Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อบายมุข 6 หนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็ก

อบายมุข 6 หนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็ก

Description: อบายมุข 6 หนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็ก

Search

Read the Text Version

“´Áè× ¹Óé àÁÒ, à·ÕèÂÇ¡ÅÒ§¤¹× , à·ÂèÕ Ç´¡Ù ÒÃàÅ‹¹, ͺÒÂÁ¢Ø ö ˹§Ñ ÊÍ× Ê͹¾Ãо·Ø ¸ÈÒʹÒá¡‹à´¡ç àÅ‹¹¡Òþ¹Ñ¹, ¤º¤¹ªÇèÑ à»¹š ÁµÔ Ã, ÃͧÍÓÁÒµÂà Í¡ ¾ÅÍŒ  ¾Ã»ÃªÕ Ò áµ§‹ ໚¹¤¹à¡ÂÕ ¨¤ÃŒÒ¹ ·Ò§àËŋҹéըйÓä»ÊÙ‹ ¤ÇÒÁ©ºÔ ËÒÂàÊÂÕ ¤¹ ¶ÒŒ ã¤Ãà´¹Ô Ëŧà¢ÒŒ ä» ¼ÙŒËÇѧ¤ÇÒÁ梯 ¤ÇÒÁà¨ÃÞÔ ã¹ÀÒÂ˹Ҍ áÅÐ㹡ÒÃàÅÂéÕ §ªÕÇµÔ ÂÍ‹ ÁµŒÍ§¾ÂÒÂÒÁ ËÅ¡Õ àÅèÕ§·Ò§ªÇÑè ·é§Ñ ö ¹ãÕé ËäŒ ¡Åáʹä¡Å·àÕ ´ÕÂÇ” ”

ͺÒÂÁ¢Ø ö ˹§Ñ ÊÍ× Ê͹¾Ãоط¸ÈÒʹÒá¡‹à´ç¡ ÃͧÍÓÁÒµÂà Í¡ ¾ÅŒÍ ¾Ã»ÃªÕ Ò áµ§‹ ä´ÃŒ Ѻ¾ÃÐÃÒª·Ò¹ÃÒ§ÇÑŪé¹Ñ ·èÕ ñ 㹡ÒûÃСǴ»ÃШӻ‚¾·Ø ¸ÈÑ¡ÃÒª òô÷õ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหพิมพพ ระราชทาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๘





อบายมุข ๖ หนงั สอื สอนพระพุทธศาสนาแก่เดก็ รองอำ�มาตยเ์ อก พลอ้ ย พรปรีชา แตง่ ไดร้ ับพระราชทานรางวัลช้นั ท่ี ๑ ในการประกวดประจำ�พุทธศกั ราช ๒๔๗๕

“...คนเราโดยส่วนใหญ่ มักจะยกย่องชื่นชมผู้มีความรู้ดี มีการศึกษาสงู เพราะเป็นท่ที ราบกันอย่วู า่ การจะเล่าเรยี นให้ส�ำ เรจ็ ถึงระดับสูงน้ัน มิใช่ส่ิงท่ีกระทำ�ได้ง่ายนัก ด้วยเหตุนี้ คนทั่วไป จึงนิยมยกย่องผู้สำ�เร็จการศึกษาเป็นบัณฑิต และขณะเดียวกันก็ มุ่งหวังว่าบัณฑิตแต่ละคน จะสามารถสร้างสรรค์ความดีความเจริญ ให้แก่ชาติบ้านเมืองได้ สมกับที่มีความรู้ความสามารถ อันได้ฝึกฝน อบรมมา บณั ฑติ ผมู้ โี อกาสศกึ ษาเลา่ เรียนจนส�ำ เรจ็ จึงควรตระหนกั ถงึ หน้าท่ี ความรบั ผดิ ชอบของตนท่มี ตี ่อประเทศชาติ แลว้ นำ�ความรู้ ที่มีอยู่ไปใช้ประกอบกิจการงาน ให้สำ�เร็จผลเป็นประโยชน์แก่ตน แก่ส่วนรวม พร้อมท้ังพัฒนาตนเองให้มีความรู้สูงขึ้น ลึกซ้ึงขึ้น กว้างไกลยิ่งขึ้นอยู่เสมอ ข้อสำ�คัญ ทุกคนจะต้องควบคุมระมัดระวัง 2

ความคิดจิตใจ และความประพฤตปิ ฏิบตั ิ ให้ตง้ั มน่ั อยใู่ นความสุจรติ เป็นธรรม จะได้ไม่นำ�ความรู้ไปใช้ ในทางท่ีเป็นโทษเสียหาย หรือ เอารัดเอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น อันเป็นการบ่อนทำ�ลาย ส่วนรวม และชาติบ้านเมือง หากบัณฑิตนำ�สิ่งท่ีพูดนี้ไปพิจารณาและยึดถือ ปฏิบัติด้วยความต้ังใจ ก็เช่ือว่าแต่ละคนจะสามารถสร้างสรรค์ ประโยชน์และความเจริญมั่นคงให้แก่ประเทศชาติได้ สมเกียรติ สมฐานะของบณั ฑติ ผู้ควรแกก่ ารยกยอ่ งนบั ถอื อยา่ งแท้จริง… พระราโชวาท สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบตั ร แก่ผู้ส�ำ เร็จการศกึ ษาจากมหาวิทยาลยั รามคำ�แหง ประจำ�ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๖ -๒๕๕๗ ณ อาคารหอประชุมพอ่ ขุนรามค�ำ แหงมหาราช มหาวทิ ยาลยั รามคำ�แหง วันจนั ทร์ ที่ ๒ มนี าคม ๒๕๕๘

4

คำ�นำ� สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระ- ราชประสงค์ที่จะให้เด็กไทยสนใจศึกษาพระพุทธศาสนาให้มากขึ้น จึงมีพระราชบัญชาให้คัดเลือกหนังสือที่ชนะการประกวดหนังสือ สอนพระพทุ ธศาสนาแก่เด็ก ทพ่ี ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั รชั กาล ท่ี ๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พิมพ์พระราชทานในงาน พระราชพิธีวิสาขบูชา นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๗๑ มาจัด พิมพใ์ หม่ เพื่อพระราชทานใหแ้ กโ่ รงเรยี นและหอ้ งสมดุ ตา่ ง ๆ ส�ำ นักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรม- ราชกุมารี ได้คัดเลือกหนังสือ เรื่อง อบายมุข ๖ ซึ่งแต่งโดย รองอำ�มาตย์เอก พล้อย พรปรีดา มาจัดพิมพ์ใหม่ ได้ปรับปรุง รูปแบบ ทำ�เชิงอรรถการสะกดคำ� และมีภาพประกอบ เพื่อให้ น่าสนใจและเหมาะแก่เด็กและเยาวชนมากย่ิงข้ึน ส่วนเนื้อหาสาระ คงไว้ตามตน้ ฉบบั เดมิ หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ ว่าหนังสอื นจี้ ะเปน็ ประโยชน์ตอ่ เด็ก เยาวชน และผู้สนใจท่ัวไป สมพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตน- ราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี สำ�นักงานโครงการ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี พทุ ธศักราช ๒๕๕๘ 5

6

ส า ร บั ญ จดหมายฉะบับท่ี ๑ เริ่มเรอ่ื งอบายมุข ๙ จดหมายฉะบบั ท่ี ๒ ว่าด้วยโทษการดมื่ นำ้�เมา ๑๗ จดหมายฉะบบั ที่ ๓ ว่าด้วยโทษเทย่ี วกลางคนื ๒๗ จดหมายฉะบับท่ี ๔ ว่าดว้ ยโทษเที่ยวดูการเล่น ๓๕ จดหมายฉะบบั ที่ ๕ ว่าดว้ ยโทษเล่นการพะนนั ๔๑ จดหมายฉะบับท่ี ๖ วา่ ดว้ ยโทษคบคนช่วั เปน็ มิตร ๔๗ จดหมายฉะบบั ท่ี ๗ วา่ ด้วยโทษการเกียจครา้ น ๕๙ 7



หนงั สอื สอนพระพุทธศาสนาแกเ่ ดก็ เรือ่ ง อบายมขุ ๖ เขียนจดหมาย ถึงลูกดีกว่า ส�ำเนาจดหมายท้ังหมดต่อไปนี้ เป็นส�ำเนาจดหมายที่ หลวงบ�ำรุงสิขกิจ เขียนถึงเด็กชายองอาจ ย่ิงยศ บุตร ผู้ก�ำลัง ศกึ ษาวิชชา๑อยู่ ณ โรงเรยี นวชั รากร กรุงเทพ ฯ (ส�ำเนาจดหมายฉะบับ๒ที่ ๑) วนั ที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ เจา้ องอาจ ลกู รกั จดหมายฉะบับสุดท้ายของเจ้า พ่อได้รับแล้ว รู้สึกว่าเจ้า ออกจะเดิร๓ตามสมัยและตามพวกเพ่ือนมากกว่าเม่ือครั้งเจ้ายัง เรียนหนังสืออยู่ท่ีโรงเรียนประจ�ำจังหวัดน้ี เจ้าเขียนจดหมายมา ๑ วชิ า 9 ๒ ฉบับ ๓ เดนิ

ถึงพ่อ ถามว่าพ่อจะให้อะไรแก่เจา้ เป็นของขวัญในวันเกิดของเจา้ ซง่ึ จะเวยี นมาบรรจบรอบเปน็ วนั เกดิ ปที ่ี ๑๒ ในวนั ที่ ๑๕ สงิ หาคม น้ี เจ้าเล่าว่าพวกเพ่ือนของเจ้าในโรงเรียนวัชรากรน้ัน มักจะได้ ของขวญั ซงึ่ บดิ ามารดา หรอื ผปู้ กครองสง่ ไปใหเ้ สมอในเมอ่ื ถงึ รอบ วนั เกดิ เจา้ จงึ หวงั จะไดจ้ ากพอ่ บา้ ง ครง้ั นเี้ ปน็ ครง้ั แรกทเ่ี จา้ ไดจ้ าก พอ่ แม่ และญาตพิ น่ี อ้ งไป เพอื่ ศกึ ษาหาวชิ ชาความรใู้ นกรงุ เทพ ฯ พ่อเห็นใจว่าเจ้าออกจะว้าเหว่มาก และเพราะเหตุน้ัน พ่อจึงไม่ อยากให้เจ้าผิดหวังในส่ิงที่เจ้าหวังจะได้จากพ่อ พ่อมาใคร่ครวญ ดวู า่ ควรจะใหอ้ ะไรเปน็ ของขวญั แก่เจา้ ดที ่ีสดุ ในวนั เกดิ จงึ บงั เกดิ ความคิดว่า ของขวญั ที่พ่อจะใหเ้ จ้าครั้งน้ีซ่งึ เปน็ ครัง้ แรก ควรจะ เปน็ สง่ิ ทม่ี ปี ระโยชนม์ ากทสี่ ดุ มคี า่ ไมฉ่ ะเพาะ๔แกแ่ ตต่ วั เจา้ ยงั ตอ้ ง ให้มีค่าแก่ผู้ที่ได้พบได้เห็นอีก นิสสัย๕เจ้าไม่ใช่เป็นคนใจแคบ พอ่ รดู้ ี และเมื่อเจา้ ไดร้ ับของขวัญอนั มีคา่ เช่นน้ี เจ้าคงอดท่ีจะให้ เพือ่ นฝูงไดร้ ไู้ ด้เห็น และไดท้ �ำประโยชนจ์ ากของขวัญนั้นไมไ่ ด้. คนทีเ่ กิดมาในโลก ใชไ้ ปเถอะลกู มีการเลีย้ งชวี ติ มเี งนิ ใช้ สบายจงั เลย ไมเ่ หมือนกนั บางคนเกิด ในตระกลู ม่งั คงั่ ไมเ่ คยรู้จกั ความยาก ล�ำบากเลยตั้งแตเ่ กดิ มา ๔ เฉพาะ ๕ นิสยั 10

แต่เมื่อเติบโตข้ึนและถึงคราวที่จะเล้ียงชีวิตด้วยตนเอง เข้าสิ ก็หารู้หลักหรือวิธีที่สมควรไม่ ทรัพย์ที่ได้เป็นมรดกก็ ศูนย์ส้ิน๖ไป ตนเองก็ส้ินเนื้อประดาตัว ถึงแม้จะไม่ส้ินเน้ือ ประดาตัวเพราะมีงานการท�ำเป็นอาชีพอยู่ก็ดี หากไม่รู้หลัก หรือวิธีท่ีจะเลี้ยงชีวิตอย่างถูกต้องหรือสมควรแล้ว ก็ไม่มี หนทางทจ่ี ะเจริญไปได้ มีแต่หนทางต่�ำหรือเลวลงทกุ เมื่อ บางคนเกดิ มา พอ่ ครบั ดีแล้วลูก ในตระกูลยากจน ตังค์ที่พ่อให้ รจู้ กั ใช้ หรอื พอมพี อกนิ ยงั เหลอื นะครบั อยา่ งประหยดั ต้องประสพ ความยากแคน้ มาบา้ ง ถงึ คราวเติบโต และจะเล้ียงชวี ิตต่อไป ก็ใช้ความระมัดระวัง ค้นคว้าหาหลักที่จะยึดมนั่ เพ่ือเป็นทางปฏบิ ตั ิตนให้ประสพ ความสขุ ส�ำราญแกต่ นและแก่ครอบครวั ได้ เช่นนี้ เจ้าคงลงความเห็นเหมือนกับพ่อว่า คนเกิดมา ในตระกูลมั่งมี แต่ต้องสิ้นเน้ือประดาตัว หรือมีความเป็นอยู่ เสื่อมทรามลงกว่าเดิมนั้น สู้ผู้ที่ยากจนหรือพอมีพอกิน แต่ได้ พยายามกอบกฐู้ านะตนใหด้ ขี น้ึ นน้ั ไมไ่ ด้ ทเี่ กดิ มคี วามแตกตา่ งกนั เช่นนี้ ก็เพราะคนท่ีเกิดในตระกูลมั่งค่ังน้ัน ละเลยไม่ปฏิบัติตาม ๖ สญู สิน้ 11

วิธีหรือหลักท่ีสมควรหรือที่ถูกต้องเสีย ส่วนผู้ท่ีเกิดมาในตระกูล ยากจนหรอื พอมพี อกนิ ความจ�ำเปน็ ยอ่ มบงั คบั อยู่ จงึ ระมดั ระวงั ตน คอยบังคับตนให้เลี้ยงชีวิตไปตามวิธีหรือหลักอันถูกต้องอยู่เสมอ ความสุขส�ำราญจึงบังเกิดแก่ตนและแก่ครอบครัว ฐานะก็พลอย ดขี ึ้น แตว่ ธิ ีหรอื หลักอนั ถกู ตอ้ งท่ีควรปฏบิ ตั นิ น้ั คอื อะไร ? เจา้ คง นกึ ถามพอ่ อยู่แลว้ ในใจขณะน้ี. พ่อได้พูดมาแล้วถึงเร่ืองการเล้ียงชีวิต เพ่ือช้ีให้เจ้าเห็น ว่าการเลี้ยงชีวิตนั้นจ�ำเป็นต้องมีหลักมีวิธี จึงจะมีผลดี ไม่ใช่ท�ำ กนั สง่ ๆ ไป พอ่ จงึ คิดวา่ ในคราวเลอื ก พ่อตอบจดหมาย มาแลว้ ดใี จจงั ของขวัญใหเ้ จา้ ในวันเกิดครั้งนี้ อะไรคงไมม่ ีค่าดีกว่า มปี ระโยชน์กวา่ มอบหลกั หรือวิธกี าร เลี้ยงชวี ติ ใหแ้ ก่เจ้าเปน็ ของขวัญ พ่อเชื่อว่าเจ้าคงฉลาดพอท่ีจะเล็งเห็นว่าหลักหรือวิธีการ เลี้ยงชีวิตที่พ่อจะมอบให้เจ้าน้ี มีค่ามากกว่านาฬิกาเรือนทอง เส้ือแพร หมวกขนสัตว์ หรือรองเท้าห้างแบดแมนท่ีเจ้าว่า เพอื่ นเจา้ บางคนไดร้ บั เปน็ ของขวญั วนั เกดิ เจา้ อาจเหน็ พอ่ เปน็ คน คร่�ำเครอะ๗ก็ได้ท่ีน�ำหลักเกณฑ์เช่นน้ีมาเป็นของขวัญให้แก่เจ้า ๗ คร่�ำครึ 12

แทนสิ่งของท่ีพ่ออ้างมาแล้วน้ัน พ่อเห็นว่าของเหล่าน้ันเป็นส่ิง ไมถ่ าวรยง่ั ยนื , มแี ตจ่ ะเกา่ ขาดช�ำรดุ ไปดว้ ยความสกึ หรอใชส้ รอย๘ แต่หลกั หรอื วธิ เี ลี้ยงชีวิตนเี้ ป็นของถาวรยั่งยนื ไม่เกา่ หรือช�ำรดุ ได้ เหมือนนาฬิกาหรือเสื้อแพร. นอกจากนี้ยังจะมีประโยชน์แก่ พวกเพ่ือน ๆ ของเจ้าอีก ถ้าเจ้าได้ชวนให้อ่านหลักเกณฑ์น้ีด้วย. หลกั นเ้ี ปน็ หลกั ทพี่ อ่ ไดป้ ฏบิ ตั มิ าแลว้ บงั เกดิ ผล คอื ฐานะและความ เปน็ อย่ขู องเรา ดงั ท่ีเจา้ เหน็ อยู่น้แี หละ. หลกั นีพ้ อ่ ไม่ได้ พระพทุ ธเจ้า เป็นผ้ตู ้นคดิ ขึน้ เอง ทรงสอนใหเ้ รา เว้นจากทางแหง่ แตเ่ ป็นหลัก ความเสอ่ื ม ซง่ึ พระพทุ ธเจ้า ทรงเทศน์ส่งั สอน ค�ำสงั่ สอน ของพระพุทธเจา้ เราเรยี กวา่ พระธรรม พระสงฆเ์ ป็นผู้จดจ�ำพระธรรม ของพระพทุ ธเจ้ามาส่งั สอนเราอีกชัน้ หน่งึ หลกั เล้ียงชวี ิตที่พอ่ พดู ถึงน้ี ก็เปน็ ส่วนหนึง่ อยใู่ นพระธรรม ค�ำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าน่ันเอง ในการที่พ่อน�ำหลักเล้ียงชีวิต อนั เปน็ สว่ นหนงึ่ ของค�ำสง่ั สอนของพระพทุ ธเจา้ มามอบใหเ้ จา้ เปน็ ของขวัญวันเกดิ นั้น เช่ือว่าเจา้ คงพอใจมาก. ๘ ใชส้ อย 13

แต่ว่าหลักเล้ียงชีวิตเพื่อท�ำชีวิตให้ประสพความสุขส�ำราญ และความเจริญน้ีย่อมมีอยู่มากมายหลายข้อ พ่อจึงจะคัดเอาแต่ บางส่วนท่ีจ�ำเป็นที่สุดมาบรรยายให้เจ้าฟังเสียก่อน ทางหาเล้ียง ชวี ิตของบุคคลท้ังหลายนนั้ มีอยู่ ๒ ทาง คือ ทางดี และทางชั่ว เจ้าคงคิดเห็นละว่า สมบัติแต่การเลือกทางหาเลี้ยงชีวิต ๒ ทาง เทา่ นจี้ ะมอี ะไรยากมากมายนกั เลา่ กเ็ ลอื กเสยี ในทางทด่ี กี แ็ ลว้ กนั ถ้าเจา้ เขา้ ใจเชน่ นัน้ เจ้าก็เข้าใจผดิ มากทเี ดยี ว ตามธรรมดาน้นั ทางชัว่ ยอ่ มเปน็ ทาง ที่มใิ ครเ่ หน็ หรอื เข้าใจได้ในชน้ั ตน้ ต่อเมื่อได้เดิรหลง เข้าไปเสยี ไกลแลว้ สิ จงึ จะรู้สกึ ตน หากเป็นผู้ที่มีใจยั้งคิด กล้าแข็ง และอดทนก็พอจะ กลบั หลงั หันเดิรออกจาก ทางชัว่ มาเข้า ทางดไี ด้ ถา้ มิฉะน้ันแล้ว ก็เสียคนป่นปี้ไปเท่านั้นเอง พ่อไม่อยากจะให้เจ้าต้องเส่ียงโชค ในการเดริ ทาง ๒ แยกน้ี แต่อยากจะใหเ้ จ้ารู้จักทางทเี่ จ้าตอ้ งเดิร เสียแต่แรก ทางนั้นคือทางที่ดี พ่อได้พูดมาแล้วว่าทางชั่วเป็น ทางที่เห็นหรือเข้าใจได้ยาก พ่อจึงตกลงจะบรรยายทางชั่วน้ี ให้เจ้าเข้าใจแจ่มแจ้ง เป็นการเปิดนัยน์ตาของเจ้าให้แลเห็นทาง 14

ชัว่ ได้ถนัดเพื่อเจ้าจะได้ไม่พลัดหลงเดิรเขา้ ไป และจะไดเ้ ดริ ไปแต่ ในทางทดี่ ดี ว้ ยความมนั่ ใจวา่ เปน็ ทางที่ถกู แล้ว. ทางชวั่ นพี้ ระพทุ ธเจา้ ทา่ นตง้ั ชอ่ื ไวว้ า่ “อบายมขุ ” ปทานกุ รม ของกระทรวงธรรมการ ให้ค�ำแปลไว้ว่า “เหตุเคร่ืองฉิบหาย” กล่าวคือ ต้นเหตุที่จะน�ำไปสู่ความฉิบหาย ค�ำ “ฉิบหาย” ปทานกุ รมฉะบบั เดียวกนั นั้น ใหค้ �ำแปลไวว้ ่า “ศูนยห์ มด, หมด, เสยี หมด, ป่นปี”้ เม่อื รวมความจะไดค้ �ำแปลวา่ ตน้ เหตุอนั จะน�ำ ไปสคู่ วามปน่ ป้ีเสยี หายหมดนัน่ เอง. “อบายมุข” หรือต้นเหตุอันจะน�ำไปสู่ความป่นปี้เสียหาย หมดนี้ พระพุทธเจ้าท่านจ�ำแนกไว้เป็น ๖ ประการด้วยกัน คือ ๑.ดม่ื นำ�้ เมา๒.เทย่ี วกลางคนื ๓.เทยี่ วดกู ารเลน่ ๔.เลน่ การพะนนั ๙ ๕. คบคนชว่ั เป็นมติ ร ๖. เกียจครา้ นท�ำการงาน บดั นพ้ี อ่ ไดช้ แ้ี จงใหเ้ จา้ เหน็ ทางชวั่ พอเปน็ เคา้ ๆ ไวแ้ ลว้ เปน็ การให้เจ้าเห็นทางที่เจ้าควรระมัดระวังไว้ก่อน พ่อหวังใจว่า เม่ือเจ้าได้รับจดหมายฉะบับน้ี เจ้าจะปลาบปลื้มยิ่งกว่าได้รับ ของขวญั ใด ๆ ทง้ั สน้ิ ในจดหมายตอ่ จากนพี้ อ่ จะไดบ้ รรยายชที้ าง อบายมุขใหเ้ จ้าเห็นชดั เจนเปน็ ทาง ๆ ไป. จากพอ่ ทห่ี วงั ดีตอ่ เจา้ บ�ำรงุ ๙ พนนั 15

คำ�ถามประจ�ำ บท ๑. คนมั่งมี ต้องสิ้นเนอื้ ประดาตัว เพราะอะไร ? ๒. ๓. คนจนจะประสพ ทางที่ชวี ติ จะต้อง ความสขุ ส�ำ ราญ ด�ำ เนริ ไปมีก่ที าง ? ไดอ้ ย่างไร ? ๔. ๕ ทางชั่วพระพทุ ธเจา้ ทางชว่ั นัน้ แบง่ ออกเปน็ กอี่ ยา่ ง ? ให้ชื่อวา่ อะไร ? 16

(ส�ำเนาจดหมายฉะบับที่ ๒) เอาใหส้ นกุ เลยเพ่ือน ดืม่ ๆ วันท่ี ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ เจ้าองอาจ ลูกรัก พ่อได้รับจดหมายตอบจากเจ้าแล้ว เจ้าว่าเจ้าปลาบปล้ืม มากในของขวัญที่พ่อส่งไปนั้น พ่อได้ทราบเช่นน้ีก็ให้รู้สึกยินดี เสยี จรงิ ๆ ทพ่ี ่อได้พดู ถึงทางอบายมุขในจดหมายฉะบบั ก่อนน้ัน เท่ากับพอ่ ไดเ้ ปดิ ทางชัว่ ทค่ี วรระวงั หลกี เลี่ยงใหเ้ จ้าแลเห็นราง ๆ ยังไม่สู้ชัดเจนดี บัดนี้พ่อจะได้เปิดทางช่ัวทางที่ ๑ ให้เจ้าเห็น โดยแจ่มแจ้ง เพ่ือเจ้าจะได้ไม่เข้าใจผิดคิดเห็นว่าเป็นทางดี และ เดิรหลงเข้าไป อบายมขุ หรอื “ตน้ เหตุอันจะน�ำไปสู่ความป่นป้”ี ทางท่ี ๑ นี้ คอื ดมื่ น้�ำเมา 17

พ่อตอ้ งบอกให้เจ้าทราบเสยี ก่อนวา่ นำ้� เมา นั้นคอื อะไร ? น�้ำเมาได้แก่น้�ำท่ีดื่มเข้าไปแล้วมีอาการมึนเมาบังเกิดแก่ผู้ดื่ม มี ๒ อยา่ งคอื ทก่ี ลนั่ ใหม้ รี สแรงแลว้ เรยี กตามภาษาบาลวี า่ สรุ า และ ที่ยังมิได้กล่ันให้มีรสรุนแรงข้ึนนั้น เรียกว่าเมรัย เช่นจ�ำพวก อุ, กะแช่และน�ำ้ ตาลเมาตา่ ง ๆ เป็นต้น การดม่ื นำ้� เมา พระพทุ ธองคท์ า่ นจ�ำแนกโทษไว้ ๖ สถาน คอื ๑. เสียทรัพย์ ในชั้นนี้พ่อจะอธิบายให้เจ้าเห็นเสียก่อนว่า ทรพั ย์คืออะไร ทรพั ย์นนั้ คือสิ่งทเ่ี ป็นอปุ การะเกอ้ื กูลแกค่ วามสขุ ความส�ำราญของเราแบ่งได้ ๒ อยา่ งคือโภคทรัพยแ์ ละธนทรพั ย์ โภคทรัพย์ได้แก่ ส่ิงของเครื่องใช้, เครื่องนุ่งห่มและบ้านเรือน ธนทรัพยน์ ั้นคอื เงนิ ตราทรี่ ฐั บาลออกให้เราใชน้ ้แี หละ ทรพั ยน์ นั้ เกิดเองไมไ่ ด้ เปรย้ี วปาก เราตอ้ งเสาะแสวงมา เหลือเกนิ ตอ้ งเอาสกั หนอ่ ย จงึ ควรจะใช้แต่ในสง่ิ ทเ่ี ป็นประโยชน์ แก่ความสุขส�ำราญ การใชท้ รัพยเ์ พอื่ ซ้อื น�ำ้ เมาดม่ื น้ันไมเ่ รยี กว่า เปน็ สง่ิ ท่ีสมควร เพราะนำ้� เมามโี ทษมาก ดังที่พอ่ จะอธบิ ายในข้อ ๒ จนถึงข้อ ๖ ตอ่ ไป 18

เย็นนสี้ งั สรรค์ การด่ืมนำ้� เมา กันหน่อยนะ คนโดยมาก ที่ไม่เห็นโทษ นยิ มวา่ ดี เช่นอา้ งว่า เป็นการชกั จงู คน ให้รจู้ ักคบคา้ สมาคมกัน, หรอื เปน็ การแสดงนำ้� ใจโอบออ้ มอารี หรอื วา่ แมเ้ หนด็ เหนอ่ื ย หรอื มที กุ ขร์ อ้ นไดด้ มื่ สรุ า ความทกุ ขร์ อ้ นหรอื เหนด็ เหนอ่ื ยกห็ ายไป ใครเห็นอยา่ งน้ี เปน็ ผทู้ ี่เขา้ ใจผิด ได้ชื่อวา่ ก�ำลงั จะเดริ หลงเข้าไป ในทางชัว่ อยแู่ ลว้ การชกั จูงใหร้ ูจ้ กั ออกกำ� ลงั กาย คบคา้ สมาคมกันนั้น กันดีกวา่ ไมจ่ �ำเปน็ ต้องใช้สุรา หรอื ของเมาเป็นส่งิ ช่วย จะเปน็ การเลน่ กฬิ า๑๐ การวสิ าสะอยา่ งอ่นื กใ็ ชไ้ ด้ การแสดงน้�ำใจโอบอ้อมอารีก็ดี ไม่จ�ำเป็นต้องถึงซื้อสุรา เลี้ยงดูกันเลย จะแสดงด้วยการให้สิ่งของ หรือเล้ียงอาหารก็คง สมประสงค์เช่นเดียวกันน่ันเอง การดับทุกข์ร้อนควรใช้วิธีอ่ืน เช่นไปเล่นกิฬา ไปคุยพูดจาเสียกับญาติมิตร ไปเที่ยวหย่อนใจ หรือตากอากาศ ดูภูมิประเทศต่างจังหวัดเสียก็จะเหือดหาย ๑๐ กฬี า 19

คลายลงได้ ไม่จ�ำต้องดืม่ สุราเลย สุราเมรยั เป็นของมึนเมา ท�ำให้ ผู้ดื่มติด เมื่อติดแล้วก็ต้องด่ืมเสมอ และแม้ไม่ได้ดื่มเม่ือใด ก็กระวนกระวายใจไม่เป็นสุข จ�ำต้องจ่ายทรัพย์ซ้ือหามาด่ืมให้ จนได้ เม่ือธนทรัพย์ คือเงินหมดแล้ว ก็จะต้องใช้โภคทรัพย์ คอื สิง่ ของเคร่ืองใชบ้ า้ นเรอื น ไปขายหรอื จ�ำน�ำเสยี เพ่ือให้ไดเ้ งิน มาซอ้ื สุราด่มื จนได้ เมื่อถึงข้ันน้กี ็แปลวา่ ผนู้ ้ันมีนามว่านกั เลงสรุ า แลว้ นบั วา่ ไม่เปน็ นามอันมสี วสั ดิมงคลแก่ตัวเลย เจ้าอาจจะสงสัยว่าถ้าเรามิต้องใช้ทรัพย์ซื้อหามาด่ืมแล้ว การดื่มสุราหรือของเมามิไม่มีโทษหรือ หาเป็นเช่นน้ันไม่ เจ้าจง คอยฟังโทษการด่ืมน�้ำเมาในประเภทที่ ๒ ต่อไป, คือ ก่อการ ทะเลาะวิวาท ด้วยสุราท�ำให้ผู้ด่ืมเสียสติด้วยอาการมึนเมา ไม่รู้ จักผิดและชอบ ขาดความอดกลั้น มีอาการหุนหันไม่ยับยั้งใจ เปน็ ทีต่ ง้ั แหง่ ความประมาท กลายนสิ สัยเปน็ คนหาเรอื่ ง แมต้ าม ธรรมดาคนเรา เอ็งวา่ ขา้ เหรอ เออสิ เมื่อถูกยว่ั ข้าไม่กลัว หรอก กย็ ่อมมีเวลา ที่จะสะกดกลั้น ความโกรธเคอื ง ไวไ้ มใ่ ครไ่ ด้ เรยี กวา่ ลอุ �ำนาจความโกรธ เม่อื ด่มื สรุ าเขา้ ไปก็จะย่ิงซ�้ำร้ายใหญ่ 20

ใครพดู กระทบกระทง่ั กเ็ ทา่ กบั แหยใ่ หโ้ กรธเคอื ง ไมส่ ามารถ ยับยัง้ ได้ อนั เปน็ ต้นเหตุแห่งการทะเลาะวิวาท นอกจากนี้ตัวผูด้ มื่ สุราเอง เพราะเหตทุ ่ไี ม่รู้จักผดิ และชอบ นั้น ก็จะย่ัวเย้าหรือพูดเสียดสีให้ผู้อื่นมีโทษะ๑๑โกรธเคืองได้ เช่นเดยี วกัน เม่อื ฝ่ายไม่เมาระงบั โทษะไว้มิได้ การทะเลาะวิวาท ก็ย่อมจะต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ต่อจากนี้อาจถูกต�ำรวจจับกุม หรือเกิดบาดเจ็บเป็นอันตราย หรือถึงกับเสียชีวิตล้มตายกันข้ึน ก็ได้ เปน็ การให้ทกุ ข์ถงึ ลูกเมยี หรอื บิดามารดาตอ่ ไปอกี ประการท่ี ๓ ไม่รู้จักละอาย ฤทธ์ิสุราท�ำให้กลายเป็นคน หน้าดา้ นไมเ่ กลียดกลัวความชั่ว แมไ้ มถ่ ึงกบั ทะเลาะวิวาทกบั ใคร ก็อาจท�ำการท่ีนา่ อดสไู ด้ เช่นนอนกลิง้ เกลือก กลางถนน กล่าวถ้อยค�ำ เอาตามสบาย หยาบลามก เลยพ่ี อันผู้ดเี ขาไมพ่ ดู กนั บางทจี ะถึง เปลือ้ งผ้านุ่งห่ม หรือท�ำอ่นื ๆ ทีน่ า่ อายอีกกไ็ ด้ การทนี่ ่าละอายอดสูเหล่าน้ี ถ้ามิได้ด่ืมสรุ าเข้าไปแลว้ กไ็ ม่มี ใครอาจท�ำได้เลย ๑๑ โทสะ 21

ประการที่ ๔ ถูกตเิ ตยี น เมือ่ ใครริดื่มสุราแล้ว โดยมากยอ่ ม หนีการถกู ติเตียนไมพ่ ้น เลยท�ำใหเ้ สียความเคารพนับถอื เสียชื่อ เสยี งและความรกั ใคร่ เพราะสรุ าท�ำใหก้ ลายเปน็ คนเทย่ี วหาเรอื่ ง ทะเลาะวิวาท และเป็นคนบาปหยาบช้าปราศจากความละอาย อดสนู นั้ กเ็ มอ่ื เปน็ เชน่ นสี้ มมตุ วิ า่ เจา้ เปน็ นายบงั คบั บญั ชาคนขเี้ มา อยา่ งนนั้ เจา้ จะรกั ใครช่ อบพอและไวว้ างใจหรอื ? เจา้ ยอ่ มรกั ใคร่ ชอบพอหรอื ไว้วางใจไม่ได้อย่เู อง อกี ประการหน่งึ ข้ีเมาแบบนี้ สมมตุ วิ า่ เจ้ามี เสยี การเสยี งานหมด นายบงั คบั บัญชา เปน็ คนข้ีเมาหย�ำเป เจา้ ก็คงไมเ่ คารพ นับถอื เปน็ แน่ ตรงขา้ มเจ้ากลบั เลย จะดหู มน่ิ เอาเสยี ด้วยซ�ำ้ ไป คนชะนิด๑๒นั้นจะติดต่อคบหากับผู้ที่สุภาพแล้วย่อมเป็น ท่ีรังเกียจ ถูกติเตียนและไม่ไว้วางใจว่าน่าจะคบค้าเป็นเพ่ือนได้ เพราะรู้ไม่ได้ว่าเขาจะไปเมามาเม่ือไร และพาให้ผู้ที่เป็นเพ่ือน พลอยขายหน้าหรือล�ำบากไปด้วย เพราะความหน้าด้านหยาบ ลามก หรอื การหาเรอ่ื งของเขา ๑๒ ชนิด 22

คุณเป็นโรค ห๊า..! ตบั แขง็ นะ อะไรนะคณุ หมอ ประการที่ ๕ เกิดโรค เจ้าเคยเห็นนักเลงสุราที่มีร่างกาย บริบูรณ์ ปราศจากโรคภัยบ้างหรือ ? จะหาได้สักหนึ่งในร้อยก็ ยากเต็มที สุราน้ันปรุงข้ึนด้วยแอลกอฮอล์เป็นส่วนใหญ่ และ แอลกอฮอล์นี้เองท่ีมีโทษอย่างร้ายแรงแก่ร่างกายมนุษย์ ยิ่งผู้ท่ี รา่ งกายมโี รคอ่ืนแทรกแซงเปน็ ประจ�ำอย่แู ล้ว การด่มื สรุ ากเ็ ทา่ กับไปยุใหโ้ รคนน้ั ๆ ทวขี ้นึ หรอื อย่างนอ้ ย ก็ท�ำให้ยากท่ีจะบ�ำบัดรักษาให้หายขาดได้ กลายเป็นคนขี้โรค มีร่างกายซูบผอมผิดทรวดทรง ต้องเสียทรัพย์ในการหาหมอ หรือซ้ือยามารักษามากข้ึน และถ้าร่างกายทรุดโทรมมากจนถึง กับไปท�ำงานเลี้ยงชีพไม่ได้แล้วก็ยิ่งซ�้ำร้ายใหญ่ กลายเป็นโทษ ถึงครอบครัวจะต้องล�ำบากไปด้วย 23

ประการท่ี ๖ ทอนก�ำลังปัญญา ในข้อน้ีพอ่ ต้องอธิบายให้ เจ้าทราบเสยี ก่อน ว่าก�ำลงั ปัญญาน้นั เกดิ ได้อย่างไร ก�ำลงั ปัญญา เกิดได้ ๓ ทาง คอื ๑ เกดิ จากการสดับ ตรับฟัง เล่าเรียนความร้คู วามคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ ซง่ึ จะน�ำมาเปน็ เครื่องเทียบเคยี งให้เหน็ ผลดีและผลชัว่ ๒ เกดิ จากการไตร่ตรองใครค่ รวญหาเหตุผล ๓ เกดิ จากการอบรมตน กระท�ำตนใหม้ ปี ญั ญาขนึ้ ฉลาดขนึ้ และช�ำนาญข้ึนในกจิ อยา่ งใดอย่างหนงึ่ โดยฉะเพาะ ชะนิดน้ตี ้อง ใชเ้ วลาอบรมฝกึ ฝนมาเป็นล�ำดบั ทลี ะเล็กละนอ้ ยเรื่อยไป พ่อได้กล่าวแล้วว่าการดื่มสุราน้ันท�ำให้ผู้ดื่มมึนเมาเสียสติ ก็เมื่อผนู้ ั้นเสยี สติ หรือมึนเมาแลว้ มนึ ๆ งงๆ อยา่ งไรไมร่ ู้ ยอ่ มจะสามารถ สดับ ตรับฟัง เรียน รู้ อะไรไม่ได้ ความคิดใครค่ รวญ เพ่ือไตรต่ รองหาเหตผุ ลก็เสยี ไป การอบรมตนให้มีปัญญาขึ้น ฉลาดขึ้น และช�ำนาญข้ึน ในกิจหน้าท่ีของตนก็ย่อมท�ำไปไม่ส�ำเร็จ เพราะมัวแต่ด่ืมสุรา มนึ เมาอยเู่ สมอ ถ้าเปน็ ข้าราชการ งานการในหนา้ ทก่ี จ็ ะทรามลง ไม่มีเจริญขึ้นคิดอ่านด�ำเนิร๑๓งานไม่เป็นผล ในสุดท้ายก็จะต้อง ถกู ไลอ่ อกเพราะขาดความสามารถเป็นแน่ ๑๓ ด�ำเนนิ 24

รวมท้ังหมดโทษการดื่มน�้ำเมาหรือสุรามี ๖ ประการดังที่ อธิบายมาแล้ว แต่ละอย่างล้วนแต่ร้ายแรงท้ังสิ้น เจ้าจงจ�ำไว้ เมอื่ โตขน้ึ ใครชกั ชวนดม่ื สรุ าเพอื่ สมานความเปน็ เพอื่ นหรอื คบหา กัน เจา้ จงปฏิเสธแล้วแนะน�ำใหใ้ ช้วธิ ีอนื่ เสีย จดหมายฉะบบั นย้ี ดื ยาวพอแลว้ แลว้ พอ่ จะเขยี นอธบิ ายถงึ อบายมุขทางที่ ๒ ตอ่ ไป จากพอ่ ทีห่ วงั จะเห็นเจ้าเป็นคนดใี นภายหน้า บ�ำรุง 25

คำ�ถามประจ�ำ บท ๑. ดื่มนำ้� เมา โดยไมต่ ้องออกเงนิ ซื้อ จะมีโทษหรือไม่ ? ๒. ๓. การชกั จูงให้รจู้ ักกนั น้ัน ใช้ทรัพย์ซอื้ สุราด่มื เป็นการบำ�รุงความสุข ถา้ ไม่ใช้สุรา หรือไม่ เพราะเหตใุ ด ? จะท�ำ อย่างไร ? ๔. ๕. การดมื่ สุรา ท�ำ ไมดม่ื สรุ า ทำ�ใหเ้ ปน็ คนอยา่ งไร ? จึงทอนก�ำ ลงั ปัญญา ? 26

(ส�ำเนาจดหมายฉะบับที่ ๓) พ่อเราตอบ จดหมายแล้ว วนั ที่ ๓ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๗๔ เจ้าองอาจ ลูกรกั พอ่ ยนิ ดีท่ไี ด้ทราบจากเจ้าวา่ จดหมาย ๒ ฉะบบั ทีพ่ อ่ เขียน ถึงเจ้าอธิบายถึงอบายมุข เพ่ือเป็นของขวัญให้เจ้าในวันเกิดนั้น เป็นท่ีพอใจของเพ่ือนฝูงที่เจ้าได้ชวนให้อ่านด้วยเป็นอันมาก น่ัน เป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่จะสมานความเป็นเพ่ือน คือเมื่อฝ่ายใด มอี ะไรดี กแ็ จกจา่ ยใหอ้ กี ฝา่ ยหนง่ึ ไดร้ เู้ หน็ เปน็ การสดบั สตปิ ญั ญา ไวด้ ว้ ย คราวนพี้ อ่ จะอธบิ ายถงึ อบายมขุ ทางที่ ๒ คอื เทยี่ วกลางคนื ต่อไป ท่ีเรียกว่า “เท่ียว” นั้น คือการที่ไปโดยไม่มีความจ�ำเป็น ถา้ เทย่ี วกลางคืนมโี ทษอยู่ ๖ สถาน 27

สถานที่ ๑ คือ ได้ช่ือว่าไม่รักษาตัว จริงอยู่การที่ไปเที่ยว นั้นมีคุณอยู่บ้าง เช่นไปเท่ียวเพ่ือพักผ่อนหย่อนใจจากความ เหน็ดเหน่ือยที่ท�ำการงาน หรือว่าเพ่ือหาความรู้ เช่นไปเที่ยวดู ภูมิประเทศและประเพณีของคนในพื้นเมือง ก็ย่อมมีประโยชน์ แตค่ วรเทีย่ วในเวลากลางวนั การเท่ยี วกลางคนื เก่งนักเหรอ ย่อมมีโทษมาก แนจ่ รงิ เพราะขอ้ ส�ำคญั ตอ่ ยสิ เดก็ ๆ ควรนอน ให้เตม็ ตา ตามธรรมดา สักวันละ ๘ หรือ ๙ ชว่ั โมง เมือ่ เราใช้เวลากลางวันท�ำการเล่าเรยี นเสียแลว้ กลางคนื ก็ ตอ้ งเปน็ เวลานอน ถา้ ยงั ใช้เวลากลางคนื ส�ำหรับเที่ยวเล่นเสียอีก ไปนอนจนดึกจนดื่นก็จะไม่มีเวลาหลับพอกับที่ร่างกายต้องการ เลยท�ำความสมบรู ณแ์ หง่ อนามยั ใหบ้ กพรอ่ ง ความคดิ อา่ นกจ็ ะมนึ ทบึ เชอ่ื มซมึ ๑๔ เปน็ เหตใุ หเ้ ลา่ เรยี นวชิ ชาลา้ หลงั ไมท่ นั เพอ่ื น เพราะ ควรจะใชค้ วามคดิ ตรกึ ตรองบทเรยี นใหเ้ ข้าใจกม็ วั ง่วงงุนเสีย นอกจากนี้ยังมีอันตรายจรอีกมาก ด้วยเวลากลางคืนเป็น เวลาทมี่ ดื ภยั ยอ่ มมอี ยทู่ ว่ั ทกุ แหง่ บรรดาภยั อนั ตรายหรอื เหตรุ า้ ย ตา่ ง ๆ ยอ่ มเกดิ ในเวลาคำ่� คนื ดกึ ดน่ื เปน็ พนื้ ออกไปเทย่ี วกลางคนื ก็เหมือนออกไปหาภัยอันตรายหรือเหตุร้าย และเปิดโอกาสให้ ศัตรูคิดร้ายได้ช่องท�ำร้ายตีรันฟันแทง ถ้าอยู่ในบ้าน บ้านเป็นท่ี ๑๔ เซอื่ งซึม 28

คุ้มครอง ศัตรูจะบุกรุกล่วงล้�ำเข้ามาก็ไม่กล้าท�ำได้ นอกจากน้ัน ถึงแม้ไม่มีศัตรูผู้คิดปองร้าย ก็ยังอาจจะเกิดภัยที่มีผู้ลอบท�ำร้าย ผิดตัว เพราะเวลากลางคืนมืดจ�ำหน้ากันไม่ถนัด เพราะฉะนั้น การออกจากบา้ นไปเทยี่ วเตรใ่ นเวลากลางคนื จงึ ไดช้ อ่ื วา่ ไมร่ กั ษา ตัว ตรงกนั ขา้ ม เปน็ การน�ำตัวเองเขา้ ไปหาเหตรุ า้ ยเสยี ดว้ ยซำ�้ ไป สถานท่ี ๒ ได้ชอื่ ว่าไมร่ กั ษาบุตรและภรรยา ผู้ทีต่ ้องอาศยั พึ่งพาเรา และให้เราเป็นหัวหน้าในบ้านเรือนน้ันก็คือบุตรและ ภรรยาเรานั้นเอง ถึงเจ้าจะยังไม่ถึงเขตต์๑๕มีบุตรและภรรยา เจ้าก็ควรก�ำหนดจดจ�ำไว้เพ่ือเป็นความรู้เม่ือโตข้ึน เม่ือเราอยู่ บา้ นบตุ รและภรรยากม็ คี วามอนุ่ ใจวา่ จะพน้ จากศตั รหู รอื โจรผคู้ ดิ ปองร้าย ผู้ท่ีโกรธเคืองบุตรภรรยาของเรา ย่อมจักคอยหาช่อง โอกาสท�ำรา้ ยเอาในเมอื่ เราผเู้ ปน็ สามแี ละเจา้ บา้ นไมอ่ ยู่ การทเ่ี รา ออกจากบา้ นไปเที่ยวเสยี ในเวลาค่�ำคนื จงึ เท่ากับเปดิ ชอ่ งโอกาส ให้แก่ผูป้ องรา้ ยท�ำร้ายบตุ รและภรรยาได้สะดวกข้ึน นอกจากนี้ การท่เี รา พอ่ แม่ไม่อยู่ ไมอ่ ยบู่ ้าน หนีเท่ยี ว ดกี วา่ บตุ รและภรรยา อาจออกไป เท่ียวเตรบ่ ้าง ตามความคะนองใจ เพราะขาดผู้ปกปกั รักษา ๑๕ เขต 29

ดั่งน้ีก็ย่อมเป็นทางให้เกิดความเสียหายเพ่ิมข้ึนอีก โดย ตนเองท�ำตนใหเ้ ปน็ เยยี่ งอยา่ งแกบ่ ตุ รและภรรยาเสยี เชน่ นนั้ แลว้ จะหันไปบงั คับวา่ กลา่ วบุตรและภรรยาอยา่ งไรได้ ฉะนัน้ จึงได้ชอ่ื วา่ ไมร่ กั ษาบตุ รและภรรยา สถานท่ี ๓ ไดช้ อื่ วา่ ไมร่ กั ษาทรัพย์สมบตั ิ การรกั ษาทรัพย์ สมบัติย่อมนับเป็นหน้าท่ีโดยตรงของเราผู้เป็นเจ้าบ้าน เมื่อเรา ไม่อยู่บ้าน ก็เป็นโอกาสของโจรผู้ร้ายผู้คิดมุ่งจะท�ำการปล้น ขะโมย๑๖ทรัพย์ของเรา บุตรและภรรยาผู้อยู่บ้านย่อมไม่มี ก�ำลังความสามารถท่ีจะทัดทานหรือต่อสู้ผู้ร้ายชะนิดน้ันได้ ทรพั ยส์ มบตั กิ จ็ ะศนู ยห์ าย๑๗ไป ท�ำใหบ้ งั เกดิ ความเสยี ใจภายหลงั โดยใช่เหตุ อีกอย่างหน่ึง ถ้าเกิดไฟไหม้เหลือก�ำลังของบุตร และภรรยาที่จะแก้ไขก็จะเสียทรัพย์ถ้าเราอยู่ก็อาจผ่อนหนัก เปน็ เบาไดบ้ ้าง ในท่ีสุดแม้จะไม่มีอันตราย ทง้ั ในทางไฟไหม้ เสรจ็ เรา และในทางโจรปล้นก็ดี เจ้าของบา้ น ไม่อยู่ ถา้ เราไปเทย่ี วเสีย ในเวลากลางคืน ยังท�ำความหนักอก หนักใจให้แกบ่ ุตร และภรรยาผู้อยบู่ ้าน ท้ังในส่วนตัวและทรัพย์สมบัติ ไม่เป็นอันที่จะหลับนอน ผ่อนอิดโรยทไ่ี ดร้ บั จากกรากกร�ำ๑๘ในเวลากลางวันน้ัน ๑๖ ขโมย ๑๗ สูญหาย ๑๘ ตรากตร�ำ 30

สถานท่ี ๔ เปน็ ทร่ี ะแวงของชนทงั้ หลาย พอ่ ไดก้ ลา่ วมาแลว้ ว่าเวลาค่�ำคืนดึกดื่นนั้นเป็นเวลาที่เหตุร้ายต่าง ๆ มักจะเกิดขึ้น โดยมาก ก็เหตุร้ายต่าง ๆ อาทิเช่นการตีรันฟันแทง การลอบ ท�ำรา้ ย การฉกชิงวง่ิ ราว การปล้นขะโมย การลอบวางเพลงิ ฯลฯ เหล่านี้ คนพาล คนทุจริต คนขี้เมา คนข้ีขะโมยหรือโจรเป็น ผู้ท�ำให้เกดิ ขน้ึ ทง้ั สิน้ คนพาลคนทจุ รติ ทำ� ไมพวกเขา หรอื โจรเหล่านี้ มองเราดว้ ย ไดอ้ าศยั เวลา สายตาแปลกๆ กลางคนื อนั เปน็ เวลา ทม่ี อี ากาศมืด เปน็ เครอ่ื งมือ ชว่ ยในกิจการอนั ลามก ของตนเปน็ ผลส�ำเรจ็ ไปท้งั สิ้น พวกมนั จงึ ออกเทยี่ วเตรใ่ นเวลากลางคนื เพอ่ื หาชอ่ งโอกาส ท่ีจะลอบท�ำร้ายตีรันฟันแทงหรือฉกชิงวิ่งราวปล้นขะโมยในท่ี ต่าง ๆ เราออกเที่ยวในเวลากลางคืนอาจถูกใคร ๆ ที่เขารู้เห็น ระแวงวา่ เราเปน็ คนรา้ ย หรอื เปน็ คนพาลทจุ รติ ไปดว้ ยกไ็ ด้ ในทสี่ ดุ แมพ้ วกคนพาลทจุ รติ เองทไ่ี ดเ้ หน็ เราเทยี่ วเตรใ่ นเวลาเดยี วกบั มนั ก็อาจเข้าใจว่าเราเป็นพวกศัตรูของมัน เป็นเหตุให้เกิดวิวาทบาด ทะเลาะหรือท�ำร้ายกนั ขึน้ ได้ 31

ความทถี่ กู ระแวงวา่ เราเปน็ คนรา้ ยหรอื คนพาลทจุ รติ อาจให้ ผลร้ายแรงมาก ท่านจึงแสดงผลไว้ในโทษสถานท่ี ๕ คือ มกั ถกู ใส่ความ การถกู ใส่ความนั้น อยู่ดี ๆ จะเกิดขนึ้ ไมไ่ ด้ ย่อมต้องเกิด จากมีความระแวงสงสัยมาแตเ่ ดมิ กอ่ น สมมตุ ิวา่ เจา้ เคยเดริ ผา่ นทาง หน้าบ้าน ๆ หน่งึ เนือง ๆ มีคนแจ้งวา่ ผมไม่ไดท้ �ำ ในเวลาดึก ๆ สงสัยคุณเป็น นะครบั ขโมย ผะเอิญ๑๙ต่อมา อีก ๒-๓ วัน บ้านนั้นถกู ขะโมย หรือถกู ทง้ิ ไฟ ใครเลยจะอดไม่สงสัยเจ้าได้ คงคิดวา่ เจ้านแ่ี หละเปน็ คนรา้ ย เพราะเคยเหน็ เดริ ผา่ นทางนนั้ เสมอ ๆ เจ้าก็จะเสียช่ือเสียงโดยการถูกใส่ความเหมาว่าเป็นผู้ร้าย นนั้ สว่ นผรู้ า้ ยจรงิ ๆ นนั้ เมอื่ ความระแวงสงสยั ของคนอน่ื ๆ หรอื เจา้ หนา้ ทมี่ าตกอยแู่ กเ่ จา้ เสยี แลว้ กเ็ ลยมชี อ่ งเลด็ ลอดหนไี ปสบาย มิหน�ำซ้�ำยังก�ำเริบได้ใจที่จะท�ำการทุจริตต่อไปอีกเสมอ การถูก ใส่ความน้ันย่อมยากท่ีจะแก้ตัวให้พ้นจากความผิดหรือความ มัวหมองได้ เพราะฉะน้ันทางที่ดีท่ีสุดก็คืออย่าท�ำตนให้เป็นท่ี ระแวงสงสยั เลยทีเดียว ๑๙ เผอญิ 32

สถานที่ ๖ ไดค้ วามล�ำบากมาก โทษในบทน้ี คอื ผลอนั เนอื่ ง มาจากการถกู ใสค่ วามกบั การไมร่ กั ษาตวั บตุ รและภรรยาและทรพั ย์ สมบัติน้ันเอง การถูกใส่ความย่อมท�ำให้เสียชื่อเสียงเกียรติคุณ ความดีท่ีได้อบรมมา ถึงโดยจะไม่มีหลักฐานปรักปร�ำเด่นชัด ก็ยังมีมูลให้มัวหมองเป็นที่ไม่น่าไว้ใจ ถึงจะน�ำคดีข้ึนฟ้องร้อง ในโรงศาลก็ย่อมเสียเงินเสียทองมาก และอาจไม่ลบล้างความ มัวหมองหรือความระแวงทุจริต ท�ำให้ยากที่จะคบค้าสมาคม กบั ใครหรอื ท�ำงานการอะไรตอ่ ไป ผไู้ มร่ กั ษาตวั ไมร่ กั ษาบตุ รภรรยา และไมร่ กั ษาทรพั ยส์ มบตั นิ นั้ ยอ่ มบงั เกดิ ความรอ้ นใจเมอ่ื ภายหลงั หรือเม่ือตัวเองเจ็บป่วยลงเพราะการเท่ียวเตร่กลางคืน หรือถูก ลอบท�ำรา้ ย กต็ อ้ งล�ำบากไปตงั้ แตต่ อ้ งหาเงนิ มาเปน็ คา่ รกั ษา และ ล�ำบากทจี่ ะท�ำการงานไมไ่ ด้ บตุ รภรรยากล็ �ำบากเพราะขาดความ คมุ้ ครองของเรา เมอ่ื รวมความเสยี หายความยากล�ำบากเหลา่ นเี้ ขา้ ไปได้ การเท่ียวกลางคืน เฮ้อ.. ยอ่ มท�ำให้เสือ่ มเสีย เกอื บซวย ความสขุ ท้ังในตัวเราเอง ตลอดจนครอบครวั ทา่ นจึงนับเป็นอบายมุขอย่างหน่งึ เจา้ จงจดจ�ำไวเ้ พอ่ื เปน็ ทางเลยี้ งชวี ติ ในวนั ขา้ งหนา้ อกี ๒-๓ วัน พอพอ่ ว่างงานพอ่ จะเขียนอธบิ ายต่อไป จากพอ่ ทป่ี ระสงคใ์ ห้เจา้ เดิรทางถกู เสมอ บ�ำรุง 33

คำ�ถามประจ�ำ บท ๑. เพราะเหตใุ ด เด็กจงึ ไม่ควรนอนดกึ ? ๒. ๓. เหตรุ า้ ยมักเกดิ เวลาใด การถูกใส่ความ เกิดจากอะไร และท�ำ ไม และจะเล่ียงไดอ้ ยา่ งไร ? จึงเป็นเชน่ นน้ั ? ๔. ๕. บุตรและภรรยานน้ั เราควรประพฤติ ตั้งให้เราเปน็ อะไร ? อยา่ งไรจงึ จะสม๒๐ ? ๒๐ เหมาะสม 34

(สำ� เนาจดหมายฉะบับท่ี ๔) วันท่ี ๑๓ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๗๔ เจา้ องอาจ ลูกรัก พ่อพ่ึงจะว่างเขียนจดหมายได้วันนี้ พวกเพื่อน ๆ ของเจ้า คอยรุมเร้าถามถึงจดหมายของพ่อมากมายเจียวหรือ๒๑ พ่อยินดี มากท่ีได้ท�ำตนเป็นประโยชน์เลยไปถึงเพื่อนเจ้าด้วย วันน้ีพ่อ จะอธิบายถึงอบายมุขทางท่ี ๓ คือเที่ยวดูมหรศพ คือการเล่น เชน่ ละคอน๒๒และลเิ กเปน็ ตน้ ตอ่ ไป ดกู ารเลน่ นน้ั แมจ้ ะสนกุ สนาน หรอื มิสูม้ ีโทษถา้ หากนาน ๆ ดูครง้ั หนึง่ แตถ่ า้ ดูบ่อยนกั กเ็ กิดโทษ มากตามทีพ่ อ่ เคยสังเกตมา ๒๑ เชียวหรือ ๒๒ ละคร 35

เช่นสถานที่ ๑ ท�ำให้ใจแตก เพราะเกดิ ติดใจดูคร้งั หน่ึงแล้ว อยากดูซ�้ำเปน็ ครั้งที่ ๒ และที่ ๓ ตอ่ ไป ถา้ ย่ิงติดใจ มากขึน้ พร่งุ นี้มีเรียนบ่าย ไปเที่ยวดกี ว่า เพยี งใด กย็ ง่ิ ไปบ่อย มากข้นึ เพียงนัน้ ถึงตอนนี้ ย่อมขน้ึ ช่อื ไดว้ ่า เจา้ ลุม่ หลง ดกู ารเล่น ถงึ ใจแตกแลว้ ย่อมหมดความ สามารถทีจ่ ะยบั ย้งั ใจได้ ถ้าเป็นหญิงสาวก็จะถูกนินทาว่าร้าย หญิงแต่งงานแล้วก็ ย่อมจะเป็นท่ีขุ่นเคืองไม่พอใจของสามี ถ้าเป็นชายผู้เป็นหัวหน้า ครอบครวั ยอ่ มท�ำใหภ้ รรยาคดิ เหน็ ไปวา่ เอาใจออกหากบา้ นเรอื น เท่ียวหาผู้หญิง แม้ต่างลุ่มหลงในการเท่ียวดูการเล่นเสียทั้งสามี และภรรยาแล้ว ก็ย่อมบังเกิดผลร้ายรุนแรงขึ้นอีกเป็นอันมาก ถ้าเป็นนกั เรยี นอยา่ งเจา้ กจ็ ะเสียการเล่าเรยี นเลยสอบไลต่ ก 36

ความลุ่มหลงมัวเมาเท่ียวดูการเล่นจนใจแตกนั้นจึงน�ำให้ เกิดโทษ สถานท่ี ๒ คือเสียทรัพย์ ทรัพย์ที่เราหามาได้น้ัน เรา ต้องเก็บไว้เพ่ือบ�ำรุงความสุขส�ำราญของตัวเองและครอบครัว ในการซื้อหาอาหาร เครื่องนุ่งห่มท่ีจ�ำเป็น หรือเคร่ืองเล่าเรียน ฯลฯ เป็นต้น ไม่ใช่ให้หมดเปลืองไปเพราะความมัวเมาลุ่มหลง ในการเท่ียวดูการเล่น เพราะในการไปเที่ยวดูการเล่นนี้เราต้อง เสียทรพั ย์ คือ มหี า้ งเปิดใหม่ ๑ ซ้ือเคร่ืองแต่งกาย พรงุ่ นีไ้ ปนะ ไดจ้ ๊ะ โออ่ า่ สวยงาม ใหท้ ันเทียม๒๓เพ่ือน และสมัยนยิ ม ๒ ซ้อื อาหารกิน เมือ่ ยามหวิ กระหาย ๓ ซ้ือต๋วั เปน็ คา่ เข้าดู การเล่นอันเราช่นื ชมยนิ ดีน้นั นับว่าทรัพย์หมดเปลืองไปโดยมิได้บ�ำรุงความสุขส�ำราญ ของครอบครวั เลย การเทยี่ วดกู ารเลน่ จงึ เปน็ ทางสนิ้ เปลอื งทรพั ย์ โดยแท้ ไม่มีทางเพิม่ ทรัพยเ์ ลยควรงดเว้นเสยี สถานที่ ๓ เสียเวลา การเท่ียวดูการเล่นพร่�ำเพร่ือน้ัน เปน็ การท�ำใหเ้ วลาในชวี ติ ของเราใหห้ มดเปลอื งไปโดยไรป้ ระโยชน์ คนเราเกิดมาแล้วก็ย่อมต้องมีการงานท�ำ การงานทั้งหลายย่อม ๒๓ ทัดเทยี ม 37

เกี่ยวเนื่องกับเวลา โดยเราต้องเป็นผู้รู้ว่าเวลาใดควรท�ำการงาน ชะนดิ ใด เชน่ เวลากลางวนั ตอ้ งท�ำงาน เวลาเยน็ ตอ้ งเลน่ กฬิ า เวลา กลางคนื ตอ้ งพกั ผอ่ น เชน่ เดยี วกบั ชาวนาตอ้ งรจู้ กั เวลาวา่ หนา้ ฝน ต้องท�ำนา หนา้ แล้งต้องขายเข้า๒๔ ดังน้ีเปน็ ตน้ เมื่อลุ่มหลงมวั เมาแต่ในการเล่น ยอ่ มเปน็ การเสยี เวลา ซงึ่ ควรจะน�ำไปใช้ ท�ำการงานอ่นื ๆ เชน่ เวลาท�ำงาน เอาไปเทีย่ วดู ระบ�ำล�ำตดั เสยี เวลากเ็ สยี ไป สนกุ กนั ให้ โดยไมม่ ปี ระโยชน์ เต็มท่เี ลย พวกเรา และนบั ว่าเสยี มากกว่าอะไร ๆ ท้งั ส้นิ เสยี ทรัพย์สิ่งของ เรายงั อาจมเี วลาหาไดใ้ นวันขา้ งหน้า แต่ เสียเวลาในชวี ิตไปวันหน่ึง ๆ โดยไมไ่ ดท้ �ำการงานอนั มีประโยชน์ เลยนน้ั เป็นการเสยี มากจะเรียกรอ้ งเอาเวลานั้นกลบั คืนมาไม่ได้ อีก เมอ่ื เราไดม้ วั เมาลมุ่ หลงดกู ารเลน่ จนเสยี ทรพั ยแ์ ละเสยี เวลา ดว้ ยแลว้ ก็ย่อมน�ำใหเ้ กดิ โทษสถานที่ ๔ ด้วย คือ เสยี การงาน ๒๔ ข้าว 38

เฮอ้ ..! การงานอยา่ งหน่งึ ง่วงจัง ก็เหมาะกบั เวลาอยา่ งหนง่ึ เมอื่ ใชเ้ วลาอนั ควร ท�ำการงานหาทรัพย์ มาเลีย้ งครอบครวั หรือเวลาอันควรดูแลรักษาทรัพย์สมบัติไปดูการเล่นเสีย การหาทรพั ยห์ รอื การดแู ลรกั ษาครอบครวั กเ็ สยี ไป ตวั อยา่ งงา่ ย ๆ เชน่ ตน้ ๆ ฤดฝู นเปน็ เวลาไถนาและหวา่ นเขา้ ถา้ ชาวนาใชเ้ วลานนั้ มาเท่ียวดูการเล่นในกรุงเทพฯ เสีย การไถนาและหว่านเข้าก็ เสียไป จะผัดเพ้ียนเล่ือนเวลาไปท�ำในขณะฝนชุกหรือน�้ำมาก ก็ย่อมท�ำไม่ได้ กว่าจะไถนาหรือหว่านเข้าได้อีกก็ต้องถึงหน้าฝน ปหี นา้ เป็นการเสยี เวลาไปปีหน่ึงเตม็ ๆ การเสียการงานเชน่ ของ ชาวนาหรอื ของใคร ๆ ก็ดี ย่อมเก่ยี วโยงไปถึงการเสียทรัพย์ด้วย เพราะการงานท่ีท�ำนั้นก็คือเพ่ือให้ได้ทรัพย์มาเลี้ยงครอบครัว นัน่ เอง เม่ือเจ้าทราบถึงโทษการเท่ียวดูการเล่น ๔ สถานนี้แล้ว จงระมดั ระวงั ตนอยา่ ใหล้ มุ่ หลงมวั เมาในการเทย่ี วดกู ารเลน่ ไดเ้ ลย วนั หลังพอ่ จะเขียนมาใหม.่ จากพอ่ ทป่ี ระสงค์ให้เจา้ มีความสุขความเจริญ บ�ำรุง 39

คำ�ถามประจ�ำ บท ๑. การเท่ียวดูการเลน่ เกินสมควรมีโทษ ก่ีสถาน ? ๒. ๓. เวลากับงาน เสยี ทรัพย์สง่ิ ของ เกีย่ วขอ้ งกนั อย่างไร ? กับเสียเวลาน้ี ขา้ งไหนจะนับวา่ เสีย มากกว่ากนั ? ๔. ๕. เสียการงานกระเทือน เทยี่ วดกู ารเล่นนนั้ เสียทรัพยท์ ำ�อะไรบา้ ง ? มาถงึ ครอบครวั ได้อยา่ งไร ? 40

นแี่ ก (สำ� เนาจดหมายฉะบบั ที่ ๕) โกงฉนั เหรอ แกน่ันแหล่ะ ทโ่ี กงฉนั วันท่ี ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๔ เจา้ องอาจ ลกู รัก พ่อได้เปิดนัยน์ตาของเจ้าให้แลเห็นทางอบายมุขมาแล้ว ๓ ทาง ยงั อยู่อกี ๓ ทาง และพ่อจะได้เขยี นบรรยายให้เจา้ ทราบ วันน้ีอีกทางหน่ึง ทางอบายมุขทางท่ี ๔ คือเล่นการพะนันน้ัน พระพุทธเจ้าท่านทรงแสดงโทษไว้ให้เห็น ๖ สถาน คือ ๑ เมื่อ ชะนะ๒๕ยอ่ มกอ่ เวร เพราะธรรมดาการพะนนั นนั้ ยอ่ มมไี ดม้ เี สยี ปน กันไป เป็นการเส่ยี งได้เส่ียงเสียน่ันเอง แต่ผูเ้ ลน่ การพะนนั ทกุ คน อยากได้อย่างเดยี ว ไมม่ ีใครอยากเสีย ๆ เลย จึงเป็นความอยากที่ ฝนื ธรรมดาของการพะนนั อนั จกั เปน็ ไปตามความอยากนนั้ หาได้ ไม่ ถา้ ใครเลน่ การพะนนั ชะนะได้ทรัพย์ น้�ำใจของคนน้ันกฮ็ กึ เหมิ ๒๕ ชนะ 41

ชะล่าใจอยากได้มากข้ึนอีก และชวนใจให้อยากเล่นการพะนัน ตอ่ ไปอกี สว่ นผทู้ เี่ สยี ทรพั ยใ์ นการพะนนั กย็ อ่ มอาฆาฏ๒๖มงุ่ หมาย จะเอาชะนะแก้แคน้ คืนเอาทรัพยท์ เี่ สียไปน้นั กก็ อ่ เป็นเวรกนั ขน้ึ ข้อนี้น�ำเราไปถึง โทษสถานที่ ๒ คือเมื่อแพ้ย่อมเสียดาย ทรัพยท์ ่เี สยี ไป เม่อื เลน่ ไป ๆ เราก็จักมเี วลาเสยี จนทรัพยท์ ีร่ วยมา น้ันหมดไปจนถงึ เขา้ เน้อื ควักเงินทเ่ี ปน็ ต้นทนุ ออกมาเลน่ ใช่แต่เท่านนั้ เอาตงั ค์ กแ็ กเล่นแพ้ เมอ่ื ต้นทนุ เสียไป ฉนั คนื มานะ เองนี่ กจ็ กั เกิดอาฆาฏ พยายามเลน่ แกต้ วั เลน่ ไปก็ย่งิ ขาดทนุ ไปเสียไป เป็นเหตุให้ถงึ หมกมุ่น ในการพะนัน เลน่ การพะนันไมม่ เี วลาหยุด จนถึง โทษสถานที่ ๓ คือทรัพย์ย่อมฉิบหาย เม่ือบังเกิด ความหมกมนุ่ ในการพะนนั แลว้ ยอ่ มสนิ้ อยากทจ่ี ะท�ำการงานใด ๆ ท้ังส้ิน เงินทองก็จะร่อยหรอหมดเปลืองไปโดยรวดเร็ว และ เงนิ เดอื นหรอื ผลประโยชนท์ จ่ี ะไดม้ ากจากการงานนน้ั เปน็ อนั หวงั ไม่ได้ เพราะไม่ได้ใช้เวลาไปท�ำการงานนั้นเสียแล้ว ในที่สุดเม่ือ ไม่มีตัวเงินเล่นการพะนันเพ่ือแก้ตัวเอาเงินที่เสียไปคืน ก็จะต้อง ๒๖ อาฆาต 42

ขายสิ่งของเครื่องใช้ เคร่ืองแต่งตัวตลอดจนบ้านเรือนและท่ีดิน เพ่ือเอาเงินไปเล่นการพะนันเป็นการท�ำให้ธนทรัพย์คือเงินทอง และโภคทรัพย์คือส่ิงของบ้านเรือนศูนย์หายป่นปี้ไปหมด ท�ำให้ เกดิ ความเศร้าเสยี ใจแกต่ นเอง และครอบครวั มิใช่นอ้ ยเลย โทษสถานที่ ๔ คือไม่มีใครเชื่อถือถ้อยค�ำ ตามธรรมดา ผู้ท่ีได้นามว่านักเลงการพะนันย่อมเป็นผู้ไม่ประจ�ำท�ำการงาน หรืออาชีพเล้ียงตนอย่างใด อาศัยเล้ียงชีพอยู่โดยเงินท่ีได้จาก การพะนนั น่นั เอง คนจ�ำพวกน้ี ย่อมไม่มที รพั ย์ จะเอาไปเล่น การพนนั ละซิ และบ้านเรือนอาศยั เปน็ หลักแหลง่ ท่พี อจะจ�ำน�ำ หรือขายได้ ถงึ คราวเลน่ ได้โปรดเถอะ การพะนันเสีย ขอยมื เงินซอ้ื ข้าว กนิ สกั พัน ก็มกั จะใช้วาจา ของตนเองเขา้ ชว่ ย คือเที่ยวปลิ้นปล้อนหรือหยิบยืมเงินตามเพ่ือนฝูงญาติมิตร โดยใชอ้ บุ ายหลอกลวงตา่ งๆ นาๆ๒๗ สกั แตว่ า่ ใหไ้ ดเ้ งนิ มาเปน็ ใชไ้ ด้ ฉะนั้น ผู้ที่ริเป็นผู้เล่นการพะนันแม้จะยังไม่ถึงกับส้ินเนื้อ ประดาตวั ทเี ดยี ว ถงึ เวลาจะพดู จากบั ใครถงึ เรอ่ื งใด ๆ กด็ ี ยอ่ มไมม่ ี ๒๗ ตา่ งๆ นานา 43

ใครกล้าเช่ือถือถ้อยค�ำ ด้วยเกรงจะเป็นเล่ห์เหลี่ยมหาเงินไปเล่น การพะนันเทา่ น้นั ผูท้ ี่จะด�ำรงตนใหเ้ ป็นผมู้ คี นนบั ถือวาจาคือพูด อะไรมีใครเช่อื ถอื ก็จงอยา่ ริเปน็ นกั เลงการพะนันเลย โทษสถานท่ี ๕ คือเป็นที่ดูหมิ่นของเพ่ือนฝูง เมื่อไม่มี ใครเชื่อถือถ้อยค�ำตนเองจะคบค้าสมาคมกับใครต่อไปอีกไม่ได้ พวกเพอื่ นฝูงจะพากันดหู ม่ินดแู คลน ถงึ โดยเราจะเป็น เพยี งนกั เลง รอด้วยสิ เพอ่ื น พะนนั ใหม่ ๆ รีบไปกนั เถอะ ไม่ถงึ กับส้ินเนอื้ เด๋ียวมนั ยืมตงั ค์ ประดาตัวกด็ ี พวกเพ่อื น ๆ ก็จะพากนั ตีตนออกห่าง ไม่กล้าสมาคมดว้ ย กลวั วา่ เราจะปลน้ิ ปลอ้ นหลอกลวงหาเงนิ ไปเลน่ การพะนนั นับว่าเป็นการดูหม่ินมากมาย เราไม่อยากให้เพ่ือนฝูงดูหม่ิน ตราหน้าว่าเป็นนักเลงพะนัน อันย่อมมีนิสสัยปลิ้นปล้อน ตลบแตลง๒๘แล้ว เราก็ต้องไม่เล่นการพะนันเสียทีเดียวแม้แต่ เพยี งเลก็ น้อย ๒๘ ตลบตะแลง 44

ย.้ี .! ไม่เอาหรอก คนเล่นการพนัน แต่งงาน กับพ่เี ถอะนะ ถา้ ชายโสดหรอื หญงิ โสดเปน็ นกั เลงพะนนั แลว้ กย็ อ่ มไดร้ บั โทษสถานท่ี ๖ ด้วย คอื ไมม่ ใี ครประสงค์จะแตง่ งานด้วย เพราะ ขนึ้ ชื่อว่าเปน็ นักเลงพะนันแล้ว คนท้งั หลายยอ่ มทราบกนั วา่ เป็น ผู้มีนิสสัยตลบแตลงปล้ินปล้อนไม่มีใครเช่ือถือถ้อยค�ำและเป็น ผู้ที่รักษาทรัพย์ไว้ไม่ได้ จะพาลูกเมียฉิบหายป่นปี้ไปเพราะ การพะนัน เจ้าจะเป็นคนดีต่อไปในภายหน้าจงงดเว้นการพะนัน เสียให้เด็ดขาด อย่าให้ความอยากพะนันบังเกิดขึ้นในสันดาน ได้เลย วนั หลงั พ่อจะเขียนมาใหม่ จากพ่อทีห่ วังดีตอ่ เจ้า บ�ำรุง 45

คำ�ถามประจ�ำ บท ๑. การพะนนั มโี ทษก่สี ถาน คืออะไรบ้าง ? ๒. ๓. เงนิ ที่ได้มาจากการพะนัน ท�ำ ไม จงึ ไมม่ ีใครเชื่อถอื เปน็ ทรพั ยช์ ะนิดใด ถ้อยค�ำ นักเลงพะนนั ? เพราะเหตุใด ? ๔. ท�ำ ไมจึงไม่มีใคร อยากแต่งงาน กบั นักเลงพะนนั ? 46