ทศั นธาตุ วชิ า ศลิ ปะ ชนั+ ประถมศกึ ษาปีท65ี
คาํ นํา รายงานเลน่ น*ีจดั ทาํ ขน*ึ เพอ4ื ประกอบการเรยี นวชิ า >?@-B?B การวเิ คราะหแ์ ละ ออกแบบสอ4ื การสอนสาํ หรบั ครปู ระถมศกึ ษา โดยมจี ดุ ประสงคเ์ พอ4ื ใหผ้ จู้ ดั ทาํ ไดแ้ ละไดฝ้ ึก การศกึ ษาคน้ ควา้ และนําสงิ4 ทไ4ี ดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ มาสรา้ งเป็น ชน*ิ งานเกบ็ ไวเ้ ป็นประโยชน์ต่อการเรยี นการสอนของตนเองและครตู ่อไป ทงั* น*ี เน*ือหาไดร้ วบรวมมาจากหนงั สอื เรยี นวชิ าศลิ ปะประถมศกึ ษาปีท4ี B และ จากหนงั สอื คมู่ อื การเรยี นอกี หลายเลม่ หากมขี อ้ แนะนําหรอื ขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผจู้ ดั ทาํ ขอน้อมรบั ไวแ้ ละขออภยั มา ณ ทน4ี *ีดว้ ย
สารบญั หน้า 1-3 เรอ$ื ง 4 '. คาํ ถามนําสบู่ ทเรยี น 5 - 24 7. ทศั นธาตุ 25 - 27 =. องคป์ ระกอบของทศั นธาตุ 28 C. คาํ ถามหลงั บทเรยี น 29 - 30 F. เฉลยคาํ ถามนําเขา้ สบู่ ทเรยี น 31 I. เฉลยคาํ ถามทา้ ยบทเรยี น J. อา้ งองิ
1 คาํ ถามนําสบู่ ทเรยี น คาํ ชแ1ี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาํ ถามต่อไปน1ีให้ ถกู ตอ้ ง >.นกั เรยี น รหู้ รอื ไมว่ า่ ทศั นธาตุคอื อะไร ตอบ………………………………………………
2 2.องคป์ ระกอบของทศั นธาตุ ประกอบไปดว้ ยอะไรบา้ ง ตอบ.............................................................
คาํ ถามเขา้ สบู่ ทเรยี น 3 คาํ ส&ัง : จงเลือกคาํ ตอบท&ถี กู ต้องท&สี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว !. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ องคป์ ระกอบของทศั นธาตุ ก. เสน้ และสี ข. รปู รา่ งและรปู ทรง ค. นDําหนกั แสงเงาและลกั ษณะผวิ ง. จดุ เดน่ และความสมดลุ L. ขอ้ ใดทMี ไมใ่ ช่ หลกั การจดั ภาพองคป์ ระกอบศลิ ป์ ก. เอกภาพและความสมดลุ ข. จดุ เดน่ หรอื จดุ สนใจ ค. ความกลมกลนื และความขดั แยง้ ง. นDําหนกั ของสแี ละแสงเงา R. เสน้ ทแMี สดงถงึ ความกวา้ ง ความสงบ ความนMิงเฉย และพกั ผอ่ น คอื เสน้ ใด ก. เสน้ ตงัD ข. เสน้ นอน ค. เสน้ ทแยง ง. เสน้ โคง้ W. ขอ้ ใดมรี ปู รา่ งอสิ ระ ก. เหรยี ญบาท ข.ไมบ้ รรทดั ค. กระดานดาํ ง. ปู Y. ขอ้ ใดไมม่ รี ปู รา่ งอสิ ระ ก. ดอกไม้ ข. แมลงปอ ค. แผน่ CD ง. สบั ปะรด
ทศั นธาตุ 4 ทศั นธาตใุ นทางทศั นศิลป์ หมายถงึ สว่ นประกอบของศลิ ปะทรOี วมกนั เป็นรปู รา่ งของ สงิO หลายอยา่ งทมOี องเหน็ ไดซ้ งOึ เราสามารถนําสว่ นประกอบ แต่ละอยา่ มาสรา้ งเป็นงานศลิ ปะไดใ้ นหลายรปู แบบซงOึ กจ็ ะ ใหค้ วามรสู้ กึ ในการมองเหน็ ทแOี ตกต่างกนั ไปทศั นธาตุ สามารถสรา้ งอารมณ์ต่างๆใหก้ บั คนดจู งึ เป็นความรพู้ น1ื ฐาน
!. จดุ 5 '. เสน้ องคป์ ระกอบ ,. สี ทศั นธาตุ .. รปู รา่ งรปู ทรงขนาด 7. สดั สว่ น :. ลกั ษณะผวิ B. แสงเงา D. ชอ่ งวา่ ง
จดุ 6 จดุ หมายถงึ การทาํ ใหพ้ น1ื ทวOี า่ งเกดิ การกระทาํ ขน1ึ ซงOึ จดุ นบั วา่ เป็นตน้ กาํ เนิดของงานศลิ ปะเลยกว็ า่ ไดโ้ ดยทวัO ไปแลว้ จดุ มกั เป็นองคป์ ระกอบในทกุ ๆ ภาพเชน่ เวลาทเOี ราขยายภาพขน1ึ มา > ภาพเราจะ เหน็ วา่ ในภาพนนั1 ๆ เตม็ ไปดว้ ยจดุ เลก็ ๆ ยงิO ขยาย มากขน1ึ เทา่ ใดกจ็ ะไดจ้ ดุ มากขน1ึ เทา่ นนั1 จดุ สามารถ เกดิ ได้ X ลกั ษณะดงั น1ี
7 >. เกดิ ขน1ึ เองตามธรรมชาตเิ ชน่ จดุ ในลายขอ เสอื ดาวเปลอื กหอยผเี สอ1ื แมลงต่างๆพชื เปลอื กไมผ้ ลไม้ ฯลฯ X. เกดิ จากมนุษยส์ รา้ งขน1ึ ไดแ้ ก่ การจม1ิ กระแทกกดดว้ ยวสั ดอุ ุปกรณ์ต่างๆเชน่ ปากกาดนิ สอพกู่ นั กงิO ไมแ้ ละของปลาย แหลมทกุ ชนิด
8 เสน้ เสน้ หมายถงึ รอยลกั ษณะกลมหรอื รอย จากการจม1ิ กดกระแทกดว้ ยวสั ดตุ ่าง ๆ ถา้ จดุ หลายรอ้ ยเรยี งต่อเนOืองกนั ไปในทศิ ทาง เดยี วกนั จนกลายเป็นเสน้ จดุ เป็นมวลทงั1 เลก็ และใหญ่ขน1ึ อยกู่ บั วสั ดอุ ะไรทจOี ดุ ลงไป
9 เสน้ เสน้ เกดิ จากจดุ ทเ.ี ชอ.ื มต่อกนั ในทางยาวในทางปฏบิ ตั เิ สน้ เกดิ จาก การขดู ขดี ดว้ ยดนิ สอปากกาแปรงหรอื พกู่ นั เสน้ เป็นพนDื ฐานทางสาํ คญั ของงานศลิ ปะทกุ ชนิดเสน้ สามารถใหค้ วามหมายแสดงความรสู้ กึ และ อารมณ์ไดด้ ว้ ยตวั เองและดว้ ยการสรา้ งเป็นรปู ทรงต่างๆขนDึ เสน้ มี R ลกั ษณะคอื เสน้ ตรงและเสน้ โคง้ เสน้ ทงัD สองชนิดนDีเมอ.ื นํามาจดั วางใน ลกั ษณะต่างๆกนั จะมชี อ.ื เรยี กต่าง ๆ และใหค้ วามหมายความรสู้ กึ ท.ี แตกต่างกนั อกี ดว้ ย
10 ความร้สู ึกท-ีมีต่อเส้น U. เสน้ ตรงแนวตงัD ใหค้ วามรสู้ กึ มงั. คงแขง็ แรงสงา่ งามเป็นระเบยี บ R. เสน้ ตรงแนวนอนใหค้ วามรสู้ กึ ราบเรยี บสงบนิ.งปลอดภยั X. เสน้ ตรงเฉยี งใหค้ วามรสู้ กึ เอยี งไมต่ รงความรวดเรว็ สอ.ื ถงึ ทางเดนิ ของแสง Z. เสน้ โคง้ ของวงกลมใหค้ วามรสู้ กึ ออ่ นโยนออ่ นชอ้ ยนุ่มนวลเศรา้ [. เสน้ โคง้ อสิ ระใหค้ วามรสู้ กึ โคง้ ขนDึ สงู จะแสดงความเจรญิ เตบิ โต
11 \\. เสน้ โคง้ หรอื กน้ หอยใหค้ วามรสู้ กึ เคลอ.ื นไหวคลค.ี ลายขยายตวั ไปไมม่ ที .ี สนDิ สดุ ]. เสน้ คอใหค้ วามรสู้ กึ เคลอ.ื นไหวต่อเน.ืองไมม่ สี นDิ สดุ ^. เสน้ ฟันปลาใหค้ วามรสู้ กึ การเปลย.ี นแปลงทศิ ทางอยา่ งรวดเรว็ ใหจ้ งั หวะ กระแทกเกรง็ รนุ แรงต.นื เตน้ `. เสน้ ประหรอื เสน้ ขาดใหค้ วามรสู้ กึ ไมเ่ ป็นระเบยี บสบั สนวนุ่ วายไมม่ นั. คง เก่าเสอ.ื มโทรมอนั ตราย
แสงเงา 12 แสงเงา หมายถงึ แสงจากธรรมชาตหิ รอื แสง ไฟทส$ี อ่ งมากระทบวตั ถุทาํ ใหส้ ว่ นทก$ี ระทบแสง สวา่ งและเกดิ เงาในบรเิ วณตรงขา้ มกบั แสง กระทบนอกจากน`ียงั เกดิ เงาตกทอดของวตั ถุลง พน`ื ทซ$ี ง$ึ อยตู่ รงขา้ มกบั ทศิ ทางของแสงดว้ ย ดงั นนั` แสงและเงาจงึ มคี วามสมั พนั ธก์ นั แสงเงา ชว่ ยใหง้ านศลิ ปะเหมอื นจรงิ มมี ติ ขิ น`ึ ลกึ และมี ระยะใกลไ้ กลทาใหง้ านทศั นศลิ ป์ มคี ณุ คา่ เพมิ$ ขน`ึ
13 รปู รา่ ง รปู รา่ ง หมายถงึ เสน้ รอบนอกทางกายภาพ ของวตั ถุสงิ= ของเครอ=ื งใชค้ นสตั วแ์ ละพชื มลี กั ษณะ เป็น J มติ มิ คี วามกวา้ งและความยาวรปู รา่ งแบง่ ออกเป็น K ประเภทคอื รปู รา่ งธรรมชาต,ิ รปู รา่ ง เรขาคณติ , รปู รา่ งอสิ ระ
รปู ทรง 14 รปู ทรง หมายถงึ โครงสรา้ งทงัO หมดของวตั ถุทป=ี รากฏ แกส่ ายตาในลกั ษณะ K มติ คิ อื มที งัO สว่ นกวา้ งสว่ นยาว สว่ นหนาหรอื ลกึ คอื จะใหค้ วามรสู้ กึ เป็นแทง่ มเี นOือท=ี ภายในมปี รมิ าตรและมนี Oําหนกั
พน&ื ผวิ 15 พน`ื ผวิ หมายถงึ ลกั ษณะภายนอกของวตั ถุทม$ี องเหน็ และ สมั ผสั พน`ื ผวิ ไดแ้ สดงความรสู้ กึ หยาบละเอยี ดขรขุ ระมนั ดา้ น เป็นสนั เป็นจดุ จบั ดแู ลว้ สะดดุ มอื หรอื ภาพจติ รกรรมสมั ผสั ได้ จากความรสู้ กึ ลกั ษณะของพน`ื ผวิ เกดิ ขน`ึ ได้ 7 ลกั ษณะดงั น`ี
16 T. ลกั ษณะพนOื ผวิ ทเ=ี กดิ จาก ธรรมชาตสิ ามารถจบั ตอ้ งไดจ้ าก ผวิ คนสตั วพ์ ชื มคี วามรสู้ กึ หยาบ ละเอยี ดเชน่ เปลอื กไมห้ นงั สตั ว์ กอ้ นหนิ เป็นตน้
17 X. ลกั ษณะพน1ื ผวิ ทเOี กดิ จากมนุษย์ สรา้ งขน1ึ มที งั1 ผวิ สรา้ งขน1ึ มที งั1 ผวิ หยาบ และละเอยี ดเมอOื จบั ตอ้ งดจู ะเป็นผวิ เรยี บๆเชน่ วสั ดสุ งั เคราะหผ์ วิ เป็น ลวดลายลายกระสอบลายผา้ เป็นตน้
18 สี สี หมายถงึ สงิO ทปOี รากฎอยทู่ วัO ไปรอบๆตวั เราไมว่ า่ จะเป็นสที เOี กดิ ขน1ึ เองในธรรมชาตหิ รอื สงOิ ทมOี นุษยส์ รา้ งขน1ึ สที าํ ใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ แตกต่างมากมายเชน่ ทาํ ใหร้ สู้ กึ สดใสรา่ เรงิ ตOนื เตน้ หมน่ หมองหรอื เศรา้ เป็นตน้
สีกบั อารมณ์ความร้สู ึก 19 สีกบั อารมณ์ความรสู้ ึก สมี ผี ลต่ออารมณ์ ความรสู้ กึ ของมนุษยอ์ ยา่ งลกึ ซง1ึ แน่นอนวา่ สนี นั1 มกี าร นํามาใชใ้ นเครอOื งแต่งกาย เสอ1ื ผา้ ไมว่ า่ จะเป็นเสอ1ื กระโปรง กางเกง หมวก ผา้ พนั คอ กระเป๋ า และอนOื ๆ มคี วามสมั พนั ธก์ บั อารมณ์ของเราทกุ คน บอกความ เป็นตวั ตน ใหค้ วามรสู้ กึ ทแOี ตกต่างกนั
20 แหล่งกาํ เนิดสีมาจาก 2 แหล่งด้วยกนั 1. สีจากแสง RGB คอื แดง เขยี ว น/ําเงนิ มาผสมจนเกดิ สสี นั ตา่ งๆ เครอ<ื งใชท้ <ี ใชแ้ หลง่ กาํ เนิดสจี ากแสง เชน่ โทรทศั น์ จอคอมพวิ เตอร์ 2. สีจากหมึกพิมพ์ CMYK คอื ฟ้า มว่ งแดง เหลอื ง ดาํ ใชใ้ นงานกราฟฟิค ใช้ ในงานโหมดการพมิ พ์ ใหผ้ ลลพั ธ์ ทต<ี รงกบั หน้าจอคอมทส<ี ดุ สี 3. สีจากธรรมชาติ คอื แดง เหลอื ง น/ําเงนิ เป็นแมส่ ี และนํามาผสมเป็นสขี นั/ สอง และขนั/ ทส<ี าม
สีแดง คอื เป็นสแี หง่ พลงั อาํ นาจ ความทะเยอทะยาน เรา่ รอ้ น รนุ แรง 21 มนั= คง อุดมสมบรู ณ์ อารมณ์ สีชมพู คอื เป็นสที เ=ี ป็นสญั ลกั ษณ์การปลอบประโลมจติ ใจ ใหร้ สู้ กึ สงบลง ให้ ใน ความรสู้ กึ จติ ใจกวา้ งขวาง อบอุน่ ใหค้ วามรสู้ กึ ตรงขา้ มกบั สแี ดง ใหน้ ึกถงึ การ สี ปกป้อง สีส้ม คอื เป็นสแี หง่ ความเบกิ บาน ความสนุกรน=ื เรงิ อสิ ระ ปลอดปลอ่ ย สแี หง่ การ สรา้ งสรรค์ อบอุน่ สดใสมสี ตปิ ัญญา มคี วามทะเยอทะยาน มพี ลงั ระมดั ระวงั ตน สีเขียว คอื ใหค้ วามรสู้ กึ เป็นธรรมชาติ วา่ งเปลา่ สงบ สมดลุ และปลอ่ ยวาง สรา้ ง บรรยากาศใหร้ สู้ กึ สบาย ถา้ เป็นสเี ขยี วเขม้ หมายถงึ การหลดุ พน้ สีเงิน คอื มลี กั ษณะบคุ ลกิ ภาพพนQื ฐานของผหู้ ญงิ ทไ=ี วตอ่ ความรสู้ กึ แตม่ ี ดลุ ยภาพมกี ารประสานปรองดอง และใหค้ วามรสู้ กึ สดใส และมคี วาม หมายถงึ การเปลย=ี นแปลง
สีเหลือง คอื เป็นสแี หง่ สตปิ ัญญา การหยงั= รู้ เป็นสที ใ=ี หค้ วามสขุ ความเบกิ บาน 22 มชี วิ ติ ชวี า ใชใ้ นงานเฉลมิ ฉลองเป็นสขี องความแจม่ ใส อารมณ์ สีมรกต คอื สแี หง่ ทอ้ งทะเลลกึ ใหค้ วามหมายถงึ ความ สขุ มุ เยอื กเยน็ ความสงบ ใน เงยี บเหมอื นสเี ขยี วเหมาะกบั การชะลา้ งความตงึ เครยี ดในจติ ใตเป็นสที ถ=ี กู ยกมา สี เพอ=ื ใหก้ าํ ลงั ใจ สีนํ:าเงิน คอื ใหค้ วามสงบ สขุ มุ เยอื กเยน็ เป็นสที ม=ี คี วามหมายเกย=ี วโยงกบั จติ ใจ มากกวา่ สเี หลอื งใหค้ วามรสู้ กึ สงบและผอ่ นคลายลกึ กวา่ มกี ารนําสนี Qําเงนิ มาบาํ บดั คนทนี อนไมห่ ลบั เป็น สขี องหอ้ งนอน อยา่ งไรกต็ ามถา้ เขา้ ไปใน โทนดาํ จะให้ ความรสู้ กึ โศกเศรา้ อยา่ งทส=ี ดุ สีฟ้า คอื ใหค้ วามรสู้ กึ สงบเยอื กเยน็ เป็นอสิ ระ สบายใจ ปลอดภยั ระงบั การกระวน กระวายใจ สีทอง คอื สที ม=ี คี วามหมายลกั ษณะเดยี วกบั สเี หลอื งเกย=ี วเน=ืองกบั พลงั และความ อุดสมบรู ณ์ เป้าหมาย สงู สดุ ความเขา้ อกเขา้ ใจ ปกตสิ ที องหมายถงึ ชวี ติ ใหม่ ใหพ้ ลงั ในการดงึ ตวั เองหลดุ พน้ จากความ ตกต=าํ ในจติ ใจ
สีม่วง คอื สที ส=ี รา้ งสมดลุ ในจติ ใจ จากภาวะความเศรา้ ปลอดโยนใหจ้ ติ ใจสงบและ 23 อดทนต่อ ความรสู้ กึ โศกเศรา้ เป็นสที ก=ี ระตุน้ ใหเ้ กดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ อารมณ์ แรงบนั ดาลใจ ใน สีมงั คดุ คอื เป็นสที ช=ี ว่ ยใหไ้ มร่ สู้ กึ ความหมดหวงั วติ กกงั วลต่อความรสู้ กึ โกรธ สี หรอื ผดิ หวงั ทาํ ใหจ้ ติ ใจผอ่ นคลาย สมี งั คดุ มกั เกย=ี วขอ้ งกบั การ สงสาร ความ เมตตาชว่ ยเหลอื เป็นการปลอบให้ ฟQืนขนQึ มา สีขาว คอื ใหค้ วามรสู้ กึ บรสิ ทุ ธิ W สนั ตภิ าพ บรรเทาอาการตกใจ สง่ เสรมิ ใหจ้ ติ ใจ สะอาดบรสิ ทุ ธิ Wมคี วามหมายไปในทางสงบเยอื กเยน็ สะอาด ใหมส่ ดใส สีดาํ คอื ใหค้ วามรสู้ กึ ลกึ ลบั เงยี บสงดั ใหค้ วามรสู้ กึ ถดถอย ออ่ นลา้ หมดพลงั และลลQี บั ขดั ขวาง การเจรญิ เตบิ โต และการเปลย=ี นแปลง เป็นการปิดบงั อาํ พราง จากโลกภายนอก สีนํ:าตาล คอื เป็นสขี องแผน่ ดนิ ใหค้ วามรสู้ กึ มนั= คง ลดความไมป่ ลอดภยั อยา่ งไรก็ ตาม สนี Qําตาล มกั เกย=ี วขอ้ งกบั การเตมิ เตม็ ความรสู่ กึ บาํ บดั ความเศรา้ โศก ความ คบั อกคบั ใจ สนี Qีมกั นําไปชว่ ยเหลอื คนทร=ี สู้ กึ หมดคณุ คา่ ในตวั เอง
สรปุ ความรู้ 24 ทศั นธาตุ หมายถงึ สว่ นประกอบของการมองเหน็ หรอื สงิO ทเOี ป็นปัจจยั ของการเหน็ ในงานทศั นศลิ ป์ ไดแ้ ก่ จดุ ,เส้นแสงเงา,รปู รา่ ง,รปู ทรง,พืนE ผิว,สี เป็นตน้ ซงOึ เราสามารถนาสว่ นประกอบแต่ละอยา่ งมาสรา้ งเป็น งานศลิ ปะไดใ้ นหลายรปู แบบซงOึ กจ็ ะใหค้ วามรสู้ กึ ในการมองเหน็ ทแOี ตกต่างกนั ไป ทศั นธาตุสามารถสรา้ งอารมณ์ต่างๆใหก้ บั คนดจู งึ เป็นความรู้ พน1ื ฐานนบั ตงั1 แต่จดุ เสน้ น้าหนกั แสงเงารปู รา่ งรปู ทรงพน1ื ผวิ สมี กั มปี รากฏอยใู่ นความงามอนั ละเอยี ดออ่ นของธรรมชาตทิ งั1 สน1ิ
25 คาํ ถาม 2. เสน้ มกี ล6ี กั ษณะอะไรบา้ ง? หลงั บทเรยี น @. ลกั ษณะพนCื ผวิ ทเ6ี กดิ จากธรรมชาตมิ อี ะไรบา้ ง พรอ้ มยกตวั อยา่ งมา L อยา่ ง L. จดุ สามารถเกดิ ไดก้ ล6ี กั ษณะและมอี ะไรบา้ ง?
คาํ ส'ัง : จงเลือกคาํ ตอบท'ถี กู ต้องท'สี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 26 !. จากภาพ มีลกั ษณะคล้ายกบั รูปร่างของข้อใด ก. ซองจดหมาย ข. ดินสอ ค. ส้ม ง. เสอื D E. เส้นตรงแนวตงัD ให้ความรู้สกึ อยา่ งไร ก. ไมอ่ ยนู่ ิKง ข. มนัK คง ค. ความกว้าง ง. ไมแ่ นน่ อน 3. จากภาพ นกั เรียนมองเหน็ เส้นใด ก. เส้นขดก้นหอย ข. เส้นหยกั ค. เส้นโค้ง ง. เส้นประ O. ผิวเปียกลนืK คือพืนD ผิวของข้อใด ก. ไขไ่ ก่ ข. นําD แขง็ ค. ขนเมน่ ง. กระดองเตา่ R. ข้อใดคือความสาํ คญั ของพืนD ทีKวา่ ง ก. ชว่ ยให้เกิดความหนาแนน่ ข. เกิดความโลง่ ค. ชว่ ยให้ภาพสมบรู ณ์ ง. ชว่ ยให้ภาพดโู ดดเดน่
27 คาํ ส'ัง : จงเลือกคาํ ตอบท'ถี กู ต้องท'สี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว W. ข้อใดจดั อยใู่ นสีวรรณะเย็น ก. สีส้มเหลือง ข. สเี ขียวเหลอื ง ค. สแี ดง ง. สีส้ม X. ข้อใดจดั อยใู่ นสีวรรณะอนุ่ ก. สีเขียว ข. สนี ําD เงิน ค. สมี ว่ งแดง ง. สีเทา Z. ภาพใดไมเ่ หมาะสําหรับใช้โทนสีร้อน ก. ภาพป่าไม้ ข. ภาพภเู ขาไฟ ค. ภาพทะเลทราย ง. ภาพไฟไหม้ \\. ความรู้สกึ ใดมีความสมั พนั ธ์กบั สีวรรณะเย็น ก. อบอนุ่ ข. สขุ มุ ค. สดใส ง. โออ่ า่ !^. สีใดให้ความรู้สกึ ร้อน ก. สีนําD เงิน ข. สีแดง ค. สเี ขียว ง. สีฟา้
เฉลยคาํ ถามนําเขา้ สบู่ ทเรยี น 28 ตอนที& ( !. ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายความหมายของทศั นธาตุตามความเขา้ ใจของนกั เรยี น ตอบ สว่ นประกอบของศลิ ปะทร2ี วมกนั เป็นรปู รา่ งของสง2ิ หลายอยา่ งทม2ี องเหน็ ได้ =. ทศั นธาตุมอี งคป์ ระกอบหลายอยา่ งมอี ะไรบา้ ง? ตอบ จดุ , เสน้ , รปู รา่ งและรปู ทรง, น/ําหนกั ออ่ น-แก่และสี ตอนที& 2 1. ตอบ ง. จุดเด่นและความสมดุล 2. ตอบ ง. น5าํ หนกั ของสีและเงา 3. ตอบ ข. เสน้ นอน 4. ตอบ ก. เหรียญบาท 5. ตอบ ค. แผน่ CD
เฉลยคาํ ถามหลงั บทเรยี น 29 ตอนทGี H '. เสน้ มกี ล$ี กั ษณะอะไรบา้ ง? ตอบ มี 7 ลกั ษณะเสน้ ตรงเสน้ โคง้ 7. ลกั ษณะพน`ื ผวิ ทเ$ี กดิ จากธรรมชาตมิ อี ะไรบา้ งยกตวั อยา่ งมา = อยา่ ง ตอบ เปลอื กไม,้ กอ้ นหนิ , หนงั สตั ว์ =. จดุ สามารถเกดิ ไดก้ ล$ี กั ษณะและมอี ะไรบา้ ง? ตอบ จดุ มี 7 ลกั ษณะคอื '. เกดิ ขน`ึ เองตามธรรมชาติ 7. เกดิ จากมนุษยส์ รา้ งขน`ึ
เฉลยคาํ ถามหลงั บทเรยี น 30 1. ก เพราะซองจดหมายมรี ปู รา่ งเป็นสเ8ี หลย8ี มผนื ผา้ ซง8ึ คลา้ ยกบั ภาพโจทยท์ ก8ี าํ หนด 2. ข เพราะเสน้ ตรงแนวตงัK ใหค้ วามรสู้ กึ มนั8 คง เสน้ ตรงแนวเฉยี งใหค้ วามรสู้ กึ ไมอ่ ยนู่ ิ8งเสน้ ตรงแนวนอนแสดง ถงึ ความกวา้ ง เสน้ ขดกน้ หอยใหค้ วามรสู้ กึ ไมแ่ น่นอน 3. ค เพราะภาพกอ้ นเมฆเป็นการนําเสน้ โคง้ มาวาดต่อกนั จนกลายเป็นกอ้ นเมฆ 4. ข เพราะนKําแขง็ มพี นKื ผวิ เปียกลน8ื ไขไ่ ก่มพี นKื ผวิ เรยี บ ขนเมน่ มพี นKื ผวิ แหลมคมกระดองเต่ามพี นKื ผวิ ขรขุ ระ 5. ง เพราะพนKื ทว8ี า่ งจะชว่ ยทาํ ใหภ้ าพดโู ดดเดน่ ขนKึ เน8ืองจากรปู ภาพเป็นจดุ นําสายตา 6. ข เพราะสเี ขยี วเหลอื งอยใู่ นสวี รรณะเยน็ สว่ นสสี ม้ เหลอื ง สแี ดง สสี ม้ อยใู่ นสวี รรณะอุน่ 7. ค เพราะสมี ว่ งแดงอยใู่ นสวี รรณะอุน่ สว่ นสเี ขยี ว สนี Kําเงนิ อยใู่ นสวี รรณะเยน็ สว่ นสเี ทาไมจ่ ดั อยใู่ นสที งัK [ วรรณะ 8. ก เพราะภาพป่าไมค้ วรใชโ้ ทนสเี ยน็ เพอ8ื ใหเ้ กดิ ความรม่ รน8ื สบายตาและสมจรงิ 9. ก เพราะสแี ดง สเี หลอื ง และสนี Kําเงนิ เป็นสขี นัK ท8ี ^ ซง8ึ ไมม่ สี ใี ดทส8ี ามารถนํามาผสมให้ 10. ข เพราะสวี รรณะเยน็ ทาํ ใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ สงบ สดชน8ื แสดงถงึ ความเยอื กเยน็ สขุ มุ
31 อา้ งองิ หHTนTงั Pส:/อื/WเรWยี Wน.รPาTยWว.Aชิ Cา.พTHนCื /PฐTาWนSศCลิ HปOะOชLนัC /IปMรAะGถEมSศ/Mกึ AษRาCปHี_ท66ี 2L/DA TA.PDF
กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะชนัE ประถมศึกษาปี ทีG N จดั ทาํ โดย นางสาวซารีน่า ตราชู สาขาการประถมศึกษา เสนอ อาจารยป์ ิ ยวรรณ ขอจิตตเมตต์ มหาวิทยาลยั หาดใหญ่
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: