อิทธิพลของเทศกาลและพิธีกรรมพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทย ตำบลกาบเชิง

ก เรื่อง อิทธิพลของเทศกาลและพิธีกรรมพระพทุ ธศาสนาตอ่ สงั คมไทย ของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ จดั ทาโดย พระมหาวรี ะชยั ขนฺติธมฺโม บุญเยย่ี มจิตร 6409501040 คณะพทุ ธศาสตรบณั ฑิต ปี 2 พิธีกรรมน้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาตามหลกั สูตรระดบั ปริญญาตรี คณะพุทธศาสตรบณั ฑิต สาขาวชิ าพระพุทธศาสนา ภาคศึกษาปี ที่ ๒ การศึกษาปี ๒๕๖๕ มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลยั วิทยาเขตสุรินทร์

ก คำนำ รายงานน้ีเป็ นส่วนหน่ึงของการศึกษาตามหลกั สูตรระดับปริญญาตรี คณะพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา ภาคเรียนปี ที่ ๒ การศึกษาปี ๒๕๖๕ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลยั วิทยาเขตสุรินทร์ ซ่ึงไดจ้ ดั ทาข้ึนเพื่อศึกษาเกี่ยวกบั พิธีกรรมประเพณีต่างๆ ของตาบลกาบเชิง อาเภอกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ เพอื่ เป็นแนวทางของการศึกษาหาความรู้ และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชแ้ ละบอกต่อแก่คนรุ่น หลงั ได้ เพ่ือที่จะดารงไวซ้ ่ึงพิธีกรรมประเพณีอนั เก่าแก่ และดารงไวซ้ ่ึงขนบธรรมเนียมดั่งเดิมไม่ให้สูญ หายไป ซ่ึงพิธีกรรมในบทน้ีไดม้ ีคนเคยศึกษามาก่อนแลว้ คือ คณะอาจารยแ์ ละนกั เรียนโรงเรียนปราสาทเบง วิทยา ท่ีไดท้ าเป็น อีบุ๊ค ไว้ ซ่ึงเน้ือหาส่วนหน่ึงก็มาจากที่น้นั และหวงั ว่าผูท้ ี่ไดเ้ ขา้ มาอ่านมาศึกษาเน้ือหาใน บทน้ี จะไดค้ วามรู้ความเขา้ ใจไปไม่มากก็นอ้ ย หรือถา้ หากเน้ือหาในบทน้ีผิดพลาดประการใด ก็ตอ้ งขอโทษ ขออภยั มา ณ โอกาสน้ีดว้ ย รวบรวมโดย พระมหาวรี ะชยั ขนฺติธมฺโม คณะพุทธศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา นิสิตปี ท่ี ๒ รหสั ๖๔๐๙๕๐๑๐๔๐

ข สารบัญ เร่อื ง หน้า คำนำ ก สำรบญั ข เรื่อง อิทธิพลของเทศกาลและพธิ ีกรรมพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทย ของอาเภอกาบเชิง ๑ ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๑. ความนา ๒ ๒. ดา้ นความเช่ือและจิตใจของคนอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๒ ๓. ดา้ นวฒั นธรรมและประเพณีทางพระพทุ ธศาสนาของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๓ ๔. ดา้ นสงั คมและการปกครองของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๔ ๕. ดา้ นเศรษฐกิจของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๕ ๖. ดา้ นการศึกษาของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๖ ๗. ดา้ นส่ิงแวดลอ้ มของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๖ ๗ สรุปทา้ ยบท

1 เรื่อง อทิ ธิพลของเทศกำลและพธิ ีกรรมพระพทุ ธศำสนำต่อสังคมไทย ของอำเภอกำบเชิง ตำบลกำบเชิง จังหวัดสุรินทร์ มเี นื้อหำสำระ ดังต่อไปนี้ ๑. ความนา ๒. ดา้ นความเช่ือและจิตใจของคนอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๓. ดา้ นวฒั นธรรมและประเพณีทางพระพทุ ธศาสนาของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๔. ดา้ นสังคมและการปกครองของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๕. ดา้ นเศรษฐกิจของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๖. ดา้ นการศึกษาของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ ๗. ดา้ นสิ่งแวดลอ้ มของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ สรุปทา้ ยบท มีขอบขา่ ยเน้ือหา ดงั น้ี คือ * ดา้ นความเช่ือและจิตใจ * ดา้ นวฒั นธรรมและประเพณีทางพระพุทธศาสนา * ดา้ นสงั คมและการปกครอง * ดา้ นเศรษฐกิจ * ดา้ นการศึกษา * ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม

2 ๑. ควำมนำ เทศกาลและพธิ ีกรรมทางพระพุทธศาสนาน้นั มีมากมาย ซ่ึงแต่ละสถานท่ีน้นั ก็จะแตกต่างกนั ออกไป อีก ไม่ว่าจะเป็ นอิทธิพลหรือความเชื่อน้ันก็จะแตกต่างกนั ออกไป หรือพิธีกรรมเดียวกนั แต่วิธีปฏิบัติน้ัน กลบั แตกต่างกันออกไป ซ่ึงคาว่า พิธีกรรมน้ันโดยทว่ั ไปผูค้ นมกั จะเขา้ ใจกันว่าเป็ นเรื่องที่มีระเบียบการ ปฏิบตั ิอย่างเคร่งครัดประการหน่ึงหรือเขา้ ใจกนั วา่ เป็นเร่ืองของการปฏิบตั ิต่อส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิทางศาสนา ซ่ึงคา ว่า พิธีกรรม น้ันจาแนกออกเป็ น ๒ คา คือ คาว่า พิธี และคาว่า กรรม ซ่ึงคาว่า พิธี น้ันเป็ นคานาม หมายถึง งานท่ีจดั ข้ึน ตามลทั ธิความเช่ือ ตามขนบธรรมเนียมความขลงั หรือความเป็นสิริมงคล เช่น พระราช พิธีจรดพระนงั คลั แรกนาขวญั พิธีมงคลสมรส พิธีประสาทปริญญา แบบอยา่ งธรรมเนียม เช่น พิธี ทาใหถ้ ูก พธิ ี การกาหนด เช่น ก็อยจู่ นสิ้นชนมายุ ส่วนคาวา่ กรรม น้นั เป็นคานามเช่นกนั หมายถึง การงาน การกระทา เมื่อนามาประกอบกนั เป็นคาวา่ พธิ ีกรรม ซ่ึงมีความหมายวา่ การบูชา แบบอยา่ ง หรือแบบแผน แตเ่ มื่อกล่าว โดยสรุปตามความหมายในภาษาไทย คาวา่ พธิ ีกรรม น้นั หมายถึง แนวทาง หรือวธิ ีทางานพธิ ีตา่ งๆ ตามที่ได้ กาหนดไวใ้ หถ้ ูกตอ้ ง ซ่ึงกล่าวโดยสรุปแลว้ การที่เราไดศ้ ึกษาเน้ือหาเก่ียวกบั เทศกาลและพิธีกรรมต่างๆแลว้ ก็จะทาให้รู้ ถึงความเช่ือ จิตใจ วฒั นธรรม ประเพณี ดา้ นสังคมและการปกครอง หรือดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นการศึกษา หรือ แมแ้ ตด่ า้ นสิ่งแวดลอ้ ม ของสงั คมน้นั ๆได้ ๒. ด้ำนควำมเช่ือและจติ ใจของคนในชุมชน ความเช่ือของคนในชุมชนน้นั ไดจ้ าแนกออกเป็น ๒ ประการใหญ่ คือ เชื่อในเรื่องบาปและบุญ ๑ เชื่อในพธิ ีกรรม ๑ ๑. เชื่อในเรื่องบาปและบุญ คือ คือคนในชุมชนน้นั เช่ือวา่ ทาดีไดด้ ี ทาชวั่ ไดช้ วั่ ใครทาคนน้นั ก็ได้ ข้ึนอยู่ กบั วา่ จะไดร้ ับผลแห่งกรรมน้นั ตอนใหน ๒. เช่ือในพิธีกรรม คือ เช่ือว่าเม่ือประกอบพิธีกรรมต่างๆ ตามความเช่ือในสมยั โบราณแลว้ จะทาใหช้ ี วิตดี ข้ึน เช่น พิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ จะทาให้แคลว้ คลาดปรอดภยั จากส่ิงเลวร้ายท้งั ปวง พิธีกรรมบวงสรวง ปราสาทเบง เพ่ือขอใหฟ้ ้าฝนตกตอ้ งตามฤดูกาล เป็นตน้ ส่วนดา้ นจิตใจของคนในชุมชนน้นั ลว้ นมีพระพุทธศาสนาเป็นท่ีพ่งึ ทางจิตใจท้งั สิ้น เพราะเชื่อในคา สอนที่พระพุทธเจา้ ไดต้ รัส หรือบญั ญตั ิไว้ ซ่ึงเมื่อไดศ้ ึกษาและปฏิบตั ิตามแลว้ ก็จะทาให้จิตใจน้นั สงบ และ ปลอยวางลงไดช้ วั่ ขณะ

3 ๓. ด้ำนวัฒนธรรมประเพณีทำงพระพทุ ธศำสนำ วฒั นธรรมประเพณีของตาบลกาบเชิง อาเภอกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์ มีมากแต่จะขอยกมาเพยี ง ๑ หวั ขอ้ ใหญ่ คอื พธิ ีบวงสรวงปราสาทเบง พิธีกรรมบวงสรวงปราสาทเบงเกิดจากความเชื่อความศรัทธาของคนในชุมชนชาวบา้ นปราสาทเบง ที่มีความเช่ือในพิธีกรรมบวงสรวงประสาทเบงวา่ เป็ นโบราณสถานอนั ศกั ด์ิสิทธ์ิ ซ่ึงการประกอบพิธีกรรม บวงสรวงในแต่ละปี จะทาใหอ้ ยู่เยน็ เป็นสุขประกอบการใดๆก็จะสาเร็จลุล่วงเจริญรุ่งเรือง ซ่ึงพิธีกรรมน้ีจะ จดั ข้นึ ในเดือนมีนาคมของทกุ ปี เนื่องจากในช่วงเดือนมีนาคมเป็นเดือนที่คนส่วนใหญ่ในชุมชนวา่ งงาน เมื่อมี พิธีกรรมบวงสรวงก็จะมาร่วมงานเป็นจานวนมาก ซ่ึงพธิ ีกรรมบวงสรวงปราสาทเบงถือเป็นประเพณีทอ้ งถ่ิน ของคนในชุมชน และไดอ้ นุรักษไ์ วเ้ พื่อสืบสานใหล้ ูกหลานรุ่นหลงั ต่อๆไป พิธีกรรมบวงสรวงปราสาทเบง น้นั ใชก้ ารแสดงโดยการราของนาฏศิลป์ ไทยและนาฏศิลป์ พ้ืนบา้ นอีสานใต้ ใชด้ นตรีไทยและดนตรีพ้นื เมือง ในการบรรเลง นอกจากน้ียงั มีการแสดงละครมหรสพโดยชาวบา้ นและหน่วยงานต่างๆ ร่วมมือกนั ไม่ว่าจะ เป็ นวดั บา้ น โรงเรียนท่ีอยู่ในชุมชน ซ่ึงมกั จะใชเ้ รื่องราวเกี่ยวกบั เวสสันดรชาดก มาเป็ นเร่ืองราวในการ แสดง พธิ ีกรรมบวงสรวงปราสาทเบงของคนในชุมชนหลงั จากวนั ที่การบวงสรวงเซ่นไหวป้ ราสาทเรียบร้อย แลว้ วนั รุ่งข้ึนชาวบา้ นในชุมชนจะไปทาบุญท่ีวดั บา้ นปราสาทเบง ซ่ึงเป็นการทาบญุ อุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่ ญาติพ่ีน้องบรรพบุรุษเพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อผูท้ ี่ล่วงลับไปแล้ว และระลึกถึงเทวดาอารักษ์สิ่ง ศกั ด์ิสิทธ์ิท่ีคอยปกปักรักษาชุมชนใหอ้ ยเู่ ยน็ เป็นสุข

4 ๔. ด้ำนสังคมและกำรปกครองของอำเภอกำบเชิง ตำบลกำบเชิง จังหวดั สุรินทร์ ๔.๑ สภำพสังคม บา้ นกาบเชิง มีการต้งั ถ่ินฐานมากว่า 200 ปี มาแลว้ เป็ นหมู่บา้ นที่ติดอยู่แนวชายแดนไทย-กมั พูชา โดยในช่วงแรกข้ึนกบั ตาบลด่าน อาเภอสังขะ จงั หวดั สุรินทร์ ต่อมา พ.ศ.2480 โอนไปอยู่ในการปกครอง ของตาบลหนองใหญ่ อาเภอปราสาท จงั หวดั สุรินทร์ และ พ.ศ.2506 โอนมาอยู่ในการปกครองของตาบล กาบเชิง อาเภอปราสาท ๔.๒ กำรปกครอง บา้ นกาบเชิง ไดร้ ับการจดั ต้งั เป็นกิ่งอาเภอกาบเชิง เมื่อวนั ท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ.2518 โดยมีตาบลใน ปกครอง 2 ตาบล ไดแ้ ก่ ตาบลกาบเชิง และตาบลบกั ได พ.ศ.2519 ไดแ้ ยกตาบลโคกกลางออกจากตาบลบกั ไดจึงทาใหม้ ีตาบลในปกครองเพิ่มข้ึนเป็น 3 ตาบล พ.ศ.2520 ไดร้ ับโอนตาบลคูตนั และตาบลด่าน จากอาเภอ สังขะมาอยู่ในการปกครองก่ิงอาเภอกาบเชิง ต่อมาวนั ที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2522 ไดร้ ับการยกฐานะเป็นอาเภอ กาบเชิง

5 ๕. ด้ำนเศรษฐกจิ ของอำเภอกำบเชิง ตำบลกำบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ดา้ นเศรษฐกิจของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์น้ัน ไดจ้ าแนกออกเป็น ๒ ประเภท คือ อาชีพหลกั และอาชีพรอง อาชีพหลกั ไดแ้ ก่ เกษตรกรรม คือ การทานา ปลูกมนั ปลูกออ้ ย หรือปลูก พืชผกั สวนครัว เป็ นตน้ (ร้อยละ 33.49) ส่วนอาชีพรองน้นั ไดแ้ ก่การรับจา้ งทวั่ ไป (ร้อยละ 24.86) กาลงั ศึกษา (ร้อยละ 26.31), รับราชการ (ร้อยละ 3.20), คา้ ขาย (ร้อยละ3.04), และประกอบอาชีพอ่ืนๆอีก (ร้อยละ 2.62)

6 ๖. ด้ำนกำรศึกษำของอำเภอกำบเชิง ตำบลกำบเชิง จงั หวัดสุรินทร์ การศึกษาของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์น้นั ไดแ้ ผ่ขยายไปตามแต่ละโรงเรียนซ่ึง แต่ละโรงเรียนน้ันก็ไดม้ ีการจดั การเรียนการสอนที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ยงั มีหน่วยงานท่ีรับผิดชอบ เก่ียวกบั การศึกษาอยู่ เรียกว่า กองการศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ซ่ึงกองการศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม น้ัน มีหน้าท่ีรับผิดชอบเก่ียวกับการบริหารศึกษาและพฒั นาการศึกษา ท้ังการศึกษาในระบบการศึกษา การศึกษานอกระบบการศึกษาและการศึกษาตามอธั ยาศยั เช่น การจัดการศึกษาปฐมวยั อนุบาลศึกษา ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาและอาชีวศึกษา งานฝึ กและส่งเสริมอาชีพ งานหอ้ งสมุด พิพิธภณั ฑแ์ ละเครือข่าย ทางการศึกษา งานกิจการศาสนา ส่งเสริมประเพณี ศิลปะวฒั นธรรม งานกีฬาและนนั ทนาการ งานกิจกรรม เด็กเยาวชนและการศึกษานอกโรงเรียน และงานอื่น ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งตามที่ไดร้ ับมอบหมาย กองกำรศึกษำศำสนำและวฒั นธรรม แบ่งส่วนรำชกำรภำยใน ดังนี้ ๑) งำนส่งเสริมกำรศึกษำ มหี น้ำท่รี ับผิดชอบเกยี่ วกบั งานขอ้ มูลการศึกษา งานวิชาการและส่งเสริมการศึกษา งานประสานกิจกรรมการศึกษา การพฒั นา ระบบการศึกษาในทอ้ งถิ่น งานติดตามและประเมินผล 2) งำนศูนย์พฒั นำเด็กเลก็ ก่อนวยั เรียน มีหน้ำที่รับผิดชอบเกย่ี วกบั งานขอ้ มูลการพฒั นาเด็กเล็กก่อนวยั เรียน งานวิชาการและส่งเสริมพฒั นาการเด็กเล็กก่อนวยั เรียน งานกิจกรรมศูนยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ ก่อนวยั เรียน 3) งำนส่งเสริมกำรศำสนำและวฒั นธรรม มหี น้ำที่รับผิดชอบเกยี่ วกบั งานส่งเสริมและสนับสนุนศาสนากิจและกิจกรรมท่ีเก่ียวขอ้ งกบั วฒั นธรรมประเพณีของไทยและ ทอ้ งถิ่น งานส่งเสริมการอนุรักษแ์ ละฟ้ื นฟศู ิลปวฒั นธรรมประเพณีของไทยและทอ้ งถิ่น 4) งำนสันทนำกำรและกำรกฬี ำ มีหน้ำทร่ี ับผิดชอบเกยี่ วกบั งานการสนั ทนาการ งานส่งเสริมการกีฬา ๗. ด้ำนสิ่งแวดล้อมของอำเภอกำบเชิง ตำบลกำบเชิง จังหวัดสุรินทร์ สภาพแวดลอ้ มของอาเภอกาบเชิง ตาบลกาบเชิง จงั หวดั สุรินทร์น้นั เป็ นสถานท่ีที่อุดมสมบูรณ์ไปดว้ ย ส่ิงแวดลอ้ ม เพราะวา่ ยงั ไม่มีส่ิงก่อสร้างมากนกั และอาเภอกาบเชิง ยงั เป็นแหล่งอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม และการบริหารจดั การขยะมลู ฝอย และไดร้ ับรางวลั หลายรางวลั ที่สาคญั เช่น รางวลั รองชนะเลิศระดบั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ เป็นตน้ และสถานที่ทอ่ งเที่ยวของอาเภอกาบเชิงท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ ตลาดการคา้ ช่องจอม ซ่ึง เป็ นตลาดขายสินคา้ มือสองที่ใหญ่ท่ีสุดในภูมิภาคน้ี ส่วนแหล่งท่องเท่ียวเชิงนิเวศ ประกอบดว้ ย ผามะนาว ช่อง

7 ปลดต่าง ผาจาเนียง ทมอโรย ทมอตนั ยู ช่องคอโค ตน้ ไมใ้ หญ่จนั ผา อ่างเก็บน้าตาเกาว์ เขตรักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ าหว้ ย ทบั ทนั หว้ ยสาราญ ป่ าอนุรักษแ์ หล่งตน้ น้าท่ีอุดมสมบูรณ์ มีจุดผา่ นแดนถาวรช่องจอมและเป็นหนา้ ด่านของอีสาน ใต้ เป็ นตน้ และท่ีอาเภอกาบเชิงน้นั ยงั มีการจดั โครงการประชารัฐร่วมใจ ปลูกตน้ ไมใ้ ห้แผ่นดิน เยาวชนรักษ์ สิ่งแวดลอ้ ม เม่ือวนั ท่ี 1 ส.ค. 2561 เวลา 13:30 น. นางบุษราภรณ์ ทวเี กิด ไดร้ ับมอบหมายจาก นายโอฬาร อยกู่ าญ จนเศรษฐ นายกเทศมนตรีตาบลกาบเชิง ไดก้ ล่าวปิ ดโครงการประชารัฐร่วมใจ ปลูกตน้ ไมใ้ หแ้ ผน่ ดิน ปี พ.ศ.2561 \"เยาวชนรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม\" โดยมี พ.ต.ท.คานวณ บ่ายกระโทก (ไดร้ ับมอบหมายจาก ผกก.สภ.กาบเชิง พ.ต.อ.จุล ฑะ จนั ทน) เป็ นประธานในพิธี, โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในพ้ืนที่ ร่วมกนั ปลูกป่ าดงั กล่าว โดยมีวตั ถุประสงค์ เพ่ือถวายเป็นพระราชกุศล เน่ืองในวนั เฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพ ยวรางกรู รัชกาลท่ี 10 และเป็นการปลกู ฝังจิตสานึกใหป้ ระชาชนในทอ้ งถ่ิน ใหร้ ู้สึกรักและหวงแหน ช่วยกนั รักษา ป่ า ณ ป่ าสะดากอง บา้ นโคกลางสามคั คี ม.5 ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ สรุปท้ำยบท คนอาเภอกาบเชิงน้นั มีความเชื่ออยู่ ๒ รูปแบบใหญ่ คือ ๑ เช่ือในเร่ืองบาปและบุญ ใครทาคนน้ันก็ ได้ ๒ เชื่อในพิธีกรรม คือ เช่ือวา่ เมื่อประกอบพิธีกรรมต่างๆ ตามความเชื่อในสมยั โบราณแลว้ จะทาใหช้ ีวติ ดีข้ึน เช่น พิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ เป็นตน้ ส่วนดา้ นจิตใจน้ันคือ คนอาเภอกาบเชิงลว้ นมีพระพุทธศาสนา เป็นที่พ่ึงทางจิตใจกนั ท้งั น้นั พิธีบวงสรวงปราสาทเบงน้นั จดั ข้ึนเพื่อออ้ นวอนต่อส่ิงศกั ด์ิ ให้ฟ้าฝนน้ันตกตอ้ งตามฤดูกาล เมื่อ บวงสรวงเซ่นไหวป้ ราสาทเรียบร้อยแลว้ วนั รุ่งข้ึนชาวบา้ นในชุมชนจะไปทาบุญท่ีวดั บา้ นปราสาทเบง ซ่ึง เป็ นการทาบุญอุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่ญาติพี่นอ้ งบรรพบุรุษเพ่ือแสดงความกตญั ญูรู้คุณต่อผูท้ ่ีล่วงลบั ไป แลว้ และระลึกถึงเทวดาอารักษส์ ิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิท่ีคอยปกปักรักษาชุมชนใหอ้ ยเู่ ยน็ เป็นสุข ด้านส่ิงแวดล้อมน้ัน คือ เป็ นสถานท่ีท่ีอุดมสมบูรณ์ และอาเภอกาบเชิง ยังเป็ นแหล่งอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม และการบริหารจดั การขยะมูลฝอยและสถานที่ท่องเท่ียวของอาเภอกาบเชิงที่ สาคญั ไดแ้ ก่ ตลาดการคา้ ช่องจอม ซ่ึงเป็นตลาดขายสินคา้ มือสองที่ใหญ่ท่ีสุดในภูมิภาคน้ี ส่วนแหล่งท่องเท่ียวเชิง นิเวศ ประกอบดว้ ย ผามะนาว ช่องปลดต่าง ผาจาเนียง ทมอโรย และทมอตนั ยู เป็นตน้