Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สุกรภูพาน

สุกรภูพาน

Published by Bangbo District Public Library, 2019-06-30 08:27:17

Description: สุกรภูพาน

Search

Read the Text Version

คูมือที่ ๑ สายธารแหง ชีวติ คูมือที่ ๒ การเลีย้ งโคเนอื้ ภูพาน คมู ือที่ ๓ การเล้ยี งไกดำภูพาน คูมอื ที่ ๔ การเล้ยี งสกุ รภพู าน คมู ือท่ี ๕ การปลกู ขา ว พนั ธุสกลนคร คมู อื ที่ ๖ การปลกู ขาว พันธุขาวดอกมะลิ ๑๐๕ คูมอื ที่ ๗ ล้นิ จี่ นพ.๑ คูมือท่ี ๘ การเลยี้ งสตั วป กเพอ่ื ควบคมุ ศัตรูพืชสวนไมผล คูมือที่ ๙ การผลติ วนุ เสน จากถั่วเขยี ว คูมอื ที่ ๑๐ การเลย้ี งปลานิลแดงรว มกบั เปด บาบาลีลกู ผสมในบอ ครัวเรอื น คมู อื ท่ี ๑๑ การเลย้ี งปลาดุกในบอ ซีเมนต คมู อื ท่ี ๑๒ เกษตรทฤษฎีใหม คูมอื ที่ ๑๓ การจดั การดนิ เค็ม เพื่อปลกู ขา ว คูมือท่ี ๑๔ การจัดการดนิ ลูกรัง เพ่อื ผลผลติ พชื คมู อื ท่ี ๑๕ การเพาะเหด็ เศรษฐกจิ และเห็ดพน้ื เมอื ง คูมือท่ี ๑๖ การปลกู ยางพารา คูมือที่ ๑๗ หมอนพนั ธุสกลนครและไหมพันธุน างตยุ คูมือที่ ๑๘ การแปรรูปผลิตภัณฑจ ากพืชสมนุ ไพร คมู อื ท่ี ๑๙ การผลติ ผา ยอมคราม สอบถามขอ มลู เพ่มิ เติมไดท ่ี งานศึกษาและพัฒนาดานปศุสัตว ศูนยศ ึกษาการพัฒนาภพู านอันเนือ่ งมาจากพระราชดำริ ตู ปณ. ๒๑ บานนานกเคา ตำบลหวยยาง อำเภอเมือง จังหวดั สกลนคร ๔๗๐๐๐ โทรศัพท ๐ ๔๒๗๔ ๗๔๕๘-๙ โทรสาร ๐ ๔๒๗๔ ๗๔๖๐ www.royal.rid.go.th/phuphan

ผลสำเรจ็ ทโี่ ดดเดน ของศูนยศ กึ ษาการพฒั นาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ๔คมู ือที่ สกากุ รรเลภ้ียงูพาน จดั ทำและเผยแพรโ ดย สำนกั งานคณะกรรมการพเิ ศษเพอ่ื ประสานงานโครงการ อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ศูนยศกึ ษาการพฒั นาภูพานอันเน่ืองมาจากพระราชดำริ จังหวดั สกลนคร

ชอื่ คมู ือที่ ๔ การเลยี้ งสกุ รภูพาน พมิ พค รงั้ ที่ ๒ ตลุ าคม ๒๕๕๕ จำนวน ๔,๐๐๐ เลม วตั ถปุ ระสงค เพ่อื เปน คูม อื ในการศึกษาเรอ่ื งการเลีย้ งสุกรภูพาน ผูจัดพิมพ สำนกั งานคณะกรรมการพเิ ศษเพือ่ ประสานงาน พมิ พที่ โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดำริ (สำนกั งาน กปร.) ๒๐๑๒ ซอยอรณุ อมรนิ ทร ๓๖ ถนนอรุณอมรินทร แขวงบางยขี่ นั เขตบางพลดั กรงุ เทพมหานคร ๑๐๗๐๐ โทรศัพท ๐ ๒๔๔๗ ๘๕๐๐-๖ โทรสาร ๐ ๒๔๔๗ ๘๕๖๒ http://www.rdpb.go.th บริษทั มูฟเมน ท เจน ทรี จำกัด

บรรณานุกรม สัมฤทธิ์ แสนบัว, วิศาล ศรีสุริยะ, กมล ฉวีวรรณ, จิรพรรณ นพวงศ ณอยุธยา, สุภาวัลย บรรเลงทอง และ วโรชา เจียมรัมย. 2546. กองบำรุงพันธุสัตว กรมปศุสัตวกระทรวง เกษตรและสหกรณ.

๔ค่มู อื ที่ การเลย้ี ง สกุ รภพู าน เรียบเรียงโดย งานศกึ ษาและพฒั นาด้านปศุสตั ว ์ ศูนย์ศึกษาการพฒั นาภูพานอนั เนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวัดสกลนคร

คำนำ ปจั จบุ นั เทคโนโลยกี ารผลติ สกุ รทที่ นั สมยั จนถอื ไดว้ า่ เปน็ อตุ สาหกรรมการผลติ สุกรซึ่งให้ผลผลิตท่ีดีมีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดไม่ว่าจะเป็นการจัดการผลิต การดูแลสุขภาพสุกร โรงเรือน การจัดการการให้อาหารที่เหมาะสมและมีคุณภาพ และสกุ รพนั ธด์ุ หี ากจะดำเนนิ การเลย้ี งสกุ รใหป้ ระสบผลสำเรจ็ ตอ้ งคำนงึ ถงึ การพฒั นา ทางด้านการตลาด การบริหารด้านการเงินประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งเป็นหลักท่ี สามารถนำไปใช้ได้ตั้งแต่เกษตรกรรายย่อยจนถึงธุรกิจฟาร์มขนาดใหญ่ ซึ่งจะได้ รวบรวมไว้ในเอกสารฉบับนี้

สารบัญ หนา้ ปัจจัยทจ่ี ะทำใหก้ ารเลี้ยงสกุ รประสบความสำเร็จ ๔ ๔ สายพันธ์สุ ุกร ๙ ๑๐ หลกั ในการสร้างโรงเรือน ๑๒ ๑๒ อาหารและการใหอ้ าหาร ๑๒ ๑๓ การจดั การสุกรพอ่ พนั ธุ ์ ๑๓ ๑๔ หลกั การใช้พอ่ พนั ธ ์ุ ๑๕ ๑๖ การจดั การสุกรแมพ่ นั ธุ ์ ๑๗ ๑๗ การผสมพันธส์ุ กุ ร ๒๐ ๒๐ การจัดการแม่สุกรก่อนคลอด การจัดการแมส่ กุ รคลอดถึงหย่านม การจดั การแมส่ กุ รหลังคลอดและหยา่ นม การจัดการสกุ รกอ่ นขุน การจัดการสุขาภบิ าลและการป้องกันโรค โรคทสี่ ำคัญในสกุ ร โปรแกรมการทำวคั ซีน ตน้ ทุนการเลีย้ งสุกรภูพาน

การเล้ยี งสกุ ร ปจ จัยท่จี ะทำให้การเลย้ี งสุกรประสบความสำเรจ็ ๑. สกุ รพนั ธด์ุ ี ๒. อาหารคณุ ภาพดี และการให้อย่างเหมาะสม ๓. การจดั การดีโรงเรือนด ี ๔. การจัดการเลย้ี งดูด ี ๕. การป้องกนั โรคดี สายพันธสุ์ กุ ร ๑. สกุ รพนั ธุด์ รู ็อคเจอร์ซี่ ถิ่นกำเนิดประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสุกรประเภทเนื้อ มีลักษณะสีแดง หรือน้ำตาลแดงถึงสีน้ำตาลดำ น้ำหนักโตเต็มท่ี ๒๐๐ - ๒๕๐ กโิ ลกรัม ให้ลูกไม่ดก เฉลี่ย ๘ - ๙ ตัว เลี้ยงลูกไม่เก่ง หย่านมต่อคอก เฉล่ีย ๖ - ๗ ตัว จึงนิยมใช้เป็นพ่อพันธุ์เพ่ือ ผลิตสกุ รลกู ขนุ สามสาย สุกรพนั ธุด์ ูร็อคเจอรซ์ ่ี สกุ รพนั ธ์แุ ลนด์เรซ ๔ ๑๙ ผลสำเรจ็ ท่โี ดดเด่นของศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

สกุ รพนั ธลุ์ ารจ์ ไวท์ สุกรพนั ธ์ุเพยี เทรียน ๒. สุกรพนั ธแ์ุ ลนดเ์ รซ ถนิ่ กำเนดิ ประเทศเดนมารก์ มลี กั ษณะลำตวั สขี าว หวั เรยี วเลก็ หปู รก ลำตวั ยาว หลงั โค้งเลก็ น้อย มซี ่ีโครง ๑๖ - ๑๗ ค ู่ โตเตม็ ทน่ี ้ำหนัก ๒๐๐ - ๒๕๐ กิโลกรัม ให้ลูกดกเฉล่ยี ๙ - ๑๐ ตัว ใหน้ มดี เลีย้ งลูกเกง่ หยา่ นมเฉลี่ย ๘ - ๙ ตัว จงึ นิยมใชเ้ ป็น สายแมพ่ ันธุใ์ นการผลิตสุกรขนุ สามสาย ๓. สกุ รพันธ์ุลาร์จไวท์ ถ่นิ กำเนดิ ประเทศอังกฤษ มลี กั ษณะลำตัวสีขาว หูตง้ั ลำตัวยาว หน้าส้ัน หัวใหญ ่ นำ้ หนกั โตเต็มท่ี ๒๐๐ - ๒๕๐ กโิ ลกรมั ใหล้ กู ดกเฉลยี่ ๙ - ๑๐ ตวั เลี้ยงลกู เก่ง หย่านมเฉลี่ย ๘ - ๙ ตัว โตเร็ว คุณภาพซากดี สุกรพันธุ์ลาร์จไวท์เหมาะท่ีใช้เป็น ท้งั สายพอ่ พนั ธุแ์ ละแม่พนั ธ์ุ ๔. สกุ รพันธเ์ุ พียเทรยี น ถิน่ กำเนิดจากประเทศเบลเย่ยี ม มีลำตัวสดี ำสลบั ขาวหรอื เหลอื ง กลา้ มเนื้อ เปน็ มดั ๆ แผน่ หลงั กวา้ ง สะโพกกลมโต นำ้ หนกั โตเตม็ ท ี่ ๑๕๐ - ๒๐๐ กโิ ลกรมั มเี ปอรเ์ ซน็ ต์ เนื้อแดงสูงมาก มีข้อเสียคือ ตื่นตกใจ ช็อกตายง่าย ปัจจุบันนิยมใช้ผสมข้ามพันธุ์ ในการผลติ สกุ รขนุ สามสาย คู่มือการเลีย้ งสกุ รภูพาน ๕

สุกรสายพันธุ์ ภูพาน ๑ ๕. สกุ รสายพนั ธภุ์ ูพาน สกุ รภูพาน เกิดจากงานศกึ ษาและพัฒนาดา้ นปศสุ ัตว์ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ได้เริ่มดำเนินโครงการพัฒนาสุกรสายพันธ์ุ ภูพาน ในปี พ.ศ.๒๕๔๕ และจนถึงปัจจบุ ัน ซ่ึงจากผลการศกึ ษาการเจริญเตบิ โตและ ทดสอบเปอร์เซ็นต์ซากอยู่ในเกณฑ์ดี ตรงตามความต้องการของเกษตรกร ในด้าน ต้นทนุ การผลิต เพ่อื ให้เกษตรกรสามารถเลีย้ งสกุ รทีม่ ีลักษณะเลย้ี งง่าย โตเร็ว ปรับตัว เข้ากับสถานท่ีการเลี้ยงของเกษตรกรได้ดี มีความทนทานต่อโรค ให้ลูกดก เลี้ยงลูก เกง่ และให้ปริมาณเนื้อแดงมากเมื่อนำไปขนุ ดงั นน้ั จึงไดว้ างแผนการพฒั นาสายพนั ธ ์ุ จากสุกร ๔ สายพันธุ์ ทม่ี จี ดุ เดน่ ของแต่ละสายพันธ์ุทแี่ ตกตา่ งกนั คอื ๑. สุกรพันธ์ุเหมยซาน ให้ลูกดก เลี้ยงลูกเก่ง ปรับตัวเข้ากับสภาพการเลี้ยง ของเกษตรกรไดด้ ี ๒. สุกรพนั ธ์ุพน้ื เมืองสกลนคร ขนาดลำตวั กะทดั รดั ทนต่อโรคระบาด ใบหเู ลก็ ๓. สุกรพันธุ์ดูร็อคเจอร์ซ่ี ลำตัวยาว ให้ปริมาณเนื้อแดงมากและไขมันต่ำ เหมาะสำหรบั ใชเ้ ป็นสายพนั ธุ์ ๔. สุกรพนั ธุแ์ ลนด์เรซ เลีย้ งลูกเก่ง มคี วามสามารถใหน้ มดีเป็นพิเศษ เหมาะ สำหรับใช้เปน็ สายแมพ่ ันธุ์ จึงได้สกุ รสายพนั ธุ์ภูพาน ๑ ที่มลี ักษณะลำตวั สีดำ ลำตวั ไมใ่ หญ่มากนกั เลบ็ ดำ หตู ้ังกึง่ ปรกเลก็ นอ้ ย จมูกส้ัน เลย้ี งงา่ ย ทนต่อสภาพแวดลอ้ มได้ดี แขง็ แรง มเี นอื้ แดง มาก มนั น้อย ๖ ๑๙ ผลสำเรจ็ ท่โี ดดเด่นของศนู ยศ์ กึ ษาการพัฒนาภูพานอนั เนื่องมาจากพระราชดำริ

สุกรสายพันธุ์ภพู าน ๒ ทม่ี ลี ักษณะลำตัวสีขาว มจี ดุ สดี ำท่ีหวั และสะโพกลำตวั ไมใ่ หญม่ ากนกั ขาและเล็บสขี าว หูตง้ั กึ่งปรกเลก็ นอ้ ย จมกู สน้ั เล้ียงง่าย ทนต่อสภาพ แวดลอ้ มไดด้ ี โตเรว็ เน้ือดีมันนอ้ ย แผนผงั การผลิตสกุ รพนั ธ์ุภูพาน ๑ ผสมกับ สุกรพันธพ์ุ ้ืนเมือง (เพศเมยี ) สกุ รพนั ธเุ์ หมยซาน (เพศผ)ู้ ๑๐๐% ขว่ั ท ่ี ๑ ผสมกบั พ้นื เมอื ง ๕๐% เหมยซาน ๕๐% (เพศเมีย) สุกรดรู อคซเี่ จอซ่ี ๑๐๐% (เพศผู้) ขัว่ ที่ ๒ ผสมกบั ดูรอ ค ๕๐% พ้ืนเมอื ง ๒๕% เหมยซาน ๒๕% สุกรดรู อคซ่ีเจอซ่ ี ๑๐๐% (เพศผู้) ขวั่ ที่ ๓ ผสมกับ ขัว่ ที ่ ๒ ดูรอ ค ๗๕% พ้ืนเมอื ง ๑๒.๕% เหมยซาน ๑๒.๕% ขัว่ ท่ี ๔ ผสมกบั ข่ัวท ่ี ๕ ดูรอ ค ๖๒.๕% พนื้ เมอื ง ๑๘.๗๕% เหมยซาน๑๘.๗๕% สกุ รภพู าน ๑ คู่มือการเล้ยี งสกุ รภูพาน ๗

แผนผงั การผลติ สุกรพนั ธ์ุภูพาน ๒ ผสมกบั แลนดเ์ รด ๑๐๐% สกุ รภูพาน ๑ ขว่ั ท่ ี ๒ ดูรอค ๕๐% เหมยซาน ๒๕% พ้ืนเมอื ง ๒๕% ขว่ั ท ่ี ๓ ผสมกบั แลนด์เรด ๕๐% เหมยซาน ๑๒.๕% สุกรภพู าน ๑ ขว่ั ที่ ๒ ดรู อค ๕๐% พ้นื เมือง ๑๒.๕% ดรู อ ค ๒๕% เหมยซาน ๒๕% พน้ื เมอื ง ๒๕% ขว่ั ท ่ี ๔ ผสมกบั แลนดเ์ รด ๒๕% เหมยซาน ๑๘.๗๕% แลนด์เรด ๒๕% เหมยซาน ๑๘.๗๕% พน้ื เมือง ๑๘.๗๕% ดูรอ ค ๓๗.๕% พื้นเมือง ๑๘.๗๕% ดรู อค ๓๗.๕% ขั่วท ี่ ๕ สุกรภูพาน ๒ ๘ ๑๙ ผลสำเรจ็ ท่ีโดดเด่นของศนู ย์ศกึ ษาการพฒั นาภพู านอันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ

๖. สุกรพันธพุ์ ้ืนเมอื ง จัดเปน็ สุกรขนาดเลก็ ลำตัวสดี ำ ลำตัวสั้น ซี่โครง ๘ - ๙ คู่ น้ำหนักตวั ประมาณ ๖๐ - ๘๐ กิโลกรัม ใบหูเล็กตั้งชัน หน้าเล็กแหลม ว่องไว ปราดเปรียว หากินในป่าได้เก่ง ทนทานต่อโรค จึงมีช่ือเรียกตามท้องถ่ินในภาคต่างๆ เช่น ภาคเหนือ เรียกว่า หมูควาย หมูตาขาว ภาคกลางและภาคตะวันตก เรียกว่า สกุ รไหหลำ และภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ เรยี กวา่ หมกู ี้ หมูราด หมกู ระโดน หลักในการสรา้ งโรงเรือน ๑. บริเวณทสี่ ร้างควรเป็นทีส่ งู น้ำทว่ มไมถ่ งึ ระบายนำ้ และของเสยี ไดด้ ี ๒. สรา้ งโรงเรอื นตามแนวตะวนั ออก - ตะวันตก ๓. การคมนาคมขนสง่ สะดวก ๔. ไมอ่ ยใู่ กลแ้ หลง่ ท่ีอยอู่ าศยั มากเกินไป เพ่อื ปอ้ งกันโรคตดิ ต่อและกลนิ่ ๕. ควรเป็นสถานทีม่ แี หลง่ น้ำสะอาด สุกรสายพนั ธุ ์ ภูพาน ๒ สกุ รพนั ธพ์ุ น้ื เมือง ค่มู ือการเล้ียงสกุ รภูพาน ๙

การจดั การฟาร์ม อาหารและการใหอ้ าหาร ๑. ผสมอาหารใช้เอง ได้แก่กากถ่ัวเหลือง ปลาป่น ปลายข้าว ข้าวโพด รำละเอียด และไวตามินแร่ธาตุในรูปของพรีมิกซ์มาผสมตามสูตรอาหารและความ ตอ้ งการของสุกร ๒. อาหารเมด็ สำเรจ็ รปู ไดแ้ กส่ กุ รออ่ น สกุ รเลก็ สกุ รรนุ่ สกุ รขนุ และสกุ รพนั ธ ์ุ ข้อดีคอื สะดวกในการใช้มีจำหนา่ ยตามท้องตลาด ขอ้ เสยี คือ ราคาแพง ๓. หวั อาหารสำเร็จ มโี ปรตีนประมาณ ๓๒ - ๓๖% และผสมไวตามนิ แร่ธาตุ ไว้แล้วใช้ผสมกับปลายข้าว ข้าวโพด รำละเอียด ตามอัตราส่วนที่ระบุข้างถุงอาหาร การใชใ้ นสกุ รแตล่ ะขนาดใหค้ ำนงึ ถงึ เปอรเ์ ซ็นตโ์ ปรตีนในอาหารผสมด้วย ๑๐ ๑๙ ผลสำเรจ็ ท่ีโดดเดน่ ของศูนย์ศกึ ษาการพฒั นาภูพานอันเนือ่ งมาจากพระราชดำริ

ตารางท่ ี ๑ สูตรอาหารสกุ รระยะต่างๆ รายการ หมนู ม สกุ ร สุกรรุ่น สุกรพันธ์ุ สกุ รพ่อแมพ่ นั ธ์ุ แมส่ ุกร % โปรตีน หยา่ นม ๒ก๕ก-๙.๐ ๒ก๕ก-๙.๐ อุ้มท้อง เลยี้ งลกู วัตถุดบิ ขา้ วโพด - - - - - - ๘ - - ๘ ปลายขา้ วน่งึ ๔๕.๐ ๔๙.๘ - - ๕๐.๐ ๕๖.๐ ๘ ๓๐.๐ ๒๐.๐ ๑๒ ปลายขา้ ว - - ๕๘.๐ ๕๑.๗ - - ๒๖ - - ๔ รำละเอยี ด - - ๒๐.๐ ๑๕.๐ ๑๓.๐ ๑๖.๐ ๔๔ หางนมผง ๑๐.๐ ๕.๐ - - - - ๓๘ เศษเส้นหมี ่ - - - - ๔.๐ ๔.๐ ๕๖ กากถวั่ เหลือง - ๑๖.๐ ๑๕.๐ ๒๑.๐ สกัดน้ำมัน ๒.๐ ๓.๐ - ถ่วั เหลอื ง ๓๒.๐ ๑๖.๐ - - - - - อบไขมันสูง - - - ๐.๕ ๐.๕ - ปลาป่น ๗.๐ ๕.๐ ๔.๐ ๕.๐ ๐.๑๕ ๐.๒๕ - ๐.๕ ๐.๕ - ไดแคลเซยี ม ๒.๐ ๓.๐ ๒.๐ ๔.๐ ๑๐๐.๑๕ ๑๐๐.๒๕ - ฟอสเฟต ๑๕.๕๖ ๑๖.๑๖ - น้ำตาลทราย ๓.๐ ๒.๐ - - ไขมนั - ๒.๐ - ๒.๐ เกลือปน่ - ๐.๓ ๐.๕ ๐.๕ ยาปฏิชีวนะ ๐.๕ ๐.๔ ๐.๒๕ ๐.๓ พรมี กิ ซ์ ๐.๕ ๐.๕ ๐.๕ ๐.๕ รวม ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐.๒๕ ๑๐๐ %โปรตีน ๒๒.๒๘ ๒๑.๒๐ ๑๕.๑๖ ๑๗.๙๘ คู่มือการเลีย้ งสกุ รภพู าน ๑๑

ไล่พ่อพนั ธุก์ ระตนุ้ การเปนสดั ทกุ วนั การจดั การสุกรพอ่ พนั ธ์ุ สุกรพ่อพันธุ์ท่ีมีอายุ ๕ เดือน ควรแยกขังเด่ียวเพื่อควบคุมการเจริญเติบโต สุกรพ่อพันธ์ุหนุ่มอายุ ๘ เดือน น้ำหนัก ๘๐ - ๑๐๐ กิโลกรัม ควรเร่ิมฝกหัดผสม ให้อาหารครั้งละ ๑.๒๕ กิโลกรัม และให้หญ้าสดกินเต็มท่ี ให้พ่อสุกรเดินไปตาม หน้าคอกแม่สุกรเปน็ การออกกำลงั กายและกระตุน้ แมส่ ุกรใหเ้ ปน็ สดั สำหรบั สกุ รพอ่ พนั ธทุ์ มี่ นี ำ้ หนกั ๑๐๐ - ๑๕๐ กโิ ลกรมั ใหอ้ าหารวนั ละ ๒ กโิ ลกรมั และสกุ รพอ่ พนั ธทุ์ ม่ี นี ำ้ หนกั ๑๕๐ กโิ ลกรมั ขนึ้ ไป ควรไดร้ บั อาหารทม่ี เี ปอรเ์ ซน็ ตโ์ ปรตนี ๑๔ เปอรเ์ ซน็ ต์ โดยใหอ้ าหารวันละ ๒ - ๒.๕ กิโลกรมั หลกั การใชพ้ ่อพันธ ์ุ พ่อสกุ รอาย ุ ๘ - ๑๒ เดอื น ควรผสมอาทติ ยล์ ะ ๒ ครง้ั พอ่ สุกร อายุ ๑๒ เดอื น ขี้นไป ผสมอาทติ ย์ละ ๔ - ๖ ครั้ง อายุการใชง้ านของพ่อสุกร มีประมาณ ๒ - ๓ ป ี อตั ราส่วนของพอ่ พนั ธต์ุ ่อแม่พันธแ์ุ บบผสมจรงิ ควรใชพ้ ่อพนั ธุ ์ ๑ ตวั ต่อแมพ่ ันธ์ ุ ๑๕ ตวั และอัตราสว่ นของพอ่ พันธต์ุ ่อแมพ่ นั ธุ์แบบผสมเทยี มควรอยู่ท ่ี ๑ ตัวต่อ ๑๐๐ ตัว และ ไมค่ วรหยุดใช้พอ่ พันธุ์ผสมนานเกิน ๑ เดอื น การจัดการสกุ รแมพ่ ันธุ์ การใหอ้ าหารสุกรแม่พนั ธุท์ ดแทน สุกรสาว อาย ุ ๖ เดือน น้ำหนกั ประมาณ ๘๐ กโิ ลกรมั ควรยา้ ยสกุ รสาวจากคอกขงั รวมมายงั คอกขงั เดย่ี ว เพอื่ ควบคมุ การเจรญิ เตบิ โต ควรจำกดั อาหารไมใ่ หอ้ ว้ นเกนิ ไป ใชอ้ าหารโปรตนี ๑๖ เปอรเ์ ซน็ ต ์ ใหว้ นั ละ ๒.๒๕ กโิ ลกรมั และเก็บไวเ้ ป็นแม่พนั ธ์ตุ อ่ ไป ๑๒ ๑๙ ผลสำเร็จทีโ่ ดดเด่นของศูนยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ

หลักการกระตุน้ สกุ รสาวให้เปน็ สดั สกุ รสาวจะเป็นสดั ครง้ั แรกเมื่ออายุ ๗ - ๘ เดอื น หรอื นำ้ หนกั ประมาณ ๘๐ - ๙๐ กโิ ลกรมั และจะเปน็ สดั ทกุ ๆ ๒๑ วัน ในการเลยี้ ง สกุ รสาวควรปฏิบตั ดิ ังน้ี ๑. แยกขังเดี่ยวในคอกหรือหอ้ งขงั เดย่ี ว ๒. ไลส่ กุ รพอ่ พนั ธผุ์ า่ นหนา้ คอกใหส้ กุ รสาวไดก้ ลน่ิ ตวั ผเู้ พอ่ื กระตนุ้ การเปน็ สดั ทกุ วนั อาการเป็นสัดของแมส่ ุกกรมีอาการท่ีแสดงออกใหเ้ หน็ ดังน้ี ๒.๑ กระวนกระวาย อวยั ยะเพศบวมแดงขึน้ และสง่ เสยี งร้อง ๒.๒ ปสั สาวะบอ่ ยๆ โดยเฉพาะเวลาอยู่ใกลส้ กุ รตัวผู้ ๒.๓ สกุ รบางตวั กนิ อาหารนอ้ ยลง ๒.๔ มกั ขน้ึ ทับตัวอนื่ และ มีน้ำเมอื กไหลตามช่องคลอด ๒.๕ เมื่อเอามือกดที่หลังเพศเมียหรือน่ังบนหลังแม่สุกรมีอาการยืนน่ิง และหูตั้งชนั การผสมพันธุ์สกุ ร เม่ือแม่สุกรเป็นสัดช่วงเวลาท่ีเหมาะสมในการผสมพันธ์ุ ประมาณ ๑๒ - ๑๘ ชว่ั โมงหลงั การเปน็ สดั ควรผสม ๒ ครง้ั ในชว่ งเชา้ หรอื เยน็ และผสมหา่ งจากครง้ั แรก ๑๒ ชวั่ โมง การจดั การแมส่ ุกรกอ่ นคลอด การจดั การแม่สกุ รอุ้มท้อง สกุ รต้ังทอ้ งประมาณ ๑๑๔ วนั ควรใหอ้ าหารที่มีโปรตีนประมาณ ๑๕ - ๑๖ % แม่สุกรอุ้มทอ้ งแบง่ ได้เปน็ ๓ ระยะดงั นี้ ๑. อุ้มท้องระยะ ๙๔ วนั ควรให้อาหารวันละ ๑.๕ - ๒.๐ กิโลกรมั ๒. อุ้มทอ้ งระยะ ๓๐ วนั ก่อนคลอด ควรให้อาหารวันละ ๒.๐ - ๒.๕ กโิ ลกรัม ๓. กอ่ นคลอด ๕ - ๗ วนั ควรให้อาหารวนั ละ ๑.๐ - ๑.๕ กโิ ลกรัม ค่มู ือการเลี้ยงสุกรภพู าน ๑๓

ตัดเข้ยี วลูกสกุ ร การฉีดธาตุเหล็ก ในชว่ ง ๗ วัน อาการก่อนคลอดมีดงั นี้ ๑. กระวนกระวายไมอ่ ยนู่ ง่ิ ตกใจงา่ ย กดั คอก ตะกยุ พน้ื ดว้ ยขาหนา้ เตรยี มพนื้ ท ี่ สำหรับการคลอดลกู ๒. อวัยวะเพศบวมแดงประมาณ ๓ - ๔ วันก่อนคลอด เต้านมเริ่มขยาย เมื่อบีบหวั นมจะมีน้ำนมไหลออกมา อาจคลอดภายใน ๒๔ ชัว่ โมง ๓. ปากช่องคลอดเริ่มขยายตัวและมีน้ำเมือกไหลออกมา เพ่ือให้สะดวกใน การผ่านของลูกอ่อน ลูกสุกรคลอดแล้วควรเช็ดตัวให้แห้งและสะอาด ขังในกล่องกก จนแข็งแรงจึงให้กินนมน้ำเหลืองทุกตัวในปริมาณที่เพียงพอภายใน ๓ ช่ัวโมง หลัง คลอดถา้ ลูกสุกรทอ่ี อ่ นแอให้ช่วยรดี นมน้ำเหลอื งใหก้ นิ โดยเรว็ การจดั การลูกสกุ รคลอดถงึ หย่านม ลูกสกุ รแรกเกดิ ควรไดด้ ื่มนมน้ำเหลอื งภายใน ๓ ช่วั โมง และให้ไฟกก ๑. การตัดสายสะดอื ตอนคลอดใหม่ๆ ใช้ดา้ ยมดั สายสะดอื หา่ งจากท้องประมาณ ๑ นว้ิ และใช้ มีดที่ฆ่าเชอ้ื แล้วตดั ห่างออกประมาณ ๑ น้วิ แล้วจมุ่ สายสะดือดว้ ยน้ำยาฆ่าเชอ้ื เชน่ ทงิ เจอรไ์ อโอดนี และปลอ่ ยสายสะดอื ค่อยๆ แห้งไป ๒. การตดั เขี้ยวลูกสุกร ระยะแรกเกิดเพื่อป้องกันเต้านมแม่และตัวลูกสุกรท่ีกัดกัน ควรตัดเข้ียวให้ เรียบเสมอโคนเหงือก ระวังอย่ามีส่วนแหลมหรือมีคม อาจทำให้เหงือกเป็นแผล กรรไกรตัดเข้ยี วควรแช่ในนำ้ ยาฆา่ เช้อื ระหวา่ งการตัดเขย้ี ว ๑๔ ๑๙ ผลสำเร็จทโ่ี ดดเดน่ ของศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

๓. การฉดี ธาตุเหล็ก ลูกสุกรเกิดใหม่ฉีดวันที่ ๓ หลังจากคลอด บริเวณท่ีฉีดควรเป็นกล้ามเน้ือ คอหลังใบหูหรอื ทโี่ คนขา ฉดี จำนวน ๑ ซีซี ๔. การตอน คือ การผ่าเอาลกู อัณฑะออกท้ัง ๒ ข้าง เม่ือลกู สกุ รมอี ายุ ๗ - ๑๐ วนั ใชม้ ีด กรีดลงบนผนังหุ้มอัณฑะแต่ละข้าง แล้วจึงใช้น้ิวดึงลูกอัณฑะออกมาจากรอยผ่า ของแผลแล้วใช้ทิงเจอร์ไอโอดีนทาแผล โรยด้วยยาเนกาชัน ๕. การทำเครอ่ื งหมาย มีหลายวิธี เช่น การสักตัวเลขบน ใบหู การใชแ้ ผ่นพลาสติกตดิ ใบหู และ การตัดใบหู ลกู สุกรควรตดั ใบหใู นระยะ อายไุ มเ่ กิน ๗ - ๑๐ วัน ๖. การตัดหางลกู สกุ ร ควรตัดตั้งแต่แรกเกิดให้สั้นตัด ๐.๕ นิ้ว จากโคนหางเพื่อลดปัญหาการ การตอนลูกสุกร ตดิ เชื้อ และสะดวกในการผสมพนั ธ ์ุ ๗. การหยา่ นม ควรหยา่ นมเมอื่ ลกู สกุ รอายไุ ด้ ๒๑ - ๒๘ วนั เรว็ หรอื ชา้ ขนึ้ อยกู่ บั ความสมบรู ณ ์ ของแม่และลูกสกุ ร การจดั การแมส่ ุกรหลังคลอด และหยา่ นม ๑. แม่สุกรหย่านมวันแรกให้อาหาร การตดั เบอร์หู วนั ละ ๑.๐ - ๑.๕ กิโลกรัม ๒. แมส่ กุ รหยา่ นม ๒ วนั ขน้ึ ไป ถงึ แมส่ กุ รเปน็ สดั ใหอ้ าหารวนั ละ ๓ - ๔ กโิ ลกรมั เพอ่ื ใหส้ มบรู ณพ์ นั ธ์เุ ร็ว ๓. แมส่ กุ รเป็นสัดและผสมพนั ธ์ุแล้ว ให้อาหารวันละ ๑.๕ - ๒ กิโลกรัม ๔. แม่สุกรไม่เป็นสัดเกิน ๑๕ วัน แสดงว่าผิดปกติ ให้ลดอาหารลงเหลือ วันละ ๒ กโิ ลกรัม คมู่ ือการปลูกขา้ ควมู่พือนั กธาข์ุ ราเวลด้ยี องกสมุกะรลภิ ๑ูพ๐าน๕ ๑๕

การใหอ้ าหารสกุ รอนุบาล - รุ่น - ขุน ๑. สุกรนำ้ หนกั ๖ - ๘ กโิ ลกรมั ให้อาหารสุกรโปรตนี ๒๐ เปอร์เซ็นต์ จนถงึ อาย ุ ๒ เดอื น หรอื นำ้ หนัก ๑๕ - ๒๐ กโิ ลกรัม ๒. สุกรน้ำหนัก ๒๐ - ๓๕ กิโลกรัม ให้อาหารสุกรโปรตีน ๑๘ เปอร์เซ็นต์ โดยใหส้ ุกรกนิ อยา่ งเต็มท่ี โดยสกุ รสามารถกนิ อาหารไดว้ ันละ ๑.๕ - ๒ กโิ ลกรัม ๓. สุกรน้ำหนัก ๓๕ - ๖๐ กิโลกรัม ให้อาหารสุกรโปรตีน ๑๖ เปอร์เซ็นต์ โดยสกุ รสามารถกินอาหารได้วันละ ๒ - ๒.๕ กิโลกรมั ๔. สุกรนำ้ หนัก ๓๐ กโิ ลกรมั ถึงสง่ ตลาด ให้อาหารสกุ รโปรตีน ๑๔ เปอร์เซ็นต์ โดยสกุ รสามารถกนิ อาหารได้วันละ ๒.๕ - ๓.๕ กโิ ลกรมั การจดั การสกุ รกอ่ นขนุ ๑. สกุ รทซี่ อื้ จากทอ่ี น่ื ควรดแู หลง่ ทซ่ี อ้ื มาวา่ มโี รคระบาดหรอื ไม่ และการจดั การ ลูกสกุ รหย่านมเมอื่ อายุ ๒๑ - ๒๘ วนั การทำวคั ซนี และผ่านการตอนมาแลว้ ๒. ทำการขนย้ายสุกรในช่วงอากาศเยน็ ๓. ทำความสะอาดคอกกอ่ นนำสกุ รเขา้ คอก ๓ วนั ด้วยการฉีดยาฆ่าเชอื้ ๔. ถา้ นำมาจากขา้ งนอกตอ้ งแยกคอกหรอื นำเขา้ คอกพกั ประมาณ ๒ - ๓ สปั ดาห ์ กอ่ นนำมารวมกับสุกรคอก ๕. หลงั จากมาถึงแลว้ ๔ ชั่วโมง หาอาหารหมูออ่ น โดยใหท้ ลี ะนอ้ ยๆ ๖. วัคซีนสำหรับสุกรขุน วัคซีนป้องกันอหิวาห์สุกร, ปากและเท้าเป่อื ย ๗. ตอ้ งคดั สกุ รขนาดและนำ้ หนักไลเ่ ลี่ยกันใหอ้ ยูใ่ นคอกเดยี วกัน ๘. ควรสงั เกตการกินอาหาร และอาการทอ้ งเสีย สกุ รอนุบาล แม่สกุ รหลังคลอด ๑๖ ๑๙ ผลสำเรจ็ ทีโ่ ดดเดน่ ของศนู ยศ์ ึกษาการพัฒนาภูพานอนั เนือ่ งมาจากพระราชดำริ

การจัดการสุขาภบิ าลและการป้องกันโรค ๑. โรงเรอื นควรหา่ งชมุ ชน ระบายอากาศดี ไมร่ อ้ น อณุ หภมู ปิ ระมาณ ๑๘ องศา เซลเซยี ส ไมค่ วรเลยี้ งสุกรแออดั เกนิ ไป ๒. อปุ กรณใ์ นโรงเรอื น เช่น รางนำ้ รางอาหาร พนื้ คอก ตอ้ งสะอาด ๓. มนี ำ้ ที่สะอาดใหส้ กุ รดืม่ และมีนำ้ ใชใ้ นฟารม์ อย่างเพียงพอ ๔. อาหารที่ให้กนิ ควรใหมเ่ สมอ อาหารเหลอื เป็นแหลง่ เพาะเชื้อโรค ๕. ทำความสะอาดฆา่ เชอ้ื โรค ตวั สกุ รและโรงเรอื น กอ่ นนำสกุ รเขา้ และหลงั นำ สุกรออกทุกครั้ง ๖. ไมอ่ นุญาตให้บุคคลภายนอกเขา้ ไปโดยไม่จำเปน็ ๗. หมัน่ กำจดั ขยะ และมลู สุกรเปน็ ประจำ ๘. กำจดั นก หนู และแมลงวันทเ่ี ปน็ พาหะของโรคบ่อยๆ ๙. เมื่อสุกรป่วยขึ้น ต้องแยกเลย้ี งตา่ งหากจากสุกรปกติ ๑๐. ทำวคั ซีนและถา่ ยพยาธิ ตามโปรแกรม ๑๑. คอกแตล่ ะคอกควรมอี ่างนำ้ ยาฆ่าเชอ้ื ๑๒.หม่นั ตรวจสุขภาพสกุ รบอ่ ยๆ หากผดิ ปกติใหร้ ีบรักษาโดยเร็ว โรคท่สี ำคัญในสกุ ร ๑. โรคอหิวาตส์ ุกร เป็นได้ในสกุ รทุกอายุ มีอตั ราการปว่ ยเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ และมีอัตรา การตาย ๑๐ เปอรเ์ ซ็นต์ สาเหตุ เกิดจากเชอ้ื ไวรัสช่ือ เอชซี - ไวรสั การตดิ ตอ่ ระบาดรวดเรว็ การสมั ผสั การกนิ เขา้ ไป แมผ่ า่ นรกไปสลู่ กู ในทอ้ ง การสดู ดมปสั สาวะและมลู สตั วป์ ่วย ติดมากับคน และแมลงต่างๆ อาการ แบบชนิดเฉียบพลัน รุนแรง หรือแบบเรื้อรัง สกุ รบางตวั ตายอยา่ ง รวดเรว็ ภายใน ๔ - ๘ วนั หลังจากรบั เช้ือเข้าไป สกุ รบางตัวจะมไี ขส้ ูง แสดงอาการ เคยี้ วฟัน หนาวสน่ั หลงั่ โกง่ เกร็งตัวแบบแข็งเปน็ ตะครวิ แบบเร้ือรงั สุกรจะมีอาการ ซูบผอม หลงั โกง่ ขาหลงั อ่อนแอ เดินไมต่ รง มกั พบผวิ หนงั อักเสบเรื้อรงั อยูเ่ สมอ การรกั ษา ไม่มยี ารักษาทีใ่ ห้ผล การป้องกนั โรคแทรกซ้อนเทา่ นัน้ การปอ้ งกนั ฉดี วคั ซนี ปอ้ งกนั แกส่ กุ รทกุ ตวั เมอ่ื อาย ุ ๒ - ๓ เดอื น แมส่ กุ รสาว ควรฉดี วคั ซนี ก่อนผสมพันธ์ุ พอ่ และแม่พันธค์ุ วรฉีดวัคซีนซำ้ ทกุ ปี คมู่ อื การเลี้ยงสกุ รภูพาน ๑๗

๒. โรคปากและเท้าเปอ ยในสกุ ร ระบาดอย่างรวดเร็ว แม่สุกรท่ีกำลังตั้งท้องมักแท้งลูก ติดต่อระหว่างสัตว์ กีบคดู่ ้วยกนั เช่น วัว ควาย แพะ แกะ สาเหตุ เกดิ จากเชื้อไวรัส ประเทศไทยพบเช้อื ชนดิ เอ โอ เอเชยี ๑ การตดิ ต่อ การสัมผสั โดย การกนิ การหายใจ และจากนำ้ เชอื้ ของพ่อสุกร รวมทั้งพาหะตา่ งๆ อาการ อาการท่ีพบได้แก่ จมูกแห้ง ซึม เบื่ออาหาร เป็นไข้ ปากอักเสบ เกิดเม็ดตุ่มในกระพุ้งแก้ม เหงือก เพดานปาก ลิ้น และเท้า สุกรไม่อยากลุกเดิน และกนิ อาหาร ต่อมาตุ่มเหล่าน้ีจะพพุ อง การรักษา ไม่มยี ารักษาโดยตรง การป้องกนั โดยการฉีดวัคซนี ป้องกนั โรค ๓. โรคแท้งตดิ ตอ่ ในสกุ ร คือ แท้งลูกและผสมตดิ ยาก ตดิ ต่อมนษุ ย์ได้ สาเหต ุ เกิดจากเชอื้ แบคทีเรยี บรเู ซลล่า ซูอสิ เกดิ โรคในสกุ รมากท่ีสดุ การติดต่อ การสัมผัสโดยตรง การกินอาหาร การด่ืมน้ำท่ีมีเช้ือโรค การ ผสมพนั ธุ์ตามธรรมชาต ิ และการติดเชอื้ ทางบาดแผล อาการ สกุ รท่ตี ิดเชื้อจะผสมไมต่ ดิ สกุ รทอ้ งอาจแทง้ ลูกได้ ซ่ึงมกั เกิดในวันท ี่ ๑๖ - ๑๙ ของการตง้ั ทอ้ ง สกุ รตวั ผจู้ ะแสดงอาการขอ้ อกั เสบ เดนิ ขากระเผก อณั ฑะอกั เสบ บวมทั้ง ๒ ข้าง การรกั ษา โรคนไ้ี มม่ ยี าทรี่ ักษาได้ผล การป้องกนั โรงเรือนใหส้ ะอาดตลอดเวลา พอ่ แม่พนั ธ์ทุ ีถ่ ูกตรวจพบว่าเป็น โรคนจ้ี ะตอ้ งกำจัดท้ิง และควรตรวจเลือดเป็นประจำทุกปี ๑๘ ๑๙ ผลสำเร็จท่ีโดดเดน่ ของศูนยศ์ ึกษาการพัฒนาภูพานอนั เน่อื งมาจากพระราชดำริ

๔. โรคพษิ สุนัขบา้ เทยี ม เกดิ ไดใ้ นสกุ รทกุ ชว่ งอาย ุ สว่ นใหญเ่ กดิ กบั ลกู สกุ รหลงั หยา่ นม สกุ รขนุ และสกุ ร อมุ้ ทอ้ ง ในลกู สกุ รมอี ตั ราการตายเกอื บ ๑๐๐ เปอรเ์ ซน็ ต ์ สำหรบั สกุ รอาย ุ ๔ - ๖ สปั ดาห์ จะมีอัตราการตายนอ้ ยกว่า ๕ เปอรเ์ ซน็ ต์ สาเหต ุ เกิดจากเชือ้ ไวรัสชื่อ เฮอรเ์ ปส ไวรสั การตดิ ต่อ การสมั ผัสโดยตรง ทางนำ้ มกู นำ้ ลาย ซากสตั ว์ปว่ ย ปะปนใน อาหารและน้ำ อาการ สุกรเล็กเกดิ โรคแลว้ ตายลงโดยไมแ่ สดงอาการปว่ ยมาก่อน บางตวั อาจพบอาการยืนหลังโก่ง หูตก ผิวหนังหยาบกร้าน ขนตัวชัน บางตัวหายใจมีเสียง ผิดปกติ ลูกสกุ รอายุ ๒ - ๓ สปั ดาห์ อาจมีอาการท้องเสยี อาเจียนน้ำลายเปน็ ฟอง มีไข้ อาการทางประสาท กล้ามเน้ือกระตุกและสั่น บางตัวแสดงอาการชัก เคลื่อนไหว ไม่ไดแ้ ละเป็นอมั พาต อาจตายภายใน ๑๒ ชว่ั โมง การรักษา การจัดการสุขาภิบาลท่ีดี บริเวณที่เคยขังสุกรป่วยควรทำความ สะอาดและทำลายดว้ ยน้ำยาฆา่ เชอื้ การปอ้ งกนั ไมม่ ียารกั ษา สุกรปว่ ยแล้วสงสัยตอ้ งแยกออกหรือทำลาย ๕. โรคปอดอกั เสบติดต่อในสกุ ร เปน็ โรคเรอ้ื รงั ทร่ี ะบบทางเดนิ หายใจ เกดิ ในสกุ รทกุ อาย ุ สกุ รขนาดเลก็ ตดิ ตอ่ ไดง้ ่ายกวา่ สุกรขนาดใหญ ่ สาเหต ุ เกิดจากเชอื้ มัยโคพลาสมา่ ซูอิส นิวโมเนีย การติดต่อ โรคนี้จะปะปนกับละอองน้ำเล็กๆ ในอากาศท่ีสัตว์ป่วยหายใจ ออกมา อาการ มกั เกดิ กบั สกุ รเลก็ อายุ ๓ - ๑๐ สปั ดาห์ โดยลูกสุกรจะแสดงอาการ ทอ้ งเสยี ไอและจาม การไอมกั เปน็ มากในตอนเชา้ สุกรสว่ นมากยังคงกนิ อาหารปกติ และไม่ค่อยแสดงอาการป่วย แตจ่ ะเจรญิ เตบิ โตช้า แคระแกรน การรกั ษา ยาปฏิชวี นะ เช่น คลอเตตราซัยคลนิ และออกซี่เตตราซัยคลิน คมู่ ือการเลี้ยงสกุ รภพู าน ๑๙

โปรแกรมการทำวัคซนี อายสุ ุกร ชนิดของวัคซนี ขนาดและวิธีใช้ หมายเหตุ ๖ สัปดาห ์ อหิวาตส์ กุ ร ฉีดเข้ากลา้ มเนื้อตวั ละ ฉดี วคั ซนี ป้องกนั ทุก ๑ ซีซี. ๖ เดือน ๗ สัปดาห ์ ปากและเทา้ เปื่อย ฉีดเข้าให้ผวิ หนัง ตอ่ ไปฉดี วัคซนี ป้องกันทุก ๔ เดอื น หมายเหตุ ระยะเวลาการทำวคั ซนี และชนดิ ของวคั ซนี ตอ งพจิ ารณาตามความเหมาะสมหรอื สภาพแวดลอ มในพนื้ ที่ ตน้ ทุนการเล้ยี งสุกรภูพาน รายการ ตน้ ทนุ / บาท / ป ต้นทุน - คา่ พันธุส์ ุกรเพศเมยี จำนวน ๒ ตวั ๒,๐๐๐ - คา่ โรงเรือนและอุปกรณ์การเล้ยี ง ๘,๐๐๐ - ค่าอาหารสำหรบั แมพ่ นั ธุ์เฉล่ีย ๑๒,๐๐๐ ตวั ละ ๖,๐๐๐ บาท/ปี ๒,๐๐๐ - ค่าผสมหมูแมพ่ นั ธุ ์ จำนวน ๕๐๐บาท/ครัง้ ๒๔,๐๐๐ (ตวั ละ๒ครง้ั /ป)ี รวมต้นทนุ การผลติ รายได้ - แม่พันธุ ์ ๒ ตัวให้ลกู หมเู ฉล่ีย ๓๐ ตัว/รนุ่ ๖๐,๐๐๐ และใหล้ กู ๒ ร่นุ ๒ ปี รวม ๖๐ ตวั /ปี จำหนา่ ย ๑,๕๐๐ ลกู หมูหย่านม อาย ุ ๑ เดอื น ๖๑,๕๐๐ ราคาตัวละ ๑,๐๐๐ บาท ๓๗,๕๐๐ - มลู สกุ รสามารถขายไดเ้ ฉลยี่ ปีละ ๑,๕๐๐ บาท/ป ี รวมรายได้ กำไรจากการจำหนา่ ยลกู สุกรอาย ุ ๑ เดือน และมูลสกุ ร ๒๐ ๑๙ ผลสำเรจ็ ท่ีโดดเด่นของศนู ย์ศึกษาการพฒั นาภพู านอันเนื่องมาจากพระราชดำริ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook