46 แผนการจัืดการเรืยี นรืู หนว่ื ยการเรียนรทู้ ี่ 3 รวมื12 ชว่ั โมง ชือ่ วิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืเทคโนโลยพี ้ืนฐานของระบบสารสนเทศ สอนครง้ั ท่ีื3 – 5 ชือ่ เรื่องืเทคโนโลยพี นื้ ฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ช่ัวโมง 1.1 นาเข้าื(Input) หมายถึง ทรัพยากรหรือส่งท่ีจาเป็นต่อกระบวนการ เช่น ส่วนนาเข้าข้อมูลของ ระบบผลตผลไมก้ ระป๋อง คือ ผลไม้ นา้ กระปอ๋ ง เปน็ ตน้ 1.2 กระบวนการื(Process) หมายถึง การแปรสภาพหรือประมวลผลทรัพยากร เพือ่ ให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ ตอ้ งการ เชน่ การรวมส่วนผสมในการกระบวนการผลตผลไมก้ ระป๋อง 1.3 ผลลัพธ์ื(Output) หมายถึง ส่งที่ได้รับจากกระบวนการ เช่น ผลไม้กระป๋องท่ีได้จากกระบวนการ ผลต 1.4 ส่วนย้อนกลับื(Feedback) หมายถึง ส่งท่ีได้จากกการดาเนนงานระบบ ซึ่งสามารถนาไปปรับปรุง การทางานของสว่ นอนื่ ๆได้ เชน่ ในการทาผลไมก้ ระปอ๋ ง 100 กระปอ๋ ง ต้องใช้ผลไม้ 20 กโลกรมั เป็นต้น 1.5 ระบบสารสนเทศ (Information System) หมายถงึ การนาทรพั ยากรตา่ งๆ เชน่ การนาข้อมูลเข้า สู่ระบบ โดยผา่ นกระบวนการประมวลผล เรยี บเรยี ง จดั เก็บ เพ่ือใหไ้ ด้ผลลพั ธ์ 1.6 เทคโนโลยีสารสนเทศื(Information Technology) หมายถึง อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่เก่ียวข้อง กับการรวบรวม ประมวล เก็บรักษา และเผยแพร่ข้อมูล และสารสนเทศโดยรวม ทั้ง ฮาร์ดแวร์ (Hardware), ซอฟต์แวร์(Software), ฐานข้อมูล (Database) และการส่ือสารโทรคมนาคม (Telecommunications) (ณัฐณชา อา พรรณและสมชาย,2552) 1.7 เทคโนโลยีสารสนเทศื(Information Technology) เป็นองค์ประกอบสาคัญของระบบ สารสนเทศ โดยเทคโนโลยีสารสนเทศ มีพื้นฐานสาคัญ 3 ประการ ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ (Hardware), ซอฟต์แวร์ (Software), การส่อื สารข้อมลู (Data Communication) 2. ฮารด์ แวร์คอมพวิ เตอรื์ (Computer Hardware) ฮารด์ แวร์คอมพวเตอร์ (Computer Hardware) หรือท่ีเรียกส้ันๆว่า “ฮาร์ดแวร์ (Hardware)” หมายถึง ส่งท่จี ับต้องได้ท้งั หมดท่เี กย่ี วกับคอมพวเตอร์ เช่น เมนบอร์ด (Mainboard), หน่วยประมวลผลกลาง (CPU), อุปกรณ์ นาเข้าข้อมูล (Input Device) และอุปกรณ์แสดงผลข้อมูล (Output Device) เปน็ ต้น 2.1 อุปกรณ์นำเข้ำข้อมูล (Input Device) ทาหน้าที่นาข้อมูล หรือคาสั่งเข้าสู่เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เพือ่ ให้ CPU ประมวลผล ตวั อย่างอปุ กรณ์นาเข้าข้อมูล แสดงดังตารางที่ 3.1
47 แผนการจืัดการเรืยี นรืู หนืว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 รวมื12 ช่ัวโมง ชอื่ วิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ ชื่อหนว่ ยืเทคโนโลยพี ้ืนฐานของระบบสารสนเทศ สอนครัง้ ที่ื3 – 5 จานวน 12 ชั่วโมง ชือ่ เรื่องืเทคโนโลยพี ้นื ฐานของระบบสารสนเทศ ตารางทื่ี 3.1 แสดงตัวอย่างอปุ กรณ์นาเขา้ ขอ้ มูลท่ีนยิ มใชใ้ นปจั จุบัน อุปกรณ์ คาอธบิ าย Keyboard ใช้นาเขา้ ข้อมูลแบบข้อความและตวั เลข Mouse ใช้ควบคมุ การเคลอ่ื นท่ขี องตวั ชีต้ าแหนง่ (Pointer) หรอื คลกเพื่อกาหนดตาแหนง่ ของ Curser เมือ่ ต้องการพมพ์ข้อความ Trackball มีลักษณะคล้ายกบั Mouse แต่ Trackball จะมลี ูกบอลอยู่ด้านบนสาหรบั ใช้ควบคมุ การ เคล่อื นท่ีของ Pointer แทนการเคล่ือนตัวของ Mouse Touch Pad มลี กั ษณะเป็นรูปสี่เหลยี่ มแบนราบ ใช้ควบคุมการเคลอื่ นท่ีของ Pointer โดยการใช้นว้ สัมผสั ไปมา ส่วนมากใช้กับ Notebook Stylus มลี กั ษณะคลา้ ยปากกาทั่วไป ใช้เขียนข้อความหรอื วาดเส้นลงบนพ้นื ผวทจ่ี ัดไวใ้ ห้ Microphone ใชน้ าเข้าข้อมลู เสียงแลว้ ขยายออกทางลาโพง Scanner ใชน้ าเขา้ ข้อมูลท่ีใชว้ ธีจับหรอื ตดั (Capture) เฉพาะบางส่วนของเอกสาร D gital Camera ใช้บนั ทกึ ข้อมูลรปู ภาพหรือวีดีโอลงหนว่ ยความจา Video PC Camera ใชบ้ นั ทึกข้อมูลรูปภาพหรือวดี ีโอ โดยเช่อื มต่อกับเครื่องคอมพวเตอร์ Touch Screen เป็นอุปกรณน์ าเข้าข้อมลู และแสดงผล รบั คาสัง่ จากผู้ใชผ้ ่านน้วสัมผสั ทจ่ี อ Pointing Stick เป็นอุปกรณ์บอกตาแหน่ง Cursor ชนดหนึ่ง มผี วสัมผสั คล้ายยางลบดนสอ ตดอยู่บน Keyboard ของเคร่ือง Notebook
48 แผนการจืดั การเรยืี นรืู หนว่ื ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 รวมื12 ช่วั โมง ชือ่ วชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืเทคโนโลยพี น้ื ฐานของระบบสารสนเทศ สอนครง้ั ที่ื3 – 5 ชอ่ื เรื่องืเทคโนโลยีพืน้ ฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ชัว่ โมง 2.2 อุปกรณ์แสดงผลข้อมูลื(Output Device) ทาหน้าท่ีแสดงผลลัพธ์ท่ีได้จากการประมวลผลของ CPU โดยการแปลงขอ้ มลู ดจตอลที่ไดจ้ ากการประมวลผลเป็นขอ้ มูลที่มนษุ ยส์ ามารถเขา้ ใจได้ แสดงดังตารางที่ 3.2 ตารางท่ีื3.2 แสดงตวั อยา่ งอปุ กรณแ์ สดงผลข้อมลู ที่นิยมใช้ในปัจจุบนั อปุ กรณ์ คาอธบิ าย Cathode Ray Tube จอภาพท่ีใชห้ ลอดภาพเปน็ หลอดแกว้ ขนาดใหญ่ มีลักษณะคลา้ ยกับโทรทศั น์ในอดีต Monitor (CRT) Liquid Crystal ใช้ผนึกเหลว Liquid Crystal แทนหลอดภาพ CRT ทาให้ LCD มีลักษณะจอแบน และ Display (LCD) บางกวา่ จอ CRT มนี ้าหนกั เบา เหมาะสาหรับใชง้ านในพ้นื ท่ีจากดั Speaker ใช้แสดงผลในรปู แบบเสยี ง Headphone เป็นลาโพงขนาดเล็ก เหมาะสาหรับการใชง้ านแบบพกพา Printer ใช้แสดงข้อมูลท่ีได้จาการประมวลผลในรูปแบบของกระดาษ เครื่องพมพ์แบ่งเป็นหลาย ชนด เชน่ Dot Matrix, Ink Jet, Laser Printer เป็นตน้ Fax ใชแ้ สดงข้อมูลเอกสารทสี่ ่งจากสัญญาณโทรศพั ท์ 2.3 หน่วยความจาื(Memory Unit) ทาหน้าท่ีจัดเก็บข้อมูลท่ีรับเข้ามาเพ่ือส่งต่อไปยัง CPU เม่ือCPU ประมวลผลแล้ว จะนาผลลัพธ์มาเก็บไว้ในหน่วยความจา เพื่อนาไปแสดงผลหรือจัดเก็บไว้ในหน่วยความจาอื่น หน่วยความจามี 2 ชนด ได้แก่ หนว่ ยความจาหลกั และหนว่ ยความจาสารอง
49 แผนการจืัดการเรยืี นรืู หน่ืวยการเรยี นรูท้ ี่ 3 รวมื12 ช่วั โมง ชื่อวชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ ช่ือหนว่ ยืเทคโนโลยพี น้ื ฐานของระบบสารสนเทศ สอนคร้งั ท่ีื3 – 5 ช่ือเรอ่ื งืเทคโนโลยพี ื้นฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ช่วั โมง 2.3.1 หน่วยความจาหลักื(Primary storage) 1) ROM (Read Only Memory) เป็นหน่วยความจาที่เก็บข้อมูลไว้อย่างถาวร ไม่สามารถลบ ได้ด้วยวธีธรรมดา จะต้องใช้อุปกรณ์พเศษ ข้อมูลใน ROM จะถูกเก็บอยู่ได้ โดยไม่ต้องมีไฟฟ้าเล้ียง ROM ถูกใช้ใน การบนั ทึกชดุ คาสงั่ เช่น การสั่งให้ CPU ทางานเมื่อเปิด หรือ Restart เครื่อง ซ่ึงชุดคาส่ังเหล่าน้ีจะถูกบันทึกมาจาก โรงงานของผผู้ ลต 2) RAMื(Random Access Memory) เป็นหน่วยความจาช่ัวคราว เมื่อไม่มีกระแสไฟหรือปิด เคร่อื ง ข้อมูลท่มี อี ย่ใู น RAM ก็จะหายไป RAM ใชเ้ กบ็ ข้อมูล หรือชดุ คาสง่ั จากโปรแกรมระหว่างที่เครื่องคอมพวเตอร์ กาลังทางาน เช่น SDRAM, DDR SDRAM เปน็ ตน้ 2.3.2 หน่วยความจาสารอง (Secondary Storage)ืเป็นหน่วยความจาเสรมท่ีช่วยจัด เก็บข้อมูลใน รูปแบบของไฟล์ (File) เพื่อให้สามารถเรียกงานใช้ได้ในครั้งต่อไป หน่วย ความจาชนดนี้ไม่มีไฟเลี้ยงก็สามารถเก็บ ข้อมูลไดโ้ ดยไม่สญู หาย และสามารถจดั เก็บได้มากกว่าหน่วยความจาหลักหลายเท่า แสดงดังตารางที่ 3.3
50 แผนการจืัดการเรยืี นรืู หนืว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 รวมื12 ช่วั โมง ชอ่ื วชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืเทคโนโลยีพน้ื ฐานของระบบสารสนเทศ สอนคร้งั ท่ีื3 – 5 ชอื่ เร่ืองืเทคโนโลยีพนื้ ฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ช่วั โมง ตารางทื่ี 3.3 แสดงตัวอยา่ งหนว่ ยความจาสารอง (Secondary Storage) อุปกรณ์ คาอธบิ าย Ha d Disk มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหล่ียมมีแผงวงจรไฟฟ้า ประกอบด้วยจานแม่เหล็กเรียงซ้อนกัน หลายๆ แผ่น ใช้บันทึกข้อมูลได้ทุกประเภท ปัจจุบัน Hard Disk สามารถเก็บข้อมูลได้ มากกวา่ 100 GB Compact Discs ใช้เก็บข้อมูลแบบดจตอล โดยเฉพาะข้อมูลแบบ Multimedia สามารถบันทึกข้อมูลได้ (CD) 800 MB (90 นาที) หลายชนด ได้แก่ CD-R, CD-RW อุปกรณ์ท่ีใช้บันทึกข้อมูล คือ CD Writer Digital Video Disc ใช้เก็บข้อมูลเหมือน CD แต่จะมากกว่าถึง 7 เท่า นยมใช้บันทึกภาพยนตร์ เน่ืองจากมี (DVD) คุณภาพในการบันทึกความละเอียดสูงๆ มีหลายชนด ได้แก่ DVD-R, DVD+R, DVD+RW อุปกรณ์ทใ่ี ชบ้ นั ทกึ ข้อมูล คือ DVD Writer Magnetic Tape เทปแม่เหล็ก ใช้สารองข้อมูลสาหรับองค์กรขนาดใหญ่ มีความจุประมาณ 20 GB อุปกรณ์ท่ใี ช้อา่ นข้อมูล คอื Tape Drive Flash Drive เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่นยมมาก มีขนาดเล็ก มีความจุสูง มีชื่อเรียกหลายแบบ เช่น Pen Drive, Handy Drive และ Thumb Drive เปน็ ตน้ Memory Stick ใช้สาหรับเก็บข้อมูลดจตอลประเภทภาพ เสียง และอื่นๆ ใช้ได้กับอุปกรณ์หลายชนด เชน่ Digital Camera, Mobile Phone เปน็ ต้น
51 แผนการจืัดการเรืยี นรืู หน่วื ยการเรยี นรู้ท่ี 3 รวมื12 ชว่ั โมง ชื่อวชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ ช่อื หนว่ ยืเทคโนโลยีพ้ืนฐานของระบบสารสนเทศ สอนครั้งที่ื3 – 5 ชอ่ื เรือ่ งืเทคโนโลยีพื้นฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ชว่ั โมง 3. คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ (Computer Software) Software เป็นอีกหน่ึงองค์ประกอบสาคัญของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นตัวขับเคล่ือนและ ประสานการทางานระหว่าง Hardware ส่วนต่างๆ กับผู้ใช้งาน เพ่ือให้ได้ผลตามที่ต้องการ โดย Software จะแบ่ง ออกเปน็ 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวรร์ ะบบ (System Software) และซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ (Application Software) 3.1 ซอฟต์แวร์ระบบื(System Software) หมายถึง ชุดคาสั่งหรือโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาเพื่อทา หน้าที่ควบคุมการทางานของคอมพวเตอร์และอุปกรณ์ เช่น การนาข้อมูลเข้ามาประมวลผล การแสดงผลของ อุปกรณ์แสดงผล เป็นต้น ซึ่งเม่ือเร่มเปิดเครื่องคอมพวเตอร์ การทางานจะเป็นไปตามชุดคาส่ังที่เขียนข้ึน โดย Software แบง่ ออกเปน็ 3 ประเภท ได้แก่ 3.1.1 โปรแกรมระบบปฏบิ ัติการื(Operating System : OS) เปน็ โปรแกรมท่ีสาคัญที่สุดในการ ทางานของคอมพวเตอร์ เน่ืองจาก OS ทาให้คอมพวเตอร์สามารถควบคุมและจัดการทรัพยากรต่างๆของเครื่องได้ ซงึ่ มีหน้าที่ดังตอ่ ไปนี้ 1) เรม่ ต้นการทางานของเคร่ืองคอมพวเตอร์ ดว้ ยการบูทเคร่อื ง (Booting) 2) เป็นสว่ นประสานกบั ผู้ใช้ (User Interface) 3) ดูแลจัดการการทางานของโปรแกรมอนื่ 4) จดั สรรพนื้ ทใี่ นหนว่ ยความจา RAM 5) จัดลาดบั การทางาน 6) การตดตงั้ Driver ของอุปกรณ์ต่างๆ 7) การจัดการไฟล์ ไมว่ า่ จะเปน็ การค้นหา ลบ จดั เรยี ง คดลอก 8) การฟอร์แมต็ (Formatting) 3.1.2 โปรแกรมอรรถประโยชน์ื(Utility Program) เป็นโปรแกรมท่ีช่วยสนับสนุนเพ่ม หรือ ขยายความสามารถของโปรแกรมเดมท่ีมีอยู่ให้มีประสทธภาพมากขึ้น เช่น โปรแกรมสแกนไวรัส โปรแกรมบีบอัด ไฟล์ข้อมูล WinZip หรอื WinRAR เปน็ ต้น 3.1.3 ตัวแปลภาษาื(Language Translator) เป็นโปรแกรมท่ีเขียนข้ึนมาใช้แปลความหมาย ของคาสงั่ ของภาษาระดบั สงู ชนดต่างๆ ใหเ้ ปน็ ภาษาเครอ่ื ง 3.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ื(Application Software) หมายถึง Software ท่ีสร้างข้ึนเพ่ือใช้ในงานด้าน ใดด้านหน่ึงโดยเฉพาะ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ซอฟต์แวร์ท่ัวไป (General-purpose Application Software) และ ซอฟตแ์ วรท์ ่ีใชง้ านเฉพาะดา้ น (Application-specific Software)
52 แผนการจดัื การเรืยี นรืู หนื่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 รวมื12 ช่ัวโมง ช่ือวิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ ชื่อหนว่ ยืเทคโนโลยพี ืน้ ฐานของระบบสารสนเทศ สอนครง้ั ท่ีื3 – 5 ช่อื เรื่องืเทคโนโลยพี ้ืนฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ชว่ั โมง 3.2.1 ซอฟต์แวร์ทั่วไปื(General-purpose Application Software) ส่วนมากมักจะใช้คาว่า “ซอฟต์แวร์สาเร็จรูป (Packaged Software)” ที่วางขายตามท้องตลาด ผู้ใช้สามารถนามาใช้ได้ทันที โดยสามารถ แบง่ ตามกลมุ่ การใช้งานได้ดังนี้ 1) ซอฟตแ์ วรป์ ระมวลคาื(Word Process) ใช้สาหรบั พมพเ์ อกสาร สามารถลบ แก้ไข แทรก รูป จดั รูปแบบ เปล่ยี นสตี วั อักษรได้ ตวั อย่างโปรแกรมชนดนี้ เชน่ Microsoft Word เป็นต้น 2) ซอฟต์แวร์กระดาษคานวณื(Spreadsheet) ใช้ในด้านการคานวณตารางทางาน สร้าง กราฟวเคราะหข์ ้อมูลเชงสถต ตวั อย่างโปรแกรมชนดน้ี เชน่ Microsoft Excel เป็นต้น 3) ซอฟต์แวร์สร้างงานนาเสนอื(Presentation Software) ใช้ในด้านการนาเสนอข้อมูลใน รูปแบบสไลด์ ต้องแสดงผลได้ท้ังรูปแบบข้อความ ภาพ และเสียง ตัวอย่างโปรแกรมชนดนี้ เช่น Microsoft PowerPoint เปน็ ตน้ 4) ซอฟต์แวร์จัดการข้อมูลื(Data Management Software) ใช้จัดเก็บ ดูแล และจัดการ กับข้อมูลอย่างเป็นระบบในแหล่งจัดเก็บท่ีเรียกว่า “ฐานข้อมูล (Database)” ตัวอย่างโปรแกรมชนดนี้ เช่น Microsoft Access เป็นต้น 5) ซอฟต์แวร์กราฟิกื(Graphic Software) ใช้สร้างรูปภาพกราฟิก หรือจัดการกับไฟล์รูป ถ่ายดจตอลต่างๆ ตัวอยา่ งโปรแกรมชนดน้ี เช่น Adobe Illustrator, Adobe Photoshop เปน็ ต้น 6) ซอฟต์แวร์สร้างเอกสารสิ่งพิมพ์ื(Desktop Publishing Software) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สร้างเอกสารส่งพมพ์ เช่น แผ่นผับ วารสาร หนังสือขนาดเล็ก การ์ดชนดต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ตัวอย่างโปรแกรม ชนดนี้ เช่น Microsoft Publishing, PageMaker เป็นต้น 7) ซอฟต์แวร์บริหารโครงการื(Project Management Software) เป็น Software ท่ีช่วย แบ่งเบาภาระของผู้บรหารโครงการ ในการจัดการตารางงานของโครงการ กาหนดทรัพยากร บุคลากร ช่วยสร้าง Gantt Chart ได้สะดวกและรวดเร็วข้นึ ตัวอยา่ งโปรแกรมชนดน้ี เชน่ Microsoft Project เปน็ ตน้ 8) ซอฟต์แวร์เว็บบราวเซอร์ื(Web Browser) เป็น Software ที่ใช้แสดงผลเว็บเพจของเว็บ ไซด์ตา่ งๆ บนเครอื ขา่ ยอนเตอรเ์ น็ต ตัวอย่างโปรแกรมชนดนี้ เช่น Mozilla, Frifox, Opera, Google Chrome เป็น ตน้ 9) ซอฟต์แวร์ใช้สร้างเว็บไซด์ เป็น Software ในกลุ่มที่ใช้สร้างเว็บไซด์ที่ประกอบไปด้วย เครื่องมือต่างๆ อานวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน ผู้ใช้งานสามารถสร้างเว็บไซด์ได้อย่างง่ายดาย โดยการคลกเมาส์ ลาดแล้ววาง Object ในตาแหน่งที่ต้องการ Software จะแปลงเป็นโค้ด หรือภาษา HTML ให้อัตโนมัต ตัวอย่าง โปรแกรมชนดน้ี เช่น Adobe Dreamweaver, Microsoft FrontPage เปน็ ต้น
53 แผนการจดัื การเรยืี นรืู หนื่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 รวมื12 ชว่ั โมง ช่อื วิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ ช่อื หนว่ ยืเทคโนโลยีพน้ื ฐานของระบบสารสนเทศ สอนคร้งั ที่ื3 – 5 ชอ่ื เรือ่ งืเทคโนโลยพี ้นื ฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ชวั่ โมง 3.2.2 ซอฟต์แวร์ท่ีใช้งานเฉพาะด้านื(Application-specific Software) เป็น Software ท่ี ตอ้ งมีการรวบรวมความต้องการของผใู้ ชง้ าน แลว้ นามาพฒั นาเปน็ Software การพัฒนา Software ชนดนี้ส่วนใหญ่ เพ่ือตอบสนองความต้องการทางด้านธุรกจ เน่ืองจากไม่สามารถหา Software สาเร็จรูปมาใช้ได้ตรงตามความ ต้องการทั้งหมด เช่น ระบบงานบัญชี ระบบงานคลังสนค้า ระบบงานห้องสมุด เป็นต้น ซึ่งข้อดีของ Software เฉพาะด้าน คือ สามารถแก้ไขโปรแกรมเองได้ตามความต้องการ ส่วนข้อเสีย คือ ใช้ต้นทุนในการพัฒนาค่อนข้างสูง และใช้เวลานาน 4. การสอื่ สารขอ้ มลู ื(Data Communication) Data Communication หมายถึง การแลกเปล่ียนข้อมูล และสารสนเทศ ระหว่างเคร่ืองคอมพวเตอร์ หรืออุปกรณ์ท่ีเกี่ยวข้อง จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหน่ึง โดยผ่านช่องทางการส่ือสาร ข้อมูลที่ส่งถึงกันนั้นจะเป็นเพียง ขอ้ มูล (Data) เทา่ นัน้ ช่องทางในการสื่อสารื(Communication Channel) หมายถึง สื่อกลางการส่งผ่านข้อมูลระหว่าง อปุ กรณ์ 2 ชนด โดยความเร็วในการสอ่ื สารข้อมลู ขึน้ อยู่กับ 2 ปัจจัย คือ ความกว้างของช่องสัญญาณ (Bandwidth) และชนดของข้อมูล (Data Types) 4.1 ช่องทางสอ่ื สารแบบมีสาย สายคู่บดเกลียว (Twisted-Pair Cable) เป็นสายท่ีใช้ในระบบโทรศัพท์ทั่วไป สามารถส่งได้ท้ัง สัญญาณเสยี งและสญั ญาณดจตอล โดยมีข้อดี คือ ราคาถกู สว่ นขอ้ เสีย คือ อัตราเร็วในการส่งข้อมูลน้อย และมีการ จากดั เรื่องความยาวของสาย ภาพท่ี 3.2 แสดงสายค่บู ดตีเกลยี ว (Twisted-Pair Cable) ทม่ี า : https://en.wikipedia.org/wiki/Twisted_pair
54 แผนการจดืั การเรยืี นรืู หนวื่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 รวมื12 ช่วั โมง ชอ่ื วิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ ชอื่ หนว่ ยืเทคโนโลยีพืน้ ฐานของระบบสารสนเทศ สอนครง้ั ที่ื3 – 5 ช่ือเร่ืองืเทคโนโลยพี น้ื ฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ช่วั โมง สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) คือ สายเคเบลทีวีที่ใช้ในบ้าน มีลักษณะเป็นสายทองแดงเด่ียว อยู่ตรงกลาง หุ้มด้วยฉนวน ใช้ในการส่งสัญญาณดจตอล โดยมีข้อดี คือ ส่งข้อมูลได้เร็วและมีสัญญาณรบกวนน้อย สว่ นขอ้ เสยี คอื สายไมส่ ามารถโคง้ หรืองอได้ ภาพที่ 3.3 แสดงสายโคแอกเชยี ล (Coaxial Cable) ทีม่ า : www.cablewholesale.com/support/technical_articles/coaxial_cables.php สายใยแก้วนาแสง (Fiber-Optic Cable) ใช้แท่งแก้วที่มีลักษณะเป็นทรงกระบอกเป็นแกนกลาง และใช้วธีการส่งข้อมูลด้วยแสงแทนการส่งสัญญาณไฟฟ้า โดยมีข้อดี คือ ส่งข้อมูลปรมาณมากๆ ได้อย่างรวดเร็ว มี ความปลอดภยั ของขอ้ มูลสงู ส่วนขอ้ เสยี คอื ต้องให้ผู้เช่ยี วชาญในการตดต้งั ซงึ่ มีคา่ ใช้จา่ ยค่อนขา้ งสงู ภาพท่ี 3.4 แสดงสายใยแก้วนาแสง (Fiber-Optic Cable) ทีม่ า : http://www.wifinotes.com/computer-networks/types-of-fiber-optic-cable.html
55 แผนการจดืั การเรยืี นรืู หนืว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 รวมื12 ช่ัวโมง ชื่อวิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ ชื่อหนว่ ยืเทคโนโลยีพ้ืนฐานของระบบสารสนเทศ สอนคร้ังท่ีื3 – 5 ชอ่ื เรือ่ งืเทคโนโลยพี นื้ ฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ช่ัวโมง 4.2 ช่องทางสื่อสารแบบไรส้ าย 4.2.1 ไมโครเวฟื(Microwave) เป็นการส่ือสารแบบคลนื่ วทยุความถ่ีสูงที่ 300 MHz – 300 GHz ผ่านจานรับและจานส่งไมโครเวฟ สามารถส่งได้ไกล 25 – 30 ไมล์ โดยมีข้อดีืคือ ประหยัด และส่งข้อมูลด้วย ความเร็วสงู ส่วนข้อเสยี คอื ถกู ดักจบั สัญญาณได้ง่าย ภาพที่ 3.5 แสดงการรบั -สง่ สญั ญาณไมโครเวฟ (Microwave) ที่มา : http://www.huaikrot.ac.th/web/network/lession2/sign3.htm 4.2.2 ดาวเทียมื(Satellite) จะมีจานรับและจานส่งคลื่นความถี่ขนาดใหญ่ โดยมีข้อดี คือ ส่ง ข้อมูลปรมาณมากดว้ ยความเรว็ สูง ส่วนข้อเสยี คอื คา่ ใช้จ่ายสงู ถกู ดักจับสัญญาณได้งา่ ย ภาพที่ 3.6 แสดงการสอื่ สารผ่านดาวเทยี ม (Satellite) ทม่ี า : http://www.thaigoodview.com/node/95719
56 แผนการจดืั การเรยืี นรืู หน่ืวยการเรียนรทู้ ่ี 3 รวมื12 ชั่วโมง ชอื่ วชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชีพ ชื่อหนว่ ยืเทคโนโลยพี ้ืนฐานของระบบสารสนเทศ สอนคร้งั ที่ื3 – 5 ช่ือเรอ่ื งืเทคโนโลยพี ื้นฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ช่ัวโมง 4.2.3 อินฟราเรดื(Infrared) จะสง่ ข้อมูลโดยใช้คลืน่ อนฟราเรด โดยตอ้ งหนั อุปกรณ์ตัวรับและตัว ส่งใหต้ รงกัน และต้องไมม่ สี ่งกดี ขวาง ข้อดี คอื สามารถเคลื่อนยา้ ยง่าย ส่วนข้อเสยี คือ ระยะทางในการส่งข้อมลู สั้น ภาพที่ 3.7 แสดงตัวอย่างอุปกรณ์รบั -ส่งสญั ญาณอนฟราเรด (Infrared) ท่มี า : https://jatupornmoollao.wordpress.com/ 4.2.4 คล่นื วิทยืุ (Radio) ผ้สู ่งจะตอ้ งใชเ้ ครือ่ งส่งสัญญาณวทยุและผรู้ ับก็ตอ้ งมอี ุปกรณ์รับสัญญาณ ด้วย ขอ้ ดี คอื การรบั สญั ญาณมคี วามยดื หย่นุ สูงกว่าแบบสาย ส่วนข้อเสยี คือ ถกู รบกวนและดักฟงั ไดง้ ่าย ภาพที่ 3.8 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณร์ ับ-สง่ สญั ญาณวทยุ (Radio) ทมี่ า : https://wiki.stjohn.ac.th/groups/poly_electronics/wiki/206dd/_FM__.html
57 แผนการจืดั การเรืยี นรืู หนวื่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 รวมื12 ชั่วโมง ชอื่ วชิ าืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ ช่อื หนว่ ยืเทคโนโลยพี ื้นฐานของระบบสารสนเทศ สอนครัง้ ที่ื3 – 5 ช่ือเรื่องืเทคโนโลยพี น้ื ฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ช่ัวโมง 4.2.5 เซลลูลาร์ื(Cellular) เป็นการตดต่อสื่อสารที่ใช้คล่ืนวทยุ มีศูนย์กลางควบคุมการจัดส่ง ข้อมูล การส่งข้อมูลประเภทนี้ได้แก่ Mobile Phone โดยมีข้อดี คือ สามารถพกพาไปได้ ส่วนข้อเสีย คือ สัญญาณ มักถกู รบกวนหรอื ถูกดกั ฟัง ภาพท่ี 3.9 แสดงตวั อยา่ งการรบั -สง่ สญั ญาณเซลลูลาร์ (Cellular) ทม่ี า : http://simple-telecom.blogspot.com/2009/06/cellular-networks.html 5. ซอฟต์แวรใ์ นอุตสาหกรรมบริการื(Software Service Industry) จากเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารข้อมูลนาไปสู่การผลต Software มาใช้เป็นเครื่องมือสาคัญ และ จาเป็นสาหรับการดาเนนธุรกจท่ีต้องการการเชื่อมโยงกันได้ทุกมุมโลก ท้ังน้ีเนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศ และ ซอฟแวร์ได้ก่อให้เกดประโยชน์ต่างๆ มากมาย ในธุรกจอุตสาหกรรมบรการในปัจจุบัน มีการนา Software มาใช้ใน การดาเนนงานขององค์กรอย่างแพร่หลาย ทั้งน้ีก็เพ่ือเป็นการเพ่มประสทธภาพการดาเนนงาน และการให้บรการ สามารถตรวจสอบการทางานได้ ซึ่ง Software ท่ีนามาใช้ก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกจ หรือการบรการ เช่น การนา Software Micros Fidelio, Opera หรือระบบบรหารจัดการห้องพัก มาใช้ในธุรกจโรงแรม การนา Software ProMise Spa หรือระบบบรหารจัดการธุรกจสปา มาใช้กับศูนย์บรหารกายเพ่ือสุขภาพ (Fitness Center) รวมไปถงึ การนา Software ระบบบรการลูกคา้ สมั พันธ์ มาใช้กับธุรกจบรการตา่ งๆ เปน็ ต้น
58 แผนการจืัดการเรืยี นรืู หนว่ื ยการเรยี นรู้ท่ี 3 รวมื12 ชว่ั โมง ช่ือวิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ ชื่อหนว่ ยืเทคโนโลยพี ้นื ฐานของระบบสารสนเทศ สอนครัง้ ที่ื3 – 5 ชือ่ เรื่องืเทคโนโลยพี น้ื ฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ช่วั โมง เพ่อื เปน็ การหลีกเล่ียงความลม้ เหลวในการนา Software มาใช้ องคก์ รจะตอ้ งพจารณาปจั จยั ดังต่อไปน้ี 5.1 ความคาดหวังของผ้ใู ช้งาน 5.2 ขดี ความสามารถของ Software เม่อื เปรียบเทยี บกบั ความพร้อมและความสามารถขององค์กร 5.3 ระดับของการเปลี่ยนแปลงความต้องการของผูใ้ ช้งานที่จะเกดขึน้ 5.4 การยอมรบั ในระยะเวลาดาเนนโครงการขององคก์ ร 5.5 ความสอดคลอ้ งกนั ระหวา่ งวัฒนธรรมขององคก์ ร 5.6 ความเส่ียงด้านการเมอื งในองค์กร 5.7 ความสามารถ 5.8 ความรบั ผดชอบของผจู้ ัดการโครงการ สรุปท้ายบท Computer Hardware หมายถึง ส่งที่จับต้องได้ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ Computer เช่น เมนบอร์ด Mainboard, หน่วยประมวลผลกลาง (CPU), อุปกรณ์นาเข้าข้อมูล (Input Device) และอุปกรณ์แสดงผลข้อมูล (Output Device) เป็นต้น โดยแบ่งประเภทตามโครงสร้างของระบบ Computer ได้แก่ หน่วยรับข้อมูล หนว่ ยความจา และหน่วยแสดงผล Software หมายถึง ชุดคาสั่งหรือโปรแกรมที่เขียนข้ึนมาอย่างเป็นลาดับขั้นตอน เพ่ือส่ังให้ Computer ทางานใดๆ ตามท่ีต้องการได้ ซ่ึง Software แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) และซอฟแวรป์ ระยกุ ต์ (Application Software) และ System software ยงั สามารถแบง่ ออกได้อีก 3 ประเภท คือ โปรแกรมระบบปฏบัตการ (Operating System: OS), โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program) และตัว แปลภาษา (Language Translator) Data Communication หมายถงึ การสง่ หรอื แลกเปลี่ยนข้อมูล และสารสนเทศจากจุดหน่ึงไปยังอีกจุดหน่ึง โดยผ่านช่องทางการส่ือสาร แบ่งไดเ้ ป็น แบบมีสาย ได้แก่ สายคู่บดเกลียว (Twisted-Pair Cable), สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable), สายใยแก้วนาแสง (Fiber-Optic Cable) และแบบไร้สาย ได้แก่ คล่ืนไมโครเวฟ (Microwave), ดาวเทยี ม (Satellite), อนฟราเรด (Infrared), คลื่นวทยุ (Radio) และเซลลูลาร์ (Cellular) โดยข้อมูลท่ีส่งถึงกันนั้น จะเปน็ เพียง ขอ้ มูล (Data) เท่านน้ั
59 แผนการจัดื การเรืยี นรืู หนืว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 รวมื12 ชั่วโมง ชอ่ื วชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชีพ ชือ่ หนว่ ยืเทคโนโลยพี น้ื ฐานของระบบสารสนเทศ สอนคร้ังที่ื3 – 5 ช่ือเรอื่ งืเทคโนโลยีพ้ืนฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ชวั่ โมง 5.1ืการนำเข้าส่บู ทเรีืยน 1. เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งมอื ท่ีใชใ้ นการเรยี นและห้องเรียน 2. ครผู ู้สอนทกั ทายผู้เรียน และแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรขู้ องหน่วยท่ี 3 3. ครูผู้สอนสอบถามผู้เรียนเกี่ยวกับเทคโนโลยีพื้นฐานของระบบสารสนเทศว่าผู้เรียนมีพ้ืนฐานมากน้อย เพียงใด 5.2ืการเรีืยนรู้ 1. ครูผู้สอนแจกเอกสารประกอบการสอน แล้วให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่มเท่าๆ กัน ตามความสมัครใจ แล้วใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ศกึ ษา และคน้ คว้าหาความรเู้ พม่ เตมจากอนเทอรเ์ น็ตเร่ือง... 1.1. ฮารด์ แวรค์ อมพวเตอร์ (Computer Hardware) 1.2. ซอฟตแ์ วร์คอมพวเตอร์(Computer Software) 1.3. การส่ือสารขอ้ มลู (Data Communication) 1.4. ซอฟตแ์ วร์ในอตุ สาหกรรมบรการ (Software Service Industry) 2. ให้แต่ละกลุ่มนาเสนอหน้าช้ันเรียน แล้วครูผู้สอนสรุปสาระสาคัญของฮาร์ดแวร์คอมพวเตอร์ (Computer Hardware) ซอฟต์แวร์คอมพวเตอร์(Computer Software) การสื่อสารข้อมูล (Data Communication) และ ซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรมบรการ (Software Service Industry) เป็นข้อๆ พร้อมท้ังให้ผู้เรียนร่วมแสดงความ คดเหน็ เพม่ เตม 5.3ืการสรืปุ สรุปสาระสาคัญของฮาร์ดแวร์คอมพวเตอร์ (Computer Hardware) ซอฟต์แวร์คอมพวเตอร์ (Computer Software) การส่ือสารข้อมูล (Data Communication) และซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรมบรการ (Software Service Industry) เป็นข้อๆ พรอ้ มทง้ั ให้ผู้เรยี นรว่ มแสดงความคดเห็นเพ่มเตม 5.4ืการวืัดและประเมิืนผล ใหผ้ ูเ้ รียนทาแบบประมวลผลการเรียนรหู้ น่วยท่ี 3
60 แผนการจดืั การเรยืี นรืู หน่ืวยการเรียนรู้ท่ี 3 รวมื12 ช่ัวโมง ช่อื วชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชีพ ช่ือหนว่ ยืเทคโนโลยพี ื้นฐานของระบบสารสนเทศ สอนครงั้ ท่ีื3 – 5 ช่ือเรอ่ื งืเทคโนโลยพี น้ื ฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ชวั่ โมง 6. สื่อการเรีืยนรู้/แหล่ืงการเรียนรู้ 6.1ื ส่ือสืิ่งพิมพ์ เอกสารประกอบการสอนรายวชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ เร่ืองฮาร์ดแวร์ คอมพวเตอร์ (Computer Hardware) ซอฟต์แวร์คอมพวเตอร์(Computer Software) การสื่อสารข้อมูล (Data Communication) และซอฟต์แวร์ในอตุ สาหกรรมบรการ (Software Service Industry) 6.2ื สือ่ื โสตทัืศน์ื(ถา้ ม)ี พาวเวอรพ์ อยท์ และอนเทอรเ์ น็ต 6.3ื หุ่นจาลองหรืือของจริงื(ถา้ มี) - 6.4ื อ่ืืนๆื (ถื้ามี)ื - 7. เอกสารประกอบการจัดการเรีืยนรืู้ (ใบความรืู้ ใบงานื ใบมอบหมายงานืฯลฯ) เอกสารประกอบการสอนหน่วยท่ี 3 และใบมอบหมายงานที่ 3 8. การบูืรณาการ/ืความสืัมพนั ธ์กบั วิชาอ่นื -
61 แผนการจดัื การเรืยี นรืู หนว่ื ยการเรยี นรู้ที่ 3 รวมื12 ชว่ั โมง ชือ่ วิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ ชือ่ หนว่ ยืเทคโนโลยพี ้ืนฐานของระบบสารสนเทศ สอนคร้ังที่ื3 – 5 ชอื่ เรื่องืเทคโนโลยพี น้ื ฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ช่วั โมง 9. การวดั และประเมิืนผล 9.1ืืกอ่ นเรียื น ให้ผู้เรียนช่วยกันอภปรายถึงเทคโนโลยีพ้ืนฐานของระบบสารสนเทศ พร้อมท้ังความหมายของคาว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศ” 9.2ื ขณะเรยี น 1. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มเพ่ือศึกษารายละเอียดจากเอกสารประกอบการสอน และค้นคว้าจากอนเทอร์เน็ต นาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน แล้วครผู สู้ อนสรุปสาระสาคัญของแตล่ ะเรอื่ งเป็นข้อๆ 2. ให้ผู้เรียนแสดงความคดเห็นเพ่มเตมเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์คอมพวเตอร์ (Computer Hardware) ซอฟต์แวร์คอมพวเตอร์(Computer Software) การส่ือสารข้อมูล (Data Communication) และซอฟต์แวร์ใน อตุ สาหกรรมบรการ (Software Service Industry) 9.3ื หลังืเรียน ให้ผเู้ รียนทาแบบประมวลผลการเรยี นรหู้ น่วยที่ 3 10. บืันทึืกหลังสอน 10.1ื ผลการใชื้แผนการจัดการเรียื นรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................
62 แผนการจัดื การเรืยี นรืู หนืว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 รวมื12 ช่ัวโมง ชอื่ วชิ าืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชีพ ชื่อหนว่ ยืเทคโนโลยพี น้ื ฐานของระบบสารสนเทศ สอนครั้งที่ื3 – 5 ชอ่ื เร่ืองืเทคโนโลยพี ้ืนฐานของระบบสารสนเทศ จานวน 12 ช่วั โมง 10.2ื ผลการเรีืยนรู้ของนักื เรียื นืนกัื ศกืึ ษา ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 10.3ื แนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรีืยนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................
63 สาขาวืิชา:ืการโรงแรม (ระบบทวภาคแี ละระบบปกต) แบบ หน้าที่ ชอ่ื วิืชา:ืเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชพี ประเมินความรู้ 1 รหัืสวิชา:ื3001 2001 งาน:ืเทคโนโลยพี ื้นฐานของระบบสารสนเทศ หน่วยท่ืี 3 แผ่นทื่ี 1 คาชแ้ี จงืืืืืืื1. แบบประเมนความรู้ฉบับนเี้ ป็นแบบข้อเขียนชนดอัตนยั จานวน 7 ข้อ 10 คะแนน 2. ตอบคาถามตอ่ ไปนี้ให้ได้ใจความสมบรู ณ์ลงในกระดาษคาตอบ 3. เวลาที่ใชใ้ นการทาแบบทดสอบ 30 นาที ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. จงอธบายความหมายของระบบ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงอธบายความแตกต่างระหว่างหน่วยความจาแบบ ROM และ RAM ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. System Software คอื อะไร มบี ทบาทสาคัญอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
64 สาขาวิืชา:ืการโรงแรม (ระบบทวภาคแี ละระบบปกต) แบบ หนา้ ท่ี ชอ่ื วิืชา:ืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชพี ประเมินความรู้ 2 รหัืสวิชา:ื3001 2001 งาน:ืเทคโนโลยพี น้ื ฐานของระบบสารสนเทศ หนว่ ยท่ืี 3 แผน่ ที่ 2 4. Communication Channel คอื อะไร มีกช่ี นด อะไรบา้ ง จงอธบาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. จงเปรยี บเทียบการส่งขอ้ มูลผ่านชอ่ งทางการสื่อสารแบบมีสายและแบบไร้สาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
65 สาขาวชืิ า:ืการโรงแรม (ระบบทวภาคแี ละระบบปกต) แบบ หนา้ ที่ ชอื่ วิืชา:ืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชีพ ประเมนิ ความรู้ 3 รหัืสวิชา:ื3001 2001 งาน:ืเทคโนโลยีพ้นื ฐานของระบบสารสนเทศ หนว่ ยท่ืี 3 แผ่นที่ 3 6. หากนกั ศึกษาตอ้ งทาตารางการฝึกงาน โดยมีการบันทึกข้อมูลเวลาการปฏบัตงาน และมีการสรุปเวลารวม ในการปฏบัตงาน นกั ศึกษาจะเลอื กใช้ General-purpose Application Software ใด จงอธบาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. ปจั จัยใดบา้ งทอ่ี งค์กรจะตอ้ งพจารณาเพ่อื เปน็ การหลกี เลีย่ งความล้มเหลวในการนา Software มาใช้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คะแนนเตม็ 10 คะแนนได้คะแนน ........ คะแนน ลงช่ือ................................................ผู้ตรวจ (....................................................) สรุปผล □ ผา่ นเกณฑ์ □ ไม่ผา่ นเกณฑ์ ชอ่ื ................................................นามสกุล...............................................เลขท.่ี .......ระดับช้นั ..............กลุ่ม...............
66 สาขาวชิื า:ืการโรงแรม (ระบบทวภาคีและระบบปกต) เฉลยแบบ หนา้ ท่ี ชอ่ื วิชื า:ืเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชีพ ประเมนิ ความรู้ 1 รหัืสวิชา:ื3001 2001 งาน:ืความรู้เบือ้ งตน้ เก่ยี วกบั ระบบเครือข่ายคอมพวเตอร์ หน่วยที่ื3 แผน่ ทืี่ 1 1. จงอธิบายความหมายของระบบืและเทคโนโลยสี ารสนเทศ คาตอบ ระบบ (System) หมายถึง การนาองค์ประกอบต่างๆ ได้แก่ คน (People), ทรัพยากร (Resource), แนวคด (Concept) และกระบวนการ (Process) มาทางานร่วมกันเพ่ือให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่วางไว้ และ เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) หมายถึง อุปกรณ์หรือเคร่ืองมือที่เก่ียวข้องกับการ รวบรวม ประมวล เก็บรักษา และเผยแพร่ข้อมูล และสารสนเทศโดยรวม ทั้ง ฮาร์ดแวร์ (Hardware), ซอฟตแ์ วร์(Software), ฐานข้อมลู (Database) และการสื่อสารโทรคมนาคม (Telecommunications) 2. จงอธบิ ายความแตกตา่ งระหวา่ งหนว่ ยความจาแบบืROM และืRAM คาตอบ ROM (Read Only Memory) เป็นหน่วยความจาท่ีเก็บข้อมูลไว้อย่างถาวร ไม่สามารถลบได้ด้วย วธธี รรมดา จะตอ้ งใช้อุปกรณ์พเศษ ข้อมูลใน ROM จะถูกเก็บอยู่ได้ โดยไม่ต้องมีไฟฟ้าเลี้ยง ROM ถูกใช้ใน การบันทึกชุดคาส่ัง เช่น การสั่งให้ CPU ทางานเมื่อเปิด หรือ Restart เคร่ือง ซ่ึงชุดคาสั่งเหล่าน้ีจะถูก บันทึกมาจากโรงงานของผู้ผลต ส่วนRAM (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจาชั่วคราว เม่ือ ไม่มีกระแสไฟหรือปิดเครื่อง ข้อมูลที่มีอยู่ใน RAM ก็จะหายไป RAM ใช้เก็บข้อมูล หรือชุดคาส่ังจาก โปรแกรมระหวา่ งท่ีเครือ่ งคอมพวเตอร์กาลังทางาน เชน่ SDRAM, DDR SDRAM เปน็ ต้น 3. System Software คอื อะไรืมีบทบาทสาคญั อยา่ งไร คาตอบ System Software ซอฟต์แวร์ระบบ หมายถึง ชุดคาสั่งหรือโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาเพื่อทาหน้าท่ี ควบคุมการทางานของคอมพวเตอร์และอุปกรณ์ เช่น การนาข้อมูลเข้ามาประมวลผล การแสดงผลของ อปุ กรณ์แสดงผล เปน็ ตน้ ซงึ่ เมื่อเรม่ เปดิ เครอ่ื งคอมพวเตอร์ การทางานจะเปน็ ไปตามชดุ คาสั่งทเี่ ขยี นขึน้ 4. Communication Channel คืออะไรืมกี ่ชี นดิ ือะไรบ้างืจงอธบิ าย คาตอบืCommunication Channel หมายถึง สื่อกลางการส่งผ่านข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ 2 ชนด โดย ความเร็วในการส่ือสารข้อมูลข้ึนอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ ความกว้างของช่องสัญญาณ (Bandwidth) และชนด ของข้อมูล (Data Types) ไดแ้ ก่ 1. ช่องทางสื่อสารแบบมีสาย เช่น สายคู่บดเกลียว (Twisted-Pair Cable), สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) และสายใยแกว้ นาแสง (Fiber-Optic Cable) เปน็ ตน้ 2. ช่องทางสื่อสารแบบไร้สาย เช่น ไมโครเวฟ (Microwave), ดาวเทียม (Satellite), อนฟราเรด (Infrared), คล่ืนวทยุ (Radio) และเซลลูลาร์ (Cellular) เป็นต้น
67 สาขาวิชื า:ืการโรงแรม (ระบบทวภาคีและระบบปกต) เฉลยแบบ หน้าท่ี ชอื่ วิชื า:ืเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี ประเมินความรู้ 2 รหัืสวิชา:ื3001 2001 งาน:ืความรเู้ บ้อื งต้นเกย่ี วกบั ระบบเครือขา่ ยคอมพวเตอร์ หนว่ ยท่ีื3 แผน่ ทืี่ 2 5. จงเปรยี บเทยี บการส่งขอ้ มลู ผ่านชอ่ งทางการสื่อสารแบบมีสายและแบบไรส้ าย คาตอบืการส่งขอ้ มูลผ่านช่องทางการส่ือสารแบบมีสาย เป็นการส่งข้อมูลโดยผ่านสายข้อมูล อาทเช่น สายคู่ บดเกลียว (Twisted-Pair Cable), สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) และสายใยแก้วนาแสง (Fiber-Optic Cable) เป็นต้น ส่วนการส่งข้อมูลผ่านช่องทางการสื่อสารแบบไร้สาย เป็นการส่งข้อมูลโดยใช้คล่ืนความถี่ อาทเช่น ไมโครเวฟ (Microwave), ดาวเทียม (Satellite), อนฟราเรด (Infrared), คล่ืนวทยุ (Radio) และ เซลลูลาร์ (Cellular) เป็นต้น 6. หากนกั ศกึ ษาตอ้ งทาตารางการฝึกงานืโดยมีการบันทึกข้อมูลเวลาการปฏิบัติงานืและมีการสรุปเวลา รวมในการปฏิบตั ิงานืนักศึกษาจะเลือกใช้ืGeneral-purpose Application Software ใดืจงอธบิ าย คาตอบ ใช้ซอฟต์แวร์กระดาษคานวณ (Spreadsheet) ใช้ในด้านการคานวณตารางทางาน สร้างกราฟ วเคราะห์ขอ้ มลู เชงสถต ตัวอย่างโปรแกรมชนดน้ี เชน่ Microsoft Excel เป็นตน้ 7. ปัจจยั ใดบา้ งทอ่ี งคก์ รจะต้องพจิ ารณาเพื่อเปน็ การหลกี เลี่ยงความล้มเหลวในการนาืSoftware มาใช้ คาตอบ ความคาดหวังของผู้ใช้งาน, ขีดความสามารถของ Software เมื่อเปรียบเทียบกับความพร้อมและ ความสามารถขององค์กร, ระดับของการเปล่ียนแปลงความต้องการของผู้ใช้งานท่ีจะเกดขึ้น, การยอมรับใน ระยะเวลาดาเนนโครงการขององค์กร, ความสอดคล้องกันระหว่างวัฒนธรรมขององค์กร, ความเสี่ยงด้าน การเมอื งในองคก์ ร, ความสามารถ และความรับผดชอบของผู้จัดการโครงการ
68 สาขาวิชื า:ืการโรงแรม (ระบบทวภาคีและระบบปกต) ใบงานทืี่ 3 หน้าท่ี ชอ่ื วิชื า:ืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชพี หนว่ ยทืี่ 3 1 รหัืสวิชา:ื3001 2001 งาน:ืความรเู้ บ้ืองตน้ เก่ียวกับระบบเครือข่ายคอมพวเตอร์ แผน่ ที่ 1 คาชแ้ี จง 1. ใหผ้ เู้ รยี นแบ่งกลุ่มเปน็ 4 กลุ่มเท่าๆ กัน ตามความสมัครใจ แล้วให้แต่ละกลุ่มศึกษาหัวขอ้ ทตี่ นเอง ไดร้ บั และค้นคว้าหาความรู้เพ่มเตมจากอนเทอรเ์ นต็ 2. แต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอหน้าชน้ั เรยี น --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หวั ขอ้ ทีศ่ ึกษาคน้ คว้า ดังน้ี 1. ฮารด์ แวร์คอมพวเตอร์ (Computer Hardware) 2. ซอฟตแ์ วรค์ อมพวเตอร์(Computer Software) 3. การส่ือสารขอ้ มลู (Data Communication) 4. ซอฟต์แวร์ในอตุ สาหกรรมบรการ (Software Service Industry)
69 แผนการจืัดการเรืยี นรืู หนืว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 รวมื8 ชว่ั โมง ชือ่ วิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ ชื่อหนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครง้ั ท่ีื6 – 7 ชื่อเรอื่ งืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม จานวน 8 ชว่ั โมง 1. สาระสาคัญ อุตสาหกรรมท่องเท่ียวและอุตสาหกรรมบรการ เป็นอุตสาหกรรมทส่ี ร้างรายไดใ้ หก้ บั ประเทศเป็นจานวน มาก รฐั บาลมกี ารสนบั สนนุ ทั้งด้านการตลาด ประชาสัมพันธ์ เพ่ือกระตุ้นการท่องเท่ียว จนมีนักท่องเที่ยวเดนทางมา ท่องเที่ยวในประเทศไทยเพ่มมากข้ึนอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุน้ีเองจึงส่งผลให้ธุรกจด้านการโรงแรมเป็นธุรกจที่มีการ เตบโต และมอี ตั ราขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทาให้ธุรกจประเภทน้ีมีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยแต่ละโรงแรมต่างหากล ยุทธ์ วธีการ และเทคนคต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าประทับใจกับการบรการให้มากท่ีสุด ซึ่งเคร่ืองมือที่จะนาในการ ตอบสนองความต้องการของธุรกจ คือ การนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการดาเนนงาน เพ่ือใน การดาเนนงานทางธรุ กจเป็นไปอย่างมีประสทธภาพ สามารถวเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารได้ถูกต้อง แม่นยา สร้างความ สะดวกรวดเรว็ ในการใหบ้ รการ ลกู คา้ เกดความพึงพอใจสงู สดุ และสรา้ งภาพลักษณท์ ีด่ ีใหก้ ับองคก์ รดว้ ย ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีนามาใช้ในอุตสาหกรรมบรการ ประเภทธุรกจโรงแรมนั้น มีหลากหลาย ระบบ แตท่ ี่ไดร้ ับความนยม และไดร้ ับการยอมรับว่าเป็นระบบที่มีฟังก์ชั่นการทางานสมบูรณ์ เหมาะสาหรับใช้ในการ บรหารจัดการธุรกจโรงแรม โปรแกรมนนั้ คือ Micros Fidelio 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. สามารถอธบายถึงข้อมลู ทัว่ ไปของโปรแกรม Micros Fidelio ได้ 2. สามารถเรม่ ต้นการใช้งาน Micros Fidelio ได้ 3. สามารถอธบายระบบการจองห้องพัก (Reservation) ได้ 4. สามารถอธบายงานบรการงานสว่ นหนา้ (Front Desk) ได้ 5. สามารถอธบายงานบญั ชี (Cashiering) ได้ 6. สามารถบอกถงึ เมนลู ดั (Quick Key) ได้
70 แผนการจัืดการเรยืี นรืู หนื่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 รวมื8 ช่วั โมง ชื่อวิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชีพ ชื่อหนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนคร้ังท่ีื6 – 7 ชื่อเรื่องืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม จานวน 8 ช่วั โมง 3. จืุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 สามารถอธบายถึงขอ้ มลู ทัว่ ไปของโปรแกรม Micros Fidelio ได้ 3.1.2 สามารถอธบายระบบการจองหอ้ งพกั (Reservation) ได้ 3.1.3 สามารถอธบายงานบรการงานสว่ นหนา้ (Front Desk) ได้ 3.1.4 สามารถอธบายงานบัญชี (Cashiering) ได้ 3.1.5 สามารถบอกถึงเมนูลดั (Quick Key) ได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ 3.2.1 สามารถเร่มตน้ การใชง้ าน Micros Fidelio ได้ 3.2.2 สามารถใชง้ านระบบการจองห้องพกั (Reservation) ได้ 3.2.3 สามารถใชง้ านเมนลู ดั (Quick Key) ได้ 3.3 คุณลักษณะที่พึง่ ประสงค์ 3.3.1 มวี นยั ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน และมจี ตสาธารณะ
71 แผนการจัดื การเรยืี นรืู หนวื่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รวมื8 ช่ัวโมง ชือ่ วชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครงั้ ท่ีื6 – 7 ชือ่ เร่ืองืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม จานวน 8 ชวั่ โมง 4.ืเนื้อหาสาระการเรยีื นรู้ การใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม อตุ สาหกรรมท่องเท่ียวและอุตสาหกรรมบรการ เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายไดใ้ ห้กบั ประเทศเป็นจานวน มาก รัฐบาลมีการสนบั สนนุ ทั้งด้านการตลาด ประชาสัมพันธ์ เพ่ือกระตุ้นการท่องเที่ยว จนมีนักท่องเที่ยวเดนทางมา ท่องเท่ียวในประเทศไทยเพ่มมากขึ้นอย่างต่อเน่ือง ด้วยเหตุนี้เองจึงส่งผลให้ธุรกจด้านการโรงแรมเป็นธุรกจท่ีมีการ เตบโต และมอี ตั ราขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทาให้ธุรกจประเภทน้ีมีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยแต่ละโรงแรมต่างหากล ยุทธ์ วธีการ และเทคนคต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าประทับใจกับการบรการให้มากท่ีสุด ซ่ึงเครื่องมือที่จะนาในการ ตอบสนองความต้องการของธุรกจ คือ การนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการดาเนนงาน เพื่อใน การดาเนนงานทางธุรกจเป็นไปอย่างมีประสทธภาพ สามารถวเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารได้ถูกต้อง แม่นยา สร้างความ สะดวกรวดเรว็ ในการให้บรการ ลูกค้าเกดความพงึ พอใจสูงสดุ และสรา้ งภาพลักษณ์ทด่ี ีให้กบั องคก์ รด้วย ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีนามาใช้ในอุตสาหกรรมบรการ ประเภทธุรกจโรงแรมน้ัน มีหลากหลาย ระบบ แตท่ ไ่ี ด้รบั ความนยม และไดร้ ับการยอมรบั วา่ เป็นระบบทีม่ ฟี งั กช์ นั่ การทางานสมบรู ณ์ เหมาะสาหรับใช้ในการ บรหารจัดการธุรกจโรงแรม โปรแกรมนั้น คอื Micros Fidelio 1. ข้อมลู ทวั่ ไปของโปรแกรมืMicros Fidelio 1.1 โปรแกรมืMicros Fidelio เป็นโปรแกรมทีใ่ ช้ในการบรหารจัดการห้องพักธุรกจโรงแรม มีลักษณะ การทางานแบบ Client-Server โดยที่โปรแกรมตดต้ังไว้ท่ีเครื่องแม่ข่าย (Server) การทางานสามารถเรียกใช้งานได้ จากเครื่อง Computer ลูกข่าย (Client) ซึ่งการทางานของโปรแกรม จะถูกแบ่งตามลักษณะของการทางานดังภาพ ที่ 4.1 ภาพท่ี 4.1 แสดง Shortcut การทางานของโปรแกรม Micros Fidelio
72 แผนการจืดั การเรยืี นรืู หนืว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 รวมื8 ชวั่ โมง ชอ่ื วิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ ชื่อหนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนคร้ังที่ื6 – 7 ชื่อเรอื่ งืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม จานวน 8 ชั่วโมง 1.2 Micros Fidelio Backup คือ โปรแกรมที่ใช้สารองข้อมูลจาก โปรแกรม Micros Fidelio โดย โปรแกรมจะดาเนนการบันทกึ ขอ้ มลู ท้ังหมดของโปรแกรมมาเกบ็ ไว้ท่เี ครือ่ งสารองข้อมูล ซ่ึงข้อมูลนั้นจะเป็นข้อมูล ณ วันที่ดาเนนการสารองขอ้ มลู 1.3 Micros Fidelio Configuration คือ โปรแกรมท่ีใช้กาหนดข้อมูลต่างๆ ของโปรแกรม Micros Fidelio เช่น ข้อมูลชื่อผู้เข้าใช้งานระบบ รหัสผ่าน สทธการใช้งานระบบ การกาหนดประเภทห้องพัก ราคาห้องพัก กาหนดรูปแบบของรายงาน เปน็ ตน้ 1.4 Micros Fidelio FO Server คือ โปรแกรมที่ใช้ในการเช่ือมต่ออุปกรณ์ หรือโปรแกรมต่างๆ ท่ี ตอ่ พ่วงกับโปรแกรม Micros Fidelio เช่น ระบบโทรศัพท์ ระบบฝากข้อความสยี ง เปน็ ต้น 1.5 Micros Fidelio Front Office คือ โปรแกรมที่ใชใ้ นการบรหารจดั การห้องพกั 1.6 Micros Fidelio Night Audit คอื โปรแกรมทีใ่ ชส้ าหรับปิดรอบวัน 1.7 Micros Fidelio Re-organization คือ โปรแกรมที่ใชใ้ นการจัดเรยี งขอ้ มูล 1.8 Micros Fidelio WinDbx คือ โปรแกรมทีใ่ ช้ในการจัดการระบบฐานข้อมูล 2. เริ่มตน้ การใช้งานืMicros Fidelio เม่ือ Double Crick ท่ี Icon Micros Fidelio Front Office จะพบหน้าจอการ Login เข้าใช้งาน โปรแกรม ดงั ภาพท่ี 4.2 ภาพท่ี 4.2 แสดงหนา้ จอ Login เขา้ ใช้งานโปรแกรม
73 แผนการจัืดการเรืยี นรืู หนวื่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 รวมื8 ชว่ั โมง ชื่อวิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครง้ั ท่ีื6 – 7 ชอ่ื เรือ่ งืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม จานวน 8 ชว่ั โมง ใชง้ านโดยการพมพข์ อ้ มลู User ID. ในช่อง User ID. และพมพ์รหัสผ่าน ในช่อง Password เพื่อ Login เข้าใช้งานระบบ ซึ่งเมอื่ Login เขา้ ใชง้ านระบบแล้วจะปรากฏหน้าจอดังภาพที่ 4.3 ภาพท่ี 4.3 แสดงหน้าจอโปรแกรม Micros Fidelio 2.1 Title Bar แสดงชื่อโปรแกรม Micros Fidelio พร้อมระบุ Version ของโปรแกรม แสดงช่ือ ผู้ใชง้ านโปรแกรม และวนั ทขี่ องโปรแกรม 2.2 Menu Bar แสดงเมนกู ารใชง้ านต่างๆ ของโปแกรมแสดงเป็นขอ้ ความ 2.3 Speed Bar แสดงเมนกู ารใชง้ านต่างๆ ของโปรแกรมแสดงเปน็ รูปภาพ 2.4 Hotel Name แสดงชอ่ื ของโปรแกรม หรือช่ือของโรงแรม 2.5 Desktop Button แสดงเมนูการใช้งานสาหรับเครื่อง Computer แบบหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) 3. ระบบการจองห้องพักื(Reservation) สาหรบั ธรุ กจโรงแรมแลว้ การจองหอ้ งพักสามารถทาได้หลายวธี หรอื มีหลายช่องทาง ได้แก่ จดหมาย โทรศัพท์ โทรสาร จดหมายอเลก็ ทรอนกส์ (E-mail) ระบบการจองห้องพกั แบบ Electronic เปน็ ตน้
74 แผนการจืัดการเรืยี นรืู หนว่ื ยการเรยี นรู้ท่ี 4 รวมื8 ช่วั โมง ช่อื วชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชีพ ชื่อหนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนคร้งั ที่ื6 – 7 จานวน 8 ชว่ั โมง ชื่อเรือ่ งืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม ภาพท่ี 4.4 แสดงตัวอย่างใบจองห้องพัก (Reservation Form) จากตวั อยา่ งภาพที่ 4.4 เมอ่ื พนักงานของโรงแรมได้รับขอ้ มลู การจองแล้ว พนักงานต้องดาเนนการบันทึก ขอ้ มลู ของลกู คา้ ในโปรแกรม Micros Fidelio 3.1 การบันทกึ ขอ้ มลู การจองห้องพัก (New Reservation) Reservation New Reservation ภาพท่ี 4.5 แสดงหนา้ จอ New Reservation
75 แผนการจัืดการเรืยี นรืู หนืว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 รวมื8 ช่วั โมง ชอ่ื วิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครงั้ ท่ีื6 – 7 จานวน 8 ชวั่ โมง ชื่อเร่อื งืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม ตารางที่ื4.1 แสดงรายละเอียดหนา้ จอืNew Reservation ขอ้ มูล คาอธบิ าย Name นามสกลุ องผ้เู ขา้ พกั First ช่ือของผูเ้ ข้าพกั City เมืองหรอื จงั หวัด Member หมายเลขสมาชก (ถา้ ม)ี Company ชือ่ บรษัท Agent ตวั แทน Source ประเภทของลูกค้า ทาการกรอกข้อมูลของลูกค้าที่ต้องการจองห้องพัก เช่น ข้อมูลนามสกุล (Name) และข้อมูลช่ือ (First) แล้ว Crick ที่ปุ่ม Search เพ่ือค้นหาข้อมูลลูกค้า หากเป็นลูกค้าใหม่ จะปรากฏหน้าจอ เพ่ือให้บันทึกข้อมูล การจองของลกู คา้ ใหม่ ดังภาพที่ 4.6 ภาพที่ 4.6 แสดงหน้าจอ New Reservation สาหรับลูกค้าใหม่
76 แผนการจืดั การเรืยี นรืู หนืว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รวมื8 ช่วั โมง ชื่อวชิ าืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ ชอื่ หนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครั้งที่ื6 – 7 จานวน 8 ชั่วโมง ชอ่ื เรือ่ งืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม ตารางท่ีื4.2 แสดงรายละเอียดหน้าจอืNew Reservation (Profile) ขอ้ มูล คาอธบิ าย uest Name นามสกุลของผู้เขา้ พัก First Name ชื่อของผเู้ ขา้ พกั Language ภาษาทลี่ ูกคา้ ใช้ คานาหนา้ ช่ือ Title หมายเลขโทรศพั ท์ Phone ประเทศ Country ระดับความสาคัญของลกู ค้า ชอื่ ตวั แทนในการจอง VIP ชอ่ื บรษทั ในการจอง Agent ช่อื กลุ่มในการจอง Company ประเภทของลกู คา้ Group Source ตารางทื่ี 4.3 แสดงรายะเอียดหน้าจอืNew Reservation (Reservation) ขอ้ มูล คาอธิบาย Arrival วนั ทเี่ ขา้ พกั Night จานวนคนื ทเี่ ขา้ พัก Departure วันทอ่ี อกจากทีพ่ ัก/วนั ทีค่ นื หอ้ งพัก Adults/Child จานวนผเู้ ขา้ พกั ผู้ใหญ/่ เด็ก Room จานวนห้องพัก Rate Code ประเภทของราคาหอ้ งพัก Fixed Rate เมื่อตอ้ งการกาหนดราคาห้องพัก ที่ไม่ได้กาหนดไว้ในโปรแกรม หรือสามารถระบุราคา หอ้ งพักทตี่ ้องการได้ Rate ราคาห้องพกั ตามทีก่ าหนดไว้ในโปรแกรม
77 แผนการจืดั การเรืยี นรืู หน่วื ยการเรยี นรู้ที่ 4 รวมื8 ชั่วโมง ชอ่ื วชิ าืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ ช่อื หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครง้ั ที่ื6 – 7 จานวน 8 ชวั่ โมง ชื่อเร่ืองืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม ข้อมูล คาอธิบาย Room Type ประเภทของห้องพัก Room No. หมายเลขหอ้ งพกั C/I T me เวลา Check In Reserved Type ประเภทของการจองหอ้ งพัก กลุ่มทางการตลาด Market ประเภทของลกู คา้ Source ชื่อผู้จองห้องพัก กรณีท่ีไม่ได้ทาการจองด้วยตนเอง เช่น ให้เลขานุการโทรมาจอง Booked By หอ้ งพักให้ ประเภทของการตดตอ่ เชน่ โทรศพั ท์ โทรสาร By วธีการชาระเงน เชน่ เงนสด เครดต Payment หมายเลขบตั รเครดต CC No. วนั หมดอายขุ องบัตรเครดต Exp Date บรการอ่ืนๆ ทล่ี กู คา้ ตอ้ งการนอกจากห้องพัก เช่น อาหารเช้า ท่จี อดรถ เป็นตน้ Packages ความต้องการพเศษอื่น เช่น ต้องการหนงั สอื พมพ์ในตอนเช้า Special ส่วนลด Discount เหตุผลในการใหส้ ่วนลด Reason ระบใุ ห้ไม่ต้องการให้มกี าร Post ค่าใชจ้ า่ ยอน่ื ๆลงในบล No Post ระบุวา่ ห้องน้ีใชก้ ับพนกั งานของโรงแรม House Use ห้องอภนนั ทนาการ Comp เวลา Check Out C/O Time เท่ียวบนของลูกค้า พนกั งานผู้ทด่ี าเนนการจอง Fight การยนื ยนั การจองหอ้ งพกั Made By ขอ้ มูลเพ่มเตม Conf. Comment
78 แผนการจืัดการเรืยี นรืู หนื่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 รวมื8 ช่วั โมง ชอ่ื วิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครง้ั ที่ื6 – 7 จานวน 8 ช่ัวโมง ชอื่ เรอ่ื งืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม การบันทึกข้อมูลการจองห้องพักสาหรับลูกค้าใหม่ สามารถทาได้โดยการกรอกข้อมูลของผู้เข้าพักให้ ครบถ้วน โดยเฉพาะข้อมูลของ Guest Name, Arrival, Departure, Rooms, Rate Code, Rm Type, Reserve Type, Market และ Source ซึ่งเป็นข้อมูลบังคับ และจาเป็นต้องใส่ไว้ในโปรแกรม หากข้อมูลดังกล่าวใส่ไม่ครบ โปรแกรมจะไมส่ ามารถบันทกึ ขอ้ มูลการจองห้องพักนนั้ ได้ ดังภาพที่ 4.7 ภาพที่ 4.7 แสดงหนา้ จอการจองหอ้ งพักใหม่ จากภาพที่ 4.7 เม่ือกรอกข้อมูลจนครบแล้ว ให้กด OK เพ่ือบันทึกข้อมูล โปรแกรมจะแสดงหมายเลข การจองหอ้ งพกั (Reservation No.) ดังภาพที่ 4.8 ภาพที่ 4.8 แสดง Reservation No.
79 แผนการจดืั การเรืยี นรืู หนืว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 รวมื8 ชวั่ โมง ชอ่ื วิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ ช่อื หนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครั้งท่ีื6 – 7 จานวน 8 ชัว่ โมง ชื่อเรอื่ งืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม เมื่อได้หมายเลขการจองหอ้ งพกั พกั แล้ว (Reservation No.) แลว้ พนักงานต้องบันทึกหมายเลขการจอง ห้องพัก (Reservation No.) ในเอกสาร เช่น Reservation Form เพ่ือใช้ในการตรวจสอบข้อมูล หรือเพื่อใช้ในการ ตอบกลบั เพ่อื แจ้งให้ลูกค้าทราบ เพอื่ แจง้ ให้กบั พนักงานทราบ เม่อื ต้องการแก้ไขข้อมลู หรอื เมอื่ ลกู ค้าเข้ามาพัก 3.2 การแก้ไขขอ้ มูลการจองห้องพกั ื(Update Reservations) Reservations Update Reservations เมอ่ื ลูกค้าต้องการแก้ไขข้อมูลการจองห้องพัก สามารถทาได้โดยการค้นหาข้อมูลการจองของลูกค้า โดย ระบุข้อมูลของลูกค้า เช่น นามสกุล ชื่อ วันที่เข้าพัก หมายเลขการจองห้องพัก (Reservation No.) เป็นต้น แล้วกด Search เพื่อค้นหาข้อมูลโดยหมายเลขการจองห้องพัก (Reservation No.) สามารถค้นหาโดยกรอกในช่อง Confirmation ดงั ภาพที่ 4.9 ภาพที่ 4.9 แสดง Reservation Search จากภาพที่ 4.9 เมื่อกรอกหมายเลขการจองห้องพัก (Reservation No.) 432 ในช่อง Confirmation แล้วกด Search โปรแกรมจะค้นหาขอ้ มูลการจองห้องพัก ดังภาพท่ี 4.10
80 แผนการจืัดการเรยืี นรืู หนื่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 รวมื8 ชว่ั โมง ชือ่ วชิ าืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ ชื่อหนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครงั้ ที่ื6 – 7 จานวน 8 ชว่ั โมง ชอื่ เรื่องืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม ภาพที่ 4.10 แสดงการค้นหา Reservation จากภาพ 4.10 เม่อื พบข้อมลู การจองทต่ี ้องการแล้ว สามารถแก้ไขข้อมูลได้โดยการ Click ที่ปุ่ม Edit จะ สามารถแก้ไขรายละเอียดเก่ียวกับการจองห้องพักได้ ซึ่งเม่ือแก้ไขข้อมูลการจองห้องพักเสร็จแล้ว สามารถบันทึก ขอ้ มลู โดย Click ท่ีปมุ่ OK ดงั ภาพที่ 4.11 ภาพที่ 4.11 แสดงการแก้ไขข้อมูล Reservation
81 แผนการจดืั การเรืยี นรืู หนื่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 รวมื8 ช่วั โมง ชอ่ื วชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชีพ ชื่อหนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครงั้ ท่ีื6 – 7 จานวน 8 ชัว่ โมง ชอื่ เร่ืองืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม 3.3 การยกเลิกข้อมลู การจองหอ้ งพักื(Cancel Reservation) Reservations Update Reservation ขอ้ มลู ลูกค้าท่ตี ้องการยกเลกการจองห้องพกั Search ภาพที่ 4.12 แสดงการค้นหา Reservation ทตี่ ้องการยกเลก จากภาพที่ 4.12 เม่อื ค้นหา Reservation ที่ต้องการยกเลกได้แล้ว สามารถดาเนนการยกเลกการจองห้องพัก โดย Click ทป่ี มุ่ Cancel โปรแกรมจะถามเหตผุ ลของการยกเลกการจองห้องพัก ให้พนักงานเลือกเหตุผลแล้ว Click ทีป่ ่มุ Yes เพ่อื ยนื ยันการยกเลกการจอง ดังภาพท่ี 4.13 และแสดงผลดงั ภาพท่ี 4.14 ภาพที่ 4.13 แสดงเหตผุ ลทีต่ อ้ งการยกเลกการจองห้องพัก
82 แผนการจดืั การเรยืี นรืู หนื่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 รวมื8 ชั่วโมง ชอ่ื วิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนคร้ังที่ื6 – 7 จานวน 8 ชั่วโมง ชอ่ื เรอ่ื งืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม ภาพที่ 4.14 แสดงขอ้ มลู การยกเลกการจองห้องพัก จากภาพที่ 4.14 จะสังเกตว่าสถานะ (Status) ของการจองห้องพักของลูกค้าจะเปลี่ยนไป จากสถานะ “คาดว่าจะเขา้ พกั (Expected)” เปน็ “ยกเลก (CANCELED)” และหากต้องการดึงข้อมูลของลูกค้าท่ียกเลกการจองไปแล้วกลับมา ก็สามารถทาได้โดยการ Click ท่ีปุ่ม Reactivate แล้วโปรแกรมจะแสดงขอ้ ความยนื ยัน ใหเ้ ลือก Yes แล้วจะสามารถบนั ทึกข้อมลู การจองห้องพักน้ันใหม่ ได้ โดยกดป่มุ OK และหมายเลขการจองห้องพัก (Reservation No.) นัน้ กจ็ ะเป็นหมายเลขเดม ดังภาพที่ 4.15 ภาพที่ 4.15 แสดงขอ้ ความยืนยนั การดึงข้อมูลลูกคา้ กลบั มาจากการยกเลกการจอง
83 แผนการจดืั การเรืยี นรืู หน่วื ยการเรยี นรู้ท่ี 4 รวมื8 ชว่ั โมง ช่อื วชิ าืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครั้งที่ื6 – 7 จานวน 8 ชั่วโมง ชอ่ื เรื่องืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม 3.4 ข้อมลู การจองหอ้ งพกั เพม่ เตม (Reservation Option) เป็นเครื่องมือที่นามาช่วยให้การบันทึกข้อมูลเก่ียวกับลูกค้า ทาให้ข้อมูลนั้นมีความสมบูรณ์มากย่งขึ้น การใช้งาน Reservation Option ต้องเลือกให้ถูกต้องและเหมาะสมกับงาน จึงจะช่วยให้การทางานนั้นมี ประสทธภาพมากยง่ ข้ึน สามารถเลอื กการใชง้ านได้จาก ตารางท่ี 4.4 ภาพท่ี 4.16 แสดง Reservation Option ตารางท่ืี 4.4 แสดงรายละเอียดืReservation Option Option Detail Routing ใชส้ าหรบั การ Post ค่าใชจ้ ่ายไปยังอกี Folio Traces ใช้สาหรับฝากข้อความเพ่ือส่งมอบงานในแต่ละช่วงกะของพนักงาน Room Move ใชส้ าหรบั ย้ายหอ้ งพกั ของลกู คา้ Confirmation ใช้สาหรับแสดงจดหมาย อเี มล์ยนื ยันการจองหอ้ งพกั Waitlist ใชใ้ นกรณที ี่หอ้ งพักเต็ม แตล่ ูกคา้ ต้องการจะรอห้องพัก Rate Inf แสดงราคาหอ้ งพกั ตามอัตราค่าเงนในสกุลตา่ งๆ Messages ใช้สาหรบั กรณีทม่ี กี ารฝากข้อความถงึ ลูกค้า Locator ใชร้ ะบสุ ถานทที่ ล่ี กู ค้าอยู่ ณ ปจั จบุ ัน History แสดงประวัตการเข้าพกั ในโรงแรมของลูกค้าก่อนหนา้ น้ี
84 แผนการจัืดการเรยืี นรืู หนว่ื ยการเรียนรู้ท่ี 4 รวมื8 ชว่ั โมง ช่ือวชิ าืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชีพ ช่อื หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครั้งท่ีื6 – 7 จานวน 8 ช่วั โมง ชอ่ื เรอื่ งืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม 3.5 การบนั ทกึ ขอ้ มูลการจองห้องพกั แบบกลุ่มื(Groups) Reservations Groups Standard การจองห้องพักแบบกลุ่ม (Group) คือ การจองห้องตั้งแต่ 2 ห้องขึ้นไป ซ่ึงผู้เข้าพักเป็นกลุ่มเดียวกัน หรือ คณะเดยี วกัน เชน่ MTT Group จองหอ้ งพักสาหรบั 4 หอ้ ง สาหรับผู้เข้าพักทั้งหมด 8 คน (ห้องละ 2 คน) ดังภาพท่ี 4.17 ภาพที่ 4.17 แสดงขอ้ มลู Groups จากภาพท่ี 4.17 แสดงข้อมูลกลุ่มลูกค้าต่างๆที่เข้าพักกับโรงแรม ซึ่งพนักงานสามารถค้นหาข้อมูลชื่อ กลุ่มได้โดยการกรอกช่ือกลุ่มที่ต้องการค้นหาในช่อง Block Search และหากต้องการสร้างข้อมูลการจองแบบกลุ่ม สามารถทาได้โดย Click ทปี่ มุ่ standard ภาพท่ี 4.18 แสดง Standard Groups
85 แผนการจดัื การเรยืี นรืู หนว่ื ยการเรยี นรู้ที่ 4 รวมื8 ช่ัวโมง ชอื่ วชิ าืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ ชอื่ หนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครงั้ ท่ีื6 – 7 จานวน 8 ชัว่ โมง ชอ่ื เร่ืองืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม จากภาพที่ 4.18 สามารถสรา้ งกลมุ่ ได้โดยพมพช์ ่ือกลมุ่ ลูกค้าในช่อง Group Name แล้ว Click ที่ปุ่ม OK เพื่อคน้ หาขอ้ มลู กล่มุ ลูกคา้ แล้ว Click ท่ปี มุ่ New เพ่ือสรา้ งข้อมูลกลุ่ม ภาพท่ี 4.19 แสดงการสรา้ งข้อมลู กลมุ่ จากภาพท่ี 4.19 เมอื่ กรอกขอ้ มลู กลมุ่ ช่อื และข้อมลู ของผู้ประสานงานแล้ว สามารถบันทึกข้อมูลได้โดย Click ที่ปุ่ม Save จากน้ันจึงตรวจสอบความถูกต้อง แล้วสามารถกดปุ่ม Close เพ่ือปิดข้อมูลกลุ่ม แล้วดาเนนการ สร้างข้อมูลการจองห้องพักแบบกลุ่มต่อไป โดยการ Click ท่ีปุ่ม OK (จากภาพที่ 4.18) โปรแกรมจะมีข้อความแจ้ง การสร้างข้อมูลการจองหอ้ งพกั แบบกล่มุ ดงั ภาพท่ี 4.20 ภาพที่ 4.20 แสดงข้อความแจ้งการสรา้ งข้อมูลการจองห้องพัก
86 แผนการจืดั การเรยืี นรืู หน่ืวยการเรยี นรู้ท่ี 4 รวมื8 ชัว่ โมง ชือ่ วิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ ช่ือหนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครงั้ ท่ีื6 – 7 จานวน 8 ชั่วโมง ช่ือเรอ่ื งืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม จากภาพที่ 4.20 ให้ Click ท่ีปุ่ม Yes เพ่ือสร้างข้อมูลการจองห้องพัก จากน้ันจึงดาเนนการกรอกข้อมูล ของลกู ค้าให้ครบถว้ น แลว้ กด OK เพือ่ บันทกึ ขอ้ มูลและรับหมายเลขการจอง ดงั ภาพท่ี 4.21 และภาพท่ี 4.22 ภาพที่ 4.21 แสดงหน้าจอการจองหอ้ งพกั แบบกลุ่ม ภาพที่ 4.22 แสดงหมายเลขการจองห้องพักแบบกลมุ่
87 แผนการจืัดการเรยืี นรืู หนื่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 รวมื8 ช่วั โมง ชอ่ื วิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ ชอื่ หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครั้งท่ีื6 – 7 จานวน 8 ชวั่ โมง ชอ่ื เร่ืองืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม ภาพท่ี 4.23 แสดง Group reservation List จากภาพที่ 4.23 เมือ่ บันทกึ ข้อมูลการจองแล้วโปรแกรมจะแสดงหน้าจอ Group Reservation List ของ ลกู ค้าท่ีทาการจองแบบกลุ่ม ซ่ึงข้อมูลจะแสดง Group Name, Arrival, Departure, Adult/Child, Room, Room Type และ Room Rate ซ่ึงหากต้องการใส่ข้อมูลของผู้เข้าพักของกลุ่มในแต่ละห้อง ต้องมีการแตกห้องพัก ซ่ึง สามารถทาไดโ้ ดยการเลือกทีป่ มุ่ Split All เพ่อื ทาการแตกห้องพกั ทง้ั หมด ดังภาพที่ 4.24 ภาพท่ี 4.24 แสดงแตกห้องพักแบบกล่มุ
88 แผนการจดัื การเรยืี นรืู หนืว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 รวมื8 ชั่วโมง ช่ือวิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชีพ ชื่อหนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนคร้ังที่ื6 – 7 จานวน 8 ชัว่ โมง ช่ือเรื่องืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม จากภาพท่ี 4.24 เม่ือกดปุ่ม Split All แล้ว โปรแกรมจะดาเนนการแตกห้องพักท้ังหมดตามจานวนท่ี ระบุไว้ และโปรแกรมจะสรา้ งหอ้ ง PM (Pay Master) ของกล่มุ ไว้ 1 หอ้ ง เพอื่ ไวเ้ กบ็ ค่าใช้จา่ ยตา่ งๆที่เกดขนึ้ ระหว่างการเขา้ พัก กรณีท่ีผู้ประสานงานมีการตกลงกับทางโรงแรม เช่น ผู้ประสานงานยนดีที่จะจ่ายให้ เฉพาะค่าถ่ายเอกสาร ดังน้ัน หากมีการใช้จ่ายในส่วนอื่น ต้อง Post ค่าใช้จ่ายไปที่ห้องพักของลูกค้านั้นๆ แต่หาก เปน็ คา่ บรการถา่ ยเอกสาร ให้ Post ไปทหี่ ้อง PM ของกล่มุ จากน้นั โปรแกรมจะแตกหอ้ งพกั ออกตามจานวนห้องพักท่ีระบุไว้ในข้อมูลการจอง หากต้องการแก้ไข ขอ้ มลู ผเู้ ขา้ พกั ในแต่ละห้อง ก็สามารถแก้ไขได้โดยเลือกห้องท่ีต้องการแก้ไข แล้ว Click ท่ี Edit Menu โปรแกรมจะ เปิดหนา้ ตา่ งการแกไ้ ขข้อมูลลกู ค้าให้ ดงั ภาพที่ 4.25 ภาพที่ 4.25 แสดงข้อมูลลกู ค้า จากภาพท่ี 4.25 หากต้องการแก้ไขข้อมูลช่ือลูกค้าท่ีเข้าพัก สามารถแก้ไขได้โดย Click ท่ีปุ่ม Profile จากน้ันจึงดาเนนการแก้ไขข้อมูลของลูกค้า แล้ว Click Save เพื่อบันทึก และกดปุ่ม Close เพื่อปิดหน้าจอข้อมูล ของลกู ค้า ดังภาพท่ี 4.26 และภาพที่ 4.27
89 แผนการจืดั การเรยืี นรืู หนืว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 รวมื8 ชว่ั โมง ชอ่ื วิชาืเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครัง้ ที่ื6 – 7 จานวน 8 ชั่วโมง ช่อื เรอ่ื งืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม ภาพท่ี 4.26 แสดงการแก้ไขข้อมลู ของลกู คา้ ภาพท่ี 4.27 แสดงข้อมูลของลกู คา้ ทแี่ ก้ไขแล้ว
90 แผนการจืดั การเรยืี นรืู หน่วื ยการเรยี นรู้ท่ี 4 รวมื8 ชวั่ โมง ช่อื วิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ ช่ือหนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครง้ั ท่ีื6 – 7 จานวน 8 ช่วั โมง ช่ือเรอ่ื งืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม เม่อื แกไ้ ขข้อมลู ลกู ค้าของกลุ่ม MTT ท้งั หมดแลว้ จะได้ผลลัพธด์ ังภาพที่ 4.28 ภาพท่ี 4.28 แสดงขอ้ มลู ของลูกค้ากล่มุ 4. งานบริการงานส่วนหนา้ ื(Front Desk) งานบรการงานส่วนหน้า เป็นงานที่ทาหลักจากที่ลูกค้ามีข้อมูลการจองห้องพักแล้ว โดยถึงกาหนดวันท่ี จะต้องมาใช้บรการ หรอื ขณะทลี่ กู ค้ากาลังใชบ้ รการอย่ภู ายในโรงแรม 4.1 ขอ้ มลู ลูกค้าท่ีจะเข้าพักื(Arrivals) Front Desk Arrivals ใช้สาหรับตรวจสอบข้อมูลของลูกค้าท่ีกาลังจะเข้าพักภายในวันน้ี ซึ่งการค้นหาข้อมูลของลูกค้าที่จะเข้า พัก สามารถค้นหาได้จากข้อมูล Guest Name, First Name, Company, Agent, Group or Reservation No. เปน็ ตน้ แล้วกด Search เพอื่ คน้ หาขอ้ มลู ดังภาพที่ 4.32
91 แผนการจดัื การเรืยี นรืู หนืว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 รวมื8 ช่ัวโมง ชอื่ วิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครั้งท่ีื6 – 7 จานวน 8 ชวั่ โมง ชือ่ เรื่องืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม ภาพท่ี 4.32 แสดงหน้าจอการคน้ หาข้อมูลลูกคา้ ท่ีกาลังจะเข้าพัก จากภาพท่ี 4.32 หากไม่ทราบข้อมูลก็สามารถกด Search เพ่ือค้นหาข้อมูลลูกค้าท้ังหมดท่ีมีกาหนดต้อง Check In ในน้ี ดงั ภาพที่ 4.33 ภาพที่ 4.33 แสดงหนา้ จอ Arrivals
92 แผนการจดัื การเรยืี นรืู หนื่วยการเรยี นรู้ที่ 4 รวมื8 ชัว่ โมง ชื่อวิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ ชื่อหนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครัง้ ที่ื6 – 7 จานวน 8 ช่วั โมง ชือ่ เร่อื งืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม จากภาพท่ี 4.33 โปรแกรมจะแสดงข้อมูลของลูกค้าท่ีจะเข้า Check In ในวันนี้ท้ังหมด โดยจะแสดง ข้อมูล Guest Name, Room No., Room Type, Arrival, Departure, Room, Booking Status เป็นต้น และใน ขอ้ มูลนี้ สามารถแก้ไขข้อมลู การจองไดโ้ ดยเลือกข้อมลู ของลูกคา้ แล้ว Click ที่ปุ่ม Edit 4.2 การลงทะเบียนเข้าพักื(Check In) Front Desk Arrivals Search Customer Data Check In เมื่อลูกค้ามาถึงโรงแรม จะต้องมีการลงทะเบียนเพ่ือเข้าพัก โดยลูกค้าต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการจอง ห้องพัก เช่น Name หรือ Reservation No. เพ่ือนามาใช้ในการค้นหาข้อมูลลูกค้า จาก Reservation No. ที่ได้ สามารถนามาใช้ค้นหาขอ้ มูลได้โดยนาไปกรอกทีช่ ่อง Confirmation แลว้ Click ท่ีปุ่ม Search ดังภาพที่ 4.34 จะได้ ผลลพั ธด์ ังภาพท่ี 4.35 ภาพท่ี 4.34 แสดงหนา้ จอการคน้ หาข้อมลู ลูกคา้ จาก Reservation No. ภาพที่ 4.35 แสดงหน้าจอข้อมูลลูกคา้ ทต่ี ้องการ Check In
93 แผนการจัดื การเรืยี นรืู หน่ืวยการเรยี นรทู้ ี่ 4 รวมื8 ช่วั โมง ชอ่ื วิชาืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชีพ ชอ่ื หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครงั้ ท่ีื6 – 7 จานวน 8 ช่วั โมง ช่ือเรอื่ งืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม จากนั้นจึงกดปุ่ม Check In เพื่อเข้าห้องพัก โปรแกรมจะเลือกห้องพักให้ตามเงื่อนไขท่ีระบุไว้ต้ังแต่การ จองห้องพัก แตถ่ ้าหากลกู คา้ ตอ้ งการเปลยี่ นหอ้ งก็สามารถเปลยี่ นห้องได้ โดยเลือกที่ลูกศรลง แต่หากไม่เปลี่ยนห้องก็ Click OK เพอื่ ยนื ยนั ดังภาพท่ี 4.36 โปรแกรมจะแสดงข้อความยืนยนั การ Check In ดงั ภาพที่ 4.37 ภาพที่ 4.36 แสดงหน้าจอเลือกหอ้ งพกั ภาพท่ี 4.37 แสดงข้อความยืนยนั การ Check In สาเรจ็
94 แผนการจัืดการเรืยี นรืู หน่ืวยการเรยี นรู้ท่ี 4 รวมื8 ชวั่ โมง ชอ่ื วชิ าืเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชีพ ชือ่ หนว่ ยืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครง้ั ท่ีื6 – 7 จานวน 8 ชวั่ โมง ช่ือเรื่องืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม ภาพท่ี 4.38 แสดงหน้าจอข้อมูลลกู คา้ ที่ Check In แลว้ จากภาพที่ 4.38 เมื่อ Check In แล้วสถานะของ Reservation ของลูกค้าจะเปล่ียนจาก Expected เป็น Check In เม่อื Check In ลกู ค้าแล้วเกดข้อผดพลาด หรือลูกค้าต้องการยกเลก โปรแกรมสามารถดาเนนการได้ แต่ต้อง ตรวจสอบขอ้ มลู กอ่ นดาเนนการยกเลกว่าลกู คา้ ได้ใช้บรการ หรือเกดค่าใช้จ่ายสาหรับห้องนั้นแล้วหรือยัง เช่น ลูกค้า ทานของใน Minibar ในหอ้ งพักแล้วหรือยงั ถ้าหากยังไมเ่ กดคา่ ใชจ้ า่ ยสามารถดาเนนการยกเลก Check In ได้ จากภาพท่ี 4.38 หากต้องการยกเลกการ Check In สามารถทาได้โดยการ Click ท่ี Cancel Cl แล้ว โปรแกรมจะมขี อ้ ความเพ่อื ยืนยันการยกเลกการ Check In จากนนั้ ให้ Click Yes ดงั ภาพที่ 4.39 ภาพท่ี 4.39 แสดงขอ้ ความยืนยนั ยกเลกการ Check In เม่ือยืนยันการยกเลิกการ Check In แล้ว โปรแกรมจะมีข้อความแจ้งการเปลี่ยนสถานะห้องพัก จาก สถานะปกติ เป็น สกปรก ดังภาพที่ 4.40
95 แผนการจดัื การเรยืี นรืู หน่ืวยการเรยี นรูท้ ่ี 4 รวมื8 ชวั่ โมง ชอื่ วชิ าืเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ ช่อื หนว่ ยืการใช้ระบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม สอนครัง้ ท่ีื6 – 7 จานวน 8 ชัว่ โมง ชื่อเร่ืองืการใชร้ ะบบืMicros Fidelio ในงานโรงแรม 6. เมนลู ดั ื(Quick Key) เพื่อให้การใช้งานโปรแกรม Micros Fidelio เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว จึงมีการสร้างเมนูลัด (Quick Key) เมอื่ มาใช้อานวยความสะดวกในการทางาน ดงั นี้ 6.1 Floor Plan Quick Key Floor Plan ภาพที่ 4.67 แสดง Floor Plan Selection จากภาพที่ 4.67 ใชส้ าหรับการเรียกดูแผนผงั ห้องพกั ของโรงแรม โดยสามารถเลือกดผู ังห้องพกั ทง้ั หมด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172