นาฎศลิ ปพ์ ้นื เมือง 4 ภาค ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5
เป็นศลิ ปะการราและการละเลน่ ทคี่ นสว่ นใหญ่นิยมเรกิ กนั วา่ “ฟอ้ น” นาฎศิลป์ของภาคเหนือยังไดร้ บั อิทธผิ ลจากประเทศใกล้เคียง ไดแ้ ก่ พมา่ ลาว จีน และวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อย เชน่ ไทยใหญ่ เงี้ยว ชาวไทยภูเขาเป็นตน้ การฟอ้ นแบง่ ออกเปน็ 2 แบบ คอื แบบด้งั เดิม และ แบบปรับปรงุ ข้นึ เอกลกั ษณท์ างการแสดง คือ มลี ีลาท่าราทช่ี ้า มีความอ่อนชอ้ ย ออ่ นหวาน น่มิ นวล
ลักษณะการแตง่ กาย ฟอ้ นสาวไหม จะแต่งกายแบบวัฒนธรรมของชาวเหนอื และเหมาะสมกับลกั ษณะของการแสดง ดนตรที ใี่ ชป้ ระกอบการแสดง จะใชว้ งดนตรีพ้ืนบา้ น เชน่ วงกลองแอว วงสะลอ้ ซอ ซงึ วงกลองป่เู จ่ โอกาสทแ่ี สดง มักจะเลน่ ในงานประเพณี และตอ้ นรบั แขกบา้ นแขกเมอื ง
ฟอ้ นดาบ ฟอ้ นมา่ นม้ยุ เชยี งตา
ภาคกลางเป็นทร่ี วมของศิลปวฒั นธรรม การแสดงจึงมกี ารถ่ายถอดสบื ต่อกนั และพัฒนาดดั แปลงขึ้นเร่ือยๆ และออกมาในรปู แบบของขนบธรรมเนยี มประเพณี และการประกอบอาชีพ เชน่ เตน้ การาเคียว เพลงเรือ เพลงฉ่อย เพลงอแี วว ลิเก ราเถดิ เทิง หรอื รากลอง ยาว เอกลกั ษณข์ องภาคกลาง คือ การรา่ ยราท่ีใชม้ ือ แขนและลาตวั เชน่ โขน ละครชาตรี ละครนอก ละครใน
ลักษณะการแตง่ กาย การแตง่ กายในภาคกลางจะมีลักษณะท่ีเป็นวัฒนธรรมพ้นื บา้ น ผู้หญิงจะนุ่งโจงกระเบนหรอื ผ้าซิ่น สวมเส้อื แขนกระบอก ถา้ เป็นผู้ชาย จะนงุ่ กางเกงสามส่วน สวมเสื้อคอกลอมแขนสน้ั เน้นความเรียบง่าย ดนตรที ใ่ี ชป้ ระกอบการแสดง วงกลองยาว วงปี่พาทย์ตา่ งๆ โอกาสทแ่ี สดง มักจะเล่นในงานประเพณี และตอ้ นรับแขกบา้ นแขกเมือง
ราเถดิ เทงิ หรือ รากลองยาว ระบาเกย่ี วขา้ ว
ราวงมาตรฐาน
เปน็ การแสดงทค่ี อ่ นขา้ งเร็ว กระฉบั กระเฉง สนกุ สนาน การรา่ ยราจะมีลักษณะเฉพาะของการเคล่อื นไหวอวัยวะส่วนตา่ งๆของรา่ งกาย เชน่ ก้าวเทา้ การวาดแขน การยกเท้า การส่ายมือ การสา่ ยสะโพก ลลี าทา่ รา มลี ักษณะแอ่นตัวแลว้ โยกตัวไปมา เวลาก้าวตามจงั หวะก็มกี ารกระทั้นตวั ดีดขา ขยับเอว ขยบั ไหล่ เนน้ ความสนุกสนานเช่น เชง้ิ กระติบข้าว เช้ิงโปงลาง เชิ้งกระหยัง เป็นตน้ นอกจากนีย้ งั มี ฟ้อนที่เป็นการแสดงคลา้ ยภาคเหนอื เชน่ ฟ้อนภไู ท (ผู้ไท) เป็นต้น
ลกั ษณะการแตง่ กาย ผูห้ ญิง นงุ่ ผา้ ซ่ินยาวคลุมเข่า สวมเสื้อแขนกระบอกหม่ สไบ ผมเกลา้ มวย สวมเคร่อื งประดบั เงิน ผู้ชายนุ่งกางเกงขาก๊วย สวมม่ออ้อมแขนสั้น มีผ้าคาดเอว หรือพาดบา่ ดนตรที ใี่ ชป้ ระกอบการแสดง พิณ แคน โหวด โปงลาง กลองตมุ้ กลองยาว โอกาสทแี่ สดง มักจะเล่นในงานพิธกี รรมทางศาสนา และความสนุกสนานรื่นเริงในเทศกาลตา่ งๆ
ฟอ้ นภูไท เชิ้งแหยไ่ ข่มดแดง
เซ้งิ กระตบ๊ิ เซิ้งสวงิ
การแสดงนาฎศลิ ปพ์ นื้ เมอื งภาคใต้ จะแสดงถงึ วิธชี ีวติความเปน็ อยู่ การประกอบอาชพี ของชาวใต้ เช่นระบารอ่ นแร่ ระบากรีดยาง การแสดงทเี่ ปน็ เอกลกั ษณเ์ ฉพาะ คอื จังหวะทเี่ ร่งเรา้ กระฉับกระเฉง ผิดจาก ภาคอ่ืนๆ และเนน้ จงั หวะมากกวา่ ทานอง โดยมลี ักษณะท่เี ด่นชัดของเคร่ืองดนตรี ประเภทเคร่ืองใหจ้ งั หวะเป็นสาคญั สว่ นลลี าทา่ รา จะมลี กั ษณะคล่องแคล่ว สนุกสนาน เน้นการโยกยา้ ย ส่ายสะโพก มศี ิลปะการเลน่ เทา้
ลกั ษณะการแตง่ กาย การแตง่ กายน้ันแตกตา่ งกันในการใช้วสั ดุ และรปู แบบโดยมเี อกลกั ษณ์ไปตามเชื้อชาติ ของผู้คน อันหลากหลายท่เี ข้ามาอยู่อาศัยในดินแดนอนั เก่าแก่ ดนตรที ใี่ ชป้ ระกอบการแสดง ทับ โทน โหมง่ กลองโทน กลองตกุ๊ กลองโนรา รามะนา ฆอ้ งคู่ โอกาสทแ่ี สดง มักจะเลน่ ในงานพธิ ีกรรมทางศาสนาและความ สนุกสนานรนื่ เรงิ ในเทศกาลตา่ งๆ
ลเิ กฮลู ู
ระบาตารกี ปี ัส ระบาร่อนแร่
ระบาชาวเล
พบกนั ใหมค่ าบหน้าครบั
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: