รายงาน เรื่อง สอ่ื ดิจิทัลกบั การศกึ ษา เสนอ อาจารย์ ประทวน คลา้ ยศรี จัดทำโดย นายกิตติศกั ด์ิ แกว้ กง่ิ จันทร์ รหัสนกั ศกึ ษา 624144002 นายวรี ยทุ ธ ดวงลายทอง รหสั นักศกึ ษา 624144006 นางสาวปยิ ะพร โมกแก้ว รหัสนักศึกษา 624144013 นางสาวฟารดี ะห์ บากา รหสั นกั ศึกษา 624144014 นางสาวลัดดาวัลย์ เกียรตศิ ริ กิ ุล รหสั นกั ศกึ ษา 624144017 รายงานเลม่ น้เี ปน็ ส่วนหน่งึ ของรายวชิ า วทิ ยาการจัดการเรยี นรู้ (PC62505) หลกั สูตรประกาศนียบตั รบณั ฑติ สาขาวชิ าคอมพิวเตอรศ์ กึ ษา ปกี ารศึกษา 2562 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมบู่ า้ นจอมบงึ
คำนำ รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา วิทยาการจัดการเรียนรู้ (PC62505) เพื่อให้ได้ศึกษาความรู้ในเรื่อง สื่อดิจิทัล กับการศึกษา และได้ศึกษาอย่าง เขา้ ใจเพ่ือเปน็ ประโยชน์กบั การเรยี น ผู้จัดทำหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษา ท่ี กำลงั หาข้อมูลเรื่องน้ีอยู่หากมขี ้อแนะนำหรือผิดพลาดประการใด ผู้จดั ทำขอ้ นอ้ มรับไว้และ ขออภยั มา ณ ที่นีด้ ว้ ย
สารบญั เน้ือหำ คำนำ .......................................................................................2 สำรบญั .....................................................................................3 สื่อดิจิทลั กบั กำรศึกษำ .....................................................................4 กำรเลือกและพฒั นำสื่อกำรเรียนกำรสอน ..................................................7 ประเภทของส่ือ.............................................................................8 กำรตดั สินใจเกี่ยวกบั ส่ือ.................................................................. 26 กำรตดั สินใจเกี่ยวกบั เทคโนโลยใี หมส่ ่ือดิจิตอล .......................................... 26 กฎในกำรเลือกสื่อ ........................................................................ 28 ปัจจยั อ่ืนๆ ท่ีมีผลต่อกำรเลือกสื่อ......................................................... 29 ขอ้ ควรพิจำรณำในกำรเลือกสื่อ........................................................... 29 สภำพปัญหำท่ีเกิดข้ึนจำกกำรใชส้ ่ือดิจิทลั ของครูผสู้ อน .................................. 33 ประโยชนก์ ำรใชด้ ิจิทลั ดำ้ นกำรศึกษำ .................................................... 35 สรุป (Conclusion) ................................................................ 36 อำ้ งอิง .................................................................................... 37
ส่อื ดิจทิ ลั กบั การศึกษา การเรยี นรู้จากสอ่ื ดจิ ิทลั (Digital Learning) การเรียนรจู้ ากส่ือดจิ ทิ ัลเปน็ การเรยี นรู้ผา่ นเครือข่าย เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social networking) การแชร์ภาพและการใช้อินเตอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่ เป็นต้น การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีในมากกว่าการรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ แต่ยังครอบคลุมถึง ประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับเนื้อหา (content)จริยธรรม สังคม และการสะท้อน(Reflection) ซึ่งฝังอยู่ในการ เรียนรูก้ ารทำงานและชีวติ ประจำวัน พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต 2546 : 9-10) กล่าวว่าสังคมขา่ วสารข้อมลู หรือสังคมสารสนเทศโลก มีข่าวสารข้อมูลแพรก่ ระจายกว้างขวาง ทั่วถึงรวดเร็วมาก ก็คิดว่าควรจะฉลาดคนจะมีปญั ญา จะเข้าสู่ยุค แห่งปัญญาแต่ท่ีจริงการมีข้อมูลขา่ วสารมากไม่จำเป็น ต้องทำใหค้ นมีสติปัญญาหากวา่ ไม่พัฒนาคนให้รู้จัก รบั และใช้ข้อมลู นน้ั และกล่าวสรปุ ไว้วา่ จำแนกคุณไดเ้ ปน็ 3 ประเภทดงั นี้ 1 กลุ่มที่ตกเปน็ เหย่ือในกรณที ี่คนไม่พฒั นาสติปัญญาอย่างถูกตอ้ ง ให้สามารถเข้าถงึ ข้อมูลอย่าง แท้จริง และสามารถถือเอาประโยชน์จากข่าวสารข้อมูลได้ก็จะเป็นโทษอย่างมากข่าวสารข้อมูลจะ กลายเป็นเคร่ืองมอื ลอ่ เร้าและหลอกลวง ทำใหค้ นเปน็ เหย่อื 2 กลุ่มที่รู้เท่าทันคนจำนวนมากมีความภาคภูมิใจว่าตนตามทางข่าวสารข้อมูลมีข่าวสารข้อมูล อะไรออกมาก็ตามทั้งหมด ปรากฏว่าตามทันเท่านั้นแต่ไม่รู้เท่าทันและก็ถูกกระแสข่าวสารข้อมูลท่วมทับ พาไป กรณเี ชน่ นี้ ถ้ามปี ญั ญารู้เทา่ ทนั กจ็ ะทำใหด้ ำรงอยู่ทา่ มกลางกระแสได้ เปน็ ผทู้ ยี่ ืนหยดั ตั้งหลักอยไู่ ด้ 3 กลุ่มที่อยู่เหนือกฎกระแส การรู้เท่าทันยังไม่พอควรที่จะสามารถทำได้ดีกว่านั้นอีกคือขึ้นไปอยู่ เหนอื กระแส เป็นผทู้ ่สี ามารถนำเอาข้อมลู ข่าวสารมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ได้อย่างแท้จริง คนกลุ่มน้ีสามารถ จดั การกับกระแสโดยทำการเปลี่ยนแปลงในกระแสหรอื นำกระแสให้เดนิ ไปในทิศทางท่ีถูกต้อง ศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พื้นฐานกระทรวงศกึ ษาธิการ (http://www.dlthailand.com/thima-khima-khxng-khorngkar) อ้างอิง งานวิจัยของสถาบนั วจิ ยั เพ่ือการพฒั นาประเทศไทย เพ่ือสาเหตหุ ลกั สว่ นหนงึ่ ของปญั หาคุณภาพการศึกษา ไทยคือการที่ระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบันเป็นระบบที่ไม่เอื้อต่อการสร้างความรับผิดชอบ (Accountability) หลักสูตรและตำราเรียนของไทยไม่สอดคล้องกับการพัฒนาทักษะในศตวรรษท่ี 21 (21st Century Skills) ซึ่งมีผลทำให้การเรียนการสอนตลอดไปจนถึงการทดสอบยังของเหลว การจด เน้ือหามากกว่าการเรียนเพอ่ื ให้มีความรู้ความเขา้ ใจอย่างแท้จริงอีกท้ังสภาพการจดั การศึกษาของประเทศ ไทยในปัจจุบันกำลังประสบปัญหาในด้านคุณภาพของนักเรียน ปรากฏอยู่ในหลายพื้นที่ ซึ่งมีสาเหตุจาก การขาดครูหรือครูไม่ครบชัน้ ไม่พบสาระการเรยี นรผู้ ู้มปี ระสบการณห์ รือทักษะการจัดการเรียนรู้น้อย ขาด สื่อ อุปกรณ์ที่ทันสมัยและการเข้าถึงได้ลำบาก ผู้มีเวลาในการจัดการเรียนการสอนน้อย กิจกรรมของ โรงเรยี นมีมาก ทรัพยากรที่มีกระจัดกระจายไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มคา่ และการแก้ปัญหา ตา่ ง ๆ กท็ ำไดใ้ นวงจำกดั
กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมี กิจกรรมหลัก คือการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกลโดยแบ่งเป็น 2 กิจกรรม ย่อย คือการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTD) และ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทางไกล ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLTD)การพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีทางไกล (Distance Learning)เป็นการจัดการศึกษาที่ใชเทคโนโลยี ในการจัดการเรียนการสอนในทุกห้องเรียน แก้ปัญหาการขาดแคลนครูในโรงเรียนขนาดเล็ก ครูสามารถจัดการเรียนรู้ในทุกสาระได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ นักเรียนและครไู ดเ้ ขา้ ถงึ สื่อเทคโนโลยที ี่ทนั สมัยนักเรยี นและครูมีการแลกเปลยี่ นเรียนรู้และ ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษา การนำเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล ( Distance Learning) มายกระดับคุณภาพการศึกษา เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่การจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (Distance Learning Television : DLTV) และการจัดการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Distance Learning via Information Tecnology ; DLTV)มาดำเนินงานโดยเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหา คุณภาพการศึกษา โดยมีการจัด สภาพการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน ของคุณอย่างครบถ้วนทาง กระบวนการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้น กระบวนการสร้างความรู้ จากการลงมือปฏิบัติ เนื้อหา ตลอดจนสื่อและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการจัดเรียนการสอนอาจจะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษา ลดช่องว่างและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับประชาชนไทยทุกคน อันเปน็ การดำเนินการตามรอยเบ้ืองพระยุคลบาท และสนองพระราชดำริในการที่จะพัฒนาการศึกษาไทย ใหเ้ จรญิ กา้ วหน้า เศรษฐพงค์ มะลสิ ุวรรณ ( การศกึ ษาจะถูกเปลี่ยนในยคุ เศรษฐกิจดจิ ิทัล บทความไอที 24 ชัว่ โมง วันที:่ 25 พฤศจิกายน 2016) ได้เสนอบทความเร่ืองการศกึ ษาจะถูกเปล่ยี นในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลสรุปความ ว่าเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่กำลังทำให้สื่อสารทุกสรรพสิ่งในโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้ มันคือ internet of Everything (IoE) IoE จะสรา้ งสภาพแวดลอ้ มแห่งการเรียนรู้ ท่มี กี ารปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งผเู้ รียนและผู้สอน มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา เช่น นักศึกษาที่อาศัยอยู่ในลอนดอน สามารถร่วมรับฟังการบรรยาย จาก สถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกาได้ โดยอาศัยอุปกรณ์สื่อสารที่ทำให้ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคในการ เรียนโดยข้อมูลการเรียนรู้และข้อมูลทั้งหมดจดพร้อมให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้ตลอดเวลา ข้อมลู และส่ือการสอนต่าง ๆที่มอี ยจู่ ะถูกนำมาใชร้ ว่ มกันในรูปแบบใหมซ่ ่ึงเป็นจุดเร่มิ ต้นท่ีจะส่งผลกระทบ ต่อ \"วิธีการ\" และ\"สถานที่\" ที่ใช้ในการเรียนรู้ ดังนั้นผู้เรียนจะต้องเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูทำให้ IoE มีความจำเป็นมากกว่าทักษะและผลงานของผู้เชี่ยวชาญ วิธีการเชื่อมต่อที่ เกิดขึ้นโดย IoE จะทำให้อุปกรณ์สามารถนำมาใช้ประเมินประสิทธิภาพของผู้เรียน สามารถออกแบบ แบบฝึกหัดหรือแบบทดสอบเพื่อทดสอบจุดอ่อนและจุดแข็งของผู้เรียน และผู้เรียนสามารถประเมิน ศักยภาพได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ IoE ยาสามารถเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ของผู้มีความบกพร่องทางร่างกาย และทางสติปัญญาเช่นในประเทศออสเตรเลีย นำเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ไปใช้ในโรงเรียนสอน ผู้มีความ บกพร่องทางร่างกาย โดยเซ็นเซอร์จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ภาษามือของผู้เรียน และใช้ในการ
ปรับปรงุ การเรยี นร้สู ำหรับผู้เรียนสมาธสิ ั้นโดยการตรวจเช็คการทำงานของสมองและการใหร้ างวัลสำหรับ ผเู้ รียนที่มพี ฒั นาการเรยี นท่ีดีขน้ึ คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ข่าว ประชาสัมพันธ์วันท่ี 4 พฤษภาคม 2561) ได้นำเสนอ Digital Learning Platform แนวทางการจัดการ เรยี นการสอนผา่ นระบบออนไลนแ์ ละการใช้สือ่ ดจิ ทิ ลั เพื่อการปฏิรูปการศึกษา ณ สำนักงานเลขาธิการสภา การ ศึกษา สรุปได้ว่า ในเรื่องของการศึกษา สิ่งแรกที่ต้องกระทำคือปรับกระบวนทัศน์ (Paradigm) ให้ ชัดเจน ชัยชนะจะเกิดขึ้นได้อยู่ที่ big Data ซึ่ง Big Data ในที่นี้ความหมายที่ถูกต้องคือ ข้อมูลที่เอามา วิเคราะห์ และเอาไปใช้ประโยชน์ในการบริหารได้โดยสะดวก ไม่ใช่หมายถึงข้อมูลจำนวนมากที่จัดเก็บไว้ ในคอมพิวเตอร์แม่ข่ายนอกจากBig Dataแล้วจิตวิทยา ในการจัดการศึกษาเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ อยาก เรียนให้ออกแบบอย่างที่เราต้องการต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายใน เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยให้ความ สนใจกับ(User) และผู้เรียน (Learner) กระทรวงศึกษาธิการต้องตั้งโจทย์ว่าผู้เรียนอยากรู้อะไรที่ไม่เคยรู้ และไมเ่ คยคดิ ว่าจะมที างทำไดป้ ระเทศไทยกำลงั เขา้ สู่การเปล่ยี นผ่านสำคัญ 5 ดา้ นไดแ้ ก่ 1)Digital Infrastructure การวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านจิทัล ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสงั คมได้ดำเนินการโครงการเนตประชารัฐเข้าถงึ พ้นื ทรี่ ะดับชุมชน 2) คนกับดิจิทัล ต้องมีการสรางคนในระดับต่าง ๆ การศึกษาต้องจับคู่กับความต้องการของด้าน แรงงานให้เหมาะสม ว่ามคี วามต้องการคนทำงานทมี่ ีคณุ สมบตั ิอยา่ งไร และด้านใดบ้าง เพราะจะเหน็ ได้ว่า ในบางธุรกจิ เช่น ธรุ กจิ ธนาคาร หรือบางอุตสาหกรรม คนเรม่ิ ถูก AI เขา้ มาแทนทีแ่ ล้ว 3) Big Data ในภาครฐั ต้องมีการบูรณาการข้อมลู ระหว่างกระทรวงเพื่อนำมาวเิ คราะห์ ออกแบบ และวางแผนทางด้านนโยบายต่าง ๆ เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลการผลิตกำลังคนในระบบการศึกษาตอบ โจทย์ความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรม เปน็ ต้น 4) Cyber Security ตอ้ งใหค้ วามสำคัญกับความปลอดภยั ของระบบสารสนเทศ 5)Internet of Things (IOT)มหาวิทยาลยั ตอ้ งเรง่ พฒั นาเทคโนโลยี IoT อย่างเรง่ ด่วน อติพร เกิดเรือง (2560) ได้นำเสนอผลการศึกษาเรื่อง การส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพือ่ รองรับสงั คมไทยในยุคดิจิทลั (วารสารวชิ าการ มหาวิทยาลยั ราชภัฎลำปาง 173-184) สรุปดังนี้ 1.การ เรียนรู้ในศตวรรษท่ี21 เพื่อรองรับสังคมในยุคดิจิทัล มี 4 องค์ประกอบหลัก คือ 1)การเรียนรู้เกี่ยวกับ ดิจิทัล 2)การคิดสร้างสรรค์ 3)การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และ 4)ผลิตภาพที่มีคุณภาพสูง 2.การเรียนรู้ จากยุคเดิมสู่ยุคดิจิทัล ต้องจัดการเรียนรู้ ที่คำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเรียน การทำงาน และการ ดำรงชีวิต เน้นการจัดการเรียนรูต้ ลอดชีวิต ส่งเสริมการค้นคว้าด้วยตนเองโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยใน การจัดการเรียนรู้ให้มากที่สุด ผู้สอนเป็นผู้ชี้แนะแนวทางในการเรียนรู้ตามหลักสูตร และการวัดผลและ ประเมนิ ผลพัฒนาการมากกว่าการวัดผลสัมฤทธิ์ 3.การจดั การศึกษาในยุคดิจทิ ลั ต้องคำนึงถึงการปรับตัว ให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงเน้นการสร้างสรรค์ปรับแต่ง การเรียนรู้การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหาที่ ซับซ้อน เน้นการใช้เครือข่ายออนไลน์ การจัดการเรียนรู้สร้างสถานการณ์ จำลองให้ผู้เรียนพบ ประสบการณ์จริง เนื้อหาการการเรียนรู้ควรมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้บนเครือข่ายออนไลน์ สามารถสร้าง
องคค์ วามรู้ แบ่งปันความรู้และเนอื้ หาผา่ นเครือข่ายออนไลน์และส่งเสริมความรูใ้ นโลกแห่งการทำงานมาก ข้ึน การเลือกและพฒั นาสอื่ การเรียนการสอน คำว่า สื่อ มีความหมายกว้างมาก การเรียนการสอนในบางครั้งอาจเกิดขึ้นจากเสียงของผู้สอน ตำรา เทป วีดิทัศน์ ภาพยนต์ และคอมพวิ เตอร์ medium หรอื media มาจากภาษาลาตนิ หมายถงึ บาง สิ่งบางอย่างที่อยู่ตรงกลาง (intermediate หรือ middle) หรือเครื่องมือ (instrument)โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งเป็นวิธีการของการสื่อสารทีส่ ่งไปถึงประชาชน เป็นพาหนะนำความรู้หรือสารสนเทศจากแหลง่ กำเนิด ไปสู่ผู้รับ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนต์ รูปภาพ วัสดุฉาย สิ่งพิมพ์ และสิ่งดังกล่าวนี้ เมื่อนำมาใช้กับการ เรียนการสอนเราเรียกว่าส่ือการเรียนการสอน กลวิธีการสอนและการตดั สินใจเลือกสื่อ เปน็ ความสมั พันธ์ระหว่างกนั และควรจะทำไปพร้อมกัน หลังจากที่ได้มีการกำหนดจุดหมายและวิเคราะห์ภาระงานแล้ว แบบจำลองในการเลือกสื่อมีทั้งแบบที่มี ความเรียบง่ายและแบบที่มีความซับซ้อน โรเบิร์ต เมเจอร์ ( Robert Mager) (Knirk and Gustafson, 198:169)ผู้ซึ่งเป็นนักออกแบบการสอน เพื่อการค้าที่ประสบความสำเร็จ ได้กล่าวว่า กระดาษเป็นตวั กลางอยา่ งหน่ึงของการเลือก นอกจากวา่ ในกรณีทด่ี ีทจี่ ะสามารถเลือกใช้สิ่งที่ทำจากอย่าง อื่น วัสดุที่เป็นกระดาษมีราคาแพงในการออกแบบและผลิต ง่ายที่จะผลิตเพิ่มใช้ง่าย และนักเขียนส่วน ใหญ่มีความเข้าใจ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างของแบบจำลองง่ายๆ สำหรับการเลือกสื่อ ส่วนแบบจำลองที่ ซบั ซอ้ นเปน็ วธิ ีการทส่ี ว่ นใหญ่ควรจะหลีกเล่ยี งเท่าทจี่ ะเปน็ ไปได้ เมอื่ เปรยี บเทียบกบั หลักเกณฑ์ของทหาร ก็คอื อย่าโงเ่ ลย ทำใหด้ ูงา่ ยๆ เถอะ (KISS : Keep It Simple, stupid) การนำเสนอส่ือการเรียนการสอน ควรเป็นการกระตนุ้ ทางการเรียนการสอนทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ งา่ ย แก่การเข้าใจ สื่อที่ซับซ้อนมีแนวโน้มของการสิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายสูงและบ่อยครั้งพิสูจน์ได้ว่ามี ประสิทธิภาพและเชื่อไม่ได้ ควรใช้สื่อการเรียนการสอนที่ถูกที่สุดที่ทำให้ผู้เรียนบรรลุจุดประสงค์ตาม เจตนารมณภ์ ายในระยะเวลาที่สมเหตสุ มผล อยา่ งไรก็ตามข้อควรจำ คือ การสื่อราคาย่อมเยาที่ผลิไม่ดีทำ ใหก้ ารเรียนการสอนไมม่ ีประโยชน์สทิ ธภิ าพเช่นเดียวกับการใชส้ อ่ื ทซ่ี ับซอ้ นดังกลา่ วแลว้ เช่นกนั การเลือกและการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน เป็นเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่งในกระบวนการ ออกแบบการเรียนการสอนอยา่ งเป็นระบบ นักออกแบบการเรียนการสอนต้องตดั สินใจเกี่ยวกับการเลอื ก วิธีการ/สื่อ หรือเลือกวิธีการ เลือกวัสดุอุปกรณ์ ระบุประโยชน์ของวัสดุอุปกรณ์ทางการค้าริเริ่มและเฝ้า ระวัง กระบวนการผลิตสื่อ นักออกแบบอาจจะทำเพียงการวางแผนมโนทัศน์ สคริแและนานๆครั้ง อาจจะผลิตวัสดุ (software) สำหรับจำหน่ายความจำกัดสำหรับบทบาทของผู้ออกแบบในการตัดสินใจ เกี่ยวกับวิธี/สื่อ จะหลากหลายไปตามสถานการณ์ และแม้ว่าจะมีวิธีการหลายวิธีในการจำแนกสื่อเป็น ประเภทๆกต็ าม กย็ งั ไม่มีอนุกรมภิธานสือ่ (taxonomy of media) ทพี่ ัฒนาขค้นจนเป็นที่นา่ พอใจ (Seels and Glasgow, 1990 : 179)
ในบทนี้จึงเป็นการเสนอสื่อ 3 ประเภท คือ วิธีการ สื่อดั้งเดิม เทคโนโลยีใหม่หรือสื่อดิจิทัล ภายในแตล่ ะ่ ประเภทจะมที างเลือกและรปู แบบมาก เช่น กราฟฟิก และฟลิ ม์ หรือโทรทศั น์เฉพาะกราฟิกก็ มีหลายรูปแบบได้แก่ แผนภูมิ การ์ตูน และภาพประกอบการเลือกวิธีการ/ส่ือ อยู่บนพื้นฐานของเกณฑ์จะ มีความเหมาะสมสำหรบั ผเู้ รยี นส่งิ ที่เรียนและข้อจำกัดคุณลกั ษณะของผู้เรียน จดุ ประสงค์ สถานการณ์การ เรียนรู้และข้อจำกัดนั้นต้องระบุขึ้นก่อนที่จะเลือกวิธีการและสื่อหลังจากที่ได้มีการระบุวิธีการ / สื่อแล้ว ผ้อู อกแบบต้องแสวงหาส่ือจากดัชนีส่ือจากสื่อท่ีสร้างขึ้นเพ่ือการค้าซงึ่ สามารถท่ีจะนำมาใช้หรือนำมาปรับ ใชไ้ ดถ้ ้าสื่อเหลา่ นน้ั ไมม่ ีประโยชน์กต็ ้องผลิตสอ่ื ขึน้ เอง ผู้ออกแบบการเรยี นการสอนต้องตัดสินใจว่าใครจะเป็นผผู้ ลติ ส่อื ทีมในการผลิตควรจะประกอบ ไปดว้ ยใครบ้าง ผู้ออกแบบตอ้ งรเิ ริ่ม เฝ้าระวงั ตดิ ตามกระบวนการผลิตเป็นความรับผิดชอบของผู้ออกแบบ ที่จะต้องมีความแน่ใจในบูรณาการภาพของการออกแบบและคุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ด้วยการเฝ้าระวัง ติดตามการผลิต ประเภทของสอื่ สื่อสามารถจำแนกได้สี่ประเภท คือ สื่อทางหู (audio) ทางตา (visual) ทางหูและทางตา รวมกัน (audio-visual) และสัมผัส (tactile) ผู้ออกแบบสามารถเลือกสื่อที่เหมาะสมที่สุดจากประเภท ของสื่อต่างๆสำหรับภาะระงานการเรียนการสอยที่มีเฉพาะเจาะจงสื่อต่างๆทั้ง4 ประเภท และตัวอย่างท่ี เกย่ี วขอ้ งมีดังตอ่ ไปนี้ 1.สื่อทางหู ได้แก่ เสียงของผู้ฝึก ห้องปฏิบัติการทางเสียง การเตรียมเทปสำหรับผู้ฝึกเทป แผ่นเสยี ง สิทยกุ ระจายเสยี ง 2. สื่อทางตา ได้แก่กระดานชอล์ก กระดานแม่เหล็ก กราฟ คอมพิวเตอร์ วัตถุต่างๆ ที่เป็นของ จรงิ รปู ภาพ แผนภูมิ กราฟภาพถ่าย หนุ่ จำลอง ส่งิ ทค่ี รูแจกให้ หนงั สือ ฟิล์ม Slide แผน่ ใส 3. สื่อทางหูและทางตา ได้แก่ เทปวีดีโอ ทีวีวงจรปิด โปรแกรมโสตทัศนวัสดุ สไลด์ เทป ภาพยนตร์เสียงในฟิล์ม ทีวีทั่วไป เทคโนโลยีอื่นๆ เช่น ดิจิทัล วีดีโอ อินเตอร์แอคทิฟเทคโนโลยี (digital video interactive technology) 4. สือ่ ทางสัมผสั ได้แก่ วตั ถขุ องจรงิ แบบจำลองในการทำงาน เช่น ผ้แู สดงสถานการณ์จำลอง ข้อดแี ละขอ้ เสยี ของสอื่ บางประเภท ในการเลือกสื่อที่มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับภาระงานการเรียนรู้ที่มีความเฉพาะเจาะจง ผู้ออกแบบจำเป็นต้องรู้ถึงความเป็นไปได้ในข้อดีและข้อเสียที่เกี่ยวข้องกับสื่อแต่ละประเภท ตาราง ท่ี 16 จะแสดงให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของตัวอย่างสื่อจากประเภทที่สำคัญ 4 ประเภท และตาราง ท่ี 17 แสดงประเภทและคุณสมบตั ิของสือ่ การเรยี นการสอน การตัดสินใจเกยี่ วกบั วิธกี ารและสอื่
การตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการและสื่อ บางครั้งเกิดขึ้นพร้อมๆกัน ในบางเวลาจะเลือกวิธีการก่อน และเลือกสื่อที่จำเป็นในการใช้ทีหลัง ดูแกน เลียด (Dugan laird:108) เปรียบเทียบวิธีการว่าเป็นเหมือน ทางหลวง (highway) ที่นำไปสู่จุดหมายปลายทาง (จุดประสงค์) และสื่อ (วัสดุฝึก) เป็นสิ่งที่เพิ่มเติม (accessories) บนทางหลวง เช่น สัญญาณ แผนท่ี ซึ่งทำใหเ้ กดิ การเดนิ ทางสะดวกข้ึน วิธีการ เป็นกลยุทธ์การเรียนการสอนที่มีระดับความชี้เฉพาะมาก เป็นวิธีการเรียนการสอนท่ี ตัดสินธรรมชาติของบทเรียน Joyce and Weil (1980) เรียกสิ่งเหล่านี้ว่าแบบจำลองการสอน (model of teaching) แบบจำลองเป็นวิธีการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ในระดับบทเรียนมากกว่าที่จะเป็น ระดับหนว่ ยในหลกั สตู ร สอ่ื ข้อดี ข้อเสีย โสตวัสดุ 1. เทป • จูงใจ • ก่อใหเ้ กิดความเบอ่ื หนา่ ย • ใช้กบั กลมุ่ ใหญไ่ ด้ • ไม่มีการให้ผลป้อนกลับในการ • ใชไ้ ดท้ ้ังท่ีบ้าน ทีท่ ำงานและช้นั เรียน • สามารถกอ็ ปปี้ได้ เรยี นการสอน • งา่ ยในการเกบ็ รกั ษา • ใชเ้ วลาในการกรอเทปกลับ • สามารถถูกทำลายได้ ฉีกขาด สอ่ื ข้อดี เสียหายได้ 2. คำแนะนำของผ้ฝู กึ • เผชญิ หนา้ กัน • · หน่วยที่จะกรอเทปกลับอาจจะ • ให้ผลป้อนกลบั ที่ดีกว่า ไมว่ ่าง ข้อเสยี 3. โทรทศั น์ • ครอบคลมุ พ้ืนท่กี ว้างขวาง • ไม่เหน็ หนา้ กนั • ตอ้ งการทรพั ยากรเพ่ิมมากขน้ึ • เปน็ ระบบไปรษณยี ท์ สี่ ั้น ๆ • สิน้ เปลือง • เครอ่ื งมือพัง ทัศนวัสดุ • ครูจำเป็นต้องนำเสนอด้วยการ 1. ภ า พ พ ล ิ ก (Flip • ราคาถกู เขยี นทส่ี วยงาม Charts) • เก็บสารสนเทศได้ • จำกัดขนาด • สารสนเทศมากเกนิ ไป • เคลอ่ื นย้ายได้ • กินเวลามาก • · ยากท่ีจะแสดงทัศนะ • เปลย่ี นสารสนเทศได้ เชน่ การพิมพ์ • นำเสนอบทเรียนได้ • · ไม่จำกัดวา่ ใชก้ ับคนคนเดยี ว
สอ่ื ข้อดี ขอ้ เสยี ทศั นวสั ดุ 2. สง่ิ ทคี่ รูแจก • ราคาถูก • ราคาอาจแพง • เป็นการอา้ งอิงทถ่ี าวร • กราฟฟกิ (สองมิต)ิ • ช่วยในการทบทวน จดจำ • นักเรียนอาจไม่ได้รับการ • ช่วยนักเรียนทีไ่ มไ่ ดเ้ ขา้ ช้ันเรยี น บงั คบั ให้อา่ น • ใหก้ ารอา้ งอิงที่คน้ คว้าไดใ้ นห้องสมุด • ก่อให้เกิดการเรียนรู้แบบ เฉ่ือยชา • นำไปสู่พัฒนาการก้าวต่อไปของของ นักเรยี น • สารสนเทศล้าสมยั • เป็นขอ้ แนะนำในการศกึ ษา • ทำใหน้ ักเรียนมีสว่ นร่วม • ใช้ได้กับนักเรียนทุกคน เช่นภาษา ระยะทาง • และอ่นื ๆ ทีเ่ กย่ี วข้อง • สามารถสรุปให้เห็นภาพทั้งหมด 3. กระดาษคำพื้นฐาน • ใหส้ ารสนเทศที่ลอกได้ • จำกัดขนาดของปากกา กระดานขาวตายตัว • เห็นได้ • ชอล์กทำใหเ้ ลอะเทอะ • ราคาถกู • ใช้เวลามากในการเขียน • ใหส้ ีหลากหลายได้ • บางคนเขยี นไม่สวย • ยอมให้กลมุ่ มสี ่วนรว่ มได้ • สองมติ ิ • ขัน้ ตอนมเี หตมุ ีผล • สารสนเทศไม่สมั พนั ธก์ ัน • สามารถเปลีย่ นแปลงได้ • สารสนเทศขาดตอน
ตารางที่ 16 ข้อดีและข้อเสยี ของตัวอย่างสือ่ บางอย่าง สอ่ื ขอ้ ดี ข้อเสยี ทศั นวัสดุ 4. กระดานขาวและกระดานดำที่ • ใหข้ ้อมลู ที่กว้าวขวาง • ไมส่ ามารถเคล่ือนย้ายได้ ตายตัว • ยอมให้เก็บข้อมูลเชิงตรรกะ ได้ 5. ก ร ะ ด า น ด ำ ท ี ่ ใ ช้ • เคลือ่ นย้ายแบบจำลองได้ • ไม่ใช่ของจริง แ ม ่ เ ห ล ็ ก Magnetic or Felt • สร้างสาระสนเทศใหม่ได้ • จำกัดกลมุ่ ผูม้ ีส่วนรว่ ม Board 6. การผสมผสานกระดานตายตัว • เหมอื นข้อ 5 • ต้องการผสู้ อนท่มี ที กั ษะ ต่าง ๆ (Fixed Board to above) • จัดการจัดหอ้ งเรยี น • นักเรียนสามารถมองได้ เพยี งด้านเดียว 7. การสาธติ (Demonstration) • ประหยดั เวลาและการพดู • ตอ้ งการผู้สอนทม่ี ที ักษะ • ง่ายในการเฝ้าดูมากกว่า • นักเรียนไมม่ สี ่วนรว่ ม การฟงั • นักเรียนอาจไม่รู้ว่าต้อง • เหน็ ของจรงิ สังเกตอะไร • มาตรฐานการสาธติ • นักเรียนอาจมีความเข้าใจ ช้าหรอื ไมเ่ ขา้ ใจเลย 8. ค อ ม พ ิ ว เ ต อ ร ์ ช ่ ว ย • เสรมิ แรงบ่อยคร้งั • ถ้าปราศจากการออกแบบ ส อ น (Computer Assisted • ทำให้เกิดการเรียนรู้แบบ ที่ดีก็จะก่อให้เกิดความเบ่ือ Instruction) วอ่ งไว หนา่ ย
• มีปฏิสมั พันธ์กบั ส่ืออ่ืน ๆ • หนึ่งร้อยชั่วโมงที่ใช้ในการ • ผดิ พลาดน้อย ออกแบบผลิตงานได้เพียง หนง่ึ ช่ัวโมง • เสียค่าใช้จ่ายสูง ทักษะที่ จะใช้คีย์บอร์ดนักเรียนต้อง พฒั นา โสตทัศนะ • สามารถแสดงพัฒนาการ • เปลี่ยนเวลาได้ 1. ฟลิ ์ม/วดิ โี อ (Film/Video) ของวิธีการหรอื การปฏิบตั ิ • สนุกสนาน • ผสมผสานทัศนะคำพูด • จูงใจ และเสยี งอื่นเขา้ ดว้ ยกนั • นกั เรียนไม่มสี ว่ นร่วม • แพง • โดยทั่วไปสร้างขึ้นจาก จดุ ประสงคข์ องคนอื่น สอ่ื ข้อดี ข้อเสยี ส่งิ ท่ีรับรู้ด้วยการสมั ผสั (Tactile) 1. ต ั ว จ ำ ล อ ง • อนุญาตสำหรับผู้มีทักษะของความเป็น • จำกดั โปรแกรม ส ถ า น ก า ร ณ์ จริง • ต้องการคนที่มีทักษะความสามารถ (Simulator) • ใช้สำหรบั การสาธติ สูง • ประโยชน์คมุ้ ค่า • ตอ้ งการการนิเทศอยา่ งใกล้ชดิ • แก้ไขวธิ ีการปฏิบตั ิทไ่ี ม่ถกู ต้อง • ยอมใหม้ ีการวิเคราะห์ • ยอมให้นกั เรยี นมีสว่ นรว่ ม • ปลอดภยั 2. อินเตอร์แอคทิฟ • เหมอื นกบั CAI • ยากทจี่ ะสร้างกิ่งกา้ นสาขา วิดีโอ/คอมพิวเตอร์ • แบบจำลองทศั นะ/การสาธิต • กรอกกลับชา้ (Interactive Video/ • จูงใจ Computer)
3. อ ิ น เ ต อ ร์ • เหมือนกับคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน(CAI) • ราคาสงู แ อ ค ท ิ ฟ ด ิ ซ ค • แบบจำลองทางทศั นะ/การสาธิต • ค่าบำรุงรกั ษาสูง ( Interactive Video • คณุ ภาพในการแกป้ ัญหาสูง disc) 4. ด ิ จ ิ ท ั ล ว ี ด ิ โ อ • การฝกึ อบรม (สื่อผสม) (multimedia) • ข้อถกเถียงเกี่ยวกับการออกแบบมี เทคโนโลยี [ Digital • บันทึก/เล่นป้อนกลับ/บรรณาธิการให้ ความซับซอ้ น Video Technology การ (DVT) ] • ต้องการบุคลากรที่พัฒนาทักษะ ใน • เคลื่อนไหวที่เป็นจริงเป็นจินตนาการ หลายสาขา ของนักคอมพิวเตอร์ • ผู้พัฒนาการเรียนการสอนควบคุม ส่วนประกอบ • ของสิ่งสื่อผสมที่เป็นของรายวิชาให้ ทันสมยั เกบ็ สะสมไว้ในคอมพวิ เตอร์ • ยอมใหผ้ ู้เรยี นพัฒนาการฝึกหดั เกีย่ วกบั • อินเตอร์แอคทิฟ วีดิโอ (interactive video) • ไม่จำกัดสาขา • เสียงในฟิล์มจำกดั โดยไฟล์ทส่ี ะสมไว้ • วีดิโอ (V.D.O) ที่แสดงการเคลื่อนไหว ยงั คงเป็น • ตำราในการจินตนาการ • โสตกราฟฟิคที่สะสมไว้ในดิจิตอล (digital) 5. ดีวีที (DVT) เป็น • ใชไ้ ฟล์จาก Hard disk หรอื CD-ROM เครื่องหมายการค้า • CD-ROM มคี า่ ใชจ้ า่ ยในการผลิตถูกกว่า ว ี ด ิ โ อ ด ิ ซ (video disc)
ตารางที่ 17 ประเภทและคุณสมบตั ิของส่อื การเรียนการสอน วัสดอุ ุปกรณ์ ข้อดี ข้อเสีย 1. สิ่งพิมพ์ต่าง ๆเช่น • เป็นวธิ กี ารเรยี นรทู้ ี่ดีทสี่ ดุ วธิ ีหน่งึ • ถ้าจะให้ได้สิ่งพิมพ์คุณภาพดี หนงั สือตำราเรียนคมู่ ือ • สามารถอ่านได้ตามอัตราความสามารถของ จำเปน็ ตอ้ งใช้ แต่ละบุคคล • ตน้ ทุนในการผลติ สงู • เหมาะสำหรับอ้างอิงหรอื ทบทวน • บางครั้งต้องพิมพ์ใหม่เพื่อ • เหมาะสำหรับการผลิตเป็นจำนวนมาก ปรบั ปรงุ ขอ้ มูลที่ สะดวกในการ • ล้าสมัย • แกไ้ ขปรับปรุงเนอ้ื หาใหม่ • ผู้ไม่รู้หนังสือไม่สามารถอ่าน เขา้ ใจได้ 2. ของจรงิ ของตวั อย่าง • แสดงสภาพได้ตามความเปน็ จริง • บางครั้งอาจจะลำบากในการ • เป็นลักษณะ 3 มติ ิ จดั หา • สมั ผสั ได้ดว้ ยประสาทสมั ผสั ท้ังห้า • สามารถจับตอ้ งเลก็ พิจารณารายละเอยี ดได้ • ของบางสิ่งอาจมีขนาดใหญ่ • ปกติเหมาะสำหรับการเสนอตอ่ กลมุ่ ยอ่ ยๆ เกินกว่าจะนำมา • อาจเสยี หายได้งา่ ย • เกบ็ รักษาลำบาก • แสดงได้ • บางครั้งของนั้นอาจมีราคาสูง เกินไป 3. ของจำลองหุ่นจำลอง • อย่ใู นลกั ษณะ 3 มิติ • ต้องอาศัยความชำนาญในการ ขนาดเท่าหรือขยายของ • สามารถจับตอ้ งและพิจารณารายละเอยี ดได้ ผลิต จีนมองเห็นได้ด้วยตา • ชำรุดเสยี หายได้ง่าย เปล่า(เช่น ลักษณะของ • ส่วนมากราคาจะแพง อวัยวะภายในร่างกาย) • สามารถแสดงหน้าที่และลักษณะ • ปกติเหมาะสำหรับการแสดง สว่ นประกอบ ตอ่ กลุม่ ยอ่ ย • ช่วยในการเรียนรู้และการปฏิบัติทักษะชนิด • ถ้าทำได้ไม่เหมือนของจริงทุก ต่างๆ ประการ • หุ่นบางวัยสามารถผลิตได้ด้วยวัสดุหรือวัสดุ • บางครั้งอาจทำให้เกิดความ ท้องถิ่นทห่ี าไดง้ ่าย เขา้ ใจผดิ •· •
4 . ว ั ส ด ุ ก ร า ฟ ิ ก เ ช่ น • ชว่ ยแสดงลำดับข้นั ตอนของเนอ้ื หา • เหมาะสำหรับการเรียน แผนภูมิ แผนภาพ โพ • ·สามารถจดั หาได้ง่ายจากส่ิงพิมพต์ า่ งๆ ในกลมุ่ เล็ก ส เ ต อ ร์ ภ า พ ถ ่ า ย • ·ผลิตได้ง่ายและสามารถผลิตได้จำนวน ภาพเขยี น การต์ ูน • ·งานกราฟิกที่มีคุณภาพ มาก ดจี ำเป็นตอ้ งใชช้ า่ ง • ·เก็บรักษาได้งา่ ยดว้ ยวิธผี ลกึ ภาพ • เทคนิคที่มีความชำนาญ ในการผลติ • ·การใช้ภาพบางประเภท เชน่ ภาพ • ·การใช้ภาพบางประเภท เชน่ ภาพตดั สว่ น • ( sectional drawings) หรือการ์ตูน อาจไม่ช่วย ให้กลุ่มเป้าหมายเกิด ความเข้าใจดีขึ้น เพราะ ไม่สามารถสัมพันธ์กลับ ของจรงิ ได้ วัสดุอุปกรณ์ ข้อดี ขอ้ เสีย 5. กระดานดำ กระดาน • ·ตน้ ทุนในการผลติ ต่ำ • ·ผู้สอนต้องหันหลังให้ ขาว กล่มุ ผู้เรียนเมื่อเขยี น • ·สามารถเขียนรายงานกราฟิกได้ หลากหลาย • ก ร ะ ด า น ท ำ ใ ห ้ ไ ม่ • ·ช่วยในการสร้างความเข้าใจตามลำดับ สามารถคมุ ชัน้ เรยี นได้ เร่อื งราวเน้อื หา • ·สามารถอ่านข้อความ บนกระดานได้ไมไ่ กล • ม า ก น ั ก ท ำ ใ ห ้ ก ลุ่ ม ผ้เู รยี นมจ่ี ำนวนจำกดั • ·ภ า พ ห ั ว ข ้ อ ห รื อ ประเด็นคำบรรยายต้อง ถูก 6. กระดานผ้าสำลีและ • ·สามารถนำมาใชไ้ ดอ้ กี • ·ไม่เหมาะสำหรับผู้เรียน กระดานแมเ่ หล็ก • ·วัสดุในการผลิตหาง่ายและสามารถ กลมุ่ ใหญ่ ผลิตไดเ้ อง
7.การศึกษานอกสถานท่ี • ·เหมาะสำหรับแสดงความเกี่ยวพันของ • ·เสียเวลาและค่าใช้จ่าย ลำดบั เนอื้ หาเป็น ในการเดนิ ทาง • ขน้ั ตอน • ·จัดเฉพาะผู้เรียนกลุ่ม • ·ช่วยดงึ ดดู ความสนใจ ยอ่ ย • ·สามารถใหก้ ลุ่มผู้เรียนร่วมกันเพือ่ สร้าง • ·ต้องเตรียมการและ ความสนใจและ วางแผน โดยละเอยี ด • ทดสอบความเขา้ ใจ • รอบคอบ • ·ผู้เรียนสามารถสังเกตการณ์และมีส่วน รว่ มได้ด้วยตนเอง • ·ต้องใช้เครื่องในห้องที่ มืดสนิทจงึ จะเห็นภาพ • ·เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมทำงานเป็น กลมุ่ และสรา้ งสรรค์ • ขยายทช่ี ัดเจน • ·เครื่องมือขนาดใหญ่ทำ • ความรับผิดชอบรว่ มกนั • ·จูงใจเปน็ รายบุคคลได้ดี ให้ขนย้ายไดล้ ำบาก สอ่ื การสอนประเภทใช้เครอื่ งฉาย • ·ถา้ จะผลิตแผน่ โปร่งใสท่ี มีลักษณะพิเศษ ต้อง 1.ประเภทเสนอภาพนิง่ • ลงทนุ สงู 1.1 เครื่องฉายภาพทึบ • ·สามารถขยายภาพถ่ายภาพเขียนวัสดุ • ·ผู้เรียนไม่มีบทบาทร่วม แสง ทบึ แสงให้เป็นภาพ ในการใชอ้ ุปกรณ์ • ทีม่ องดมู ีขนาดใหญไ่ ด้ • ·เหมาะสำหรับผู้เรียนกล่มุ ใหญ่ • ·ช่วยลดภาระในการผลิตสไลด์และแผ่น โปรง่ แสง 1.2 แผ่นโปรง่ ใส • ·สามารถใชไ้ ด้ในท่ที มี่ ีแสงสวา่ ง • ·เหมาะสำหรบั ผเู้ รียนกล่มุ ใหญ่ • ·พูดสอนหนั เขา้ หาผู้เรยี นได้ • ·ผู้สอนสามารถเตรยี มแผ่นโปรง่ ใสไวใ้ ช้ • ดวงหนา้ หรอื • สามารถเขียนลงไปพร้อมทำการ บรรยายเพื่อเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจ วัสดุอปุ กรณ์ ขอ้ ดี ขอ้ เสยี
1.3 สไลด์ • ·เหมาะสำหรับผู้เรียนกลุ่มใหญ่และกลุ่ม • ·ต้องฉายในห้องที่มืด เล็ก พอสมควรยกเว้นจะมี 1.4 ฟิล์มสครปิ 1.5 ไมโครฟิล์ม ไมโคร • ·ผลิตค่อนข้างง่ายและทำสำเนาได้ง่าย • จอ Daylight Screen ฟชิ เชน่ กัน • ·การถ่ายทำชุดสไลด์ที่ดี • ·สามารถเปลี่ยนสลับรูปในการสอนได้ ตอ้ งมีการวางแผนทำ ตามต้องการ • บท สคริปการถ่ายทำ • ·สามารถปรับเปลี่ยนรูปที่ไม่ทันสมัย และการจดั ภาพเปน็ ชดุ หรอื เพิ่มรปู ตาม • ·ไมส่ ามารถตัดตอ่ สลับ • ความตอ้ งการของเน้อื เรื่อง • ·ริมหนามเตยชำรุดได้ • ·ใช้สะดวกเกบ็ รักษางา่ ย • ·ใช้ประกอบกบั เคร่ืองบันทึกเสียงในการ งา่ ย ผสม • ·ไม่สามารถอ่านข้อความ • สญั ญาณเสียงและภาพ ไดด้ ้วยตาเปล่าต้อง • ·สามารถใช้ได้กับเครื่องฉายที่ใช้ไฟฟ้า • ใชเ้ คร่อื งอ่านท่ีมีคณุ ภาพ หรือแบตเตอร่ี • ·เครื่องอ่านใช้อ่านคน • ·เหมาะสำหรับการเรียนเป็นกลุ่มหรือ เดียว มรี าคาไมส่ งู มาก รายบคุ คลใช้ภาพ • นัก • ·เครื่องอ่านสำหรับฉาย • กบั เร่ืองอืน่ ๆได้ • ·ผลติ เองไดง้ า่ ย ใหก้ ล่มุ ใหญจ่ ะราคา • ·สะดวกในการใช้และเก็บรักษา • แพง • ·สะดวกในการเก็บรกั ษา • ·สามารถเกบ็ จำแนกประเภทไดง้ า่ ย • ·เหมาะสำหรับการเก็บรักษาข้อมูล สงิ่ พิมพเ์ พราะมีขนาด • เล็ก • ·ขนาดเล็กหยบิ ใช้ไดส้ ะดวก 2. ประเภทเสนอภาพเคลอ่ื นไหว
2.1 ภาพยนตร์ (8 และ • ·ให้ภาพที่ดูแล้วเสมือนมีการเคลื่อนไหว • ·ต้นทุนในการผลิตสูง 16 มม.) ของสง่ิ ของและ มากและกรรมวธิ ีในการ • ให้เพียงพอขอบคุณทั้งภาพและเสียงมี • ผลติ สงู มาก ลักษณะใกล้เคยี งความจริงมาก • ·หากผลิตฟิล์มจำนวน • ·เหมาะสำหรับการสอนกลุ่มใหญ่และ นอ้ ยมว้ นจะทำให้ กลุ่มยอ่ ย • ต้นทุนในการผลิตสูง • ·ภาพยนตร์ 8 มม. เหมาะสำหรับการ กวา่ เดมิ มาก เรยี นรายบุคคล • ·ต้องใช้ไฟฟ้ามากในการ • ·เหมาะสำหรับให้ความรู้แต่ผู้สอน ฉาย จะตอ้ งอธบิ ายบางสงิ่ • ·ล ำ บ า ก ใ น ก า ร • ในภาพยนตร์ก่อนทำการฉายและเมื่อใช้ เคลื่อนย้ายอปุ กรณ์ จบแล้วควรมีการซักถามปัญหาหรือ • ·ตอ้ งฉายในท่มี ืด อภปิ รายร่วมกันเพ่ือสรปุ เรื่อง • ·ห า ก ใ ช ้ ภ า พ ย น ต ร์ ต่างประเทศอาจจะไม่ ตรง • ต่อความต้องการของ ผูใ้ ชจ้ ริงๆ หรือผชู้ ม วัสดอุ ุปกรณ์ ข้อดี ข้อเสยี 2.2 โทรทัศน์ • ·สามารถใช้ได้กับผู้เรียนหรือผู้ชม ไม่ • ·การจัดรายการท่ีต้องใช้ จำกดั จำนวนและ ตน้ ทุนสูงมากและ • สามารถถ่ายทอดไปไดใ้ นระยะไกลๆ • ต้องใช้เทคนิคในการ • ·ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้เรยี น ผลติ รายการ • ·เหมาะสำหรับใช้ในการจูงใจสร้าง • ·เป็นการสื่อสารทาง ทศั นคตแิ ละเสนอ เดียวทำใหผ้ ู้เรยี นไม่ • ปัญหาให้ผู้เรียนคิดหรือเสริมสร้างการ • สามารถถามข้อสงสัยได้ อภปิ รายรว่ มกนั ท ั น ท ี แ ล ะ ผ ู ้ ส อ น ไ ม่ สามารถทราบการ • ·ช่วยลดภาวะของผู้สอน คือแทนท่ี ตอบสนองของผูเ้ รียนได้ จะตอ้ งบรรยายหลาย • ·รายการที่เสนออาจไม่ • ครั้ง หรือหลายแห่งในหัวข้อเดียวกันต่อ ตรงกนั ตารางสอนหรอื ผู้เรียนหลายกลุ่มกใ็ ช้การถ่ายทอดไปยัง ที่ตา่ งๆได้ในเวลาเดยี วกัน • บทเรยี น
2.3 โทรทัศน์วงจรปดิ • ·สามารถใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กและกลุ่ม • ·รบั ภาพเฉพาะในบริเวณ 2.4 วดี ที ัศน์ ใหญ่ ท่ีกำหนดให้เท่านัน้ • ·ใช้ถ่ายทอดเหตุการณ์หรือการสอนท่ี • ·ต้นทุนอุปกรณ์และการ ผเู้ รยี น/ผชู้ มไม่ ผลิตสงู ต้องใช้ชา่ ง • สามารถรวมกันอยู่ในบริเวณที่เรียนที่ • เทคนิคในการผลิต/จัด ชมพรอ้ มกันได้ รายการ • ·สามารถใช้ร่วมกับวีดิทัศน์ในการส่ง • ·ต ั ว อั กษร ที ่ ป ร า ก ฏ ภาพได้ จอโทรทัศน์ • ·สามารถใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กและกลุ่ม • ·ม้วนเทปเสื่อมสภาพได้ ใหญ่ ง่าย • ·สามารถฉายซ้ำเมื่อผู้เรียนไม่เข้าใจหรอื ผทู้ บทวน • ·แสดงภาพเคลือ่ นไหวของภาพประกอบ เสียงท่ีให้ • ความรู้สึกทใี่ กล้เคียงของจรงิ มากมี • ขนาดเลก็ ออ่ นกว่า สื่อการสอนประเภทเครื่องเสียง 1.วิทยหุ รอื รายบุคคล • ·สามารถใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กและกลุ่ม • ·ต้องใช้ห้องที่ทำขึ้น เฉพาะเพอ่ื การกระจาย ใหญ่ • เสยี ง • ·ระยะกระจายเสียงกว้างและการ • ·ผู้ฟังหรือผู้เรียนต้อง ถา่ ยทอดได้ใน ปรับตวั เขา้ หารายการ • ระยะไกลๆ • เนื่องจากผู้บรรยายไม่ สามารถปรับตัวเข้าหา • ·ลดภาระของผู้สอนหรือผู้บรรยายใน ผ้ฟู งั ได้ การเดินทางไปสอน • ·เป็นการสื่อสารทาง เดียวที่ทำให้ผู้บรรยาย • ในทีต่ า่ งๆ ไม่ • ·ดงึ ดดู ความสนใจได้ดี • สามารถทราบปฏิกิริยา ตอบสนองกบั ผูฟ้ งั • ·เครื่องรับวิทยุราคาถูกและสามารถใช้ กับแบตเตอรีไ่ ด้ • ·สามารถใช้กับสื่ออื่น เช่น สิ่งพิมพ์เพื่อ ประกอบการเรยี น
2.เทปบนั ทกึ เสยี ง • ·สามารถใช้กับผู้เรียนกลุ่มเล็กและกลุ่ม • ·ก า ร บ ั น ท ึ ก เ ส ี ย ง ท่ี ใหญ่ คุณภาพดีจำเป็นต้องใช้ • ·เหมาะสำหรับการเรียนรู้ด้วยตนเอง ห้อง หรอื กับกลุ่มยอ่ ย • แ ล ะ อ ุ ป ก ร ณ ์ ท ี ่ ด ี มี • ·การเปิด/ปิด/เดินหน้า/ย้อนกลับ คณุ ภาพสงู สามารถทำไดโ้ ดยสะดวก • ·ต้องมีความชำนาญ • ·อุปกรณ์ราคาถูกและสามารถใช้กับ พอสมควรในการตดั ตอ่ แบตเตอรี่ได้ • เทป • ·ใช้ไดห้ ลายกรณเี ช่นใชป้ ระกอบสไลด์ใช้ • ·ต้องระมัดระวังในการ บันทกึ เกบ็ รักษา • ·เสียงที่ไม่สามารถฟังได้ทั่วถึง เช่น การ เตน้ ของหัวใจ วัสดอุ ปุ กรณ์ ขอ้ ดี ขอ้ เสยี 3. แผน่ ซดี ี • ·บนั ทึกเสยี งในประเภทต่างๆในระบบ ดี • ·ไม่สามารถบนั ทกึ ทบั ได้ จทิ ลั ที่ให้ความ • ·โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้ไม่ • ชดั มาก สามารถบันทกึ เสียงเอง • ·ไม่มีการพรั้งเผลอลบเสียงที่บันทึกไว้ • ได้ต้องมีการบันทึกเสียง และไมพ่ รั่นต่อ มาจากโรงงานผ้ผู ลติ • สนามแมเ่ หล็ก • ·ต้นทุนการผลิตสูงกว่า • ·เรียกคน้ ข้อมลู เสียงได้รวดเรว็ การบนั ทึกลงเทปเสียง • ·มีอายุใช้งานนานและยากแก่การบุบ • แต่ถ้าผลิตเป็นจำนวน สลาย มากจะลดตน้ ทนุ ได้มาก • ·ขนาดเลก็ กะทดั รัดเหมาะแก่การพกพา • · เครื่องเล่นมีราคาสูง กวา่ เคร่ืองเล่นเทปเสียง 4.ส่อื เชิงโต้ตอบ (Interactive Media) 4.1 ดา้ นวัสดุอปุ กรณ์ 4.1.1 คอมพวิ เตอร์ • ·ใช้งานได้หลายประเภท เช่น การ • ·มีราคาสูงพอสมควร คำนวณจดั เกบ็ • ·ต้องมีการบำรุงรักษา • ฐานข้อมลู การจัดหนา้ สงิ่ พมิ พ์ ฯลฯ ตามระยะเวลา • ใช้แก้ปญั หาต่างๆ ท่ซี ับซ้อนได้ • ·ต้องใช้กับโปรแกรม ซอฟตแ์ วร์ประเภทต่างๆ
4.1.2 บทเรียนการสอน • เสนอข้อมูลได้หลายประเภ ททั้ ง • จึงจะใช้งานได้ ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย ตวั อกั ษรภาพนง่ิ • ·มีการเปลี่ยนแปลงด้าน (CAI) • ภาพเคล่ือนไหวและเสียง อุปกรณ์เช่นความเร็ว 4.1.3 ซีดี-รอม • มีการโต้ตอบกับผู้เรียนเพื่อให้ผล • ในการทำงานของการ์ด ปอ้ นกลับดว้ ยความรวดเรว็ ประเภทต่างๆจนทำให้ • สามารถบันทึกข้อมูลเก็บไว้ใน เครื่องที่มอี ยู่ล้าสมัยแล้ว หน่วยความจำของ • ·ตอ้ งอาศยั ผู้เชย่ี วชาญใน • เครื่องหรือวัสดุบันทึกอื่น เช่น จาน การเรยี นโปรแกรม บนั ทกึ และเทป • บทเรยี น • แม่เหลก็ ได้ • ·โปรแกรมซอฟต์แวร์ • ใช้ร่วมกับโมเด็มเพื่อใช้อินเตอร์เน็ตเพ่อื บางประเภทมรี าคาสงู การสื่อสาร • พอสมควร • ข้อมลู กับฐานขอ้ มลู อ่ืนๆ ได้ท่วั โลก • เครื่องกระเป๋าหิ้วขนาดเล็กเหมาะแก่ • ·ไม่สามารถบันทึกทับ ขอ้ มูลเดิมได้ การพกพาไปใชใ้ นท่ี • ตา่ งๆได้ • ·ผู้เรียนสามารถมีการโต้ตอบกับ บทเรยี นได้ • ·สามารถป้อนกลับแกผ่ เู้ รยี นได้ในทันที • ·มีรูปแบบบทเรียนให้เลือกใช้มากมาย เชน่ การสอน • ทบทวน เกม การจำลอง ฯลฯ • ·เสนอบทเรียนได้ทั้งลักษณะตัวอักษร ภาพและเสยี ง • ·ผู้เรียนสามารถทบทวนเนื้อหาบทเรียน และทำกิจกรรม • ได้ตามความสามารถของตนในลักษณะ การศึกษารายบุคคล • ·สามารถบันทึกข้อมูลได้มากถึง 680 เม กะไบต์
• ·บันทึกข้อมูลได้ทั้งตัวอักษรภาพน่ิง • ·ป ก ต ิ แ ล ้ ว ผ ู ้ ใ ช ้ ไ ม่ ภาพกราฟิก สามารถบันทึกข้อมูลเอง ได้ • เคลอื่ นไหวภาพ วดี ิทัศน์ และ เสียง • ·เรยี กคน้ ขอ้ มูลได้รวดเร็วและถูกตอ้ ง • ต้องมีการบันทึกมาจาก • ·มีอายุใช้งานนานและยากแก่การบุบ โรงงานผู้ผลติ สลาย • ·ต้นทุนการผลิตสูง แต่ • ·ขนาดเลก็ กะทัดรัดเหมาะแกก่ ารพกพา ถ้าผลติ เป็นจำนวนมาก 4.1.4 แผ่นวีดิทัศน์ • ·บันทึกข้อมูลในลักษณะตัวอักษร • จะลดต้นทนุ ไดม้ าก (Videodisc/Laserdisc) ภาพน่งิ ภาพกราฟิก • ·ต้องใช ้เล่นร่ว ม กั บ • เคลอื่ นไหว เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ • ·มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 • ·แบ่งเป็นสองชนิด บันทึกข้อมูลได้ทั้ง น้ิวจึงมีขนาดใหญไ่ ม่ แบบหนา้ ละ 30 • เหมาะในการพกพา • ·ผู้ใช้ไม่สามารถบันทึก • นาทีและ 1 ช่วั โมง ข้อมูลได้เอง ตอ้ ง • ·ดูภาพนิ่งได้ทีละภาพด้วยความชัดหรือ • บันทึกมาจากโรงงาน จะดภู าพช้าหรือ เท่าน้นั • ภาพเรว็ ก็ไดเ้ ชน่ กนั • ·ต ้ อ ง ใ ช ้ โ ป ร แ ก ร ม ซอฟตแ์ วร์ทม่ี ีคุณภาพสูง • ·เล่นเดินหน้าหรือยอ้ นกลับได้ด้วยความ ใน รวดเรว็ • การผลิตบทเรียน • ·ต้องอาศัยเชี่ยวชาญใน • ·ค้นหาเนื้อเรื่องเป็นตอนหรือตามเวลา การสร้างบทเรยี น ของการเล่นได้ • 4.2 ด้านเทคนิควธิ กี าร 4.2.1 สื่อหลายมิติ • ·เสนอข้อมูลในลักษณะไม่เป็นเส้นตรง (Hypermedia) ทำให้สามารถ • เชื่อมโยงข้อมูลในที่ต่างๆได้อย่าง รวดเรว็
4.2.2 แผ่นวีดิทัศน์เชิง • ·เนื้อหาบทเรียนที่มีทั้งภ าพน่ิ ง • ·ต ้ อ ง ใ ช ้ ร ว ม กั บ โ ต ้ ต อ บ ( Interactive ภาพกราฟิกเคลอ่ื นไหวภาพ ค อ ม พ ิ ว เ ต อ ร ์ ที่ Video, Interactive คณุ ภาพสูง Videodisc) • วดี ิทัศน์เสยี งพดู เสียงดนตรี • ·ผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับบทเรียนและ • พอควรจงึ จะใชไ้ ดด้ ี 4.2.3 อินเทอรเ์ นต็ • ·ก า ร ผ ล ิ ต บ ท เ ร ี ย น ได้รับผล • ป้อนกลับทนั ที ล ั ก ษ ณ ะ น ี ้ ต ้ อ ง อ า ศั ย • ·สะดวกในกรใช้ อปุ กรณ์ • ร่วมหลายอย่างเช่น • ·ใช้ได้กลับผู้เรียนส่วนใหญ่ กลุ่มย่อย เครื่องเสียง กล้อง วีดิ และการศกึ ษา ทัศน์ เครื่องเล่น แผ่นวีดิ ทัศน์ ฯลฯ • รายบคุ คล • ·เสนอข้อมูลในการลักษณะไม่เป็น • ·ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมใน การทำงานหลายอยา่ ง เส้นตรง (Non-linear) • ·การเสนอเนื้อหามีทั้งภาพนิ่งและภาพ • ·ต้องเลือกเนื้อหาในแผ่น วดี ิทศั นม์ าประกอบ วีดิทัศน์และเสียง • ·ผู้เรียนสมารถโต้ตอบกับบทเรียนและ • บทเรียนให้เหมาะสม ซึ่ง บางครั้งอาจหาได้ไม่ตรง ไดผ้ ลป้อนกลบั นกั • ทันที • ·บันทึกผลการเรียนและการตอบสนอง • ·อุปกรณ์ตา่ งๆ มรี าคาสูง จึงทำให้การเรียน ของผู้เรยี นได้ • แบบนี่ไมเป็นที่นิยมใช้ • ·คน้ ควา้ ขอ้ มลู ไดท้ กุ มุมโลกอยา่ งรวดเร็ว กันมากนกั • ·ติดตามข่าวสารความรู้และความ • ·ข ้ อ ม ู ล ท ี ่ ไ ด ้ อ า จ ไ ม่ เคลอ่ื นไหวตา่ งๆ ได้ ถูกตอ้ งเน่อื งจากไม่มีผใู้ ด • อย่างรวดเรว็ • ·สนทนากับผู้ที่ห่างไกลได้ทั้งลักษณะ • รบั รอง • ·ต้องมีการศึกษาการใช้ ข้อความและเสยี ง • ·ร่วมกลุ่มอภิปรายกับผู้อื่นที่สนใจใน งานเพ่ือการสืบคน้ • ข้อมูล เรือ่ งเดียวกันเพ่ือ • ·นักเรียนหรือเยาวชน อาจเขา้ ไปดูในเว็บไซต์
4.2.4 ไ ป ร ษ ณ ี ย์ • ขยายวสิ ยั ทศั น์ • ท่ีไม่เหมาะสม อเิ ลก็ ทรอนิกส์ • ·รับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ใน • ·เป็นการสื่อสารที่ผู้ 4.2.5 การสอนในเว็บ รปู แบบข้อความภาพ สือ่ สารไมส่ ามารถแสดง เปน็ การฐานการสอนบท • และเสียงได้อย่างรวดเร็วในราคา เว็บ • ความรู้สึกต่อกันได้ทำให้ ย่อมเยา ขาดความเปน็ ธรรมชาติ • ·ถา่ ยโอนแฟ้มข้อมูลในที่ตา่ งๆได้ • ·อาจเกิดความสับสนใน • ·ติดประกาศข้อความเพ่ือหาผูท้ ี่สนใจใน การอภิปราย เรอ่ื งเดยี วกนั • เนื่องจากอภิปรายใน • ·ช่วยจัดปัญหาในเรื่องเวลาและ เวลาที่ไม่ค่อย ระยะทางในการเรียน ต่อเนือ่ งกัน • ·ผู้เรียนท่ไี มก่ ลา้ แสดงออกในชน้ั เรียนจะ • ·ผู้สอนและผูเ้ รียนอาจไม่ ได้รสู้ ึกอสิ ระใน พบหน้ากนั เลยอาจ • การแสดงความคดิ เห็น • ทำให้ผู้เรียนบางคนอึด อัดและไม่สะดวกในการ • ·เสริมบรรยากาศในการเรียนรู้เพื่อเปิด เรยี น โอกาสให้การถาม • ·ผ ู ้ ส อน ต ้ องใช ้ เวลา • ขอ้ ขอ้ งใจเป็นการส่วนตวั เตรยี มการสอนมาก • ·ผูเ้ รียนสามารถตดิ ตอ่ กนั ในการแบ่งปัน • ·ก า ร ต อ บ ป ั ญ ห า ใ น ข้อมูลละปรึกษา บางครั้ง อาจไม่เกิดขึ้น • ร่วมกันได้ การพิมพ์และการเรียบเรียง ใน เนื้อหา จงึ จะทำให้การอภปิ รายราบร่ืน • ·ขยายโอกาสทางการศึกษาแก่ผู้เรียน รอบโลกทำให้ไม่ • ตอ้ งเสียเวลาในการเดินทาง • ·การเรียนด้วยการสื่อสารหลายรูปแบบ ทำให้ผเู้ รียนรูจ้ ัก • การสื่อสารทางสังคม ทำให้การเรียนมี ชวี ติ ชวี ามากขน้ึ • ·การเรียนด้วยสื่อหลายมิติ ทำให้เลือก เรยี นเนอื้ หาไดต้ าม • สะดวกโดยไมต่ ้องเรยี งลำดบั กัน • ·มีหลกั สตู รใหเ้ ลือกเรยี นมาก
• ·มีการเรียนทั้งแบบประสานเวลาและ • ทนทีทำให้ผู้เรียนไม่ แบบไมป่ ระสาน เข้าใจอย่างทอ่ งแท้ได้ • เวลาของตนเองจึงประสบความสำเร็จ • ·ผู้เรียนต้องรู้จักควบคุม ในการเรยี น การเรียนของตนเอง • จึงจะประสบ ความสำเร็จในการเรียน ได้
การตดั สินใจเก่ียวกบั สื่อ ซื้อเป็นวธิ ีการซึ่งมีการนำเสนอสารสนเทศและแลกเปล่ียนประสบการณ์ในขณะทีส่ ื่อเป็นคำที่ใช้ อ้างถึงแบบการเรียนการสอน(mode of delivery ) จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องมีวัสดุอุปกรณ์ที่จะส่งผ่าน แบบการเรียนการสอนนัน้ ในทางตรรกะแล้วเป็นความจำเป็นทัง้ ส่วนทีเ่ ปน็ อุปกรณ์( hardware) และส่วน ที่เป็นวัสดุ (software) สำหรับการเรียนรู้ที่อาศัยคอมพิวเตอร์เป็นฐานเช่นเดียวกันกับสื่อโทรทัศน์ที่ต้อง อาศัยโปรแกรมเป็นฐาน การตัดสินใจเกี่ยวกับสื่อสามารถทำได้ก่อนทำตามหลัง หรือทำไปพร้อมๆกับการตกลงใจ เกี่ยวกับวิธีการโดยทั่วๆ ไปแล้ว จะทำตามหลังหรือทำไปพร้อมๆกันการบรรยายอาจจะต้องการ องค์ประกอบของสื่อหรืออาจจะอยู่ในรูปแบบของโปรแกรมโทรทัศนใ์ นสมัยก่อนวัสดุอุปกรณ์สว่ นใหญ่จะ เปน็ สอ่ื ประเภทสิง่ พมิ พ์ ในตอนนจ้ี ะได้กลา่ วถงึ การแบ่งวิธกี าร/สอื่ ออกเป็น 3 ประเภท คอื วธิ ีการ (methods)ส่ือดง้ั เดิม (traditional media)และเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า (newer technology) ในด้านวิธีการดำเนินหลักสูตร โดยทั่วไปซึ่งอาจจะรวมๆกัน ส่วนสื่อเดิมๆจะรวมถึงงานพิมพ์ (print) และสื่อโสตทัศน์(audiovisual media) และสำหรับเทคโนโลยีใหม่หรือสื่อดิจิทัลคือการสื่อสารโทรคมนาคมและไมโครโปรเซสเซอร์ (microprocessor) สื่อ (media) สามารถจัดกลุ่มเป็นวัสดุสิ่งพิมพ์(print materials) ทัศนวัสดุไม่ฉาย (nonprojected visuals) ทัศนวัสดุฉาย (projected visuals) สื่อประเภทเสียง (audio media) ระบบ สื่อผสม (multimedia systems) ภาพยนตร์ (films) และโทรทัศน์ (television) สื่อแต่ และประเภท เหลา่ นส้ี ามารถแตกออกใหเ้ ลอื กได้ในหลายรปู แบบ ดงั แสดงในตารางท่ี 18 และตารางท่ี 19 การตดั สนิ ใจเกยี่ วกบั เทคโนโลยใี หมส่ อ่ื ดจิ ติ อล เทคโนโลยีใหม่/ สื่อดิจิทัล ประกอบด้วยการเรียนการสอนที่อาศัยคอมพิวเตอร์เป็นพื้นฐาน (computer-based instruction) และการเรียนรู้ทางไกล ที่อาศัยเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมเป็น พื้นฐาน(telecommunications-based distance learning technologies) การเรียนรู้ทางไกลเกิดขึ้น ได้เมื่อผู้เรียนอยู่ในสถานที่หนึ่ง เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ดังแสดงที่ตาราง 18 นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะสอื่ และเทคโนโลยี
การพจิ ารณาเลือกส่อื มีหลักทั่วไปจำนวนมาก และข้อพิจารณาอื่น ๆ ในการเลือกสื่อที่เหมาะสมสำหรับการเรียนการ สอนคือบทในการเลอื กสอ่ื และปัจจัยอน่ื ๆ ท่มี อี ทิ ธิพลตอ่ การเลือกสอ่ื ตารางที่ 18 ทางเลือกสำหรบั สือ่ ดงั้ เดมิ ทัศนวัสดุฉาย : ไม่เคลื่อนไหว (Projected ทัศนวัสดไุ ม่ฉาย (Non Projected Visuals) Visuals : Stacie) Opaque Projection Pictures Overhead Projection Photographs Slides Charts graphs diagrams Filmstrips Displays-exhibits, feltboards, bulletin boards สอ่ื (Media) (Multimedia Presentation) การนำเสนอด้านสอ่ื ผสม Records Sound slide Tape-reel ,cassette cartridge Multi-image Audio cards Film- cassette ,multimedia kit สงิ่ พมิ พ์ (Print)(Projected Visuals : Stacie) ทัศนะวสั ดฉุ าย : ไม่เคลอ่ื นไหว Text book Film Television Programmed text 8 mm 8 mm Super 8 mm ½ inch 16 mm ¾ inch 35 mm 1 inch เกมส์ (Games) ของจริง (Realia) Board games Models Simulation games Manipulative Puzzles Specimens
กฎในการเลอื กสอื่ การเลือกสื่อมีกฎอยู่ 6 ข้อ หรือเรียกว่าหลักการทั่วไปในการพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจอย่างไม่ เปน็ ทางการในการเลือกสื่อ กฎท่ี 1 การเรียนการสอนโดยทั่วไปแล้วต้องการสื่อสองทาง (two way medium) นักเรียน จะเรียนได้ดีที่สุดเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุ/สื่อการเรียนการสอน ครู สมุดทำงาน หรือ โปรแกรม คอมพิวเตอร์ช่วยสอน กฎท่ี 2 สื่อทางเดียว (one-way media) ควรจะได้รับการสนับสนุนโดยสื่อที่ให้ข้อมูล ปอ้ นกลบั ตัวอย่างคือภาพยนตรห์ รือวีดิทัศนจ์ ะใหป้ ระสิทธผิ ลมากกวา่ เมื่อมีคู่มือการใช้ควบคู่ไปด้วยหรือมี แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิควบคไู่ ปดว้ ยหรอื มีครูซง่ึ สามารถที่จะถามคำถามและตอบคำถามได้ กฎที่ 3 การเรยี นรู้ของแตล่ ะบุคคลต้องการสื่อท่ีมคี วามยดื หย่นุ ตวั อย่างคือผู้ทเ่ี รยี นเช้าอาจจะ ต้องการคือการเรียนที่แตกแขนงออกไปเป็นพิเศษเช่นการฝึกเสริม (remedial exercise) ตัวอย่างเสริม เป็นพิเศษสื่อภาพยนตร์ควรจะส่งเสริมโดยการเยียวยาแก้ไขหรือมีกิจกรรมที่เหมาะสมกับความต้องการ ของแต่ละบุคคลโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสามารถที่จะสนองตอบได้อย่างดีเลิศในความยืดหยุ่นที่มี ต่อปจั จัยบคุ คล กฎท่ี 4 การนำเสนอโลกแห่งความเป็นจริงต้องการสื่อทางทัศนะวัสดุ ตัวอย่างนักเรียน พยาบาลหรือเรยี นรูว้ ิธีการตดั ไหมจำเปน็ ต้องถึงการสาธิต (ภาพยนตร์ วีดิทัศน์ การสาธิตของจริง)มากกว่า ที่จะเขียนออกมาเป็นรายการของวธิ กี ารตัดไหม กฎที่ 5 พฤตกิ รรมทีค่ าดว่าหลังจากการเรยี นการสอนควรจะให้มกี ารปฏบิ ัติในระหวา่ งที่มีการ เรียนการสอนการได้ยินหรือการได้เห็นทักษะที่แสดงออกมาไม่เป็นการเพียงพอตัวอย่างผู้ปฏิบัติ จำเป็นตอ้ งทำการตดั ใหม่ตามท่เี ห็นใน วดี ทิ ัศนไ์ มว่ ่าจะเป็นการตดั ไหมเทยี มเทียมหรอื ตัดไหมจริงๆ กฎท่ี 6 เหตุการณแ์ ตล่ ะเหตกุ ารณ์ของบทเรียนอ่นื ๆต้องการการเลือกซ้ือทีม่ ีความแตกต่างกัน ตัวอย่างทฤษฎีที่อยู่บนหลักการของวิธีการทำหมันอาจจะต้องการวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นสิ่งพิมพ์ในขณะที่ วธิ กี ารตดั ไหมอาจจะต้องการสาธติ ท่ีมีความเป็นจริงมากกวา่ (วดี ิทัศน์ ภาพยนตร์ ฯลฯ )
ปัจจยั อ่นื ๆ ท่มี ผี ลต่อการเลือกสอื่ ได้มีการเรียนรู้กฎซึ่งจำเป็นในการพิจารณา เมื่อมีการเลือกสื่อการเรียนการสอนเป็นความจำที่ มองหาปจั จยั อ่นื ๆ ซึง่ จะสง่ ผลต่อการเลอื กส่อื ข้อควรพจิ ารณาในการเลือกส่ือ ปัจจัย ตัวอยา่ ง 1. สงิ่ แวดล้อมในการเรยี นรู้ บ้าน ที่ทำงานชัน้ เรยี น มา้ น่ัง 2. ประสทิ ธผิ ลในการลงทนุ ราคาตอ่ ห้อง และราคาในการดำเนินงาน 3. แหล่งวัสดุที่มีประโยชน์เพียงพอ การ วัสดอุ ุปกรณ์ท่ีมีความเหมาะสม มรี ะเบยี บเรียบร้อย พฒั นาภาพยนตร์ สตูดโิ อ การพมิ พ์ 4. ความสะดวกในการใช้ตำแหน่งที่ตั้ง เชน่ ใช้มากน้อยเท่าไหร่ บ่อยเทา่ ไหร่ ขนาดของกล่มุ เวลาท่มี สี ำหรับการเตรยี มตวั 5. สิ่งที่ไมจ่ ำเปน็ (Non-essentials) สีมีความจำเป็นหรือไม่ ตำราเพียงพอ หรือ สไลด์ที่จะใช้ในการ นำเสนอเพียงพอหรือไม่ 6. ทรพั ยากรมนุษยห์ าง่ายหรือไม่ ผชู้ ำนาญการพิเศษด้านวิธีการผลิตส่ือหาไดง้ ่ายหรอื ไม่ 7. นโยบาย นโยบาย เจตคตติ ่อตา้ นการเปลี่ยนแปลงขอ้ ขัดแยง้ ตา่ งๆ แบบจำลองการเลือกสอ่ื แบบจำลองการเลือกสื่อการเรียนการสอนมีหลายแบบ สำหรับการพิจารณาแต่ละแบบจะมี วิธกี ารเลอื กสอ่ื ท่ีตา่ งกัน สง่ิ ทน่ี า่ สังเกตคือ แต่ละแบบมคี วามต่างกนั อยา่ งไร และพิจารณาว่ามีอะไรเป็นนัย ของความต่าง แต่ละแบบจำลองพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการเลือกและการใช้ประโยชน์จากวัสดุ ให้สังเกต ภาพที่ 7 ซึ่งไม่ได้นำมาเสนอวิธีการเลือกสื่อที่ตายตัว และภาพท่ี 8 ซึ่งใช้สำหรับโครงการการพัฒนาการ เรยี นสอนของกองทัพอากาศ
แบบจำลองของวลิ เล่ยี ม ออลเลน ในแบบจำลองของวิลเล่ียม ออลเลน (William allen) ผูอ้ อกแบบการเรียนการสอนต้องตัดสินใจ เกี่ยวกับการจำแนกจุดประสงค์และการจำแนกความสามารถสูงสุดของสื่อการเรียนการสอนที่จะ พลิกแพลงให้เข้ากับจุดประสงค์ ออลเลน ได้ตรวจสอบประสิทธิผล สื่อสำหรับวัดชนิดของการเรียนรู้ด้วย เหตุผลนี้ ออลเลนได้สร้างตารางแจกแจงสองทาง ซึ่งจำแนกสื่อที่ให้ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนสูง ปานกลาง และต่ำ ตามชนิดของการเรยี นรู้ เมื่อใช้แบบจำลองนี้ ผู้ออกแบบควรพยายามหลีกเลีย่ งสื่อที่ให้ผลสัมฤทธิ์ ต่ำกับชนิดของการเรียนรู้ (aiien,1997 : 27-31) อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ออกแบบเลือกสื่อที่ให้ผลสัมฤทธิ์ต่ำ หรอื ปานกลางผู้ใช้ควรรับรขู้ อ้ จำกดั แบบจำลองของเยอรล์ าชและอีลี แบบจำลองเยอรล์ าชและอลี ี (Gerlach and Ely) ได้เป็นท่ีรูจ้ กั กนั ในปี ค.ศ.1971 ในตำราทชี่ อ่ื ว่า การสอนและสื่อ เยอร์ลาชและอีลีได้นำเสนอเกณฑ์ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในการเลือกสื่อการเรียนการ สอน หลังจากที่ระบุจุดประสงค์และระบุพฤติกรรมความพร้อมที่จะรับการสอน (entering behaviors) แล้วเกณฑ์ ดังกล่าวประกอบด้วยประการที่ 1 ความเหมาะสมทางปัญญา (สื่อสามารถส่งผ่านตัวกระตุ้น ตามเจตนารมณข์ องจดุ ประสงคห์ รือไม่) ประการที่ 2 ระดบั ของความเข้าใจ (ส่อื ทำใหผ้ ูเ้ รยี นเขา้ ใจหรือไม่) ประการท่ี 3 ราคา ประการที่ 4 ประโยชน์ (เครื่องมืออุปกรณ์และวัสดุมีประโยชน์หรือไม่) และประการ ท่ี 5 คุณภาพทางเทคนิค (คุณลักษณะทางการฟังและการดูของการผลิตมีคุณภาพเพียงพอหรือไม่) (Gerlach and Ely, 1980) ภาพที่ 5 จะแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ ของจุดประสงค์กับทางเลือกในการ เลือกสื่อตำราของเยอร์ลาชและอีลีได้มีการพิมพ์ครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1980 โดยที่ผู้เขียนตั้งใจเขียนขึ้น สำหรบั ครูทุกระดบั ดังภาพประกอบท่ี 5
ภาพประกอบท่ี 5 แบบจำลองการเรยี นการสอน : การเลือกส่อื
การขยายขอบเขตการเรยี นรดู้ ว้ ยการวจิ ยั การเรยี นรู้ ผู้สอนสามารถปรับปรุงความสามารถในด้านวิชาการของผู้เรียนด้วยการวิจัย การวิจัยการเรียนรู้ จะช่วยให้ได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าเงื่อนไขอะไรที่ทำให้มีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นในสถานการณ์ท่ี คล้ายคลึงกับที่ตนเผชิญอยู่ นักวิทยาศาสตร์พฤติกรรมใช้วิธีการในการศึกษาพฤติกรรมด้วยการสังเกต บุคคลในสถานที่กรณีที่หลากหลาย ด้วยการตั้งคำถามลึกๆเกี่ยวกับประสบการณ์มีการสำรวจประชากร กลุ่มใหญ่เพื่อที่จะตัดสินใจว่า ประชาชนเหล่านั้นชอบหรือไม่ชอบ นักออกแบบสร้างและใช้แบบทดสอบ สำหรับความสามารถและคุณลักษณะของคนจำนวนมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นการให้ผลต่อ การศึกษาการเรียนรู้ คือ การทดลอง ซึ่งนักวิจัยระมัดระวังและควบคุมการศึกษาสาเหตุและผลที่ได้รับ แบบมโนทัศน์ของการวิจัยเกี่ยวกบั การออกแบบการเรียนการสอนเนื้อหาส่วนใหญข่ องงานวิจัยที่เกี่ยวกบั ตัวแปรการออกแบบการเรียนการสอนต้องไม่กว้างเกินไปโดยปราศจากของการจัดการ ริชชี ได้จัดกลุ่ม งานวิจัยเกี่ยวกับตัวแปรการเรียนการสอนเป็นสี่กลุ่มใหญ่ คือ ผู้เรียน เนื้อหาวิชา สิ่งแวดล้อม และระบบ การสอน การออกแบบการเรียนการสอนขึ้นอยู่กับธรรมชาติของความชี้เฉพาะในแต่ละกลุ่มอย่าง หลากหลาย การเรยี นรู้จากสอ่ื เคลื่อนท่ี เทคโนโลยีแบบเคลื่อนที่ (mobile technology) จะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบพลวัตที่ สร้างสรรค์การเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพนั ธ์กนั ภายใต้สิ่งแวดล้อมการเรียนรูท้ ัง้ ในห้องเรียนและนอกห้องเรยี น ในยุคที่ความเจริญก้าวหน้าของสื่อสารไร้สายนี้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ (รวมถึง TABLETS) กล้องถ่ายภาพดิจิทัล เครื่องเล่น MP3 หรือ MP4 และอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อีกมากมายในที่นี้ ขอเรียกว่า สื่อเคลื่อนที่ (Mobile divides) สามารถนำมาใช้เพ่ือ ช่วยให้ผู้เรียนได้การตอบสนองได้รวดเร็ว มีปฏิสัมพันธ์แบบโต้ตอบให้ประสบการณ์ที่ดี เช่น ในการสอน วชิ าภาษาต่างประเทศ สามารถแลกเปลย่ี นความรแู้ ละประสบการณผ์ า่ นสอ่ื เคล่อื นทดี่ งั กล่าวน้ี ทัง้ น้ผี ู้เรยี น ยงั ใช้ประโยชนใ์ นการส่งอเี มลหรือใชป้ ระโยชน์เพ่ือการนันทนาการได้อีกด้วย ในบางกรณผี ู้เรียนยังมีความ คาดหวังที่จะได้เรียนรู้แม้ว่าจะไม่ได้เข้าชั้นเรียน โดยที่ผู้เรียนสามารถติดตามบทเรียนตามที่ต้องการได้ สะดวกจากเว็บไซต์
สภาพปัญหาทเี่ กิดขึน้ จากการใชส้ ่ือดจิ ิทลั ของครูผสู้ อน ขอยกตวั อยา่ งกรณีศึกษา “การศึกษาสภาพปัญหาของการใช้ Learning Object คณิตศาสตร์ ของ สสวท. และความรู้สกึ ของครูคณติ ศาสตรร์ ะดบั ประถมศึกษาในโรงเรยี นสงั กัดพ้ืนทกี่ ารศกึ ษา สมทุ รปราการ เขต 2 ทม่ี ตี ่อ Learning Object คณติ ศาสตร์ของ สสวท.” ซงึ่ ได้ทำการเกบ็ ข้อมลู เมื่อ เดอื นกุมภาพันธ์ 2552 จำนวน 90 ท่าน สรุปผลได้ดังนี้ 1. จำนวนครผู สู้ อนประมาณคร่ึงหน่งึ ยังไม่รู้จัก Learning Object แต่เมอื่ มกี ารแนะนำให้ รู้จัก Learning Object พบวา่ ครมู คี วามรู้สึกทดี่ ตี ่อ Learning Object คณิตศาสตร์ และจากการศึกษา ยงั พบอีกด้วยว่าครมู ีความสนใจและเหน็ ว่า Learning Object คณติ ศาสตร์มปี ระโยชนต์ ่อการเรียน การสอนคณิตศาสตร์ ช่วยให้นักเรยี นสนใจและสรา้ งความเขา้ ใจเนือ้ หาท่มี ีความยุ่งยากซับซอ้ นได้ แตก่ ารที่ Learning Object คณติ ศาสตร์ยังไม่แพรห่ ลายเทา่ ท่ีควร นา่ จะมาจากการประชาสัมพันธ์ และเผยแพรส่ ่ือ Learning Object ของ สสวท. ยังไมด่ ีพอ ครูขาดความม่ันใจในการใช้อุปกรณ์ นำเสนอข้อมูล เชน่ โปรเจคเตอร์ คอมพวิ เตอร์ นอกจากนี้การขาดแคลนอุปกรณ์การนำเสนอข้อมูล เช่น โปรเจคเตอร์ คอมพิวเตอร์ กเ็ ปน็ ปัญหาต่อการใช้ Learning Object คณติ ศาสตรเ์ ช่นเดยี วกัน 2. สำหรับด้านตัวสอ่ื Learning Object จากการศึกษาพบวา่ มีปัญหาในระดับเล็กน้อย สาเหตทุ ่คี รยู งั มองว่ายังมีปัญหาน่าจะมาจากการที่สือ่ ยงั ไม่มีขอ้ แนะนำที่ชดั เจน หรือขาดคู่มอื การใช้ งาน ซงึ่ ยงั เปน็ ข้อกังวลของครูท่ีคิดว่าถ้านำไปใช้แล้วจะเกดิ ปัญหาระหวา่ งการใช้งาน ซึง่ อาจจะไม่ สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง มขี ้อสังเกตวา่ ครูซึ่งส่วนใหญ่เปน็ ครทู ี่มีประสบการณใ์ นการสอน มากกวา่ 5 ปีมองวา่ Learning Object ชว่ ยสรา้ งความสนใจในการเรยี นคณติ ศาสตร์ของนักเรยี นได้ ซง่ึ สอดคล้องกับข้อดีของส่ือ Learning Object ท่พี ฒั นาข้นึ มาเพ่ือนักเรียนระดบั ประถมศึกษาทชี่ นื่ ชอบเกมคอมพวิ เตอร์เป็นทุนเดิมอยแู่ ล้ว
3. ดา้ นความพร้อมของวสั ดุ/อปุ กรณ์ จากการศกึ ษาพบวา่ มปี ญั หาในระดับปานกลาง ซึง่ ถือว่าเป็นระดับท่ีเป็นอุปสรรคตอ่ การใช้ Learning Object เมือ่ พิจารณาลงไปในรายละเอียดพบว่า ข้อทเ่ี ป็นปญั หามากที่สุดคือความพรอ้ มของโปรเจคเตอร์และคอมพวิ เตอร์สำหรบั การนำเสนอ ข้อมูล ซงึ่ โรงเรียนสามารถหาแนวทางแก้ปัญหาได้ ไม่ว่าจดั หางบประมาณในการจัดซื้อวัสดุ อปุ กรณ์เหล่าน้ใี หม้ ใี ช้อย่างเพียงพอ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงศึกษาธกิ ารจัดหา งบประมาณมาสนับสนนุ ให้โรงเรยี นสามารถจัดซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ได้เพื่อประโยชนใ์ นการจดั การ เรยี นการสอนทนี่ ับวนั สื่อ ดจิ ิทัลเข้ามามบี ทบาทในการเรยี นการสอนมากย่งิ ขน้ึ เพราะสะดวกและ ประหยัดเวลาในการจดั เตรียมสอื่ และการสอนได้ 4. ด้านความพร้อมของครใู นการใช้สอื่ เทคโนโลยี จากการศึกษาพบว่ามปี ญั หาในระดบั ปานกลาง ซงึ่ ถือวา่ เป็นระดับที่เปน็ อปุ สรรคต่อการใช้ Learning Object เมอื่ พิจารณาลงไปใน รายละเอยี ดพบวา่ ข้อที่เปน็ ปัญหามากทส่ี ดุ คือความสามารถวางแผนการสอนคณิตศาสตรใ์ หก้ ับ นกั เรียนโดยใช้ Learning Object ซงึ่ อยู่ในระดับปานกลางคอ่ นไปทางมีปัญหามาก ซึ่งสอดคล้องกับ ข้อเสนอแนะของครใู นเรื่องของความต้องการให้มีคู่มือการใช้งาน ซงึ่ ในคู่มืออาจจะต้องมีตัวอยา่ ง แผนการสอนคณติ ศาสตรท์ ใี่ ช้ Learning Object ให้กับครดู ว้ ย ลำดบั ถดั มาท่ีควรพิจารณาคือ ความสามารถใชส้ ่ือเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น โปรเจคเตอร์ และคอมพิวเตอรเ์ พื่อนำเสนอข้อมูลซงึ่ ถอื วา่ มปี ญั หาระดับปานกลางค่อนไปทางมปี ญั หามาก ซึ่งผทู้ ี่เก่ียวข้องควรไดต้ ระหนัก ถงึ แม้วา่ โรงเรยี นจะมคี วามพร้อมในดา้ นอุปกรณ์เหลา่ นี้ แต่ถา้ ครยู ังมปี ญั หาไมส่ ามารถใช้งานอปุ กรณ์ เหลา่ นไี้ ด้ การส่งเสรมิ ให้ครใู ช้สื่อ Learning Object กจ็ ะเกิดปัญหาเช่นเดยี วกัน ดังน้นั ผู้บรหิ ารควร ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ฝี า่ ยโสตทัศนอปุ กรณ์จัดอบรมการใช้อุปกรณ์แก่ครูในโรงเรียน 5. ความรูส้ กึ ของครทู ่ีมีต่อ Learning Object คณิตศาสตร์ของครูผสู้ อนสงั กดั สำนักงาน เขตพน้ื ท่กี ารศึกษาสมุทรปราการ เขต 2 อยู่ในระดับมาก ซ่ึงถือวา่ ดมี ากในการทหี่ นว่ ยงานท่ี เกย่ี วข้องอยา่ ง สสวท. สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาสมุทรปราการ เขต 2 และโรงเรยี นสงั กัดเขต พ้ืนทก่ี ารศกึ ษาสมทุ รปราการ เขต 2 จะไดส้ นบั สนนุ และส่งเสริมใหค้ รูได้ใชส้ ือ่ Learning Object คณติ ศาสตร์ในการเรียน เพยี งแตห่ นว่ ยงานทก่ี ล่าวมาข้างต้นจะจัดหาวสั ดุ/อุปกรณ์ให้มีความพร้อม รวมทง้ั จดั หาสือ่ Learning Object คณติ ศาสตร์พร้อมคมู่ ือการใช้งานแก่ครูผู้สอน
ประโยชนก์ ารใช้ดจิ ทิ ัลด้านการศกึ ษา สาหรบั ครูผสู้ อน ชว่ ยให้การสอื่ สารระหว่างครกู บั ผ้เู รียนกบั บุคลากรหรือกับครูด้วยกนั เองเป็น ส่ิงทีส่ ะดวก งา่ ยดาย และมปี ระสิทธภิ าพมากขึน้ ตวั อยา่ ง - สามารถทางานประสานกนั กับภายในโรงเรียนหรอื กับองค์กร ภายนอกโรงเรียนได้ - ติดต่อส่ือสารกบั นกั เรียนโดยใช้ส่ือออนไลน์ - แบง่ ปันและพัฒนาแผนการสอนรว่ มกับบุคลากรคนอน่ื ๆ ได้ สาหรับผู้เรียน เพม่ิ ประสิทธิภาพและช่องทางในการส่ือสาร หรอื ทางานร่วมกนั อานวยความ สะดวกในการใช้เคร่ืองมือต่าง ๆเพื่อการศกึ ษา ตวั อยา่ ง - สามารถใช้เทคโนโลยีในการสือ่ สารกบั ผ้สู อนหรอื เพ่อื นๆ เพอื่ ทางานหรือโครงการ ร่วมกัน - สามารถใช้อีเมล์ ขอ้ ความ เพอ่ื สื่อสารกบั ผ้สู อนและเพ่ือนๆ - สามารถสง่ งานทเ่ี หมาะสมดว้ ยระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ได้ - สามารถนาเสนอโครงงานได้ และจัดการเรียบเรยี ง
สรปุ (Conclusion) การพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะเปลี่ยนการเรียนการสอนแบบเดิมที่ครูเป็นศูนย์กลางมา เปน็ การเรยี นท่ีใชเ้ ทคโนโลยีเปน็ ฐาน การเรียนรู้ คอื กระบวนการทางสังคม ผู้เรียนจะตอ้ งการเรยี นร้เู พอื่ ให้ ได้ความรู้หรือคำตอบ การให้ผู้เรียนได้เรียนรแู้ ละหาคำตอบจากสอื่ สังคมออนไลน์ การเรยี นรูอ้ อนไลน์ การ สร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ใหม่โดยใช้ความสามารถของอินเตอร์เน็ต เว็บ สื่อสังคมออนไลน์เพ่ือ รองรับรูปแบบการเรียนการสอนที่เปลี่ยนไป สภาพแวดล้อมที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น สารสนเทศคือ ส่วนสำคัญของการเรียนรู้ สื่อดิจิทัลทำให้เกิดโอกาสในการช่วยให้ผู้เรียนเข้าถึงและมี ปฏิสัมพันธ์กบั แหล่งสารสนเทศและกลุ่มผูเ้ รยี นรูด้ ้วยกัน ผู้สอนจะต้องเรียนรู้และพัฒนาเพื่อให้สอดคล้อง กับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน คือ e-learning และ m-learning กล่าวคือ จัดให้/ส่งเสริมการเรียนรู้ อิเล็กทรอนิกส์และการเรียนรู้แบบเคลื่อนที่ (Mobile learning) อำนวยความสะดวกให้ทางผู้สอนและ ผเู้ รียนเทคโนโลยที ่โี ดดเด่นที่กำลังทำให้สิ่งของทุกสรรพสงิ่ บนโลกสามารถเช่ือมต่อกันได้ นั่นคือ Internet of Everything (IoE) ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยจะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจ ซึ่งมี การคาดว่า IoE จะทำให้เกิดโอกาสมากมาย ด้วยมูลค่าที่สูงถึงระดับล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และ คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการนำ IoE มาใช้ในการปฏิวัติ การศึกษาเพื่อสร้างรูปแบบของการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ จะยิ่งทำให้เกิดการต่อยอดการเรียนรู้อย่างไม่มี วันสิ้นสุด ปจั จบุ นั ในสถาบันการศกึ ษาไดม้ กี ารสง่ เสริมให้มกี ารใช้ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ในหอ้ งเรยี นมากขึ้น ไมว่ า่ จะเปน็ การใหน้ กั เรยี นค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เนต็ หรือเรยี นรจู้ ากวดี ิทัศนแ์ ละซีดีรอม ส่อื อเิ ล็กทรอนิกสเ์ หล่านี้ เป็นอกี มิตหิ นง่ึ ในการสร้างองค์ความรู้ ชว่ ยเปิดโลกทศั น์ให้นักเรียนไดส้ งั เกตและเรยี นรจู้ ากสถานการณ์ หลากหลาย มีรูปแบบการนำเสนอท่ีแปลกใหม่ และมักออกแบบมาเพ่ือส่งเสรมิ ประสิทธภิ าพในการเรยี นรู้ ของผเู้ รียน หลังจากที่ได้ใชป้ ระโยชน์จากสอ่ื เหลา่ นี้มาแล้ว หากครผู ู้สอนคิดอยากเปลยี่ นบทบาทจากผู้ใช้ มาเป็นผสู้ รา้ งส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ จะมีแนวทางอย่างไร ในการเริ่มต้นสร้างส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์ดว้ ยตนเอง ถา้ จะสร้างบทเรียนทงั้ บทเรยี นอาจ ซับซอ้ น เกนิ ไป และใชเ้ วลาค่อนขา้ งมาก การสร้างส่อื การสอนยอ่ ย ๆ ทเ่ี รียกวา่ Learning Object เป็น จุดเร่ิมตน้ ทีไ่ ม่น่าจะเกนิ กำลัง แตก่ ่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Learning Object กนั กอ่ น Learning Object คอื สอ่ื การเรยี นรู้ดจิ ิตอล ทีอ่ อกแบบเพ่ือให้ผูเ้ รียนบรรลุผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวงั อยา่ งใดอยา่ ง หนึง่ โดยเฉพาะ โดยแต่ละเรื่อง จะนำเสนอแนวคิดหลักย่อย ๆ ผสู้ อนสามารถเลือกใช้ Learning Object ผสมผสานกบั การจัดการเรียนการสอนแบบอน่ื ๆ ได้อยา่ งหลากหลาย และสามารถนำมาใชใ้ หม่ (ใช้ซำ้ ) ได้
อา้ งองิ https://myyothaka.blogspot.com/2019/02/5.html?m=1
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: