การผลิตพชื ไร่ หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวชิ าเกษตรกรรม สาขาวิชาเกษตรศาสตร์
1 หน่วยการเรียนท่ี 1 การวเิ คราะห์การตลาดเกย่ี วกบั พชื ไร่ ………………………………………………………………………………… สาระสาคัญ การดาเนินการผลิตพืชไร่หรือการทาธุรกิจพชื ไร่กเ็ หมือนกบั การทาธุรกิจการเกษตรอื่นๆ มี การลงทุน และมีผลกาไรตอบแทนจากการทาธุรกิจมากนอ้ ยเพยี งใดหรือขาดทุน ก็ข้ึนอยกู่ บั การวาง แผนดาเนินงานของธุรกิจน้นั ๆ ซ่ึงผดู้ าเนินการทาธุรกิจพืชไร่จะตอ้ งสามารถวเิ คราะห์ตลาดเก่ียวกบั พชื ไร่ ทราบจุดแขง็ จุดออ่ น โอกาส และอุปสรรคของธุรกิจพืชไร่ของตวั เอง และคู่แข่งขนั และตอ้ ง สามารถวเิ คราะห์พฤติกรรมของผบู้ ริโภคหรือความตอ้ งการของตลาดพืชไร่ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง รวมท้งั นโยบายของรัฐบาลในการสนบั สนุนการผลิตและการบริโภค จึงจะสามารถกาหนดกลยทุ ธ์ทางการ ตลาดพชื ไร่ใหป้ ระสบผลสาเร็จ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการวเิ คราะห์การวเิ คราะห์การตลาดเก่ียวกบั พืชไร่ได้ 2. บอกความหมายของตลาดกลางสินคา้ เกษตรได้ 3. บอกสถาบนั เกี่ยวกบั การตลาดสินคา้ เกษตรที่สาคญั ในประเทศไทยได้ 4. อธิบายตลาดสินคา้ เกษตรล่วงหนา้ แห่งประเทศไทยได้ 5. อธิบายศกั ยภาพของพืชไร่กบั สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตไ้ ด้ 6. บอกความสามารถในการแข่งขนั สินคา้ เกษตรของไทยในตลาดอาเซียนและตลาดโลกได้
2 การวเิ คราะห์ตลาดเกยี่ วกบั พชื ไร่ 1.การวเิ คราะห์การตลาดเกยี่ วกบั พชื ไร่ การปลูกพชื ไร่ถือวา่ เป็นการทาธุรกิจอยา่ งหน่ึงเพราะมีการลงทุนในดา้ นต่างๆ เช่น วตั ถุดิบ เครื่องจกั ร เงินทุน และแรงงาน ซ่ึงตอ้ งการผลตอบแทนดา้ นผลผลิตที่คุม้ ค่าต่อการลงทุน ดงั น้นั การ ปลูกพืชไร่ใหไ้ ดผ้ ลผลิตตอบแทนที่คุม้ ค่าตอ้ งมีการวิเคราะห์ตลาดก่อนที่จะลงมือทาการปลูกพืชไร่ แตล่ ะชนิด โดยการทาธุรกิจในการปลูกพชื ไร่ใหป้ ระสบความสาเร็จน้นั ข้ึนอยกู่ บั การบริหารจดั การ ทรัพยากรและสภาพแวดลอ้ มตา่ งๆ ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อการดาเนินงานใหม้ ากที่สุดและมีผลกระทบ ตอ่ การดาเนินงานใหน้ อ้ ยที่สุด 1.1 การวเิ คราะห์สภาวะแวดล้อมทางการตลาดด้วย SWOT หรือ SWOT Analysis ในการบริหารสภาวะแวดลอ้ มทางการตลาดในการทาธุรกิจมีความจาเป็ นที่จะตอ้ ง ทราบถึงสภาวะที่เป็นอยทู่ ้งั ในปัจจุบนั และแนวโนม้ การเปล่ียนแปลงในอนาคตวา่ การเปลี่ยนแปลง น้นั จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอยา่ งไรหรือผลกระทบเหล่าน้นั จะก่อใหเ้ กิดเป็ นโอกาสหรือเป็ นปัญหา อุปสรรคในการดาเนินธุรกิจมากนอ้ ยเพียงใด เมื่อเปรียบเทียบกบั จุดแขง็ หรือจุดดอ้ ยของธุรกิจน้นั ๆ เม่ือมีการประเมินใหเ้ ห็นถึงสภาวะแวดลอ้ มทางธุรกิจแลว้ ก็สามารถที่จะกาหนดกลยุทธ์ของธุรกิจ เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาวะแวดลอ้ มได้ และการดาเนินธุรกิจน้นั ประสบความสาเร็จท้งั ในส่วนของ กาไรและการตอบสนองต่อสภาวะแวดลอ้ มในทางที่เป็ นประโยชน์มากท่ีสุด ดงั น้นั เป้ าหมายสาคญั ของการวเิ คราะห์สภาวะแวดลอ้ มทางการตลาดน้นั เพ่ือทราบถึงสถานะที่แทจ้ ริงของสภาวะแวดลอ้ ม ท้งั ในปัจจุบนั และการคาดการณ์ของสภาวะแวดลอ้ มที่อาจเกิดข้ึนไดใ้ นอนาคตให้ใกลเ้ คียงกบั ความ เป็นจริงมากท่ีสุด เพอื่ ใหก้ ารดาเนินธุรกิจน้นั สามารถที่จะดาเนินต่อไปไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและ ประสบความสาเร็จตามเป้ าหมาย นนั ทิยา และณรงค์ (2551) กล่าวถึงเทคนิคในการวเิ คราะห์สภาวะ แวดลอ้ มทางการตลาดไดแ้ ก่ การวิเคราะห์สภาวะแวดลอ้ มทางการตลาดดว้ ย SWOT หรือ SWOT Analysis ซ่ึงเป็นเทคนิคที่ไดม้ ีการพฒั นาข้ึน เพื่อให้สามารถวเิ คราะห์ส่ิงแวดลอ้ มภายนอก(External environment) และส่ิงแวดลอ้ มภายใน(Internal environment) อนั เป็ นสภาวะแวดลอ้ มเฉพาะภายใน องคก์ รของธุรกิจมีดงั ตอ่ ไปน้ี 1.1.1 การวเิ คราะห์ส่ิงแวดล้อมภายนอก โดยการพิจารณาถึงสิ่งแวดลอ้ มภายนอกท่ี มีอิทธิพลตอ่ การกาหนดกลยทุ ธ์ของธุรกิจน้นั ๆ ซ่ึงการวเิ คราะห์สิ่งแวดลอ้ มท้งั ในระดบั จุลภาค และ มหภาค เพอื่ ท่ีจะทราบวา่ ส่ิงแวดลอ้ มภายนอกโดยรวมน้นั สามารถสร้างโอกาส (Opportunity) หรือ เป็นอุปสรรค (Threat) ตอ่ การดาเนินงานของธุรกิจน้นั ๆ ไดอ้ ยา่ งไร
3 1.1.1.1 การวเิ คราะห์โอกาสเป็นปัจจยั ในการเอ้ือประโยชน์ท่ีจะไดร้ ับจาก ส่ิงแวดลอ้ มภายนอกของธุรกิจเช่น นโยบายของรัฐบาล การเขา้ สู่เขตการคา้ เสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area ; AFTA) ผปู้ ระกอบการทางธุรกิจการเกษตรจะตอ้ งวเิ คราะห์โอกาสที่จะเกิดข้ึนมี ความเชื่อมนั่ ในระดบั ใดมีความเป็นไปไดม้ ากนอ้ ยเพยี งใด เกิดข้ึนเม่ือไรระยะเวลานานเทา่ ใดและ โอกาสเหล่าน้นั เพียงพอตอ่ การลงทุนทาธุรกิจท่ีจะสร้างผลตอบแทนที่คุม้ ค่าต่อการลงทุนหรือไม่ 1.1.1.2 การวเิ คราะห์อุปสรรคเป็นการวเิ คราะห์ขอ้ จากดั ในการพิจารณาถึง สิ่งแวดลอ้ มภายนอกท่ีอาจสร้างผลกระทบท่ีเป็นอุปสรรคตอ่ การทาธุรกิจ ซ่ึงในบางคร้ังส่ิงแวดลอ้ ม บางสิ่งอาจเป็นโอกาสของการทาธุรกิจหน่ึงแต่บางคร้ังอาจเป็นขอ้ จากดั ของอีกธุรกิจหน่ึงก็ไดข้ ้ึนอยู่ กบั วา่ ผลที่ไดพ้ จิ ารณาน้นั จะเป็ นบวกหรือลบขอ้ จากดั ท่ีเป็ นอุปสรรคสาคญั ของธุรกิจคือผลกระทบ จากสภาวะเศรษฐกิจตกต่าท้งั ในประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ป่ ุนเนื่องจากเป็ นประเทศเหล่าน้ีเป็ นคู่ คา้ ที่สาคญั ของไทยรวมท้งั การเปิ ดการคา้ เสรีขององคก์ ารการคา้ โลก (World Trade Organization; WTO) ซ่ึงทาใหส้ ินคา้ จากประเทศจีนที่มีตน้ ทุนในการผลิตต่ากวา่ เขา้ มาจาหน่ายแข่งขนั กบั สินคา้ ท่ี ผลิตไดภ้ ายในประเทศ 1.2 การวเิ คราะห์ส่ิงแวดล้อมภายใน โดยเป็นการพิจารณาถึงปัจจยั ส่ิงแวดลอ้ มภายท่ีมีอิทธิพลในธุรกิจในระดบั บริษทั หรือระดบั ประเทศเปรียบเทียบกนั สิ่งแวดลอ้ มภายในไดแ้ ก่ ปัจจยั ดา้ นการตลาด การเงิน การผลิต และองคป์ ระกอบตา่ งๆ ภายในธุรกิจน้นั เช่น การบริหารงาน ทรัพยากรมนุษย์ วฒั นธรรมในองคก์ ร เป็ นตน้ ดงั น้นั การวเิ คราะห์สิ่งแวดลอ้ มภายในน้นั เป็ นการวเิ คราะห์จุดแขง็ (Strength) และจุดอ่อน (Weakness) ของการทาธุรกิจนน่ั เอง 1.2.1 การวเิ คราะห์จุดแขง็ เป็นการพิจารณาถึงขอ้ ไดเ้ ปรียบท่ีเป็ นจุดเด่นหรือความ สามารถที่เหนือกวา่ ธุรกิจหากเป็ นกรณีของบริษทั พบวา่ บริษทั ท่ีมีขนาดใหญ่ยอ่ มไดเ้ ปรียบในเรื่อง ชื่อเสียงของบริษทั ฐานะทางการเงินท่ีเขม้ แขง็ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถสูง มีเทคโนโลยีที่ ทนั สมยั ซ่ึงในการแข่งขนั ทางธุรกิจยอ่ มจะไดเ้ ปรียบเม่ือเทียบกบั บริษทั คู่แข่งที่มีขนาดเล็กกวา่ หรือ ในกรณีของระดบั ประเทศเช่น ประเทศไทยเป็ นประเทศที่ประกาศวา่ เป็ นครัวของโลกน้นั เน่ืองจาก มีศกั ยภาพในการผลิตพชื ไดอ้ ยา่ งหลากหลายและมีทรัพยากรอยา่ งพียงพอ เป็นตน้ 1.2.2 การวเิ คราะห์จุดอ่อน เป็ นการพิจารณาถึงขอ้ เสียเปรียบซ่ึงเป็ นความสามารถ ท่ีดอ้ ยกวา่ คู่แข่งขนั ทางธุรกิจ อาจเป็นปัญหาของธุรกิจท่ีตอ้ งหาทางปรับปรุงแกไ้ ขหรือลดความเสีย เปรียบใหล้ ดลงจนเหมาะกบั สภาพการแข่งขนั ทางธุรกิจ ในบางคร้ังจุดออ่ นที่มีอยใู่ นธุรกิจเสมอน้นั จะมีมากบา้ งหรือนอ้ ยบา้ งกข็ ้ึนกบั การทาธุรกิจในแต่ละประเภทแมแ้ ตธ่ ุรกิจที่มีความสามารถในการ แขง่ ขนั สูง และเป็นผนู้ าทางการตลาดเช่น ประเทศไทยเราเป็นผนู้ าในการส่งออกมนั สาปะหลงั และ
4 ผลิตภณั ฑจ์ าหน่ายไปยงั ต่างประเทศไดม้ ากที่สุดเป็ นอนั ดบั หน่ึงของโลก โดยมีมูลค่าการส่งออกปี ละหลายหมื่นลา้ นบาท แต่ภาพพจน์ของมนั สาปะหลงั และผลิตภณั ฑ์ของไทยในตลาดโลกไม่ค่อย จะดีนกั สาเหตุเน่ืองจากผสู้ ่งออกบางส่วนไดส้ ่งออกมนั สาปะหลงั และผลิตภณั ฑ์ที่ไม่มีคุณภาพและ มีส่ิงเจือปนไม่ไดม้ าตรฐานทาใหช้ ื่อเสียงของประเทศไทยเสียหาย ถา้ หากผสู้ ่งออกยงั ไม่มีการแกไ้ ข เร่ืองคุณภาพ และมาตรฐานของมนั สาปะหลงั และผลิตภณั ฑ์ ในอนาคตประเทศไทยอาจเสียเปรียบ การแข่งขนั ประเทศคู่คา้ อาจมีการยกเลิกสินคา้ และทาใหป้ ระเทศไทยสูญเสียความเป็ นผนู้ าในการ ส่งออกมนั สาปะหลงั และผลิตภณั ฑไ์ ดด้ งั แสดงในภาพที่ 1.1 ภาพท่ี 1.1 ประเทศไทยส่งออกมันสาปะหลงั และผลติ ภณั ฑ์ไปจาหน่าย ต่างประเทศได้มากทสี่ ุดเป็ นอนั ดับหน่ึงของโลก ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ 1.3 ตวั อย่างการวเิ คราะห์จุดแข็งจุดอ่อนโอกาส และอปุ สรรคในการพฒั นาข้าวของไทย (ฝ่ ายวจิ ยั ธุรกิจ,2553) 1.3.1 จุดแขง็ (Strength) 1.3.1.1 ประเทศไทยเป็นผสู้ ่งออกขา้ วอนั ดบั 1 ของโลกมานานกวา่ 20 ปี โดยมีส่วนแบง่ ทางตลาดส่งออกราว 1 ใน 3 ของปริมาณส่งออกขา้ วทว่ั โลก 1.3.1.2 ขา้ วไทยโดยเฉพาะขา้ วหอมมะลิน้นั ไดร้ ับการยอมรับวา่ เป็นขา้ วมี คุณภาพดีท่ีสุดของโลก 1.3.1.3 ประเทศไทยสามารถปลูกขา้ วไดเ้ กือบตลอดท้งั ปี ท้งั ขา้ วนาปี และ ขา้ วนาปรังจึงมีผลผลิตขา้ วออกสู่ตลาดอยา่ งตอ่ เนื่อง 1.3.1.4 ประเทศไทยมีเทคนิคการสีและการปรับปรุงคุณภาพขา้ วท่ีดีทาให้ ไดข้ า้ วท่ีมีคุณสมบตั ิตรงตามความตอ้ งการของลูกคา้ อีกท้งั ยงั สามารถส่งมอบสินคา้ ไดต้ รงตามเวลา และปริมาณตามท่ีลูกคา้ ตอ้ งการ ดงั แสดงในภาพที่ 1.2
5 ภาพที่ 1.2 ข้าวพชื เศรษฐกจิ ของประเทศไทยเป็ นผ้สู ่งออกข้าวอนั ดับ 1 ของโลกมานานกว่า 20 ปี ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ 1.3.2 จุดอ่อน (Weakness) 1.3.2.1 ประเทศไทยมีผลผลิตขา้ วเฉลี่ยต่อไร่ต่าเกือบที่สุดในโลกและยงั มีตน้ ทุนการผลิตสูง 1.3.2.2 การพฒั นาพนั ธุ์ขา้ วกระบวนการเพาะปลูกและระบบชลประทาน ของไทยยงั พฒั นาไดไ้ มด่ ีเท่าท่ีควร 1.3.2.3 ผสู้ ่งออกขา้ วของไทยมีอานาจการตอ่ รองนอ้ ยและไมม่ ีอิทธิพลใน การกาหนดราคาเน่ืองจากมีคูแ่ ข่งจานวนมาก 1.3.2.4 ขา้ วขาวดอกมะลิ105 และขา้ วหอมปทุมธานี1น้นั มีคุณสมบตั ิใกล้ เคียงกนั มากสามารถใชท้ ดแทนกนั ไดด้ ีจึงมีการแข่งขนั กนั เองในการทาตลาด 1.3.3 โอกาส (Opportunity) 1.3.3.1 ประเทศในแถบทวปี เอเชีย และแอฟริกา ซ่ึงบริโภคขา้ วเป็นอาหาร หลกั มีจานวนประชากรเพ่ิมข้ึน ในขณะท่ียงั ไม่สามารถเพ่ิมผลผลิตขา้ วใหเ้ พียงพอกบั ความตอ้ งการ ของบริโภคที่เพม่ิ ข้ึนจึงตอ้ งพ่ึงพาการนาเขา้ ขา้ วเป็นหลกั 1.3.3.2 สภาพภูมิอากาศท่ีแปรปรวนท้งั ภาวะภยั แลง้ การเกิดอุทกภยั พายุ ฝน รวมท้งั เกิดการแพร่ระบาดของโรค และแมลงศตั รูพืชทาให้ผลผลิตขา้ วในหลายประเทศลดลง จนผลกั ดนั ใหค้ วามตอ้ งการนาเขา้ และราคาขา้ วในตลาดโลกสูงข้ึน 1.3.4 อปุ สรรค (Threat) 1.3.4.1 ประเทศคูแ่ ข่งเช่น จีน สหรัฐอเมริกา เวยี ดนาม เป็นตน้ ไดม้ ีการ พฒั นาพนั ธุ์ขา้ วใหมๆ่ ท่ีมีคุณสมบตั ิใกลเ้ คียงกบั ขา้ วไทยแต่มีราคาถูกกวา่ 1.3.4.2 ประเทศคู่แข่งขนั ส่งออกขา้ วรายใหม่เช่น พมา่ และกมั พชู าต่างก็ เร่งขยายการส่งออกขา้ ว
6 1.3.4.3 ภาพลกั ษณ์ขา้ วหอมมะลิของไทยแยล่ งเพราะคู่แขง่ บางประเทศ นาขา้ วชนิดอื่นมาปลอมปน รวมถึงคู่แขง่ บางประเทศมีการเลียนแบบตราสินคา้ ของไทย 1.4 ตัวอย่างการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนโอกาสและอุปสรรคของถั่วเหลอื ง (สานกั ส่งเสริม และจดั การสินคา้ เกษตร,2552) 1.4.1 จุดแขง็ (Strength) 1.4.1.1 ไทยเป็นแหล่งผลิตถวั่ เหลืองสายพนั ธุ์ธรรมชาติเป็ นอนั ดบั หน่ึงของ อาเซียน 1.4.1.2 ถว่ั เหลืองเป็นพชื ใหโ้ ปรตีนสูงจึงเป็นแหล่งอาหารที่สาคญั เพื่อการ บริโภคและเล้ียงสัตว์ 1.4.1.3 เกษตรกรสามารถปลูกถว่ั เหลืองเป็นพืชหมุนเวยี นในการปรับปรุง บารุงดิน และลดการใชป้ ๋ ุยเคมีในการปลูกถวั่ เหลืองเป็นพชื หลกั 1.4.2 จุดอ่อน (Weakness) 1.4.2.1 ถวั่ เหลืองเป็นพชื ที่ใชแ้ รงงานดูแลรักษาสูงกวา่ พชื อ่ืน 1.4.2.2 ภาคเอกชนยงั ไม่ใหค้ วามสนใจในการพฒั นาพนั ธุ์และผลิตเมล็ด พนั ธุ์ถว่ั เหลือง 1.4.2.3 ตน้ ทุนการผลิตต่อหน่วยสูงไม่สามารถแข่งขนั กบั ต่างประเทศได้ 1.4.2.4 ปริมาณผลผลิตและคุณภาพข้ึนอยกู่ บั สภาพดินฟ้ าอากาศ 1.4.2.5 ตอ้ งมีกระบวนการในการจดั การก่อนและหลงั เกบ็ เก่ียวถวั่ เหลือง ท่ีเหมาะสมจึงจะไดผ้ ลผลิตสูง และมีคุณภาพดี 1.4.3 โอกาส (Opportunity) 1.4.3.1 ถวั่ เหลืองเป็นพชื ที่ภาครัฐใหก้ ารดูแลช่วยเหลือ และส่งเสริมใหม้ ี การผลิตเพอื่ สร้างความมนั่ คงดา้ นอาหาร 1.4.3.2 ถว่ั เหลืองสามารถใชแ้ ปรรูปไดห้ ลากหลายท้งั ในเชิงชุมชนและใน เชิงพาณิชย์ 1.4.3.3 ถวั่ เหลืองมีศกั ยภาพในการขยายตลาดท้งั ในและต่างประเทศ 1.4.3.4 สามารถนาองคค์ วามรู้ในการผลิตถวั่ เหลืองระดบั พ้ืนท่ีมาประยกุ ต์ ใชเ้ ป็นฐานความรู้ 1.4.4 อปุ สรรค (Threat) 1.4.4.1 แนวโนม้ การแขง่ ขนั ดา้ นการตลาดรุนแรงจากการท่ีประเทศตา่ งๆ ทาขอ้ ตกลง FTA มากข้ึน
7 1.4.4.2 การใชม้ าตรการกีดกนั ทางการคา้ ที่มิใช่มาตรการทางภาษีมากข้ึน และรุนแรงข้ึน 1.4.4.3 ความผนั ผวนของราคาถวั่ เหลืองในตลาดตา่ งประเทศไดส้ ่งผลต่อ ราคาและตน้ ทุนผลิตภณั ฑภ์ ายในประเทศ 1.4.4.4 ตลาดตา่ งประเทศไดก้ าหนดมาตรฐานของสินคา้ สูงเป็นอุปสรรค ตอ่ การส่งออกถว่ั เหลือง 1.5 ตวั อย่างการวเิ คราะห์จุดแขง็ จุดอ่อนโอกาสและอปุ สรรคของปาล์มนา้ มัน (สานกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ทางการคา้ , 2555) 1.5.1 จุดแข็ง (Strength) 1.5.1.1 อุตสาหกรรมน้ามนั ปาลม์ ของไทยมีอตั ราการขยายตวั คอ่ นขา้ งสูง เห็นไดจ้ ากการที่ไทยมีพ้นื ที่ปลูกปาลม์ น้ามนั เพมิ่ ข้ึน 1.5.1.2 น้ามนั ปาลม์ เป็นน้ามนั พืชที่มีส่วนแบง่ สาหรับการผลิตสูงสุดของ อุตสาหกรรมน้ามนั พืชไทยอีกท้งั ยงั เป็ นน้ามนั พืชที่มีส่วนแบ่งสาหรับการบริโภคน้ามนั พืชสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกบั การบริโภคน้ามนั พชื ทุกชนิด 1.5.1.3 รัฐบาลไดใ้ หก้ ารสนบั สนุนโดยมีการสนบั สนุนใหม้ ีการวจิ ยั และ พฒั นาปาลม์ น้ามนั ที่ใชเ้ ทคโนโลยีข้นั สูงโดยเฉพาะการพฒั นาพนั ธุ์ปาลม์ น้ามนั และอุตสาหกรรม ตอ่ เน่ือง 1.5.2 จุดอ่อน (Weakness) 1.5.2.1 พ้นื ที่ปลูกปาลม์ น้ามนั ของไทยมากกวา่ 30 เปอร์เซ็นต์ ใชพ้ นั ธุ์ท่ี ไมม่ ีคุณภาพทาใหท้ ้งั ปริมาณและราคาผลผลิตตกต่าเกษตรกรจึงมีรายไดต้ ่าและไม่มีแรงกระตุน้ ให้ ขยายพ้ืนท่ีเพาะปลูก 1.5.5.2 การทาสวนปาลม์ น้ามนั ในประเทศไทยเป็นระบบสวนขนาดเล็ก พนั ธุ์ปาลม์ น้ามนั มีการพฒั นานอ้ ยกวา่ พนั ธุ์ปาลม์ ของมาเลเซีย และตน้ ทุนการผลิตของประเทศไทย สูงกวา่ ประเทศเพอ่ื นบา้ น 1.5.2.3 ปาลม์ น้ามนั เป็นพืชที่ตอ้ งการปริมาณน้าค่อนขา้ งมากและมีสภาพ ภูมิอากาศที่เหมาะสมทาให้มีพ้ืนที่เพาะปลูกจากดั โดยเพาะปลูกไดเ้ ฉพาะในพ้ืนท่ีภาคใต้ และตอ้ ง เป็ นพ้ืนท่ีที่มีการชลประทานดี 1.5.2.4 การขาดหน่วยงานที่เขา้ มารับผดิ ชอบโดยตรงเก่ียวกบั การพฒั นา ปาล์มน้ามนั และอุตสาหกรรมน้ามนั ปาล์มท้งั ระบบซ่ึงเม่ือเปรียบเทียบกบั ประเทศเพื่อนบา้ นอยา่ ง มาเลเซียที่มีคณะกรรมการปาลม์ น้ามนั มาเลเซีย (Malaysian Palm Oil Board: MPOB)
8 1.5.3 โอกาส (Opportunity) 1.5.3.1 การผลิตไบโอดีเซลเพ่ือนามาใชแ้ ทนน้ามนั ดีเซลเป็นทางเลือกเพ่ือ ลดการพ่งึ พาพลงั งานจากตา่ งประเทศ โดยเฉพาะไทยมีศกั ยภาพในการปลูกพืชน้ามนั ไดเ้ ป็ นจานวน มากดงั น้นั การที่ภาครัฐส่งเสริมและสนบั สนุนใชน้ ้ามนั พืช ซ่ึงเป็ นผลิตผลทางการเกษตรที่สามารถ ผลิตไดเ้ องในประเทศมาใชเ้ ป็นเช้ือเพลิงทดแทน จึงเป็ นการลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศและ สร้างความมนั่ คงดา้ นพลงั งานใหก้ บั ประเทศ อีกท้งั ยงั เป็นการสร้างตลาดท่ีมน่ั คงให้กบั ผลผลิตทาง การเกษตรอีกดว้ ยโดยเฉพาะปาลม์ น้ามนั เป็นพืชท่ีมีคุณสมบตั ิในการให้ค่าความร้อนมากกวา่ น้ามนั พืชชนิดอื่นๆ 1.5.4 อุปสรรค (Threat) 1.5.4.1 อุตสาหกรรมปาลม์ น้ามนั ในระดบั โลกตอ้ งเผชิญกบั การแขง่ ขนั ท่ี สูงจากต่างประเทศท้งั จากอินโดนีเซียและมาเลเซียที่มีการผลิตและช่องทางการส่งออกท่ีดีกวา่ 1.5.4.2 เกษตรกรรายยอ่ ยไม่ไดร้ ับการสนบั สนุนจากภาครัฐเท่าท่ีควรใน การปรับเปลี่ยนปาลม์ น้ามนั พนั ธุ์ใหม่ 1.5.4.3 ผปู้ ระกอบการสวนปาลม์ น้ามนั ขนาดใหญย่ งั ขาดความมน่ั ใจเก่ียว กบั นโยบายการเช่าท่ีดินของรัฐเพื่อปลูกปาลม์ น้ามนั 1.5.4.4 การพฒั นาจากภาครัฐขาดความตอ่ เนื่องและในแต่ละจงั หวดั ไมม่ ี หน่วยงานรองรับ 1.5.4.5 ตลาดไม่มีเสถียรภาพทางดา้ นราคา 1.5.4.6 การนาเขา้ น้ามนั ปาลม์ จากมาเลเซียซ่ึงมีราคาต่ากวา่ เขา้ มาจาหน่าย ในประเทศโดยอาศยั ช่องโหวท่ างกฎหมาย 2. ตลาดกลางสินค้าเกษตร 2.1 ความหมายและบทบาทหน้าทขี่ องตลาดกลางสินค้าเกษตร การจดั ต้งั ตลาดกลางสาหรับผลิตผลทางการเกษตรเป็นสิ่งจาเป็นอยา่ งยง่ิ เพราะการ พฒั นาการเกษตรมิใช่แต่เพียงจะส่งเสริมการเกษตรเท่าน้นั แต่จาเป็ นที่จะตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลือแก่ เกษตรกรผผู้ ลิตในเร่ืองการจาหน่ายผลผลิตโดยใหม้ ีระบบการจาหน่ายท่ีมีความยตุ ิธรรมแก่ทุกฝ่ าย ตลาดกลางจึงจาเป็นตอ้ งมีการจดั การบริหารงานที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพจึงจะเป็ นประโยชน์ แก่ประชาชนท้งั ผผู้ ลิตและผบู้ ริโภค อีกท้งั สามารถทาใหก้ ารซ้ือขายเกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งเป็ นธรรม ดงั น้นั ตลาดกลางสินคา้ เกษตรจึงหมายถึงสถานที่ท่ีใชเ้ ป็นแหล่งนดั พบในการซ้ือขายสินคา้ เกษตรที่มีผซู้ ้ือ และผขู้ ายจานวนมากไดเ้ ขา้ มาทาการซ้ือขายโดยตรง อาจดว้ ยวธิ ีการตกลงราคาหรือประมูลราคากนั
9 อยา่ งเปิ ดเผยภายใตร้ าคาท่ีเป็นธรรมดว้ ยการบริการและส่ิงอานวยความสะดวกตา่ งๆ ใหก้ บั ผซู้ ้ือและ ขายเช่น คลงั เก็บรักษาสินคา้ อุปกรณ์ในการชงั่ ตวง วดั สินคา้ และการคดั เกรดสินคา้ ท่ีไดม้ าตรฐาน รวมท้งั การใหบ้ ริการดา้ นขอ้ มูลขา่ วสารทางดา้ นการตลาด ดงั แสดงในภาพท่ี 1.3 ภาพที่ 1.3 ตลาดกลางสินค้าเกษตร ตาบลในเมือง อาเภอเมอื งจังหวดั ขอนแก่น ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ 2.2 วตั ถุประสงค์ในการจัดต้ังตลาดกลางสินค้าเกษตร 2.2.1 เพอื่ ใหเ้ กษตรกรมีแหล่งจาหน่ายสินคา้ เกษตรในราคาที่เป็ นธรรมในลกั ษณะ ของการขายส่งดว้ ยวธิ ีการประมูลหรือการตอ่ รองราคา 2.2.2 เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมสินคา้ เกษตรจากเกษตรกรภายในพ้นื ท่ีเพอื่ ใหผ้ ซู้ ้ือได้ นาสินคา้ เกษตรไปขายต่อยงั แหล่งที่มีความตอ้ งการซ่ึงจะเป็ นการช่วยระบายสินคา้ เกษตรจากแหล่ง ผลิตไปสู่ผบู้ ริโภค 2.2.3 เพอ่ื สามารถตอบสนองต่อการรักษาเสถียรภาพทางดา้ นราคาสินคา้ เกษตรได้ ตามนโยบายของรัฐบาล 2.2.4 เพ่ือพฒั นาตลาดกลางสินคา้ เกษตร โดยการส่งเสริมและกากบั ดูแลของกรม การคา้ ภายในกระทรวงพาณิชย์ เพอื่ จะนาไปสู่การเป็นตลาดกลางท่ีมีคุณภาพมีประสิทธิภาพในการ ดาเนินงาน การสร้างความเป็นธรรมใหแ้ ก่ท้งั ผซู้ ้ือ และผขู้ าย มีศกั ยภาพในการช่วยพฒั นาความเป็ น อยขู่ องคนในทอ้ งถ่ิน ตลอดจนมีส่วนช่วยในการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศชาติใหด้ ีข้ึน 2.3บทบาทของตลาดกลางสินค้าเกษตร 2.3.1 เป็นคนกลางเพ่ือใหก้ ารซ้ือขายผลผลิตเป็นไปดว้ ยความยตุ ิธรรม 2.3.2 จดั หาอุปกรณ์มาตรฐานและเจา้ หนา้ ที่เพ่ือใหบ้ ริการและอานวยความสะดวก 2.3.3 อานวยความสะดวกในเรื่องของความสะอาดการจดั การเกี่ยวกบั ขยะมูลฝอย และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น การดูแลซ่อมแซมถนนภายในตลาดกลางสินคา้ เกษตร
10 2.3.4 จดั เก็บค่าบริการตามอตั ราท่ีกาหนด 2.3.5 ตรวจสอบคุณภาพเบ้ืองตน้ ผลผลิตใหแ้ ก่ผซู้ ้ือและผขู้ าย 2.3.6 เป็นแหล่งใหบ้ ริการขอ้ มลู ขา่ วสารในดา้ นการตลาดสินคา้ เกษตรใหแ้ ก่ผซู้ ้ือ และผขู้ ายรวมถึงความเคลื่อนไหวของตลาดและราคาในตลาดสินคา้ เกษตรอ่ืนๆ 2.4 ประโยชน์ของตลาดกลางสินค้าเกษตร 2.4.1 ตลาดกลางสินคา้ เกษตรเป็นศนู ยก์ ลางในการซ้ือขายสินคา้ เกษตรจึงนบั เป็น สถานท่ีท่ีเกษตรกรสามารถนาผลผลิตทางการเกษตรมาจาหน่ายไดโ้ ดยมีผซู้ ้ือสินคา้ เป็ นจานวนมาก ช่วยให้เกษตรกรสามารถจาหน่ายผลผลิตทางการเกษตรไดใ้ นราคาท่ีเป็ นธรรมช่วยลดการผกู ขาด ทางการคา้ และเกษตรกรที่สามารถรวมตวั กนั ไดก้ ็จะมีอานาจการต่อรองเพม่ิ ข้ึน 2.4.2 เป็นทางเลือกหน่ึงในการจาหน่ายสินคา้ เกษตรและเป็นแหล่งกระจายสินคา้ เกษตรไปยงั พ้ืนท่ีท่ีมีความตอ้ งการสินคา้ เกษตร 2.4.3 เป็นแหล่งเผยแพร่และประชาสมั พนั ธ์ขอ้ มลู ข่าวสารตา่ งๆ ใหแ้ ก่เกษตรกร 2.5 รูปแบบทางธุรกจิ ของตลาดกลางแยกตามระดบั โดยรูปแบบทางธุรกิจของตลาดสินคา้ เกษตรมี 3 ระดบั คือ ตลาดกลางระดบั ประเทศ ตลาดกลางระดบั ภมู ิภาค และตลาดกลางระดบั ทอ้ งถิ่น ตลาดเหล่าน้ีมีพ่อคา้ คนกลางเขา้ ไปทาหนา้ ท่ี ทางดา้ นการตลาด เพอื่ ใหส้ ินคา้ เกษตรเคลื่อนยา้ ยจากเกษตรกรไปถึงมือผบู้ ริโภค 2.5.1 ตลาดกลางระดับประเทศ 2.5.1.1 บทบาทและหนา้ ที่ของตลาดกลางระดบั ประเทศ โดยตลาดกลาง ระดบั ประเทศทาหนา้ ท่ีหลกั เป็นตลาดกลางปลายทางในการช่วยกระจายสินคา้ ที่รวบรวมจากแหล่ง ผลิตตา่ งๆ เพือ่ แลกเปล่ียนระหวา่ งภมู ิภาคและเพื่อจาหน่ายในกรุงเทพฯ ซ่ึงเป็ นแหล่งบริโภคที่ใหญ่ ท่ีสุดของประเทศ และเพ่อื การส่งออก ผซู้ ้ือ และผขู้ ายประกอบดว้ ยคู่คา้ ขนาดใหญ่ท่ีมีศกั ยภาพดา้ น การเงินสูงเนื่องจากเป็นตลาดท่ีมีการซ้ือขายเป็นจานวนมากจุดเด่นของตลาดกลางระดบั ประเทศคือ เป็นสถานท่ีท่ีผซู้ ้ือสามารถเลือกซ้ือสินคา้ ท่ีหลากหลายจากหลายภูมิภาคไดใ้ นคราวเดียวกนั ซ่ึงตลาด กลางระดบั ประเทศจึงเป็นศนู ยก์ ลางในการกระจายผลผลิตระหวา่ งภูมิภาคและการส่งออกแต่จะไม่ รวมตลาดคา้ ส่งรอบกรุงเทพฯ ท่ีดาเนินการในลกั ษณะของตลาดกลางที่ไม่มีรูปแบบของการกระจาย สินคา้ ไปยงั ภมู ิภาคอ่ืนๆหรือไปยงั ลูกคา้ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 2.5.1.2 ลกั ษณะธุรกรรมของตลาดกลางระดบั ประเทศ ตลาดกลางระดบั ประเทศเป็นตลาดที่เหมาะสาหรับผลิตผลที่มีการผลิตกระจายอยทู่ ว่ั ท้งั ประเทศ มีการจาหน่ายสินคา้ ที่หลากหลายมีผใู้ ชบ้ ริการและปริมาณการซ้ือขายจานวนมากในบางกรณีอาจไม่สะดวกท่ีจะตอ้ งนา สินคา้ มาแสดงไดท้ ้งั หมดดงั น้นั การซ้ือขายสินคา้ ในตลาดกลางอาจดาเนินการดว้ ยการนาเสนอเพียง
11 ตวั อยา่ งสินคา้ เทา่ น้นั ซ่ึงตลาดกลางระดบั ประเทศจึงมีบทบาทสาคญั ในการกาหนดราคาสินคา้ ใน ประเทศและมาตรฐานสินคา้ เกษตรของประเทศ เน่ืองจากตลาดกลางระดบั ประเทศเป็ นตลาดกลาง ปลายทางทาหนา้ ที่กระจายสินคา้ เป็นหลกั ไปยงั ลูกคา้ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมท้งั ส่งออกไป ตา่ งประเทศ ตลาดกลางระดบั ประเทศจึงควรต้งั ใกลแ้ หล่งบริโภคเช่น ในพ้นื ท่ีกรุงเทพฯ หรือพ้ืนท่ี ใกลเ้ คียงหรือใกลก้ บั จุดส่งออกของสินคา้ เป็นตน้ เพอ่ื ความสะดวก และรวดเร็วในการกระจายของ สินคา้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ สินคา้ ท่ีเน่าเสียหรือบอบช้าไดง้ ่าย ท้งั น้ีเนื่องจากตลาดกลางระดบั ประเทศ น้นั จะอยใู่ กลก้ บั แหล่งบริโภคและห่างไกลจากแหล่งผลิต ดงั น้นั สินคา้ ที่จะนาเขา้ สู่ตลาดกลางระดบั ประเทศตอ้ งใหค้ วามสาคญั กบั การขนส่งสินคา้ เพอื่ ป้ องกนั ปัญหาสินคา้ เสียหายเน่ืองจากการขนส่ง ระยะทางไกลจึงเหมาะสาหรับสินคา้ ท่ีมีการบรรจุภณั ฑเ์ ป็ นอยา่ งดีโดยตลาดกลางระดบั ประเทศจะ เหมาะสมสาหรับผลิตผลทางการเกษตรที่มีลกั ษณะดงั น้ี 1) สินคา้ ที่มีผลผลิตอยทู่ ว่ั ประเทศและมีปริมาณการส่งออกในตลาดโลก คอ่ นขา้ งสูง 2) สินคา้ ท่ีมีความหลากหลายสูงแตส่ ามารถคดั เกรดมาตรฐานไดช้ ดั เจน และเป็นที่ยอมรับของผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ ง 3) สินคา้ ท่ีขนยา้ ยง่ายสินคา้ ท่ีเน่าเสียยากหรือเป็นสินคา้ ท่ีไดร้ ับการบรรจุ หีบห่อมาอยา่ งดี เพื่อป้ องกนั สินคา้ เสียหายระหวา่ งการขนส่งและขนถ่าย 2.5.2 ตลาดกลางระดับภูมภิ าค 2.5.2.1 บทบาทและหนา้ ที่ของตลาดกลางระดบั ภมู ิภาคตลาดกลางระดบั ภมู ิภาคเป็นตลาดใหญ่ของภมู ิภาคที่ทาหนา้ ท่ีเป็นท้งั ตลาดตน้ ทางและตลาดปลายทาง ในแง่ของการ เป็นตลาดตน้ ทางตลาดกลางระดบั ภูมิภาคมีทาหนา้ ท่ีรวบรวมผลิตผลในพ้ืนที่หรือจากจงั หวดั ต่างๆ ในภูมิภาค เพือ่ ส่งต่อใหต้ ลาดกลางในภูมิภาคอ่ืนหรือตลาดกลางระดบั ประเทศกระจายสินคา้ ต่อไป ในขณะเดียวกนั ตลาดกลางระดบั ภูมิภาคอาจทาหนา้ ท่ีหลกั เป็นตลาดปลายทางสาหรับกระจายสินคา้ ตอ่ ไปยงั พอ่ คา้ คนกลาง และผบู้ ริโภคในพ้ืนท่ี โดยหลกั การแลว้ ตลาดกลางระดบั ภูมิภาคท่ีมีบทบาท หลกั เป็น ตลาดตน้ ทางควรต้งั อยใู่ กลก้ บั แหล่งผลิต ในขณะท่ีตลาดกลางที่มีบทบาทหลกั เป็ นตลาด ปลายทางควรอยใู่ กลก้ บั แหล่งบริโภค 2.5.2.2 ลกั ษณะธุรกรรมของตลาดกลางระดบั ภูมิภาคในตลาดกลางระดบั ของภูมิภาคมีปริมาณของสินคา้ ความหลากหลายของสินคา้ จานวน และความหลากหลายของผซู้ ้ือ ผขู้ ายมากกวา่ ตลาดกลางระดบั ทอ้ งถ่ิน โดยผขู้ ายผลิตผลในตลาดระดบั น้ีส่วนใหญ่จะประกอบดว้ ย กลุ่มขายพืชผลผลิตของเกษตรกรพอ่ คา้ ในระดบั ทอ้ งถ่ินท่ีรวบรวมสินคา้ มาจากเกษตรกรหรือตลาด กลางในระดบั ทอ้ งถ่ินส่วนผซู้ ้ือผลิตผลประกอบดว้ ย พอ่ คา้ ขายส่งโรงงานแปรรูปไปจนถึงผสู้ ่งออก
12 เพ่ือรวบรวมสินคา้ และกระจายสู่ผขู้ ายรายยอ่ ยในประเทศ ผขู้ ายในระดบั ประเทศ โรงงานแปรรูป ตลาดกลางระดบั ประเทศและส่งออกไปยงั ต่างประเทศเน่ืองจากตลาดกลางระดบั ภูมิภาคเป็ นตลาด กลางท่ีรวบรวมสินคา้ มาจากจงั หวดั ท่ีอยรู่ อบๆและกระจายไปยงั ภูมิภาคต่างๆ หรือเพ่ือการส่งออก ตลาดกลางจึงควรอยใู่ กลก้ บั เส้นทางคมนาคมที่เป็ นเส้นทางสายหลกั ที่เชื่อมระหวา่ งภูมิภาคเพื่อให้ เกิดประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการเคลื่อนยา้ ยสินคา้ การคา้ ขายในตลาดกลางระดบั ภูมิภาค จะมีปริมาณค่อนขา้ งมากและมีมูลค่าสูงดงั น้นั เพื่อใหเ้ กิดความเชื่อมน่ั ต่อธุรกรรมท่ีเกิดข้ึนในตลาด ตลาดกลางระดบั ภมู ิภาคเป็นตลาดกลางท่ีมีระบบ มีกฎระเบียบชดั เจน มีสิ่งอานวยความสะดวกและ บริการดา้ นตา่ งๆเพียบพร้อมและสินคา้ ท่ีผา่ นตลาดกลางระดบั น้ีจึงควรมีการคดั ช้นั คุณภาพ รวมถึง การบรรจุผลผลิตลงในบรรจุภณั ฑท์ ่ีไดม้ าตรฐานเพื่อสร้างความมนั่ ใจให้กบั ผซู้ ้ือผลผลิตท้งั ในและ ต่างประเทศ โดยรูปแบบในการบริหารจดั การที่เหมาะสมสาหรับตลาดกลางระดบั ภูมิภาคจึงควรมี กฎระเบียบที่มีระดบั ความเขม้ ขน้ เช่นเดียวกบั รูปแบบของตลาดกลางระดบั ประเทศ 2.5.3 ตลาดกลางระดับท้องถ่ิน 2.5.3.1 บทบาทและหนา้ ท่ีของตลาดกลางระดบั ทอ้ งถ่ินตลาดกลางระดบั ทอ้ งถ่ินทาหนา้ ท่ีเป็นตลาดตน้ ทางของสินคา้ เกษตร โดยการรวบรวมรับซ้ือผลผลิตทางการเกษตรท่ี ผลิตจากทอ้ งถ่ินหรือพ้ืนท่ีใกลเ้ คียงกบั ที่ต้งั ของตลาดกลางเช่น จากอาเภอต่างๆ ที่อยภู่ ายในจงั หวดั เดียวกนั ซ่ึงผขู้ ายอาจเป็นเกษตรกรผรู้ วบรวมสินคา้ รายยอ่ ยในระดบั ทอ้ งถ่ินและผซู้ ้ือประกอบดว้ ย ผบู้ ริโภคในทอ้ งถ่ิน ผคู้ า้ ระดบั ทอ้ งถิ่นหรือระดบั สูงกวา่ เขา้ มาซ้ือสินคา้ เกษตรเพื่อกระจายต่อไปยงั ตลาดระดบั ภูมิภาคตลาดระดบั ประเทศหรือตลาดส่งออกต่อไป 2.5.3.2 ลกั ษณะธุรกรรมของตลาดกลางระดบั ทอ้ งถิ่นเนื่องจากผลิตผลท่ี มีการซ้ือขายในตลาดกลางระดบั ทอ้ งถิ่นไดม้ ีการรวบรวมมาจากพ้ืนที่ใกลเ้ คียงไม่ไกลจากสถานที่ ต้งั ของตลาดมากนกั ปริมาณผลิตผลที่เขา้ สู่ตลาดกลาง และปริมาณการซ้ือขายอาจจะมีไม่มากอีกท้งั ความหลากหลายของสินคา้ ยงั มีค่อนขา้ งนอ้ ยนอกจากน้ีเนื่องจากเป็ นผลิตผลในทอ้ งถ่ินเป็ นหลกั ทา ใหป้ ริมาณผลิตผลท่ีผา่ นตลาดกลางจึงผนั ผวนไปตามฤดูกาลค่อนขา้ งสูงอาจไม่สามารถรักษาระดบั ปริมาณสินคา้ สม่าเสมอไดต้ ลอดปี หรืออาจจาเป็ นตอ้ งเปิ ดใหบ้ ริการซ้ือขายเป็ นบางช่วงเวลาในแต่ ละปี ในการจดั ต้งั ตลาดกลางระดบั ทอ้ งถ่ินจึงควรใหค้ วามสาคญั กบั ทอ้ งถ่ินที่มีผลผลิตค่อนขา้ งมาก และสามารถเพาะปลูกพืชผลไดห้ ลายชนิด ซ่ึงมีช่วงเวลาเก็บเก่ียวที่แตกต่างกนั ออกไป นอกจากน้ี จานวนผซู้ ้ือ และผขู้ ายในตลาดกลางทอ้ งถ่ินมีไม่มากนกั อีกท้งั ผซู้ ้ือเป็ นพอ่ คา้ รายย่อยมีฐานะทาง การเงินปานกลาง และไม่สามารถซ้ือสินคา้ ในปริมาณมากๆ ไดจ้ ากลกั ษณะของธุรกรรมในตลาด กลางระดบั ทอ้ งถิ่นน้ีส่งผลให้ปริมาณธุรกรรมท่ีเกิดข้ึนในตลาดกลางมีไม่สูงมากนกั จึงไม่อาจคาด หวงั ใหต้ ลาดกลางระดบั ทอ้ งถิ่นน้นั สามารถดาเนินการในลกั ษณะของตลาดกลางที่มีระบบอยา่ งเตม็
13 รูปแบบและมีอุปกรณ์อานวยความสะดวกท่ีหลากหลายได้ ดงั น้นั การดาเนินงานของตลาดกลางใน ระดบั ทอ้ งถ่ินอาจมีกฎระเบียบกากบั อยบู่ า้ งแต่ไม่มากนกั สินคา้ ที่นามาซ้ือขายในตลาดกลางระดบั อาจยงั ไม่มีการคดั เกรดหรือคดั ช้นั มาตรฐานและคุณภาพของสินคา้ อยา่ งไรก็ดีเนื่องจากจานวนผซู้ ้ือ และผขู้ ายในตลาดกลางระดบั ทอ้ งถ่ินมีนอ้ ยจึงมีความจาเป็ นท่ีจะตอ้ งลดปัญหาท่ีอาจเกิดจากอานาจ ตอ่ รองที่ไมเ่ ป็นธรรมดว้ ยการประกาศหรือนาเสนอขอ้ มลู ของราคาสินคา้ ที่มีการซ้ือขายกนั ในตลาด กลางระดบั ภูมิภาคและในระดบั ประเทศเพ่ือใชเ้ ป็ นราคาอา้ งอิงในการกาหนดราคาซ้ือขายในตลาด กลางระดบั ทอ้ งถิ่น ดงั แสดงในภาพท่ี 1.4 ภาพท่ี 1.4 แหล่งรับซื้ออ้อยของพ่อค้ารายย่อยในท้องถิน่ ทม่ี า : กล่มุ สารสนเทศอตุ สาหกรรมอ้อยและนา้ ตาลทราย(2549) ดงั น้นั ตลาดกลางสินคา้ เกษตรจึงเป็นกลไกหน่ึงที่จะช่วยเหลือและเพิ่มช่องทางเลือกใหแ้ ก่ เกษตรกร ทาหนา้ ท่ีเป็นศูนยก์ ลางการรวบรวม และกระจายสินคา้ เกษตรไปยงั ตลาดภายในประเทศ ทวั่ ทุกภูมิภาคและประเทศเพื่อนบา้ นเช่น เมียนมาร์ ลาว กมั พชู า เป็นตน้ รวมท้งั ช่วยลดตน้ ทุนทาง การตลาดและระบบโลจิสติกต์ นอกจากน้ีแลว้ ยงั เป็ นเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิต ทางการเกษตรโดยใชก้ ารบริหารจดั การท่ีมีประสิทธิภาพเพอ่ื ใหเ้ กิดความสมดุลระหวา่ งอุปสงคแ์ ละ อุปทานภายใตก้ ลไกตลาด ซ่ึงจะเป็นการพฒั นาระบบตลาดสินคา้ เกษตรให้เกิดประโยชน์ต่อทุกภาค ส่วนท่ีเกี่ยวขอ้ ง โดยรัฐบาลตอ้ งใหก้ ารสนบั สนุนเพอื่ สร้างฐานรากที่เขม้ แข็งให้แก่เกษตรกรในการ พฒั นาใหป้ ระเทศไทยเป็นศูนยก์ ลางในการผลิต การคา้ สินคา้ เกษตรและเกษตรอุตสาหกรรมให้เป็ น ครัวโลก (Kitchen of the world) บนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียงตามนโยบายของรัฐบาล ในตารางที่ 1.1 เป็นรูปแบบทางธุรกิจของตลาดกลางสินคา้ เกษตร โดยแยกตามระดบั ตลาดกลางระดบั ประเทศ ตลาดกลางระดบั ภูมิภาคและตลาดกลางระดบั ทอ้ งถ่ิน
14 ตารางท่ี 1.1 แสดงรูปแบบทางธุรกจิ ของตลาดกลางสินค้าเกษตรโดยแยกตามระดบั ตลาด ระดบั ตลาด ตลาดกลาง ตลาดกลาง ตลาดกลาง ระดบั ประเทศ ระดบั ภูมิภาค ระดบั ท้องถิน่ - ตลาดปลายทาง เพื่อ - ตลาดตน้ ทาง และ/หรือ - ตลาดตน้ ทางเพอื่ รวบ กระจายสินคา้ ระหวา่ ง ตลาดปลายทาง เพ่อื ส่ง รวมสินคา้ ในพ้ืนที่ใน บทบาท ภูมิภาคและส่งออกไปยงั ขายภายในประเทศหรือ ระดบั ทอ้ งถ่ิน เพ่อื รอง แ ละหน้าท่ี ตา่ งประเทศ ระหวา่ งภูมิภาค รับผบู้ ริโภคในทอ้ งถ่ิน รวมท้งั ส่งขายตอ่ ไปยงั ตลาดระดบั ภูมิภาคและ ระดบั ประเทศต่อไป - เกษตรกรหรือกลุ่ม -เกษตรกรที่อยใู่ กลท้ ่ีต้งั - เกษตรกรในพ้นื ที่ ผู้ขาย เกษตรที่อยใู่ นพ้ืนที่ ตลาด - กลุ่มเกษตรกร ใกลเ้ คียง - พอ่ คา้ ระดบั จงั หวดั - กลุ่มเกษตรกร ในกรณี - ผรู้ วบรวมสินคา้ - พอ่ คา้ ระดบั ภูมิภาค ที่ตอ้ งขนส่งระยะ ไกล - พอ่ คา้ ทอ้ งถิ่น ผู้ขาย - พอ่ คา้ ระดบั ประเทศ - ผรู้ วบรวมสินคา้ - พอ่ คา้ ทอ้ งถ่ิน - พอ่ คา้ ระดบั จงั หวดั -พอ่ คา้ ระดบั ภูมิภาค - พอ่ คา้ ระดบั จงั หวดั - พอ่ คา้ ระดบั จงั หวดั - พอ่ คา้ ทอ้ งถิ่น - พอ่ คา้ ระดบั ภมู ิภาค - พอ่ คา้ ระดบั ภมู ิภาค - พอ่ คา้ ระดบั จงั หวดั ผู้ซื้อ - พอ่ คา้ ระดบั ประเทศ - พอ่ คา้ ระดบั ประเทศ - พอ่ คา้ ระดบั ภูมิภาค - ผสู้ ่งออก - ผสู้ ่งออก - โรงงานแปรรูป - โรงงานแปรรูป - ผคู้ า้ ปลีกขนาดใหญ่ - ผคู้ า้ ปลีกขนาดใหญ่ รูปแบบการ - ประมูลราคา - ส่งเสริมวธิ ีประมลู ราคา - ต่อรองราคา ซื้อขาย - ตอ่ รองราคาแบบ - ตอ่ รองราคาแบบ เปิ ดเผย เปิ ดเผย
15 ตารางที่ 1.1 แสดงรูปแบบทางธุรกจิ ของตลาดกลางสินค้าเกษตรโดยแยกตามระดบั ตลาด (ต่อ) ระดับตลาด ตลาดกลาง ตลาดกลาง ตลาดกลาง ระดับประเทศ ระดบั ภูมิภาค ระดับท้องถิ่น - สินคา้ ตอ้ งคดั เกรด - สินคา้ ตอ้ งคดั เกรด และ - สินคา้ ท่ีเขา้ สู่ตลาด ไม่ การคัดเกรด และใชบ้ รรจุภณั ฑ์ ใชบ้ รรจุภณั ฑม์ าตรฐาน ตอ้ งคดั เกรด สินค้า - มีจุดใหบ้ ริการคดั เกรด มาตรฐาน - สินคา้ ท่ีคดั เกรดไม่ได้ และใชบ้ รรจุภณั ฑท์ ่ีได้ - สินคา้ ที่คดั เกรดไม่ได้ ใชว้ ธิ ีต่อรองราคา ใชว้ ธิ ีต่อรองราคา มาตรฐาน - สมาชิกจดทะเบียน - สมาชิกจดทะเบียน - สมาชิกจดทะเบียน - ผขู้ ายเป็นนิติบุคคล - ผขู้ ายเป็นนิติบุคคลไทย - ผขู้ ายเป็นบุคคล การควบคุม ไทย - ผซู้ ้ือเป็นนิติบุคคล ธรรมดาหรือนิติบุคคล ผู้ซื้อผ้ขู าย - ผซู้ ้ือเป็นนิติบุคคล (ไม่จากดั สญั ชาติ) ไทย (ไมจ่ ากดั สัญชาติ) - ผซู้ ้ือตอ้ งมีวงเงินจากดั - ผซู้ ้ือเป็นบุคคล - ผซู้ ้ือตอ้ งมีวงเงินจากดั การซ้ือ ธรรมดาหรือนิติบุคคล การซ้ือ (ไมจ่ ากดั สญั ชาติ) การควบคุม - มีรายงานขอ้ มลู ซ้ือ - มีการรายงานขอ้ มลู ซ้ือ ผ้ซู ื้อผู้ขาย ขายที่เกิดข้ึนในแต่ละ ขายท่ีเกิดข้ึนในแต่ละวนั วนั - บริการออกใบรับ รอง การตรวจสอบคุณภาพ เง่ือนไขอน่ื ๆ และมาตรฐานความ ปลอดภยั เพื่อการ ส่งออก ที่มา : อรพรรณ และคณะ (2551) จากตารางท่ี 1.1 แสดงตารางรูปแบบทางธุรกิจของตลาดกลางสินคา้ เกษตรโดยไดแ้ ยกตาม ระดบั ของตลาดกลางสามารถแบ่งออกเป็น ตลาดกลางระดบั ประเทศ ตลาดกลางระดบั ภูมิภาค และ ตลาดกลางระดบั ทอ้ งถิ่น ซ่ึงมีบทบาท และหนา้ ที่เป็ นผขู้ าย และผซู้ ้ือ มีรูปแบบการซ้ือขาย การคดั เกรดสินคา้ การควบคุมผซู้ ้ือผขู้ ายและเงื่อนไขอ่ืนๆ จะแตกต่างกนั ออกไปตามระดบั ของตลาดกลาง เช่น บทบาทและหนา้ ที่ของตลาดกลางระดบั ประเทศน้นั เป็ นตลาดปลายทาง เพื่อกระจายสินคา้ ใน
16 ระหวา่ งภูมิภาคของประเทศและการส่งออกสินคา้ ไปยงั ต่างประเทศ รวมท้งั บทบาทและหนา้ ท่ีของ ตลาดกลางระดบั ภูมิภาคเป็ นตลาดตน้ ทางและหรือตลาดปลายทางเพ่ือส่งขายสินคา้ ภายในประเทศ หรือระหวา่ งภูมิภาค สาหรับบทบาทและหนา้ ท่ีของตลาดกลางระดบั ทอ้ งถิ่นเป็ นตลาดตน้ ทาง เพ่ือ รวบรวมสินคา้ ในระดบั ทอ้ งถ่ินโดยสามารถรองรับผบู้ ริโภคในทอ้ งถิ่นและสามารถส่งขายต่อไปยงั ตลาดระดบั ภูมิภาคและหรือระดบั ประเทศได้ เป็นตน้ 3. สถาบนั เกย่ี วกบั การตลาดสินค้าเกษตรทส่ี าคญั ในประเทศไทย สถาบนั ท่ีเก่ียวกบั การตลาดสินคา้ เกษตรท่ีสาคญั ในประเทศไทยแบ่งออกไดค้ ือ 3.1 สถาบันเกย่ี วกบั การตลาดสินค้าเกษตรในภาครัฐบาลทส่ี าคญั ไดแ้ ก่ 3.1.1 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.)เป็นหน่วยงานรัฐวสิ าหกิจในการ กากบั ดูแลของกระทรวงการคลงั มีบทบาทและหนา้ ท่ีอานวยสินเช่ือทางการเกษตรท้งั โดยตรงและ สู่สถาบนั เกษตรกรการใหค้ วามช่วยเหลือทางดา้ นการเงินเพื่อส่งเสริมอาชีพหรือการดาเนินงานของ เกษตรกรกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร ตลอดจนการส่งเสริมใหส้ ามารถประกอบอาชีพที่ เกี่ยวเนื่องกบั การเกษตรและเพ่ือเพิ่มรายไดใ้ หแ้ ก่ครอบครัวของเกษตรกร รวมท้งั การให้บริการรับ ฝากเงินเช่นเดียวกบั ธนาคารพาณิชยท์ วั่ ไป ดงั แสดงในภาพท่ี 1.5 ภาพที่ 1.5 ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์อาเภอมัญจาครี ี จังหวดั ขอนแก่น ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ 3.1.2 องค์การคลงั สินค้า (อคส.) เป็นหน่วยงานรัฐวสิ าหกิจในการกากบั ดูแลของ กระทรวงพาณิชย์ มีบทบาทและหนา้ ที่ในการเก็บรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรเพื่อเก็บรักษาไว้ สาหรับจาหน่ายท้งั ภายในและภายนอกประเทศ การเก็บรักษาขา้ วและพืชผลการเกษตรเพื่อใชเ้ ป็ น มูลภณั ฑ์กนั ชน และรักษาระดบั ราคาการชะลอการออกสู่ตลาดของพืชเกษตรเพ่ือรักษาระดบั ราคา และช่วยดึงราคาสินคา้ ให้สูงข้ึนการใหบ้ ริการดา้ นคลงั สินคา้ และอุปกรณ์แก่รัฐบาลและภาคเอกชน
17 ในการดาเนินธุรกิจตา่ งๆ เพือ่ การนาเขา้ และส่งออก รวมท้งั การใหบ้ ริษทั หา้ งร้านบุคคลทวั่ ไป และ หน่วยงานราชการเช่าคลงั สินคา้ ในอตั ราที่เหมาะสมและการใหบ้ ริการคลงั สินคา้ เพ่ือรับจานาสินคา้ โดยเฉพาะขา้ วเปลือก เป็นตน้ ดงั แสดงในภาพท่ี 1.6 ภาพที่ 1.6 องค์การคลงั สินค้า อาเภอบ้านไผ่ จังหวดั ขอนแก่น ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ 3.1.3 องค์การตลาดเพอื่ เกษตรกร (อตก.) เป็นหน่วยงานรัฐวสิ าหกิจในการกากบั ดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีบทบาทและหนา้ ที่ในการช่วยเหลือเกษตรกรดา้ นการตลาด สินคา้ เกษตรเพื่อสร้างมลู ค่าเพิม่ ใหแ้ ก่เกษตรกรการจดั หา และจาหน่ายปัจจยั การผลิตที่มีคุณภาพใน ราคาที่เป็นธรรมและตรงตามเวลาท่ีตอ้ งการใหแ้ ก่เกษตรกร การจดั หาและจาหน่ายปัจจยั การผลิตท่ี มีคุณภาพราคาเป็นธรรม และตรงตามเวลาท่ีตอ้ งการใหแ้ ก่เกษตรกร รวมถึงการช่วยเหลือเกษตรกร สถาบนั เกษตรกร ในการเจรจา การจาหน่าย การตลาด และการเก็บรักษาผลผลิตหรือผลิตภณั ฑ์ทาง การเกษตรดงั แสดงในภาพที่ 1.7 ภาพที่ 1.7 ตลาดกลางสินค้าเกษตรตาบลในเมอื ง อาเภอเมือง จังหวดั ขอนแก่น ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้
18 3.2 สถาบนั ทเ่ี กยี่ วกบั การตลาดสินค้าเกษตรในภาคเอกชนทส่ี าคัญไดแ้ ก่ หอการคา้ ไทยใน แต่ละจงั หวดั และสภาหอการคา้ แห่งประเทศไทย ซ่ึงเป็ นแหล่งรวมของบรรดาพ่อคา้ นกั ธุรกิจที่ได้ ประกอบกิจการต่างๆ และเป็นศูนยร์ วมของสมาคมการคา้ และหอการคา้ ต่างประเทศ โดยที่สถาบนั ดงั กล่าวมีวตั ถุประสงคใ์ นการส่งเสริมสนบั สนุนการคา้ โดยเฉพาะสินคา้ เกษตรซ่ึงเป็ นสินคา้ ส่งออก ท่ีสาคญั ของประเทศ นอกจากน้ียงั มีสถาบนั ประกนั ภยั พชื ผล ซ่ึงต้งั ข้ึนเพ่ือลดภาระการเส่ียงจากภยั ธรรมชาติ และช่วยใหเ้ กษตรกรมีความมน่ั ใจวา่ จะไดร้ ับผลตอบแทนจากการลงทุนมากข้ึน ในส่วน ของบริษทั การคา้ ของเอกชนน้นั มีท้งั ผสู้ ่งออกสินคา้ เกษตรท่ีสาคญั และบริษทั ท่ีเป็ นผผู้ ลิตหรือผจู้ ดั หาวสั ดุการเกษตรเช่น บริษทั เครือเจริญโภคภณั ฑห์ รือซีพี เป็นตน้ 3.3 สถาบนั ระหว่างประเทศท่เี กีย่ วข้องกบั การตลาดสินค้าเกษตรท่ีสาคัญ ไดแ้ ก่ องคก์ าร น้าตาลระหวา่ งประเทศ ซ่ึงไดจ้ ดั ต้งั ข้ึนตามขอ้ ตกลงวา่ ดว้ ยน้าตาลระหวา่ งประเทศ มีหนา้ ที่ในการ ควบคุมและจดั สรรโควตาในการส่งออกน้าตาลและการสง่ั น้าตาลนาเขา้ ของประเทศสมาชิก รวมท้งั ประเทศไทยดว้ ย สาหรับองคก์ ารยางธรรมชาติระหวา่ งประเทศน้นั ไดจ้ ดั ต้งั ข้ึนจากผลของขอ้ ตกลง เรื่องยางธรรมชาติระหวา่ งประเทศขององคก์ ารสหประชาชาติเม่ือปี พ.ศ. 2523 โดยมีวตั ถุประสงค์ ในการรักษาระดบั ราคายางธรรมชาติในตลาดโลกใหม้ ีเสถียรภาพดว้ ยการซ้ือขายยางและผลิตภณั ฑ์ ของประเทศสมาชิกซ่ึงรวมท้งั ประเทศไทยดว้ ย 4. ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย โดยตลาดสินคา้ เกษตรล่วงหนา้ แห่งประเทศไทย (The Agriculture Futures Exchange of Thailand ; AFET) เป็ นตลาดซ้ือขายล่วงหนา้ ดา้ นสินคา้ เกษตร จดั ต้งั ข้ึนตามพระราชบญั ญตั ิการซ้ือ ขายสินคา้ เกษตรล่วงหน้า พ.ศ.2542และนบั ไดว้ ่าเป็ นตลาดล่วงหนา้ ที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายและเป็ น ตลาดล่วงหนา้ แห่งแรกของประเทศไทย ซ่ึงหนา้ ท่ีของตลาดสินคา้ เกษตรล่วงหนา้ แห่งประเทศไทย คือ เป็ นศูนยก์ ลางในการซ้ือขายสินคา้ เกษตรล่วงหนา้ ท่ีจะส่งมอบและรับมอบกนั ในอนาคต โดยท่ี ตลาดจะทาการคดั เลือกสินคา้ กาหนดกฎระเบียบ และเง่ือนไขในการซ้ือขาย ดูแลการซ้ือขายให้ เป็ นไปดว้ ยความเรียบร้อย รวมไปถึงจดั ให้มีการส่งมอบและรับมอบสินคา้ อยา่ งเป็ นระบบ ถูกตอ้ ง ตามขอ้ ตกลงหรือสัญญา(สุดใจ, 2550)สินคา้ ที่นามาซ้ือขายในตลาดสินคา้ เกษตรล่วงหนา้ ที่เรียกวา่ ขอ้ ตกลงล่วงหน้าหรือสัญญาซ้ือขายล่วงหน้าในปัจจุบนั ข้อตกลงล่วงหน้าหรือสัญญาซ้ือขาย ล่วงหน้าท่ีไดน้ ามาซ้ือขายสินคา้ เกษตรไดแ้ ก่ ยางแผ่นรมควนั ช้นั 3 ขา้ วขาว 5 เปอร์เซ็นต์มนั สาปะหลงั เส้นและแป้ งมนั สาปะหลงั ช้นั พิเศษโดยมีการกาหนดคุณภาพสินคา้ ที่ส่งมอบเช่น มนั สาปะหลงั เส้นท่ีมีคุณสมบตั ิคือ มีแป้ งไม่น้อยกว่า 67เปอร์เซ็นต์โดยน้าหนัก มีเส้นใยไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์โดยน้าหนกั มีความช้ืนไม่เกิน 14 เปอร์เซ็นต์โดยน้าหนัก ไม่มีวตั ถุเจือปนเกิน 3
19 เปอร์เซ็นตโ์ ดยน้าหนกั และไมม่ ีกลิ่นและสีผดิ ปกติ ไมบ่ ูดเน่าหรือข้ึนรา เป็นตน้ ดงั แสดงในภาพที่ 1.8และภาพท่ี 1.9 ภาพท1่ี .8ลกั ษณะมนั สาปะหลงั เส้นในการส่งออกไปจาหน่ายต่างประเทศ ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ ภาพที่ 1.9ลกั ษณะการบรรจุแป้ งมันสาปะหลงั ในการส่งออกไปจาหน่ายต่างประเทศ ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ คุณสมบตั ิที่สาคญั ของขอ้ ตกลงล่วงหนา้ ไดม้ ีการกาหนดคุณลกั ษณะของสินคา้ ที่จะซ้ือขาย รวมท้งั กาหนดเดือนส่งมอบรับมอบที่ชดั เจน ซ่ึงเดือนท่ีส่งมอบท่ีแตกต่างกนั นี่เองที่ทาให้เกิดสินคา้ หลากหลายรายการ โดยในตลาดสินคา้ เกษตรล่วงหนา้ แห่งประเทศไทยน้นั สินคา้ อา้ งอิงในแต่ละ ประเภทมีกาหนดส่งมอบทุกเดือนติดต่อกนั ไม่เกิน12เดือนจึงมีจานวนขอ้ ตกลงล่วงหนา้ ใหเ้ ลือกซ้ือ ขายไดห้ ลายรายการตามความตอ้ งการ Both Options เป็นเคร่ืองมือที่ช่วยในการซ้ือขายมีความคล่องตวั ข้ึน โดยเปิ ดโอกาสให้ผซู้ ้ือ และผขู้ ายเลือกไดว้ า่ ตอ้ งการจะส่งมอบหรือรับมอบสินคา้ หรือไม่ ในกรณีที่ตอ้ งการส่งมอบและรับ
20 มอบสินคา้ ผซู้ ้ือหรือผขู้ ายรายน้นั จะตอ้ งแจง้ ความจานงมายงั ตลาดภายในเวลา 12.00 น. ของวนั ทา การถดั จากวนั ซ้ือขายสุดทา้ ย ตลาดก็จะดาเนินการจบั คู่การซ้ือขายใหผ้ ซู้ ้ือหรือผขู้ ายเพื่อส่งมอบและ รับมอบสินคา้ ต่อไป ในกรณีที่ผูซ้ ้ือหรือผขู้ ายรายใดที่ไม่ไดแ้ จง้ ความประสงค์ที่จะส่งมอบรับมอบ สินคา้ ตลาดก็จะยุติการถือครองใหโ้ ดยไม่ตอ้ งทาการส่งมอบรับมอบสินคา้ ดงั น้นั Both Options จึง เป็นทางเลือกหน่ึงสาหรับใหผ้ ลู้ งทุนมีเครื่องมือในการบริหารจดั การความเสี่ยงจากการเปล่ียนแปลง ของราคาสินคา้ ได้(สานกั งานคณะกรรมการกากบั การซ้ือขายสินคา้ เกษตรล่วงหนา้ ,2550) ซ่ึงหาก จะมองไปรอบๆ ตวั น้นั ในบางประเทศไดม้ ีการจดั ต้งั ตลาดสินคา้ เกษตรล่วงหนา้ เป็ นเวลาร้อยกวา่ ปี มาแลว้ แมแ้ ต่ประเทศเพือ่ นบา้ นของไทยเราเองเช่นประเทศมาเลเซียเป็นประเทศผผู้ ลิตปาลม์ น้ามนั ก็ มีตลาดคา้ ปาล์มน้ามนั ล่วงหนา้ ประเทศญ่ีป่ ุนท่ีใช้ยางในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์จานวนมากก็มี ตลาดคา้ ยางล่วงหนา้ หรือแมก้ ระทง่ั ประเทศสิงคโปร์ซ่ึงไม่ไดเ้ ป็นท้งั ผผู้ ลิตหรือผใู้ ชย้ างก็มีตลาดยาง ล่วงหน้าซ่ึงตลาดทวั่ โลกใช้เป็ นราคาอา้ งอิงดงั น้นั จึงสามารถแบ่งตลาดสินคา้ เกษตรล่วงหน้าได้ 3 ประเภทคือ ตลาดผใู้ ช้ตลาดผผู้ ลิต และตลาดผคู้ า้ สาหรับประเทศไทยในฐานะผผู้ ลิตสินคา้ เกษตร รายใหญ่ของโลกจึงตอ้ งวางตวั เองเป็ นตลาดผูผ้ ลิตเพ่ือตอบสนองต่อความตอ้ งการในตลาดโลกได้ ซ่ึงจะทาใหส้ ามารถกาหนดราคาผลผลิตสินคา้ เกษตรท่ีเหมาะสมไดด้ งั แสดงในภาพที่ 1.10 ภาพท1ี่ .10ประเทศไทยเป็ นผู้ผลติ สินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ โดยตลาดสินคา้ เกษตรล่วงหนา้ แห่งประเทศไทยจึงเป็ นการเริ่มตน้ ท่ีจะเสริมสร้างให้ระบบ กลไกการตลาดสินคา้ เกษตรทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ซ่ึงก่อใหเ้ กิดความมีเสถียรภาพดา้ นราคา สินคา้ เกษตรในระยะยาว รวมท้งั ช่วยใหภ้ าครัฐสามารถลดภาระในการซ้ือขายสินคา้ เกษตรระหวา่ ง ประเทศและประหยดั งบประมาณในการช่วยเหลือเกษตรกรไดใ้ นฐานะท่ีประเทศไทยเป็ นผผู้ ลิต ผู้ ส่งออกสินคา้ เกษตรรายใหญ่ของโลกถา้ หากราคาสินคา้ เกษตรในตลาดสินคา้ เกษตรล่วงหนา้ แห่ง
21 ประเทศไทยสามารถใชเ้ ป็นราคาอา้ งอิงในตลาดโลกในอนาคตได้ ก็จะส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจและ ภาคการเกษตรของไทยอยา่ งยงั่ ยนื ต่อไป 5. ภาวะเศรษฐกจิ การเกษตรของประเทศไทยในปี 2555 สานกั งานเศรษฐกิจการเกษตร (2555) ไดร้ ายงานเศรษฐกิจการเกษตรของประเทศไทยใน ปี 2555จะขยายตวั ประมาณ4.0เปอร์เซ็นต์เม่ือเทียบกบั ปี 2554เนื่องจากการผลิตสินคา้ เกษตร โดยทวั่ ไปกลบั เขา้ สู่ภาวะปกติภายหลงั สถานการณ์น้าท่วมใหญ่ในช่วงปลายปี 2554ประกอบกบั สภาพดินฟ้ าอากาศท่ีเอ้ืออานวยทาให้การระบาดของโรคและแมลงศตั รูพืชน้นั สามารถควบคุมได้ โดยในสาขาพืชปี 2555 ขยายตวั 5.5เปอร์เซ็นตส์ าหรับผลผลิตพืชไร่สาคญั ท่ีเพ่ิมข้ึนไดแ้ ก่ขา้ วนาปี ขา้ วนาปรังมนั สาปะหลงั ยางพาราและปาล์มน้ามนั เน่ืองจากสภาพภูมิอากาศท่ีเอ้ืออานวยต่อการ เจริญเติบโตของพชื การแพร่ระบาดของโรคและแมลงศตั รูพชื ไม่รุนแรงมากนกั และสามารถควบคุม ได้ รวมท้งั ประกอบกบั พ้ืนท่ีปลูกพืชไร่หลายๆชนิดเพ่ิมข้ึนในช่วงหลายปี ท่ีผา่ นมาจากการส่งเสริม ของภาครัฐแรงจูงใจทางดา้ นราคาและการดูแลเอาใจใส่ท่ีดีของเกษตรกรดงั แสดงในภาพที่ 1.11 ภาพที่ 1.12ภาพที่ 1.13และภาพที่ 1.14 ภาพที่ 1.11 ผลผลติ ข้าวทเี่ พ่ิมขนึ้ ในภาวะเศรษฐกจิ การเกษตรในปี 2555 ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้
22 ภาพที่ 1.12 ผลผลติ มนั สาปะหลงั ทเี่ พม่ิ ขนึ้ ในภาวะเศรษฐกจิ การเกษตรในปี 2555 ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ ภาพท่ี 1.13 ผลผลติ ยางพาราทเ่ี พมิ่ ขนึ้ ในภาวะเศรษฐกจิ การเกษตรในปี 2555 ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ ภาพท่ี 1.14 ผลผลติ ปาล์มนา้ มันทเ่ี พม่ิ ขึน้ ในภาวะเศรษฐกจิ การเกษตรในปี 2555 ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ ในส่วนของผลผลิตพืชไร่ท่ีลดลงไดแ้ ก่ออ้ ยโรงงาน สับปะรดโรงงานขา้ วโพดเล้ียงสัตว์ และถว่ั เหลือง โดยออ้ ยโรงงานไดร้ ับผลกระทบจากภาวะภยั แลง้ ในช่วงที่ออ้ ยกาลงั เจริญเติบโตและ ฝนตกในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวสาหรับผลผลิตสับปะรดโรงงานได้ลดลงจากราคาที่ตกต่าในช่วง ปลายปี 2554ทาให้เกษตรกรขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดูแลรักษาตน้ สับปะรด รวมท้งั ผลผลิต ขา้ วโพดเล้ียงสัตวล์ ดลงเน่ืองจากเกษตรกรไดป้ รับเปล่ียนไปปลูกพืชไร่ที่ใหผ้ ลผลิตตอบแทนท่ีสูง กวา่ เช่นมนั สาปะหลงั และออ้ ยโรงงานประกอบกบั เน้ือที่เพาะปลูกขา้ วโพดเล้ียงสัตวท์ ่ีไดป้ ลูกแซม ในสวนยางพาราลดลงส่วนผลผลิตถว่ั เหลืองลดลงน้นั เป็นผลจากการขาดแคลนเมล็ดพนั ธุ์ดีและขาด แคลนแรงงานในการเพาะปลูกในดา้ นราคาพืชไร่ที่เพ่ิมข้ึนไดแ้ ก่ขา้ วออ้ ยโรงงานขา้ วโพดเล้ียงสัตว์
23 และถวั่ เหลืองโดยท่ีราคาขา้ วไดส้ ูงข้ึนตามมาตรการยกระดบั ราคาขา้ วภายในประเทศสาหรับราคา ออ้ ยโรงงานเพิ่มข้ึนเน่ืองจากความตอ้ งการและราคาในตลาดโลกไดป้ รับตวั สูงข้ึนเพราะพ้ืนที่ปลูก ออ้ ยท่ีสาคญั ของโลกประสบปัญหาภยั ธรรมชาติ ในส่วนของขา้ วโพดเล้ียงสัตวน์ ้นั มีราคาเพิ่มข้ึน เนื่องจากความตอ้ งการใช้เพื่อเป็ นวตั ถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ไดเ้ พ่ิมข้ึนสาหรับพืชไร่ที่มีราคา ลดลงได้แก่ยางพาราปาล์มน้ามนั มนั สาปะหลงั และสับปะรดโดยราคายางพาราลดลงเน่ืองจาก ผลผลิตออกสู่ตลาดจานวนมากและความตอ้ งการในตลาดโลกลดลง ในขณะที่ราคาปาล์มน้ามนั เป็ นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกท่ีซบเซา ในส่วนของราคามนั สาปะหลงั น้นั ลดลงเน่ืองจากจีนซ่ึง เป็นผนู้ าเขา้ รายใหญ่ของไทยไดช้ ะลอการนาเขา้ และหนั ไปนาเขา้ จากประเทศกมั พูชาและเวยี ดนาม ท่ีมีราคาถูกกวา่ ไทย รวมท้งั ราคาสบั ปะรดลดลงเน่ืองจากประเทศผนู้ าเขา้ รายใหญ่ท่ีสาคญั น้นั ไดแ้ ก่ ประเทศในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริ กา ต่างก็ประสบปั ญหาเศรษฐกิจทาให้ปริ มาณความ ตอ้ งการสินคา้ ลดลง 6. แนวโน้มเศรษฐกจิ การเกษตรปี 2556 สานกั งานเศรษฐกิจการเกษตร (2555)ไดร้ ายงานแนวโนม้ เศรษฐกิจการเกษตรปี 2556ใน สาขาพืชคาดว่าจะขยายตวั ในช่วง4–5 เปอร์เซ็นต์ หากสภาพอากาศเอ้ืออานวยโดยพืชไร่ที่สาคญั หลายชนิดมีแนวโนม้ เพิม่ ข้ึนไดแ้ ก่ขา้ วมนั สาปะหลงั ออ้ ยโรงงานยางพาราและปาลม์ น้ามนั เน่ืองจาก การดูแลเอาใจใส่ของเกษตรกรและการควบคุมการแพร่ระบาดของศตั รูพืชท่ีดีสาหรับผลผลิต ยางพาราและปาลม์ น้ามนั น้นั คาดวา่ จะเพิ่มข้ึนตามเน้ือท่ีให้ผลผลิตท่ีเพ่ิมข้ึนจากการขยายพ้ืนท่ีปลูก ในช่วงหลายปี ที่ผา่ น สาหรับดา้ นราคาท่ีเกษตรกรขายไดน้ ้นั ราคาผลผลิตพืชไร่ส่วนใหญ่มีแนวโนม้ ใกลเ้ คียงกบั ปี 2555 ส่วนการส่งออกข้ึนอยกู่ บั ทิศทางของเศรษฐกิจโลกนอกจากน้ีสภาพภูมิอากาศ ทวั่ โลกมีความแปรปรวนอาจส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูกธญั พืชที่สาคญั ทาใหร้ าคาธญั พืชและ อาหารของโลกมีแนวโนม้ เพ่ิมข้ึนไดร้ วมท้งั ปัญหาในการแพร่ระบาดของเช้ือโรคต่างๆและปัญหา ผกู้ ่อการร้ายในตะวนั ออกกลางท่ีอาจมีผลกระทบตอ่ เศรษฐกิจของโลกได้ ดงั แสดงในภาพที่ 1.15
24 ภาพที่ 1.15 ผลผลติ อ้อยโรงงานทมี่ ีแนวโน้มเศรษฐกจิ การเกษตรเพมิ่ ขนึ้ ในปี 2556 ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ 7. ศักยภาพของพชื ไร่กบั สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต(้ Association of South East Asian Nations : ASEAN) หรือประชาคมอาเซียนโดยมีเป้ าหมายในการรวมตวั กนั ของประเทศสมาชิกอาเซียน10 ประเทศประกอบดว้ ย ไทย พม่า ลาว เวยี ดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์อินโดนีเซีย ฟิ ลิปปิ นส์ กมั พชู า และบรูไนเพื่อช่วยเพ่ิมอานาจการต่อรองและขีดความสามารถแข่งขนั ของอาเซียนในเวทีระหว่าง ประเทศรวมถึงให้อาเซียนมีความแข็งแกร่ง มีภูมิตา้ นทานท่ีดีในการรับมือกบั ปัญหาใหม่ๆ ระดบั โลกและประชาคมอาเซียนเปรียบกบั การเป็ นครอบครัวเดียวกนั ของประเทศสมาชิกอาเซียน ซ่ึงได้ ถือกาเนิดข้ึนอยา่ งเป็ นทางการเมื่อเดือนตุลาคมพ.ศ.2546หรือปี ค.ศ. 2003พร้อมกบั ไดม้ ีการร่วมลง นามในปฏิญญาใหเ้ ป็นประชาคมเดียวกนั ใหส้ าเร็จภายในปี พ.ศ. 2558 หรือปี ค.ศ. 2015พร้อมกบั ได้ มีการแบ่งประชาคมยอ่ ยออกเป็ น 3 ประชาคมหรือ 3 เสาหลกั ไดแ้ ก่ประชาคมการเมืองและความ มน่ั คงอาเซียน(ASEAN Political and Security Community – APSC), ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AseanEconomics Community – AEC)และประชาคมสังคมและวฒั นธรรมอาเซียน (Asean Socio- Cultural Community – ASCC)ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเกิดข้ึนมาจากการพฒั นาสมาคม ประชาชาติแห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (อาเซียน)เนื่องจากสมาชิกอาเซียนเห็นวา่ ปัจจุบนั อาเซียนมี จานวนประเทศ 10 ประเทศ จานวนประชากรเกือบ 500 ลา้ นคนดงั น้นั ถือวา่ เป็ นเศรษฐกิจภูมิภาค ขนาดใหญ่จึงร่วมมือกนั เพื่อทาให้อาเซียนมีความเขม้ แข็งในด้านต่างๆเพ่ิมมากข้ึนดว้ ยเหตุน้ีเอง อาเซียนจึงกลายสภาพเป็ นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในท่ีสุดโดยได้ก่อต้งั ประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนอยา่ งเป็ นทางการในปี พ.ศ. 2558 เล่ือนเขา้ มาจากเดิมคือ ปี พ.ศ. 2563อยา่ งไรก็ตามอนาคต ขา้ งหนา้ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมีแนวโนม้ จะขยายเป็ นอาเซียน +3 คือ จีน เกาหลีใตแ้ ละญี่ป่ ุน ก่อนที่จะเป็นอาเซียน +6 คือ จีน เกาหลีใต้ ญ่ีป่ ุน ออสเตรเลียนิวซีแลนด์ และอินเดีย โดยประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมีเป้ าหมายการรวมตวั กนั ของประเทศสมาชิกอาเซียนเพ่ือ เพิ่มอานาจการต่อรองกบั คู่คา้ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขนั ทางดา้ นเศรษฐกิจในระดบั โลก รวมถึงมีการยกเวน้ ภาษีสินคา้ บางชนิดให้กบั ประเทศสมาชิกส่งเสริมให้ภูมิภาคมีความเจริญมงั่ คงั่ มน่ั คงประชาชนอยดู่ ีกินดี การยกเลิกกาแพงภาษีและลดอุปสรรคทางการคา้ สินคา้ เกษตร ภายใตก้ าร เปิ ดตลาดสินค้าเกษตร หลังการรวมกลุ่มเป็ นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้วในภาพรวมจะ ก่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้ฐานการผลิตเดียวกนั การขยายการส่งออก และโอกาสทางการคา้ สินคา้ เกษตรและบริการ เน่ืองจากอาเซียนจดั เป็ นตลาดใหญ่มีประชากรรวมกนั ถึง 580 ลา้ นคน ท้งั
25 ยงั เป็ นยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สาคญั และได้รับความสนใจจากประเทศคู่ค้าความตกลงเปิ ด การคา้ เสรี เหล่าน้ีส่งผลให้อาเซียนมีอานาจต่อรองในเวทีระดบั โลก ท้งั ในเวทีองคก์ ารการคา้ โลก (WTO) หรือการรวมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ(APEC)และท่ีสาคญั การรวมกลุ่มน้ียงั ไดช้ ่วย ยกระดบั ความเป็นอยปู่ ระชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียน จากการศึกษาระบุวา่ การรวมกลุ่ม AEC จะทาใหอ้ ตั ราการขยายตวั ทางเศรษฐกิจของสมาชิกอาเซียนเพ่ิมข้ึนเป็ น 8-10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และ เพ่ิมรายได้ท่ีแทจ้ ริงอีก 5.3 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็ นมูลค่า69,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแมว้ ่าการเปิ ด ตลาดภายใตก้ รอบอาเซียนจะสร้างประโยชน์ให้กบั ภาคการส่งออกแต่การเปิ ดประตูสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนในคร้ังน้ีก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสินคา้ เกษตรภายในประเทศไดเ้ ช่นเดียวกนั โดย การวิเคราะห์ศกั ยภาพพืชไร่บางชนิดของไทยกบั สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ดงั น้ี(สานกั งานเศรษฐกิจการเกษตร,2556) 7.1 ข้าว โดยประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศผสู้ ่งออกขา้ วอนั ดบั หน่ึงของโลกมีความ คาดหวงั การเปิ ดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนวา่ ทาใหภ้ าษีนาเขา้ ขา้ วของตลาดอาเซียนลดลงเป็ น 0 เปอร์เซ็นต์ ซ่ึงช่วยเปิ ดตลาดส่งออกขา้ วไทยไปยงั กลุ่มประเทศอาเซียนให้ไดม้ ากข้ึนแต่ในความ เป็ นจริงน้นั การลดภาษีนาเขา้ ขา้ วของประเทศสมาชิกอาเซียนไม่วา่ จะเป็ นอินโดนีเซียมาเลเซียและ ฟิ ลิปปิ นส์ ต่างก็กาหนดให้สินคา้ ขา้ วอยู่ในรายการสินคา้ ที่มีความอ่อนไหวสูงและยงั คงอตั ราภาษี นาเขา้ อยใู่ นระหวา่ ง 30-40 เปอร์เซ็นต์ รวมท้งั ไดม้ ีการใชม้ าตรการท่ีมีใช่ภาษีในการนาเขา้ ขา้ วดว้ ย นอกจากน้ีสินคา้ ขา้ วไทยยงั คงตอ้ งเผชิญกบั การแข่งขนั ทางราคากบั ประเทศคู่แขง่ ในอาเซียนดว้ ยกนั เองเช่นเวียดนามกมั พชู าและในอนาคตอาจจะเป็ นเมียนมาร์ซ่ึงมีตน้ ทุนในการผลิตขา้ วต่ากวา่ ไทย ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของการส่งออกขา้ วไทยในอาเซียนปรับลดลงโดยการศึกษาตลาดขา้ ว อาเซียนของศูนยศ์ ึกษาการคา้ ระหวา่ งประเทศ มหาวทิ ยาลยั หอการคา้ ไทยพบวา่ ในการส่งออกขา้ ว เวยี ดนามกบั ขา้ วไทยในตลาดอาเซียนระหว่างปี 2547-2551 ปรากฏวา่ ขา้ วไทยมีอตั ราการขยายตวั ลดลงเม่ือเทียบกบั ขา้ วเวียดนามนบั ต้งั แต่ปี 2548 เวียดนามส่งออกขา้ วไปยงั ตลาดอาเซียนมีการ ขยายตวั 94.2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มข้ึนเป็ น 67.5 เปอร์เซ็นตข์ ณะที่ไทยมีอตั ราการขยายตวั เพียง13.4 เปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งตลาดเพียง 31.1เปอร์เซ็นต์เท่าน้นั และหลงั จากน้นั เป็ นตน้ มาแมข้ า้ ว ไทยจะมียอดการส่งออกขา้ วในตลาดอาเซียนเพ่ิมมากข้ึน แต่ก็ยงั ไม่สามารถแยง่ ส่วนแบ่งตลาดขา้ ว จากเวยี ดนามไดโ้ ดยเฉพาะอยา่ งยิ่งขา้ วคุณภาพต่าเวียดนามมีราคาขายถูกกวา่ ขา้ วไทยมากเช่น ราคา ขา้ วขาว 5เปอร์เซ็นตข์ องไทยสูงกวา่ เวียดนามเฉลี่ย30 เหรียญสหรัฐต่อตนั และในปี 2552 ราคาขา้ ว ขาว 5เปอร์เซ็นตข์ องไทยสูงกวา่ เวียดนามถึง 123 เหรียญสหรัฐต่อตนั ซ่ึงสาเหตุที่ตน้ ทุนขา้ วไทยสูง กว่าขา้ วเวียดนามอาจจะมาจากนโยบายของรัฐบาลเช่นการรับจานาขา้ วที่สูงกว่าราคาตลาดโลก
26 จดั เป็ นการอุดหนุนชาวนาโดยตรงส่งผลทาใหข้ า้ วไทยไม่สามารถแข่งขนั ในตลาดอาเซียนได้ และ การที่ราคาขา้ วไทยสูงเกินความเป็ นจริง ซ่ึงเป็ นผลมาจากนโยบายรับจานาของรัฐบาล อาจจะทาให้ ขา้ วราคาถูกจากประเทศเพอ่ื นบา้ นเช่น กมั พชู าทะลกั เขา้ มาภายในประเทศผา่ นตามแนวชายแดนได้ 7.2 ข้าวโพดเลยี้ งสัตว์ สาหรับสถานการณ์ของขา้ วโพดเล้ียงสัตวใ์ นประเทศกค็ ือมีปริมาณไม่เพียงพอต่อ ความตอ้ งการใชภ้ ายในประเทศ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตวส์ ่งผลใหต้ อ้ งเปิ ด ให้มีการนาเขา้ ขา้ วโพดเล้ียงสัตวจ์ ากต่างประเทศจากการศึกษาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบวา่ ภายหลงั การเปิ ดเสรีในปี 2558 ที่อตั ราภาษีนาเขา้ ขา้ วโพดจะลดลงเป็ น 0 เปอร์เซ็นต์ จะมีการ นาเขา้ ขา้ วโพดเล้ียงสัตวจ์ ากประเทศสมาชิกอาเซียนเขา้ มาภายในประเทศเพ่ิมมากข้ึนแมว้ ่าการ นาเขา้ ข้าวโพดเล้ียงสัตว์ในระยะแรกน้ันจะยงั มีปริมาณไม่มากนักแต่ในระยะยาวมีการนาเข้า ขา้ วโพดเล้ียงสัตวจ์ ะเพิ่มปริมาณมากข้ึนซ่ึงเป็ นผลมาจากบริษทั ทางดา้ นปศุสัตวข์ องไทยเขา้ ไป ส่งเสริ มการลงทุนปลูกข้าวโพดเล้ียงสัตว์และพืชชนิดอ่ืนๆ10 รายการในลักษณะของ Contractfarmingภายใตโ้ ครงการความร่วมมือสาขาการเกษตรและอุตสาหกรรม ตามยุทธศาสตร์ ความร่ วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี–เจ้าพระยา–แม่โขง(Ayeyawady – ChaoPhraya- MekongEconomicCooperationStrategy : ACMECS) ระหว่างกมั พูชาลาว เมียนมาร์ ไทย และ เวียดนามโดยจะได้รับการยกเวน้ ภาษีนาเขา้ และไม่ตอ้ งมีใบรับรองแหล่งกาเนิดสินคา้ (Certicate oforigin : C/O)ซ่ึงเป็ นโครงการนาร่องอยแู่ ลว้ โดยพืชท้งั 10รายการน้นั ไดแ้ ก่ ถว่ั เหลือง ถว่ั ลิสง ขา้ วโพดเล้ียงสัตวล์ ะหุ่งมนั ฝร่ังขา้ วโพดหวานมะม่วงหิมพานต์ ยคู าลิปตสั ลูกเดือย และถว่ั เขียวผิว มนั ซ่ึงในอนาคตจะเขา้ มากดราคาสินคา้ เกษตรภายในประเทศเหมือนกบั ที่กาลงั เกิดข้ึนและการ นาเขา้ ขา้ วโพดเล้ียงสัตวจ์ ากกลุ่ม ACMECSอยใู่ นปัจจุบนั จนตอ้ งมีการกาหนดระยะเวลาการนาเขา้ ในที่สุดดงั แสดงในภาพที่ 1.16 ซ่ึงในปี 2556 กลุ่ม ACMECSไดม้ ีการกาหนดให้เปิ ดการนาเขา้ ขา้ วโพดเล้ียงสัตวจ์ านวน 200,000 ตนั (กรมการคา้ ตา่ งประเทศ, 2556)
27 ภาพท่ี 1.16ข้าวโพดเลยี้ งสัตว์มีปริมาณการผลติ ไม่เพยี งพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ 7.3 มนั สาปะหลงั โดยการเปิ ดเสรีทางการคา้ ภายใตป้ ระชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะส่งผลทางดา้ นบวก กบั สินคา้ เกษตรอยา่ งมนั สาปะหลงั เพียงรายการเดียว เนื่องจากไทยเป็ นประเทศท่ีมีศกั ยภาพในการ ผลิตและส่งออกผลิตภณั ฑม์ นั สาปะหลงั ไดม้ ากท่ีสุดในอาเซียนโดยไดค้ รองส่วนแบ่งทางการตลาด มากกวา่ ประเทศคู่แข่งอยา่ งเวยี ดนามและอินโดนีเซียค่อนขา้ งมาก ประกอบกบั ไทยมีตน้ ทุนในการ ผลิตมนั สาปะหลงั ต่อไร่ต่ากวา่ รวมท้งั การพฒั นาเทคโนโลยีการผลิตและการแปรรูปมนั สาปะหลงั ในรูปแบบต่างๆ ใหม้ ีความหลากหลายมากข้ึนไม่วา่ จะเป็ นโรงงานแป้ งมนั โรงงานแป้ งแปรรูปและ อุตสาหกรรมต่อเน่ืองอย่างไรก็ตามมูลค่าการส่งออกผลิตภณั ฑ์มนั สาปะหลงั ของไทยในปัจจุบนั ข้ึนอยกู่ บั การส่งออกมนั เส้นไปยงั ประเทศจีน โดยที่มนั เส้นไทยจะตอ้ งแข่งขนั ทางดา้ นราคากบั มนั เส้นจีนซ่ึงมีขอ้ ไดเ้ ปรียบอยตู่ รงที่เวยี ดนามน้นั ยงั ไม่สามารถผลิตมนั เส้นเพยี งพอต่อความตอ้ งการใช้ ในตลาดจีนได้ แต่สิ่งท่ีน่าเป็ นห่วงในอนาคตก็คือมนั เส้นเวียดนามได้มีการพฒั นาในเรื่องของ คุณภาพมากกว่ามนั เส้นไทย โดยเฉพาะอย่างย่ิงในเร่ืองของมนั เส้นสะอาดไดก้ ลายเป็ นประเด็น สาคญั ข้ึนมาในช่วง 1-2 ปี น้ี หลงั จากที่ผนู้ าเขา้ มนั เส้นจีนอาศยั เร่ืองของความสะอาดและสิ่งเจือปน มากดราคามนั เส้นไทย แต่ในทางกลบั กนั เม่ือรัฐบาลไทยกาหนดนโยบายรับจานามนั สาปะหลงั ภายในประเทศดว้ ยราคาท่ีสูงกว่าราคามนั สาปะหลงั ในตลาดโลกทาให้เกิดการลกั ลอบนาเขา้ มนั สาปะหลังตามแนวชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกัมพูชาเข้ามาสวมสิทธิจานามันสาปะหลัง ภายในประเทศ ซ่ึงเป็ นปัญหาต่อเน่ืองมาทุกปี แมว้ ่าปริมาณการนาเขา้ มนั สาปะหลงั จากประเทศ เพื่อนบา้ นจะยงั ไม่มากพอท่ีจะส่งผลกระทบกบั มนั สาปะหลงั ไทยก็ตามในปัจจุบนั เกษตรกรชาว กมั พชู าไดห้ นั ไปปลูกมนั สาปะหลงั เพม่ิ มากข้ึน ดงั แสดงในภาพที่ 1.17
28 ภาพที่ 1.17ประเทศไทยเป็ นประเทศทมี่ ีศักยภาพในการผลติ และส่งออกผลติ ภัณฑ์มันสาปะหลงั ได้มากทสี่ ุดในอาเซียน ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ 7.4 ถ่ัวเหลอื ง โดยปัจจุบนั ผลผลิตถวั่ เหลืองในไทยน้นั ยงั ผลิตไดไ้ มเ่ พียงพอต่อความตอ้ งการใช้ ภายในประเทศ เม่ือประเทศสมาชิกอาเซียนตอ้ งลดภาษีเป็ น 0เปอร์เซ็นต์ในปี 2553 ส่งผลทาให้ ผปู้ ระกอบการแปรรูปผลิตภณั ฑ์จากถว่ั เหลืองโดยเฉพาะอยา่ งย่ิงกลุ่มโรงงานผลิตน้ามนั ถวั่ เหลือง กบั โรงงานผลิตอาหารสัตวส์ ามารถนาเขา้ เมล็ดถวั่ เหลืองและกากถวั่ เหลืองไดใ้ นราคาที่ถูกลง ซ่ึงใน ระยะส้ันอาจจะยงั ไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผปู้ ลูกถว่ั เหลืองเนื่องจากรัฐบาลมีระบบการนาเขา้ ภายใตโ้ ควตาและบงั คบั ใหโ้ รงงานรับซ้ือเมลด็ ถว่ั เหลืองในราคาประกนั แตใ่ นระยะยาวอาจจะส่งผล กระทบให้จานวนเกษตรกรผปู้ ลูกถว่ั เหลืองลดลง เนื่องจากประเทศเพ่ือนบา้ นเช่น เวียดนามและ ลาวน้นั สามารถปลูกถว่ั เหลืองในพ้ืนท่ีทางตอนเหนือของประเทศได้ และยงั ใหผ้ ลผลิตต่อไร่สูงกวา่ ผลผลิตถวั่ เหลืองไทยหากประเทศเหล่าน้ีสามารถพฒั นาผลผลิตต่อไร่และตน้ ทุนการผลิตใหต้ ่ากวา่ ประเทศไทยจะยง่ิ มีเมลด็ ถวั่ เหลืองราคาถูกทะลกั เขา้ สู่ประเทศไทยมากข้ึน จนถูกกลุ่มอุตสาหกรรม ที่เกี่ยวขอ้ งกดราคารับซ้ือเมลด็ ถว่ั เหลืองจากเกษตรกรในที่สุดดงั แสดงในภาพท่ี 1.18 ภาพท่ี 1.18ถ่ัวเหลอื งมีปริมาณการผลติ ได้ไม่เพยี งพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ 7.5 ปาล์มนา้ มันและนา้ มันปาล์ม ปาลม์ น้ามนั ถือเป็นพชื เศรษฐกิจสาคญั อยา่ งหน่ึงของเกษตรกรของไทยโดยเฉพาะ ทางภาคใตร้ วมไปถึงยงั ส่งผลทาใหไ้ ทยมีจุดแข็งในดา้ นความมนั่ คงทางดา้ นอาหารประเภทน้ามนั โดยน้ามนั ปาล์มบริสุทธขิของไทยน้นั ถือไดว้ ่ามีมาตรฐานการผลิตท่ีสูงเมื่อเทียบกบั ประเทศผูผ้ ลิต ปาลม์ น้ามนั และน้ามนั ปาลม์ รายใหญข่ องโลกเน่ืองจากน้ามนั ปาลม์ บริสุทธขิของไทยเป็นน้ามนั ที่
29 มีลกั ษณะใสไม่มีตะกอนและไม่เป็ นไขสาหรับการเปิ ดตลาดสินคา้ น้ามนั ปาล์มตามขอ้ ตกลงเขต การคา้ เสรีอาเซียนน้นั จะส่งผลใหไ้ ทยตอ้ งปรับลดอตั ราภาษีนาเขา้ น้ามนั ปาล์มดิบและน้ามนั ปาล์ม บริสุทธขิเหลือเพียง5 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2556จากอตั ราภาษีภายใตข้ อ้ ผกู พนั สินคา้ เกษตรขององคก์ าร การคา้ โลกจากเดิมภาษีนาเขา้ ในโควตากาหนดอยทู่ ่ี 20 เปอร์เซ็นต์ หากเป็ นภาษีนอกโควตากาหนด อตั ราไวท้ ่ี 143 เปอร์เซ็นต์ อยา่ งไรก็ตามในปี 2548 ไดม้ ีการยกเลิกมาตรการโควตาภาษีแต่ไดห้ นั มา ใชม้ าตรการที่มิใช่ภาษีหรือ NTBs มาแทนดว้ ยการกาหนดให้องคก์ ารคลงั สินคา้ ในฐานะหน่วยงาน ของรัฐเป็ นผนู้ าเขา้ น้ามนั ปาล์มในอตั ราภาษี 0 เปอร์เซ็นต์ไดเ้ พียงหน่วยงานเดียวส่วนการปรับลด ภาษีนาเขา้ น้ามนั ปาลม์ ภายใตป้ ระชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2553 ท่ีจะตอ้ งปรับลดภาษีลงเหลือ 0 เปอร์เซ็นตป์ ระเทศไทยยงั คงสงวนการนาเขา้ ภายใตอ้ งคก์ ารคลงั สินคา้ เหมือนกบั การนาเขา้ ภายใต้ AFTA แต่ในทางปฏิบตั ิเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ามนั ปาล์มดิบในช่วง 1-2 ปี ท่ีผ่านมาน้นั รัฐบาลโดยองคก์ ารคลงั สินคา้ ไดน้ าเขา้ น้ามนั ปาล์มจากมาเลเซียเขา้ มาเป็ นระยะๆส่งผลกระทบต่อ เกษตรกรผผู้ ลิตปาลม์ น้ามนั อยา่ งชดั เจนเนื่องมาจากน้ามนั ปาลม์ ดิบจากประเทศเพื่อนบา้ นมีราคาถูก กวา่ น้ามนั ปาลม์ ดิบของไทย ซ่ึงอาจมีเหตุผลส่วนหน่ึงมาจากนโยบายของรัฐบาลที่ไดก้ าหนดราคา ประกนั ผลปาล์มทะลายให้กบั เกษตรกรภายในประเทศ ส่งผลทาให้ตน้ ทุนในการผลิตน้ามนั ปาล์ม ดิบของโรงงานสกดั น้ามนั ปาลม์ ดิบของไทยสูงกวา่ น้ามนั ปาล์มดิบจากมาเลเซียประกอบกบั การทา สวนปาลม์ ของไทยเป็ นระบบสวนขนาดเล็ก พนั ธุ์ปาล์มน้ามนั มีการพฒั นานอ้ ยกวา่ พนั ธุ์ปาลม์ ของ มาเลเซีย และตน้ ทุนการผลิตของประเทศไทยจึงสูงกวา่ ประเทศเพื่อนบา้ น ดงั น้นั การปรับลดภาษี นาเข้าน้ามันปาล์มจึงส่งผลกระทบการผลิตปาล์มน้ามนั และน้ามนั ปาล์มท้งั ระบบโดยเฉพาะ เกษตรกรผปู้ ลูกปาลม์ น้ามนั โรงสกดั น้ามนั ปาล์มดิบโรงกลน่ั น้ามนั ปาล์มบริสุทธขิและผบู้ ริโภคใน ประเทศในเร่ืองของการเผชิญกบั ปัญหาการขาดแคลนน้ามนั ปาลม์ บริสุทธขิมีราคาแพงเป็ นระยะๆ เน่ืองจากกระทรวงพาณิชยไ์ ดม้ ีนโยบายไม่ยอมให้น้ามนั ปาลม์ บริสุทธขิปรับข้ึนราคาตามตน้ ทุนการ ผลิตที่เพิ่มข้ึนได้นอกจากน้ีโอกาสท่ีไทยจะพฒั นาพนั ธุ์ปาล์มน้ามนั ให้แข่งขนั กับมาเลเซียและ อินโดนีเซียคงทาไดย้ ากข้ึนจึงกล่าวไดว้ า่ น้ามนั ปาล์มของไทยเป็ นสินคา้ ท่ีอยใู่ นภาวะเส่ียงเป็ นอยา่ ง ยง่ิ หากมีการปรับลดภาษีเป็น0 เปอร์เซ็นต์ และเปิ ดใหม้ ีการนาเขา้ ไดโ้ ดยเสรีดงั แสดงในภาพท่ี 1.19
30 ภาพท่ี 1.19ปาล์มนา้ มนั พชื เศรษฐกจิ สาคัญของเกษตรกรทางภาคใต้ ถ่ายภาพโดย สุพฒั ชัย กาบุญคา้ 7.6 กาแฟ โดยปัจจุบนั เมลด็ กาแฟดิบจากเวยี ดนามและลาวไดท้ ะลกั เขา้ สู่ประเทศไทยมากข้ึน หลงั จากกาหนดใหป้ ระเทศสมาชิกอาเซียนตอ้ งลดภาษีนาเขา้ เมล็ดกาแฟลงเหลือเพียง 5เปอร์เซ็นต์ ต้งั แต่ปี 2553และลดลงเหลือเพียง 0 เปอร์เซ็นต์ในปี 2558ก็จะยิ่งทาให้มีการนาเขา้ เมล็ดกาแฟจาก ประเทศเพื่อนบา้ นเพิ่มข้ึนโดยเฉพาะอยา่ งยิง่ เมล็ดกาแฟดิบพนั ธุ์อาราบิกา้ ท่ีใหผ้ ลผลิตและคุณภาพ ดีกวา่ กาแฟไทยซ่ึงส่วนใหญ่เป็ นกาแฟพนั ธุ์โรบสั ตา้ เพาะปลูกในภาคใตข้ องประเทศ และประกอบ กบั เวียดนามมีผลผลิตเมล็ดกาแฟดิบเพ่ิมมากข้ึนทุกปี ในขณะที่ไทยมีผลผลิตเมล็ดกาแฟดิบไม่ เพยี งพอต่อความตอ้ งการในประเทศท้งั ของโรงงานคว่ั บดและอุตสาหกรรมท่ีเก่ียวขอ้ งอีกท้งั ตน้ ทุน ในการปลูกกาแฟของเวียดนามต่ากว่าไทย ส่วนใหญ่แลว้ เป็ นตน้ ทุนการจา้ งแรงงานเก็บเกี่ยวการ ดูแลรักษา ป๋ ุยเคมี สารเคมีป้ องกนั ศตั รูพืช และค่าน้ามนั เช้ือเพลิง จึงเชื่อไดว้ า่ หลงั การเปิ ดเสรีในปี 2558 เมล็ดกาแฟไทยจะไม่สามารถแข่งขนั กบั กาแฟเวียดนามและลาวได้ ในการเตรียมตวั ของ ภาคเอกชนของไทยขณะน้ีไดเ้ ร่ิมมีการเขา้ ไปลงทุนปลูกกาแฟในประเทศลาวเพ่ิมข้ึนโดยเฉพาะ กาแฟสายพนั ธุ์อาราบิกา้ จากท่ีราบสูงโบลาเวน เมืองปากซอง ประเทศลาว เป็ นกาแฟท่ีไดช้ ่ือวา่ มี รสชาติยอดเย่ียมระดบั โลก ซ่ึงการันตีไดจ้ ากการติดอนั ดบั 1 ใน 3 ของกาแฟที่ส่งเขา้ ประกวดจาก ทวั่ โลก นกั ธุรกิจของไทยไดม้ ีการวางแผนเขา้ ไปลงทุนเช่าที่ดินบนที่ราบสูงโบลาเวนสาหรับปลูก กาแฟอาราบิก้าเพ่ือนากลบั เขา้ มาขายในประเทศไทยท้งั น้ีเน่ืองจากท่ีราบสูงโบลาเวนไดร้ ับการ พิสูจน์แลว้ วา่ เป็ นพ้ืนที่เหมาะแก่สาหรับการปลูกกาแฟมากท่ีสุดใน ซ่ึงการผลิตกาแฟของไทยก็มี สภาพของพ้ืนท่ีเหมาะต่อการปลูกกาแฟและมีคุณภาพในระดบั โลกเช่นเดียวกนั เช่น กาแฟดอยตุง อาเภอแม่ฟ้ าหลวง กาแฟดอยชา้ ง อาเภอแมส่ รวยจงั หวดั เชียงราย ดงั แสดงในภาพที่ 1.20
31 ภาพที่ 1.20ต้นกาแฟพนั ธ์ุอราบกิ ้า ถ่ายภาพโดย อนันต์ (2551) 8. ความสามารถในการแข่งขันสินค้าเกษตรของไทยในตลาดอาเซียน และตลาดโลก ความสามารถในการแข่งขนั สินคา้ เกษตรของไทยท้งั ในตลาดอาเซียนและตลาดโลกโดย การพิจารณาจาก2 ปัจจยั หลกั คือปัจจยั ที่สร้างความน่าสนใจให้กบั สินคา้ น้นั (Attractiveness factors) และปัจจยั ดา้ นการแข่งขนั ของแต่ละสินคา้ (Competitiveness factors)เพ่ือใหท้ ราบถึง ตาแหน่งของสินคา้ และกาหนดแนวทางในการพฒั นาที่สอดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพของสินคา้ ดงั แสดง ในตารางท่ี 1.2 ตารางท่ี 1.2 แสดงศักยภาพการแข่งขันสินค้าเกษตรทส่ี าคัญในตลาดอาเซียนและตลาดโลก ตาแหน่ง สินค้าตลาดอาเซียน สินค้าตลาดโลก 1. ดาวรุ่ง (Star) เป็นสินคา้ ท่ีไทยเป็นประเทศผผู้ ลิตและส่งออกราย 1.1สับปะรดกระป๋ อง 1.1 สับปะรด ใหญท่ ่ีสุดในอาเซียนความตอ้ งการสินคา้ ในตลาด และน้าสบั ปะรด กระป๋ องและน้า อาเซียนอยใู่ นระดบั สูงซ่ึงพิจารณาจากอตั ราการ 1.2 ออ้ ยโรงงาน สับปะรด ขยายตวั ในการนาเขา้ สินคา้ ของประเทศในอาเซียน (น้าตาลทราย) และพิจารณาความสามารถในการแข่งขนั ซ่ึงอยใู่ น ระดบั สูงเมื่อเทียบกบั คู่แข่ง 2. โอกาส (Opportunity) เป็นสินคา้ ท่ีมีอนาคตเน่ืองจากมีความตอ้ งการ 2.1 มนั สาปะหลงั 2.1 ขา้ ว ทางการตลาดสูงและมีศกั ยภาพในการสร้างรายได้ 2.2 กาแฟสาเร็จรูป 2.2 มนั สาปะหลงั แต่มีขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ปานกลาง 2.3 ออ้ ยโรงงาน
32 โดยมีปัญหาท่ีเกิดจากห่วงโซ่มลู ค่าในบางส่วน 3.1 สบั ปะรดสด (น้าตาลทราย) 3. คลน่ื ลูกใหม่ (New wave) 3.1 ขา้ วโพดเล้ียง เป็นสินคา้ ที่ตลาดมีความตอ้ งการสูงแต่มีขีด 4.1 ยางพารา สัตว์ (Grain) ความสามารถในการแข่งขนั อยใู่ นระดบั ต่าในทุกๆ ดา้ นของห่วงโซ่มลู ค่าตอ้ งมีการพฒั นาหรือปรับตวั 5.1 ขา้ ว 4.1 ยางพารา ใหส้ ามารถแขง่ ขนั ไดด้ ีข้ึน 5.2 ไหม 4. ดาวตก (Falling star) 5.3 ขา้ วโพดเล้ียงสตั ว์ 5.1 ไหม เป็นสินคา้ ท่ีมีความตอ้ งการทางการตลาดต่าแต่มี (Grain) ความสามารถในการแข่งขนั อยใู่ นเกณฑด์ ีทุกส่วน 5.4 ขา้ วโพดเล้ียงสัตว์ 6.1 ขา้ วโพด ของห่วงโซ่มูลคา่ จึงตอ้ งพฒั นาและเพิม่ ช่องทาง (Seed) เล้ียงสตั ว์ (Seed) การตลาดเพื่อปรับตวั ใหอ้ ยรู่ อดหรือปรับเปลี่ยน 6.1 เมลด็ กาแฟ 6.1 สบั ปะรดสด การผลิต 6.2 ปาลม์ น้ามนั 5. ไม่ชัดเจน (Question mark) 6.3 มะพร้าว เป็นสินคา้ ท่ีมีความตอ้ งการทางการตลาดต่า แมจ้ ะมีความสามารถในการแข่งขนั อยใู่ นเกณฑ์ ปานกลางเพราะมีปัญหาที่เกิดจากห่วงโซ่มลู คา่ บางส่วนจาเป็นตอ้ งปรับตวั ใหอ้ ยรู่ อดหรือ ปรับเปล่ียนการผลิต 6. มปี ัญหา (Trouble) เป็นสินคา้ ที่มีความตอ้ งการของตลาดและ ความสามารถในการแข่งขนั ในระดบั ต่า ท่ีมา : สานกั งานเศรษฐกิจการเกษตร (2556) จากตารางท่ี 1.2 แสดงศกั ยภาพการแข่งขนั สินคา้ เกษตรท่ีสาคญั ในตลาดอาเซียนและตลาด โลก โดยสินคา้ เกษตรที่เป็ นดาวรุ่งในตลาดอาเซียนไดแ้ ก่ สับปะรดกระป๋ องและน้าสับปะรด ออ้ ย โรงงาน(น้าตาลทราย)และในตลาดโลกไดแ้ ก่ สับปะรดกระป๋ อง และน้าสับปะรด สินคา้ เกษตรที่ เป็ นโอกาสในตลาดอาเซียนไดแ้ ก่ มนั สาปะหลงั กาแฟสาเร็จรูปในตลาดโลกไดแ้ ก่มนั สาปะหลงั ขา้ วออ้ ยโรงงาน(น้าตาลทราย)สินคา้ เกษตรท่ีเป็ นคล่ืนลูกใหม่ในตลาดอาเซียนไดแ้ ก่ สับปะรดสด
33 และในตลาดโลกไดแ้ ก่ขา้ วโพดเล้ียงสัตว(์ Grain)สินคา้ เกษตรท่ีเป็ นดาวตกท้งั ในตลาดอาเซียนและ ในตลาดโลกได้แก่ยางพารา สินค้าเกษตรที่ไม่ชัดเจนในตลาดอาเซียนได้แก่ข้าวโพดเล้ียงสัตว์ (Grain) ไหม ขา้ วและในตลาดโลกไดแ้ ก่ ไหม สินคา้ เกษตรที่เป็ นปัญหาในตลาดอาเซียนไดแ้ ก่ เมล็ดกาแฟปาลม์ น้ามนั มะพร้าวและในตลาดโลกไดแ้ ก่ ขา้ วโพดเล้ียงสตั ว(์ Seed)และสบั ปะรดสด ดงั น้นั เพ่อื ใหส้ ินคา้ เกษตรของไทยสามารถแข่งขนั ไดใ้ นตลาดอาเซียนและในตลาดโลกน้นั ไทยจาเป็ น ตอ้ งมีมาตรการลดตน้ ทุนการผลิตเน้นผลิตสินคา้ เกษตรท่ีมีคุณภาพ มาตรฐาน พฒั นาการผลิตสินคา้ เกษตรให้สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผบู้ ริโภคและส่งเสริมให้มีการแปรรูปเป็ นผลิตภณั ฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพม่ิ รวมท้งั สร้างนวตั กรรมใหมๆ่ เพอ่ื ขยายตลาดและพฒั นาระบบโลจิสติกส์ใหด้ ีข้ึน
34
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: