Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore dailyengmatayomton

dailyengmatayomton

Published by Prasong Sukjaem, 2021-02-14 00:44:55

Description: dailyengmatayomton

Search

Read the Text Version

1

2 สรุปเน้อื หาหนงั สอื เรียน กศน. รายวิชาภาษาองั กฤษในชีวิตประจาํ วัน ( English in Daily Life ) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน รหสั พต 21001 หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สํานักงานสง เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สาํ นักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิการ

3

4 สารบญั คํานํา หนา คําแนะนําการใชห นงั สอื เรยี น บทท่ี 1 การใชภ าษาในการสือ่ สารความหมายในชวี ิตประจําวนั 1 (Language in Daily Life) 1 เร่ืองท่ี 1 การทกั ทายและการกลา วลา (Greeting and Leave Taking) 2 เรื่องที่ 2 การแนะนาํ ตนเองและผูอ่ืน (Introducing Yourself and Others) 3 เรอ่ื งที่ 3 การใหแ ละการสอบถามขอ มลู สว นตัว (Sharing Personal Data) 4 เรื่องที่ 4 การใชภาษากาย (Body Language) 7 เรื่องท่ี 5 การพดู โทรศพั ท (Telephone Conversation) 9 บทที่ 2 คณุ รูสกึ อยา งไร (How do you feel?) 14 บทท่ี 3 การแสดงความรูสกึ ตางๆ (Expression of feeling) 14 เรอื่ งที่ 1 พอใจ/ไมพ อใจ (That’s great/That’s bad) 14 เรอื่ งท่ี 2 สนใจ/ไมสนใจ (Interested/Disinterested) 15 เรอื่ งที่ 3 ใหกําลงั ใจ/เห็นใจ/ปลอบใจ (Don’t worry./Relax) 17 เรอ่ื งท่ี 4 ดีใจ/เสยี ใจ (Happened/Sorry) 19 บทท่ี 4 การพดู แสดงความคดิ รปู แบบตางๆ (Expression of opinion) 19 เรอื่ งที่ 1 การแสดงความคิดเห็น (Agreement/Disagreement) 20 เรือ่ งท่ี 2 การแสดงความตอ งการและตอบรบั (Need/Want ) 21 เรอื่ งท่ี 3 การแสดงความชว ยเหลือและบริการผอู นื่ รวมทั้งตอบรบั 22 เรอ่ื งที่ 4 การกลาวขอบคุณและตอบรับ (Thank you) 22 เรอ่ื งที่ 5 การพูดขออนุญาตและตอบรบั (May I come in ?) 23 เรือ่ งท่ี 6 การพดู ขอโทษและตอบรับ (Sorry / Don’t worry) 24 เรื่องท่ี 7 การพูดแทรกอยางสุภาพ (Excuse me)

บทที่ 5 รูปแบบประโยคในภาษาองั กฤษ (Types of English Sentence) 5 เรอื่ งที่ 1 ประโยคบอกเลา เรื่องที่ 2 ประโยคคาํ ถาม หนา เรอื่ งท่ี 3 ประโยคปฏเิ สธ เรือ่ งที่ 4 ประโยคคําสั่ง 25 เรอ่ื งที่ 5 ประโยคอทุ าน 25 25 บทท่ี 6 ประโยคความรวม (Compound Sentence) 26 เร่อื งท่ี 1 สวนประกอบของ Compound Sentence 26 เรอ่ื งท่ี 2 ประโยค 2 ประโยคมารวมกนั ดวยคําเช่อื มที่เหมาะสม 26 เร่อื งที่ 3 การเช่ือมประโยคใหเปน Compound Sentence 27 บทท่ี 7 อดตี กาล ( Past Tense) 27 เรื่องที่ 1 Past Simple Tense 27 เรื่องท่ี 2 Past Continuous Tense 27 บทที่ 8 ภาษาองั กฤษสาํ หรับอาชีพพนกั งานขบั รถรับจาง 28 เรอ่ื งท่ี 1 การพดู ภาษาองั กฤษตามมารยาทสงั คม 28 และเหมาะสมกบั สถานการณ 28 เร่อื งท่ี 2 การพดู แสดงความรูสึก และแสดงความคิดเห็น เรอ่ื งที่ 3 การพูดแสดงความชว ยเหลอื 29 เรอื่ งท่ี 4 การขออนญุ าต เรอ่ื งท่ี 5 การพดู แทรกอยา งสุภาพ 29 29 30 30 30

บทที่ 9 ภาษาองั กฤษสําหรบั พนักงานบริการในสถานท่ีตา ง ๆ 6 เรื่องที่ 1 การกลา วตอนรบั ลกู คาของพนักงานบรกิ ารประเภทตา ง ๆ เรอื่ งท่ี 2 ประโยคการใหบริการความชว ยเหลอื และบรกิ าร หนา บรรณานกุ รม 32 คณะผูจัดทํา 32 34 37 38

7 คําแนะนําการใชหนังสอื เรียน หนังสือเรียนสรุปเนื้อหา รายวิชาแบบเรียน กศน. หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เปนหนังสือสรุปเน้ือหาท่ีจัดทําข้ึน เพื่อใหผูเรียนท่ีเปน นักศึกษา กศน. สามารถทําความเขาใจ และเรียนรูในสาระสําคัญของเน้ือหารายวิชาสําคัญ ๆ ไดสะดวก และสามารถเขาถึงแกนของเน้ือหาไดด ีขน้ึ ในการศกึ ษาหนงั สอื สรปุ เนื้อหารายวิชา ผูเรยี นควรปฏบิ ัตดิ ังนี้ 1. ศึกษาโครงสรางรายวิชาจากหนังสือใหเขาใจในหัวขอและสาระสําคัญ ผลการเรียนรู ทค่ี าดหวัง และขอบขายเนือ้ หาของรายวิชานัน้ ๆ เขาใจกอ น 2. ศกึ ษารายละเอยี ดเน้อื หาของหนงั สอื สรปุ เนื้อหาหนังสอื เรยี นเลม นี้ โดยศึกษาแตละบท อยา งละเอยี ด ทําแบบฝกหดั หรอื กิจกรรมตามทีก่ ําหนด และทําความเขาใจในเน้ือหาใหมใหเขาใจ กอนท่จี ะศกึ ษาเรื่องตอ ๆ ไป 3. หากตองการศึกษา รายละเอียดเนื้อหาเพ่ิมเติมจากหนังสือสรุปเนื้อหาหนังสือเรียนน้ี ใหผูเรียนศกึ ษาเพิม่ เตมิ จากหนังสอื เรียน หรือครูผูสอนของทาน

1 บทที่ 1 การใชภาษาในการส่อื สารความหมายในชวี ติ ประจาํ วนั (Language in Daily Life) เรอื่ งที่ 1 การทกั ทายและการกลาวลา 1.การทักทาย ( Greeting ) และการกลาวลา ( Leave Taking ) เปน การสนทนาทใ่ี ชใน ชีวติ ประจําวนั ซ่ึงแตกตางกันไปตามกาละเทศะ คือ เวลาและสถานภาพของผพู ดู ดงั ตัวอยางในบทสนทนา ตอ ไปน้ี หากเปนผูสนทิ สนมคนุ เคยกันจะทักทาย โดยใชค าํ วา Hello หรอื Hi สวนผทู ่ีไมค ุนเคยหรอื สถานภาพ ตางกนั มกั ใชคาํ ทักทายตามเวลา เชน -Good morning สวัสดีตอนเชา เวลา 06.00 ถงึ 12.00 น. -Good afternoon เวลา 13.00 น. ถงึ กอนพระอาทิตยต ก -Good evening เวลาหลงั 17.00 น. ขนึ้ ไป หลงั จากกลาวคาํ ทักทายแลว มกั จะถามทกุ ขสขุ ”คณุ สบายดไี หมหรอื เปนอยา งไรบา ง” โดยใชส ํานวนท่วี า -How are you ? -How are you today ? -How are you doing ? -How have you been ? สวน สํานวนทใ่ี ชต อบรับ มักนยิ มใชดังนี้ -Fine, thank you. And how are you ? สบายดี ขอบคณุ แลว คณุ ละ -Nice to see you. หรอื Nice to see you too. ดีใจท่ีไดพ บคณุ หรือ -Glad to see you. หรอื Glad to see you too. ดใี จท่ีไดพ บคุณเชนเดยี วกนั บทสนทนา 1.การทกั ทายสาํ หรับผทู ่คี ุนเคยกัน Sri : Hello , Nid , How are you ? Nid : I’m fine thank you , And you ? Sri : Fine , thank . 2. การทกั ทายสําหรับผูท ่ไี มคุนเคยหรอื ตา งสภาพกัน Miss Kanda : Good morning . Miss Smith. Miss Smith : Good morning . Nice to see you. Miss Kanda : Nice to see you too. กจิ กรรม ฝกสนทนาโตต อบตามบทสนทนาท่ียกใหเปน ตวั อยา งขางตน

2 2.การกลาวลา ( Leave taking ) เมื่อลาจากกันมักใชคําวา ลากอน โดยใชคําวา Goodbye หรือ Bye นอกจากนนั้ ก็มีสาํ นวนกลา วลาซ่ึงใชต ามสถานการณตางๆ เชน - See you. แลว เจอกันใหม - See you later. แลว พบกันใหม - See you soon. แลว พบกันในไมชา น้ี - Good Day. กลา วลาตอนกลางวนั - Good night กลา วลาตอนกลางคืน - See you tomorrow. แลวพบกันวันพรงุ น้ี - See you next year. ไวพ บกันปห นา การลาในกรณที ี่ระบุเวลา - See you Sunday. แลวพบกนั วนั อาทิตย - I’d better be on my way. จาํ เปนจะตองไปแลว กรณีขอลากลบั กอน - I’ll be back. เด๋ยี วฉันจะกลบั มา เพราะมธี รุ ะสาํ คัญ บทสนทนา Pat : Hi, Peter Peter : Hi, Pat. How are you today ? Pat : Very well , we have meeting on Sunday. Peter : Yes. See you on Sunday. pat : Goodbye. See you soon. Peter : Bye. กิจกรรม ฝก สนทนาโตต อบตามบทสนทนาทย่ี กใหเ ปนตัวอยา งขา งตน เรอื่ งท่ี 2 การแนะนาํ ตนเองและผอู ื่น (Introducing Yourself and Others) 1. การแนะนําตนเอง Bob : Hello. My name is Bob. John : Hello. My name is John. How do you do ? Bob : How do you do ? 2. การแนะนําผอู ื่น Suda : Suphit. This is Anne my friend from England. Suphit : How do you do ? Nice to meet you. Anne : How do you do ? Nice to meet you too. กจิ กรรม ฝกสนทนาโตตอบตามบทสนทนาที่ยกใหเ ปน ตวั อยางขา งตน

3 เรอ่ื งที่ 3 การสอบถามขอ มลู สวนตัว บทสนทนาท่ี 1 Suphit : Suda when were you born ? คณุ เกิดเม่อื ไหร Suda : I was born in june , 1990. And you? ฉนั เกดิ เดอื นมถิ นุ ายน ป 1990 แลวเธอละ Suphit : I was born in oct 16 , 1989 . ฉนั เกดิ วันที่ 16 ตุลาคม ป 1989 How tall are you ? And how much do you weigh ? คุณสูงและมีนา้ํ หนกั เทาไหร Suda : I’m 156 centermeters tall and weigh about 60 Kilograms. ฉนั สูง 156 เซนติเมตร และหนัก 60 กิโลกรัม บทสนทนาท่ี 2 Peter : What is your nationality ? คณุ มีสัญชาตอิ ะไร Anne : I’m American. ฉันสญั ชาตอิ เมรกิ ัน Peter : What do you do ? คณุ ทาํ งานอะไร Anne : I’m a docter. ฉนั เปนหมอ Peter : How many persons are there in your family ? ในครอบครัวคุณมกี คี่ น Anne : There are 5 persons in my family. ในครอบครัวของผมมี 5 คน Peter : Do you have any telephone numbers or e-mail address ? คุณมีเบอรโทรศัพทหรอื อเี มลหรือไม Anne : Yes , I do. My telephone number 02-2634224 and my mobile number is 082- 2281958 and my e-mail address……………… ( e-mail address ของแตล ะบคุ คล ) คะ หมายเลขโทรศพั ทข องฉันคอื 02-2634224 และโทรศพั ทมือถือ คือ หมายเลข 082-2281958 และ อเี มล........................ กิจกรรม ใหฝ ก สนทนาโตต อบตามในบทสนทนาที่ 1-2

4 เรอื่ งที่ 4 การใชภาษากาย ( Body Language ) 1)ภาษาทาทางที่ใชใ นโอกาสตา งๆ What time is it? I don't know (เวลาเทา ไหรแลว) (ผมไมทราบ) Wish me luck! (ขอใหฉนั โชคดี) Walk arm - in - arm in public. Show anger. (ควงแขนกัน) (แสดงอาการโกรธ)

5 Show affection in public. Indicate that you don't understand something. (แสดงความรักในท่สี าธารณะ) (แสดงอาการวา ไมเขาใจ) Victory go up (สัญลกั ษณของชยั ชนะ) (เดนิ ขึ้นไป)

ฝวสสาl; 6 Come here Bye – bye ( กวักมอื ) ( โบกมือ ) This way please. ( ผายมือ ) 2)ทา ทางการปฏบิ ัตติ ามวัฒนธรรมเจา ของภาษา Hand Shaking Good – bye hug / kiss ( การจบั มือกัน ) ( การลาดว ยการกอด /จบู ) กจิ กรรม ฝก ทาํ ทา ทางภาษากายดังกลาวขางตน

7 (3) คําศพั ท สาํ นวน ประโยคและทา ทางที่ใชใ นการสอื่ สารในโอกาสตางๆ เชน 1.คําศพั ท สาํ นวน ประโยคทใี่ ชส อื่ สารในโอกาสตางๆ บทสนทนาท่ี 1 Suda : Merry Christmas and many happy returns. ( สุขสันตว ันคริสตม าส ) Peter : Merry Christmas and happy new year. ( สขุ สนั ตวันครสิ ตมาสและสุขสันตว ันปใ หมนี้ ) Suda : Thanks. Peter : Thank you very much. บทสนทนาท่ี 2 John : Happy Valentines. สุขสันตวันวาเล็นไทน Anne : Thanks. The same to you . ขอบคุณ คณุ กเ็ ชนเดียวกนั นอกจากน้ียังมีการใชส าํ นวนในโอกาสอืน่ ๆ เชน - Happy birthday. สขุ สันตว ันเกดิ - Congratulation on your graduation. ขอแสดงความยนิ ดีที่ไดเปนบัณฑิต - Congratulation for your new baby. ขอแสดงความยินดีทม่ี ีลกู คนใหม กิจกรรม ฝก สนทนาโตต อบตามบทสนทนาที่1 และ2 ตลอดจนฝก ออกเสียงสํานวนท่ีใชใ น โอกาสตา งๆ เรอื่ งท่ี 5 การพดู โทรศพั ท ( Telephone Conversation ) 1. การรบั โทรศพั ทอยางงายๆ Peter : Hello. Is Mrs. Brown home ? สวัสดีครับมิสซิสบราวนอยูทบี่ า นหรอื เปลา Pranee : Hello. Who’s calling ? สวสั ดคี ะ ใครกําลงั พดู คะ Peter : I’m Peter . ผมปเ ตอรค รบั Mrs. Brown : Wait a minute , please. กรณุ ารอสักครูคะ 2. การรบั ฝากขอ ความทางโทรศพั ท Mrs. Brown : Hello. May I speak to Mrs. Brook. สวัสดีคะ ดิฉันขอพูดกับมิสซิสบรคุ คะ

8 Suda : Sorry, she’s out. Would you like to leave her a message ? เสยี ใจคะ เธอไมอยู กรณุ าฝากขอความไวใ หเธอไดไหมคะ Mrs. Brown : My name is Mrs. Brown . Please tell her to call me to 02-2225648. ฉนั ชื่อมิสซสิ บราวน กรุณาบอกเธอวาใหโ ทรหาดิฉนั หมายเลข 02-2225648 Suda : Alright , I’ll tell her. คะ ฉันจะบอกเธอ Mrs. Brown : Thanks a lot. Goodbye. ขอบคณุ มาก ลากอ น Suda : You’re welcome. Goodbye. ไมเปนไรคะ ลากอ น กิจกรรม ฝกสนทนาโตต อบตามบทสนทนาท่ี1 และ2

9 บทท่ี 2 คณุ รสู กึ อยางไร (How do you feel?) 1. ความรสู ึกทแี่ สดงความพอใจและไมพ อใจ ตัวอยางเชน  I like beef. ฉันชอบเน้อื  I ldon’t like beef. ฉันชอบเนอื้  I’m dislike beef. ฉันชอบเนอื้  I’m so pleased to hear that. ฉันดีใจมากทีท่ ราบเร่อื งน้ี  I’m so pleased to hear that. ฉนั ผดิ หวังท่เี ห็นเชน นน้ั  I love it. ฉนั ชอบมนั  I enjoy swimming. ฉนั ชอบวายน้ํา นอกจากนยี้ งั มีสาํ นวนท่แี สดงอารมณค วามรสู ึกพอใจไมพ อใจ เชน  That’s greast. (ยอดเย่ยี มจริง)  That’s bad. (แยจริง ๆ)  How wonderful? (วิเศษมาก)  How awful! (แยมาก) กิจกรรม ฝกเขียนและออกเสียงแสดงความรสู ึกทีแ่ สดงความพอใจและไมพอใจในตัวอยาง ท่ยี กมาขางบนนี้ 2. ความรูส ึกทแี่ สดงถึงความสนใจและไมสนใจ ฉันสนใจในการรองเพลง ตวั อยา งเชน ฉนั ไมสนใจในการเตนราํ  I’m interested in singing a song. ฉันไมสนใจในเรอ่ื ง.........  I’m disinterested in dancing. ฉนั ไมม คี วามคิดเห็น/ฉันไมร ูเร่ืองเลย  I don’t care (about/that)………… .  I have no idea.

10 บทสนทนาที่ 1 Picha : Let’s go to exercise at the sport club. เราไปออกกําลังกายทส่ี ปอรต คลบั กับเถอะ Suda : I’m disinterested in exercising. I’m interested in staying at home. ฉนั ไมสนใจในการออกกาํ ลงั กาย ฉันสนใจที่จะอยูบา น Picha : O.K. Bye. ครับ ลากอน Suda : Bye. See you. ลากอ น แลว พบกนั คะ บทสนทนาที่ 2 Suphit : I will buy a new dress. Which color it better? ฉนั จะซอ้ื ชดุ ใหม สีไหนดี Udom : I have no idea. Suda should advise you. ผมไมร เู ร่อื งเลย สุดาควรจะแนะนําคุณได Suphit : That’s a good idea. Thank you. เปนความคิดทดี่ ี ขอบคณุ คะ Udom : You’re welcome. ไมเปนไรครบั กจิ กรรม ฝก สนทนาโตต อบในบทสนทนาท่ี 1-2 3. การใหก าํ ลังใจ / เหน็ ใจ / ปลอบใจ มคี าํ ศัพท สํานวน และประโยคที่แสดงถึงความรูสกึ ดงั นี้ Don’t worry. ไมต องกงั วล Cheer up! สๆู Take it easy. ใจเยน็ ๆ ไว Well done. ทําไดดมี าก You did a good job. ทาํ ไดด มี าก Relax ทาํ ใหส บาย You will be fine. เด๋ยี วก็ดีเอง

11 ตวั อยางในบทสนทนาตอไปน้ี บทสนทนาท่ี 1 Anne : I lost my mobile phone. ฉนั ทําโทรศัพทเสยี Suda : Don’t worry. You should buy the new one or repair it. ไมต อ งกงั วล เธอควรซือ้ ใหมห รือเอาไปซอ ม Anne : Thank you. And have you done your homework yet? ขอบคุณ และคณุ ทาํ การบา นแลวหรอื ยัง Oh! I forgot it. โอ ฉนั ลืมทํา Suda : Take it easy. I can help you. Let’s start right now. ใจเยน็ ๆ ไว ฉันชวยเธอได เรามาทาํ การบานกนั เดี๋ยวน้ีเถอะ You will be fine. เดย๋ี วก็ดีเอง Anne : Thanks a lot. ขอบคุณมาก Suda : O.K. จะ บทสนทนาที่ 2 Suphit : Somsri is the champion. สมศรีเปนผูชนะเลิศ Suda : She did a good job. She is the winner. เธอทําไดด ีมาก เธอคอื ผูชนะ Suphit : Congratulations to our champion. ยนิ ดดี ว ยกับผชู นะเลิศของเรา กิจกรรม ฝกสนทนาโตต อบในบทสนทนาที่ 1-2

12 4. ดีใจและเสยี ใจ มีคาํ ศัพท สํานวน และประโยคท่ีแสดงถงึ ความรูสึก ดงั นี้  Congratulations! ยินดีดว ย  How wonderful! วเิ ศษมาก  Marvelous ! วิเศษจริงๆ  That’s great. ยอดมาก  I’m glad that…… ฉันดีใจที่........  I’m so please….. ฉนั ดีใจมากที่........  I’m glad to hear….. ฉนั ดใี จมากที่ไดทราบวา..............  I’m so sorry. ฉันรสู ึกเสียใจมาก  It’s my sympathy to hear that………… ฉนั รูสึกเหน็ ที่ไดท ราบวา ............  please pass my sympathy to……….. ฝากแสดงความเสยี ใจกบั ........... ตัวอยา งในบทสนทนา ตอ ไปน้ี บทสนทนาท่ี 1 Nid : Congratulations on your success. ขอแสดงความยนิ ดีกบั ความสาํ เรจ็ ของคณุ Wit : I’m so pleased to hear that. ผมดีใจมากท่ีทราบขา ว Nai : Thank you. ขอบคณุ คะ บทสนทนาท่ี 2 Malee : I’m so sorry for being late. ฉันรสู ึกเสียใจทมี่ าชา Suda : Don’t worry. You are still in time. ไมตอ งกงั วล คุณยงั มาทันเวลา Malee : It’s my sympathy to hear that your father passed away. ฉนั รสู ึกเหน็ ใจที่ทราบวา คณุ พอของเธอเสีย I deeply regret. ฉันรสู ึกเสยี ใจมาก

13 Suda : Thank you. ขอบคณุ จะ กจิ กรรม ฝกสนทนาโตต อบในบทสนทนาที่ 1-2

14 บทท่ี 3 การแสดงความรสู ึกตางๆ (Expression of feeling) เรื่องที่ 1 พอใจ/ไมพ อใจ (That’s great/That’s bad) ในการสนทนาโดยทั่วไป เม่ือมีการคุยสอบถามเรื่องตางๆ แลว การแสดงความชอบ ความไมชอบ หรือความพึงพอใจ ความไมพึงพอใจ เปนเร่ืองธรรมดาและสามารถเห็นได โดยทัว่ ไป คาํ ศพั ททใ่ี ชแ สดงอากัปกริยาดังกลาวขางตน จะประกอบดว ยคาํ ตอ ไปนี้ That’s great. ยอดเยี่ยมจรงิ ๆ That is bad. แยจรงิ How wonderful. วิเศษมาก I am so pleased to hear that. ฉันดีใจที่ไดท ราบเรอ่ื งน้ี I am afraid I don’t like it. ฉนั คดิ วาฉันไมชอบ I love it./I like it/I enjoy it ฉนั ชอบมัน I am disappointed to see that. ฉนั ผดิ หวังที่เหน็ เชน นนั้ นอกจากนี้ยังมีสํานวนท่แี สดงอารมณค วามรสู ึกพอใจไมพอใจ เชน That’s great. (ยอดเย่ยี มจริง) That’s bad. (แยจรงิ ๆ) How wonderful? (วิเศษมาก) How awful! (แยม าก) เรือ่ งที่ 2 สนใจ/ไมส นใจ (Interested/Disinterested) โดยทวั่ ไป บคุ คลมกั มคี วามสนใจและไมสนใจแตกตา งกันไป คําศัพทท่ีใชบอกความสนใจ คือ คําวา Interested สวนคําศัพทที่ใชบอกความไมสนใจ คือ Disinterested อาจจะใช สํานวนอ่ืนๆ ไดอีก เชน I’m interested in…/Disinterested in… ฉนั สนใจใน……/ไมสนใจใน……….. I don’t care (about that) ฉันไมใสใจในเรือ่ ง…………………... I have no ideas. ฉนั ไมม ีความคิด/ฉันไมรูเร่ืองเลย etc.

15 บทสนทนาที่ 1 Picha : Let’s go to exercise at the sport club. เราไปออกกาํ ลงั กายทส่ี ปอรตคลบั กนั เถอะ Suda : I’m disinterested in exercising. I’m interested in staying at home. ฉันไมส นใจในการออกกําลงั กาย ฉันสนใจที่จะอยูบาน Picha : O.K. Bye. ครบั ลากอ น Suda : Bye. See you. ลากอน แลว พบกันคะ บทสนทนาที่ 2 : I will buy a new dress. Which color it better? Suphit ฉนั จะซ้อื ชดุ ใหม สีไหนดี ? Udom : I have no idea. Suda should advise you. ผมไมรูเร่ืองเลย สุดาควรจะแนะนาํ คุณได Suphit : That’s a good idea. Thank you. Udom เปนความคดิ ทีด่ ี ขอบคุณคะ : You’re welcome. ไมเปนไรครับ เรอื่ งท่ี 3 ใหก ําลังใจ/เหน็ ใจ/ปลอบใจ (Don’t worry./Relax./Take it easy.) การแสดงการใหกําลังใจ เห็นใจ และปลอบใจ ในเหตุการณ สถานการณตางๆ ที่ เกดิ ขนึ้ ในชีวิตประจําวันเปนส่ิงสําคัญ และจําเปนในการใชชีวิตประจําวันของมนุษย ในสังคมที่ จะตองปฏบิ ตั ติ อกัน ผพู ดู จึงตอ งมคี วามจําเปนตอ งใชคําพูดในการแสดงออกตอผูอ่ืนที่ตองการให กาํ ลังใจ ในการตอสูในการใชช ีวติ ตอ ไป สํานวนท่ีมักนิยมใชในการแสดงการใหกําลังใจ เห็นใจ และปลอบใจ ในโอกาสตางๆ ไดแ ก Don’t worry. ไมต อ งกังวล Cheer up. สู ๆ/ไชโย Take it easy. ใจเย็นๆ ไว Relax. ทาํ ใจใหส บาย You will be fine. เธอตองไมเ ปน ไรเดี๋ยวกด็ ีเอง

16 Well done. ทําไดดีมาก You did a good job. ทํางานไดดมี าก etc. บทสนทนาที่ 1 Anne : I lost my mobile phone. ฉันทาํ โทรศัพทเ สีย Suda : Don’t worry. You should buy the new one or repair it. ไมต อ งกังวล เธอควรซ้อื ใหมหรือเอาไปซอ ม Anne : Thank you. And have you done your homework yet? ขอบคณุ และคุณทําการบา นแลวหรือยัง Oh! I forgot it. โอ ฉนั ลมื ทํา Suda : Take it easy. I can help you. Let’s start right now. ใจเย็น ๆ ไว ฉันชวยเธอได เรามาทาํ การบานกันเดี๋ยวนี้เถอะ You will be fine. เดยี๋ วกด็ ีเอง Anne : Thanks a lot. ขอบคณุ มาก Suda : O.K. จะ บทสนทนาที่ 2 : Somsri is the champion. Suphit สมศรีเปน ผูชนะเลิศ Suda : She did a good job. She is the winner. เธอทําไดด มี าก เธอคอื ผชู นะ Suphit : Congratulations to our champion. ยนิ ดีดว ยกับผูชนะเลิศของเรา

17 เรอ่ื งท่ี 4 ดีใจ/เสยี ใจ (Happened/Sorry) การแสดงความดีใจกับเพื่อน ผูใหญในโอกาสท่ีบุคคลน้ันๆ ไดรับความเจริญกาวหนาใน หนา ทอี่ าชพี การงาน ตลอดจนการไดเลื่อนตําแหนง เปนมารยาททางสังคมที่ผูมีน้ําใจพึงปฏิบัติ ตอกนั สวนการแสดงความเสยี ใจตอ เรอ่ื งหรอื เหตกุ ารณท ี่สูญเสียของบุคคล ผูพูดจึงตองใชคําพูด และสํานวนท่ีแสดงความเห็นอกเห็นใจตอผูสูญเสียที่อยูในอารมณเศราใหผอนคลายและเกิด กาํ ลงั ใจในการตอ สูและดํารงชีวิตตอไป สาํ นวนทม่ี ักนิยมใชในการแสดงการดใี จ/เสยี ใจ ในโอกาสตา งๆ มดี งั นี้ I’m glad that you can come. ฉนั ดีใจท่คี ณุ มาได I’m so pleased to see you. ฉันดีใจมากทีไ่ ดพ บคณุ I’m glad to hear from you. ฉันดใี จท่ีไดทราบขาวจากคณุ I’m so sorry to here that.……… ฉันเสียใจทไี่ ดท ราบขาวนน้ั ………… I’m so sorry for being late. ฉนั เสียใจทีม่ าชา I’m terrible sorry for………… ฉนั เสยี ใจในสง่ิ ท่ีรายแรงตอ ……………….. It’s my sympathy to here that.…… ฉนั เศรา ใจในส่ิงนน้ั ………………………… I’m deeply regret about. ………… ฉนั เสียใจสลดใจเปน อยา งมาก………… Please pass my sympathy to……… ขอใหสง่ิ ทเี่ ศราใจใหผ านพนไป…………….. etc. บทสนทนาที่ 1 Nid : Congratulations on your success. ขอแสดงความยินดกี ับความสําเรจ็ ของคุณ Wit : I’m so pleased to hear that. ผมดใี จมากทท่ี ราบขา ว Nai : Thank you. ขอบคณุ คะ

บทสนทนาท่ี 2 18 Malee Suda : I’m so sorry for being late. Malee ฉันรสู ึกเสยี ใจทม่ี าชา Suda : Don’t worry. You are still in time. ไมตองกงั วล คณุ ยังมาทนั เวลา : It’s my sympathy to hear that your father passed away. ฉนั รูสึกเห็นใจท่ที ราบวา คุณพอของเธอเสยี I deeply regret. ฉันรสู กึ เสยี ใจมาก : Thank you. ขอบคุณจะ

19 บทท่ี 4 การพดู แสดงความคดิ รปู แบบตางๆ (Expression of opinion, ideas/wishes/offering helps, etc.) ภาษาเพอ่ื แสดงความคดิ เหน็ ความตอ งการ เร่อื งที่ 1 การแสดงความคดิ เหน็ (เหน็ ดวย/ไมเ หน็ ดวย ยอมรบั /ไมย อมรับ) Agreement/Disagreement Agreement เปนรูปแบบของการสนทนาท่ีมีความเห็นพองดวย เม่ือฝายหนึ่งแสดง ความเห็น อาจอยูในรูปประโยคบอกเลาธรรมดา และคูสนทนา ก็แสดงความเห็นดวย และ สํานวนท่ีใชใ นการแสดงความเห็นดว ย อาจเลือกใชต ามโอกาสอนั สมควร ไดแ ก Yes, I think so. ใช ฉันกค็ ิดอยางน้ัน Yes, I agree with you. ใช ฉันเห็นดว ย Yes, you are right. ใช คณุ พูดถูก Yes, I think you are right. ใช คดิ วาคุณพูดถกู Yes, that’s my opinion too. ใช ความเห็นฉันก็เปนเชนนั้นแหละ etc. Disagreement คือ คาํ พูดที่ใชใ นการสนทนาอีกลักษณะหน่ึง เปนคําพูดท่ีมีความหมาย ในทาํ นอง ขดั แยง หรอื ไมเหน็ ดว ยกบั ความเหน็ ของคูสนทนา ซึ่งจะตองมีศิลปะในการพูด เพื่อ ไมใ หเปนการขัดแยง และจะทําใหการสนทนาเปนไปอยางราบร่ืน และคําพูดท่ีใชในการแสดง ความไมเหน็ ดวย อาจเลือกใชในโอกาสอนั สมควร ไดแก No, I don’t think so. ไม ฉันไมคิดอยางนน้ั Well, I really don’t think so. เอ ฉันไมไดคดิ เชน นั้นจริงๆ No, I don’t agree with you. ไมละ ฉันไมเห็นดวยกบั คณุ No, I don’t think you are right. ไม ฉนั ไมคิดวา คุณถูกนะ I can’t say I agree with you. ฉนั ไมสามารถจะพดู ไดว า เหน็ ดว ยกบั คณุ etc.

บทสนทนาท่ี 1 20 A: B: The weather in Bangkok is hotter than Singapore. A: I think so./I don’t think so./I agree with you. B: Living in Bangkok is not so pleasant. Don’t you thin that ? Yes, but living in rural areas is less convenient. etc. เร่อื งท่ี 2 การแสดงความตองการและตอบรบั (Need/Want Yes/Please do/sure) เมื่อตองการใหผูอื่นทําบางสิ่งบางอยางให อาจเปนการรบกวนผูอ่ืน รูปประโยคท่ีใชจึง แสดงความสภุ าพอยา งยิง่ อาจใชป ระโยคบอกเลาธรรมดา หรอื ประโยคคําถามมีถอยคําสํานวน ท่ใี ชใ นโอกาสตางๆ ดังนี้ I’d like some more coffee. ฉันชอบด่ืมกาแฟ I want to go to……… ฉันตอ งการจะไป…………………………… I wish you should go with me. ฉนั อยากใหคุณพาฉันไป I need……………………… ฉันตองการ…………………………………. การตอบรบั อาจใชสํานวนสั้นๆ ตอไปนต้ี ามความเหมาะสม Yes…/please do./sure. ใช/ขอความกรณุ า/แนน อน Thank you, I’d love to. ขอบคณุ ทใ่ี หค วามรกั กบั ฉัน Thank you, I’d happy to go. ฉันขอบคุณทที่ าํ ใหฉ นั มีความสขุ With pleasure. ดวยความยนิ ดี Thank you so much. ขอบคณุ มาก Very kind of you. ดวยความเมตตาจากคณุ บทสนทนา : What would you like some drink ? 1. A : I’d like some more coffee. B : Where do you go ? 2. A : I want to go to school. B

21 เรือ่ งที่ 3 การแสดงความชวยเหลอื และบริการผอู น่ื รวมทงั้ ตอบรบั (Can I help you?/Yes, of course) การใชชีวิตประจําวันของคนเราตองเกี่ยวของกับการจับจายใชสอยไมวาจะเปนอาหาร เครื่องดืม่ เส้อื ผา และของใช ตลอดจนยารักษาโรค การแสดงความชวยเหลือและบริการผูอื่น จําแนกออกตามสถานการณตางๆ มักนิยมใชสํานวนท่ใี ชถาม เมอื่ ใหบริการ ดงั น้ี What can I do for you? ฉนั จะชวยอะไรคณุ ไดบาง Can I help you. ฉนั จะชว ยคณุ ไดไหม May I help you. Need some help? คุณตองการความชว ยเหลือรเึ ปลา Do you need some help? If you need anything, please tell me. ถาคณุ ตอ งการอะไรโปรดบอกนะครับ/คะ If you need anything, please let me know. Certainly. แนนอน Yes, of course. ใช ไมเ ปน ไร I’m afraid……………….. ฉันเกรงใจ…………………………….. Sorry, but……………….. เสียใจ แต… ………………………….. บทสนทนา At the Embassy Receptionist : Sawasdee Ka, anything can I do for you, Madame? Suda : I'm so glad, you can speak Thai. Receptionist : Oh! I can speak and understand Thai just a little bit. Suda : I've lost my passport yesterday and I went to the police station to inform the matter. This is the police record. Receptionist : Please wait for a few minutes. I will ask Mr. John at the consular Section to help you. Suda : Thank you for your help. Receptionist : It's my pleasure.

22 เร่อื งท่ี 4 การกลาวขอบคณุ และตอบรบั (Thank you./You’re welcome) การกลาวขอบใจ เปนความจําเปนในโอกาสท่ีบุคคลอ่ืนทําคุณประโยชนหรือไดเอื้อเฟอ ชวยเหลอื โดยการแสดงออกทางวาจา โดยการขอบใจและซาบซ้ึง ดงั สํานวนตอ ไปน้ี Thank you for you help. ขอบคุณท่ีใหค วามชว ยเหลอื Thank you every much for your kindness. ขอบคุณท่คี ณุ ใหความเมตตา Thank you for your invitation ขอบคุณสาํ หรับการเชื้อเชญิ etc. การกลาวตอบรบั เมอ่ื อกี ฝายกลาวขอบคุณ เชน Don’t mention it You’re welcome. ไมเ ปน ไร You’re quite welcome. Not at all. ทกุ คาํ มคี วามหมายวา “ไมเปน ไร” หามใช never mind เดด็ ขาด เรอ่ื งที่ 5 การพดู ขออนญุ าตและตอบรบั (May I come in ?/Yes you can) การพดู เพื่อขออนญุ าต เปน มารยาทท่ีพึงกระทํา เม่ือตองการทําอะไร และสํานวนท่ีมัก ใชกันทัว่ ไปมดี ังนี้ May I interrupt you for a moment ? ขออนุญาต ฉันขอขัดจังหวะคุณสักครูได ไหม May I come in ? ขออนุญาตเขา ขา งในไดไ หม Can I borrow your pen? ฉันขอยมื ปากกาคุณไดไ หม (It’s) my pleasure. ฉันยินดี Don’t mention it. ไมเ ปนไร Yes, you can. ใช คณุ มีความสามารถ etc.

23 สาํ นวนท่มี ักใชในการกลา วตอบรับ มีดังนี้ ได แนนอน Yes, of course. แนน อน Certainly. ไดเลย Sure. ตามสบาย Go ahead. etc. บทสนทนา Can I borrow your pen? A: Yes, of course. B: เร่อื งท่ี 6 การพูดขอโทษและตอบรบั (Sorry / Don’t worry) การกลา วคําขอโทษ เปนการแสดงความเสียใจ และการขออภัย เปนมารยาทอันดีย่ิงท่ี ตองแสดงออกเปนประจํา เม่ือกระทําผิดไป แมจะเปนเรื่องเล็กนอยก็ตาม โดยใชประโยค ขอ ความ ดังนี้ I’m very sorry to be late. ขอโทษดวยนะทม่ี าชา I’m lost your box, I’m so sorry. ฉนั ทํากลองหายไป ฉนั ขอโทษดว ยนะ I’m terrible sorry for…………… ฉันเสยี ใจกบั เรือ่ งที่เกดิ ขึน้ กบั ……………… Sorry, it’s my fault. ฉันขอโทษทที่ าํ ผดิ พลาด Please forgive me for being late. กรณุ าอภัยใหฉ นั ดวยทมี่ าชา อกี ฝา ยอาจกลา วตอบเพอื่ เปนเชิงใหอภยั มีสาํ นวนดงั นี้ Forget it. จําไมไ ด Don’t worry. ไมตองหว ง It doesn’t matter. ไมเปนอะไร Of course. ไมเ ปน ไร Certainly. That’s all right. ไมเ ปน อะไรหรอก That’s quite all right. etc.

24 บทสนทนา I’m very sorry to be late. A: That’s all right. B: เรื่องท่ี 7 การพูดแทรกอยา งสุภาพ (Excuse me) การพดู แทรกอยา งสุภาพ เปนส่งิ ทจี่ ําเปนมาก เพราะสง่ิ เหลา นีจ้ ะบงบอกถงึ วฒั นธรรมท่ีดี งามทท่ี ุกคนควรกระทําใหเกิดเปน นิสยั และสาํ นวนท่ีมกั ใชในการพดู แทรกอยางสุภาพมีดงั น้ี Excuse me, sir. Could you speak louder? ขอโทษครบั /คะ คณุ ผูช ายกรณุ าพูดเสยี งดงั หนอยไดไหม Excuse me, madam. Could you show me that book? ขอโทษครบั /คะ คณุ ผูห ญิงกรุณาโชว หนังสอื ของคณุ ใหฉนั ดไู ดไ หม Excuse me, how far is it to the airport? ขอโทษครบั /คะ จากตรงนี้ถงึ สนามบินไกลแคไหน etc. บทสนทนา Suda : Excuse me. Is this seat unoccupied? Chaba : Yes, it is. Suda : Thank you. Chaba : You're welcome. What's your name? Suda : My name is Suda. Chaba : Nice to meet you. I'm Suda. It doesn’t matter. ไมเปน อะไร Of course. ไมเ ปนไร Certainly. That’s all right. ไมเปน อะไรหรอก That’s quite all right. etc.

25 บทที่ 5 รปู แบบประโยคในภาษาอังกฤษ (Types of English Sentence) เร่อื งที่ 1 ประโยคบอกเลา (Affirmative or Statement or Dedication Sentence) คอื ประโยคท่ีใชในการสือ่ สารเรือ่ งราว ขา วสาร ขอคิดเห็นตาง ๆ ในชีวิตประจําวัน ประกอบดวย ประธาน (Subject) และกริยา (Verb) ซึ่งอาจจะมีกรรม (Object) หรือสวนขยาย (Complement) ดวยกไ็ ด ประธาน + กรยิ า + กรรม (Subject) (Verb) (Object) ตวั อยาง He is your teacher. เขาคือครูของเธอ He likes you. เขาชอบเธอ ในประโยคบอกเลา การกระจายกรยิ าตองเปน ไปตามประธาน (Subject) และกาล (Tense) ท่ีบอกเลาเรื่องน้นั เรื่องที่ 2 ประโยคคําถาม (Question sentence) เปนประโยคที่ใชถามเพ่ือตองการคําตอบ จาก ผูท่ีเราสนทนาดวย และขึ้นตนดวยคําที่เปนคําถาม ไดแก what (อะไร), when (เมื่อไหร), where (ท่ีไหน), who (ใคร), whom (ถึง, แกใคร), whose (ของใคร), which (อันไหน/สิ่งไหน), why (ทําไม), how (อยางไร) ในการต้ังคําถามดวยคําเหลาน้ี สวนใหญจะตองตามดวยกริยาชวย ยกเวน who ตามดวยกริยาแท และ whose ตามดวยคํานาม สวน which ตามดวยคํานามที่เปนกรรมหรือ กรยิ าชว ย เชน What is your name? คณุ ชือ่ อะไร Where do you teach? คณุ สอนที่ไหน When did he leave school ? เคา จบเมอื่ ไหร How do you like it? คุณชอบหรือไม

26 เร่ืองท่ี 3 ประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence) คือประโยคบอกเลาที่มีคําหรือวลีท่ีมี ความหมายในเชิงปฏิเสธอยูในประโยค ซึ่งจะเปนคํากริยาวิเศษณ (Adverb) เชน not, never, hardly, scarcely, rarely เปนตน หรือคําสรรพนามแสดงการปฏิเสธ เชน no one, nobody, none, no, nothing เปน ตน เชน There are not former. ไมใ ชร ูปแบบทถ่ี กู ตอง He doesn’t like Bobby. เขาดไู มเหมือนกบั บอ บบี้ I don’t want to go with him. ฉันไมต องการไปกบั เขา เรอื่ งที่ 4 ประโยคคาํ สั่ง (Imperative or Order sentence) เปน ประโยคที่บอกใหทําหรอื ขอรอ งใหท ําตามทผี่ นู น้ั บอก ซงึ่ ผทู ี่รับคาํ สัง่ คือผูท่ีคนส่งั พดู ดว ย ซ่ึงคนท่ีจะส่งั จะเปนบรุ ษุ ที่ 1 คือ ผูพูด (I หรือ we) สว นคนที่ถูกสงั่ จะเปนบุรษุ ที่ 2 (You) เมื่อเปนประโยคคาํ สัง่ จะตัด ประธาน (You) ออก ประโยคคําสง่ั ตองข้นึ ตนดวยคาํ กริยาชองที่ 1 เสมอ ซง่ึ อาจจะเปน รูปบอกเลา หรอื ปฏิเสธกไ็ ด เชน Don't walk on the loan! หามเดนิ ในสนาม Enter your personal code. ใสรหัสสวนตัวของทา น Sit down here! นง่ั ตรงนี้ Follow me! ตามฉันมา เรื่องที่ 5 ประโยคอุทาน (Exclamatory sentence) คือประโยคทีใ่ ชแสดงความรสู ึกและ อารมณ เชน เสยี ใจ ดีใจ เปนตน ใชไ ดท้ังประโยคเต็มรูปและลดรูป เชน Oh! My god โอ พระเจา ชว ย How marvelous เหลอื เชอื่ จริง ๆ What a wonderful party ชา งเปน งานทม่ี หศั จรรยอะไรเชน นี้

27 บทท่ี 6 ประโยคความรวม (Compound Sentence) เรือ่ งท่ี 1 สวนประกอบของ Compound Sentence ประโยคความรวม คอื ประโยคทป่ี ระกอบดวยประโยคอยางนอย 2 ประโยค และมี คาํ เชอ่ื ม (Conjunction) ซ่ึงมหี นาที่เช่ือมประโยคเขาดวยกนั นอกจากนท้ี ั้ง 2 ประโยคสามารถ แยกกันได โดยแตละประโยคตา งมีความหมายสมบูรณ เร่ืองที่ 2 ประโยค 2 ประโยคมารวมกันดว ยคําเชอ่ื มท่ีเหมาะสม คอื and, but, or เชน Suda can speak English and French สดุ าพูดภาษาอังกฤษและภาษาฝรัง่ เศสได Malee does not study French but she can speak it. มาลีไมไดเรียนภาษาฝร่ังเศสแตพ ดู ภาษาฝรง่ั เศสได You can have fried rice or boiled rice คณุ สามารถเลือกทานขา วผัดหรือขาวตม ก็ได เรือ่ งท่ี 3 การเชือ่ มประโยคใหเปน Compound Sentence โดยใชเ ครอ่ื งหมาย/คาํ เชอ่ื ม 1. , (comma) + คาํ สนั ธาน เชน They tried their best, yet they didn’t succeed. 2. ; (Semicolon) ใชใ นกรณีทม่ี ีเคร่ืองหมายอื่น ๆ อยูดวย เชน I also bought her a new car; I have not yet, nowhere, given it to her. 3. Correlative Conjunction ไดแก คําตอไปนี้ Both……….and……….. ท้ัง...............และ........... Either………or……….. ไมอยางใดกอ็ ีกอยางหนึง่ Neither………nor……... ไมทัง้ สองอยาง เชน Both boys and girls learn English.

28 บทท่ี 7 อดตี กาล ( Past Tense) เรือ่ งท่ี 1 Past Simple Tense Past Simple Tense คอื ประโยคที่แสดงเหตกุ ารณท เ่ี กดิ ขน้ึ และสนิ้ สดุ แลวในอดตี Subject + V2 + Object + (adv. Of place) + (adv. Of time) 1.1 เหตุการณท ่ีเกดิ ขึ้นในอดีตและจบลงไปแลวกอนพูดประโยคน้นั เชน He spoke เขาเปนคนพูด She came here yesterday เธอมาทนี่ ่เี มื่อวานน้ี 1.2 แสดงการกระทาํ ที่กระทําเปน ประจาํ ในอดีต โดยมคี ําทแี่ สดงความบอย ความเปน ประจําอยูดวย เชน He always got up late when he was young เมือ่ ตอนเด็ก ๆ เขามา สายบอ ย เร่อื งท่ี 2 Past Continuous Tense Past Continuous Tense หรอื อีกอยางหน่งึ เรียกวา Past Progressive Tense เปน Tense ทใ่ี ชแสดงเหตกุ ารณท่ีกาํ ลังเกิดข้นึ ณ ชว งเวลาหนึ่งในอดตี หรอื มีเหตุการณ 2 เหตกุ ารณ กาํ ลงั เกิดขน้ึ พรอ มกัน ณ ชวงเวลาหนงึ่ ในอดีต โครงสรา งประโยค Past Continuous Tense Subject + V.to be + V.ing เชน We were playing in the garden. เรากาํ ลงั เลนอยูใ นสวน He was singing a song. เขากาํ ลังรอ งเพลง

29 บทที่ 8 ภาษาองั กฤษสําหรบั อาชพี พนกั งานขบั รถรบั จา ง เรอ่ื งที่ 1 การพดู ภาษาองั กฤษตามมารยาทสังคม และเหมาะสมกับสถานการณ เม่ือมผี ูโดยสารมาเรียกใชบริการจากพนักงานขับรถรับจา งน้นั ส่งิ แรกทคี่ วรทาํ คอื ทกั ทาย โดยทักทายตามเวลา คือ Good morning. สวัสดคี รับ เมอ่ื พบผโู ดยสารตอนเชา Good afternoon. สวัสดคี รบั เม่อื พบผูโดยสารตอนบา ย Good evening. สวัสดีครับ เมอ่ื พบผโู ดยสารตอนคาํ่ หรอื อาจถามดวยขอ ความสนั้ ๆ ท่สี ุภาพและเขา ใจไดว า Where to, sir? ไปทีไ่ หนครบั คุณผชู าย Where to, madam? ไปทไ่ี หนครบั คณุ ผูหญิง Where to, miss? ไปทไ่ี หนครบั คุณผูหญิง ชาวตา งชาตจิ ะตอบไดหลากหลาย อาจพูดเฉพาะชอ่ื สถานที่ ดงั นี้ Suvarnabhumi airport สนามบินสวุ รรณภูมิ Khao Sarn road ถนนขา วสาร The weekend market ตลาดนัดสดุ สปั ดาห หรือตลาดนัดจตจุ กั ร Chatuchak market ตลาดนดั สวนจตจุ กั ร เรื่องท่ี 2 การพดู แสดงความรูสกึ และแสดงความคิดเห็น ขณะขบั รถบริการผโู ดยสาร ยอ มมีเวลาพดู คยุ กนั พอสมควร โดยเฉพาะพูดแสดงความรสู ึก และแสดงความคิดเห็น อยา งเชนตวั อยา งตอไปน้ี The traffic is bad. รถตดิ The traffic is too bad. รถติดจังเลย The traffic is very bad. การจราจรตดิ ขัดมาก It takes thirty minutes to the airport. ใชเ วลา 30 นาทีไปสนามบนิ

30 It takes about twenty minutes to get there. ใชเวลาประมาณ 20 นาทีทจ่ี ะไปท่ี น่นั เร่อื งที่ 3 การพดู แสดงความชวยเหลอื หนาทขี่ องพนักงานขับรถรับจา งไมเพียงแตขบั รถเทานนั้ แตจําเปน ตอ งชวยเหลือผูโ ดยสาร การชวยเหลอื เร่มิ ดว ยการพดู แสดงความชวยเหลือ เชน Let me help you. ใหผมชวยคุณครับ I can take you to the nearest toilet at the gas station. ผมสามารถพาคุณไปหอ งนํา้ ที่ใกลท ส่ี ุดทีป่ ม นา้ํ มนั ครับ เรอ่ื งที่ 4 การขออนญุ าต ทุกคร้ังทมี่ ขี อ ขัดของประการใดก็ตาม พนักงานขับรถรับจางจําเปนตองขออนุญาต ผูโดยสารกอนดาํ เนนิ การเรือ่ งที่เกดิ ข้ึน เพอ่ื ความสบายใจและมีความเขา ใจที่ตรงกนั เชน Can I take an express way, sir? ใหผมใชทางดวนไดม ๊ัยครบั Can I stop at a gas station to check the tyres? ใหผมจอดท่ปี ม นํ้ามันเพ่อื ตรวจสอบยางนะครับ เรอื่ งท่ี 5 การพดู แทรกอยางสุภาพ ถาผโู ดยสารกาํ ลังพดู อยู หรอื พูดยังไมจ บ พนักงานขับรถรับจางตองไมพ ดู แทรก แตเ มื่อใด ท่ตี อ งการพดู ควรเอยดว ยความสุภาพวา Excuse me. ขอโทษนะครับ จากน้ันจึงเอยถงึ เรื่องท่ีตอ งการจะพูด หรอื อาจเริ่มดวยการเรยี กผูโดยสารทีอ่ ยบู นรถ คือ sir. ทา นครับ (เปน การเรียกผูโดยสารทีเ่ ปนผชู าย) madam คณุ ผหู ญิงครับ (ใชเ รยี กผูโดยสารท่ีเปนหญิงสงู วัย)

31 ma’am คณุ ผูหญงิ ครับ (เรยี กผูโดยสารทีเ่ ปนหญิงสงู วัย) miss คณุ ผูหญิงครับ (เรียกผโู ดยสารทีเ่ ปนหญิงสาว) จากนั้นพนักงานขับรถรับจางจึงพดู เรือ่ งราวทีต่ อ งการจะบอกหรือจะพดู คุยกับผโู ดยสารตางชาติ หากพนักงานขับรถรับจา งเขาใจมารยาททางสังคมและสามารถใชภ าษาองั กฤษไดเหมาะสมกบั สถานการณอ ยา งน้แี ลว ทานจะเปน พนกั งานขับรถรบั จา งที่มีความสามารถอยางย่งิ

32 บทที่ 9 ภาษาอังกฤษสําหรบั พนกั งานบรกิ ารในสถานทต่ี า ง ๆ เรื่องท่ี 1 การกลาวตอ นรบั ลกู คาของพนกั งานบรกิ าร พนกั งานบริการมีหนาท่ีตอนรบั หรอื รับรองแขก หรือผูท่เี ขามาตดิ ตอหนว ยงาน หรือ สถานประกอบการ เพอื่ สอบถามขอมูล จึงตอ งทาํ หนา ทใ่ี หขอมลู ผมู าติดตอประสานงาน อาํ นวย ความสะดวกตามความตองการของผมู าติดตอ หรือลูกคา เชน บทสนทนา พนกั งานตอนรบั ในโรงแรม Receptionist : Hello, CK Park Hotel, may I help you? พนกั งานตอนรับ สวสั ดีครับ โรงแรมซีเคพารค จะชวยคณุ ไดอยา งไรครับ? Jane : Hi. I’d like to make a room reservation. เจน สวสั ดี ฉนั อยากจะทาํ การจองหอ ง. Receptionist : Just a moment. OK, for what date. พนักงานตอนรับ กรุณารอสักครู โอเค สําหรบั วันไหนครับ? Jane : November, 26th. เจน วันท่ี 26 พฤศจิกายน Receptionist : How many nights will you be staying? พนักงานตอนรับ คุณจะพักกคี่ นื ? Jane : 2 nights. What’s the room rate? เจน 2 คืน หอ งราคาเทา ไร?

33 Receptionist : 1,500 baht a night plus tax. Would you like me to reserve a room for you? พนกั งานตอนรบั 1,500 บาท ตอ คืน รวมภาษี คุณตอ งการใหผมจองหอ งใหส าํ หรบั คณุ ไหม Jane : Yes, please. เจน ใช กรณุ าดวย Receptionist : Your name? พนักงานตอนรับ ช่ือของคุณ? Jane : Jane Patterson. เจน เจน แพทเทอรส ัน Receptionist : Miss Patterson, how will you pay, cash or credit card? พนักงานตอ นรบั คณุ แพทเทอรสัน คณุ จะชําระเงินอยา งไร เงินสดหรอื เครดิตการด Jane : Credit card. เจน เครดติ การด Receptionist : How can we contact you by phone or e-mail address? พนักงานตอนรับ เราจะตดิ ตอ คณุ ไดอยางไร ทางโทรศพั ทหรอื ทางอีเมลครบั Jane : My phone is ________, and my e-mail address is _________. เจน : หมายเลขโทรศพั ทค ือ______ และอเี มลของฉัน คือ ___________ Receptionist : OK. You’re all set. We’ll see you on the 26th. พนักงานตอนรับ : โอเค เรยี บรอ ยแลว เราจะเจอคุณในวนั ท่ี 26 ครบั

34 เรอ่ื งท่ี 2 การใหบ รกิ าร ณ สถานบรกิ ารประเภทตา ง ๆ (Various Services) การใชภาษาในการนําเสนอ ใหบ ริการและการตอบรับ ควรใชภาษาและสาํ นวนท่สี ภุ าพ ดงั น้ี 1. พนกั งานบริการ นาํ เสนอบรกิ าร โดยใชส ํานวน ดังนี้ 1.1 กลา วทักทาย Good morning, sir/ madam. Good afternoon, sir/ madam. Good evening, sir/ madam. 1.2 เสนอใหบรกิ าร - May I help you? - Can I help you? - What can I do for you? - If you need anything, please tell me. - If you want something, please let me know. 1.3 ผูร ับบรกิ ารตอบ โดยใชส ํานวนดังน้ี - Yes, please. - Yes, of course. - Sure - Certainly. - I need __________. - I want __________. 1.4 การกลา วขอบคณุ - Thank you. - Thank you for your help. - Thank you very much for your kindness.

35 1.5 การตอบรบั การขอบคณุ ของลูกคา - It’s my pleasure. - It doesn’t matter. - Don’t worry. - Don’t mention it. 1.6 การขอความชว ยเหลอื - Excuse me ______________________. ตัวอยาง การนําเสนอการใหบ รกิ ารและการตอบรบั ณ สถานท่ีตา ง ๆ At the post-office (ทท่ี ําการไปรษณีย) Clerk : Good morning, sir. May I help you? Customer : Yes, I would like to send this present to my friend in Chiengmai. What should I do? Clerk : You should buy a parcel-box, we’ll wrap it for you. Customer : That’s great. How much does it cost? Clerk : Let me weigh your parcel. It weighs 2 gm. It takes 100 baht. Customer : Here’s 500 baht. Clerk : Thank you. Here is your change. Customer : Thank you. Good bye. Clerk : You’re welcome. At the train station Clerk : Good afternoon, sir. What can I do for you? Passenger : I would like to buy a ticket to Hat Yai? Clerk : We have different classes such as

36 express train :first class with air-conditioning. Second class with air-conditioning, upper or lower bed. rapid train : second class with air-conditioning, upper or lower bed. second class with fan, upper or lower bed. Passenger : How many hours does it take for express train or rapid train? Clerk : It takes 12 hours for express train and 16 hours for rapid train. Passenger : I prefer express train, second class with air-conditioning. Clerk : How many tickets do you need? Passenger : Two please, one upper bed and one lower bed. Clerk : What do you prefer one-way ticket or round-trip ticket? Passenger : Round-trip ticket for two. How much do I have to pay? Clerk : Express train with air-conditioning, upper bed, one way ticket is 1,280 baht. Round trip is 2,560 baht, but the lower one is cheaper. It costs only 1,080 baht, but round trip is 2,160 baht. Total is 4,720 baht. Passenger : Here is 5,000 baht. Clerk : Thank you sir. Here is 280 baht your change. Passenger : Thank you. Good bye. Clerk : You’re welcome. Have a nice trip.

37 บรรณานกุ รม ธันยภทั ร ไชยทรัพย. รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวันระดับมัธยมศึกษาตอนตน (พต21001) กรุงเทพ : นวตสาร จํากดั , 2555 สํานกั งานสงเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั สํานกั งาน ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ, ผังการออกขอสอบสาระความรูพ นื้ ฐาน รายวิชาภาษาองั กฤษ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน. สํานกั งานสง เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย สํานกั งาน ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร, หนงั สือเรยี นสาระความรูพนื้ ฐาน รายวิชาภาษาองั กฤษใน ชีวิตประจําวนั ระดับมัธยมศึกษาตอนตน (ฉบับปรับปรุง 2554).

38 คณะผูจัดทํา ท่ปี รกึ ษา บญุ เรือง เลขาธกิ าร กศน. 1. นายประเสริฐ ทบั สุพรรณ รองเลขาธกิ าร กศน. 2. นายชาญวทิ ย จาํ จด รองเลขาธกิ าร กศน. 3. นายสุรพงษ จนั ทรโ อกลุ ผูเ ชย่ี วชาญเฉพาะดา นพฒั นาส่อื การเรยี นการสอน 4. นางวัทนี สวุ รรณพิทกั ษ ผูเช่ยี วชาญเฉพาะดา นการเผยแพรท างการศึกษา 5. นางกนกพรรณ งามเขตต ผูอํานวยการกลุมพฒั นาการศึกษานอกโรงเรยี น 6. นางศุทธนิ ี ผเู รียบเรยี งและผบู รรณาธกิ าร ขา ราชการบํานาญ 1. นางสาวอรวรรณ พนาพนั ธ สาํ นกั งาน กศน. จังหวดั ราชบรุ ี 2. นางสาวปรารถนา สุคําภา สํานกั งาน กศน. จังหวดั ราชบรุ ี 3. นางสาวสมุ นจนั ทร วฒุ ิจันทร คณะทาํ งาน 1. นายสรุ พงษ ม่นั มะโน กลุมพฒั นาการศึกษานอกโรงเรยี น กลมุ พฒั นาการศึกษานอกโรงเรยี น 2. นายศุภโชค ศรีรตั นศิลป กลมุ พฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรยี น กลมุ พัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน 3. นางสาวสลุ าง เพช็ รสวา ง กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรยี น 4. นางสาวเบญจวรรณ อาํ ไพศรี 5. นางสาวชมพนู ท สงั ขพิชัย ผพู มิ พต น ฉบับ วงคเ รอื น กลุมพัฒนาการศึกษานอกโรงเรยี น 1. นางสาวทิพวรรณ สังขพชิ ยั กลมุ พฒั นาการศึกษานอกโรงเรยี น 2. นางสาวชมพนู ท ผูออกแบบปก ศรีรัตนศิลป กลุม พฒั นาการศึกษานอกโรงเรยี น นายศุภโชค


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook