065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) วันที่ 28 กันยายน ของทกุ ปี ถอื เป็ นวันพระราชทานธงชาตไิ ทย(Thai National Flag Day) และเป็นวนั ท่ีระลกึ ถงึ โอกาสท่ีพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อย่หู วั ทรงพระกรุณาโปรด เกลา้ ฯ ประกาศพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขพระราชบญั ญตั ิธง พทุ ธศกั ราช 2460 โดยมีสาระสาคญั คือ การประกาศใหธ้ งไตรรงคเ์ ป็นธงชาตไิ ทยสืบตอ่ มาจนถึงปัจจบุ นั ภายหลงั จากมีการประกาศไว้ ณ วนั ท่ี 28 กนั ยายน พ.ศ. 2460 ซง่ึ ในปีนีถ้ ือเป็นปีท่ีครบรอบ 104 ปี ท่ีไดม้ ีการประกาศใชธ้ งไตรรงค์ เป็นธงชาตไิ ทย ทงั้ นี้ ธงชาติ ถือเป็นสญั ลกั ษณส์ าคญั อนั แสดงถึงความเป็นชาติของประเทศนน้ั ๆ ซง่ึ ประเทศไทยมี การใชธ้ งชาติมานานนบั รอ้ ยปีแลว้ โดยมีวิวฒั นาการเรอ่ื ยมา กระท่งั เป็น “ธงไตรรงค”์ สีแดง ขาว นา้ เงนิ ดงั เช่นปัจจบุ นั กล่าวไดว้ ่า ธงชาติไทย ในแต่ละยคุ สมยั มีบทบาทสาคญั ต่อเหตุการณท์ าง ประวตั ศิ าสตรใ์ นยคุ นน้ั ท่ีคนรุน่ หลงั ควรศกึ ษาและเรยี นรู้ ดว้ ยเหตนุ ี้ รฐั บาลจึงมีมตเิ ห็นชอบกาหนดให้ วนั ท่ี 28 กนั ยายน ของทกุ ปี เป็น “วันพระราชทานธงชาตไิ ทย” (Thai National Flag Day) เพ่อื ระลกึ ถึงความเป็นมาของธงชาติไทย โดยเรม่ิ ปีแรกในวนั ท่ี 28 กนั ยายน พ.ศ. 2560 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจงั หวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) ตามหลกั ฐานตา่ ง ๆ รวมทงั้ จดหมายเหตขุ องฝร่งั เศส ทาใหเ้ ราทราบขอ้ มลู วา่ ธงชาติไทยผืนแรกถือ กาเนิดขนึ้ ในสมยั กรุงศรอี ยธุ ยา โดยใชเ้ ป็นสญั ลกั ษณใ์ นการคา้ ขายทางเรอื ในชว่ งรชั กาลสมเด็จ พระนารายณม์ หาราช ซง่ึ ธงชาติไทยผืนแรกนนั้ เป็นธงผา้ สีแดงเกลีย้ ง โดยมีเร่อื งเล่าวา่ มีเรอื สินคา้ ของฝร่งั เศสแลน่ เขา้ มาถึงปอ้ มของไทย แตไ่ ทยชกั ธงชาตฮิ อลนั ดาขนึ้ รบั เพราะว่าไทยไม่มีธงชาติ เป็นของตวั เอง ดว้ ยความท่ีฮอลนั ดากบั ฝร่งั เศสไมค่ ่อยจะลงรอยกนั เรอื ฝร่งั เศสก็เลยไม่ยอมยงิ สลตุ รบั ธงฮอลนั ดา (ยงิ สลตุ คือ การยิงดินปืนออกจากปืนใหญ่ทง้ั หมด เพ่อื แสดงความบริสทุ ธิ์ใจวา่ มา อยา่ งเป็นมิตร) ฝ่ายไทยจงึ ตอ้ งแกด้ ว้ ยการนาธงสีแดงเกลีย้ งขนึ้ แทนธงชาติ เรอื ฝร่งั เศสจงึ ยอมยิง สลตุ ตง้ั แตน่ นั้ ไทยจงึ ถือว่าธงสีแดงเป็นธงชาติ 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจงั หวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) ต่อมาในสมยั กรุงธนบรุ แี ละกรุงรตั นโกสนิ ทร์ ก็มีธงพนื้ แดงท่ีมีรูปจกั รสีขาวติดไวก้ ลางธงแดงเพม่ิ ขนึ้ อีก หนง่ึ ผืน ซง่ึ ธงชาติผืนนีจ้ ะใชเ้ ฉพาะเรอื หลวงเท่านนั้ ทว่าสาหรบั เรอื คา้ ขายของราษฎรท่วั ไปยงั คงใชธ้ งสี แดงเกลีย้ งกนั อยู่ และยงั คงใชต้ อ่ ไปจนถงึ สมยั รชั กาลของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั โดยในยคุ นน้ั ก็มีการเปล่ียนแปลงธงเรอื หลวงเพม่ิ ขนึ้ ดว้ ยการนารูปชา้ งเผือกไวก้ ลางวงจกั ร เน่ืองจาก พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั ทรงไดช้ า้ งเผือกมา 3 เชือก ซง่ึ ตามประเพณีไทยถือว่าเป็น เกียรตยิ ศอยา่ งย่งิ จงึ นบั ว่าธงชาตไิ ทยผืนท่ี 3 คือธงพนื้ แดง มีรูปจกั รและชา้ งเผือกอย่ตู รงก่ึงกลาง จนกระท่งั รชั กาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั ซง่ึ ไดม้ ีการทาหนงั สือสญั ญาคา้ ขายกบั ชาวตะวนั ตกในปี พ.ศ. 2398 พระองคท์ า่ นจงึ มีพระราชดารใิ หใ้ ชธ้ งเรอื หลวงเป็นธงชาติ แตโ่ ปรดเกลา้ ฯ ใหน้ าเอารูปจกั รออกเสีย เพราะเป็นเครอ่ื งหมายเฉพาะพระเจา้ แผ่นดิน คงไวแ้ ตร่ ูปชา้ งเผือกอยกู่ ลางธง แดง และยกเลิกการใชธ้ งสีแดงเกลีย้ งอีกตอ่ ไป จนถงึ ช่วงรชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดท้ รงพระราชดารใิ หแ้ กไ้ ขธงชาตไิ ทย โดยเปล่ียนใหใ้ ชธ้ งพนื้ แดง ตรงกลางเป็นรูปชา้ งเผือก ทรงเคร่อื งยืนแท่น หนั หลงั เขา้ เสา และออกประกาศบงั คบั ใชธ้ งชาติผืนนีเ้ ม่ือวนั ท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2459 เป็นตน้ ไป 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย(Thai National Flag Day) และในปี พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อย่หู วั ทรงพระราชดารใิ หเ้ ปล่ียนแปลงธงชาติ ไทยอีกครงั้ เพ่อื เพม่ิ ความกา้ วหนา้ เน่ืองจากเขา้ รว่ มรบกบั ฝ่ายสมั พนั ธมิตร และตอ้ งการใหธ้ งชาติ ไทยมีลกั ษณะคลา้ ยๆ กบั ธงชาตขิ องประเทศอ่ืนๆ ในช่วงนนั้ โดยเป็นธงพนื้ รวิ้ ขาว แดง แตก่ ็ไดเ้ พ่มิ สี นา้ เงนิ เขา้ ไปดว้ ยอีกสีหน่งึ เพราะสีนา้ เงนิ ถือเป็นสีประจาพระองค์ ซง่ึ ธงในปี พ.ศ. 2460 ก็คือธง ไตรรงคท์ ่ีเราใชต้ อ่ เน่ืองมาจนถงึ ปัจจบุ นั น่นั เอง (มีการปรบั ขนาดเลก็ นอ้ ยในสมยั รชั กาลท่ี 8) สาหรบั ธงชาติไทย หรอื ธงไตรรงค์ เป็นธงส่ีเหล่ียมผืนผา้ กวา้ ง 6 สว่ น ยาว 9 ส่วน แบ่งดา้ นยาว ออกเป็น 5 แถบ แถบตรงกลางเป็นสีนา้ เงนิ แก่ กวา้ ง 2 สว่ น ถดั จากแถบสีนา้ เงนิ แก่ทง้ั 2 ขา้ ง เป็นสี ขาว กวา้ งขา้ งละ 1 ส่วน และต่อจากแถบสีขาวทงั้ 2 ขา้ ง เป็นแถบสีแดง กวา้ งขา้ งละ 1 ส่วน โดย พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 6 ทรงกาหนดความหมายของสีธงไตรรงคแ์ บบ ไม่เป็นทางการในพระราชนิพนธ์ เรอ่ื ง เครอ่ื งหมายแห่งไตรรงค์ ไวว้ า่ สแี ดง หมายถงึ เลือดอันยอมพลีใหแ้ ก่ชาติ สีขาว หมายถงึ ความบริสุทธิแ์ หง่ ธรรมะอันเป็ นหลักคาสอนทางพระพทุ ธศาสนา สีนา้ เงนิ หมายถงึ สสี ่วนพระองคข์ ององคพ์ ระมหากษัตริย์ 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจงั หวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) ตอ่ มาพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 7 โปรดเกลา้ ฯ ใหม้ ีบนั ทกึ เร่อื งธงชาติ โดยให้ ยดึ เอาธงไตรรงคเ์ ป็นธงชาตไิ ทยตงั้ แตน่ นั้ มา เพ่อื จะไดไ้ มต่ อ้ งเกิดความสบั สนกบั ต่างประเทศ และ จะไดไ้ มต่ อ้ งเปล่ียนแปลงธงชาตบิ อ่ ยๆ จงึ ไดก้ าหนดความหมายของธงไตรรงคใ์ หช้ ดั เจน แต่ก็ ครอบคลมุ อดุ มการณเ์ ดิมของรชั กาลท่ี 6 เอาไวด้ ว้ ย ดงั นี้ สีแดง หมายถงึ ชาติ (ประชาชน) สีขาว หมายถงึ ศาสนา (ไม่ได้เน้นศาสนาใดโดยเฉพาะ) สีนา้ เงนิ หมายถงึ พระมหากษัตรยิ ์ 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจงั หวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) ธงชาตไิ ทย กับวิวัฒนาการในแต่ละยุคสมัย 1.ธงพนื้ แดงเกลีย้ ง (สมัยอยุธยา – พ.ศ. 2398) จากขอ้ มลู ท่ีสมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาราชานภุ าพ ทรงบนั ทกึ ไวท้ ่ีเชิงอรรถแห่งหน่งึ ของ หนงั สือพระราชพงศาวดาร กรุงรตั นโกสินทร์ รชั กาลท่ี 2 จะเหน็ ไดว้ ่า ธงชาติไทยผืนแรกเป็นธงพนื้ สี แดงเกลีย้ ง ซง่ึ ใชเ้ ป็นสญั ลกั ษณใ์ นการติดต่อคา้ ขายทางเรอื กบั ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยเรม่ิ ใช้ ในสมยั สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช แหง่ กรุงศรอี ยธุ ยา กระท่งั ถึงปี พ.ศ. 2398 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจงั หวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) 2.ธงพนื้ แดง มีรูปวงจกั รสีขาวตรงกลาง (พ.ศ. 2325-2360) พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช รชั กาลท่ี 1 แห่งกรุงรตั นโกสินทร์ ทรง พระราชดารวิ า่ เรอื หลวงกบั เรอื ราษฎรเป็นสีแดงเหมือนกนั จงึ ใหเ้ พ่มิ รูปจกั รสีขาว อนั เป็น เคร่อื งหมายแห่งพระบรมราชจกั รวี งศล์ งบนธงสีแดงสาหรบั ปักเรอื หลวง และใชธ้ งแบบนีก้ ระท่งั ปี พ.ศ. 2360 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) 3.ธงพนื้ แดง มรี ูปช้างเผือกอยขู่ ้างในวงจักรสขี าวตรงกลาง (พ.ศ. 2360-2398) พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั รชั กาลท่ี 2 มีพระบรมราชโองการใหน้ ารูปชา้ งเผือกไปเพ่มิ ไวข้ า้ งในวงจกั รสีขาวดว้ ยของเรอื หลวงดว้ ย โดยใชธ้ งนีจ้ นถงึ ปี พ.ศ. 2398 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจงั หวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) 4.ธงพนื้ แดง มรี ูปช้างเผอื กหนั หน้าเข้าหาเสาธงอย่ตู รงกลาง (พ.ศ. 2398-2459) พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั รชั กาลท่ี 4 ทรงพระราชดารวิ ่าธงสีแดงท่ีเรอื ราษฎรใชน้ น้ั ไม่เป็นท่ีสงั เกตและเหมือนกนั ธงชาตอิ ่ืน จงึ โปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมใหเ้ ปล่ียนรูปแบบธง โดย นาเอาจกั รสีขาวซง่ึ เป็นสญั ลกั ษณข์ องพระเจา้ แผ่นดินออก ธงท่ีใชส้ าหรบั เรอื สินคา้ ของราษฎรจงึ เป็นธงพนื้ แดง มีชา้ งเผือกอย่ตู รงก่ึงกลางธงเทา่ นน้ั สว่ นธงของเรอื หลวงก็เปล่ียนเป็นธงสีขาบ (สี นา้ เงนิ อมม่วง) แทน ดงั นนั้ ธงสีแดงซง่ึ มีชา้ งเผือกอยตู่ รงกลาง จงึ เป็นธงชาตไิ ทยนบั แตน่ นั้ จนถงึ รชั กาลท่ี 6 แหง่ กรุงรตั นโกสนิ ทร์ (ปี พ.ศ. 2459) 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) 5.ธงพนื้ แดง มรี ูปช้างเผอื กทรงเครอื่ งยนื บนแท่นหนั หน้าเข้าหาเสาธงอยู่ตรงกลาง (พ.ศ. 2459-2460) พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั ทรงพระราชดารใิ หแ้ กไ้ ขรูปชา้ งเผือกธรรมดา เป็น ชา้ งเผือกทรงเคร่อื งยืนแท่นหนั หนา้ หาเสาธงแทน และใชธ้ งผืนนีจ้ นกระท่งั ปี พ.ศ. 2460 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) 6.ธงแดงขาว 5 รวิ้ (พ.ศ. 2459) ในขณะท่ีพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ฯ ไปยงั เมืองอทุ ยั ธานี ไดท้ อดพระเนตรเห็น ธงชา้ งท่ีราษฎรตดิ ไวก้ ลบั หวั จงึ มีพระราชดารวิ ่าธงชาตติ อ้ งมีรูปแบบท่ีสมมาตรเพ่อื ไมใ่ หเ้ กิด เหตกุ ารณเ์ ช่นนีอ้ ีก นอกจากนี้ ยงั มีพระราชดารวิ ่าธงชาติทายาก ซง่ึ ท่ีขายตามทอ้ งตลาดนน้ั เป็นธง ท่ีผลติ จากต่างประเทศ และเป็นประเทศท่ีไม่รูจ้ กั ชา้ ง รูปรา่ งของชา้ งท่ีปรากฏจึงไม่นา่ ดู จงึ ทรงพระ กรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหน้ ารูปชา้ งออกจากธงชาติ เปล่ียนเป็นแถบยาวสีแดง 3 แถบ สลบั กบั สีขาว 2 แถบ เรยี กว่า ธงแดงขาว 5 รวิ้ ใชส้ าหรบั เป็นธงคา้ ขาย ส่วนธงชาติท่ีใชใ้ นราชการจะเป็นรูป ชา้ งเผือกแบบทรงเครอ่ื งยืนแท่น 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย (Thai National Flag Day) 7.ธงไตรรงค์ (พ.ศ. 2460 – ปัจจบุ นั ) พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระราชดารใิ หเ้ ปล่ียนแปลงธงชาติไทยอีกครง้ั ในปี พ.ศ. 2460 เพ่อื เพ่มิ ความกา้ วหนา้ เน่ืองจากเขา้ รว่ มรบกบั ฝ่ายสมั พนั ธมิตร และตอ้ งการใหธ้ งชาติ ไทยมีลกั ษณะคลา้ ยกบั ธงชาตขิ องประเทศอ่ืน ๆ คือ มี 3 สี ฉะนน้ั ธงชาตไิ ทยจงึ เปล่ียนเป็นรูป ส่ีเหล่ียมรี มีแถบสีแดง สีขาว สีนา้ เงนิ สีขาว และสีแดง เรยี งกนั ลงไป โดยแถบสีแดงและสีขาวมีขนาด เท่ากนั ส่วนแถบสีนา้ เงินจะมีขนาดใหญ่กว่าสีทง้ั สอง 1 ส่วน ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2479 สมยั พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ล รชั กาลท่ี 8 ก็ไดโ้ ปรด เกลา้ โปรดกระหม่อมใหต้ ราพระราชบญั ญตั ธิ งขนึ้ ใหม่ โดยอธิบายลกั ษณะธงชาตไิ วว้ า่ ธงชาติเป็นรูป ส่ีเหล่ียม มีขนาดกวา้ ง 6 ส่วน ยาว 9 ส่วน ดา้ นกวา้ ง 2 ใน 6 ส่วน ตรงกลางเป็นสีขาบ ออกไปทง้ั 2 ขา้ ง ขา้ งละ 1 ใน 6 สว่ น เป็นสีขาว ต่อจากสีขาวออกไปทงั้ 2 ขา้ งเป็นแถบสีแดง 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจงั หวัดบุรีรัมย์
ประวตั ิ วนั พระราชทานธงชาตไิ ทย(Thai National Flag Day) อย่างไรก็ดี ลกั ษณะของธงชาติไทยในปัจจบุ นั ปรากฏตามความในหมวด 1 มาตรา 5 (1) แหง่ พระราชบญั ญตั ิธง พ.ศ. 2522 โดยกาหนดไวว้ า่ ธงชาตมิ ีลกั ษณะเป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผา้ กวา้ ง 6 ส่วน ยาว 9 สว่ น ดา้ นกวา้ งแบ่งเป็น 5 แถบ ตลอดความยาวของผืนธง ตรงกลางเป็นสีนา้ เงินแก่ กวา้ ง 2 สว่ น ต่อจากแถบสีนา้ เงินแก่ออกไปทง้ั 2 ขา้ งเป็นแถบสีขาว กวา้ งขา้ งละ 1 สว่ น และต่อจากแถบสี ขาวออกไปทง้ั 2 ขา้ ง เป็นแถบสีแดง กวา้ งขา้ งละ 1 สว่ น อยา่ งท่ีเราเห็นธงไตรรงคแ์ ห่งชาติไทย ณ ปัจจบุ นั กนั น่นั เอง ขอบคุณข้อมูลจาก : kapook 065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจงั หวัดบุรีรัมย์
065-7503885 หอ้ งสมุดรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: