Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องระดับภาษา

เรื่องระดับภาษา

Published by jirapa1965, 2020-06-15 06:57:17

Description: เรื่องระดับภาษา

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน เรอื่ งระดบั ภาษา นางจริ ภา รัตนาววิ ฒั น์ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ชานาญการพเิ ศษ โรงเรียนศีขรภูมิพสิ ัย อาเภอศีขรภูมิ จงั หวดั สุรินทร์ สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

คาชแ้ี จง เอกสารประกอบการเรียนการสอนเรื่องระดบั ภาษาน้ี จดั ทาขึ้นเพอ่ื ใช้ประกอบ การเรียนการสอนรายวิชาภาษาไทย สาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษา มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาของภาษาและรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ ตวั ชี้วัด ข้อ ๓ ใชภ้ าษา เหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะและบคุ คล รวมท้ังคาราชาศัพทอ์ ย่างเหมาะสม เอกสารฉบับน้ปี ระกอบดว้ ยใบความรู้ ใบงานและแบบทดสอบเร่ืองระดบั ภาษา ซึ่งนกั เรยี นสามารถศึกษาและเรยี นร้ไู ดด้ ว้ ยตนเองเป็นการเพม่ิ เติมเสรมิ ประสบการณ์ ได้เปน็ อยา่ งดี

ใบความรู้ เร่ืองระดบั ภาษา การใช้ภาษาขึ้นอยู่กบั กาลเทศะ สถานการณ์ สภาวะแวดล้อม และสมั พนั ธภาพระหว่างบุคคล ซ่ึงอาจแบง่ ภาษาเป็นระดับต่างๆไดห้ ลายลักษณะ เช่น (ภาษาระดับทเี่ ป็นแบบแผนและไมเ่ ปน็ แบบแผน) ,(ภาษาระดับพิธกี าร ระดบั กึง่ พิธกี าร ระดับไม่เปน็ ทางการ) ในชน้ั เรยี นน้ี เราจะชลี้ กั ษณะสาคญั ของภาษาเป็น ๕ ระดับ ดังนี้ ๑. ระดับพิธีการ ใชส้ ่อื สารกนั ในที่ประชมุ ที่จดั ขึน้ อย่างเปน็ ทางการ ได้แก่ การประชมุ รัฐสภา การกล่าวอวยพร การกล่าวตอ้ นรบั การกลา่ วรายงานในพธิ มี อบปรญิ ญาบตั ร ประกาศนยี บัตร การกล่าวสดดุ ี หรอื การกลา่ วเพื่อ จรรโลงใจใหป้ ระจกั ษ์ในคณุ ความดี การกล่าวปิดพธิ ี เป็นตน้ ผู้ส่งสารระดบั น้ีมักเป็นคนสาคัญสาคัญหรือมีตาแหนง่ สงู ผู้รับสารมกั อยใู่ นวงการเดียวกนั หรือ เปน็ กล่มุ คนส่วนใหญ่ สมั พันธภาพระหว่างผ้สู ่งสารกับผ้รู ับสารมีตอ่ กัน อยา่ งเป็นทางการ ส่วนใหญ่ผู้สง่ สารเป็นผกู้ ลา่ วฝ่ายเดยี ว ไม่มีการโต้ตอบ ผ้กู ลา่ วมกั ต้องเตรียมบทหรือวาทนพิ นธ์ มาลว่ งหน้า และมักนาเสนอด้วยการอ่านต่อหน้าทปี่ ระชมุ ๒. ภาษาระดับทางการ ใชบ้ รรยายหรืออภิปรายอย่างเป็นทางการในท่ีประชมุ หรือ ใช้ในการเขียนข้อความ ที่ ปรากฏตอ่ สาธารณชนอย่างเป็นทางการ หนงั สือที่ใช้ติดต่อกับทางราชการหรือในวงธรุ กิจผูส้ ง่ สาร และผูร้ บั สารมกั เป็นบุคคลในวงอาชพี เดียวกนั ภาษาระดบั นเี้ ปน็ การส่ือสารใหไ้ ด้ผลตามจดุ ประสงค์ โดยยดึ หลกั ประหยัดคาและ เวลาให้มากท่ีสดุ

๓. ภาษาระดับก่งึ ทางการ คล้ายกับภาษาระดบั ทางการ แต่ลดความเปน็ งานเปน็ การลงบ้าง เพ่อื ให้เกิด สัมพันธภาพระหวา่ งผู้สง่ สารและผู้รับสารซึง่ เป็นบคุ คลในกลุ่มเดยี วกนั มีการโต้แย้ง หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กนั เป็นระยะๆ มักใชใ้ นการประชุมกลมุ่ หรือการอภปิ รายกลุ่ม การบรรยายในช้ันเรยี น ข่าว บทความใน หนังสือพมิ พ์ เน้ือหามักเป็นความร้ทู วั่ ไป ในการดาเนนิ ชวี ิตประจาวัน กจิ ธรุ ะต่างๆ รวมถึงการปรกึ ษาหารือรว่ มกนั ๔. ภาษาระดบั ไม่เปน็ ทางการ ภาษาระดบั น้ีมักใชใ้ นการสนทนาโต้ตอบระหวา่ งบุคคลหรือกล่มุ บุคคลไมเ่ กิน ๔-๕ คนในสถานท่ีและกาละที่ไม่ใช่สว่ นตวั อาจจะเป็นบคุ คลที่คุ้นเคยกนั การเขยี นจดหมายระหวา่ งเพ่ือน การรายงาน ขา่ วและการเสนอบทความในหนงั สอื พิมพ์ โดยทว่ั ไปจะใช้ถ้อยคาสานวนท่ีทาให้รู้สกึ คุน้ เคยกนั มากกวา่ ภาษาระดับทางการหรือภาษาท่ใี ชก้ นั เฉพาะกลุ่ม เน้ือหาเป็นเรอื่ งทว่ั ๆไป ในการดาเนนิ ชีวิตประจาวนั กิจธรุ ะตา่ งๆ รวมถงึ การปรึกษาหารือหรือร่วมกนั ๕. ภาษาระดับกันเอง ภาษาระดับนีม้ ักใช้กันในครอบครัวหรอื ระหวา่ งเพ่ือนสนิท สถานท่ีใชม้ ักเป็นพ้ืนทีส่ ่วนตัว เน้ือหาของสารไมม่ ีขอบเขตจากดั มักใชใ้ นการพูดจากัน ไม่นยิ มบนั ทกึ เปน็ ลายลักษณ์อกั ษรยกเวน้ นวนิยายหรอื เรื่องส้นั บางตอนทีต่ ้องการความเปน็ จริง (การแบ่งภาษาดงั ที่กล่าวมาแลว้ มไิ ดห้ มายความวา่ แบ่งกนั อยา่ งเดด็ ขาด ภาษาระดับหนึง่ อาจเหลอ่ื มล้ากบั อกี ระดับ หนง่ึ กไ็ ด้)

ระดับ โอกาสและสถานท่ี ลักษณะการใชภ้ าษา ภาษา การเปิดประชุม การกลา่ วรายงาน การกล่าวสนุ ทรพน์ มลี ักษณะพธิ ีรีตรอง ภาษาไพเราะ 1. พธิ กี าร การกล่าวต้อนรบั การกลา่ วอวยพร สละสลวย 2. ทางการ การอภปิ รายหรือการประชุม รายงานวชิ าการ ประกาศ ภาษาทางการการ ถ้อยคา ทางการ จดหมายธุรกิจ ตรงไปตรงมา มีเทคนิค หรือศัพท์ วชิ าการบ้าง 3. กงึ่ การประชมุ ย่อย การอภิปราย การเสวนา การบรรยยใน ใชภ้ าษาเขียน มภี่ าษาเขียนแทรกอยู่ ทางการ ห้องเรยี น บา้ ง 4. ไมเ่ ปน็ บทความแสดงความคิดเหน็ ในนติ ยสาร ใช้ภาษาพูดและสภุ าพ การสนทนา ทางการ หรอื หนังสอื พิมพ์ รายการสาระบันเทิงทาง โต้ตอบกันไมเ่ กิน 5 คน ในท่ที ่ีไม่เปน็ ส่วนตวั โทรทศั น์ การปรึกษาหารือกัน 5. กนั เอง การสนทนาเร่อื งสว่ นตวั การทกั ทายระหว่างเพ่ือนสนิท ใช้ภาษาพูด อาจมคี าคะนองหรอื ภาษา ถิ่น ใช้ในวงจากดั ขอ้ ควรสงั เกตเกีย่ วกบั ความลดหลนั่ ตามระดบั ภาษา ๑. ภาษาทใ่ี ชใ้ นระดับพธิ ีการ ระดบั ทางการและระดบั กึง่ ทางการ คาสรรพนามทใ่ี ชแ้ ทนตนเอง(สรรพนามบุรุษท่ี ๑) มักใช้ กระผม ผม ดิฉัน ขา้ พเจ้า คาสรรพนามทใ่ี ช้แทนผู้รบั สาร(สรรพนามบรุ ุษที่ ๒) มักจะใช้ ทา่ น ทา่ น ทั้งหลาย สว่ นภาษาระดบั ที่ไม่เป็นทางการและระดับกันเอง ผ้สู ่งสารจะใช้สรรพนาม ผม ฉัน ดิฉนั กัน เรา หนู ฯลฯ หรืออาจใชค้ านามแทน เชน่ นดิ ครู หมอ แม่ พอ่ พ่ี ป้า ฯลฯ ๒. คานาม คานามหลายคาเราใช้เฉพาะในภาษาระดบั กึ่งทางการ ระดบั ไมเ่ ป็นทางการและระดบั กันเองเท่านั้น หากนาไปใช้เป็นภาษาระดับทางการจะต่างกนั ออกไป เชน่ โรงจานา>สถานธนานุเคราะห์ โรงพกั >สถานตี ารวจ หมู>สกุ ร ควาย>กระบือ รถเมล์>รถประจาทาง หมา>สนุ ัข เป็นตน้ ๓. คากรยิ า คากรยิ าทีแ่ สดงระดับภาษาต่างๆอย่างเห็นได้ชัด เชน่ ตาย อาจใช้ ถงึ แก่กรรม เสยี ล้ม กนิ อาจใช้ รับประทาน บรโิ ภค ๔. คาวเิ ศษณ์ บางคาใช้คาขยายกรยิ า มกั ใช้ในระดบั ภาษาไมเ่ ปน็ ทางการและระดบั กนั เองหรอื อาจใช้ในภาระดับ กง่ึ ราชการก็ได้ คาวิเศษณเ์ หล่าน้มี กั เป็นมักเป็นคาบอกลักษณะหรือแสดงความรู้สึก เชน่ เปร้ยี วจ๊ีด เย็นเจย๊ี บ วง่ิ เต็มเหยยี ด ฟาดเต็มเหนย่ี ว เยอะแยะ ภาษาระดับทางการขึ้นมีใช้บา้ ง เชน่ เป็นอันมาก มาก

ใบงานเร่ืองระดับภาษา ตอนท่ี ๑ คำสง่ั ให้นกั เรียนวิเครำะห์ข้อควำมตอ่ ไปนี ้ แล้วเลอื กใสร่ ะดบั ภำษำให้เหมำะสม ระดบั พธิ ีการ ระดับทางการ ระดับก่งึ ทางการ ระดบั ไม่เป็ นทางการ ระดับกนั เอง ๑. “ขอพระบรมเดชำนภุ ำพแหง่ สมเด็จพระบรุ พมหำกษัตริยำธิรำช จงค้มุ ครองประเทศชำตแิ ละประชำชำวไทยให้ผำ่ นพ้น ภบิ ตั ทิ งั้ ปวง อริรำชศตั รูภำยนอกอยำ่ ลว่ งเข้ำทำอนั ตรำยได้ ศตั รูหมพู่ ำลภำยในให้วอดวำยพำ่ ยแพ้ภยั ตวั บนั ดำลควำมสขุ ควำมมน่ั คงให้บงั เกิดทวั่ มณฑล บนั ดำลควำมร่มเยน็ แก่อเนกนกิ รชนครบคำมเขตขอบขณั ฑสมี ำ” ................................................................................................................. ๒. “ช่วงเรียนอยใู่ นระดบั มธั ยม ผ้ทู ม่ี คี วำมขยนั มงุ่ มนั่ จะเข้ำมหำวทิ ยำลยั ให้ได้ จะไมส่ นใจ สง่ิ แวดล้อมรอบกำย ทงั้ สนิ ้ ยกเว้นสง่ิ ทเ่ี ขำคิดวำ่ จะสำมำรถทำให้เขำสอบเข้ำมหำวทิ ยำลยั ได้ ชีวิตนกั เรียนมธั ยมจงึ มแี ตต่ วิ ตวิ และตวิ กีฬำฉนั ไมเ่ ลน่ กิจกรรมฉนั ไมม่ เี วลำทำ และยง่ิ ห้องสมดุ ฉนั ไมท่ รำบวำ่ จะเข้ำไปทำไม เพรำะเวลำทงั้ หมดจะต้องใช้ทอ่ งตำรำ อยำ่ งเดยี ว แล้วก็มกั จะประสบควำมสำเร็จตำมท่ีคดิ เสยี ด้วยคอื สอบเข้ำมหำวทิ ยำลยั ได้” ................................................................................................................... ๓. “เฮ้ย! ใครเอำหมำตำยมำโยนไว้ในวดั วะ เหมน็ วำยร้ำยเลย” อีกคนหนงึ่ ค้ำนวำ่ “ข้ำไมเ่ ห็น มหี มำนหี่ วำ่ ” แหงนหน้ำขนึ ้ ทำจมกู ยน่ “ป่ บู ญุ แกคงทำกบั ข้ำวทงิ ้ ไว้จนบดู เหม็นเนำ่ ละ่ มงั้ ” ...................................................................................................................... ๔. “แพทย์หญิงรุ่นพน่ี หี ้ นงั เหนยี วดจี ริง แก่เร็วตำยยำกกวำ่ แพทย์ชำยถึง ๒ เทำ่ แพทย์รุ่นนชี ้ อบกลทีพ่ ญำมจั จรุ ำชชอบ แพทย์ชำยมำกกวำ่ ผิดปกติจริงๆ แพทย์ชำยตำยไปแล้ว ๑๒ คน แพทย์หญิงตำยไปเพยี ง ๒ คน” ........................................................................................................ ๕. “บทละครไทยเป็นอกี รูปเป็นอกี รูปแบบหนงึ่ ของวรรณกรรมไทย บทละครของไทยเป็นวรรณกรรมท่ปี ระพนั ธ์ขนึ ้ ทงั้ เพื่ออำ่ น และเพ่ือแสดง รูปแบบท่นี ิยมกนั มำแตเ่ ดิมคอื บทละครรำ ตอ่ มำมกี ำรปรับปรุงละครรำให้ทนั สมยั ขนึ ้ ตำมควำมนยิ มแบบ ตะวนั ตก จงึ มีรูปแบบใหมเ่ กิดขนึ ้ ได้แก่ ละครดกึ ดำบรรพ์ ละครพนั ทำง เป็นต้น นอกจำกนยี ้ งั มกี ำรรับรูปแบบละคร จำก ตะวนั ตกมำดดั แปลงให้เข้ำกบั สงั คมไทยและวฒั นธรรมไทย ทำให้กำรละครไทยพฒั นำขนึ ้ โดยมกี ระบวนกำรแสคงที่ แตกตำ่ ง ไปจำกละครไทยทมี่ อี ยู่ มำเป็นละครร้อง ละครพดู และ ละครสงั คีต” ...............................................................................................................

ตอนท่ี ๒ คำสง่ั จงเปลย่ี นคำจำกภำษำไมเ่ ป็นทำงกำรตอ่ ไปนี ้ ให้เป็นภำษำทำงกำรให้ถกู ต้อง ภำษำไมเ่ ป็นทำงกำร ภำษำทำงกำร ๑. โรงหนงั ๒. ใบรับรอง ๓. ใบขบั ข่ี ๔. แสตมป์ ๕. ตตี รำ ๖. ผวั เมยี ๗. มอไซค์ ๘. รถเมล์ ๙. ตำย ๑๐. พดู โกหก ๑๑. อ้วก ๑๒. งำนแตง่

๑๓. งำนศพ ๑๔. โลงศพ ๑๕. ห้องแอร์

แบบทดสอบเร่อื งระดบั ภาษา ๑. ข้อใดเป็นภาษาทางการ ก. นกั วชิ าการไทยได้เสนอขอ้ คิดเหน็ อนั เป็นประโยชนห์ ลายอยา่ งในทีป่ ระชมุ นานาชาติ ข. การประเมนิ มหาวทิ ยาลัยมีขอ้ ดีคือทาให้เกดิ การแข่งขนั ระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั ตา่ ง ๆ ค. การจดั ลาดับวตั ถุประสงค์จะชว่ ยให้ทราบวา่ การอุดมศึกษาไทยควรดาเนินไปทศิ ทางไหน ง. การประสานงานระหว่างอาจารย์ในประเทศกบั นักวชิ าการทเ่ี พิง่ จบจากตา่ งประเทศดาเนนิ ไปดว้ ยดี ๒. ข้อใดใช้ภาษาระดับไม่เป็นทางการ ก. เราจะรกั ษามุมสงบของปา่ อมุ้ ผางไว้ได้ดว้ ยการจดั การท่องเท่ียวเชงิ อนรุ ักษ์ ข. ภาวะหนเี้ สียเกดิ จากความไมส่ จุ ริตของลูกหนี้ การปรบั ค่าเงินบาท และการทรี่ ฐั บาลปิดสถาบนั การเงนิ ค. ประเทศชาติจะเจริญร่งุ เรืองได้ ประชาชนทุกสาขาอาชพี ตอ้ งเป็นคนท่ีมีทงั้ ความสามารถและคุณธรรม ง. การศกึ ษาสมัยปฏริ ูป ครูต้องพยายามให้นักเรยี นออกความคดิ ความเห็นเร่ืองตา่ ง ๆ เอง โดยครจู ะทา หนา้ ทีเ่ ป็นเพยี งผู้จัดการหอ้ งเรียน ๓. ข้อใดใช้ภาษาในงานเขียนเชิงวชิ าการได้เหมาะสมท่ีสุด ก. การได้รบั เงินทุนสนับสนุนไมเ่ พยี งพอไม่ใชป่ ญั หาสาคัญที่สดุ ของมหาวทิ ยาลัย ข. คนทั่วไปอาจคิดไม่ออกว่าเหตุใดการศึกษาจึงจะไปโยงใยกบั เศรษฐกิจของประเทศ ค. ความอ่อนแอของอดุ มศึกษาไทย คือสาเหตุใหญ่ท่ที าใหป้ ระเทศไทยเสื่อมทรุดลงเร่อื ย ง. ประเทศไทยต้องสร้างทีมร่วมระหว่างอาจารย์มหาวทิ ยาลัยในประเทศกบั นักวชิ าการต่างประเทศ ๔. ข้อใดเป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนเชิงวชิ าการได้เหมาะสมท่ีสุด ก. ความอว้ นดจู ะกลายเป็นเรื่องใหญ่ท่ีใครต่อใครสนใจเปน็ พเิ ศษ ข. ปัจจบุ ันวงการแพทย์มีความเหน็ วา่ ความอว้ นเป็นโรคท่ีต้องรกั ษา ค. ความอว้ นยงั เป็นสาเหตุที่ทาให้หลาย ๆ โรคเกดิ ตามมาอีก ง. ปจั จบุ ันมีธุรกิจเกยี่ วกบั ความสวยความงามเกิดขน้ึ ทว่ั ไป ๕. ข้อใดใช้ภาษาระดับทางการ ก. หวยบนดินเปน็ ที่นยิ มกนั มาก ข. โทรทศั น์ชอ่ งเจ็ดสมี ีรายการใหม่หลายรายการ ค. การจราจรในทา่ อากาศยานดอนเมืองคบั คัง่ มาก ง. สถานีตารวจดอนเมืองอยู่ใกลก้ บั สถานรี ถไฟดอนเมอื ง

๖. ข้อใดใช้ภาษาระดับทางการ ก. การกลบั คาใหก้ ารของผตู้ ้องหามผี ลอยา่ งย่งิ ตอ่ กระบวนการสอบสวน ข. จนถงึ ขณะน้กี ารปฏิรปู การศกึ ษาไทยยงั ไม่เป็นรูปเป็นร่างเทา่ ใดนัก ค. รฐั บาลแถลงว่านบั แตน่ เ้ี ป็นต้นไปจะจริงจงั กับการแก้ปัญหาความยากจน ง. เพราะความไม่สนั ทัดตอ่ การเมืองเปน็ ผลให้บ้านเราตอ้ งเปลย่ี นรัฐมนตรีอยเู่ สมอ ๗. จากข้อความต่อไปนี้ข้อใดภาษาระดับก่ึงทางการ ก. ทาไมผูห้ ญงิ ทีม่ ลี ูกแลว้ ถงึ อ้วน สาเหตุที่คนมกั นึกไม่ถงึ คือแม่เสียดายของท่ลี ูกกินเหลอื ข. ผ้หู ญิงที่ปลอ่ ยให้พงุ พลยุ้ เป็นพะโล้อย่างนี้ นอกจากจะดไู มไ่ ดแ้ ล้วยงั จะตายไวเสยี ด้วย ค. การประชุมวชิ าการเร่ืองโรคอว้ นครงั้ นี้จัดขึ้นเนอ่ื งจากโรคอว้ นเปน็ ปัญหาทางสุขภาพที่ทุกประเทศท่วั โลกกาลังประสบอยู่ ง. การลดน้าหนักด้วยวธิ ีง่าย ๆ น้นั เราจะต้องควบคุมอาหารและหลีกเลยี่ งอาหารที่มีไขมนั สูง ๘. จากข้อความต่อไปนี้ข้อใดภาษาระดับกันเอง ก. ทาไมผู้หญิงทีม่ ลี ูกแล้วถงึ อ้วน สาเหตทุ ีค่ นมกั นึกไม่ถึงคือแมเ่ สยี ดายของทลี่ ูกกนิ เหลือ ข. ผหู้ ญิงทปี่ ล่อยให้พุงพลุ้ยเป็นพะโล้อย่างนี้ นอกจากจะดไู ม่ไดแ้ ล้วยังจะตายไวเสยี ดว้ ย ค. การประชุมวชิ าการเร่ืองโรคอว้ นครัง้ นี้จัดขึ้นเนื่องจากโรคอ้วนเป็นปญั หาทางสขุ ภาพทที่ ุกประเทศท่วั โลกกาลงั ประสบอยู่ ง. การลดน้าหนกั ดว้ ยวธิ ีง่าย ๆ นนั้ เราจะตอ้ งควบคุมอาหารและหลกี เลย่ี งอาหารท่ีมีไขมันสงู ๙. จากข้อความต่อไปน้ีข้อใดภาษาระดับไม่เป็นทางการ ก. ทาไมผหู้ ญงิ ทมี่ ีลกู แลว้ ถงึ อ้วน สาเหตุทค่ี นมักนึกไม่ถึงคือแมเ่ สียดายของทล่ี ูกกินเหลือ ข. ผู้หญิงท่ีปล่อยให้พงุ พลุ้ยเป็นพะโล้อย่างนี้ นอกจากจะดไู ม่ได้แลว้ ยังจะตายไวเสยี ด้วย ค. การประชุมวชิ าการเร่ืองโรคอ้วนคร้ังนีจ้ ดั ขึ้นเน่ืองจากโรคอ้วนเปน็ ปัญหาทางสขุ ภาพทีท่ ุกประเทศทั่ว โลกกาลงั ประสบอยู่ ง. การลดน้าหนกั ดว้ ยวิธงี า่ ย ๆ นน้ั เราจะต้องควบคมุ อาหารและหลกี เล่ยี งอาหารท่มี ีไขมนั สงู ๑๐. จากข้อความต่อไปนี้ข้อใดภาษาระดับเป็นทางการ ก. ทาไมผู้หญงิ ที่มลี กู แลว้ ถงึ อ้วน สาเหตทุ คี่ นมกั นึกไม่ถงึ คือแม่เสียดายของท่ลี ูกกนิ เหลอื ข. ผูห้ ญงิ ทป่ี ลอ่ ยให้พงุ พล้ยุ เป็นพะโล้อย่างนี้ นอกจากจะดไู มไ่ ดแ้ ล้วยงั จะตายไวเสยี ด้วย ค. การประชมุ วิชาการเร่ืองโรคอ้วนครงั้ น้จี ัดข้นึ เน่อื งจากโรคอว้ นเปน็ ปัญหาทางสุขภาพที่ทุกประเทศท่วั โลกกาลงั ประสบอยู่ ง. การลดน้าหนักด้วยวธิ งี า่ ย ๆ นน้ั เราจะต้องควบคมุ อาหารและหลกี เลย่ี งอาหารทีม่ ีไขมันสูง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook