Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พังงาแห่งความสุข สุขที่คุณสัมผัสได้

พังงาแห่งความสุข สุขที่คุณสัมผัสได้

Description: พังงาแห่งความสุข สุขที่คุณสัมผัสได้

Search

Read the Text Version

49 กระบวนการเรยี นรผู้ ่านการลงมอื ท�ำ สรา้ งการเปลย่ี นแปลง ให้กบั ทมี งานเป็นอย่างมาก ท้งั การวิธีคดิ วธิ ที �ำ งานใหม่ โดยเฉพาะท่าทกี ารท�ำ งานท่ีไม่น�ำ เดยี่ ว แตอ่ งิ อย่บู นพืน้ ฐาน ของการใหเ้ กยี รติ รบั ฟงั ซ่ึงกันและกัน จนสามารถสรา้ ง การมสี ่วนรว่ มของคนทัง้ จงั หวัด “วธิ กี ารตอ่ สขู้ องภาคประชาชนไมจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งประทว้ งอยา่ งเดยี ว” ไมตรี ตอกย�้ำ แนวคิด กระบวนการเรียนร้ผู า่ นการลงมือทำ� สรา้ งการเปล่ียนแปลงให้กบั ทีมงานเป็นอย่างมาก ท้ังการวิธีคิด วิธีทำ�งานใหม่ โดยเฉพาะท่าทีการ ทำ�งานที่ไม่นำ�เด่ียว แต่อิงอยู่บนพ้ืนฐานของการให้เกียรติ รับฟังซ่ึงกัน และกัน จนสามารถสร้างการมีส่วนร่วมของคนทั้งจังหวัดได้แล้ว เพ่ือ ใหก้ ารท�ำ งานตอบสนองกบั “ยทุ ธศาสตรพ์ งั งาแหง่ ความสขุ ” จงึ มกี ารวาง กลไกการทำ�งานไว้หลวมๆ คือ ทุกคนยังคงเคลื่อนงานในหน้าตักของ ตนเองเหมือนเดิม แต่หากมีสถานการณ์ท่ีไม่ปกติ หรือมีเร่ืองต้องขอ ความรว่ มมอื กนั คนหลายฝา่ ย งานตดิ ขดั มปี ญั หา อยากไดค้ วามรเู้ พม่ิ เตมิ จะใช้ “กลไกจังหวัด” เป็นวงพูดคุยและแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่างกัน ทำ�ใหก้ ารขับเคลอื่ นงานพงั งาแหง่ ความสุขเดินหนา้ ไปด้วยดี

50

51 บทท่ี 2 พงั งาแห่งความสขุ ... สขุ ท่คี ุณสัมผัสได้

52 เม่ือสร้างความเข้าใจระหว่างกันของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนได้ในระดับหนึ่ง คณะทำ�งานไดต้ งั้ หลกั การทำ�งานใหม่ เน้นขับเคลอ่ื นงาน ใน 2 ประเดน็ คอื 1.รอ้ื ฟน้ื สภาพลเมอื งทซี่ บเซาใหก้ ลบั มา เป็นหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถ่ินอีกครั้ง 2. โครงการพังงาแหง่ ความสขุ เหตุผลที่ต้องการร้ือฟ้ืนสภาพลเมืองท่ีซบเซาให้ กลับมาเป็นหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นอีกครั้ง เน่ืองจากคณะทำ�งานต่างคนต่างขับเคล่ือนงานของตนเอง จึงต้องต้ังเป้าหมายเช่ือมกระบวนการขับเคล่ือนระหว่าง ภาครฐั ภาคเอกชน และภาคประชาชน ใหเ้ ขม้ ขน้ มากขนึ้ ผ่านเวทีสภาพลเมือง ท่ีแม้รูปแบบของการทำ�งานจะ ไมเ่ ปลยี่ นไปจากเดมิ คอื คนท�ำ งานแตล่ ะประเดน็ กท็ �ำ งาน ของตนต่อไป แต่เพิ่มการรับรู้และการทำ�งานหนุนเสริม ระหว่างกันมากข้ึน อีกท้ังยังต้องจดทะเบียนเป็นสมาคม เพ่ือที่จะได้เป็นนิติบุคคลท่ีสามารถรับงบประมาณจาก หนว่ ยงานได้ “รูปแบบของงานของเราไม่ได้เปล่ียน สิ่งที่เปลี่ยนคือ ทมี ท�ำ งานทเี่ ขา้ มาหนนุ เสรมิ การท�ำ งานทฟี่ งั กนั มากขน้ึ ใครที่ ท�ำ งานรว่ มกับราชการไมไ่ ด้ ก็ตอ้ งปรับตวั เอง เพอื่ ให้ท�ำ งาน ร่วมกันคนอน่ื ได”้ ประยรู เล่า

53 ชาตรี บอกว่า ปัจจัยสำ�คัญที่ทำ�ให้ทีมงานกว่า 40 คนยังเกาะเกี่ยว ความสัมพันธ์กันได้อย่างเหนียวแน่น เป็นเพราะเราไม่มีการแข่งขัน ไม่มี การโหวต มีแต่ความร่วมมือ ใครมีศักยภาพความสามารถด้านไหน ก็รับ หน้าท่ีน้ันไป ใช้วธิ นี �ำ เสนอแลว้ ยกมอื รับรองใหเ้ ปน็ มติ เป็นการสร้างทมี ด้วยใจที่ทุกคนยอมรับในความสามารถของกันและกัน เมื่อรู้ว่าไปได้ก็ เดินต่อ หากถึงทางตันก็รู้จักถอย ใหค้ นอนื่ เข้ามาชว่ ยเหลอื การทท่ี กุ คนรวมใจกนั ไดเ้ ชน่ นี้ เพราะตา่ งรวู้ า่ สงิ่ ทท่ี �ำ ไมใ่ ชป่ ระโยชน์ ของตวั เอง แตเ่ ปน็ เรอื่ งของทกุ คน การมอี ดุ มการณท์ จี่ ะท�ำ งานเพอ่ื สงั คม จึงสามารถก้าวข้ามความเป็นตัวตน และผลประโยชน์ไปได้ การทำ�งาน ยังได้เกี่ยวร้อยความสัมพันธ์ให้ห่วงหาอาทรกันเหมือนพ่ีน้อง และ ให้เกยี รติกัน ความเปน็ ทีมจงึ มีความเหนียวแน่นมัน่ คงเปน็ พ้นื ฐาน เป้าหมายใหญ่ของการขับเคล่ือนงานคือ การสร้างความมั่นคงใน ท่ีอยู่อาศัย และความม่ันคงในทรัพยากรของคนพังงา เพราะนี่คือรากฐาน ของชีวิต ท่ีคณะทำ�งานมองว่า หากคนไม่มีความม่ันคงในท่ีอยู่อาศัยและ ปัจจัยการผลิต คงไม่สามารถดำ�รงชีวิตได้อย่างมีความสุข ดังนั้นเป้าหมาย การพฒั นาจงั หวดั พงั งาใหเ้ ปน็ หนงึ่ ในเขตพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วอนั ดามนั จงึ เปน็ สิ่งที่น่าหว่ันใจ เพราะว่า หากเน้นส่งเสริมอาชีพด้านการท่องเท่ียวเป็นหลัก ในทุกพื้นท่ีในจังหวัด คนที่อยู่ในฐานการผลิตด้านเกษตรแบบเดิมท่ีเป็นคน ส่วนใหญ่คงไม่ได้รับอานิสงส์อะไรจากการพัฒนาเช่นน้ี ซำ้�ร้ายกลับกลาย เปน็ การแยง่ ชงิ ทรพั ยากรจากมอื ของเกษตรกร ทแ่ี ปรสภาพเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว หรอื ตอบสนองการท่องเทยี่ วท่อี ยู่ในมือของนายทนุ รายใหญเ่ ท่านนั้ สว่ นการขบั เคลื่อนพังงาแหง่ ความสขุ ได้รบั งบประมาณจาก สสส. เพ่ือนำ�มาสร้างรูปธรรมของความสุขในรูปแบบต่างๆ และโครงการผู้นำ� แห่งอนาคตที่มีการเติมเต็มความรเู้ รือ่ ง SE (Social Entrepreneur) หรือ ผู้ประกอบการทางสังคม ซึ่งเป็นแนวทางสร้างความย่ังยืนขององค์กร ผา่ นเวทพี ฒั นาศกั ยภาพเครอื ขา่ ยดว้ ย “เครอื่ งมอื ” สนบั สนนุ ความยงั่ ยนื

54 การขับเคล่ือนทางสังคม เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะ 3 ด้าน คือ 1. การสร้างกลยุทธ์ในการขับเคลอ่ื นสังคม (Strategy for Change Workshop) 2. การคิดและวางแผนการเงนิ แบบผปู้ ระกอบการสังคม (Finance Matter for Social Entrepreneurs) และ 3. การจดั การและพัฒนาทีมในช่วงเปลีย่ นผ่าน (Preparing Team for Transition) ไมตรี บอกว่า เวทีน้ีทำ�ให้เรารู้ว่า งานที่พวกเราทำ�กันมานานกว่า 10 ปี ไมไ่ ดม้ แี คค่ ณุ คา่ อยา่ งเดยี ว แตย่ งั มศี กั ดศิ รี และมลู คา่ ดว้ ย ทผ่ี า่ นมา เราไมเ่ คยหยบิ คณุ คา่ มาแปรเป็นมลู ค่าไดเ้ ลย “เม่ือก่อนภูมิใจมากท่ีมีคนมาดูงานของเรา ท้ังๆ ที่เราต้องเสียเวลา เสยี คน มาคอยดแู ลตอ้ นรบั คา่ วทิ ยากร คา่ ดงู านกไ็ มไ่ ด้ ไดแ้ คน่ าฬกิ า ดอกไม้ เปน็ ของตอบแทน แถมบางครง้ั ยงั ตอ้ งเสยี เงนิ เลย้ี งน�ำ้ เลย้ี งอาหาร ตอ้ งบรรยาย ใหฟ้ งั อกี เราท�ำ งานสงั่ สมประสบการณม์ าเปน็ 10 ปี แตส่ ดุ ทา้ ยเรามาถา่ ยทอด ความร้ใู ห้คนอ่ืนฟรๆี พอเข้าหลักสตู รของผนู้ ำ�แห่งอนาคตก็คิดไดว้ า่ เราตอ้ ง สร้างมูลค่าให้กับงานของเราให้ได้ แม้วันน้ีเราอาจจะยังคิดได้ไม่เป๊ะ แต่ก็รู้ วิธีคิดวา่ ควรจะเปน็ อยา่ งไร” นอกจากได้วิธีคิดเพ่ิมมูลค่าให้กับงานท่ีทำ�แล้ว การมีโคชที่เป็น Intrapreneurs ทเ่ี ปน็ ภาคธรุ กจิ ลงพนื้ ทตี่ ดิ ตามดแู ลอย่างใกลช้ ดิ เขาจะรเู้ ลยวา่ สง่ิ ไหนควรท�ำ ไมค่ วรท�ำ คมุ้ ทนุ หรอื ไม่ ยง่ิ ท�ำ ใหท้ มี งานเหน็ ภาพการแปรคณุ คา่ เป็นมูลค่าชดั เจนยิง่ ขึน้ “กระบวนการอบรม...ในพน้ื ทท่ี �ำ ใหท้ มี งานสามารถ “หลอมรวมใจ” กนั ได้มากข้ึน จากเม่ือก่อนท่ีร่วมงานกันเสร็จก็กลับบ้านใครบ้านมัน แต่เดี๋ยวนี้ กลายเป็นว่ามีการเจอกันนอกวง หาเวลาคุยกัน คิดอะไรร่วมกันมาก เช่น หอการค้าท่ีเม่ือก่อนเป็นแค่คนรู้จักกัน แต่เดี๋ยวน้ีกลายเป็นเพ่ือน เป็นทีม เดียวกัน เป็นคนหาเงินมาให้พวกเราขับเคลื่อนงาน “พังงาแห่งความสุข” โครงการนี้ทำ�ให้เรารู้จักตัวตนของตัวเองมากขึ้น สามารถจัดระบบความคิด กระบวนการ และงานได้เป็นระบบมากข้นึ นีค่ อื ความเปลี่ยนแปลงทเ่ี กิดขน้ึ ” ไมตรี บอกประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากโครงการผนู้ �ำ แห่งอนาคต

55

56 กระบวนการเรียนรู้ที่ได้รับจาก วนั นก้ี ารทำ�งานจึงพุ่งเปา้ โครงการผู้นำ�แห่งอนาคต ทั้งจากเวที สกู่ ารสรา้ งความเขม้ แขง็ พฒั นาศกั ยภาพเครอื ขา่ ยดว้ ยเครอ่ื งมอื ระดับพน้ื ที่ บนฐานของการ สนับสนุนความยั่งยืนการขับเคลื่อน อาสามาช่วยกนั ทำ�งาน ทางสังคม การโคชของ Intrapreneurs เพราะคณะท�ำ งานแตล่ ะคน รวมไปถงึ การท�ำ วิจัยในพื้นที่ และการ ต่างมีอาชีพหลักท่แี ตกต่าง เตมิ ความรเู้ รอ่ื งทกั ษะการสอ่ื สาร เพอื่ กันไป งานขับเคลอ่ื นพงั งา ให้ทีมงานสามารถสื่อสารคุณค่าของ แห่งความสุขจงึ เป็นงาน การท�ำ งาน (Impact Value) เพอื่ เปน็ อาสาที่ทกุ คนมาช่วยกัน ประโยชน์ต่อการเข้ามาสนับสนุนการ เพราะมีฐานคิดเดยี วกัน ทำ�งาน และให้คนภายนอกได้เรียนรู้ คือ การท�ำ งานเพื่อสังคม การท�ำ งานของพน้ื ที่ ท�ำ ใหท้ มี งานเหน็ “มูลค่า” ของงานท่ีทำ� จนสามารถ ออกแบบกจิ กรรมเรยี นรใู้ หค้ นภายนอก ได้เข้ามาสัมผัสวิถีแห่งความสุขของ คนพังงาในประเดน็ ตา่ งๆ ผ่านกิจกรรม ทอ่ งเทย่ี วทสี่ อดแทรกความรู้ ความเขา้ ใจ ในวิถีท้องถิ่น ทจี่ ะสร้างงาน สร้างอาชีพ และท่ีสำ�คัญคือ สร้างการแลกเปล่ียน เรยี นรรู้ ะหวา่ งคนในกบั คนนอก อนั จะน�ำ ไปสูก่ ารพฒั นาพืน้ ที่อย่างยงั่ ยืน วันนี้การทำ�งานจึงพุ่งเป้าสู่การ สรา้ งความเขม้ แขง็ ระดบั พนื้ ท่ี บนฐาน ของการอาสามาชว่ ยกนั ท�ำ งาน เพราะ คณะทำ�งานแต่ละคนต่างมีอาชีพหลัก ท่ีแตกต่างกันไป งานขับเคล่ือนพังงา แห่งความสุขจึงเป็นงานอาสาท่ีทุกคน

57

58 มาชว่ ยกัน เพราะมฐี านคดิ เดียวกันคือ การท�ำ งานเพอื่ สังคม โดยส่ิงทจี่ ะ ขับเคล่ือนในระยะอันใกล้น้ีคือ การก่อตั้ง “สถาบันการพัฒนาพังงาแห่ง ความสขุ ” ทเ่ี ปดิ โอกาสใหค้ นตา่ งถน่ิ ไดเ้ ขา้ มาใชช้ วี ติ เรยี นรกู้ ระบวนการท�ำ งาน ทางสังคมในด้านต่างๆ เช่น หลักสูตรการจัดการภัยพิบัติ หลักสูตรการดูแล ผู้สูงอายุ หลักสูตรการจัดการขยะ หลักสูตรการจัดสวัสดิการชุมชน ฯลฯ เป็นการท่องเที่ยวเชิงการศึกษาพร้อมกับการเสพความสุขท่ีอบอวลไปด้วย บรรยากาศของพงั งาแหง่ ความสขุ อกี ดา้ นหนง่ึ คอื การผลกั ดนั ใหแ้ ผนพฒั นา จงั หวดั ซง่ึ เปน็ แผนงานทคี่ นพงั งารว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละเสนอความตอ้ งการ ของตนสกู่ ารก�ำ หนดทศิ ทางการพฒั นาบา้ นเมอื งทตี่ นรกั ไมใ่ ชแ่ ผนงานที่ คิดจากข้าราชการท่ีทำ�งานสนองตอบนโยบายที่ถูกกำ�หนดมาจากบุคคล ภายนอก

59 ร่วมนำ� ร่วมท�ำ ด้วยใจเดียวกนั “พังงาแห่งความสุขจะเป็นเส้นทางของความสุขได้ คณะทำ�งานต้อง ท�ำ งานอยา่ งมคี วามสุขกอ่ น” คอื ค�ำ พูดท่ยี ืนยันหลักการทำ�งานของทมี ทีร่ วมตวั กันบนฐานของการ ท�ำ งานอาสาเพอ่ื สงั คม ฐานคดิ ของการท�ำ งานทห่ี ลอมรวมผคู้ นทม่ี คี วามแตกตา่ ง หลากหลาย ไมใ่ ชก่ ลเมด็ ทีเ่ ปน็ ความลบั แต่เป็นเร่ืองง่ายๆ ท่ที �ำ ยาก หากไมม่ ี วฒุ ภิ าวะมากพอ นน่ั คอื “การใหเ้ กยี รตกิ นั และรบั ฟงั ซง่ึ กนั และกนั ” ทส่ี ะทอ้ น ไดจ้ ากวถิ ีปฏิบตั ทิ ี่ตา่ งยอมรับในความสามารถของตนเองและผอู้ น่ื ยอมถอย เมอ่ื มอื ไมถ่ งึ อาสาเมอื่ มคี วามสามารถพอ ยอมปรบั เปลยี่ นจดุ ออ่ นของตนเอง เพ่ือใหง้ านสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างราบร่นื บทบาทของการน�ำ การตาม จงึ สลบั สบั เปลย่ี น ได้อย่างมีพลวัตร การเคล่ือนงานไม่ใช่บทบาทการ นำ�เด่ียวของใครคนใดคนหน่ึง แต่เป็นการร่วมกัน พินิจพิเคราะห์ ร่วมกันวางจังหวะของการก้าวย่าง มีฝ่ายบู๊เม่ือต้องเคล่อื นงานร้อน งานนโยบาย มฝี ่ายบุ๋น เมื่อยามต้องผลักงานเย็น ทุกคนต่างมีภาวะผู้นำ�อยู่ ในตัว พร้อมที่จะรว่ มน�ำ ร่วมท�ำ ร่วมกนั อย่างเป็น ใจเดยี ว เงอ่ื นไขการหนนุ เสรมิ ของหนว่ ยงานองคก์ รตา่ งๆ ท่หี มุนเวียนเขา้ มาให้ความรู้ สร้างประสบการณ์ เรม่ิ ข้นึ ต้ังแต่โครงการ SIF พอช. มูลนิธิชุมชนไท ที่สนับสนุน การทำ�งานของภาคประชาสังคมของพังงามาอย่าง ยาวนาน หรือ LDI และ สกว. ที่เขา้ มาขับเคลอ่ื นงานใน ท้องถิ่นบางช่วง จวบจนโครงการผู้นำ�แห่งอนาคตที่

60 เขา้ มาหนนุ เสริมในปัจจุบนั ตา่ งเติมเตม็ ประสบการณ์ ตดิ ตั้ง แนวคิด วิธกี ารทำ�งานใหค้ ณะท�ำ งานได้เรยี นรูอ้ ย่ตู ลอดเวลา ไมตรี สะท้อนว่า ความเปล่ียนแปลงท่ีชัดเจนคือ วิธีคิด วิธีทำ�งาน ที่เปล่ียนมาเป็นรับฟังเพื่อนร่วมงาน มากขึ้น จากเมื่อกอ่ นทีส่ ่ังให้ทำ� 1 2 3 4 แตต่ อนนี้เปลยี่ น บทบาทใหม่ เปิดโอกาสให้เพ่ือนได้พูด ส่วนตัวเองเป็น คนสรุปงาน ให้ความสำ�คัญกับกระบวนการพัฒนาคน และระบบความสัมพันธ์มากกว่าผลลัพธ์ของงาน เพราะ รู้แล้วว่าถ้าหลอมรวมใจกันไม่ได้ การทำ�งานจะไม่ยั่งยืน จงึ น�ำ กระบวนการพดู คยุ จากโครงการผนู้ �ำ แหง่ อนาคตมา ใช้พัฒนาผ้นู �ำ แถว 1 แถว 2 “สง่ิ ทก่ี ระตุกคิดผมมากท่ีสุดคอื ค�ำ ถามจากการอบรม ในโครงการผู้นำ�แห่งอนาคตเรื่องความย่ังยืนขององค์กร ท่ีมากกว่าการรอรับการสนับสนุนงบประมาณ หรือทุนจาก หน่วยงานองคก์ รต่างๆ แต่คณะท�ำ งานต้องรู้จักวธิ ีการระดม ทุนในพื้นท่ีมาสร้างให้เกิดทั้งคุณค่าและมูลค่าท่ีจะเป็น ประโยชน์แก่ท้องถ่ิน ดังเช่นที่คณะทำ�งานกำ�ลังผลักดันการ สร้างสถาบันการพัฒนาพังงาแห่งความสุขอยู่ในขณะน้ี โดย ปนี ีจ้ ะท�ำ น�ำ ร่อง 5 พนื้ ท่ีก่อน แต่ตั้งเปา้ ไว้วา่ จะท�ำ 10 พน้ื ที่ เปน็ อยา่ งต�่ำ ใครอยากเรยี นรเู้ รอ่ื งไหนกไ็ ปพนื้ ทนี่ นั้ ” ไมตรี เลา่ เร่ืองราวเหล่าน้ีคือ ตัวอย่างรูปธรรมความสำ�เร็จ ของการผลักดันแนวคิด “พังงาแห่งความสุข สุขที่คุณ สมั ผสั ได้”

61 ฐานคิดของการท�ำ งานทหี่ ลอมรวมผคู้ นที่มีความแตกตา่ ง หลากหลาย ไม่ใชก่ ลเมด็ ที่เปน็ ความลับ แตเ่ ป็นเรื่องง่ายๆ ที่ ท�ำ ยาก หากไมม่ ีวุฒภิ าวะมากพอ นน่ั คอื “การใหเ้ กยี รติกนั และรบั ฟังซึง่ กนั และกนั ” ที่สะทอ้ นไดจ้ ากวถิ ปี ฏิบตั ิทตี่ ่าง ยอมรบั ในความสามารถของตนเองและผอู้ ่นื ยอมถอยเม่ือ มอื ไม่ถงึ อาสาเมอ่ื มีความสามารถพอ ยอมปรับเปลี่ยน จดุ อ่อนของตนเองเพื่อใหง้ านสามารถขบั เคลื่อนไปขา้ งหน้า ได้อย่างราบรื่น

62 การจดั การพิบตั ิภยั ท่ีบา้ นน�้ำ เคม็ การผ่านประสบการณ์ร้ายในชีวิต โดยรอดตายจากพิบัติภัยสึนามิใน ชว่ งปลายปี พ.ศ. 2547 คอื จดุ เปลย่ี นครง้ั ใหญข่ องชมุ ชนชายฝงั่ ต�ำ บลบางมว่ ง อ�ำ เภอตะก่ัวปา่ จงั หวดั พังงา ทีป่ ระกอบดว้ ย 8 หมูบ่ ้าน ซึ่งบางหมบู่ ้านเปน็ ทรี่ าบตดิ ชายฝงั่ และบางหมบู่ า้ นเปน็ ทรี่ าบสงู และทร่ี าบตามเชงิ เขา โดยมพี นื้ ท่ี ทั้งหมด 38,750 ไร่ มีประชากร 10,119 คน หรอื 5,371 ครวั เรือน ชาวบา้ น ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำ�มัน สวนผลไม้ และคา้ ขาย ในอดตี ผู้คนจากหลากหลายแห่งนับรวมได้ 51 จงั หวัดไดโ้ ยกยา้ ย เข้ามาหากินที่นี่ เนื่องจากเป็นแหล่งแร่ดีบุกที่มีค่ามหาศาล จึงเป็นส่ิงดึงดูด ให้คนต่างถิ่นเข้ามาลงทุนประกอบอาชีพทำ�เหมืองแร่ แม้ปัจจุบันแร่ดีบุกจะ ลดนอ้ ยลง แตผ่ คู้ นกไ็ ดป้ กั หลกั ตง้ั ถนิ่ ฐานท�ำ มาหากนิ ดว้ ยอาชพี ตา่ งๆ ดงั กลา่ ว ข้างต้น2 เหตเุ กิดท่ชี มุ ชนแออัดริมชายฝงั่ บา้ นน�้ำ เค็ม ชมุ ชนชายฝั่งในต�ำ บลบางม่วง คนในชุมชนมีท้ังคนพื้นถิ่น คอื ชาวเล หรอื ชาวมอแกลน และคนตา่ งถน่ิ ทเ่ี ขา้ มาตงั้ ถนิ่ ฐานในยคุ ตนื่ แรด่ บี กุ และอาศัยอยู่ต่อเนื่องมาเร่ือยๆ เปล่ียนอาชีพจากการหาแร่ดีบุกเป็นการทำ� ประมง ชมุ ชนมคี วามแออดั แบง่ แยกเปน็ ซอยเลก็ ๆ ตง้ั ชอ่ื ซอยตามชอื่ จงั หวดั ท่ีตนจากมา เป็นชุมชนที่มีความขัดแย้งสูง ท้ังยังมีแรงงานต่างด้าวท่ีเข้ามา อาศัยเป็นประชากรแฝง ในช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์สึนามิประมาณการณ์ว่า มีคนอาศยั อย่ทู ่ีน่ีร่วม 10,000 คน รวมท้ังพมา่ “สภาพพน้ื ทแ่ี ออดั ถนนแคบมาก คนสว่ นใหญต่ า่ งคนตา่ งอยู่ เหน็ แกต่ วั รา้ นคา้ ทข่ี ายของกเ็ อาโตะ๊ เกา้ อมี้ าวางไวห้ นา้ รา้ น กดี ขวางทางจราจร” ประยรู จงไกรจกั ร บรรยายถงึ สภาพชมุ ชนในอดตี 2 www.bangmoung-sao.go.th

63 ต้นปี พ.ศ. 2547 สมาชิกในชุมชนเริ่มได้รับข่าวสาร เร่ืองการเกิดสึนามิในพื้นที่ชายฝั่งอันดามันจากการเปิดเผย ของ ดร. สมิทธ ธรรมสโรช แต่รัฐบาลในยุคนั้นเกรงว่า จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศของการท่องเที่ยว จึงเพิกเฉย แตส่ �ำ หรบั คนทอ่ี าศยั อยใู่ นพน้ื ท่ี นเ่ี ปน็ ขอ้ มลู ทส่ี รา้ งความสนใจ แม้วา่ ไมเ่ คยรจู้ ัก ดร.สมิทธ และไม่เคยรู้จักสนึ ามมิ ากอ่ น แตก่ ค็ ดิ วา่ มคี วามเปน็ ไปได้ เพราะอยใู่ นพน้ื ทเ่ี สยี่ ง สมาชกิ ในชุมชนบางคนจึงเร่ิมหาข้อมูลเก่ียวกับสึนามิและ ผลกระทบทอี่ าจจะเกดิ ขน้ึ และเตรยี มความพรอ้ มดว้ ยการ โยกยา้ ยคนในครอบครวั ไปอาศยั อยนู่ อกพน้ื ทแ่ี ลว้ บางสว่ น “พวกเราอาศยั อยใู่ นพน้ื ทท่ี เ่ี สย่ี งมาก เลยไปหาเชา่ หนงั เก่ยี วกบั สนึ ามิมาดู ปี พ.ศ. 2547 เกอื บทง้ั ปี พอตกกลางคนื ในโซนนี้ ละแวกท่ีมีเรือประมงพื้นบ้านจอดอยู่ เราจะให้เด็ก และผหู้ ญงิ อพยพไปอยบู่ า้ นญาตทิ ่ี ต.เหล อ.กะปง ไปอยทู่ น่ี น่ั นานมาก จนรู้สึกเกรงใจญาติเลยยา้ ยกลับมาอย่ทู ่เี ดมิ แตย่ ัง เชอื่ วา่ จะเกดิ สนึ ามแิ นๆ่ แตไ่ มร่ วู้ า่ จะเกดิ ตอนไหน วนั เกดิ เหตุ มีคนท่ีอยู่ริมทะเลร้องตะโกนว่า มาดูเร็ว ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น น�้ำ ทะเลลดลงเรว็ มาก พช่ี ายคนทต่ี ดิ กบั ผมกว็ ง่ิ ไปดู เพราะเขา ดูหนงั เรอ่ื งสึนามิมา แล้วตะโกนบอกวา่ น่แี หละสึนามิ ไมตรี กับพี่ชายท้ังจงู ทงั้ ลากพอ่ แมห่ นไี ปอยูบ่ ้านพส่ี าวบนท่ีสงู ” แมจ้ ะมคี นตะโกนใหห้ นี แตบ่ างคนกย็ งั ไมเ่ ชอ่ื ญาตมิ ติ ร ทอี่ ยภู่ เู กต็ โทรศพั ทม์ าบอกวา่ เกดิ สนึ ามิ ใหอ้ อกจากฝงั่ ขนึ้ ทส่ี งู กย็ งั ไมย่ อมฟงั คนสว่ นใหญไ่ มเ่ ชอ่ื เพราะไมเ่ คยเหน็ ไมเ่ คยเจอ ยงั ดที เ่ี หตกุ ารณเ์ กดิ ขน้ึ ตอนเชา้ ถา้ เกดิ ชว่ งบา่ ยทม่ี นี กั ทอ่ งเทย่ี ว เต็มชายหาด สถานการณ์คงแย่มากกว่าน้ี แต่กระน้นั สภาพ ความเสยี หายทป่ี รากฏแกส่ ายตา กเ็ กนิ จะเช่อื

64 เราไม่ได้ตายดว้ ยสนึ ามิ แต่เราตายเพราะชมุ ชนไม่มคี วามพร้อม ชมุ ชนเราไมม่ ีความเอ้อื เฟอื้ และตายเพราะเราไม่ไดเ้ รยี นรู้ กอ่ เกิดอาสาสมัครบ้านน้ำ�เค็ม พบิ ตั ภิ ยั ในครง้ั นน้ั ไดก้ อ่ เกดิ อาสาสมคั รเฉพาะกจิ ทส่ี บื ตอ่ การท�ำ งาน มาจนถงึ ปจั จบุ นั นี้ ประกอบด้วย ประยรู จงไกรจกั ร, ศักดา พรรณรงั สี, บนั ลือ ชศู รี, ส�ำ นกึ สขุ เกษม, วันชัย จิตตเ์ จริญ และประธาน ลายลกั ษณ์ ทมี งาน เล่าว่า เม่ือทำ�การเก็บขอ้ มลู ในภายหลงั จึงพบว่า การทค่ี นไม่ สามารถอพยพไดท้ นั เพราะถนนในชมุ ชนแคบ อกี ทงั้ เมื่อต้องการหนี ทกุ คน พยายามขนสมบัติไปด้วย ทำ�ให้มีรถจอดกีดขวางทางสัญจร เม่ือคล่ืนสงบ แตก่ ระแสไฟฟา้ ยงั คงมอี ยู่ ท�ำ ใหม้ คี นเสยี ชวี ติ เพราะไฟฟา้ ดดู บา้ ง กระแทกกบั ซากปรักหักพังบ้าง และบางส่วนก็เสียชีวิตเพราะแผลที่ดูเหมือนจะบาดเจ็บ เลก็ น้อย แตต่ ดิ เชอื้ จึงเสยี ชวี ิตในท่สี ุด

65 ประกอบกับยังไม่มีใครรู้ว่าบ้านนำ้�เค็มโดนสึนามิ ทำ�ให้การช่วยเหลือ มาช้าไป 3 วนั ซง่ึ น่าเสยี ดายมาก เพราะบางศพท่คี น้ พบยงั ตวั อุ่นๆ แสดงว่า เพงิ่ เสียชีวิตไดไ้ ม่นาน การสรปุ บทเรยี นของแกนน�ำ ผู้รอดชีวิตคอื เราไม่ได้ ตายด้วยสึนามิ แต่เราตายเพราะชุมชนไม่มีความพร้อม ชุมชนเราไม่มี ความเอื้อเฟ้ือ และตายเพราะเราไม่ได้เรียนรู้ ตอนที่ ดร.สมิทธเตือน ถา้ รฐั บาลหรือใครใหค้ วามสนใจ เราจะตายนอ้ ยกว่านน้ั จ�ำ นวนผเู้ สยี ชวี ติ ทบ่ี า้ นน�้ำ เคม็ ตามขอ้ มลู ในทะเบยี นราษฎรค์ อื 860 คน แต่คนในพ้ืนท่ีต่างรู้กันดีว่าจำ�นวนผู้เสียชีวิตมีมากกว่าน้ัน ไม่น่าจะน้อยกว่า 1,200 คน เพราะมีคนที่มาอยู่อาศัยและทำ�งานชั่วคราวจำ�นวนมาก รวมท้ัง แรงงานตา่ งชาติ ความโกลาหลหลงั เกดิ สนึ ามิ ท�ำ ใหไ้ มตรี จงไกรจกั ร สมาชกิ อบต. บางมว่ ง ในขณะนน้ั ตอ้ งเขา้ มาเปน็ แกนน�ำ จดั การใหเ้ กดิ ระบบระเบยี นใน ศนู ยพ์ กั พงิ ผปู้ ระสบภยั สนึ ามบิ างมว่ งภายใตก้ ารแนะน�ำ ของมลู นธิ ชิ มุ ชนไท และ พอช. ทท่ี มี งานออกปากวา่ เปน็ มลู นธิ แิ ละองคก์ รทไ่ี มช่ อบเลย เพราะ เขาไม่ได้เข้ามาชว่ ยเหลืออะไรเลย มีแต่จะตัง้ ค�ำ ถาม จดๆๆ แล้วก็บอก ใหท้ �ำ เอง ทีมงานเล่าว่า แม้จะไม่ชอบ แต่ก็ยอมทำ�ตามคำ�แนะนำ� เพราะเห็น ศกั ยภาพของมลู นธิ ชิ มุ ชนไท ทพ่ี อบอกวา่ อยากไดส้ ขุ า กไ็ ดส้ ขุ าพรอ้ มใชภ้ ายใน 1 วัน จงึ คดิ วา่ มลู นิธินี้ตอ้ งไม่ธรรมดาแนๆ่ “สดุ ทา้ ยเราถงึ รวู้ า่ ทเ่ี ขาบอกใหท้ �ำ เอง เพราะเขาตอ้ งการฝกึ ใหเ้ รา เขม้ แขง็ ให้เราอยู่ได”้ ประยรู บอก การรวมตวั กนั สรา้ งสขุ าในครงั้ นน้ั คอื จดุ เรม่ิ ตน้ ทท่ี �ำ ใหท้ มี งานเรมิ่ เรียนรู้การทำ�งานช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเป็นระบบ เริ่มจากการ ประชุมสมาชิก เพื่อร่วมกันออกแบบกฎกติกาในการอยู่ร่วมกันแบบ หมู่ลูกเสือ ทุกคนมีหน้าที่ต้องช่วยเหลืองานส่วนกลาง ทั้งงานรักษา ความปลอดภัย งานครัว งานโกดงั ดูแลของบริจาค งานรบั บรจิ าค ฯลฯ

66 ชว่ ยกนั ดแู ลซ่งึ กนั และกนั และประชมุ กนั ทกุ วนั วันละ 3 เวลา โดยมคี น จากมลู นิธชิ ุมชนไทเปน็ พ่ีเลีย้ ง “มกี ารประชมุ วางแผนวนั ตอ่ วนั วนั ละ 3 รอบ เชา้ กต็ อ้ งมานงั่ คยุ กนั วา่ วันนี้เราจะทำ�อะไร ต้ังหัวข้อ ส่วนใหญ่ตนเองจะเป็นคนเขียนว่า หัวข้อน้ี ใครทำ� ท�ำ อะไร ท�ำ แบบไหน ใช้อะไร พอมาตอนเที่ยงก็นง่ั กินข้าว แลว้ ก็มา สรปุ ปญั หาในชว่ งเชา้ เพอื่ หาทางแกไ้ ขตอ่ ไป พอตอนเยน็ 6 โมงกม็ กี ารประชมุ สรุปงานอกี ที สงิ่ เหล่านค้ี ือการพาคดิ พาทำ� เขาสอนเราโดยทเี่ ราไมร่ ตู้ วั ” ศกั ดา เล่า แม้จะมีการจัดระบบการอยู่ร่วมกันภายในศูนย์พักพิงฯ แต่ก็ปฏิเสธ ไม่ได้ว่า ความวุ่นวายที่เกิดจากความปรารถนาดียังเป็นเร่ืองที่ต้องจัดการ เพราะผบู้ ริจาคคิดวา่ ตอ้ งสง่ ของให้ถงึ มอื ผรู้ บั “เขาหวังดี อยากให้ถึงมือผู้ประสบภัยจริงๆ แต่คนที่ประสบภัยจริงๆ กลบั ไมไ่ ด้รับ เพราะมวั แตเ่ ดนิ หาญาติ กลายเปน็ ว่าคนทไ่ี ปต่อแถวรับบริจาค ไมไ่ ดส้ ญู เสยี มาก ทร่ี า้ ยไปกวา่ นน้ั คอื บางรายบอกวา่ ชาวประมงพนื้ บา้ นทเี่ คย มเี รือ ใครอยากไดเ้ รอื ให้ไปหาเขา จะพาไปซื้อเรือที่กระบี่ พอซือ้ เรอื เสรจ็ ไมร่ ู้ จะเอามาท�ำ อะไร เพราะไมใ่ ชต่ วั จรงิ ขบั เรอื กไ็ มเ่ ปน็ บางคนพาไปซอ้ื มอเตอรไ์ ซค์ หรอื บางคนเอาเงนิ ใสซ่ องมาแลว้ บอกใหเ้ ขา้ แถว โดยไมด่ เู ลยวา่ คนทเี่ ขา้ แถวมี จำ�นวนเทา่ ไหร่ ซองมีเทา่ ไหร่ เชน่ มี 500 ซอง แตค่ นมี 3 พันคน แลว้ คนที่ 501 กบั 502 เขากท็ ะเลาะกนั เปน็ การบริจาคท่ีสรา้ งความแตกแยก กว่าจะ จัดระบบการรับบริจาคได้ยากมาก” ประยูร ร่ายยาวถงึ บทเรียนท่ีไดพ้ บ เมอ่ื เหน็ ปญั หา ทมี งานจงึ จดั ระบบการรบั ของบรจิ าคใหม่ โดยใหบ้ รจิ าค ไวท้ กี่ องกลาง ท�ำ ใหผ้ บู้ รจิ าคบางสว่ นหยดุ บรจิ าค เงนิ กองกลางทไี่ ดร้ บั บรจิ าค เม่ือครบ 14 วัน ได้มา 1 ล้านกว่าบาท แต่พอนำ�ไปจัดสรรปันส่วนจริงๆ ได้เพียงครอบครัวละ 800 บาท ซึ่งไม่พอเพียง จึงต้องออกแบบวิธีการใหม่ ใหผ้ บู้ รจิ าคแจง้ ความจ�ำ นงวา่ จะชว่ ยเหลอื ดา้ นใด และสอบถามผปู้ ระสบภยั วา่ ตอ้ งการความช่วยเหลอื เร่อื งอะไร ปัญหาจงึ เร่ิมคลี่คลาย

67 สะสางท่ีละเรื่อง เรยี นร้ทู ลี่ ะอยา่ ง กระบวนการแก้ปัญหาทางกาย ดำ�เนนิ การคู่ขนานไปกับการแก้ปญั หา ทางใจ ดว้ ยการเปิดโอกาสให้ผปู้ ระสบภัยไดม้ าพดู คุย ปรึกษาหารือกัน ใช้วิถี ของชาวใตท้ ี่นิยมนัง่ รา้ นกาแฟเป็นพ้ืนท่รี วมคน ลงขันกันลงทุนเปดิ ร้านกาแฟ ในศนู ยพ์ กั พงิ ฯ การมรี า้ นกาแฟใหไ้ ดน้ งั่ คยุ ตามวถิ ถี นิ่ กลายเปน็ แหลง่ รวบรวม ความคดิ ความเหน็ ความตอ้ งการของผปู้ ระสบภยั อยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ อกี ทง้ั ยังเป็นท่ีทางให้ระบายความทุกข์ ความกังวลใจของผู้ประสบภัย และขยาย ขอบเขตไปสเู่ รื่องอื่นๆ เชน่ การฝกึ อาชพี ซ่ึงเบือ้ งหลังความคดิ เพือ่ ตอ้ งการ ดแู ลสภาพจติ ใจของผปู้ ระสบภัย ประยูร บอกว่า นอกจากมีร้านกาแฟไว้ระบายทุกข์แลว้ ทีมงานยังหา กจิ กรรมใหท้ ำ� เนน้ ส่งเสรมิ เรื่องอาชพี ทไ่ี มไ่ ดค้ าดหวังวา่ ผู้ประสบภัยจะทำ�ได้ ขอแค่ช่วยคลายทุกข์ ให้สมองเขาออกห่างจากเรื่องญาติพี่น้องท่ีเสียชีวิต ไดพ้ ูดคยุ แลกเปลย่ี นกับคนอนื่ บา้ งเทา่ น้ัน

68 เพราะคนบ้านน�้ำ เคม็ ส่วนใหญ่ท�ำ อาชีพประมง เม่อื ตอ้ งมาอยใู่ นศูนย์ พกั พงิ ฯ จงึ ตอ้ งเรยี นรเู้ รอื่ งการท�ำ มาหากนิ จนมกี ลมุ่ อาชพี ใหมๆ่ เกดิ ขนึ้ ท�ำ ให้ ผปู้ ระสบภยั ไดเ้ รยี นรเู้ รอื่ งการบรหิ ารจดั การกลมุ่ และมกี �ำ ลงั ใจเพมิ่ ขน้ึ เมอื่ เหน็ วธิ ีสร้างรายได้เลย้ี งตวั ผู้ประสบภัยบางกล่มุ จงึ เรมิ่ มีความหวงั ในชีวิต เรียนรทู้ ่ี จะพ่ึงตนเอง มากกว่ารอคอยความช่วยเหลือ บรรยากาศการอยู่ร่วมกัน ของคนในศูนยพ์ กั พิงฯ แบง่ เป็น 2 กล่มุ อย่างชัดเจนคือ กลมุ่ ท่พี ยายาม สร้างงานสร้างรายได้ และกลุ่มที่รอคอยความช่วยเหลือ นอกจากน้ี ทมี งานยงั ชกั ชวนผปู้ ระสบภยั ไปชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ในทอ่ี นื่ ๆ เพอ่ื เปดิ มุมมองให้ได้เห็นชีวิตที่ลำ�บากยากแค้นมากกว่า จะได้เกิดแรงฮึดในการ ด�ำ รงชพี เมอ่ื ท�ำ เรอ่ื งสรา้ งงาน สรา้ งอาชพี ไดร้ ะยะหนงึ่ กม็ กี ารตงั้ ธนาคารชมุ ชน ทมี่ ธี นาคารกรุงไทย จ�ำ กัด (มหาชน) เข้ามาเป็นพ่ีเลีย้ ง เพอ่ื ใหช้ าวบ้านน�ำ เงนิ มาฝาก และเปน็ ช่องทางให้ชาวบา้ นไดม้ าพบปะพดู คุยกัน พรอ้ มๆ กับจดั ต้ัง เสยี งตามสายและวิทยชุ มุ ชน เพื่อประชาสัมพนั ธ์ขอ้ มลู เรื่องราวตา่ งๆ ท่ตี อ้ ง สร้างความเข้าใจแก่ผู้ประสบภัยเปน็ ระยะๆ ผู้ประสบภัย 3,000 กว่าคนท่ีอยู่ร่วมกันในศูนย์พักพิงฯ นับว่าแออัด และแมใ้ นอดตี คนบา้ นน�ำ้ เคม็ จะมคี วามขดั แยง้ กนั บา้ ง แตก่ ส็ ามารถอยรู่ ว่ มกนั อย่างสงบได้ เพราะเง่ือนไขท่ีต่างประสบทุกข์ภัยเหมือนกัน จึงเห็นอก เห็นใจกัน และการมีกฎกติกาตั้งไว้ต้ังแต่ต้น ไม่มีใครมีอำ�นาจสูงสุด แตท่ กุ คนมอี �ำ นาจในการตดั สนิ ใจและหาทางออกรว่ มกันผา่ นวงประชุม

69 วถิ กี ารตอ่ สู้กบั นโยบายท่ีสาดซดั โดนคล่ืนยักษ์ซัดก็อยู่รอดกันมาได้ แต่นโยบายรัฐท่ีออกมาในช่วง หลังสึนามิกลับกลายเป็นคล่ืนที่ซัดแรงกว่า เพราะรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่า หา้ มอยใู่ นพน้ื ทเ่ี สย่ี ง แลว้ ตอ้ นคนไปอยบู่ า้ นพกั ถาวรทส่ี รา้ งใหท้ ห่ี า่ งไกลออกไป กวา่ 1,000 หลัง หรอื การสร้างบา้ นพกั ในพื้นที่เดมิ กม็ ีแบบบา้ นใหเ้ พยี งขนาด 4 x 9 เมตร หรอื 6 x 6 เมตร ที่มแี ต่ผนงั กบั หลงั คา ไม่มหี อ้ งนอน ห้องครัว มอี งคป์ ระกอบทไี่ มส่ อดคลอ้ งกบั การด�ำ เนนิ ชวี ติ คนบา้ นน�ำ้ เคม็ 23 ครอบครวั จึงไม่ยอมย้ายไป จึงเกิดโครงการสร้างบ้านตามใจผู้อยู่ขึ้น โดยให้ออกแบบ บา้ นเอง ร่วมสร้างบา้ นตวั เอง บรหิ ารจัดการงบในการสรา้ งบ้านเปน็ กลมุ่ และ บ้านมัน่ คงท่ี พอช. สนบั สนนุ ข้ึนครง้ั แรก เมอ่ื ตอ่ สทู้ จ่ี ะอยทู่ เี่ ดมิ เพอื่ รกั ษาความเปน็ บา้ นน�้ำ เคม็ กต็ อ้ งสรา้ ง ระบบเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ สำ�หรับใช้เป็นแผนงานที่จะนำ�ไปต่อสู้ อกี ดา้ นหนง่ึ กเ็ รม่ิ สรา้ งบา้ นของตนเองภายใตโ้ ครงการบา้ นมนั่ คง พรอ้ มๆ กบั การเข้ารว่ มเป็นเครือข่ายสึนามิ 6 จังหวัดอันดามนั ส่งิ เหลา่ นค้ี ือการ สง่ั สมประสบการณใ์ นการตอ่ สเู้ รอ่ื ยมา โดยเฉพาะ “การตอ่ สดู้ ว้ ยขอ้ มลู ” ทที่ มี งานมลู นธิ ชิ มุ ชนไท และองคก์ รตา่ งๆ ชว่ ยฝกึ ฝน เรม่ิ จากการท�ำ แผน เตรยี มความพร้อมรบั มือพิบตั ภิ ัย ทีต่ อ้ งใช้ข้อมูลละเอยี ดยบิ เชน่ แต่ละ บ้านมีถังแกส๊ ก่ีถัง มีบ้านไหนทขี่ ายน�้ำ มนั มีมอเตอร์ไซคก์ ี่คัน มีรถก่ีคันก็ ต้องสำ�รวจ ดขู ้อมลู ถนน ขอ้ มลู จำ�นวนคน จากนน้ั นำ�มาปะติดปะต่อกนั จนเป็นภาพรวมของบ้านน้�ำ เค็ม เพ่ือใชว้ างแผนรบั มอื กับพบิ ัติภยั ต่อไป “รกู้ ระทง่ั วา่ ในแตล่ ะซอยมถี งั แกส๊ กถี่ งั พอมขี อ้ มลู เลยรวู้ า่ แมถ้ นนแคบ หากไมม่ อี ะไรมาขวาง กเ็ พยี งพอส�ำ หรบั การสญั จร ตอนนน้ั เรารแู้ ลว้ วา่ ถา้ เกดิ แผน่ ดนิ ไหวทอ่ี นิ โดนเี ซยี จดุ ทท่ี �ำ ใหเ้ กดิ สนึ ามริ อบนี้ มนั มเี วลาการเดนิ ทางของ คลน่ื กวา่ จะมาถงึ บา้ นเราใชเ้ วลา 45 นาที เวลาเทา่ นเ้ี ราจะเอาชวี ติ รอดไดย้ งั ไง” ประยรู เลา่ ขอ้ ดขี องการมีขอ้ มลู อย่ใู นมือ

70 แผนงานท้ังหมดถูกนำ�เสนอต่อชุมชน แต่หลายเร่ืองก็ยังไม่สามารถ นำ�ไปปฏบิ ัตไิ ด้ เพราะต้องผา่ นการประชาคม จึงเป็นหน้าท่ขี องวันชัย ซงึ่ เปน็ ประชาสัมพันธ์หมู่บ้านทำ�หน้าท่ีช้ีแจงกับชาวบ้าน ใช้ความเป็นโฆษกประจำ� งานบญุ งานบวช งานแตง่ ฯลฯ ประชาสมั พนั ธเ์ พอื่ สรา้ งความเขา้ ใจและสรา้ ง การมีส่วนร่วมให้เกิดข้ึนในชุมชน ให้เด็กและเยาวชนขี่จักรยานรณรงค์ใน หมบู่ ้าน “เรื่องที่พูดมีหลายอย่าง เร่ิมตั้งแต่อธิบายวิธีการจัดระเบียบชุมชนมี อะไรบา้ ง คนในชมุ ชนตอ้ งท�ำ ตามขนั้ ตอนอยา่ งไร เชน่ แตล่ ะซอยตอ้ งใหข้ อ้ มลู ต้องช่วยดูแลกนั เอง ต้องหาคนเปราะบางคือ คนปว่ ย คนแก่ เดก็ เล็กในซอย ของตัวเอง และหาคนที่จะอพยพคนเปราะบางเหลา่ น้ี บัตรประชาชน สำ�เนา ทะเบียนบ้าน เอกสารสำ�คัญต้องอยู่ในกระเป๋าเดียวกัน และมีข้อตกลงของ ครวั เรือนว่า หา้ มวง่ิ ตามหากนั ทุกคนตอ้ งว่ิงไปทจ่ี ดุ ปลอดภยั นัดกนั ไว้เลยวา่ จะไปเจอกันทีไ่ หน” วนั ชัย เลา่ ลองผิดแล้วจึงเรียนถูก แต่กระนน้ั ใช่ว่าจะราบร่ืน เพราะชาวบา้ นบอกว่า คณุ กบั ผมกช็ าวบา้ น เหมือนกัน คุณไม่ได้มีหน้าที่อะไรที่จะมาสั่งเขาได้ ทีมงานจึงมีความคิดที่จะ เปน็ อปพร. (อาสาสมคั รป้องกนั ภัยฝา่ ยพลเรือน) โดยคดิ ว่า เปน็ กนั ได้ง่ายๆ แตก่ วา่ จะเปน็ ไดต้ อ้ งผา่ นการอบรมทตี่ อ้ งมงี บประมาณสนบั สนนุ เลยไปหารอื กบั นายก อบต. ก็บอกว่า ตอ้ งรอบรรจุในแผนของตำ�บลก่อน และตอ้ งเขยี น โครงการขออนมุ ตั จิ ากผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ทมี งานจงึ ตอ้ งหางบประมาณน�ำ ไป บริจาคใหท้ อ้ งถ่นิ เพอื่ นำ�มาจัดอบรม แต่ตดิ ขดั ระเบียบของ อบต. ท่รี ะบุว่า โครงการจดั อบรมของต�ำ บลตอ้ งแบง่ สรรปนั สว่ นใหค้ รอบคลมุ ทง้ั ต�ำ บล ทมี งาน จึงต้องเฉล่ียจำ�นวนคนให้หมู่บ้านอื่นๆ จนได้อบรมครบทั้งหลักสูตร 5 วัน ในที่สดุ

71 “หวั ใจ” ของการรบั มือพิบัตภิ ัย ถา้ เรารวู้ ่าชุมชนมีประชากร จำ�นวนเท่าไร เมอื่ อพยพแลว้ ตอ้ งลงทะเบยี นเพอื่ ตรวจสอบ ว่ามจี ำ�นวนครบไหม ตอ้ งมีการค้นหาหรอื ไม่อย่างไร ซึง่ ทีมงานกค็ อ่ ยๆ ท�ำ ค่อยๆ เรียนร้จู นแผนงานทง้ั หมด ลงตัวในปี พ.ศ. 2551 และทำ�การซอ้ มแผนอพยพเป็นประจำ� จนเปน็ วถิ ชี ีวติ ของคนบ้านน้ำ�เคม็ แมจ้ ะอบรมมาแลว้ แตเ่ มอื่ ตอ้ งมาปฏบิ ตั จิ รงิ กย็ งั ท�ำ ไมไ่ ด้ เพราะสถานการณ์ในบ้านนำ้�เค็มตอนนั้น คนยังวิตกกังวลอยู่ เหน็ ข่าวแผ่นดนิ ไหวท่ีไหนก็ว่งิ หนีกอ่ น จนวุ่นวายไปหมด อีกทงั้ การนำ�ความรู้ ทักษะจากการอบรมมาใช้ในสถานการณ์จริง กต็ ิดขดั ใชง้ านไม่ได้ เพราะจ�ำ ไดบ้ ้างไมไ่ ด้บา้ ง เนอ่ื งจากอบรม พร้อมกนั หลายเรอ่ื ง “อบรมมา 5 วัน เขาสอนหลายเรื่องมาก พวกเราก็อายุ มากแลว้ จำ�ไม่ไดส้ ักอย่าง จะเปา่ นกหวีดทเ่ี ปน็ จราจรกท็ ำ�ไมไ่ ด้ จะปฐมพยาบาลเบือ้ งตน้ กท็ ำ�ไม่เป็น ชุด อปพร. ก็เป็นอปุ สรรค กว่าจะใส่เสร็จใช้เวลา 15 นาทีเป็นอย่างน้อย เพราะเป็นชุด พระราชทาน จึงต้องแต่งให้เรียบร้อย แม้แต่กระดุมสักเม็ดก็ ผดิ ไมไ่ ด้ ผลคอื อบรมมาแลว้ ใชง้ านไมไ่ ดเ้ ลย” ทมี งาน เลา่ ทมี งานจงึ ตอ้ งคดิ ใหมท่ �ำ ใหม่ อบรมใหมท่ ลี ะเรอ่ื ง ไมเ่ นน้ การบรรยาย แตเ่ นน้ ใหป้ ฏิบัติจรงิ คราวนี้จงึ ได้ความรูต้ ิดตวั และ มนั่ ใจในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทม่ี ากขน้ึ แตเ่ มอื่ ตอ้ งไปปฏบิ ตั งิ านจราจร ในชว่ งค�่ำ วนั เกดิ เหตแุ ผน่ ดนิ ไหว กพ็ บเงอื่ นไขวา่ การไปยนื กลาง ถนนในทีม่ ืดและสีผิวท่เี ขม้ ทำ�ให้คนขบั รถมองไม่เหน็ จนเกือบ จะโดนรถชนตาย พอไปถามครฝู กึ จงึ รวู้ า่ ตอ้ งใชเ้ สอ้ื สะทอ้ นแสง

72 เมอ่ื พบคนเปน็ ลมจะปฐมพยาบาลกท็ �ำ ไมเ่ ปน็ ตอ้ งอบรมเรอ่ื งการปฐมพยาบาล ใหม่ เมอ่ื เกิดเหตุการณข์ ึ้น กว็ ุ่นวายอกี เพราะไมม่ คี นท�ำ หนา้ ทอ่ี �ำ นวยการหรอื สง่ั งาน เพราะทกุ คนรเู้ ทา่ กนั หมด จงึ ตอ้ งอบรมเรอื่ งระบบบญั ชาการเหตกุ ารณ์ ภายใตส้ ถานการณ์ฉุกเฉนิ ฯลฯ “จะบอกวา่ พวกเราตลกมาก ทกุ เรอ่ื งคอื การลองผดิ ลองถกู เดนิ ไปท�ำ ไป เจอปญั หาเรากแ็ ก้ปญั หาไปทลี ะเรอ่ื ง” ทีมงาน เลา่ ดว้ ยสหี น้าย้มิ แยม้ นอกจากเรื่องการติดอาวุธทางปัญญาจนมีความรู้แล้ว ก็มาน่ังคิดกัน อกี วา่ หากมเี หตกุ ารณต์ อ้ งอพยพ แตล่ ะคนกต็ า่ งปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี แลว้ จะรไู้ หมวา่ ตวั เองตอ้ งอพยพตอนไหน จงึ ตอ้ งมคี นท�ำ หนา้ ทเ่ี ฝา้ ระวงั เพอ่ื สง่ั การใหอ้ พยพ หรือถอนกำ�ลัง บรรลือ ชูศักดิ์ จึงรับหน้าท่ีน้ี โดยเฝ้าระวังน้ำ�อยู่บริเวณ อนุสรณส์ ถานสึนามิบ้านน�ำ้ เคม็ “เขาต้องอยู่ท่ีน่ี 24 ชวั่ โมงทกุ วัน โดยท่ีเขาไมไ่ ด้มตี ำ�แหน่งหรือหนา้ ที่ อะไรตรงนเ้ี ลย มาเฝ้าเพ่ือรักษาชีวติ พวกเรา เขามานัง่ ดนู �ำ้ ทะเลทุกวันอยู่ 2 ปี ทะเลก็ไมไ่ ด้ออก เราไมร่ จู้ ะชว่ ยยังไง พอดีเป็นชว่ งการเปลี่ยนพนกั งาน รปภ. 2 คน แม่บ้าน 2 คน จึงเขา้ ไปตอ่ รองกบั นายก อบต. ขอใหเ้ ขาท�ำ หนา้ ท่ี รปภ.

73 เพ่ือให้มีรายได้เล้ียงตัว ยังไงเขาก็อยู่ตรงน้ีอยู่แล้ว อบต.ก็สนับสนุน แต่พอ ไดเ้ ปน็ รปภ. อบต.ยกเลิกตำ�แหน่งอ่ืนหมด ให้เขาทำ�คนเดยี ว เงนิ ได้เท่าเดิม” ประยรู เลา่ บทบาทหนา้ ท่ขี องบรรลือ การได้เรียนรู้ ลองผิดลองถูก และฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกัน คือ การหลอมรวมความเป็นทีมของทีมงาน บทบาทหน้าที่ในฝ่ายต่างๆ จึง เกิดขึ้นตามความจำ�เป็น เช่น ฝ่ายอำ�นายการ ฝ่ายจราจร ฝ่ายสื่อสาร ฝ่ายปฐมพยาบาล รวมท้งั ฝ่ายลงทะเบียน ท่ีชาวบ้านมกั ถามว่า แค่ซอ้ ม จะลงทะเบียนไปทำ�ไม ซ่ึงทีมงานบอกว่า นี่คือ “หัวใจ” ของการรับมือ พิบัติภัย ถ้าเรารู้ว่าชุมชนมีประชากรจำ�นวนเท่าไร เมื่ออพยพแล้วต้อง ลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบว่ามีจำ�นวนครบไหม ต้องมีการค้นหาหรือไม่ อย่างไร ซง่ึ ทมี งานกค็ อ่ ยๆ ท�ำ คอ่ ยๆ เรียนรจู้ นแผนงานท้ังหมดลงตวั ใน ปี พ.ศ. 2551 และท�ำ การซอ้ มแผนอพยพเป็นประจ�ำ จนเป็นวถิ ชี ีวติ ของ คนบา้ นน�้ำ เค็ม “เวลาคนมาดูงานส่วนใหญ่จะพูดแต่เร่ืองความสำ�เร็จ ซึ่งผมคิดว่า มันใช้ประโยชน์ไม่ได้ เพราะดูแต่ความสำ�เร็จ ไม่ได้ถ่ายทอดเรื่องอุปสรรค หรือความล้มเหลว” ประยูรให้ข้อคิดถึงการถ่ายทอดความรู้ ท้ังยังกำ�ชับว่า การศกึ ษาดงู านตอ้ งท�ำ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ซงึ่ ถา้ จะตดิ ตอ่ ขอมาศกึ ษาดงู าน ทน่ี ตี่ ้องใชเ้ วลาอย่างนอ้ ย 2 ชั่วโมง และต้องสนับสนุนชุมชนในเร่อื งอาหาร และค่าตอบแทนวิทยากรที่ต้องเสียเวลาในการประกอบอาชีพในวันนั้น โดยรายได้ส่วนหน่ึงจะนำ�ไปสบทบเข้ากองทุนเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตอ่ ไป การท�ำ งานแมจ้ ะดเู หมอื นราบรนื่ แตจ่ รงิ ๆ มปี ญั หาอปุ สรรคใหท้ มี งาน ตอ้ งแกไ้ ขอยตู่ ลอดเวลา อปุ สรรคสว่ นใหญม่ าจากราชการทม่ี กี รอบ ยดึ ระเบยี บ ข้อบังคับ ตัวอย่างเช่น ในพ้ืนที่บ้านน้ำ�เค็มมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำ�งาน จำ�นวนหน่ึง เม่ือต้องวางแผนรับมือพิบัติภัย การซักซ้อมแผนแต่ละคร้ังก็จะ รวมแรงงานเหลา่ นีเ้ ข้าไปด้วย เพ่อื จะไดเ้ ขา้ ใจไปด้วยกัน เพราะทมี งานเหน็ ว่า

74 ทกุ ชีวิตมีคา่ แต่ในมุมมองของหน่วยงานราชการกลบั มองวา่ ท�ำ ผิดกฎหมาย “ไมร่ ู้นายอ�ำ เภอหรือผู้วา่ ฯ หาว่าผมเอาแรงงานต่างด้าวทผ่ี ดิ กฎหมาย มาร่วมงาน ผมกบ็ อกวา่ ไม่ผดิ ในเมื่อเขาอยูใ่ นบา้ นเรา เรามีหนา้ ทอ่ี ยา่ งเดยี ว คือ ให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ให้ชีวิตเขารอด ไม่ทะเลาะกัน” ประยูร เล่า พร้อมเสริมว่า การท่ีแรงงานต่างด้าวเข้าร่วมทีมทำ�ให้สามารถ คลคี่ ลายปญั หาการเขมน่ กันระหวา่ งวัยรุ่นในชมุ ชนกับแรงงานตา่ งด้าว จนลด ปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งลงได้ นอกจากนี้ทีมงานยังเคยมีปัญหาถูก ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั กล่าวโทษ ไลเ่ บีย้ เร่อื งอ�ำ นาจในการสง่ั การอพยพ “การท�ำ เรอ่ื งนม้ี นั ไมใ่ ชเ่ รอื่ งงา่ ย เปน็ เรอื่ งทย่ี ากมาก ถา้ เรามวั แตเ่ กรงใจ หน่วยงานก็ทำ�ไม่ได้ เราไม่มีอำ�นาจเรื่องพวกน้ี” ประยูรบอกข้อจำ�กัดในการ ท�ำ งาน

75 ดงั น้นั ในการทำ�งานของทมี งานจงึ ต้องมีการเชื่อมตอ่ การทำ�งานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้รับรู้รับทราบ บทบาทหน้าที่ แม้ว่าในทางปฏิบัติหน่วยงานไม่สามารถ สนบั สนุนงบประมาณใดๆ ได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรบั ช่วยเพื่อนใหช้ ว่ ยตัวเอง เพราะมีประสบการณ์ความสูญเสียจากพิบัติภัย มาก่อน ทำ�ให้ทีมงานทุกคนปวารณาตัวท่ีจะนำ�ความรู้ ทักษะ อุปกรณ์ เครื่องไม้เคร่ืองมือ ไปช่วยเหลือพื้นท่ี ประสบภัยทั่วประเทศ เพราะซาบซึ้งถึงความช่วยเหลือ ของคนไทยท้ังประเทศยามเม่ือบ้านนำ้�เค็มประสบภัย สึนามิ แต่การไปช่วยเหลือของทีมงานมีเป้าหมายสำ�คัญ คือ ไม่ได้ไปช่วยแบบสงเคราะห์ แต่เพื่อให้ผู้ประสบภัย สามารถลกุ ขน้ึ มาชว่ ยตนเองได้ และเมอื่ ชว่ ยตนเองไดแ้ ลว้ ก็สามารถชว่ ยคนอืน่ ต่อไปด้วย ในขณะเดยี วกนั การออก ไปช่วยเหลือตามที่ต่างๆ เป็นการสร้างการเรียนรู้ให้กับ ทีมงานภายใต้ปฏิบัติการจริง จนทุกวันน้ีทีมงานได้ หลอมรวมความเป็นทีมอย่างเหนียวแน่น และมีความ เชย่ี วชาญการชว่ ยเหลอื ในสถานการณภ์ ยั พิบัตทิ ุกดา้ น เมือ่ อาสาไปช่วยเหลอื ผูป้ ระสบภัยอยเู่ นืองๆ จนเปน็ ท่ียอมรับ ทำ�ให้มีผู้เสนอช่ือให้รับรางวัลอาสาสมัครดีเด่น แต่เป็นรางวัลที่มอบในฐานะบุคคลแก่ประยูร ซึ่งปฏิเสธการ รับรางวัลทันที เพราะคิดว่าเป็นผลสำ�เร็จของทีมงานทุกคน จนผู้จดั ต้องปรับแก้เป็นรางวลั ส�ำ หรับทมี กระทง่ั ไปรับรางวัล ทผี่ จู้ ดั ก�ำ หนดใหส้ ง่ ตวั แทนรว่ มงานไดเ้ พยี ง 10 คน แตท่ มี งาน ท้ังหมดมี 20 กว่าคน จึงต้องจัดการดูแลเรื่องห้องพักของ

76 ทมี งานทเ่ี กนิ จ�ำ นวนเอง โดยใหไ้ ปพกั อกี ที คร้ันถงึ วนั งานกม็ กี ารแยกทีน่ งั่ ของ ทีมงานเปน็ 2 สว่ นใหร้ สู้ กึ แปลกแยกกนั อกี จนประยรู ตอ้ งยืนยันว่า ทีมงาน ทกุ คนต้องนงั่ รวมกนั “ผมบอกเขาไปวา่ ถา้ ใหพ้ วกผมนง่ั แยกกนั อยา่ งน้ี ผมขอรบั รางวลั ขา้ งลา่ ง หลายคนมองวา่ ผมเร่ืองมาก ผมไม่ไดเ้ ร่ืองมากนะ ผมใหค้ วามสำ�คญั กบั ทมี คณุ จะมาสร้างความแตกแยกใหท้ ีมผมเพ่ือสิ่งล่อใจหรืออ�ำ นาจ ผมไม่ท�ำ จะเปน็ งานระดับประเทศ ระดบั กระทรวง ผมไม่เกีย่ ว แต่คนเหลา่ นคี้ อื “ทมี ” ของผม” ประยรู เท้าความถึงการแสดงออกของความเปน็ ทมี กวา่ 10 ปีทผ่ี ่านมา ทที่ ีมงานไดเ้ รียนรู้ถูก ผดิ จากการลงมอื ปฏิบตั จิ รงิ จนได้สกดั ความรเู้ รอื่ งการจดั การพิบัติภยั จากบทเรียนการทำ�งาน ออกมาเป็น ขอ้ คดิ ฝากไวว้ า่ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในสถานการณพ์ บิ ตั ภิ ยั นนั้ ประกอบ ด้วยหลักสำ�คัญ 2 ข้อ คือ 1.ศนู ย์ขอ้ มูลและใช้ข้อมูลในการวางแผนการ ช่วยเหลอื 2. การจัดการช่วยเหลอื ทีเ่ ทา่ เทยี มและทัว่ ถึง เพราะเค่ียวกรำ�บ่มเพาะประสบการณ์จากสถานการณ์จริงในชีวิต ผสานกบั การสนบั สนนุ ของพเ่ี ลยี้ งอยา่ งมลู นธิ ชิ มุ ชนไททใี่ หโ้ อกาสลองถกู ลองผิด จนได้ความรู้ ทักษะ และหลอมรวมความเป็นทีมท่ีแข็งแกร่ง เพราะเคยได้รบั น�ำ้ ใจในวันวาน บทเรยี นที่ไดเ้ รยี นร้จู งึ ถูกน�ำ ไปช่วยเหลอื ผอู้ นื่ ตอ่ ในวนั น้ี คงปฏเิ สธไมไ่ ดว้ า่ ทมี งาน อปพร.บา้ นน�ำ้ เคม็ เปน็ แถวหนา้ ในเร่ืองการบรหิ ารจดั การชมุ ชนในสถานการณพิบตั ภิ์ ัยของประเทศไทย

ความสขุ ทค่ี ณุ สมั ผสั ไดเ้ มอ่ื มาเรยี นรทู้ นี่ คี่ อื การจดั การพบิ ตั ภิ ยั แตต่ อ้ งมเี วลาอยา่ งนอ้ ย 2 ชว่ั โมง เพ่ือเรียนรู้เรื่องราว ต้ังแต่ประวัติชุมชนบ้านนำ้�เค็ม การกอ่ เกดิ กลมุ่ อปพร.บา้ นน�ำ้ เคม็ การสรา้ งความเปน็ อาสาสมคั ร วธิ กี ารท�ำ งานในขณะเกดิ เหตพุ บิ ตั ภิ ยั และ การฟ้ืนฟูหลังเหตุการณ์พิบัติภัย เคร่ืองมืออุปกรณ์ บทเรียนความสำ�เร็จและความล้มเหลวในการทำ�งาน หรอื จะตดิ ตอ่ ทมี งานเพอ่ื จดั อบรมการจดั การภยั พบิ ตั ิ เตม็ รูปแบบซึง่ ใชเ้ วลา 3 วนั เต็ม

78 เศรษฐกิจชุมชนท่ีตำ�บลรมณีย์ “รมณยี ์ สามคั คี ปลอดหนสี้ นิ ส้ินอบายมขุ มคี วามสุข อยดู่ กี นิ ดี มกี ารทอ่ งเทย่ี วเชงิ นเิ วศ” คอื วสิ ยั ทศั นท์ ส่ี ะทอ้ นเปา้ หมายการพฒั นาชมุ ชน ทีช่ ดั เจน มุ่งตอบโจทยข์ องชุมชนเร่อื งเศรษฐกจิ สงั คม และสง่ิ แวดล้อม ภายใตก้ ารขบั เคลอ่ื นของกรรมการชมุ ชน ทม่ี จี ดุ เรม่ิ ตน้ การท�ำ งานมาตงั้ แต่ ปี พ.ศ. 2544 ไดร้ ับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลกอ่ ตัง้ กองทนุ หมูบ่ ้านขนึ้ โดยมเี จา้ หนา้ ทธ่ี นาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) เปน็ พเ่ี ลย้ี งใหค้ วามรู้ และพฒั นาทกั ษะใหแ้ กค่ ณะกรรมการ ซงึ่ ตอ่ มาไดข้ ยายการท�ำ งานสกู่ ารจดั ตง้ั กลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิตรมณีย์ศรีสยาม ในปี พ.ศ. 2547 และกองทุน สวัสดิการชมุ ชนต�ำ บลรมณีย์ในปี พ.ศ. 2549 ตำ�บลรมณีย์ อำ�เภอกะปง จังหวัดพังงา มีทั้งหมด 4 หมู่บ้าน คือ บ้านรมณยี ์ หมู่ 1 บ้านทา่ หัน หมู่ 2 บา้ นปากคลอง หมู่ 3 และบา้ นศรีราชา หมู่ 4 มีประชากรรวม 2,670 คน หรือ 906 ครัวเรือน3 ชาวบ้านส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลกู ยางพารา ปาล์มน�้ำ มัน มงั คุด เงาะ ทุเรยี น ลองกอง ฯลฯ รายได้ส่วนใหญ่ของประชากรจึงมาจากพืชผลทางการเกษตร ซง่ึ มคี วามไม่แนน่ อนขน้ึ อยกู่ ับราคาพชื ผล และฤดกู าล ฐานทนุ เดมิ ตอ่ ทุนดเี พอื่ ชมุ ชน เมื่อเกดิ สภาองค์กรชุมชนต�ำ บลรมณียใ์ นปี พ.ศ. 2553 คณะกรรมการ ได้ร่วมกันวิเคราะห์ชุมชน โดยใช้เคร่ืองมือ SWOT เพ่ือจัดทำ�แผนพัฒนา เศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อม ได้เห็นถึงทุกข์และทุนท่ีมีอยู่ในชุมชน จึงได้ร่วมกันบูรณาการทุนชุมชนเพื่อจัดการตนเองเร่ืองเศรษฐกิจชุมชน โดย พอช. สนับสนุนทุนกอ้ นแรก 3 www.rommanee.go.th

79 เพราะมีพื้นที่ปลูกยางพารามากถึง 30,000 กว่าไร่ เมื่อราคายางพาราตกต่ำ� ประกอบกบั ทผ่ี า่ นมาชาวบา้ นจ�ำ หนา่ ยยาง ผา่ นพอ่ คา้ คนกลาง ท�ำ ใหถ้ กู กดราคา คนใน ชุมชนเดือดร้อนกันท่ัวหน้า จึงตั้งกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนรวบรวมผลผลิตทางการ เกษตรตำ�บลรมณีย์ข้ึนในปี พ.ศ. 2557 รวบรวมผลผลติ ยางพารากอ้ นถว้ ยจ�ำ หนา่ ย ผา่ นการประมูล

80 อดิศร ทองมาก เลขานุการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรวบรวมผลผลิต ทางการเกษตรตำ�บลรมณีย์ เล่าว่า ก่อนท่ีจะต้ังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ คณะกรรมการชุมชนภายใต้การสนับสนุนของสภาองค์กรชุมชน ได้ไปศึกษา ดงู านเรอื่ งการปรบั ปรงุ คณุ ภาพยางพารา ทอี่ งคก์ รการยางจงั หวดั จนั ทบรุ ี และ จงั หวดั นครศรธี รรมราช เพอ่ื น�ำ มาปรบั ใช้ เพราะคดิ วา่ หากตอ้ งรวบรวมผลผลติ เพ่ือจำ�หน่ายตอ้ งมกี ารควบคมุ เรอ่ื งคณุ ภาพของยางกอ้ นถว้ ยให้ไดม้ าตรฐาน โดยทนุ เรม่ิ ตน้ ในการด�ำ เนนิ การนน้ั คณะกรรมการใชว้ ธิ บี รู ณาการ จากกองทุนที่มีอยู่ในชุมชน เช่น กองทุนสวัสดิการชุมชน กองทุน ออมทรพั ย์ โดยน�ำ เงนิ มาลงทนุ รว่ มกันกองทุนละ 500,000 บาท ทที่ ำ�ได้ เชน่ น้ีเพราะคณะกรรมการแต่ละกองทุนเปน็ ชดุ เดยี วกัน กลา่ วคอื กลุม่ ตา่ งๆ ในชมุ ชน 5 กลมุ่ จะมกี รรมการทสี่ บั เปลย่ี นหมนุ เวยี นกนั อยใู่ นกลมุ่ 25-30 คน จึงเข้าใจเป้าหมายการทำ�งานของแต่ละกลุ่มเป็นอย่างดี แต่เพื่อให้เกิด ความโปร่งใส ก่อนดำ�เนินการจึงมีการประชุมคณะกรรมการร่วมกัน เพ่ือวางระเบียบข้อบังคับ ก่อนจะนำ�เข้าสู่ท่ีประชุมร่วมกันของสมาชิก กองทุนทง้ั หมด “กองทุนสวสั ดิการมเี งินอยูป่ ระมาณ 2 ลา้ นกว่าบาท กลุ่มออมทรพั ย์ มี 4 ล้านกว่าบาท ชวนกรรมการและสมาชิกทั้งหมดมาประชุมชแ้ี จงเป้าหมาย การระดมทนุ เพ่ือแก้ปัญหา” เนื่องจากเป็นปัญหาใหญ่ที่คนในชุมชนประสบอยู่ เมื่อเปิดรับสมัคร สมาชกิ กลุม่ ฯ จงึ มคี นมาสมคั รมากถงึ 150 ครวั เรอื น การดำ�เนินงานของกลุ่ม เร่ิมจากการรวบรวมยางก้อนถ้วยไว้ที่ลานเท แล้วเปิดประมูลยางทุก 15 วัน แม้คนในชุมชนทั้งหมดจะไม่ได้เป็นสมาชิกของวิสาหกิจ แต่ก็ยังได้รับ ผลประโยชนร์ ว่ มจากการดำ�เนนิ งานของกลมุ่ ฯ ดว้ ยเช่นกนั “เป้าหมายของการตั้งกลมุ่ ไมไ่ ดค้ ิดว่าให้กลมุ่ รวย แตท่ �ำ อย่างไร ใหช้ าวบา้ นอยไู่ ด้ เพราะชาวบา้ นไมไ่ ดเ้ อายางมาขายกบั กลมุ่ 100 เปอรเ์ ซน็ ต์ แตก่ ารรวมกลมุ่ ครง้ั นที้ �ำ ใหพ้ อ่ คา้ คนกลางตอ้ งอพั ราคาขน้ึ ตามกลมุ่ ไปดว้ ย

81 ชาวบ้านคนอื่นก็ได้ประโยชน์ไปพร้อมกัน” พ่ีเหมีย-กัลยา โสภารัตน์ ประธานกล่มุ ฯ บอก การทำ�งานของกลุ่มฯ จึงสร้างประโยชน์ให้คนในชุมชนทั่วกัน เพราะ หากมีข่าวว่า กลุ่มฯ จะเปิดประมูลวันใด ชาวบ้านจะรีบเก็บยางในช่วงน้ัน เพ่ือให้ได้ราคาใกล้เคียงกัน แต่หากไม่มีการทำ�งานของกลุ่มฯ ชาวบ้านก็จะ ถูกกดราคาเชน่ เดมิ “ชว่ งทยี่ างราคาถูกท่ีสุดคอื กิโลกรัมละ 16 บาท แต่ถา้ เอามารวมกล่มุ จะขายไดก้ ิโลกรมั ละ 19-20 บาท” พีเ่ อ้ยี ง-จิราพร ทองมา กรรมการอีกทา่ น กลา่ ว

82 แสวงหาทุกช่องทางเพอ่ื สรา้ งทุกโอกาส เมอ่ื เหน็ โอกาสในการสรา้ งรายไดใ้ หค้ นในชมุ ชนเพมิ่ ขนึ้ ดงั นนั้ เมอื่ มีการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลสู่ชุมชน ไม่ว่างบประมาณจาก สว่ นไหน คนในชมุ ชนยนิ ดรี บั ไวห้ มด โดยน�ำ เงนิ ทไี่ ดม้ าจดั ซอื้ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ทเ่ี กดิ ประโยชนต์ อ่ สว่ นรวมมากทส่ี ดุ เชน่ เมอ่ื ไดร้ บั งบประมาณ 500,000 บาท จากโครงการประชารฐั ผ่านกองทนุ หมบู่ ้าน สมาชกิ กองทุนหมบู่ า้ นมีมตใิ ห้จัด ซอ้ื รถตกั ยางกอ้ นถว้ ยขนึ้ รถบรรทกุ สรา้ งรายไดก้ ลบั คนื กโิ ลกรมั ละ 40 สตางค์ และมมี ตใิ หจ้ ดั ซอ้ื รถขนสง่ ผลผลติ เพอื่ รบั จา้ งขนสง่ ผลผลติ มายงั ลานเท ท�ำ ให้ มรี ายไดจ้ ากค่าขนส่งเพมิ่ อีกกโิ ลกรมั ละ 40 สตางค์ ทำ�ใหเ้ งินกองทุนงอกเงย มผี ลกำ�ไรเพมิ่ ขนึ้ ขณะทชี่ าวบา้ นกล็ ดคา่ ใชจ้ า่ ยลงได้คร่งึ หนึง่ เพราะหากตอ้ ง จ้างรถขนผลผลิตเอง พอ่ คา้ คดิ คา่ จ้างขนกิโลกรมั ละ 80 สตางค์ อยา่ งไรกต็ ามเพอื่ ใหก้ ารท�ำ งานของกลมุ่ ขบั เคลอื่ นไปดว้ ยดี ทมี งานจงึ ตงั้ line group กลมุ่ วสิ าหกจิ ฯ ไวใ้ ชน้ ดั หมายรวบรวมผลผลติ โดยคณะกรรมการ และสมาชิกส่วนใหญเ่ ป็นสมาชกิ ใน line group ของการยางแหง่ ประเทศไทย จึงสามารถตดิ ตามความเคลื่อนไหวของราคายางได้ทนั ทว่ งที “เวลาจะเปิดประมูลก็จะไลน์ถามกันก่อนว่า รอบน้ีมียางก่ีตัน ราคา เท่าไร ถ้ามยี าง 20-25 ตัน จึงจะเปิดประมลู ” พ่ีเอยี้ ง เล่า ปรมิ าณของยางกอ้ นถว้ ยท่รี วบรวมแล้วคมุ้ ทุนต่อการเปดิ ประมลู และ เหมาะสมแกก่ ารท�ำ งานของกรรมการแตล่ ะครง้ั คอื 20-25 ตนั เพราะเคยผา่ น ประสบการณ์การรวบรวมผลผลติ ยางพาราถึง 70 ตนั แลว้ เปดิ ประมลู ทมี งาน พบว่า เกนิ ก�ำ ลงั ทีจ่ ะท�ำ ไหว ในด้านของการควบคุมคุณภาพยางก้อนถ้วยน้ัน ได้มีการกำ�หนด ระเบียบวา่ ยางก้อนถว้ ยต้องสะอาด หา้ มเปียก หา้ มใส่ขีไ้ ม้ ห้ามใส่ดนิ ห้าม ใส่เศษหนิ เปน็ ยาง 100 เปอร์เซ็นต์ ไมม่ ีสงิ่ เจือปน โดยทุกครัง้ จะมกี รรมการ คอยตรวจสอบคุณภาพดว้ ย

83 เราท�ำ งานกันแบบพแี่ บบน้อง ถ้ามวั แตค่ ิดวา่ ฉนั เป็นประธาน เธอเปน็ เลขาฯ กลมุ่ อยไู่ ม่ได้แน่ๆ ทกุ คนมสี ทิ ธเิ ท่ากัน หากเรา ตอ้ งการก้เู งนิ ก็กู้ได้เทา่ สมาชกิ กรรมการไมม่ ีสทิ ธิพเิ ศษใดๆ สิทธิพิเศษของกรรมการมีอยา่ งเดียว คือถ้าคนไหนเจบ็ ไข้ ไม่สบาย ทกุ คนจะต้องช่วยกันดูแล ประวทิ ย์ เดชวรวทิ ย์ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารกลมุ่ ฯ บอกวา่ เราตอ้ งควบคมุ คณุ ภาพใหด้ ี ใชว้ ธิ ผี า่ พสิ จู นท์ กุ กอง กองไหนสกปรกใหเ้ อาออกไปเลย เราไมร่ บั ส�ำ หรบั การบรหิ ารจดั การกลมุ่ เมอื่ ประมลู เสรจ็ และไดร้ บั เงนิ แลว้ รายรับท่ีไดจ้ ะถูกหกั เขา้ กล่มุ ฯ กิโลกรมั ละ 1 บาท และเงิน 1 บาทน้ันจะ ถกู จดั สรรปนั สว่ นดงั นี้ คอื 30 สตางคเ์ ปน็ คา่ ตอบแทนกรรมการ 20 สตางค์ เป็นค่าบริหารจัดการ 5 สตางค์สำ�หรับจัดสวัสดิการในชุมชน 5 สตางค์ เก็บไว้ประกันความเส่ียง 6 สตางค์ใช้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณะของ ชุมชน ท่เี หลอื 34 สตางคเ์ กบ็ ไว้ปนั ผลคนื ใหส้ มาชกิ “ประกนั ความเสย่ี งคอื สมมตุ วิ า่ เกดิ ผดิ พลาดเรอ่ื งการจา่ ยเงนิ พวกเรา เป็นชาวบ้านธรรมดา การจ่ายเงินอาจมขี อ้ ผิดพลาดบ้าง 400-500 บาท เราก็ มปี ระกันความเสยี่ งนไี้ วท้ ดแทน” พ่เี อ้ยี ง เล่า คา่ ใชจ้ า่ ยสว่ นใหญใ่ นเรอ่ื งการบรหิ ารจดั การคอื คา่ จา้ งแรงงาน ซง่ึ หาก คนในชุมชนรวมทั้งกรรมการตอ้ งการมรี ายได้เสริม กส็ ามารถรับจา้ งขนยางลง จากรถจะไดค้ า่ จา้ งรายวนั สว่ นคา่ ตอบแทนกรรมการทง้ั 22 คนจะได้รบั เม่ือถึง ส้ินปี ซ่ึงรูปแบบของการบริหารจัดการภายในกลุ่มฯ จะเน้นความเป็นพี่น้อง มากกว่าการยึดถอื ตำ�แหนง่

84 “เราทำ�งานกันแบบพี่แบบน้อง ถ้ามัวแต่คิดว่าฉันเป็นประธาน เธอเป็นเลขาฯ กลุ่มอยู่ไม่ได้แน่ๆ ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน หากเราต้องการ กู้เงินก็กู้ได้เท่าสมาชิก กรรมการไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ สิทธิพิเศษของ กรรมการมอี ยา่ งเดยี ว คอื ถา้ คนไหนเจบ็ ไขไ้ มส่ บาย ทกุ คนจะตอ้ งชว่ ยกนั ดแู ล” พีเ่ หมยี เลา่ ถึงความสมั พันธ์ภายในกลมุ่ กรรมการ นอกจากลงทุนเครื่องไม้เคร่ืองมือในการดำ�เนินงาน ทีมงานยัง สง่ เสริมให้สมาชิกกลุ่มฯ รว่ มกันทำ�ปยุ๋ โดยเก็บมูลชา้ งจากปางชา้ งที่อยู่ ใกล้เคียงมาทำ�ปุ๋ยชีวภาพใช้บำ�รุงต้นยางพารา ท่ีได้ประโยชน์ท้ังลด ค่าใชจ้ ่ายและการรักษาสงิ่ แวดล้อมในชุมชน “ปางชา้ งเขาเกบ็ กองไวใ้ หเ้ ลย เรากเ็ อารถของประชารฐั ไปตกั บรรทกุ มา เทรวมไวท้ ล่ี าน สมาชกิ คนไหนสนใจกม็ าลงหนุ้ ชว่ ยกนั ท�ำ ปยุ๋ เวลาเอาปยุ๋ ไปก็ เอาไปในราคาตน้ ทนุ ลดคา่ ซอื้ ปยุ๋ ไดก้ ระสอบละ 800-1,000 บาท” พเ่ี อยี้ ง เลา่ มากกว่าการรวมกันขายให้ได้ราคาดี หาช่องทางลดต้นทุน และ หารายไดใ้ หง้ อกเงยแลว้ คณะกรรมการชดุ นยี้ งั ไดค้ ดิ แผนการออมทรพั ย์ เพอื่ ใหส้ มาชกิ ไดม้ เี งนิ ออมเปน็ ทนุ รอนส�ำ หรบั ชวี ติ และครอบครวั มากขนึ้

85 เก่งหมดู่ ีกว่าเก่งเดี่ยว การรวมกลุ่มกันทำ�งาน ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ร้อยรัด คนในชุมชน เพราะวถิ ีชีวติ ชาวสวนยางพารา กลางคืนกรดี ยาง กลางวนั พักผ่อน หากไม่รวมกลุ่มกันก็คงต่างคนต่างอยู่ แต่ตอนน้ีทุกคนยังคงวิถี กลางคนื กรดี ยาง กลางวนั ท�ำ งานกลมุ่ ทม่ี มี ากมายหลายกลมุ่ ทง้ั ออมทรพั ย์ การเงนิ ชุมชน กลุม่ วสิ าหกิจฯ กลมุ่ บรหิ ารบ่อน�้ำ พุร้อน ฯลฯ แม้จะเป็น เรอ่ื งเหนอ่ื ย แตก่ ไ็ มถ่ งึ กบั เบยี ดบงั เวลาพกั ผอ่ น หากแตก่ ารไดม้ าพบเจอกนั คือความสนุก ได้พบปะพูดคุยกัน หุงข้าวห่อกับมากินร่วมกัน พร้อมกับ ทำ�งานไปด้วย เป็นบรรยากาศที่เอ้ือต่อการเจริญอาหารกาย อาหารใจ คนในชุมชนจึงไม่มีเร่ืองทะเลาะเบาะแว้งใหร้ ำ�คาญใจ “เก่งคนเดียวไม่ได้ เราต้องเก่งหมู่ ถ้าสมาชิกเห็นว่ากลุ่มเป็นของคน ในชุมชนแล้ว กลุ่มอยู่ได้แน่ๆ แต่ถ้าสมาชิกบอกว่า กลุ่มเป็นของประธาน เป็นของคณะกรรมการ กลุ่มน้ันจะอยู่ไม่ได้ เราจะบอกก่อนการประชุมกลุ่ม ทุกครัง้ ว่า กลุ่มเปน็ ของทุกคน ไมใ่ ชก่ ล่มุ ของใคร” พ่เี หมยี บอก “มนั เปน็ ความภาคภมู ใิ จเวลาเราเหน็ เขามรี ายไดเ้ พมิ่ ขน้ึ เดอื นละเทา่ นน้ั เท่านี้ ผมภูมิใจมาก” อดศิ ร เสรมิ การท�ำ งานเพอื่ ชมุ ชนมาเปน็ เวลายาวนาน คอื ปจั จยั ทที่ �ำ ใหส้ มาชกิ ในชมุ ชนเหน็ ชอบและไวว้ างใจการท�ำ งานของคณะกรรมการ อกี ทงั้ ในการ ทำ�งานก็จะมีหลักฐานท่ีสามารถพิสูจน์ความโปร่งใสได้ทุกขั้นตอน ท้ังการทำ� บัญชีอย่างเป็นระบบระเบียบ มีการประชุมประจำ�ปีเพ่ือชี้แจงผลการดำ�เนิน งานต่อสมาชิกท้ังหมด มีการทำ�รายงานผลการดำ�เนินงานส่งหน่วยงานท่ี สนับสนุนงบประมาณ ดังจะเห็นได้จากจำ�นวนของสมาชิกกองทุนสวัสดิการ ชมุ ชน ทม่ี สี มาชกิ 33 เปอรเ์ ซน็ ต์ ของจ�ำ นวนประชากรทงั้ ต�ำ บล เกดิ วา่ ทรี่ ฐั บาล ก�ำ หนดไว้คือ 30 เปอรเ์ ซน็ ต์

86 ปัจจัยของความสำ�เร็จในการดำ�เนินงานอีกอย่างคือ การเป็นผู้ ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รียนของคณะกรรมการ ทีไ่ ม่ว่าจะท�ำ อะไร ต้องเรม่ิ ต้นทกี่ ารศึกษา หาความรู้ก่อน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ อีกทั้งยังรู้จักใช้ประโยชน์ จากการสนับสนุนของหน่วยงานต่างๆ ในการพัฒนาทักษะความรู้ของ ตนเอง อยากไปศกึ ษาดงู านเรอื่ งใด ทไ่ี หน กจ็ ะแสวงหาการสนบั สนนุ จาก หน่วยงาน เช่น ธกส. พอช. และคณะทำ�งานจังหวัดที่เป็นพี่เล้ียงชุมชน มาโดยตลอด “สงสัยอะไรเรากถ็ ามผ้รู ู้ ศึกษาจากผรู้ ู้ เหมือนเราไปประชุมเวทีจังหวัด ทุกครั้ง เรามีปัญหาอะไรท่ีเราปรึกษาคนในชุมชนเราไม่ได้ เราก็เอาเข้าไปใน เวทปี ระชมุ ประจ�ำ เดอื นของจงั หวดั ” ประวทิ ย์ เลา่ ภาพการเชอ่ื มโยงการท�ำ งาน กับกลไกระดับจังหวัด เมื่อการดำ�รงชีวิตในปัจจุบันไม่สามารถพ่ึงพาพืชผลเพียงชนิดเดียวได้ แต่ตอ้ งปลกู พชื ให้หลากหลาย โดยพิจารณาถงึ ความเป็นไปได้ กลมุ่ วสิ าหกจิ ฯ กำ�ลังวางแผนที่จะขยายขอบเขตของการทำ�งานไปสู่การรวบรวมผลผลิต ปาล์มนำ้�มัน และผลไม้ตามฤดูกาล โดยทีมงานได้วางแผนจะไปศึกษาดูงาน แสวงหาชอ่ งทาง และงบประมาณสนบั สนุน เพราะการรวบรวมผลผลิตปาลม์ ตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งชงั่ ขนาดใหญร่ าคาแพง ดงั นนั้ กอ่ นจะลงทนุ ตอ้ งมกี ารศกึ ษาขอ้ มลู ให้รอบดา้ น “ก่อนรับซ้ือต้องไปศึกษาก่อนแล้วต้องวางแผนเรื่องการตลาด ศึกษา เรียนรู้ต้องไปดูงานอีก แล้วต้องกลับมาคิดว่าใช้งบประมาณเท่าไหร่ ราคาชั่ง เทา่ ไหร่ ระบบการซ้อื เขาเป็นอย่างไรต้องคดิ ตรงนน้ั ใหอ้ อกกอ่ น” อดิศร เล่า

87 คาถาเอาตัวรอด การรจู้ กั ตนเอง และแสวงหาความรเู้ พอื่ น�ำ มาวเิ คราะหห์ าทางเลอื ก ทางออกในการแก้ปัญหาท่ีประสบในการดำ�รงชีวิตและการทำ�มาหากิน พยายามช่วยตนเองอย่างเต็มที่ ก่อนท่ีจะขอความช่วยเหลือจากผู้อ่ืน ส่งผลให้การทำ�งานของวิสาหกิจชุมชนรวบรวมผลผลิตทางการเกษตร ต�ำ บลรมณยี ส์ ามารถยนื หยดั อยไู่ ดอ้ ยา่ งมน่ั คง ทา่ มกลางกระแสตกต�ำ่ ของ ราคายางพารา ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ เกษตรกรชาวสวนยางพาราทว่ั ประเทศ เป็นเพราะฐานคิดสำ�คัญของคนท่ีนี่คือ “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ดังนั้น ไมว่ า่ จะมกี ารรวมตวั ไปประทว้ งรฐั บาลเรอื่ งราคายางตกต�ำ่ กคี่ รง้ั กไ็ มเ่ คย ปรากฎว่า มีคนจากตำ�บลรมณยี เ์ ขา้ ร่วม “พวกเราไมเ่ คยคดิ ไปประทว้ งกบั เขาเลย เสยี เวลาดว้ ย คนทไี่ ปกไ็ มเ่ หน็ ได้อะไรกลับมา เสียเวลา เสียความรู้สึก แต่เราก็ชื่นชมคนที่ไปนะ ถือว่าเขา เสียสละมาก” พเี่ หมยี กลา่ ว

88 “เราตอ้ งพง่ึ ตวั เองกอ่ นทไ่ี ปเรยี กรอ้ งเขา อยากไดเ้ ทา่ นน้ั เทา่ น้ี แตว่ า่ เรา ไม่ยอมทำ�เอง” อดิศร เสรมิ อยา่ งไรก็ตามสงิ่ ที่ทีมงานยอมรบั วา่ ยงั เปน็ ประเดน็ คาใจ คือ การหา คนรุ่นใหม่เข้ามาสานงานต่อในอนาคต แม้จะเห็นแนวโน้มว่า มีเด็กรุ่นใหม่ เรียนจบแล้วกลับมาทำ�งานในชุมชนค่อนข้างมาก แต่ก็ยังไม่สามารถ โนม้ นา้ วใจให้เขา้ มาชว่ ยงานได้ เพราะต่างอย่ใู นระหวา่ งการสรา้ งเน้อื สร้างตัว จึงได้แต่พยายามสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำ�งาน และสัมผัส ความสขุ จากการทำ�งานเพื่อชุมชน “ต้องให้เขาได้มาทำ�และมีความสุขจากการสัมผัสจริง บางท่ีได้ยินคน พูดอะไร เขาเกิดความสุขแล้ว เขาอาจจะไม่ได้คิดว่า เงินเป็นคำ�ตอบสุดท้าย ของการท�ำ งาน ตอ้ งมาท�ำ แลว้ ให้มีคนชม พอมีคนเริม่ ชมจะเร่ิมรูส้ ึกมีคุณคา่ ” พเี่ หมยี บอกเคลด็ ลับการจงู ใจ เพราะการรวมตวั กนั คอื ทางออกทางรอดทไี่ ดพ้ สิ จู นแ์ ลว้ วา่ เกดิ ผล ขา่ วคราวจากญาตติ า่ งถน่ิ บอกมาวา่ ชว่ งนที้ จ่ี งั หวดั นน้ั ยางราคากโิ ลกรมั ละ 15 บาท แต่ท่ีตำ�บลรมณีย์ขายกิโลกรัมละ 21-22 บาท นั่นเพราะ รวมกลุ่มกนั ขาย ชว่ ยกันดแู ลเร่อื งคณุ ภาพของยาง อ�ำ นาจการตอ่ รองจงึ เพมิ่ ขน้ึ และชว่ ยใหค้ นทนี่ ไ่ี มม่ หี นี้ อยดู่ กี นิ ดี มคี วามสขุ ตามอตั ภาพอยา่ ง ไมเ่ ดอื ดเน้อื ร้อนใจในเรือ่ งใดๆ ของชวี ิต

ความสุขท่ีคุณสัมผัสได้เมื่อมาเรียนรู้ที่น่ีคือ การบริหารจัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรวบรวมผลผลิต ทางการเกษตร แนวคดิ วธิ กี ารท�ำ งาน วธิ กี ารเชอื่ มแหลง่ งบประมาณ วธิ กี ารกระจายรายไดใ้ นชุมชน และสมั ผสั ผลลัพธ์ความอยู่ดีมีสุขของคนที่นี่ ดูแลสุขภาพด้วยการ แช่บ่อนำ้�ร้อนท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ซึ่งเป็น อกี หนงึ่ กลมุ่ อาชพี ทบ่ี รหิ ารจดั การโดยชมุ ชน และลมิ้ ลอง ผลไมท้ อ้ งถิน่ ตามฤดกู าล

90 สวัสดกิ ารชมุ ชนเพอื่ คนทา่ อยู่ ต�ำ บลทา่ อยู่ อ�ำ เภอตะกว่ั ทงุ่ จงั หวดั พงั งา มที งั้ หมด 7 หมบู่ า้ น ปจั จบุ นั มีประชากรจำ�นวน 4,236 คน หรือ 1,012 ครัวเรือน เป็นคนไทยพุทธ 70 เปอร์เซน็ ต์ และมสุ ลมิ 30 เปอร์เซ็นต์ มพี ื้นทที่ งั้ หมด 61,306.25 ไร่ ชาวบา้ น ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คือ สวนยางพาราและสวนผลไม้ รองลงมาคอื การท�ำ ประมงนำ�้ เคม็ น�ำ้ จดื และอาชพี รับจ้าง มแี กนน�ำ ซ่งึ เปน็ ชาวบา้ นในทอ้ งถน่ิ ทเ่ี ขม้ แขง็ รว่ มกนั ขบั เคลอ่ื นงานพฒั นาชมุ ชนใหอ้ ยเู่ ยน็ เปน็ สขุ ถนอมรกั ษาบรรยากาศความเป็นชมุ ชนท่มี คี วามเออ้ื อาทรระหวา่ งกัน จากความอาทรสู่การจัดสวัสดิการผูส้ งู วัย ชำ�นาญ พึ่งถ่ิน รองประธานสภาองค์กรชุมชน อรษา โภคบุตร ประธานกลุ่มสวัสดิการตำ�บลท่าอยู่ จิตรา เทพบุตร เลขานุการ อาจินต์ อินทรส์ ุวรรณ ประชาสัมพันธ์ ทรง แกลว้ กลา้ ประธานชมรมผู้ สูงอายุ สำ�ราญ อินทศุน รองประธานชมรมผู้สูงอายุ แดง กิจประสงค์ กรรมการ อัมพร สอนแกว้ กรรมการ คือตวั แทนคนท�ำ งานในพืน้ ที่ต�ำ บล ท่าอยู่ ทร่ี ว่ มกนั ขบั เคลือ่ นกองทนุ สวสั ดิการชุมชน ที่มีฐานเดิมจากชมรม ผู้สูงอายทุ ่เี รม่ิ ต้นต้ังแตช่ ว่ งต้นปี พ.ศ. 2547 สบื เนือ่ งจากการเก็บข้อมลู แผนชมุ ชนของ SIF ท�ำ ใหท้ มี งานเหน็ วา่ ในชมุ ชนมผี สู้ งู อายอุ ยเู่ ปน็ จ�ำ นวน มาก ส่วนใหญ่อยู่เฝ้าบ้านหรือไม่ก็เลี้ยงหลาน ทำ�ให้เกิดความเหงา ความเครียด เน่อื งจากไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไปพบเจอส่งิ ใหม่ๆ จึงได้ ตง้ั ชมรมผสู้ งู อายเุ พื่อจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้มาพบปะ ร้องรำ�ทำ�เพลง เพอ่ื คลายเหงา คลายเครยี ด

91

92 ต่อมาเมือ่ พอช.มโี ครงการเก่ยี วกบั สวัสดิการชุมชน ทมี งานจงึ ใช้ฐาน ของชมรมผสู้ งู อายเุ ปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ กอ่ ตง้ั กองทนุ สวสั ดกิ ารชมุ ชนบา้ นทา่ อยู่ โดย มีสมาชิกเริ่มต้น 3-4 คน ลงทุนทำ�ขนมจีนไปขายในงานแข่งขันนกกรงหัวจุก ไดเ้ งินมา 3,000 บาท ใช้เปน็ ทุนตงั้ ต้นของกองทุนตามเงอ่ื นไขของ พอช. ที่ กองทนุ สวัสดิการชุมชนต้องมีทนุ จาก 3 ฝ่ายคอื ทุนของชุมชน ทนุ ขององค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ และทนุ ที่ พอช.สนบั สนุน “สมยั นนั้ ถา้ ชวนคนมาท�ำ ชาวบา้ นจะถามกอ่ นเลยวา่ เรามอี ะไรอยบู่ า้ ง ถา้ บอกวา่ ท�ำ เอง ชาวบา้ นจะนกึ ไม่ออกว่าทำ�เองทำ�อยา่ งไร เราจงึ ต้องหาทุน ใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ กอ่ น เพอ่ื อธบิ ายกบั ชาวบา้ นวา่ เราไดค้ วามคดิ มาจากหนว่ ยงาน เรามเี งิน และรูจ้ กั วธิ หี าเงนิ จึงง่ายท่จี ะดงึ คนมาร่วมงานกับเรา” อรษา เลา่ จากจดุ เริ่มตน้ ตอนแรกมสี มาชกิ 35 ราย จาก 3 หมู่บา้ น คือ หมู่ 1 หมู่ 2 และ หมู่ 7 ทมี่ ีบริเวณใกล้เคียงกนั มกี ตกิ าเรมิ่ ตน้ ว่า สมาชกิ ต้องสบทบ เป็นรายปี ปีละ 200 บาท โดยสมาชิกจะได้รับสวัสดิการในด้านต่างๆ เช่น เงินช่วยเหลืองานศพกรณีเสียชีวิต ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วย ฯลฯ โดยทมี งานไดจ้ ดั เวทปี ระชมุ ประจ�ำ เดอื นสญั จรไปตามหมบู่ า้ นตา่ งๆ ทกุ วนั ที่ 16 เพ่อื บอกเล่าถึงหลกั การของกองทนุ สวัสดกิ ารชมุ ชน และจดั เวทยี อ่ ยๆ ตามละแวกบ้าน ในซอย เพื่อพดู คยุ ขายความคิดเร่ืองกองทุน สวัสดิการ เพราะเห็นว่า ชาวบ้านบางส่วนไม่สามารถออกมาร่วมประชุมได้ ตอ้ งอยบู่ า้ นเลย้ี งหลาน การพาตวั เองเขา้ ไปหาจงึ เปน็ การสะดวกกวา่ ทง้ั สองฝา่ ย เพราะทำ�งานเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างจริงจังและจริงใจ และ บคุ ลกิ ของทมี งานทเ่ี ปน็ คนสนกุ สนานเขา้ หาคนไดง้ า่ ย ท�ำ ใหช้ าวบา้ นไวใ้ จ สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนปีละไม่ต่ำ�กว่า 100 ราย ทำ�ให้ได้รับ งบประมาณสมทบเพิ่มเติมตามเงื่อนไขจากรัฐบาลเพ่ิมขึ้นทุกปี และมี สมาชกิ ท่เี ป็นตัวแทนจากทุกหม่บู ้านร่วมเป็นคณะกรรมการ

93 “กรรมการทุกคนต้องเป็นสมาชิกกองทุนด้วย ไม่เช่นน้ันเขาจะไม่รู้ค่า ของเงินทีไ่ ดม้ า น่ีเปน็ เงอื่ นไขสำ�คญั ” อรษา ย�ำ้ ถึงแนวคิด กลเม็ดเคล็ดลบั การท�ำ งาน เพราะเร่ิมต้นทำ�งานจากคนท่ีไม่มีความรู้เร่ืองการบริหารจัดการ กองทุนเลย ทีมงานจึงได้แสวงหาความรู้เพิ่มเติมอย่างสม่ำ�เสมอ ท้ังเข้า รว่ มประชมุ เรียนรจู้ ากการศึกษาดงู าน หรือการอบรม แล้วคัดสรรนำ�มา ปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพของกองทุนและจริตของคนในพ้ืนที่ เช่น การทำ�งานต้องเจือบรรยากาศของความสนุกสนาน การต้ังกองทุนไม่ใช่ การหาเงิน แต่ต้องคืนสู่สังคมด้วย แม้กระทั่งการประชุมก็ไม่ได้เป็น ทางการและเครง่ เครยี ด แตจ่ ะเปดิ ประเดน็ ใหส้ มาชกิ ไดพ้ ดู คยุ กนั เหมอื น สภากาแฟ ที่คนจากท่ีอ่ืนมาเห็นคงแปลกใจ เพราะมีบรรยากาศ นั่งๆ นอนๆ หารือกันอย่างเปน็ ธรรมชาติ ชำ�นาญ บอกว่า การพูดคุยกันจะปล่อยให้เป็นธรรมชาติ แต่เราจะ ปล่อยคนเก็บประเด็นไว้เป็นจุดๆ บางทีเราปล่อยให้เขาคุยกันไปเลยวงละ 5-7 คน เสรจ็ แล้วเราก็จะมาน่ังขมวดเร่อื งราวกนั ในทมี ว่า ได้อะไรมาบ้าง หรือ จะต้องทำ�อะไรต่อไป ดงั นัน้ ในทุกวันที่ 16 ของเดอื นทีส่ มาชกิ มาประชุมกนั จึงมกี จิ กรรมท่ี หลากหลาย ทง้ั การรบั เงนิ บ�ำ รงุ รายปี การมอบเงนิ ชว่ ยเหลอื การตรวจสขุ ภาพ โดย อสม. หรอื เชิญหน่วยงานต่างๆ มาใหข้ ้อมูลความรใู้ นเรือ่ งที่สมาชกิ สนใจ มีอาหารว่างและเคร่ืองดื่มที่ได้รับการสนับสนุนจากคนในชุมชนท่ีแสดง ความจำ�นงเป็นเจา้ ภาพ ซงึ่ ในปีนี้ก็จองกันเกือบครบทั้งปแี ล้ว รูปแบบการบริหารงานของคณะกรรมการกองทุนฯ ซึ่งมี 15 คน จาก 7 หมู่บา้ น มีเจา้ อาวาสวัดคติ ถารามเป็นทปี่ รึกษา จะใช้กระบวนการ รว่ มกันคิด รว่ มกันท�ำ โดยในวันท่ี 9 ของทุกเดอื นจะมกี ารพูดคุยระหว่าง กรรมการก่อนท่ีจะมีการประชุมสมาชิกในวันที่ 16 เพื่อนำ�ข้อมูลไปแจ้ง

94 ต่อท่ีประชุมวันท่ี 16 หากสมาชิกมีเรื่องสงสัยก็สามารถ สอบถามได้ “การได้พูดคุยกันทุกเดือน ก่อให้เกิดผลดี สิ่งไหนที่ สงสัยก็มาพูดคุยถามไถ่กัน มีคำ�ตอบให้ท้ังหมด สามารถ ตรวจสอบได้ แม้แต่เงินกองทุนก็ขอดูได้ว่ามีเงินเหลือเท่าไร” จิตรา เลา่ เพราะไม่นำ�เดี่ยว กองทุนสวัสดิการชุมชนตำ�บล ทา่ อยจู่ งึ เตบิ โตขน้ึ อยา่ งมน่ั คง จนสามารถขยายสวสั ดกิ าร ดา้ นตา่ งๆ เพ่ิมขนึ้ จนปัจจบุ ันมีสวัสดิการรวม 13 เรอ่ื ง คือ ทารกแรกเกิด ค่ารักษาพยาบาล ผู้สูงอายุ-ผู้ยากจน เสียชีวิต ผู้ด้อยโอกาส-พิการ พัฒนาอาชีพ ทุนการศึกษา เยี่ยมไข้ผู้ป่วย เจ้าภาพงานศพ พร้อมข้าวสารและพวงหรีด วัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน ของขวัญข้ึนบ้านใหม่ ส่งเสริม ประเพณีวฒั นธรรม-กีฬา และรักษาส่งิ แวดล้อม โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557-2558 ไดม้ กี ารเพม่ิ เงนิ สมทบรายปๆี ละ 365 บาท อีกท้ังยังมีเงินสบทบจากผ้าป่าท่ีพระครูวรดิศพิทักษ์ อดีต เจ้าอาวาสวัดดิตถาราม จัดข้ึนเพื่อสนับสนุนกองทุนฯ ทุกปี และเงินสบทบ 1 ตอ่ 1 ตามเงื่อนไข โดยในปจั จบุ นั มเี งนิ ใน กองทนุ ฯ สงู กวา่ 800,000 บาท แตถ่ า้ รวมเงนิ กองทนุ ทมี่ ตี งั้ แต่ เร่มิ ต้นที่ไดม้ าจา่ ยไปรวมไดร้ าวๆ 5-6 ลา้ นบาท

95

96 เจตจ�ำ นงเพ่อื ช่วยเหลือและแบ่งปัน ปัจจุบันกองทุนสวัสดิการชุมชนตำ�บลท่าอยู่มีสมาชิกครอบคลุมทั้ง 7 หมู่บ้าน และมีจำ�นวนสมาชิกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด คนที่ไม่ได้เข้าร่วมส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่มีฐานะค่อนข้างดี หรือมีสวัสดิการจาก หน่วยงานต้นสังกัดอยู่แล้ว ซ่ึงความงดงามของน้ำ�ใจจากผู้ท่ีมีฐานะดีบางคน ทยี่ ินดเี ขา้ เปน็ สมาชิก แต่ไมร่ ับสวัสดกิ ารใดๆ หากถงึ คราวตอ้ งปรบั สวสั ดิการ ตามเงอ่ื นไขทเ่ี ปน็ สมาชกิ กจ็ ะมอบคนื สบทบไวใ้ หก้ องทนุ ฯ เพอื่ น�ำ ไปชว่ ยเหลอื สมาชกิ รายอน่ื ทล่ี �ำ บากกวา่ เชน่ มสี มาชกิ ประมาณ 5 เปอรเ์ ซน็ ต์ ทไ่ี มส่ ามารถ จ่ายสบทบปีละ 365 บาทได้ ก็จะนำ�เงนิ ในสว่ นน้ไี ปจา่ ยแทน “ไม่คัดออกเพราะคิดว่า เขาแย่อยู่แล้ว อย่างน้อยจะได้มีสวัสดิการน้ี ช่วยเหลือ” อรษา กลา่ ว ความเห็นอกเห็นใจ เอ้ืออาทรต่อกันเช่นน้ี ยังทำ�ให้เกิดกองทุน รปู แบบใหมอ่ กี กองทนุ คอื กองทนุ เพอ่ื นชว่ ยเพอื่ น ทต่ี ง้ั ขนึ้ เพอ่ื ชว่ ยเหลอื คนในชุมชนกรณีเสียชีวิต จากเดิมที่กองทุนสวัสดิการชุมชนช่วยเหลือ ศพละ 5,000 บาท ก็จะมีเงินช่วยเหลือเพิ่มจากสมาชิกแต่ละรายที่ฝาก เงนิ ไว้ ตามจ�ำ นวนสมาชกิ คณู 100 บาท สบทบเพมิ่ เขา้ ไปท�ำ ใหใ้ นปจั จบุ นั มเี งนิ ช่วยเหลืองานศพงานละ 33,000 บาท นอกจากนี้ ทน่ี ยี่ งั ใชห้ ลกั ยดื หยนุ่ ในการบรหิ ารจดั การกองทนุ สวสั ดกิ าร ชุมชน ตัวอย่างเช่น กองทุนเพ่ือนช่วยเพ่ือน สมาชิกเจ้าของบัญชีแต่ละราย สามารถถอนเงินออกไปใช้ได้ในยามจ�ำ เปน็ แต่มีหลกั เกณฑว์ ่า ตอ้ งเหลอื เงนิ ในบัญชีไว้อย่างน้อย 300 บาท ไว้เป็นค่ากองทุนเพ่ือนช่วยเพ่ือนในกรณี งานศพ “เราตงั้ ความถเี่ อาไวโ้ ดยประมาณว่า ใน 1 เดือนไมน่ า่ จะมีคนเสียชีวติ เกนิ 3 ศพ และเราจะไดไ้ มต่ อ้ งไปตามเกบ็ ทกุ งาน อยา่ งนอ้ ยไมส่ รา้ งความยงุ่ ยาก ให้กับฝ่ายเหรัญญิก ท่ีจะต้องไปเดินเก็บเงิน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องมีเงิน เหลอื อยู่ พอเสยี ชวี ติ ปบุ๊ กถ็ อนออกมาไดแ้ ลว้ เงนิ ทที่ �ำ กไ็ มไ่ ดฝ้ ากธนาคารทอ่ี นื่

97 ฝากธนาคารหมู่บ้านไว้ เพราะง่าย สะดวก และเป็นการสนับสนุนธนาคาร หมู่บ้านดว้ ย” แดง เลา่ ขณะทจี่ ติ รา เสริมวา่ กองทนุ เพ่ือนชว่ ยเพื่อนเกดิ ขนึ้ จากประสบการณ์ ของเรา เหน็ ที่อ่ืนต้งั กองทนุ แล้วลม่ เพราะเวลามีคนเสยี ชวี ติ 1 คน เขาต้อง เดินไปเก็บ ซึ่งบางคนก็ไม่สามารถให้ได้ เน่ืองจากวันนั้นไม่มีเงิน กลายเป็น ปญั หา การจัดการยุ่งยาก เลยคิดว่า ถ้าเราทำ�เรอ่ื งนต้ี อ้ งมกี ารกนั เงนิ ให้มอี ยู่ ในสมุด เผื่อมีคนเสียชีวิตจะได้ถอนมาใช้ได้ โดยกำ�หนดว่าต้องมีเงินเหลือใน สมุดบญั ชีอยา่ งน้อย 300 บาท หากมีการถอนไปชว่ ยงานศพ เดอื นต่อไปต้อง เอามาใสใ่ ห้ครบ 300 บาท พยายามก�ำ หนดให้มรี ะเบียบท่ไี ม่มากเรอ่ื ง ชัดเจน และจัดการได้ ด้วยกระบวนการคิดรอบด้านที่สอดคล้องกับจริตของคนในพ้ืนท่ี จึงมีการวางกรอบการทำ�งานท่ีรอบคอบคือ กรณีที่มาสมัครเป็นสมาชิก กองทนุ เพอ่ื นชว่ ยเพอื่ น ตง้ั แตค่ รง้ั แรกเจา้ ของบญั ชตี อ้ งระบวุ า่ หากตนเอง เสียชีวิตจะมอบเงินในบัญชีน้ีให้กับใคร เพ่ือกันไม่ให้เกิดปัญหาคนที่อยู่ ข้างหลังแย่งเงินกัน ดังน้ันเวลาท่ีสมาชิกกองทุนเพ่ือนช่วยเพื่อนรายใด เสียชีวิต ฝ่ายเหรัญญิกจะต้องเตรียมเงินท้ังหมด ท้ังเงินช่วยเหลือ และ เงินของเจ้าของบัญชี เม่ือไปงานศพก็ต้องอธิบายให้กับคนทั้งงานได้ฟัง และมอบเงินให้กบั คนทีเ่ จา้ ของบัญชีระบไุ ว้ คือตน้ แบบการท�ำ งานเพอ่ื สงั คม การทำ�งานท่ียืดหยุ่น ยังหมายถึงการแบ่งงานกันภายในทีม คณะกรรมการ ทต่ี า่ งรหู้ นา้ ทข่ี องตนเอง และเขา้ ใจถงึ เงอ่ื นไขชวี ติ ของเพอ่ื น ร่วมงาน เช่น การเดินทางไปประชุมนอกชุมชน ใช่ว่าทุกคนจะสะดวกไป ดงั นนั้ คนทส่ี ะดวกกย็ นิ ดไี ปแทนเพอ่ื นโดยไมเ่ กย่ี งงาน แลว้ กลบั มาเลา่ สกู่ นั ฟงั เพราะทุกคนต่างอาสามาทำ�งานอย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ซง่ึ เป็นเงื่อนไขส�ำ คญั ที่ทำ�ใหไ้ ด้รบั ความเช่ือถือจากสมาชิกในชุมชน

98 เพราะได้รับความเชื่อถือจากสมาชิกในชุมชน ดังนั้นนอกจากบทบาท หน้าท่ีในการบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการชุมชนแล้ว ทีมงานยังรับหน้าที่ เป็นศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชุมชน ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวง ยตุ ธิ รรม ซง่ึ เปน็ หนา้ ทเี่ พมิ่ เตมิ ทยี่ นิ ดที �ำ เพราะรวู้ า่ หากคนในชมุ ชนเดยี วกนั มี เรอ่ื งบาดหมางกนั ถงึ ขนั้ ขน้ึ โรงขนึ้ ศาล ยอ่ มน�ำ มาซงึ่ การเสยี คา่ ใชจ้ า่ ย เสยี เวลา ในการประกอบอาชีพ และกลายเปน็ ความแตกแยกในชุมชน “สมมตวิ า่ เราไปฟอ้ งรอ้ งทางกฎหมายวา่ มาอยา่ งนน้ั อยา่ งน้ี มนั กไ็ มจ่ บ คนบ้านติดกนั ก็มองหน้ากนั ไม่ได้ มนั ต้องถอ้ ยทถี อ้ ยอาศัย คุยกนั ท้งั 2 ฝา่ ย เราก็จะดูอีกวา่ ใครบ้างสามารถไปคยุ กับบา้ นนแ้ี ลว้ เขาเชอ่ื ใครบ้างที่จะไปคุย กบั คนนแ้ี ลว้ เขาฟงั กจ็ ะสามารถทจ่ี ะลอมชอมกนั ได้ สดุ ทา้ ยกม็ ที างออก” อรษา อธบิ ายวธิ คี ดิ ดังน้ันการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งกันเองภายในชุมชน จึงเป็นทางออก ท่ีดีสำ�หรับทุกฝ่าย คดีความที่ไม่หนักหนาสาหัสก็ไม่ต้องข้ึนโรงข้ึนศาลให้ ส้ินเปลืองงบประมาณแผ่นดิน คู่พิพาทก็ไม่ต้องเสียเวลา เสียเงินเสียทอง ไปขึ้นโรงข้นึ ศาล ยอมความกันได้ แถมยงั รักษาความสมั พนั ธ์ทีด่ รี ะหว่างกนั ไว้ ชุมชนก็ไม่แตกแยก บทบาทหน้าท่ีท่ีเกินกว่ากรอบของการบริหารกองทุนสวัสดิการชุมชน แต่เต็มใจทำ� เช่นเดียวกับท่ีเต็มใจอาสามาทำ�งานเพื่อชุมชน ท้ังๆ ที่ไม่มี คา่ ตอบแทนจากสง่ิ ทท่ี �ำ แตเ่ ปน็ เพราะส�ำ นกึ ทถ่ี กู ปลกู ฝงั จากพระครวู รดศิ พทิ กั ษ์ ท่ีบอกกับทีมงานเสมอว่า บ้านของเราจะให้คนอื่นเข้ามาดูแลเอาประโยชน์ แล้วอนาคตลกู หลานจะเหลืออะไร มนั ไมม่ ีเหลือ ทกุ คนในตำ�บลทา่ อยูถ่ อื ว่า เปน็ ครอบครวั เดยี วกนั คนทไ่ี มด่ แี ลว้ เราตดั หรอื คนทท่ี �ำ ไมถ่ กู ใจเราแลว้ เราตดั สุดทา้ ยเราจะเหลอื กค่ี น เราไม่ใหโ้ อกาสเขา เขาก็จะกลบั มาเปน็ คนดีไมไ่ ด้ นอกจากค�ำ สอนทท่ี มี งานยดึ ถอื ปฏบิ ตั ิ การประพฤตติ นเปน็ แบบอยา่ ง ของความเสยี สละ ไมท่ �ำ งานรอ้ น ไมเ่ ลน่ การเมอื งเปน็ เครอ่ื งการนั ตวี า่ ทมี งาน ไม่ได้ท�ำ งานเพือ่ ประโยชน์แอบแฝง การใฝเ่ รยี นรูแ้ ละคดั สรรความรูม้ าปรบั ใช้