Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมุนไพรไม่ใช่ยาขม

สมุนไพรไม่ใช่ยาขม

Description: สมุนไพรไม่ใช่ยาขม

Search

Read the Text Version

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 51 เอกสารอ้างอิง 1. Natural Standard. An authority on Integrative medicine. Available from: https://natu- ralmedicines.therapeuticresearch.com/ 2. พรอ้ มจิต ศรลัมพ,์ สมภพ ประธานธุรารกั ษ์, อุบลวรรณ บุญเปล่ง, นฤทัย เชอื้ นาค. คณุ คา่ ผักพ้ืนบ้าน เพ่ือสขุ ภาพของคนไทย. กรงุ เทพฯ: หจก. สามลดา จำ� กัด; 2552. 3. ภญ. ผกากรอง ขวญั ข้าว. พชื ใกล้ตวั รวบรวมจากบทความในอภยั ภูเบศรสาร. กรงุ เทพฯ: ปรมตั ถก์ าร พิมพ์; 2555. 4. ภญ.ดร. สภุ าภรณ์ ปติ พิ ร. สมนุ ไพร เพ่อื ชวี ติ พิชติ โรคภยั . กรงุ เทพฯ: ปรมัตถ์การพมิ พ;์ 2555. 5. สำ� นกั งานข้อมลู สมนุ ไพร (Medplant). Available from: http://www.medplant.mahidol.ac.th/ index.asp

52 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม เพชรสงั ฆาต Cissus quadrangularis L.

รักษไ์ ทย ใช้ยาไทย ภก.พนิ ิต ชนิ สร้อย รพ.วังน้�ำเย็น “ปัจจุบันได้มีการคัดเลือกสมุนไพรกลุ่มหน่ึงที่เรียกว่า สมุนไพรใน งานสาธารณสขุ มลู ฐาน ซง่ึ มกี ารศกึ ษาทางวทิ ยาศาสตรว์ า่ มปี ระสทิ ธผิ ลใน การใช้ มคี วามปลอดภยั และสามารถสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารพงึ่ ตนเองได้ จำ� นวน 61 รายการ เพอื่ สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนนำ� สมนุ ไพรเหลา่ นไี้ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั และสามารถพง่ึ ตนเองด้านสาธารณสขุ ได้”

54 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม คนไทยเป็นชนชาตทิ มี่ เี อกลกั ษณ์ในหลายๆ ด้าน เช่น ภาษา วัฒนธรรมประเพณี อาหาร และ ยาเองกเ็ ปน็ หนง่ึ ในนนั้ เพราะประเทศไทยมที รพั ยากรธรรมชาตอิ ยา่ งอดุ มสมบรู ณ์ มคี วามหลากหลาย ทางชวี ภาพ ร�่ำรวยด้วยพันธุ์พชื ต่างๆ ที่เป็นทง้ั อาหารและสมนุ ไพร และเป็นดนิ แดนท่มี ภี ูมปิ ระเทศท่ี เหมาะสม มีความสมั พนั ธต์ ดิ ตอ่ คา้ ขายกับนานาประเทศ ท�ำให้เกิดการแลกเปลย่ี นองค์ความรู้ ตลอด จนตวั ยาและพชื พนั ธส์ุ มนุ ไพรตา่ งๆ ประกอบกบั ความเปน็ นกั คดิ นกั พฒั นา บรรพบรุ ษุ ของเราจงึ มกี าร ผสมผสานองค์ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ จนท�ำให้ประเทศไทยมีความหลากหลายของยาสมุนไพร มากทสี่ ดุ ประเทศหนึง่ ในโลก ยาไทย นน้ั มมี ากมายหลายอยา่ ง ตงั้ แตย่ าทใี่ ชก้ นั โดยที่หาจากรอบๆ บา้ น ทีม่ ักจะเรยี กว่า ยากลางบา้ น ไป จนถงึ ยาทม่ี กี ารใชใ้ นราชสำ� นกั ทเี่ รยี กวา่ ยาหลวง นอกจาก นย้ี ังมกี ารแบง่ ชนดิ ของยาออกเป็นประเภทตา่ งๆ เชน่ ยา หอม ยาลม ยาเลือด ยาธาตุ ในบทความนจ้ี ะขอกล่าวถึง การใช้ยาต่างๆ พอสังเขปเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจลักษณะของ ยาสมนุ ไพรประเภทต่างๆ มากขึ้น ยากลางบา้ น สว่ นใหญจ่ ะเปน็ ยาทใ่ี ชใ้ นการรกั ษา โรคงา่ ยๆ ไมซ่ บั ซอ้ นมาก เปน็ ยาทหี่ าไดง้ า่ ยในทอ้ งถน่ิ บาง คร้ังอาจจะเป็นยาท่ีหมอพ้ืนบ้าน หมอราษฎร์ หรือหมอเชลยศักด์ิ น�ำมาใช้ในการดูแลรักษาคนไข้ใน โรคต่างๆ ท่อี าจจะมคี วามซับซอ้ นมากข้ึน เช่น โรคสตรี ไขท้ บั ระดู โดยใช้สมุนไพรท้องถิน่ และไม่ได้ ถูกน�ำไปบนั ทกึ ในตำ� รบั หรือพระคมั ภีรห์ ลวง ตัวอยา่ งของยากลางบ้าน เช่น ตำ� รบั ที่ 1 ยาแกไ้ ฟไหมน้ ำ้� รอ้ นลวกใบตน้ วา่ นหางจระเข้ ค้นั น้ำ� เอาเมอื กวา่ นหางจระเข้ทา บรเิ วณแผล

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 55 ต�ำรับท่ี 2 ยาแก้ไฟไหม้น้�ำร้อนลวก ให้น�ำใบชาจีนมาแช่น�้ำเย็นให้คลายตัว แล้วน�ำไปพอก บรเิ วณแผล ทิง้ ไวส้ กั คร่แู ลว้ เปล่ยี นใหม่ ทำ� ใหล้ ดอาการปวดแสบรอ้ นได้ ต�ำรับที่ 3 ทา่ นใหเ้ อาใบเสลดพงั พอน 1 กำ� มือ มาล้างให้สะอาด ตำ� ใหพ้ อแหลกผสมกบั น้ำ� ซาวขา้ ว หรอื เหลา้ โรง น�ำมาพอกบรเิ วณที่เปน็ ฝี หรอื ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย ทำ� ให้ลดบวมได้ ตำ� รับท่ี 4 ยาแกป้ วดทอ้ ง ท้องขน้ึ ท้องเฟ้อ เอาหัวขิงแก่ๆ นำ� มาตม้ น้�ำให้ข้น ดมื่ ชว่ ยขบั ลม แกป้ วดทอ้ ง ตำ� รบั ยาทย่ี กตวั อยา่ งมาขา้ งตน้ เปน็ ตำ� รบั ทใ่ี ชใ้ นการรกั ษาโรคเลก็ นอ้ ยๆ ใชส้ มนุ ไพรนอ้ ยชนดิ หรอื เพยี งชนดิ เดียว และวิธีการใช้ไมย่ งุ่ ยากซับซอ้ น อยา่ งไรกต็ าม ยังมีตำ� รับยากลางบ้านที่ใช้ส�ำหรับ โรคที่มอี าการรุนแรง เชน่ โรคสตรที อี่ ย่ไู ฟไมไ่ ด้ ไข้ทับระดู ซ่งึ ในการแพทย์แผนไทยเชือ่ ว่า โรคเหล่านี้ เปน็ โรคทค่ี อ่ นขา้ งซบั ซอ้ นและอาจมอี าการรนุ แรงไดห้ ากไมไ่ ดร้ บั การรกั ษาทถ่ี กู ตอ้ ง ตวั อยา่ งยาสำ� หรบั โรคกลุ่มน้ี เช่น ต�ำรบั ท่ี 5 ยาแก้สตรีโรคเลอื ดตีข้นึ ให้เอาพริกไทยลอ่ น 1 ขงิ 1 ดีปลี 1 ตัวอย่างทัง้ สามเอา อยา่ งละ 1 บาทเทา่ กัน ใบมะค�ำไก่ หนกั 3 บาท ตวั ยาท้ังหมด เอาบดให้ละเอียด ละลายกับเหลา้ โรง รับประทานคร้งั ละ 1 ชอ้ นกาแฟ แก้อาการเลอื ดตขี ึ้นหลังจากคลอดบุตร ตำ� รับท่ี 6 ยาแกไ้ ขท้ ับระดู ทา่ นใหเ้ อาต้นลกู ใต้ใบ 7 ตน้ เอาทั้งราก ล้างใหส้ ะอาด หัวหอม โทน 1 หัว ตม้ น้ำ� 3 สว่ นให้เหลอื หน่งึ ส่วน รบั ประทานครัง้ ละ 1 ถว้ ยชา มีสรรพคุณในการแก้ไข้ทับ ระดแู ละระดทู ับไข้ ตำ� รบั ที่ 7 ยาแกอ้ าการเพอ้ คลง่ั เพราะเลอื ดทำ� รากหญา้ ไทร 1 กำ� มอื ขงิ สด 7 แงง่ พรกิ ไทยลอ่ น

56 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 7 เมด็ หัวกระเทยี ม 2 กลบี ตัวยาทงั้ 4 ต�ำให้ละเอียดคน้ั เอาเฉพาะนำ�้ ยา ใชร้ ับประทาน แก้อาการ เลอื ดท�ำ เมอื่ คลอดลกู แล้วใหช้ ะงดั ยาอกี กลมุ่ หนงึ่ เปน็ ยาทมี่ กี ารใชใ้ นราชสำ� นกั หรอื ทเ่ี รยี กวา่ ยาหลวง ตำ� รา ทถี่ อื วา่ เปน็ ตำ� รายาหลวง เช่น ต�ำราโอสถพระนารายณ์ ซึ่งรวบรวมยาตำ� ราหลวง และยาท่ีมีชอื่ เสยี งในสมยั สมเด็จพระนารายณ์มหาราชหรอื ใกล้เคยี ง โดยมีแพทย์ หลวงผถู้ วายตำ� รับยาซง่ึ เปน็ ทง้ั หมอไทย หมอจีน หมอแขกและหมอฝร่งั จึงเป็น ต�ำรายาท่ีทรงคุณค่าอย่างย่ิง อีกต�ำราหน่ึงท่ีน่าสนใจ คือ ต�ำราพระโอสถ ครั้ง รชั กาลที่ 2 ซึ่งเดิมเปน็ ตำ� รา 2 เลม่ คือ ต�ำราโรงพระโอสถ 1 เลม่ และตำ� ราพระ โอสถอกี 1 เลม่ ซึง่ รัชกาลที่ 2 ทรงโปรดเกลา้ ใหร้ วบรวมขน้ึ เนือ่ งจากทรงเหน็ ว่า ต�ำราในโรงพระโอสถนั้นบกพร่อง จึงทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีการสืบถามต�ำราจากท่ีต่างๆ ว่า ใครมีต�ำรายาดี ขอให้จดต�ำรายาและสรรพคุณนั้นมาถวายเพื่อจะได้ตรวจสอบเป็นต�ำราไว้ในโรงพระ โอสถ ตวั อยา่ งยาในต�ำราโอสถพระนารายณ์ และ ต�ำราพระโอสถ ครง้ั รชั กาลท่ี 2 เชน่ ยาอังคบพระเสน้ เทยี นดำ� 1 ส่วน เกลอื 1 สว่ น อบเชย 2 ส่วน ไพล 4 ส่วน ใบพลับพลึง 8 ส่วน ใบมะขาม16 สว่ น ตำ� คุลกิ าร (คลุกเคล้าใหเ้ ข้ากนั ) หอ่ ผา้ นง่ึ ขึ้นใหร้ อ้ น อังคบพระเส้นอันพริ ธุ ใหห้ ย่อนแล ยาทาพระเส้น ยาทาพระเสน้ ใหเ้ อาพรกิ ไทย ข่า กระชาย หอม กระเทยี ม มหาหิงค์ุ ยาด�ำ สง่ิ ละส่วน ตะไคร้ หอม ใบขเ้ี หล็ก ใบตองแตก ใบมะขาม ใบเล่ียน สงิ่ ละ 4 สว่ น ใบมะคำ� ไก่ 16 ส่วน น�้ำสรุ า หรือนำ�้ สม้ สายชู กไ็ ดเ้ ป็นกระสายทาแกพ้ ระเส้นพิรธุ

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 57 ยากำ� ลังราชสหี ์ เอาผลจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู เลือดแรด สง่ิ ละสว่ น โกฐสอ โกฐเขมา โกฐเชยี ง โกฐจุฬาลำ� ภา โกฐหวั บัว เทยี นดำ� เทียนแดง เทยี นขาว เทียนข้าวเปลือก เทียนตาตก๊ั แตน สง่ิ ละ 2 ส่วน เจตมลู เพลิง สะค้าน ดปี ล ี ขงิ แหง้ รากชะพลู ดอกพิกลุ ดอกบนุ นาค สารภี เกสรบัวหลวง ดอก มะลิ ดอกจำ� ปา ดอกกระดังงา ดอกคำ� กฤษณา กะลมั พกั ชะลูด ขอนดอก อบเชย จนั ทน์ท้งั 2 ส่ิงละ 4 ส่วน ฝางเสน 9 ส่วน ต้มกินบ�ำรงุ โลหิตให้งามบรบิ รู ณ์ นอกจากยาท่ีมีการบันทึกแล้ว ก็มียาสมุนไพรบางประเภทซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีและใช้กันอย่าง แพร่หลาย เช่น ยาธาตุ ยาหอม ยาสตรี ซึ่งในที่นขี้ อกล่าวถงึ พอสงั เขปดังนี้ ยาธาตุ เป็นยาทใี่ ช้ในการบ�ำรุงธาตุ (ธาตุไฟ) ชว่ ยท�ำให้การย่อยอาหารเป็นปกติ เชน่ ยาธาตุ บรรจบ ยาธาตอุ บเชย ยาประเภทนจี้ ะประกอบดว้ ยสมนุ ไพรทมี่ ฤี ทธคิ์ อ่ นขา้ งรอ้ นเพอ่ื ชว่ ยในการบำ� รงุ ไฟธาตุ และขบั ลมท่แี นน่ อยูใ่ นทางเดนิ อาหาร ยาหอม เปน็ ยาสมุนไพรท่ีมกี ลนิ่ หอม ช่วยในเรือ่ งการไหลเวยี นของธาตลุ ม โดยเฉพาะที่เรียก ว่า ลมกองละเอียด ยาหอมมักจะมีสว่ นประกอบท่สี �ำคัญ 3 สว่ น ได้แก่ 1. สมนุ ไพรทมี่ กี ล่ินหอม มรี สสุขมุ เช่น เกสรดอกไม้ โกฐ เทียน ชะลูด อบเชย ชะมดเชด็ 2. สมนุ ไพรที่มีสรรพคณุ ในการปรบั ธาตุ เช่น เบญจกลู ตรผี ลา 3. สมนุ ไพรทมี่ ีสรรพคุณตามท่ตี ้องการในตำ� รบั หรอื สมุนไพรที่ออกฤทธ์หิ ลกั ตัวอย่าง เชน่ ยาหอมทิพยโอสถ เปน็ ยาหอมทใ่ี ชใ้ นการแกล้ มวิงเวียน แกส้ วิงสวาย ยาหอม เทพจิตรแก้ลมกองละเอยี ดท�ำดวงจติ ให้ชมุ่ ชนื่ ยาสตรี เปน็ ยาสมุนไพรท่ใี ช้ในกลุม่ อาการของโรคสตรี ยาทน่ี ิยมอยใู่ นทอ้ งตลาดจะเปน็ ยาที่ ใช้ในการบ�ำรุงเลือดช่วยให้ประจ�ำเดือนมาสม�่ำเสมอ ส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่มีรส ร้อน และมีเหล้าโรงเปน็ กระสาย

58 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม ปัจจุบันได้มกี ารคัดเลือกสมุนไพรกลมุ่ หนึง่ ทเ่ี รียกวา่ สมุนไพรในงานสาธารณสขุ มูลฐาน ซึ่ง มีการศกึ ษาทางวทิ ยาศาสตรว์ า่ มีประสทิ ธิผลในการใช้ มีความปลอดภัย และสามารถส่งเสรมิ ใหม้ กี าร พ่ึงตนเองได้ จำ� นวน 61 รายการ เพอ่ื สง่ เสริมให้ประชาชนนำ� สมนุ ไพรเหล่าน้ไี ปใช้ในชีวิตประจำ� วนั และสามารถพ่ึงตนเองด้านสาธารณสุขได้ โดยแบ่งสมุนไพรที่ใช้ตามกลุ่มโรคต่างๆ เช่น กลุ่มโรคทาง เดินอาหาร กลุ่มโรคทางเดินหายใจ กลุ่มโรคผิวหนัง ตัวอย่างสมุนไพรที่ใช้ในงานสาธารณสุขมูลฐาน เชน่ โรคกระเพาะอาหาร ใช้ขมน้ิ ชนั กลว้ ยน้ำ� วา้ อาการไอ ใชข้ งิ เพกา มะขามป้อม มะแว้ง กลาก เกลือ้ น ใช้ขา่ ชุมเห็ดเทศ กระเทยี ม จากความหลากหลายของยาสมนุ ไพรไทยนเี้ อง ทำ� ใหแ้ มแ้ ตใ่ นอดตี คนไทยกส็ ามารถเขา้ ถงึ ยา ไดง้ า่ ย และเลือกใชบ้ �ำบัดรกั ษาอาการเจ็บปว่ ยได้อยา่ งเหมาะสม จงึ มกี ารใชก้ ันอยา่ งแพรห่ ลายกลาย เปน็ ที่ยอมรบั มานานกอ่ นท่ีการแพทยต์ ะวันตกและยาสมัยใหม่จะเขา้ มา ดังนั้นเราจงึ ควรช่วยกนั ฟ้ืนฟู และส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรเพื่อน�ำกลับมาใช้ดูแลสุขภาพ และยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาของ บรรพบุรุษอีกด้วย คำ� ถามท้ายเรื่อง 1. อธบิ ายความแตกตา่ งระหวา่ ง “ยากลางบ้าน” และ “ยาหลวง” 2. อธบิ ายโครงสรา้ งของต�ำรับยาหอม

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 59 เอกสารอ้างอิง 1. กองการประกอบโรคศิลปะ ส�ำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ . ต�ำราแพทย์แผนโบราณทวั่ ไป สาขา เภสัชกรรม. 2. ชยนั ต์ พเิ ชยี รสนุ ทร, แมน้ มาส ชวลติ , วเิ ชยี ร จรี วงส.์ คำ� อธบิ าย ตำ� ราพระโอสถพระนารายณ.์ กรงุ เทพฯ: อมรินทร์ พริ้นต้งิ แอนดพ์ ลบั ลิชชิง จำ� กดั (มหาชน); 2544. 3. พระครวู ิทติ วรเวช (ส.เปลยี่ นศรี), สัมพันธ์ ยิ้มศริ ,ิ สมบตั ิ ศรงี าม. ต�ำรายาแพทยแ์ ผนไทย. กรุงเทพฯ: หา้ งหุ้นส่วนจำ� กัด 919 เทคนคิ พริ้นด้ิง. 4. โรงเรยี นแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตพุ นฯ ท่าเตยี น พระนคร. ต�ำราประมวลหลักเภสัช. กรุงเทพฯ: นำ� อกั ษรการพิมพ;์ 2528. 5. วฒุ ิ วฒุ ิธรรมเวช. สารานุกรมสมุนไพร รวมหลักเภสัชกรรมไทย. กรงุ เทพฯ: โอเดียนสโตร์; 2540. 6. สมุ่ วรกจิ พศิ าล. เวชศาสตรว์ ัณณา ต�ำราแพทย์แบบเกา่ . กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์พิศาสบรรณนติ ิ์; 2460.

60 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม ตรผี ลา มะขามปอ้ ม Phyllanthus emblica L. สมอไทย Terminalia chebula Retz. สมอพิเภก Terminalia bellirica (Gaertn.) Roxb.

ความงามจากธรรมชาติ ภญ.อาสาฬา เชาวนเ์ จรญิ รพ.เจ้าพระยาอภยั ภเู บศร “ความงามนนั้ เราสามารถสรา้ งขนึ้ ไดจ้ ากธรรมชาตทิ อ่ี ยรู่ อบตวั เรา อยา่ งผกั หรอื ผลไมท้ คี่ นุ้ เคยกนั ดี แตไ่ มเ่ คยรวู้ า่ มสี รรพคณุ ดๆี มากมายซอ่ น อยู่ หรอื สมนุ ไพรบางชนดิ ทา่ นอาจไมเ่ คยรจู้ กั มากอ่ น กเ็ ปน็ โอกาสดที จ่ี ะได้ เรียนรู้เรื่องราวของสมุนไพร เพ่อื ท่ีวา่ จะได้มโี อกาสถา่ ยทอดความรเู้ หล่านี้ สืบต่อไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน เพ่ือไม่ให้องค์ความรู้สมุนไพรเหล่านี้สูญหายไป อกี ทง้ั ยงั เป็นการประหยดั เงินในกระเป๋าอีกดว้ ย...นี่แหละ มหศั จรรยค์ วาม งามจากธรรมชาต”ิ

62 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม “คนจะงาม งามท่ใี จ ใชใ่ บหน้า คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน” สภุ าษิตน้เี ชอื่ ว่าหลายๆ คนคงเห็นด้วย เพราะอธิบายความหมายของความงามได้อย่างดี คนเราจะดูงามได้ต้องอาศัยองค์ ประกอบหลายอยา่ ง ไมใ่ ชแ่ คห่ นา้ ตาดอี ยา่ งเดยี ว ลองสงั เกตคนรอบขา้ งทเี่ รารจู้ กั อยา่ งเพอื่ นสนทิ หรอื พ่ีนอ้ ง บางคนเกิดมาสวยเกิดมาหลอ่ แตข่ าดเสน่ห์ ไม่เคยยม้ิ ให้ใคร หน้าตาบงึ้ ตึงตลอดเวลา หรอื บาง คนหน้าตากด็ ดู ี แตพ่ อเอย่ ปากมีแตค่ �ำหยาบค�ำสบถออกมา คนฟงั กเ็ บือนหนา้ หนี ตรงกันข้าม บางคน หน้าตากธ็ รรมดา แตพ่ ดู จาเพราะ วางตวั ดี กริ ยิ ามารยาทเรียบรอ้ ย บุคลิกภาพดี ก็ดดู มี เี สนห่ ข์ ้นึ มาได้ นอกจากนสิ ยั ใจคอกริ ยิ ามารยาททที่ ำ� ใหค้ นเราดงู ามแลว้ กม็ ปี จั จยั อกี หลายประการทเี่ ปน็ ตวั บ่ันทอนความงามให้ลดน้อยลง เช่น ความเครียด ยิ่งเครียดมาก ยิ่งแก่เร็ว ซึ่งแก้ไขได้โดยรู้จักปรับ ทัศนคติความคดิ มองโลกในแงด่ ี คดิ บวก คนทีอ่ ารมณด์ ี ย้มิ ง่าย มักจะมีหนา้ ตาสดใส ดูอ่อนกวา่ วัย นอกจากความเครียดแล้ว โรคภัยไขเ้ จ็บต่างๆ กเ็ ป็นอีกปจั จยั หนึง่ คนปว่ ยสว่ นใหญ่จะดูเศร้าหมองไม่ สดใส หนา้ ตาซดี เซียว ไมม่ เี ร่ียวแรงดูแลตนเอง ยงิ่ ป่วยหนัก ย่งิ หน้าตาทรุดโทรม แมว้ ่าเรอื่ งเจบ็ ปว่ ย จะเป็นสัจธรรมท่ีมนุษย์หนีไม่พ้น แต่ถ้าเราดูแลสุขภาพรักษาร่างกายให้แข็งแรง โอกาสจะเจ็บป่วยก็ นอ้ ยลง หรือถ้าปว่ ยก็หายเรว็ อกี ปจั จยั หนงึ่ ทเี่ ปน็ ศตั รตู วั ฉกาจของความงาม คอื กาลเวลา หรอื อายทุ มี่ ากขน้ึ นนั่ เอง ทางการ แพทย์ถือว่าคนเราเริ่มเข้าสู่วัยที่ร่างกายเริ่มท�ำงานน้อยลงเม่ืออายุ 25 ปี ร่างกายจะเร่ิมแสดงความ เสอื่ มทร่ี ะดบั เซลลก์ อ่ น บนใบหนา้ อาจยงั ไมแ่ สดงออกถงึ ความชราอะไรมากมาย แตเ่ มอื่ วยั ใกลจ้ ะสสี่ บิ ก็จะเร่ิมปรากฏสัญญาณแห่งความร่วงโรยของสังขาร เช่น ตีนกาท่ีหางตา หนวดมังกรที่ร่องแก้ม มี เหนยี งใต้คาง ผมร่วง ระบบเผาผลาญลดลง กินอะไรนดิ หน่อยกน็ ำ�้ หนกั ข้ึน อดนอนไมค่ อ่ ยไดเ้ หมือน ตอนหนุ่มสาว ใช้เวลาในการเรียนรู้ส่ิงใหม่ๆ นานข้ึน ความชราเป็นเรื่องของสังขารท่ีฝืนกันไม่ได้ แต่ อย่างนอ้ ยถ้าเราเริม่ ดูแลตัวเองตั้งแต่วนั น้ี ความงามกจ็ ะอยกู่ ับเรานานข้ึน

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 63 ผเู้ ขยี นเชอื่ วา่ การดแู ลความงามดว้ ยวถิ ธี รรมชาตนิ นั้ ปลอดภยั เหน็ ผลไดจ้ ากภายในสภู่ ายนอก เพราะเปน็ การดูแลสขุ ภาพอยา่ งเป็นองค์รวม ใครท่ีคดิ ว่าตัวเองเกิดมาขเี้ หร่ หน้าตาไมส่ วยสดงดงาม หากได้รู้เคล็ดลบั ความงามจากธรรมชาติแล้ว ยอ่ มสามารถปรบั ปรุงรูปโฉมให้มเี สนห่ ข์ ้นึ ได้ สว่ นใครที่ สวยหลอ่ เป็นทุนเดมิ อยู่แลว้ กย็ ่ิงดูดขี นึ้ ไปอีก และยงั มีเคล็ดลบั ทจี่ ะถนอมรักษาความงามนน้ั ให้อยู่กบั เราได้นานท่สี ดุ มาเริม่ กันเลย ฮอร์โมนสว่ นใหญ่ของร่างกายจะพบในระดับสูงสุดเม่อื อายุ 20-25 ปี จากนน้ั จะค่อยๆ ลดลง ตามอายุ เปน็ ทนี่ า่ สงั เกตวา่ growth hormone ทชี่ ว่ ยในการเจรญิ เตบิ โตจะพบมากในวยั เดก็ ฮอรโ์ มน เพศหญงิ (estrogen) จะลดตำ่� และเร็วกว่าฮอรโ์ มนเพศชาย (testosterone) แตส่ รปุ แล้ว เมอื่ อายุ 30 ปไี ปแลว้ ฮอรโ์ มนทุกตัวจะเร่ิมลดลง ในอดีตมาจนถงึ ปจั จุบัน มุมมองในการพิจารณาความงามนน้ั ยังคงยึดหลกั 3 ประการคอื ผิว พรรณดี (ตามพืน้ ฐานผวิ ของแต่ละคน) รูปรา่ งสมสว่ น สขุ ภาพกายและใจดี

64 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 65 ผวิ พรรณดใี นทน่ี ้ี ไมไ่ ดห้ มายถงึ ตอ้ งขาวสไตลเ์ กาหลี (เดก็ วยั รยุ่ สมยั นมี้ คี า่ นยิ มทผี่ ดิ อยากขาว โดยไมเ่ ข้าใจพน้ื ฐานสีผวิ ของตนเอง แต่ไปเลือกใชค้ รมี ทม่ี สี ว่ นผสมของสารท่เี ปน็ อนั ตราย เช่น ปรอท โดยไมค่ �ำนึงถงึ ผลเสยี ที่จะตามมา) การดแู ลผิวอาจต้องคำ� นงึ ถงึ ปัญหาผวิ ในแต่ละคน โดยมีสมนุ ไพรจากธรรมชาติหลายชนดิ ที่ ชว่ ยบำ� รงุ ผวิ ของคณุ ใหส้ ดใสเปลง่ ปลง่ั ขนึ้ ไดอ้ ยา่ งนา่ อศั จรรย์ ดงั ทห่ี ยบิ ยกมาใหด้ เู ปน็ ตวั อยา่ งในตาราง รปู หนา้ ซา้ ยมอื มะขาม AHA จากธรรมชาตเิ พ่ือความงามของสาวไทย ช่ือพฤกษศาสตร์ : Tamarindus indica L. วงศ์ : FABACEAE (LEGUMINOSAE - CAESALPINOIDEAE) ชือ่ อน่ื : ตะลบู ม่องโคล้ง มอดแล สา่ มอเกล หมากแกง อำ� เปยี ล ในสมยั โบราณ เวลาหญงิ สาวจะออกเรือนแตง่ งาน หรือออกไปพบชายคนรกั จะต้องบ�ำรุงผิว ใหส้ วยหรอื ทเ่ี รยี กว่า ขัดสีฉววี รรณ ด้วยการใช้มะขามขัดผวิ ให้ตวั ขาว ปจั จบุ ันมีข้อมลู จากการวิจยั ที่ ชว่ ยยืนยันสรรพคุณน้คี อื พบวา่ ในมะขามมกี รดผลไม้ AHA (Alpha hydroxyl acids) ซ่งึ มคี ุณสมบัติ ในการผลดั เซลลผ์ วิ ทำ� ใหเ้ ซลลผ์ วิ เกา่ ทตี่ ายแลว้ ถกู ผลดั ออก และเผยผวิ ใหมท่ ขี่ าวใสและนมุ่ ขน้ึ นอกจาก นกี้ ารผลัดเซลล์ผิว ยงั ชว่ ยแกป้ ญั หารว้ิ รอย จุดดา่ งด�ำ ฝา้ กระ แผลเป็น ให้จางลง และลดความมนั บน ผวิ หน้าให้นอ้ ยลงได้

66 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม อย่างไรก็ตาม ควรระมดั ระวังในการใช้กบั ผู้ท่ีแพ้ AHA หรือ ในคนท่ีผวิ แพง้ า่ ย หรือมีผวิ แห้ง ควรใช้ในปรมิ าณทีไ่ ม่เขม้ ขน้ เกนิ ไป และไมใ่ ชบ้ อ่ ย เช่น 1 - 2 สัปดาห์ ตอ่ คร้ัง หลีกเล่ยี งการใชบ้ รเิ วณ รอบดวงตาและริมฝีปาก วิธีใช้ก็ง่ายๆ แค่น�ำมะขามเปียกมาขัดถูผิว แล้วล้างออก หากจะใช้บริเวณ ใบหน้า อาจน�ำน้�ำมะขามมาเจือจางด้วยน�้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 หรือเจือจางมากกว่านี้ตามความ เหมาะสม (กรด AHA ยังพบในผลไม้อกี หลายชนดิ เช่น มะนาว สบั ปะรด ซงึ่ สามารถใช้แทนกนั ได)้ ขมิ้นชนั หนึง่ ในหา้ สมุนไพรประจำ� ชาติ ชอ่ื พฤกษศาสตร์ : Curcuma longa L. วงศ์ : ZINGIBERACEAE ชื่ออ่นื : ขมนิ้ ขมิ้นแกง ขม้ินหยอก ขมนิ้ หวั ข้มี ้ิน หมิ้น การรับประทานขม้ินชันเป็นประจ�ำจะช่วยชะลอความชรา โดยมีข้อมูลยืนยันทั้งในและต่าง ประเทศ ถงึ คณุ สมบตั ติ า้ นความชรา (anti -aging) ของขมน้ิ ชนั ความชราในทนี่ ไ้ี มไ่ ดห้ มายถงึ ผวิ พรรณ และความงามเท่าน้ัน แต่ยังรวมถึงโรคท่ีจะตามมากับอายุท่ีเพิ่มขึ้น เช่น โรคความจ�ำเส่ือม หรือ อลั ไซเมอร ์ เพราะมกี ารศกึ ษาพบวา่ ในกลมุ่ คนเอเชยี ทบี่ รโิ ภคขมน้ิ ชนั เปน็ ประจำ� ทกุ วนั จะมอี ตั ราการ เปน็ อลั ไซเมอรน์ อ้ ยกวา่ คนในแถบยโุ รปทไ่ี มไ่ ดบ้ รโิ ภคขมนิ้ ชนั เกอื บ 5 เทา่ ทงั้ นเี้ พราะขมน้ิ ชนั มฤี ทธล์ิ ด การอักเสบ ฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระ และลดการเกิดกลุ่มแผ่นโปรตีนผิดปกติ (Amyloid plaques) ท่ี สมอง ซ่ึงเป็นสาเหตุใหเ้ ซลลป์ ระสาทเส่ือม

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 67 สว่ นการใชข้ มนิ้ ชนั ภายนอก โดยนำ� มาทาผวิ พอกผวิ เปน็ ประจำ� จะชว่ ยแกป้ ญั หาผวิ ไดห้ ลาย ประการ ไมว่ า่ จะเปน็ ความหมองคลำ�้ ของผวิ การแพแ้ ละอกั เสบของผวิ เชน่ ปญั หาสวิ จะเหน็ ไดว้ า่ ทง้ั การ รบั ประทานและทาขมนิ้ ชนั เปน็ วธิ ธี รรมชาตทิ ช่ี ว่ ยบำ� รงุ รปู โฉมภายนอก และความงามภายในอนั เกดิ จาก การมสี ขุ ภาพดอี กี ดว้ ย (ฤทธอ์ิ นื่ ๆ ทพ่ี บของขมน้ิ ชนั คอื ตา้ นมะเรง็ ปอ้ งกนั โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด) นำ�้ ผ้ึง บ�ำรงุ ผวิ อ่อนโยน ปลอดภยั ถูกและดี (ยงั มีในโลก) ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Anthophila น้�ำผึ้งเป็นผลผลิตจากธรรมชาติที่มีคุณค่ามากมาย ซ่ึงมนุษย์รู้จักน�ำมาเป็นอาหารและใช้ ประโยชนด์ า้ นตา่ งๆ มานานหลายพนั ปี การใชน้ ำ�้ ผงึ้ บำ� รงุ ความงามมมี าตงั้ แตส่ มยั โบราณ จนถงึ ปจั จบุ นั นำ�้ ผงึ้ เปน็ สารใหค้ วามหวานทใี่ หพ้ ลงั งานและความสดชนื่ เปน็ ยาอายวุ ฒั นะ บำ� รงุ รา่ งกาย มคี ณุ สมบตั ิ บ�ำรุงผิวได้ดเี ย่ียม ออ่ นโยนและปลอดภัยกับผิว แถมหาง่าย ราคาไม่แพง น้�ำผง้ึ มีสารตา้ นอนุมูลอสิ ระ ชว่ ยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ใครทอ่ี ยากผิวพรรณสดใส นำ�้ ผึ้งช่วยได้ เพราะช่วยเพมิ่ ความชมุ่ ชืน้ ให้ ผวิ หนา้ ลดความแห้งกรา้ นของผวิ ลดการแพ้ ลดการระคายเคืองของผิว นอกจากนี้ยงั มีสารทีเ่ รยี กว่า ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซดซ์ ง่ึ มคี ณุ สมบตั ิในการยบั ยัง้ การเจรญิ เติบโตของแบคทเี รยี บางชนิดได้อีกดว้ ย การใช้นำ�้ ผง้ึ ในการดแู ลผิว เพยี งทาลงบนผวิ เหมอื นการพอก หรอื มาร์คผิว ทิ้งไว้อย่างนอ้ ย 5 นาที หรือใครจะทาผิวทิ้งไว้นานกว่าน้ีก็ได้ แล้วล้างออก หม่ันท�ำเป็นประจ�ำเพ่ือเห็นผลลัพธ์การใช้ท่ี ชดั เจน

68 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม นมสด เคล็ดลบั ความงามของพระนางคลโี อพัตรา ช่อื วิทยาศาสตร์ : Bos taurus เคลด็ ลับความงามอยา่ งหน่งึ ในการดแู ลผิวของพระนางคลีโอพตั รา คือ การแช่พระวรกายใน อา่ งน�ำ้ นม น�้ำนมช่วยใหผ้ ิวสวย เพราะในน�้ำนมประกอบดว้ ยสารอาหารหลายชนิดทม่ี ปี ระโยชนต์ อ่ ผิว คอื มโี ปรตนี ชว่ ยบำ� รงุ ผวิ ใหแ้ ขง็ แรง ดนู มุ่ นวลผดุ ผอ่ ง และกรดแลคตกิ ซงึ่ ชว่ ยผลดั เซลลผ์ วิ เกา่ ลดปญั หา การอุดตันของผิว และท�ำให้ผิวชุ่มชื้น ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เวชส�ำอางดังๆ หลายยี่ห้อที่มีกรดแลคติก เปน็ สว่ นผสมสำ� คัญ ส�ำหรับดแู ลผู้มปี ัญหาสิว ท้งั สวิ อกั เสบและสวิ อุดตัน วิธีใช้นำ�้ นมดแู ลผวิ ในชีวติ ประจำ� วนั ทำ� ได้งา่ ยๆ แตต่ อ้ งลงทนุ หน่อย คอื ใช้นำ้� นมแทนสบ่ใู น การอาบนำ�้ ฟอกผวิ หรือถ้าจะแชอ่ ่างน้ำ� นม ก็คงไมต่ อ้ งใสน่ ้ำ� นมลงไปทั้งอ่าง เพียงเตมิ น้�ำนมลงผสมใน น้�ำทจ่ี ะใช้อาบ หรือใชส้ �ำลชี ุบน้ำ� นมเชด็ ให้ทว่ั ใบหนา้ ท้งิ ไว้ 15 - 20 นาที แลว้ ล้างออกใหส้ ะอาด หม่ัน ทำ� เป็นประจ�ำ สปั ดาหล์ ะ 2 - 3 คร้งั ผิวจะเนียนและสวยเดง้ ไม่แพ้ใคร

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 69 บัวบก เพอื่ ผิวเนยี นใส ไรร้ อยแผลเปน็ ช่ือพฤกษศาสตร์ : Centella asiatica (L.) Urb. วงศ์ : APIACEAE (UMBELLIFERAE) ชื่ออืน่ : ผกั หนอก ผกั แว่น บวั บกเปน็ สมนุ ไพรทม่ี ชี อื่ เสยี งในการรกั ษาแผลมาอยา่ งยาวนาน ทำ� ใหแ้ ผลหายเรว็ และไมเ่ ปน็ แผลเปน็ โดยการรกั ษาแผลของบวั บกเปน็ ประโยชนท์ เี่ กดิ ไดท้ งั้ จากการทาและการรบั ประทานบวั บก กลไกการเยยี วยาแผลเกดิ จากการทบ่ี วั บกประกอบดว้ ยสาร Triterpenes เชน่ Asiaticoside, Made- cassoside, Asiatic acid, Madecassic acid ทส่ี ามารถกระตนุ้ การสรา้ งคอลลาเจนใตผ้ วิ หนงั เรง่ กระบวนการสรา้ งเนอ้ื เยอื่ ใหม่ ลดการเกดิ fibrosis ของแผล ลดการอกั เสบ เพม่ิ การแสดงออกของยนี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การสรา้ งหลอดเลอื ดใหม่ นอกจากนี้ ยงั มี Flavonoids เสรมิ สรรพคณุ ในการลดการอกั เสบ ลดการระคายเคอื ง สารในบวั บกเหลา่ นย้ี งั ทำ� ใหก้ ารไหลเวยี นของเลอื ดในหลอดเลอื ดเลก็ ๆ ดขี นึ้ จงึ มี ประโยชนต์ อ่ ผวิ หนงั หลายดา้ น เชน่ ทำ� ใหเ้ ซลลไ์ ดร้ บั อาหารมากขน้ึ เซลลแ์ ขง็ แรงขน้ึ ลดอาการบวมคงั่ จงึ ไมแ่ ปลกใจเลยวา่ ปจั จบุ นั ผลติ ภณั ฑค์ รมี บำ� รงุ ผวิ หลายยห่ี อ้ มกั มสี ว่ นผสมของบวั บกอยดู่ ว้ ย ถา้ ลอง อา่ นฉลากของครมี บำ� รงุ ผวิ โดยเฉพาะในกลมุ่ ผลติ ภณั ฑด์ แู ลผวิ ทลี่ ดเลอื นปญั หารวิ้ รอย กม็ กั จะพบชอื่ วทิ ยาศาสตรข์ องบวั บกคอื Centella asiatica เปน็ ส่วนประกอบตัวหน่ึง

70 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม แตงกวา รกั ษาสมดลุ ของความแห้งและความมันบนใบหน้า ช่อื พฤกษศาสตร์ : Cucumis Sativus L. วงศ์ : CUCURBITACEAE ชอื่ อน่ื : แตงข้ีไก่ แตงช้าง แตงปี แตงยาว เมอื่ ไมน่ านมานี้ ผเู้ ขยี นมโี อกาสไปเทย่ี วจงั หวดั กาญจนบรุ ี ไดไ้ ปชมสะพานมอญ ทางรถไฟสาย มรณะ รวมท้งั ไปเจออากาศร้อนทีแ่ ผดเผาผวิ หน้า จากน้นั คณะทัวรไ์ ด้พาเราไปท่ีรสี อรท์ แหง่ หน่ึงเพ่อื ทำ� สปาหนา้ ด้วยแตงกวา ซ่งึ คงมีชอื่ เสยี งมาก เพราะเห็นชาวต่างชาตเิ ข้ามาใช้บริการเปน็ จ�ำนวนมาก ขณะทที่ �ำและหลงั จากท�ำสปาหน้าเสร็จ ผู้เขียนเพ่งิ ไดส้ ัมผสั กบั ความรูส้ กึ ที่แทจ้ ริงของวลที ่วี า่ “ผิวนุม่ ชมุ่ ชน้ื ” วา่ เปน็ อยา่ งไร รสู้ กึ เหมอื นผวิ ไดร้ บั การเยยี วยาและปลอบประโลม การทำ� สปาหนา้ ของรสี อรท์ แหง่ น้ัน จะใช้แตงกวาป่ันละเอยี ดมาแชเ่ ย็นจนเย็นจัด และนำ� มาโปะพอกผิวหน้า ทิง้ ไว้ประมาณ 30 นาที มกี ารเปลี่ยนแตงกวาทกุ ๆ 5 - 10 นาที เพอ่ื ใหแ้ ตงกวาบนผิวหนา้ มีความเย็นอย่เู สมอ มีขอ้ มลู มากมายจากหลายแหลง่ ทง้ั ในและต่างประเทศ ทย่ี ืนยันสรรพคณุ ของแตงกวาในการ รักษาผิวไหม้แดด (sunburn) จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของผู้ท่ีต้องท�ำงานเผชิญแสงแดด เช่น เกษตรกร นักกอล์ฟ หรือผู้ที่ต้องการบ�ำรุงผิวท่ีเหน่ือยล้าให้สดชื่น ก็ให้นึกถึงแตงกวาไว้ก่อนเลย นอกจากนส้ี าร Cystin และ Methionin ในแตงกวายงั ชว่ ยทำ� ใหผ้ วิ หนงั คงความเยาวว์ ยั มคี วามยดื หยนุ่ และมีสาร Polysaccharides ทีม่ ผี ลดีต่อผิวในแง่อ่ืนๆ เช่น ชว่ ยเพมิ่ ความชมุ่ ช้นื ท�ำใหผ้ ิวหนังสดชน่ื ลดการบวมแดง สมานผิว ที่สำ� คญั คอื เหมาะกบั คนทกุ สภาพผิว ไมว่ า่ ผิวแหง้ ผวิ มนั หรือผวิ ผสม

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 71 มะเขอื เทศ กินแล้วผวิ กันแดดไดด้ ีข้ึน ช่ือพฤกษศาสตร์ : Lycopersicon esculentum Mill. วงศ์ : SOLANACEAE ช่ืออน่ื : ตรอบ ตีรอบ น้�ำเนอ มะเขอื หมากเขือสม้ มะเขอื เทศเปน็ อาหารธรรมชาตทิ ด่ี จู ะเปน็ กระแสทม่ี าแรงในกลมุ่ วยั รนุ่ วยั ทำ� งานทต่ี อ้ งการมี ผวิ สวย ในเว็บไซดด์ งั ๆ หลายแห่งมีการใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั ผลดขี องการด่ืมนำ้� มะเขอื เทศในการท�ำใหผ้ ิว ขาวใสขึ้น มะเขือเทศประกอบด้วยวติ ามินและแรธ่ าตุหลายชนดิ โดยเฉพาะวติ ามินเอและวติ ามินซีซึง่ มีสว่ นสำ� คัญในการเสรมิ สร้างและบำ� รงุ ผิวใหแ้ ขง็ แรง แตส่ ารสำ� คญั ในมะเขอื เทศท่ีนา่ สนใจมากกวา่ วติ ามิน คือ สาร Lycopene ซึง่ เปน็ สารตัวหน่ึง ในกลมุ่ Carotenoids และพบมากในมะเขอื เทศ (แตใ่ นเยอ่ื หมุ้ เมลด็ ฟกั ขา้ วพบสารนใ้ี นปรมิ าณสงู กวา่ มะเขอื เทศอีก) มีการวิจัยพบวา่ การรบั ประทานซอสมะเขือเทศวันละ 48 - 55 กรมั หรอื ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ (หรอื เท่ากบั ดม่ื น้�ำมะเขอื เทศวันละ 250 ซีซี ) ตอ่ เนอื่ งกันอย่างน้อย 10 สัปดาหข์ ึน้ ไป จะ ช่วยเพ่ิมปริมาณสารแคโรทีนอยด์ในผิวหนัง และเม่ือผิวหนังถูกแสงแดดจะมีอาการแดงหลังจากโดน แสงแดดนอ้ ยกว่ากลมุ่ ท่ไี มก่ ินมะเขือเทศถงึ 33% นอกจากนีย้ ังพบวา่ กลุ่มทีก่ ินมะเขอื เทศ แสงแดดจะ ท�ำลายโมเลกลุ ของ DNA ของผวิ หนังนอ้ ยกวา่ กลุ่มที่ไมไ่ ด้กิน และมกี ารสรา้ งโปรคอลลาเจนใต้ผิวหนัง มากกวา่ อนึ่งในมะเขอื เทศท่ผี ่านความร้อนจะมปี ริมาณ Lycopene สูงกวา่ ในผลสด

72 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม อย่างไรก็ตาม การรับประทานมะเขือเทศ เป็นเพียงวิธีการหนึ่งที่จะป้องกันไม่ให้ผิวหนังถูก ท�ำลายจากแสงแดด การทาครมี กนั แดดยงั มีความจ�ำเปน็ ตอ้ งใชค้ วบคไู่ ปด้วย เพอ่ื เสรมิ ประสทิ ธภิ าพ ในการปอ้ งกนั แสงแดดใหด้ ที สี่ ดุ หากเปน็ ไปไดค้ วรหลกี เลย่ี งแสงแดด โดยเฉพาะชว่ ง 10.00 - 16.00 น. ซึง่ เปน็ ชว่ งท่ีแดดแรง ถา้ จ�ำเปน็ ตอ้ งออกแดด ควรสวมใส่อุปกรณป์ อ้ งกันแสงแดด เพราะแสงแดดเป็น ตัวการส�ำคญั ทีท่ ำ� ให้เกดิ ปัญหาผิวแก่กอ่ นวัย ผิวหมองคลำ้� ฝา้ กระ จุดดา่ งดำ� ได้ พืชผักและอาหารธรรมชาติท้ังหมดที่กล่าวมานี้ สามารถใช้เป็นส่วนผสมในการท�ำ beauty mask ส�ำหรับพอกผิว เทคนิคการใช้ คือ ใช้วัตถุดิบสะอาด สดใหม่ ท�ำแล้วใช้ทันที โดยผสมกันใน อตั ราสว่ นแลว้ แต่ความตอ้ งการของผใู้ ช้ หรอื ความสะดวกในการหาวัตถุดิบ เนื่องจากไม่มสี ูตรตายตวั สามารถปรับใช้ตามความเหมาะสม เชน่ ถ้าผิวแห้ง ก็ปรบั ลดส่วนผสมทป่ี ระกอบดว้ ยกรด AHA ลงมา และเพมิ่ สว่ นผสมท่ีใหค้ วามช่มุ ชน้ื กบั ผวิ อย่างแตงกวา หรอื น้�ำผ้งึ ใหม้ ากข้นึ หรือใครมีผวิ มนั ก็ใส่ส่วน ผสมท่ีผลัดเซลล์ผิวอย่างมะขามให้มากหน่อย ขอเพียงหมั่นบ�ำรุงท�ำเป็นประจ�ำสม�่ำเสมอ เพ่ือเห็น ผลลพั ธผ์ ิวพรรณสวยย่งิ ข้ึนๆ นอกจากเคล็ดลับความงามในการบ�ำรุงผวิ พรรณแลว้ ธรรมชาตยิ งั มอบพืชสมุนไพรที่ชว่ ยใน การดแู ลรปู รา่ งใหส้ มสว่ น ซง่ึ นา่ จะเปน็ ทางเลอื กทป่ี ลอดภยั ในทา่ มกลางกระแสความนยิ มในการลดนำ้� หนักให้หุ่นผอมเพรียวบาง โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น แม้ว่าจะมีการน�ำเสนอข้อมูลในส่ือต่างๆ เก่ียวกับ อนั ตรายในการใชย้ าลดนำ้� หนกั โดยไมไ่ ดอ้ ยใู่ นความดแู ลของแพทย์ แตก่ ย็ งั มขี า่ วกรณมี ผี เู้ สยี ชวี ติ จาก การใช้ยาลดนำ�้ หนกั ในหนา้ หนงั สือพมิ พ์อยเู่ นืองๆ หลักสำ� คัญในการลดน้ำ� หนกั คือ 1. ตอ้ งควบคมุ อาหารและออกกำ� ลงั กายรว่ มดว้ ยเสมอ และตอ้ งทำ� ตอ่ เนอื่ งสมำ�่ เสมอ พลงั งาน จากอาหารที่รับประทานเข้าไปตอ้ งไม่เกนิ พลังงานที่ใชใ้ นแตล่ ะวัน

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 73 2. พึงระลึกไว้ว่าไม่มียาวิเศษใดๆ ท่ีจะช่วยให้น้�ำหนักลดลงได้อย่างรวดเร็ว น่ันหมายความ วา่ การลดนำ้� หนกั จำ� เปน็ ตอ้ งใชเ้ วลา อาจจะมบี างคนทใ่ี ชย้ าแลว้ สามารถลดนำ้� หนกั ลงมาไดร้ วดเรว็ แต่ การท�ำเช่นนั้นเส่ียงต่ออันตรายและไม่สามารถรักษาน�้ำหนักท่ีลดลงไปได้ตลอด มิหน�ำซ�้ำอาจส่ง ผลกระทบในระยะยาวตอ่ สขุ ภาพ 3. อยา่ หว่ งสวยมากกวา่ ชวี ติ และสขุ ภาพของตวั เอง เมอื่ สำ� รวจดขู อ้ มลู เกยี่ วกบั สมนุ ไพรทช่ี ว่ ย ลดนำ้� หนักและมคี วามปลอดภัยสงู กพ็ บวา่ มีสมนุ ไพรที่นา่ สนใจหลายตวั ทีเ่ ด่นๆ ได้แก่ หญา้ ดอกขาว ตรีผลา และเพชรสังฆาต หญ้าดอกขาว หมอขา้ งกาย ทางสบายเลิกบุหรี่ ชอื่ พฤกษศาสตร์ : Vernonia cinerea (L.) Less. วงศ์ : COMPOSITAE ช่ืออ่ืน : กา้ นธปู หมอนอ้ ย เสือสามขา หญา้ สามวนั ผ�ำ้ สามวนั หญา้ ดอกขาว มงี านวจิ ยั วา่ ชว่ ยลดความอยากบหุ รไี่ ด้ โดยมผี ลทำ� ให้ อัตราการเลิกบุหรี่สูงขนึ้ สมรรถภาพทางกายดขี ้ึน เลือดมีคุณสมบัติใน การต้านอนุมูลอิสระเพ่ิมขึ้น ท�ำให้ปริมาณก๊าซพิษคาร์บอนมอนนอก ไซดท์ ี่คงั่ ค้างในปอดลดลงอย่างชดั เจน ทส่ี �ำคญั คือ ผลขา้ งเคยี งในการ เลกิ บหุ รี่ เชน่ อาการกระวนกระวาย สมาธแิ ปรปรวน หรอื หงดุ หงดิ งา่ ย กพ็ บนอ้ ย กลไกทท่ี ำ� ใหห้ ญา้ ดอกขาวชว่ ยในการเลกิ บหุ รไี่ ด้ มาจากสาร

74 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 75 ยอมรับว่า หากรับประทานต่อเนื่อง จะมีผลช่วยลดน้�ำหนักได้ (anti-obesity drug) ปัจจุบันมีการ ศึกษาวิจัยหลายชิ้นที่ช่วยยืนยันสรรพคุณนี้ เช่น มีการวิจัยชิ้นหนึ่งในอินเดียท่ีศึกษาการให้ต�ำรับยา ตรผี ลาในคนอ้วน ขนาดยา 100 มิลลกิ รัมตอ่ เม็ด รบั ประทาน 3 เมด็ ก่อนอาหาร 3 มื้อ เป็นเวลา 3 เดือน พบว่าตรีผลาสามารถลดน�้ำหนักได้อย่างมีนัยส�ำคัญ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ความ หนาของไขมนั ใต้ผวิ หนัง (skinfold thickness) ลดลง รอบเอวและสะโพกลดลงอยา่ งมีนยั สำ� คัญ เมือ่ เทียบกับกลุ่มทไี่ ดร้ ับยาหลอก นอกจากนย้ี งั พบวา่ ตรผี ลามผี ลในการชว่ ยลดระดบั โคเลสเตอรอล และไตรกลเี ซอไรดใ์ นเลอื ด ได้ด้วย ในการศึกษาน้ียังพบว่าตรีผลาไม่มีผลเปล่ียนแปลงความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภมู ใิ นรา่ งกาย แสดงใหเ้ หน็ ว่า ตรีผลาไม่มผี ลต่อระบบประสาทซิมพาเทตกิ และการท�ำงานของ ต่อมไทรอยด์ อาการขา้ งเคียงทีอ่ าจพบไดจ้ ากการใช้ตรีผลาคอื ทอ้ งเสีย เพชรสังฆาต พิฆาตรดิ สดี วง ช่อื พฤกษศาสตร์ : Cissus quadrangularis L. วงศ์ : VITACEAE ชื่ออ่ืน : ตำ� ลงึ ทอง เพชรสงั ฆาตเป็นทรี่ ู้จกั กันดวี า่ มีสรรพคณุ ในการรกั ษาริดสดี วงทวารหนกั แต่ปจั จบุ นั มขี อ้ มูล เพชรสังฆาตมีช่ือเรียก(เป็นภาษา สนั สกฤต)ในทางอายรุ เวทวา่ อสั ถสิ มั หริ (asthisamhari) แปลวา่ “สมาน วจิ ยั เพมิ่ เตมิ วา่ ชว่ ยลดนำ�้ หนกั ไดอ้ กี ดว้ ย ในตา่ งประเทศมกี ารนำ� เพชรสงั ฆาตมาทำ� เปน็ ผลติ ภณั ฑเ์ สรมิ กระดูก”ซึ่งบ่งบอกถึงสรรพคุณใน สรา้ งมวลกลา้ มเนอ้ื ผลดขี องเพชรสงั ฆาตในผทู้ มี่ นี ำ�้ หนกั เกนิ หรอื อว้ น ยนื ยนั ไดจ้ ากการศกึ ษาซงึ่ ทดลอง การสมานกระดกู ของเพชรสงั ฆาต

76 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม ใช้เพชรสังฆาตในผูท้ ี่เป็นโรคอ้วน โดยคัดคนทีม่ ดี ชั นีมวลกาย หรือ BMI มากกว่า 26 kg/m2 ให้กนิ เพชรสงั ฆาตมอื้ ละ 150 มิลลิกรมั ก่อนอาหาร วันละ 2 ม้ือ เปน็ เวลา 10 สปั ดาห์ โดยไม่มีการปรับ เปลย่ี นการกนิ และการออกกำ� ลงั กาย พบวา่ เพชรสงั ฆาตมผี ลทำ� ใหน้ ำ�้ หนกั เฉลยี่ ของผเู้ ขา้ รว่ มการศกึ ษา ลดลง 8.8% (จาก 98.92 กิโลกรัม เหลือ 90.19 กโิ ลกรมั ) ไขมนั ในร่างกายลด 14.6% เสน้ รอบเอวลด ลง 8.6% (จาก 40 นิ้ว เหลือ 36 น้วิ ) และยังมผี ลลดระดับโคเลสเตอรอล ไขมันตัวรา้ ย LDL และระดบั นำ้� ตาลในเลือดได้ 26.69%, 20.16% และ 14.85% ตามล�ำดับ ผลในการลดนำ้� หนกั ของเพชรสงั ฆาตนี้ เกดิ จากการทเ่ี พชรสงั ฆาตมเี สน้ ใยสงู เมอ่ื กนิ เขา้ ไปจงึ ลดเน้ือที่ในกระเพาะอาหาร ท�ำให้อ่ิมเร็วขึ้น และมีผลยับยั้งเอนไซม์ที่ย่อยแป้ง น้�ำตาล และไขมัน (alpha amylase, glucosidase and lipase) ท�ำใหล้ ดการดดู ซึมอาหาร และมผี ลเพิ่มระดบั ซโี รโทน นิน ท�ำใหร้ า่ งกายรู้สึกอิ่ม ช่วยลดสารอกั เสบ คือ C-reactive protein ทีพ่ บในเลือดของผูท้ มี่ ภี าวะ metabolic syndrome (กลุ่มความผิดปกติที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่ง พบร่วมกันได้บ่อย ความผิดปกติดังกล่าวได้แก่ความผิดปกติของไขมันในเลือด ความดันโลหิต ระดับ น�ำ้ ตาล) ซ่งึ ผลดขี องเพชรสังฆาตดังกลา่ ว น่าจะมปี ระโยชน์ในการน�ำไปประยุกตใ์ ช้ในผปู้ ่วยท่ีมปี ญั หา metabolic syndrome (กลุ่มความผิดปกติที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดซ่ึง พบร่วมกันได้บ่อย ความผิดปกติดังกล่าวได้แก่ความผิดปกติของไขมันในเลือด ความดันโลหิต ระดับ นำ้� ตาล) แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้สมุนไพรที่กล่าวมาแล้วชนิดไหน ผู้ที่ต้องการลดน�้ำหนักก็ยังจ�ำเป็นต้อง ควบคมุ อาหารควบค่ไู ปดว้ ย เช่น ลดการรบั ประทานขนมจุกจกิ เครอ่ื งดม่ื ท่ีใส่น้�ำตาล เช่น น้ำ� อดั ลม ชาไข่มุก กาแฟ และต้องออกก�ำลังกายอย่างสม�ำ่ เสมอ กจ็ ะชว่ ยรกั ษาน�ำ้ หนักตัวทล่ี ดลงแล้วไมใ่ หก้ ลบั มาเพ่ิมอกี

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 77 ค�ำถามทา้ ยบท 1. ยกตวั อย่างสมนุ ไพรสำ� หรบั ผวิ เกรียมแดด ผิวหมองคล�ำ้ พรอ้ มแนะน�ำการใช้ 2. ยกตวั อยา่ งสมนุ ไพรส�ำหรบั ผู้ที่อว้ นลงพุง และมีอาการทอ้ งผกู พร้อมแนะน�ำการใช้ เอกสารอา้ งองิ 1. Evans JA, Johnson EJ. The role of phytonutrients in skin health. Nutrients. 2010;2:903- 928. Available from: http://www.mdpi.com/2072-6643/2/8/903/html 2. Hiromichi Y. Appetite-suppressing agent and air-conditioning apparatus for dieting. Available from: http://www.google.com/patents/ 3. Leelarungrayub D, Pratanaphon S, Pothongsunun P, Sriboonreung T, Yankai A, Bloomer RJ. Vernonia cinerea Less. supplementation and strenuous exercise reduce smoking rate: relation to oxidative stress status and beta-endorphin release in active smokers. J Int Soc Sports Nutr. 2010; 7:21. Available from: http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/ 4. Oben J, et al. The use of a Cissus quadrangularis formulation in the management of weight loss and metabolic syndrome. Lipids Health Dis. 2006. 5. Patwardhan B. AYURVEDIC TREATMENT OF OBESITY: A RANDOMISED DOUBLE-BLIND, PLACEBO-CONTROLLED CLINICAL TRIAL. Clinic, Nanal Hospital, Pune 411-004 and ‘Byramjee Jee- jeebhoy Medical College. 1989.

78 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 6. Shrikant M, Kalpana P. The effect of curcumin (turmeric) on Alzheimer’s disease: An overview. Ann Indian Acad Neurol. 2008; 11(1): 13–19. Available from: http://www.ncbi.nlm.nih. gov/ 7. Wilhelm S, Helmut S. b-carotene and other carotenoids in protection from sunlight. Am J Clin Nutr. 2012; 96(suppl):1179S–84S. Available from: http://ajcn.nutrition.org/con- tent/96/5/1179S.full. 8. ภญ.ดร.สภุ าภรณ์ ปติ พิ ร. 12 สตู รสวยด้วยผกั และผลไม้. นิตยสารหมอชาวบ้าน. 2550 กรกฎาคม; 339. Available from: http://www.doctor.or.th/article/detail/1260 9. ภญ.ดร.สภุ าภรณ์ ปติ ิพร. บนั ทึกของแผ่นดนิ เลม่ ท่ี 5 สมนุ ไพรประคบ อบ อาบ นวด. กรงุ เทพ: ปรมตั ถ์ การพมิ พ์; 2555. 10. วรรณวิษา บุญญะรกิ พันธุ์ชยั , สวุ ลี วฒั นศฤงฆาร, สลลิ ดา อรุณวงค.์ การตง้ั ตํารับแผน่ ฟิลม์ สารสกัด หญ้าดอกขาวเพ่ือใช้ในการอดบุหร.ี่ Available from: http://www.pharmhcu.com/py/Project/p51225201.

รบั รู้เพือ่ เท่าทัน ภก.ภาณโุ ชต ิ ทองยงั สำ� นักงานสาธารณสุขจังหวดั สมทุ รสงคราม “แตท่ นี่ า่ กงั วลมากในขณะนคี้ อื มกี ารลกั ลอบนำ� สารสเตยี รอยด์ เขา้ มาเจอื ปนในเครอ่ื งดม่ื สมนุ ไพร เพอ่ื หลกี เลยี่ งการตรวจจบั ตามกฎหมายยา เน่ืองจากกฎหมายด้านอาหาร เคร่ืองด่ืมสมุนไพรสามารถวางจ�ำหน่ายได้ ตามสถานท่ีท่ัวไป จงึ ยากแก่การติดตามตรวจสอบ”

80 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม สถานการณใ์ นอดีต ... การนำ� สารสเตยี รอยดไ์ ปใชอ้ ยา่ งผดิ ๆ จนกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพของประชาชนมมี านาน แล้ว ในชนบทเรามักจะเหน็ ยาทีจ่ ดั เปน็ ชดุ ๆ มากมายหลายชนดิ วางขายดบิ ขายดอี ยูใ่ นหมูบ่ ้าน ทั้งยา กษยั เสน้ ยาประดง ยาชดุ อว้ น ยาชุดเจริญอาหาร เป็นที่ติดอกตดิ ใจของชาวบา้ นถึงกบั เรียกหากนั ไป ทว่ั วันไหนไมไ่ ดก้ ินก็มักจะมีอาการตา่ งๆ ก�ำเรบิ ขึน้ มา สว่ นใหญ่ยาชดุ เหล่าน้ีจะมียากล่มุ สเตรียรอยด์ ผสมอยดู่ ว้ ย เชน่ Prednisolone หรอื Dexamethasone หรอื บางทีก็กระหน่�ำใสไ่ ปท้ัง 2 ตวั การทผี่ ผู้ ลติ ทเ่ี หน็ แกเ่ งนิ ผสมยากลมุ่ สเตรยี รอยดล์ งไปดว้ ย กเ็ พราะหวงั ผลในการรกั ษา เนอื่ งจาก มนั มสี รรพคณุ มากมายจนนา่ ทง่ึ เชน่ ลดไขไ้ ดท้ นั ใจ แกป้ วดเมอ่ื ยเนอ้ื ตวั และขอ้ กระดกู ไดช้ ะงดั ใครเปน็ ภมู แิ พเ้ มอื่ ใชก้ ห็ ายทนั ที จนดเู สมอื นวา่ เปน็ ยาครอบจกั รวาลทที่ ง้ั เรว็ ทง้ั แรงทนั อกทนั ใจผใู้ ช้ แตใ่ นทาง กลบั กนั เมอื่ มคี ณุ อนนั ตก์ ม็ โี ทษมหนั ตต์ ามมา เชน่ ระคายเคอื งกระเพาะอาหาร จนอาจทำ� ใหก้ ระเพาะ อาหารเปน็ แผล ทำ� ใหก้ ระดกู ผุ ไตวาย เกดิ อาการเบาหวาน รวมทง้ั กดภมู คิ มุ้ กนั ของรา่ งกายใหล้ ดลงจน ท�ำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นยากลุ่มสเตียรอยด์นี้ ทางการแพทย์จึงมักจะใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายเม่ือไม่มียา อนื่ ใหใ้ ชแ้ ทนได้ เชน่ กรณผี ปู้ ว่ ยทเ่ี ปน็ โรคภมู คิ มุ้ กนั ทำ� ลาย รา่ งกายตนเอง ซง่ึ แพทยจ์ ำ� เปน็ ตอ้ งสงั่ ใชย้ านเ้ี พอื่ ใหไ้ ปกด ภมู คิ มุ้ กนั ทอี่ นั ตรายใหล้ ดลง เปน็ ตน้ ในช่วงแรกทผ่ี ้ปู ว่ ยเริ่มใชย้ ากลมุ่ สเตียรอยด์ จะไม่ สามารถสังเกตเห็นอาการผดิ ปกตไิ ดเ้ ลย แตเ่ ม่ือใช้ยากลุ่ม นตี้ ดิ ตอ่ กนั นานๆ อาการผดิ ปกตกิ จ็ ะเรมิ่ ปรากฏใหเ้ หน็ เชน่ ใบหนา้ มนั สวิ ขนึ้ ใบหนา้ กลมอมู เหมอื นพระจนั ทร์ (moon face) มีโหนกท่ีแก้ม บริเวณด้านหลังคอจะนูนขึ้นมา คล้ายมีหนอก (buffalo hump) น�้ำหนักเพ่ิม ตัวบวม

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 81 (edema) แต่เม่ือกดตามเนื้อตัว เนื้อจะบุ๋มลงไปแต่ไม่เด้งกลับคืนมา ซ่ึงแสดงถึงภาวะไตเร่ิมจะวาย (ทำ� ใหม้ กี ารน�ำอาการผิดปกตนิ ีไ้ ปหลอกขายวา่ เปน็ ยาชุดทำ� ใหอ้ ้วน) ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยที่รับประทานยาชุดท่ีมีสเตียรอยด์ผสมอยู่ จนเกิดอันตรายเข้ารับการ รักษาตัวในโรงพยาบาลมากมาย ทั้งๆ ท่ีเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขต่างก็ช่วยกันรณรงค์ให้ความรู้แก่ ประชาชนอย่างต่อเน่ือง เพราะยากลุ่มน้ีให้ผลเร็วสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้อย่าง ดี ย่งิ เม่ือไมม่ ที างเลอื กอ่นื ๆ ที่เหมาะสมกับวถิ ชี วี ิตของผูป้ ว่ ยแลว้ ตอ่ ใหร้ ณรงคเ์ ทา่ ไหร่กม็ ักจะไมค่ ่อย ไดผ้ ล ปัญหาทย่ี ังคงอย่.ู .. ยคุ ตอ่ มาทก่ี ระแสยาสมนุ ไพรและยาแผนโบราณ เรม่ิ แพรห่ ลายเปน็ ทสี่ นใจของประชาชนมาก ขนึ้ มกี ารพฒั นาสตู รตำ� รบั ยาสมนุ ไพร ยาแผนโบราณ ในรปู แบบทร่ี บั ประทานไดง้ า่ ย เชน่ ยาลกู กลอน ยาผงบรรจแุ คปซูล ฯลฯ เจ้าสเตียรอยดก์ ไ็ มร่ อช้าเข้ามาเอย่ี วกบั เขาด้วย มผี ้ผู ลิตท่หี วังก�ำไรหรือรเู้ ท่า ไมถ่ งึ การณบ์ างรายนำ� สารสเตยี รอยดม์ าผสมปลอมปนในยาแผนโบราณ เมอื่ ผปู้ ว่ ยนำ� ไปใชร้ กั ษาอาการ เจ็บป่วยของตน ก็ไดผ้ ลการรกั ษาที่ถูกใจ เพราะสเตียรอยดท์ ีผ่ สมอยนู่ ั้นออกฤทธ์ไิ ดเ้ รว็ และแรงทันอก ทนั ใจ ดว้ ยเหตนุ ้ี จงึ ทำ� ใหย้ าลกู กลอนทม่ี สี ว่ นผสมของสารสเตยี รอยดข์ ายดบิ ขายดจี นเปน็ ทตี่ อ้ งการ ของผู้ป่วยมากข้นึ จำ� ไดว้ ่ามีอยู่ชว่ งหนง่ึ เมือ่ วเิ คราะห์ยาลูกกลอนทไี ร กม็ ักจะพบส่วนผสมของสเตยี รอยดแ์ ทบทกุ ครง้ั สำ� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยาถงึ กบั ตอ้ งออกมารณรงคเ์ ตอื นประชาชนให้ ระมดั ระวงั ถงึ พษิ ภยั ของสเตยี รอยดท์ ผี่ สมปลอมปนอยใู่ นยาลกู กลอนทไี่ มม่ ที ะเบยี น ทำ� ใหผ้ ผู้ ลติ ยาลกู กลอนแผนโบราณสูตรต�ำรับท่ีปลอดภัยถึงกับต้องสะอ้ืน เพราะได้รับผลกระทบไปด้วย เน่ืองจากถูก หวาดระแวงสงสัยว่าอาจมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ผู้บริโภคบางรายถึงกับเลิกซื้อยาลูกกลอนแผน โบราณไปเลย แมจ้ ะมีการขน้ึ ทะเบียนยาอย่างถูกตอ้ งก็ตาม

82 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม แตต่ ำ� นานสเตยี รอยดท์ ป่ี ลอมปนในยาสมนุ ไพร หรอื ยาแผนโบราณ มไิ ดย้ ตุ ลิ งแคน่ ้ี เพราะจาก ประสบการณ์ท่ไี ด้พบเห็น มกี ารเปล่ียนร่างแปลงกาย ตลอดจนปรับรูปแบบวิธีการกระจายสู่ผู้บริโภค ในลกั ษณะต่างๆ มากมาย เช่น แฝงมาในรูปแบบของยาผงคลา้ ยยาหอมแผนโบราณ บางรายกต็ อก อัดเปล่ียนรูปจากยาลูกกลอนเป็นยาเม็ดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย หรือกระท่ังปั้นเป็นยาลูกกลอนและน�ำ เศษทองค�ำเปลวมาปิดที่เม็ดยาให้ดูขลัง บางชนิดแถมคาถามาให้บริกรรมเพ่ือปลุกศรัทธาก่อนรับ ประทาน หรอื มกี ารอา้ งอิงธาตุเจ้าเรอื นต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ วธิ กี ารจำ� หน่ายแบบเดมิ ๆ เชน่ แอบซุกขายตามร้านชำ� ซ่อนใตแ้ ผงผักกด็ ูเชยไป แลว้ เพราะผู้ขายได้พัฒนาการจำ� หน่ายในรูปแบบใหม่ๆ เชน่ มาในรปู ของรถเร่ขายสินคา้ ต่างๆ แตม่ ี ยาพวกน้ีพ่วงมาด้วย บางรายก็เข้าไปอาศัยใบบุญของวัดวาอาราม เร่ิมจากให้ลูกศิษย์ลูกหาถวายยา พรอ้ มคำ� แนะนำ� ใหห้ ลวงพอ่ ทดลองใชก้ อ่ น เมอื่ หลวงพอ่ ใชไ้ ดผ้ ล ทา่ นกจ็ ะกลายเปน็ พรเี ซน็ เตอรแ์ นะนำ� ยาตอ่ ไปยงั ญาตโิ ยมอกี ทอด แตท่ เี่ ดด็ กวา่ นนั้ คอื มกี ารใชห้ นา้ มา้ มาประกอบการขาย ดงั ขอ้ มลู ทค่ี ณุ ลงุ ท่านหนึ่งเลา่ ใหฟ้ งั วา่ วนั หนึ่งชว่ งทีท่ ่านขึ้นรถจะกลับหมบู่ า้ น ระหวา่ งทีน่ ัง่ บนรถเหน็ คนพดู คยุ ซกั ถาม กนั ถงึ อาการเจ็บป่วย แลว้ ก็เรมิ่ วกเขา้ มาถึงยาท่รี ับประทาน เผอิญอาการปว่ ยทีเ่ ขาคุยกนั มนั ใกลเ้ คียง กบั อาการเจบ็ ปว่ ยของทา่ น ทา่ นเลยรว่ มวงซกั ถามไปดว้ ย ในทส่ี ดุ คนทคี่ ยุ กนั กน็ ำ� ยาออกมาขายใหบ้ น รถโดยสารเลย สู่การระบาดอยา่ งแนบเนียน... สถานการณก์ ารนำ� สารสเตยี รอยดม์ าปลอมปนในยาสมนุ ไพรหรอื ยาแผนโบราณนอกจากมไิ ด้ ลดลงแล้ว กลับพบวา่ มรี ูปแบบใหมๆ่ แพร่ระบาดมากข้ึน โดยเฉพาะการนำ� สารสเตยี รอยด์มาผสมใน ยาน้ำน สมุนไพรแผนโบราณท่ีได้รับการข้ึนทะเบยี นถูกต้องตามกฎหมาย ยาเหลา่ นี้จะจำ� หนา่ ยในราคา ทค่ี ่อนขา้ งแพง ขวดละพนั กวา่ บาท ทำ� ให้ดเู ปน็ ยาดีมรี ะดบั ขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากหลายจงั หวดั ปรากฏวา่ ผล การตรวจวเิ คราะห์มักจะพบการปลอมปนสารสเตยี รอยดล์ งไปดว้ ย

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 83 แตเ่ มอ่ื เภสชั กรของสำ� นกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ลงไปตดิ ตามตรวจสอบในสถานทผ่ี ลติ ดงั กลา่ ว และเกบ็ ตัวอย่างไปตรวจวิเคราะหอ์ ีกคร้ัง กลบั ไม่พบว่ามีส่วนผสมของสเตยี รอยด์แต่อย่างใด ทั้งๆ ที่ ยาเหลา่ นี้ เมอื่ ขายนอกจงั หวดั (ทเ่ี ปน็ แหลง่ ผลติ ) กลบั พบวา่ มสี เตยี รอยดผ์ สมอยู่ เทา่ ทท่ี ราบผผู้ ลติ มกั จะอ้างวา่ เปน็ ของปลอม หรือมีผูไ้ มห่ วงั ดีแอบเปดิ จุกแล้วใส่สารสเตียรอยดล์ งไป ซ่งึ กอ็ ดสงสยั ไมไ่ ดว้ ่า ถา้ เป็นเชน่ นั้น ในฐานะทเ่ี ป็นเจา้ ของผลิตภณั ฑแ์ ละได้รบั ความเสยี หายจนชอื่ เสียงปน่ ปไี้ ปแล้ว ท�ำไมผู้ ผลติ เหล่านีจ้ ึงไม่ไปรอ้ งเรยี นหรือแจง้ ความน�ำสืบ นำ� จับ ให้รูแ้ ลว้ รรู้ อดไปเลย หลักฐานจากห้องแลบ... จากข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์ยาแผนโบราณของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 5 สมุทรสงคราม ในระหวา่ งปี 2548 - 2552 จ�ำนวน 626 ตวั อยา่ ง พบวา่ มกี ารปลอมปนสารสเตยี รอยด์ ถงึ 157 ตัวอยา่ ง คิดเปน็ ร้อยละ 25.08 ของตัวอย่างท้ังหมด โดยการปลอมปนสารสเตียรอยด์ทต่ี รวจ พบนั้น มลี ักษณะเส่ยี งทจ่ี ะก่อใหเ้ กิดอนั ตรายมากข้นึ เชน่ มกี ารผสมสารสเตยี รอยด์ ทัง้ แบบเดยี่ วและ แบบผสม รวมท้ังมีการน�ำเอายาแผนปัจจุบันชนิดอ่ืนๆ (เช่น ยากลุ่มบรรเทาอาการปวดอักเสบของ กระดกู ขอ้ และกลา้ มเนอ้ื ยากลมุ่ โรคเบาหวาน ยากลมุ่ ความดนั โลหติ สงู ) มาผสมเขา้ ไปอกี ดว้ ย นอกจาก น้ียังพบว่า ตัวอย่างยาที่ตรวจน้ัน บางชนิดแม้เป็นย่ีห้อเดียวกันแต่กลับพบสารสเตียรอยด์ปนอยู่ใน ปรมิ าณที่ไม่เท่ากัน หรือบางครงั้ ก็พบการผสมสารสเตียรอยดต์ ่างชนิดกนั ในยายีห่ ้อเดยี วกัน ซึ่งแสดง ถงึ กรรมวธิ กี ารผลติ ที่ไม่แน่นอน เมือ่ เจา้ หน้าที่ของศนู ย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ที่ 5 สมทุ รสงคราม ไดน้ �ำยาท่ีตรวจวเิ คราะห์ และมีปริมาณของยาเหลือมากพอท่ีจะสามารถทดสอบหา “ปริมาณ” สารสเตียรอยด์ท่ีปลอมปนได้ ปรากฏวา่ พบขอ้ มูลทนี่ ่าตกใจย่งิ ข้นึ อกี เพราะสารสเตยี รอยดท์ ี่พบนน้ั มีปริมาณทสี่ งู มาก จนอาจเปน็ อันตรายตอ่ ร่างกายได้ โดยเมอ่ื นำ� มาเทียบกับปริมาณ Prednisolone หรือ Dexamethasone ทขี่ น้ึ ทะเบียนเป็นยาตามกฎหมาย พบวา่ ในแตล่ ะมื้อท่ผี ปู้ ว่ ยบริโภคยานั้น มีโอกาสจะได้รบั สารสเตียรอยด์ ในปริมาณสูง บางตวั อยา่ งเทียบเท่ากับยาสเตียรอยด์ต้ังแต่ 4 เม็ด ถงึ 12 เมด็ ต่อวนั จากการตดิ ตาม

84 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม สัมภาษณ์ข้อมูลการใช้ของผู้ป่วย พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรับประทานยาดังกล่าวติดต่อกันเป็นเวลา นานกว่า 3 เดอื นแลว้ แสดงใหเ้ หน็ ว่าผู้ปว่ ยได้รับสารสเตียรอยด์ติดต่อกนั ในปริมาณสงู มากจนอาจจะ ก่อให้เกิดอันตรายได้ แต่ที่น่ากังวลมากในขณะนี้คือ มีการลักลอบน�ำสารสเตียรอยด์เข้ามาเจือปนในเคร่ืองดื่ม สมนุ ไพร เพอื่ หลกี เลยี่ งการตรวจจบั ตามกฎหมายยา เนอ่ื งจากกฎหมายดา้ นอาหาร เครอื่ งดม่ื สมนุ ไพร สามารถวางจ�ำหน่ายไดต้ ามสถานที่ทวั่ ไป จงึ ยากแกก่ ารติดตามตรวจสอบ นอกจากปัญหาสารสเตียรอยดท์ ี่ผสมในยาสมุนไพร ยาแผนโบราณ หรือแม้กระทัง่ เคร่ืองด่มื สมนุ ไพรแลว้ เรายงั พบวา่ มผี ลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพอนื่ ๆ ทผี่ ลติ อยา่ งไมถ่ กู ตอ้ ง และแพรร่ ะบาดในกลมุ่ ผปู้ ว่ ย โรคเร้อื รงั และกลุ่มผู้บรโิ ภคตา่ งๆ เชน่ น�ำ้ หมกั ยาสตู รตำ� รับแปลกๆ ซงึ่ ผลติ ภัณฑเ์ หล่าน้ีสว่ นใหญม่ ัก จะไมไ่ ด้ขออนุญาตอย่างถกู ตอ้ งตามกฎหมาย และยงั มกี ารโอ้อวดสรรพคณุ เกนิ ความเปน็ จรงิ ท�ำใหผ้ ู้ บรโิ ภคหลายรายตกเปน็ เหยอื่ บางรายถงึ กบั หยดุ การรกั ษาตวั เอง แลว้ หนั มาใชผ้ ลติ ภณั ฑเ์ หลา่ นจี้ นถงึ กบั เสียชีวติ มาแล้วหลายราย ค�ำถามทา้ ยเรอ่ื ง 1. สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของสารสเตยี รอยดท์ ป่ี ลอมปนในยาแผนโบราณหรอื ยาสมนุ ไพร ในพ้นื ทขี่ องทา่ น (หรือทท่ี า่ นพบเหน็ จากผปู้ ่วย) เปน็ อย่างไรบ้าง 2. ท่านมีวธิ ีการสงั เกตไดอ้ ย่างไรว่า ยาแผนโบราณหรอื ยาสมุนไพรท่ีผู้ป่วยใช้ อาจมีสาร สเตียรอยดป์ ลอมปน

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 85 เอกสารอา้ งอิง 1. ภาณโุ ชติ ทองยัง, สนุ ทรี ท.ชยั สัมฤทธ์โิ ชค, บรรณาธิการ. คมู่ อื นกั รอ้ ง(เรยี น). กรุงเทพมหานคร: แผน งานพฒั นากลไกเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา(กพย) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. 2. ภาณโุ ชติ ทองยัง, บรรณาธิการ. อยา่ ปลอ่ ยให้สเตยี รอยดล์ อยนวล. กรงุ เทพมหานคร: แผนงานสรา้ ง กลไกเฝา้ ระวังและพัฒนาระบบยา(กพย) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ; 2554. 3. ภาณโุ ชติ ทองยงั , ชมรมเภสชั ชนบท, บรรณาธกิ าร. ทกุ ขล์ น้ เหลอื เหยอื่ โฆษณา. กรงุ เทพมหานคร: แผน งานพัฒนากลไกเฝ้าระวงั และพัฒนาระบบยา(กพย) คณะเภสัชศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ; 2555.

86 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม พลคู าว Houttuynia cordata Thunb.

ช่วยกันเฝา้ ระวัง ภก.ภาณโุ ชติ ทองยัง สำ� นกั งานสาธารณสุขจงั หวัดสมทุ รสงคราม “4 ข้นั ตอนงา่ ยๆ ในการรอ้ งเรยี น : ขอ้ มูลพรอ้ มพรรค – หลกั ฐาน ครบถว้ น – เรอ่ื งดว่ นส่งทันที – อย่ารรี อชว่ ยบอกต่อ”

88 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม ปจั จบุ นั มกี ารโฆษณาผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพจำ� นวนมากผา่ นทางสอื่ ตา่ งๆ เชน่ วทิ ยุ เคเบลิ ทวี ี หรอื สอ่ื อน่ื ๆ โดยอวดอา้ งหรอื หลอกลวงวา่ สามารถรกั ษาไดส้ ารพดั โรค และไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ รา่ งกาย ผลติ ภณั ฑเ์ หลา่ นบ้ี างรายการไมไ่ ดร้ บั อนญุ าตใหข้ น้ึ ทะเบยี น บางอยา่ งไมไ่ ดร้ บั อนญุ าตใหโ้ ฆษณา การ โฆษณาโดยขาดการควบคมุ อาจทำ� ใหป้ ระชาชนไดร้ บั อนั ตรายจากการใชผ้ ลติ ภณั ฑด์ งั กลา่ ว ตรวจเช็ค 4 ขอ้ กอ่ นมาร้องเรยี น ในการเฝ้าระวังและตรวจสอบโฆษณาทไ่ี มเ่ หมาะสม เพอ่ื ด�ำเนนิ การตามกฎหมาย กอ่ นทีจ่ ะ ดำ� เนนิ คดี เราควรตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่จะใชเ้ ปน็ หลักฐานว่า ครบถว้ นสมบูรณห์ รือไม่ เพราะถ้ามี ข้อมูลหลักฐานเพียงพอ ก็สามารถจะน�ำไปด�ำเนินการได้ทันที แต่ถ้าข้อมูลไม่ครบถ้วน ขาดข้อมูลท่ี ส�ำคัญ ก็ไม่สามารถจะด�ำเนินการตามกฎหมายได้ ดังน้ันจึงขอสรุป 4 ข้ันตอนง่ายๆ ท่ีใช้ตรวจสอบ ความพรอ้ มในการรอ้ งเรียนดงั น้ี 1. ขอ้ มูลพร้อมพรรค ในข้ันตอนแรก ขอให้ตรวจสอบข้อมูลที่จะน�ำไปร้องเรียนว่า ครบถ้วนเพียงพอหรือไม่ จาก ประสบการณ์พบว่า จะตอ้ งมีข้อมูลในเรอ่ื งหลักๆ ดังนี ้ 1.1 ชอ่ื ผู้รอ้ งเรยี น หรอื ผ้บู ันทกึ ขอ้ มูล ตลอดจนที่อยหู่ รือเบอรโ์ ทรศัพท์ เพือ่ ให้ขอข้อมลู เพมิ่ เตมิ ได้ 1.2 ควรตรวจสอบหนว่ ยงานทเี่ ราจะรอ้ งเรยี นใหถ้ กู ตอ้ ง เชน่ รอ้ งเรยี นเรอื่ งผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพ (อาหาร ยา เคร่ืองส�ำอาง ฯลฯ) ให้ร้องเรียนที่ ส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (หมายเลข โทรศพั ท์ 1556 หรือ แอพพลิเคชนั ทางโทรศัพทม์ อื ถอื ชือ่ Oryor Smart Application) ส�ำนกั งาน สาธารณสขุ จังหวดั โรงพยาบาลชมุ ชน โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตำ� บล กรณีที่เปน็ การโฆษณาผ่าน สื่อโทรทัศน์และวิทยุสามารถร้องเรียนไปยังส�ำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทัศน์ และกจิ การโทรคมนาคมแห่งชาติ (หมายเลขโทรศัพท์ 1200) ฯลฯ 1.3 ระบสุ ื่อที่พบการโฆษณาและข้อมลู เกย่ี วกับสอื่ ดังกล่าวให้ชัดเจนทีส่ ดุ เช่น วันเวลาทีพ่ บ

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 89 การโฆษณา พ้ืนทที่ ีพ่ บโฆษณา คล่นื ความถี/่ ช่องรายการ ชื่อสถานี ชอ่ื รายการ ช่อื ผูจ้ ัดรายการ 1.4 รายละเอยี ดข้อมูลผลิตภัณฑท์ ่โี ฆษณา เช่น ชอ่ื ผลติ ภัณฑ์ ถา้ ทราบว่าผลติ ภณั ฑ์นัน้ เป็น ยา อาหาร เครอื่ งส�ำอาง เคร่อื งมอื แพทย์ วัตถอุ ันตรายให้ระบุไปด้วย หากเป็นไปไดใ้ หต้ รวจสอบดว้ ย วา่ โฆษณานัน้ มเี ลขทีโ่ ฆษณาผลิตภัณฑ์หรือไม่ ท้ังนี้ตอ้ งไมส่ ับสนระหว่างเลขทอี่ นญุ าตโฆษณากบั เลข ทะเบยี นผลิตภัณฑ์ เช่น เลขทะเบยี นตำ� รับยา หรือเลขทะเบยี นตำ� รบั อาหาร หรอื เลขท่ีจดแจง้ เครื่อง ส�ำอาง 1.5 รายละเอยี ดวธิ กี ารโฆษณา เชน่ การจดั รายการ มผี เู้ ลา่ ประสบการณ์ สปอตโฆษณา หรอื อนื่ ๆ 1.6 ประเดน็ ที่สงสยั ว่าไมถ่ กู ต้องหรือไม่ปลอดภยั เชน่ การอวดอ้างสรรพคณุ เกินจรงิ หรือมี การรับรองสรรพคุณอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ ทั้งน้ีสามารถท�ำการตรวจสอบเบื้องต้นได้เองโดยเปรียบ เทียบกับข้อกฎหมายในกฎหมายยา อาหาร หรอื กฎหมายอนื่ ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เคลด็ ลบั ในการแยกแยะเลขทะเบยี นผลติ ภณั ฑก์ บั เลขทอ่ี นญุ าตโฆษณาในผลติ ภณั ฑป์ ระเภทตา่ งๆ

90 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม สำ� นักงานคณะกรรมการอาหารและยา กำ� หนดให้มีเครอื่ งหมาย อย. ( ) เฉพาะใน ผลิตภัณฑ์อาหาร เคร่ืองมือแพทย์ท่ีต้องมีใบอนุญาต และวัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือนบางประเภท เท่านั้น ส่วนผลิตภัณฑ์ยา เคร่ืองส�ำอาง เคร่ืองมือแพทย์ท่ีต้องแจ้งรายละเอียด วัตถุอันตรายที่ใช้ใน บา้ นเรอื นบางประเภท ไมต่ ้องมเี ครอ่ื งหมาย อย. ( ) หากมีสัญลักษณ์เคร่ืองหมาย อย. ( ) ปะปนกับสัญลักษณ์ของผลิตภัณฑ์อื่น อาจ สันนิษฐานไวก้ อ่ นวา่ ผลติ ภัณฑ์ดงั กล่าวเปน็ ผลิตภัณฑ์ปลอมหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายได้ นอกจากนี้ เครื่องหมาย อย. ( ) ไม่ไดบ้ ่งบอกวา่ ผลติ ภัณฑ์นน้ั ผา่ นการรบั รองโฆษณา ถูกตอ้ งตามกฎหมายดว้ ย ผลติ ภัณฑส์ ขุ ภาพทีม่ ีเครอ่ื งหมาย อย. ได้แก่

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 91 ตวั อย่างผลติ ภณั ฑ์ท่มี ีเครื่องหมาย อย. ( ) และมเี ลขสารบบ 13 หลัก บ่งบอกวา่ เปน็ ผลิตภัณฑอ์ าหารไมไ่ ดเ้ ปน็ ผลติ ภัณฑ์ยา (เพราะผลติ ภณั ฑ์ยาไม่ได้กำ� หนดให้ใช้เคร่อื งหมาย อย.) จงึ ไม่ สามารถโฆษณาสรรพคณุ ของผลิตภัณฑว์ ่าสามารถป้องกัน บำ� บัด บรรเทา รกั ษาโรคได้ ผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพทไ่ี ม่มเี คร่อื งหมาย อย. ได้แก่ ภาพจาก : สำ� นักงานคณะกรรมการอาหารและยา. ไขข้อขอ้ งใจ เครื่องหมาย อย.บนฉลากผลติ ภณั ฑ์ สุขภาพ. ประชาชาติธรุ กจิ ฉบบั วนั ที่ 2-4 ธนั วาคม พ.ศ.2556 หน้า 5

92 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 2. หลักฐานครบถ้วน นอกจากข้อมูลที่ครบถ้วนแล้ว หากมีพยานหลักฐานชัดเจน จะท�ำให้การด�ำเนินการเป็นไป อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ผกู้ ระทำ� ผดิ ไมส่ ามารถอา้ งวา่ ไมเ่ กยี่ วขอ้ งได้ พยานหลกั ฐานเบอ้ื งตน้ ทค่ี วรรวบรวม ใหไ้ ด้ เชน่ พยานเอกสาร ผลิตภัณฑ์ที่โฆษณามีเอกสาร ใบปลิว แผ่นพับ ประกอบการโฆษณาด้วย หรือไม่ พยานบุคคล นอกจากตวั ผู้รอ้ งเรยี นแลว้ มบี คุ คลใดทีร่ บั รูห้ รอื เหน็ เหตกุ ารณ์การโฆษณา ทไี่ มถ่ กู ต้องอีก พยานวตั ถ ุ ตวั อย่างผลติ ภณั ฑส์ ินคา้ ที่ท�ำการโฆษณา เคลด็ ลับจบั โกหก สอื่ แตล่ ะประเภทจะมวี ธิ กี ารโฆษณาทแี่ ตกตา่ งกนั ดงั นนั้ การรวบรวมเอกสารหลกั ฐานจงึ ควรให้ สอดคลอ้ งกบั สอ่ื แตล่ ะประเภท เชน่ คลนื่ วิทยุ ๑. ขอ้ มลู ไฟล์เสยี งในช่วงทโี่ ฆษณา ในรปู แบบดิจติ อลหรือเทปแมเ่ หล็ก ๒. ขอ้ ความทถ่ี อดจากสปอตโฆษณาแลว้ (ถา้ สามารถถอดเทปและพมิ พอ์ อกมาเปน็ ตวั อกั ษรได)้ สื่อส่งิ พมิ พ์ ๑. สือ่ ส่ิงพิมพ์ที่ครบถ้วน เช่น ท้งั ฉบบั ท้ังแผน่ แผ่นป้ายการโฆษณา/รถแห่ประชาสัมพนั ธ์ ๑. ภาพถา่ ยแผน่ ป้ายโฆษณารูปแบบดิจติ อล ถ้าพมิ พ์ออกมาเป็นภาพควรเปน็ ภาพสี ๒. แผนท่ี ระบตุ ัง้ ทขี่ องแผน่ ปา้ ยโฆษณา หากเป็นรถเร่โฆษณา ใหร้ ะบเุ ลขทะเบยี นรถ

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 93 เอกสารแนบผลิตภัณฑ์ ๑. เอกสารกำ� กบั ยา หรือเอกสารก�ำกับผลิตภัณฑ์ ๒. เอกสารโฆษณาอ่นื ๆทีเ่ กย่ี วข้อง ขายตรง ไมแ่ นะน�ำใหเ้ กบ็ หลกั ฐาน ควรแจง้ เจา้ หน้าที่เพือ่ ออกไปด�ำเนนิ การในวนั เวลาทมี่ ีการขายตรง 3. เรอ่ื งด่วนสง่ ทนั ที ควรรีบส่งเร่ืองร้องเรียนให้กับเจ้าหน้าท่ีผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยเร็วที่สุด เพ่ือป้องกันการ เปล่ยี นแปลงขอ้ มูลโฆษณา แนะนำ� ว่าไมค่ วรเกนิ 7 วนั โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถส่งข้อมูลร้องเรียนการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ถูกต้องไปยัง หน่วยงานสาธารณสุขได้ในทุกระดับ (แต่ในบางจังหวัดหรือในบางพ้ืนที่ หน่วยงานสาธารณสุขอาจมี การจดั ระบบการค้มุ ครองผบู้ ริโภคทีแ่ ตกต่างกัน ทำ� ให้การรับเรื่องรอ้ งทกุ ข์อาจแตกต่างกันไปบ้าง) ท้ังน้เี ราสามารถร้องเรยี นโดยตรงได้ทีห่ นว่ ยงานในแต่ละพ้ืนท่ี ดงั นี้ ระดบั ชุมชน หมูบ่ า้ น บางแห่งอาจมศี ูนยป์ ระสานงาน/ศูนยร์ บั เรือ่ งรอ้ งเรยี นผลิตภณั ฑ์ สุขภาพและโฆษณา ระดับตำ� บล โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพต�ำบล ระดบั อำ� เภอ ฝา่ ยเภสชั กรรม รพ.ชมุ ชน รพ.ทว่ั ไป รพ.ศนู ย์ สำ� นกั งานสาธารณสขุ อำ� เภอ ระดับจงั หวดั กลมุ่ งานค้มุ ครองผ้บู ริโภคฯ สำ� นกั งานสาธารณสขุ จงั หวัด สว่ นกลาง สำ� นกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (หมายเลขโทรศพั ท์ 1556) สำ� นักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสยี ง กิจการโทรทัศน์

94 สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม และกิจการโทรคมนาคมแหง่ ชาติ (หมายเลขโทรศัพท์1200) นอกจากนี้ สามารถรอ้ งเรยี นไดท้ าง Oryor Smart Application หรือผ่านทางเวบ็ ไซตศ์ ูนย์ เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพได้ท่ี http://newsser.fda.moph.go.th/hpsc/ frontend/theme/online_regis.php เคล็ดลบั การเตรยี มแฟม้ เพอ่ื ร้องเรียน การร้องเรียนตอ่ หน่วยงานจะต้องให้ขอ้ มูลดังตอ่ ไปนี้ 1. ช่อื ทอ่ี ยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ หรอื อเี มล์ทต่ี ิดตอ่ ได้ 2. สำ� เนาบตั รประชาชน 3. ชอื่ และทอี่ ยู่ หรือท่ีต้งั ของผปู้ ระกอบกจิ การสถานีวทิ ยหุ รอื โทรทศั น์ทีจ่ ะรอ้ งเรียน 4. ข้อเท็จจริงหรอื การกระท�ำท่เี ปน็ เหตแุ ห่งการรอ้ งเรียน 5. พยานเอกสารและหลักฐานอื่นๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ ง 6. ความประสงค์ท่จี ะให้ใคร ด�ำเนินการอะไร 7. ลายมือช่ือ (ในกรณีสง่ หนังสอื ร้องเรียน) 4. ช่วยกันบอกตอ่ ในเบื้องต้น หากทราบแน่ชัดว่าโฆษณาชิ้นน้ันไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน เราควรแจ้งให้คนใน ชุมชนนนั้ ทราบโดยด่วนท่สี ุด แตถ่ า้ ไม่มนั่ ใจ อาจสอบถามกับเจ้าหน้าท่ีให้แนใ่ จว่าโฆษณาช้นิ นัน้ ไม่ถกู ตอ้ งหรอื ไมป่ ลอดภยั อยา่ งไร หลงั จากนนั้ ควรรบี แจง้ ใหค้ นในชมุ ชนทราบผา่ นชอ่ งทางหรอื วธิ กี ารตา่ งๆ เช่น แจ้งในการประชุมของชุมชน วัด โรงเรียน แจ้งผ่านหอกระจายข่าว หรือแจ้งในช่วงการจัดท�ำ ประชาคม การแถลงข่าว ฯลฯ ในกรณที ไี่ มม่ น่ั ใจ หรอื กงั วลวา่ อาจถกู ผกู้ ระทำ� ผดิ ฟอ้ งกลบั หรอื มปี ญั หาในชมุ ชน ควรประสาน งานให้เจ้าหน้าท่เี ปน็ ผู้กระจายข่าวออกจากหน่วยงานราชการก็ได ้

สมนุ ไพรไมใ่ ชย่ าขม 95 ค�ำถามทา้ ยเร่ือง 1. ทา่ นสามารถตรวจสอบขอ้ มลู วา่ ผลติ ภณั ฑใ์ ดมกี ารปลอมปนสารสเตยี รอยดไ์ ดจ้ ากทใ่ี ดบา้ ง 2.ทา่ นใชว้ ธิ กี ารอย่างใดบ้างในการเฝา้ ระวงั มใิ หส้ ารสเตยี รอยดท์ ีป่ ลอมปนในยาแผนโบราณ หรอื ยาสมุนไพร แพรร่ ะบาดในพ้นื ทข่ี องทา่ น เอกสารอ้างอิง 1. ภาณโุ ชติ ทองยัง, สนุ ทรี ท.ชัยสมั ฤทธ์โิ ชค, บรรณาธิการ. คู่มอื นกั ร้อง(เรียน). กรงุ เทพมหานคร: แผน งานพัฒนากลไกเฝา้ ระวงั และพัฒนาระบบยา(กพย) คณะเภสชั ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . 2. ภาณุโชติ ทองยัง, บรรณาธิการ. อย่าปล่อยใหส้ เตยี รอยดล์ อยนวล. กรุงเทพมหานคร: แผนงานสร้าง กลไกเฝา้ ระวงั และพฒั นาระบบยา(กพย) คณะเภสชั ศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ; 2554. 3. ภาณโุ ชติ ทองยงั , ชมรมเภสชั ชนบท, บรรณาธกิ าร. ทกุ ขล์ น้ เหลอื เหยอ่ื โฆษณา. กรงุ เทพมหานคร: แผน งานพฒั นากลไกเฝา้ ระวงั และพัฒนาระบบยา(กพย) คณะเภสชั ศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ; 2555.

คู่มอื เภสัชกรสมุนไพร เลม่ ที่ ๑ ที่ปรึกษา ภก.รศ. (พเิ ศษ) กิตติ พทิ กั ษน์ ิตนิ นั ท์ สมนุ ไพรไม่ใชย่ าขม นายกสภาเภสัชกรรม พมิ พ์คร้ังแรก พฤษภาคม 2558 ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร จำ� นวน 2,500 เลม่ หวั หนา้ กลุ่มงานเภสัชกรรม สงวนลขิ สทิ ธิ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภูเบศร ISBN : 978-616-11-2510-3 บรรณาธกิ าร ผเู้ ขยี น ภก.ภาณุโชติ ทองยัง ภก.ภาณุโชติ ทองยัง ผู้ชว่ ยบรรณาธิการ ภญ.ผกากรอง ขวัญขา้ ว ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว ภก.พนิ ติ ชินสร้อย ภญ.วชิราภรณ์ ทองออ่ น ภก.ณฐั ดนัย มุสิกวงศ์ จดั ทำ� โดย ภญ.อาสาฬา เชาวน์เจริญ สภาเภสัชกรรม สนับสนุนการพมิ พ์ ศลิ ปกรรม/ออกแบบ มหาวิทยาลยั พะเยา ( จำ� นวน 100,000 บาท ) สวุ ทิ ย์ วีระยุทธศิลป์ ประสานงานการผลิต มลู นธิ โิ รงพยาบาลเจา้ พระยาอภยั ภเู บศรในพระอปุ ถมั ภ์สมเดจ็ วฒุ ิชัย เสมี พระเจา้ ภคนิ เี ธอ เจา้ ฟา้ เพชรรตั นราชสดุ า สริ โิ สภาพณั ณวดี ธปิ ไตย ธิติพันธ์พงศ์ พมิ พท์ ่ี พสิ จู นอ์ กั ษร บริษัท ปรมตั ถ์การพมิ พ์ จ�ำกัด ดิสทตั โรจนาลกั ษณ์ 3769/52-54 ตรอกนอกเขต ถนนเจริญราษฏร์ แขวงบางโคล่ นรกมล สุขเจรญิ เขตบางคอแหลม กรงุ เทพฯ 10120 วรดี วารีผล