วธิ ีเลือกส่วนผสมปรุงนํา้ หอม 1
คาํ นํา หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์เร่ือง วธิ ีเลอื กสว่ นผสมปรุงนํา้ หอม เลม่ นีจ้ ดั ทําขนึ ้ เพ่ืออธิบายถงึ วธิ ีการเลอื กสว่ นผสมตา่ งๆในการผลติ นํา้ หอมเพื่อเป็ นแนวทางให้สาํ หรับใครก็ตามที่อยากมีนํา้ หอมท่ีไมซ่ ํา้ ใครหรือต้องการหาอาชีพเสริม หนงั สือเลม่ นีจ้ ะชว่ ยให้คณุ เลือกสว่ นผสมได้ดีมากยง่ิ ขนึ ้ ผ้จู ดั ทําหวงั เป็ นอยา่ งยง่ิ วา่ หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์เลม่ นีจ้ ะมีประโยชน์ตอ่ ผ้สู นใจไมม่ ากก็น้อย ผ้จู ดั ทํา 2
รู้จกั NOTES ต่างๆ ของนํา้ หอม การทํานํา้ หอม คือการปรุงผสานกลนิ่ ตา่ งๆ ทบั ซ้อนกนั เป็นชนั้ ๆหรือท่ีเขาเรียกกนั วา่ “NOTES” เวลาคณุ ฉีดนํา้ หอมลงบนผิวกาย คณุ จะคอ่ ยๆ ได้กลน่ิ นํา้ หอมทีละNOTE ตามลําดบั ดงั ตอ่ ไปนี ้ 3
• Top notes คอื กลน่ิ แรกที่แตะจมกู คณุ และเป็ นกลน่ิ ท่ีจะจางหายไปก่อนเพ่อื น ปกตกิ ็คอื ภายใน 10 - 15 นาที• Middle notes จะปรากฏหลงั top notes จางไป น่ีแหละ \"แก่น\" ของนํา้ หอมของคณุ ซง่ึ ก็จะ แตกตา่ งกนั ไปแล้วแตว่ า่ นํา้ หอมนนั้ จดั อยใู่ นตระกลู ไหน เช่น เป็ นนํา้ หอมแบบ oriental (ออกแนว เครื่องเทศ), woody (โทนอนุ่ ), fresh (เบาๆ ใสๆ) หรือ floral (เน้นกลนิ่ ดอกไม้)• Base notes ช่วยเสริมเตมิ แตง่ middle notes ให้ย่งิ โดดเดน่ นบั เป็ น \"ธีมหลกั \" หรือฐานของ นํา้ หอม เป็ นกลนิ่ สดุ ท้ายที่จะคงอยู่ ตดิ ผิวของคณุ อีก 4 - 5 ชว่ั โมง 4
ลองศกึ ษาทาํ ความคุ้นเคยกับ top notes ท่นี ิยมใช้ทาํ นํา้ หอมดู top notes หลกั ๆ ของนํา้ หอมสมยั นีก้ ็เชน่ โหระพา (basil), มะกรูด (bergamot), เกรปฟรุต, ลาเวนเดอร์, มะนาว (ทงั้ มะนาวเหลือง (lemon) และเขียว (lime), มนิ ต์, ดอกส้ม (neroli), โรสแมร่ี แล้วก็ส้มเกลีย้ ง (sweetorange) 5
ลองศกึ ษาทาํ ความคุ้นเคยกบั middle notes ท่นี ิยมใช้ทาํ นํา้ หอมดู นนั่ ก็คอืพริกไทยดาํ , กระวานเทศ (cardamom), คาโมมายล์ (chamomile), อบเชย(cinnamon), กานพลู (clove), ใบต้นเฟอร์ (fir needle), มะล,ิ สนจนู ิเปอร์(juniper), ตะไคร้ (lemongrass), ดอกส้ม (neroli), จนั ทน์เทศ (nutmeg), กหุ ลาบ,ไม้โรสว้ดู (rosewood) แล้วก็กระดงั งา (ylang-ylang) 6
ลองศกึ ษาทาํ ความคุ้นเคยกบั base notes ท่นี ิยมใช้ทาํ นํา้ หอมดู เช่น ไม้สนซดี าร์(cedarwood), สนไซเปรส (cypress), ขิง, พมิ เสน (patchouli), สน (pine), ไม้จนั ทน์(sandalwood), วานิลลา แล้วก็หญ้าแฝก (vetiver) 7
รู้สัดส่วนท่เี หมาะสม เวลาคณุ ปรุงนํา้ หอม ให้ใส่ base notes ก่อน จากนนั้ middle notesแล้วปิ ดท้ายด้วย top notes สดั สว่ นท่ีแนะนําในการผสม notes ตา่ งๆ ของนํา้ หอมก็คือ topnotes 30%, middle notes 50% แล้วก็ base notes 20% 8
รู้จกั สูตรนํา้ หอมเบอื้ งต้น ถ้าอยากได้นํา้ หอม คณุ ต้องมีมากกวา่ แค่ top, middle แล้วก็ basenotes มีอะไรบางอยา่ งท่ีจะชว่ ยแตง่ เตมิ กลน่ิ ให้นํา้ หอมของคณุขนั้ ตอนการปรุงนํา้ หอมนนั้ เร่ิมจาก carrier oil คอื นํา้ มนั กระสายยา หรือนํา้ มนั ตวั พา ซง่ึ ท่ีนิยมกนั ก็คอื โจโจ้บาออยล์ (jojoba oil), นํา้ มนั สวีทอลั มอนด์ (sweet almond oil) แล้วก็นํา้ มนั เมลด็ องนุ่ สกดัเยน็ (grape seed oil)ตอ่ มาก็ต้องคอ่ ยๆ หยด base, middle แล้วก็ top notes ลงไปใน carrier oilสดุ ท้ายคือสารที่จะชว่ ยประสานทกุ สว่ นผสมเข้าด้วยกนั ท่ีนิยมกนั มากที่สดุ ก็คอื แอลกอฮอล์น่ีแหละ เพราะระเหยเร็วแถมช่วยกระจาย notes ตา่ งๆ ของนํา้ หอมด้วย [9] แตเ่ หลา่ นกั ปรุงนํา้ หอมทํามือก็นิยมใช้วอดก้าคณุ ภาพสงู 80 - 100 proof (คอื มีปริมาณแอลกอฮอล์ 40% - 50%)ถ้าคณุ อยากทํานํา้ หอมแห้ง (solid perfume) แบบตลบั ไว้ทาแต้มตามจดุ ตา่ งๆ เหมือนลปิ บาล์ม ให้เปลีย่ นขีผ้ งึ ้ เหลวเป็ นสารยดึ เกาะแทนแอลกอฮอล์หรือนํา้ 9
สาํ รวจ notes ของนํา้ หอมดงั ท่คี ุณช่ืนชอบ ถ้าไมแ่ นใ่ จวา่ จะผสมกลนิ่ อะไรยงั ไงดี ให้ลองสาํ รวจวา่นํา้ หอมดงั ๆ ที่คณุ ชอบนนั้ ประกอบไปด้วยกลนิ่ อะไรบ้าง 10
เลือกวธิ ีการปรุง วิธีการปรุงนํา้ หอมนนั้ ก็แตกตา่ งกนั ไปตามสว่ นผสมที่เลือกใช้ โดยหวั นํา้ หอมหลกั ๆ มี 2ชนิดด้วยกนั คือสว่ นตา่ งๆ ของพืช (ดอกไม้ ใบไม้ และสมนุ ไพร) กบั นํา้ มนั หอมระเหย (essential oil) ซงึ่2 ชนิดนีจ้ ะมีวิธีการปรุงตา่ งกนั 11
12
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: