แบบการนาเสนอสถานศึกษาทม่ี วี ธิ ีปฏิบัตทิ ่ีเปน็ เลิศ (Best Practices) ด้านการบรหิ ารและการจดั การศึกษาปฐมวยั จังหวัดนราธิวาส ประจาปกี ารศึกษา 2563 1. ชอ่ื ผลงาน การบรหิ ารจดั การพัฒนาและการจัดการเรยี นรู้ 4 ขนั้ โรงเรียนมสี ุข 2. ชื่อผู้เสนอผลงาน นายมหามะสกั รี ยนู นั ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรียน โรงเรียนบ้านปารี สงั กดั สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษานราธวิ าส เขต 3 ตาบลจะแนะ อาเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส รหัสไปรษณยี ์ 96220 โทรศพั ท์……………………………………………… E-mail ………………………………………… เวบ็ ไซตโ์ รงเรียน……………………………………. 3. ความสาคัญของผลงานหรือนวัตกรรมทน่ี าเสนอ พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 และท่ี แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2553 ได้กาหนดจุดมุง่ หมายและหลกั การจัดการศึกษาไวใ้ นมาตรา 6 วา่ การจัด การศกึ ษาต้องเปน็ ไปเพ่ือพฒั นาคนไทยให้เปน็ มนุษย์ที่สมบูรณ์ ทงั้ ทางด้านร่างกาย จติ ใจ สติปัญญาความรู้ คณุ ธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดารงชีวติ โดยกาหนดแนวทางจัดการศกึ ษาไว้ในหมวด 4 มาตรา 22 ระบุว่าการจัดการศกึ ษา ต้องยึดหลักผู้เรยี นมคี วามสาคัญที่สดุ กระบวนการจดั การศึกษาต้องส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี น ได้พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คณุ ภาพและในมาตรา 24 (1) ระบุวา่ การจัดเน้อื หาสาระและ กิจกรรมนัน้ ต้องใหส้ อดคลอ้ งกับความสนใจความถนดั และสภาพบริบทของโรงเรยี น ท้องถิน่ มนษุ ย์จาเป็นต้อง ไดร้ บั การพฒั นาให้สามารถเติบโตและเรียนรู้ไดต้ ลอดชวี ติ ต้องเริม่ ตั้งแต่แรกเกดิ โดยการปลูกฝังให้เด็กมีเจตคติ ทีด่ ีต่อการรบั รู้การเรียนรู้ และมคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ กลนั่ กรองข้อมูล เลือกใชแ้ ละนามาใชใ้ น สถานการณ์ทีต่ นต้องการได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังจาเปน็ ตอ้ งมีความสามารถในการเรียนรจู้ าก ผ้อู น่ื และมีลักษณะที่ทาใหผ้ ู้อ่ืนยนิ ดีทจ่ี ะแบ่งปนั ความรู้ ประสบการณ์ ตลอดจนหยิบย่นื โอกาสการเรยี นรู้ให้ คณุ สมบตั ทิ ี่เอ้ือต่อการเจริญงอกงามตลอดชีวติ จึงจาเป็นต้องปลูกฝงั ต้ังแต่ปฐมวัยและพัฒนาอยา่ งต่อเน่อื ง (คณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน, 2547:2) หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวยั พุทธศกั ราช 2560 ได้กาหนดปรชั ญาการศึกษาปฐมวัยวา่ การศกึ ษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเดก็ ตงั้ แต่แรกเกิดถึง 6 ปบี รบิ ูรณ์ บนพื้นฐานการอบรมเล้ยี งดแู ละการส่งเสริม กระบวนการเรียนรู้ท่ตี อบสนองต่อธรรมชาตแิ ละพัฒนาการตามวยั ของเด็กแต่ละคนใหเ้ ตม็ ตามศักยภาพภายใต้ บรบิ ทสงั คมและวฒั นธรรมทเ่ี ดก็ อาศยั อยู่ดว้ ยความรกั ความเอ้ืออาทร และความเขา้ ใจของทุกคน เพื่อสรา้ ง รากฐานคุณภาพชีวิตใหเ้ ดก็ พัฒนาไปส่คู วามเป็นมนษุ ย์ท่ีสมบรู ณ์ เกิดคุณค่าต่อตนเอง ครอบครัวสงั คม และ ประเทศชาติ (กระทรวงศึกษาธกิ าร 2560, : 7) จากความสาคัญดังกล่าว จึงจาเป็นจะต้องจัดการศึกษาใหเ้ ดก็ ปฐมวยั ตามหลักจิตวทิ ยาพฒั นาการเด็กในช่วงอายุ 3-6 ปี จะเรียนรูซ้ ึมซบั ลักษณะพฤติกรรมจากบุคคลใกลช้ ิด
และสงิ่ แวดลอ้ มจนเกิดเปน็ คุณลกั ษณะที่ถาวร หากเด็กได้รบั การเลีย้ งดทู ดี่ ีได้รับความรักความอบอุ่นจะทาให้ เดก็ เป็นคนสดชนื่ แจ่มใส มองโลกในแง่ดีรู้จกั รักคนอื่น การทีเ่ ด็กจะมีความสมบรู ณ์ท้ังรา่ งกายอารมณ์ จิตใจ สังคม สติปญั ญา ความรู้และคุณธรรม มจี รยิ ธรรมและวัฒนธรรมในการดารงชีวิตสามารถอยู่รว่ มกบั ผู้อ่นื ได้ อย่างมีความสขุ ซ่ึงขึ้นอยู่กับส่ิงแวดลอ้ ม การดแู ลเอาใจใสแ่ ละการจัดการศกึ ษาอย่างถูกต้องเหมาะสมของ สถานศึกษาปฐมวัย ทีจ่ ะสง่ เสริมให้เด็กเตบิ โตเปน็ เด็กยุคใหมท่ ่มี ีความสามารถ ตัดสินใจถูกตอ้ ง พรอ้ มทีจ่ ะ แกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ใช้เทคโนโลยไี ดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ เพอื่ เป็นการวางรากฐานที่ดใี หเ้ ดก็ ต้งั แต่ปฐมวัย ซึ่งจะทาใหเ้ ดก็ เติบโตเป็นพลเมอื งที่มีคุณภาพของประเทศชาติต่อไปในอนาคต (กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2551 : 3) เดก็ ปฐมวัยเป็นวยั ท่สี าคญั ทสี่ ุดสาหรับพฒั นาการของชีวติ มนุษย์ ส่งิ ที่เด็กไดร้ บั ประสบการณ์ และการเรยี นรูใ้ นช่วง 6 ปีแรกของชวี ติ จะมผี ลตอ่ การวางรากฐานทส่ี าคัญตอ่ บุคลิกภาพท่ีจะเตบิ โตเป็นผใู้ หญ่ เดก็ ปฐมวยั มกี าร พัฒนาชว่ งอายรุ ะหวา่ ง 0-6 ปี ถอื ว่าเปน็ ช่วงโอกาสทองของการเรียนรู้ ในวัยน้ีสมองเตบิ โต อย่างรวดเร็ว ถา้ เดก็ ได้รบั การพฒั นาและได้รบั การกระตุ้นด้วยวิธกี ารที่ถูกต้อง จะชว่ ยสรา้ งเสริมใหม้ ีความ พรอ้ มสมบูรณ์ทั้งรา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม และสติปัญญา (ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาต.ิ 2543: 16) การศึกษาปฐมวยั มงุ่ พฒั นาเด็ก ทุกคนให้ไดร้ บั การพฒั นาด้านรา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ สติปญั ญา อย่างมคี ุณภาพและต่อเนื่อง ไดร้ ับการจัด ประการณ์การเรียนรู้อย่างมีความสุขและเหมาะสมตามวัย มที กั ษะชวี ิต และปฏบิ ตั ติ นตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง (กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. 2560: 3) ทั้งนกี้ าร วางรากฐานของพัฒนาการทุกดา้ นควรเรม่ิ ตัง้ แต่ระดับปฐมวัย เพราะการปูพน้ื ฐานให้เดก็ มีความพร้อมนั้น ขน้ึ อย่กู ับการฝกึ อบรมเลีย้ งดเู ด็กตัง้ แตเ่ ยาว์วยั การจดั การศึกษาและ การพัฒนาเด็กปฐมวยั จงึ ควรมี วัตถุประสงค์เพื่อใหเ้ ด็กระดับปฐมวยั ทกุ คนเจรญิ เตบิ โตและเรยี นรู้อยา่ งมีความสุข เปดิ โอกาสใหเ้ ด็กได้สัมผสั และคนุ้ เคยกบั สง่ิ แวดล้อมดว้ ยตนเอง โดยเด็กวยั นมี้ ีพัฒนาการการเรยี นรูท้ ีเ่ ริ่มจากการรับรู้ การเขา้ ใจเฉพาะ สงิ่ ทีเ่ หน็ และจบั ต้องได้ (วิชาการอนุบาลรกั ลูก. 2534: คานา) ดังนน้ั การจัดการศึกษาให้แกเ่ ดก็ ปฐมวัย หาก ไดร้ บั การสง่ เสรมิ และชว่ ยเหลืออยา่ งถกู วธิ ี เปน็ ไปตามขนั้ ตอนของพฒั นาการของเด็ก และคานงึ ถึงความ แตกต่าง ของเด็กแต่ละบคุ คล จะทาใหเ้ ด็กเหล่านัน้ มคี วามพร้อมและศกั ยภาพทจ่ี ะพัฒนาต่อไปอย่างสงู สดุ การบริหารจัดการในระดับปฐมวัยนับว่าเป็นส่ิงสาคัญย่ิงเพราะเด็กปฐมวัยเป็นวัยท่ีมี พฒั นาการของเซลล์สมองที่เจริญเตบิ โตอย่างรวดเร็ว เป็นวยั แห่งการเรียนรู้ เดก็ จึงสนใจท่ีจะเรยี นรสู้ ง่ิ ตา่ ง ๆ ที่ อยู่รอบตัวได้ตลอดเวลา รูปแบบและวิธีการบริหารจัดการจึงเป็นอีกส่ิงหน่ึงที่มีความสาคัญทีจ่ ะช่วยสนับสนุน ให้ครูผู้สอนได้จัดการเรียนรู้ให้เด็กเกิดการเรียนรู้ท่ีดีข้ึน ข้าพเจ้าในฐานะผู้บริหารสถานศึกษา ได้เล็งเห็นถึง ความสาคญั ในการบรหิ ารจดั การ จึงนาหลักการบริหารจัดการพฒั นาและการจัดการเรยี นรู้ 4 ขนั้ โรงเรียนมสี ุข ซึ่งเน้นหลักการมีส่วนร่วมเป็นสาคัญ ประกอบกับใช้กระบวนการบริหารตามวงจร เดมม่ิง (Deming Cycle) เพื่อให้สามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โดยควบคุม กากับ ดูแลงานหลัก 4 งาน คืองานบริหารวิชาการ งานบริหารงบประมาณ งานบริหารบุคคล และงานบริหารท่ัวไป โดยยึด หลักการบริหารสถานศึกษาท่ีเป็นนิติบุคคลตามแนวทางการบริหารจัดการท่ีดี (Good Governance) หรอื ทเ่ี รียกว่าธรรมาภบิ าล ซง่ึ ประกอบไปดว้ ย หลักนิติธรรม หลกั คณุ ธรรม หลกั ความโปร่งใส หลักการมีสว่ น
ร่วม หลักความรบั ผิดชอบ และหลกั ความคุ้มค่า ท้ังนไี้ ดศ้ กึ ษาค้นควา้ นาองคค์ วามรู้ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆ ในวงวชิ าการและวิชาชพี มาพฒั นา ได้วเิ คราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา จดุ เด่น จุดด้อย โอกาสและอุปสรรค เพอ่ื นาข้อมูลมาวิเคราะห์ผล แลว้ กาหนดเป็นวิสัยทัศน์ พนั ธกิจ เปา้ หมาย และกลยุทธ์ในการพฒั นาการศึกษา จัดทาแผนปฏบิ ัติงานประจาปี แผนการใช้จา่ ยประจาปีงบประมาณโดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มีปฏิทินการปฏิบัติงานอย่างต่อเน่ือง มีการประกันคุณภาพ มีการนาข้อมูลที่ได้จาก การวิเคราะห์ จัดทาเป็นสารสนเทศแลว้ ไปใชใ้ นการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขนึ้ ซ่ึงการบรหิ ารท่ีดสี ่งผลให้เด็กเกิด พัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพและเป็นคนดี มคี วามสขุ จากเหตุผลดังกล่าวโรงเรียนบา้ นปารี จงึ ไดอ้ อกแบบรปู แบบการบริหารจัดการพัฒนาและ การจัดการเรยี นรู้ 4 ข้ัน โรงเรยี นมีสุข ในการบรหิ ารจัดการศกึ ษาปฐมวัยเพื่อพัฒนา พัฒนาการดา้ นรา่ งกาย จิตใจ สงั คม สติปัญญาและอารมณข์ องเด็ก โดยการจดั ประสบการณ์ดา้ นต่างๆ เพื่อใหเ้ ด็กได้พฒั นาความรู้ ความเข้าใจโลกท่อี ยูร่ อบตัว และปลูกฝงั คุณลกั ษณะและการเป็นผแู้ สวงหาความรูเ้ ชอื่ มโยงสู่ทกั ษะชีวติ ผา่ น กระบวนการจัดประสบการณ์ของครทู ม่ี ุ่งสง่ เสริมความร่วมมือ มิตรภาพ และการช่วยเหลอื ซง่ึ กันและกนั อนั เป็นผลมาจากการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม การแก้ปัญหารว่ มกนั อนั จะส่งผลให้เด็กอย่รู ่วมกนั อย่างมคี วามสุขในสังคม และประเทศชาติต่อไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: