Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ

แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ

Description: แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ

Search

Read the Text Version

พอเพยี ง ความสมเหตสุ มผล โดยพิจารณาเหตุผลให้รอบคอบสร้างภมู ิคมุ้ กัน ให้ตนเองอย่างมน่ั คง ไม่ไขวเ้ ขวไปกับสิ่งท่ียั่วยุ มคี วามทะเยอทะยาน ในหน้าที่การงานและการดำรงชีวิตตามโอกาสและฐานะ แสวงหา ความก้าวหน้าโดยไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ไม่แก่งแย่งแข่งขัน แตเ่ น้นการใหแ้ ละแบง่ ปนั เพื่อสรา้ งความสุขทางใจใหม้ ากขึ้น พอใจ ความพอใจและภูมิใจในสถานภาพและการดำรงชีวิตของตนด้วย การใช้ชวี ิตอย่างมศี ักดิ์ศรีและสง่างาม แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรบั ขา้ ราชการ 51

ข้าราชการไทยกบั การปฏบิ ัตงิ าน ตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาท่ีตั้งอยู่บน พื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึงความ พอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว ตลอดจน ใช้ความรู้อย่างรอบคอบระมัดระวัง และมีคุณธรรมต่างๆ ประกอบการ วางแผน การตดั สนิ ใจและการกระทำ การจะปลูกฝังจิตสำนึกนั้น วัฒนธรรมองค์กรมีความสำคัญมาก สังเกตได้ว่าองค์กรใดมีการปฏิบัติงานอย่างกระฉับกระเฉง ดำเนินการ ทุกอย่างด้วยความเรียบร้อย มีระเบียบวินัย เมื่อวัฒนธรรมเป็นแบบนี้ บุคลากรที่เข้ามาทำงานใหม่ก็ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กร เพราะไม่ต้องการทำตัวแตกต่างจากวัฒนธรรมองค์กรที่มีอยู่เดิม การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบพอเพียงจึงมีความจำเป็น โดยผู้นำ ต้องทำเป็นแบบอย่างท่ีดี มีการปลูกฝังและติดตามอย่างสม่ำเสมอ จนเปน็ วฒั นธรรมท่ที ุกคนยอมรับ โดยต้องเปน็ สงิ่ ทีส่ ามารถปฏบิ ตั ิได้จริง ไม่ใช่แบบเพ้อฝัน ตัวอย่างวัฒนธรรมองค์กรประการหนึ่งที่ง่ายๆ คือ การจัดโต๊ะทำงานให้สะอาดเรียบร้อยเป็นประจำทุกวัน มีการทำกิจกรรม 5 ส อย่างต่อเนื่อง ความเป็นระเบียบในลักษณะเช่นน้ีทำให้เกิดสภาพ แห่งสุขภาวะท่ีทุกคนอยากทำงาน การค้นหาเอกสารทำได้สะดวก เมื่อ หายก็ทราบได้ทันทีเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ซ่ึงสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแบ่งเวลาครึ่งช่ัวโมงก่อนกลับบ้านในการจัดการสะสางโต๊ะทำงาน น่คี ือการปฏิบตั ิตัวเบ้ืองตน้ ของขา้ ราชการตามหลกั คดิ พอเพยี ง 52 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับขา้ ราชการ

การปฏิบัติงานในราชการนั้น บางคร้ังเมื่อเปล่ียนตัวบุคคลหรือ ผู้บังคับบัญชางานมักจะไม่ต่อเน่ือง เม่ือนำหลักเหตุผลเป็นตัวตั้งและ นำภูมิคุ้มกันเป็นตัวตามว่างานแต่ละอย่างที่ปฏิบัติอยู่นั้นจำเป็นต้อง รักษาให้ต่อเนื่องหรือไม่ โดยหากพิสูจน์แล้วว่างานนั้นเป็นประโยชน์ต่อ ประชาชนท่ัวไปและเป็นประโยชน์สะท้อนกลับมาท่ีหน่วยงาน ก็ต้องมี ความกล้าท่ีจะเสนอความเห็นต่อผู้บังคับบัญชาเพ่ือรักษาความต่อเนื่อง ของงาน ข้าราชการแต่ละท่านนั้น กวา่ จะเข้ามาเป็นข้าราชการน้นั ไมใ่ ชเ่ ร่อื ง ง่ายและอาชีพข้าราชการน้ันคนในสังคม ก็ยังคงมองว่าเป็นอาชีพท่ีมี เกียรติและศักดิ์ศรี เป็นอาชีพท่ีทำงานเพื่อส่วนรวม ข้าราชการจึงต้องมี จิตสำนึกมีความตระหนักในหน้าท่ีการเป็นข้าราชการที่ดี จะมีวิธีทำ อย่างไรที่จะปฏิบัติหน้าท่ีให้สมกับความภาคภูมิใจในการเข้ารับราชการ วันแรก ข้าราชการไดค้ ิดและพจิ ารณานำหลกั เศรษฐกจิ พอเพียงและหลัก คิดพอเพียงไปใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อที่ว่าวันหน่ึงเมื่อท่านพ้นจาก ข้าราชการแล้วจะมีความภาคภูมิใจ เม่ือหวนคิดกลับมาว่าท่านได้ปฏิบัติ งานของพระราชาอยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสำหรับขา้ ราชการ 53



การเพ่ิมผลผลิตกับเศรษฐกิจพอเพยี ง ในสงั คมไทย ถ้าหากจะถือว่าการจัดต้ังศูนย์การเพ่ิมผลผลิตแห่งประเทศไทยเม่ือปี พ.ศ. 2505 เป็นการเริ่มต้นของการนำแนวคิดการเพ่ิมผลผลิต เข้ามาในสังคมไทยก็นับว่าเป็นเวลาร่วม 40 ปี ซ่ึงนานพอสมควรแล้ว ท่ีจะตั้งคำถามว่าคนไทยมีความเข้าใจกับแนวคิดนี้แค่ไหน แนวคิดน้ีมี ความสอดคล้องกับสังคมและวัฒนธรรมไทยหรือไม่และทำอย่างไรท่ีจะ ให้แนวคิดนี้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยในยุคโลกาภิวัฒน ์ โดยแปรรูปจากแนวคิดมาเป็นพฤติกรรมที่จะนำมาซึ่งความเจริญ ก้าวหนา้ เพื่อให้เกดิ ผลดีต่อตนเองและสังคมในองคร์ วมต่อไป สังคมไทยในอดีตเป็นสังคมเกษตรกรรมแบบพ่ึงตนเองภายใต้การ ปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชโดยมีพระมหากษัตริย์มีพระราช อำนาจเด็ดขาดเบ็ดเสร็จเช่นเดียวกับบรรดาข้าราชการท่ีรับสนอง พระบรมราชโองการมาปกครองดูแลประชาชน ก็จะมีกระบวนการ ทำงานทจ่ี ำลองแบบการปกครองส่วนกลางมา กล่าวคือข้าราชการจะกลายเป็นเจ้านายของประชาชนอีกชั้นหน่ึง อำนาจนั้นจะลดหลั่นกันไปตามยศฐาบรรดาศักด์ิเป็นที่มาของคำว่า ระบบศักดินาซ่ึงจะให้ความสำคัญกับผู้นำท่ีเป็นใหญ่ท่ีสุด โดยผู้น้อย ไมม่ ีโอกาสแสดงความคดิ เห็นเปน็ การทำงานแบบรวบอำนาจ ซ่งึ ปัจจุบัน กำลงั ได้รบั การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปในทางทด่ี ีขนึ้ การให้ความสำคัญกับผู้นำของสังคมไทยปรากฏอยู่ในตำนาน พงศาวดาร นิทานพ้ืนบ้านและสำนวนภาษา เช่น เมื่อเกิดปัญหาหรือ แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ข้าราชการ 55

ความเดือดร้อนเกิดข้ึนมักจะเรียกหาวีรบุรุษหรือพระเอกขี่ม้าขาวให้เข้า มาช่วยกอบกู้สถานการณ์ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่าน้ัน คนไทยจึงมีนิสัยของการชอบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มักนำคำว่าไปตาย เอาดาบหน้ามาใช้กนั บ่อยๆ แนวความคิดเชน่ น้มี คี วามแตกตา่ งอยา่ งมากกับแนวความคดิ การ เพ่ิมผลผลิตที่ต้องป้องกันก่อนปัญหาเกิดมากกว่าแก้ไขปัญหา จากการ ทำงานเป็นทีมที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ โดยแต่ละคนอาจไม่ใช่คน เก่งมากนักแต่เมื่อรวมกันแล้วก็จะสามารถแก้ปัญหาลุล่วงไปได้เปิด โอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการคิด มีข้อมูลที่จากความเป็นจริงมา ประกอบการวเิ คราะหต์ ามหลักการทางวิทยาศาสตร ์ การเปล่ียนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองท่ีเกิดขึ้นใน ระยะเวลาหกสิบกว่าปีที่ผ่านมา มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม คอ่ นข้างมาก โดยเฉพาะการไหลบา่ ของวฒั นธรรมตะวันตกและเทคโนโลยี การเปล่ียนแปลงน้ีทำให้สังคมไทยอยู่ในสภาพพื้นไม่แน่นในหลายด้าน เพราะคนยังขาดความพร้อมขาดความรู้ความเข้าใจทำให้เกิดพฤติกรรม แบบไทยๆ ทีไ่ มส่ ร้างสรรค์และขดั ตอ่ การพัฒนาในแนวทางทีถ่ กู ต้อง ท่ีเห็นได้ชัดเจนได้แก่ พฤติกรรมของนักการเมืองที่ใช้อำนาจ ทางการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่ทุกวันน้ีได้ก็เพราะ ประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องทางการเมือง ไม่รู้ว่าอำนาจท่ีแท้จริงอยู่ที่ประชาชน จึงไม่ใส่ใจในการรักษาสิทธิของ ตนเองเกิดพฤตกิ รรมการซ้ือขายเสียง การคอรปั ชนั่ ทีเ่ ป็นปัญหาเร้อื รัง นอกจากน้ันการเข้ามาของระบอบทุนนิยม เกิดกระแสของการ แข่งขันตามกลไกตลาด มีผลให้เร่ืองจริยธรรมและส่ิงแวดล้อมถูกละเลย 56 แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรบั ข้าราชการ

เกิดพฤติกรรมที่แสดงออกถึงค่านิยมท่ีตกต่ำ การเอารัดเอาเปรียบและ ความมักง่าย เช่น ให้ความนิยมกับคนท่ีมียศตำแหน่งเงินทองมากกว่า ความด ี จะเห็นได้ว่าสังคมไทยยังให้การยอมรับนักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจที่ร่ำรวย มีอำนาจแม้จะรู้ว่าบุคคลเหล่าน้ันทุจริตคอรัปช่ัน หรือ ทำอาชีพที่ผิดกฎหมาย ยอมรับวิธีการติดต่องานแบบมีใต้โต๊ะหรือการ กินตามน้ำว่าเป็นเร่ืองธรรมดา มีการนำสำนวนไทยมาใช้ในทางท่ีผิด เช่น คำว่า “ไม่เปน็ ไร” ซง่ึ ความหมายเดิมน้นั คือการสอนให้รจู้ กั ให้อภยั ผอู้ ืน่ แตก่ ลบั นำมาใชใ้ นพฤตกิ รรมแบบปัดสวะให้พน้ ตัวมกั ง่าย ยกตัวอย่างการท้ิงน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรมหรือบ้านเรือน ลงแม่นำ้ ลำธาร กจ็ ะบอกว่าไม่เป็นไรเดยี๋ วนำ้ กพ็ ดั ไปเอง ส่ิงเหล่าน้ีเป็นอุปสรรคสำคัญท่ีทำให้สังคมไทยไม่สามารถพัฒนา ไปได้อย่างที่ควรจะเป็น โดยที่คนในชาติยังขาดความรู้สึกร่วมกันเป็น เจ้าของประเทศ ขาดความคิดในการร่วมกันแก้ไขในสิ่งผิดท่ีจะม ี ผลกระทบตอ่ ส่วนรวม ตลอดจนความคดิ ในการปรับปรุงตนเอง ซึง่ เป็น หลักสำคัญของการเพิ่มผลผลิต ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมใหม ่ ท่ีจะช่วยให้เกิดการพัฒนาอย่างถูกทางท้ังด้านเศรษฐกิจสังคม การเมือง ซ่ึงจะเป็นจริงข้ึนมาได้ก็ด้วยการผลักดันให้คนทั้งประเทศปรับแนวคิดน้ี ไปสู่การปฏบิ ตั ิในชีวิตประจำวนั เช่นเดยี วกับการทเี่ ราตอบรบั วฒั นธรรม ใหมๆ่ ท่เี ขา้ มาในหลายรูปแบบในยคุ ของการเปลยี่ นแปลงท่ีผา่ นมา การนำแนวคิดการเพ่ิมผลผลิตมาใช้ในสังคมไทย ต้องอาศัยเร่ือง ของการให้ความรู้ให้คนมีจิตสำนึกในการปรับปรุงแก้ไขเพ่ือมุ่งมั่นในการ สร้างสรรค์อย่างแท้จริง ให้เข้าใจถึงเป้าหมายของการทำงาน มีทิศทาง แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสำหรบั ขา้ ราชการ 57

ร่วมกันและต้องปรับเปล่ียนแนวคิดเดิมท่ีไม่ถูกต้อง เช่น ระบบศักดินา การทำงานก็เพ่ือเจ้านาย แต่ในปัจจุบันข้าราชการต้องสำนึกว่าหน้าที่ ทแี่ ทจ้ รงิ คือการรับใช้ประชาชน ในแนวคิดของการเพ่ิมผลผลิตต้องถือว่าประชาชนคือลูกค้าที่ ต้องตอบสนองความพอใจให้ได้สูงสุดนั่นเอง โดยนิยามของการเพ่ิม ผลผลิตทวี่ ่า เหนือส่ิงอื่นใด การเพิ่มผลผลิตคือจิตสำนึกหรือทัศนคติที่จะ แสวงหาทางปรับปรุงและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ให้ดีข้ึนเสมอ ด้วยความ เช่ือมน่ั วา่ เราสามารถทำวนั น้ใี ห้ดกี วา่ เมอ่ื วานน้ี และพรุง่ นต้ี ้องดกี ว่าวนั น ้ี เป็นความเพยี รพยายามอย่างไมม่ ที ี่สน้ิ สุดทีจ่ ะปรับเปลย่ี นงานหรอื กิจกรรมที่ทำให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้น ด้วยการใช้เทคนิควิธี การใหมๆ่ หรอื กลา่ วสน้ั ๆ วา่ การเพิม่ ผลผลิตคอื การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรที่มอี ย่อู ยา่ งคุ้มค่า ดังน้ันสภาพสังคมที่เต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบการแย่งชิง ผลประโยชน์จึงเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการเพ่ิมผลผลิตเพราะไม่เห็น ความจำเป็นต้องมีความคิดในการปรับปรุงการทำงาน เพราะวิธีการใช้ กลโกงน้ันง่ายกว่า ได้ผลประโยชน์มากกว่า เช่น กรณีของเด็กเส้นหรือ เด็กฝากบุคคลเหล่านี้เองท่ีทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่ไม่คุ้มค่าเพราะไม่ เห็นความจำเปน็ ในการปรบั ปรงุ การทำงาน มสี ่วนทำให้องคก์ ารไม่ได้คน ท่ีมีความสามารถท่ีแท้จริงเข้ามาทำงานและยังเป็นการบ่ันทอนศักยภาพ ในการแข่งขันของประเทศเป็นอยา่ งยงิ่ ซ่ึงอันท่ีจริงแล้วคนไทยนั้นมีความสามารถความเฉลียวฉลาดไม่ แพ้ชาติอ่ืน จะเห็นได้ว่าเรามีผู้ที่สามารถประดิษฐ์คิดค้นส่ิงใหม่ได้มีภูมิปัญญา 58 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ขา้ ราชการ

ด้ังเดิมที่แม้แต่ชาติที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการก็ยอมรับเข้ามา เรียนรู้ เพียงแต่เรามีบุคคลเหล่าน้ีอยู่น้อยเกินไปถ้าเทียบกับชาติอื่น ในเชิงปริมาณและคนมีความสามารถบางครั้งก็ยังขาดโอกาสที่จะเข้ามา ทำงานเพราะถูกเด็กเส้นเบียดออกไปแต่ถ้าหากมีการส่งเสริมให้บุคคล ในชาติมีหัวใจของการเพิ่มผลผลิต อันจะนำมาซึ่งคนท่ีมีคุณภาพสูงข้ึน จริยธรรมดขี ้ึน คดิ อ่านเปน็ สามารถทำงานรว่ มกนั อยา่ งมีระบบ ต่อต้าน พฤติกรรมมักง่ายเอารัดเอาเปรียบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เช่ือได้ว่าใน อนาคตประเทศไทยจะไม่เปน็ รองใคร อย่างไรก็ตามนับว่าเป็นบุญท่ีสังคมไทยมีทุนเดิมที่ดีสามเรื่อง ใหญๆ่ นัน่ คอื ประการแรก การมพี ุทธศาสนาเปน็ ศาสนาประจำชาติ สอนใหใ้ ช้ ชีวิตดว้ ยความไม่ประมาท พระธรรมปิฎกไดก้ ลา่ วไวใ้ นหนังสือ “เราจะกู้ แผน่ ดินกันอย่างไร? อิสรชนคอื คนท่ีไม่ยบุ ไมพ่ อง” ว่า หลักสามประการที่เรยี กวา่ พระรตั นตรัยน้ันหมายความถึง พระพุทธ คอื บุคคลทเ่ี ป็นแบบอย่างใหเ้ ราพฒั นาตนเองให้เช่อื ม่ัน ในศักยภาพของมนุษยแ์ ละมงุ่ พฒั นาตน พระธรรม คือ ความจริงของธรรมชาติที่เราจะต้องรู้เพ่ือจะพัฒนา ตนใหส้ ำเรจ็ ให้มีชีวิตท่ีดงี ามและมชี ีวิตทส่ี มบรู ณ ์ และพระสงฆ์ คือ ชุมชนอันประเสริฐท่ีสร้างข้ึนด้วยธรรมเป็นที่ ดำรงรกั ษาสบื ต่อถ่ายทอดธรรม ซึง่ เราจะต้องเขา้ ร่วมสรา้ งสรรค ์ ดังน้ันสำหรับผู้ที่เข้าใจในพุทธศาสนาที่แท้จริง จึงดำรงชีวิตอยู่ อย่างมีความสุขไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ด้วยการใช้สติปัญญาที่มี การพัฒนาอยา่ งตอ่ เน่ืองเช่นเดียวกับพระพทุ ธองคน์ น่ั เอง แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับขา้ ราชการ 59

ประการท่สี อง การมพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ศูนยร์ วมความจงรกั ภักดีซ่ึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงมีพระกรุณาธิคุณอย่าง สูงสุดต่อปวงชนชาวไทย นอกจากจะทรงเป็นผู้นำความคิดที่เป็น ประโยชน์อย่างย่ิงแล้ว ยังทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่างด้วยพระองค์เอง ตลอดระยะเวลาท่ีทรงครองราชย์ เช่น แนวคิดเร่ืองเศรษฐกิจพอเพียง การตามกระแสโลกอยา่ งมสี ติ เปน็ ต้น ประการสุดท้าย คือ เรามีวัฒนธรรมทางสังคมที่ดีงาม ไม่ว่าจะ เป็นความโอบอ้อมอารี ความอ่อนน้อมถ่อมตน ท่ีทำให้เกิดการยอมรับ ความคิดของผู้อ่ืนได้ การเคารพผู้อาวุโส สิ่งเหล่าน้ีหากเรานำมาใช้ให้ ถกู ทางในการแกป้ ญั หาเชิงเศรษฐกิจดว้ ยกจ็ ะเป็นประโยชน์อยา่ งยง่ิ อันท่ีจริงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ท่ีได้ทรงพระราชทานไว้ เป็นปรัชญาที่มีความสอดคล้องอย่างยิ่งกับการเพิ่มผลผลิต เพราะเป็น แนวทางของการปฏิบัติตนของประชาชนทุกระดับ เพื่อให้การพัฒนา เศรษฐกิจก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ โดยอาศัยคุณสมบัติของคนใน ชาตเิ จด็ ประการคือ หนึง่ มีความรอบรู้ที่เหมาะสม สอง มคี วามรอบคอบ สาม มคี วาม ซอื่ สตั ย์ สุจรติ ส่ี มีความอดทน หา้ มคี วามเพียร หก มสี ติ เจ็ด มีปญั ญา ซึ่งควรกำหนดเป็นคุณสมบัติสำคัญของคนรุ่นใหม่ท่ีจะนำไปสู่ การเพม่ิ ผลผลติ ดว้ ยการใช้วงจร PDCA (Plan-Do-Check-Act) เริ่มจากการทำงานทีต่ ้องมกี ารวางแผน (Plan) ก่อนดว้ ย ความรู้ ที่เหมาะสม กำหนดได้ว่าจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไร เม่ือลงมือ ปฎบิ ตั ิ (Do) ก็ทำดว้ ยความรอบคอบ ไมป่ ระมาท คอยหม่ันตรวจสอบ (Check) คอื ครองสตอิ ย่เู สมอ เม่ือพบความผดิ พลาดก็ใชป้ ญั ญาในการ 60 แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการ

หาทางแกไ้ ข (Act) สามารถแยกแยะวา่ จะทำอยา่ งไรต่อไป ซึ่งจะนำไปสู่ วงจรการวางแผนในรอบตอ่ ไป น่ีคอื การปรบั ปรุงงานอย่างตอ่ เนื่องน่ันเอง การจะทำดังน้ีได้ต้องอาศัยความพากเพียรอย่างไม่ลดละท่ีจะไปสู่ เป้าหมายที่วางแผนไว้ให้ได้ เห็นปัญหาเหมือนหีบสมบัติท่ีมีค่า มีความ อดทนในการสู้ปัญหา หาทางแก้ปัญหา ทำให้ดีขึ้นได้ตลอดเวลา และท่ี สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือต้องต้ังอยู่ในความซ่ือสัตย์สุจริต อันเป็น คุณสมบัติสำคัญทำให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ไม่เบียดเบียนกัน ซึ่งหลักการนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มผลผลิตเพราะการเพ่ิมผลผลิตนั้น ต้องคำนึงถงึ ส่งิ แวดล้อมและจริยธรรมดว้ ย การสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่มีการเพ่ิมผลผลิตอย่างแท้จริง น้ันต้องอาศัยความร่วมมือกันของคนในชาติทุกๆ ระดับ ต้ังแต่ระดับ ครอบครัวไปจนถึงระดับชุมชนและระดับรัฐ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าปัจจุบัน เราจะเห็นความตื่นตัวในเร่ืองน้ีมากข้ึน ไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัติการ ปฏริ ูปการศกึ ษาฉบับใหมร่ ัฐธรรมนญู ใหมท่ ่เี นน้ การมีส่วนร่วมของประชาชน สถาบันเพ่ิมผลผลิตแห่งชาติก็เป็นอีกกลไกหนึ่งที่มีบทบาทในการ กระตุ้นให้แนวคิดในการเพ่ิมผลผลิตแพร่หลายออกไปในวงกว้าง โดยเร่ิมท่ีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมให้เกิดจิตสำนึกในการปรับปรุงการ ทำงานด้วยเทคนิคและวิธีการต่างๆ อันจะนำมาซ่ึงการอยู่ดีกินดีของ คนในประเทศในท่ีสุดจากตัวผู้ประกอบการเองท่ีจะมีกำไรสูงขึ้น ธุรกิจ มคี วามเจรญิ ก้าวหนา้ และขยายงานไดม้ ากขน้ึ พนกั งานก็มีรายไดม้ ากข้นึ มีความม่ันคงในหน้าท่ีการงาน มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีขึ้น ผู้บริโภคได้รับสินค้าและการบริการที่มีคุณภาพดีข้ึนในราคายุติธรรม รัฐบาลก็จะมีรายได้จากภาษีอากรเพ่ิมมากขึ้น ทำให้มีเงินมาใช้ในการ แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ขา้ ราชการ 61

พัฒนาประเทศสร้างคุณภาพชีวิตท่ีดีให้กับประชาชนสังคมก็จะน่าอยู่ข้ึน ส่งิ แวดล้อมจะได้รบั การดูแลรกั ษา น่ีคือสังคมที่พึงปรารถนาสำหรับทุกๆคน ไม่เฉพาะแต่ผู้ประกอบ การอตุ สาหกรรม อันท่ีจริงแล้วแนวคิดน้ีสามารถนำไปใช้ได้กับทุกคน ทั้งในการ ดำรงชีวิตประจำวันและการทำงาน ดังนั้นเราจึงควรร่วมมือกันเพ่ือสร้าง ให้พฤติกรรมการเพ่ิมผลผลิตเป็นส่วนหน่ึงของวัฒนธรรมไทยเป็น วฒั นธรรมของคนรนุ่ ใหม่ท่ีมีคุณภาพอย่างแท้จรงิ จากระยะเวลาร่วม 40 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าความเข้าใจในเรื่องการ เพ่ิมผลผลิตนั้นยังไม่แพร่หลายเท่าท่ีควร ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ที่มีอยู่ใน สังคมไทยแต่กย็ ังเป็นเรื่องทีน่ า่ ยนิ ดตี งั้ แตป่ ี 2541 เป็นต้นมา จากวกิ ฤต เศรษฐกิจท่ีเกิดขึ้น ได้เกิดความต่ืนตัวในกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ให้ความสนใจในการพัฒนาตนเองเพ่ือความอยู่รอด และแนวความคิด การเพ่ิมผลผลิตก็เป็นคำตอบทด่ี ี นอกจากนั้นในภาพรวมของสังคมไทยก็เร่ิมเห็นความ เปล่ียนแปลงหลายประการในทางที่ดีข้ึน โดยมีหลักนำในการดำรงชีวิต จากแนวคิดในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้กับปวงชนชาวไทย ซ่ึงก็เป็นหลักการท่ีสอดคล้องกับ แนวคดิ การเพม่ิ ผลผลิตอย่างยง่ิ ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าถ้าหากปวงชนชาวไทยพร้อมใจกันเดิน ตามรอยเบื้องยุคลบาท พัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติ 7 ประการตามที่ กล่าวมา ทำใหพ้ ฤติกรรมทไี่ ม่พงึ ปรารถนาลดน้อยลง เราคงมีโอกาสเหน็ มิติใหม่ของสังคมไทยท่ีจะเป็นสังคมท่ีอยู่ดีกินดีและมีสันติสุขอย่าง แทจ้ รงิ 62 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรับข้าราชการ

บรรณานุกรม เขมิกา บวรวุฒิ, พ.อ.หญิง,ข้าราชการไทยกับการปฏิบัติงานตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียง.สวสั ดิการสาร(ทหารบก) ฉบับประจำเดอื น เมษายน 2550. http://www.fact.or.th/fact/index.php/2008-12-15-07-26-59/ 179-2009-10-30-03-45-39.html http://youth.ftpi.or.th/index.php?option=com_content&task= view&id=52&Itemid=42 http://www.did.go.th/region2/edoc_960.pdf http://klang.cgd.go.th แนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงสำหรบั ข้าราชการ 63

คณะผจู้ ัดทำ ที่ปรกึ ษา นายอดศิ กั ดิ์ ทองไขม่ ุกต์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝงั่ นายประวมิ วุฒสิ นิ ธ์ ุ รองอธบิ ดกี รมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝงั่ นายนทิ ัศน ์ ภวู่ ฒั นกลุ รองอธบิ ดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นางเจดิ จินดา โชติยะปตุ ตะ ผู้เช่ียวชาญเฉพาะดา้ นการจัดการทรัพยากรทางทะเล คณะทำงาน นายสิรภพ พนู เพชร นิตกิ รชำนาญการ รกั ษาการในตำแหน่งหวั หน้ากลุ่มนิตกิ าร วา่ ที่ ร.ต.ฐปพน อำนวยสมบตั ิ นติ กิ ร นายสิทธโิ ชค ทปี ะปาล นติ กิ ร นางสาวอัญชลีพร ไทยวงษ์ นิตกิ ร นางสาวฤทัยรตั น์ สุขเจรญิ ศกั ด ิ์ นิตกิ ร นางสาวสราวรรณ วิทโยดม นติ ิกร นางสาวสุรสั วดี ชปู ระดษิ ฐ ์ นิติกร นางสาวฑิตยา พันธุ์ประสทิ ธ์ิ นติ ิกร นางสาวเยาวลกั ษณ ์ สมถวลิ เจ้าหน้าท่ีบริหารงานทว่ั ไป จพ ำิมนนพาวง์คนสารทวง้ัโีพ่สทภิมี่ดิ 2าพ ์ คำบุญเหลือ เจ้าหน้าท่ีบนั ทกึ ข้อมูล ธนั วาคม 2553 500 เล่ม 64 แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งสำหรับข้าราชการ