Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

Published by pradchaya2303, 2021-02-07 01:31:45

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 รายวิชาเพม่ิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื ง อะตอมและสมบัติของธาตุ เวลา 2 ช่ัวโมง เร่อื ง แบบจำลองอะตอม ครูผูส้ อน นายปรชั ญา ฉายาชวลิต 1. สาระการเรยี นรเู้ พม่ิ เติมเคมี เขา้ ใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบตั ขิ องธาตพุ ันธะเคมีและสมบตั ขิ องสาร แกส๊ และสมบัติของแกส๊ ประเภทและสมบัติของสารประกอบอนิ ทรยี ์และพอลเิ มอร์ รวมทงั้ การนำความรูไ้ ปใช้ ประโยชน์ 2. ผลการเรียนรู้ ม.4/1 สืบคน้ ขอ้ มลู สมมตฐิ าน การทดลอง หรอื ผลการทดลองทเ่ี ป็นประจกั ษพ์ ยานในการเสนอ แบบจาํ ลองอะตอมของนักวทิ ยาศาสตรแ์ ละอธบิ ายวิวัฒนาการของแบบจาํ ลองอะตอม 3. สาระการเรยี นร้เู พิ่มเติม นักวทิ ยาศาสตร์ศกึ ษาโครงสรา้ งของอะตอม และเสนอแบบจาํ ลองอะตอมแบบต่าง ๆ จากการศึกษา ข้อมลู การสงั เกต การตง้ั สมมตฐิ านและ ผลการทดลอง 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 เพื่อสรา้ งแบบจำลองเพอื่ อธบิ ายสงิ่ ทีม่ องไม่เหน็ (K) 3.2 นกั เรียนสามรถอธิบายสาเหตุทที่ ำใหอ้ งค์ความรหู้ รือแนวคิดทางวทิ ยาศาสตร์เกิดการเปลีย่ นแปลง (K) 3.3 นกั เรียนสามารถอธบิ ายแบบจำลองของดอลตนั ทอมสนั รัทเทอร์ฟอรด์ โบร์ และกกกลมุ่ หมอกก(K) 3.4 นกั เรียนสามารถทำการลองได้ได้อย่างปลอดภัยโดยไมเ่ กดิ อบุ ตั ิเหตุ (P) 3.5 นักเรยี นมคี วามกระตอื รอื ร้นในการทำการทดลอง ไมเ่ ลน่ ขณะทำการทดลองและขณะเรยี น (A) 5. สาระสำคัญหรอื ความคิดรวบยอด ธาตุต่าง ๆ จะมอี นุภาคที่เลก็ มาก เรียกวา่ อะตอม ภายในโครงสร้างอะตอมของธาตตุ า่ ง ๆประกอบด้วย อนุภาคมูลฐาน และจัดเรยี งตวั กนั อย่างเปน็ ระบบ ซง่ึ สามารถชว่ ยอธบิ ายสมบัตทิ างเคมีของสสาร และ ก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์มากมาย นกั วทิ ยาศาสตร์ไดศ้ กึ ษาโครงสรา้ งอะตอมโดยสร้างแบบจำลองอะตอมแบบ ตา่ ง ๆ เชน่ แบบจำลองอะตอมของ ดอลตนั ทอมสนั รทั เทอร์ฟอร์ด โบร์ และแบบกลมุ่ หมอก ซึ่งจาก การศึกษาทำใหเ้ กิดพฒั นาการอยา่ งตอ่ เนือ่ งของการศึกษาโครงสร้างของอะตอม และอธบิ ายปรากฏการณ์ ต่าง ๆ ทีเ่ กิดขึน้ ไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม

6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคดิ 6.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 6.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6.6 ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 6.7 ทักษาะแหง่ ศตวรรษที่ 21 6.8 จติ วทิ ยาศาสตร์ 7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) (5Es Instructional Model) ขั้นที่ 1 ขัน้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนวา่ “สวัสดีครับนักเรยี นวนั นเ้ี ปน็ อยา่ งไรกนั บา้ งเอ่ย” 2. ครูเอากล่องของขวญั ข้นึ มาใหน้ ักเรยี นดู (ครถู ามนักเรยี นว่า “วนั นี้ครูมีของขวัญ 1 กลอ่ งมาให้นกั เรยี นแต่นักเรียนทราบไหมวา่ มีอะไร ภายในกลอ่ งของขวัญใบนี้ลองเดากนั ด”ู แต่เอ.๊ ..? นกั เรยี นรู้ไหมครบั วา่ เรามีวธิ ีการคาดการณ์ ลักษณะของทอี่ ยู่ภายในกล่องนไี้ ดอ้ ยา่ งไร เม่ือเรียนจบคาบน้ีนกั เรยี นอาจจะสามารถเดา ลกั ษณะของภายในกลอ่ งนไ้ี ด้ ถ้าพรอ้ มแล้วเราก็ลยุ กันเลย) ขัน้ ท่ี 2 ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. ครแู บง่ กลุม่ นกั ออกเปน็ 4 กลมุ่ โดยใช้แอพพลิเคชัน่ ในการสมุ่ ช่อื 2. ครใู ห้นกั เรียนทำกิจกรรท่ี 2.1 กระปอ๋ งปริศนา

วิธกี ารทำกิจกรรม - สังเกตกระปอ๋ งปรศิ นาด้วยตาเปลา่ อาจจบั และเขย่ากระป๋องไดแ้ ตห่ า้ มดงึ เชือก อภิปรายกบั เพ่ือนใน กลุม่ สรปุ และวาดรปู แบบจำลองสงิ่ ท่อี ยภู่ ายในกระปอ๋ งพรอ้ มขอ้ สรุป - ดึงเชอื กหนึง่ เสน้ เบา ๆ ระวังอย่าใหเ้ ชือกขาด อภิปรายกบั เพือ่ นในกลมุ่ และวาดรูปแบบจำลองสงิ่ ทีอ่ ยู่ ขา้ งในกระปอ๋ ง พรอ้ มขอ้ สรปุ ทำจนครบ 4 เสน้ - ดึงเส้นเชือกพรอ้ มกนั ทลี ะ 2 เสน้ และวาดรปู แบบจำลองส่งิ ที่อยู่ขา้ งในกระปอ๋ ง - แต่ละกลมุ่ นำเสนอรูปวาดแบบจำลอง พรอ้ มอภิปรายผลประกอบ ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) ครอู ธิบายเปรียบเทียบของในกล่องของขวญั หรอื กลไกภายในกระป๋องปริศนาเปรยี บเสมอื น อะตอมขนาดเลก็ ทมี่ องไมเ่ หน็ ดว้ ยตาเปล่าซงึ่ การทจ่ี ะทราบว่าภายในอะตอมน้ันประกอบด้วยอะไรซง่ึ ตอ้ อาศยั กระบวน การสบื เสาะหาความร้แู ละทักษะทางวทิ ยาศาสตร์ เชน่ การสงั เกต การตัง้ สมมตฐิ าน การทดลอง การ ลงความเหน็ จากขอ้ มลู จากนัน้ จงึ นำองคค์ วามรเู้ หล่าน้นั มาผสมกบั จินตนาการ เพ่ือสรา้ งเป็นแนวคดิ หรอื แบบจำลอง โดยแบบจำลองทสี่ ร้างขึ้นมาต้องมีขอ้ มูลสนบั สนุน เพ่อื ใหเ้ กดิ ความนา่ เชือ่ ถอื และไดร้ บั การยอมรบั ข้ันท่ี 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) แนวคดิ ท่ีว่า สง่ิ ตา่ ง ๆ ประกอบดว้ ยอนุภาคทม่ี ีขนาดเลก็ มากและมองไมเ่ ห็นดว้ ยตาเปลา่ ไดเ้ รม่ิ ขึน้ ในสมัย กรีกโบราณ โดยเดโมครติ ุส (Democritus) ซ่งึ เป็นนักปราชญช์ าวกรกี ผหู้ นึง่ เสนอแนวคดิ ว่า ถา้ แบ่งส่งิ ต่าง ๆ ใหม้ ีขนาดเลก็ ลงเรอ่ื ย ๆ จะไดห้ น่วยยอ่ ยซึ่งไมส่ ามารถแบง่ ใหล้ งไปไดอ้ กี และเรียกหนว่ ยย่อยนีว้ า่ อะตอม (atom) ซ่ึงมาจากคำในภาษากรกี ว่า atomos แปลว่า แบ่งแยกอกี ไม่ได้ นกั วทิ ยาศาสตรม์ วี ธิ กี ารศึกษาเกีย่ วกบั โครงสร้างอะตอมซ่ึงมองไมเ่ ห็นดว้ ยตาเปล่า แบบจำลองอะตอม จากกิจกรรมอาจกล่าวได้วา่ การไดม้ าซ่ึงความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์น้นั เก่ียวข้องกับกระบวนการสืบเสาะหา ความรูแ้ ละทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ เชน่ การสงั เกต การตงั้ สมมตฐิ าน การทดลอง การลงความเหน็ จากข้อมูล จากนัน้ จงึ นำองคค์ วามรเู้ หลา่ น้ันมาผสมกบั จินตนาการ เพ่ือสร้างเป็นแนวคดิ หรือแบบจำลอง โดยแบบจำลอง ทสี่ ร้างขน้ึ มาตอ้ งมขี ้อมลู สนบั สนนุ เพื่อใหเ้ กดิ ความนา่ เช่ือถอื และได้รบั การยอมรบั อย่างไรกต็ ามแนวคิดหรอื แบบจำลองที่สร้างขึน้ มานั้นสามารถอธิบายปรากฎการณ์ไดด้ กี ว่าเดิม เชน่ เดยี วกับการศึกษาโครงสรา้ งอะตอม ซึ่งมีขนาดเล็กมากและมองไมเ่ ห็นด้วยตาเปล่า นกั วิทยาศาสตรต์ อ้ งใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้และ ทักษะทางวิทยาศาสตรเ์ พ่อื ให้ไดม้ าซ่งึ ความรู้ จากนน้ั จงึ นำความรูท้ ีไ่ ด้รบั มาประกอบกบั จนิ ตนาการเพอื่ สรา้ ง เป็นแบบจำลองอะตอมเดิมไมส่ ามารถใชอ้ ธิบายขอ้ มลู หรอื ผลทดลองใหม่ แบบจำลองอะตอมน้ัน ๆ กส็ ามารถ เปลีย่ นแปลงได้ แบบจำลองอะตอมมีววิ ฒั นาการดงั น้ี

แบบจำลองอะตอมของดอลตนั ในปี พ.ศ. 2346 จอหน์ ดอลตนั (John Dolton) นักวิทยาศาสตร์ชาวองั กฤษได้เสนอทฤษฎอี ะตอม เพอ่ื ใช้ อธิบายเก่ยี วกบั การเปลยี่ นแปลงมวลสารก่อนและหลังทำปฏกิ ิริยาเคมี รวมทงั้ อตั ราส่วนโดยมวลของธาตทุ ่ี รวมกันเป็นสารประกอบหนึ่ง ๆ ซึ่งมสี าระสำคญั ดังนี้ 1. ธาตุประกอบดว้ ยอนุภาคเลก็ ๆ อนุภาคเหล่าน้เี รยี กวา่ อะตอม ซ่งึ แบง่ แยกและทำใหส้ ูญหายไมไ่ ด้ 2. อะตอมของธาตชุ นิดเดยี วกนั มีสมบตั เิ หมอื นกนั เชน่ มีมวลเท่ากัน แต่จะมสี มบัตแิ ตกตา่ งจากอะตอมของ ธาตุอ่ืน 3.สารประกอบเกิดจากอะตอมของธาตุมากกว่าหนึง่ ชนิดทำปฏกิ ริ ิยาเคมีกนั ในอัตราสว่ นทเี่ ปน็ เลขลงตวั น้อย ๆ แบบจำลองอะตอมของทอมสนั ในช่วงปี พ.ศ.2440 เจ เจ ทอมสัน (J.J. Thomson) นักวทิ ยาศาสตร์ชาวอังกฤษทำการทดลองโดยใชร้ ังสี แคโทดเคล่อื นที่ผ่านสนามไฟฟ้าท่ีตงั้ ฉากกบั สนามแมเ่ หลก็ และปรบั ขนาดของสนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าใหพ้ อเหมาะ ผลปรากฏว่า รงั สแี คโทดเบย่ี งเบนในสนามไฟฟา้ เข้าหาขวั้ บวกของสนามไฟฟา้ และทดสอบการเบ่ยี งเบนของ รงั สีแคโทดในสนามแม่เหลก็ ปรากฏวา่ รังสีแคโทดเบี่ยงเบนในสนามแมเ่ หล็กเข้าหาข้ัวเหนือ แสดงวา่ รงั สี แคโทดมีประจลุ บ จากนัน้ ทอมสนั ไดท้ ดลองเปล่ียนชนิดของแก๊สทบ่ี รรจใุ นหลอดรงั สีแคโทด พบวา่ ได้ผล เหมอื นเดิม และเม่ือคำนวณหาอตั ราสว่ นของประจตุ ่อมวล(e/m) ของอนุภาค ไดค้ ่าเทา่ 1.76 คูลอมบ์/กรมั ทอมสันจึงสรุปได้วา่ อนุภาครงั สีแคโทดมปี ระจลุ บ และเรียกอนภุ าคดงั กล่าววา่ อเิ ล็กตรอน (electron)

แบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด ในปี พ.ศ. 2454 เออร์เนสต์ รัทเทอร์ฟอร์ด (Ernest Rutherford) ได้พิสูจน์แบบจำลองอะตอมของ ทอมสนั โดยการยงิ อนภุ าคแอลฟาไปยงั แผ่นทองคำบาง ๆ และใชฉ้ ากเรอื งแสงท่ีเคลอื บด้วยซิงคซ์ ัลไฟด์ (ZnS) โค้งเป็นวงล้อมรอบแผ่นทองคำ พบว่า ส่วนใหญ่การเรืองแสงบนฉากที่อยู่บริเวณด้านหลังของแผ่นทองคำมี บางครั้งทเ่ี กิดการเรอื งแสงบรเิ วณดา้ นข้าง และน้อยคร้งั มากท่ีมกี ารเรอื งแสงบรเิ วณดา้ นหน้า รัทเทอร์ฟอร์ดจงึ ไดเ้ สนอแบบจำลองอะตอมข้ึนใหม่ ดังน้ี แบบจำลองอะตอมของรทั เทอรฟ์ อร์ด เปน็ ทรงกลม ประกอบดว้ ยนิวเคลียสทมี่ ปี ระจบุ วกอยตู่ รงกลางอะตอม โดยมีอเิ ล็กตรอนท่ีมปี ระจลุ บวง่ิ อยูร่ อบ ๆ นวิ เคลยี ส แบบจำลองอะตอมของโบร์ ในปี พ.ศ. 2456 นลี ส์ โบร์ (Niels Henrik David Bohr) นกั วทิ ยาศาสตรช์ าวเดนมารก์ ได้เสนอทฤษฎี อะตอมทีอ่ ธบิ ายไดโ้ ดยปรากฎการณ์การเกิดเส้นของแสงท่ีเรียกว่า สเปกตรัม (spectrum) และได้นำความรู้ เร่ืองสเปกตรัมมาสร้างแบบจำลองอะตอมขึ้นมาใหม่ โดยสรปุ ไดว้ า่ 1. อะตอมประกอบด้วยนิวเคลียสอยู่ตรงกลางของอะตอม โดยมีอิเล็กตรอนเคลื่อนที่อยู่โดยรอบ อะตอมเปน็ ระดบั พลงั งานท่ีมคี ่าพลงั งานเฉพาะ คลา้ ยกับวงโคจรของดาวเคราะหร์ อบดวงอาทติ ย์ 2. แต่ละระดับช้ันพลังงานจะมีพลงั งานไม่เท่ากัน โดยระดับชั้นพลังงานท่ีอยู่ใกล้นิวเคลียสทีส่ ุดจะมี พลงั งานต่ำทสี่ ดุ คือ n = 1 และชัน้ ถดั ๆ ไปเปน็ n = 2, 3, 4, … ซ่งึ จะมีพลังงานสงู ขึ้นเรอื่ ย ๆ ตามลำดับ แบบจำลองอะตอมของโบร์ เป็นทรงกลม ประกอบดว้ ยนวิ เคลยี สอยูก่ ลางอะตอม โดยอเิ ลก็ ตรอน เคลือ่ นทอ่ี ย่โู ดยรอบอะตอมเปน็ ระดบั ชั้นพลงั งาน แบบจำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก (Electron cloud model of atom) นกั วิทยาศาสตรห์ ลายสาขาวชิ าได้ศึกษาเกย่ี วกบั พฤติกรรมของอเิ ลก็ ตรอน พบว่า อิเลก็ ตรอนสามารถ เป็นได้ทั้งคล่ืนและอนุภาค ซึ่งการค้นพบนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์เลิกศึกษาตำแหนง่ ของอิเลก็ ตรอน แต่หันมา ศึกษาเกี่ยวกับโอกาสหรือความเป็นไปได้ที่จะพบอิเล็กตรอนในบริเวณรอบ ๆ นิวเคลียส โดยสามารถสรุป ทฤษฎีแบบจำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอกได้ดงั น้ี

1. อะตอมประกอบด้วยนิวเคลียสอยูต่ รงกลาง และมีอิเลก็ ตรอนเคลื่อนที่อยู่รอบ ๆ นิวเคลียสท่วั ท้งั อะตอม โดยมีทศิ ทางการเคลื่อนทีอ่ ยา่ งไม่แนน่ อน ทำใหโ้ อกาสท่ีจะพบอเิ ลก็ ตรอนในบรเิ วณต่าง ๆ ของอะตอม มไี ดไ้ มเ่ ท่ากัน 2. บรเิ วณทม่ี ีกลมุ่ หมอกหนาแน่นจะมโี อกาสพบอเิ ลก็ ตรอนมาก ซ่ึงอย่บู ริเวณใกล้ ๆ นวิ เคลียส และ เมือ่ อยหู่ ่างออกจากนวิ เคลยี ส กลุ่มหมอกจะจางลงจึงมีโอกาสพบอิเล็กตรอนได้นอ้ ย แบบจำลองอะตอมแบบกล่มุ หมอก เปน็ ทรงกลม ประกอบด้วยนิวเคลยี สอยู่กลางอะตอม และอเิ ลก็ ตรอน เคลื่อนทอ่ี ยูร่ อบ ๆ นวิ เคลียส ไมม่ ที ิศทางทแี่ นน่ อน จากน้ันครใู ห้นักเรียนเล่น Kahoot ทค่ี รูสรา้ งไว้ เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น ข้ันที่ 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation) 1. ครูประเมินโดยใหน้ ักเรยี นเล่นเกม Kahoot เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น 2. ครปู ระเมินโดยใช้คำถามว่า แบบจำลองหรือแนวคิดในการอธิบายปรากฏการณต์ ่าง ๆ สามารถ เปล่ียนแปลงได้หรือไมอ่ ย่างไร (แนวคำตอบ : สามารถเปลีย่ นแปลงได้ ถา้ มขี อ้ มลู ใหมจ่ ากการทดลองมารองรับ) 3. ครปู ระเมินโดยใช้คำถามว่า ลักษณะแบบจำลองอะตอมของดอลตนั และทอมสันมลี ักษณะเป็น อยา่ งไร (แนวคำตอบ : แบบจำลองของดอลตันมีลักษณะกลมตัน แบบจำลองของทอมสันมลี ักษณะเปน็ ทรง กลมประกอบด้วยโปตรอน และอิเล็กตรอนท่ีกระจายกนั อยา่ งสม่ำเสมอ) 4. ครูประเมินโดยใชค้ ำถามว่า ลักษณะแบบจำลองอะตอมของรัทเทอรฟ์ อรด์ มีลกั ษณะเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ : เปน็ ทรงกลม ประกอบดว้ ยนวิ เคลียสทม่ี ปี ระจุบวกอยู่ตรงกลางอะตอม โดยมี อิเลก็ ตรอนท่มี ีประจลุ บวง่ิ อยรู่ อบ ๆ นวิ เคลียส) 5. ครปู ระเมินโดยใชค้ ำถามว่า ลกั ษณะแบบจำลองอะตอมของโบรม์ ลี กั ษณะเปน็ อย่างไร (แนวคำตอบ : เปน็ ทรงกลม ประกอบดว้ ยนวิ เคลยี สอยกู่ ลางอะตอม โดยอิเล็กตรอนเคลื่อนทอี่ ยู่ โดยรอบอะตอมเปน็ ระดบั ช้นั พลังงาน) 6. ครูประเมนิ โดยใชค้ ำถามวา่ ลักษณะแบบจำลองอะตอมของกกลุม่ หมอกมลี กั ษณะเปน็ อย่างไร (แนวคำตอบ : เปน็ ทรงกลม ประกอบด้วยนิวเคลียสอยู่กลางอะตอม และอเิ ลก็ ตรอนเคลื่อนทีอ่ ยู่ รอบ ๆ นิวเคลียส ไมม่ ีทศิ ทางทีแ่ นน่ อน)

7. ครูประเมินโดยสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม และแบบรายบคุ คล 8. สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ ส่ือ/วัสด/ุ อปุ กรณ์ แหลง่ เรยี นรู้ 1.หนงั สอื รายวชิ าเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์และ 1.google เทคโนโลยี เคมี เลม่ 1 https://www.scimath.org/lesson- chemistry/item/7121-atomic-model 2.Power Point นำเสนอเรอ่ื งแบบจำลองอะตอม 2.หนังสอื เรียน 3.ใบกจิ กรรม 2.1 กระป๋องปรศิ นา 4.Kahoot 9. การประเมินการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการวดั ผล เคร่ืองมือที่ใช้วัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1.ด้านความรู้ (K) -นักเรยี นสามารถตอบ -กิจกรรมการเรียนรู้ -สามารถเพอ่ื สรา้ ง คำถามได้ -คำถามท้ายกจิ กรรม แบบจำลองเพอื่ อธบิ าย -Kahoot สิ่งทมี่ องไมเ่ หน็ -นกั เรยี นสามรถอธบิ าย สาเหตุท่ที ำให้องค์ ความรู้หรอื แนวคดิ ทาง วทิ ยาศาสตรเ์ กิดการ เปล่ียนแปลง -นกั เรียนสามารถ อธบิ ายแบบจำลอง ของดอลตนั และทอม สัน รัทเทอร์ฟอรด์ โบร์ และกลุ ่มหมอกกได้ได้ -สามารถตอบคำถามได้ อยา่ งถกู ต้อง 2.ด้านทักษะ -นักเรยี นสามารถทำ -แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดบั คณุ ภาพ 3 ผ่าน กระบวนการ (P) การลองได้ไดอ้ ยา่ ง แบบกลุ่ม เกณฑ์ ปลอดภัยโดยไมเ่ กดิ อุบัตเิ หตุ 3.ดา้ นคณุ ลักษณะอัน -สังเกตพฤตกิ รรมแบบ -แบบสังเกตพฤตกิ รรม -ระดับคุณภาพ 3 ผ่าน พึงประสงค์ (A) กลุม่ แบบกลุ่ม เกณฑ์

-สงั เกตพฤตกิ รรมแบบ -สังเกตพฤตกิ รรมแบบ รายบุคคล รายบคุ คล 10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 10.1 จำนวนนักเรียนทสี่ อน …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.2ผลที่เกิดข้นึ จากเรียนเรยี นรู้ (ความรู้ / ทกั ษะ / จติ วิทยาศาสตร์) …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.3บรรยากาศการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10.4การปรบั เปลย่ี นแผนการจัดการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื ...............................................................ผเู้ ขยี นแผนการจดั การเรียนรู้ (…….………………………………………………..) ………../…………/………… ลงช่อื ...............................................................ผตู้ รวจ (…….………………………………………………..) ………../…………/…………

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานเปน็ กลมุ่ คำชแ้ี จง ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน จากน้ันทำเครอื่ งหมาย / ลงในชอ่ งว่างทตี่ รงกบั คะแนน กลุม่ ที่...... สมาชกิ 1................................................................................. 2....................................................................................... 3................................................................................. 4....................................................................................... 5................................................................................. ลำดบั ท่ี พฤติกรรม คุณภาพการปฏิบัติ 4 3 21 1 มกี ารแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ กนั ภายในกลมุ่ 2 สามารถทำใบกจิ กรรมได้อย่างถกู ตอ้ ง 3 มีความรับผิดชอบในการทำงานทไี่ ด้รบั มอบหมาย 4 มคี วามสามัคคี ชว่ ยเหลือเกอื้ กลู กันภายในกลุ่ม 5 มคี วามมงุ่ มั่นตงั้ ใจในการทำงาน 6 มีความใสใ่ จในการทำงาน ลงชอื่ ...............................................................ผู้ตรวจ (…….………………………………………………..) ………../…………/…………

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้ันอยา่ งสมำ่ เสมอ = 4 ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนน้ั บ่อยครง้ั = 3 ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมนัน้ บางครงั้ = 2 ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมนั้นนอ้ ยครงั้ = 1 เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ ระดับ 4 ดีมาก ชว่ งคะแนน ระดับ 3 ดี 21-24 ระดับ 2 พอใช้ 16-20 ระดบั 1 ปรบั ปรงุ 11-15 6-10

แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ลำดบั ชือ่ -นามสกุล ผู้ถกู ประเมิน พฤติกรรม รวม ต้งั ใจในการ การตอบ มีความ ตรงตอ่ ทำงาน คำถาม รับผดิ ชอบ เวลา 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12

เกณฑ์การใหค้ ะแนน รายการประเมนิ คำอธบิ ายคุณภาพ ตัง้ ใจทำงาน 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) การตอบคำถาม ไมม่ ีความสนใจในการ มคี วามรบั ผิดชอบ มคี วามตั้งใจในการ มคี วามใส่ใจในการ ทำงาน และไมต่ ัง้ ใจ ทำงาน ตรงตอ่ เวลา ทำงานและตง้ั ใจ ทำงานและต้งั ใจ ไม่ตอบคำถามเลย ทำงานอย่างสมำ่ เสมอ ทำงานบางคร้ัง ไม่ทำงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ตอบคำถามตลอดการ ตอบคำถามบางคร้ัง ไมส่ ง่ งานเลย เรียนอยา่ งสม่ำเสมอ ทำงานท่ีได้รบั ทำงานทไี่ ด้รบั มอบหมายอยา่ ง มอบหมายบางคร้งั สม่ำเสมอ สง่ งานตรงเวลา ส่งงานไมต่ รงเวลา บางครั้ง เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดบั คุณภาพ ระดบั 3 ดี ช่วงคะแนน ระดบั 2 พอใช้ 9-12 ระดบั 1 ปรับปรุง 5-8 1-4

ใบกจิ กรรม 2.1 กระป๋องปรศิ นา วัตถปุ ระสงคก์ ารทดลอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. วัสดแุ ละอุปกรณ์ ............................................................................................................................. ................................................. วิธีการทำกจิ กรรม - สังเกตกระป๋องปรศิ นาดว้ ยตาเปลา่ อาจจบั และเขยา่ กระปอ๋ งได้แต่ห้ามดงึ เชอื ก อภปิ รายกบั เพอ่ื นใน กลุ่ม สรุปและวาดรปู แบบจำลองสง่ิ ท่อี ยูภ่ ายในกระปอ๋ งพรอ้ มขอ้ สรปุ - ดึงเชือกหน่ึงเสน้ เบา ๆ ระวงั อยา่ ใหเ้ ชอื กขาด อภิปรายกบั เพ่ือนในกลมุ่ และวาดรูปแบบจำลองสงิ่ ทอ่ี ยู่ ข้างในกระป๋อง พรอ้ มขอ้ สรปุ ทำจนครบ 4 เสน้ - ดงึ เสน้ เชอื กพรอ้ มกนั ทลี ะ 2 เส้น และวาดรปู แบบจำลองสง่ิ ที่อย่ขู า้ งในกระป๋อง - แตล่ ะกลมุ่ นำเสนอรปู วาดแบบจำลอง พรอ้ มอภปิ รายผลประกอบ บันทกึ ผลการทดลอง ............................................................................................................................................................. ................. .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. สรุปและอภปิ รายผลการทดลอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. คำถามทา้ ยกจิ กรรม 1. กจิ กรรมนเี้ ช่อื มโยงกบั กระบวนการทำงานของวิทยาศาสตรอ์ ย่างไร ............................................................................................................................. ................................... 2. นักวิทยาศาสตรม์ กี ี่ใช้แบบจำลองเม่อื ใด ................................................................................................................................................................

3. แบบจำลองหรอื แนวคดิ ในการอธิบายปรากฏการณต์ า่ ง ๆ สามารถเปลยี่ นแปลงไดห้ รอื ไมอ่ ยา่ งไร ................................................................................................................................................................ ช่ือ-สกุล...........................................................ชัน้ ........เลขท.่ี .............. สรปุ เนอื้ หา แบบจำลองของ_______________________________ ลกั ษณะของแบบจำลอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. แบบจำลองของ_______________________________ ลกั ษณะของแบบจำลอง ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ชอ่ื -สกุล...........................................................ช้ัน........เลขท.่ี .............. สรุปเนอื้ หา แบบจำลองของ_______________________________ ลกั ษณะของแบบจำลอง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. แบบจำลองของ_______________________________ ลกั ษณะของแบบจำลอง ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook