Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การใช้ไม้ในการก่อสร้าง

การใช้ไม้ในการก่อสร้าง

Published by Rattana Taowtiamwong, 2021-04-22 07:07:19

Description: การใช้ไม้ในการก่อสร้าง

Search

Read the Text Version

ไมท้ ่ใี ช้ในการกอ่ สรา้ ง

ข้อมลู ทวั่ ไป 01 ของพรรณไม้ 02 03 Let's Get 04 Started 05 06

ข้อมูลทัว่ ไปของพรรณไม้ ชื่อสามญั : เป็นชอ่ื ทเี่ รยี กชอื่ ไม้ตามปกติ เชน่ เตง็ รงั แดง ประดู่ เป็นตน้ ช่ือการค้า : เป็นชอื่ ที่ใชเ้ รียกเป็นการค้าที่ส่งไม้เป็นสิ นค้าออก ส่ วนใหญ่จะเรียกชอื่ ตาม ชอ่ื สามัญ หรือเรียกช่ือตามลักษณะเด่นของไม้ เชน่ “Rosewood” คือ ไม้ พะยูงไม้ชงิ ชัน “Ironwood” คอื ไมแ้ ดง ชื่อพฤกษศาสตร์ : เป็นชอื่ วิทยาศาสตรท์ ่ใี ชเ้ ป็นชอ่ื สากล ซง่ึ เป็นชอื่ ทไ่ี ดจ้ ากการจัดจาแนก ชนิดพันธุไ์ ม้ วงศ์ : เป็นกลุ่มของการจาแนกพันธุ์ไม้ โดยถือหลักตามการจาแนกทาง อนุกรมวิธาน (taxonomic classification) ถ่นิ กาเนิด : เป็นแหลง่ กระจายพันธุ์ ตามสภาพป่าทเ่ี กดิ ขนึ้ อยู่

ข้อมูลทว่ั ไปของพรรณไม้ (ต่อ) ลักษณะของเน้ือไม้ : เป็นลกั ษณะทมี่ องเห็นเนื้อไม้ดว้ ยตาเปลา่ ไดแ้ ก่ สีของเนื้อ ไม้ แกน่ กระพี้ ลกั ษณะของ เสี้ยนและความหยาบ – ละเอยี ดของเนื้ อไม้ ชัน้ คุณสมบตั ิ : เป็นการจัดชนั้ ตามคณุ ภาพของเนื้อไม้ มี 4 ชนั้ ไดแ้ ก่ ชนั้ A ,B ,C, และ S ( ชนั้ S หมายถึง ไมเ้ น้ืออ่อน ซง่ึ เป็นการจาแนกตามลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ) ชั้นคุณภาพ ชั้นความแข็งแรงของเนื้ อไม้ ชั้นความทนทานธรรมชาติ จากค่ากลสมบัติ A (ไม้ชน้ั คุณภาพดี) สูงกว่า 6 B (ไม้ชน้ั คุณภาพปานกลาง) A 2–6 C (ไม้คณุ ภาพตา่) B S (ไม้เนื้ ออ่อนตามลกั ษณะทางพฤษศาสตร์) C ตาก่ ว่า 2

ข้อมูลท่วั ไปของพรรณไม้ (ต่อ) ลกั ษณะทางกายวภิ าค : เป็นลกั ษณะทางโครงสรา้ งของเซลลเ์ น้ือไม้ ทเ่ี ห็นไดด้ ว้ ยแวน่ ขยายกาลัง 10-20 เทา่ เพ่ือใชใ้ นการตรวจพิสจู น์ชนิดไม้ กายสมบตั ิ : เป็นค่าความแน่ นของเน้ื อไม้ทค่ี วามชนื้ 12% การหดตวั จากสภาพ สดจนถงึ ความชน้ื ทกี่ ระแสอากาศ ( 12% MC ) ตามปรมิ าณความชนื้ การหดตวั ความถว่ งจาเพาะและชอ่ งวา่ งในไม้ กลสมบัติ : เป็นการจัดชนั้ ความแขง็ แรงของเน้ื อไม้ มี 3 ชนั้ ไดแ้ ก่ A, B, และ C

ข้อมูลทัว่ ไปของพรรณไม้ (ต่อ) ความทนทานตามธรรมชาติ: เป็นการจัดชนั้ ความทนทานตามธรรมชาติ โดยได้ จากการ ทดลองภายใต้สภาวะธรรมชาติของดินฟ้าอากาศในแปลงทดลองกลางแจ้ง ตามภาค ตา่ งๆ ของประเทศ ใชไ้ ม้ตวั อย่างทป่ี ราศจากตาหนิ ขนาด 5 x 5 x 50 เซนตเิ มตร ความชนื้ เฉลยี่ ไม่เกนิ 20 % และปักลงดนิ 25 เซนตเิ มตร มี 4 ชนั้ ไดแ้ ก่ 1.) ความทนทานตา่ (<2 ปี) 2.) ความทนทานปานกลาง (2 – 6 ปี) 3.) ความทนทานสงู (6-10 ปี) 4.) ความทนทานสงู มาก (> 10 ปี)

ข้อมลู ท่ัวไปของพรรณไม้ (ตอ่ ) คุณสมบัติการใช้งาน : เป็นการจดั ชนั้ คณุ สมบัตทิ มี่ ีผลกบั เครอื่ งมอื การใชง้ าน ตา่ งๆ ซง่ึ มี คุณสมบัติ 6 ด้านไดแ้ ก่ การเลอื่ ย การไส การเจาะ การกลึง การยึด เหนี่ ยวตะปู และการ ขดั เงา การใช้ประโยชน์ : เป็นการนาเน้ื อไม้ไปใชง้ านชนิ ดต่างๆ เชน่ เป็นโครงสร้าง อาคาร เฟอรน์ ิเจอร์ เคร่อื งมือ เครือ่ งใช้ เป็นต้น โดยพิจารณาจากความเหมาะสมและความ นิ ยม นอกจากน้ี ยังมีการใชป้ ระโยชน์ นอกเหนื อจากเนื้ อไม้ (ประโยชน์ ทางอ้อม) เชน่ สมุนไพร สียอ้ มผา้ ชนั ยาง เป็นตน้

คุณสมบตั ิ 01 ทางกลศาสตร์ 02 03 Let's Get 04 Started 05 06

คุณสมบตั ทิ างกลศาสตร์ หน่ วยแรงดดั (Bending Stress) คอื ความตา้ นทานตอ่ แรงดดั โมดลู ัสของการแตกหัก(Modulus of Rupture) เป็นการวัดหน่ วยแรงดดั ทีเ่ กนิ ขอบเขต ของสมมุตฐิ านสามารถคานวณหาได้ จากการแทนค่าแรงประลัย (Ultimate Load) ใน สตู รคานวณหาแรงดดั โมดลู ัสของการยดื หยุน (Modulus of Elasticity) เป็นการวัดค่าความเหนี ยว (Stiffness) ของไม้ เชน่ การตกทอ้ งคาน เป็นตน้ หน่ วยแรงอัดขนานเส้ี ยน (Compressive Stress Parallel to Grain) เป็นความตา้ นทาน ของไม้ ต่อแรงอัดในแนวท่ขี นานกับแนวแกน หรือความยาวไม้ เชน่ แรงอัดที่กระทา ตอ่ เสาไม้ เป็นตน้

คุณสมบัตทิ างกลศาสตร์ (ตอ่ ) หน่ วยแรงอัดตัง้ ฉากเส้ี ยน (Compressive Stress Perpendicular to Grain) เป็นความ ตา้ นทานของไม้ตอ่ แรงกด เชน่ แรงทกี่ ระทาเป็นจุด และแรงทก่ี ระทาตรงบริเวณปลาย คานตรงทร่ี องรบั คาน เป็นตน้ หน่ วยแรงดึงขนานเสี้ ยน (Tensile Stress Parallel to Grain) เป็นความต้านทานของไม้ ต่อแรงดึงในแนวท่ีขนานกับแนวแกน หรือความยาวไม้ เชน่ แรงดึงที่กระทาต่อดั้ง เป็นตน้ ปกตจิ ะใชค้ ่าหน่ วยแรง เทา่ กบั หน่วยแรงดดั หน่ วยแรงเฉื อนขนานเส้ี ยน (Shearing Stress Parallel to Grain) เป็นความตา้ นทาน ของไม้ ตอ่ การแยกออกจากกนั ของ ครง่ึ บน และครง่ึ ลา่ งของหน้าตดั ไม้

การเลือกใช้ไม้ 01 02 Let's Get 03 Started 04 05 06

การเลอื กใช้ไม้ การพิจารณาเลือกใชไ้ ม้เพ่ือใชใ้ นการก่อสร้างหรือเพ่ือวัตถุประสงค์อ่ืนใดก็ตาม ส่ิ งสาคัญที่ จะต้องคานึ งถึงก็คือ คุณสมบัติของไม้ สภาพแวดล้อมในการใช้ไม้ (ใชก้ ลางแจ้ง ใชใ้ นที่รม่ หรอื ใช้ กบั อาคารทม่ี กี ารป้องกันปลวก) และราคา สาหรับงานก่อสร้าง ความแข็งแรงและความคงทน ก็เป็นคุณสมบัติท่ีจะต้องพิจารณาเป็น อันดับแรกในการเลือกไม้ ไม้ซง่ึ นิ ยมใชก้ นั ในปจั จุบนั จาแนกออกตามลักษณะการใชง้ านไดด้ งั น้ี คือ

การเลอื กใช้ไม้ (ตอ่ ) 1. ไมก้ ่อสรา้ งโดยทวั่ ไป ตวั อยา่ งเชน่ ประดู่ ตะเคยี นทอง เตง็ และไมย้ าง ตน้ ประดู่ ตน้ ตะเคียนทอง ต้นเตง็ ตน้ ยาง

การเลือกใช้ไม้ (ตอ่ ) 2. ไม้ทาวงกบ บานประตู หน้ าต่าง ได้แก่ ไม้สั ก ประดู่ ตะเคียนทอง มะค่าโมง จาปา หลมุ พอ หัง แดง เตง็ รงั และไม้ตะเคยี นหิน

การเลอื กใช้ไม้ (ต่อ) 3. ไมท้ าฝ้าแพดาน ได้แก่ ไม้สัก แดง ตะเคียนทอง จาปา มะม่วง สุเหรียญ หัง มะซาง รัง เหียง ชมุ แพรก สยาแดง สยาขาว และไมส้ มพง

การเลอื กใช้ไม้ (ต่อ) 4. ไม้ทาพื้น ได้แก่ ไม้สั ก สั กหิน แดง มะค่าโมง จาปา มะม่วง หัง เค่ียม ชุมแพรก รัง กาสาย ประดู่ เหียง ตะเคยี นทอง และไมย่ าง

การเลือกใช้ไม้ (ตอ่ ) 5. ไมท้ าบนั ได ไดแ้ ก่ ไม้มะคา่ โมง ตะเคยี นทอง หลมุ พอ รงั ประดู่ และไม้แดง

ตาหนิของไม้ 01 02 Let's Get 03 Started 04 05 06

ตาหนิ ของไม้ ตาหนิของไม้ (defect of wood) ทาให้ไมเ้ สียกาลงั เสียความคงทน รวมทงั้ ความสวยงาม มีดงั น้ี 1. เช้ือรา (Decay) ความชน้ื เป็นสาเหตทุ าให้ไม้เกดิ เชอื้ รา หากอยู่ในสภาพก่ึง แห้งกง่ึ เปียก ไม้จะผุเร็ว ความชนื้ คิดจากเปอร์เซ็นตข์ องนา้เทียบจากนา้หนั กไม้แห้งทอี่ บ ดว้ ยเตาอบ ไม้แห้งมีความชนื้ เฉล่ีย 12 เปอร์เซน็ ต์หรือน้ อยกว่า 16 เปอร์เซ็นต์ ไม้แห้งจะ ทนแรงดดั ไดด้ กี วา่ ไม้ที่ชนิ้ ซงึ่ ให้กาลังสูงกว่าไม้สดประมาณ 1.5 เทา่ ถ้าความชนื้ น้ อยกว่า 16 เปอร์เซน็ ต์ไม้จะผนุ ้ อย ไม้เนื้ ออ่อนจะผุเรว็ กว่าไม้เน้ื อแข็ง กระพ้ีไม้จะผุเร็วกว่าแก่นไม้ การป้องกนั การเกดิ เชอ้ื รากระทาไดโ้ ดยการทานา้ยาป้องกนั เชอ้ื รา

เช้ือรา (Decay)

ตาหนิ ของไม้ (ตอ่ ) 2. เส้ี ยนขวาง (Cross Grain) คือแนวขอบของวงปีทีท่ ากับแนวยาวของท่อนไม้ มมุ เอียงต้องไม่ เกิน 1 ใน 15 หรอื tan (มมุ เอยี ง) < 1/15 เสี้ยนไม้ท่ตี รงขนานกับท่อนไม้ จะรบั แรงไดด้ ีกว่าเสี้ยนไมท้ ไ่ี ม่ เปน็ ระเบยี บ 3. ตา (Knots) ตาเป็นส่วนทแ่ี ยกออกจากลาตน้ เป็นก่งิ ไม้ ทาให้เสี้ยนไม่ตรง รบั นา้หนั กไดไ้ ม่ดี 4. อายุ (Age) ไม้ท่ีมอี ายมุ ากจะมสี ีเข้มกว่าไมท้ ี่มีอายนุ ้ อย และเน้ื อไมจ้ ะมคี วามแน่ นกว่า


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook