Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่-6

หน่วยที่-6

Published by gitza942, 2018-09-05 10:32:56

Description: หน่วยที่-6

Search

Read the Text Version

หนว่ ยที่ 6 อปุ กรณส์ ำหรบั เชอ่ื มต่อเครือข่ำย ปรสะำเยภทLALNAN กำรด์ ท่ีใชใ้ นกำรเช่ือมตอ่ เครือขำ่ ย อปุ กรณ์ท่ใี ช้ในกำรเชอ่ื มโยงเครอื่ งคอมพิวเตอร์ทใี่ ชใ้ นระบบเครอื ขำ่ ย ซอฟต์แวร์เครอื ข่ำย โปรโตคอลโมเดม็ จดั ทำโดย นำยศุภกติ ติ์ วะชงั เงินปวส.2 คอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ (ม.6) เลขท่ี 14 เสนอ ครู เพียรวทิ ย์ ขำมณี

สำย LANสายแลน (Lan Cable)เป็นสายนาสัญญาณท่ีใช้ต่อกับคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์เชื่อมตอ่ เครือข่ายอยา่ ง Switch หรอื Hub และสายแลนก็ใชต้ อ่ กับ โมเดม็ เราเตอร์เพื่อเชอ่ื มต่อสัญญาณอินเตอรเ์ น็ตได้อกี ด้วย การส่งข้อมลู ระหวา่ งคอมพิวเตอรก์ บั คอมพวิ เตอร์โดยตรงกส็ ามารถทจ่ี ะใชส้ ายแลนในการเชอ่ื มต่อได้เชน่ กันประเภทของสำย LANสายแลนแบ่งออกไดเ้ ปน็ หลายประเภทขน้ึ อยูก่ บั ลักษณะของสายแลน1.แบง่ ตามการใชภ้ ายนอกและภายในอาคาร โดยทส่ี ายภายนอกอาคารจะมีปลอกหุ้มทแี่ ข็งกว่าและหนากว่าสายภายในเพอื่ ให้ทนตอ่ สภาพอากาศภายนอกอาคาร2.แบ่งตามลักษณะการหมุ้ ฉนวน มตี ้งั แตฉ่ นวนอยา่ งเดยี วไมม่ ีฟอยล์ มีฟอยล์นอก และมีฟอยลห์ มุ้ ทงั้ หมด

3. แบง่ ตามคณุ ภาพความถี่ที่รองรบั ได้– ประเภททห่ี นึ่ง คือ UTP UTP CAT5 คอื สายแลน ทีเ่ ปน็ สายทองแดงท่มี ีความเร็วทตี่ า่ ความเร็วสงู สุดอย่ทู ี่ 100 Mbps สายชนิดนี้ไมเ่ ปน็ ที่นิยมใชง้ านกนัซักเท่าไรเน่ืองดว้ ยอความเร็วในการถ่ายโอนขอ้ มูลท่ตี า่– ประเภททส่ี อง UTP CAT5e คือ สายแลนท่ีเป็นสายทองแดงทีม่ คี วามเร็วทตี่ ่าความเร็วสงู สดุ อยทู่ ี่ 1 Gpbs– ประเภททส่ี าม UTP CAT6 คอื สายแลนท่ีเป็นสายทองแดงทม่ี ีความเร็วทตี่ ่าความเร็วสงู สุดอยู่ท่ี 10 Gpbs BANWIDTH อยูท่ ี่ 250MHz– ประเภททีส่ ี่ UTP CAT7 คือ สายแลนทเี่ ป็นสายทองแดงทีม่ คี วามเร็วทต่ี ่าความเรว็ สูงสุดอยูท่ ี่ 10 Gpbs BANWIDTH อยทู่ ี่ 600MHz4. แบง่ ตามการเข้าหัว ของสายแลนตามลกั ษณะการใช้งานสายแลน เป็นสายนาสญั ญาณท่เี ราควรเลือกใหเ้ หมาะกับอุปกรณท์ ี่เชอ่ื มตอ่ และการเข้าหวั ของสายแลนกม็ สี ่วนสาคญั อกี ส่วนหน่งึ ทจี่ ะทาใหก้ ารเชอื่ มต่อมคี วามเสถยี รภาพและการส่งขอ้ มลู ที่ลน่ื ไหลมากยงิ่ ขึน้ ท้ังน้ที ัง้ นั้นการเลือกใช้งานสายแลนเราก็ควรเลอื กตามลักษณะงานที่เราจะใช้งานดว้ ยเชน่ กันกำร์ดทใ่ี ช้ในกำรเชอ่ื มต่อเครอื ข่ำยแผงวงจรสาหรับ ใชใ้ นการเชือ่ มตอ่ สายสญั ญาณของเครอื ขา่ ย ตดิ ต้ังไว้ในเครอื่ งคอมพิวเตอร์ทีเ่ ปน็ เครื่องแม่ขา่ ย และเคร่ืองทเี่ ปน็ ลกู ขา่ ย หน้าทีข่ องการด์ น้คี อื

แปลงสัญญาณจากคอมพวิ เตอร์ส่งผา่ นไปตามสายสญั ญาณ ทาใหค้ อมพวิ เตอร์ในเครอื ข่ายแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสารกนั ได้อุปกรณท์ ีใ่ ช้ในกำรเช่ือมโยง1. การ์ดเครือข่าย (Network Interface Card) หรือการ์ดแลน หรอื อีเทอร์เนต็การด์ ทาหนา้ ท่ีในการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ท่ีใช้งานอยู่เขา้ กบั ระบบเครือข่ายได้เชน่ ในระบบแลนเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทกุ เครื่องในเครอื ขา่ ยจะต้องมีการ์ดเครอื ข่ายทเ่ี ชื่อมโยงด้วยสายเคเบิลจึงสามารถทาใหเ้ ครอ่ื งตดิ ต่อเครือข่ายได้

2. ฮับ (Hub) คอื อุปกรณท์ ่ีรวมสญั ญาณทมี่ าจากอุปกรณร์ บั ส่งหลาย ๆ สถานีเข้าด้วยกนัฮับเปรียบเสมือนเป็นบสั ท่รี วมอย่ทู ่ีจดุ เดยี วกัน ฮบั ที่ใช้งานอยภู่ ายใต้มาตรฐานการรบั -สง่ แบบอีเทอรเ์ นต็ หรือ IEEE802.3 ขอ้ มูลที่รับ-ส่งผา่ นฮับจากเคร่ืองหนง่ึ กระจายไปยงั ทกุ สถานที ่ตี ดิ ตอ่ อย่บู นฮบั น้นั ดงั นน้ั ทุกสถานีจะรับสัญญาณข้อมูลทก่ี ระจายมาไดท้ งั้ หมดแต่จะเลือกคัดลอกเฉพาะข้อมูลทส่ี ่งมาถงึ ตนเทา่ นน้ั การตรวจสอบข้อมูลจงึ ต้องดทู ่แี อดเดรส (address) ที่กากบั มาในกลมุ่ของข้อมลู หรอื แพก็ เกจ3. สวติ ช์ (Switch) คือ อุปกรณร์ วมสัญญาณท่มี าจากอปุ กรณ์รับ-สง่ หลายสถานีเช่นเดยี วกับฮบั แต่มีขอ้ แตกต่างจากฮบั คือ การฮบั -ส่งขอ้ มลู จากสถานหี รอือปุ กรณต์ วั หน่ึงจะไม่กระจายไปยงั ทุกสถานเี หมือนฮบั ท้งั นี้เพราะสวติ ช์จะรับกล่มุ ข้อมูลหรือแพ็กเกจมาตรวจสอบกอ่ น แลว้ ดูว่าแอดเดรสของสถานหี ลายทางไปทีใ่ ด สวิตชจ์ ะลดปญั หาการชนกนั ของขอ้ มลู เพราะ ไม่ต้องกระจายข้อมูลไป

ทุกสถานี และยังมขี ้อดใี นเรือ่ งการป้องกนั การดกั จับขอ้ มลู ท่ีกระจายไปในเครอื ข่าย4. บริดจ์ (Bridge) คอื อปุ กรณท์ ีเ่ หมาะสมกับเครอื ข่ายหลาย ๆ กลมุ่ ทเี่ ชื่อมต่อกันเนื่องจากสามารถแบง่ เครอื ข่ายท่ีเชื่อมต่อกนั หลาย ๆ เซก็ เมนต์แยกออกจากกนั ได้ ทาให้ขอ้ มลู ในแต่ละเซ็กเมนตไ์ มต่ ้องว่ิงไปท่ัวทั้งเครือข่าย กล่าวคือ บริดจ์สามารถอา่ นเฟรมข้อมลู ทีส่ ง่ มาไดว้ า่ มาจากเครอ่ื งในเซ็กเมนต์ใด จากนัน้ จะทาการสง่ ขอ้ มลู ไปยงั เครอ่ื งซงึ่ อาจอยูใ่ นเซ็กเมนต์เดียวกันหรอื ตา่ งเซก็ เมนต์ก็ได้ ซ่งึความสามารถดงั กล่าวทาใหช้ ว่ ยลดปัญหาความคบั คัง่ ของข้อมูลในระบบได้

5. รีพีตเตอร์ (Repeater) คอื อปุ กรณ์ทวนสญั ญาณเพอื่ ให้สามารถสง่ ขอ้ มูลถึงกนั ไดร้ ะยะไกลขึน้ คอื รีพีตเตอร์จะปรับรูปแบบเดิม เพอื่ ได้สญั ญาณสามารถส่งต่อไปได้อีก เชน่ การเชื่อมต่อเครือข่ายแลนหลาย ๆ เซก็ เมนต์ ซง่ึ ความยาวของแตล่ ะเซก็ เมนต์น้นั จะมีระยะทางทจี่ ากดั ดังนั้น อุปกรณ์อย่างรพี ตี เตอรจ์ ะชว่ ยแกไ้ ขปญั หาเหล่าน้ีได้6. โมเดม็ (Modem) คอื อุปกรณท์ ่ที าหนา้ ท่แี ปลงสัญญาณคอมพิวเตอร์ให้สามารถเชื่อมคอมพิวเตอรท์ ่ีอย่รู ะยะไกลเขา้ หากันไดด้ ้วยการผ่านสายโทรศัพท์โดยโมเด็มจะทาหน้าที่แปลงสัญญาณ ซ่ึงแบง่ ออกเป็นทง้ั ภาคสง่ และภาครับ โดยภาคส่งจะทาการแปลงสัญญาณคอมพิวเตอรใ์ ห้เปน็ สัญญาณโทรศพั ท์ (Digitalto Analog) ในขณะทภี่ าครับนั้นจะทาการแปลงสญั ญาณโทรศพั ทก์ ลบั มาเปน็สญั ญาณคอมพวิ เตอร์ (Analog to Digital) ดังน้นั ในการเชอื่ มตอ่ เครือข่ายระยะไกลๆ เช่น อินเทอร์เนต็ จึงจาเป็นตอ้ งใช้โมเดม็ โดยโมเด็มมที ้ังแบบภายใน(Internal Modem) ทมี่ ีลักษณะเป็นการด์ โมเด็มภายนอก (ExternalModem) ท่มี ลี ักษณะเป็นกลอ่ งแยกออกต่างหาก และรวมถึงโมเด็มท่ีเป็นPCMCIA ทมี่ กั ใช้กบั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์โน้ตบ๊คุ

โมเด็มภายนอกและภายใน7. เราเตอร์ (Router) ในการเชือ่ มโยงเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์จะตอ้ งมกี ารเช่อื มโยงหลายๆ เครือข่าย หรอื อปุ กรณ์หลายอยา่ งเข้าด้วยกัน ดังน้ัน จึงมีเสน้ ทางเข้า - ออกของข้อมูลไดห้ ลายเส้นทาง และแต่ละเสน้ ทางอาจใช้เทคโนโลยเี ครอื ขา่ ยท่ีต่างกนั อปุ กรณจ์ ัดเส้นทางจะทาหน้าทห่ี าเส้นทางที่เหมาะสมเพอ่ื ใหก้ ารส่งขอ้ มูลเปนไปอย่างมีประพสทิ ธิภาพ การท่อี ุปกรณจ์ ดั หาเส้นทางต้องรับรูต้ าแหน่งและสามารถนาข้อมูลออกเส้นทางไดถ้ กู ตอ้ งตามตาแหน่งแอดเดรสท่ีกากบั อยูเ่ สน้ ทางน้ัน

8. เกตเวย์ (Gateway) คอื อุปกรณอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ทีช่ ว่ ยในการส่ือสารขอ้ มลูหน้าที่หลกั ของเกตเวย์ คือ ชว่ ยทาใหเ้ ครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ 2 เครอื ขา่ ย หรอืมากกว่าทม่ี ีลักษณะไมเ่ หมือนกัน คอื ลกั ษณะของการเชื่อตอ่ (Connectivity)ของเครอื ขา่ ยทแี่ ตกตา่ งกัยน และมโี พรโตคอลสาหรับการสง่ - รับขอ้ มลู ต่างกันเชน่ LAN เครอื หนึง่ เป็นแบบ Ethernet และ โพรโตคอลแบบอะซิงโครนัส ส่วนLAN อีกเครอื ขา่ ยหนึ่งเปน็ แบบ Token Ring และใชโ้ พรโตคอลแบบซงิ โครนสัเพือ่ ให้สามารถตดิ ตอ่ กันได้เสมือนเปน็ เครือข่ายเดียวกัน เพื่อกาจดั วงให้แคบลงมา เกตเวยโ์ ดยทั่วไปจะใช้เป็นเคร่ืองมือส่ง - รบั ขอ้ มูลกันระหวา่ ง LAN 2เครอื ขา่ ยหรอื LAN กับเคร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ มนเฟรม หรอื ระหวา่ ง LAN กับWAN โดยผ่านเครือขา่ ยโทรศพั ท์สาธารณะ เช่น X.25 แพก็ เกจสวิตซ์ เครือขา่ ยISDN เทเล็กซ์ หรอื เครือขา่ ยทางไกลอ่นื

เคร่อื งคอมพิวเตอรท์ ใ่ี ช้ในระบบเครือข่ำยเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) คอื ระบบที่มคี อมพิวเตอร์อยา่ งน้อยสองเครอื่ งเชอ่ื มต่อกันโดยใช้สอ่ื กลาง และกส็ ื่อสารขอ้ มูลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงทาให้ผใู้ ชค้ อมพิวเตอร์แต่ละเครือ่ งสามารถแลกเปล่ียนข้อมลูซึง่ กนั และกนั ได้ นอกจากนย้ี ังสามารถใช้ทรัพยากร(Resources) ทมี่ ีอยใู่ นเครอื ข่ายรว่ มกันได้ เช่น เครอ่ื งพิมพ์ ซดี รี อม สแกนเนอร์ ฮารด์ ดสิ ก์ เป็นต้น 1 เนต็ เวริ ์คการ์ด 2 สายสญั ญาณ 3 อุปกรณ์เครอื ข่ายซอฟตแ์ วร์เครอื ขำ่ ย เปน็ ซอฟตแ์ วร์เครือข่ายทถี่ กู ใช้อย่างแพร่หลายที่สดุ ในโลก ผสานรวมเทคโนโลยใี หม่ลา่ สดุ บรกิ ารธรุ กิจท่ีสาคญั และสนับสนุนแพลตฟอร์มฮารด์ แวร์ในวงกวา้ งระบบซอฟต์แวร์เครือข่ำย 1. IOS 2. IOS XE

3. IOS XR 4. NO-OSโปรโตคอล หมายถึง ข้อกาหนดหรอื ขอ้ ตกลงในการสือ่ สารระหวา่ งคอมพิวเตอร์ ซง่ึ มีหลายชนดิ คลา้ ยกับภาษามนุษยท์ ่ีมที งั้ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษามือเปน็ ต้น โดยมนษุ ยจ์ ะสื่อสารกนั ใหเ้ กดิ ความเช้าใจได้ จะต้องใช้ภาษาเดียวกนั ในกรณที ค่ี อมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ต้องการสื่อสารกนั แตใ่ ช้คนละภาษา จะต้องมีตัวกลางในการแปลงโปรโตคอล ที่เรียกวา่ Gateway ถ้า เทยี บกับภาษามนษุ ยก์ ็คอื ล่าม ซ่งึ อาจจะเปน็ เครื่องเซิฟเวอรส์ าหรับทาหน้าทนี่ ้ีโดยเฉพาะ หรืออาจะเป็นโปรแกรมเมอร์หรือไดร์ฟเวอรส์ าหรบั ติดตั้งเพิ่มเตมิ ในเครอ่ื ง คอมพิวเตอร์โมเด็ม เป็นอุปกรณ์สาหรบั คอมพิวเตอรอ์ ย่างหนึง่ ทชี่ ่วยใหค้ ุณสัมผัสกับโลกภายนอกได้อยา่ งง่ายดาย โมเด็มเปน็ เสมือนโทรศัพท์สาหรบั คอมพิวเตอรท์ ่ีจะชว่ ยให้ระบบคอมพิวเตอร์ของคณุ สามารถส่อื สารกบั คอมพิวเตอร์อ่ืนๆ ไดท้ วั่ โลกโมเดม็ จะสามารถทางานของคุณให้สาเร็จไดก้ ด็ ว้ ยการเช่อื มต่อระหว่างคอมพวิ เตอรข์ องคณุ เขา้ คู่สายของโทรศัพทธ์ รรมดาคูห่ น่ึงซง่ึ โมเด็มจะทาการ

แปลงสญั ญาณดิจิตอล (digital signals) จากเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ให้เป็นสัญญาณอนาลอ็ ก (analog signals) เพื่อใหส้ ามารถสง่ ไปบนคู่สายโทรศัพท์ คาว่า โมเดม็ (Modems) มาจากคาวา่ (modulate/demodulate) ผสมกัน หมายถงึ กระบวนการแปลงข้อมูลข่าวสารดิจิตอลให้อยู่ในรปู ของอนาล็อกแล้วจงึ แปลงสญั ญาณกลับเปน็ ดจิ ติ อลอกี คร้ังหนึ่งเม่อื โมเดม็ ของคณุ ต่อเขา้ กบัโมเด็มตัวอน่ื ความแตกต่างของโมเด็มแต่ละประเภท 1. ความเรว็ ในการรบั – สง่ สัญญาณ 2. ความสามารถในการบีบอัดขอ้ มลู 3. ความสามารถในการใชเ้ ปน็ โทรสาร 4. ความสามารถในการควบคุมความผิดพลาด 5. ออกแบบให้ใชไ้ ดท้ ้ังภายในและภายนอก 6. ใช้เปน็ โทรศัพทไ์ ด้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook