Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่อง ระบบสืบพันธุ์

เรื่อง ระบบสืบพันธุ์

Published by Teerapon Max Chaiya, 2021-06-29 05:32:50

Description: ระบบต่างๆในร่างกาย

Search

Read the Text Version

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ืองระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ ระบบสืบพนั ธ์ุ วชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา พ 1.1 ป. 6/1 ชน้ั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 นายยงยุทธ จนั ทวงษ์ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ โรงเรียนวดั แป้นทอง(สามวาวทิ ยา) สํานักงานเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร

บตั รความรู้ที่ 1 ระบบสืบพนั ธ์ุ ระบบสืบพนั ธุ์เป็นระบบท่ีทาหนา้ ที่เก่ียวกบั การสืบพนั ธุ์ การสืบพนั ธุ์ เป็นสมบตั ิหน่ึงของสิ่งมีชีวติ ที่ทาใหม้ นุษยด์ ารงเผา่ พนั ธุ์อยไู่ ด้ ไม่สูญพนั ธุ์ไป โดยการสืบพนั ธุ์ของมนุษยจ์ ะเกิดข้ึนเม่ือเขา้ สู่ “วยั เจริญพนั ธุ์” ซ่ึงแตล่ ะคนอาจ เขา้ สู่วยั เจริญพนั ธุ์ในขณะที่มีอายตุ ่างกนั โดยมีการเปลี่ยนแปลงลกั ษณะทางเพศ ดงั น้ี การเข้าสู่วยั เจริญพนั ธ์ุ เพศชายอายุระหว่าง 11-16 ปี เพศหญงิ ยุระหว่าง 10 – 15 ปี 1.มีการหลง่ั ฮอร์โมนเทสโทสเทอ 1.มีการหลง่ั ฮอร์โมนเอสโตรเจน โรนหรือฮอร์โมนเพศชาย หรือฮอร์โมนเพศหญิง 2.เสียงแตกหา้ ว มีหนวด 2. มีเตา้ นม สะโพกขยาย มี 3. มีขนบริเวณอวยั วะเพศ ประจาเดือน 3.มีขนบริเวณอวยั วะเพศ

องคป์ ระกอบระบบสืบพนั ธุ์ของมนุษย์ มนุษยม์ ีการสืบพนั ธุ์แบบอาศยั เพศ คือมีกระบวนการท่ีเซลล์ สืบพนั ธุ์เพศผ(ู้ อสุจิ) ผสมกบั เซลลส์ ืบพนั ธ์เพศเมีย (ไข)่ ดงั น้นั ในระบบ เซลลส์ ืบพนั ธุ์ของมนุษย์ จึงมีส่วนประกอบท่ีสาคญั อยู่ 2 ส่วน คือ 1. ระบบสืบพนั ธุ์เพศชาย 2. ระบบสืบพนั ธุ์เพศหญิง ระบบสืบพนั ธุ์เพศชาย ระบบสืบพนั ธุ์ของเพศชาย ประกอบดว้ ย 1.อนั ฑะ(testis) มี 2 ขา้ ง มีลกั ษณะเป็นกอ้ นกลม มี 2 ขา้ งทาหนา้ ท่ี 1.1 สร้างเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศผู้ คือ ตวั อสุจิ (sperm) 1.2 สร้างฮอร์โมนเพศชาย คือ ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ซ่ึงเป็น ฮอร์โมนท่ีทาหนา้ ที่ควบคุมลกั ษณะของชาย เช่น เสียงแตกหา้ ว มีขนที่ ขา ที่รักแร้และอวยั วะเพศ 2. ถุงหุม้ อณั ฑะ ทาหนา้ ที่ห่อหุม้ อณั ฑะและควบคุมอุณหภูมิใหต้ ่ากวา่ อุณหภมู ิร่างกาย 3-5 องศาเซลเซียส ซ่ึงเป็นอุณหภูมิท่ีเหมาะสมต่อการ สร้างตวั อสุจิ โดยถา้ อุณหภมู ิ สูงกวา่ 40 องศาเซลเซียส จะไม่สามารถ ผลิตตวั อสุจิได้

3. องคชาต ภายในมีท่อปัสสาวะทาหนา้ ที่เป็นทางผา่ นปัสสาวะและตวั อสุจิ 4.หลอดเกบ็ ตวั อสุจิ (epididymis) ทาหนา้ ที่เกบ็ ตวั อสุจิให้โตเตม็ ท่ีก่อน ส่งไปยงั ท่อนาอสุจิ 5.ทอ่ นาตวั อสุจิ (vas deferens) ทาหนา้ ท่ีนาอสุจิจากหลอดเก็บอสุจิไปยงั ต่อมสร้างน้าเล้ียงตวั อสุจิ 6. ตอ่ มสร้างน้าเล้ียงตวั อสุจิ (seminal vesicle) ทาหนา้ ท่ีสร้างอาหารมา เล้ียงตวั อสุจิ ไดแ้ ก่ น้าตาลฟรักโทส วติ ามนั ซี โปรตีนโกลบูลีนและ สร้างของเหลว เพอื่ ทาให้เกิดสภาพที่เหมาะสมกบั ตวั อสุจิ 7. ตอ่ มลูกหมาก (prostate gland) อยตู่ อนตน้ ของท่อปัสสาวะะทาหนา้ ที่ สร้างสารท่ีเป็นเบสอยา่ งอ่อนเพ่อื ผสมกบั น้าเล้ียงตวั อสุจิ เป็นการลดความ เป็นกรดในทอ่ ปัสสาวะช่วยใหต้ วั อสุจิเคล่ือนไหวไดเ้ ร็วข้ึน 8. ตอ่ มคาวเปอร์ (Cowper gland) อยใู่ ตต้ อ่ มลูกหมาก ทาหนา้ ที่สร้าง เมือกหล่อลื่นในท่อปัสสาวะเพือ่ ใหต้ วั อสุจิเคล่ือนตวั ไดเ้ ร็วข้ึน รูปภาพที่ 1 ระบบสืบพนั ธุ์ของเพศชาย ที่มา http://watchawan.blogspot.com

ระบบสืบพนั ธุ์เพศหญิง ระบบสืบพนั ธุ์เพศหญิง ประกอบดว้ ยอวยั วะที่สาคญั ดงั น้ี 1. รังไข่มี 2 ขา้ ง อยคู่ นละขา้ งของมดลูก ทาหนา้ ที่ 1.1 สร้างเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศเมีย คือ เซลลไ์ ข่จะผลิตเดือนละ 1 เซลล์ โดยจะผลิตสลบั กนั เดือนละขา้ ง 1.2 สร้างฮอร์โมนเพศหญิง คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ซ่ึงเป็น ฮอร์โมนท่ีควบคุมลกั ษณะทางเพศหญิง เช่น มีหนา้ อก สะโพกขยาย มี ขนบริเวณอวยั วะเพศ มีเสียงแหลมเลก็ และมีประจาเดือน 2. ปี กมดลูกหรือท่อนาไข่ เป็นทอ่ ที่เช่ือมรังไขก่ บั มดลูก เป็นทางเดินของ ไข่จากรังไขม่ ายงั มดลูก และเป็นตาแหน่งที่เกิดการปฏิสนธิระหวา่ งอสุจิ กบั เซลลไ์ ข่ 3. มดลูก มีหนา้ ที่ที่สาคญั ดงั น้ี 3.1 เป็นที่ฝังตวั ของตวั อ่อน หลงั จากท่ีไดร้ ับการปฏิสนธิแลว้ จนกระทงั่ คลอด 3.2 ทาใหเ้ กิดประจาเดือน เม่ือไขไ่ ม่ไดร้ ับการผสม 3.3 เป็นทางผา่ นของตวั อสุจิ เพือ่ ไปปฎิสนธิกบั ไขท่ ี่ท่อนาไข่ 4. ช่องคลอด เป็นทางผา่ นของอสุจิไปยงั มดลูกสู่ท่อนาไข่ เป็นทางผา่ น ของทารกท่ีคลอดออกมา และเป็นทางออกของประจาเดือน รูปภาพที่ 2 ระบบสืบพนั ธุ์ของเพศหญิง ท่ีมา http://watchawan.blogspot.com

คาถามชวนคิด 1. จงบอกช่ือส่วนประกอบของอวยั วะสืบพนั ธุ์ของเพศชายและเพศหญิง

ประจาเดือน ประจาเดือน คือ เน้ือเยอ่ื ผนงั มดลูกดา้ นใน และหลอดเลือดท่ีสลายตวั ไหลออกมาทางช่องคลอด ประจาเดือนจะเกิดข้ึนเม่ือเซลลไ์ ข่ไม่ไดร้ ับการผสม กบั เซลลอ์ สุจิ เพศหญิงจะมีประจาเดือนต้งั แต่อายปุ ระมาณ 12 ปี ข้ึนไป ซ่ึงจะมี รอบของการมีประจาเดือนทุก 21- 35 วนั เฉลี่ยประมาณ 28 วนั จนอายุ ประมาณ 50 ปี จึงจะหมดประจาเดือน ผหู้ ญิงจะมีช่วงระยะเวลาการมีประจาเดือนประมาณ 3-6 วนั ซ่ึงจะเสีย เลือดทางประจาเดือนแตล่ ะเดือนประมาณ 60-90 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร ดงั น้นั ผหู้ ญิงจึงควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหลก็ และโปรตีน เพอ่ื สร้างเลือดชดเชย ส่วนท่ีหายไป การท่ีผหู้ ญิงบางคนมีประจาเดือนมาไม่ปกติอาจเน่ืองมาจากอารมณ์และ ความวติ กกงั วล ทาใหก้ ารหลงั ฮอร์โมนของสมองผดิ ปกติ ซ่ึงจะมีผลตอ่ การหลง่ั ฮอร์โมนของตอ่ มใตส้ มองที่ทาหนา้ ที่กระตุน้ ใหไ้ ขส่ ุก ตือ ฮอร์โมนFSH(follicle Stimulating Hormone )และฮอร์โมนกระตุน้ ใหเ้ กิดการตกไข่ คือ ฮอร์โมน ฮอร์โมน LH (Luteinizing Hormone ) เซลลไ์ ข่มีขนาดใหญ่กวา่ เซลลอ์ สุจิ ประมาณ 50,000-90,000 เท่าขนาดของเซลลไ์ ข่ประมาณ 0.2 มิลลิเมตร เรา สามารถมองเห็นเซลลไ์ ข่ไดด้ ว้ ยตาเปล่า

คาถามชวนคิด 5. นางปิ่ นตอ้ งการมีบุตร แต่มีปัญหาในเร่ืองทอ่ นาไข่ตีบตนั ทาใหไ้ ข่ไมส่ ามารถ เดินทางมาผสมกบั ตวั อสุจิได้ นางปิ่ นควรแกป้ ัญหาอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… 6. จากการแกป้ ัญหาของนางปิ่ น เรียกวธิ ีการน้นั วา่ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… สู้ๆน่ะค่ะ

บัตรความรู้ที่ 2 เซลลส์ ืบพนั ธุ์ เซลลส์ ืบพนั ธุ์ (sex cell) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 1. เซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศชาย คือ อสุจิ 2. เซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศหญิง คือ เซลลไ์ ข่ ภาพท่ี 3 แสดงลกั ษณะอสุจิและเซลลไ์ ข่ ท่ีมา : https://www.google.co.th/search?q=รูปอสุจิ&source=lnms&tbm=isch&sa =X&ved=0ahUKEwics4H849TWAhXBvI8KHapcCNAQ_AUICig

เซลล์สืบพนั ธ์ุเพศชาย ลกั ษณะและสมบัตทิ ว่ั ไปของตวั อสุจิ 1. อสุจิ(sperm) สร้างจากอณั ฑะ 2. โดยทวั่ ไปเพศชายจะเริ่มสร้างอสุจิเมื่ออายุ ประมาณ 12-13 ปี และจะ สร้างไปตลอดชีวติ 3. การหลงั่ ตวั อสุจิแต่ละคร้ังจะมีของเหลว ประมาณ 3-4 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตรซ่ึงจะมี ตวั อสุจิประมาณ 300-500 ลา้ นตวั 4. ถา้ ในน้าอสุจิ มีจานวนตวั อสุจินอ้ ยกวา่ 30-50 ลา้ นตวั ต่อ 1 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร หรือมีตวั อสุจิท่ีผดิ ปกติมากกวา่ ร้อยละ 25 จะมีลูกยาก จดั วา่ เป็ นหมนั 5. ตวั อสุจิเมื่อออกสู่ภายนอก จะมีชีวติ ไดเ้ พียง 2-3 ชวั่ โมง แตถ่ า้ อยใู่ น มดลูกผหู้ ญิงจะอยไู่ ดน้ าน รูปภาพที่ 4 แสดงโครงสร้างของตวั อสุจิ ที่มา : https://www.google.co.th/search?biw=1008&bih=620&tbm=isch&sa=1&q=

เซลล์สืบพนั ธ์ุเพศหญงิ ลกั ษณะและสมบตั ทิ ว่ั ไปของเซลล์ไข่ 1. เซลลไ์ ข่ สร้างจากรังไข่ 2. เพศหญิงจะเริ่มมีการตกไขห่ รือมีประจาเดือนเม่ืออายุ 10 – 13 ปี และจะหยดุ เมื่อ อายปุ ระมาณ 45 – 50 ปี 3. การตกไข่ คือ การท่ีไขเ่ จริญเติบโตเมท่ีและหลุดออกจากรังไข่ เขา้ สู่ท่อนาไข่ 4. การตกไข่เกิดข้ึนทุกเดือน เดือนละ 1 เซลลโ์ ดย สลบั กนั ระหวา่ งรังไข่ดา้ นขวากบั ดา้ นซา้ ย 5. ไขท่ ่ีตกออกมาจากรังไขจ่ ะมีชีวติ อยปู่ ระมาณ 1 วนั 6. การตกไข่จะเกิดข้ึนในช่วงกลางของรอบเดือน ประมาณ 14 วนั หลงั จากน้นั ถา้ ไข่ ไม่ไดร้ ับการผสมหรือไม่เกิดการปฏิสนธิอีก 14 วนั กส็ ลายตวั เป็นประจาเดือน รูปภาพท่ี 5 แสดงลกั ษณะของเซลลไ์ ข่ ที่มา : https://www.bigstock.com.br/th/image-39692779/stock-photo- %C3%93vulo-humano-isolado-no-fundo-branco

. การปฏิสนธิ การปฏิสนธิในมนุษยเ์ กิดข้ึนเม่ือเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศชาย (อสุจิ) ผสมกบั เซลลส์ ืบพนั ธุ์ เพศหญิง (เซลลไ์ ข)่ การปฏิสนธิเกิดข้ึนบริเวณท่อนาไขห่ รือปี กมดลูก ทาใหเ้ กิดเป็นเซลลใ์ หม่ 1 เซลล์ เรียกวา่ ไซโกต หลงั จากน้นั จะมีการแบ่งเซลลจ์ าก 1 เป็ น 2 ทวคี ูณไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็น กลุ่มเซลล์ เรียกวา่ เอม็ บริโอ เคล่ือนไปตามท่อนาไข่แลว้ ไปฝังตวั ที่ผนงั มดลูก รูปภาพที่ 6 แสดงการปฏิสนธิและการเคล่ือนที่ของเอม็ บริโอไปฝังตวั ท่ีผนงั มดลูก ท่ีมา : https://www.google.co.th/search?q=ภาพการปฏิสนธิและการเคล่ือนท่ีของ เอม็ บริโอไปฝังตวั ที่มดลูก&source=lnms&tbm

การต้งั ครรภ์ การต้งั ครรภจ์ ะเกิดข้ึนเม่ือ เกิดการปฏิสนธิระหวา่ งอสุจิกบั เซลลไ์ ข่บริเวณทอ่ นาไข่ โดยอสุจิจะสามารถเขา้ ไปผสมกบั ไขไ่ ดเ้ พียงตวั เดียวเท่าน้นั เพราะเม่ือไขถ่ ูกผสม แลว้ เยอื่ หุม้ เซลลข์ องไขจ่ ะหนาข้ึนทาใหอ้ สุจิตวั อื่นเขา้ ไปผสมไม่ไดอ้ ีก จากน้นั จะเกิด การเปลี่ยนแปลง ดงั น้ี 1. ภายในเวลา 10-12 ชวั่ โมง นิวเคลียสของอสุจิจะรวมตวั กบั นิวเคลียสของไข่ เรียกวา่ การเกิดปฏิสนธิ ไขท่ ี่ถูกผสมแลว้ เรียกวา่ ไซโกต 2. จากน้นั ไซโกตจะแบง่ เซลลจ์ าก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 และทวคี ูณไปเร่ือยๆจน เป็นกลุ่มเซลล์ เรียกวา่ เอม็ บริโอ ภายในเวลา 30 ถึง 37 ชว่ั โมง 3. เอม็ บริโอจะเคลื่อนท่ีไปฝังตวั ท่ีผนงั มดลูก ซ่ึงมีลกั ษณะหนาข้ึน เพ่ือรองรับ การฝังตวั ของเอม็ บริโอ จากน้นั เอม็ บริโอจะเริ่มพฒั นาอวยั วะตา่ งๆมากข้ึนภายใน 7 วนั 4. สัปดาห์ที่ 3 เร่ิมมีหวั ใจ สมองและไขสันหลงั สัปดาห์ท่ี 4 เร่ิมมีตาและป่ ุมแขนขา 5. สัปดาห์ท่ี 6 เร่ิมมีหู สปั ดาห์ท่ี 7เร่ิมมีเพดานในช่องปาก 6. สัปดาห์ท่ี 8 เร่ิมมีอวยั วะเพศ ระยะน้ีเร่ิมมีลกั ษณะต่างๆเหมือนมนุษยก์ ระดูก ภายในเปล่ียนจากกระดูกอ่อนเป็นกระดูกแขง็ เรียกระยะน้ีวา่ ระยะ ฟี ตสั 7. ทารกจะมีการเจริญเติบโตในครรภม์ ารดาประมาณ 38 สัปดาห์ จนกระทงั่ คลอด ซ่ึงขณะทารกอยใู่ นครรภจ์ ะไดร้ ับอาหาร อากาศจากมารดา รูปภาพที่ 7 แสดงการเจริญเติบโตของตวั อ่อนมนุษยใ์ นครรภม์ ารดา ท่ีมา.: https://www.google.co.th/search?q=ภาพแสดงลกั ษณะของทารกก่อน คลอด&source=lnms&tbm

การคลอด ทารกเจริญเติบโตอยใู่ นครรภม์ ารดา 280 วนั 38 สปั ดาห์ หรือประมาณ 9 เดือน ตอ่ มใตส้ มองจะหลง่ั ฮอร์โมน “ออกซิโทซิน” ไปกระตุน้ ใหก้ ลา้ มเน้ือมดลูก บีบตวั อยา่ ง แรง ร่วมกบั การหดตวั ของกลา้ มเน้ือหนา้ ทอ้ ง ทาใหป้ ากมดลูกเปิ ด และดนั ทารกออกมา ทางช่องคลอด ทารกกจ็ ะคลอดออกมาตามธรรมชาติ รูปภาพท่ี 8 แสดงลกั ษณะของทารกก่อนคลอด ท่ีมา : https://www.google.co.th/search?q=ภาพแสดงลกั ษณะของทารกก่อน คลอด&source=lnms&tbm

การคุมกาเนิด การคุมกาเนิดเป็นวธิ ีการป้ องกนั ไม่ใหเ้ กิดการต้งั ครรภต์ ามปกติ เพ่อื ควบคุม การมีบุตรของพอ่ แมท่ ่ียงั ไม่พร้อม หรือเวน้ ระยะการมีบุตร มี 2 ประเภท คือ 1. การคุมกาเนิดแบบชวั่ คราวแบ่งออกเป็ น 1.1 การคุมกาเนิดในเพศหญิง ทาไดห้ ลายวธิ ี เช่น 1.1.1 การใชย้ าคุมกาเนิด เพื่อยบั ย้งั การตกไข่จากรังไข่ 1.1.2 การใชย้ าเมด็ ฟองฟ่ สู อดช่องคลอด เพือ่ ทาลายอสุจิ 1.1.3 การใส่ห่วงคุมกาเนิด เพอื่ ป้ องกนั การฝังตวั ของตวั อ่อนในมดลูก 1.1.4 การนบั ระยะปลอดภยั ก่อนและหลงั มีประจาเดือน 1.1.5 การใชห้ มวกยางครอบปากมดลูกเพ่อื ไม่ใหอ้ สุจิเขา้ ผสมกบั ไข่ 1.2 การคุมกาเนิดในเพศชาย ทาไดโ้ ดย 1.2.1 การใชถ้ ุงยางอนามยั 1.2.2 การหลงั่ น้าอสุจินอกช่องคลอด 2. การคุมกาเนิดถาวรโดยการผา่ ตดั ทาหมนั 2.1 การทาหมนั ชาย คือการผกู หรือตดั ท่อนาตวั อสุจิ ทาใหต้ วั อสุจิที่สร้างจากลูก อณั ฑะ ผา่ นออกมาไมไ่ ด้ โดยการฉีดยาชาแลว้ ผา่ ตดั เป็นแผลเลก็ ๆใตถ้ ุงอณั ฑะแลว้ คลอ้ ง เอาทอ่ นาตวั เช้ืออสุจิแต่ละขา้ งออกมาตดั แลว้ ผกู ปลายท่ีตดั ทาใหเ้ ช้ืออสุจิท่ีสร้างจากลูก อณั ฑะไมส่ ามารถเดินทางมายงั ท่อฉีดอสุจิได้ น้าอสุจิจึงไมม่ ีตวั อสุจิ จึงทาใหไ้ ม่เกิดการ ต้งั ครรภเ์ มื่อมีเพศสัมพนั ธ์ 2.2 การทาหมนั หญิง ทาไดโ้ ดยการตดั และการผกู ทอ่ นาไขท่ ้งั 2 ขา้ ง เม่ือมีการ ตกไขจ่ ากรังไข่ ไขจ่ ะเคล่ือนตวั ไปรอการผสมกบั อสุจิ แต่เม่ือตดั และผกู ทอ่ นาไข่แลว้ อสุจิ จะไม่สามารถผา่ นเขา้ ไปผสมกบั ไขไ่ ด้ ทาใหไ้ มเ่ กิดการปฏิสนธิและการต้งั ครรภ์

การดูแลรักษาระบบสืบพนั ธ์ุ 1. ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายใหด้ ี โดยในการอาบน้าควรทาความสะอาด อวยั วะสืบพนั ธุ์ดว้ ยสบู่ หลงั อาบน้าควรเช็ดใหแ้ หง้ 2. ไมค่ วรกล้นั ปัสสาวะนานๆ 3. ควรใชส้ ้วมที่ถูกสุขลกั ษณะ โดยเฉพาะผหู้ ญิง 4. สวมเส้ือผา้ ที่สะอาด โดยเฉพาะชุดช้นั ใน ซ่ึงไดแ้ ก่ เส้ือยกทรงของผหู้ ญิง และ กางเกงในของผหู้ ญิงและผชู้ ายควรสะอาดมากๆ ถา้ ใชแ้ ลว้ ไม่ควรนามาใชอ้ ีกโดย ไม่ทาความสะอาดก่อน 5. ควรใชถ้ ุงยางอนามยั ในการร่วมเพศทุกคร้ัง ยกเวน้ สามีหรือภรรยาของตนเอง ซ่ึง แตง่ งานอยกู่ ินดว้ ยกนั แลว้ และไม่สาส่อนทางเพศ 6. ไม่ควรใชย้ า หรือสารตา่ งๆ เพื่อกระตุน้ ความรู้สึกทางเพศ 7. ผหู้ ญิงไม่ควรผา่ ตดั เพื่อเสริมเตา้ นม หรือฉีดสิ่งแปลกปลอมเขา้ ไป เพราะอาจไดร้ ับ อนั ตรายได้ 8. ผชู้ ายไม่ควรฉีดยาหรือสิ่งแปลกปลอมเขา้ ไปที่อวยั วะเพศเพอื่ ใหใ้ หญ่ข้ึน หรือฝังสิ่ง แปลกปลอมที่หนงั ขององคชาติหรือที่เรียกวา่ การฝังมุก เพราะจะเป็นอนั ตราย 9. ระวงั อยา่ ใหบ้ ริเวณอวยั วะสืบพนั ธุ์ถูกกระแทก 10. ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทาใหส้ มรรถภาพทางเพศลดลง 11. รับประทานอาหารใหค้ รบ 5 หมู่ 12. ออกกาลงั กายเป็นประจา 13. ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป เพราะอาจทาใหป้ ริมาณอสุจิมีนอ้ ยเกินไป ทาใหม้ ีบุตรยาก 14. ถา้ มีอาการผดิ ปกติเก่ียวกบั อวยั วะสืบพนั ธุ์ หรือสงสยั วา่ จะเป็นโรคติดต่อทางเพศ สัมพนั ธ์ ควรรีบปรึกษาแพทย์

บัตรคาถามท่ี 1 เร่ือง ระบบสืบพนั ธ์ุ คาชี้แจง ให้นักเรียนเตมิ คาลงในช่องว่างให้ถูกต้อง การสืบพนั ธุ์ของมนุษยอ์ าศยั เซลลส์ ืบพนั ธุ์ของเพศหญิง คือ…………….และ เซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศชายนนั่ คือ…………………………..โดยเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศหญิงสร้าง จาก…………..ส่วนเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศชายสร้างจาก……………..เม่ือเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศ หญิงและเพศชายรวมตวั กนั ทาใหเ้ กิดการ…………………………………ซ่ึงจะเกิดข้ึน บริเวณ……………………………ของเพศหญิงเซลลไ์ ข่ท่ีไดร้ ับการผสมเรียกวา่ ไซโกต จากน้นั ไซโกตจะแบ่งตวั แบบทวคี ูณกลายเป็นกลุ่มเซลลท์ ่ีเรียกวา่ …………………….. ซ่ึงจะเคลื่อนท่ีไปฝังตวั บริเวณ…………………ขณะอยใู่ นครรภม์ ารดาตวั ออ่ นจะไดร้ ับ สารอาหาร ก๊าซและขบั ถ่ายของเสียผา่ นทาง……………………….และเจริญเติบโตอยู่ ในครรภม์ ารดาเวลาประมาณ…………………………………..สัปดาห์จึงคลอดออกมา

กจิ กรรมท2่ี มุ่งส่คู วามสาเร็จ กิจกรรมน้ีจะเป็นการประเมินความรู้ของผเู้ รียนดว้ ยการทดสอบหลงั เรียน บัตรคาสั่ง ให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน จานวน 10 ข้อ ใช้เวลา 10 นาที

บัตรแบบทดสอบหลงั เรียน เล่มท่ี 6 ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ืองระบบต่างๆในร่างกาย กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ชุด ระบบสืบพนั ธ์ุ คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบทถี่ ูกทสี่ ุด แล้วทาเคร่ืองหมาย X ทบั อกั ษร ก ข ค ง ใน กระดาษคาตอบให้ตรงกบั ข้อทนี่ ักเรียนเลอื กตอบ 1. สุขปฏิบตั ิอวยั วะเพศขอ้ ใดสาคญั ท่ีสุด ก. การรักษาความสะอาด ข. การไมส่ าส่อนทางเพศ ค. ป้ องกนั การกระทบกระเทือน ง. การสวมชุดช้นั ในที่สะอาด 2. ตวั อสุจิมีส่วนประกอบอยู่ 3 ส่วนประกอบดว้ ยส่วนใดบา้ ง ก. ส่วนตวั - หาง - ตา ข. ส่วนหวั - ลาตวั - หาง ค. ส่วนตา - หาง - ปาก ง. สาวนหวั - ปาก - หาง 3.โรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ที่ร้ายแรงคือขอ้ ใด ก. โรคเอดส์ ข. โรคซิฟิ ลิส ค. โรคหนองใน ง. โรคฝีมะม่วง

4. อวยั วะส่วนใดทาหนา้ ที่ผลิตเซลสืบพนั ธ์เพศหญิง ก. รังไข่ ข. มดลูก ค. ปี กมดลูก ง. ช่องคลอด 5.หลอดสร้างตวั อสุจิจะมีขา้ งละประมาณกี่หลอด ก. 500 หลอด ข. 800 หลอด ค. 750 หลอด ง. 650 หลอด 6.ระบบสืบพนั ธุ์ของเพศชายอณั ฑะทาหนา้ ที่อะไร ก. สร้างตวั อสุจิ ข. เกบ็ ตวั อสุจิ ค. ลาเลียงตวั อสุจิ ง. สร้างอาหารเล้ียงตวั อสุจิ 7. ประจาเดือนเกิดจากอะไร ก. การผสมกนั ระหวา่ งไขก่ บั อสุจิ ข. การสลายตวั ของหลอดเลือด ค. การหดตวั ของมดลูก ง. การขาดสารอาหาร 8.บริเวณที่มีการปฏิสนธิระหวา่ งอสุจิกบั ไขค่ ืออะไร ก. มดลูก ข. ปี กมดลูก ค. รังไข่ ง. ช่องคลอด

9. อวยั วะในขอ้ ใดท่ีสร้างสารที่เป็นเบสเพื่อลดความเป็ นกรดในท่อปัสสาวะ ก. ตอ่ มลูกหมาก ข. ถุงอณั ฑะ ค. หลอดนาอสุจิ ง. ตอ่ มสร้างน้าเล้ียง 10. ขอ้ ใดเป็นอวยั วะท่ีทาหนา้ ที่เป็นเซลลส์ ืบพนั ธ์เพศชาย ก. ตอ่ มลูกหมาก ข. อณั ฑะ ค. อสุจิ ง. ตอ่ มคาวเปอร์

บรรณานุกรม กฤตยา รามโกมุท. สรีรวทิ ยา.กรุงเทพฯ : สานกั พิมพส์ ุรีวยิ าสาส์น,2550. ก่องแกว้ พนั ธกานตแ์ ละคณะ. สรุปหลักวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.2-ม.3. กรุงเทพฯ : เจริญรัฐ การพมิ พ,์ 2556. บญั ชา แสนทวแี ละคณะ.คู่มอื การสอนวิทยาศาสตร์ ม.2.กรุงเทพฯ:สานกั พิมพ์ วฒั นาพานิช จากดั ,2554. ประดบั นาคแกว้ และคณะ.หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ม.2 . กรุงเทพฯ:แมค็ ,2554. ฝ่ ายวชิ าการสานกั ภูมิบณั ฑิต.วทิ ยาศาสตร์ ม.2.กรุงเทพฯ:สานกั ภูมิบณั ฑิต,2551. พมิ พนั ธ์ เดชะคุปตแ์ ละคณะ.ชุดกจิ กรรมการพฒั นาการคิดวเิ คราะห์ วทิ ยาศาสตร์ ม.2. กรุงเทพฯ:สานกั พมิ พบ์ ริษทั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ(พว) จากดั ,2550. ยพุ า วรยศและคณะ.วทิ ยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 1.กรุงเทพฯ:สานกั พิมพอ์ กั ษรเจริญทศั น์ อจท. จากดั ,2554. สถาบนั การส่งเสริมวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี.วทิ ยาศาสตร์ 4.กรุงเทพฯ:โรงพมิ พ์ ครุสภาลาดพร้าว,2553. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี คู่มือครูรายวชิ าพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ 4 เล่ม 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2. พมิ พค์ ร้ังท่ี 1. กรุงเทพฯ : สกสค,2554. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี หนังสือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ 4 เล่ม 2. พิมพค์ ร้ังท่ี 1. กรุงเทพฯ : สกสค.2554. ทีมงาน Siamhealth.net. โรคท่ีเก่ียวกบั กระเพาะและลาไส้ . [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.siamhealth.net/public_html/index0/giindex.htm#.VlKXQHbhBdg http://watchawan.blogspot.com https://www.google.co.th/search?q=รูปอสุจิ&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=

บรรณานุกรม (ต่อ) 0ahUKEwics4H849TWAhXBvI8KHapcCNAQ https://www.google.co.th/search?biw=1008&bih=620&tbm=isch&sa=1&q= https://www.bigstock.com. https://www.google.co.th/search?q=ภาพการทาหมนั ชายหญิง&source=lnms&tbm https://www.google.co.th/search?q=ภาพแสดงลกั ษณะของทารกก่อน คลอด&source=lnms&tbm

ภาคผนวก ขอขอบคณุ นางสาวศรวี รรณ อทุ ธาเครอื ตาํ แหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ โรงเรยี นสักงามวทิ ยา อาํ เภอคลองลาน จงั หวดั กาแพงเพชร สานักงานเขตพืน� ทกี� ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 41

กระดาษคาตอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบสืบพนั ธุ์ กระดาษคาตอบก่อนเรียน กระดาษคาตอบหลงั เรียน ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง 1 1 2 2 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10 ผลการประเมิน ผลการประเมิน ตอบถูกจานวน…………ขอ้ ตอบถูกจานวน…………ขอ้ ช่ือ………………………………………………….ช้นั ……………เลขที่……………

ตารางบนั ทึกคะแนนสรุปผลการเรียน การทาแบบทดสอบ ทดสอบก่อนเรียนทาขอ้ สอบได…้ ………………….คะแนน ทดสอบหลงั เรียนทาขอ้ สอบได…้ ………………….คะแนน พฒั นาการเรียนรู้อยใู่ นระดบั …………………………………. เกณฑก์ ารพจิ ารณาพฒั นาการเรียน คะแนนเพิม่ ข้ึน ระดบั พฒั นาการ 8-10 4=ดีเยยี่ ม 5-7 3=ดี 2-4 2=พอใช้ 1 หรือคะแนนลดลง 1= ปรับปรุง การตอบคาถามในบตั รคาถาม ตอบคาถามท้งั หมด 10 ขอ้ ขอ้ ละ 1 คะแนน คะแนนเตม็ 10 คะแนน บตั รคาถามที่ 1 คะแนนที่ได…้ ……………….คะแนน บตั รคาถามที่ 2 คะแนนท่ีได…้ ……………….คะแนน บตั รคาถามที่ 3 คะแนนที่ได…้ ……………….คะแนน รวม……………ระดบั คุณภาพ……………........ เกณฑก์ ารประเมินการตอบคาถามในบตั รคาถาม โดยมีเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพ ดงั น้ี ตอบถูก 9-10 4= ดีเยย่ี ม ตอบถูก 7-8 3 = ดี ตอบถูก 5-6 2 = พอใช้ ตอบถูก 0-4 1 = ปรับปรุง

เฉลยกิจกรรมที่ 2 กระตุน้ สมอง คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบทถี่ ูกทสี่ ุด แล้วทาเคร่ืองหมาย X ทบั อกั ษร ก ข ค ง ในกระดาษคาตอบให้ตรงกบั ข้อทน่ี ักเรียนเลอื กตอบ ขอ้ คาตอบ ขอ้ คาตอบ 1 ข 6ข 2 ก 7ก 3 ข 8ก 4 ก 9ข 5 ก 10 ข

เฉลยกจิ กรรมที่ 2 อธิบายปัญหา เร่ือง ระบบการสืบพนั ธ์ุ คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามชวนคดิ ต่อไปนีใ้ นช่องว่างให้สมบูรณ์ 1. จงบอกช่ือส่วนประกอบของอวยั วะสืบพนั ธุ์ของเพศชายและเพศหญิง แนวคาตอบ ทอ่ ปัสสาวะ องคชาต ทอ่ อสจุ ิ หนงั ห้มุ ปลาย กระเพาะปัสสาวะ ถงุ นา้ หลอ่ เลยี ้ งอสจุ ิ ตอ่ มลกู หมาก สว่ นหวั องคชาต หลอดเก็บอสจุ ิ อณั ฑะ ถงุ อณั ฑะ มดลกู ทอ่ นาไข่ รังไข่ รังไข่ ปากมดลกู ไขท่ สี่ กุ แล้วจะหลดุ ออกมา ช่องคลอด จากรงั ไขม่ ากรวยทอ่ นาไข่

2. เซลลไ์ ข่สามารถมองเห็นดว้ ยตาเปล่าไดห้ รือไม่ และถา้ เซลลไ์ ขไ่ ม่ไดร้ ับการผสม กบั อสุจิจะมีผลต่อร่างกายอยา่ งไร แนวคาตอบ เซลลไ์ ข่สามารถมองเห็นดว้ ยตาเปล่า และถา้ ไข่ไมไ่ ดร้ ับการผสมกบั อสุจิจะกลายเป็ นประจาเดือน 3. ประจาเดือนจะเกิดข้ึนเม่ือใด แนวคาตอบ ประจาเดือนจะเกิดข้ึนเม่ือเซลลไ์ ข่ไมไ่ ดร้ ับการผสมกบั ตวั อสุจิจะทาให้ เน้ือเยอ่ื ผนงั มดลูกดา้ นใน และหลอดเลือดท่ีสลายตวั ไหลออกมาทางช่องคลอด 4. ผหู้ ญิงจะเสียเลือดทางประจาเดือนแต่ละเดือนปริมาณมาก ดงั น้นั ควรรับประทาน สารอาหารประเภทใดและธาตุใด เพอื่ สร้างเลือดชดชยส่วนที่เสียไป แนวคาตอบ ควรรับประทานอาหารประเภทโปรตีนและอาหารที่มีธาตุเหล็กเป็น องคป์ ระกอบ 5. นางปิ่ นตอ้ งการมีบุตร แต่มีปัญหาในเร่ืองทอ่ นาไข่ตีบตนั ทาใหไ้ ขไ่ มส่ ามารถ เดินทางมาผสมกบั ตวั อสุจิได้ นางปิ่ นควรแกป้ ัญหาอยา่ งไร แนวคาตอบ นางปิ่ นควรแกป้ ัญหาโดยใชว้ ธิ ีการผสมเทียม 6. จากการแกป้ ัญหาของนางปิ่ น เรียกวธิ ีการน้นั วา่ อยา่ งไร แนวคาตอบ เด็กในหลอดแกว้ 7. กระบวนการสร้างตวั อสุจิและกระบวนการสร้างไข่เกิดข้ึนที่ส่วนใด ตามลาดบั แนวคาตอบ หลอดสรา้ งตวั อสจุ แิ ละรงั ไข่ 8. ถา้ สเปอร์มาโทไซตร์ ะยะแรกจานวน 10 เซลล์ แบ่งเซลล์ จะสร้างอสุจิไดก้ ่ี เซลล์ และถา้ โอโอไซตร์ ะยะแรกจานวน 10 เซลลแ์ บ่งเซลลจ์ ะสร้างไขไ่ ดก้ ่ีเซลล์ แนวคาตอบ อสุจิ 40 เซลล,์ ไข่ 10 เซลล์

9. .อวยั วะสืบพนั ธุ์ในผชู้ ายและผหู้ ญิงเหมือนหรือแตกต่างกนั อยา่ งไร แนวคาตอบ แตกต่างกนั อวยั วะเพศชายจะอยดู่ า้ นนอกลาตวั ของเพศหญิงจะอยดู่ า้ นใน ลาตวั เป็นช่องเขา้ ไปดา้ นในช่องทอ้ ง 10.การต้งั ครรภ์ ตอ้ งอาศยั ปัจจยั อะไรบา้ ง แนวคาตอบ อสุจิ กบั ไข่ มีการปฏิสนธิ 11.ไซโกตคืออะไร และมีวธิ ีการมาอยา่ งไร แนวคาตอบ ไซโกตเป็นเซลลไ์ ข่ท่ีไดป้ ฏิสนธิ มาจากเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศชายคืออสุจิ และเซลลส์ ืบพนั ธุ์ เพศหญิงคือไขท่ ่ีมาหลอมรวมกนั เรียกวา่ การปฏิสนธิ 12.ความแตกตา่ งระหวา่ งไซโกตกบั เอม็ บริโอคืออะไร แนวคาตอบ ไซโกตเป็นไขท่ ่ีไดป้ ฏิสนธิบริเวณทอ่ นาไข่ ส่วนเอม็ บริโอเกิดจาก ไซโกตแบง่ ตวั เป็นกอ้ น กลมคลา้ ยลูกบอลไปยดึ เกาะกบั มดลูก 13.ทาไมตอ้ งมีการดูแลตวั เองที่ดีของคุณแม่ขณะต้งั ครรภจ์ ึงเป็นสิ่งสาคญั แนวคาตอบ ทุกอยา่ งที่เขา้ สู่ร่างกายของแมส่ ามารถผา่ นรกและมีผลตอ่ ทารกในครรภ์ พฒั นา แมต่ อ้ ง ไดร้ ับอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อการพฒั นาทารกในครรภ์

เฉลยกจิ กรรมท่ี 3 นาพาซึ่งความรู้ บัตรคาถามที่ 1 คาชี้แจง ให้นักเรียนเตมิ คาลงในช่องว่างให้ถูกต้อง การสืบพนั ธุ์ของมนุษยอ์ าศยั เซลลส์ ืบพนั ธุ์ของเพศหญิง คือ…เซลลไ์ ข…่ …. และเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศชายนนั่ คือ……อสุจิ…………โดยเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศหญิงสร้าง จาก…รังไข่………..ส่วนเซลลส์ ืบพนั ธุ์เพศชายสร้างจาก…..อณั ฑะ..เม่ือเซลลส์ ืบพนั ธุ์ เพศหญิงและเพศชายรวมตวั กนั ทาใหเ้ กิดการ………..ปฏิสนธิ…………..ซ่ึงจะเกิดข้ึน บริเวณ…ทอ่ นาไขห่ รือปี กมดลูก…ของเพศหญิง เซลลไ์ ข่ที่ไดร้ ับการผสมเรียกวา่ ไซโกต จากน้นั ไซโกตจะแบ่งตวั แบบทวคี ูณกลายเป็นกลุ่มเซลลท์ ่ีเรียกวา่ ..เอม็ บริโอ.. ซ่ึงจะเคล่ือนท่ีไปฝังตวั บริเวณ………ผนงั มดลูก……………ขณะอยใู่ นครรภม์ ารดา ตวั อ่อนจะไดร้ ับสารอาหาร กา๊ ซและขบั ถ่ายของเสียผา่ นทาง……….....รก…..……… และเจริญเติบโตอยใู่ นครรภม์ ารดาเวลาประมาณ…………38……………สัปดาห์จึง คลอดออกมา

บัตรคาถามท่ี 2 เรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของระบบสืบพนั ธ์ุมนุษย์ คาชี้แจง จงเขยี นหน้าท่ขี องระบบสืบพนั ธ์ุให้ตรงกบั อวัยวะหรือโครงสร้างแต่ละ ชนิดลงในตารางทกี่ าหนดให้ โครงสร้างหรือหนา้ ท่ี เพศชาย เพศหญิง ชนิดของเซลลส์ ืบพนั ธุ์ อสุจิ ไข่ เซลลส์ ืบพนั ธุ์ถกู ผลิตที่ไหน อณั ฑะ รังไข่ ทอ่ ที่เป็นทางผา่ นของเซลล์ ทอ่ นาอสุจิ สืบพนั ธุ์ที่ออกจากแหล่งผลิต ท่อนาไข่ เซลลส์ ืบพนั ธุ์ถกู ปล่อยออกนอก องคชาต ร่างกายที่ใด ช่องคลอด โครงสร้างใดที่เป็ นแหล่งผลิต อณั ฑะ ฮอร์โมนเพศ รังไข่ ชื่อฮอร์โมนเพศ เทสโทสเตอโรน บริเวณใดท่ีไขไ่ ดร้ ับการปฏิสนธิ - เอสโตรเจน บริเวณใดท่ีไขป่ ฏิสนธิแลว้ - ทอ่ นาไข่ เจริญเติบโต มดลูก บริเวณใดที่มีการแลกเปลี่ยน - สารอาหารระหวา่ งแมก่ บั ทารก รก

บตั รคาถามที่ 3 เร่ือง โครงสร้างระบบสืบพนั ธ์ุ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนสารวจและสืบคน้ ขอ้ มูลจากใบความรู้เขียนคาตอบลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง 1. อวยั วะสืบพนั ธ์เพศชายและเพศหญิงท่ีทาหนา้ ท่ีสร้างเซลลส์ ืบพนั ธุ์คือ แนวคาตอบ อณั ฑะ และ รังไข่ 2. อสุจิ ประกอบไปดว้ ย 3 ส่วน อะไรบา้ ง แนวคาตอบ ส่วนหวั ส่วนกลาง และส่วนหาง 3. การสร้างอสุจิกบั การสร้างไข่ มีความเหมือนหรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร แนวคาตอบ แตกตา่ งกนั อสุจิสร้างคร้ังละจานวนมาก แต่ไข่สร้างคร้ังละหน่ึงฟอง 4. การทาหมนั ในเพศชาย จะตดั ส่วนใด แนวคาตอบ ทอ่ นาอสุจิ 5. การทาหมนั ในเพศหญิง จะตดั ส่วนใด แนวคาตอบ ท่อนาไข่ 6. การปฏิสนธิเกิดข้ึนท่ีบริเวณใด แนวคาตอบ ท่อนาไข่ 7. ถา้ ประจาเดือนวนั แรกมาวนั ที่ 10 กนั ยายน หนา้ 7 หลงั 7 คือช่วงวนั ท่ีเทา่ ใด แนวคาตอบ หนา้ 7 คือช่วงวนั ท่ี 3-9 กนั ยายน หลงั 7 คือช่วงวนั ท่ี 10-16 กนั ยายน 8. ในกรณีที่เหย่ือหญิงสาวถูกขม่ ขืน โดยเวลาผา่ นมาแลว้ 5 ชว่ั โมง วธิ ีการป้ องกนั การ ต้งั ครรภค์ ือ แนวคาตอบ ทานยาคุมฉุกเฉิน

9. ช่วงใดของรอบเดือนที่มีโอกาสต้งั ครรภส์ ูงมาก แนวคาตอบ ช่วงไขต่ ก คือประมาณวนั ที่ 14 ของรอบเดือน 10. อสุจิกบั ไข่ เม่ือออกมาแลว้ จะมีอายไุ ดป้ ระมาณกี่ชวั่ โมง แนวคาตอบ อสุจิอยใู่ นร่างกายเพศหญิงได้ 48 ชว่ั โมง ไข่เม่ือตกแลว้ จะอยไู่ ด้ 24 ชวั่ โมง

เฉลยกจิ กรรมที่ มุ่งสคู่ วามสาเร็จ คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบทถี่ ูกทส่ี ุด แล้วทาเครื่องหมาย X ทบั อกั ษร ก ข ค ง ใน กระดาษคาตอบให้ตรงกบั ข้อทน่ี ักเรียนเลอื กตอบ ข้อ คาตอบ ข้อ คาตอบ 1 ข6 ก 2 ข7 ก 3 ก8 ข 4 ก9 ก 5 ข 10 ข


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook