เล่มโครงงานม.ต้น

d

คำนำ โครงงานเคร่ืองร่อนมลู ไสเ้ ดือน น้ีเปน็ ส่วนหนึ่งของวิชาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทช 2๑๐๐๑ กลุ่มของข้าพเจ้า จดั ทาโครงงานเคร่ืองร่อนมูลไส้เดือน เพ่ือให้ผู้เรียนมคี วามรู้ในเร่ืองการประดิษฐ์เครื่องร่อนมูลไส้เดอื นท่ีสามารถ คดั แยกมลู ไส้เดอื นไดอ้ ย่างรวดเร็วและมีประสทิ ธิภาพ คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าผู้ท่ีอ่านโครงงานจะได้รับความรู้จากโครงงานเร่ืองนี้และหวังว่า จะเปน็ ประโยชนก์ ับท่านผอู้ า่ นทุกๆ ทา่ น โครงงานเลม่ นอ้ี าจมีสิ่งใดผดิ พลาดกข็ ออภยั มา ณ โอกาสน้ี คณะผูจ้ ัดทา

สำรบัญ หน้ำ กิตตกิ รรมประกาศ ก บทคดั ย่อ บทท่ี 1 บทนำ ข ที่มาและความสาคัญ ๑ จุดมงุ่ หมายของการศึกษา แนวคิดในการทางาน ๑ ขอบเขตของการศกึ ษา บทท่ี 2 เอกสำรท่เี ก่ยี วข้อง ๑ บทท่ี 3 วธิ ีกำรดำเนินกำรศึกษำค้นควำ้ สถานทแี่ ละระยะเวลา ๑ วสั ดแุ ละอุปกรณ์ วิธกี ารนาเนนิ การศึกษา ๑ วธิ กี ารทา บทท่ี 4 ผลกำรศกึ ษำค้นคว้ำและอภปิ รำย ๒ บทท่ี 5 สรปุ ผลกำรศกึ ษำค้นคว้ำ สรุปผลการศึกษาค้นคว้า ๕ ประโยชนข์ องโครงงาน ขอ้ เสนอแนะ ๕ เอกสารอา้ งองิ ๕ ๖ ๗ ๙ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐

ก กิตตกิ รรมประกำศ โครงงานเคร่ืองร่อนมูลไส้เดือน สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ซ่ึงได้รับคาแนะนาจากอาจารย์ศิริพร ศรีหิรัญ ท่ีได้เสียสละเวลาถ่ายทอดความรู้ท่ีเข้าใจงา่ ยเพือ่ จะนามาประยกุ ต์ใชใ้ นการจดั ทาโครงงาน คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าโครงงานเคร่ืองร่อนมูลไส้เดือน น้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษา ค้นควา้ ต่อไป คณะผจู้ ัดทา ข

โครงงำนเคร่อื งรอ่ นมลู ไสเ้ ดอื น คณะผ้จู ัดทำโครงงำน ๑. นายรวิ ธีระพันธ์ รหัสนักศึกษา 6212-00028-7 ๒. นายนิภทั รพงศ์ โพธิ์ทอง รหสั นักศกึ ษา 6212-00008-1 ๓. นางอนญั ญา สานอ้ ย รหัสนกั ศกึ ษา 6122-00010-6 ๔. นายภควตั รปู สวยดี รหัสนกั ศกึ ษา 6322-00015-7 บทคัดย่อ การจดั ทาโครงงานเครื่องรอ่ นมลู ไสเ้ ดือน มวี ัตถุประสงค์เพื่อเรียนร้หู ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สรา้ งนวตั กรรมใหมเ่ พือ่ ลดเวลา และประหยัดเวลาในการร่อนมูลไส้เดือนท่ีต้องใช้เวลานาน สามารถนาเศษ วสั ดุเหลอื ใช้มาสรา้ งนวตั กรรมใหม่ เพื่อใชใ้ นการเกษตรได้ ๑

บทที่ ๑ บทนำ ทีม่ ำและควำมสำคญั จากความเชื่อว่ามูลไส้เดือนดินน้ันมีธาตุอาหารต่าง ๆ ท่ีจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช สามารถ นามาใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้ดี ซ่ึงกศน.ตาบลสาลีได้มีการเลี้ยงไส้เดือนดังกล่าวแต่การจะนามูลไส้เดือนมาคัดแยก ค่อนข้างใช้เวลานาน ด้ังนั้นคณะผู้จัดทาจึงได้คิดค้นนวัตกรรมในการคัดแยกมูลไส้เดือนได้อย่างรวดเร็วและมี ประสิทธภิ าพ จากข้อความข้างต้นกลุ่มของข้าพเจ้าได้เห็นความสาคัญดังกล่าว จึงได้จัดทาโครงงานเคร่ืองร่อน มูลไส้เดือน เพื่อลดเวลา และประหยัดเวลาในการร่อนมูลไส้เดือนที่ต้องใช้เวลานาน และสามารถนาเศษวัสดุ เหลอื ใชม้ าสรา้ งนวตั กรรมใหม่ เพือ่ ใช้ในการเกษตรได้ จุดมงุ่ หมำยของกำรศึกษำ ๑. เพ่ือคัดแยกมูลไส้เดือนและไส้เดือนออกจากกัน ๒. เพอ่ื ลดเวลาในการคดั แยกมลู ไส้เดือน แนวคิดในกำรทำงำนโครงงำน สามารถประดิษฐ์เคร่ืองร่อนมูลไสเ้ ดอื นทปี่ ระหยัด ลดต้นทุน และสามารถใชง้ านได้จริง ขอบเขตกำรศกึ ษำ เพ่อื ศกึ ษาเกยี่ วกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและการประดษิ ฐ์เคร่ืองร่อนมลู ไส้เดือนทส่ี ามารถ นามาดัดแปลงให้เกิดเป็นนวตั กรรมในอนาคตต่อไป ๒

บทท่ี ๒ เอกสำรทีเ่ กย่ี วขอ้ ง กำรศกึ ษำกำรทำเครอ่ื งรอ่ นมลู ไสเ้ ดอื น ไดท้ ำกำรคน้ คว้ำข้อมูลที่เก่ยี วขอ้ ง ดงั มหี วั ข้อตอ่ ไปน้ี ๑. หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. นวัตกรรม 3. สะเตม็ ศกึ ษา (STEM Education) ๑. หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ควำมหมำยของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งเป็นหลักปรชั ญาท่ีสามารถเป็นได้ทง้ั หลักในการดาเนินชีวติ ของทุกคนในสังคม และเป็นหลักในการบริหารประเทศไปพร้อม ๆ กัน โดยเศรษฐกิจพอเพียงนั้น มีความหมายถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว รวมถึงการนาหลักวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผน และ การดาเนินงานในแต่ละข้ันตอนน้ัน จาเป็นที่จะต้องใช้ความรอบรู้ รอบคอบ และความระมัดระวังอย่างท่ีสุด ในขณะเดียวกันการทาให้ทุกคนในชาติมีจิตสานึกในคุณธรรม และความซอ่ื สัตย์สุจรติ ก็เป็นสิ่งที่จาเป็นที่จะต้อง ทาให้เกิดขน้ึ ให้ได้ คนทุกระดบั ชั้นจะต้องมีความรอบร้ทู ่เี หมาะที่ควร โดยใช้หลกั ความอดทน ความเพยี รพยายาม สติปัญญา และความรอบคอบในการดาเนินชีวิต มีการดาเนินชีวิตอย่างสมดุลและพร้อมเสมอสาหรับความ เปล่ียนแปลงทจี่ ะเกดิ ขน้ึ ท้งั ด้านวตั ถุ วัฒนธรรม สงิ่ แวดล้อม ควำมพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมีระบบ ภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงท้ังภายในภายนอก ท้ังน้ี จะต้อง อาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผน และการดาเนินการ ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสานึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความ รอบรู้ท่ีเหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุล และพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อมและ วฒั นธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอยา่ งดี ควำมหมำยของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จงึ ประกอบด้วยคณุ สมบัติ ดังนี้ 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเอง และผอู้ ่ืน เชน่ การผลิตและการบริโภคท่อี ยใู่ นระดับพอประมาณ 2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเก่ียวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่าง มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนคานึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดข้ึนจากการกระทา นั้นๆ อย่างรอบคอบ 3. การมีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลง ดา้ นต่างๆ ทจี่ ะเกดิ ข้ึน โดยคานึงถงึ ความเปน็ ไปไดข้ องสถานการณต์ ่างๆ ที่คาดวา่ จะเกิดข้ึนในอนาคต โดยมี เงอ่ื นไขของการตดั สินใจและดาเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ให้อยูใ่ นระดับพอเพียง ๒ ประการ ดังนี้ ๓

1. เง่ือนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ งรอบด้าน ความ รอบคอบที่จะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังใน การปฏบิ ตั ิ 2. เง่ือนไขคุณธรรม ท่ีจะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ ซอ่ื สัตย์สจุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต ๒. นวัตกรรม นวัตกรรม (Innovation) มีรากศัพท์มาจาก innovare ในภาษาลาติน แปลว่า ทาสิ่งใหม่ข้ึนมา ความสามารถในการใช้ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะ และประสบการณ์ทางเทคโนโลยีหรือการจัดการ มาพัฒนาและผลิตสินค้าใหม่ กระบวนการผลิตใหม่ หรือบริการใหม่ ซึ่งตอบสนองความต้องการของตลาด ความหมายของนวัตกรรมในเชิงเศรษฐศาสตร์คือ การนาแนวความคิดใหม่หรือการใช้ประโยชน์ จากส่ิงที่มีอยู่ แล้วมาใช้ในรูปแบบใหม่ เพื่อทาให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือก็คือ “การทาในส่ิงท่ีแตกต่างจากคนอื่น โดยอาศัยการเปล่ียนแปลงต่าง ๆ (Change) ท่ีเกิดข้ึนรอบตัวเราให้กลายมาเป็นโอกาส (Opportunity) และ ถ่ายทอดไปสู่แนวความคิดใหม่ท่ีทาให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และ สังคม” หรือจะกล่าวง่ายๆ การหยิบจับ เทคโนโลยีต่าง ๆ มาก่อใหเ้ กิดคุณคา่ และมูลคา่ การนาเทคโนโลยีต่าง ๆ มากอ่ ให้เกดิ ประโยชน์ และมีคุณค่า นั้น คอื นยิ าม ของ นวัตกรรม คือ ของใหม่ และ มีประโยชน์ ๓. สะเตม็ ศึกษำ (STEM Education) สะเตม็ ศกึ ษำ (STEM Education) คือ แนวทางการศึกษาท่ไี ดบ้ ูรณาการความรูร้ ะหวา่ งศาสตร์ วชิ าตา่ งๆ เชน่ ความรทู้ างวิทยาศาสตร์ ความรทู้ างดา้ นเทคโนโลยี ความรูท้ างดา้ นวิศวกรรม และความรดู้ า้ น คณติ ศาสตร์ รวมเข้าด้วยกัน - Science เป็นวิชาทว่ี า่ ด้วยการศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆ ในธรรมชาติ โดยอาศัยกระบวนการสืบเสาะ ทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Inquiry) -Technology เป็นวิชาท่วี ่าดว้ ยกระบวนการทางานทมี่ ีการประยกุ ต์ศาสตรส์ าขาอืน่ ๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง มาใช้ ในการแก้ปัญหา ปรับปรงุ แกไ้ ขหรอื พัฒนาส่งิ ตา่ งๆ เพอ่ื ตอบสนองความต้องการ หรอื ความจาเปน็ ของมนุษย์ - Engineering เป็นวชิ าที่เก่ียวกบั การสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือสรา้ งส่ิงตา่ งๆ เพื่อมาอานวยความสะดวก ของมนษุ ย์ โดยอาศัยความรดู้ ้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และกระบวนการทางเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ สร้างสรรคช์ ้นิ งานนนั้ ๆ - Mathematics เปน็ วิชาท่ีว่าด้วยการศกึ ษาเก่ยี วกับการคานวณ หรือ วชิ าทีเ่ กี่ยวกับการคานวณ เป็นพน้ื ฐานสาคัญในการศึกษาและต่อยอดทางวิศวกรรมศาสตร์ จุดเริม่ ต้นของแนวคดิ สะเต็มศึกษำ (STEM EDUCATION) เนื่องจากวา่ ประเทศสหรัฐอเมรกิ าไดป้ ระสบปญั หาเร่ือง ผลการทดสอบ PISA ของสหรัฐอเมรกิ า ทตี่ า่ กว่าหลายประเทศ และส่งผลตอ่ ขดี ความสามารถดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และวิศวกรรม ดังนน้ั รัฐบาลจงึ มีนโยบาย สง่ เสรมิ การศกึ ษาโดยพฒั นา STEM Education ขึ้นมา เพ่ือหวงั วา่ จะช่วยยกระดับ ผลการทดสอบ PISA (Program for International Student Assessment) และ TIMSS การทดสอบด้าน คณิตวิทยาศาสตร์ระดบั สากล (Trends in International Mathematics and Science Study)ให้สงู ขน้ึ และ จะเปน็ แนวทางหนง่ึ ในการส่งเสริมทกั ษะทจ่ี าเปน็ สาหรับผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 (21st Century skills) เชน่ ๔

1. ดา้ นปญั ญา ผ้เู รียนสามารถเขา้ ใจเน้ือหา 2. ดา้ นทกั ษะการคดิ ผเู้ รยี นสามารถพัฒนาทกั ษะการคิด โดยเฉพาะการคิดข้นั สงู เช่น การคดิ วเิ คราะห์ การคดิ สรา้ งสรรค์ ฯลฯ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ ผ้เู รยี นสามารถมีทกั ษะการทางานกลุ่มทักษะการสอ่ื สารท่ีมีประสิทธภิ าพ ดังนั้น สะเต็มศึกษานั้นจึงไม่ใช่เร่ืองใหม่แต่เป็นการต่อยอดหลักสูตรโดยการบูรณาการการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและกระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ เพ่ือเน้นการนาความรู้ไปใช้ แก้ปัญหาในการดาเนินชีวิตรวมทั้งเพื่อให้สามารถพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ท่ีเป็นประโย ชน์ ตอ่ การดาเนนิ ชีวิตและการประกอบอาชีพในอนาคต อีกทั้งวิชาท้ังสี่เป็นวิชาทีมีความสาคัญอย่างมากกับการเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความม่ันคงของประเทศ ซ่ึงล้วนเป็น วชิ าทีส่ ่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นได้มีความรู้ความสามารถทจี่ ะดารงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในโลกศตวรรษที่ 2 ๕

บทท่ี ๓ ๖ วิธีดำเนินกำรศกึ ษำคน้ คว้ำ สถำนที่และระยะเวลำ สถำนที่ ๑. กศน.ตาบลสาลี ๒. ผู้ศกึ ษาศกึ ษาค้นควา้ จากหนงั สือตา่ งๆ อินเทอร์เน็ต ระยะเวลำ เร่มิ ตั้งแต่วนั ที่ ๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖3 สนิ้ สดุ วนั ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖4 วสั ดุ/อุปกรณ์ ๑. ทอ่ PVC ขนาด ๖ หลุ ๒ เสน้ ๒. ทอ่ PVC ขนาด ๔ หุล ๑ เสน้ ๓. ขอ้ งอสามทาง PVC ขนาด ๖ หลุ ๘ อัน ๓. สามทาง PVC ขนาด ๖ หุล ๓ อนั ๔. สามทาง PVC ขนาด ๔ หุล ๑ อัน ๕. ข้องอ PVC ขนาดองศา 90 ๔ หลุ ๒ อัน ๖. ฝาครอบ ทอ่ PVC ขนาด ๔ หลุ ๑ อัน ๗. มดี ตดั ทอ่ PVC ๘. เลื่อย ๙. ตลบั เมตร ๑๐. ปากกาเคมี ๑๑. ถังพลาสติก ๒ ใบ ๑๒. ตาข่ายรูเล็ก ความยาว ๑ เซนติเมตร ๑๓. ตาข่ายรูใหญ่ ความยาว ๑ เซนติเมตร ๑๔. เหล็กเสน้ มีเกลยี ว ๑ เส้น ๑๕. นอต ๑๒ ตวั ๑๖. สว่าน ๑๗. สายเคเบิ้ลไทร์ วิธีกำรดำเนนิ กำรศึกษำ

๑. ศกึ ษาเอกสารตา่ งๆท่ีเกยี่ วขอ้ งจากแหลง่ การเรยี นรู้ ๒. เขยี นโครงงานเสนออาจารย์ ๓. เสนอขออนมุ ัติโครงงานไปที่ กศน.อาเภอบางปลามา้ ๔. จัดเตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณ์ ๕. ดาเนินการศึกษาคน้ คว้า รวบรวมขอ้ มูล ๖. นาเสนอโครงงาน รายงานผลการดาเนินงาน ๗. สรุปผลการดาเนินงาน ๗ วธิ กี ำรทำ

๑. นาไมต้ ลบั เมตรมาวัดท่อ PVC ขนาด ๖ หลุ แลว้ ขีดดว้ ยปากาเคมี ตามความยาวดงั น้ี ความยาว ๑๔๐ เซนติเมตร ๔ เสน้ ความยาว ๖๐ เซนติเมตร ๔ เสน้ ความยาว ๕๐ เซนตเิ มตร ๒ เสน้ ความยาว ๒๕ เซนติเมตร ๑ เส้น ความยาว ๒๒.๕ เซนติเมตร ๔ เสน้ จากนนั้ ใช้มีดตัดท่อ PVC ตดั ตามความยาวที่วดั ๒. นาไม้ตลบั เมตรมาวดั ท่อ PVC ขนาด ๔ หลุ แลว้ ขดี ดว้ ยปากาเคมี ตามความยาวดังนี้ ความยาว ๑๖๕ เซนตเิ มตร ๑ เสน้ ความยาว ๑๕ เซนตเิ มตร ๑ เส้น ความยาว ๑๐ เซนตเิ มตร ๑ เสน้ จากน้นั ใช้มีดตดั ท่อ PVC ตดั ตามความยาวที่วัด ๓. การทาฐาน นาท่อ PVC ขนาด ๖ หุล ความยาว ๕๐ เซนติเมตร ประกอบกบั ขอ้ งอสามทาง PVC ขนาด ๖ หุล (ดา้ นกวา้ ง) และนาท่อ PVC ขนาด ๖ หลุ ความยาว ๑๔๐ เซนตเิ มตรประกอบกับข้องอสามทาง PVC ขนาด ๖ หุล (ดา้ นยาว) ๔. นาทอ่ PVC ขนาด ๖ หุล ความยาว ๖๐ เซนตเิ มตร เสยี บด้านบน (ดา้ นสงู ) ๕. ประกอบดา้ นบนข้องอสามทาง PVC ขนาด ๖ หลุ ใส่ ๔ มุม จากน้ันนาทอ่ PVC ขนาด ๖ หลุ ความยาว ๒๒.๕ เซนติเมตรต่อกบั สามทาง PVC ขนาด ๖ หลุ และตอ่ ด้วยท่อ PVC ขนาด ๖ หลุ ความยาว ๒๒.๕ อีกครง้ั แล้วเสยี บกบั ข้องอสามทาง PVC ขนาด ๖ หลุ บิดสามทาง PVC ขนาด ๖ หุลใหต้ ั้งฉากประมาณ ๓๕ องศา (ฝ่งั ซ้าย) ฝ่ังขวาเสียบทอ่ PVC ขนาด ๖ หุล ความยาว ๑๔๐ เซนติเมตร ๖. การทาดา้ มหมนุ นา PVC ขนาด ๖ หลุ ความยาว ๒๕ เซนติเมตร เสยี บกับสามทาง ตรงกลาง (ด้านใดดา้ นหนึ่ง) จากนั้นสวมสามทาง PVC ขนาด ๖ หลุ และนาท่อ PVC ความยาว ๑๖๕ เซนติเมตร ขนาด ๔ หลุ มาเสยี บ ตอ่ กับทอ่ สามทาง PVC ขนาด ๖ หุล ให้ลอดผา่ นสามทาง PVC ขนาด ๖ หลุ (ดา้ นบน) ๗. การทาดา้ มจับ นาขอ้ งอ 90 องศา PVC ขนาด ๔ หุลเสียบกบั ทอ่ PVC ขนาด ๔ หุล ความยาว ๑๖๕ เซนติเมตร ตอ่ ไว้ด้านบน เสียบ ทอ่ PVC ขนาด ๔ หลุ เสยี บความยาว ๑๐ เซนตเิ มตรต่อดว้ ยข้องอ PVC ขนาด องศา 90 ๔ หลุ (หนั เขา้ หาตวั ) จากนน้ั เสยี บท่อ PVC ขนาด ๔ หลุ ความยาว ๑๕ เซนตเิ มตรอุดด้วยฝา ครอบ ท่อ PVC ขนาด ๔ หลุ ๘. การทาท่ีร่อน นาท่ีจับของถังทั้งสองใบออก จากน้นั นาตลบั เมตรมาวัดจากด้านบนของปากถังลงมา ความยาว ๗ เซนตเิ มตร แลว้ ใชป้ ากกาเคมีจดุ ใหร้ อบถงั จากน้นั นาเลอ่ื ยมาตัดให้เป็นวงกลม (ทัง้ สองใบ) จากนั้นเจาะรูรอบๆ ถงั ดว้ ยสวา่ น หา่ งกนั ประมาณ ๙ เซนตเิ มตร นาตลับเมตรวดั จากหถู งั (ท้ังสองใบ) ใหไ้ ด้ก่งึ กลางท้งั สองขา้ ง ใช้ปากกาเคมจี ดุ จากนนั้ เจาะด้วย สวา่ น นาเหล็กเสน้ มาวดั กับถังให้โผล่ออกมาเล็กน้อย จากนนั้ ใชเ้ ล่ือยตดั ๒ เสน้ ๘ นาตาขา่ ยรใู หญม่ าวางทบั ตาข่ายรูเล็ก ความยาว ๑ เซนตเิ มตร รดั ดว้ ยสายเคเบลิ้ ไทร์

จากนั้นนาถังมาวางบนตาข่ายหวั -ท้าย จากน้นั รัดด้วยสายเคเบ้ิลไทร์ (สองข้างพร้อมๆกนั ) นาสว่านมาเคลียร์รูที่จะใส่เหลก็ (ทง้ั สองดา้ น) นาทอ่ PVC ขนาด ๔ หุล ความยาว ๑๖๕ เซนติเมตร มาเจาะรู (หวั -ทา้ ย) กะพอประมาณ จากนั้นนานอตมายดึ ฝงั่ ละ ๖ ตวั (สามคู)่ ของถังทั้งสองใบ จากนั้นนาไปประกอบเหมือนเดิม เปน็ อนั เสร็จ เพื่อความแนน่ หนาควรใช้กาวทาใหแ้ นน่ ๙ บทที่ ๔

ผลกำรศกึ ษำและอภิปรำย ในการศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับข้ันตอน วิธีการทาเคร่ืองร่อนมูลไส้เดือน จะเห็นได้ว่ามีวิธีการทา ไม่ซับซ้อนมาก จากการประดิษฐ์ช้ินงาน พบว่าสามารถคัดแยกมูลไส้เดือนได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ทาให้ลดปัญหาการคัดแยกมูลไส้เดือนท่ีต้องใช้เวลานาน ทาให้ประหยัดเวลาและมีเวลาในการทางานอื่นๆ มาก ข้นึ ๑๐ บทท่ี ๕

สรุปผลกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ สรุปผลการศึกษา จากการทดลองเคร่ืองร่อนมูลไส้เดือน เปรียบเทียบกับการร่อนไส้เดือนด้วยตะแกรง พบว่าเคร่ืองร่อนมูลไส้เดือน สามารถใช้งานได้จริง และประหยัดเวลากว่าการร่อนด้วยตะแกรง ทาให้เกษตรกร สามารถมเี วลาในการทางานอนื่ ๆ ไดม้ ากขน้ึ ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ ๑. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั การทาเคร่ืองร่อนมูลไส้เดือน ๒. รจู้ กั การทางานเป็นทีม และการคดิ อย่างเปน็ ระบบด้วยวธิ ี STEM ศกึ ษา ๓. สามารถประหยดั เวลาในการคดั แยกมลู ไสเ้ ดอื น ข้อเสนอแนะ ควรมกี ารทดลองและศกึ ษาคน้ คว้าในรูปแบบอ่ืน เพ่อื เปน็ การพัฒนาการจัดการเรยี นรู้ เอกสำรอำ้ งอิง https://stock2morrow.com/article-detail.php?id=1270

https://www.prosofthcm.com/Article/Detail/16757 https://minorsmartkids.com/s-t-e-m%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/