โครงงาน-เรื่อง-การศึกษาสมุนไพรที่ใช้ดับกลิ่นห้องน้ำ

โครงงานการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้(IS1) เรื่อง การศึกษาสมุนไพรทใ่ี ช้ดบั กลนิ่ ห้องนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้จดั ทา 1. นายก้องภพ อุ่นเรือน เลขที่ 29 2. นายปิ ยงั กรู ทขิ ตั ิ เลขท่ี 31 3. นางสาวธัญญาลกั ษณ์ จิตอารี เลขท3่ี 4 4. นางสาวปภาวนิ พนั ชน เลขท่ี 35 5. นางสาวปาริฉัตร ต๊ะแก้ว เลขที่ 36 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 5/2 ครูทป่ี รึกษาโครงงาน ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ โรงเรียนปัว อาเภอปัว จังหวดั น่าน สังกดั เขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษาน่าน

ช่ือโครงงาน การศึกษาสมุนไพรที่ใชด้ บั กลิ่นหอ้ งน้า ผจู้ ดั ทา 1.นายกอ้ งภพ อุ่นเรือน เลขท่ี 29 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/2 2.นายปิ ยงั กรู ทิขตั ิ เลขที่ 31 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/2 3. นางสาวธญั ญาลกั ษณ์ จิตอารี เลขที่34 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/2 4.นางสาวปภาวนิ พนั ชน เลขที่ 35ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/2 5.นางสาวปาริฉตั ร ต๊ะแกว้ เลขที่ 36ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/2 ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ โรงเรียนปัว บทคดั ย่อ โครงงานสมุนไพรดบั กลิ่นไดเ้ ลง็ เห็นปัญหากลิ่นท่ีไม่พงึ ประสงค์ และกล่ินอบั ในหอ้ งน้าโรงเรียนปัว ซ่ึงทาใหผ้ คู้ นที่เขา้ มาใชม้ ีสุขภาวะท่ีไม่ดี ซ่ึงกลิ่นเหลา่ น้ีเป็นปัญหาอยา่ งมาก จึงไดจ้ ดั ทา โครงงานสมุนไพรดบั กล่ินข้ึน เพอื่ แกไ้ ขปัญหาดงั กล่าว โดยมีวตั ถุประสงคค์ ือ เพ่ือใหห้ อ้ งน้ามีกลิ่นที่พึง ประสงค์ และเพอื่ ใหห้ อ้ งน้าน่าใชบ้ ริการมากข้ึน ส่วนการดาเนินงาน ไดห้ าวิธี ขจดั กลิ่นท่ีไม่พงึ ประสงคใ์ นหอ้ งน้าโดยไดท้ ดลองการใชส้ มุนไพร ตะไคร้และ ใบเตย ในการแกไ้ ขปัญหา ซ่ึงผลการจดั โครงงานพบวา่ สมุนไพรจากใบเตยให้ กล่ินหอมและนาน การทาโครงงานสามารถทาใหก้ ล่ินในหอ้ งน้าลดลงได้ เพื่อใหผ้ ทู้ ี่เขา้ มาใชห้ อ้ งน้ามีสุขภาวะที่ดี น่าใชม้ ากยงิ่ ข้ึน

กติ ตกิ รรมประกาศ ในการจดั ทาโครงงานสมุนไพรดบั กล่ินในหอ้ งน้า คณะผจู้ ดั ทาขอ ขอบคุณครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ ครูท่ีปรึกษารายวิชาการศึกษาคน้ ควา้ และสร้าง องคค์ วามรู้(IS1) ที่คอยใหค้ าปรึกษาแนะนา ช่วยเหลือ และขอขอบคุณผทู้ ี่ เกี่ยวขอ้ งทุกคนไม่วา่ จะเป็น ผปู้ กครอง เพือ่ น นกั เรียนท่ีใหค้ วามร่วมมือจน โครงงานสมุนไพรดบั กล่ินในหอ้ งน้า ดาเนินการสาเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี คณะผจู้ ดั ทาหวงั วา่ โครงงานน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผทู้ ี่ตอ้ งการศึกษาไม่ มากกน็ อ้ ย คณะผจู้ ดั ทา

บทท1่ี บทนา ที่มาและความสาคญั เนื่องจากหอ้ งน้าเป็นหอ้ งที่สาคญั หอ้ งหน่ึงในบา้ น เพราะ เป็นหอ้ งที่เราใช้ ประจาในชีวิตประจาวนั เรามกั จะทากิจกรรมหลายๆอยา่ งในหอ้ งน้า ไม่วา่ จะเป็น อาบน้า ลา้ งหนา้ แปรงฟันหรือแมแ้ ต่ร้องเพลง การท่ีเราใชห้ อ้ งน้าบ่อยๆ ทาใหเ้ ราไดพ้ บกบั ปัญหาอยา่ งหน่ึง นนั่ กค็ ือ กลิ่นไม่พงึ ประสงคใ์ นหอ้ งน้า เราจึงช่วยกนั คิดหาวธิ ีกาจดั กล่ินไม่พึงประสงคท์ ี่มีความปลอดภยั และไม่ เป็นอนั ตราย จึงใชส้ มุนไพรที่สามารถหาไดง้ ่ายและปลอดภยั มากกว่าสารเคมี ในการกาจดั กล่ินเหล่าน้นั โดยสมุนไพรที่จะใชใ้ นการดบั กลิ่นหอ้ งน้า คือ ใบเตย และตะไคร้ วตั ถุประสงค์ 1. เพือ่ ดบั กล่ินท่ีไม่พึงประสงคท์ ี่เกิดข้ึนในหอ้ งน้า 2. เพ่อื ทาใหห้ อ้ งน้าน่าใชง้ านมากข้ึน 3. เพอ่ื ศึกษาความสามารถในการดบั กล่ินในหอ้ งน้าของ ใบเตย และ ตะไคร้

4. เพื่อใชว้ สั ดุจากธรรมชาติใหเ้ กิดประโยชน์ สมมติฐาน ใบเตยสามารถกาจดั กล่ินไม่พงึ ประสงคใ์ นหอ้ งน้าไดด้ ีกวา่ ตะไคร้ ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ -ใบเตยสามารถกาจดั กล่ินไม่พงึ ประสงคใ์ นหอ้ งน้าใหด้ ีข้ึนกวา่ เดิม -กล่ินท่ีไม่พึงประสงคใ์ นหอ้ งน้าลดลงหรือหายไป -หอ้ งน้ามีความน่าใชง้ านมากข้ึนกวา่ เดิม เพราะกลิ่นไม่พึงประสงคล์ ดลง ขอบเขตการศึกษา ศึกษาสมุนไพรท่ีใชด้ บั กล่ิน คือ ใบเตยและตะไคร้

บทที่ 2 เอกสารที่เกย่ี วข้อง ความสาคญั ของหอ้ งน้า หอ้ งน้าคือ ส่ิงอานวยความสะดวกในบา้ นท่ีขาดไม่ไดใ้ นชีวิตประจาวนั ต้งั แต่ตื่นนอนไปจนถึงก่อนเขา้ หอ้ งนอนของทุกวนั ทุกคนตอ้ งใชห้ อ้ งน้า อาบน้า ลา้ งหนา้ แปรงฟัน ลา้ งมือ ลา้ งเทา้ ขบั ถา่ ยของเสียจากร่างกาย เรียกวา่ ความสะอาดบนเรือนกายและของเสียในร่างกายหอ้ งน้ารับเหมา ช่วยใหเ้ รา ออกจากบา้ นอยา่ งมนั่ ใจหมดปัญหาเร่ืองกล่ินกาย ความสาคญั ของห้องนา้ หอ้ งน้าในบทความน้ีเป็นความหมายทวั่ ไปซ่ึงหมายถึง \"หอ้ งสว้ ม\" ซ่ึงแยก เป็นหอ้ งถา่ ยอจุ จาระ และที่ถ่ายปัสสาวะ หรือเรียกรวมๆวา่ หอ้ งสว้ ม นอกจากน้นั ยงั หมายถึงหอ้ งอาบน้า และอ่างลา้ งมือดว้ ย แต่ในการออก กฎกระทรวงไดจ้ าแนกประเภทไวส้ าหรับการควบคุมและการจดั สวสั ดิการ เก่ียวกบั หอ้ งน้าและหอ้ งส้วมไวโ้ ดยเฉพาะความสาคญั และความจาเป็นของ หอ้ งน้าเป็นท่ีทราบโดยทวั่ กนั 1. มีความสะอาด คุณภาพของหอ้ งน้าวดั ไดจ้ ากความสะอาดของหอ้ งน้า ท้งั ที่สัมผสั ไดด้ ว้ ยการเห็นและการไดก้ ล่ิน และการใชน้ ้ายาเคมีสาหรับฆ่า

เช้ือโรคและทาความสะอาดเป็นส่ิงท่ีจาเป็นตอ้ งทาเป็นระยะและต่อเนื่อง เสมอในแต่ละวนั 2. อปุ กรณ์หอ้ งน้าท่ีมีคุณภาพ ไดแ้ ก่ โถส้วม อ่างลา้ งมือ กอ๊ กน้าและสาย ฉีดชาระ เป็นตน้ ควรเป็นอุปกรณ์ท่ีมีความคงทน มีมาตรฐานสาหรับการใช้ งานสาธารณะได้ ซ่ึงจะแตกต่างจากอุปกรณ์ท่ีออกหรับการใชง้ านใน บา้ นเรือนหรืออาคารที่พกั อาศยั การซ่อมบารุงอุปกรณ์ใหส้ ามารถใชง้ านได้ 3. มีความปลอดภยั หอ้ งน้าในสถานศึกษาอาจถูกใชเ้ ป็นท่ีสาหรับการ กระทาผิดต่างๆ การดูแลเรื่องความปลอดภยั เช่น แสงสวา่ งที่เพียงพอ ไม่อยู่ ในท่ีเปล่ียว เป็นมุมอบั หรือไกลเกิน 4.มีแหลง่ จ่ายน้าเพียงพอ แรงดนั ของน้าและปริมาณของน้าสาหรับ หอ้ งน้าตอ้ งเพียงพอ โรงเรียนบางโรงเรียนจานวนมากไม่สามารถใหบ้ ริการ หอ้ งน้าไดถ้ ึงแมจ้ ะมีหอ้ งน้ากต็ าม เพราะขาดแหลง่ จ่ายน้าไดต้ ลอดเวลาท่ี เปิ ดเรียน หรือตลอดท้งั ปี การศึกษา ปริมาณน้ายงั เป็นปัจจยั สาคญั โยงไปถึง ความสะอาดของหอ้ งน้าอีกดว้ ย 5. มีระบบระบายน้าเสีย และการระบายอากาศท่ีดีและการอุดตนั ของท่อ ระบายน้าเป็นปัญหาที่พบบ่อยของหอ้ งน้า การออกแบบระบบการระบายน้า เสีย การถา่ ยเทอากาศและการใชม้ าตรการป้องกนั การอุดตนั ของท่อ หน้าท่ีหลกั ของห้องนา้ 1. เป็นท่ีพจิ ารณาความไม่งามของร่างกาย พจิ ารณาอายขุ องเราท่ีผา่ นไปแต่ ละวนั แต่ละคืนกต็ รงน้ี แลว้ ความหลงตวั เองกจ็ ะหมดไป ความเคียดแคน้ ชิงชงั ใครกจ็ ะไม่มี 2. เป็นท่ีพิจารณาความเสื่อมโทรมของร่างกายท่ีดาเนินไปอยา่ งต่อเน่ือง

3. เป็นที่พิจารณาความเป็นรังแห่งโรคของร่างกาย หอ้ งน้าเป็นหอ้ งพิจารณา ความมีโรคภยั ไขเ้ จบ็ ของเรา ที่สาคญั ท่ีสุด หอ้ งน้าเป็นหอ้ งสาหรับรักษา สุขภาพอยา่ งดี วธิ ีดูแลห้องนา้ 1. หอ้ งน้าตอ้ งแบ่งโซน หอ้ งน้าบางท่ีจะไม่ไดแ้ บ่งโซนแหง้ และเปี ยกเอาไว้ ทาใหเ้ ป็นตน้ เหตุหน่ึงในการเกิดอบุ ตั ิเหตุในหอ้ งน้า ดงั น้นั ทางที่ดีคุณกค็ วร แบ่งหอ้ งน้าเป็นโซนเปี ยก เอาไวเ้ ฉพาะอาบน้า และแบ่งโซนแหง้ เอาไวเ้ ป็น ส่วนของโถชกั โครก 2.ตอ้ งมีอากาศถา่ ยเท หอ้ งน้าตอ้ งมีอากาศถ่ายเทที่ดี 3. กล่ินในหอ้ งน้า ไม่ควรมีอยา่ งยงิ่ ควรที่ลา้ งหอ้ งน้าบ่อยๆ หรืออาจจะนา ส่ิงที่สามารถดบั กล่ินในหอ้ งน้ามาใชไ้ ด้ จากเร่ืองความสาคญั ของหอ้ งน้า ขา้ งตน้ ดงั กลา่ ว สรุปวา่ หอ้ งน้ามีความจาเป็น และเป็นสิ่งท่ีขาดไม่ไดใ้ นชีวติ ประจาวนั ของคนเรา ทุกคนตอ้ งใชห้ อ้ งน้าใน การทาธุระส่วนตวั และทาความสะอาดส่วนต่างของๆร่างกาย ไม่วา่ จะเป็น หอ้ งน้าภายในบา้ นเรือน หรือหอ้ งน้าในท่ีสาธารณะ กม็ ีการใชง้ านจากผคู้ น จานวนมาก ดงั น้นั การรักษาความสะอาดและกล่ินที่พึงประสงคก์ เ้ ป็นส่วน สาคญั หน่ึงท่ีจะทาใหห้ อ้ งน้าน้นั น่าใชย้ งิ่ ข้ึน

ปัญหาที่พบในหอ้ งน้า ปัญหาในห้องนา้ 7 ปัญหาในหอ้ งน้า ท่ีกวนใจ เรื่องเลก็ ๆ อาจจะก่อเป็นเหตุใหญ่ท่ีทาใหต้ อ้ งเสียค่าซ่อมบารุง 7 ปัญหา ในห้องนา้ วนั น้ีมาดูวธิ ีการดูแล หรือ ความรู้เกี่ยวกบั หอ้ งน้า ที่ควรรู้  1.กล่ินอบั ช้ืนภายในหอ้ งน้า  2.น้าในหอ้ งน้าไม่ระบายลงท่อ  3.อาบน้าแลว้ เปี ยกไปท้งั หอ้ งน้า  4.พ้ืนลื่นจนทาใหเ้ กิดอนั ตราย  5.ท่อระบายน้าตนั ระบายน้าไม่ทนั  6.ไฟฟ้าชอ็ ตที่เกิดจากปลก๊ั และสวิตชไ์ ฟภายในหอ้ ง  7.ผนงั หรือฝ้าที่อยตู่ ิดกบั หอ้ งน้ามีการบวมน้าที่เกิดจากความช้ืน 1.กล่ินอบั ช้ืนภายในหอ้ งน้า การแกป้ ัญหาแรกเริ่มต้งั แต่การออกแบบบา้ น กค็ ือการพยาม ออกแบบตาแหน่งของหอ้ งน้าทุกหอ้ งใหต้ ิดกบั ภายนอก หรือหากอยทู่ างทิศใต้ และทิศตะวนั ตกกจ็ ะยง่ิ ดี เนื่องจากมีแสงสวา่ งจากธรรมชาติส่องเขา้ มาเพือ่ ฆ่า เช้ือโรคได้ ช่องเปิ ดของหอ้ งน้ากบั ภายนอกกส็ ามารถออกแบบไดห้ ลากหลาย วธิ ี เช่น บานกระทุง้ บานเกลด็ บานเล่ือนและบานเปิ ด ที่สามารถทาใหเ้ กิดการ ระบายอากาศระหวา่ งภายในกบั ภายนอกไดเ้ ป็นอยา่ งดี ส่วนในกรณีที่หอ้ งน้า ไม่สามารถอยตู่ ิดกบั ภายนอกได้ กจ็ าเป็นจะตอ้ งติดต้งั เครื่องดูดอากาศแบบติด

กบั ฝ้าที่ช่วยดูดกลิ่น อากาศและความอบั ช้ืนผา่ นท่อเพ่อื ปลอ่ ยสู่ภายนอก แค่น้ี ปัญหาในหอ้ งน้า กจ็ ะหมดไป 2.น้าในหอ้ งน้าไม่ระบายลงท่อ เชค็ ความลาดเอียงของหอ้ งน้าใหม่ โดยปกติแลว้ การทาระดบั พ้นื หอ้ งน้าจะตอ้ งใหล้ าดเอียงไปยงั ท่อระบายน้าในสัดส่วนความลาดชนั ประมาณ 1:200 และพ้ืนจะตอ้ งลาดอยา่ งสม่าเสมอ ไม่เกิดแอ่งท่ีพ้ืนในบางจุดท่ีจะทาให้ น้าขงั ได้ นอกจากน้นั ระดบั พ้ืนหอ้ งน้ายงั ควรต่ากวา่ หอ้ งภายนอกอยา่ งนอ้ ย 5 เซนติเมตร เพอ่ื ป้องกนั ไม่ใหน้ ้าไหลออกสู่ภายนอกหอ้ งน้าได้ ตรวจสอบง่ายๆ ดว้ ยการปล่อยลูกปิ งปองหรือลูกแกว้ ลงบนพ้นื หอ้ งน้าหากพ้ืนลาดเอียงดี ลูกแกว้ จะค่อยๆไหลไปยงั รูระบายน้า 3.อาบน้าแลว้ เปี ยกไปท้งั หอ้ งน้า การแกป้ ัญหาน้ีมีวิธีเดียวคือตอ้ งแบ่งส่วนแหง้ และส่วนเปี ยกตาม การใชง้ าน โดยส่วนแหง้ จะประกอบดว้ ยอ่างลา้ งหนา้ และโถส้วม ส่วนส่วน เปี ยก ไดแ้ ก่ ส่วนอาบน้าฝักบวั และอ่างอาบน้า ท้งั สองส่วนควรแยกออกจาก กนั ดว้ ยวิธีต่างๆ ตามความเหมาะสมของพ้ืนท่ี เช่น ก้นั หอ้ งแยกกนั ก้นั ดว้ ย ประตูกระจกหรือผา้ ม่านกนั น้า เป็นตน้ 4.พ้นื ล่ืนจนทาใหเ้ กิดอนั ตราย การเลือกวสั ดุปูพ้นื หอ้ งน้าเป็นสิ่งท่ีสาคญั ต่อความปลอดภยั โดย ควรเลือกใชก้ ระเบ้ืองหรือหินที่มีเทก็ ซ์เจอร์ค่อนขา้ งหยาบ ผวิ ดา้ นและไม่มนั

เงา แต่ถา้ หากสุดวสิ ยั ไม่สามารถปูกระเบ้ืองใหม่ที่เหมาะสมได้ กจ็ าเป็นจะตอ้ ง ใชแ้ ผน่ ยางรองกนั ล่ืนสาหรับหอ้ งน้าในส่วนท่ีเป็นฝักบวั และส่วนเปี ยกไปก่อน ประเภทกระเบือ้ งปูพืน้ ห้องนา้ -กระเบ้ืองเซรามิก ชนิดปูพ้นื หอ้ งน้า ซ่ึงคุณสมบตั ิเด่นๆ คือ มีความ แขง็ แรงทนทาน สามารถทาความสะอาดไดง้ ่าย มีใหเ้ ลือกหลากหลายลวดลาย และมีราคาที่ไม่สูงมากนกั ท้งั น้ีกข็ ้ึนอยกู่ บั ลวดลายที่เลือกกนั ดว้ ย -กระเบ้ืองโมเสค จะใหใ้ นเร่ืองของความหรูหรา ทนั สมยั อีกท้งั ยงั มี ราคาค่อนขา้ งสูง โดยกระเบ้ืองโมเสคน้ี จะมีท้งั แบบปูพ้ืน และ แบบปู ผนงั ฉะน้นั เวลาไปเลือกซ้ือ ตอ้ งสังเกต พร้อมแจง้ พนกั งานขายใหด้ ีๆ -กระเบ้ืองแกรนิตโต้ ชนิดปูพ้ืนหอ้ งน้า ถือเป็นประเภทกระเบ้ืองท่ี นิยมใชก้ นั ค่อนขา้ งมากที่สุดเลยกว็ า่ ได้ เพราะใหค้ วามแขง็ แรง ทนทาน เน่ืองจากมีส่วนผสมจากหินแกรนิต อีกท้งั ยงั มีหลากหลายลวดลายใหเ้ ลือก ทา ความสะอาดไดง้ ่าย มีอายกุ ารใชง้ านที่ค่อนขา้ งนาน และ ราคาไม่แพงครับ 5.ท่อระบายน้าตนั ระบายน้าไม่ทนั ท่อระบายน้าสกปรกหรือท่อน้าทิ้งควรมีขนาดมาตรฐาน ขนาดเส้น ผา่ นศูนยก์ ลางอยา่ งนอ้ ย 3 นิ้ว ทาใหน้ ้าทิ้งผา่ นลงไปไดอ้ ยา่ งรวดเร็วกวา่ การ เลือก Floor Drain กค็ วรมีฝาตะแกรงครอบเพ่ือกนั ไม่ใหส้ ่ิงสกปรกและฝ่ ุนผง อนั เป็นสาเหตุสาคญั ท่ีทาใหท้ ่อตนั หลดุ ลงไปในท่อได้ นอกจากน้นั ยงั ควรดูแล รักษาความสะอาดบริเวณ Floor Drain อยา่ งสม่าเสมอ

6.ไฟฟ้าชอ็ ตท่ีเกิดจากปลกั๊ และสวิตชไ์ ฟภายในหอ้ ง ปลก๊ั หรือ Outlet ภายในหอ้ งน้าควรอยสู่ ูงกวา่ พ้ืนประมาณอยา่ ง นอ้ ย 70 เซนติเมตร หรืออยรู่ ะดบั เดียวกบั เคานเ์ ตอร์ซิงก์ และอยใู่ นส่วนแหง้ เท่าน้นั เพอ่ื หลีกเลี่ยงไม่ใหน้ ้าโดนปลก๊ั นอกจากน้นั ภายในหอ้ งน้าควรเลือกใช้ ปลกั๊ หรือ Outlet ประเภทกนั น้าไดห้ รือมีฝาครอบกนั น้า เพื่อป้องกนั อนั ตรายท่ี เกิดจากการการใชง้ านดว้ ย 7.ผนงั หรือฝ้าท่ีอยตู่ ิดกบั หอ้ งน้ามีการบวมน้าท่ีเกิดจากความช้ืน ก่อนที่จะปูกระเบ้ืองจาเป็นตอ้ งฉาบผนงั หอ้ งน้าดว้ ยน้ายากนั ความช้ืนหรือน้ายากนั ซึมใหด้ ีเสียก่อน โดยเฉพาะส่วนของฝักบวั และส่วนของ อา่ งอาบน้าควรตรวจสอบการซึมใหด้ ี ฝ้าเพดานกเ็ ช่นกนั ควรใชฝ้ ้ายปิ ซมั ทน ความช้ืนฉาบเรียบสาหรับหอ้ งน้าโดยเฉพาะ จากปัญหาที่เราสามารถพบไดใ้ นหอ้ งน้าที่กล่าวมา สามารถสรุปไดว้ า่ หอ้ งน้า เป็นหอ้ งที่สาคญั ที่สุดหอ้ งหน่ึงในบา้ นของเรา เป็นเหมือนกบั กิจวตั รประจาวนั อยา่ งหน่ึงท่ีเราน้นั ตอ้ งเขา้ ไปใชง้ านในทุกๆวนั แต่ปัญหาที่พบน้นั กม็ ีหลายๆ ปัจจยั ยกตวั อยา่ งเช่น ความช้ืน หรืออื่นๆ ปัจจยั ต่างๆเหลา่ น้นั ทาใหเ้ กิดปัญหา ตามมา ดงั น้นั เราทุกคนจึงควรดูแลรักษาความสะอาดทุกคร้ัง และมีระเบียบ วินยั ในการใชง้ านหอ้ งน้า ปัญหาเหล่าน้ีกจ็ ะสามารถท่ีจะลดลงหรือหายไปได้ นนั่ เอง

ตะไคร้ ตะไคร้ เป็นพชื ตระกูลหญา้ ความสูงโดยรวมประมาณ 1-1.2 เมตร ลาตน้ ท่ี สูงข้ึนมาจากเหงา้ มีสีขาวอมเหลือง สูงประมาณ 4-7 ซ.ม.เท่าน้นั ห่อหุม้ ดว้ ย กาบใบ ส่วนบนมีใบสีเขียวสดถึงเขียว อมเหลืองสูงยาวข้ึนไปจากกาบใบ เส้น ใบยาวแคบขนานไปกบั กา้ นใบ ปลายใบมีขนออ่ นๆ ลาตน้ จะรวมอยดู่ ว้ ยกนั เป็นกอ มีกล่ินหอม ออกดอกเป็นช่อยาว ดอกขนาดเลก็ เป็นฝอย อยรู่ วมกนั เป็น กระจุกจานวนมาก สรรพคุณ - ใบของตะไคร้อุดมไปดว้ ยน้ามนั หอมระเหยจานวนมาก นาใชท้ ากนั ยงุ และ ดบั กลิ่นคาวในอาหาร - ส่วนท่ีนิยมนามาประกอบอาหารคือลาตน้ แก่ นามาตากแหง้ เกบ็ ไวไ้ ดน้ าน - ใชส้ ่วนของเหงา้ และลาตน้ แก่ ใชเ้ ป็นส่วนประกอบของอาหารท่ีสาคญั หลาย ชนิดเช่น ตม้ ยา และอาหารไทยหลายชนิด ใหก้ ล่ินหอม มีสรรพคุณทางยาเช่น บารุงธาตุ แกโ้ รคทางเดินปัสสาวะ ขบั ลมในลาไส้ทาให้ - เจริญอาหาร แกก้ ลิ่นคาวหรือดบั กล่ินคาวของปลา และเน้ือสตั วไ์ ดด้ ีมาก บารุงสมอง ช่วยใหส้ มาธิดี ตม้ กบั น้าใชด้ ่ืมแกอ้ าเจียน ใชต้ น้ สดโขลกค้นั เอาน้า ดื่มแกอ้ าการเมาในกรณีผทู้ ่ีเมามากๆ ช่วยใหส้ ร่างเร็ว น้ามนั ตะไคร้หอมใชท้ า กนั ยงุ ได้ ถา้ ปลกู ใกลผ้ กั อ่ืนๆ จะช่วยกนั แมลงได้ จากเร่ืองสรรพคุณของตะไคร้ ขา้ งตน้ ดงั กล่าว สรุปวา่ ตะไคร้ เป็น พืชตระกลู หญา้ ทีมีประโยชน์ท้งั ลาตน้ ใบ เหงา้ ประกอบดว้ ยธาตุหลายชนิด เช่น

แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหลก็ และวิตามิน และมีสรรพคุณมากมาย เช่น มีกล่ิน หอม ช่วยในการดบั กลิ่น ช่วยแกก้ ล่ินคาว ช่วยบารุงสมอง ช่วยใหส้ มาธิดี แกอ้ าเจียน แกท้ อ้ งอืด ลดความดนั โลหิตสูง และถา้ หากนาตะไคร้มาตากแหง้ จะทาใหเ้ กบ็ ได้ นานข้ึน ใบเตย ใบเตยเป็นพชื ใบเล้ียงเดี่ยว แตกกอเป็นพมุ่ ขนาดเลก็ มีรากค้าช่วยพยงุ ลาตน้ ไว้ ลาตน้ เป็นขอ้ และมีใบเป็นใบเด่ียวสลบั เวียนเป็นเกลียวข้ึนไปจนถึงยอด ลกั ษณะใบเรียวยาว ขอบใบเรียบมีผิวมนั ฯลฯ ใบเตยจะมีกลิ่นหอมซ่ึงเป็น กลิ่นหอมจากสารเคมีที่เรียกวา่ 2-acetyl-1-pyrroline เป็นกลิ่นหอมของน้ามนั หอมระเหย (Fragrant Screw Pine) ซ่ึงเป็นกล่ินเดียวกนั กบั ที่ไดใ้ นขา้ วหอม มะลิ ขนมปังขาว และดอกชมนาด ประโยชน์ของใบเตย 1. ช่วยบารุงหวั ใจใหช้ ุ่มชื่น และช่วยลดอตั ราการเตน้ ของหวั ใจ (น้า ใบเตย) 2. การด่ืมน้าใบเตยจะช่วยดบั กระหายคลายร้อนไดเ้ ป็นอยา่ งดี เพราะ ใบเตยมีกล่ินหอมเยน็ ดื่มแลว้ จึงรู้สึกสดช่ืน ผอ่ นคลาย 3. รสหวานเยน็ ของใบเตยช่วยชูกาลงั ได้ 4. การด่ืมน้าใบเตยช่วยแกอ้ าการอ่อนเพลียของร่างกายได้ 5. ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย 6. ผทู้ ี่มีธาตุเจา้ เรือนเป็นธาตุไฟน้นั การรับประทานอาหารท่ีปรุงจาก ใบเตยจะช่วยทาใหร้ ู้สึกเยน็ สบายสดชื่นได้

7. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมระดบั น้าตาลในเลือด ซ่ึงตามตารับ ยาไทยไดม้ ีการนาใบเตยหอม 32 ใบ, ใบของตน้ สกั 9 ใบ นามาหนั่ ตาก แดด แลว้ นามาชงเป็นชาดื่มอยา่ งนอ้ ย 1 เดือน หรือจะใชร้ ากประมาณ 1 กามือนามาตม้ กบั น้าด่ืมเชา้ เยน็ กไ็ ดเ้ หมือนกนั (ใบ, ราก) 8. ช่วยลดความดนั โลหิต (สารสกดั น้าจากใบเตย) 9. ช่วยป้องกนั การแขง็ ตวั ของหลอดเลือด 10. ช่วยบรรเทาอาการอาการและดบั พษิ ไขไ้ ด้ 11. ช่วยดบั พษิ ร้อนภายในไดเ้ ป็นอยา่ งดี 12. ใชร้ ักษาโรคหืด (ใบ) 13. ใชเ้ ป็นยาแกก้ ระษยั (ตน้ , ราก) 14. ใชเ้ ป็นยาขบั ปัสสาวะดว้ ยการใชต้ น้ 1 ตน้ หรือจะใชร้ ากคร่ึงกามือ กไ็ ด้ นามาตม้ กบั น้าด่ืม (ราก, ตน้ ) 15. ใชร้ ักษาโรคหดั ได้ 16. ใบเตยสดนามาตาใชพ้ อกรักษาโรคผิวหนงั ได้ 17. มีการนาใบเตยมาใชแ้ ต่งกลิ่นอาหารอยา่ งหลากหลาย ไม่วา่ จะเป็น ของหวานต่าง ๆ อยา่ งเช่น ขนมลอดช่อง ขนมช้นั รวมไปถึงเคก้ และ สลดั เป็นตน้ 18. มีการนาใบเตยมาทุบพอแตก นาไปใส่กน้ ลงั ถึงสาหรับน่ึงขนม จะ ทาใหข้ นมท่ีสุกแลว้ มีกลิ่นหอมน่ารับประทานมาก 19. ใชใ้ บเตยรองกน้ หวดสาหรับน่ึงขา้ วเหนียว เม่ือขา้ วสุกแลว้ จะทา ใหม้ ีกล่ินหอมมาก 20. สีเขียวของใบเตยเป็นสีของคลอโรฟิ ลล์ สามารถนามาใชแ้ ต่งสี ขนมได้

21. ใชใ้ บเตยสดใส่ลงไปในน้ามนั ท่ีใชแ้ ลว้ ต้งั ไฟใหร้ ้อนแลว้ ค่อยตกั ใบเตยข้ึน จะทาใหน้ ้ามนั ไม่มีกล่ินเหมน็ หืน ทาใหน้ ้ามนั ท่ีใชท้ อดมีกลิ่น เหมือนน้ามนั ใหม่ 22. ประโยชนข์ องใบเตยกบั การนามาใชท้ าเป็นทรีตเมนตส์ ูตรบารุง ผิวหนา้ ดว้ ยการใชใ้ บเตยลา้ งสะอาด หน่ั เป็นชิ้นเลก็ ๆ นามาปั่นรวมกบั น้าสะอาดจนละเอียด จะไดค้ รีมขน้ เหนียวแลว้ นามาพอกหนา้ ทิ้งไว้ ประมาณ 20 นาที จากสรรพคุณของใบเตยขา้ งตน้ สรุปวา่ ใบเตยจะมีกลิ่นหอมซ่ึงเป็นกลิ่นหอม จากสารเคมีที่เรียกวา่ 2-acetyl-1-pyrroline เป็นกลิ่นหอมของน้ามนั หอมระเหย (Fragrant Screw Pine) โดยใบเตยมีประโยชนม์ ากมายไม่วา่ จะ ช่วยลดไข้ บารุง ร่างกาย ช่วยใหร้ ่างกายสดชื่น ช่วยเจริญอาหาร แกท้ อ้ งอืด ลดอาการอาหารไม่ ยอ่ ย แกร้ ้อนใน ช่วยลดความดนั โลหิต และแกโ้ รคผวิ หนงั คนส่วนใหญ่ มกั จะคิดวา่ ใบเตยมีประโยชนแ์ ค่ใบ แต่ความเป็นจริงแลว้ ราก ลาตน้ และ น้ามนั หอมระเหย ของใบเตยกม็ ีประโยชน์ไม่แพก้ นั เช่น ใชเ้ ป็นยาขบั ปัสสาวะ ลดระดบั น้าตาลในเลือด ช่วยบารุงหวั ใจ รักษาโรคเบาหวาน ทาให้ คอชุ่มช่ืน แกก้ ระหายน้า รักษานิ่วในไตและแกก้ ลา้ มเน้ือออ่ นเพลีย อีกท้งั ใบเตยยงั คุณค่าทางอาหารมากมาย โดยใบเตย 100 กรัม ใหพ้ ลงั งาน 35 กิโล แคลอรี่

บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินการ วสั ดุอุปกรณ์ 1. ตะไคร้ ท่ีทาใหแ้ หง้ แลว้ 500 กรัม 2. ใบเตย ที่ทาใหแ้ หง้ แลว้ 500 กรัม 3. ขวดโหลขนาดเท่ากนั 2 ขวด 4. มีด เขียง กรรไกร 5. อุปกรณ์ในการตาก วธิ ีการทา 1.นาสมุนไพรที่เตรียมไวใ้ นที่น้ีใชต้ ะไคร้และใบเตย มาหนั่ เป็นชิ้นเลก็ ๆ

2.นาไปตากแดดใหแ้ หง้ หรือนาไปอบใหแ้ หง้ ดว้ ยความร้อน ประมาณ 1 ชวั่ โมง

3.นาไปใส่ขวดโหลปิ ดฝาทิ้งไว้ 1-2 วนั

4.เปิ ดฝาออกแลว้ นาไปวางในหอ้ งน้า

บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน ข้นั ตอนการดาเนินงาน ระยะเวลาในการทางาน ศึกษาหาขอ้ มูล 15 – 18 กรกฎาคม 2564 เขียนเคา้ โครงของโครงงาน 19 – 25 กรกฎาคม 2564 วางแผนการดาเนินงาน 26 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2564 ดาเนินการ 2 – 15 สิงหาคม 2564 16 – 22 สิงหาคม 2564 ตรวจสอบผลการดาเนินการ

บทท่ี 5 สรุปและอภปิ รายผล สรุปผลการดาเนินการ สรุปไดว้ า่ กล่ินของสมุนไพรจากตะไคร้ และใบเตย ปรากฏวา่ ประมาณ 1 – 2 อาทิตย์ จากผลสารวจของคนในบา้ น กลิ่นของตะไคร้และใบเตย ค่อย ๆ จางลงไป โดยที่กลิ่นของใบเตย ยงั คงส่งกลิ่นหอมมากกวา่ ดบั กลิ่นไดด้ ี และ นานกวา่ ตะไคร้ ซ่ึงการทดลองน้ีทาใหค้ ณะผจู้ ดั ทารู้ถึงประโยชน์ของ สมุนไพรมากข้ึน ขอ้ เสนอแนะ  ในการทดลองคร้ังน้ีมีการใชส้ มุนไพรเพียงแค่ 2 ชนิด ควรเพ่มิ ชนิดของ สมุนไพรใหห้ ลากหลายมากข้ึน  ควรนาไปดบั กล่ินในสถานท่ีที่หลากหลายมากข้ึน

เอกสารอ้างองิ (แหล่งอา้ งอิง:ออนไลน์ ,2564 URL:https://sites.google.com/site/chaimongkonlord/system/app/pages/sitema p/hierarchy) (แหล่งอา้ งอิง:ออนไลน,์ 2556 URL:http://thatsaneelove19.blogspot.com/2013/12/ ) (แหล่งอา้ งอิง:ออนไลน2์ 564 URL: https://แกไ้ ขท่อตนั .com ) (อา้ งอิง ออนไลน,์ 2564 URL: https://decor.mthai.com/garden/14176.html ) (อา้ งอิง ออนไลน,์ 2564 URL: https://www.thairath.co.th/lifestyle/food/1975261 (แหล่งอา้ งอิง:ออนไลน,์ 2564 URL: https://idofragrance.com/ ) (แหล่งอา้ งอิง:ออนไลน,์ 2564 URL: https://medthai.com/%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%95%E0 %B8%A2/ ) (แหล่งอา้ งอิง:ออนไลน,์ 2564 URL: https://beezab.com/tag/ ) (แหล่งอา้ งอิง:ออนไลน,์ 2564 URL: https://beezab.com/tag/ ) (อา้ งอิง ออนไลน,์ 2564 URL: https://www.hafelethailand.com/content/17837/) (อา้ งอิง ออนไลน,์ 2564 URL: https://sites.google.com/site/tuktadabklin/phlitphanth- smunphir-dab-klin) (อา้ งอิง ออนไลน,์ 2564 URL: https://www.tescolotus.com/blog/view/563)