวี ติ  กลุม่ การศึกษาเพื่อพฒั นาสงั คมและชมุ ชน  กลุ่มการศึกษาเพื่อพฒั นาอาชีพ กลุ่มอาชพี เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การประกอบอาชีพ อาชีพเฉพาะทาง พาณชิ ยกรรมและบริการ  กลุ่มการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะการเรียนรู้ ความรู้พ้ืนฐาน ทักษะการดาเนนิ ชวี ติ การพฒั นาสงั คมและชมุ ชน ผบู้ นั ทกึ นางนวรตั น์ นนั ทนา ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอรโ์ ทร 093-4357998 ผรู้ ับรองข้อมูล นายสมบตั ิ แสงขาว ตาแหน่ง กานันตาบลหาดทรายขาว เบอรโ์ ทร 063-9172886

90 ภำพประกอบ ภาพหนา้ ตรงเจา้ ของแหลง่ เรียนรู้ ภาพกิจกรรมเด่นแหลง่ เรยี นรู้ ภาพเจ้าของดาเนนิ กจิ กรรมแหลง่ เรียนรู้ ภาพควิ อาร์โค้ดที่ระบุพิกัด

91 ประวตั คิ วำมเปน็ มำแหลง่ เรยี นรู้ วดั ผำมุมอรัญญำวำส สำนักงำน กศน.จงั หวดั เลย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลหำดทรำยขำว กศน.อำเภอเชยี งคำน ช่ือแหล่งเรียนรู้ วัดผามุมอรญั ญาวาส เป็นแหลง่ เรยี นรู้ แหล่งเรยี นรู้ด้านศาสนาและวัฒนธรรม ขอ้ มูลกำรตดิ ต่อ บา้ นผามมุ หมู่ 2 ตาบลหาดทรายขาว อาเภอเชยี งคาน จงั หวดั เลย ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้ศาสนสถาน องคค์ วำมรูใ้ นแหล่งเรียนรู้ - จุดเด่น เป็นแหล่งเรยี นรขู้ องชุมชน ในดา้ นศาสนาและวัฒนธรรม - มำตรฐำน เปน็ แหลง่ เรียนรู้ให้กับชุมชน ไดเ้ รยี นรดู้ ้านศาสนาและวัฒนธรรมของท้องถนิ่ เพ่อื ให้ ลกู หลานได้สบื ทอดต่อกันไป - เนื้อหำสำระ ต้ังแต่อดีตโบราณกาล คงไม่มีใครปฏิเสธว่า \"วัด\" เป็นท่ีพึ่งของชาวบ้าน เป็นศูนย์รวม ของสรรพสิ่ง หลากหลายกิจกรรมอยู่ท่ีวัด แม้แต่เรื่องของการศึกษาเล่าเรียน จนเป็นท่ีมาของคาว่า บวช เรียน แต่ในปัจจุบันดูเหมือนว่า \"วัด\" กลับมีบทบาทต่อชุมชนลดน้อยลง เหลือเพียงแค่ภาพของการเป็น สถานท่ีจัดพิธีกรรมทางศาสนาเท่าน้ัน ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานศพ หรืองานในวันสาคัญทาง พระพุทธศาสนา สว่ นภาพในบทบาทอ่นื ๆ ดจู ะเลอื นรางและนกึ ยากขึน้ ทกุ ที ในอดตี ชาวบ้านมีความใกล้ชิดกับพระและวดั ทาใหไ้ ดม้ ีโอกาสซึมซับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และได้รับการอบรมสั่งสอนจากพระผู้ทรงศีล แต่ในสังคมปัจจุบัน ด้วยข้อจากัดหลายประการ ไม่ว่าจะ เป็นการจราจรท่ีแออัด ช่วงเวลาท่ีไม่เอื้ออานวย ฯลฯ ทาให้การเข้าวัดของคนไทย กลายเป็นเรื่องยาก บางครั้งการเข้าวัดแต่ละครั้ง ต้องมีการวางแผน ใช่ว่านึกอยากจะเข้าก็เดินเข้าไปได้ทันทีเหมือนก่อน แม้ บางวัดพยายามรณรงค์ให้คนเข้าวัด ถึงกับมีการเปิดให้เข้าไปทากิจกรรมต่างๆ ในวัดช่วงเย็นหรือค่าหลัง เลกิ งาน แตค่ นส่วนหนึง่ ก็ยงั ลาบากท่จี ะเข้าวดั อยู่ดี การเข้าใช้แหล่งเรียนรู้ภายในวัด จะได้ศึกษาหาความรู้ด้านหลักธรรมต่างๆ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ ในการเรยี นการสอนพระพุทธศาสนาได้จริง สามารถปฏิบัติและเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการไหว้ พระ การทาบุญธรรมทาน การฟังเทศน์ การทาจิตในให้สงบ

92 มีเน้ือหำสำระสอดคล้องกับกำรศึกษำของ กศน.  กลุม่ การศึกษาเพื่อพัฒนาทกั ษะชวี ิต  กลุ่มการศึกษาเพื่อพฒั นาสงั คมและชุมชน  กล่มุ การศึกษาเพื่อพฒั นาอาชีพ กลมุ่ อาชพี เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม ความคดิ สรา้ งสรรค์ อาชีพเฉพาะทาง พาณิชยกรรมและบริการ  กลุม่ การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน สาระการเรียนรู้ ทักษะการเรียนรู้ ความรูพ้ ื้นฐาน การประกอบอาชพี ทกั ษะการดาเนินชวี ติ การพฒั นาสงั คมและชมุ ชน ผบู้ ันทึก นางนวรัตน์ นันทนา ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล เบอร์โทร 093-4357998 ผรู้ ับรองขอ้ มูล นายสมบัติ แสงขาว ตาแหนง่ กานนั ตาบลหาดทรายขาว เบอร์โทร 063-9172886

93 ภำพประกอบ ภาพหน้าตรงเจา้ ของแหลง่ เรียนรู้ ภาพกิจกรรมเดน่ แหล่งเรยี นรู้ ภาพเจ้าของดาเนินกจิ กรรมแหลง่ เรียนรู้/ภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ ภาพคิวอารโ์ คด้ ท่ีระบุพกิ ดั

94 แหลง่ เรยี นรู้ ตำบลเขำแก้ว กศน.อำเภอเชียงคำน

95 ประวัตแิ ละควำมเป็นมำแหล่งเรยี นรู้ ศนู ย์เรียนรผู้ ้ำทอทเ่ี ป็นมติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม สำนักงำน กศน.จังหวัดเลย ปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 กศน.ตำบลเขำแก้ว กศน.อำเภอเชียงคำน ชื่อเจ้ำของแหลง่ เรียนรู้ นางโสภา คุ้มคา ข้อมูลกำรติดตอ่ 20/2 บา้ นนาป่าหนาด หมู่ 12 ตาบลเขาแก้ว อาเภอเชยี งคาน จงั หวดั เลย ประเภทแหล่งเรยี นรู้ แหล่งเรยี นรทู้ างหตั ถกรรม องคค์ วำมรใู้ นแหล่งเรียนรู้ - จุดเด่น กระบวนการผลติ เส้นฝ้าย การย้อมสี และการทอ ซ่ึงท่ีนี่มีความโดดเด่นมากในเร่ืองของ ผลิตภณั ฑ์ประยุกตจ์ ากผ้าฝ้าย - มำตรฐำน/รำงวัลท่ไี ดร้ ับ - รางวลั รองชนะเลิศอันดบั 1 การประกวดทายาทหม่อนไหมดีเด่นประจาปี 2561 ระดับเขต ประเภททายาทหม่อนไหมในชุมชน - รางวัลชนะเลศิ ประเภทสถาบนั เกษตรกรดเี ดน่ ระดบั จังหวดั สาขากล่มุ แม่บ้านเกษตรกร การคัดเลือก เกษตรกร บุคคลทางการเกษตรและสถาบันการเกษตรดีเด่นระดับจงั หวัด ประจาปี 2563 - ประกาศนยี บตั ร ไดร้ ับการคัดสรรเป็นผลิตภณั ฑร์ ะดบั ห้า ดาว วิสาหกจิ ชุมชนกล่มุ ทอผ้าพนื้ เมือง บ้านนาป่าหนาด - เนอื้ หำสำระ นางโสภา คุ้มคา ประธานกลุ่มทอผา้ พน้ื เมืองบ้านนาป่าหนาด หมู่ 12 ต.เขาแกว้ อ.เชียงคาน จ.เลย จัดตั้งกลุ่มทอผ้าฝ้ายพ้ืนเมืองบ้านนาป่าหนาดเกิดข้ึนจากนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนให้ ประชาชนมีงานทา และรวมกลุ่มสร้างอาชีพ จึงรวมกลุ่มกันทาผ้าทอมือแบบโบราณ โดยช่วงแรกๆ ทอใช้ กนั เองในครอบครวั ในชมุ ชนก่อนจากเดิมเคยคิดว่ากระบวนการผลิตในกลุ่มโดยวิถีดั้งเดิมไม่มีผลกระทบต่อ ส่ิงแวดล้อมใดๆ แต่เมื่อเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ยังพบว่ามีปัญหาเร่ือง การย้อมสีที่ทางกลุ่มแต่เดิมย้อมด้วยเคมีเป็นหลัก การใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง ใช้น้าย้อมผ้าเพียงครั้ง เดียวแล้วทิ้ง และใช้ฟืนในปริมาณมากเกินไป ก็ได้รับคาแนะนาให้ความรู้โดยการอบรมกลุ่ม เช่น ย้อมสี ธรรมชาติ ใช้วัสดุในท้องถ่ิน หลีกเล่ียงแหล่งสีธรรมชาติที่เป็นแหล่งอาหารหรือพืชหายาก เช่น เปลือกไม้ ตามฤดกู าล และขี้เล่ือย พอเปลี่ยนมาย้อมสีธรรมชาติ คุณภาพสินค้าก็ดีข้ึน ราคาก็สูงข้ึน ทาส่งลูกค้าท้ังใน ประเทศและต่างประเทศอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ถงึ แม้ปจั จบุ ันจะมีกลมุ่ สง่ิ ทอหลายกลุ่มเลือกใช้การย้อมด้วยสารเคมี และจาหน่ายราคาถกู เพราะกระบวนการไมย่ งุ่ ยากซับซ้อน แต่ทางกลุ่มก็ยังมุ่งม่ันท่ีจะผลิตสินค้าท่ีเป็นมิตร กับสง่ิ แวดลอ้ ม และใชก้ ระบวนการผลิต และคณุ ภาพของสินค้าเป็นจุดขายของกลุ่ม ทั้งยังตั้งเป้าหมายด้วย

96 การถ่ายทอดและสืบทอดกระบวนการทอผ้าแบบโบราณด้ังเดิมท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้ยังคงอยู่สืบ ลูกหลานตอ่ ไป มเี นื้อหำสำระสอดคล้องกบั กำรศึกษำของ กศน.  กลุ่มการศกึ ษาเพื่อพัฒนาทักษะชวี ติ  กล่มุ การศึกษาเพื่อพฒั นาสงั คมและชุมชน  กล่มุ การศึกษาเพือ่ พฒั นาอาชพี กล่มุ อาชพี เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม  ความคดิ สร้างสรรค์ อาชพี เฉพาะทาง พาณชิ ยกรรมและบริการ  กลุ่มการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน การประกอบอาชพี สาระการเรียนรู้ ทักษะการเรียนรู้ ความรู้พืน้ ฐาน ทักษะการดาเนินชวี ติ การพัฒนาสังคมและชุมชน ผบู้ นั ทึก นางนภัสวรรณ พงศ์สมั พนั ธ์ ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล เบอร์โทร 098-2105620 ผรู้ ับรองขอ้ มลู (ผนู้ ำชุมชน) นายแสวง ชาวนา ตาแหนง่ ผ้ใู หญ่บา้ น เบอรโ์ ทร 065-1209132