กตกิ าแชรบ์ อล โดย..สมาคมแชรบ์ อลประเทศไทย1.1 การแขง่ ขนั แชรบ์ อล ผูบ้ นั ทีกจะตอ้ งเขยี นรายชื่อนกั กีฬาและผฝู้ ึกสอนของท้ังสองทีมให้เรียบร้อยแชรบ์ อลเป็นการเล่นโดยทีม 2 ทีมแต่ละทีมมผี เู้ ล่น 7 คนในสนามแขง่ ขัน และ/หรือ ผู้เล่นสารองอีก 5 คน ในพนื้ ทม่ี ้านั่งสารอง จดุ มุง่ หมายของแต่ละทีมคอื การทาคะแนนใหล้ งตะกรา้ ด้านทมี่ ีผู้ถือตะกร้าฝ่ายเดยี วกบั ทมี ของตนและป้องกันไม่ให้ทีมตรงขา้ มทาคะแนน การแข่งขันถูกควบคุมโดยกรรมการ, เจา้ หน้าที่โตะ๊ และผู้ควบคุมการแข่งขนั1.2 ผู้ชนะการแขง่ ขนั ทมี ที่มีคะแนนมากกว่าเม่อื ส้นิ สดุ เวลาการแขง่ ขัน จะเปน็ ผู้ชนะการแขง่ ขนัขอ้ 2 สนามแขง่ ขนั 2.1 สนามเป็นรูปส่เี หล่ยี มผืนผา้ กว้าง 16 เมตร (เสน้ หลงั ) ยาว 32 เมตร (เสน้ ข้าง) หรอื กวา้ ง 15 เมตรยาว 28 เมตร เทา่ กบั สนามบาสเกตบอลมาตรฐาน สนามแบง่ เปน็ สองสว่ นเทา่ ๆ กัน ด้วยเสน้ แบ่งแดน (เส้นกลางสนาม) ขนาดสนามน้ีจะเปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยมีบรเิ วณเขตรอบสนามอย่างนอ้ ย 1 เมตร ถ้าเปน็สนามในร่มความสูงจากพ้ืนสนามข้นึ ไปไม่ควรน้อยกว่า 6 เมตร 2.2 วงกลมกลางสนาม ที่จดุ ก่ึงกลางของเส้นแบง่ แดน ให้เขยี นวงกลมรศั มี 1.80 เมตร 2.3 เขตผู้ป้องกันตะกร้า ท่ีจดุ กงึ่ กลางของเสน้ หลังทงั้ สองด้าน เขียนครง่ึ วงกลม รัศมี 5.00 เมตร ในสนามแขง่ ขนั เขตนเ้ี รยี กว่า เขตผู้ปอ้ งกันตะกร้า (เสน้ เปน็ สว่ นหน่งึ ของเขตผู้ปอ้ งกันตะกร้า)
2.4 เส้นโทษ ถดั จากจดุ กึง่ กลางเสน้ หลงั เขา้ ไปในสนาม 8.00 เมตร ลากเสน้ ให้ขนานกับเสน้ หลงั ยาว 50เซนติเมตร 2.5 พน้ื ที่มา้ นง่ั สารอง จะอยู่ดา้ นเดียวกับโต๊ะบันทึก จะต้องมีม้าน่ัง 15 ตวั สาหรับผเู้ ล่น ผฝู้ ึกสอน ผู้ชว่ ยผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าทีป่ ระจาทีม (ตามรปู ) 2.6 โต๊ะบันทึก และม้านั่งเปลี่ยนตวั จะอยู่ด้านนอกตรงกลางสนามหา่ งจากเส้นข้างไมน่ อ้ ยกวา่ 2 เมตร 2.7 เสน้ ทกุ เส้นกว้าง 5 เซนติเมตร (ควรเป็นสีขาว)ขอ้ 3 อุปกรณ์การแขง่ ขนั 3.1 เกา้ อ้ี เปน็ เกา้ อชี้ นดิ 4 ขา มีความแขง็ แรงม่นั คง ไม่มีพนกั พิง สงู 35 - 40 เซนติเมตร ขนาดของที่นง่ั กวา้ ง 30 - 35 เซนติเมตร หรือเป็นเก้าอี้ที่มขี นาดใกล้เคยี งและเปน็ ชนิดเดยี วกันทั้งสองตัว เก้าอีน้ วี้ างไว้ทจี่ ุดก่งึ กลางของเสน้ หลัง โดยให้ขาหนา้ ของเก้าอี้ทง้ั สองขาวางอยบู่ นเส้นสนาม 3.2 ตะกรา้ ขนาดสูง 30 - 35 เซนติเมตร ปากตะกร้าเปน็ รูปทรงกลม มเี ส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 30 -35 เซนตเิ มตร ทาด้วยหวายท่ไี มก่ อ่ ใหเ้ กดิ อันตรายตอ่ ผู้เล่น หรอื วสั ดุอื่น ๆ ท่ไี ม่เกิดอันตราย มนี ้าหนักเบาเท่ากันท้ัง2 ใบ 3.3 ลกู บอล ใช้ลกู แชร์บอล หรือลูกฟตุ บอลขนาดเบอร์ 4 - 5 หรือลกู บอลที่ฝ่ายจัดการแข่งขนั รบั รองซงึ่ ฝ่ายจัดการแข่งขนั จะตอ้ งแจง้ ใหผ้ ู้แข่งขันทราบก่อนในระเบยี บการแขง่ ขัน 3.4 นาฬิกาจับเวลา 2 เรือน ใชส้ าหรับจับเวลานอก และเวลาแข่งขนั 3.5 ใบบันทึกการแข่งขนั 3.6 ป้ายคะแนน
3.7 สญั ญาณหมดเวลาการแข่งขนั (นกหวีด ระฆงั กร่งิ ฯลฯ) 3.8 ปา้ ยบอกจานวนครัง้ ของการฟาล์วบคุ คล 3.9 ลกู ศรเพ่ือให้ในการสลบั กนั สง่ บอลข้อ 4 ทมี4.1 คาจากัดความ 4.1.1 สมาชิกของทีมจะมสี ิทธิ์ลงแข่งขนั เม่ือเขามีคณุ สมบัตติ ามที่กาหนดไว้ในระเบียบ รวมท้ังระเบียบเก่ยี วกบัการกาหนดอายุ ตามท่ฝี า่ ยจดั การแข่งขนั กาหนดไว้ 4.1.2 สมาชิกของทีมมีสิทธ์ิลงแข่งขัน เมือ่ เขามีชื่อในใบบนั ทกึ คะแนนก่อนเร่มิ ต้นการแขง่ ขันตราบใดที่ เขาไม่ไดท้ าฟาล์วเสียสิทธิ์ หรือทาฟาล์วครงั้ ท่ี 5 4.1.3 ในระหว่างเวลาแขง่ ขนั สมาชิกของทีมมสี ถานะ ดังนี้ : ผูเ้ ล่น เมอื่ เขาอยู่ใสนาม และมสี ิทธแ์ิ ข่งขนั ผู้เล่นสารอง เมอ่ื เขาไมไ่ ด้อยใู่ นสนามแข่งขัน แต่เขามีสทิ ธ์ลิ งแข่งขัน เปน็ ผเู้ ลน่ ทถ่ี ูกใหอ้ อก เมือ่ เขาทาฟาล์วคร้ังท่ี 5 และไม่มสี ทิ ธิ์ลงแข่งขนั 4.1.4 ในระหว่างชว่ งพกั การแข่งขัน สมาชิกทุกคนของทีมทมี่ สี ิทธ์ิลงแข่งขนั มีสถานะเป็นผเู้ ล่น4.2 หลกั เกณฑ์ 4.2.1 แต่ละทมี ต้องประกอบด้วย : สมาชกิ ทม่ี ีสิทธิ์ลงแข่งขันจานวน ไมเ่ กิน 12 คน รวมทง้ั หวั หน้าทีม ผฝู้ ึกสอน และผู้ชว่ ยผู้ฝึกสอน ถา้ ทีมตอ้ งการมีผู้ช่วยผฝู้ ึกสอน ผตู้ ดิ ตามทมี ท่อี าจนง่ั อยู่ในเขตทน่ี ง่ั ของทีม และมีหน้าทพี่ เิ ศษ เช่น ผู้จดั การทมี นกั กายภาพบาบัด นักสถติ ิ เปน็ ตน้ 4.2.2 เมอ่ื เริม่ ทาการแขง่ ขนั ตอ้ งมผี ้เู ล่นในสนามฝ่ายละ 7 คน และในระหว่างการแขง่ ขันฝ่ายใดฝ่ายหน่งึ มีผู้เล่นนอ้ ยกว่า 5 คน ใหป้ รับแพ้ 4.2.3 ผ้เู ลน่ สารองกลายเปน็ ผ้เู ลน่ และผเู้ ล่นกลายเปน็ ผู้เล่นสารอง เม่ือ : กรรมการกวกั มือให้ผู้เล่นสารองเขา้ ไปในสนามแขง่ ขัน และตอ้ งทาการเปล่ยี นตวั ท่บี ริเวณเส้นแบ่งแดนดา้ น เดยี วกบั โต๊ะเจ้าทจ่ี ัดการแข่งขัน (เขตเปลย่ี นตวั ) ในระหว่างเวลานอกหรือช่วงพักการแขง่ ขนั , ผูเ้ ล่นสารองขอเปล่ียนตวั กับผู้บนั ทึกคะแนน
4.3 ชดุ แขง่ ขนั 4.3.1 ชดุ แข่งขนั ของทีมต้องประกอบดว้ ย : เส้ือ ตอ้ งมีสเี หมือนกันทงั้ ด้านหนา้ และดา้ นหลงั ผ้เู ล่นทุกคนต้องเกบ็ ชายเส้ือไวใ้ นกางเกง กางเกงขาสัน้ ต้องมสี เี หมือนกันทั้งด้านหนา้ และด้านหลัง แตไ่ ม่จาเปน็ ต้องมสี ีเดยี วกันกบั เสื้อ เสือ้ ของผู้ป้องกนั ตะกร้าต้องมีสีแตกต่างจากผเู้ ลน่ คนอ่ืน 4.3.2 สมาชิกของแตล่ ะทีมจะต้องใสเ่ สอ้ื ชุดแขง่ ขันทีม่ ตี วั เลขเหน็ ไดอ้ ย่างชัดเจน มสี ีตัดกับสีเสือ้ ติดไวท้ ง้ั ด้านหน้าและด้านหลัง ตวั เลขจะต้องมองเหน็ ไดช้ ดั เจน และ : ตวั เลขด้านหลังตอ้ งสงู อย่างน้อย 20 เซนตเิ มตร ตวั เลขด้านหนา้ ต้องสงู อยา่ งน้อย 10 เซนติเมตร ตัวเลขต้องมคี วามกว้างอยา่ งน้อย 2 เซนตเิ มตร ทุกทีมตอ้ งใช้หมายเลข 1 ถึงหมายเลข 12 ผู้เล่นทมี เดียวกนั ตอ้ งไมใ่ ส่เสอ้ื ชดุ แขง่ ขนั ทมี่ ีหมายเลขเดยี วกัน 4.3.3 ทมี จะต้องมชี ุดแขง่ ขันอยา่ งน้อย 2 ชุด และ : ทมี ชอ่ื แรกในโปรแกรมการแข่งขนั ตอ้ งใส่เสื้อสีอ่อน (ควรเป็นสีขาว) ทีมช่ือทีส่ องในโปรแกรมการแข่งขัน ต้องใสเ่ ส้ือสเี ขม้ อย่างไรกต็ าม หากทีมมีสเี ส้อื แตกต่างกัน สามรถแขง่ ขันได้4.4 อปุ กรณอ์ น่ื ๆ 4.4.1 อุปกรณ์ทุกอย่างทผ่ี ู้เล่นใช้ต้องเป็นอุปกรณท์ จี่ ดั ไว้สาหรับการเลน่ แชร์บอล ไมอ่ นญุ าตให้ใชอ้ ุปกรณ์ใด ๆ ที่ทาใหผ้ ูเ้ ล่นสูงขนึ้ เอ้ือมไดไ้ กลข้ึน หรอื ทาใหไ้ ด้เปรยี บโดยไมย่ ุติธรรม 4.4.2 ผเู้ ลน่ จะต้องไมใ่ ช้อุปกรณ์(เคร่ืองใช้) ทอี่ าจเปน็ เหตุทาใหผ้ ้เู ลน่ อน่ื ไดร้ ับบาดเจ็บข้อ 5 ผปู้ อ้ งกนั ตะกรา้ 5.1 ผปู้ ้องกนั ตะกร้าเพียงคนเดยี วเท่าน้นั ท่ีมสี ิทธ์เิ ข้าไปในเขตป้องกันตะกร้าได้ 5.2 ผปู้ ้องกันตะกร้าสามารถเคลือ่ นท่ไี ปในเขตป้องกนั ตะกร้าพร้อมกบั ลูกบอลได้ โดยปราศจากขอ้ จากัดใด ๆภายในเวลา 3 วนิ าที 5.3 ผ้ปู ้องกนั ตะกร้าสามารถออกมาร่วมเลน่ ในสนามแขง่ ขันไดแ้ ตต่ อ้ งปฏบิ ัตติ นเหมือน กับผูเ้ ลน่ ในสนามทัว่ ๆไป 5.4 หลังจากลกู บอลลงตะกรา้ จาการยงิ ประตธู รรมดา หรือหลังจากการยงิ โทษคร้งั สุดท้ายหรอื คร้งั เดยี วไดผ้ ล ผู้ปอ้ งกันตะกร้าต้องนาลูกบอลสง่ เขา้ เล่นทีจ่ ดุ ใด ๆ จากแนวเส้นหลัง
___การทาผดิ กตกิ าของผู้ป้องกันตะกรา้ 5.5 ทาการป้องกนั ในลักษณะถูกต้องตวั และ/หรือ อุปกรณ์ ทีอ่ าจก่อให้เกดิ อนั ตรายต่อผู้อื่นได้ (บันทึกฟาลว์ ) 5.6 ทาใหล้ ูกบอลออกเส้นหลัง (สง่ เข้าเล่นทมี่ มุ สนาม) 5.7 นาลกู บอลจากสนามนอกเขตปอ้ งกันตะกรา้ เข้าไปในเขตปอ้ งกันตะกร้า (สง่ ท่มี ุมสนาม) 5.8 กระทาฟาลว์ นอกพน้ื ทป่ี ้องกนั ตะกร้า เหมือนผู้เล่นทั่วไป (บันทึกฟาล์ว) 5.9 ขณะที่ลูกบอลกาลงั ลอยอยูใ่ นทศิ ทางของการยิงประตูเหนือตะกร้า ผ้ปู ้องกนั ตะกร้า ปัดโดนตะกร้า ซ่งึ ผ้ตู ดั สนิ พิจารณาว่า การกระทาน้นั ทาให้ บอลไม่ลงตะกร้า ผู้ตัดสินจะให้ คะแนน เปน็ ของผยู้ งิ ประตู และถ้าถกู ตวั ผู้ถือตะกร้า เก้าอ้ี ซึง่ ผ้ตู ดั สนิ พิจารณาว่า การกระทานนั้ ก่อให้เกดิ อันตราย คะแนนจะนับ และ บันทึกการฟาล์ว ผู้ป้องกนั ตะกร้าข้อ 6 ผถู้ ือตะกรา้ 6.1 ต้องอย่บู นเก้าอี้พรอ้ มกบั ตะกรา้ 6.2 ไมม่ สี ทิ ธเ์ิ ข้าร่วมเลน่ กับผเู้ ลน่ ในสนามขณะกาลังแขง่ ขัน 6.3 หา้ มใช้ตะกร้าหรือส่วนหน่ึงสว่ นใดของร่างกาย กีดกันการป้องกันของผปู้ ้องกนั ตะกรา้ (บันทกึ ฟาลว์ ) 6.4 สามารถเคล่ือนไหวตะกร้าได้ทุกลกั ษณะ 6.5 ผถู้ ือตะกร้า ตอ้ งใช้ตะกร้ารบั ลูกบอลจากการยิงประตู เทา่ น้ันหา้ มใชม้ ือหรอื สว่ นหน่ึงส่วนใดของร่างกาย เพ่ือประโยชน์ในการรบั ลูก และต้องทรงตัวอยูบ่ นเก้าอไี้ ด้อยา่ งม่ันคง 6.6 สามารถช้อนลูกบอล ขณะกลง้ิ อย่ใู นสนาม โดยต้องไม่ตกจากเกา้ อี้ หรอื มีส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย สมั ผสั พ้นื สนาม 6.7 หลังจากลูกบอลลงตะกร้าจาการยิงประตูธรรมดา หรอื หลงั จากการยิงโทษครั้งสุดทา้ ย หรอื ครั้งเดียวเป็น ผล ผูถ้ อื ตะกร้าต้องเทลูกบอลออกจากตะกรา้ ใกล้เกา้ อ้ีท่ียืนอยู่ หรือสง่ บอลให้กับผูป้ ้องกนั ตะกร้าโดยเร็วข้อ 7 ผเู้ ล่นบาดเจบ็ 7.1 ในเหตกุ ารณท์ ีผ่ ู้เลน่ เกดิ บาดเจบ็ กรรมการสามารถหยุดการแข่งขันได้ 7.2 ถา้ การบาดเจ็บเกิดข้ึนในขณะทบี่ อลกาลงั เล่นอยู่ กรรมการต้องไมเ่ ป่านกหวีดจนกวา่ ทีมที่ครอบครอง บอลจะยงิ ประตู เสยี การครอบครองบอล แต่ถ้าจาเปน็ เพ่ือป้องกันผูเ้ ล่นทีบ่ าดเจ็บ กรรมการสามารถหยุดเกมได้ ทนั ทีผ้บู ันทกี จะต้องเขียนรายช่อื นกั กีฬาและผูฝ้ ึกสอนของทง้ั สองทมี ใหเ้ รยี บร้อย 7.3 ถ้าผู้เลน่ ที่บาดเจบ็ ไม่สามารถเลน่ ต่อไปไดใ้ นทันที (ภายในเวลาประมาณ 15 วินาที) หรอื ถา้ เขาไดร้ บั การรักษาเขาจะตอ้ งเปลย่ี นตัวออก นอกจากทมี มีผเู้ ลน่ ในสนามแขง่ ขันน้อยกวา่ 7 คน 7.4 ผูฝ้ ึกสอน, ผู้ช่วยผูฝ้ ึกสอน, ผเู้ ลน่ สารอง, ผเู้ ลน่ ทถี่ ูกให้ออก และผตู้ ดิ ตามทีมอาจจะเขา้ ไปในสนามแขง่ ขัน โดยการไดร้ ับอนญุ าตจากกรรมการ เพอ่ื ดแู ลผู้เล่นท่ีบาดเจ็บ
7.5 ในระหวา่ งการแขง่ ขัน ผู้เล่นทเ่ี กดิ บาดแผลหรือมเี ลือดออกตอ้ งเปลี่ยนตัวออก เขาสามารถกลบั ลงมาใน สนามแขง่ ขนั ได้ หลงั จากเลือดหยดุ ไหล และบาดแผลได้รบั การปิดแผลเรยี บร้อยแล้วขอ้ 8 ผฝู้ ึกสอน : หนา้ ทแี่ ละสทิ ธิ 8.1 กอ่ นเร่ิมต้นการแขง่ ขันตามกาหนดการอยา่ งน้อย 20 นาที ผฝู้ ึกสอนหรือตวั แทนของเขาของแตล่ ะทมีจะต้องส่งใบรายชื่อผ้เู ลน่ หมายเลขผ้เู ล่นที่คณุ สมบัติในการลงแข่งขนั พร้อมระบุช่ือหัวนา้ ทมี , ชื่อผู้ฝกึ สอน, ชื่อผชู้ ่วยผ้ฝู ึกสอน ตอ่ ผูบ้ นั ทึกคะแนน ผเู้ ล่นของทีมทุกคนท่ีมีช่ือในใบบนั ทึกคะแนนจะมีสิทธิล์ งแขง่ ขันแมว้ ่าเขาจะมาถึงหลงั จากไดเ้ ริ่มตน้ การแขง่ ขันไปแลว้ ก็ตาม 8.2 กอ่ นเริ่มตน้ การแข่งขนั ตามกาหนดการอย่างนอ้ ย 10 นาที ผ้ฝู กึ สอนของแต่ละทมี จะต้องนานักกีฬามาตรวจหลักฐาน และคณุ สมบัตขิ องนักกีฬา พร้อมทงั้ ยืนยันรายชอื่ ผเู้ ล่นของทมี หมายเลขผู้เล่น และช่ือผู้ฝึกสอน โดยการลงชื่อในใบบนั ทกึ คะแนน ผ้ชู ่วยผบู้ นั ทกึ ตอ้ งดแู ลป้ายคะแนน 8.3 ผู้ฝึกสอน, ผ้ชู ว่ ยผู้ฝึกสอน, สมาชิกของทมี และผู้ติดตามทมี เปน็ บคุ คลที่ได้รบั อนุญาตใหน้ ่งั อยใู่ นเขตทีน่ ัง่ของทีม และคงอย่ใู นเขตทน่ี ัง่ ของทีมเทา่ น้ัน 8.4 เฉพาะผู้ฝกึ สอนคนเดียวทไ่ี ด้รบั อนญุ าตให้ยนื ได้ในระหวา่ งการแข่งขัน เขาอาจจะพดู ติดต่อกับผ้เู ล่นไดโ้ ดยเขาตอ้ งอยใู่ นเขตทน่ี ่งั ของทมี 8.5 ผู้ฝึกสอนตอ้ งเป็นคนระบุตวั ผโู้ ยนโทษของทมี เขา ในทุกกรณที ผี่ ู้โยนโทษไมไ่ ด้ระบไุ วโ้ ดยกติกาขอ้ 9 เวลาการแขง่ ขนั และการตอ่ เวลาแขง่ ขนั 9.1 เวลาการแขง่ ขัน แบ่งออกเป็น 2 ครงึ่ โดยกาหนดตามอายุของผแู้ ขง่ ขันดงั นี้ อายุไมเ่ กิน 12 ปี คร่ึงละ15 นาที อายุต้ังแต่ 15 ปีข้ึนไป ครึ่งละ 20 นาที พักระหวา่ งครง่ึ 5 นาที (เวลาการแข่งขันนีอ้ าจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมกับนักกฬี า) โดยตอ้ งแจ้งไวใ้ นระเบยี บการ แขง่ ขนั กอ่ น 9.2 เวลาการแข่งขันเริ่มขึน้ เมอ่ื ผู้ตดั สนิ ได้โยนลูกบอลขน้ึ ระหว่างผู้เลน่ สองคนของแต่ละฝ่ายท่อี ยูใ่ นวงกลม และลกู บอลไดถ้ ูกผู้เล่นฝ่ายใดฝา่ ยหนงึ่ แล้ว 9.3 การแขง่ ขนั ไมส่ ามารถเริ่มได้ ถ้าทมี ใดทมี หนง่ึ มีผ้เู ลน่ ไมค่ รบ 7 คน 9.4 การแข่งขันทุกครั้ง ให้ทีมท่มี ีช่ือแรกในโปรแกรม ไดท้ ี่นั่งของทมี และ ปอ้ งกนั ประตูอยทู่ างดา้ นซ้ายของโต๊ะผู้บันทึกคะแนน เมื่อหันหน้าเข้าหาสนาม 9.5 เมือ่ เร่ิมแขง่ ขันครึ่งเวลาหลัง ให้ท้ังสองทมี เปลย่ี นแดนกัน 9.6 เวลาแขง่ ขนั สิน้ สุดเมื่อไดย้ นิ สัญญาณเสย่ี ง หมดเวลาจากโต๊ะบนั ทกึ 9.7 เวลานอก ให้แต่ละทีมขอเวลานอกได้คร่งึ เวลาละ 2 ครง้ั ครั้งละ 1 นาที
9.8 การตอ่ เวลาพิเศษ เม่ือผลการแข่งขันเสมอกัน ให้ตอ่ เวลาเพมิ่ พิเศษอีกช่วงละ 5 นาทจี นกว่าจะมีผลแพ้ชนะกันหรือจะมีข้อตกลงเปน็ อยา่ งอ่นื โดยทุกช่วงการตอ่ เวลาพเิ ศษใหท้ ัง้ สองทีมบุกไปทางประตเู ดิมเหมอื นคร่ึงหลงั 9.9 การขอเวลานอกในชว่ งเวลาเพ่มิ พเิ ศษ ใหข้ อเวลานอกได้ชว่ งละ 1 ครง้ั 9.10 ทมี ใดที่มาแข่งขันช้ากว่ากาหนดเวลาการแข่งขนั 15 นาทใี ห้ปรบั เป็นแพ้ โดยบันทึกคะแนนให้กบั ทีมชนะ 20 : 0ข้อ 10 เขตผปู้ อ้ งกนั ตะกรา้ 10.1 เขตปอ้ งกนั ตะกร้า และเสน้ ครง่ึ วงกลมเป็นพน้ื ที่ของป้องกันตะกร้าเพียงคนเดียวเท่านัน้ 10.2 ผ้เู ลน่ ในสนามเข้าไปในเขตปอ้ งกนั ตะกร้า จะถกู ลงโทษดังนี้ ฝา่ ยป้องกัน เข้าไปในเขตผู้ปอ้ งกันตะกร้า เพือ่ ปอ้ งกันการยิงประตู ขณะทีม่ ีการยิงประตู ถ้าลูกบอลลงตะกร้าใหไ้ ด้ คะแนน ถ้าลูกบอลไม่ลงตะกรา้ ใหโ้ ยนโทษ 2 คร้ัง (โดยผู้เล่นที่ทาการยงิ ประตู) ฝ่ายป้องกนั เข้าไปในขณะท่ีไมม่ ีการยงิ ประตู (สง่ ข้าง) ฝ่ายรุก เขา้ ไปในเขตป้องกันตะกรา้ ของฝ่ายตรงข้าม (ส่งขา้ ง) ลกู บอลท่ีวาง หรือกล้งิ อยู่ในเขตปอ้ งกนั ตะกร้า ผู้ป้องกันตะกร้า จะตอ้ งสง่ บอลภายในเวลา 3 วนิ าทีข้อ 11 การเลน่ ลกู บอล อนญุ าตใหผ้ เู้ ลน่ กระทา ดงั น้ี 11.1 จบั ตี ปดั กล้งิ สง่ หรือขว้างลูกบอลด้วยมือ แขน ศีรษะ หรือลาตัวเหนือสะเอวข้นึ ไป 11.2 ครอบครองลูกบอลด้วยมอื เดียวหรือสองมือ หรอื กดลกู บอลท่ีอยู่บนพน้ื สนาม หรือโยนลูกบอลขึน้ ไปในอากาศได้ โดยใช้เวลาไม่เกิน 3 วนิ าที ในกรณีทผ่ี ู้เลน่ รับบอลแล้วล้มลงในสนาม ขณะยังถอื บอลอยู่ในมือ ผเู้ ลน่ คนนั้นจะต้องสง่ บอลภายในเวลา 3 วนิ าที ในกรณีทผ่ี ู้เล่นถูกป้องกนั แบบประชดิ ผเู้ ลน่ คนนั้นจะต้องส่งบอลภายในเวลา 3 วนิ าทีเช่นกัน 11.3 ถอื ลูกบอล และเคล่ือนไหวไปมาไดด้ ว้ ยการหมุนตัวโดยมีเท้าหลัก หลกั การของเท้าหลกั เมอ่ื ผู้เลน่ รับบอลกลางอากาศ แล้วลงสพู่ ืน้ ด้วยเท้าใดเท้าหน่ึงกอ่ น (ซ้าย หรอื ขวา) ให้ถือว่าเทา้ ที่ลงสพู่ ื้นกอ่ น เปน็ เท้าหลัก เม่ือผเู้ ล่นรบั บอลขณะท่มี ีเท้าทั้งสองขา้ งอยบู่ นพนื้ หรอื รบั บอลกลางอากาศแลว้ ลงสพู่ ้ืนพร้อมกันทง้ั สองเทา้ ถ้าผู้ เลน่ คนน้ันขยับ หรอื เคลื่อนทเี่ ทา้ ใดก่อน ใหถ้ ือว่าเท้าท่เี หลือ หรือเทา้ ที่ไม่เคล่อื นทีเ่ ปน็ เท้าหลัก
11.4 กระโดดรบั หรือกระโดดส่ง 11.5 ใช้ลาตวั บงั คตู่ ่อสู้ ในขณะท่ีกาลังครอบครองลูกบอลอยู่ โดยไม่ก่อใหเ้ กิดอนั ตราย ไมอ่ นญุ าตใหผ้ เู้ ลน่ กระทา ดงั น้ี 11.6 ห้ามผเู้ ลน่ กระโดดยิงประตู หรือเปล่ียนเท้าหลัก ขณะยิงประตู (สง่ ข้าง) 11.8 เจตนาพ่งุ ตัวลงเพ่ือครอบครองลูกบอล (ส่งข้าง) ในกรณที ี่ผ้เู ลน่ เจตนาปัดบอล หลบคตู่ ่อสู้ เพื่อไปรับบอลอีกครั้ง โดยทบี่ อลยงั ไมไ่ ด้สัมผสั กับผู้เล่นคนอน่ื ถือวา่ เปน็ การผดิ ระเบยี บ (สง่ ขา้ ง) 11.9 เล่นลกู บอลดว้ ยสว่ นหนึ่งสว่ นใด ตง้ั แต่สะเอวลงไป (ส่งขา้ ง) ในกรณีท่ีบอลไปโดยเท้า หรือส่วนท่ีตา่ กว่าเอว โดยไมเ่ จตนา และผู้ตัดสนิ เห็นว่าไม่เปน็ ผลกับการ ได้เปรียบของ ทีมใดทมี หนงึ่ การเล่นจะดาเนินต่อไป 11.10 ยน่ื ลูกบอลใหเ้ พ่ือนรว่ มทมี ดว้ ยมอื ต่อมอื (ส่งข้าง) 11.11 ทาใหค้ ตู่ ่อสู้ได้รบั อันตรายโดยใช้ลูกบอล (บนั ทึกฟาล์ว) 11.12 ทุบ ตบ ตี ลูกบอลจากมือคูต่ ่อสู้ (บันทกึ ฟาลว์ ) 11.13 กีดขวางคู่ต่อสูด้ ้วยมอื แขน ขา หรือลาตวั ในลักษณะท่เี ปน็ อันตรายกับค่ตู อ่ สู้ (บนั ทกึ ฟาลว์ ) 11.14 ดงึ ดนั ผลกั ชก ชน เตะ คู่ต่อสทู้ กุ ลักษณะ (บันทึกฟาล์ว) ถา้ เป็นการฟาล์วที่รนุ แรง ผู้ตัดสนิ อาจจะตัดสิทธใ์ิ ห้ออกจากการแขง่ ขันข้อ 12 การไดค้ ะแนน 12.1 จะนับคะแนน เมื่อผู้ยงิ ประตมู เี ท้าหลกั ตดิ อยู่กับพน้ื หรอื มีท้ังสองเท้าตดิ อยู่กับพ้ืน และบอลไดล้ งตะกร้าโดยผูถ้ อื ตะกร้าตอ้ งทรงตวั อยบู่ นเก้าอ้ีอยา่ งมั่นคง และผู้ตัดสินในสนามได้ใหส้ ัญญาณนกหวีดแลว้ 12.2 ได้คะแนนเม่อื บอลกลิ้งอยใู่ นเขตผู้ปอ้ งกันตะกร้า และผถู้ ือตะกร้าสามารถใช้ตะกร้าช้อนบอลให้อยูใ่ นตะกร้าไวไ้ ด้ (โดยต้องไมผ่ ิด กติกาข้อ 6.6) 12.2 ผู้เลน่ ฝา่ ยป้องกนั พยายามป้องกันโดยผดิ กติกา ถ้าลูกบอลลงตะกร้า ให้นับวา่ ได้คะแนน 12.3 ถา้ ผู้จบั เวลาใหส้ ัญญาณหมดเวลาการแข่งขนั กอ่ นที่ลูกบอลจะหลุดจากมือผยู้ ิงประตูถือวา่ ไมไ่ ด้คะแนน 12.4 คะแนนท่ีได้จากการยงิ ประตู มีค่า 2 คะแนน คะแนนทไ่ี ดจ้ ากการยงิ โทษมีค่าครงั้ ละ 1 คะแนน
12.5 ฝ่ายทที่ าคะแนนได้มากกว่าเปน็ ฝ่ายชนะในการแข่งขันขอ้ 13 การเริม่ เลน่ ลกู กระโดด และการสลบั กนั ครอบครองบอล 13.1 การเร่ิมเลน่ ในครึ่งเวลาแรก จะเริ่มโดยผู้ตดั สนิ เปน็ ผโู้ ยนลูกกระโดดท่ีวงกลมกลางสนาม 13.2 ผตู้ ัดสินเปน็ ผู้โยนลูกกระโดดขึ้นไปบนอากาศ ในแนวดงิ่ ระหว่างผูก้ ระโดดทัง้ สองฝ่าย 13.3 ผเู้ ลน่ คนอ่นื ๆ ทไ่ี ม่ใช่ผ้กู ระโดด จะต้องยืนในแดนหลังของตนเองนอกเสน้ วงกลม(ยกเวน้ ผู้ถือตะกรา้ ) 13.4 ผ้กู ระโดดต้องปัดลูกบอลในขณะที่ลูกบอลลอยอยใู่ นจุดสูงสดุ ได้คนละไมเ่ กิน 2 คร้งั จากน้ันผู้กระโดดจะถูกลูกบอลอีกไมไ่ ด้ จนกวา่ ลกู บอลจะได้ถูกผเู้ ล่นคนอน่ื ๆ หรือสัมผสั พืน้ 13.5 ถ้าผู้ตดั สินโยนบอลในการเลน่ ลูกกระโดดแล้ว บอลสัมผสั พนื้ สนามโดยไมไ่ ด้สัมผสั กับผเู้ ล่นลูกกระโดดคนใด ให้เร่ิมเล่นลูกกระโดดใหม่ 13.6 การสลับกันครอบครองบอล 13.6.1 วธิ กี ารสลบั กนั ครอบครองบอล ทมี ที่ไมไ่ ด้ครอบครองบอลดใี นสนามแข่งขัน ภายหลงั การเลน่ ลูกกระโดดเมื่อเร่มิ ตน้ การแข่งขันของครึ่งแรก จะได้ สทิ ธิก์ ารสลับกันครอบครองบอลครงั้ แรก ทมี ท่ีไดส้ ิทธิใ์ นการสลบั กนั ครอบครองบอล จะแสดงใหเ้ ห็นดว้ ยลกู ศร (ที่โต๊ะบันทกึ ) ท่ีชี้ไปทางดา้ นห่วงตาข่าย ของฝา่ ยตรงข้าม ลกู ศรจะต้องกลบั ตรงข้ามทนั ที เมอ่ื ทมี ที่ได้สิทธิใ์ นการสลบั กันครอบครองบอล ไดส้ ่งบอลเขา้ เลน่ แลว้ 13.6.2 สถานการณข์ องการสลบั กนั ครอบครองบอล ผู้ช่วยผูบ้ ันทึกตอ้ งดแู ลป้ายคะแนน มกี ารขานลูกยดึ ลกู บอลออกนอกสนาม และกรรมการไม่แนใ่ จ หรือตกลงไมไ่ ด้วา่ ฝ่ายตรงข้ามกันคนใด ถูกลูกบอลเปน็ คนสุดท้าย ผตู้ ัดสินหยุดการเล่น โดยไมม่ ีทมี ใดครอบครองบอล เริ่มครึ่งหลังหรอื ช่วงตอ่ เวลาพเิ ศษขอ้ 14 การสง่ ลกู เขา้ เลน่ จากเสน้ ขา้ ง เสน้ หลงั มุมสนาม และการผดิ ระเบยี บการสง่ บอล 14.1 ส่งบอลทเี่ สน้ ขา้ ง เมอ่ื
เม่ือลกู บอลออกนอกสนามทางดา้ นข้าง โดยสัมผัสกบั พน้ื ด้านนอกของสนาม เสน้ สนามหรือบุคคล วตั ถุ ท่มี ีส่วน หน่งึ ส่วนใด สมั ผัสกบั พนื้ ที่ด้านนอกสนาม มกี ารขานลูกยดึ (ดูลูกศรที่โต๊ะบนั ทึก) เกดิ การผดิ ระเบียบ หรอื การฟาล์วต่าง ๆ (สง่ ใกล้กับจดุ ผิดระเบยี บ) เริ่มครึง่ หลงั หรอื ชว่ งตอ่ เวลาพเิ ศษ (สง่ ทีเ่ สน้ ข้างกลางสนามตรงขา้ มโต๊ะบันทกึ ) บทลงโทษจากการฟาล์วที่ต่อดว้ ยส่งบอลเข้าเลน่ (สง่ ทเี่ สน้ ขา้ งกลางสนามตรงข้ามโต๊ะบันทึก) 14.1.1 วธิ ดี าเนนิ การสง่ เขา้ เลน่ จากเสน้ ขา้ ง เมอื่ เกดิ การผิดระเบยี บ ผู้ตดั สินจะชบ้ี อกทีมทไ่ี ด้ส่งบอลเข้าเล่น และจุดทจี่ ะสง่ บอลโดยผู้ตัดสนิ จะไม่จับบอล ผู้ เล่นใด ๆ ของทมี สามารถสง่ บอลเขา้ เล่นได้ทันทหี ากผู้ตัดสินเห็นว่าผู้ส่งบอลเขา้ เล่นไม่ส่งในจุดทีใ่ ห้สง่ หรือ เคลอ่ื นท่อี อกจากจุดที่ให้สง่ เกนิ 1 เมตร อาจจะพจิ ารณาว่าเป็นการผิดระเบียบ และเปล่ียนทมี สง่ บอลเข้าเล่นได้ เม่ือเกิดการฟาลว์ หลงั จากผ้ตู ัดสินแจ้งฟาล์วตอ่ โต๊ะบนั ทกึ แล้ว จะสง่ บอลให้กับทมี ที่ได้ส่งบอลเขา้ เล่นท่เี ส้นขา้ ง ใกล้กับพ้นื ทกี่ ระทาฟาล์ว 14.2 สง่ บอลทเ่ี สน้ หลงั เมอ่ื ดูแลเวลาการแข่งขนั หลังจากได้คะแนนจากการยิงปกติ หลังจากได้คะแนนจากการโยนโทษครง้ั สุดทา้ ย หรือคร้งั เดียว 14.2.1 วธิ ดี าเนนิ การสง่ เขา้ เลน่ จากเสน้ หลงั หลังจากผตู้ ัดสินเป่านกหวีดให้คะแนนแล้ว ผ้ถู ือตะกร้าต้องเทลูกบอลออกจากตะกรา้ ใกล้กับเก้าอีท้ ี่ตนยนื อยู่ หรอื ส่งบอลให้ผปู้ ้องกนั ตะกร้า โดยเร็ว ใหผ้ ูป้ ้องกนั ตะกร้า ของทมี ทเี่ สียคะแนน เปน็ ผ้สู ง่ เข้าเล่นจากเส้นหลัง สามารถเคลอ่ื นท่ไี ดต้ ลอดแนวของเส้นหลงั แต่ต้องสง่ บอลภายในเวลา 5 วนิ าที 14.3 สง่ บอลทมี่ มุ สนาม เมอ่ื ผ้ปู ้องกนั ตะกร้าทาบอลออกทเี่ ส้นหลงั บอลสัมผัสโดนตะกร้าออกท่ีเส้นหลงั เกิดการผดิ ระเบยี บส่งบอลเขา้ เลน่ ของผู้ปอ้ งกนั ตะกร้าทีเ่ ส้นหลัง 14.3.1 วธิ ดี าเนนิ การสง่ เขา้ เลน่ จากมมุ สนาม ผตู้ ดั สนิ จะชี้บอกทีมท่ไี ด้สง่ บอลเขา้ เลน่ และมุมสนามท่ีจะสง่ บอลเข้าเลน่ โดยผู้ตัดสนิ จะไมจ่ ับบอล ผู้เล่นใด ๆ ของทมี สามารถสง่ บอลเข้าเล่นไดท้ ันที
14.4 การผิดระเบยี บสง่ บอลเขา้ เลน่ ใช้เวลาในการส่งบอลเกิน 5 วนิ าที มสี ว่ นใด ๆ ของร่างกาย เขา้ ไปในสนามกอ่ นปล่อยบอลออกจากมอื เคลอ่ื นทเ่ี กนิ 1 เมตร (โดยประมาณ) จากจุดที่ใหส้ ่งเข้าเลน่ สัมผัสบอลในสนาม ก่อนทบี่ อลจะสัมผัสผเู้ ลน่ ใดๆในสนาม ยงิ ประตูโดยตรง ก่อนบอลสัมผัสผู้เลน่ ในสนาม (ยกเวน้ สัมผสั โดนผู้ป้องกนั ตะกร้า ท่ปี ้องกนั การยิงจากนอก สนาม) ส่งบอลออกนอกสนาม สง่ บอลมือตอ่ มือให้กบั ผเู้ ล่นในสนามขอ้ 15 การเปลย่ี นตวั ผเู้ ลน่ 15.1 เปลี่ยนตวั ได้เม่อื เกดิ การผิดระเบยี บของทีมใดทีมหน่งึ เกดิ บอลยึด เกิดการฟาล์ว และผูต้ ัดสินแจง้ การฟาลว์ ต่อโต๊ะบนั ทกึ แลว้ อยูใ่ นช่วงของการพักครึง่ หรอื เวลานอก บอลลงตะกรา้ จากการยิงประตู โดยทมี ท่ีเสยี คะแนนขอเปลี่ยนตวั เมือ่ ทีมท่ีเสยี คะแนนขอเปลี่ยนตัว ทีมตรงข้าม อาจจะขอเปลย่ี นตวั ไดอ้ ย่างไรก็ตามทีมทีไ่ ด้คะแนนไม่สามารถขอเวลานอกได้ ก่อนบอลไปอยใู่ นมือของผูเ้ ลน่ ที่ได้โยนโทษครง้ั แรก หรอื คร้ังเดียว หลังจากการโยนโทษครง้ั เดียว หรือคร้งั สดุ ทา้ ย 15.2 วิธีดาเนนิ การเปลย่ี นตัว ผเู้ ล่นทจี่ ะขอเปล่ยี นตวั ต้องแจ้งใหโ้ ต๊ะบันทกึ ทราบว่าจะขอเปล่ียนตัวกับหมายเลขใด ผูเ้ ลน่ ที่จะขอเปล่ียนตวั ต้องมาน่งั ที่เกา้ อี้เปลยี่ นตวั ทจ่ี ัดไว้ให้ บริเวณโต๊ะบันทึก ผเู้ ลน่ ท่ถี ูกเปลี่ยนตวั ออกตอ้ งมาเปลย่ี นตวั ทีห่ น้าโต๊ะบันทึก ก่อนกลับไปท่มี านัง่ สารอง และต้องกระทาการ เปล่ียนตวั โดยรวดเรว็ การเปล่ียนตัวผปู้ ้องกนั ตะกรา้ ตอ้ งได้รับการรบั รองจากผตู้ ัดสินอย่างชัดเจน และผทู้ เ่ี ปล่ียนเข้ามาเป็นผู้ป้องกัน ตะกร้าตอ้ งมีสีของเส้อื แตกต่างจากผู้เล่นคนอนื่ ๆ การยกเลิกการเปล่ยี นตัว ต้องแจ้งตอ่ โต๊ะบันทึก และกอ่ นทโ่ี ต๊ะบันทกึ ใหส้ ญั ญาณ อยา่ งไรกต็ าม ถ้าผู้ตดั สนิ เหน็ วา่ ทมี ทข่ี อเปล่ยี นตวั กระทาการลา่ ชา้ หรือถว่ งเวลา ผตู้ ัดสนิ อาจจะปรบั เปน็ เวลานอกใหก้ บั ทมี ทเ่ี ปลย่ี นตวั ล่าชา้ หากทีมทเ่ี ปลย่ี นตวั ลา่ ช้าไม่มเี วลานอกเหลอื อยใู่ นชว่ งแขง่ ขนั นนั้ จะปรบั เปน็ ฟาลว์ เทคนคิ ผู้ฝึกสอน
ข้อ 16 การขอเวลานอก 16.1 ขอเวลานอกไดเ้ มือ่ เกิดการผิดระเบียบของทีมใดทีมหน่งึ เกดิ บอลยึด เกิดการฟาลว์ และผ้ตู ดั สนิ แจ้งการฟาลว์ ต่อโต๊ะบนั ทึกแล้ว บอลลงตะกรา้ จากการยงิ ประตู โดยทีมทีเ่ สยี คะแนนขอเวลานอก ก่อนบอลไปอยูใ่ นมือของผเู้ ลน่ ทไ่ี ดโ้ ยนโทษครั้งแรก หรอื ครงั้ เดียว หลังจากการโยนโทษครั้งเดียว หรอื คร้ังสุดท้าย อาจจะขอเวลานอก ต่อจากชว่ งเวลานอกทเ่ี พ่ิงหมดลงได้ 16.2 วธิ ดี าเนนิ การขอเวลานอก แตล่ ะทีมมเี วลานอกคร่งึ ละ 2 คร้งั เวลานอกในชว่ งตอ่ เวลาพเิ ศษ ชว่ งละ 1 คร้ัง ไมส่ ามารถนาเวลานอกทไี่ มไ่ ดใ้ ช้มารวมในแต่ละชว่ งแขง่ ขันได้ เม่ือต้องการขอเวลานอก ผู้ฝึกสอนตอ้ งแจง้ ใหโ้ ต๊ะบันทึกทราบอยา่ งชัดเจน การยกเลิกการขอเวลานอก ต้องแจ้งตอ่ โตะ๊ บันทึก และกอ่ นที่โต๊ะบันทกึ ให้สัญญาณ เม่อื หมดชว่ งเวลานอก และผตู้ ัดสนิ เรยี กลงสนาม ผู้เลน่ ต้องลงสนามโดยรวดเรว็ อยา่ งไรกต็ าม ถา้ ผตู้ ดั สนิ เหน็ วา่ ทมี ทขี่ อเวลานอก ลงสนามลา่ ช้าหรือถว่ งเวลา ผู้ตดั สนิ อาจจะปรบั เปน็ เวลานอกอกีครง้ั ให้กบั ทมี ที่ลงสนามล่าชา้ หากทีมทล่ี งสนามลา่ ช้า ไมม่ เี วลานอกเหลอื อยใู่ นชว่ งแขง่ ขนั นนั้ จะปรบั เปน็ ฟาลว์เทคนิคผฝู้ กึ สอนขอ้ 17 การทาฟาลว์ 17.1 การฟาล์วบคุ คล ฟาล์วบคุ คล คือ การฟาล์วทีม่ ีการถูกต้องตวั ของผ้เู ล่นต่อฝ่ายตรงข้าม โดยการดึง,สกัดกั้น, ผลัก, ชน, ทาให้สะดุดลม้ หรอื กีดขวางการเคลื่อนท่ขี องฝ่ายตรงขา้ มด้วยการยนื่ มอื , แขน, ศอก, ไหล่, สะโพก, ขา, เขา่ หรอื เท้า และการปดั บอลในมือของผู้เลน่ ทีถ่ ือบอล 17.2 การฟาล์วผิดวสิ ยั นกั กีฬา การฟาลว์ ผดิ วสิ ัยนกั กีฬา คือ การฟาลว์ ท่ีรุนแรง หรือผูต้ ัดสนิ พจิ ารณาว่าเปน็ การฟาลว์ ที่ไร้ซ่ึงความมีนา้ ใจของนักกฬี า
17.3 การฟาล์วทางเทคนิค การฟาลว์ ทางเทคนิค คือ การฟาลว์ ทีไ่ มม่ ีการถูกต้องตัวผ้เู ล่น การฟาลว์ นอี้ าจจะเกิดจากการใชว้ าจาไม่สุภาพหรอื ผู้ตัดสนิ พิจารณาว่าเป็นการเลน่ ทีเ่ อาเปรียบอยา่ งไมเ่ ปน็ ธรรม 17.4 การฟาล์วเสยี สทิ ธิ การฟาลว์ เสยี สทิ ธิ คือ การฟาล์วผดิ วสิ ยั ของนักกีฬา และ/หรือ การผิดมารยาท อยา่ งร้ายแรง 17.5 การฟาลว์ คู่ การฟาล์วคู่ คือ การฟาลว์ ทกี่ ระทาโดยผเู้ ลน่ ฝ่ายตรงขา้ มกัน ในระยะเวลาใกล้เคยี งกัน 17.6 ทีมฟาลว์ ทมี ฟาลว์ คอื ผลรวมการฟาล์วของผูเ้ ล่นในการแขง่ ขัน ดงั นี้ เมื่อมกี ารขานฟาล์วของผเู้ ลน่ ทีมใด จะบันทกึ ทมี ฟาลว์ ให้กบั ทีมนัน้ ด้วย ในแต่ละครงึ่ ของการแข่งขนั ทีมแขง่ ขันมีสทิ ธิกระทาฟาล์วร่วมไดไ้ ม่เกนิ 5 คร้งั เมอ่ื มกี ารต่อเวลาพิเศษทีมฟาล์วจะยงั คงนบั ต่อจากครง่ึ หลงั 17.7 วธิ ีการดาเนินการเก่ียวกบั การฟาลว์ ผู้เล่นสามารถฟาล์วได้ 5 ครง้ั ตลอดการแขง่ ขัน เมอ่ื ผู้เลน่ กระทาฟาลว์ เปน็ ครัง้ ท่ี 5 ผูเ้ ลน่ คนนัน้ ต้องออกจากการแข่งขัน เมอ่ื มกี ารขานฟาลว์ ผิดวสิ ยั นักกีฬา ผู้เล่นทีถ่ กู กระทาฟาล์วไดโ้ ยนโทษ 2 ครง้ั และทมี ของผู้เล่นทถี่ ูกกระทาฟาลว์ ได้สง่ บอลเข้าเลน่ ท่เี ส้นขา้ งกลางสนามตรงขา้ มโต๊ะบนั ทกึ เมื่อผู้เลน่ กระทาฟาล์วผิดวิสยั นักกีฬาเป็นครั้งท่ี 2 ต้องออกจากการแข่งขัน เมื่อมกี ารขานฟาล์วทางเทคนคิ ให้กับทมี ใดทีมหนึง่ ทมี ตรงข้ามจะได้โยนโทษ 2 คร้ัง โดยผูฝ้ ึกสอน เป็นคน ระบผุ ู้โยนโทษ และทมี น้ันจะไดส้ ่งบอลเข้าเลน่ ทเ่ี ส้นขา้ งกลางสนามตรงขา้ มโต๊ะบันทึก เม่ือมีการขานฟาลว์ เสียสทิ ธิ ผู้เลน่ ทีถ่ ูกกระทาฟาล์วได้โยนโทษ 2 ครั้ง และทีมของผูเ้ ลน่ ท่ีถกู กระทาฟาล์วไดส้ ง่ บอลเขา้ เล่นทีเ่ ส้นขา้ งกลางสนามตรงข้ามโต๊ะบนั ทึก เมอ่ื ผเู้ ลน่ คนใดกระทาฟาล์วเสยี สิทธิเขาต้องออกจากการแขง่ ขัน เมอื่ เกดิ การฟาล์วคู่ ถ้ามีทมี ครอบครองบอลอยู่ใหท้ ีมเดมิ ได้ครอบครองบอลต่อ เมือ่ เกิดการฟาลว์ คู่ ถ้าไมท่ ราบวา่ ทมี ใดได้ครอบครองบอลให้ดูลูกศรบนโต๊ะบันทึก เม่อื ทีมใดถูกบันทกึ ว่ากระทาฟาลว์ มาแล้ว 5 ครง้ั ในช่วงการแข่งขนั นั้น ถา้ มีการกระทาฟาล์วครงั้ ตอ่ ไปของทีมนัน้ ใหผ้ ้เู ล่นทถ่ี กู กระทาฟาลว์ ไดโ้ ยนโทษ 2 คร้ัง เมอ่ื ผู้ฝึกสอนกระทาฟาลว์ ทางเทคนคิ เปน็ คร้งั ที่ 3 เขาตอ้ งออกจากการแขง่ ขนั
ขอ้ 18 การโยนโทษ 18.1 จะให้โยนโทษเมื่อ ผูเ้ ลน่ ฝ่ายปอ้ งกนั (ไม่ใชผ่ ู้ป้องกันตะกร้า) เขา้ ไปในเขตผู้ป้องกนั ตะกร้า เพอ่ื ประโยชน์ในการปอ้ งกันการยงิ ประตู โดยผตู้ ัดสนิ พิจารณาว่าเปน็ การทาใหบ้ อลไมเ่ ขา้ ตะกรา้ (โยนโทษ 2 ครั้ง) มีการกระทาฟาลว์ ผ้เู ล่นท่พี ยายามยงิ ประตู (โยนโทษ 2 ครง้ั ) มกี ารกระทาฟาลว์ ทางเทคนิค (โยนโทษ 2 ครงั้ และไดส้ ่งบอลเข้าเล่น) มกี ารกระทาฟาลว์ ผดิ วิสัยนักกีฬา หรือฟาล์วรุนแรง (โยนโทษ 2 คร้งั และได้ส่งบอลเข้าเล่น) มกี ารกระทาฟาล์วเสียสทิ ธิ (โยนโทษ 2 ครงั้ และไดส้ ง่ บอลเขา้ เลน่ ) ผู้เล่นฝา่ ยเดียวกับผู้ป้องกนั ตะกร้าเจตนาสง่ บอลใหผ้ ู้ป้องกันตะกรา้ ในเขตป้องกันตะกรา้ (โยนโทษ 1 ครงั้ โดยผู้ ฝกึ สอนทีมตรงข้ามเปน็ คนกาหนดผู้โยนโทษ ) จากบทลงโทษของการฟาล์วทมี (โยนโทษ 2 คร้งั โดยผู้ท่ถี ูกกระทาฟาลว์ ) 18.2 วธิ ดี าเนนิ การโยนโทษ ผู้เลน่ ทไ่ี ด้โยนโทษอาจจะใช้มือเดยี ว หรือสองมอื ในการโยนโทษ ผ้เู ล่นทีไ่ ด้โยนโทษต้องอยหู่ ลังเส้นโยนโทษ ห้ามให้เท้าสัมผัสเสน้ โยนโทษ เมื่อผูเ้ ล่นที่ได้โยนโทษ จดั วางเทา้ เรยี บร้อยแล้ว ตอ้ งไม่ทาให้เท้าทง้ั สองขา้ งขยับ ระหว่างการโยนโทษ (อาจเปิด ส้นเท้าไดบ้ า้ ง แต่เพียงเลก็ น้อย) ผู้ปอ้ งกันตะกร้าไม่มีสิทธิป้องกันบอลจากการโยนโทษและต้องไปยนื อยู่ทม่ี ุมสนามดา้ นใดด้านหนึง่ ผ้ถู ือตะกร้าสามารถเคล่อื นที่ตะกรา้ ไปในทศิ ทางใด ๆ เพ่ือรับบอล และบอลต้องไม่ถกู มอื หรือส่วนหนึง่ ส่วนใดของ รา่ งกาย ก่อนผู้ตดั สินให้สญั ญาณคะแนน ผถู้ อื ตะกร้าท่รี ับบอลจากการโยนโทษต้องยืนอย่างมน่ั คงบนเก้าอี้ ในการโยนโทษ ผู้โยนโทษตอ้ งโยนบอลให้ลงตะกร้าโดยตรง จากมือผ้โู ยนโทษถงึ ตะกร้า ถ้าผเู้ ล่นท่ีไม่ได้โยนโทษ ไปกระทาการโยนโทษแทนผ้เู ล่นทไ่ี ด้โยนโทษผู้ตัดสนิ อาจจะยกเลิกการโยนโทษ และ คะแนนที่ได้จากการโยนโทษคร้ังน้นั โดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้ส่งบอลเข้าเล่นขา้ งสนามแนวเดียวกบั เสน้ โยนโทษ ดา้ นใดด้านหนง่ึ การกระทาใด ๆ ทผ่ี ดิ ระเบยี บข้อ 15.2 จะไมไ่ ดค้ ะแนนข้อ 19 ผตู้ ดั สนิ 19.1 การแขง่ ขันครั้งหนึ่งประกอบด้วยผู้ตดั สิน 2 คน 19.2 ตัดสนิ มหี น้าทค่ี วบคุมการแข่งขัน ตง้ั แตเ่ รมิ่ เล่นจนถึงสนิ้ สดุ การแขง่ ขนั
19.3 ผ้ตู ดั สนิ ตอ้ งตรวจสอบอุปกรณ์ทีใ่ ช้ในการแข่งขัน 19.4 มีอานาจส่ังหยุดการแข่งขนั เมอื่ มเี หตุทีเ่ หมาะสม 19.5 มีอานาจตัดสนิ ใจปรับใหท้ ีมแพ้การแขง่ ขัน 19.6 มอี านาจ ในการตัดสินปญั หาใด ๆ กต็ ามท่ไี มไ่ ดร้ ะบุไว้ในกติกา 19.7 ใหก้ ารรับรอง และลงช่ือในใบบนั ทกึ คะแนนเมื่อหมดเวลาการแข่งขันขอ้ 20 เจ้าหนา้ ทโี่ ตะ๊ บนั ทกึ ประกอบด้วย 20.1 ผ้บู ันทกึ 1 คน ผูบ้ นั ทกี จะตอ้ งเขยี นรายช่ือนักกีฬาและผฝู้ ึกสอนของทงั้ สองทีมให้เรยี บร้อย ผู้บนั ทึกจะตอ้ งให้ผู้ฝกึ สอนทง้ั สองทีมลงลายมือช่ือรบั รองผู้เลน่ กอ่ นการแขง่ ขัน เปน็ ผู้ดแู ลการสลับกนั ของลูกศร เปน็ ผู้ดแู ลเร่ืองการเปลย่ี นตวั และการขอเวลานอก แจง้ ให้ผ้ตู ัดสินทราบเม่ือมีการฟาล์วทมี และเมอ่ื ผูเ้ ลน่ ทาฟาล์วครงั้ ท่ี 5 20.2 ผู้ชว่ ยผู้บันทึก 1 คน ผู้ชว่ ยผบู้ นั ทกึ ต้องดแู ลป้ายคะแนน ช่วยเหลือผู้บนั ทึกในการใหส้ ัญญาณเปลยี่ นตวั และขอเวลานอก แสดงป้ายฟาล์วบุคคล 20.3 ผ้จู ับเวลา ดูแลเวลาการแขง่ ขนั ดแู ลเวลานอก
กติกาแชรบ์ อล โดย.. สมาคมแชรบ์ อลประเทศไทย
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: