Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฟอร์มแผนการจัดการเรียนรู้ ภาพรวม

แบบฟอร์มแผนการจัดการเรียนรู้ ภาพรวม

Published by theerapanthmusic, 2021-05-30 16:33:39

Description: แบบฟอร์มแผนการจัดการเรียนรู้ ภาพรวม

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ วชิ าดนตรี รหัสวชิ า ศ๑๑๑๓๗๒ ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๕ จดั ทําโดย นาย ธีรพนั ธ์ุ อม่ิ สะอาด ๖๑๘๑๑๖๖๐๐๖ เลขท่ี ๑๕

คาํ นํา แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าดนตรี ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที ๕ จดั ทาํ ข้นึ เพื่อใชเ้ ป็นแนวทาง ในการจดั การเรียนการสอนที่เน้นผูเ้ รียนเป็ นสําคัญ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ แผนการจดั การเรียนรู้ประกอบดว้ ยเน้ือหาสาระดังต่อไปน้ี แผนการจดั การเรียนรู้รายปี ซ่ึง ประกอบดว้ ย มาตรฐานและตวั ช้ีวดั กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ แผนการจดั การเรียนรู้รายคาบท้งั หมด ๓ แผนการจดั การเรียนรู้ ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบในงานดนตรี ทกั ษะดนตรี องคป์ ระกอบของบทเพลง อิทธิพลของดนตรีและการจัดแสดงดนตรี อารมณ์ของเพลงและอารมณ์ของเคร่ืองดนตรี ซ่ึงแต่ละ แผนการจดั การเรียนรู้ไดร้ ะบุมาตรฐาน ตวั ช้ีวดั จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการ เรียนรู้ตามรูปแบบการจดั การเรียนรู้ที่หลากหลาย อนั ไดแ้ ก่ รูปแบบการจดั การเรียนการสอนแบบการ จดั การเรียนรู้แบบจุลภาค รูปแบบการจดั การเรียนรู้ของ Backward Design ซ่ึงแต่ละรูปแบบมีวิธีการ จดั การเรียนการสอนท่ีแตกต่างกนั แต่ท้งั หมดนาํ มาซ่ึงการบรรลุจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นอกจากน้ียงั มี ใบงานและเกณฑก์ ารประเมินผล เพื่อใชใ้ นการประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรียนแต่ละคนว่าหลงั จาก เสร็จสิ้นการเรียน นักเรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเน้ือหาสาระมากน้อยเพียงใด ผ่านเกณฑ์การประเมิน หรือไม่ ผจู้ ดั ทาํ ขอขอบพระคุณ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. พชั รีภรณ์ บางเขยี ว เป็นอยา่ งยง่ิ ท่ีใหค้ าํ ปรึกษา และคาํ แนะนาํ ตลอดระยะเวลาการจดั ทาํ แผนการจดั การเรียนรู้ และหวงั เป็นอยา่ งยิ่งว่าแผนการจดั การ เรียนรู้เล่มน้ีเป็ นประโยชน์กบั การจดั การเรียนรู้ในห้องเรียน ทาํ ให้ผูเ้ รียนสามารถพฒั นาการเรียนรู้ได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพต่อไป ผูจ้ ดั ทำ นาย ธีรพันธ์ุ อม่ิ สะอาด

สารบญั หนา้ ๑ เรื่อง ๔-๕ แผนการจดั การเรียนรู้รายปี ๖ ตารางโครงสร้างรายวชิ า ๑๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การร้องเพลงและเล่นเคร่ืองดนตรี ๒๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ใชเ้ คร่ืองดนตรีบรรเลงจงั หวะและทาํ นอง หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ องคป์ ระกอบดนตรี

๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ศิลปะ รายวชิ า ดนตรี ช้ัน ประถมศึกษาป�ที่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ ป�การศึกษา ๒๕๖๔ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ครูผสู้ อน นาย ธีรพนั ธุ์ อ่มิ สะอาด มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า ดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ ดนตรี ท่เี ป�นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญ� ญาทอ้ งถ่นิ ภมู ิป�ญญาไทยและสากล มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า นาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน ชวี ิตประจำวนั มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คณุ ค่าของ นาฏศลิ ปท์ เี่ ปน� มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ �ญญาทอ้ งถ่ิน ภูมปิ ญ� ญาไทยและสากล ตวั ชว้ี ดั ศ ๑.๑ ป.๕/๑ บรรยายเกย่ี วกบั จงั หวะ ตำแหนง่ ของสิง่ ต่าง ๆ ทปี่ รากฏในส่งิ แวดล้อม และงาน ทศั นศลิ ปะ ศ ๑.๑ ป.๕/๒ เปรียบเทยี บความแตกต่างระหวา่ ง งานทัศนศิลป์ท่สี ร้างสรรค์ด้วยวสั ดุ อุปกรณ์ และวิธีการที่ตา่ งกัน ศ ๑.๑ ป.๕/๓ วาดภาพ โดยใชเ้ ทคนิคของแสงเงา น้ำหนกั และวรรณะสี ศ ๑.๑ ป.๕/๔ สรา้ งสรรค์งานป�นจากดนิ น้ามนั หรือดนิ เหนียว โดยเนน้ การถา่ ยทอด จนิ ตนาการ

๒ ศ ๑.๑ ป.๕/๕ สรา้ งสรรคง์ านพิมพภ์ าพ โดยเน้น การจดั วางตา้ แหน่งของสิง่ ต่าง ๆ ในภาพ ศ ๑.๑ ป.๕/๖ ระบปุ �ญหาในการจัดองค์ประกอบศลิ ป์ และการส่ือความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธกี ารปรบั ปรุง งานให้ดขี น้ึ ศ ๑.๑ ป.๕/๗ บรรยายประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ของงานทัศนศิลปท์ ม่ี ีผลตอ่ ชีวิต ของคนในสงั คม ศ ๑.๒ ป.๕/๑ ระบุและบรรยายเกยี่ วกับ ลักษณะรปู แบบของงานทัศนศลิ ป์ ในแหล่งเรยี นรูห้ รอื นิทรรศการศลิ ปะ ศ ๑.๒ ป.๕/๒ อภิปรายเกี่ยวกบั งานทัศนศลิ ป์ ทีส่ ะทอ้ นวัฒนธรรมและภูมิปญ� ญา ในท้องถิ่น ศ ๒.๑ ป.๕/๑ ระบอุ งคป์ ระกอบดนตรีในเพลง ทีใ่ ชใ้ นการส่ืออารมณ์ ศ ๒.๑ ป.๕/๒ จำแนกลักษณะของเสยี งขบั ร้อง และเครื่องดนตรีท่ีอยู่ในวงดนตรี ประเภทตา่ ง ๆ ศ ๒.๑ ป.๕/๓ อ่าน เขียนโน้ตดนตรไี ทยและสากล ๕ ระดบั เสียง ศ ๒.๑ ป.๕/๔ ใชเ้ ครอื่ งดนตรีบรรเลงจังหวะ และ ทำ นอง ศ ๒.๑ ป.๕/๕ รอ้ งเพลงไทยหรือเพลงสากล หรอื เพลงไทยสากลที่เหมาะสมกับวยั ศ ๒.๑ ป.๕/๖ ด้นสดง่าย ๆ โดยใชป้ ระโยคเพลง แบบถาม – ตอบ ศ ๒.๑ ป.๕/๗ ใชด้ นตรรี ว่ มกบั กจิ กรรม ในการแสดงออกตามจนิ ตนาการ ศ ๒.๒ ป.๕/๑ อธิบายความสมั พันธ์ระหว่างดนตรี กับประเพณีในวฒั นธรรมตา่ ง ๆ ศ ๒.๒ ป.๕/๒ อธิบายคุณค่าของดนตรีทม่ี าจาก วัฒนธรรมท่ตี ่างกัน ศ ๓.๑ ป.๕/๑ บรรยายองคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์ ศ ๓.๑ ป.๕/๒ แสดงท่าทางประกอบเพลง หรือเรือ่ งราวตามความคิดของตน ศ ๓.๑ ป.๕/๓ แสดงนาฏศลิ ป์โดยเนน้ การใช้ ภาษาทา่ และนาฏยศัพท์ในการสือ่ ความหมายและ การแสดงออก ศ ๓.๑ ป.๕/๔ มสี ว่ นรว่ มในกลุม่ กับการเขยี น เค้าโครงเรื่องหรอื บทละครสั้น ๆ ศ ๓.๑ ป.๕/๕ เปรยี บเทยี บการแสดงนาฏศลิ ป์ ชดุ ต่าง ๆ ศ ๓.๑ ป.๕/๖ บอกประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จาก การชมการแสดง

๓ ศ ๓.๒ ป.๕/๑ เปรียบเทยี บการแสดงประเภทต่าง ๆ ของไทยในแตล่ ะท้องถ่นิ ศ ๓.๒ ป.๕/๒ ระบุหรือแสดงนาฏศลิ ป์ นาฏศิลป์ พื้นบา้ นท่ีสะทอ้ นถึงวฒั นธรรม และประเพณี คำอธิบายรายวิชา ศึกษา อธิบาย บรรยาย เปรียบเทียบ ฝึ กปฏิบตั ิ เกี่ยวกับจงั หวะ ตาํ แหน่งของส่ิงต่างๆ ท่ี ปรากฏในส่ิงแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ ความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ ที่สร้างสรรค์ด้วย วสั ดุ อุปกรณ์ และวิธีการท่ีต่างกนั ประโยชน์และคุณค่าของงานทศั นศิลป์ ท่ีมีผลต่อชีวิตของคนใน สังคม การวาดภาพโดยใช้เทคนิคแสงเงา น้ําหนัก และวรรณะสี งานป้ันจากดินน้ํามันหรือดิน เหนียว การพิมพภ์ าพโดยเนน้ การจดั วาง ปัญหาในการจดั องคป์ ระกอบศิลป์ การสื่อความหมายในงาน ทัศนศิลป์ วิธีการปรับปรุงงานให้ดีข้ึน ลักษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ ในแหล่งเรียนรู้หรือ นิทรรศการศิลปะ งานทศั นศิลป์ ท่ีสะทอ้ นวฒั นธรรมและภูมิปัญญาในทอ้ งถิ่น องคป์ ระกอบดนตรีใน เพลงที่ใช้ในการส่ืออารมณ์ ลักษณะของเสียงขับร้องและเครื่องดนตรีที่อยู่ในวงดนตรีประเภท ต่างๆ การอ่านเขียนโน้ตดนตรีไทยและสากล ๕ ระดบั เสียง การใช้เคร่ืองดนตรีบรรเลงจงั หวะและ ทาํ นอง การร้องเพลงไทยหรือเพลงสากล หรือเพลงไทยสากลท่ีเหมาะสมกบั วยั การดน้ สดง่ายๆ โดย ใช้ประโยคเพลงแบบถาม-ตอบ การใช้ดนตรี ร่ วมกับกิจก รรมในการแส ดงออ ก ต าม จินตนาการ ความสัมพนั ธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีในวฒั นธรรมต่างๆ คุณค่าของดนตรีท่ีมาจาก วฒั นธรรมท่ีต่างกนั องคป์ ระกอบนาฏศิลป์ การแสดงท่าทางประกอบเพลงหรือเรื่องราวตามความคิด ของตน การแสดงนาฏศิลป์ โดยเนน้ การใชภ้ าษาท่าในการส่ือความหมายและการแสดงออก การแสดง นาฏศิลป์ ชุดต่างๆ การมีส่วนร่วมในกลุ่มกบั การเขียนเคา้ โครงเร่ืองหรือบทละครส้ันๆ ประโยชน์ท่ี ได้รับจากการชมการแสดง การแสดงประเภทต่างๆ ของไทยในแต่ละทอ้ งถิ่น นาฏศิลป์ พ้ืนบา้ นที่ สะทอ้ นถึงวฒั นธรรมและประเพณี โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางทศั นศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ ในการสร้างและนาํ เสนอผลงาน ทศั นศิลป์ ในการแสดงออกทางดนตรีและนาฏศิลป์ อยา่ งสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ การวิพากษว์ ิจารณ์ คุณค่างานทัศนศิลป์ เพ่ือให้เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ ที่เป็ นมรดกทาง วฒั นธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและ เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ดนตรี- นาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม นําความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน มี จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม

๔ รหัสตัวช้ีวัด ศ ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ศ ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ศ ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ศ ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ศ ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖ ศ ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ รวม ๒๖ รหสั ตัวชี้วดั ตารางโครงสร้างรายวิชา รายวิชา รหัสวชิ า ศ๒๒๑๐๑ กล่มุ สาระการศิลปะ ชน้ั ประถมศึกษาปท� ี่ ๕ ป�การศกึ ษา ๒๕๖๔ จำนวน ๑ ชว่ั โมง/ ๐.๕ หนว่ ยกติ หน่วยท่ี ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐาน เวลา (ชั่วโมง) การเรยี นรู้/ตัวชี้วดั ๑ การร้องเพลงและการเลน่ เครือ่ งดนตรี ๑.๑ ๑.ลกั ษณะของเสียงร้องและเครื่องดนตรี ศ ๒.๑ ๒ - การร้องเพลงไทย ป.๕/๒ - การร้องเพลงสากล - การบรรเลงเพลงไทย - การบรรเลงเพลงสากล ๒ ใชเ้ ครอ่ื งดนตรบี รรเลงจังหวะและทำนอง ศ ๒.๑ ๒ ๒.๑ ๑.ประเภทของเครื่องดนตรี ป.๕/๔

หน่วยที่ ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ๕ - เครื่องประกอบจงั หวะดนตรีไทย มาตรฐาน เวลา (ช่วั โมง) - เคร่ืองประกอบจงั หวะดนตรีสากล การเรียนร/ู้ ตัวช้ีวดั ๓ องคป์ ระกอบดนตรี ๓.๑ ๑.องคป์ ระกอบของบทเพลงท่ีใชส้ ือ่ อารมณ์ ศ ๒.๑ ๒ - เน้อื เพลง ป.๕/๑ -เคร่อื งดนตรี - ทำนองเพลง

๖ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ รายวิชาดนตรี กล่มุ สาระเรียนรูศ้ ลิ ปะ ปก� ารศึกษา ๒๕๖๔ ชน้ั ประถมศึกษาป�ที่ ๕ จำนวน ๒ ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ การรอ้ งเพลงและเล่นเครอ่ื งดนตรี ๑. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวัด มาตรฐานท่ี ศ. ๒.๑ เชา้ ใจและแสดงออกทางดนตีอยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษจ์ ิจารย์ คณุ คา่ ดนตรี ถา่ ยทอดความรู้สึกความคิดตอ่ ดนตรี อยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ อธิบายลกั ษณะองคป์ ระกอบดนตรีและลกั ษณะของเพลงที่ใชส้ ่ืออารมณ์ ๒.๒ แสดงการเปรียบเทียบเพลงที่ใชส้ ื่ออารมณ์และองคป์ ระกอบของเพลง ๒.๓ เห็นความสาํ คญั ของเพลงท่ีใชส้ ่ืออารมณ์ ๓. สาระสำคัญ การออกเสียงตามตวั โนต๊ และการรอ้ งเอ้ือนตามหลกั การรอ้ งเพลงไทยเดมิ รู้หลกั การบรรเลงเพลงไทยตามบันไดเสียงของเพลงไทยและการบรรเลงดนตรสี ากลตามหลกั ของเพลงฝง� ตะวนั ตก ๔. สาระการเรยี นรู้ ๔.๑ ด้านความรู้ (K) อธิบายลกั ษณะองคป์ ระกอบดนตรีและลกั ษณะของเพลงที่ใชส้ ่ืออารมณ์ ๔.๒ ด้านทักษะ (P) แสดงการเปรียบเทียบเพลงที่ใชส้ ่ืออารมณ์และองคป์ ระกอบของเพลง ๔.๓ ดา้ นจติ พสิ ัย (A) เห็นความสาํ คญั ของเพลงท่ีใชส้ ่ืออารมณ์ ๕. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ๑. ความสามารถในการแยกเสยี งแตล่ ะตวั โน๊ต ๒. ความสามารถในการคิด การคิดวิเคราะห์ ๓. ความสามารถในการแก้ป�ญหา ๔. ความสามารถในความจำ

๗ ๖. ชน้ิ งานหรือภาระงาน ๑. กิจกรรมการปฏิบตั ิการจำแนกเสยี งจากเครือ่ งดนตรี ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่๑ หน่วยย่อยท่ี ๑.๑ (รูปแบบการเรียนรู้ : รูปแบบการจัดการเรยี นร้แู บบจุลภาค) การร้องเพลงและการเล่นเครอ่ื งดนตรี ข้ันท่ี ๑ เตรยี มครผู ูส้ อน การศกึ ษาทักษะทางการสอนในรายวิชา ต้องมีเคร่ืองมือทพี่ ร้อมสำหรบั การสอนและการเรยี น ต้องมี ความสามารถทางด้านดนตรีในระดบั ทด่ี ีโดยเคร่ืองมือท่ีใชค้ ือขลยุ่ เพียงออ และ ขลุย่ รคี อเดอร์ ขน้ั ที่ ๒ ทดลองสอนและบนั ทกึ เทปวดิ ีทัศน์ ทดลองการสอนในชั้นเรียนและบนั ทกึ การสอนน้นั ไวเ้ พ่ือปรับปรุงการสอนในคร้งั ต่อไปในคร้ังตอ่ ไป โดยให้ นกั เรยี นจับกลมุ่ ละ ๓-๕ คน เพือ่ จะไดส้ ะดวกตอ่ การบันทึกเทปจากนั้นอธบิ ายเร่ืองตัวโนต๊ ใหแ้ กน่ กั เรียน ใหเ้ ข้าใจ จากน้ัน จงึ นำขล่ยุ มาเป่าพร้อมท้งั อธิบายเสยี งในแตล่ ะเสียง ไดแ้ ก่ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด(สงู ) ขน้ั ท่ี ๓ เรียนรแู้ ละประเมินผลการสอน เรยี นรูจ้ ากความผดิ พลาดตา่ งๆจากการดเู ทปย้อนหลังจากนั้นประเมินตวั เองและนักเรยี น โดยการสอบ เป�นกลุ่มตามท่แี บ่งไว้และให้นักเรยี นอัพคลปิ ลงเฟสบุ๊ก เพ่ือไว้พฒั นาทักษะในคร้งั ตอ่ ไป และบันทึก คะแนนให้กบั นักเรยี น เพ่ือใช้ในการปรบั ปรุงกบั นักเรียนกลมุ่ ต่อไป ข้ันท่ี ๔ ปรับปรุงพัฒนาการสอนกับนักเรียนกลุ่มใหม่ เริม่ ต้นการสอนที่ปรบั ปรงุ แล้วกับนกั เรียนกลมุ่ ใหม่ ๘. สือ่ การเรียนรู้ ๑. เคร่ืองดนตรไี ทยและสากล (ขลุ่ยเพยี งออและขล่ยุ รีคอเดอร์) ๒. หนงั สอื เรยี น รายวิชาดนตรี ป.๕ ๙. แหล่งเรียนรูใ้ นหรือนอกสถานที่ ๑. สบื คน้ ข้อมลู จากอินเทอร์เน็ต ๑๐. การวดั และประเมินผล

๘ รายการการประเมิน ระดับคณุ ภาพ ๔๓๒๑ กระบวนการทำงาน มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไมม่ กี ารกำหนด กลมุ่ สมาชกิ ชดั เจนและมี สมาชิกชัดเจน มีการ เฉพาะหัวหน้า ไม่มี บทบาทสมาชิก และ การชแ้ี จงเป้าหมาย ชแ้ี จงเป้าหมาย อย่าง การชแ้ี จงเป้าหมาย ไม่มีการช้แี จง การทำ งาน มีการ ชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน เปา้ หมาย สมาชิก ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานรว่ มกัน ปฏิบัติงานรว่ มกัน ตา่ งคนต่างทำงาน อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แตไ่ มม่ กี ารประเมิน ไม่ครบทุกคน พรอ้ มกบั การ เป�นระยะๆ ประเมินเปน� ระยะๆ วิธีการ เกณฑ์ เรยี กชอ่ื ของตวั โน๊ตท่ไี ด้ยิน ผา่ น / ไม่ผ่าน ผ่าน คือ สามารถบอกเสยี งแต่ละเสียงได้ ไม่ผ่านคือ ไม่สามารถบอกเสียงไดเ้ ลย ๑๑.กจิ กรรมเสนอแนะ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... .................................................................................................................. ๑๒. บันทึกหลังการสอน ๑๒.๑ สรปุ ผลการเรียนการสอน

๙ ๑. นกั เรยี น จำนวน...................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู.้ ...................คน คิดเป�นรอ้ ยละ......................... ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ...............คน คิดเป�นรอ้ ยละ.......................... ไดแ้ ก่ ๑. ........................................................................................................................ ๒. ......................................................................................................................... ๑. นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ ได้แก่ ๑. ......................................................................................................................... ๒. ........................................................................................................................ ๒. นักเรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจ (K) .............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ................................. ๓.นกั เรียนมีความรู้เกิดทกั ษะ (P) ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................ ๔. นักเรยี นมเี จตคติ ค่าสนิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A)

๑๐ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................ ๑๒.๒ ป�ญหา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................ ๑๒.๓ ขอ้ เสนอแนะ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ .................... ลงชือ่ ......................................................ครูผสู้ อน นกั ศกึ ษาฝ�กประสบการณ์วิชาชพี ครู วนั ที.่ ...........เดือน.............................พ.ศ. ............ ความคิดเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ................................ ลงช่อื ..........................................หวั หนา้ กล่มุ สาระครู วทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ วันที.่ ...........เดอื น.............................พ.ศ. ............

๑๑ ความคิดเห็นของครูพเี่ ล้ยี ง ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ................................ ลงชือ่ ....................................................ครูพเ่ี ลยี้ ง ครวู ทิ ยฐานะชำนาญการพเิ ศษ วันท่ี............เดอื น.............................พ.ศ. ............ ความเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ...........................................................แลว้ มี ความคดิ เห็นดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้  ครบถว้ นและถูกต้อง  ยังไม่ครบถว้ นหรอื ไม่ถูกต้อง ควรปรบั ปรงุ พัฒนา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจัดการเรียนรูก้ ับหลักสตู รสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง

๑๒  ยังไมส่ อดคล้อง ควรปรับปรุงพฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๓. รูปแบบการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้  เนน้ ผู้เรียนเปน� สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยังไมเ่ น้นผเู้ รยี นเป�นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๔. ส่ือการเรียนรู้  เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้  ยังไม่เหมาะสม ควรปรับปรุงพฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๕. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยังไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๖. เปน� แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี  นำไปใช้ได้จรงิ  ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ๗. ระดับคณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดีเย่ยี ม  ดมี าก  ดี

๑๓  พอใช้  ปรบั ปรุง ๘. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ........................................................................................ ลงชื่อ .................................................................. (............................................... ตำแหน่ง.......................................................... วนั ที่............เดือน.............................พ.ศ. ...........

๑๔ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒ รายวิชาดนตรี กลมุ่ สาระเรยี นรศู้ ิลปะ ป�การศึกษา 2564 ช้นั ประถมศกึ ษาปท� ี่ ๕ จำนวน ๒ ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๒ ใช้เคร่ืองดนตรบี รรเลงจงั หวะและทำนอง ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั มาตรฐานที่ ศ. ๒.๑ เช้าใจและแสดงออกทางดนตอี ยา่ งสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์จจิ ารย์ คณุ ค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สกึ ความคิดต่อดนตรี อยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ศ 2.1 ป.5/4 ใชเ้ ครือ่ งดนตรีบรรเลงจงั หวะและทำนอง ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ เครือ่ งดนตรไี ทย-สากล ประกอบจงั หวะและทาํ นอง ๒.๒ การจาํ แนก การใหเ้ หตผุ ล การสรุปความรู้ เคร่ืองประกอบจงั หวะไทย - สากล ๒.๓ เหน็ ความสำคัญของเคร่ืองประกอบจังหวะ ๓. สาระสำคัญ เคร่ืองดนตรีประกอบจงั หวะและทำนองแตล่ ะประเภท มีวิธกี ารบรรเลงแตกตา่ งกนั เมอ่ื นำมา บรรเลงรว่ มกนั จะเกิดเปน� บทเพลงทม่ี ีท่วงทำนองไพเราะนา่ ฟ�ง ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ ด้านความรู้ (K) อธิบายลกั ษณะของเคร่ืองประกอบจงั หวะดนตรีไทย - สากล ๔.๒ ด้านทักษะ (P) แสดงการเปรียบเทียบจาํ แนกเคร่ืองประกอบจงั หวะดนตรีไทย - สากล ๔.๓ ด้านจติ พสิ ยั (A) เห็นความสาํ คญั ของเครื่องประกอบจงั หวะดนตรีไทย - สากล ๕. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการแยกเครอื่ งดนตรีไทย - สากล ๒. ความสามารถในการคดิ การคิดวเิ คราะห์

๑๕ ๓. ความสามารถในการแกป้ �ญหา ๔. ความสามารถในความจำ ๖. ช้ินงานหรือภาระงาน ๑.ใบงานที่ ๑ เครื่องดนตรีไทยประกอบจังหวะและทำนอง ๒.ใบงานที่ ๒ เคร่ืองดนตรสี ากลประกอบจงั หวะและทำนอง ๗. กจิ กรรมการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ๒.๒ (รปู แบบการเรียนรู้ : รปู แบบการจดั การเรยี นรขู้ อง Backward Design) ใชเ้ คร่ืองดนตรีบรรเลงจงั หวะและทำนอง ๑. ครูนำบัตรคำ เคร่ืองดนตรไี ทยประกอบจงั หวะ และ เครือ่ งดนตรีไทยประกอบ ทำนอง ติดบนกระดาน แลว้ ร่วมกนั สนทนา ๒. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป�น 6 กลุ่ม แลว้ จับสลากเลอื กหัวข้อท่เี ก่ยี วกบั เครอ่ื งดนตรี ตา่ งๆ ไปศึกษา จากนน้ั ร่วมกันวาดภาพ และอธบิ ายเกีย่ วกับเคร่อื งดนตรี แลว้ ออกมา นำเสนอผลงาน ๓. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับบัตรภาพเครอ่ื งดนตรไี ทยและตอบคำถาม แล้วนำขอ้ มูลมาจดั บัตรภาพบนกระดานเปน� แผนภาพความคิด ๔. ครูนำบัตรคำและแถบประโยคมาตดิ ไว้บนกระดานและให้นักเรียนเลน่ เกมจับค่ใู ห้หนู หน่อย ๕. ครูเป�ดเพลงไทยที่มกี ารบรรเลงดนตรไี ทยให้นกั เรียนฟง� 1 เพลง แล้วรว่ มกันสนทนา จากนน้ั นำข้อมลู ที่ไดม้ าสรุปลงในแบบบนั ทึกทีอ่ อกแบบดว้ ยตนเอง จากนนั้ ครูคดั เลือก ผลงานทท่ี ำได้ดจี ำนวน 5 ชิ้นออกมานำเสนอ ๖. ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและสรุปความรเู้ กย่ี วกับเคร่ืองดนตรีไทยประกอบจงั หวะและ ทำนอง ๗. ครนู ำแถบประโยค เครื่องดนตรสี ากลประกอบจงั หวะและทำนอง ตดิ ไวบ้ นกระดาน แล้ว ร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ ๘. ครูนำบตั รภาพเป�ยโน และกลองสแนรต์ ดิ บนกระดาน แลว้ ใช้คำถามเพื่อใหน้ กั เรยี น รว่ มกันแสดงความคิดเห็น ๙. ครตู ดิ บตั รภาพเคร่อื งดนตรีสากลบนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนจำแนกเครอื่ งดนตรสี ากล ว่าเปน� เครอ่ื งดนตรปี ระกอบจังหวะหรอื ดำเนินทำนอง จากนนั้ นำขอ้ มลู ทไี่ ด้มาเขียนสรปุ ลงในแผนภาพความคิด

๑๖ ๑๐.ให้นักเรยี นเล่นเกมคหู่ นอู ยูไ่ หน โดยครูตดิ บัตรคำและแถบประโยคบนกระดาน แล้วครใู ช้ คำถามเพื่อให้นักเรยี นจับคู่ ๑๑.ครเู ป�ดเพลงทม่ี กี ารบรรเลงดนตรีสากลให้นักเรยี นฟง� จำนวน 1 เพลง แลว้ ร่วมกนั แสดง ความคิดเหน็ ตามหัวข้อที่ครูกำหนด จากนั้นนำขอ้ มูลท่ไี ด้ไปบนั ทึกลงในแบบบันทกึ ท่ี ออกแบบเอง แล้วคดั เลอื กนักเรยี น 5 คน ออกมานำเสนอผลงาน ๑๒.รว่ มกันแสดงความคิดเห็น และสรปุ ความรเู้ ก่ยี วกับเคร่อื งดนตรสี ากลประกอบจงั หวะและ ทำนอง ๘. สอื่ การเรยี นรู้ ๖. เกมจับคู่ให้หนหู น่อย ๑๑. เกมคหู่ นอู ยไู่ หน ๑. ฉาบ ๗. เครอ่ื งเล่นแถบบนั ทึกเสยี ง ๑๒. ป้ายวงกลมสตี า่ งๆ ๘. แถบบันทกึ เสยี ง ๑๓. ใบงานท่ี 2 ๒. บัตรคำ ๙. ใบงานท่ี 1 ๑๐. กีตาร์ ๓. สลาก ๔. บตั รภาพ ๕. แถบประโยค ๙. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรอื นอกสถานที่ ๑. สืบค้นข้อมลู จากอินเทอร์เนต็

๑๗ ๑๐. การวดั และประเมนิ ผล ใบงานท่ี 1 เครอ่ื งดนตรไี ทยประกอบจงั หวะและทาํ นอง ระดบั คะแนน เกณฑก์ าร 4 3 2 1 ประเมิน (10 คะแนน) (9 คะแนน) (7 – 8 คะแนน) (5 – 6 คะแนน) เขยี นบนั ทึกผล เขียนบนั ทึกผล เขยี นบนั ทึกผล เขียนบนั ทึกผล เขยี นบนั ทกึ ผล การฟังเพลงไทย การฟังเพลงไทย การฟังเพลงไทย การฟังเพลงไทย การฟังเพลงไทย ท่ีมกี ารบรรเลง ท่ีมีการบรรเลง ท่มี กี ารบรรเลง ท่มี ีการบรรเลง ท่ีมีการบรรเลง ดนตรไี ทย ดนตรีไทย ดนตรีไทย ดนตรีไทย ดนตรไี ทย ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ีกาํ หนด หวั ขอ้ ท่ีกาํ หนด หวั ขอ้ ท่ีกาํ หนด หวั ขอ้ ท่ีกาํ หนด และแตกตา่ งจาก และแตกต่างจาก ตามท่ีครู ตามท่ีครู ท่คี รูยกตวั อย่าง ท่คี รูยกตวั อย่าง ยกตวั อย่าง ยกตวั อย่าง มกี ารเช่อื มโยง แตเ่ ช่ือมโยงให้ แต่มีการดดั แปลง ใหเ้ หน็ ถงึ เห็นเฉพาะตนเอง ใหแ้ ตกต่าง ความสมั พนั ธ์ กบั ตนเองและ ผอู้ ่ืน

๑๘ ใบงานท่ี 2 เคร่ืองดนตรสี ากลประกอบจงั หวะและทาํ นอง ระดบั คะแนน เกณฑก์ าร 4 321 ประเมิน (10 คะแนน) (9 คะแนน) (7 – 8 คะแนน) (5 – 6 คะแนน) เขยี นบนั ทึกผล เขยี นบนั ทกึ ผล เขียนบนั ทึกผล เขยี นบนั ทกึ ผล เขยี นบนั ทึกผล การฟังเพลง การฟังเพลง การฟังเพลง การฟังเพลง การฟังเพลง ท่มี ีการบรรเลง ท่ีมกี ารบรรเลง ท่มี กี ารบรรเลง ท่ีมกี ารบรรเลง ท่มี ีการบรรเลง ดนตรสี ากล ดนตรสี ากล ดนตรีสากล ดนตรสี ากล ดนตรสี ากล ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั ไดส้ มั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ีกาํ หนด หวั ขอ้ ท่ีกาํ หนด หวั ขอ้ ท่ีกาํ หนด หวั ขอ้ ท่ีกาํ หนด และแตกตา่ งจาก และแตกตา่ งจาก ตามท่ีครู ตามท่ีครู ท่คี รูยกตวั อย่าง ท่คี รูยกตวั อย่าง ยกตวั อย่าง ยกตวั อย่าง มกี ารเช่อื มโยง แตเ่ ช่อื มโยงให้ แตม่ กี ารดดั แปลง ใหเ้ ห็นถงึ เห็นเฉพาะตนเอง ใหแ้ ตกต่าง ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองและผูอ้ ่ืน วิธกี าร เกณฑ์ ทำตามตารางแบบทดสอบ ผา่ น / ไม่ผา่ น ผา่ น คอื สามารถบอกเสียงแต่ละเสยี งได้ ไม่ผ่านคือ ไมส่ ามารถบอกเสยี งได้เลย

๑๙ ๑๑.กจิ กรรมเสนอแนะ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... .................................................................................................................. ๑๒. บันทึกหลงั การสอน ๑๒.๑ สรปุ ผลการเรยี นการสอน ๑. นักเรยี น จำนวน...................คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้....................คน คิดเปน� รอ้ ยละ......................... ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ...............คน คดิ เปน� รอ้ ยละ.......................... ได้แก่ ๑. ........................................................................................................................ ๒. ......................................................................................................................... ๑. นักเรียนท่มี ีความสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ ๑. ......................................................................................................................... ๒. ........................................................................................................................ ๒. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจ (K) ..............................................................................................................................................

๒๐ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ................................. ๓.นักเรียนมีความรูเ้ กิดทกั ษะ (P) ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................ ๔. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่าสนิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................ ๑๒.๒ ป�ญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................ ๑๒.๓ ข้อเสนอแนะ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ .................... ลงช่อื ......................................................ครผู ูส้ อน นกั ศึกษาฝก� ประสบการณว์ ิชาชพี ครู

๒๑ วันที่............เดือน.............................พ.ศ. ............ ความคดิ เห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ................................ ลงชอ่ื ..........................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ วนั ท่ี............เดอื น.............................พ.ศ. ............ ความคิดเหน็ ของครพู เี่ ลี้ยง ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ................................ ลงชอ่ื ....................................................ครูพีเ่ ลีย้ ง ครูวิทยฐานะชำนาญการพเิ ศษ วันที่............เดอื น.............................พ.ศ. ............ ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ...........................................................แลว้ มี ความคดิ เห็นดังนี้

๒๒ ๑. องค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไม่ครบถ้วนหรือไมถ่ กู ต้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนร้กู ับหลักสตู รสถานศึกษา  สอดคล้อง  ยงั ไม่สอดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๓. รปู แบบการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้  เนน้ ผู้เรียนเป�นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ยงั ไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน� สำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๔. สื่อการเรียนรู้  เหมาะสมกับรูปแบบการจดั การเรยี นรู้  ยงั ไม่เหมาะสม ควรปรบั ปรุงพัฒนา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๕. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจดุ ประสงค์การเรยี นรู้

๒๓  ยังไมค่ รอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๖. เป�นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี  นำไปใชไ้ ด้จริง  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ ๗. ระดบั คณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้  ดเี ยี่ยม  ดีมาก  ดี  พอใช้  ปรับปรุง ๘. ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ........................................................................................ ลงชื่อ .................................................................. (............................................... ตำแหนง่ .......................................................... วันท่ี............เดอื น.............................พ.ศ. ...........

๒๔ ใบงานที่ 1 เร่ือง....เคร่ืองดนตรีไทยประกอบจังหวะและทาํ นอง วนั ที่...........เดือน..............................พ.ศ............ ช่ือ.............................................................ช้นั ..................เลขท่ี........... ให้ครูเปิ ดเพลงไทยให้นักเรียนฟัง 1 เพลงทม่ี ีการบรรเลงดนตรีไทย ได้คะแนน (เช่น เพลงเขมรไทรโยค เพลงลาวเส่ียงเทยี น) แล้วตอบคําถามลงใน ............................... แบบบนั ทกึ คะแนนเตม็ 10 คะแนน แบบบันทกึ การฟังการบรรเลงดนตรีไทย 1. เพลงที่นกั เรียนฟังคือเพลง______________________________________________________ 2. เพลงน้ีมีการบรรเลงดว้ ยเคร่ืองประกอบจงั หวะอะไรบา้ ง ยกตวั อยา่ งมา 2 ชนิด_____________ __________________________________________________________________________ 3. เพลงน้ีมีการบรรเลงดว้ ยเครื่องดาํ เนินทาํ นองอะไรบา้ ง ยกตวั อยา่ งมา 2 ชนิด_______________ __________________________________________________________________________ 4. บทเพลงน้ีมีความไพเราะหรือไม่_________________________________________________ 5. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรที่ไดฟ้ ังการบรรเลงดว้ ยเครื่องดนตรีไทยประกอบจงั หวะและทาํ นอง __________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________ 6. การฟังการบรรเลงดนตรีไทยเป็นการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคด์ า้ นใด ซื่อสัตยส์ ุจริต รักความเป็นไทย อยอู่ ยา่ งพอเพียง

๒๕ ใบงานที่ 2 เร่ือง....เครื่องดนตรีสากลประกอบจังหวะและทาํ นอง วนั ท่ี...........เดือน..............................พ.ศ............ ช่ือ.............................................................ช้นั ..................เลขท่ี........... ให้ครูเปิ ดเพลงทมี่ กี ารบรรเลงดนตรีสากล 1 เพลง ได้คะแนน (เช่น เพลงชะตาชีวติ เพลงใกล้รุ่ง หรือขึน้ อยู่กบั ดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน) ............................... แล้วตอบคําถามลงในแบบบนั ทกึ คะแนนเตม็ 10 คะแนน แบบบนั ทกึ การฟังการบรรเลงดนตรีสากล 1. เพลงท่ีนกั เรียนฟัง คือ เพลง_____________________________________________________ 2. เพลงน้ีมีการบรรเลงดว้ ยเคร่ืองประกอบจงั หวะอะไรบา้ ง ยกตวั อยา่ งมา 2 ชนิด_____________ __________________________________________________________________________ 3. เพลงน้ีมีการบรรเลงดว้ ยเคร่ืองดาํ เนินทาํ นองอะไรบา้ ง ยกตวั อยา่ งมา 2 ชนิด_______________ __________________________________________________________________________ 4. บทเพลงน้ีมีความไพเราะหรือไม่_________________________________________________ 5. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรท่ีไดฟ้ ังการบรรเลงดว้ ยเครื่องดนตรีสากลประกอบจงั หวะและทาํ นอง __________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________

๒๖ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ รายวิชาดนตรี กลุ่มสาระเรยี นรู้ศลิ ปะ ป�การศกึ ษา ๒๕๖๔ ชั้นประถมศกึ ษาปท� ี่ ๕ จำนวน ๒ ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๓ องคป์ ระกอบดนตรี ๑. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด มาตรฐานท่ี ศ. ๒.๑ เชา้ ใจและแสดงออกทางดนตีอยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษจ์ ิจารย์ คณุ ค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึกความคดิ ต่อดนตรี อยา่ งอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ศ ๒๑ ป.๕/๑ ระบอุ งคป์ ระกอบดนตรีในเพลงท่ีใชใ้ นการส่ืออารมณ์ ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ องคป์ ระกอบดนตรี : จงั หวะ เสียง ทาํ นอง การประสานเสียง ๒.๒ จาํ แนกเคร่ืองดนตรีท่ีใชใ้ นการบรรเลง ๒.๓ เห็นความสาํ คญั ของเคร่ืองดนตรีเน้ือร้อง ๓. สาระสำคญั บทเพลงแต่ละบทเพลงจะตอ้ งมีองค์ประกอบดนตรีท่ีสมบูรณ์ ท่ีทาํ ให้บทเพลงมีการบรรเลง และขบั ร้อง ท่ีไพเราะ ทาํ ใหผ้ ฟู้ ังเขา้ ใจบทเพลงมากข้นึ ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ ดา้ นความรู้ (K) อธิบายลกั ษณะองคป์ ระกอบดนตรีท้งั ทาํ นองเน้ือร้องเครื่องดนตรี ๔.๒ ดา้ นทกั ษะ (P) แสดงการเปรียบเทียบจาํ แนกเครื่องดนตรีที่แสดงถึงความรู้สึก ๔.๓ ดา้ นจติ พิสัย (A) เห็นความสาํ คญั ของเครื่องดนตรีท่ีใชแ้ สดงถึงความรู้สึก

๒๗ ๕. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น ๑. ความสามารถในการเขา้ ใจความรู้สึก ๒. ความสามารถในการคดิ การคดิ วิเคราะห์ ๓. ความสามารถในการแก้ป�ญหา ๔. ความสามารถในความจำ ๖. ชิน้ งานหรือภาระงาน ๑. ใบงานองคป์ ระกอบดนตรี ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ๓ี่ หน่วยย่อยที่ ๑ (รูปแบบการเรียนรู้ : รูปแบบการจัดการเรยี นรขู้ อง Backward Design) การรอ้ งเพลงและการเลน่ เครอื่ งดนตรี ๑. ครูเปิดเพลงใหน้ กั เรียนฟัง 1 เพลง แลว้ รว่ มกนั แสดงความรูส้ กึ ตอ่ บทเพลงท่ฟี ัง ๒. ใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับบทเพลงตาม หวั ขอ้ ท่คี รูกาํ หนดให้ จากนนั้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ออกมานาํ เสนอผลงานทีละกลมุ่ ๓. ครูอธิบายเก่ียวกับองคป์ ระกอบดนตรีใหน้ ักเรียนฟังเพ่ิมเติม แล้วร่วมกันแสดงความ คดิ เหน็ เพ่ือสรุปขอ้ มลู ลงในแผนภาพ ๔. ครูนาํ แผนภูมิเพลงใครหนอมาติดไว้บนกระดาน แล้วแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ครูนํา นกั เรียน รอ้ งเพลงจนทกุ คนรอ้ งได้ แลว้ รว่ มกนั แสดงความคิดเห็น และบนั ทกึ ผลลงใน แบบบนั ทกึ จากนนั้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ออกมานาํ เสนอผลงานของตนเอง ๕. ใหน้ กั เรียนวิเคราะหบ์ ทเพลงท่ีช่นื ชอบ แลว้ บนั ทึกผลลงในแบบบนั ทึกท่ีออกแบบเอง และ ครูคดั เลือกผแู้ ทนนกั เรียนจาํ นวน 5 คน ออกมานาํ เสนอผลงาน ๖. รว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นและสรุปความรูเ้ กี่ยวกบั องคป์ ระกอบดนตรี ๘. สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. แถบบนั ทกึ เสยี ง ๒. เครื่องเลน่ แถบบนั ทกึ เสียง ๓. แผนภมู เิ พลงใครหนอ

๒๘ ๙. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรอื นอกสถานที่ ๑. สืบคน้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เน็ต ๑๐. การวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ าร ระดับคะแนน ประเมนิ 4 3 2 1 (9 คะแนน) (7 – 8 คะแนน) (5 – 6 คะแนน) (10 คะแนน) วเิ คราะหเ์ พลง ใคร วิเคราะหเ์ พลง ใคร วเิ คราะหเ์ พลง ใคร วิเคราะหเ์ พลง ใคร วิเคราะหเ์ พลง ใคร หนอ หนอ ได้ หนอ ได้ หนอ ได้ หนอ ได้ สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ ท่ี กาํ หนดและแตกต่าง กาํ หนดและแตกต่าง กาํ หนดตามท่ีครู กาํ หนดตามท่ีครู จากท่ีครูยกตวั อย่าง จากท่คี รูยกตวั อยา่ ง ยกตวั อย่าง แต่ ยกตวั อย่าง มีการเช่อื มโยง ให้ แต่เช่ือมโยงใหเ้ ห็น มกี ารดดั แปลงให้ เห็นถึง เฉพาะตนเอง แตกต่าง ความสมั พนั ธก์ บั ตนเองและผอู้ ่นื วิธกี าร เกณฑ์ ทำตามตารางแบบทดสอบ ผา่ น / ไมผ่ า่ น ผา่ น คือ สามารถบอกเสียงแต่ละเสียงได้ ไม่ผ่านคือ ไม่สามารถบอกเสียงได้เลย ๑๑.กิจกรรมเสนอแนะ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................

๒๙ ๑๒. บนั ทึกหลังการสอน ๑๒.๑ สรปุ ผลการเรียนการสอน ๑. นกั เรยี น จำนวน...................คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ...................คน คดิ เปน� ร้อยละ......................... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้................คน คดิ เปน� ร้อยละ.......................... ได้แก่ ๑. ........................................................................................................................ ๒. ......................................................................................................................... ๑. นักเรยี นทมี่ คี วามสามารถพเิ ศษ ได้แก่ ๑. ......................................................................................................................... ๒. ........................................................................................................................ ๒. นักเรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ (K) .............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ................................. ๓.นักเรยี นมคี วามรเู้ กดิ ทักษะ

๓๐ (P) ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................ ๔. นกั เรยี นมเี จตคติ คา่ สนิยม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A) ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................ ๑๒.๒ ปญ� หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................ ๑๒.๓ ขอ้ เสนอแนะ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ .................... ลงช่ือ......................................................ครผู สู้ อน

๓๑ นักศกึ ษาฝ�กประสบการณ์วชิ าชีพครู วันท.ี่ ...........เดือน.............................พ.ศ. ............ ความคดิ เห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ................................ ลงช่ือ..........................................หัวหน้ากลมุ่ สาระครู วทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ วันท่ี............เดือน.............................พ.ศ. ............ ความคดิ เหน็ ของครูพเ่ี ลย้ี ง ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ................................ ลงชื่อ....................................................ครูพีเ่ ล้ียง ครวู ิทยฐานะชำนาญการพเิ ศษ วันที.่ ...........เดอื น.............................พ.ศ. ............ ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รบั มอบหมาย

๓๒ ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ...........................................................แลว้ มี ความคดิ เหน็ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถ้วนและถูกตอ้ ง  ยังไม่ครบถ้วนหรอื ไมถ่ ูกต้อง ควรปรบั ปรงุ พัฒนา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรยี นรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคล้อง  ยังไมส่ อดคลอ้ ง ควรปรับปรงุ พฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๓. รูปแบบการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเปน� สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม  ยงั ไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเปน� สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๔. สือ่ การเรียนรู้  เหมาะสมกบั รูปแบบการจดั การเรียนรู้  ยังไม่เหมาะสม ควรปรบั ปรงุ พฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๕. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

๓๓  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลมุ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ควรปรบั ปรงุ พฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………… …………………. ๖. เปน� แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี  นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ ๗. ระดับคณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดีเยีย่ ม  ดีมาก  ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุ ๘. ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ........................................................................................ ลงช่ือ .................................................................. (............................................... ตำแหนง่ .......................................................... วันท่.ี ...........เดอื น.............................พ.ศ. ...........

๓๔ เรื่อง....องค์ประกอบดนตรี วนั ท่ี...........เดือน..............................พ.ศ............ ช่ือ.............................................................ช้นั ..................เลขที่........... ให้นักเรียนร่วมกนั ร้องเพลงใครหนอ จากน้ันตอบคําถามลงใน ได้คะแนน แบบบนั ทกึ ............................... คะแนนเตม็ 10 คะแนน เพลงใครหนอ เนือ้ ร้อง-ทาํ นอง สุรพล โทณวนิก ใครหนอรักเราเท่าชีวี ใครหนอปรานีไมม่ ีเส่ือมคลาย ใครหนอรักเราใช่เพยี งรูปกาย รักเขาไมห่ น่ายมิคิดทาํ ลาย...ใครหนอ ใครหนอเห็นเราเศร้าทรวงใน ใครหนอเอาใจปลอบเราเรื่อยมา ใครหนอรักเราดงั ดวงแกว้ ตา รักเขากวา้ งกวา่ พ้นื พสุธา นภากาศ จะเอาโลกมาทาํ ปากกา หรือเอานภามาแทนกระดาษ เอาน้าํ หมดมหาสมทุ รแทนหมึกวาด ประกาศพระคุณไม่พอ ใครหนอรักเราเท่าชีวนั ใครหนอใครกนั ใหเ้ ราข่ีคอ...คุณพอ่ คุณแม่ ใครหนอชกั ชวนดูหนงั สี่จอ รู้แลว้ ละก็อยา่ มวั ร้ังรอทดแทนบุญคุณ แบบบนั ทกึ การวเิ คราะห์เพลง 1. ช่ือเพลง___________________________________________________________________ 2. เพลงน้ีมีจงั หวะชา้ หรือเร็ว_____________________ใหอ้ ารมณ์และความรู้สึกอยา่ งไร______ _________________________________________________________________________ 3. ทาํ นองเพลงน้ีฟังแลว้ รู้สึกอยา่ งไร_______________________________________________ _________________________________________________________________________ 4. เพลงน้ีมีการประสานเสียงหรือไม่ มี ไมม่ ี 5. เพลงน้ีมีความหมายเกี่ยวกบั เรื่องอะไร ___________________________________________ _______________________________________________________________________

๓๕


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook