Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เคล็ดลับผักสวนครัว

เคล็ดลับผักสวนครัว

Description: เคล็ดลับผักสวนครัว

Search

Read the Text Version

เ ค ล็ ด ลั บ ผั ก ส ว น ค รั ว เรียงเรียงโดย : ปย ลกั ษณ รศั มี จดั ทาํ เอกสารอเิ ลก็ ทรอนกิ สโ ดย : สํานกั สง เสรมิ และฝก อบรม • คาํ นาํ • พืชผักสวนครวั ปลกู งา ยถา รเู คลด็ ลบั • ข้ันเตรยี มการเลอื กผกั ทจ่ี ะปลกู • เมล็ดพันธุผ ัก • ปญ หา • การใสป ยุ • การดแู ลรกั ษา • การเก็บผัก • การเก็บพันธุเอง คํานํา ทา มกลางวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศที่เกิดขึ้นมาตั้งแตป 2540 แมวาภาครัฐและเอกชนไดพยายาม ดําเนินการเพ่ือแกไขอยู ซึ่งความตกตํ่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นนี้ไดสงผลกระทบไปสูประชาชนทุกระดับท่ัว ประเทศ การฝาฟนวิกฤติครั้งนี้ไดสงผลกระทบไปสูประชาชนทุกระดับทั่วประเทศ การฝาฟนวิกฤติครั้งนี้ไดสง ผลกระทบไปสปู ระชาชนทกุ ระดบั ทว่ั ประเทศ การฝา ฟนวกิ ฤติครั้งนี้ประชาชนจะตองใหความรวมมือกบั รฐั บาล อยา งเต็มที่ในทุกๆ ดา น และความรว มมอื ทจ่ี ะบงั เกดิ ผลโดยทนั ทนี น้ั ก็คอื การประหยดั คาใชจา ยในระดบั ครวั เรอื นอยางจริงจัง ซง่ึ มหี ลายวธิ ดี ว ยกนั วธิ กี ารหนง่ึ ทจ่ี ะชว ยในการประหยดั นก้ี ค็ อื การลดคา ใชจ า ยในครอบครวั เราไมค วรมองขา มผกั เนื่องจากผักที่ประกอบอยูในอาหารแตละชนิด ทําหนาที่สองอยางคือ เพื่อคุณ คา ทางอาหารใหเ ปน ประโยชนต อ รา งกาย เนื่องจากสองอยางคือ เพม่ิ คุณคา ทางอาหารใหเ ปน ประโยชนต อ รา ง กาย เนอื่ งจากผักอุดมไปดวยแรธาตุและวิตามินที่จาํ เปนตอรางกายมากนอยและแตชนิดของผัก และหนาที่อีก อยา งหนึ่งของผักก็คือ เปน เครอ่ื งชรู สอาหาร เนื่องจากผักมีสีสันตางๆ อยา งหลากหลาย รวมทง้ั กล่นิ และรสของ ผกั ตางๆ นน้ั กม็ สี ว นในการเพม่ิ รสชาตอิ าหารใหน า รบั ประทานมากขน้ึ ดว ย การปลูกผักไวรับประทานเองนับวา เปนวธิ ีที่ดที ี่สดุ ท่จี ะไดบ ริโภคผกั ทีป่ ลอดภัยจากสารพิษเพื่อสูขภาพ รา งกายทแ่ี ขง็ แรงมโี อกาศไดร บั ประทานผกั ทใ่ี หมแ ละสดรวมทง้ั เปน การประหยดั คา ใชจ า ยประจาํ วนั สอดคลอง กบั ยุคสมัยปจจุบัน นอกจากนก้ี ารทําผกั สวนครวั ยงั ทาํ ใหเกิดความสุขเพลิดเพลินใจ ใกลชิดธรรมชาติ และ สมาชกิ ในครอบครวั ไดใ ชเ วลาวา งรว มกนั เปน การปลกู จติ สาํ นึกตอธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมที่มีคายิ่งและผล ผลติ ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากนา้ํ พักนํา้ แรงนั้นมีคุณคามากกวาสินคาที่หามาไดดวยเงินทอง ในทรรศนะของการปลกู ผักสวนครวั นน้ั เปนการใชประโยชนจากสิ่งที่มีอยูมีใหเกิดประโยชน เชน การ ใชน า้ํ เหลอื ใชจ ากครวั เรอื นใน การลดนา้ํ ผกั เปน ตน การมีผักสวนครวั อยใู นบา นยงั เปน การประหยดั คา ใชจ า ยในครวั เรอื น ไดบริโภคผักที่สด สะอาด ปราศจากสารพิษ และเกดิ ผลพลอยไดอ กี มากมาย ดงั นน้ั เราจงึ ควรหาเคลด็ ลบั ในการปลกู ผกั สวนครวั กัน เพื่อไดมีผักที่สด อรอ ย มีประโยชนแ ละเกิดจากนา้ํ พักนํ้าแรงของพวกเราไวร บั ประทานกนั

2 พชื ผกั สวนครัวปลูกงายถารูเคล็ดลับ ในการปลูกผกั สวนครวั ไวบรโิ ภคตอ งยึดหลกั 4 ประการ คอื ใชพื้นที่ปลูกใหไดประโยชนมากที่ สุด ตองปลูกปกใหไดมากชนิดที่สุดเพื่อจะมีผักไวบริโภคหลายๆ อยา ง ตองเลือกชนิดผักทีช่ อบบรโิ ภค สามารถรับประทานไดท กุ วนั มคี ณุ คา ทางอาหารแมลงไมช อบ และปลอดภัยจากสารเคมี วิธีเลือกผักในบานใหไดผลดตี อ งเลอื กพนั ธทุ ป่ี ลกู งา ยไมย งุ ยากจนเกนิ ไป และใชบริโภคในครวั เรือนเปนประจาํ เชน กวางตงุ ผักกาดเขียว ผักชี ผักบุง กระเพรา เปน ตน ปลกู ไดต ลอดทง้ั ปอ ายกุ ารเกบ็ เกี่ยวอยูระหวาง 35-55 วัน หรือเรียกวาปกอายุสั้น สภาพแสงเงาทผ่ี กั แตล ะชนดิ ตอ งการไมเ ทา กนั โดย แบงความตองการออกไดเ ปน 2 ประเภท คอื ผกั ทไ่ี มต อ งการแสงแดดตลอดทง้ั วนั แปลงปลกู ประเภทนี้ ควรปลูกผกั ทส่ี ามารถเจรญิ เตบิ โตในรม ได เชน ชะพลู สะระแหน ตะไคร ขงิ ขา กะเพรา เปน ตน ประเภททต่ี อ งการแสงตลอดวนั ผักที่ควรปลูกไดแก ถั่วฝกยาว คะนา ผักกาดเขียว กวางตงุ พรกิ ตา งๆ การปลูกผักน้ันควรมคี วามพถิ พี ถิ นั ในการดแู ล ในการปลกู ผกั สวนครวั ผปู ลกู ควรมเี วลาดแู ลวนั ละ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยูกับเน้ือที่ปลูก สําหรบั ผทู เ่ี รม่ิ ปลกู ผกั สวนครวั นน้ั อาจตอ งมกี ารวางแผนกนั เลก็ นอ ยกอ น เร่ิมลงมือปลกู ทั้งนี้เพื่อขจัดปญหาเล็กๆ นอ ยๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น และทาํ ใหก ารปลกู ผกั สวนควั ไมล ลุ วงไป ดวยดีจึงขอนําเสนอเคล็ดลับในากรปลกู ผกั สวนครวั เพอ่ื เปน แนวทางเบอ้ื งตน สาํ หรับผูที่จะหันมาปลูกผัก สวนควั ในทพ่ี กั อาศยั ขนั้ เตรยี มการเลือกผักที่จะปลูก ควรเลอื กผกั ทใ่ี ชบ อ ย โดยเลือกปลูกทั้งพืชยืนตน และพืช ลมลุก พืชยืนตนที่นาปลูกไดแก แค มะกรดู มะนาว โหระพา กะเพรา แมงลัก ขา ตระไคร พริก และ มะเขือ ซ่ึงพืชพวกนป้ี ลกู งา ยเกบ็ ผลไดน าน สว นพชื ลม ลกุ ควรเลอื กทส่ี มาชกิ ในบา นชอบในการวางแผน ปลูกน้ันตอ งเลอื กทยอยปลกู จะประหยัดเวลาในการดูแลรักษา ประหยัดนาํ้ และปุยดวย สว นปยุ นน้ั สามารถทําเองไดใ นบา นโดยนําเอาเศษผกั เปลอื กผลไม เศษหญา เปลอื กไขม ากองรวมกนั รดน้าํ 7- 10 วันตอครง้ั อกี 3-4 เดอื น ก็จะผุเปอยกลายเปนปุยนาํ มาใชก บั แปลงผกั สวนครวั ในบา นได ปุยคอก ท่ีขายตามรานตน ไมม รี าคาคอ นขา งแพง แตก็หาซื้อไดสะดวก แตถ า มเี วลา ขอแนะนาํ ใหไ ปเลือกซ้อื แถบ ชานเมืองของกรุงเทพ เชน ปทมุ ธานี นครปฐม เปน ตน ผทู อ่ี ยใู นตา งจงั หวดั จะไดเ ปรยี บในเรอ่ื งน้ี เพราะสามารถหาซอื้ ปยุ คอกไดง าย สว นแกลงนน้ั หาซอ้ื ไดจ ากโรงสี ถา ไมร วู า อยตู รงไหนกถ็ ามรา นขาย ตนไมดกู ไ็ ด หรือใชวัสดุที่มีภายในบานทาํ ปยุ เองกไ็ ดซ ง่ึ จะเปน การประหยดั อกี วธิ หี นง่ึ ดว ย

3 เตรยี มแปลงผัก สิงที่ตองคํานงึ ถงึ อยา งมากกค็ อื ควรเลอื กปลกู ใกลส ถานทอ่ี ยอู าศยั ดนิ ดหี รอื ควรมีการปรับปรงุ ดนิ กอ นเชน การใสป ยุ หมกั หรอื ปยุ คอกกอ น แปลงผกั ควรตากแดด อยา งนอ ยครง่ึ วัน ถาปลูกผักติดกนั หลายๆ แปลงตอ งใหแ ปลงผกั ขนาดไปกบั ทศิ ตะวนั ตกและตะวนั ออก เลอื กปลกู ผกั ท่ีมีความสูง ตา่ํ แตกตา งกนั ไวใ นแปลง ใกลก นั เพอ่ื จะไดไ มบ งั แดดกนั ชวยใน การสะสมอาหารและปอ ง กนั โรค การเตรียมแปลงเพราะปลกู นน้ั ตอ งมกี ารขดุ ดนิ ขน้ึ มาตากแดดไว 7- 5 วัน ใสปุยเพื่อปรับสภาพดิน ยกหนา ดนิ ใหส ูงจากพื้นทางเดนิ 10 ซม. แตงหนา ดนิ ใหเ รยี บการหวา นเมลด็ พนั ธทุ ําได 2 วธิ ีคอื วธิ กี ารหวา นเมลด็ พันผักนั้นควรหวานใหสมาํ่ เสมอ อยา ใหแ นน เกนิ ไป จะทาํ ใหต ดิ โรคไดง า ย แลวหวานดินกลบ ใชจอบตีรองใหเปนแถวตามความกวางหรือความยาว ของแปลงเพาะกลาก็ได ใหแตละแถวมีระยะหางกัน 1 คบื โรยเมลด็ ดว ย ดินแลว ควรใชแ กลบหรอื ฟางแหง คลมุ ดนิ เพอ่ื รกั ษาความชน้ื และปอ งกนั การเคลื่อนยายของเมล็ดพันธุผัก และกลา อนั เนอ่ื งจาการรดน้าํ และตน กลา ไมบ อบชา้ํ หรอื สญู เสยี การงอก สวนการเพาะในกระบะเปนวิธีที่สะดวก สามารถเคลอ่ื นยา ยไดง า ยทเ่ี หมาะสมสาํ หรบั การปลกู ผักสวนครวั ควรมขี นาด 30*50*10 ซม. ทําจากไมห รอื วสั ดใุ ดกไ็ ดต ามแตส ะดวก ดนิ ทใ่ี สค วรอตั รา ผสมระหวา งทราย ปุยหมัก ดนิ ละเอยี ดอยา งละเทา ๆ กัน และทาํ เปน รอ งเลก็ ๆ หา งกนั ประมาณ 3-4 ซม. ความลึกของรอ งประมาณ 1 ซม. และโรยเมลด็ พนั ธทุ จ่ี ะปลกู ลงไป กลบดว ยดนิ บางๆ ใชก ระดาษ หนังสือพิมพคลุมปดหนากระบะไวเพื่อรักษาความชื้นประมาณ 7-10 วัน เมลด็ จะงอกดนั กระดาษ หนังสือพมิ พจ งึ เปด กระดาษหนงั สอื พมิ พอ อก เมล็ดพันธุผัก มีท้ังท่ีตองซอ้ื และไมต อ งซอ้ื ทต่ี อ งซอ้ื ไดแ กก ะหล่ําปลี ผกั กาดตา งๆ เปน ตน ควรเลือกซ้ือจากราน ท่ีไวใจไดเ มลด็ พนั ธไุ มว างตากแดด เมลด็ ทเ่ี หลอื จากการปลกู ใหเ กบ็ ใสก ระปอ ง หรือขวดปดฝาใกแ นน วางไวใ นทเ่ี ยน็ อยา ตากแดดกรอื วางใกลไ อรอ นถา เกบ็ ไวใ นตเู ยน็ จะดมี าก ประเภท ท่ีไมตอ งซอ้ื มี 2 ประเภทคือพวกกิ่งกาน เชน ตระไคร ผักบุง กะเพรา เปน ตน ใชโ คนกง่ิ ทใ่ี ชม ดี คมๆ ตดั โคนทิ้งเล็กนอยทิ้งใหแผลแหงแลวจึงนาํ ลงปลกู เอนๆ โดยเอาไมเ ลก็ ๆ แทงดนิ นํากอ นอยา เอากา นผกั แทงโดยตรงและผักประเภทผล แกะเอาเมลด็ ปลกู ได เลยเชน พรกิ มะเขอื สว นถว่ั มะเขอื เอาผลแกๆ ตากแดด เอาผง่ึ ไวใ นรม 7-8 วันแลวแกะ เมลด็ ไปปลกู

4 ปญหาที่ผูปลูกผักสวนครัวอาจตองเจอคือ การเพาะเมลด็ แลว งอกไมค อ ยดี ทง้ั นอ้ี าจมาจาก หลายสาเหตุดังน้ี คอื เมลด็ พนั ธทุ ซ่ี อ้ื มาจากรา นคา เปน เมลด็ พนั ธทุ เ่ี กา เกนิ ไป เหลอื คา งหรอื ตากแดด เก็บในท่ีรอน หรือกระทบรอนกระทบเย็นบอยๆ ควรเลอื กจากรา นทไ่ี วใ จได หรอื รา นทม่ี ลี กู คา มากเนอ่ื ง จากจะไดเมล็ดพันธุที่คอนขา งใหม และสงั เกตทซ่ี องหรอื กระปอ งไมค วรเกา เปน สนมิ หรอื ซองเปลย่ี น เปนสีเหลืองหรือฉีกขาด เมลด็ พนั ธรุ นุ ใหมๆ จะมีกาํ กบั การตรวจสอบเปอรเ ซน็ ตก ารงอก และความ บริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ จากพระราชบญั ญตั เิ มลด็ พนั ธเุ พอ่ื ควบคมุ คณุ ภาพของเมลด็ พนั ธุ เมล็ดพันธุม คี ณุ ภาพดแี ตผ ปู ลกู ขาดประสบการณ เนื่องจากบางพันธุ มีระยะพักตัว เชน เมลด็ แตง กวา ถาเพาะทันที มกั จะพบเปอรเ ซน็ ตก ารงอกต่าํ ถา เกบ็ ไวร ะยะหนง่ึ เปอรเ ซน็ ตก ารงอกจะเพม่ิ ขน้ึ บาง ชนิดมี เปลือกหมุ หนาหรอื แขง็ ถา เพาะธรรมดาจะใชเ วลานาน แตถาแชนาํ้ อนุ ไวก จ็ ะมสี ว นชว ยกระตนุ การงอกของเมล็ดไดไวขึ้น และสามารถชว ยฆา เชอ้ื โรคได บางครง้ั การหอ เมลด็ ไวใ นผา ทช่ี น้ื ประมาณ 2- 3 วัน โดยใหเมลด็ เรม่ิ งอกรากออ นกอ น แลว จงึ นาํ ไปหวา นลงในแปลงเพาะกลา ดว ยการนาํ เมลด็ มาหอ ใสผ าไวแลวนาํ ไปแชใ นนา้ํ ธรรมดา นานประมาณ 3 ชั่วโมง แลวนาํ ออกจากหอ ผา วางไวใ นทร่ี ม คอย พรมนํ้าใหชื้นทุกวนั นาน 2 วัน เมอ่ื งอกจงึ หวา นในแปลงเพาะกลา เมลด็ ทเ่ี พาะแบบน้าํ งอกไดไ วป ระมาณ 4-5 วันเพื่อใหเปลือกหุมเมล็ดออนตัวลงเมื่อนําไปหวานลงแปลงเพาะเมล็ดจึงสามารถดูดนํ้าและ ความชน้ื ในดนิ ไดง า ย ทาํ ใหเ มลด็ งอกไดไ วข น้ึ แมลงในดนิ รบกวน ถาแปลงปลกู เปน แหลง สะสมของไขแ มลงหรอื แมลงในดนิ มาก ทําใหเ มลด็ พนั ธถุ กู แมลงในดินคาบไป หรอื เมอ่ื ยงั งอกยงั ไมพ น ดนิ กถ็ กู แมลงในดนิ ทาํ ลาย ดงั นน้ั จึงมกี ารเนน ใหขดุ ดนิ ใน แปลงปลูกข้ึนมาผึ่งแดดประมาณ 7-15 วนั รวมทง้ั อาจตอ งมกี ารคลกุ เมลด็ พนั ธดุ ว ยยาฆา แมลงเปน การ ปอ งกนั วธิ กี ารปฏบิ ตั ดิ แู ลไมถ กู ตอ ง มีหลายสาเหตุ เชน วธิ กี ารหยอดเมลด็ ถา หยอดลกึ เกนิ ไป หรือมีดินทับเกิน 2 ซม. ตน กลา ออ นมกั โผลไ มพ น ดนิ เนา ตายอยใู นดนิ เสยี กอ นวธิ กี ารลดนา้ํ ควรใชฝก บักหัวฝอยท่ีสุดถา แรงเกนิ ไปเมลด็ พนั ธจุ ะกระเดน็ ออกจากแปลงหรอื หลน เขา ไปตดิ อยใู นซอกลกึ ๆ หรือ การลดนํ้าในชว งทอ่ี ากาศรอ นจดั กไ็ มเ ปน ผลดนี กั กบั ผกั สวนครวั ควรดแู ลอยา งใชค วามเขา ใจ การเพาะกลา เมล็ดพันธผุ กั มกั จะมเี ชอ้ื โรคตดิ อยดู ว ยจงึ ควรแชเ มลด็ พนั ธใุ นน้ําอนุ จดั ขนาด มือทนไดอ ยา งนอ ย 2 นาที ผง่ึ หมาดแลว จงึ นาํ ไปเพาะกลา แลว ยา ยปลกู ไดย กเวน ผกั ชี ผักบุงและผักกิน หัวตาง ๆ ควรเพาะในถงุ และทยอยปลกู ทาํ ใหต น กลา ไมช ะงกั การเจรญิ เตบิ โตในสภาพดนิ ทม่ี คี วามชน้ื สูงหรือการปลกู หนา ฝน การพักกลา อาจจะไมจาํ เปน แตไนชวงฤดูแลงการพักกลาทาํ ใหเ ปอรเ ซน็ ตก าร ตายนอ ยและประหยดั แรงงานและวสั ดุ การพักตนกลาทําไดโ ดยนาํ กระทงเพาะกลา ใสด นิ แลว นําตน กลา ยายลงไปในกระทงวางไวใ นรม ประมาณ 7-10 วัน เมอ่ื ตน กลา ตง้ั ตวั ไดแ ลว กอ นยา ยปลกู ใหน ําออก จากรมประมาณ 3 วัน จึงยายปลกู เทคนคิ การยา ยปลกู นน้ั มหี ลกั ปฏบิ ตั คิ อื กลา ควรมใี บจรงิ 3-5 ใบ ควรยายปลกู ในเวลาเยน็ แดดออ น สาํ หรบั กลา ทร่ี วมกนั ในกระบะหรอื แปลงเพาะกอ นยา ยควรลดน้ําตน กลาเสียกอน สวน กลา ทเ่ี พาะในกระทงหรอื ถงุ ตอ งงดการรดนา้ํ 1 วัน ในการยา ยควรจบั เบาๆ เอาไม บางๆ แงะใหม ดี นิ ตดิ รากไปดว ยมากๆ ถอนแลว ควร รีบปลูกทันที เลอื กปลกู แตต น ทแ่ี ขง็ แรง ลาํ ตน ตรง ใบสมบูรณ ยอดไมห อ ยเวลาปลกู ควรตง้ั ตน ใหต รง และกดดนิ รอบโคนใหแนน พอ สมควร เมอ่ื ปลกู กลา เสรจ็ แลว ใหร บี รดนา้ํ ทันที

5 การใสป ยุ ที่จําเปน ไดแ กป ยุ มลู สตั วห รอื ปยุ คอก ตอ งใสท กุ ครง้ั กอ นการปลกู พชื เรียก วาปุยรองกนหลุม หรอื ปุย รองพน้ื นบั วา มคี วามสาํ คญั มากในการปรบั สภาพทางกายภาพของดนิ เพ่ือให ดินโปรง ระบายนํ้าไดด ี และปรบั ความอดุ มสมบรู ณข องดนิ ดว ยและชว ยใหด นิ อมุ นา้ํ รักษาความชื้น หรืออาจใชปุยหมกั ดว ยสว นปยุ เคมนี น้ั ใสเ สรมิ เลก็ นอ ย ตอนปลกู เพอ่ื เรง ใบเรง ใบดอกเทา นน้ั โดยมสี ตู ร วาผักท่ีกินผลตองใสปุยสูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 สวนผักกินใบน้ันใชปุยยเู รียหรือ แอมโมเนยี มซัลเฟตมาใส การใสป ยุ วทิ ยาศาสตรน น้ั กอ นปลกู ใสไ วท ก่ี น หลมุ 1 ชอนกาแฟ คลกุ ใหเ ขา กับดินกลบดินทบั หนา 2 นว้ิ แลว จงึ เอากลา หรอื เมลด็ ลงปลกู แลวใสปุยเสริมทุก 15 วัน โดยใชปุย 1 ชอนกาแฟโรยบางๆ ราบตน ใหห า งจากตน อยา งนอ ย 1 ฝา มอื สวนผักตนใหญเชนพริก มะเขอื เมอ่ื โต แลตองใสปุยหางจากตน ไมน อ ยกวา 1 คบื พรวนดนิ กลบแลว รดนา้ํ ตาม สตู รและอตั ราการใสอ าจ เปล่ียนแปลงได ขน้ึ อยกู บั ชนดิ ของดนิ แตล ะแหง ในพืชกนิ ใบบางชนดิ ท่ีอายุการเก็บเกยี่ วส้นั เชน ผัก กาดหอม หอมแหง ผักบุงจีน ผักชี เปน ตน หากปลกู ในแปลงเลก็ ๆ อาจใชป ยุ แอมโมเนยี ซัลเฟตอตั รา 100 กรัม หรือใสปุยยูเรีย อตั รา 50 กรมั ตอ เนอ้ื ทป่ี ลกู 1 ตารางเมตร ผสมปยุ คอก 2-3 กิโลกรัม เมอ่ื อายุ 7-10 วนั และ 22-30 วัน การดแู ลรกั ษา นอกจากการรดนา้ํ พรวนดนิ และใสป ยุ ตามปกตแิ ลว จะตอ งตรวจผกั ในสวน ครัวอยางนอยอาทิตยละครั้ง แตใ บทแ่ี กเ กนิ ไปหรอื เปน สง่ิ เหลอื งออก ถา พบแมลงหรอื ไขห นอนใหจ บั และทําลาย ในแปลงพชื ทม่ี ดี อกตวั ผแู ละตวั เมยี คนละดอกกนั เชน แตงกวา บวบ ฟกทอง มะระ เปน ตน ถาไมติดลูกใหเดด็ ดอกตวั ผทู เ่ี พง่ิ บานมาครอบดอกตวั เมยี ทเ่ี พง่ิ บานและเคาะเบาๆ ใหล ะอองเกสรหลน บนดอกตวั เมยี จะทาํ ใหต ดิ ผลดขี น้ึ ดอกตวั ผู 1 ดอก สามารถครอบดอกตวั เมยี ได 4-5 ดอก นบั ไดว า การปลูกพืชผกั นัน้ ตอ งการการดแู ลรกั ษาอยา งใกลช ดิ นอกจากนก้ี ารกาํ จดั โรคและแมลงนบั ไดว า เปน เรื่องสําคัญอยางมาก โดยเฉพาะผักบางชนิดน้ันแมลงชอบมากเปนพิเศษ เชนผักกาดขาว กวางตงุ เปนตน สามารถใชว ธิ กี ารปลกู ผกั ทแ่ี มลงไมช อบลอ มรอบหรอื เปน ผกั กนั ชนอยา งไรกต็ ามการกําจัดโรค และแมลงศรัตรูพืชสาํ หรบั ผกั สวนครวั นน้ั เนน วธิ ธี รรมชาตคิ อื การปฏิบัติดูแลใหผักที่ปลูกแข็งแรง เพื่อ ไดมีความตานทานโรคสวนการกําจัดแมลงศัตรูเนนการใชมือจับทําลาย ถามีการระบาดมากก็ใชสาร ธรรมชาติ เชน สะเดา เปน ตน ทง้ั นเ้ี พอ่ื ใหผ กั ทป่ี ลกู นน้ั ปลอดสารเคมอี ยา งแทจ รงิ สะเดา เปนพืชที่นิยมนาํ มาใชส กดั เปน สารควบคมุ โรคและแมลง เนอ่ื งจากสะเดามสี ารอะซาดิ แรคติน ซ่ึงชวยในการปองกันกําจัดแมลงโดยสามารถฆาและไลแมลงบางชนิดได ทําใหแมลงไมกิน อาหารและทาํ ใหการเจริญเติบโต ของแมลงบางชนดิ ได ทําใหแ มลงไมก นิ อาหารและทาํ ใหการเจริญเติบ โตของแมลงผิดปกติ ยบั ยง้ั การเจรญิ เตบิ โตของแมลง ยบั ยง้ั การวางไขข องแมลง และการลอกคราบเปน

6 พิษตอไขของแมลง ทาํ ใหไขไมฟก และยบั ยง้ั การสรา งเอนไซมใ นระบบยอ ยอาหารของแมลง วิธีการใช คือ ใหน ําผลสะเดาแชใ นนา้ํ 20 ลติ ร ทง้ิ คา งไว 1 คนื จากนน้ั กรองเอาแตน ้าํ มาผสมดว ยสารจบั ใบ 1 ชอนโตะ แลวนาํ ไปรดผกั ทนั ทสี ว นกากสะเดาทีเ่ หลือใหน ําไปโรยโคนตน เพอ่ื ปรบั ปรงุ สภาพดนิ และกาํ จัด แมลงในดินดวยแตอาจมีผลกระทบทาํ ใหอาการใบไหมเหี่ยวยน แคระแกรนเมอ่ื พบอาการดงั กลา วควร งดใชสารสะกัดสะเดาทันที พืชผักที่ควรใชสารสะเดาคือ ผักคะนา กวางตงุ ผักกาด หอม กะหลํ่าปลี กะหล่ําดอก แตงกวา มะเขอื เทศ พรกิ ขห้ี นู มะนาว เปน ตน แปลงปลูก เมอ่ื ทราบการระบาดของแมลง และศรัตรูพืช รีบทําการปองกันกําจัด ในกรณีที่ไมสามารถควบคุมไดอาจใชสารเคมีในการควบคุม แมลงศรัตรูพืช โดยขอใหพ จิ ารณาวา เปน สารเคมที เ่ี หมาะสมกบั การกําจดั แมลงศตั รพู ชื นน้ั ๆ สามารถ สลายตัวเร็ว โดยใชใ นอตั ราทเ่ี หมาะสมกบั คําแนะนํา และเวน ระยะการใชก อ นการเกบ็ เกย่ี วผลผลติ ตาม คําแนะนาํ ทง้ั นเ้ี พอ่ื ไมใ หเ กดิ อนั ตราย หรอื มสี ารเคมตี กคา งในพชื ผกั เพอ่ื ความปลอดภยั ในการบรโิ ภค การเก็บผัก ผักประเภทกินผลตางๆ เชน พริก ถวั่ มะเขอื ควรเก็บขณะยังไมแกจัดและเก็บ ติดข้ัวดวย สว นผกั กนิ ใบ เชน ผักบุง กวางตงุ คะนา ตอ งตดั ใหใ บตดิ ทต่ี น 2-3 ใบ และดแู ลรกั ษาตอ ไป ผักจะแตกยอดใหม ใหเกบ็ กนิ ไดอกี หลายครัง้ เคลด็ ลบั การเกบ็ ผกั สดเพอ่ื นํามาประกอบอาการนน้ั คอื สดนารับประทานมรี สชาดเหมือนเดมิ และมสี ารอาหาร เกลอื แร วติ ามนิ ครบถว นเพยี งแตพ ถิ พี ถิ นั ใน การเก็บการปรุงโดยการเกบ็ ผักสดใหไ ดค ณุ คาทางอาหารสูงน้ันควรเปนผักทอี่ อนและสดไมค วรเกบ็ ผักท่ี แกเกินไป หรือเริ่มเหี่ยว นอกจากนผ้ี กั ตอ งไมช า้ํ และขว้ั ตอนในการลา งกค็ วรทาํ อยา งระมดั ระวงั ขอ แนะ นําคอื มดี ทห่ี น่ั ผกั มคี วามคม หากเปนผักที่มียางควรใชมีดสแตนเลสจะชวยไมใหผักดาํ หรอื อาจใชน า้ํ ผสม น้ํามะนาวเจอื จาง ในการลางผกั ประเภทนจ้ี ะชว ยใหผักขาวนา รบั ประทาน ในการลา งผกั ควรลา งทง้ั ตน หรือผล ไมควรหั่น ตดั หรอื ปอกกอ น เพราะจะทาํ ใหแ รธ าตุ วติ ามนิ หลดุ ไปกบั นา้ํ ได การเก็บพันธุเอง ผักบางชนิดสามารถเก็บเมล็ดพันธุไวไดเอง โดยเลือกเก็บจากตนท่ี สมบูรณ ผลดก รสดี ไมม โี รค ลา งเมลด็ พนั ธใุ หส ะอาดแลว ตากใหแ หง สนทิ ซง่ึ ควรตากประมาณ 3-4 แดดอยาตากในถาดอลมู เิ นยี มเพราะรอ นจดั เกนิ ไป เมลด็ จะไมง อก ระหวา งทต่ี ากอาจมมี อดมาวางไขจ ะ มีสีขาวจุดเล็ก ๆ ซง่ึ ฟก ตวั กลายเปน หนอนภายใน 24 ชั่วโมง หนอนจะเจาะกนิ เขา ไปในเมลด็ ดงั นน้ั หลังจากการตากใหแ หง สนทิ แลว ควรคลกุ ดว ยสารกนั แมลง กอ นนําไปเกบ็ ในภาชนะท่ปี ด มดิ ชดิ หรือถงุ พลาสตกิ ทป่ี ด ปากแนน แลว จงึ นําไปเกบ็ ในทเ่ี ยน็ และมอี ากาศแหง ตอ ไป การปลูกผกั ในคร้งั ตอ ๆ ไป ในการปลกู ผกั ในครง้ั ตอ ๆ ไป ใหป ลกู ใหเ หมาะสมกบั ความ ตองการของครอบครัว โดยใชป ระสบการณจ ากการปลกู ครง้ั แรกควรปลกู ผกั ตดิ ตอ กนั ตลอดทง้ั ปอ ยา ให แปลงวาโดยเฉพาะในฤดรู อ น และฤดูฝนซง่ึ เปนชว งท่ีมีผกั มีราคาแพง ทาํ ใหประหยัดไดมาก ปจ จบุ นั ไดม ี การจัดโครงการสง เสรมิ การพง่ึ ตนเองเพอ่ื ใหเ กษตรกรและประชาชนไดป ลกู พืชผักสวนครัวรั้วกินได สําหรับการบริโภคผักในครัวเรือนและการลดคาใชจายอีกทางหน่ึงดวยซ่ึงความหมายของผัก สวนครัวรั้วกินได คอื ผกั ทป่ี ลกู เพอ่ื บรโิ ภคในครวั เรอื น แบงเปน กลุมพืชผัก เชน กลว ย กลุมพืชผักและ

7 สมุนไพรทใ่ี ชเ ปน เครอ่ื งครวั เชน พรกิ ขห้ี นู กลุมพืชผักที่ใชรับประทานสดหรือใชประกอบอาหารประจาํ วัน เชนฟก ทอง และกลุมพชื ผักทีเ่ ปน ร้วั กนิ ไดหรือปลูกบรเิ วณบานท่ัวไปสว นใหญเ ปน ผกั พืน้ บาน เชน ผักหวาน จากโครงการสงเสริมการพึ่งพาตนเองของเกษตรกรนี้ คาดวาจะชวยประหยัดคาใชจายในครัว เรือน ไดมากซง่ึ การเลอื กปลกู ผกั อยา งไรนน้ั ขน้ึ อยกู บั วา ครวั เรอื นบรโิ ภคผกั อะไรเปน สว นใหญ สําหรับขอแนะนําในการปลูกและดูแลรักษาโดยจาํ แนกตามกลมุ ของพชื ผกั สวนครวั ทง้ั นเ้ี พอ่ื เปน แนวทางคราวๆ ในการเรม่ิ ตน ปลกู สําหรับผูปลูกผักสวนครัวมือใหมโดยการจัดแบงพืชผักสวนครัวเปน กลุมๆ น้ี ทําใหเ หน็ วา หลกั การปฏบิ ตั ใิ นการปลกู และการดแู ลรกั ษาของพชื สวนครวั ใน กลุมเดียวกันจะ คลายๆ กัน นอกจากนย้ี งั เปน ประโยชนใ นการจดั แปลงพชื สวนครวั ดว ย โดยถามีการวางแผนจัดพืชผัก สวนครัวในกลุมเดียวกันไวใกลกัน จัดแปลงพืชผักสวนครัวดวย โดยถามีการวางแผนจัดพืชผักสวนครัว ในกลุม เดียวกันไวใกลกัน จะทาํ ใหก ารดแู ลนน้ั งา ยขน้ึ ดว ย กลมุ ตระกลู แตง ถั่วแดง เตรยี มดนิ ตากแดดทง้ิ ไว 7-15 วัน ยอยดินใหรวนซุยรดนํ้าทุก วันลวงหนา กอนปลกู 3 วัน ขดุ หลมุ กวา ง 20 ซม. ลกึ 10 ซม. ใสป ยุ คอกหลมุ ละ 1 กํามอื ปยุ เคมสี ตู ร 15-15-15 หลุมละ 2 ชอ นกาแฟคลุกเคลา ใหท ั่วกลบหลมุ หยอดเมลด็ บนผวิ ดนิ ของหลมุ ทก่ี ลบไว 5- 7 เมล็ดกดเมล็ดใหจ มดนิ ลกึ ประมาณ 2-4 ซม. ปด ดว ยฟางหรอื แกลบเมอ่ื กลา งอกมใี บออ นประมาณ 6-7 ใบเลอื กกลา ตน ทส่ี มบรู ณท ส่ี ดุ ไวห ลมุ ละ 3 ตน ดแู ลรดนา้ํ และกาํ จัดวัชพืชดดยไมตองใสปุยอีกจน กวาจะเกบ็ เกย่ี วกลมุ พชื บางชนดิ ตอ งปก คา งควรปก หลงั จากการหยอดเมลด็ แลว กลมุ ผกั กาด กะหลา่ํ เตรียมดนิ เชน เดยี วกบั พชื กลมุ แตงหรอื ขดุ ดนิ ตากแดดทง้ิ ไว 7-15 วัน ใสปุยคอกตารางเมตรละ 2 กโิ ลกรมั ปยุ เคมสี ตู รเสมอตารางเมตรละ 10 ชอ นกาแฟคลกุ เคลา ใหเ ขา กนั ผักกลุมน้ีมีวิธีการปลูก 2 วิธี คอื การหยอดหลมุ เนอ่ื งจากผกั กลมุ นม้ี ปี ญ หาในเรอ่ื งการยา ยปลกู จะชะงกั การเจรญิ เตบิ โตและมอี ตั ราการตายสงู มาก และสาํ หรับผักกาดหัว การยายปลูกในระยะตนกลาจะทาํ ให เกิดปญหามีหลายหวั ในตน เดยี วใชไ มก ดหลมุ ประมาณ 0.5 ซม. หยอดเมลด็ หลมุ ละ 5-7 เมลด็ กลบดนิ บาง ๆ เอาฟางหรอื แกลบกลบทบั อกี ชน้ั หนง่ึ รดน้าํ ดวยฝกบัวตาถี่ภายใน 3 วัน จะเกิดใบเลยี้ ง เมอ่ื เกดิ ใบจริง 2-3 ใบใหแ ยกเลอื กตน ออ นแอออกเหลอื หลมุ ละ 2 ตน เมอ่ื มใี บจรงิ 5 ใบ ถอนแยกเหลอื หลมุ ละ 1 ตน การเพาะและกลาทนทานตอการยายปลูกควรทาํ การเพาะตน กลา กอ นเมอ่ื กลา มอี ายุ 25-30 วัน จึงยา ยลงแปลงปลกู

8 กลุมพริก มะเขอื เพาะกลา ในภาชนะทโ่ี ปรง เครอ่ื งปลกู ประกอบดว ยดนิ รว น ปุยหมัก ขเ้ี ถา แกลบอยางละ 1 สวน เกลย่ี เครอ่ื งปลกู ใหเ รยี บ หยอดเมลด็ ใหกระจายทั่วกัน กลบดว ยเครอ่ื งปลกู หนา 0.5 ซม. รดน้าํ เมอ่ื กลา มใี บจรงิ 2 ใบ ยา ยลงปลูกที่เตรียมไว กลมุ หอม สะระแหน เตรยี มดนิ โปรง ลกึ 20 ซม. ใสปุยเชนเดียวกับ พวกแตง ใหน ้าํ ลว งหนา กอ นปลกู ประมาณ 3 วัน กลมุ หอมตา งๆ ใหหัว ท่ีมีการพักตัวดแี ลว ประมาณ 4 เดอื นหลงั การเกบ็ เกย่ี ว นาํ มาตดั รากแหง ออก แยกเปนหัวเดี่ยวๆ ฝง ลงในดนิ ใหป ลายหวั เสมอผวิ ดนิ ปด ฝางหนาประมาณ 1 ซม. เมอ่ื งอก 15 วนั หวานปยุ แอมโมเนยี ซัลเฟตตารางเมตรละ 15 กรัม ระวังวัชพืช อยา ใหด นิ แหง ควรใหน ้ําวนั ละครง้ั กุยชาย ปลกู ดว ยเมลด็ เพาะกลา 45-60 วัน ยายลงแปลงปลกู อกี 60 วัน จงึ เกบ็ ดอกหรอื ใบรบั ประทานได สะระแหน ใชยอดปกชาํ โดยตดั ยอดทม่ี คี วามยาวประมาณ 3 ซม. ปกชาํ ระยะ 10*10 ซม. พรางแสง 15-20 วัน จึงเก็บรับ ประทานได กระเทยี มหวั ปลูกดวยหัวแกจัดอายุ 4-5 เดอื น เหมาะทส่ี ดุ ชว งเดอื น ตลุ าคม ถึง ธนั วาคม กลมุ ขงิ ขา ข้ันตอนทส่ี าํ คัญคือ การเตรยี มดนิ ใหร ว นซยุ โปรง ลกึ ประมาณ 25-30 ซม. หวานปุยคอก และปยุ เคมี 15-15-15 ประมาณ 50 กรัม ตอ ตารางเมตร คลกุ ใหเ ขา กนั คดั เปน ทอ น ยาว 1 นว้ิ เอาปูนแดงทาใหแผลแหง นาํ ปลกู โดยใหม สี ว นของตน หรือใชเหงาแกมาชาํ ในทราย กระชาย แบง หวั โดยใหม สี ว นของตน หรือใชเหงาแกมาชาํ ในทราย กระชายควรตัดรากกอ นปลกู เมอ่ื แทงยอด แตกใบออ น 2-3 ใบจงึ ยา ยลงแปลงปลกู กลมุ ผกั ชี ผกั บงุ ขน้ึ ฉา ย เตรียมดนิ ใหร ว นซยุ ใสป ยุ คอก 2-4 กิโลกรัม ปยุ เคมี 15-15- 15 จํานวน 90 กรมั ตอ ตารางเมตร หยอดเมลด็ ผกั ชแี ละผกั บงุ จนี ในรองกลบดนิ ทบั หนาประมาณ 0.5 – 1 ซม. สว นการปลกู ขน้ึ ฉา ยไมต อ งกลบดนิ จนกระทง้ั เกบ็ เกย่ี ว กลุม โหระพา กะเพรา แมงลกั และผกั ชฝี รัง่ เตรยี มดนิ เชน เดียวกับการปลูกผักทั่วไป หวานเมล็ดใหทั่วใชฟางกลบหรือใชปุยคอกโรยบาง ๆ ใหทั่ว รดน้าํ ตามดว ยบวั ลดนา้ํ ตาถ่ี เมลด็ จะงอก ภายใน 7 วนั เมอ่ื กลา อายุ 1 เดอื น ถอนแยกจัดระยะใหโปรง ระยะระหวา งตน ประมาณ 20-30 ซม. ระหวางเจรญิ เตบิ โตนน้ั ใหห มน่ั เดด็ ดอกทง้ิ ทง้ั นเ้ี พอ่ื ใหล าํ ตน และใบเจรญิ ได อยา งเตม็ ท่ี การเก็บเกี่ยว โหระพา กะเพรา และแมงลัก ทาํ ไดห ลงั จากเมลด็ งอก 45-50 วัน สวนผักชีฝรั่ง เก็บเกี่ยวไดหลังจาก หยอดเมลด็ ประมาณ 60 วัน

9 กลมุ พชื ผกั ชนดิ อน่ื ๆ กลมุ ทน่ี า สนใจคอื ชะพลู บัวบก และผักหวานบาน สําหรับชะพลุใช ก่ิงยาว 25 ซม. ริดใบออกเหลอื ใบยอดสดุ ไว 1-2 ใบ ฝง กง่ิ ตามแนวนอนใหส ว นยอดโผลพ น ดนิ ประมาณ 10 ซม. กง่ิ จะออกเปน รากและตน ภายใน 1 เดอื น ระยะตน 30 ซม. ระยะแถว 50 ซม. สามารถเก็บใบรับประทานไดต ลอดทง้ั ปค วรปลกู ในพน้ื ทท่ี ม่ี รี ม เงามากๆ ในใบบวั บกใชตน ขนาดเลก็ ทม่ี ี รากเพียงเลก็ นอย ปลกู โดยฝง สว นโคนตน ลกึ จากผวิ ดนิ ประมาณ 15 ซม. ใชร ะยะปลกู ตน ตอ แถว ประมาณ 20 ซม. ภายใน 1 เดอื น บัวบกจะเจริญชนกันเก็บเกี่ยวไดเมื่ออายุ 1-2 เดอื นขน้ึ ไป สวน ผักหวานบาน เดด็ ยอดยาวประมาณ 12-15 ซม. ภายใน 10 วัน จะแตกยอดออ นออกมาใหร บั ประทานไดทั้งป การปลกู อาจใชก่งิ ชาํ หรอื กลา เมลด็ เมอ่ื ตน กลา มอี ายไุ ด 45-60 วัน ก็ยายไปปลูก พรางแสงไว 10 วัน ตน กลา กจ็ ะตง้ั ตวั ได หรอื ขาดขดุ ดนิ ตามแนวรว้ั หยอดเมลด็ หรอื ปก ชาํ กง่ิ ลงบน แปลงแลวรดนา้ํ ตา เมลด็ ผกั หวานจะงอกไปเรอ่ื ย ๆ ใชเ วลา 2-3 เดอื นจงึ งอกหมด