Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พยานาค

พยานาค

Published by วิชัย มั่นแก้ว, 2022-06-15 04:29:09

Description: พยานาค

Search

Read the Text Version

ภาคที่ 1 ต�ำนานพญานาค

10 ตำ� นานพญานาค และคำ� ชะโนด ปากทางสูเ่ มืองบาดาล ตำ� นานพญานาคทจ่ี ะกลา่ วถงึ นี้ นบั เปน็ ความเชอื่ ของผคู้ น ในแถบทวปี เอเชยี โดยเฉพาะอินเดีย กมั พชู า และไทยนนั้ ถือว่า ลกึ ซง้ึ จนเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ในชวี ติ ประจ�ำวนั ไม่ว่าจะเป็น ด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี โดยท่ีชาวจีนนับถือ พญานาคในรปู ของ “มังกร” พญานาคคืองูใหญ่มีหงอน มีพิษร้ายแรง นับว่าเป็นเทพ มีฤทธิ์มีเดช จะบันดาลให้ตนเองอยู่ในรปู ร่างอะไรก็ได้ พญานาคมหี ลายเผา่ พงศ์ เชน่ ตระกลู วริ ปู กั ษ์ กายสที องคำ� , ตระกูลเอราปัถ กายสีเขียว, ตระกูลฉัพพยาปุตตะ กายสีรุ้ง, ตระกลู กัณหาโคตมะ กายสดี �ำ พระอริยสงฆ์ยามเมื่อออกธุดงค์กลางป่าเขาเถื่อนถ้�ำ ล้วน เคยเผชิญกับพญานาค หลวงป่มู ่ัน ภูริทตฺโต ท่านเคยเผชิญกับ พญานาคในทต่ี ่างๆ ท่านบอกว่าพญานาคเป็นเทพ ชอบฟังเทศน์ ฟังธรรม ยามคำ่� คนื ท่านเคยเทศน์ให้เหล่าพญานาคฟัง พวกเขา จะมาในรปู ของมนษุ ยช์ าย-หญงิ เมอ่ื ฟงั เทศนฟ์ งั ธรรมแลว้ มคี วาม สงสัย พวกเขาจะสอบถามจนเข้าใจ เพราะพญานาคฝักใฝ่ใน ธรรมะเพื่อสะสมบุญ พวกเขาอยากเกิดเป็นมนุษย์ เพราะถือว่า เกดิ เป็นมนุษย์น้ันง่ายต่อการสะสมบุญบารมีเป็นอย่างมาก พระอริยสงฆ์อย่างหลวงป่มู ่ัน ภูริทตฺโต ท่านว่าการได้เกิด

โชติ ศรสี ุวรรณ ดร. เกริก ทว่ มกลาง 11 หลวงป่มู นั่ ภูริทตฺโต เปน็ มนษุ ยน์ น้ั นบั วา่ ประเสรฐิ ยง่ิ ไมค่ วร จะเพิกเฉยต่อการท�ำความดีให้มากๆ ควรสะสมบุญให้ตวั เอง ด้วยบุญบารมี คือสิ่งที่บ่งช้ีให้มนุษย์ได้พบภพภูมิท่ีดี กว่า เพราะธรรมะเป็นแนวทางให้พ้น ทุกข์ บารมีแห่งบุญจะท�ำให้มนุษย์ที่ ยังไม่หลุดพ้นจากกิเลสได้จุติในภพภูมิ ที่ดี คือเกิดในตระกูลดี ฐานะร่�ำรวย และเป็นคนดี มีสุขภาพแข็งแรง รปู ร่าง หน้าตาสะสวย หล่อเหลา มีน้�ำเสียง ไพเราะ ไมเ่ กดิ มารบั กรรม เปน็ คนพกิ ล พิการ ไม่เกิดมาอมโรคอย่างทุกข์ ทรมาน ท่ีเรียกว่า “เกิดมาใช้กรรมใช้ เวร” หลวงป่มู ่นั ภูรทิ ตโฺ ต ท่านจารกิ ธุดงค์ท่ีถ้�ำเชียงดาว ท่านได้ปักกลด ใกล้ๆ ปากถ้�ำ ตรงปากถ้�ำมีหินขนาด ใหญ่ก้อนหนึง่ มีลานกว้าง จึงได้อาศัย ลานหินน้ันน่ังสมาธิ ท่านว่าที่ถ�้ำนั้นมี

12 ตำ� นานพญานาค และค�ำชะโนด ปากทางสู่เมอื งบาดาล พญานาคตนหน่ึงรักษาถ้�ำอยู่มาเป็น เวลานาน เป็นพญานาคมจิ ฉาทิฐิ หวง ทอ่ี ยู่ ครนั้ เหน็ หลวงปมู่ นั่ ปกั กลดบำ� เพญ็ สมาธิที่น่ัน พญานาคตนนี้แสดงนิสัย ก้าวร้าว ด้วยการแสดงความไม่พอใจ โดยกล่าววาจาติเตยี น เช่น เวลาคำ่� คนื ทา่ นใสร่ องเทา้ เดนิ จงกรมมเี สยี งดงั บา้ ง พญานาคก็จะกล่าวติเตียนว่า สมณะ อะไรเดินจงกรมเสียงดังราวกับเสียงวิ่ง ของม้าแข่ง ช่างไม่รู้จักส�ำรวมเสียบ้าง เลย เสียงรองเท้ากระทบหินสะเทือน ทั้งภูเขา ไม่คิดว่าใครจะร�ำคาญบ้าง ท้ังๆ ที่ท่านเดินอย่างส�ำรวมและแผ่ว เบา ครั้นท่านทราบว่าพญานาคกล่าว โทษ ท่านก็ยิง่ เดินเบาๆ อย่างส�ำรวม ก็ ยังถูกพญานาคผู้มีมิจฉาทิฐิกล่าวโทษ ว่าสมณะอะไรเดินจงกรมราวกับจะ ด้อมยิงนก หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านว่า

โชติ ศรีสุวรรณ ดร. เกรกิ ท่วมกลาง 13 พญานาคมที ัง้ พวกมจิ ฉาทิฐิและพวกสมั มาทฐิ ิ สำ� หรับพญานาค ตนน้ีในใจของเขาล้วนมีมจิ ฉาทฐิ ิ ขโ้ี มโห เขาจะคอยจดจ้องมอง ท่านตลอดเวลา แม้ยามจำ� วดั นอนกรน พญานาคตนนก้ี จ็ ะกล่าว ต�ำหนิท่านว่า สมณะอะไรนอนกรนเหมอื นเสยี งรถไฟจะออกจาก สถานี เวลาท่านแผ่เมตตา พญานาคนิสัยพาลไม่ยอมรับส่วนบุญ หลวงป่มู ัน่ ท่านก็เมตตาสงสารพญานาคตนนี้ กลวั พญานาคจะมี บาปกรรมหนักไปกว่าน้ี เพราะเขาไม่ยอมรับเหตุผลอรรถธรรม ข้อใด ตัง้ ใจแต่จะกล่าวโทษอยู่ท่าเดียว ท่านจงึ บอกกบั พญานาค ตนนี้ว่า เรามิได้ปรารถนาจะมายึดเอาที่น่ีเป็นท่ีอาศัย เพียงมา บ�ำเพญ็ สมณธรรมหาความสงบเท่านน้ั ท่านมาบำ� เพ็ญประโยชน์ ตนและผอู้ น่ื เทา่ นน้ั ผลบญุ ทอ่ี าตมาบำ� เพญ็ กจ็ ะเผอื่ แผต่ อ่ สตั วโ์ ลก ท่วั ไป แม้แต่ตวั ท่านเอง หลวงป่มู ่ัน ภูริทตฺโต ท่านเทศน์อบรมพญานาคผู้มีจิต มจิ ฉาทิฐิว่า หากท่านยังหวงั ความสงบสขุ ความเจริญ ท่านก็ควร ส�ำนึกในความผิดถูกช่ัวดีของตนบ้าง จะเอานรกมาเผาใจตนเอง ท�ำไม การต�ำหนติ เิ ตยี นผู้อื่น แม้เขาจะผิดจริง กย็ งั เป็นส่งิ ก่อกวน จิตใจของท่านให้มัวหมอง อาตมายังมีลมหายใจ ย่อมมีการ เคล่ือนไหว ยามนอนก็ต้องหายใจ ไม่ใช่ความผิดที่ท่านจะคอย จอ้ งต�ำหนิ ท่านนห่ี ากเป็นมนษุ ยใ์ นโลก ก็จะอย่กู ับผ้อู นื่ อยา่ งยาก

14 ตำ� นานพญานาค และค�ำชะโนด ปากทางสเู่ มอื งบาดาล ลำ� บาก เพราะเอาเรอื่ งเลก็ ๆ น้อยๆ ของผู้อน่ื มาเป็นอารมณ์ของ ตน การกลา่ วโทษผอู้ นื่ รำ�่ ไป กน็ บั เปน็ การสรา้ งบาปกรรมใหต้ นเอง ไม่สิน้ สดุ พญานาคมจิ ฉาทิฐิครน้ั ได้ฟังธรรมะชแี้ จงจากหลวงป่มู นั่ ก็ ค่อนข้างจะส�ำนึกผิด รับปากกับหลวงปู่ว่าจะพยายามแก้ไข ปรับปรุงตัวเอง และทำ� ตามที่ท่านช้แี นะ หลังจากนั้นหลวงป่มู ่นั ก็ ท�ำความเพียรท่ีถ้�ำแห่งนั้นต่อไประยะหน่ึง ท่านสังเกตเห็นว่า พญานาคตนนนั้ กป็ รบั นสิ ยั ลงบา้ ง แตด่ เู หมอื นเปน็ ไปอยา่ งลำ� บาก ท่านเห็นว่าหากบ�ำเพ็ญเพียรอยู่ที่น่ีไปนานวัน ดูเหมือนจะสร้าง ความลำ� บากใจแกพ่ ญานาคมากยง่ิ ขนึ้ ทา่ นเลยออกอบุ ายเอย่ ลา พญานาคตนน้นั เพ่ือเดินทางจาริกธุดงค์ไปท่อี นื่ ต่อไป

1 พญานาค พญานาค หรอื นาค (Naga) มีมาต้ังแต่เม่ือไรไม่ทราบได้ พบว่าคน ทน่ี บั ถอื ศาสนาพทุ ธ ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดู มคี วามเชื่อความศรัทธาในพญา- นาคมาช้านาน พญานาค ได้เข้ามา เก่ียวพันกับวิถีชีวิตอย่างแยกไม่ออก และมักแสดงออกในเรื่องความเชื่อ ค ว า ม ศ รั ท ธา ใ น พิ ธี ก ร ร ม ลั ก ษ ณ ะ เร่ืองเล่า ภาพวาด ประตมิ ากรรม ตาม ศาลา โบสถ์ วหิ าร สถานที่สำ� คญั ทาง พุทธศาสนา และเทวสถานในศาสนา

16 ต�ำนานพญานาค และคำ� ชะโนด ปากทางสเู่ มืองบาดาล พราหมณ์-ฮินดูก็มีพญานาคเข้ามา เกีย่ วข้องอย่างมาก เพราะไปท่ไี หนก็มี สญั ลกั ษณท์ แี่ สดงออกตอ่ พญานาคใน สถานทต่ี ่างๆ มากมาย ต�ำนานเรื่องพญานาคมีความ เกา่ แกม่ าก มตี น้ กำ� เนดิ มาจากประเทศ อนิ เดยี ดว้ ยความทอี่ นิ เดยี เปน็ ประเทศ ทม่ี พี น้ื ทก่ี วา้ งใหญ่ มภี มู ปิ ระเทศเปน็ ปา่ ภูเขา จึงทำ� ให้มีงูอยู่อย่างชุกชุม และ ลกั ษณะทางกายภาพของงนู น้ั คอื มพี ษิ ร้ายแรง จึงเป็นสัตว์ที่มนุษย์ให้การ นบั ถอื ว่ามอี ำ� นาจ ชาวอนิ เดยี จงึ นบั ถอื งูเป็นสัตว์เทวะชนิดหนึ่งในเทพนิยาย เรื่องเล่าถึงพญานาค โดยเฉพาะใน มหากาพย์มหาภารตะ นาคถือเป็น ปรปักษ์ของครุฑ ส่วนในต�ำนานพุทธ ประวัติก็เล่าถึงพญานาคไว้หลายคร้ัง ด้วยกัน และต�ำนานพื้นบ้านก็เล่าถึง พญานาคไวม้ ากมาย บา้ งกว็ า่ เปน็ สตั ว์

โชติ ศรีสวุ รรณ ดร. เกรกิ ทว่ มกลาง 17

18 ตำ� นานพญานาค และคำ� ชะโนด ปากทางสู่เมอื งบาดาล

โชติ ศรีสวุ รรณ ดร. เกริก ท่วมกลาง 19 ในป่าหมิ พานต์ มีความเชื่อเร่ืองพญานาคแพร่ หลายในภูมิภาคต่างๆ ทั่วทวีปเอเชีย และการนบั ถอื พญานาคหรอื นาค เป็น ความเชื่อความศรัทธาของคนในภูมิ- ภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ เกีย่ วกับ อิทธิฤทธ์ิปาฏิหาริย์ของพญานาคท่ี บันดาลให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ให้ ลาภยศ เกยี รตยิ ศชอ่ื เสยี ง ความรำ่� รวย หรือให้เกิดทุกข์เกิดความเจ็บป่วยหรือ ภยั พบิ ตั ไิ ดห้ ากกระทำ� ไมด่ ตี อ่ พญานาค ดังน้ันพญานาคจึงเข้ามามีอิทธิพลต่อ ความเชื่อความศรัทธาเป็นอย่างมาก ของคนในทวีปเอเชีย จากอดีตจนถึง ปัจจุบัน จะเหน็ ได้ว่า วดั วหิ าร โบสถ์ หรือสถานท่ีส�ำคัญทางศาสนา หรือ สถานที่ก่อสร้างต่างๆ ก็จะมีรูปปั้น หรือภาพวาดพญานาคอยู่ในทุกที่ แม้ แต่ทางพุทธศาสนาก็มีเร่ืองราวของ

20 ต�ำนานพญานาค และคำ� ชะโนด ปากทางสเู่ มอื งบาดาล พญานาคเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย จนมีความเชื่อว่าพญานาคมี อยู่จริง สามารถพบเหน็ ได้ เพราะมีข่าวการพบเหน็ พญานาคอยู่ เสมอ โดยเฉพาะในลุ่มแม่นำ้� โขง ซึง่ เช่อื ว่าเป็นทอ่ี ยู่ของพญานาค มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหลายอย่างจนก่อให้เกิดความน่า เช่อื ถือท่สี อดคล้องกบั การมพี ญานาค ว่าเป็นงขู นาดใหญ่มีหงอน เป็นสัญลักษณ์แห่งความย่ิงใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมี วาสนา อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสู่บาดาลหรือประตูสู่ จักรวาลอกี ด้วย

2 ก�ำเนดิ ของพญานาค พญานาคมมี ากมายหลายเผา่ พนั ธ์ุ การกำ� เนดิ ของพญานาคกม็ หี ลายลกั ษณะ โดยเฉพาะการค้นคว้า ตามแนวทางพระพุทธศาสนา สามารถแบ่งพญานาค ตามการก�ำเนดิ ได้เป็น 4 ประเภทคอื 1. ก�ำเนิดแบบโอปปาติกะ คือก�ำเนิดโดยผุด ขึ้นเป็นตัวทันที โดยฉับพลันสมบูรณ์ทันที โดยไม่ต้อง อาศยั พ่อแม่ โตดัง่ กบั คนอายุ 16 - 17 ปี เป็นการกำ� เนดิ ขน้ึ จากบญุ บารมี มลี กั ษณะกำ� เนดิ เหมอื นเทวดา พรหม เปรต หรอื สตั วน์ รกทง้ั ปวง หากเปน็ สตั วท์ จ่ี ะไปเกดิ เป็น เทวดา เมื่อตายแล้วไปเกิดเป็นเทวดาโดยผุดขึ้นทันที

22 ต�ำนานพญานาค และค�ำชะโนด ปากทางสเู่ มอื งบาดาล โดยฉับพลัน ไม่ต้องรอเหมือนอยู่ใน ครรภ์แล้วค่อยๆ โตข้นึ ก�ำเนดิ ตามแรง บุญบารมีที่ได้ส่ังสมมาในสวรรค์ชั้น ต่างๆ พญานาคที่ก�ำเนิดในลักษณะ นี้จะมีอิทธิฤทธิ์มากกว่าพญานาคท่ี ก�ำเนดิ ในลักษณะอ่นื ๆ จดั อยู่ในพญา- นาคช้ันสูงในชั้นปกครองหรือต�ำแหน่ง องคน์ าคาธบิ ดี จะมบี ารมมี าก มบี รวิ าร คอยรับใช้ 2. ก�ำเนิดแบบสังเสทชะ คือ ก�ำเนิดในเหง่ือไคลหรือท่ีช้ืนแฉะ สิ่ง สกปรกในน�้ำสกปรกท่ีหมักหมม ใน เปลือกในตม ก�ำเนิดโดยไม่อาศัยฟอง หรือครรภ์มารดา แต่อาศัยเกิดจาก ต้นไม้ ผลไม้ ดอกไม้ ของโสโครก ทช่ี ุ่ม ชืน้ เชื้อรา นาคทก่ี �ำเนิดแบบสังเสทชะ จะมีลักษณะเป็นก่ึงเดรัจฉานกึ่งทิพย์ เมื่ออยู่ในบาดาล สามารถแปลงกาย

โชติ ศรสี ุวรรณ ดร. เกรกิ ทว่ มกลาง 23 เปน็ มนษุ ยไ์ ด้ ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ บรวิ ารรบั ใชอ้ ยใู่ นวมิ าน ณ ภพบาดาล ของพวกโอปปาติกะ 3. ก�ำเนดิ แบบชลาพุชะ คอื กำ� เนดิ จากครรภ์ของมารดา เปน็ ผใู้ หก้ ำ� เนดิ อยา่ งสตั วเ์ ลย้ี งลกู ดว้ ยนม นาคทก่ี ำ� เนดิ ในลกั ษณะ น้ีจะมีอิทธิฤทธ์ิปาฏิหาริย์มากน้อยตามบุญกรรมที่ได้สั่งสมมา อยู่ในช้ันปกครอง รักษาศีลก็มี ไม่รักษาศีลก็มี แตกต่างกันไป จะเป็นพญางหู รอื งเู ทพเจ้าเสียส่วนใหญ่ 4. ก�ำเนิดแบบอัณฑชะ คือก�ำเนิดจากฟองไข่ เหมือนงู ท่ัวไป ไข่ออกมาสักระยะหนึ่งจึงฟักเป็นตัว นาคประเภทน้ีมีพิษ ร้ายกาจ แต่ส่วนใหญ่เป็นงูชนั้ ล่าง เช่น งูเห่า งจู งอาง กล่าวโดยรวมแล้ว พญานาคกำ� เนดิ ท้ังบนบกและในนำ้� ใน ไตรภูมพิ ระร่วง ได้กล่าวถงึ การก�ำเนิดและการกลายร่างของนาค ว่า นาคทเี่ กดิ บนบกเรียกว่า “ถลชะพญานาค” และพญานาคท่ี เกิดในน้�ำเรียกว่า “ชลชะพญานาค” พญานาคส่วนใหญ่มีฤทธิ์ มาก สามารถแปลงกายเป็นคน เป็นสตั ว์ แปลงเป็นคนคนเดียว หรอื หลายคนก็ได้ หรอื แปลงเป็นสัตว์ตวั เดยี ว หรอื สัตว์หลายตัว ก็ได้เช่นกนั ซง่ึ พญานาคทเ่ี กิดบนบกจะแปลงกายหรือเนรมติ กาย

24 ตำ� นานพญานาค และคำ� ชะโนด ปากทางสู่เมืองบาดาล ใหเ้ ปน็ ไดต้ ามใจตอ้ งการไดเ้ ฉพาะบนบก พวกทเ่ี กดิ ในน้�ำจะแปลง กายเนรมติ กายใหเ้ ปน็ ไดต้ ามใจตอ้ งการไดเ้ ฉพาะในนำ้� พญานาค จะมจี ำ� นวนมาก บ้างว่ามี 512 ชนดิ บ้างว่ามี 256 ชนิด บ้างว่ามี 1,024 ชนิด ในแต่ละชนิดยังมีการด�ำรงอยู่ท่ีเกี่ยวข้องกับการ เสพกามอยู่มาก จงึ แบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 2 ประเภทคอื 1. กามรปู ี พญานาคท่เี สวยกามคณุ ซึง่ มเี ป็นจ�ำนวนมาก เปน็ ทง้ั สมั มาทฐิ แิ ละมจิ ฉาทฐิ ิ แตส่ ว่ นใหญเ่ ปน็ นาคพวกดอ้ื รน้ั มกั โกรธง่าย เกิดความไม่พอใจได้ง่าย เป็นพวกหวงแหนอาณาเขต อันเป็นทีอ่ ยู่ของตนเอง 2. อกามรูปี พญานาคท่ีไม่เสวยกามคุณ มีอยู่ส่วนน้อย เป็นพญานาคช้ันปกครอง เป็นบริวารของเหล่าเทวดา เป็นพวก สัมมาทิฐิ มีศีลธรรม อภิบาลคนดีที่มีศีลธรรม ปกป้องพระพุทธ ศาสนา

3 ตระกลู ของพญานาค พญานาค ราชาแห่งงู มีลักษณะเป็นงูใหญ่ มหี งอนสีทอง ดวงตาสแี ดง เกลด็ เหมือนปลา มหี ลาย สแี ตกตา่ งกนั ตามเผา่ พนั ธ์ุ ประกอบดว้ ย สเี ขยี ว, สแี ดง, สดี ำ� หรือมเี จด็ สีเหมือนรุ้งกินน้�ำ พญานาคจะมีหัวหรือเศียรต่างกันออกไปตาม ตระกลู พญานาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดยี ว พญา- นาคท่ีตระกูลสูงขึ้นจะมีสามเศียร, ห้าเศียร, เจ็ดเศียร หรอื เกา้ เศยี ร เชอ่ื ว่าพญานาคพวกนสี้ บื เชอ้ื สายมาจาก พญาเศษนาคราช หรอื อนนั ตนาคราช พญานาคจดั เปน็ สตั ว์ที่ถูกกล่าวถึงในวรรณคดี ไม่สามารถบรรลธุ รรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

26 ต�ำนานพญานาค และคำ� ชะโนด ปากทางสู่เมอื งบาดาล พญานาคแบ่งออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ๆ คือ 1. ตระกลู วริ ปู กั ษ์ พญานาคตระกลู สที อง เปน็ พวกทมี่ บี ญุ วาสนา มฤี ทธานภุ าพมาก เสมอื นเทวดาองคห์ นงึ่ มวี มิ านเปน็ ของ ตนเอง และมบี ริวารมากมาย 2. ตระกูลเอราปัถ พญานาคตระกลู สเี ขียว เป็นพวกที่มี บุญวาสนา มีฤทธานุภาพรองลงมาจากตระกูลวิรูปักษ์ มีท่ีอยู่ สขุ สบาย และบางตนมบี รวิ ารคอยรับใช้ บางตนก็ไม่มี 3. ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง มีเจ็ดสี ในตวั เปน็ พวกทมี่ บี ญุ วาสนา มฤี ทธานภุ าพรองลงมาจากตระกลู วิรูปักษ์และตระกลู เอราปัถ มีอทิ ธฤิ ทธิพ์ อสมควร มีท่ีอยู่ตามบญุ ตามกรรมท่สี ั่งสมมา 4. ตระกูลกณั หาโคตมะ พญานาคตระกลู สดี ำ� ส่วนใหญ่ อยู่เป็นสังคม เว้นแต่บางตนต้องรบั หน้าที่เฝ้าสมบตั ิในทีต่ ่างๆ มี อิทธิฤทธ์ิตามบญุ ตามกรรมของตน

4 สาเหตุของการกลายรา่ ง เป็นพญานาค พญานาคจะมีอิทธิฤทธ์ิมาก สามารถเนรมิต กายให้เป็นมนุษย์ได้ตามใจต้องการ แต่ต้องข้ึนอยู่กับ การก�ำเนดิ และบญุ กรรมท่สี งั่ สมมา เชอ่ื ว่าพญานาคที่ กำ� เนดิ แบบโอปปาตกิ ะสามารถแปลงกายไดท้ งั้ ขณะอยู่ บนบกและอยใู่ นนำ้� พญานาคทกี่ ำ� เนดิ แบบสงั เสทชะซง่ึ เกดิ ในเมอื งบาดาล แปลงกายไดเ้ ฉพาะขณะอยใู่ นเมอื ง บาดาล ถ้าหากออกพ้นเมืองบาดาลก็จะกลายร่างเป็น นาคเหมือนเดิม พญานาคพวกที่ก�ำเนิดแบบชลาพุชะ และอณั ฑชะล้วนแปลงกายไม่ได้ เพราะบุญน้อย ฤทธ์ิ กน็ อ้ ยตาม จงึ อยใู่ นสภาวะของงตู ลอดไป พญานาคแม้ จะแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่จะกลบั ร่างเป็นพญานาค

28 ต�ำนานพญานาค และคำ� ชะโนด ปากทางสูเ่ มอื งบาดาล โดยสาเหตุ 5 ประการ ซง่ึ จะต้องคงร่าง ของพญานาคไว้เสมอ 1. ขณะปฏสิ นธิ เมอื่ แรกเกดิ มา ไม่ว่าจะก�ำเนิดในลักษณะใดก็ตาม จะต้องมีรูปร่างลักษณะร่างกายเป็น พญานาคตามภพภูมิแรกเกิดของตน เสมอ 2. ขณะก�ำลังลอกคราบ คือ การสลัดคราบเก่าเหมือนงูทั่วไป เม่ือ มีขนาดใหญ่ข้ึนจะลอกคราบท้ิง ตาม ธรรมชาติของพญานาคก็เช่นกัน ที่จะ ตอ้ งลอกคราบและตอ้ งอย่ใู นร่างพญา- นาคตามเดิมเสมอ 3. ขณะเสพเมถุน หรอื ขณะมี เพศสัมพันธ์กับพญานาคด้วยกัน เมอื่ จติ ปฏพิ ทั ธเ์ สพกามคณุ อยู่ สตยิ อ่ ม

โชติ ศรสี วุ รรณ ดร. เกริก ท่วมกลาง 29 เคลมิ้ ไปกบั อาการความตอ้ งการทางเพศ รา่ งกายกต็ อ้ งกลายเปน็ พญานาคเสมอ เพราะอยใู่ นชว่ งเสพกามอยู่ เปน็ ไปตามธรรมชาติ ของการสืบพนั ธ์ุของสตั ว์เดรจั ฉาน 4. ขณะนอนหลบั แมว้ า่ พญานาคจะมอี ทิ ธฤิ ทธแ์ิ ปลงกาย เป็นมนุษย์ได้ แต่เม่ือหลับใหลไม่สามารถครองสติไว้ได้ ร่างจะ ต้องกลายเป็นนาค มีเรื่องเล่าว่าพญานาคแปลงกายมาบวชใน พระพุทธศาสนา เมอ่ื หลบั ก็กลายร่างเป็นพญานาค หรือในละคร เรอื่ ง นาคี ทคี่ ำ� แกว้ นอนหลบั แลว้ กลายรา่ งเปน็ งเู ผอื กหรอื พญานาค ในอ้อมกอดของทศพล 5. เมื่อตาย เป็นธรรมชาตขิ องสัตว์ เม่ือตายแล้วสังขารน้ัน ยอ่ มไมม่ จี ติ ครอบครองอยู่ จติ ยอ่ มเวยี นวา่ ยตายเกดิ ไปตามกรรม พญานาคเมอื่ ตายกย็ ่อมทิ้งร่างให้อยู่ในสภาพเดิมแห่งการก�ำเนดิ เพราะไมม่ สี ตหิ รอื ดวงจติ ในรา่ งนน้ั แลว้ กจ็ ะกลบั รา่ งเปน็ พญานาค เสมอ

5 หนา้ ที่ของพญานาค พญานาคทง้ั 4 สีประกอบด้วย ตระกูลสีทอง สเี ขยี ว สรี งุ้ และสดี ำ� ซง่ึ มฤี ทธานภุ าพตา่ งกนั ตามลำ� ดบั ช้ันและตามบุญตามกรรมที่ได้ส่ังสมมา จะมีการแบ่ง หนา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบแตกตา่ งกนั ออกไป ซง่ึ เปน็ การแบง่ ตาม ล�ำดับช้ันในการท�ำหน้าที่ไว้เป็น 4 พวก คอื 1. นาคสวรรค์ มหี นา้ ทเ่ี ฝา้ วมิ านเทพ เปน็ บรวิ าร ของเทวดา จะเป็นนาคในตระกูลวิรูปักษ์ พญานาค ตระกลู สที อง เปน็ พวกทม่ี บี ญุ วาสนา มฤี ทธานภุ าพมาก เสมือนเทวดา และนาคในตระกูลเอราปัถ พญานาค ตระกลู สเี ขียว เป็นพวกทมี่ ีบุญวาสนา มีฤทธานุภาพ

โชติ ศรสี วุ รรณ ดร. เกริก ท่วมกลาง 31 2. นาคกลางหาว มหี น้าท่ีควบคุมดูแลธรรมชาติ ให้ลมให้ ฝนตกต้องตามฤดูกาล เป็นนาคในตระกูลเอราปัถ พญานาค ตระกูลสีเขียว เป็นพวกท่ีมีบุญวาสนาฤทธานุภาพ และนาคใน ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง มีเจ็ดสีในตัว เป็น พวกท่มี บี ุญวาสนา มีฤทธานุภาพ 3. นาคโลกบาล มหี น้าท่ีรกั ษาแม่นำ้� ล�ำธารและทะเล เป็น นาคในตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง และนาคใน ตระกลู กัณหาโคตมะ พญานาคตระกลู สดี �ำ 4. นาครักษาขมุ ทรัพย์ มีหน้าท่ีรกั ษาสมบัติในทีต่ ่างๆ ใน ถ�้ำ ในดิน ของเก่าแก่ต่างๆ เป็นนาคในตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสดี ำ�

โชติ ศรีสวุ รรณ ดร. เกรกิ ทว่ มกลาง 113 ภาคท่ี 2 ค�ำชะโนด ปากทางสบู่ าดาล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook